Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Bestบ้านบึง

Bestบ้านบึง

Published by Patchaya Prempanya, 2022-01-28 08:24:09

Description: Bestบ้านบึง

Search

Read the Text Version

โครงการเรยี นรูต้ ามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงเพือ่ การพึง่ พาตนเองใหส้ ุขภาพดเี สริม ภมู คิ ุ้มกันตา้ นโควิด19 กศน.อาเภอบ้านคา วิชาการปลูกอะโวคาโดเพอ่ื สุขภาพดี นางสาวสวุ รรณา พิรยิ ะพล กศน.ตำบลบ้ำนบึง ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอบา้ นคา สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั จังหวัดราชบุรี

คำนำ เอกสารรายงานสรุปผลการดาเนินงานโครงการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพ่ือ การพึ่ งพ าตนเองให้ สุขภ าพ ดีเสริมภูมิคุ้มกันต้านโควิด 19 กศน.อาเภ อบ้านคา หลั กสูตร วิชาการปลูกอะโวคาโดเพื่อสุขภาพดี เล่มนี้ จัดทาข้ึนเพื่อเผยแพร่ข้อมูลจากการดาเนินงานโครงการ ดังกล่าวซ่ึงดาเนินการตามวงจร PDCA อย่างครบถ้วน อันจะชว่ ยให้ผู้เกยี่ วข้องทกุ ฝา่ ยได้ตะหนักถงึ ขอ้ ควร คานึงในการอบรมในเรื่องพื้นฐานความรู้เดิมของผู้เข้าอบรม จานวนผู้เข้าอบรมที่สัมพันธ์กับการดูแลของ วิทยากร เอกสารประกอบการอบรม ความตระหนักของตัวผู้เข้ารับการอบรม ฯลฯ รวมท้ังเพื่อให้เป็น แนวทางในการเขียนรายงานสรุปผลการดาเนินงานโครงการของสถานศึกษาท่ีจะเป็นประโยชน์แก่ ผู้เกี่ยวข้องทุกคน ทุกฝ่าย ซึ่งในเอกสารเล่มนี้จะประกอบด้วยบทสรุปสาหรับผู้บรหิ าร และส่วนรายงาน สรปุ ผลการดาเนินงานและภาคผนวก กศน.ตาบลบ้านบึง จึงหวังว่าเอกสารเล่มนี้ที่จะบ่งบอกถึงการบรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการ และจะเป็นประโยชน์ต่อการจัดกิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยท้ังในการ บริหารงาน การพัฒนางาน และการทางาน ที่ตรงตามความต้องการของผู้เรียน ผู้รับบริการและ ชมุ ชน และสามารถเผยแพรต่ อ่ สาธารณชนได้ ขอขอบคุณผู้มสี ว่ นเกย่ี วขอ้ งและให้ความรว่ มมอื ในการ ตอบแบบสอบถามทกุ ทา่ นไว้ ณ โอกาสนด้ี ้วย นางสาวสุวรรณา พริ ยิ ะพล ครู กศน.ตาบลบ้านบงึ

สำรบัญ หนา้ เรอ่ื ง ๑ ขอ้ มลู เก่ียวกับสถานศกึ ษา ๒ - ประวัตแิ ละความเปน็ มา ๓-๑๐ - ทีต่ ้ัง กศน.ตาบล ๑๑-๑๓ - ข้อมูลอาคารสถานที่ ๑๓ - บทบาทและภารกิจของ กศน.ตาบล ๑๓-๑๕ - ขอ้ มูลบคุ ลากร ๑๕-๒๑ - บทบาทและภารกิจของ ครูกศน.ตาบล ๒๒-๒๙ - บทบาทหนา้ ท่ขี องคณะกรรมการ กศน.ตาบล ๓๐-๓๓ ขอ้ มลู เกย่ี วกบั การปฏบิ ัติกจิ กรรมท่เี ปน็ เลิศ ๓๔-๓๕ ผลการดาเนนิ กจิ กรรมทเี่ ป็นเลิศ แนวทางการพฒั นาท่ยี ่งั ยนื ภาคผนวก

ส่วนท่ี ๑ ข้อมลู พ้ืนฐำน กศน.ตำบลบำ้ นบงึ ๑.๑ ประวัตินควำมเปน็ มำ ตาบลบ้านบึงเดิมเป็นหมู่บ้านหมู่ที่ ๘ ของตาบลสวนผ้ึง อาเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี แต่เนื่องจากมีพ้ืนที่ กว้างขวางมาก ในปี พ.ศ.๒๕๑๕ ทางราชการจงึ ได้ประกาศแยกพืน้ ท่ีออกจากตาบลสวนผ้ึง เป็นตาบลบ้าน บึง แบ่งพ้ืนที่ในการปกครองออกเป็น ๕ หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ท่ี ๑ บ้านบึง หมู่ท่ี ๒ บ้านคา หมู่ที่ ๓ หนอง พันจันทร์ หมู่ท่ี ๔ บ้านโป่งกระทิงบน หมู่ท่ี ๕ บ้านโป่งกระทิงล่าง และต่อมาหมู่ที่ ๒ บ้านคา และหมู่ที่ ๓ หนองพันจนั ทร์ ได้แยกเป็นตาบลอีก ๒ ตาบล ปัจจบุ ันตาบลบา้ นบงึ แบ่งเขตการปกครองออกเป็น ๑๓ หมู่บ้าน มเี นือ้ ท่ที งั้ หมด ๕๕๓ ตารางกโิ ลเมตร หรอื ๓๔๕,๖๒๕ไร่ ห่างจากตวั จงั หวัดราชบุรีประมาณ ๘๐ กิโลเมตร มีพ้ืนที่เป็นภูเขาสลับกับท่ีราบแคบๆสูงจากระดับน้าทะเล ๒๓๕ เมตร และเป็นต้นกาเนิดของ แมน่ ้าลาธารหลายสาย

๑.๒.ท่ีตง้ั กศน.ตำบล ไป N อำเภอ รพ.บำ้ นคำ บำ้ นคำ ไปพนุ ้ำร้อน ป้อมตำรวจบำ้ นโป่ งกระทิง กศน.ตำบลบำ้ นบึง ไป อำเภอ ปำกท่อ กศน.ตาบลบา้ นบงึ ตั้งอยู่ที่ หมู่ ๒ บา้ นโป่งกระทิงล่าง ตาบลบ้านบงึ อาเภอบา้ นคา จงั หวดั ราชบรุ ี หมายเลขโทรศัพท์ ๐๖๔-๙๕๑๑๙๐๘,๐๖๒-๓๔๕๖๔๖๗ หมายเลขโทรสาร ๐๓๒-๗๒๑๐๖๔ E-mail : [email protected]

สภำพอำคำรภำยนอก กศน.ตำบลบำ้ นบงึ

สภำพภำยในอำคำร กศน.ตำบลบำ้ นบงึ

การจดั ขอ้ มลู สารสนเทศของมมุ ศนู ยก์ ารเรียนรู้ตา่ งๆ ๑ ศนู ย์การเรยี นรู้ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎใี หม่

๒ ศนู ยส์ ่งเสรมิ พัฒนาประชาธปิ ไตย



๓ ศนู ยด์ จิ ิทลั ชุมชน

๔ ศนู ยก์ ารศกึ ษาตลอดชีวิตชมุ ชน



1.4 บทบาทภารกิจของ กศน.ตาบล กศน.ตาบล เป็นหนว่ ยงานในสังกดั กศน.อาเภอ มฐี านะเปน็ หนว่ ยจดั กิจกรรมการศกึ ษานอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั เพื่อส่งเสริมการเรยี นรู้ตลอดชวี ิตของประชาชนและการสร้างสงั คมแหง่ การเรียนร้ใู นชุมชน กศน.ตาบล มีภารกิจทีส่ าคัญ ดงั น้ี 1. เปน็ ศูนย์ข้อมูลข่ำวสำรของชุมชน (Information Center) 1.1 พฒั นาระบบฐานขอ้ มูล และสารสนเทศระดับชมุ ชน ให้ ครบถว้ น ถกู ต้องทันสมัย 1.2. จดั ทาแผนพฒั นา คุณภาพ กศน.ตาบล และ แผนปฏิบัตกิ ารประจาปี 1.3. นาเสนอความรูข้ อ้ มูล ข่าวสารสารสนเทศของชุมชน ให้ถูกต้องและทันสมยั - มกี ารจัดทาข้อมูลของชุมชน ข้อมลู ทัว่ ไปของตาบล - จัดทาขอ้ มูลภมู ปิ ญั ญาท้องถิน่ เปน็ รปู เลม่ เอกสาร - มกี ารนาเสนอ ข้อมูลข่าวสารการดาเนนิ ตา่ งๆผา่ นทางสื่อออนไลน์ เชน่ facebook เผยแพร่ข้อมูลขา่ วสารของตาบลและมีการรายงานผลให้ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอธั ยาศัยทราบ - ข้อมูลสมาชกิ บทบาทสตรี - ข้อมูลผูน้ าชมุ ชน - มีแผนและทิศทางในการพัฒนา กศน.ตาบล - มแี ผนปฏิบัติการประจาปีของ กศน.ตาบล - จดั ทาข้อมลู สารสนเทศดา้ นอาชีพ แหล่งเรยี นรใู้ นชุมชน และมกี ารเผยแพร่ โดยการ ประชาสัมพนั ธเ์ สียงตามสาย แผ่นพบั 2. เปน็ ศูนยส์ ร้ำงโอกำสกำรเรียนรู้ (Opportunity Center) การประสารงานวางแผนกับ อบต. คณะกรรมการ กศน.ตาบล 1. ประสานความร่วมมือ ในแนวราบกับภาคีเครือข่าย 2. เชอ่ื มโยงรูปแบบการ ให้บรกิ ารของหน่วยงานภาคี เครือขา่ ย กบั กศน. ตาบล 3. พัฒนาระบบเทคโนโลยี สารสนเทศ และการสื่อสาร - จัดมุมความรเู้ ร่ืองอาเซียน - จดั มมุ ความรเู้ รื่องการคุ้มครองสทิ ธผิ ู้บริโภค - จัดมมุ เศรษฐกิจพอเพียง - บรกิ ารแนะแนวการศึกษาต่อ - ร่วมกบั ภาคเี ครอื ข่ายในชมุ ชนเผยแพร่องคค์ วามรู้ เช่น รพ.สต. - ประสานความร่วมมอื ภาคีเครือขา่ ย - ส่งเสริมจดั กิจกรรมร่วมกับภาคเี ครือขา่ ย

3. เป็นศูนย์กำรเรยี นชมุ ชน (Learning Center) การจัดกิจกรรมกลุ่มเป้ามายท่ีพลาดโอกาสให้มคี ุณภาพชีวติ ท่ดี ขี ้ึน สามารถอยูใ่ นสงั คมได้ อย่างมีความสขุ ทีเ่ หมาะสมกับกลุ่มเปา้ หมายโดย กศน.ตาบล และ กศน. อาเภอเมืองราชบรุ ี รว่ มกบั กลุ่มเปา้ หมาย ในการออกแบบกิจกรรม / โปรแกรมหรอื โครงการท่ีสอดคล้องกับสภาพปญั หา และความต้องการของ กลุม่ เป้าหมายและชุมชน กิจกรรม / โปรแกรมหรอื โครงการมลี ักษณะท่ีบรู ณาการระหว่างวิถีชีวิต การ ทางานและการเรยี นรู้ 1. ออกแบบกิจกรรม/ โปรแกรมการศึกษาท่ีเหมาะสม กบั กลุ่มเป้าหมาย 2. จดั กจิ กรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั ให้แกประชาชน กลุม่ เปา้ หมาย ในชุมชน - ส่งเสรมิ การรู้ หนังสือ - การศึกษานอกระบบ ระดบั การศึกษาข้ันพืน้ ฐาน - การศกึ ษา ต่อเน่ือง 1) การศกึ ษาเพ่อื พัฒนาอาชพี (ดาเนินการเป็นลาดบั แรก) 2) การศกึ ษาเพือ่ พฒั นาทักษะชีวิต 3) การศกึ ษาเพ่อื พัฒนาสังคมและชุมชน - การศกึ ษาตาม อัธยาศัย 1) การสง่ เสรมิ การ อ่าน 2) การบรกิ ารส่ือ จัดกำรศึกษำขัน้ พ้ืนฐำน - จัดการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน * ประชาสมั พนั ธร์ บั สมัครนักศกึ ษา * เสยี งตามสายในตาบล หมูบ่ ้าน * แผ่นพับ * อาสาสมคั ร กศน. - จัดกจิ กรรมใหส้ อดคลอ้ งกับกลุม่ เป้าหมาย - จัดกจิ กรรมสง่ เสรมิ การรหู้ นังสือ ชว่ งอายุ 15-60 ปี

4. เป็นศูนยช์ มุ ชน (Community Center) กศน.ตาบลไดจ้ ดั กจิ กรรมส่งเสริมให้ กศน.เป็นศนู ย์กลางการจัดกิจกรรมในชมุ ชนอยา่ ง สมา่ เสมอ อาทเิ ชน่ เวทชี าวบ้าน , ศูนย์บริการสาธารณสุขหมู่ 2, กิจกรรมทางศาสนา , สถานท่ีประกอบ พิธตี ่างๆททางศาสนา , การจัดประชุมกล่มุ สตรีตาบล 1.4 บุคลากรในกศน.ตาบล - นางสาวสุวรรณา พิรยิ ะพล ตาแหนง่ ครู กศน.ตาบลบา้ นบึง - โทรศัพท์ 064-951-1908 - บทบำทภำรกิจของ ครู กศน.ตำบล ครู กศน.ตาบล เปน็ บคุ คลทม่ี บี ทบาทสาคัญอยา่ งยง่ิ ในการจดั กจิ กรรมต่างๆ ของศูนยก์ ารเรยี นให้ บรรลุวัตถุประสงค์ที่กาหนดไว้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ บทบาทหน้าท่ีของครู กศน.ตาบล ด้านบรหิ ารจดั การมี ดังนี้ 1. สารวจความต้องการของประชาชน ชุมชน เกยี่ วกับการจดั กิกรรมต่าง ๆ ใน กศน.ตาบล และ เก็บรวบรวมหลกั ฐานความต้องการการจดั กจิ กรรมการศึกษานอกโรงเรยี น และกิจกรรมอื่น ๆ ของ ประชาชน 2. ประชาสมั พันธก์ ารจดั กจิ กรรมการเรยี นรใู้ น กศน.ตาบล 3. จัดทาข้อมูลชมุ ชนและจดั เกบ็ อย่างเปน็ ระบบพร้อมท่ีจะให้บรกิ าร โดยการสารวจจัดทาระบบ ขอ้ มูลพนื้ ฐานของชมุ ชนให้มปี ระสทิ ธิภาพ รว่ มมอื กบั ผนู้ าชุมชน เครอื ขา่ ยต่าง ๆ ในชมุ ชน นกั เรียน นกั ศึกษา และรวบรวมข้อมูลท่ีสาคัญของชมุ ชนในพนื้ ที่ ซึง่ ได้แก่ข้อมลู พื้นฐานของประชาชนในชมุ ชน เชน่ ประวัติความเปน็ มาของชมุ ชน สภาพทั่วไป สภาพภูมิศาสตร์ อาชพี ของประชากร การคมนาคม ยานพาหนะ ขอ้ มลู ด้านสาธารณสขุ ขอ้ มลู ดา้ นปศุสตั ว์ การศกึ ษา ศาสนา วดั ศาสนสถานโบราณสถาน

แหล่งผรู้ ู้ ผู้ชานาญ ภูมปิ ญั ญาทอ้ งถนิ่ สถานประกอบการ บุคคลตัวอย่างในชุมชน แหล่งทรัพยากรแหล่ง ท่องเทย่ี ว แหลง่ นา้ แหล่งธรรมชาติ สถานท่ีสาคัญทางประวัตศิ าสตร์ ขอ้ มลู เกีย่ วกับโครงการตา่ ง ๆ ของ ชุมชน ความต้องการด้านการศกึ ษาของประชาชนในชุมชนทั้งระดบั ประถมศกึ ษา มัธยมศึกษาตอนต้น มัธยมศกึ ษาตอนปลาย สายอาชีพ รวมทงั้ การพัฒนาคุณภาพชวี ิต การพัฒนาทักษะชีวิต และการพัฒนา สงั คมและชมุ ชน เปน็ ตน้ มีการนาเสนอข้อมูล ท่เี ปน็ ประโยชนแ์ ก่ชุมชนในรูปแบบตา่ งๆ เช่น จดั ทาแฟม้ ข้อมูล การนาเสนอข้อมูลเปน็ ตาราง กราฟ แสดง ไวท้ ่ี กศน.ตาบล 4. จดั ทาแผนงานและโครงงาน เพ่ีอเสนอเขา้ แผนพัฒนาตาบลและ ศูนย์ กศน.อาเภอ 5. ประสานงานกับบคุ คลและหน่วยงานตา่ ง ๆ ทั้งภาครฐั และเอกชนเพื่อเปน็ เครือข่ายการเรียนรู้ งานการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย 6. ใหบ้ ริการวสั ดุอปุ กรณ์และสื่อตา่ ง ๆ ทเ่ี กยี่ วกับการเรยี นร้ใู น กศน.ตาบล เพื่อใช้ศึกษาดว้ ยตนเอง ของประชาชนอยา่ งต่อเนื่องตลอดชีวิต จดั บรกิ ารส่อื เพอ่ื ตอบสนองการเรยี นรู้ของประชาชนกลุ่มเปา้ หมาย ในชมุ ชนทอ้ งถิน่ ซง่ึ มลี ักษณะหลากหลาย ส่ือท่ีจดั ไดแ้ กส่ ื่อสิง่ พิมพ์ ส่อื วีดิทศั น์ เทปเสียงเปน็ สือ่ ตาม หลักสูตรการศึกษานอกระบบและกรศึกษาตามอัธยาศัยทุกระดับ ส่ือการศกึ ษาสายอาชพี และสื่ออธั ยาศัย รวมทงั้ ครุภณั ฑ์ได้แกเ่ คร่ืองรบั โทรทศั น์ เครอ่ื งเลน่ วีดทิ ศั น์ วิทยุ เทป ซึ่งใหบ้ รกิ ารแก่ นักเรยี น นักศกึ ษาท้ัง ในระบบ และนอกระบบโรงเรียน ตลอดจนประชาชนทัว่ ไป สอื่ อ่ืนๆ ไดแ้ ก่ ชดุ รบั สัญญาณรายการ โทรทัศน์ผ่านดาวเทียม CD-ROM สือ่ คอมพิวเตอร์ช่วยสอน คอมพวิ เตอร์ สามารถเชอื่ มโยงเครือข่าย อนิ เตอร์เน็ต ส่ือชุดทดลองวทิ ยาศาสตร์ ชุดนิทรรศการ สาหรบั การบรกิ ารส่ือควรจดั ทาบนั ทึกสถติ ิการ ให้บรกิ าร จัดทารายงานผลการใชส้ ่อื ตรวจสอบสภาพส่ือทุกครง้ั ทั้งก่อนและหลังใหบ้ ริการสอ่ื 7. จัดกิจกรรมเพ่ือเสริมสร้างชุมชนใหเ้ ข้มแข็ง ไดแ้ ก่ การส่งเสรมิ การร้หู นังสือให้ประชาชนอยา่ ง ตอ่ เน่ือง การจัดกจิ กรรมชุมชนปลอดยาเสพติด การจัดการแขง่ กีฬา การส่งเสริมคณุ ธรรมจริยธรรม การ พฒั นาส่งิ แวดลอ้ ม เป็นต้น โดยการประสานงานอาศัยความร่วมมือของบุคลากรในชุมชน นกั ศกึ ษานอก โรงเรยี น เปน็ ผชู้ ว่ ยดาเนนิ การ 8. เกบ็ รวบรวมหลกั ฐานทเ่ี ป็นกิจกรรมการศึกษาของนกั ศึกษานอกโรงเรยี น ของประชาชนในชมุ ชน จดั ทาและตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารหลักฐานการดาเนนิ ต่อหน่วยงานต้นสังกัด จัดทาสรุปผลการ ดาเนินงานของ กศน.ตาบล ท่ชี ัดเจนและเท่ียงตรง รายงานต่อ ศูนย์ กศน.อาเภอ องค์กรปกครองสว่ น ท้องถน่ิ และส่วนต่างๆ ท่เี ก่ยี วข้องอย่างสม่าเสมอ 9. ดาเนนิ งานธรุ การใน กศน.ตาบล เช่น การรบั สมัครนักศึกษา แนะนาให้คาปรกึ ษา ตรวจสอบ หลักฐานการขึน้ ทะเบียนนักศึกษา การลงทะเบียนเรยี น จัดทาแผนการเรยี นการสอน การสอนเสรมิ และ การพบกลุ่ม 10. สรุปและรายงานผลการปฏบิ ตั งิ าน

11.ใหค้ วามร่วมมือระหว่างเครอื ข่ายในท้องถิน่ เพ่ือส่งเสริมและพัฒนาชุมชน โดยประสานเครือข่าย ชุมชนให้มีส่วนร่วม ได้แก่ ผรู้ ู้ ผ้มู ปี ระสบการณ์ ภูมิปญั ญาทอ้ งถ่นิ สถาบนั ศาสนา/สถานประกอบการ ทั้ง ภาครฐั และเอกชน เปน็ ตน้ 12.จดั ทาแผนปฏิบัติการประจาปี และการบรหิ ารงบประมาณของ กศน.ตาบล 1.5 บทบำทหนำ้ ท่ีของคณะกรรมกำร กศน.ตำบล 1. สง่ เสริมสนับสนนุ การดาเนนิ งานแหลง่ เรยี นรูร้ าคาถูก 2. จดั ประชาสัมพนั ธ์งานแหลง่ เรยี นรรู้ าคาถูก 3. จดั หาวัสดุ อปุ กรณ์ และครุภัณฑ์พนื้ ฐานใหแ้ หล่งเรียนรรู้ าคาถูก 4. บริหารและจัดกจิ กรรมในแหล่งเรียนร้รู าคาถูก 5. กากบั ติดตาม และประเมินผลการดาเนนิ งานแหลง่ เรียนรู้ราคาถกู 6. ประสานงานและเช่ือมโยงขอ้ มลู เพื่อจัดการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยกบั ศูนย์การ เรียนชุมชนแหง่ อ่ืน ๆ ในตาบล 7. ประสานกบั ส่วนราชการในตาบลและเครือขา่ ยการเรียนรู้ในชมุ ชน 8. ประสานกับองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิน่ ในพื้นท่ีเพื่อสนบั สนนุ ส่อื วสั ดุ ครุภัณฑ์ อาคารสถานทแ่ี ละนา แผนชุมชนในสว่ นท่เี ก่ียวข้องกับการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั มาปฏบิ ัติ 9. ปฏิบัติหนา้ ท่ีอืน่ ทกี่ ฎหมาย ระเบยี บ ประกาศ ฯลฯ กาหนดให้เป็นบทบาทหน้าทีข่ องคณะกรรมการ แหล่งเรียนรรู้ าคาถูก

คณะกรรมกำร กศน.ตำบล 1. นายพนิ จิ ร่มโพรยี ์ ประธานคณะกรรมการ รองประธานกรรมการ 2. นายชศู ลิ ป์ ชีชว่ ง กรรมการ กรรมการ 3. นางสาวอรทัย รวมสนิ กรรมการ กรรมการ 4. นายเรไร ขาเจริญ กรรมการ กรรมการ 5 นายมงคล สายทารี กรรมการ กรรมการ 6. นายสนิ ธพ บุตรดีเคน กรรมการ กรรมการ 7. นายสมบตั ิ สุรสั วดี กรรมการ กรรมการ 8. นายสมชาย พานแพ กรรมการ กรรมการ 9. นายสมชาย ศรที องเทศ กรรมการ กรรมการและเลขานุการ 10. นายศุภโชติ บุญยงค์ 11. นายณรงค์ อม่ิ สมบัติ 12. นายนัฐยุทธ ร่มโพรีย์ 13. นายทรงยศ ศรสี อาด 14. นายประเสรฐิ กาญจนภวิ ัฒน์ 15. นางสาวสลนิ ทพิ ย์ จนิ ดา 16. นางสาวณฐาพร นษุ ศริ ิ 17. นายดเิ รก รุนนชุ 18. นางสาวสุวรรณา พริ ยิ ะพล 1.6 องคก์ รนกั ศึกษำ กศน. กศน.ตำบลบ้ำนบึง บทบำทหนำ้ ท่ีขององคก์ รนักศกึ ษำ 1. จดั ทาแผนงาน / โครงการขององค์กรนักศึกษา กศน.ประจาปี ใหส้ อดคล้องกับวัตถปุ ระสงคใ์ น ขอ้ 6 ของ“ระเบียบสานกั งานปลัดกระทรวงศึกษาธกิ าร วา่ ดว้ ยองค์กรนกั ศึกษา กศน. พ.ศ. 2554” โดย ความเห็นชอบจากครทู ี่ปรึกษาและผ้บู ริหารหนว่ ยงานหรอื สถานศกึ ษา 2. ดาเนินงานจดั กจิ กรรมตามแผนงาน/โครงการที่กาหนดไว้ 3. กาหนดขอ้ บงั คบั หรือแนวปฏิบตั ิ เกี่ยวกับการดาเนนิ งานขององค์กรนกั ศึกษา กศน. โดยความ เห็นชอบของคณะกรรมการองคก์ รนักศกึ ษา กศน. 4. เปน็ ผู้แทนของนักศกึ ษา กศน. เพอื่ รว่ มขบั เคล่ือนการจัดกิจกรรมของสถานศึกษาและชมุ ชน 5. รายงานผลการดาเนินงานใหห้ นว่ ยงานหรอื สถานศึกษาทราบ เมื่อดาเนนิ การเสรจ็ สิน้

รำยชือ่ องค์กรนักศึกษำ กศน. กศน.ตำบลบำ้ นบึง 1. นายเชาวกร บุญมา ประธาน 2. นางสาวณฐาพร นษุ ศริ ิ กรรมการ 3. นายเดชา บุญกลาง กรรมการ 4. นายอทิ ธพิ ล เสลาคุณ กรรมการ 5. นายอดิรจุ แก่นทรัพย์ กรรมการ 6. นายสวุ ัฒน์ รสชุ่ม กรรมการ 7. นายอัสนัย มุยเจริญ กรรมการ 8. นางสาวสลนิ ทพิ ย์ จินดา กรรมการ 9. นางสาวโชติรัตน์ ทองหลาง กรรมการ 10. นางสาวสุภาวดี สรุ ยิ พนั ธ์ กรรมการ 11. นางสาวสชุ าดา สุขรตั น์ กรรมการ 12. นางสาวนติ ยา ปาทาน กรรมการ 13. นายออ็ ด บุญทราย กรรมการ 14. นางสาวแอนนา โยธา กรรมการ 15. นายสมบตั ิ สุรสั วดี กรรมการ 16.นางสาวสวุ รรณา พิรยิ ะพล กรรมการและเลขานุการ

1.7 รำยชอ่ื อำสำสมัครสง่ สริมกำรอ่ำน กศน.ตำบลบำ้ น หมู่ หมายเหตุ บึง 1 2 ลาดับท่ี ช่ือ -สกุล 3 1. นายธนพล อมศริ ิ 4 2. นางสาวพชั รี คานวน 5 3. นางสาวณัฐตกิ านต์ แยม้ ศลิ ป์ 6 4. นางสาววาสนา กลน่ิ ดอกแกว้ 7 5. นางสาวพัชนดิ า สุขโสภณ 8 6. นางสาวสาลี เกตแุ กว้ 9 7. นางสาวสิรณิ ี เกตแุ กว้ 10 8. นายสรรพัชญ์ ภาคเดช 11 9. นางสาวศริ ิพร จอรถ 12 10. นางสาวสายฝน สร้อยสาราญ 13 11 นายบญุ มาก นกงาม 14 12 นางสาวอภนิ นั ท์ สุดสาคร 13 นางสาวประภาวิฏี บวั ขาว 14 นายพรเทพ พลู ศริ ิ รำยชือ่ อำสำสมคั รบ้ำนหนงั สือชมุ ชน กศน.ตำบลบำ้ นบึง ลาดับท่ี ช่อื -สกลุ หมู่ หมายเหตุ 1. นางสาวโสภา ตะกัง 1 2. นางอรทยั รวมสิน 2 3. นางสาวกนิษฐา พิริยลกั ษณ์กุล 12 ผูท้ ี่ปฏิบตั ิงานที่ให้ความรบั ผดิ ชอบตอ่ สังคมโดยไมห่ วังผลตอบแทนเป็นเงินทอง และการกระทา ท่ี ไม่ใชภ่ าระงานท่ีต้องทาตามหน้าที่ หรอื บุคคลที่มงุ่ หวงั ทางานเพื่อการบริการ และอุทศิ ตนโดยไม่ ต้องการ รบั ค่าตอบแทนเปน็ เงนิ ทองจากการทางานนัน้ ๆ แต่อย่างใด มบี ทบาทหน้าทีด่ ังนี้ 1. สร้างสรรค์ระบบ วธิ กี าร นาหนงั สือหมนุ เวียนเพ่ือใหเ้ ข้าถึงประชาชนในชมุ ชนอยา่ งทว่ั ถึงทุก ครัวเรือน 2. พัฒนาและดาเนนิ การจดั กิจกรรมเพ่ือกระตนุ้ ใหช้ ุมชนเข้าใจและตระหนกั ถึงความสาคัญของ การอา่ น เพอ่ื สรา้ งนสิ ัยรักการอา่ น 3. สรา้ ง จดั กระบวนการและสภาพแวดล้อมท่ีส่งเสริมการอ่านใหม้ คี วามเหมาะสมกับบริบทของ ชุมชน

แหล่งเรียนรปู้ ระเภทบุคคล ไดแ้ ก่ ภมู ปิ ัญญำท้องถน่ิ ควำมรู้ควำมสำมำรถ ที่อยู่ ปราชญช์ มุ ชนเคร่ืองประดับกะเหรีย่ ง ๑๕๓ หมู่ ๑ ๑. นายดารงชยั แซ่ล้ิม ปราชญ์ชุมชนวัฒนธรรมประเพณกี ะเหร่ียง ๑ หมู่ ๑ ปราชญก์ ารรอ้ งเพลงเลา่ นิทาน การแสดงทางวัฒนธรรม ๓๙ หมู่ ๑ ๒. นายเดชา ชีชว่ ง ปราชญ์ชมุ ชนด้านอาหารพน้ื บา้ น ๑๖๓ หมู่ ๔ ปราชญช์ มุ ชนด้านการอนุรักษ์พลงั งาน ๕๙ หมู่ ๘ ๓. นายรวย ชชี ว่ ง ปราชญ์ชมุ ชนด้านการรอ้ งเพลง ๑๗ หมู่ ๑ ปราชญ์ชุมชนด้านยาสมนุ ไพร ๗๒ หมู่ ๗ ๔. นางอาพร สร้อยสาราญ ปราชญช์ ุมชนด้านการจักสาน ๒ หมู่ ๑ ปราชญ์ชมุ ชนดา้ นการทอผ้ากะเหร่ียง ๒ หมู่ ๑ ๕. นายบู่ ฟองนา้ ปราชญช์ ุมชนวัฒนธรรมประเพณกี ะเหร่ียง ๔๙ หมู่ ๑๑ ปราชญก์ ารร้องเพลงเล่านทิ าน การแสดงทางวฒั นธรรม ๘๖/๒ หมู่ ๑๑ ๖. นายบญุ มี พอชู ๗. นายทองดา สขุ ใจศรี ๘. นายทิต ตะกงั ๙. นางโสภา อาวรณ์จติ ร ๑๐ นางสรุ ินทร์ ภักดี ๑๑ นางลาไย สขุ กอ้ น แหล่งเรยี นรู้ประเภทสถำนท่ี/ชุมชน/กลุ่มทำงเศรษฐกิจ/สงั คม ได้แก่ ชื่อแหล่งเรียนรู้ ประเภทแหลง่ เรียนรู้ ทีต่ ้งั หมู่ ๑ ๑. วดั ปา่ โป่งกระทิงบน โบราณสถาน หมู่ ๗ หมู่ ๑๑ ๒. กลุ่มทาน้าหมกั ชวี ภาพ วิสาหกิจชมุ ชน หมู่ ๑๑ หมู่ ๑ ๓. กลมุ่ การสานตะกร้าพลาสตกิ วิสาหกจิ ชมุ ชน หมู่ ๒ หมู่ ๒ ๔ กล่มุ ทอผา้ ขาวม้า กลมุ่ โอท็อป หมู่ ๕ หมู่ ๑๐,๑๒ ๕. กลุ่มการทาไม้กวาดทางมะพร้าว กล่มุ อาชีพ (ผสู้ ูงอายุ) หมู่ ๔ หมู่ ๑ ๖. การทาเสน้ ขนมจีนโบราณ บคุ คล หมู่ ๒ หมู่ ๓ ๗. การทาน้าเตา้ หปู้ ลาท่องโก๋ บุคคล ๘. การทาแคบหมู บุคคล ๙. การทาไอศครมี สด บุคคล ๑๐. กลุม่ นวดแผนไทย บอ่ พนุ า้ ร้อน ๑๑. การตเี มด็ เงนิ กะเหรยี่ ง บุคคล ๑๒. วดั โป่งกระทงิ ลา่ ง โบราณสถาน ๑๓. วัดรอ่ งเจริญ โบราณสถาน

แหล่งสนบั สนนุ ทนุ /งบประมำณ ประเภทองคก์ ร ได้แก่ ภำคเี ครอื ขำ่ ย กำรสนับสนนุ ท่อี ยู่/ท่ตี ้ัง ๑. องคก์ ารบริหารสว่ นตาบลบา้ นบึง อนุเคราะห์สถานท/่ี งบประมาณ หมู่ ๒ ๒. โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สขุ ภาพ อนเุ คราะห์สถานท่ี หมทู่ ี่ ๑,๒,๖ ประจาตาบล ๓. โรงพยาบาลบ้านคา อนุเคราะห์สถานท่/ี วิทยากร หมูท่ ่ี ๘ อนเุ คราะหว์ ิทยากร หมู่ ๒ ๔. สถานตี ารวจภธู รตาบล อนเุ คราะหส์ ถานที/่ วิทยากร/พันธุ์พชื หมู่ ๗ ๕. ศนู ยส์ ่งเสรมิ การเกษตรและ เทคโนโลยี อนุเคราะหส์ ถานท่/ี วทิ ยากร หมู่ ๒ ๖. ศนู ยม์ าราเลีย วทิ ยากร/กาลงั พล หมู่ ๑ ๗. กองพลพฒั นาที่ ๑ บ้านโป่ง กระทิงบน อนเุ คราะห์สถานท/ี่ วทิ ยากร หมู่ ๑๓ ๘. เขตรักษาพนั ธส์ ตั ว์ปา่ แมน่ ้าภาชี อนุเคราะหส์ ถานที่/วทิ ยากร หมู่ ๔ ๙ หนว่ ยพิทกั ษ์ป่าพุน้าร้อน ประชาสมั พนั ธ์ชว่ ยกิจกรรมกศน. หมู่ ๑-๑๓ ๑๐. กลมุ่ อสม./กลุม่ ผู้สูงอายุฯ/กลุ่ม อาชพี ฯลฯ

1.2 ขอ้ มลู เกีย่ วกับงำน 1. โครงกำรเรียนรู้ตำมหลกั ปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพียงเพอื่ กำรพึ่งพำตนเองให้สุขภำพดเี สริม ภูมคิ มุ้ กันต้ำนโควิด 19 กศน.อำเภอบำ้ นคำ หลกั สูตรวิชำกำรปลกู อะโวคำโดเพ่อื สุขภำพดี 2. ควำมสอดคล้องกบั ยุทธศำสตรช์ ำติ 20 ปี นโยบำยและจดุ เนน้ กำรดำเนินงำนของสำนกั งำน กศน. 2564 (ร่ำง) นโยบำยและจุดเน้นกำรดำเนินงำน สำนักงำนส่งเสริมกำรศึกษำนอกระบบและ กำรศึกษำตำมอธั ยำศัย ประจำปงี บประมำณ พ.ศ.2565 นโยบำยและจุดเนนกำรดำเนินงำน สำนกั งำน กศน. ประจำปงบประมำณ พ.ศ. 2565 1. ด้ำนกำรจัดกำรเรียนรูค้ ณุ ภำพ 1.1 นอมนำพระบรมรำโชบำยสูกำรปฏิบัติ รวมท้ังสงเสริมและสนับสนุนการดาเนินงาน โครงการอัน เน่ืองมาจากพระราชดาริทุกโครงการ และโครงการอันเกี่ยวเนื่องจาก ราชวงศ์ 2. ดำ้ นกำรสรำ้ งสมรรถนะและทักษะคุณภำพ 2.1 สงเสรมิ กำรจดั กำรศึกษำตลอดชีวติ ที่เนนการพัฒนาทกั ษะทจี่ าเปน็ สาหรับแตล่ ะชวง วัยและการจดั การศกึ ษาและการเรยี นรูท่ีเหมาะสมกบั แตล่ ะกล่มุ เป้าหมายและบริบท พ้นื ท่ี ควำมสอดคลอ้ งกบั ยุทธศำสตร์ชำติ 20 ปี ยุทธศำสตร์ชำติ 20 ปี 2561 – 2580 ยุทศาสตร์ที่ 3. ยทุ ธศาสตร์ด้านการพัฒนาและเสรมิ สร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ เป้าหมาย ในขอ้ 2. สังคมไทยมีสภาพแวดลอ้ มทีเ่ อือ้ และสนับสนนุ ต่อการพฒั นาคนตลอดชว่ งชวี ติ ตวั ชว้ี ดั ในขอ้ 1. การพัฒนาคุณภาพชวี ิต สขุ ภาวะและความเป็นอย่ทู ี่ดขี องคนไทย 3. หลักกำรและเหตผุ ล พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้ พระราชทานหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อเป็นแนวทางในการดาเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทย เป็นปรัชญาที่ช้ีถึงแนวทางการดารงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับให้ดาเนินไปในทางสาย กลางโดยยดึ หลกั ความพอประมาณความมีเหตุผลและการสร้างภมู ิคมุ้ กนั ท่ีดีในตัวตลอดจนใชค้ วามร้คู วาม รอบคอบและคุณธรรมประกอบการวางแผนการตัดสินใจและกระทา ในส่ิงที่ควรจะเป็นเพ่ือให้สามารถ ดารงชีวิตได้อย่างย่ังยืนภายใต้กระแสโลกาภิวตั น์ การวางรากฐานความรู้ ความเข้าใจ การดาเนินชีวิตตาม หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีความจาเป็นอย่างย่ิงท่ีจะต้องปลูกฝังให้เกิดข้ึนกับทุกคนทุกระดับใน สงั คมไทย ในสวนของสานักงาน กศน. ได้มีการพัฒนา ปรับรูปแบบ กระบวนการ และวิธีการดาเนินงานใน ภารกิจต่อเนื่องตา่ ง ๆ ในสถานการณการใชชีวิตประจาวัน และการจัดการเรียนรูเพื่อรองรับการชีวิตแบบ ปกติวิถีใหม่ (New Normal) ซึ่งกิจกรรมการเรียนรูต่าง ๆ ได้ใหความสาคัญกับการดาเนินงานตาม มาตรการการปองกนั การแพรระบาดของเช้อื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID -19) อาทิ การจดั กจิ กรรมการ

เรียนรูทุกประเภทหากมีความจาเป็นตองมารวมกลุม หรืออบรมสัมมนา ทางสถานศึกษาตองมีมาตรการป องกันที่เขมงวด มีเจลแอลกอฮอลล์ ้างมอื ผู้รับบรกิ ารตองใสหนากากอนามยั หรือหนากากผา ตองมีการเว้น ระยะห่างระหว่างบุคคล ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอบา้ นคา ไดต้ ระหนักถงึ ความสาคัญ ใน การนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาเป็นหลักในการพัฒนาประชาชนอาเภอบ้านคา จึงได้ ดาเนินการจัดกิจกรรมโครงการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการพ่ึงพาตนเองให้ สุขภาพดีเสริมภูมิคุ้มกันต้านโควิด 19 กศน.อาเภอบ้านคา วิชาการปลูกอะโวคาโดเพ่ือสุขภาพดี เพื่อเป็น การส่งเสริมให้ประชาชนในอาเภอบ้านคา ได้ปลูกอะโวคาโดเพื่อไวเป็นผลไม้เสริมสร้างสุขภาพดี สร้าง ภมู ิคมุ้ กันให้ตนเอง ลดรายจ่ายในครอบครวั และได้ดาเนินการต่อยอดกิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียงเปน็ แนวปฏิบตั ิท่สี ามารถพึ่งพาตนเองได้ 4. วตั ถุประสงค์ 1. เพอื่ ให้ประชาชนอาเภอบา้ นคา มีความรู้ความเข้าใจในเร่ืองการปลูกอะโวคาโดเพ่ือสุขภาพดี 2. เพ่ือให้ประชาชนอาเภอบ้านคา สามารถปลูกอะโวคาโดเพื่อสุขภาพดีได้ และนาไปเป็น หลักการในการน้อมนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อประยุกต์ใช้ในการพัฒนา คุณภาพชวี ิตของตนเองและครอบครวั ได้ 5. เป้ำหมำย 1) เชงิ ปริมำณ - ประชาชนอาเภอบ้านคา จานวน 20 คน 2) เชิงคณุ ภำพ - ประชาชนกลมุ่ เป้าหมายทเี่ ข้าร่วมโครงการฯ มคี วามรู้ความเขา้ ใจและสามารถปลูก อะโวคาโดเพื่อสุขภาพดี และนาไปเป็นหลักการในการน้อมนาหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง เพื่อประยุกต์ใชใ้ นการพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ ของตนเองและครอบครัวได้ 6.ระยะเวลำดำเนนิ งำน วันที่ 22 ธนั วาคม 2564 7.งบประมำณ งบประมาณในโครงการที่ต้ังไว้คือ 3,600.-บาท (สามพันหกร้อยบาทถ้วน) และได้จ่ายไปจริงใน โครงการ 3,600.-บาท (สามพันหกรอ้ ยบาทถว้ น) ซงึ่ สามารถแสดงเปน็ รูปตารางได้ดังน้ี งบประมาณที่ต้งั ไว้ งบประมาณทจ่ี ่ายจริง งบประมาณทค่ี งเหลือคนื 3,600.-บาท 3,600.-บาท 0.00 บาท 8.วิธดี ำเนนิ งำน โครงการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพ่ือการพึ่งพาตนเองให้สุขภาพดีเสริม ภูมิคุ้มกันต้านโควิด 19 กศน.อาเภอบ้านคา หลักสูตรวิชาการปลูกอะโวคาโดเพ่ือสุขภาพดี ในครั้งนี้ ดาเนนิ การโดยใช้วธิ กี ารตอ่ ไปนี้

8.1 บรรยายให้ความรู้เกยี่ วกับความหมายและความสาคัญหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและใช้ชีวิต พอเพียง เศรษฐกิจพอเพียง เป็นกรอบแนวคิด ซ่ึงมุ่งให้ทุกคนสามารถพ่ึงพาตัวเองได้ รวมถึงการพัฒนาให้ ดยี ิ่งขึ้น จนเกิดความย่ังยืน คาวา่ พอเพยี ง คือ การดาเนนิ ชีวติ แบบทางสายกลาง โดยต้ังอยบู่ นหลกั สาคัญ สามประการ คือ ความพอประมาณ ความมีเหตุผล และการมีภูมิคุ้มกันท่ีดี ความพอประมาณคือ การ ดารงชีวิตให้เหมาะสม ซ่ึงเราควรจะมีความพอประมาณทั้งการหารายได้ และพอประมาณในการใช้จ่าย ความพอประมาณในการหารายได้ คือ ทางานหารายได้ด้วยช่องทางสุจริต ทางานให้เต็มความสามารถ ไม่ เบียดเบียนผู้อ่ืน ส่วนความพอประมาณในการใช้จ่าย หมายถึง การใช้จ่ายให้เหมาะกับฐานะความเป็นอยู่ ไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยหรือใช้จ่ายเกินตัว และในขณะเดียวกัน ก็ใช้จ่ายในการดูแลตนเอง และครอบครัวอย่าง เหมาะสม ไม่อยู่อย่างลาบาก และฝืดเคืองจนเกินไป ความมีเหตุผล ไม่ว่าจะเป็นการทาธุรกิจ หรือการ ดารงชีวิตประจาวัน เราจาเป็นต้องมีการตัดสินใจตลอดเวลา ซึ่งการตัดสินใจท่ีดี ควรตั้งอยู่บนการ ไตรต่ รองถงึ เหตุ รวมทง้ั คานึงถึงผลท่อี าจตามมาจากการตัดสินใจอยา่ งรอบคอบ ไมใ่ ช่ตัดสินใจตามอารมณ์ หรือจากสิ่งท่ีคนอ่ืนบอกมาโดยปราศจากการวิเคราะห์ การมีภูมิคุ้มกันท่ีดี คือการเตรียมตัวให้พร้อมรับ กบั ความเปลี่ยนแปลง ในโลกท่ีไม่มีอะไรแน่นอน ทั้งสภาพลม ฟ้า อากาศที่ไม่เอ้ืออานวยต่อการทาเกษตร การเปลี่ยนแปลงในบริษัทคู่ค้า การเลิกจ้างพนักงานในบริษัทใหญ่ หรือแม้แต่ความไม่แน่นอนของ สถานการณ์ทั้งในและต่างประเทศที่มีผลต่อการลงทุน เราจึงจาเป็นต้องเรียนรู้ท่ีจะดารงอยู่ได้ด้วยการ พึง่ พาตนเอง และต้ังอยู่ในความไม่ประมาทอยู่เสมอ เชน่ เตรยี มแผนสารองสาหรับแต่ละสถานการณ์ การ มีรายได้หลายทางเพ่ือลดความเส่ียงในวันท่ีถูกเลิกจ้าง หรือการกระจายความเสี่ยงในการลงทุน โดยการ ดารงชีวิตตามหลักการทั้งสามข้อนั้น จาเป็นต้องมีความรู้และคุณธรรมประกอบด้วย ความรู้ช่วยสร้าง ภูมิคุ้มกันที่เหมาะสม เช่น ความรู้ในการประกอบวิชาชีพช่วยให้ธุรกิจและการงานเจริญก้าวหน้า หรือ ความรู้ในการลงทุนช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้นักลงทุน ทั้งนี้ ความรู้และประสบการณ์ จะช่วยทาให้เรา ตดั สนิ ใจได้อยา่ งเปน็ เหตเุ ปน็ ผล ถึงแม้ว่า พนื้ ฐานความคิดและประสบการณ์ทแี่ ตกต่างกนั อาจทาใหเ้ หตผุ ล ของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน แต่หากทุกคนยึดมั่นอยู่ในหลักคุณธรรม ก็จะทาให้การอยู่ร่วมกันในสังคม เป็นไปอย่างสงบสุข อย่างท่ีกล่าวมาข้างต้น การพ่ึงพาตัวเองได้เป็นเพียงส่วนเร่ิมต้นของการพัฒนา เศรษฐกิจพอเพียง โดยเม่ือทุกคนสามารถดูแลตัวเอง และครอบครัวได้แล้ว ขั้นต่อไปอาจทาการพัฒนา ธรุ กจิ โดยมีการรวมกลุม่ กันในวิชาชีพเดียวกัน เพือ่ แลกเปลี่ยนความรู้และให้ความช่วยเหลือซงึ่ กันและกัน ในการรวมกลุ่มกันนั้น ไม่จากัดเฉพาะการรวมกลุ่มของชาวบ้าน เกษตรกร ในรูปของสหกรณ์ การทางาน ในเมืองก็สามารถมีการรวมกลุ่มกันได้ เช่น การแบ่งปันความรู้ ประสบการณ์ในการทาธุรกิจของกลุ่ม อุตสาหกรรมเดียวกัน การแลกเปล่ียนแนวคิดการลงทุน เพื่อเป็นการต่อยอดความรู้ รวมไปจนถึงการ แบ่งปันความช่วยเหลือส่งกลับคืนสู่สังคม ไปสู่กลุ่มท่ียังต้องการความช่วยเหลืออยู่ เช่น กิจกรรมจิตอาสา เพื่อสร้างสังคมท่ีเข้มแข็งและอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข อะโวคาโด จัดอยู่ในวงศ์อบเชย เป็นต้นไม้พ้ืนเมือง ของเม็กซิโกในรัฐปวยบลา ในประเทศไทยมีการนามาปลูกครั้งแรกท่ีจังหวัดน่าน ก่อนจะแพร่ขยายไปทั่ว ประเทศ โดยอะโวคาโดเป็นผลไม้ท่ีมีเน้ือมันเป็นเนย ลักษณะของผลจะมีรูปร่างคล้ายสาลี่ หรือรูปไข่จนถึง รปู กลม เป็นผลไม้ที่นิยมรับประทานกันมากในแถบยุโรปและอเมรกิ า เพราะมีสารอาหาร วิตามิน และแร่

ธาตุหลากหลายที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมาก แต่สาหรับบางคนแล้วกลับไม่ชอบรับประทานอะโวคา โดเอาเสียเลย เพราะเป็นผลไม้ทไ่ี ม่มรี สหวาน และมีไขมันสูง ผลไมช้ นดิ นี้จงึ ถกู มองข้ามไปอย่างน่าเสียดาย ผลอะโวคาโดน้าหนัก 100 กรัม (ประมาณคร่ึงผล) จะมีไขมันสูงถงึ 14.66 กรัม ! (ถ้าเทียบกับผลไม้ชนิด อื่นจะมีไขมันน้อยมากหรือไม่มีไขมันเลย) แต่คุณทราบหรือไม่ว่าการรับประทานอะโวคาโดไม่ได้ทาให้ น้าหนักตัวเพิ่มข้ึนแต่อย่างใด เม่ือเทียบกับการรับประทานไขมันอื่นในปริมาณเท่ากัน แถมการ รบั ประทานอะโวคาโดยังช่วยลดน้าหนักได้อีกด้วย และไม่ทาให้อ้วน แถมยังช่วยลดระดับไขมันเลว (LDL) ได้อย่างชัดเจน วิธีกินอะโวคาโดไม่นิยมรับประทานผลดิบเน่ืองจากมีรสขม แต่นิยมรับประทานแบบสุก ด้วยการปอกเปลือกแล้วหั่นเป็นสีเหลี่ยมลูกเต๋าใส่น้ากะทิ หรือจะผ่าตามยาว เอาเมล็ดออกแล้วราดด้วย น้าผึ้งแล้วรับประทานก็ได้ โทษของอะโวคาโด ผลดิบไม่สามารถรับประทานได้ เพราะมีสารแทนนินใน ปริมาณมากและมีรสขม หากรับประทานในปริมาณมากอาจจะทาให้ปวดศีรษะได้ ดังน้ันควรรับประทาน แต่ผลสุก สาหรับบางรายอาจมีอาการแพ้อะโวคาโดได้ โดยอาจจะแพ้ในรูปของละอองเกสร หรือแพ้ หลังจากการรับประทานอะโวคาโดก็ได้ โดยอาการที่ปรากฏก็ได้แก่ ปวดท้อง อาเจียน ผืน่ คัน ลมพิษ หรือ อาจถึงขนั้ เสียชีวิตได้ 8.2 ฝึกปฏบิ ัติเร่อื งการปลูกอะโวคาโด 8.3 ผู้เข้าร่วมกิจกรรมร่วมกันวิเคราะห์สภาพ ชุมชนในแต่ละตาบล กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ร่วมกัน ระดมความคิดเห็น วิเคราะห์ รวบรวมข้อมูล ดาเนินการส่งเสริมให้มีการให้ความรู้กับประชาชน เก่ียวกับยึดหลักความพอประมาณความมีเหตุผลและการสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในตัวตลอดจนใช้ความรู้ความ รอบคอบและคุณธรรมประกอบการวางแผนการตัดสินใจและกระทา ในสิ่งที่ควรจะเป็นเพ่ือให้สามารถ ดารงชีวิตได้อย่างยั่งยืนภายใตก้ ระแสโลกาภิวัฒน์ การวางรากฐานความรู้ ความเข้าใจ การดาเนนิ ชวี ติ ตาม หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง การจัดทาบัญชีครวั เรือน หรือ บญั ชีรายรับรายจ่ายนี้ ไมใ่ ช่เป็นแตเ่ พยี งการจดบันทึกรายการตา่ ง ๆ ทเ่ี ป็น เงินเท่าน้ัน แต่ยังเป็นการสร้างความสามัคคีภายในครอบครัว รู้จักช่วยเหลือแบ่งปันกันในสังคม มีการ เรียนรู้ซ่ึงกันและกัน ซึ่งเกิดจากประสบการณ์ต่างๆ ท่ีได้รับจากการจดบันทึกข้อมูลท่ีเป็นประโยชน์ ทาให้ ประชาชนทุกคนรู้จักการบริหารจัดการด้านการเงินและการวางแผนการทางานทุกอย่างเพื่อให้บรรลุ เป้าหมายได้ การทาบัญชีครัวเรือนทาให้ครอบครัวมีความสุขใช้ชีวิตโดยยึดหลักความพอเพียง มีเหตุมีผล รู้จักพ่ึงพาตนเอง มีความพอประมาณ การเงินมีสภาพคล่อง รู้จักการเก็บออม ทุกคนรู้ถึงแหล่งที่มาของ รายรับและการใช้ไปของค่าใช้จ่ายในแต่ละวันสามารถนาข้อมูลการใช้จ่ายมาวางแผนบริหารการเงินใน อนาคตได้ อะโวคาโด เป็นผลไม้ยืนต้นที่มีใบเขียวชอุ่มอยู่ตลอดปี จัดอยู่ในวงศ์เดียวกันกับการบูรและ อบเชย มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Persea American Mill พืชในสกุลเดียวกันกับอะโวคาโดมีอยู่ประมาณ 50 ชนิดซึ่งส่วนใหญ่มีถิ่นกาเนิดในเม็กซิโกและอเมริกากลาง บางชนิดขึ้นได้ในเขตร้อนและเหมาะสาหรับใช้ เปน็ ไมป้ ระดบั การแพรก่ ระจายของอะโวคาโดจากแหลง่ กาเนิดเดมิ ไปอย่างชา้ ๆ ในราวตน้ ศตวรรษที่ 16 ชาวสเปนพบว่ามีอะโวคาโดขึ้นแพร่หลายต้ังแต่เม็กซิโกลงไปจนถึงเปรู จรดเวเนซูเอล่า มีการนาเข้าสู่จาก ไมก้า ประมาณ ค.ศ. 1650 เข้าสู่ควิ บาราวต้นศตวรรษที่ 18 เข้าสู่รัฐฮาไวอิ ราวปี ค.ศ. 1825 เริ่มปลูก ในรัฐฟลอรดิ าในปี ค.ศ. 1833 และปลูกในแคลฟิ อร์เนียในปี 1856 แตส่ ามารถปลูกอย่างได้ผลประมาณ ปี 1871 การทาสวนอะโวคาโด เป็นการค้าเร่ิมขึ้นในอาร์เจนตินา ประมาณ ค.ศ. 1920 ในแอฟริกาใต้ เร่ิมในปี ค.ศ. 1920-1930 ในจาไมก้าเริ่มเม่ือ ค.ศ. 1935 และในอิสราเอลเร่ิมเมื่อ ค.ศ. 1934 โดย เริ่มด้วยสวนขนาดเล็กการปลูกอะโวคาโดเป็นการค้ามีในประเทศแถบอเมริกากลาง เม็กซิโก หมู่เกาะ อินเดียตะวันออก ฟลอริด้า แคลิฟอร์เนีย คิวบา ออสเตรเลีย อิสราเอล และอเมริกาใต้ มิชชันนารีชาว

อเมริกัน ได้นาอะโวคาโดเข้ามาปลูกที่จังหวัดน่านไม่น้อยกว่า 70 ปีมาแล้ว แต่ไม่ทราบชื่อพันธุ์ ชาวบ้าน ได้นาเมล็ดจากต้นเดิมไปปลูกตามหมู่บ้านต่าง ๆ จนเป็นที่แพร่หลายและมีการซ้ือขายผลอะโวคาโด เช่นเดียวกับผลไม้ชนิดอื่น ๆ แสดงว่าอะโวคาโด สามารถปรับตัวเข้ากับดินฟ้าอากาศภาคเหนือได้ดี นอกจากท่ีจังหวัดน่านแล้ว มีผู้สนใจนาอะโวคาโดไปลูกไปในหลายท้องท่ี เช่น เชียงใหม่ จันทบุรี ลาพูน ฯลฯ และท่ีไร่ฝึกนิสิตเกษตรปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ทางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้รวบรวม พันธุ์อะโวคาโดไว้หลายพันธุ์และส่วนมากใหผ้ ลแล้ว ผู้สนใจอาจตดิ ต่อซื้อก่ิงพันธจุ์ ากสถานไี รฝ่ ึกฯ ดงั กล่าว ได้ 9. กำรประเมนิ ผล การประเมินผลการอบรมคร้ังนี้ เป็นการประเมินผลตามจุดประสงค์ของโครงการ โดยมีวิธีการ และเคร่ืองมอื ในการประเมินผลดงั นี้ 9.1 การประเมนิ ผลระหว่างการอบรม ไดแ้ ก่ - ประเมินความรู้ความเข้าใจ และทักษะการปฏิบัติ โดยใช้ข้อสอบ PRE-TEST และ POST- TEST - ประเมินความตระหนักโดยใช้แบบประเมินตนเอง หรือคาถามเพ่ือวัดทัศคติ หรือชิ้นงานที่ให้ ปฏิบัติ - ประเมนิ ผลการจดั อบรม โดยใชแ้ บบสอบถามความพงึ พอใจต่อการจัดอบรม จากวิธปี ระเมินผล รวมทั้งเครื่องมือดงั กลา่ วข้างตน้ ในการดาเนนิ การจรงิ ได้มีการปรับวิธแี ละเคร่ืองมือ ดังน้ี ขอ้ ที่ การวดั และประเมินผลระหวา่ งการอบรม วธิ วี ดั และประเมนิ ผลตามโครงการ วิธีวัดและประเมนิ ผลทปี่ ฏบิ ตั ิจรงิ 1 ประเมินความรคู้ วามเขา้ ใจ และทกั ษะการ ใชก้ ารวัดผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนหลงั การ ปฏบิ ัติ โดยใช้ข้อสอบ PRE-TEST,POST TEST บรรยายและการฝึกปฏิบตั ิสิ้นสุด 2 ประเมินความตระหนักโดยใชแ้ บบประเมิน ประเมนิ จากการฝกึ ปฏิบัตจิ ริง ตนเอง หรอื คาถามเพ่ือวัดทัศนคติ หรอื ชิน้ งานท่ี ให้ปฏิบัติ 3 ใชแ้ บบสอบถามความพึงพอใจในการจดั การ ประเมนิ ผลการอบรมโดยใชแ้ บบสอบถามความ อบรม พงึ พอใจ 9.2 การติดตามผลหลงั การอบรม บูรณาการกับการนิเทศติดตามผลการดาเนนิ งานของสานักงาน กศน.จงั หวดั ราชบุรี โดย ใชแ้ บบนเิ ทศท่ีสร้างขึ้น

10. ผลกำรดำเนินงำนตำมจุดประสงคข์ องโครงกำร ผลการดาเนินงานในที่นี้เป็นผลการดาเนินงานที่เกิดจากการประเมินผลตามจุดประสงค์ของ โครงการที่จะส่งผลเป็นผลผลิตของโครงการ มีดังนี้ 10.1 เพื่อสรา้ งความรู้ความเข้าใจเกย่ี วกับหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงโดยมีเกณฑ์ผลผลิต ว่า “ร้อยละ ๘๐ ของผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและ การจดบันทึกรายรับ-รายจ่ายในครอบครัว เพ่ือเป็นการควบคุมค่าใช้จ่ายและบริหารการเงินอย่างเป็น ระบบ” การขยายพนั ธ์ุ อะโวคาโดสามารถขยายพันธุ์ไดห้ ลายวธิ ี ก่ิงพนั ธุท์ ใี่ ช้ปลกู เปน็ การคา้ ขยายพันธ์โุ ดย วิธตี ิดตาหรือเสียบกิง่ บนต้นตอท่ีเพาะจากเมล็ด เราอาจขยายพันธุอ์ ะโวคาโดโดยวธิ ีตอนก่ิง แต่ผลที่ได้รบั สู้ แบบติดตาหรือเสียบกิ่งไม่ได้ อีกอยา่ งหน่งึ พันธอ์ุ ะโวคาโดส่วนมากการตอนออกรากยาก และเมอ่ื เอามาชา ก็ต้ังตัวได้ยาก อะโวคาโดที่มีอายุมากหรือต้นที่มีคุณภาพผลไม่ค่อยดีเราอาจเปล่ียนยอดพันธ์ุเสียใหม่โดย การติดตา หรือเสียงก่ิงบนยอดที่แตกออกมาใหม่ ผลจากการประเมินในข้อนี้เป็นการประเมินผลสัมฤทธ์ิ โดยใช้ข้อสอบจานวน20 ข้อ มีผ้ทู าแบบทดสอบจานวน 20 คน จากจานวนประชาชนที่เข้ารับการอบรม จานวน 20 คน คดิ เป็นร้อยละ 100 ผู้ทาแบบทดสอบไดค้ ะแนนสูงสุด 18 คะแนน และต่าสุด 7 คะแนน ค่าเฉล่ียของคะแนนที่ได้คือ 14.32 คะแนน โดยผู้เข้ารับการอบรม จานวน 20 คน ทาแบบทดสอบแต่ คะแนนทดสอบไม่ผา่ น จานวน 7 คน ดงั รายละเอียดคะแนนในตารางตอ่ ไปน้ี ตารางแสดงคา่ คะแนน และคะแนนเฉล่ียในการวดั ความรู้ความเข้าใจในเร่ืองหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง และการจดบันทึกรายรบั -รายจ่ายในครอบครัวและการปลูกอะโวคาโด ที่ คะแนนที่ได้ จานวนคนท่ไี ด้คะแนน คา่ คะแนนรวม(ความถี่ของคะแนนทไี่ ด้ x (ความถ่ีของคะแนน) คะแนนในข้อน้นั ) 17 3 21 29 4 36 3 11 4 44 4 13 8 104 5 14 22 308 6 15 24 360 7 16 17 272 8 18 8 144 รวมคะแนน 1,289 คะแนน คะแนนเฉล่ียทีไ่ ด้ = ผลรวมของคะแนน (789 ÷ จานวนผทู้ าแบบทดสอบ(20) = 14.32 คะแนน จากตารางข้างต้นสรุปไดว้ ่าเมื่อดูจากคะแนนเฉล่ีย ผู้เข้ารับการอบรมไม่ผ่านการประเมิน เพราะได้คะแนน เฉล่ียเพียง 14.32 คะแนน จากคะแนนเตม็ 20 คะแนน หรือสรปุ ตามคะแนนทีไ่ ด้ตงั้ แต่ 10 คะแนนหรือ 50 % ของคะแนนท้ังหมดถือว่าผ่านการประเมนิ ก็สรุปไดว้ ่ามผี ู้เข้ารบั การอบรมเพียง 13 คน ท่ีผ่านการ ประเมิน คิดเป็นร้อยละ 92.22 เท่าน้ัน ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าผลผลิตข้อที่ 2 บรรลุผลสาเร็จตาม วตั ถปุ ระสงคข์ องโครงการ

10.2 เพื่อสร้างความตระหนักในการเห็นความสาคัญในการร่วมกันวิเคราะห์สภาพ ชุมชนในแต่ ละตาบล กิจกรรมแลกเปล่ียนเรียนรู้ร่วมกัน ระดมความคิดเห็น วิเคราะห์ รวบรวมข้อมูล ดาเนินการ ส่งเสริมให้มีการให้ความรู้กับประชาชนเก่ียวกับยึดหลักความพอประมาณความมีเหตุผลและการสร้าง ภูมิคุ้มกันที่ดีในตัวตลอดจนใช้ความรู้ความรอบคอบและคุณธรรมประกอบการวางแผนการตัดสินใจและ กระทา ในส่ิงที่ควรจะเป็นเพื่อให้สามารถดารงชีวิตได้อย่างยั่งยืนภายใต้กระแสโลกาภิวัฒน์ การ วางรากฐานความรู้ ความเข้าใจ การดาเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยมีเกณฑ์ ผลผลิตว่า “ร้อยละ 80 ของผู้เข้ารับการอบรมตระหนักในความสาคัญของหลักความพอประมาณความมี เหตุผลและการสร้างภูมิคุ้มกันท่ีดีในตัวตลอดจนใช้ความรู้ความรอบคอบและคุณธรรมประกอบการวาง แผนการตดั สนิ ใจและกระทา เขาจะแสดงออกถึงความตระหนักด้วยการปฏิบตั จิ รงิ ได้ 10.3 การประเมนิ ผลการดาเนินงานโครงการจัดอบรม ประเมนิ โดยใช้แบบประเมนิ ความพึง พอใจของผเู้ ขา้ รบั การอบรมในหัวข้อดงั ตารางทีป่ รากฏต่อไปนี้ ๑1. จดุ เดน่ ของแผนงำน/โครงกำร/กิจกรรมครงั้ นี้ 11.๑ บรรยากาศในการเรยี นร้ดู ี 1๑.2 เปน็ โครงการตอ่ เนื่องที่เพิ่มพูนทักษะแกป่ ระชาชนนาไปใชป้ ระกอบอาชพี จริง ๑2. ข้อเสนอแนะเพือ่ กำรพัฒนำแผนงำน/โครงกำร/กิจกรรมคร้งั ตอ่ ไป โครงการน้เี ป็นโครงการท่ดี ี สามารถพัฒนาผเู้ รยี นใหม้ คี วามร้เู พ่มิ ขึน้ และสร้างรายไดเ้ สริมให้กบั ครอบครัว ควรจดั โครงการและกจิ กรรมอยา่ งต่อเน่ือง ผูร้ บั ผิดชอบโครงกำร ๑. งานการศึกษาต่อเน่ือง ๒. ครู กศน. ตาบลบ้านบึง โครงกำรทเ่ี กย่ี วข้อง 1. โครงการจดั การศึกษาเพื่อพัฒนาทกั ษะชีวิต 2. โครงการจดั การศกึ ษาอาชพี หลักสูตรระยะสั้นเพื่อพฒั นาสังคมและชุมชน หนว่ ยงำนท่ีเกย่ี วขอ้ ง 1.องคก์ ารบริหารส่วนตาบลบ้านบึง 2.สานักงานพัฒนาชมุ ชน ผลลพั ธ์ ประชำชนกล่มุ เปำ้ หมำยทเี่ ข้ำรว่ มโครงกำรฯ มคี วำมรู้ควำมเข้ำใจและสำมำรถปลูกอะโว คำโดเพ่ือสขุ ภำพดี และนำไปเป็นหลกั กำรในกำรนอ้ มนำหลกั ปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพียงเพ่อื ประยกุ ต์ใช้ในกำรพัฒนำคุณภำพชวี ติ ของตนเองและครอบครวั ได้ ดชั นีควำมสำเร็จของโครงกำร ตัวชี้วัดผลผลิต 1. รอ้ ยละ 80 ของกลุ่มเปา้ หมายมคี วามรู้ความเขา้ ใจเกยี่ วกับการปลูกอะโวคาโด 2. ร้อยละ 80 ของกลมุ่ เป้าหมายมคี วามพึงพอใจต่อการรับบริการในระดบั ดี

ตัวชีว้ ดั ผลลพั ธ์ - ผเู้ รยี นมคี วามรคู้ วามเข้าใจเกี่ยวกบั การปลกู อะโวคาโดและประกอบอาชีพอย่างมี คณุ ธรรม สามารถประกอบอาชพี เลย้ี งตนเองและครอบครวั ได้ กำรตดิ ตำมประเมินผลโครงกำร 1. สังเกต 2. ประเมนิ ความพึงพอใจ 3. ประเมินตามหลักสูตร

สว่ นท่ี 2 ผลกำรดำเนนิ งำนพัฒนำ (BEST Practice) โครงการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงเพ่ือ การพ่งึ พาตนเองใหส้ ุขภาพดเี สรมิ ภมู ิคมุ้ กันต้านโควดิ 19 กศน.อาเภอบา้ นคา หลกั สูตรวิชาการปลกู อะโว คาโดเพ่ือสุขภาพดี ผลกำรดำเนินงำนพรอ้ มภำพกิจกรรม ดาเนนิ การจัดกิจกรรม ณ ศาลาประชาคม หมู่ที่ ๑ หมู่บ้านโปง่ กระทงิ บน ตาบลบ้านบงึ อาเภอบา้ นคา จงั หวัดราชบุรี ในวันที่ ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. 256๔ โดยมขี นั้ ตอนท่ีสาคัญ ไดแ้ ก่ การสารวจความต้องการ ของชุมชน การวางแผนการจัดโครงการโดยการประชุม เขียนโครงการเพ่ือขออนุมัติ และจัดทาหลกั สตู ร แตง่ ตั้งมอบหมายหนา้ ทีบ่ ุคลากร กศน.อาเภอ จดั ซอื้ วัสดุและอปุ กรณ์ ประสานงานวิทยากรและเครอื ข่าย ทเี่ กยี่ วข้อง โดยมขี ัน้ ตอนทสี่ าคญั ได้แก่ (P) การวางแผนการจัดโครงการโดยการประชุม เขียนโครงการเพ่ือขออนุมัติ แต่งตั้งมอบหมาย หน้าท่บี คุ ลากร กศน.อาเภอ จัดซ้อื วัสดแุ ละอุปกรณ์ ประสานงานวทิ ยากรและเครอื ข่ายทเ่ี กีย่ วขอ้ ง (D) จากนั้นได้ดาเนินการตามแผนโดยมีพิธีเปิด นาหลักสูตรมาใช้ในการอบรมให้ความรู้เร่ือง การปลูกอะโวคาโด (C) มีการติดตามและประเมินผลโดยผู้ได้รับคาส่ังประชานิเทศและคณะกรรมการนิเทศภายใน ของ กศน.ตาบลบ้านบึงตามแบบนิเทศของ กศน.อาเภอบ้านคาในด้านการใช้หลักสูตร การจัดการเรียน การสอน การใช้สื่อและแหล่งเรียนรู้ การใช้เครื่องมือวัดผลประเมินผล รายงานผลและทางการพัฒนา โครงการแก่ต้นสังกัด คือ กศน.อาเภอบ้านคาและสานักงาน กศน.จังหวัดราชบุรี โดยวิธีต่างๆ ดังน้ี 1) รายงานผลในวาระการประชุมบุคลากร กศน.อาเภอบ้านคาเก่ียวกับปัญหาอุปสรรคท่ีพบ ซ่ึงได้ร่วมกันหา แนวทางแก้ไขจากการประชุมแต่ละครั้งเพ่ือนามาปรับปรุงการจัดโครงการอ่ืนๆต่อไป 2 ) รายงานต่อ คณะกรรมการสถานศึกษาทราบในวาระการประชุมคณะกรรมการสถานศกึ ษาแต่ละครั้ง และ 3) รายงาน ต่อผู้นาทอ้ งถิ่นและสาธารณะชนทราบหลงั เสร็จสิ้นการปฏบิ ัติงานประจาปี (A) เมื่อรายงานผลเสร็จได้นาข้อมูลย้อนกลับมาพฒั นาด้านหลกั สตู ร การจัดกิจกรรม สอื่ และวิทยากร ใน การจัดโครงการ/กจิ กรรมครง้ั ต่อไป ซ่ึงผลทไ่ี ดจ้ ากการดาเนนิ โครงการสรปุ ไดด้ ังน้ี 1. ในเชงิ ปรมิ าณ มผี ู้เขา้ ร่วมโครงการจานวน ๒๐ คน สาเรจ็ หลักสตู ร ๒๐ คน คดิ เป็นร้อยละ 100 2. ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถความสามารถไปใช้ในการปฏิบัติงาน หรือพัฒนางานให้มีประสิทธิภาพ มากขึ้น และสามารถนาความรู้หรือทักษะจากการเรียนรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวัน จานวน ๒๐ คน โดยเป็น คิดเป็นร้อยละ 100 3. ผลการประเมินความพึงพอใจโดยภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก คิดเป็นร้อยละ 96.00

รำยงำนผลโครงกำรเรียนร้ตู ำมหลกั ปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพียงเพ่ือกำรพง่ึ พำตนเองให้สขุ ภำพดเี สรมิ ภูมิคุ้มกนั ตำ้ นโควดิ 19 กศน.อำเภอบ้ำนคำ วชิ ำกำรปลูกอะโวคำโดเพื่อสุขภำพดี ในวนั ที่ 22 ธันวำคม พ.ศ.2564 เวลำ 09.00 – 16.00 น. ณ ศำลำประชำคม หมทู่ ี่ 1 ตำบลบำ้ นบึง อำเภอบำ้ นคำ จังหวดั รำชบุรี

รำยงำนผลโครงกำรเรียนร้ตู ำมหลกั ปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพียงเพ่ือกำรพง่ึ พำตนเองให้สขุ ภำพดเี สรมิ ภูมิคุ้มกนั ตำ้ นโควดิ 19 กศน.อำเภอบ้ำนคำ วชิ ำกำรปลูกอะโวคำโดเพื่อสุขภำพดี ในวนั ที่ 22 ธันวำคม พ.ศ.2564 เวลำ 09.00 – 16.00 น. ณ ศำลำประชำคม หมทู่ ี่ 1 ตำบลบำ้ นบึง อำเภอบำ้ นคำ จังหวดั รำชบุรี

รำยงำนผลโครงกำรเรียนร้ตู ำมหลกั ปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพียงเพ่ือกำรพง่ึ พำตนเองให้สขุ ภำพดเี สรมิ ภูมิคุ้มกนั ตำ้ นโควดิ 19 กศน.อำเภอบ้ำนคำ วชิ ำกำรปลูกอะโวคำโดเพื่อสุขภำพดี ในวนั ที่ 22 ธันวำคม พ.ศ.2564 เวลำ 09.00 – 16.00 น. ณ ศำลำประชำคม หมทู่ ี่ 1 ตำบลบำ้ นบึง อำเภอบำ้ นคำ จังหวดั รำชบุรี

ส่วนที่ 3 แนวทำงพฒั นำเศรษฐกิจชุมชนกับกำรพัฒนำยงั่ ยืน เศรษฐกิจชุมชนกับกำรพัฒนำยง่ั ยืน เศรษฐกิจชุมชน คอื การดาเนินกจิ กรรมทางเศรษฐกจิ ต่างๆ ท้ังด้านเกษตรกรรม อุตสาหกรรม บรกิ ารทัง้ ในด้านการผลติ การบริโภค และการกระจายผลผลติ โดยใหค้ นในชุมชนมีสว่ นร่วมในการ แกป้ ัญหาพ้ืนฐานทางเศรษฐกิจของชุมชน คือ ใหม้ สี ่วนรว่ มคดิ ร่วมคดิ รว่ มทา ร่วมรับประโยชน์ บน รากฐานของความสามารถท่ีมีอยู่ จากการใช้ “ทุนของชมุ ชน” สมาชกิ ในชุมชนจะเป็นผตู้ ดั สนิ ว่า พวกเราจะผลิตอะไรได้บ้างตามศักยภาพและทนุ ประเภท ต่างๆ ที่มีอยูเ่ ราจะผลิตกันอย่างไร โดยที่ชมุ ชนสามารถ คดิ เอง ทำเอง ได้เอง การพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนควรมีเป้าหมายสาคญั ท่ี 1. การพัฒนาขีดความสามารถของคน ครอบครวั และชมุ ชน 2. การพฒั นาเศรษฐกจิ และสังคม การมงุ่ พัฒนาเศรษฐกจิ ชุมชนมจี ุดแข็งท่ีเอื้ออานวยตอ่ การพฒั นา ก็คือ 1. คนในท้องถนิ่ ในชุมชนเดียวกันมจี ติ สานกึ ร่วมกัน 2. การมคี วามเอ้ืออารี 3. การมีปฏิสมั พันธร์ ะหวา่ งกนั 4. เป็นการพฒั นาที่เร่มิ จากการกาหนดพืน้ ท่ี - แนวปฏบิ ตั ิในกำรพฒั นำเศรษฐกิจชุมชน แนวทางในการพัฒนาชมุ ชนสามารถปฏบิ ตั ิในการพฒั นาเศรษฐกิจชุมชนได้ ดงั น้ี 1. สร้างเวทีการเรียนรูใ้ หเ้ กิดขึ้นกอ่ น 2. วิเคราะห์ศกั ยภาพในขีดความสามารถของท้องถิน่ 3. วางแผนพัฒนาตามแนวทาง 4. สง่ เสรมิ การรวมกลมุ่ ในลักษณะต่างๆ 5.พัฒนาเทคโนโลยีในความร้เู กี่ยวกบั วธิ ีการผลิต 6. พฒั นาระบบตลาด 7.พฒั นากจิ กรรมเก่ยี วกับการศกึ ษา 8. สร้างศูนยก์ ารเรียนรเู้ ศรษฐกิจชุมชน 9. สรา้ งหลักสูตรฝกึ อบรมการพฒั นาเศรษฐกิจชมุ ชน 10. พัฒนาระบบข้อมลู ขา่ วสาร 11. เผยแพร่ข้อมลู ข่าวสารการพฒั นาเศรษฐกจิ ชุมชนออกส่สู งั คมภายนอก - กำรพฒั นำเศรษฐกิจชุมชนด้วยแนวพระรำชดำริ “ระเบิดจำกขำ้ งใน”

เป็นหลกั ในการพัฒนาคน ที่ต้องเริ่มจากการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนใหม้ ีสภาพพร้อมท่ีจะรบั การ พัฒนาก่อนแล้วจงึ ค่อยออกมาส่สู ังคมภายนอก หลกั การพฒั นาทแ่ี ทจ้ รงิ การพัฒนาท่ีแทต้ ้องเร่ิมจาก ระดบั ฐาน ระดับย่อยท่สี ดุ หรือ “ขา้ งใน” กระบวนกำรเริ่มตน้ หรือกำรกอ่ รูปขององค์กรชุมชนเพอ่ื จัดทำข้อมลู ชุมชนของชมุ ชน ผู้นาชมุ ชนถือได้ว่าปน็ สว่ นสาคัญตอ่ การชักชวนสร้างความเขา้ ใจกับชาวบา้ นเก่ียวกบั การทา ขอ้ มูลชุมชน กระบวนการลงพ้ืนที่เพือ่ จัดทาข้อมลู ระดับชุมชนแบบมสี ่วนร่วมของชุมชน ได้มกี าร ดาเนินงานหลงั จากทีผ่ ูน้ าชุมชนได้ประสานความเข้าใจและทาประชาคมร่วมกับชาวบา้ น การจัดเก็บข้อมลู ของกล่มุ องคก์ รในชุมชน เชน่ ประเภทของกลุ่ม กจิ กรรม สถานะทางการเงิน และหนว่ ยงานที่ให้การสนับสนนุ ควำมสำเรจ็ จำกกำรจัดทำขอ้ มลู ชุมชนเพ่อื กำรพัฒนำชมุ ชน 1. สามารถใช้ภูมิปญั ญาท้องถิ่น 2. เร่อื งทนุ ทางสังคม 3. การจดั ทาฐานข้อมลู ทาให้ชมุ ชนไดร้ บั รู้ความเคล่ือนไหวต่างๆ 4. การไดม้ ีโอกาสใช้นวตั กรรมใหมๆ่ 5. ปัจจบุ นั มีสอ่ื หรือภาพประกอบต่างๆ กำรนำขอ้ มลู ไปพัฒนำหมู่บ้ำน 1. ชุมชนมีกองทุนในหม่บู า้ น 2. ขอ้ มูลดา้ นภูมิปัญญาทอ้ งถิ่น 3. ข้อมูลดา้ นวถิ ีชวี ติ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook