ช นิ ด ข อ ง เ ม ฆ จดั ทำโดย น า ง ส า ว กั ญ ญ า รั ต น์ มี ม ง ค ล
ชนิดของเมฆ กำรแบ่งชนดิ ของเมฆ แบ่งตำมรูปร่ำงลกั ษณะและควำมสงู แบ่งตำมรูปร่ำงลกั ษณะของเมฆ สำมำรถแบ่งได้ 3 ประเภทใหญ่ๆ 1. เมฆคิวมลู สั ( Cumulus Cloud) มีรูปร่ำงลกั ษณะเป็นเมฆก้อน ภำพท่ี 1 เมฆเซอรัส 2. เมฆสเตรตสั (Stratus Cloud) มีรูปร่ำงลกั ษณะเป็นเมฆแผน่ หรือเมฆชนั้ ที่มำ :http://bbznet.pukpik.com/scripts2 3. เมฆเซอรัส (Cirrus Cloud ) มีรูปร่ำงลกั ษณะเป็นเมฆที่เป็นริว้ ๆ คล้ำยขนสตั ว์ แบง่ ตำมระดบั ควำมสงู ของเมฆ สำมำรถแบ่งได้ 4 ประเภทใหญ่ ๆ 1. เมฆชนั้ สงู (High Clouds) จะอยทู่ ่ีควำมสงู 6,000 - 18,000 เมตร ขนึ ้ ไป สว่ นใหญ่ จะเป็น ผลกึ นำ้ แขง็ เน่ืองจำกอย่ทู ี่ระดบั สงู มำกมีสีขำวหรือเทำออ่ น เมฆระดบั สงู มีอยู่ 3 ชนิด ดงั นี ้ 1.1 เมฆเซอรัส (Cirrus Cloud) มีลกั ษณะเป็นแผน่ บำงสีขำวเจดิ จ้ำหรือสีเทำอ่อน ดวงอำทิตย์สำมำรถส่องผำ่ นได้อยำ่ งดี เกิดจำกผลึกนำ้ แขง็ ขนำดจวิ๋ มี หลำย ๆ รูปทรง เชน่ เป็นฝอย เป็นปยุ คล้ำยใยไหม คล้ำยขนนกบำง ๆ หรือเป็นทำงยำว 1.2 เมฆเซอโรสควิ มลู สั ภำพที่ 2 เมฆเซอโรสควิ มลู สั ( Cirrocumulus Cloud ) มลี กั ษณะเป็นสขี ำวก้อนเลก็ ๆ คล้ำยระลอกคลื่น ที่มำ :http://www2.tmd.go.th/webboard/ หรือปยุ น่นุ
2. เมฆชนั้ กลำง (Middle Clouds ) จะอย่ทู ี่ควำมสงู ระหวำ่ ง 2,000 - 8,000 เมตร ภำพที่ 3 เมฆอลั โตคิวมลู สั มีอยู่ 2 ชนดิ ดงั นี ้ ท่ีมำ : รังษี พิมขำลี ถ่ำยภำพ , 2551 2.1 เมฆอลั โตคิวมลู สั ( Altocumulus Cloud ) มีลกั ษณะเป็นกล่มุ ก้อนเล็ก ๆ มีลกั ษณะเป็นคลื่นเป็นลอน คล้ำย ฝงู แกะที่อย่รู วมกนั ก้อนเมฆมีสีขำวหรือสีเทำ 2.2 เมฆอลั โตสเตรตสั (Altostratus Cloud) มีลกั ษณะเป็นแผน่ ปกคลมุ บริเวณกว้ำง บริเวณฐำนเมฆจะเป็นสีเทำ หรือสีฟำ้ สำมำรถบงั ดวงอำทิตย์หรือดวงจนั ทร์ ทำให้เห็นเป็นฝำ้ ๆ อำจทำให้เกิดฝนละอองบำง ๆ ได้ ภำพที่ 4 เมฆอลั โตรสเตรตสั ท่ีมำ : รังษี พมิ ขำลี ถ่ำยภำพ , 2551
3. เมฆชนั ้ ต่ำ (Low Clouds) จะอย่ทู ่ีควำมสงู ไมเ่ กิน 2,000 เมตร มอี ยู่ 3 ชนิด ภำพท่ี 5 เมฆสเตรตสั ดงั นี ้ ท่ีมำ : http://www.rcthai.net/webboard 3.1 เมฆสเตรตรัส ภำพที่ 6 เมฆสเตรโตรควิ มลู สั (Stratus Cloud) มลี กั ษณะเป็นแผ่นหรือเป็นชนั ้ สเี ทำ รวมตวั กนั อยู่เป็นบริเวณ ท่ีมำ : รังษี พมิ ขำลี ถ่ำยภำพ , 2551 ไมก่ ว้ำงมำกนกั บำงครัง้ อำจเกิดในระดบั ต่ำมำกคล้ำยหมอก จะเคลือ่ นท่ีตำมลมได้เร็ว และอำจทำให้เกิดฝนละอองได้ บำงครัง้ จะเหน็ ปกคลมุ อย่บู นยอดเขำ 3.2 เมฆสเตรโตรคิวมลู สั (Stratocumulus Cloud) มีลกั ษณะเป็นก้อนกลมคล้ำยเมฆควิ มลู สั แตเ่ รียง ตดิ กนั เป็นแถว ๆ รวมกนั คล้ำยคลื่น บำงครัง้ อำจจะแยกตวั ออกเป็นกลมุ่ ที่ประกอบด้วย เมฆก้อนเลก็ ๆ จำนวนมำก
4. เมฆก่อตวั ในแนวตงั ้ (Clouds with Vertical Development) จะเกิด ภำพที่ 7 เมฆคิวมลู สั เมื่ออำกำศเหนือพืน้ ดินเมอ่ื ได้รับควำมร้อนจำกแสงอำทติ ย์ อำกำศร้อนจะลอยตวั สงู ขนึ ้ ท่ีมำ : รังษี พิมขำลี ถ่ำยภำพ , 2551 และเกิดเป็นเมฆ มีอยู่ 2 ชนิด ภำพที่ 8 เมฆคิวมโู ลนิมบสั 4.1 เมฆคิวมลู สั ท่ีมำ : http://www.google.co.th/imglanding? ( Cumulus Cloud) เป็นเมฆที่ลอยตวั ขนึ ้ ช้ำๆพร้อมกบั อำกำศที่ลอยตวั สงู ขนึ ้ ถ้ำขยำย ขนำดใหญ่ขนึ ้ เร่ือย ๆ อำจพฒั นำเป็น เมฆคิวมโู ลนิมบสั ได้ มีลกั ษณะหนำทบึ กระจดั กระจำยเหมือนก้อนสำลี 4.2 เมฆควิ มโู ลนิมบสั (Cumulonimbus Cloud) เป็นเมฆหนำ ก้อนใหญ่ก่อตวั สงู มำก บำงครัง้ ยอดเมฆจะแผอ่ อกเป็นรูปทงั่ ทำให้เกิดฝนตกหนกั ฟำ้ แลบ ฟำ้ ร้อง ลมแรง บำงครัง้ มี ลกู เหบ็ ตก จงึ เรียกวำ่ เมฆฝนฟำ้ คะนอง
Search
Read the Text Version
- 1 - 5
Pages: