135 เรื่องท่ี 1 การแยกสาร สารต่าง ๆ มกั อยรู่ วมกบั สารอ่ืน ๆ ในรูปของสารเน้ือเดียว หรือสารเน้ือผสม ถา้ ตอ้ งการสาร เพยี งชนิดเดียวเพ่อื นามาใชป้ ระโยชน์ อาจทาไดโ้ ดยแยกสารออกมาโดยอาศยั สมบตั ิเฉพาะตวั ของ สาร การแยกสารเน้ือผสมท่ีไม่เป็นเน้ือเดียวทาไดโ้ ดยใชว้ ธิ ีการทางกายภาพ เช่น หยบิ ออก ร่อนดว้ ย ตะแกรง ใชแ้ มเ่ หล็กดูด การแยกสารที่เป็นเน้ือเดียวอาจแยกไดโ้ ดยการระเหยจนแหง้ สารเนือ้ เดียว หมายถึง สารที่มีลกั ษณะเป็นเน้ือเดียวกนั เมื่อนาส่วนใดส่วนหน่ึงไปทดสอบจะ มีสมบตั ิเหมือนกนั เช่น น้ากลน่ั น้าโซดา น้าเชื่อม น้าเกลือ เป็นตน้ สารเน้ือเดียวมีไดท้ ้งั 3 สถานะ คือ 1.สารเน้ือเดียวสถานะของแขง็ เช่น เหล็ก ทองคา ทองแดง สังกะสี อะลูมิเนียม นาก ทองเหลือง หินปูน เกลือแกง น้าตาลทราย 2.สารเน้ือเดียวสถานะของเหลว เช่น น้ากลน่ั น้าเกลือ น้าส้มสายชู น้าอดั ลม น้ามนั พชื น้าเชื่อม น้านม 3.สารเน้ือเดียวสถานะแกส๊ เช่น อากาศ แกส๊ หุงตม้ แก๊สออกซิเจน แก๊สไนโตรเจน แกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์ สารเนือ้ ผสม หมายถึง สารผสมท่ีไมผ่ สมเป็นเน้ือเดียวกนั สามารถมองเห็นสารเดิมไดต้ าเปล่า สารแต่ละชนิดจะมีสมบตั ิของสารแตกตา่ งกนั เช่น น้าแป้ ง น้าโคลน ยาเคลือบกระเพาะ เป็นตน้ สารเนือ้ ผสมมีได้ท้งั 3 สถานะ เช่น 1. สารเน้ือผสมสถานะของแขง็ เช่น ทราย คอนกรีต ดิน 2. สารเน้ือผสมสถานะของเหลว เช่น น้าคลอง น้าโคลน น้าจิม้ ไก่ 3. สารเน้ือผสมสถานะแกส๊ เช่น ฝ่ นุ ละอองในอากาศ เขม่า ควนั ดาในอากาศ การแยกสารผสมแตล่ ะชนิดน้นั ตอ้ งรู้จกั เลือกใชว้ ธิ ีการท่ีเหมาะสม ข้ึนอยกู่ บั สมบตั ิของสารที่ ผสมอยใู่ นสารน้นั ๆ
136 1.การกรอง เป็นวธิ ีการแยกสารผสมที่มีสถานะเป็นของแขง็ ออกจากของเหลว วสั ดุท่ีใชก้ รองที่อยหู่ ลาย ชนิด เช่น กระดาษกรอง สาลี ผา้ ขาว เช่น การกรองน้ากะทิ การกรองส่ิงสกปรกในน้าเช่ือม เป็นตน้ 2.การกลนั่ เป็นวธิ ีการแยกสารผสมที่เป็ นของเหลวหรือของแขง็ ที่ละลายเป็นเน้ือเดียวกนั โดยใชส้ มบตั ิ ความแตกต่างของจุดเดือดของสารแตล่ ่ะชนิด การกลน่ั ตอ้ งทาใหส้ ารท่ีเป็นของเหลวกลายเป็นไอโดย การใหค้ วามร้อน สารท่ีกลายเป็นไอเมื่อไดร้ ับความเยน็ ก็จะเกิดความควบแน่นกลนั่ ตวั เป็นสารบริสุทธ์ สารที่มีจุดเดือดต่าจะกลน่ั ตวั ออกมาก่อนสารที่มีจุดเดือดสูงกวา่ 3.การระเหย การแยกสารดว้ ยวธิ ีน้ีเหมาะสาหรับใชแ้ ยกสารผสมท่ีเป็นของเหลวและมีของแขง็ ละลายใน ของเหลว โดยวธิ ีการระเหยนิยมใชใ้ นการแยกเกลือออกจากน้าทะเล เม่ือน้าระเหยหมดกจ็ ะไดเ้ กลือ นามาใช้ การทานาเกลือ โดยวธิ ีการระเหย
137 4.การตกตะกอน การแยกสารดว้ ยวธิ ีน้ีเป็ นการแยกสารผสมที่เป็นของแขง็ ที่แขวนลอยอยใู่ นของเหลว โดยการ ต้งั สารผสมน้นั ทิ้งไว้ ของแขง็ ท่ีอยใู่ นของเหลว เป็นส่ิงท่ีมีน้าหนกั ดงั น้นั เม่ือต้งั ทิ้งไวก้ จ็ ะตกตะกอน แยกของจากของเหลว เราจึงสามารถแยกของสารผสมออกจากกนั ได้ เช่น การแยกแป้ งออกจากน้าแป้ ง การแยกดินออกจากน้าโคลน หรือการใชส้ ารส้มแกวง่ ในน้าเพือ่ ใหส้ ารแขวนลอยที่อยใู่ นน้าตกตะกอน เป็ นตน้ แกวง่ สารส้มในน้าเพื่อใหส้ ารแขวนลอยในน้าตกตะกอน 5.การตกผลกึ วธิ ีน้ีเป็นวธิ ีสาหรับการแยกของผสมที่เป็นของแขง็ โดยการนาของผสมมาละลายดว้ ยตวั ทา ละลาย จนสารละลายหมด แลว้ ทิง้ ไว้ สารท่ีละลายไดน้ อ้ ยกวา่ จะอ่ิมตวั และตกตะกอนออกมาก่อน เช่น เช่น การแยกเกลือโซเดียมคลอไรดอ์ อกจากน้าทะเล การตกผลึกของสารบางชนิด
138 6.การกลน่ั ลาดบั ส่วน วธิ ีน้ีใชแ้ ยกสารผสมท่ีเป็นของเหลว ซ่ึงของเหลวน้ีมีจุดเดือดที่ไม่แตกตา่ งกนั มากนกั จึงไม่ สามารถใชก้ ารแยกสารแบบการกลน่ั ธรรมดาได้ ตวั อยา่ งการกลน่ั แบบลาดบั ส่วน เช่น การแยกน้า ออกจากแอลกอฮอล์ (น้ามีจุดเดือด 100 องศาเซลเซียส แอลกอฮอลม์ ีจุดเดือด 78.5 องศาเซลเซียส) และ การกลน่ั น้าดิบ เป็ นตน้ 7.การระเหดิ หรือการระเหยแห้ง วธิ ีน้ีเหมาะสาหรับการแยกของผสมที่เป็นของแขง็ ท่ีละลายอยใู่ นของเหลว เช่น เม่ือนาเกลือแกง ซ่ึงเป็นของแขง็ มาละลายในน้าจะไดข้ องผสมเน้ือเดียวกนั ถา้ ตอ้ งการแยกเกลือแกงออกจากน้า ก็กระทา ไดโ้ ดยนาน้าเกลือมาใหค้ วามร้อนเพอื่ ใหน้ ้าระเหยออกไป ส่ิงท่ีเหลืออยใู่ นภาชนะกค็ ือ เกลือแกง นนั่ เอง 8.โครมาโตกราฟฟี เป็นวธิ ีแยกสารเน้ือเดียวออกจากกนั ใหเ้ ป็นสารบริสุทธ์ิ โดยอาศยั หลกั การท่ีวา่ \"สารแตล่ ะชนิด มีความสามารถในการละลายตา่ งกนั และถูกดูดซบั ต่างกนั จึงทาใหส้ ารแต่ละชนิดแยกออกจากกนั ได้
Search
Read the Text Version
- 1 - 4
Pages: