Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่ 9 ความร่วมมือกับประเทศต่างๆ เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข

หน่วยที่ 9 ความร่วมมือกับประเทศต่างๆ เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข

Published by Pitawan1208, 2021-09-28 16:16:31

Description: หน่วยที่ 9

Search

Read the Text Version

วิชาชีวิตกับสั งคมไทย (30000-1501) หน่วยที่ 9 ความร่วมมือกับประเทศต่างๆ เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสั นติสุข ครูตะวัน ชัยรัต

หน่วยที่ 9 ความร่วมมือกับประเทศต่างๆ เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข การอยู่ในสังคมโลก จำเป็นอย่างยิ่งที่แต่ละประเทศ ต้องมีการติดต่อสัมพันธ์กันในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การเมือง เศรษฐกิจ สังคม การศึกษา วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี ศิลปวัฒนธรรม ศาสนา ฯลฯ เพราะไม่มี ประเทศใดที่มีความสมบูรณ์และอาศัยอยู่ได้ด้วยตนเอง เพียงลำพัง เมื่อก้าวสู่ยุคโลกาภิวัตน์ ความสัมพันธ์หรือ ความร่วมมือกับประเทศต่างๆ จึงมีความจำเป็นมากขึ้น ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละประเทศเป็นสำคัญ

ความจำเป็นของความร่วมมือกับประเทศต่างๆ โลกปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งลักษณะทางกายภาพ ลักษณะทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองการปกครอง โลกเต็มไปด้วย ประเด็นท้าทายใหม่ๆ พร้อมกับการแข่งขันที่รุนแรง และต่อเนื่อง หลายประเทศต้องผจญกับวิกฤตจาก ภัยพิบัติธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การขยายอิทธิพล ทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมของ ประเทศที่มีศักยภาพและอำนาจทางเศรษฐกิจสูงกว่า รวมทั้งความผันผวนของเศรษฐกิจโลกที่เหนือการ ควบคุมและเกิดขึ้นได้อยู่เสมอ

สถานการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดแนวคิดที่จะ สร้างพลังความร่วมมือในรูปแบบต่างๆ เช่น การจัด ตั้งกลุ่มความร่วมมือภายในกลุ่มเชื้อชาติ หรือภายใน ภูมิภาคเดียวกันเพื่อสร้างความเป็นเอกภาพ สันติภาพ และความเจริญรุ่งเรือง ความแข็งแกร่ง ความมั่นคง และปกป้องผลประโยชน์ของชาติตน หรือภายในกลุ่มประเทศที่มีอุดมการณ์เดียวกัน เพื่อ รับมือกับปัญหาที่ท้าทาย ตลอดจนสร้างอำนาจต่อ รองในเวทีระหว่างประเทศ วร้างความเข้มแข็ง ทางการเมืองระหว่างประเทศ ตัวอย่างที่เห็นชัดเจน คือ กลุ่มมหาอำนาจในสงครามโลก

การรวมกลุ่มภายในภูมิภาคต่างๆ ปัจจุบันประเทศในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก ดำเนินนโยบายรวมกลุ่มกัน เพื่อสร้างความเข้มแข็ง และอำนาจต่อรองในภูมิภาค การรวมกลุ่มภายใน ภูมิภาคต่างๆ ที่สำคัญ มีดังนี้ สหภาพยุโรป (European Union : EU) เป็นการรวมกลุ่มประเทศในทวีปยุโรป เพื่อสร้าง เอกภาพในการดำเนินนโยบายด้านการเมือง เศรษฐกิจ การเงิน การต่างประเทศ ตลอดจนสังคม และวัฒนธรรม สหภาพยุโรปก่อตั้งขึ้นเมื่อพ.ศ. 2535 โดยพัฒนามาจากองค์กรความร่วมมือในยุโรปที่ได้ รวมตัวกันมาก่อน ปัจจุบันมีสมาชิก 27 ประเทศ มี วิวัฒนาการต่อเนื่องทั้งการเป็นตลาดเดียว มีเงินตรา สกุลเดียวกัน ยูโร (Euro) มีระบบศุลการกรร่วมกัน

สหภาพยุโรป (European Union : EU)

นาฟตา (North American Free Trade Agreement : NAFTA) เป็นองค์กรความร่วมมือ ทางเศรษฐกิจในทวีปอเมริกาเหนือ เพื่อแสวงหา ตลาดสินค้าส่งออกในภูมิภาคอื่น ส่งเสริมการจ้าง งาน การเคลื่อนย้ายแรงงานเพื่อผลิตสินค้าที่มีราคา ถูก และมีคุณภาพดี และส่งเสริมธุรกิจขนาดเล็กให้ ขยายตัว และมีประสิทธิภาพ ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2535 สมาชิกประกอบด้วย ประเทศ สหรัฐอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโก

สหภาพแอฟริกา (African Union : AU) เป็นความร่วมมือระดับภูมิภาคที่ก่อกำเนิดมาจาก องค์การเอกภาพแอฟริกา เมื่อพ.ศ. 2545 โดยได้ ปรับปรุงกฏบัตรเดิมขององค์การให้มีประสิทธิภาพ ยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการจัดตั้งกองกำลังรักษาสันติภาพ ให้สามารถแทรกแซงกิจการของประเทศสมาชิกได้ นโยบายสำคัญของสหภาพแอฟริกา คือ การพัฒนา เศรษฐกิจและร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างประเทศ สมาชิกด้วยกัน ปัจจุบันสหภาพแอฟริกามีสมาชิกทั้ง สิ้น 48 ประเทศ จากประเทศในภูมิภาคจาก 53 ประเทศ

นอกจากนี้ยังมีการรวมกลุ่มระหว่างภูมิภาค องค์กรร่วมมือทางเศรษฐกิจแห่งเอเชียและ แปซิฟิก (Asia Pacific Economic Cooperation : APEC) ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2532 ปัจจุบัน (พ.ศ. 2550) มีสมาชิก 21 ประเทศ ประกอบด้วย ประเทศในทวีปเอเชีย อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ และออสเตรเลีย เพื่อส่งเสริมความร่วม มือทางด้านการค้า การลงทุน การพัฒนาทรัพยากร มนุษย์ และทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งนับเป็นองค์กร ทางเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก

องค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันเป็นสินค้า ออก (Organization of Petroleum Exporting Countries : OPEC) ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2530 สมาชิกประกอบด้วย ประเทศผลิตน้ำมันในทวีป เอเชีย แอฟริกา และอเมริกาใต้ เพื่อการเจรจาต่อ รองการกำหนดราคาน้ำมัน และใช้น้ำมันเป็น มาตรการดำเนินนโยบายต่างประเทศ เพื่อให้เกิด ประโยชน์สูงสุดแก่กลุ่มประเทศของตน

การรวมกลุ่มภายในภูมิภาคในทวีปเอเชีย สี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ เป็นความร่วมมือทาง เศรษฐกิจ 4 ประเทศ ที่มีพรมแดนติดกับแม่น้ำโขง ได้แก่ ประเทศไทย จีน เมียนมา และลาว เริ่มต้น เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2536 ครอบคลุมพื้นที่ ภาคเหนือตอนบนของไทย 9 จังหวัด ภาคเหนือของ ลาว ภาคตะวันออกเฉียงใต้ของเมียนมา และภาคใต้ ของจีน (มณฑลยูนนาน) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ พัฒนาเศรษฐกิจในระดับย่อยของภูมิภาคทั้งในด้าน การค้า การลงทุน อุตสาหกรรมและการท่องเที่ยว ความร่วมมือดังกล่าว มุ่งเน้นการพัฒนาเส้นทาง คมนาคมทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ

สี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ สามเหลี่ยมเศรษฐกิจ

สามเหลี่ยมเศรษฐกิจ เป็นความร่วมมือ ระหว่าง 3 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย เริ่มขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2536 โดยมี วัตถุประสงค์เพื่อเกื้อกูลกันทางเศรษฐกิจและสังคม โดยส่งเสริมการใช้ทรัพยากรทางเศรษฐกิจร่วมกัน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการผลิต การลงทุน การถ่ายทอดเทคโนโลยี การเชื่อมโยงด้านโครงสร้าง พื้นฐาน เพื่อลดต้นทุนการขนส่ง ทั้งนี้เพื่อให้แข่งขัน ในตลาดโลกได้ โดยธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่ง เอเชีย หรือ ADB เป็นผู้สนับสนุนการพัฒนาดังกล่าว ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจ

การรวมกลุ่มประชาคมอาเซียน ประชาคมอาเซียน (ASEAN Community) หมายถึง การรวมประเทศสมาชิกอาเซียน เป็น ภูมิภาคอาเซียนที่มีพื้นที่กว่า 4.6 ล้านตาราง กิโลเมตร และพลเมืองใน 10 ประเทศของอาเซียน ให้เป็นสังคมเดียวกันหรือเป็นพลเมืองอาเซียน (ASEAN Citizen) จำนวนกว่า 600 ล้านคน

ประชาคมอาเซียนเป็นเป้าหมายของการร่วม มือกันของประเทศสมาชิกอาเซียน เพื่อให้รวมกัน เป็นครอบครัวเดียวกัน มีความเข้มแข็งมั่นคง มีภูมิต้านทานที่ดี พลเมืองอาเซียนมีสภาพความ เป็นอยู่ที่ดีขึ้นปลอดภัย และดำเนินชีวิตได้อย่าง สันติสุข ทำให้อาเซียนเป็นองค์กรเพื่อประชาชน อย่างแท้จริง และเพิ่มอำนาจการต่อรอง เพิ่มขีด ความสามารถในการในการแข่งขันในเวทีระหว่าง ประเทศ สามารถปรับตัวให้เท่าทันสถานการณ์เพื่อ รับมือกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆได้ดียิ่งขึ้น รวมทั้ง การที่สมาชิกทั้ง 10 ประเทศ และกลุ่มประเทศอื่นๆ ให้ความเชื่อถืออาเซียนเพิ่มมากขึ้น

ความร่วมมือทางด้านสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ในยุคปัจจุบัน อาเซียนมุ่งหวังประโยชน์จากการรวมตัวกัน เป็นประชาคมอาเซียน เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพ ชีวิตที่ดีขึ้น และมีความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน โดยมีความร่วมมือเฉพาะด้านที่ครอบคลุมในหลาย ด้าน ความร่วมมือทางด้านสังคมและวัฒนนธรรมที่ สำคัญประกอบด้วย 1. ความร่วมมือด้านทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นดินแดนที่มีความความหลากหลายทางกายภาพ อุดมสมบูรณ์ด้วยแหล่งทรัพยากรธรรมชาติและ ความหลากหลายทางชีวภาพ แต่เป็นพื้นที่ที่ประสบ ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง

ตัวอย่างความร่วมมือทางด้านสิ่งแวดล้อม ในอาเซียนที่สำคัญ 1.1 ศูนย์อาเซียนว่าด้วยความหลากหลาย ของชีวภาพ (ASEAN Centre for Biodiversity : ACB) เพื่ออำนวยความสะดวกในการประสานงาน และความร่วมมือส่งเสริมการอนุรักษ์และการจัดการ กับความหลากหลายทางชีวภาพอย่างยั่งยืนด้วย ความหลากหลายทางชีวภาพเพื่อ การอนุรักษ์ มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัย ฟิลิปปินส์

1.2 ศูนย์ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอาเซียน (ASEAN Humanitarian Assistance : AHA) เพื่อช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในการจัดการภัยพิบัติ ในภูมิภาค โดยเพิ่มบทบาทให้เลขาธิการอาเซียนเป็น ผู้ประสานงานความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ที่ตั้ง สำนักงาน กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย

1.3 ศูนย์ข้อมูลแผ่นดินไหวแห่งอาเซียน (ASEAN Earthquake Information Centre : AEIC) เพื่อทำหน้าที่เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับ การเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในเขต พื้นที่ของประเทศในกลุ่มอาเซียนให้เร็วที่สุดเท่าที่ จะเป็นไปได้ และดำเนินการฝึกอบรมทาง วิทยาศาสตร์และเทคนิคเกี่ยวกับการเกิดแผ่นดินไหว ที่ตั้งสำนักงานอยู่ที่ประเทศอินโดนีเซีย

1.4 ศูนย์ประสานงานการควบคุมมลพิษจาก หมอกควันข้ามพรมแดนแห่งอาเซียน (ASEAN Coordinaling Centre for Transboundary Haze Pollution Control) ทำหน้าที่ในการ อำนวยความสะดวกในความร่วมมือ และประสาน งาน รวมทั้งการร่วมกันตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉิน ระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน

1.5 เครือข่ายการป้องกันและปราบปราม การค้าสัตว์ที่ผิดกฎหมาย (ASEAN Wildlife Enforcement Network : ASEAN-WEN) เป็นเครือข่ายความร่วมมือด้านการปราบปรามการ ค้าสัตว์ป่าที่ผิดกฎหมายที่ใหญ่ที่สุดในโลก จัดตั้งขึ้น เพื่อขจัดการลักลอบค้าสัตว์ป่าให้หมดสิ้นไป

2. ความร่วมมือทางด้านการศึกษา อาเซียนส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาในทุกระดับ รวมทั้งการเรียนรู้ตลอดชีวิต การวิจัย การประชุม- สัมมนา การประชุมทางวิชาการ การฝึกอบรมเพื่อ เพิ่มศักยภาพให้บุคลากรยกระดับคุณภาพชีวิตของ ประชาชนและการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ตัวอย่างความร่วมมือด้านการศึกษาในอาเซียน ที่สำคัญ 2.1 โครงการโรงเรียนสีเขียวในอาเซียน (Green School) เป็นโครงการจัดตั้งชมรม วัฒนธรรมเอเชียตะวันออกในสถานศึกษา (East Asian Cultural Club : EACC)

2.2 เครือข่ายมหาวิทยาลัยอาเซียน (ASEAN University Network : AUN) เป็นความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน เริ่มขึ้นเมื่อ พ.ศ.2538 มีสถาบันอุดมศึกษาเข้าร่วม 13 สถาบัน ต่อมาได้ขยายความร่วมมือเพิ่มขึ้นทำให้ มีสมาชิกเพิ่มเป็น 26 สถาบัน ครอบคลุมทั้ง 10 ประเทศอาเซียน มีบทบาทสำคัญในการจัดทำ โปรแกรมอาเซียนศึกษาในภูมิภาค เสริมสร้าง ความเป็นอัตลักษณ์อาเซียนระหว่างเยาวชนอาเซียน ส่งเสริมการยอมรับคุณวุฒิทางวิชาการระหว่าง มหาวิทยาลัยในภูมิภาค สนับสนุนความร่วมมือ ด้านงานวิจัย และการสร้างเครือข่ายข้อมูล สารสนเทศเพื่อบูรณาการด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง สังคมและวัฒนธรรมเข้าเป็นหนึ่งเดียวกัน

3. ความร่วมมือทางด้านการพัฒนาเยาวชน อาเซียนได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของ เยาวชนของประเทศสมาชิกอาเซียน เพื่อสร้างความ ตระหนักรับรู้เรื่องอาเซียนในกลุ่มเยาวชน โดยดำเนินการผ่านทางด้านการศึกษาและกิจกรรม ต่างๆ รวมทั้งส่งเสริมการมีส่วนร่วมของเยาวชน อาเซียนในระดับภูมิภาคให้มีการสร้างสรรค์ผลงานที่ มีคุณค่า สร้างความตระหนักและความรับผิดชอบต่อ อาเซียน การมีปฏิสัมพันธ์และความเข้าใจอันดีต่อกัน ในหมู่เยาวชนอาเซียน เช่น การประชุมเยาวชน อาเซียนบวกสาม

4. ความร่วมมือด้านสุขภาพอนามัยและ คุณภาพชีวิตของประชากร อาเซียนให้ความสำคัญ ในการส่งเสริมความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตที่ดีของ ประชากรอาเซียน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่มั่นคง และปลอดภัย รวมทั้งพัฒนาด้านสุขภาพอนามัย เช่น คณะกรรมการสำรองอาหารเพื่อความมั่นคงของ อาเซียน