วิชาชีวิตกบั สั งคมไทย (30000-1501) หน่วยที 5 สั นติวัฒนธรรม ครูตะวัน ชัยรัต
หนวยท่ี 5 สนั ติวฒั นธรรม มนุษยท กุ คนปรารถนาการอยูรวมกนั ในสังคม อยางเปนสขุ การท่ีจะพฒั นาสงั คมไทยใหสงบสุข ตอ งเปน สังคม สันตวิ ฒั นธรรม (Culture of peace) ยอมรบั ความแตกตา งที่เกดิ ข้ึน สรางกฎกติกาของสงั คม มหี ลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ใชหลกั ฉนั ทาคติ โดยเปน สังคมสนั ติวัฒนธรรมใหเปนสงั คมเดยี วกนั มากทสี่ ดุ
ความหมายของสันติวัฒนธรรม สันติวัฒนธรรม คือ การดาํ รงชีวิตรวมกันดวย ความเมตตา กรุณา บนพื้นฐานของการดํารงชีวิต อยูรวมกันอยางสันติสุข โดยมีขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรมอันดีงามในบรรทัดฐานของ สังคมมนุษย ปฏิบัติหนาที่ตอกันปราศจากความ รุนแรง เพื่อนาํ ไปสูชีวิตที่สงบสุข นําความเจริญ งอกงามทั้งภายในและภายนอกของความเปนมนุษย ในสังคม
ลักษณะที่สะทอนความเปนสันติวัฒนธรรม 1. สถานการณของคุณคา ทัศนคติ พฤติกรรม และวิถีชีวิตที่ไมใชความรุนแรง 2. ความใกลชิด กลมกลืนกันของอัตลักษณ ทัศนคติ คุณคาความเช่ือ แบบแผนการใชชีวิต และ ความตองการเฉพาะตัวของแตละบุคคล 3. การปองกันกับการจัดการความขัดแยง ดวยวิธีคล่ีคลายเหตุ ปจจัยของปญหาโดยไมเผชิญ หนา 4. เปนภูมิคุมกันไมใชความรุนแรง
ความสําคัญของสันติวัฒนธรรม 1. สันติวัฒนธรรมเปนวัฒนธรรมท่ีมนุษยสราง ข้ึนในการดาํ รงชีวิตรวมกันของมนุษย 2. เพื่อลดปญหาปราศจากความรุนแรงตอกัน ในสังคมนําไปสูชีวิตท่ีสงบสุข 3. ดํารงชีวิตดวยความเมตตา กรุณา โดยมี ขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรมอันดีงาม 4. เพื่อนําไปสูความเจริญงดงามท้ังภายในและ ภายนอกของความเปนมนุษย
การปฏิบัติเพื่อสรางสันติวัฒนธรรม การสรางสันติวัฒนธรรม เปนการสรางความ เปลี่ยนแปลงระดับบุคคล สรางจิตสํานึกคุณคาระดับ สังคมมนุษย โดยผานระบบการศึกษาสรางสันติภาพ สงเคราะหเพ่ือมนุษย ไมใชความรุนแรง 1. การศึกษาเพ่ือสันติภาพ ยอมรับความ แตกตาง เห็นคุณคาความหลากหลายทางความคิด และทางวัฒนธรรม รูจักใหอภัย เอ้ือเฟอเก้ือกูลกัน ดวยการแกสันติวิธีเปนหนทางไปสูสันติภาพ
2. ส่ือเพื่อสันติภาพ เปนสวนหนึ่งของ การศึกษาเพื่อสันติภาพ ควรลดอคติทางชาติพันธุ ศาสนา สีผิว โดยนําเสนอวิถีชีวิต ประเพณี ความเช่ือ รวมทั้ง สุข ทุกข ของสังคมมนุษย ติดตามขาวสารที่สงเสริมสันติวิธีและการรวมมือกัน ส่ือสําหรับเยาวชน ครอบครัว เปนอีกบทบาทหน่ึงใน การสงเสริมสันติวัฒนธรรม ครอบครัวเปนสถาบัน ทางจริยธรรมที่สาํ คัญ ครอบครัวเขมแข็งชวยให เยาวชนมีทัศนคติท่ีเก้ือกูลตอสันติภาพและสันติวิธี
3. การสงเคราะหเพ่ือนมนุษย ดวยความรัก และความเอื้อเฟอเก้ือกูลกัน คุณคาแสดงออกได ชัดเจน การเสริมสรางสันติวัฒนธรรมที่ดีท่ีสุด คือ การชวยเหลือเพื่อนมนุษยท่ีตกทุกขไดยาก เพื่อให เพ่ือนมนุษยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ชวยใหสังคมรมเย็น เปนสุข การชวยเหลือเพ่ือนมนุษยเปนเครื่องชี้วัด สําคัญประการหนึ่งวาไดลดละตัวตนมากนอยเพียงใด
4. การถอยหางความรุนแรงในสังคม ตั้งแตระดับบุคคล ครอบครัว ชุมชน ไปจนถึงระดับ ประเทศ ปองกันระงับความรุนแรง ความรุนแรง เปนสิ่งท่ีสังคมมิอาจยอมรับได มนุษยจึงควรให ความสาํ คัญในการตอตานและขจัดความรุนแรง เชิงโครงสรางวัฒนธรรม
ตัวบงช้ีสังคมท่ีมีสันติวัฒนธรรม 1. มนุษยทุกคนมีสิทธิเทาเทียมกัน 2. การศึกษาท่ีเทาเทียมกัน 3. การพัฒนามีสวนรวมโดยหลักธรรมาภิบาล 4. มีการปกครองระบอบประชาธิปไตย 5. มีสถานภาพทางเพศ ชนชั้น เช้ือชาติ ศาสนา เทาเที่ยมกัน 6. มีอิสระ สิทธิ เสรีภาพในการแสดง ความคิดเห็น 7. ความอดทนกันไดเปนอันหนึ่งอันเดียวกัน 8. ความม่ันคงปลอดภัยของสังคมมนุษย 9. ความสุขสมบูรณสวยงามของธรรมชาติ อนุรักษส่ิงแวดลอม
แนวคิดการสรางสันติวัฒนธรรม 1. สังคมตามลักษณะความสัมพันธ ของสมาชิก มนุษยกับธรรมชาติมีความสัมพันธกัน อยางแนนแฟน ต้ังแตมนุษยปรากฏบนพ้ืนโลก มนุษยเปนองคประกอบหนึ่งของธรรมชาติและอาศัย ธรรมชาติเปนปจจัยในการดํารงชีวิต มนุษยกับ ธรรมชาติเปนสวนหนึ่งของกันและกัน มนุษยจึงถูก ควบคุมโดยธรรมชาติ สัมพันธในลักษณะปรับตัวเขา กับธรรมชาติดวยสันติวัฒนธรรม
2. สรางความสัมพันธกับเพื่อนมนุษย การสรางความสัมพันธอันดีกับผูอ่ืนไดนั้น ควรท่ีจะ เรียนรูถึงธรรมชาติความตองการของบุคคลโดยทั่วไป หากตองการใหผูอ่ืนเกิดความพึงพอใจ ก็ควรทํา ในส่ิงที่บุคคลอื่นตองการ การทําในสิ่งท่ีผูอื่นไม ตองการไมชวยในการสรางสัมพันธอันดีใหเกิดขึ้นได จึงควรพิจารณาวาบุคคลน้ันมีความตองการในส่ิงใด ถาใหตรงตามความตองการก็จะเกิดความพึงพอใจ เปนเง่ือนไขที่สําคัญในการสรางมนุษยสัมพันธ
วิธีสรางมนุษยสัมพันธสที่ดีตอเพ่ือนรวมงาน 1. เริ่มตนทักทายกอน 2. มีความจริงใจตอเพื่อนรวมงาน 3. ไมนินทาเพื่อนแมจะเปนที่ถูกใจของคู สนทนา 4. ไมซัดทอดความผิดใหเพ่ือน 5. ยกยองชมเชยเพื่อนในโอกาสอันควร (ชมมากกวาติ หากติควรติเพื่อการสรางสรรค) 6. ใหความชวยเหลือกิจการงานของเพื่อนดวย ความเต็มใจ 7. ใหเพ่ือนรับทราบเรื่องที่ตองรับผิดชอบหรือ เก่ียวของ 8. หลีกเลี่ยงการทาํ ตัวเหนือเพื่อน
9. ทําตนใหเสมอตนเสมอปลาย 10. เอื้อเฟอเผ่ือแผตอเพื่อนฝูง 11. ออกไปพบปะสังสรรคบางตามโอกาส อันสมควร 12. ชวยเหลือเพ่ือน เปนท่ีพ่ึงในยามทุกขใจ 13. ใหเกียรติและรับฟงความคิดเห็นของ เพ่ือน 14. เก็บรักษาความลับของเพื่อน รักษาสัจจะ 15. แนะนาํ เพื่อนไปในทางที่ดี ไมนําพาไป สูทางเสื่อม
ในทางพุทธศาสนาไดกลาวถึง เพื่อนแท มี 4 จําพวก คือ จาํ พวกที่ 1 เพื่อนมีอุปการะ มี 4 ลักษณะคือ 1) ปองกันเพื่อนผูประมาทแลว 2) ปองกันทรัพยสมบัติของเพื่อนผูประมาท แลว 3) เมื่อมีภัยเปนท่ีพ่ึงได 4) เม่ือมีธุระชวยออกทรัพย ออกแรง มากกวาออกปาก
จาํ พวกที่ 2 เพ่ือนรวมทุกขรวมสุข มี 4 ลักษณะคือ 1) ขยายความลับของตนแกเพ่ือน 2) ปดความลับของเพ่ือน 3) ไมละทิ้งเพื่อนยามวิบัติ 4) แมชีวิตก็อาจสละแทนได
จําพวกที่ 3 เพื่อนแนะนาํ ประโยชน มี 4 ลักษณะคือ 1) หามไมใหทาํ ชั่ว 2) แนะนาํ ใหต้ังอยูในความดี 3) ใหฟงส่ิงท่ียังไมเคยฟง 4) บอกทางสวรรคให
จําพวกที่ 4 เพ่ือนมีความรักใคร มี 4 ลักษณะคือ 1) เม่ือมีทุกขก็ทุกขดวย 2) เม่ือมีสุขก็สุขได 3) โตเถียงคนที่ติเตียนเพ่ือน 4) รับรองคนที่พูดสรรเสริญเพ่ือน
หนาที่ของคนท่ีควรปฏิบัติตอเพ่ือน ตามหลักที่พระพุทธเจาตรัสไว 5 ประการ มี 4 ลักษณะคือ 1) การใหปน 2) การกลาวถอยคําอันเปนท่ีรัก 3) ประพฤติสิ่งที่เปนประโยชนแกเพ่ือน 4) ความเปนผูมีตนเสมอ 5) ไมแกลงกลาวใหคลาดเคลื่อนจากความจริง
3. สรางอิสรภาพในชีวิตตนเอง อิสรภาพ คือ ส่ิงที่ทุกคนฝนถึงและเปนสิ่งที่ ทุกคนควรไดรับมัน คือการท่ีอยากจะทําอะไรก็ไดทาํ เพราะไมมีใครอยากถูกบังคับ ไมอยากถูกจํากัด อิสรภาพของตนเอง ท้ังอิสรภาพทางความคิด อิสรภาพทางการกระทาํ หรือการแสดงออก อิสรภาพ ทางการเงิน และอิสรภาพดานเวลา
หลักธรรมเพื่อใหเปนที่รักของคนท่ัวไป สังคหวัตถุ 4 ประกอบดวย ทาน , ปยวาจา , อัตถจริยา , สมานัตตตา (โอบออมอารี วจีไพเราะสงเคราะห ปวงชน วางตนเหมาะสม) 1. ทาน คือ การให การเสียสละ แบงปน แกผูอื่น 2. ปยวาจา คือ พูดจาดวยถอยคาํ สุภาพ นุมนวล เหมาะแกบุคคล เวลา สถานที่ พูดในสิ่งท่ี เปนประโยชน พูดในทางสรางสรรค และเกิดกําลังใจ
3. อัตถจริยา คือ การทาํ ตนใหเปนประโยชน ตามกาํ ลังสติปญญา ความรู ความสามารถ กาํ ลังทรัพย และเวลา 4. สมานัตตตา คือ การทําตนใหเสมอตน เสมอปลาย วางตนเหมาะสมกับฐานะ ตําแหนง หนาที่การงาน ไมเอาเปรียบผูอื่น รวมทุกขรวมสุข สมา่ํ เสมอ
Search
Read the Text Version
- 1 - 23
Pages: