Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานเรื่องระบบคอมพิวเตอร์ ใหม่ล่าสุด 3

รายงานเรื่องระบบคอมพิวเตอร์ ใหม่ล่าสุด 3

Published by Suphisahelatem, 2021-09-07 07:41:56

Description: รายงานเรื่องระบบคอมพิวเตอร์ ใหม่ล่าสุด 3

Search

Read the Text Version

รายงาน เรอ่ื ง ระบบคอมพิวเตอร์ เสนอ อาจารยศ์ ิวโรจน์ จินดา จดั ทาโดย 62106110056 นายวิเศษศกั ดิ์ เดิมสนั เทยี ะ 62106110064 นางสาวชลธิชา นาโควงค์ 62106110072 นางสาวสภุ ษิ า เหลาเตม็ 62106110122 นางสาวอทติ ยิ า อินอเุ ทน 62106110171 นายธนพล ถากรงาม รายงานนเี้ ป็นสว่ นหนง่ึ ของวชิ า โปรแกรมมลั ตมิ ิเดยี การนาเสนอ (0601) หลกั สตู รประกาศนียบตั รวชิ าชีพ 3 สาขาคอมพิวเตอร์ ปีการศกึ ษา 2564 มหาวทิ ยาลยั นาหวา้ มหาวิทยาลยั นครพนม

คานา รายงานฉบบั นีเ้ ป็นสว่ นหน่งึ ของวชิ าคอมพิวเตอร์ ซง่ึ มีวตั ถปุ ระสงคใ์ นการจดั ทา รายงานฉบบั นขี้ นึ้ มา เพ่ือใหไ้ ดเ้ ล็งเห็นว่ายคุ ของคอมพวิ เตอร์ ววิ ฒั นาการของคอมพิวเตอร์ ประเภทของคอมพวิ เตอร์ ขนาดของคอมพิวเตอร์ สว่ นประกอบของคอมพิวเตอร์ และ คอมพวิ เตอรซ์ อฟแวร์ ซ่งึ เป็นเนอื้ หาท่อี ธิบายใหเ้ ขา้ ใจถึงเร่อื งระบบคอมพวิ เตอร์ ซง่ึ มคี วาม สอดคลอ้ งกบั วิชาคอมพิวเตอรแ์ ละยงั สามารถนาความรูท้ ่ไี ดไ้ ปใชใ้ หเ้ กิดประโยชนแ์ กต่ นเอง และแก่สงั คมไดอ้ ีกดว้ ย รวมถึงการจดั ทารายงานในเรอ่ื งนี้ ถือเป็นการต่อยอดองคค์ วามรูแ้ ละ เป็นการศกึ ษาทาความเขา้ ใจในเร่ืองระบบคอมพวิ เตอรใ์ หม้ คี วามเขา้ ใจเพมิ่ มากขนึ้ อีกดว้ ย รายงานฉบบั นไี้ ดม้ าจากการศกึ ษาคน้ ควา้ จากอินเตอรเ์ นต็ โดยผจู้ ดั ทามีความประสงค์ อยา่ งย่งิ ว่ารายงานฉบบั นี้ คงจะเป็นประโยชนไ์ ดไ้ ม่มากก็นอ้ ยสาหรบั ผทู้ ่มี คี วามสนใจในเรื่อง ของระบบคอมพวิ เตอร์ ท่ีใชป้ รบั แกข้ อ้ สรุปท่ผี ิดพลาดของคอมพิวเตอร์ หากท่านผอู้ ่านพบขอ้ ผดิ พลาดประการใดในรายงานฉบบั นผี้ จู้ ดั ทาจงึ ขออภยั มา ณ โอกาสนี้ ดว้ ย คณะผจู้ ดั ทา 23/08/64

สารบัญ หนา้ เร่ือง 1 ยคุ ของคอมพิวเตอร์ 2 วิวฒั นาการของคอมพิวเตอร์ 4 ประเภทของคอมพิวเตอร์ 5 ขนาดของคอมพวิ เตอร์ 6 สว่ นประกอบของคอมพวิ เตอร์ 8 คอมพิวเตอรซ์ อฟแวร์ 13 บรรณานกุ รม

ระบบคอมพวิ เตอร์ ยคุ ของคอมพวิ เตอร์ ยคุ ของคอมพวิ เตอร์ สามารถแบง่ ไดเ้ ป็น 5 ยคุ ดงั นี้ คือ คอมพิวเตอรย์ คุ ท่ี 1 อยรู่ ะหว่างปี พ.ศ. 2488 ถึง พ.ศ. 2501 เป็นคอมพิวเตอรท์ ่ใี ชห้ ลอดสญุ ญากาศซง่ึ ใช้ กาลงั ไฟฟา้ สงู จึงมีปัญหาเรือ่ งความรอ้ นและไสห้ ลอดขาดบ่อย ถงึ แมจ้ ะมีระบบระบายความ รอ้ นท่ดี ีมาก การส่งั งานใชภ้ าษาเครอ่ื งซง่ึ เป็นรหสั ตวั เลขท่ยี งุ่ ยากซบั ซอ้ น เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ ของยคุ นมี้ ขี นาดใหญ่โต เชน่ มารค์ วนั (MARK I), อีนิแอค (ENIAC), ยนู แิ วค (UNIVAC) คอมพวิ เตอรย์ คุ ท่ี 2 คอมพวิ เตอรย์ คุ ท่ีสอง อยรู่ ะหวา่ งปี พ.ศ. 2502 ถงึ พ.ศ. 2506 เป็นคอมพิวเตอรท์ ่ใี ช้ ทรานซิสเตอร์ โดยมีแกนเฟอรไ์ รทเ์ ป็นหน่วยความจา มีอปุ กรณเ์ กบ็ ขอ้ มลู สารองในรูปของส่อื บนั ทกึ แม่เหลก็ เช่น จานแม่เหล็ก สว่ นทางดา้ นซอฟตแ์ วรก์ ็มีการพฒั นาดีขนึ้ โดยสามารถเขียน โปรแกรมดว้ ยภาษาระดบั สงู ซง่ึ เป็นภาษาท่ีเขียนเป็นประโยคท่คี นสามารถเขา้ ใจได้ เช่น ภาษา ฟอรแ์ ทน ภาษาโคบอล เป็นตน้ ภาษาระดบั สงู นไี้ ดม้ กี ารพฒั นาและใชง้ านมาจนถึงปัจจบุ นั คอมพิวเตอรย์ คุ ท่ี 3 คอมพิวเตอรย์ คุ ท่สี าม อย่รู ะหว่างปี พ.ศ. 2507 ถงึ พ.ศ. 2512 เป็นคอมพิวเตอรท์ ่ีใชว้ งจรรวม (Integrated Circuit : IC) โดยวงจรรวมแต่ละตวั จะมีทรานซสิ เตอรบ์ รรจอุ ยภู่ ายในมากมาย ทาใหเ้ คร่ืองคอมพิวเตอรจ์ ะออกแบบซบั ซอ้ นมากขนึ้ และสามารถสรา้ งเป็นโปรแกรมย่อย ๆ ใน การกาหนดชดุ คาส่งั ตา่ ง ๆ ทางดา้ นซอฟตแ์ วรก์ ็มรี ะบบควบคมุ ท่มี คี วามสามารถสงู ทงั้ ในรูป ระบบแบ่งเวลาการทางานใหก้ บั งานหลาย ๆ อยา่ ง

คอมพิวเตอรย์ คุ ท่ี 4 คอมพวิ เตอรย์ คุ ท่สี ี่ ตงั้ แต่ปี พ.ศ. 2513 จนถึงปัจจุบนั เป็นยคุ ของคอมพวิ เตอรท์ ่ใี ชว้ งจรรวม ความจสุ งู มาก(Very Large Scale Integration : VLSI) เช่น ไมโครโพรเซสเซอรท์ ่บี รรจุ ทรานซิสเตอรน์ บั หม่นื นบั แสนตวั ทาใหข้ นาดเครื่องคอมพิวเตอรม์ ีขนาดเล็กลงสามารถตงั้ บน โตะ๊ ในสานกั งานหรือพกพาเหมอื นกระเป๋ าหวิ้ ไปในท่ตี ่าง ๆ ได้ ขณะเดียวกนั ระบบซอฟตแ์ วรก์ ็ ไดพ้ ฒั นาขีดความสามารถสงู ขนึ้ มาก มโี ปรแกรมสาเรจ็ ใหเ้ ลอื กใชก้ นั มากทาใหเ้ กิดความ สะดวกในการใชง้ านอยา่ งกวา้ งขวาง คอมพิวเตอรย์ คุ ท่ี 5 คอมพิวเตอรย์ คุ ท่หี า้ เป็นคอมพวิ เตอรท์ ่มี นษุ ยพ์ ยายามนามาเพ่ือชว่ ยในการตดั สนิ ใจและ แกป้ ัญหาใหด้ ยี ่ิงขนึ้ โดยจะมกี ารเก็บความรอบรูต้ า่ ง ๆ เขา้ ไวใ้ นเคร่อื ง สามารถเรยี กคน้ และดงึ ความรูท้ ่สี ะสมไวม้ าใชง้ านใหเ้ ป็นประโยชน์ คอมพิวเตอรย์ คุ นเี้ ป็นผลจากวชิ าการดา้ น ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) ประเทศต่างๆ ท่วั โลกไมว่ า่ จะเป็น สหรฐั อเมรกิ า ญ่ีป่นุ และประเทศในทวีปยโุ รปกาลงั สนใจคน้ ควา้ และพฒั นาทางดา้ นนกี้ นั อยา่ ง จรงิ จงั ววิ ฒั นาการของคอมพิวเตอร์ ตน้ กาเนิดของคอมพวิ เตอรอ์ าจกล่าวไดว้ ่ามาจากแนวความคิดของระบบตวั เลข ซง่ึ ไดพ้ ฒั นา เป็นวธิ ีการคานวณต่าง ๆ รวมทง้ั อปุ กรณท์ ่ีช่วยในการคานวณอยา่ งง่าย ๆ คือ\" กระดาน คานวณ\" และ \"ลกู คดิ \" ในศตวรรษท่ี 17 เครอ่ื งคาแบบใชเ้ ฟื่องเคร่ืองแรกไดก้ าเนิดขนึ้ จากนกั คณิตศาสตรช์ าว ฝร่งั เศษ คอื Blaise Pascal โดยเครื่องของเขาสามารถคานวณการบวกการลบไดอ้ ย่าง เท่ยี งตรง และในศตวรรษเดียวกนั นกั คณิตศาสตรช์ าวเยอรม์ นั คือ Gottried Wilhelm von Leibniz ไดส้ รา้ งเครอ่ื งคดิ เลขเคร่ืองแรกท่สี ามารถคณู และหารไดด้ ว้ ย เครอื่ ง Difference Engine ของ Charles Babbage

ในตน้ ศตวรรษท่ี 19 ชาวฝร่งั เศษช่อื Joseph Marie Jacquard ไดพ้ ฒั นาเคร่ืองทอผา้ ท่ี สามารถโปแกรมได้ โดยเครื่องทอผา้ นใี้ ชบ้ ตั รขนาดใหญ่ ซ่งึ ไดเ้ จาะรูไ้ วเ้ พ่อื ควบคมุ รูปแบบของ ลายท่จี ะปัก บตั รเจาะรู(punched card) ท่ี Jacquard ใชน้ ไี้ ดถ้ กู พฒั นาตอ่ ๆมาโดยผอู้ ่นื เพ่อื ใชเ้ ป็นอปุ กรณป์ อ้ นขอ้ มลู และโปรแกรมเขา้ เครื่องคอมพวิ เตอรใ์ นยคุ แรกๆ เครือ่ งจดั เรียงบตั รเจาะรูของ Dr. Her Hollerith การพฒั นาท่สี าคญั กบั Mark I ไดเ้ กิดขนึ้ ปี 1946 โดย Jonh Preper Eckert, Jr. และ Dr. Jonh W.Msuchly จาก University of Pennsylvnia ไดอ้ อกแบบสรา้ งเคร่ือง ENIAC ( Electronic Numeric Integator and Calcuator ) ซ่งึ ทางานไดเ้ รว็ อยใู่ นหน่วยของหนงึ่ สว่ น ลา้ นวนิ าที ในขณะท่ี Mark I ทางานอยใู่ นหน่วยของหน่งึ สว่ นพนั ลา้ นเท่า โดยหวั ใจของ ความสาเรจ็ นอี้ ย่ทู ่กี ารใชห้ ลอดสญู ญกาศมาแทนท่ี relay น่นั เอง และถดจากนนั้ Mauchly และ Eckert กท็ าการสรา้ ง UNIVAC ซง่ึ เป็นคอมพิวเตอรอ์ ิเลก็ ทรอนิกสเ์ พ่อื การคา้ เครื่องแรก ของโลก การพฒั นาท่สี าคญั ไดเ้ กิดขนึ้ มาอกี เม่อื Jonh von Neumannไดเ้ สนอแผนสาหรบั คอมพิวเตอรเ์ ครือ่ งแรกท่ีจะทาการเกบ็ โปรแกรมไวใ้ นหนว่ ยโปรแกรมไวใ้ นหนว่ ยความจาท่ี เหมอื นกบั ท่ีเกบ็ ขอ้ มลู ซง่ึ พฒั นาการนีท้ าใหส้ ามารถเปลี่ยนวงจรของคอมพวิ เตอรไ์ ดโ้ ดย อตั โนมตั ิแทนท่จี ะตอ้ งทาการเปล่ียนสวิทชตด์ ว้ ยมอื เหมือนช่วงก่อน นอกจากนยี้ งั ไดน้ าระบบ เลขฐานสองมาใชใ้ นคอมพวิ เตอรซ์ ่งึ หลกั การตา่ งๆเหลา่ นไี้ ดท้ าใหเ้ คร่ือง IAS ท่สี รา้ งโดย Dr. von Neumann เป็นเคร่อื งคอมพวิ เตอรเ์ อนกประสงคเ์ ครอื่ งแรกของโลก เป็นการเปิดศกั ราช ของคอมพวิ เตอรอ์ ยา่ งแทจ้ รงิ และยงั ไดเ้ ป็นบดิ าคอมพวิ เตอรค์ นท่ี 2

ประเภทของคอมพวิ เตอร์ ประเภทของคอมพิวเตอรแ์ บง่ ตามลกั ษณะของขอ้ มลู ได้ 3 ประเภท คอื 1. อนาลอกคอมพวิ เตอร์ (Analog Computer) เป็นเคร่อื งคอมพวิ เตอรท์ ่สี รา้ งขนึ้ เป็น พเิ ศษ เพ่อื ใชก้ บั งานเฉพาะดา้ น มกี ารทางานโดยใชห้ ลกั ในการวดั มีลกั ษณะเป็นวงจร อิเล็กทรอนกิ สท์ ่ีแยกสว่ นทาหนา้ ท่ีเป็นตวั กระทาและฟังกช์ นั ทางคณิตศาสตร์ โดยใชค้ า่ ระดบั แรงดนั ไฟฟา้ เป็นหลกั ในการคานวณ และการรบั ขอ้ มลู จะรบั ในลกั ษณะของปรมิ าณท่มี คี ่า ต่อเน่อื งไมส่ ามารถเกบ็ ขอ้ มลู ไดเ้ ป็นจานวนมากเหมอื นกบั ดจิ ทิ ลั คอมพวิ เตอร์ 2. ดจิ ิทลั คอมพิวเตอร์ (Digital Computer) เป็นเครอ่ื งคอมพิวเตอรท์ ่ที างานโดยใช้ หลกั ในการคานวณแบบลกู คิด หรือหลกั การนบั และทางานกบั ขอ้ มลู แบบไม่ตอ่ เน่อื ง ลกั ษณะ การคานวณจะแปลงเลขเลขฐานสบิ กอ่ น แลว้ จงึ ประมวลผลดว้ ยระบบเลขฐานสอง แลว้ ให้ ผลลพั ธอ์ อกมาอย่ใู นรูปของตวั เลข ซง่ึ คอมพวิ เตอรจ์ ะแปลงเป็นเลขฐานสิบเพ่อื แสดงใหผ้ ใู้ ช้ เขา้ ใจงา่ ย มคี วามสามารถในการคานวณและมคี วามแมน่ ยามากกวา่ อนาลอกคอมพิวเตอร์ สามารถเก็บขอ้ มลู ไดเ้ ป็นจานวนมากจงึ ตอ้ งใชส้ อ่ื ในการบนั ทกึ ขอ้ มลู 3. ไฮบรดิ คอมพิวเตอร์ (Hybrid Computer) เป็นเครอ่ื งคอมพวิ เตอรท์ ่ใี ชก้ บั งานเฉพาะ ดา้ น มีประสิทธิภาพสงู และสามารถทางานท่ซี บั ซอ้ นได้ เน่อื งจากการนาเทคนิคการทางานของ อนาลอกคอมพวิ เตอรแ์ ละดิจทิ ลั คอมพวิ เตอรม์ าใชง้ านรว่ มกนั เช่น การสง่ ยานอวกาศของ องคก์ ารนาซา จะใชเ้ ทคนิคของอนาลอกคอมพิวเตอรใ์ นการควบคมุ การหมนุ ของตวั ยานอวกาศ ซ่งึ เก่ียวขอ้ งกบั ความกดดนั อากาศ อณุ หภมู ิ ความเรว็ และใชเ้ ทคนิคของดจิ ิทลั คอมพิวเตอรใ์ น การคานวณระยะทางจากพนื้ ผิวโลก เป็นตน้

ขนาดของคอมพวิ เตอร์ คอมพิวเตอรแ์ บง่ ออกเป็น 4 ประเภท คอื 1. Microcomputer หรอื คอมพวิ เตอรต์ งั้ โต๊ะ เป็นคอมพวิ เตอรข์ นาดเลก็ ท่สี ดุ ปัจจบุ นั เป็นท่นี ยิ มใชก้ นั มาก เน่อื งจากขนาดเลก็ มีนา้ หนกั เบา ราคาไม่แพง สามารถ เคลือ่ นยา้ ยไดส้ ะดวก ซ่งึ ทางานโดยระบบผใู้ ชค้ นเดียว ( Single-user System ) คอมพิวเตอร์ ประเภทนแี้ บ่งไดเ้ ป็น 2 ประเภท คือ 1. 1 Personal Computers (PCs) เป็นคอมพวิ เตอรท์ ่เี คล่ือนยา้ ยไดส้ ะดวก เหมาะกบั งานประเภท Word Processing และ Spreadsheets 1.2 Workstations ( สถานีงาน ) เป็นคอมพวิ เตอรท์ ่มี ปี ระสทิ ธิภาพสงู ราคาแพง นิยม นาไปใชใ้ นงานทางดา้ นวิศวกรรมศาสตรแ์ ละวทิ ยาศาสตร์ 2. Minicomputer เป็นคอมพวิ เตอรท์ ่มี ีความเรว็ ในการประมวลผลและความจตุ ่ากว่า ระบบเมนเฟรมมินคิ อมพิวเตอรจ์ ะทางานโดยใชร้ ะบบผใู้ ชห้ ลายคน (Multi-user System) มกั จะใชก้ บั งานท่มี ีขอ้ มลู ไม่มาก 3. Mainframe Computer เป็นคอมพวิ เตอรท์ ่มี ีประสทิ ธิภาพต่ารองจาก Supercomputer มีความเรว็ ในการประมวลผลสงู 4. Supercomputer เป็นคอมพิวเตอรท์ ่มี ีขนาดใหญ่ท่สี ดุ และสามารถประมวลผลได้ เรว็ ท่สี ดุ มคี วามจใุ นการจดั เกบ็ ขอ้ มลู สงู สว่ นมากจะผลติ ขนึ้ มาเพ่อื ใชง้ านเฉพาะดา้ นเท่านนั้ ซ่งึ เคร่ืองคอมชนิดนจี้ ึงมีราคาค่อนขา้ แพงมาก ดงั นนั้ จึงไม่นยิ มใชแ้ พรห่ ลายนกั ถา้ แบง่ ตามขนาดสามารถแบ่งแย่งตามขนาดของเคร่ืองได้ ดงั นี้ คอมพวิ เตอรแ์ บบตงั้ โตะ๊ (Desktop Computer) เป็นไมโครคอมพวิ เตอรท์ ่มี ีขนาดเลก็ ถกู ออกแบบมาใหต้ งั้ บนโตะ๊ มีการแยกชนิ้ สว่ นประกอบเป็น ซีพียู จอภาพ และแปน้ พิมพ์ ปัจจบุ นั เป็นท่นี ิยมใชท้ ่วั ไป

แล็บท็อปคอมพวิ เตอร์ (Laptop Computer) เป็นไมโครคอมพิวเตอรข์ นาดเล็ก จอภาพใชเ้ ป็น แบบแบนราบ ชนิดจอภาพผนกึ เหลว (Liquid crystal Display : LCD) มนี า้ หนกั ของเครอ่ื ง เบาประมาณ 3-8 กก. โนต๊ บคุ๊ คอมพวิ เตอร์ (Notebook Computer) เป็นไมโครคอมพิวเตอรท์ ่มี ีขาดใหญ่และมี ความหนามากกวา่ แลป็ ท็อป นา้ หนกั ประมาณ 1.5 –3 กิโลกรมั จอภาพแสดงผลเป็นแบบราบ ชนดิ มที ง้ั แบบแสดงผลสีเดียว และแบบหลายสี โน๊ตบ๊คุ ท่มี ขี ายท่วั ไปมีประสิทธิภาพและ ความสามารถเหมือนกบั แล็ปท็อป ปาลม์ ท็อปคอมพวิ เตอร์ (Palmtop Computer) สว่ นประกอบของคอมพวิ เตอร์ โดยหลกั การแลว้ สว่ นประกอบของคอมพิวเตอร์ ประกอบไปดว้ ยอปุ กรณท์ ่ที างานตามหนา้ ท่ี 4 สว่ นดว้ ยกนั คอื 1.) สว่ นรบั ขอ้ มลู (Input Unit) 2.) สว่ นประมวลผลขอ้ มลู (Central Processing Unit) 3.) สว่ นแสดงผล (Output Unit) 4.) หนว่ ยความจา (Memory Unit) 1.) สว่ นรบั ขอ้ มลู (Input Unit) สว่ นรบั ขอ้ มลู (Input Unit) เป็น สว่ นประกอบของคอมพวิ เตอร์ ท่ที าหนา้ ท่รี บั ขอ้ มลู จากคน และสง่ ตอ่ ขอ้ มลู ไปยงั หนว่ ยประมวลผล(Process Unit) เพ่อื ทาการประมวลผลต่อไป รูปแบบการสง่ ขอ้ มลู จากอปุ กรณร์ บั ขอ้ มลู จะอย่ใู นรูปของการสง่ สญั ญาณเป็นรหสั ดจิ ิตอล (หรือเป็นเลข 0 กบั 1) น่นั เอง

อปุ กรณส์ ว่ นรบั ขอ้ มลู ไดแ้ ก่ - คยี บ์ อรด์ (keyboard) - เมาส์ (mouse) - สแกนเนอร์ (scanner) - อปุ กรณส์ แกนลายนวิ้ มอื (finger scan) - ไมโครโฟน (microphone) - กลอ้ งเวบ็ แคม (webcam) 4.) หน่วยความจา (Memory Unit) หนว่ ยความจา (Memory Unit) อปุ กรณเ์ กบ็ สถานะขอ้ มลู และชดุ คาส่งั เพ่อื การ ประมวลผลของคอมพวิ เตอร์ แบ่งไดเ้ ป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คอื หน่วยความจาช่วั คราวและ หน่วยความจาถาวร - หน่วยความจาช่วั คราว คือ แรม (RAM: Random Access Memory) เป็นหนว่ ยความจาท่ใี ชข้ ณะคอมพิวเตอรท์ างาน ขอ้ มลู และชดุ คาส่งั จะหายไปทกุ ครงั้ ท่เี ราปิด เคร่อื ง - หน่วยความจาถาวรหรือ หนว่ ยความจาหลกั ไดแ้ ก่ ฮารด์ ดิสก์ Hard Disk ท่ใี ชใ้ นการ เกบ็ ขอ้ มลู และ รอม (ROM: Read Only Memory) ท่ใี ชใ้ นการเกบ็ คา่ ไบออส หน่วยความจา ถาวรจะใชใ้ นการเกบ็ ขอ้ มลู ของเครอ่ื งคอมพวิ เตอรแ์ ละจะไม่สญู หายเม่อื ปิดเคร่ือง ความหมายของซอฟตแ์ วร์ ซอฟตแ์ วร์ (Software) หมายถงึ สว่ นท่ที าหนา้ ท่เี ป็นคาส่งั ท่ใี ชค้ วบคมุ การทางานของ เครือ่ งคอมพวิ เตอร์ หรอื อาจเรยี กว่า “ โปรแกรม ” ก็ได้ ซง่ึ หมายถึงคาส่งั หรอื ชดุ คาส่งั สามารถ ใชเ้ พ่อื ส่งั ใหค้ อมพิวเตอรท์ างาน เราตอ้ งการใหเ้ คร่ืองคอมพวิ เตอรท์ าอะไรก็เขียนเป็นคาส่งั ท่ี จะตอ้ งส่งั เป็นขนั้ ตอน และแตล่ ะขนั้ ตอนตอ้ งทาอยา่ งละเอยี ดและครบถว้ นกจ็ ะเรยี กวา่ นกั เขยี นโปรแกรม (Programmer) สาหรบั การเขียนโปรแกรมดงั กลา่ วใชภ้ าษาท่ใี ชใ้ นการ เขียนโปรแกรมโดยเฉพาะ หรือหมายถงึ ภาษาท่ีเครอ่ื งคอมพวิ เตอรส์ ามารถเขา้ ใจได้

ประเภทของซอฟตแ์ วร์ ซอฟตแ์ วรจ์ ะแบ่งออกเป็นประเภทใหญ่ ๆ ได้ ประเภท คอื ซอฟตแ์ วรร์ ะบบ (System Software) และซอฟตแ์ วรป์ ระยกุ ต์ (Application Softwaer) ซง่ึ มีรายละเอยี ด ดงั นี้ 1. ซอฟตแ์ วรร์ ะบบ (System Software) หมายถงึ โปรแรกมท่มี ีหนา้ ท่คี วบคมุ การทางานของ ฮารด์ แวรท์ กุ อยา่ งและอานวยความสะดวก ใหก้ บั ผใู้ ชเ้ คร่อื งคอมพวิ เตอร์ แบ่งออกเป็นโปรแกรมตามหนา้ ท่กี ารทางานดงั นี้ 1.1 OS (Operating System) คอื โปรแกรมระบบท่ที าหนา้ ท่คี วบคมุ การใชง้ านสว่ นตา่ ง ๆ ของเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ เชน่ ควบคมุ หนว่ ยความจา ควบคมุ หนว่ ยประมวลผล ควบคมุ หนว่ ยรบั และควบคมุ หน่วย แสดงผล ตลอดจนแฟม้ ขอ้ มลู ตา่ ง ๆ ใหม้ ปี ระสทิ ธิภาพในการทางานสงู ท่สี ดุ และสามารถใช้ อปุ กรณท์ กุ สาวนของคอมพิวเตอรแ์ ละชว่ ยจดั การกระบวนการพนื้ ฐานท่สี าคญั ๆ ภายในเครอ่ื ง คอมพวิ เตอรก์ ่อนท่คี อมพิวเตอรแ์ ตล่ ะเครอ่ื งจะสามารถอา่ นไฟลต์ า่ ง ๆ หรอื สามารถใช้ ซอฟตแ์ วรต์ ่าง ๆ ไดจ้ ะตอ้ งผ่านการดงึ ระบบปฏบิ ตั กิ ารออกมาฝังตวั อยใู่ นหน่าวความจากอ่ น 1.2 Translation Program คือโปรแกรมท่ีทาหนา้ ท่ใี นการแปลโปรแกรมหรอื ชดุ คาส่งั ท่เี ขยี นดว้ ยภาษาท่ไี มใ่ ช่ ภาษาเครื่อง หรือภาษาเคร่ืองท่ไี ม่เขา้ ใจใหเ้ ป็นภาษาท่เี ครอ่ื งสามารถรูเ้ ร่ืองเขา้ ใจและนาไป ปฏบิ ตั ิได้ 1.3 Utility Program คอื โปรแกรมระบบท่ีทาหนา้ ท่ใี นการอานวยความสะดวกใหก้ บั ผใู้ ชเ้ ครอื่ งคอมพิวเตอร์ ใหส้ ามารถทางานไดส้ ะดวก รวดเรว็ และงา่ ยขนึ้

1.4 Diagnostic Program คือ โปรแกรมระบบท่ีทาหนา้ ท่ตี รวจสอบขอ้ ผดิ พลาดใน การทางานของอปุ กรณต์ า่ ง เคร่อื งคอมพวิ เตอรแ์ ละเม่ือพบขอ้ ผดิ พลาดก็จะแจง้ ขนึ้ บนจอภาพใหท้ ราบ 2. ซอฟตแ์ วรป์ ระยกุ ต์ (Application Software) หมายถึง โปรแกรมท่ผี ใู้ ชค้ อมพิวเตอรเ์ ป็นผเู้ ขยี นมาใชง้ านเอง เพ่อื ส่งั ใหค้ อมพิวเตอร์ ทางานอย่างใดอยา่ งหนงึ่ ตามท่ตี อ้ งการ ซง่ึ แบ่งไดด้ งั นี้ 2.1 User Program คอื โปรแกรมท่ผี ใู้ ชเ้ ขียนมาใชเ้ อง โดยใชภ้ าษาระดบั ตา่ ง ๆ ทาง คอมพิวเตอรซ์ ง่ึ การท่จี ะเลอื กใชภ้ าษาใดนนั้ กข็ นึ้ อย่กู บั ความเหมาะสมของงานเหลา่ นนั้ ดว้ ย 2.2 Package Program คอื โปรแกรมสาเรจ็ รูปซง่ึ เป็นโปรแกรมท่ถี กู สรา้ งหรอื เขยี น ขนึ้ มาโดยบรษิ ัทต่าง ๆ เสรจ็ เรียบรอ้ ยแลว้ พรอ้ มท่ีจะนาไปใชง้ านตา่ ง ๆ ไดท้ นั ที ท่ีจรงิ แลว้ Package Program สามารถแบ่งออกไดเ้ ป็น 9 ประเภทดว้ ยกนั สาหรบั รายละเอียดของโปรแกรมแต่ละประเภทนนั้ มีรายละเอียดดงั นี้ 1. โปรแกรมทางดา้ น Word Processor โปรแกรมทางดา้ น Word Processor นนั้ เป็นโปรแกรมท่ีทางานเก่ียวกบั ทางดา้ นการ ประมวลผลคา สามารถจดั ทาเอกสาร รายงาน จดหมาย หนงั สือต่าง ๆ ได้ ทาใหไ้ ดง้ านท่มี ี ประสทิ ธิภาพ สวยงาม เน่ืองจากสามารถจดั รูปแบบงานตามตอ้ งการไดร้ วมทงั้ ยงั แกไ้ ขงานท่ที า ไดด้ ว้ ย อีกทง้ั ยงั ชว่ ยประหยดั เวลาในการแกไ้ ขงาน และสามารถคน้ หาขอ้ ความตา่ ง ๆ ได้ สะดวก 2. โปรแกรมท่จี ดั อย่ใู นกลมุ่ Word Processor มีดงั นี้ คือ WordStat, ราชวิถีเวิรด์ เวริ ด์ จฬุ า โปรแกรมเหลา่ นจี้ ะเป็นโปรแกรมท่ีทางานบน Dos นอกจากนนั้ ยงั มีโปรแกรมท่ที างานบนวินโดวสอ์ กี ดว้ ย คอื Word Perfect, Microsoft Word

และ AmiPro โปรแกรมเหลา่ นจี้ ะใชง้ านงา่ ย สะดวก สามารถจดั รูปแบบตา่ ง ๆ ไดต้ ามตอ้ งการ รวมทงั้ สามารถนาภาพมาประกอบกบั งานเอกสาร หรอื นาเอกสารจากโปรแกรมอ่นื มา จดั รูปแบบในโปรแกรมเหลา่ นกี้ ไ็ ด้ เกิดชยั ชนะ ซง่ึ จะทาใหเ้ ด็กสรา้ งนิสยั ผิด ๆ กลายเป็นเดก็ ท่ชี อบเอาชนะคนอ่ืนชอบการต่อสู้ และอาจเป็นคนดรุ า้ ย เห็นแก่ตวั ได้ 3 โปรแกรมทางดา้ นการสรา้ งสถานการณจ์ าลอง เป็นโปรแกรมท่ใี หผ้ เู้ ลน่ ไดท้ ดลองสรา้ งสถานการณจ์ าลองของงานท่อี าจจะเกิดขนึ้ ได้ หรอื อาจจะเรียกวา่ เกมสท์ างธุรกิจ โดยใหผ้ เู้ ลน่ ไดร้ ูจ้ กั วางแผนในการทางาน คิดถงึ ผลกาไร ขาดทนุ ท่อี าจจะเกิดขนึ้ ได้ รูจ้ กั จดั สรรงบประมาณท่ีมีอยใู่ หไ้ ดผ้ ลกาไรมากท่สี ดุ 4. โปรแกรมทางดา้ นการติดตอ่ สอ่ื สาร เป็นโปรแกรมท่มี กั นยิ มใชต้ ามสานกั งานต่างๆทงั้ ของรฐั และเอกชนในการนดั หมาย ประชมุ การทาจดหมายเวียนไปตามฝ่ายตา่ งๆ โดยการเกบ็ ขอ้ มลู ไวใ้ นคอมพวิ เตอรแ์ ทนท่จี ะ พิมพอ์ อกมทางกระดาษ เพ่อื แจง้ ใหพ้ นกั งานทราบ ขอ้ ดขี องโปรแกรมชนิดนีค้ อื ทาใหป้ ระหยดั กระดาษลงไปไดม้ าก 5. โปรแกรมคอมพิวเตอรช์ ว่ ยสอน โปรแกรมประเภทนเี้ รยี กอกี อย่างหนง่ึ ว่า CAI (Computer Assisted Instruction) เป็นโปรแกรมท่นี ามาสอนใหก้ บั นกั เรียนในวิชาต่าง ๆ โดยท่ีนกั เรียนจะเรยี นกบั โปรแกรมบน คอมพิวเตอรแ์ ละครูเป็นผชู้ ีแนะ ทดสอบ และวดั ความเขา้ ใจ รวมทงั้ สรุปเนือ้ หาท่นี กั เรียนได้ เรยี นจากโปรแกรม CAI นี้ 6. โปรแกรมทางดา้ นการออกแบบโปรแกรมนไี้ ดเ้ ขา้ มาช่วยออกแบบงานต่าง ๆ ไมว่ า่ จะเป็น งานทางดา้ นวศิ วกรรม สถาปัตยกรรม และงานออกแบบสนิ คา้ ตา่ งๆ ซง่ึ สามารถสรา้ งไดท้ งั้ แบบ ท่เี ป็นภาพ 2 มิติ และภาพ 3 มติ ิ สาหรบั โปรแกรมทางดา้ นออกแบบท่นี ิยมใชก้ นั แพรห่ ลาย

บรรณานุกรม http://www.chandra.ac.th/office/ict/document/it/it01/com_02.htm http://web.ku.ac.th/schoolnet/snet1/hardware/index01.htm http://www.comsimple.com http://www.chandra.ac.th/office/ict/document/it/it01/com_04.htm http://computer.kapook.com/component.php http://www.bcoms.net/temp/lesson3.asp


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook