Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore มอดุลที่ 1 เรื่องสื่อในการส่งเสริมการเกษตร

มอดุลที่ 1 เรื่องสื่อในการส่งเสริมการเกษตร

Published by อรนุช อยู่ยอด, 2021-02-24 02:24:49

Description: มอดุลที่ 1 เรื่องสื่อในการส่งเสริมการเกษตร

Search

Read the Text Version

บทเรยี นโมดลู สือ่ โสตทศั นเ์ พื่องานส่งเสริมการเกษตร ชอื่ วิชาหลักการสง่ เสริมการเกษตร ผ้จู ัดทา นางอรนุช อยยู่ อด แผนกวชิ าพืชศาสตร์ วทิ ยาลยั เกษตรและเทคโนโลยีกาแพงเพชร

คานา บทเรียนไมดูลชุดท่ี 1 เรื่อง ส่ือโสตทัศน์เพ่ืองานส่งเสริมการเกษตรฉบับน้ี ข้าพเจ้าเรียบเรียงข้ึน เพ่ือใช้ประกอบการเรียนวิชาหลักการเกษตร รหัสวิชา 3501-2008 นักศึกษาสามารถศึกษาได้ด้วย ตนเอง เพอ่ื ให้มคี วามรพู้ นื้ ฐาน บทเรียนโมดูลชุดน้ีมีจุดประสงค์เพ่ือให้นักศึกษาได้ศึกษาเก่ียวกับคุณค่าของส่ือ การวางแผน การใช้สื่อ ส่ือในการส่งเสริมการเกษตร ภายในบทรียนไมดูลเล่มนี้ประกอบด้วย คาแนะนาการใช้ บทเรียนโมดูล จุดประสงค์การเรียนรู้ แบบทดสอบภาคความรู้ก่อนเรืยน เน้ือหา ใบกิจกรรม แบบทดสอบภาคความรู้หลังเรียน รวมท้ังเฉลยใบกิจกรรมและแบบทดสอบ บทเรียนโมดูลนี้นักศึกษา สามารถศึกษาคันควา้ ดว้ยตนเองและเรียนรูก้ ันเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทเรียนไมดูลชุดน้ีจะช่วยให้นักศึกษาได้รับความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกบั เรอื่ ง ส่ือโสตทศั นเ์ พือ่ งานส่งเสรมิ การเกษตรมากย่ิงข้ึนและส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของ นักศึกษาสูงข้ึน โปรดแจ้งให้ข้าพเจ้าทราบด้วยจะขอบพระคุณปืนอย่างย่ิง ข้าพเจ้ายินดีรับฟังความ คิดเห็นและข้อเสนอแนะจากท่าน และพร้อมที่จะนามาแก้ไขปรับปรุงบทเรียนโมดูลเล่มน้ีให้มีความ สมบูรณ์และถูกต้อง อรนุช อยู่ยอด 23 ก.พ. 2564 5

สารบญั คานา.................. ...................................................... สารบญั ...................................................................... คาแนะนาการใชบ้ ทเรยี น โม.ล................................ ขัน้ ตอนในการใช้บทเรียน โ มค................................................ หลักการและเหตผุ ล....... จุดประสงค์การเรียนรู้........................................................... การประเมินผลหลังเรียน...................................................... การสอนช่อมเส....................................................... ขอบข่ายเนอ้ื หา........................................................ สาระสาคญั ................................................................................ แบบทดสอบภาคกวามรู้กอ่ นเรยี ...................................................... ใบความรู้.............. ....................................................................... 1คณุ ค่าของสอ่ื ............................................................... 2. การวางแผนการใช้สื่อ.................... 3 ส่ือในการสง่ เสรมิ การเกษตร งานที่ต้องปฏบิ ัติ.. - ใบกิงกรรมที่ 1 เร่อื ง..คุณค่าของส่ือ - ใบกงิ กรรมที่ 2 เรื่อง..การวางแผนการใชส้ ่ือ - ใบกงิ กรรมท่ี 3 เร่ือง สื่อในการส่งเสริมการเกษตร แบบทดสอบภาคความรหู้ ลังเรยี น เฉลยแบบทดสอบภาคความรู้กอ่ นเรยี น. แนวทางการตอบไบกิจกรรม. - ใบกิจกรรมท่ี 1 เรอ่ื ง..คณุ ค่าของส่ือ - ใบกจิ กรรมท่ี 2 เรอื่ ง..การวางแผนการใชส้ อ่ื - ใบกจิ กรรมท่ี 3 เรอ่ื ง..สือ่ ในการสง่ เสริมการเกษตร 15 22 6

เฉลยแบบทดสอบภาคความรู้หลังเรยี น.... แนวทางการในการ วัดผล และประเมินผลการจคั กจิ กรรมการเรียนร้.ู . แบบประเมนิ การจัดการเรียนร.ู้ . เกณฑ์การประเมนิ .. บรรณานุกรม.. 7

คาชี้แจงในการใช้โมดูลสาหรบั นักเรยี น สาหรับนักเรียน การใชบ้ ทเรียนโมดูลให้เกดิ ประสทิ ธภิ าพตอ่ การจดั กิจกรรมการเรยี นการสอนไดอ้ ยา่ งสงู สุด นกั เรียน ควรปฏบิ ัติ ดังน้ี 1. การเตรยี มตัวของนักเรยี น 1.1 ศกึ ษาบทเรยี นโมดลู ลว่ งหน้ากอ่ นที่จะทาการทดลอง หรอื ปฏบิ ัติกิจกรรมต่าง ๆ เพ่ือใหม้ ีความรู้ ความเขา้ ใจเก่ยี วกบั จุดประสงค์ ขอ้ ควรปฏิบัติ การใช้วัสดุอปุ กรณ์ และสามารถทาการทดลองได้อยา่ ง ถูกวธิ ี ประหยดั เวลา และมคี วามปลอดภัย 1.2 วางแผน และจตั เตรียมอุปกรณท์ ่ีใชป้ ระกอบการเรียนร้ขู องตนเองหรอื ของกลุ่มให้พรอ้ มสาหรบั การปฏิบัติกิกรรมตามทไ่ี ด้รับมอบหมาข 2. ดาเนินการจดั กจิ กรรมในแตล่ ะครัง้ นักรยี นควรปฏิบัติ คงั น้ี 2.1 ตึกษาแนวทางในการปฏบิ ตั กิ ากรรมใหม้ คี วามขใ้ จอย่างถอ่ งแท้ หากพบปัญหาหรอื ไมช่ ใ้ จให้ สอบถามข้อมูลพมิ เตมิ จากครู 22 ปฏิบตั ิกกิ รรมคาง ๆ ตามลาดบั ขั้นตอนทกี่ าหนด คงั น้ี 22.1 นักเรียนทาแบบทดสอบภาคความร้กู ่อนเรียน 2.2.2 นกั เรียนศกึ ษาและปฏบิ ตั กิ ิจกรรมต่าง ๆ ตามแนวทางการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ตามลาดับ ขั้นตอนท่ีกาหนค 223 นักเรยี นส่งผลงานหรอื ช้นิ งานในการปฏิบัติกิงกรรม มสี ่วนร่วมในการนาสนอผลงานหรืออภิปราย ความรู้ 224 นักเรียนทาแบบกตสอบภาคความร้หู ลังเรียนการ1ช้บทรียนไมลลู ให้กดิ ประสทิ ธภิ าพตอ่ การงัด 8

กิจกรรมการเรียนการสอนไดอ้ ยา่ งสงู สุด นกั เรยี นควรปฏิบตั ิ ดงั นี้ 1. การเตรยี มตวั ของนักเรยี น 1.1 ศกึ ษาบทรยี นโมลลว่ งหนกอ่ นทจี่ ะทาการทดลอง หรอื ปฏบิ ตั ิกงิ กรรมตง่ ๆ เพื่งให้มคี วามรู้ ความข้ใจเก่ยี วกับจุดประสงคั วัสตุ อปุ กรณ์และสารคพี วธิ ีทดถอง ข้อควรปฏบิ ตั ิใน การทดลอง ทคนกิ ารใช้วสั คุ อุปกรณ์ และเครื่องมือวิทยาศาสตร์ค่าง ๆ และสามารถทาการทดลองได้ ยา่ งถกู วธิ ี ประหยัดวลา และมีความปลอดภยั 1.2 วางแผน และจัตตรียมอปุ กรณ์ท่ี1ชป้ ระกอบการเรยี นรูข้ องตนเอง หรอื ของกลมุ่ ให้พร้อมสาหรับการปฏิบัตกิ กิ รรมตามทีไ่ ดร้ ับมอบหมาข 2. ดาเนนิ การจัดกจิ กรรมในแต่ละครงั้ นักรยี นควรปฏบิ ตั ิ คังน้ี 2.1 ตึกษาแนวทางในการปฏิบัติกิจกรรมใหม้ ีความเขา้ ใจอย่างถอ่ งแท้ หากพบปัญหาหรือไม่เชา้ ใจให้ สอบถามข้อมลู เพม่ิ เตมิ จากครู 22 ปฏิบตั ิกิจกรรมตา่ ง ๆ ตามลาดับขน้ั ตอนทีก่ าหนด ดังน้ี 22.1 นกั เรียนทาแบบทดสอบภาคความรูก้ ่อนเรยี น 2.2.2 นักเรยี นศึกษาและปฏบิ ตั กิ ิจกรรมต่าง ๆ ตามแนวทางการจัดกจิ กรรมการเรยี นรตู้ ามลาดับ ข้นั ตอนทกี่ าหนด 223 นักเรยี นส่งผลงานหรือชนิ้ งานในการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม มสี ่วนรว่ มในการนาเสนอผลงานหรือ อภิปรายความรู้ 224 นกั เรยี นทาแบบทตสอบภาคความรหู้ ลงั เรยี น 9

ข้ันตอนในการใชบ้ ทเรยี นโมดูล 1.ครูแนะนานกั เรยี นเก่ียวกบั องค์ประกอบของบทเรยี นไมคูล ชุดที่ 1 เร่ือง บรรยากาศรอบตวั 2. นักเรยี นศึกษา และตรวสอบองคป์ ระกอบของบทรยี นโมลล ชตุ ที่ ! วา่ ครบถว้ น หรอื ไม่ 3. นักเรียนศึกษา และปฏิบัตกิ ิงกรรม ตามลาดบั ดังนี้ 3.1 นักเรยี นทาแบบทดสอบภาคความร้กู อ่ นเรยี น 3.2 นักเรียนศึกษาและกันควจ้ ากใบความรู้ ดังนี้ - ความหมายและ สว่ นประกอบของบรรยากาศ - ความสาคัญของบรรยากาศ 33 นักเรียนปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตามใบกิง่ กรรม ดังนี้ - ใบกิจกรรมท่ี 1 - ใบกิจกรรมท่ี 2 - ใบกิจกรรมที่ 3 4. ในระหวา่ การปฏิบัตกิ งิ กรรมในใบกิกรรมที่ 1-3 ถ้หากนกั รียน มีข้อสงสยั สมารถชักถามพือ่ ใหส้ มารถปฏบิ ัติไดถ้ ูกคอ้ งได้ s. เมปื่ ฏบิ ัติกกิ รรมในแต่ละช่โั มง ดและนกั เรียนรว่ มกนั อภิปรายความรู้ และเฉลย คาตอบของการปฏบิ ัติกงิ กรรม 6. นกั เรียนร่วมกนั ชักถาม และอภปิ รายความรูเ้ กี่ยวกับบรรยากาศรอบตัว 7. นักเรยี นทาแบบทดสอบภาคความรู้หลังเรยี น 10

จุดประสงค์การเรียนรู้ ด้านความรู้ 1 บอกคณุ ค่าของการใช้สื่อได้ 2 อธิบายการวางแผนการใชส้ ื่อในการสง่ เสรมิ การเกษตรได้ 3 อธิบายสื่อในการส่งเสริมการเกษตรได้ ดา้ นทกั ษะ 1 สามารถใชก้ ระบวนการกลมุ่ ในการสบื คน้ หาความรูเ้ กย่ี วกบั สอ่ื ได้ 2 สามารถผลิตส่อื ในการส่งเสรมิ การเกษตรได้ ด้านคุณลักษณะท่ีพงึ ประสงค์ 1 มคี วามรบั ผดิ ชอบ การประเมนิ ผล นักเรียนผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ผลผ่านเกณฑ์ร้อยละ 75 สามารถเรียนบทเรยี นโมดลู ตอ่ ไปได้แตถ่ ้าไม่ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ร้อยละ 75 นักเรยี นตอ้ งเรียนซอ่ มเสรมิ การเรียนซ่อมเสริม ถ้านักเรยี นไม่ผา่ นเกณฑ์ท่ีระบุไว้ ใหน้ กั เรียนได้ศึกษาตามจุดประสงค์ที่ไม่ผา่ น แลว้ ทาแบบทดสอบ ภาคความรูห้ ลังเรียนใหผ้ ่านเกณฑ์ทีก่ าหนดไว้ การเรียนซ่อมเสรมิ ใหน้ ักเรียนปฏิบัติ ดงั นี้ 1. ใชเ้ วลามากกวา่ เดมิ 2. ให้เพื่อนชว่ ยเหลอื 3. ครอู ธิบายเพ่ิมเติม ขอบข่ายเนื้อหา 1.คณุ คา่ ของสอ่ื 2.การวางแผนการใชส้ ่อื 3.สื่อในการส่งเสริมการเกษตร 11

สาระสาคญั การเรยี นรู้จะเกดิ ขนึ้ ไดด้ หี ากผูเ้ รยี นได้เรยี นรู้โดยผา่ นประสาทสมั ผสั หลายๆ ทางการใช้สือ่ ตา่ งๆ ในการสอนเปน็ วธิ กี ารท่ี ดที ีจ่ ะช่วยเพ่ิมประสิทธภิ าพในการเรียนรู้ได้เป็นอยา่ งมาก การใช้สื่อประกอบการส่งเสริมหรือการสอนต้องมีการวางแผนอย่างเปน็ ระบบท้ังนเ้ี พอื่ เกิดความมนั่ ใจ สอ่ื ที่ใชใ้ นการส่งเสริมการเกษตรมีอยู่หลายชนดิ ท่ีผู้สอนหรือผู้สง่ เสริมสามารถจะผลติ ข้ึนใช้เองตามจุดประสงค์ ประสทิ ธภิ าพของสือ่ ท่ผี ลติ นั้นจะมีมากหรอื น้อย ข้ึนอยู่กบั การวางแผนในการผลิตสือ่ สารวจความรู้เดิมทม่ี ีอย่เู ดิม โดยการทาแบบทดสอบภาคความรู้ กอ่ นเรยี นน่ะค่ะ 12

แบบทดสอบก่อนเรียน คาช้แี จง ให้เลอื กคาตอบท่ีถูกทสี่ ดุ เพยี งขอ้ เดยี ว 1. ส่ือการสอนทดี่ ีจะเพม่ิ ประสทิ ธิภาพในการเรยี นรู้ไดเ้ ป็นอยา่ งมาก ข้อไหนไม่ถือว่าเป็นคณุ สมบตั ิของสอ่ื การสอนท่ีดี ก. ทาให้ผเู้ รยี นจดจาได้นาน ข. ชว่ ยให้เกดิ การเรียนรเู้ รว็ ขนึ้ ค. ทนั สมยั ราคาแพง ง. เสรมิ สรา้ งทศั นคตทิ ด่ี แี ก่ผู้เรยี น 2. องค์การสหประชาชาติได้แบง่ ประเภทของส่ืออกเป็นก่ีประเภท ก. 2 ประเภท ไดแ้ ก่ สื่อทางตรง และส่ือทางอ้อม ข. 2 ประเภท ได้แก่ สอ่ื วัสดุ และส่อื เคร่ืองมือ ค. 3 ประเภท ไดแ้ ก่ สอ่ื ทใี่ ชเ้ คร่ืองฉายประกอบ ส่อื ทไี่ ม่ใชเ้ ครื่องฉายประกอบ และส่ือประเภทเคร่อื งเสียง ง. 3 ประเภท ไดแ้ ก่ ส่ือทางตา สอื่ ทางหู และสื่อทางสมั ผัส 3. ขอ้ ไหน คอื ขน้ั ตอนแรกของการวางแผนการใชส้ อ่ื อย่างมรี ะบบ ก. ขนั้ วิเคราะห์ลกั ษณะของบุคคลเป้าหมาย ข. ขน้ กาหนดวัตถุประสงค์ ค. ข้นั คดั เลือกปรับปรุง ดัดแปลง หรอื ออกแบบส่ือ ง. ขน้ั ตอ้ งการตอบสนองของบุคคลเป้าหมาย 4. การสอนใหผ้ ้เู รียนรจู้ กั ชนดิ ของใบไมผ้ ูส้ อนควรเลอื กใชส้ ื่อชนิดไหน ก. คาอธิบายประกอบภาพ ข. แผ่นโปรง่ ใส เรื่องชนดิ ของใบไม้ ค. ภาพยนตรส์ ารคดเี ร่ืองชนดิ ของใบไม้ ง. ของจริงประกอบคาบรรยาย 5. ข้อไหน คอื ชนดิ ของส่ือการเรียนการสอนที่มีประสิทธภิ าพ ใช้แทนของจรงิ ซ่ึงไม่สามารถนามาใช้ในการเรียนการสอน ได้ ก. โปสเตอร์ ข. หนุ่ ค. รปู ภาพ ง. คาอธบิ ายพร้อมเอกสารประกอบ 13

6. ขอ้ ไหน คือ แผนภูมิทนี่ ิยมใชเ้ พ่ือแสดงความสมั พันธ์ระหวา่ งเวลาและเหตุการณ์ ก. แผนภมู ิแบบสายธาร ข. แผนภมู แิ บบต้นไม้ ค. แผนภูมแิ บบพฒั นาการ ง. แผนภูมแิ บบตาราง 7. ขอ้ ไหน คอื แผนภมู ิที่นิยมใชเ้ พื่อแสดงให้เหน็ การเปลยี่ นแปลงของสิ่งต่างๆ เป็นลาดับตดิ ต่อกนั ในชว่ งระยะใดระยะ หน่งึ ก. แผนภูมิแบบสายธาร ข. แผนภมู ิแบบต้นไม้ ค. แผนภูมแิ บบพัฒนาการ ง. แผนภมู แิ บบตาราง 8. ขอ้ ไหน ของแผนภูมิทีน่ ิยมใช้เพอ่ื แสดงใหเ้ ห็นวา่ ส่งิ หน่ึงเกดิ จากหลายสิง่ รวมกนั ก. แผนภมู แิ บบสายธาร ข. แผนภมู ิแบบต้นไม้ ค. แผนภมู ิแบบพฒั นาการ ง. แผนภูมแิ บบตาราง 9. ขอ้ ไหน คือ แผนภูมิทนี่ ิยมใชเ้ พอ่ื แสดงใหเ้ ห็นวา่ สง่ิ หนึ่งแยกเป็นหลายสิ่ง และสิง่ ที่แยกออกไปน้นั เปน็ องคป์ ระกอบ ก. แผนภมู ิแบบสายธาร ข. แผนภูมิแบบต้นไม้ ค. แผนภูมแิ บบพฒั นาการ ง. แผนภมู แิ บบตาราง 10. “ภาพงา่ ยๆ ที่เขียนข้ึนใช้แสดงลักษณะ เด่นของสงิ่ ที่องการแสดง ชว่ ยให้ผ้ดู เู ข้าใจและสนใจส่งิ ท่ตี ้องการอธิบายไดด้ ี ยิ่งขึน้ ” สือ่ ชนดิ นี้ คือ สอื่ ประเภทใด ? ก. ห่นุ ข. การ์ตนู ค. โปสเตอร์ ง. แผนภูมิ 14

เฉลย 15

ใบความรู้ ในกระบวนการส่งเสริมการเกษตร หรือกระบวนการถ่ายทอดนวัตกรรมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาน้ันจะต้อง เข้าใจประเดน็ สาคัญๆ มากมายโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรือ่ งของการใช้สื่อ นบั วา่ เปน็ หวั ใจสาคัญตอ่ การถ่ายทอดเป็นอย่างมาก 5.1 คณุ คา่ ของการใช้สอื่ การเรยี นร้จู ะเกิดขน้ึ ไดด้ ีหากผู้เรียนไดเ้ รียนรโู้ ดยผา่ นประสาทสมั ผัสหลายๆ ทางการใช้ส่ือต่างๆ ในการสอนเป็นวิธีการที่ ดีท่ีจะช่วยเพ่ิมประสิทธิภาพในการเรียนรู้ได้เป็นอย่างมากดังที่ บุญสม วราเอกศิริ (2529:223) ได้กล่าวถึงคุณค่าของการใช้สื่อ หรืออุปกรณ์ชว่ ยสอน คอื โสต ทศั นูปกรณ์ ไว้ดงั นี้ 1. ช่วยใหเ้ กิดการเรียนรู้เรว็ ข้ึนประหยดั เวลาเรียนและสอน 2. สร้างความสนใจให้กบั ผเู้ รียนมากขน้ึ ไมเ่ บื่อหน่าย 3. ทาให้ผู้เรยี นจดจาไดน้ าน 4. ผเู้ รียนเขา้ ใจในเนื้อหาทีเ่ รยี นไดเ้ ร็ว ถงึ แม้จะมคี วามสามารถตา่ งกนั 5. ช่วยย่นยอ่ หรือลดข้นั ตอนในเรอื่ งระยะเวลา กระบวนการ ระยะทาง ขนาดได้ เชน่ กระบวนการงอกงามของเมล็ด พชื โดยใช้ภาพยนตร์ วีดที ศั น์ สไลด์ เปน็ ต้น 6. ประหยัดค่าใชจ้ า่ ย ในกรณที ีจ่ ะให้ผู้เรยี นเห็นสภาพของจริงจากการทัศนศึกษาก็นาเอาของจริงมาสูส่ ายตาผ้เู รียนจะ ช่วยประหยัดได้มากขึน้ 7. ช่วยกระตุ้นให้ผเู้ รยี นเกดิ ความคิดสรา้ งสรรค์เกดิ ความคิดใหม่ๆ และนาไปดดั แปลงใช้กับเรื่องอน่ื ๆได้ 8. เสรมิ สรา้ งทศั นคตทิ ด่ี ีแกผ่ ู้เรยี น 9. นักสง่ เสรมิ สามารถผลติ และจัดหาได้อย่างกวา้ งขวาง และมีราคาถูกแตไ่ ด้ผลมหาศาล 5.2 ประเภทของสื่อทางการสง่ เสรมิ การเกษตร การใช้สอ่ื ในการสอนทางการส่งเสริมแบง่ เป็น 2 ประเภทคือ (บุญสม วราเอกศิริ.2529 : 224) 16

1. ประเภทวัสดุ (Materials or Software) ได้แก่ สื่อที่ทาหน้าท่ีเก็บความรู้ในลักษณะของภาพ เสียงและอักษรใน รูปแบบต่างๆ ที่ผู้เรียนสามารถใช้เป็นแหล่งหาแระสบการณ์หรือศึกษาได้อย่างแท้จริง และกว้างขวาง แบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ 1.1 วัสดุที่เสนอความรู้ได้จากตัวมันเอง ได้แก่ หนังสือ ตารา ของจริง หุ่นจาลอง รูปภาพ แผนภูมิ แผนสถิติ แผนที่ ป้ายนิเทศเปน็ ตน้ 1.2 วัสดุที่ต้องอาศัยสื่อประเภทเคร่ืองกลไก เป็นตัวนาเสนอความรู้ ได้แก่ ฟิล์มสไลด์ เส้นเทปบันทึกเสียง เทปวีดี ทัศน์ รายการวิทยุและโทรทัศน์ เป็นตน้ 2. ประเภทเคร่ืองมือ เป็นตัวกลาง หรือทางผ่านของความรู้ที่จะถ่ายทอดหากไม่มีวัสดุในประเภทแรกมาป้อนผ่าน เคร่ืองมือหรือกลไกน้ีเคร่ืองมือเหล่าน้ีก็ไร้ประโยชน์ ได้แก่ เคร่ืองฉายภาพยนตร์ เคร่ืองฉายสไลด์ เครื่องฉายวิดีโอ เปน็ ต้น นอกจากน้ี สานักงานฝึกอบรมและวางแผนพัฒนาสื่อสารแห่งองค์การสหประชาชาติ ยังได้แบ่งประเภทของ โสตทศั นปู กรณ์ ออกเป็น 3 ประเภทใหญๆ่ คอื (พงษศ์ กั ดิ์ องั กสทิ ธ.์ิ 2527:96) 1. อุปกรณ์สื่อความหมายประเภทที่ไม่ต้องใช้เคร่ืองฉายประกอบ เครื่องมือดังกล่าวนี้ ได้แก่ หนังสือ ส่ิงพิมพ์ทั้งหลาย โปสเตอร์ หนุ่ จาลอง และแผน่ ภาพ เปน็ ตน้ 2. อปุ กรณ์สื่อความหมายประเภทท่ีต้องใชเ้ คร่ืองฉายประกอบ ซึ่งแบง่ ออกได้เป็น 2 ชนดิ คือ 2.1 ชนดิ ทไ่ี ม่มกี ารเคลอื่ นไหว หรอื ภาพน่ิง ซ่ึงไดแ้ ก่ เครื่องฉายสไลด์ เคร่ืองฉายข้ามศรี ษะ เปน็ ต้น 2.2 ชนิดทีม่ ีการเคล่อื นไหว ได้แก่ ฟลิ ์ม และเครื่องฉายภาพยนตร์ โทรทศั น์วงจรปดิ และวงจรเปดิ เทปบนั ทึกภาพ 3. อุปกรณ์ส่ือความหมายประเภทท่ีใช้เครื่องเสียงอย่างเดียว เครื่องมือดังกล่าวนี้ได้แก่ วิทยุกระจายเสียง และการ บันทกึ เสียงทกุ ชนดิ 5.3 การวางแผนการใชส้ ่ืออย่างเป็นระบบ การใชส้ ่อื ประกอบการสง่ เสรมิ หรือการสอนต้องมกี ารวางแผนอยา่ งเป็นระบบท้ังนเ้ี พอ่ื เกิดความมั่นใจว่า การใช้เครื่องมือ ในการสอนจะเป็นไปอย่างมปี ระสิทธิภาพจะมีขั้นตอนต่างๆดังนี้ (วิทยา ดารงเกียรติศักด์.ิ 2537 : 87-93) 1. ข้ันวิเคราะห์ลักษณะของบุคคลเป้าหมาย การเลือกใช้สื่อสอนอย่างมีประสิทธิภาพนั้นต้องให้สอดคล้องกับ ลกั ษณะเนอ้ื หา ลักษณะของผ้เู รยี น โดยเฉพาะดา้ นพื้นความรูแ้ ละวิธีการสอน 2. ข้ันกาหนดวัตถุประสงค์ การกาหนดวัตถุประสงค์เพื่อให้เกษตรกรสามารถเลือกส่ือวิธีการสอนและอุปกรณ์ได้ ถูกตอ้ ง เช่นถา้ กาหนดวัตถุประสงคว์ า่ เพ่ือให้เกษตรกรสามารถทาบกง่ิ มะม่วงได้ภายใน 10 นาที อุปกรณ์ที่จะต้องเตรียมก็คือ ต้น มะม่วง มีด เทปพลาสตกิ ฯลฯ แตถ่ ้าวัตถุประสงค์นัน้ เปน็ เพ่ือให้ผเู้ รยี นสามารถระบุอุปกรณ์ท่ีใช้ในการทาบกิ่งมะม่วง อุปกรณ์ อาจจะเปน็ เอกสารสง่ิ ตพี ิมพ์ ภาพสไลด์ โดยไม่จาเปน็ ต้องมขี องจริงกไ็ ด้ 3. ข้ันคัดเลือก ปรับปรุงดัดแปลง หรือออกแบบวัสดุอุปกรณ์ ท้ังน้ีเพื่อให้ได้สื่อท่ีเหมาะสาหรับกลุ่มเป้าหมาย สอดคลอ้ งกบั วัตถุประสงคข์ องการสสอน และวธิ ีการสอนนั่นเอง 4. ข้ันใชว้ สั ดอุ ุปกรณ์ เปน็ ขั้นของการนาเสนอขอ้ มลู เนื้อหา โดยใช้ส่อื ต่างๆ ทไ่ี ดเ้ ตรียมมา 5.ขั้นตอนการตอบสนองของบุคคลเปา้ หมายหรือผูเ้ รียน เปน็ การกระตนุ้ ให้ผู้เรยี นตอบสนองตอ่ การสอน 6.ข้นั ประเมนิ ผล จะช่วยทาให้รจู้ ุดเดน่ จดุ ด้อยของสื่อทใ่ี ช้เพอื่ การปรับปรงุ สอื่ ใหม้ ีประสิทธิภาพยิง่ ข้นึ สาหรบั งานสง่ เสรมิ การเลือกใชส้ อื่ ควรไดม้ ีการพิจารณาส่ิงตา่ งๆ ดงั น้ี (วิจติ ร อาวะกลุ .อ้างอิงใน บุญสม วรา เอกศริ ิ.2529 : 226-227) 1.ควรเป็นสอื่ ทีช่ ่วยถ่ายทอดความรไู้ ด้ดีอย่างเหน็ ได้ชดั เจน ดึงดูดความสนใจ 17

2.เป็นส่ิงท่หี าไดง้ ่าย มีอยูแ่ ลว้ สามารถทาได้เองอยา่ งประหยัด 3.เหมาะสมกับเนอ้ื หาวชิ า 4.สามารถใชไ้ ด้หลายครั้ง 5.ใชง้ ่ายเกบ็ รักษาง่าย น้าหนักเบา เคลื่อนย้ายสะดวก 6.ประหยดั เวลา ค่าใชจ้ า่ ย 5.4 สื่อในการส่งเสริมการเกษตร สื่อท่ีใช้ในการส่งเสริมการเกษตรมีอยู่หลายชนิดที่ผู้สอนหรือผู้ส่งเสริมสามารถจะผลิตขึ้นใช้เองตามจุดประสงค์ ประสิทธิภาพของส่ือที่ผลิตนั้นจะมีมากหรือน้อย ข้ึนอยู่กับการวางแผนในการผลิตสื่อ ซ่ึงมีลาดับขั้นตอนที่จะต้องปฏิบัติดังน้ี (พานิช ทินนมิ ติ . 2527 : 222) 1. สารวจปญั หาวา่ เรือ่ งอะไรท่ีจะเสริมสรา้ งการเรียนรู้ไดด้ ว้ ยสื่อแลว้ ตงั้ ชอื่ เร่อื ง 2. ตงั้ จุดประสงค์ ของการผลิตส่ือเร่อื งนั้น 3. เลอื กกลุ่มเป้าหมายทีจ่ ะใช้สือ่ 4. เรียบเรยี ง และวางเคา้ โครงของเน้ือหา 5. เลอื กชนดิ ของสอ่ื ท่จี ะผลติ 6. ใชส้ ื่อกบั กลุม่ เป้าหมาย 7. ประเมนิ ผลการใช้ส่ือ สื่อในการสง่ เสริมการเกษตร ในทน่ี จ้ี ะกลา่ วเนน้ เฉพาะส่ือประเภทวัสดุเทา่ นนั้ ได้แก่ 1.ของจริงและตัวอย่างของจริง (Real objects and sample ) ของจริง คอื สือ่ การเรียนการสอนทช่ี ว่ ยใหผ้ ู้เรยี นได้รับประสบการณ์โดยตรงดว้ ยตนเองโดยวิธีการตา่ งๆ เช่น การมองเห็น ไดย้ นิ เสยี ง ไดส้ ัมผัส และได้ดมกล่ิน เป็นตน้ 2.ห่นุ จาลอง (Models) หุน่ จาลอง คอื ส่ือการเรยี นการสอนทใ่ี ช้แทนของจริงซึ่งไม่สามารถนามาใช้ในการเรียนการสอนได้ทั้งนี้ เพราะมีสาเหตุหลาย ประการ คอื 3.แผนภมู ิ (Charts) แผนภูมิ คอื ทัศนวสั ดทุ ี่ใชร้ ปู ภาพและสญั ลกั ษณ์ตา่ งๆ เพื่อแสดงความหมายของเรอื่ งราวและแนวคดิ ตา่ งๆ ให้ผเู้ รยี นเข้าใจได้ ชดั เจนยิง่ ขึ้น ชนิดของแผนภมู ิ แบง่ ออกเป็น 1.แผนภูมิแบบต้นไม(้ Tree chart) แผนภูมิ 6 แสดงแผนภมู ิแบบตน้ ไม้ 2.แผนภมู ิแบบ สายธาร (Stream chart) 18

3.แผนภมู ิแบบตาราง (Tabular chart) 4.แผนภมู ิแบบเปรปยี นู บซเทีเมียนบต(C์ omparative chart) 5.แผนภูมิแบบพัฒนาการ(Developmental chart) 7.แผนภมู ิแบบตอ่ เน่ือง (Flow charts) 8.แผนภมู แิ บบอธิบายภาพ (Illustrative chart) 19

9.แผนภูมิ แบบองคก์ าร (Organization chart) 10.แผนภูมแิ บบดงึ (Pull chart) 11.แผนภูมิแบบเปิด (Strip chart) 12.แผนภูมแิ บบพลิก (Flip chart) 5.4.2 แผนสถติ ิ (Graphs) ชนิดของแผนสถติ ิ 1.แผนสถติ ิแบบเส้น (Line graph) 2.แผนสถิตแิ บบแทง่ (Bar graph) 3.แผนสถิตแิ บบพนื้ ท่ี (Area graph) 4.แผนสถิติแบบวงกลม (Pie graph or circle graph) 5.แผนสถิติแบบรูปภาพ (Pictorial graph) 6.แผนสถิตแิ บบรวม (Combination graph) 5.4.3 ภาพโฆษณา (Poster) ภาพโฆษณา เป็นภาพที่ทาขึ้น เพื่อแสดงความคิด เรื่องราว ประกาศ หรือจูงใจให้ผู้ดูกระทาตาม มีลักษณะเป็นกระดาษ หรอื แผน่ ปา้ ยแข็ง ประกอบด้วยภาพง่ายๆและข้อความส้ันๆ แต่ชวนดูและรู้เร่ืองเร็ว เช่น ภาพโฆษณาในการจัดนิทรรศการ การ ประชุมสมั มนา การสาธติ การประกวด แข่งขัน เปน็ ต้น 5.4.4 แผนภาพ (Diagrams) แผนภาพ คือ ทัศนสัญลักษณ์ที่เขียนข้ึนง่ายๆ เพ่ือแสดงโครงสร้าง หรือลักษณะของที่ต้องการแสดงหรืออธิบายใช้เพื่อ ประกอบการอธิบายของผู้สอนเท่านั้น ไม่สามารถบอกเร่ืองราวหรือรายละเอียดให้แก่ผู้เรียนได้ด้วยตัวของมันเองดังนั้นการนา แผนภาพไปใช้ผสู้ อนจะตอ้ งอธิบายให้ผู้เรียนเขา้ ใจอยา่ งชดั เจนวา่ สัญลกั ษณ์ต่างๆ ท่ีใชแ้ ทนน้นั แทนความหมายอะไรบา้ ง 5.4.5 การต์ นู (Cartoon) การ์ตูน คือ ภาพง่ายๆ ที่เขียนขึ้นใช้แสดงลักษณะเด่นของสิ่งที่ต้องการแสดง ช่วยให้ผู้ดูเข้าใจ และสนใจสิ่งที่ต้องการ อธิบายได้ดีย่ิงข้ึน เปน็ เครือ่ งมือในการโน้มนา้ ว ชกั ชวน ใหป้ ฏบิ ัตติ ามไดด้ ี 5.4.6 รปู ภาพ (Pictures ) รูปภาพ คือ ทัศนวัสดุท่ีทาให้ผู้เรียนเข้าใจบทเรียนได้อย่างถูกต้อง และรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งได้แก่ภาพเขียน ภาพถ่าย ภาพ พิมพ์ ซึ่งผู้สอนอาจหาได้จากแหล่งต่างๆ มากมาย เช่น จากวารสาร หนังสือพิมพ์ นิตยสาร ภาพโฆษณา ภาพแทรก ใน หนังสือพิมพ์ ปฏิทิน บัตร ส.ค.ส หรือจากการถ่ายภาพต่างๆ บางภาพจะมีสีสวยสด มีลักษณะเป็นชุดๆ เช่น ภาพดอกไม้ ภาพ สัตว์ เป็นต้น ใน สภาพจริงของการส่งเสริมการเกษตรนั้น ผู้ส่งเสริมอาจมีการเลือกใช้ส่ือที่เป็นโสตทัศนูปกรณ์ต่างๆ เช่น เครื่ องฉาย สไลด์ เครื่องฉายข้ามศีรษะ เครื่องเล่นเทป เครื่องฉายวีดีทัศน์ เป็นต้น ซ่ึงก่อนใช้จะต้องมีการตรวจเช็คและทดลองใช้ก่อน ลว่ งหนา้ จะได้ไม่เกิดปญั หาเวลาใชจ้ ริง สาหรับส่ือที่เป็นวัสดุ เช่น แผนภูมิ รูปภาพ ตัวอย่างของจริง หรือหุ่นจาลองนั้นสื่อชนิดใดเป็นสื่อที่เหมาะสมที่สุด ก็ จะตอ้ งพจิ ารณาจากขนาดของกลุม่ ความรู้พื้นฐานของผู้เข้ารับการอบรม และลักษณะของข้อมูลท่ีต้องการจะถ่ายทอด เช่น หาก ผู้เข้ารบั การอบรมเป็นกลมุ่ ขนาดเลก็ อาจใชต้ ัวอยา่ งของจรงิ ได้ แตถ่ า้ เป็นกลุ่มทม่ี ขี นาดใหญ่ การใช้ภาพที่มีขนาดเหมาะสมจะเป็น การเลือกใช้สื่อท่เี หมาะสมมากกวา่ เปน็ ตน้ 20

อย่างไรกต็ ามการนาเสนอส่ือ นอกจากคานึงถึงขนาดของส่ือแลว้ ความชดั เจน สี ประเภทของตวั อักษ ท่ีใช้และ ระยะเวลาในการนาเสนอสื่อก็เปน็ ปัจจัยที่สง่ ผลตอ่ การเรา้ ความสนใจและการรับรู้ของผเู้ ข้ารับการอบรมไดอ้ ีกดว้ ย พึงระลึกอยู่เสมอวา่ สือ่ ทด่ี ไี มจ่ าเป็นต้องมีราคาแพง หรือมีกลไกท่ีสลับซับซ้อนสือ่ ราคาถูก หรือสอื่ ท่ีผลิตข้ึนเองอาจเปน็ ที่ สนใจของผูเ้ ข้ารบั การอบรมได้ หากผูใ้ ชร้ ู้จักการเลือกใชส้ ื่อทีเ่ หมาะสมกับผู้รบั สรปุ การใช้สื่อต่างๆ ในกระบวนการส่งเสริมการเกษตรจะช่วยทาให้การถ่ายทอดความรู้ ข่าวสาร ข้อมูลเป็นไปอย่างมี ประสทิ ธิภาพ คอื ทาให้ผู้เขา้ รบั การสง่ เสรมิ เข้าใจเนอ้ื หา ไม่เบ่อื หนา่ ย เรียนรู้เนื้อหาไดเ้ รว็ และจดจาได้นาน ประเภทของสื่อทางการส่งเสริมการเกษตร แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ส่ือประเภทวัสดุ ได้แก่ รูปภ าพ แผนภูมิ ตวั อยา่ งของจริงเป็นตน้ และส่ือประเภทเคร่อื งมอื ไดแ้ ก่ เครอื่ งฉายสไลด์ เครือ่ งเล่นเทป เคร่อื งฉายข้ามศรี ษะ เป็นต้น การวางแผนการใช้ส่ือ การเลือกใช้ส่ือต้องให้เหมาะสมกับเน้ือหาวิชา ลักษณะของผู้เรียน มีความดึงดูดความสนใจ ประหยัด สะดวกในการใช้และการเก็บรกั ษา 21

ใบกิจกรรมท่ี 1 คาส่งั ตอนท่ี 1 จงตองคาถามต่อไปนีใ้ หไ้ ด้ความสมบูรณ์และถูกต้อง 1. โสตทัศนอปุ กรณ์ หมายถึง อะไร และบอกคุณคา่ ของโสตทัศนูปกรณ์มาเป็นข้อๆ 2. ส่ือประเภทวสั ดุ (Materials or Software) หมายถึง อะไร แบง่ ออกเป็นก่ลี ักษณะ อะไรบ้าง 3. สื่อประเภทเครื่องมือ (Hardware) หมายถงึ อะไร ยกตวั อยา่ งประกอบ 4. ขน้ั ตอนของการวางแผนในการใชส้ อ่ื อย่างมีประสิทธิภาพ 5. บอกขอ้ พิจารณาในการเลือกใชส้ ่ือในงานสง่ เสรมิ การเกษตร 6. จงบอกความหมายของสื่อประเภทวสั ดทุ ี่ใช้ในงานสง่ เสรมิ การเกษตร - ของจริงและตัวอย่างของจริง - ห่นุ จาลอง - แผนภูมิ - แผนสถติ ิ - ภาพโฆษณา - แผนภาพ - การ์ตูน - รูปภาพ 22

ใบกจิ กรรมท่ี 2 คาชแ้ี จง ให้นกั เรียนแบง่ กลุม่ กลมุ่ ละ 3-5 คน ศึกษาคน้ คว้าขอ้ มูล ผลติ สื่อ กลมุ่ ละ1 ชนดิ และนาเสนงาน กลุ่ม 23

แบบทดสอบหลงั เรยี น คาส่งั ใหเ้ ลือกคาตอบที่ถูกท่ีสุดเพียงข้อเดยี ว 11. สอ่ื การสอนท่ดี ีจะเพิม่ ประสิทธิภาพในการเรยี นรไู้ ด้เปน็ อยา่ งมาก ข้อไหนไม่ถอื วา่ เป็นคณุ สมบัตขิ องส่อื การสอนที่ดี จ. ทาให้ผูเ้ รียนจดจาไดน้ าน ฉ. ชว่ ยใหเ้ กิดการเรียนรเู้ ร็วข้นึ ช. ทันสมัยราคาแพง ซ. เสรมิ สรา้ งทศั นคติทีด่ แี ก่ผู้เรียน 12. องค์การสหประชาชาติไดแ้ บ่งประเภทของสือ่ อกเปน็ ก่ปี ระเภท จ. 2 ประเภท ได้แก่ ส่ือทางตรง และสอ่ื ทางอ้อม ฉ. 2 ประเภท ได้แก่ สื่อวสั ดุ และสอ่ื เคร่ืองมอื ช. 3 ประเภท ได้แก่ สื่อที่ใชเ้ คร่ืองฉายประกอบ ส่ือทไ่ี ม่ใช้เคร่ืองฉายประกอบ และส่ือประเภทเครอ่ื งเสียง ซ. 3 ประเภท ได้แก่ สื่อทางตา สอ่ื ทางหู และสื่อทางสมั ผัส 13. ข้อไหน คอื ข้ันตอนแรกของการวางแผนการใชส้ อ่ื อยา่ งมรี ะบบ ก. ขัน้ วิเคราะห์ลกั ษณะของบุคคลเป้าหมาย ข. ข้นกาหนดวตั ถุประสงค์ ค. ขนั้ คัดเลอื กปรับปรงุ ดัดแปลง หรอื ออกแบบสื่อ ง. ขน้ั ต้องการตอบสนองของบคุ คลเปา้ หมาย 14. การสอนให้ผู้เรียนรู้จักชนิดของใบไม้ผสู้ อนควรเลือกใช้ส่ือชนดิ ไหน ก. คาอธบิ ายประกอบภาพ ข. แผน่ โปร่งใส เรือ่ งชนดิ ของใบไม้ ค. ภาพยนตรส์ ารคดเี รื่องชนดิ ของใบไม้ ง. ของจรงิ ประกอบคาบรรยาย 15. ข้อไหน คือชนิดของสื่อการเรียนการสอนท่ีมีประสิทธภิ าพ ใช้แทนของจริงซึ่งไมส่ ามารถนามาใชใ้ นการเรียนการสอน ได้ ก. โปสเตอร์ ข. หนุ่ ค. รูปภาพ ง. คาอธบิ ายพรอ้ มเอกสารประกอบ 24

16. ข้อไหน คือ แผนภมู ิท่ีนยิ มใชเ้ พื่อแสดงความสัมพันธร์ ะหวา่ งเวลาและเหตกุ ารณ์ ก. แผนภมู แิ บบสายธาร ข. แผนภมู แิ บบต้นไม้ ค. แผนภมู แิ บบพัฒนาการ ง. แผนภมู แิ บบตาราง 17. ข้อไหน คอื แผนภมู ิทนี่ ยิ มใชเ้ พอ่ื แสดงให้เห็นการเปลยี่ นแปลงของสงิ่ ต่างๆ เป็นลาดับติดตอ่ กันในช่วงระยะใดระยะ หน่ึง ก. แผนภมู ิแบบสายธาร ข. แผนภูมิแบบต้นไม้ ค. แผนภมู แิ บบพฒั นาการ ง. แผนภมู ิแบบตาราง 18. ขอ้ ไหน ของแผนภมู ทิ ี่นยิ มใช้เพอ่ื แสดงใหเ้ หน็ วา่ ส่งิ หนึ่งเกิดจากหลายสิ่งรวมกนั ก. แผนภมู ิแบบสายธาร ข. แผนภมู แิ บบต้นไม้ ค. แผนภมู แิ บบพฒั นาการ ง. แผนภมู แิ บบตาราง 19. ขอ้ ไหน คอื แผนภูมิทน่ี ยิ มใชเ้ พื่อแสดงใหเ้ หน็ วา่ สงิ่ หน่งึ แยกเปน็ หลายสง่ิ และสง่ิ ที่แยกออกไปนัน้ เป็นองคป์ ระกอบ ก. แผนภูมแิ บบสายธาร ข. แผนภมู แิ บบตน้ ไม้ ค. แผนภมู ิแบบพฒั นาการ ง. แผนภูมแิ บบตาราง 20. “ภาพง่ายๆ ที่เขียนขึ้นใช้แสดงลักษณะ เด่นของสง่ิ ที่องการแสดง ชว่ ยใหผ้ ้ดู เู ข้าใจและสนใจสิ่งท่ีตอ้ งการอธบิ ายไดด้ ี ย่งิ ข้ึน” ส่ือชนดิ นี้ คือ สอ่ื ประเภทใด ? ก. หุน่ ข. การต์ นู ค. โปสเตอร์ ง. แผนภูมิ 25

เฉลย 26


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook