Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Soience

Soience

Published by adithep20052008, 2020-02-25 23:45:48

Description: Soience

Search

Read the Text Version

กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ความหมายของวิทยาศาสตร์ คาวา่ วิทยาศาสตร์ ตรงกบั คาภาษาองั กฤษวา่ \"Science” ซงึ่ มาจากศพั ทภ์ าษาลาตนิ วา่ “Scientia” แปลวา่ ความรู้ (Knowledge) ไดม้ ผี ใู้ หค้ วามหมายไวห้ ลากหลายดงั นี้ ผดงุ ยศ ดวงมาลา (2523: 1) อธิบายวา่ วิทยาศาสตร์ คอื ความรู้ วธิ ีการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละเจตคติทางวิทยาศาสตร์ ซง่ึ หมายความวา่ ในการเรยี นวิทยาศาสตรน์ นั้ ผเู้ รยี นจะตอ้ งไดท้ งั้ ตวั ความรู้ วธิ ีการ และเจตคติทางวทิ ยาศาสตรไ์ ปพรอ้ มๆ กนั พชั ราภรณ์ พสวุ ตั (2522 : 3) อธิบายวา่ วทิ ยาศาสตร์ คอื วชิ าทมี่ เี นอื้ หาสาระซง่ึ เป็นเรอ่ื งราวของสงิ่ แวดลอ้ ม ปรากฏการณ์ ธรรมชาติ ซงึ่ มนษุ ยไ์ ดร้ วบรวมความจรงิ (facts) เหลา่ นนั้ เพือ่ นามาประมวลเป็นความรู้ (knowledge) และตงั้ เป็น กฎเกณฑ์ (principles) ขนึ้ ชานาญ เชาวกีรตพิ งศ.์ (2534 : 5) อธิบายวา่ วทิ ยาศาสตร์ คอื ความรูท้ ่แี สดงหรอื พสิ จู นไ์ ดว้ า่ ถกู ตอ้ ง เป็นความจรงิ จดั ไวเ้ ป็นหมวดหมู่ มรี ะเบยี บและขนั้ ตอน สรุปไดเ้ ป็นกฎเกณฑส์ ากล เป็นความรูท้ ไี่ ดม้ าโดยวิธีการท่ีเรมิ่ ตน้ ดว้ ยการสงั เกต และ/หรอื การจดั ที่เป็นระเบยี บมีขนั้ ตอน และปราศจากอคตวิ ิทยาศาสตร์ จึงไมถ่ กู จากดั ดว้ ยเวลา สถานที่ และวฒั นธรรม มงั กร ทองสขุ ดี (ม.ป.ป. : 1-2) อธิบายวา่ วิทยาศาสตร์ คือ ความรูเ้ ก่ียวกบั ธรรมชาตทิ อ่ี ยรู่ อบๆ ตวั เรา ซง่ึ มนษุ ยไ์ ดศ้ กึ ษา คน้ ควา้ สะสมมาตงั้ แตอ่ ดตี จนถงึ ปัจจบุ นั และจะศกึ ษาตอ่ ไปในอนาคตอยา่ งไมร่ ูจ้ กั จบสนิ้ มนษุ ยไ์ ดพ้ ยายามศกึ ษาเกี่ยวกบั สงิ่ แวดลอ้ มวา่ 1. สงิ่ ตา่ งๆ มคี วามเป็นมาอยา่ งไร 2. สง่ิ เหลา่ นนั้ มีความสมั พนั ธต์ อ่ กนั อยา่ งไรบา้ ง 3. พฒั นาการของสง่ิ เหลา่ นนั้ มรี ะเบยี บแบบแผน หรอื มีหลกั เกณฑอ์ ยา่ งไร และจะบงั เกิดขนึ้ ในอนาคตอยา่ งไร 4. มนษุ ยจ์ ะนาความรูท้ งั้ หลายมาใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชนไ์ ดอ้ ยา่ งไรบา้ ง พจนานกุ รมฉบบั ราชบณั ฑิตยสถาน (2542 : 1075) ไดใ้ หค้ วามหมายวา่ “วทิ ยาศาสตร์ คือ ความรูท้ ่ไี ดโ้ ดยการสงั เกต และ คน้ ควา้ จากปรากฏการณธ์ รรมชาตไิ ดเ้ ป็นหลกั ฐานและเหตผุ ลแลว้ จดั เขา้ เป็นระเบียบ ”

*** กลา่ วโดยสรุป “ วทิ ยาศาสตร์ หมายถึง ความรูท้ ่ีไดม้ าจากการศกึ ษาปรากฏการณธ์ รรมชาติ ซง่ึ สามารถแสดงหรอื พสิ จู นไ์ ดว้ า่ ถกู ตอ้ งและเป็นความจรงิ โดยใชก้ ระบวนการแสวงหาความรูท้ างวทิ ยาศาสตร์ แลว้ จดั ความรู้ นนั้ เขา้ เป็นระเบียบ เป็นหมวดหมู่ ” จากการนยิ าม เมอ่ื พจิ ารณาจะพบวา่ ในความหมายของวิทยาศาสตรน์ นั้ มอี งคป์ ระกอบหลกั 3 สว่ น คือ 1. ความรูท้ างวิทยาศาสตร์ (Scientific Knowledge) เป็นความรูท้ ไ่ี ดจ้ ากธรรมชาติ โดยวธิ ีการแสวงหาความรูท้ าง วทิ ยาศาสตร์ แบง่ ไดเ้ ป็น 6 ระดบั ไดแ้ ก่ ขอ้ เทจ็ จรงิ ขอ้ มลู สมมติฐาน หลกั การ ทฤษฎี กฎ 1. ขอ้ เทจ็ จรงิ (Fact) คอื สง่ิ ทมี่ นษุ ยพ์ บวา่ เป็นความจรงิ แตก่ ารบนั ทกึ อาจคาดเคลอ่ื นได้ 2. ขอ้ มลู (Data) หมายถงึ ขอ้ เทจ็ จรงิ ที่ไดจ้ ากการสงั เกตหรอื ทดลอง แลว้ นาขอ้ มลู มาเสนอ ขอ้ มลู มี 2 แบบคือ ขอ้ มลู เชงิ ปรมิ าณ (มกั ใชก้ ราฟหรอื ตารางขอ้ มลู บอก) และขอ้ มลู เชิงคณุ ภาพ เป็นการบรรยายลกั ษณะ และพฤติกรรมทปี่ รากฏให้ เราเห็นขณะทดลอง 3. สมมตฐิ าน (Hypothesis) คือ การคาดคะเนคาตอบของปัญหาอยา่ งมเี หตผุ ล 4. หลกั การ (Principle) คอื สงิ่ ทีเ่ ป็นขอ้ ปฏิบตั ิหรอื หลกั ปฏบิ ตั หิ รอื เป็นแนวทางท่ีถือปฏิบตั อิ ยา่ งมเี หตผุ ล 5. กฎ (Law) หมายถึง สมมติฐานทีไ่ ดร้ บั การยอมรบั วา่ ถกู ตอ้ ง มกั เนน้ ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งเหตแุ ละผล 6. ทฤษฎี (Theory) หมายถึง สมมตฐิ านท่ผี า่ นการตรวจสอบ หลายๆ ครงั้ จนเป็นทยี่ อมรบั กนั (อาจเปลย่ี นไดถ้ า้ มีขอ้ มลู ที่ ดีกวา่ เก่ามาแก)้ 2. กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ (Scientific Process) หมายถงึ กระบวนการทที่ าใหน้ กั วิทยาศาสตร์ สามารถคน้ หาความรู้ จากธรรมชาตไิ ดอ้ ยา่ งมีระบบและมปี ระสทิ ธิภาพ ซง่ึ ประกอบดว้ ย 1. วิธีการทางวทิ ยาศาสตร์ (Scientific Method) 2. ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ (Scientific Skill) 3. เจตคตทิ างวิทยาศาสตร์ (Scientific Attitude) 3. สาขาของวิทยาศาสตร์ เป็นการจดั แบง่ ความรูท้ างวทิ ยาศาสตรท์ มี่ ลี กั ษณะเรอื่ งราวท่ีเหมอื นกนั เขา้ อยใู่ นกลมุ่ เดยี วกนั ให้ เป็นหมวดหมู่ เพื่อมีระบบระเบยี บใหง้ า่ ยตอ่ การคน้ หา เชน่ ชวี วทิ ยา เคมี ฟิสกิ ส์ เป็นตน้

วธิ ีการทางวทิ ยาศาสตร์ วิธีการทางวทิ ยาศาสตร์ เป็นขนั้ ตอนการทางานอยา่ งเป็นระบบทน่ี กั วทิ ยาศาสตรใ์ ชใ้ นการแสวงหาความรูท้ างวิทยาศาสตร์ ประกอบดว้ ยขนั้ ตอนตา่ งๆ ดงั นี้ 1. การสงั เกต คือ การทาใหเ้ กิดความสงสยั และเป็นปัญหาเกิดขนึ้ 2. การกาหนดปัญหา คือ การระบปุ ัญหาหรอื สงิ่ ที่ตอ้ งการศกึ ษาและกาหนดขอบเขตของปัญหา 3. การตงั้ สมมติฐาน คอื การคิดหาคาตอบทค่ี าดหวงั วา่ จะเป็นหรอื การคาดคะเนคาตอบของปัญหาอยา่ งมเี หตผุ ล 4. การทดลอง คอื การออกแบบการทดลองและทาการทดลองตามสมมติฐานทต่ี งั้ ไว้ 5. การสรุปผล คือ การสรุปวา่ จะปฏเิ สธหรอื ยอมรบั สมมตฐิ าน ตามหลกั เหตแุ ละผล เพือ่ ใหไ้ ดค้ าตอบของปัญหาทถ่ี กู ตอ้ ง จะเห็นวา่ วธิ ีการทางวทิ ยาศาสตรม์ ี 5 ขนั้ ตอน ไดแ้ ก่ -------สงั เกต------ ระบปุ ัญหา-------ตงั้ สมมตฐิ าน--------ทดลอง-------สรุปผล------- ในขนั้ ตอนเหลา่ นจี้ ะตอ้ งมกี าร \" ศกึ ษาคน้ ควา้ และรวบรวมขอ้ มลู \" อยเู่ สมอๆ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook