บทสรุปผบู้ ริหาร โครงการสง่ เสรมิ การร้หู นงั สือไทย ลืมหนังสือ เพื่อใหน้ กั ศกึ ษา กศน.อำเภอชุมพลบรุ ี เพือ่ ใหน้ กั ศึกษามี ความรู้ เพ่ือใหก้ ล่มุ เป้าหมายมีความรู้ความเขา้ ใจสามารถอ่านออกเขยี นได้ และนำความรู้ไปพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ ในวนั ที่ 22 เดอื นกรกฎาคม 2565 กลมุ่ เปา้ หมาย จำนวน 4 คน สถานทดี่ ำเนินการจดั กจิ กรรม โรงเรยี น ผู้สงู อายุ ผรู้ บั ผดิ ชอบโครงการ นางสาวพชั รี เทพบรรทม ตำแหนง่ นกั วชิ าการศึกษา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ส่งเสริมการร้หู นังสอื และป้องกันการลืมหนงั สือให้กบั ประชาชน มที ักษะดา้ นการอ่าน การเขยี น และการคดิ คำนวณได้อย่างถกู ต้อง กล่มุ เป่าหมายมีคุณภาพชวี ิตของให้ดีขึ้น ได้มีข้ันตอนการดำเนนิ การทีส่ ำคัญดงั น้ี ๑. การวางแผน(Plan) มีการประชุมผ้บู ริหารและคณะครู กศน.อำเภอชุมพลบรุ ี โดยให้ผู้เข้ารว่ มประชุม ระดมความคดิ เพือ่ วางแผนการดำเนินงาน ๒. การปฏบิ ัติตามแผน (Do) เพ่ือใหบ้ ุคลากร กศน.อำเภอชมุ พลบรุ ี มีความรู้ ความเข้าใจและทักษะใน การจัดทำสือ่ ประชาสัมพันธง์ าน กศน. ในรปู แบบการจดั ทำเวบ็ ไซต์ กศน.อำเภอและเว็บไซต์ กศน.ตำบล ๓. การตรวจสอบหรอื ประเมินผล (Check) เพื่อประเมินผลการดำเนนิ งานโครงการฯ ๔. การนำผลการประเมนิ มาปรับปรงุ งาน(Action) นำผลการประเมนิ มาปรับปรงุ โครงการในครง้ั ต่อไป เพอื่ ทราบผลการดำเนินโครงการและปรับปรุงพฒั นาโครงการ จากการดำเนินการข้างต้นสามารถสรุปผลการดำเนนิ โครงการส่งเสริมการรู้หนังสือไทย ลมื หนงั สอื ร้อยละ 95 กลุ่มเป่าหมาย มีความรู้ มีความรู้ความเข้าใจสามารถอ่านออกเขียนได้ และนำความรู้ไปพัฒนา คณุ ภาพชวี ิต ผู้เขา้ รว่ มโครงการมรี ะดบั ความพึงพอใจระดับมากและมากที่สดุ ร้อยละ 100 บรรลุตามเปา้ หมายที่ กำหนดไวร้ อ้ ยละ 95 และควรมีการศึกษาผลลัพธ์ (Outcome) หรือผลกระทบ (Impact) ของโครงการท่ีมีต่อผู้ ร่วมโครงการในลักษณะของการติดตามผล (Follow-up or Tracer Study) เพื่อดูผลสรุปรวมและประโยชน์ที่ ไดร้ บั จากโครงการที่แทจ้ รงิ ท้ังน้ีเพ่ือการกำหนดแนวทางการขยายโครงการอย่างต่อเนื่อง 1. สรปุ ผลการประเมินโครงการ 1.1 ดา้ นข้อมลู พื้นฐาน ผลการศึกษาพบวา่ กลุม่ ตวั อยา่ งส่วนใหญ่เปน็ เพศหญิง จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐ ผลการศึกษาพบวา่ กลุม่ ตวั อย่างส่วนใหญม่ อี ายรุ ะหวา่ ง 60 ปี จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 100 ผลการศกึ ษาพบวา่ กลุ่มตวั อย่างส่วนใหญ่ จะอยู่ระดับประถม จำนวน 4 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 100 ผลการศกึ ษาพบว่า กลุ่มตวั อยา่ งสว่ นใหญม่ ีความพงึ พอใจในการจัดกจิ กรรมอยู่ในเกณฑ์ ดมี าก คดิ เปน็ รอ้ ยละ 100 ผลการศึกษาพบวา่ กล่มุ ตวั อยา่ งทผี่ า่ นเกณฑ์การประเมิน คิดเปน็ รอ้ ยละ 100
2. อภิปรายผล การประเมนิ มคี วามรู้ความเข้าใจสามารถอ่านออกเขยี นได้ และนำความรู้ไปพฒั นาคณุ ภาพชวี ิต ดำเนินตามรูปแบบการประเมินทุกขนั้ ตอนอย่างเป็นระบบผลการประเมนิ เป็นไป ตามวัตถุประสงค์ทกี่ ำหนด คือ การดำเนินโครงการ มกี ารวิเคราะห์สภาพปัญหาการดำเนินโครงการ การศึกษาความต้องการของผทู้ ่รี ่วมดำเนิน โครงการ วางแผนและจัดทำใหต้ รงตามสภาพท่ีแท้จริงมากที่สดุ ทำให้การดำเนนิ โครงการเป็นไปตามข้นั ตอนที่ กำหนดอยา่ งมีประสิทธิภาพ โดยวางแผนเป็นไปดว้ ยดี มปี ระสทิ ธภิ าพ มีแผนงานทีด่ ตี ง้ั แต่ต้น การปฏบิ ตั ิงานตาม แผนย่อมมปี ระสิทธภิ าพสงู นอกจากน้ันการจัดทำปฏิทนิ ปฏิบัติงานตามขั้นตอนโดยละเอยี ด การดำเนินงานตาม ปฏิทนิ ปฏิบัตงิ านท่กี ำหนดทกุ ขน้ั ตอน และทกุ กจิ กรรม ทำใหผ้ ลการปฏบิ ัติงานมคี ุณภาพโดยเฉพาะการนเิ ทศ ติดตามกำกับ และใหข้ วัญกำลงั ใจแก่ผ้ปู ฏบิ ัติงานอยา่ งสมำ่ เสมอ เป็นส่วนสำคญั อย่างยงิ่ ซ่ึงผลที่ได้สามาถนำไปใช้ในการปรบั ปรงุ โครงการในปีต่อๆไปเพื่อจะได้ทราบว่าการดำเนินงานทุก ขั้นตอน ได้ตรงตามเป้าหมายที่กำหนดหรือไม่ และจะต้องนำผลการประเมินมาปรับปรุง แก้ไข และพัฒนาการ ดำเนินงานใหม้ ีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุดของหน่วยงานโดยจะเห็นได้จากผลการประเมนิ โครงการทีบ่ ่งช้ี ว่ากระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลายมีคะแนนการประเมินที่มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด ซึ่งทำให้เห็นแนวทางในการพัฒนา รปู แบบการดำเนนิ การตอ่ ไป 3.ขอ้ เสนอแนะ 3.1 ขอ้ เสนอแนะเชิงนโยบายและเชิงปฏิบตั ิ 3.1.1 ควรให้กลุ่มบุคคลทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เข้ามามีส่วนร่วมในการคิดวิเคราะห์ ตลอดจน ร่วมกันวางแผนโครงการ ดำเนินงานไปตามโครงการ และตดิ ตามประเมินผลการจดั ทำโครงการตา่ ง ๆ รว่ มกนั 3.1.2 ควรมีการช้ีแจงรายละเอียดโครงการใหแ้ ก่ผูเ้ ก่ยี วข้องทุกระดับไดร้ บั ทราบและเข้าใจต้ังแต่ เรม่ิ ดำเนนิ การ และมีการสรุปรายงานผลใหท้ ราบเปน็ ระยะ 3.1.3 สง่ เสรมิ และพัฒนาเสรมิ สรา้ งคุณภาพชีวติ สำหรบั ผู้เข้าร่วมโครงการ 3.2 ขอ้ เสนอแนะเพ่อื การดำเนินงานต่อไป ควรมีการศึกษาผลลัพธ์ (Outcome) หรือผลกระทบ (Impact) ของโครงการที่มีต่อผู้ร่วม โครงการในลักษณะของการติดตามผล (Follow-up or Tracer Study) เพื่อดูผลสรุปรวมและประโยชน์ที่ได้รับ จากโครงการที่แท้จริง ทั้งนี้เพื่อการกำหนดแนวทางการขยายโครงการในพื้นที่อื่นต่อไปสำหรับสถานศึกษา และ ชมุ ชนอน่ื ต่อไป
ก คำนำ กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศใช้หลักสูตรการรู้หนังสือไทย พุทธ ศักราช 25ร7 เพื่อประโยชน์ในการ ส่งเสริมสนับสนุนผู้ไม่รู้หนังสือ ผู้ลืมหนังสือไทย กลุ่มเป้าหมายเฉพาะบางกลุ่มที่ไม่ใช้ภาษาไทยในชีวิตประจำวัน และประชาชนทั่วไป ที่สนใจจะเรียนรู้ภามาไทยได้เรียนรู้หนังสือไทย เป็นผู้มีความรู้ ความสามารถและทักษะการ ฟัง พูด อ่าน เขียน ภาษาไทย และการคิดคำนวณเบื้องต้น ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน และใช้เป็ น เครื่องมือในการสื่อสารกับผู้อื่น อันจะเป็นทักษะพื้นฐานในการแสวงหาความรู้เพื่อพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ตลอดชีวติ รวมท้ังการปลูกฝังให้ผูเ้ รียนมจี ิตสำนกึ มคี ุณธรรม จริยธรรม สามารถอยรู่ ว่ มกับสงั คมอย่างสันตสิ ุข เนน้ การเรยี นรตู้ ามสภาพความตอ้ งการ และปัญหาของสังคมท่ีผูกพนั กบั วถิ กี ารคำเนินชีวิตของผเู้ รยี นโดย สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย เป็นผู้พัฒนาหลักสูตรคังกล่าว สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย จึงได้จัดทำแนวทางการจัดการศึกษา หลักสูตร การรู้หนังสือไทย พุทธศักราช 2557 โคยมีวัตถุประสงค์ให้สถานศึกษานำไปใช้เป็นแนวทางการจัดการศึกษา ใหก้ บั ประชาชนกลุ่มเปา้ หมายตอ่ ไป สำนักงาน กศน.หวังเป็นอย่างยิ่งว่าแนวทางการจัดการศึกษา หลักสูตรการรู้หนังสือไทยพุทธศักราช 2557 จะเป็นประโยชนต์ ่อผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องให้เกิดประสิทธิภาพสำหรับการรู้หนังสือไทย และขอขอบคณุ ทุกท่านที่มีส่วนรว่ มในการจดั ทำเอกสารน้ีให้สำเรจ็ ลลุ ่วงด้วยดี (นางสาวพชั รี เทพบรรทม) ศรช.บ้านทัพค่าย กรกฎาคม ๒๕๖5
สารบญั ข บทท่ี ๑ บทนำ หนา้ บทท่ี ๒ เอกสารท่เี ก่ียวขอ้ ง 1 บทท่ี ๓ วิธีการดำเนินงาน 7 บทที่ ๔ ผลการดำเนนิ งาน 16 บทท่ี ๕ สรุปผลและอภิปรายขอ้ มลู 19 24 บรรณานกุ รม ภาคผนวก โครงการท่ีไดร้ ับอนุมตั ิ คำสั่งคณะกรรมการดำเนินงาน เอกสารทเ่ี กยี่ วข้องกับโครงการ แบบประเมินความพึงพอใจ ภาพประกอบโครงการ คณะผู้จดั ทำ
บทท่ี 1 บทนำ 1 ท่มี าและความสำคญั การรู้หนังสือเป็นคุณสมบัติพื้นฐานที่จำเป็นต่อการเรียนรู้และการสื่อสารในสังคมปัจจุบัน เป็นบันไดขั้น แรกของการแสวงหาความรู้อันมหาศาลในโลกนี้ และเป็นการเชื่อมโยงการสื่อสารของผู้คนต่าง ๆ ในสังคมนี้เข้า ด้วยกนั องคก์ ารยนู สโกถือว่าการรหู้ นังสือเป็นประดฐู ์อสิ รภาพของมนุษยชาติประชาชนชาวไทยทุกคนมีสิทธิได้รับ การศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างเท่าเทียมและมีคุณภาพซึ่งรัฐบาลทุกยุคทุกสมัยให้ความสำคัญในการส่งเสริมสนับสนนุ ให้บุคคลได้เรียนรู้ภามาไทย เพื่อการติดต่อสื่อสารให้เข้าใจตรงกัน และสามารถนำความรู้ไปใช้ในการพัฒนา คุณภาพชีวิตได้ ตามความต้องการและความสนใจของแต่ละบุคคล รวมทั้งการใช้ภาษาไทยเป็นเครื่องมือในการ แสวงหาความรู้ได้อย่างต่อเนื่อง ประเทศไทยมีภายาไทยเป็นภามาประจำชาติ เป็นภายากลางในการสื่อสาร เป็น มรดกทางวัฒนธรรม การร้หู นังสอื ไทยเปน็ ความสามารถพน้ื ฐานในการตดิ ต่อส่ือสาร การเรยี นรู้ การแสวงหา ความรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต คนไทยทุกคนและผู้อาศัยอยู่ในประเทศไทย จึงจำเป็นต้องเรียนรู้ภาษาไทยให้ เข้มแข็ง อันเป็นเครื่องแสดงความเป็นไทย ความภาคภูมิใจ ความมีเอกลักษณ์ มีอารยธรรมและความเจริญของ ชาติไทยกระทรวงศึกษาธิการ โดย สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย(สำนักงาน กศน) ได้เด็งเห็นความสำคัญ ดังนั้นจึงไส้จัดทำหลักสูตรการรู้หนังสือไทย พุทธศักราช 2557ตามคำส่ัง กระทรวงศึกษาธิการ ที่ สป 503/2537 สั่ง ณ วันที่ 28 พฤษภาคม 2557 เรื่อง ให้ใช้หลักสูตรการรู้หนังสือ ไทย พุทธศักราช 2557 เพื่อประ โยชน์ในการส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ไม่รู้หนังสือ ผู้ลืมหนังสือไทย และ ประชาชนทั่วไปที่สนใจจะเรียนรู้กามาไทย ได้เรียนรู้หนังสือไทย สามารถฟัง พูด อ่านเขียนภามาไทย และคิด คำนวณเบื้องดันเพื่อนำใช้ในชีวิตประจำวันได้สำนักงานส่งเสริมการศึกขานอกร ะบบและการศึกษาตามอัธยาศัย เป็นหน่วยงานที่มี บทบาทภารกิจในการจัดการศึกษาให้ประชากรได้รู้หนังสือและป้องกันการลืมหนังสืออย่าง ต่อเน่อื ง จงึ ได้จัดทำ กลุม่ เป้าหมาย หลกั การ 1.เป็นการจัดการศึกษาตามหลักการการเรียนรู้หนังสือแบบเบ็ดเสร็จ (Functional Literacy)ท่ีเน้นการเรียนรู้ หนังสือไทย และการคิดคำนวณเบ้ืองต้นทบ่ี ูรณาการกับสภาพ ความตอ้ งการ และปญั หาของสังคมที่สอดคล้องกับ วถิ ีการคำเนินชีวิตของผูเ้ รียน 2. มีความขีดหยุ่นทั้งเนื้อหา เวลาเรียน วีชีเรียน สื่อ แหล่งการเรียนรู้ วิธีการวัดและประเมินผลโดยเนั้นการ พัฒนาการเรยี นรู้ของผู้เรียนท่ีแตกต่างกนั เปน็ รายบุคคล 3.เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้นำความรู้และประสบการณ์มาแลกเปลี่ยนเรือนรู้คามปรัชญาคิดเป็นส่งเสริมการมีส่วน รว่ มของผเู้ รยี น ครอบครัว ชมุ ชน และสงั คม เปน็ สำคัญ จดุ หมาย ผเู้ รียนมคี วามรู้ ความสามารถ และทักษะการฟัง พูด อา่ น เขยี นภามาไทย และการคิดคำนวณเบ้ืองต้นใน เรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน และใช้เป็นเครื่องมือในการสื่อสารกับผู้อื่น ตลอดจนแสวงหาความรู้เพื่อการ พัฒนาคุณภาพชวี ิต
2 กลมุ่ เปา้ หมาย ได้แก่ 1. ประชาชนชาวไทยท่ีไมร่ ้หู นงั สอื ไทย 2. ประชาชนไทยท่ีลมื หนังสอื ไทย 3. ประชาชนชาวไทยกล่มุ เป้าหมายฉพาะบางกลมุ่ ทไี่ ม่ใชภ้ าษาไทยในชีวิตประจำวนั 4. ประชาชนท่ัวไปทสี่ นใจจะเรียนรู้ภามาไทย โครงสร้าง เพ่อื ใหก้ ารจัดการศึกมาเปน็ ไปตามหลักการ จุดหมาย และมาตรฐานการเรียนรทู้ ี่กำหนดไวใ้ ห้สถานศึกมาและภาคี เครอื ข่ายมีแนวปฏบิ ตั ใิ นการพัฒนาสภาพการเรียนรู้เฉพาะสถานศึกษา จงึ ได้ กำหนดโครงสรา้ งของหลักสูตรการรู้หนังสอื ไทย พุทธศกั ราช 2557 ไวด้ งั นี้ 1. ระดับการศึกษา 2.ระดับการรหู้ นังสอื ไทย 3. มาตรฐานการเรยี นรู้ หลกั สูตรการรู้หนงั สือไทย พทุ ธศักราช 2557 กำหนดมาตรฐานการเรยี นรู้ ท่เี ปน็ ขอ้ กำหนด คณุ ภาพของผเู้ รยี น ดังน้ี 2.1 มีความรู้ ความเขา้ ใจ และทกั ษะในการฟงั พดู อ่าน เขียน คำที่ใชใ้ นชีวิตประจำวนั ไม่นอ้ ยกวา่ 800 คำ 2.2 สามารถใชพ้ ยัญชนะ สระวรรณยกุ ด์ในภามาไทย 2.3 สามารถใช้การคำนวณเบือ้ งต้นในเรอื่ งท่เี กี่ยวข้องกับชีวติ ประจำวัน 3. ตวั ช้ีวดั 3.1 ฟงั พดู อา่ น เขียน คำ ประโยคได้อย่างเขา้ ใจ และสามารถนำไปใช้ไนโอกาสต่าง ๆ 3.2 ปฏิบัติตนเปน็ ผู้มีมารยาทในการฟงั พดู อ่าน และเขียน 3.3 อ่าน เขยี นตัวเลขไทย เลขอารบิค จำนวน และคำนวณการบวก ลบ คูณ หาร เบือ้ งต้นท่ีใชใ้ นชีวติ ประจำวัน 3.4 ใช้ภาษาไทยในชวี ติ ประจำวันได้ถูกตอ้ ง 3.5ร เลา่ เรอ่ื ง และแสดงความรสู้ ึกเก่ียวกับตนเอง ครอบครัว และชุมชน 4. ขอบข่ายเนอ้ื หา ขอบข่ายเนือ้ หาประกอบดว้ ยการเรียนรคู้ ำหลัก อยา่ งนอ้ ย 800 คำ ซงึ่ เปน็ การเรียนรทู้ ่ีประกอบด้วยทกั ษะการฟัง พดู อ่าน เขียน การใช้พยญั ชนะ สระ วรรณยุกต์ และการคิดคำนวณเบือ้ งต้น โดยบรู ณาการอยใู่ นสภาพการเรียนรู้ ท่สี อดคลอ้ งกบั วิถชี วี ติ ของผู้เรียน ครอบครัว ชุมชน และสงั คม อย่างนอ้ ย 12 สภาพ ดังน้ี สภาพที่ 1 เมืองไทยของเรา โดยนัน้ การเรยี นรเู้ ก่ียวกบั ชาติ ศาสนา และพระมหากษตั ริย์ สภาพท่ี 2 ชวี ติ ของเรา โดยเน้นการเรยี นรู้เก่ยี วกับรา่ งกายของเรา ครอบครัว และเครือญาติ อาหาร การออกกำลังกายและนันทนาการ สขุ อนามัย โรคภยั ไข้เจ็บ และเรอ่ื งใกล้ตวั สภาพที่ 3 ภัยใกลต้ ัว โดยเนน้ การเรยี นรเู้ กี่ยวกับการพนัน อนั ตราย และภยั จากส่งิ เสพตดิ
สภาพที่ 4 การทำมาหากิน โดยเน้นการเรียนรู้เกี่ยวกับอาชีพ ผลิตภัณท์ชุมชน เงินตราเศรษฐกิจ และ การตลาดในชุมชน สภาพที่ 5 สิ่งแวดล้อมยั่งยืน โดยเน้นการเรียนรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติดินและป่าไม้ แหล่งน้ำ ภัยธรรมชาติ มลพษิ และการอนรุ กั ษ์สิ่งแวดลอ้ ม สภาพที่ 6 ชุมชนเข้มแข็ง โดยเน้นการเรียนรู้เกี่ยวกับการรวมกลุ่ม กฎ ระเบียบของชุมชน จิตสาธารณะ ประชาธิปไตย การปกครองสว่ นทอ้ งถิ่น และการอยู่รว่ มกัน สภาพที่ 7 กฎหมายน่ารู้ โดยเนั้นการเรียนรู้เกี่ยวกับกฎหมายครอบครัวและมรดกกฎหมายจราจร กฎหมายแรงงาน สภาพที่ 8 คุณธรรมนำสันติสุข โดยเน้นการเรียนรู้เกี่ยวกับความสุภาพ อ่อนน้อมซื่อสัตย์ กตัญญู ขยัน ประหขดั สามัดดี มีนำ้ ใจ และมีวินยั สภาพที่ ๑ เปิด โลกเรียนรู้ โดยเนน้ การเรียนร้เู กยี่ วกับแหล่งเรียนรู้ การคดิ เปน็ กบั การเรยี นรู้ การแสวงหา ความรู้ และสถานที่สำคัญของชุมชน สภาพที่ 10 เทคโนโลยีใกล้ตัว ไคยเน้นการเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน และ เครอื ข่ายสงั คมออนไลน์ เทคโนโลยกี ารใช้ปุย ยาฆา่ แมลง สารเคมี และสารพิษ สภาพที่ 11 พลังงาน โดยเนน้ การเรยี นรเู้ กยี่ วกบั พลงั งาน การประหชดั พลังงานและการเลือกใชพ้ ลังงาน สภาพท่ี 12 ท่องเที่ยวทั่วไทย โดยเนั้นการเรียนรู้เกีย่ วกับประเพณี วฒั นธรรม ข้อมลู และแหล่งท่องเที่ยว เส้นทางการท่องเท่ยี ว การจัดการทอ่ งเทีย่ วและมคั คุเทศก์ ส่งเสรมิ อาชีพ เพ่อื การ ท่องเท่ียวและสญั ลักษณ์ท่คี วรรู้ 5. เวลาเรยี น ใช้เวลาเรยี นดลอดหลกั สูตรการรหู้ นงั สอื ไทย พุทธศกั ราช 25ร7 ไม่น้อยกว่า 200 ช่ัวโมง เอกสารหลักฐานการศึกษา เอกสารหลักฐานการศึกมาให้เปน็ ไปตามท่ี สำนักงาน กศน. กำหนดใหส้ ถานศกึ ษาทุกแหง่ ต้องจัดทำหลักฐานการศกึ ษา ดงั น้ี 1. ทะเบยี นประวตั ิผู้เรียน 2. แบบบันทกึ ผลการเรยี นและการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ 3. แบบรายงานผจู้ บหลกั สตู ร 4. วฒุ ิบัตรการรหู้ นงั สือไทย 5. ทะเบยี นวุฒบิ ตั ร การบรหิ ารหลักสูตร สถานศึกษาที่จะนำหลักสูตรการรหู้ นงั สือไทย พทุ ธศักราช 2557 ไปใช้ควรคำเนนิ การ ดังน้ี 1. การวางแผนการดำเนินงาน สถานศึกษาชี้แจงสร้างความเข้าใจให้บุคลากรที่เกี่ยวข้องร่วมกันวางแผน เก่ยี วกับหลกั สตู ร เอกสาร ส่ือ อุปกรณ์ทางการศกึ ษา แหลง่ เรยี นรู้ บคุ ลากร ภมู ิปัญญางบประมาณ
2. การพัฒนาสภาพการเรียนรู้เฉพาะสถานศึกษา ตามหลักสูตรการรู้หนังสือไทย พุทธศักราช2557 ให้ เหมาะสมกับผู้เรียน และสอดคล้องกับบริบทของผู้เรียน ครอบครัว ชุมชน สังคม และขอความเห็นชอบจาก คณะกรรมการสถานศกึ ษา 3. การอบรมครูผู้สอน สถานศึกษาจัดให้มีการอบรมครูผู้สอนเพื่อให้มีความรู้ ความข้าใจเกี่ยวกับการ พฒั นาหลกั สตู รสถานศึกษา ตามหลักสูตรการรู้หนงั สือไทย พุทธศักราช 2557 การจดั กระบวนการเรียนรู้ การวัด และประเมินผล และอนื่ ๆ ที่เก่ียวข้อง 4. การประชาสัมพนั ธ์ สถานศกึ ษาดำเนินการประชาสมั พันธเ์ กี่ยวกบั การจัดการศึกษาตามหลักสูตรการรู้ หนังสือไทย พุทธศกั ราช 2557 ใหก้ บั ประชาชนท่วั ไป ได้รบั ขอ้ มลู ขา่ วสารอยา่ งตอ่ เนื่อง โดยใช้สือ่ ทห่ี ลากหลาย การประสานความร่วมมือกับภาคีเครอื ข่าย ใหส้ ถานศึกษาประสานงาน ชีแ้ จง ทำความเขา้ ใจกบั ภาคเี ครอื ข่าย เพ่ือ รว่ มกันจดั ส่งเสรมิ สนับสนุน และพฒั นาคุณภาพการศึกษา 6. การรับสมคั รและขน้ึ ทะเบียนผูเ้ รยี น สถานศึกษาและหรอื ภาคีเครือข่าย ดำเนนิ การรบั สมคั ร และขึ้นทะเบยี นผู้เรียน ตามหลักสูตรการรู้หนงั สอื ไทย พุทธศักราช 2557 7. การแนะแนวการเรยี น หลงั จากรับสมัครผเู้ รียนแล้ว สถานศึกษาจดั ให้ผู้เรียนได้รบั การปฐมนิเทศและแนะแนวเกี่ยวกับวิธีการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล ตามหลักสูตรการรู้หนังสือไทย พุทธศักราช 2557 8. การวางแผนการจัดการเรยี นรู้ ครูผูส้ อนและผูเ้ รียนร่วมกันจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้เป็นรายบุคคล/ รายกลุ่ม ตามสภาพและบริบทของผู้เรยี น รวมทั้งทรัพยากรแหล่งเรียนรู้ในชมุ ชน 9. การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ใหส้ ถานศึกษาดำเนินการจัดกิจกรรมการเรยี นรตู้ ามแผนการจัดการเรียนรู้ที่ กำหนด 10. การวดั และประเมินผล ให้สถานศึกษาจดั ทำเครอ่ื งมือการวดั และประเมินผลตามที่หลกั สตู รกำหนด 11. การจบหลักสตู ร ให้เป็นไปตามท่ีกำหนดไว้ในหลักสูตร
7 บทท่ี 2 เอกสารทเ่ี ก่ียวขอ้ ง ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อำเภอชุมพลบุรี ดำเนินการจัดโครงการสง่ เสริมการรู้ หนังสือไทย ลืมหนังสอื ศึกษาเอกสารกรอบเนื้อหาในการให้ความรู้ ดังนี้ แนวคิดและทฤษฎี 1. แนะแนวโครงสรา้ งหลกั สตู รและการลงทะเบยี นเรยี นประจำภาคเรยี นที่ 1/2565 2. การฝึกลีลามือ 3. พยัญชนะไทย 4. สระ วรรณยกุ ต์และการผสมคำ 5. ชื่อ - ช่ือสกลุ ของตนเอง และบคุ คลใกล้ตวั สถานที่ 6. วนั สำคัญ วฒั นธรรมและประเพณีท้องถ่ิน 7. ชอ่ื อาหารชนิดต่างๆ 8. ชอ่ื ผัก - ผลไม้ 9. คำทใ่ี ช้เรยี กชื่อทีเ่ กย่ี วขอ้ งกับรา่ งกายของเราและเครื่องนุ่งห่ม 10.คำท่ใี ชเ้ รยี กช่ือของใช้ในห้องนอนและห้องนำ้ 11.คำทกั ทาย คำอำลา คำกลา่ วขอบคุณ 12.จำนวนนบั และตวั เลข 0 - 9 การบวก ลบ คณู หาร เลข 2 หลัก 13.วัน เดือน ปี และ เวลา 14.ลกั ษณนาม 15.คำกริยา 16.ข้อความทใ่ี ชใ้ นชีวิตประจำวัน การฝกึ ลีลามือ 1. ระบบประสาทการรับรู้ เน่อื งจากวัยสงู อายเุ ซลลส์ มอง เชลลป์ ระสาทและนำ้ หนกั สมองมีจำนวนลด สง รวมทั้งมีการเสื่อมสภาพของอวัยวะรับสัมผัสต่างๆ เช่น ตามัวเนื่องจากต้อกระจกหรือต้อหิน ทำให้ ความสามารถในการมองเห็นสดลง หรอื การใด้ยินสดลงเนอื่ งจากประสาทหูเส่อื มสมรรถภาพ ทำให้ความเร็วในการ ส่งสัญญาณประสาทต่อสิ่งเร้าลดลง ส่งผลกระทบต่อความเข้าใจและการเรียนรู้ลตลงความสามารถในการเก็บ ข้อมูลหรอื เรยี นรู้สตลง จนเกิดการหลงลมื ได้ง่ายนั่นเองครับ 2. การขาตสมาธิและความตั้งใจที่จะเรียนรู้ส่ิงใหม่ๆ เนื่องจากวัยสูงยายุไม่สามารถทำหรือเรียนรู้หลายๆ อยา่ งพร้อมกันไห้ หรอื มคี วามสนใจตอ่ ส่งิ แวดล้อมตา่ งๆหรือเร่ืองราวใหม่ๆลดลง ทำให้ผ้สู งู อายไุ มใ่ ส่ใจหรือสนใจท่ี จะรับขอ้ มูล หรอื ทวนขยั มลู ซ้ำ ส่งผลให้ข้อมลู นัน้ สลายไปอย่างรวดเรว็ เกิดการ 3. ขาคทักษะการกระตุ้นสมองหรือเทคนืคช่วยจำ โดยพบว่าผสู้ งู อายุมักจะไมใ่ ช้เทคนิคในการวัดระเบียบ ความคิด ซึ่งจะเชื่อมโยงความรู้ใหม่ๆให้เข้ากับสิ่งที่เคยรู้อยู่แต่เติมทำให้ผู้สูงยายุไม่สามารถที่จะจดจำข้อมูล เร่ืองราวใหมใ่ ด้ จงึ เกิดการหลงลืมไดง้ า่ ย 4. สภาพจิตใจและจารมณ์ สภาพจิตใจและชารมณ์ก็ส่งผสรบกวนต่อความจำได้เช่นกันครับ เช่น กรณี สูญเสียบุคคลผู้เป็นที่รัก ภาระซึมเศร้า วิตกกังรถ เครียด ซึ่งผู้สูงอายุจะหมกมุ่นอยู่แค่กับความคิดและความรู้สึก ภายในของตน ทำให้ความตง้ั ใจหรอื ความสนใจและสมาชสี ตลง ทำใหผ้ ้สู ูงอายุรับรหู้ รือรบั ข้อมูลต่างๆลดลง
3. พยญั ชนะไทย พยัญชนะไทย คือ เครอ่ื งหมายหรือตวั อกั ษร ก-ฮ ที่ใชแ้ ทนเสียงพยญั ชนะในภาษาไทย เพ่ือนำไปประกอบ เป็นคำที่มีความหมายสำหรับใช้สื่อสาร พยัญชนะไทยมี 44 ตัว 21 เสียง แบ่งได้เป็นอักษร 3 หมู่ หรือไตรยางศ์ หาคำตอบว่าพยัญชนะไทยมีอะไรบ้าง และมีกี่เสียง รวมทั้งสื่อการสอนและแบบฝึกเขยี นพยญั ชนะไทย 44 ตัวได้ ในบทความนี้ สรปุ ขอ้ มูลสำคญั เก่ยี วกับพยญั ชนะไทย 1. พยญั ชนะไทยคอื อะไร? พยัญชนะไทย คือ เคร่อื งหมายหรือตวั อักษร ก-ฮ ทใ่ี ชแ้ ทนเสยี งในภาษาไทย 2. พยญั ชนะไทยมีกต่ี วั ? พยัญชนะไทยมี 44 ตัว (รปู ) และ 21 เสียง 3. ไตรยางศค์ อื อะไร และพยัญชนะไทยแบง่ ออกเปน็ กี่หมู่? ไตรยางศ์ คอื ระบบการจดั หมวดหมูอ่ ักษรไทย พยัญชนะไทยแบง่ ออกเป็น 3 หมตู่ ามไตรยางศ์ คอื อักษรสงู อักษรกลาง และอักษรต่ำ 4. อักษรสงู มอี ะไรบา้ ง? อกั ษรสงู คือ ข ฃ ฉ ฐ ถ ผ ฝ ศ ษ ส ห 5. อักษรกลางมอี ะไรบา้ ง? อกั ษรกลาง คอื ก จ ฎ ฏ ด ต บ ป อ 6. อักษรตำ่ มอี ะไรบ้าง? อักษรต่ำ คอื ค ฅ ฆ ง ช ซ ฌ ญ ฑ ฒ ณ ท ธ น พ ฟ ภ ม ย ร ล ว ฬ ฮ สระ วรรณยุกตแ์ ละการผสมคำ เสียงสระในภาษาไทยแบง่ ออกเป็น 3 ชนิดคอื สระเดีย่ ว สระประสม และสระเกนิ สะกดดว้ ยรปู สระ พน้ื ฐานหนึง่ ตัวหรอื หลายตัวร่วมกนั (ดูที่ อักษรไทย)สระเดี่ยว หรอื สระแท้ คือสระท่ีเกิดจากฐานเพยี งฐาน เดียว มีทง้ั สิ้น 18 เสียง อกั ษรโรมันทีก่ ำกบั เปน็ ระบบถอดอักษรของราชบณั ฑติ ยสถานสระประสม คือสระที่ เกดิ จากสระเดี่ยวสองเสยี งมาประสมกัน เกิดการเล่ือนของลนิ้ ในระดับสงู ลดลงสรู่ ะดบั ต่ำ ดงั นั้นจึงสามารถ เรียกอีกช่อื หนง่ึ วา่ \"สระเลื่อน\" มี 3 เสียงดงั นี้ เ–ยี /iːa/ ประสมจากสระ อี และ อา ia เ–อื /wːa/ ประสมจากสระ อือ และ อา uea –ัว /uːa/ ประสมจากสระ อู และ อา ua ในบางตำราจะเพิ่มสระสระประสมเสยี งส้ัน คอื เ–ียะ เ–ือะ –ัวะ ดว้ ย แต่ในปจั จุบันสระเหล่าน้ีปรากฏเฉพาะ คำเลียนเสียงเทา่ นน้ั เช่น เพยี ะ เปรี๊ยะ ผวั ะ เป็นต้น สระเกิน คือสระที่มเี สยี งของพยญั ชนะปนอยู่ มี 8 เสียงดังนี้ –ำ /am, aːm/ am ประสมจาก อะ + ม (อมั ) เช่น ขำ บางครงั้ ออกเสยี งยาวเวลาพูด (อาม) เชน่ นำ้ ใ– /aj, aːj/ ai ประสมจาก อะ + ย (อยั ) เช่น ใจ บางครั้งออกเสยี งยาวเวลาพูด (อาย) เช่น ใต้ ไ– /aj, aːj/ ai ประสมจาก อะ + ย (อยั ) เช่น ไหม้ บางครั้งออกเสยี งยาวเวลาพูด (อาย) เช่น ไม้ เ–า /aw, aːw/ ao ประสมจาก อะ + ว (เอา) เช่น เกา บางคร้ังออกเสยี งยาวเวลาพดู (อาว) เช่น เก้า ฤ /rw/ rue, ri, roe ประสมจาก ร + อึ (รึ) เช่น ฤกษ์ บางครั้งเปลี่ยนเปน็ /ri/ (ร)ิ เช่น กฤษณะ หรอื /rrː/ (เรอ) เชน่ ฤกษ์ ฤๅ /rwː/ rue ประสมจาก ร + อือ (รอื ) ฦ /lw/ lue ประสมจาก ล + อึ (ล)ึ ฦๅ /lwː/ lue ประสมจาก ล + อือ (ลือ)
บางตำราก็ว่าสระเกนิ เปน็ พยางค์ ไม่ถูกจัดวา่ เปน็ สระ สระบางรปู เม่ือมีพยญั ชนะสะกด จะมีการเปลย่ี นแปลงรปู สระ สามารถสรปุ ไดต้ ามตารางดา้ นขวา 1 คำทส่ี ะกดด้วย –ะ + ว นนั้ ไม่มี เพราะซ้ำกบั –ัว แตเ่ ปล่ียนไปใช้ เ–า แทน 2 คำท่ีสะกดดว้ ย –อ + ร จะลดรปู เปน็ –ร ไมม่ ีตวั ออ เชน่ พร ศร จร ซ่งึ กจ็ ะไปซ้ำกบั สระ โ–ะ ดังนน้ั คำท่ี สะกดดว้ ย โ–ะ + ร จงึ ไม่มี 3 สระ เ–อะ ท่ีมตี ัวสะกดใชร้ ปู เดยี วกับสระ เ–อ เช่น เงนิ เป่ิน เห่ย 4 คำที่สะกดดว้ ย เ–อ + ย จะลดรูปเปน็ เ–ย ไม่มีพนิ ท์ุอิ เชน่ เคย เนย เลย ซึง่ ก็จะไปซ้ำกับสระ เ– ดังนน้ั คำ ทสี่ ะกดดว้ ย เ– + ย จงึ ไม่มี 5 พบไดน้ ้อยคำ เชน่ เทอญ เทอม 6 มพี ยัญชนะสะกดเป็น ย เช่น ไทย ไชย วรรณยุกต์ เสียงวรรณยุกต์ คำเปน็ เสียงวรรณยุกต์ ในภาษาไทย (เสียงดนตรหี รือเสยี งผนั ) จำแนกออกได้เปน็ 5 เสยี ง • สามญั • เอก • โท • ตรี • จัตวา • คำตาย เสียงวรรณยุกต์ในคำตายสามารถมีได้แค่เพียง 3 เสียงวรรณยุกต์ คือ เสียงเอก เสยี งโท และ เสียงตรี โดย ข้ึนอยู่กับความสัน้ ความยาวของสระ เสียงเอกสามารถออกเสียงควบคกู่ บั ไดส้ ระสัน้ หรอื ยาว เสียงตรีสามารถ ออกเสียงควบคู่กบั สระสน้ั และ เสียงโทสามารถออกเสียงควบคู่กับสระยาว • เอก • ตรี • โท แต่อย่างใดก็ดี ในคำยืมบางคำที่มีรากศัพทม์ าจากภาษาองั กฤษ คำตายสามารถมีเสยี งตรีควบคู่กับสระยาว และเสยี งโทควบคู่กับสระส้ันได้ดว้ ย รูปวรรณยุกต์ ส่วน รูปวรรณยกุ ต์ มี 4 รูป ไดแ้ ก่ ่ ้ ๊ ๋
การเขียนเสียงวรรณยุกต์ ทัง้ นีค้ ำท่ีมีรูปวรรณยกุ ต์เดียวกนั ไม่จำเปน็ ต้องมรี ะดับเสยี งวรรณยกุ ต์เดียวกัน ขน้ึ อยูก่ บั ระดบั เสียงของ อกั ษรนำดว้ ย เช่น ข้า (ไมโ้ ท) ออกเสียงโทเหมือน ค่า (ไมเ้ อก) คำกิรยิ า คำกรยิ า หมายถึง คำแสดงอาการ การกระทำ หรือบอกสภาพของคำนามหรอื คำสรรพนาม เพ่ือให้ได้ ความ เชน่ คำว่า กนิ เดนิ นั่ง นอน เลน่ จบั เขยี น อ่าน เปน็ คอื ถกู คลา้ ย เป็นต้น ชนิดของคำกรยิ า คำกริยาแบ่งเปน็ ๕ ชนิด ๑. อกรรมกรยิ า คือ คำกรยิ าท่ไี ม่ต้องมีกรรมมารับก็ได้ความสมบูรณ์ เขา้ ใจได้ เช่น - เขา\"ยนื \"อยู่ - นอ้ ง\"นอน\" ๒. สกรรมกรยิ า คอื คำกรยิ าทต่ี อ้ งมกี รรมมารับ เพราะคำกริยานไี้ ม่มคี วามสมบรู ณ์ในตัวเอง เช่น - ฉนั \"กิน\"ขา้ ว (ขา้ วเปน็ กรรมทมี่ ารับคำว่ากนิ ) - เขา\"เห็น\"นก (นกเปน็ กรรมทม่ี ารบั คำว่าเห็น) ๓. วกิ ตรรถกรยิ า คอื คำกริยาท่ไี ม่มคี วามหมายในตัวเอง ใช้ตามลำพงั แล้วไม่ได้ความ ต้องมีคำอน่ื มาประกอบจงึ จะได้ความ คำกรยิ าพวกนี้คอื เป็น เหมือน คลา้ ย เท่า คือ เช่น - เขา\"เป็น\"นักเรียน - เขา\"คือ\"ครขู องฉันเอง ๔. กริยานเุ คราะห์ คือ คำกรยิ าท่ีทำหน้าทชี่ ่วยคำกรยิ าสำคญั ในประโยคให้มีความหมายชดั เจนขน้ึ ไดแ้ ก่คำวา่ จง กำลัง จะ ยอ่ ม คง ยงั ถูก นะ เถอะ เทอญ ฯลฯ เช่น - นายดำ\"จะ\"ไปโรงเรยี น - เขา\"ถกู \"ตี ๕. กรยิ าสภาวมาลา คือ คำกริยาท่ที ำหนา้ ท่ีเปน็ คำนามจะเปน็ ประธาน กรรม หรือบทขยายของประโยคก็ได้ เช่น - \"นอน\"หลับเปน็ การพักผ่อนที่ดี (นอน เป็นคำกริยาทเี่ ป็นประธานของประโยค) - ฉนั ชอบไป\"เทย่ี ว\"กับเธอ (เทย่ี ว เป็นคำกริยาท่ีเปน็ กรรมของประโยค) หนา้ ท่ขี องคำกรยิ ามีดังนี้คือ ๑. ทำหนา้ ท่เี ป็นตัวแสดงในภาคแสดงของประโยค เช่น - ขนมวางอยู่บนโตะ๊ - นกั เรยี นอ่านหนังสือทุกวัน ๒. ทำหน้าทข่ี ยายคำนาม เช่น - วนั เดนิ ทางของเขาคือวนั พรุง่ นี้ (\"เดนิ ทาง\" เปน็ คำกรยิ าท่ไี ปขยายคำนาม \"วัน\") ๓. ทำหนา้ ท่ขี ยายกริยา เชน่
- เดก็ คนนัน้ นัง่ ดนู ก (\"ด\"ู เป็นคำกรยิ าที่ไปขยายคำกรยิ า \"นง่ั \") ๔. ทำหน้าทีเ่ หมอื นคำนาม เช่น - ออกกำลังกายทุกวนั ทำใหร้ า่ งกายแข็งแรง (\"ออกกำลงั กาย\" เปน็ คำกริยา ทำหนา้ ที่เปน็ ประธานของประโยค) - เดก็ ชอบเดนิ เรว็ ๆ (\"เดิน\" เป็นคำกรยิ า ทำหนา้ ท่ีเป็นกรรมของประโยค)
บทท่ี 3 16 วธิ ีการดำเนนิ งาน ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอชุมพลบุรี ดำเนนิ การจัดโครงการสง่ เสรมิ การ รหู้ นงั สอื ไทย ลมื หนังสือ มีวธิ ีการดำเนนิ งาน ดังน้ี ประชากรกลุ่มตวั อย่างทีใ่ ชใ้ นการศกึ ษา ประชากร คอื ผู้สงู อายทุ ล่ี ืมหนังสือไทย โครงสร้าง จำนวน 4 คน เครื่องมือท่ีใช้ในการศึกษา เครอ่ื งมือท่ีใช้ในการเกบ็ รวบรวมข้อมลู โครงการส่งเสรมิ การรหู้ นงั สอื ไทย ลืมหนังสือเป็นแบบสอบถามท่ีใช้ในการ ประเมินผลโครงการประกอบดว้ ยเนอื้ หา ดงั นี้ ตอนท่ี 1 ขอ้ มูลทวั่ ไป ตอนท่ี 2 ระดับความพึงพอใจท่มี ตี ่อการเข้าร่วมโครงการฯ ลกั ษณะคำถามแบบ การเก็บรวบรวมข้อมลู 1. การเกบ็ รวบรวมข้อมูลในการประเมนิ โครงการฯ จากการตอบแบบสอบถามความคิดเห็นของ ผ้เู ขา้ รว่ มโครงการ 2. การจดั ทำข้อมูลนำแบบสอบถามทีไ่ ด้รบั คนื มาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณแ์ ละกำหนดคะแนน ตามน้ำหนกั แตล่ ะข้อ เพ่อื นำไปวิเคราะหโ์ ดยวิธกี ารทางสถิตินำผลการคำนวณมาวิเคราะหข์ ้อมลู ตาม วัตถุประสงค์ของการประเมินการแปลความหมายของคะแนนของแบบสอบถามความคดิ เห็น ผปู้ ระเมินกำหนด เกณฑ์โดยอาศยั คา่ เฉล่ีย (Mean) ของคะแนนเป็นตัวช้วี ดั นำมาแปลความหมายเทียบกับเกณฑ์ ดังนี้ สถิตทิ ีใ่ ช้ในการวิเคราะหข์ ้อมลู แบบประเมนิ ผลตอนท่ี ๑ การแจกแจงความถแ่ี ละค่ารอ้ ยละ แบบประเมนิ ผลตอนท่ี ๒ ค่าเฉล่ียและคา่ ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน แบบประเมินผลตอนท่ี ๓ เปน็ คำถามปลายเปดิ นำขอ้ เสนอแนะท่ีมีความเรยี งคลา้ ยกันมาสรปุ ตามลำดบั ความถ่ี นำข้อมลู ท่ไี ด้จากการวิเคราะหส์ รปุ เพอื่ วเิ คราะห์ จุดเด่น จุดด้อยและนำข้อมูลที่ได้ไปใช้เพอ่ื การปรบั ปรงุ การจดั กจิ กรรมในคร้ังตอ่ ไป สถิตทิ ใี่ ช้ในการวเิ คราะห์ข้อมูล - ความถ่ี - คา่ ร้อยละ - ค่าเฉลี่ย - ค่าส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน
17 ผลท่ีคาดว่าจะไดร้ ับ -กลมุ่ เป่าหมายมีความรู้ ความเข้าใจของโครงการสง่ เสรมิ การรูห้ นังสือไทย ลืมหนังสือ มคี วามรู้ ความ เข้าใจในบทบาทหนา้ ที่ -กลุม่ เป่าหมายมีความรู้ ความเข้าใจของโครงการส่งเสริมการร้หู นังสือไทย ลมื หนงั สือเพ่ือเป็นแนวทางใน การปฏิบตั ติ นให้เป็นนักศึกษาทด่ี ีของสถานศึกษา ตัวช้ีวัดผลสำเรจ็ ของโครงการ 1.ดชั นีวดั ผลผลติ ( output ) เชิงปรมิ าณ - นักศกึ ษา กศน.อำเภอชุมพลบรุ ี ระดับประถมศึกษา ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนต้น และระดับ มัธยมศกึ ษาตอนปลาย ประจำภาคเรียนที่ ๒/๒๕๖๔ จำนวน ๑๘๐ คน เชิงคณุ ภาพ - รอ้ ยละ ๘๕ ของผเู้ รยี นทีอ่ ่านออกเขียนไดแ้ ละคดิ เลขเป็นเขียน - ร้อยละ ๘๕ ส่งเสริมการรู้หนังสือ และป้องกันการลืมหนังสือให้กับประชาชนและพัฒนาคุณภาพชีวิต ของประชาชนใหด้ ีขึ้น
18 2.ดัชนีช้ีวัดผลลัพธ์ ( outcome ) - นกั ศึกษามีความรู้ ความเข้าใจในหลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 - นกั ศกึ ษามคี วามรู้ ความเข้าใจในการปฏบิ ตั ติ นตามกฎ ระเบียบของสถานศึกษา - นกั ศึกษามที ักษะในการเรยี นรแู้ ละรว่ มกจิ กรรมตามหลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดับ การศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐานพุทธศกั ราช 2551 - ครแู ละนกั ศึกษามีปฏิสัมพนั ธ์และสร้างมนษุ ยส์ ัมพนั ธ์ต่อการเรยี นรู้ - ครูและนกั ศึกษามเี จตคติ ท่ีดตี อ่ การจัดการศึกษาตามหลักสตู รการศึกษานอกระบบระดับ การศึกษาข้นั พนื้ ฐานพุทธศักราช 2551 ประโยชน์ ที่ไดร้ ับ ตวั ชี้วดั ความสำเร็จของโครงการ ๑ ตัวช้วี ัดผลผลิต (Out puts) ๑๒.๑ กลุ่มผ้ไู มร่ ู้หนงั สอื ป้องกนั การลืมหนงั สือ ๑๒.๒ กลุม่ ผไู้ ม่รหู้ นังสือพัฒนาทักษะด้านการอ่าน การเขยี น และการคิดคำนวณไดอ้ ย่างถูกต้อง ๑๒.๓ กลมุ่ ผไู้ มร่ ู้หนังสอื พฒั นาคณุ ภาพชีวติ ให้ดีข้นึ ๑.๔ ร้อยละ 95 ของผู้เข้าร่วมโครงการสง่ เสริมการรู้หนงั สือไทย ลืมหนังสือ มีความพึงพอใจอยูร่ ะดับดี มาก ๒ ตัวชว้ี ดั ผลลพั ธ์ (Outcomes) -ผู้ไม่รหู้ นังสือในพืน้ ทอี่ ำเภอชุมพลบุรี สามารถอ่านหนงั สอื ออกเขียนหนังสือได้และเกิดการเรียนไปฏิบตั ิได้ -กลุ่มเปา่ หมาย มีทักษะดา้ นการอา่ น การเขยี น และการคดิ คำนวณได้อย่างถกู ต้อง นำไปพัฒนาคณุ ภาพ ชวี ติ ของให้ดขี นึ้
19 บทท่ี 4 ผลการดำเนินงาน ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อำเภอชมุ พลบุรี ดำเนนิ การจัดผลการดำเนินงาน มีผลการดำเนนิ งานดังนี้ ในการวิเคราะหข์ ้อมลู เพื่อตอบวัตถุประสงค์ของการประเมินตามทีก่ ำหนดไว้ ผูป้ ระเมนิ ใช้ วิธีการทาง สถิติ ประกอบดว้ ย ค่ารอ้ ยละ (Percentage) 1. การนำเสนอผลการวเิ คราะหข์ ้อมูล โดยผู้ประเมินได้เสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลเปน็ รายด้านตามโมเดลการประเมินซ่ึงใช้รปู แบบสอบถาม ดงั ตอ่ ไปนี้ ตอนที่ 1 ข้อมลู ท่ัวไปของผูต้ อบแบบสอบถาม ตอนท่ี 2 การประเมินผลตามวตั ถปุ ระสงค์ของโครงการ / กจิ กรรม ตอนท่ี ๓ ข้อเสนอแนะ เกณฑก์ ารวเิ คราะหข์ อ้ มลู ในการประเมนิ มากท่ีสุด คะแนน ๕ มาก คะแนน ๔ ปานกลาง คะแนน ๓ นอ้ ย คะแนน ๒ นอ้ ยทีส่ ุด คะแนน ๑ ค่าเฉลย่ี ในการวเิ คราะหข์ อ้ มลู ๔.๒๑ - ๕.๐๐ คอื คะแนนทไ่ี ด้รับรู้ ระดบั ความคดิ เห็น อยู่ในระดับ มากทสี่ ุด ๓.๔๑ – ๔.๒๐ คอื คะแนนทไ่ี ดร้ บั รู้ ระดับความคิดเหน็ อยู่ในระดับ มาก ๒.๖๑ - ๓.๔๐ คือคะแนนท่ีได้รบั รู้ ระดับความคดิ เห็น อยู่ในระดับ ปานกลาง ๑.๘๑ - ๒.๖๐ คือคะแนนที่ได้รับรู้ ระดับความคิดเห็น อยใู่ นระดบั น้อย ๑.๐๐ – ๑.๘๐ คอื คะแนนทไี่ ด้รับรู้ ระดบั ความคิดเหน็ อยู่ในระดับ น้อยทส่ี ดุ
20 2. ผลการวิเคราะหข์ ้อมูล สรุปผลการดำเนินงานโครงการโดยการเก็บข้อมูลจากนักศึกษาผ้เู ขา้ รว่ มโครงการโดยใชแ้ บบสอบถาม ความพงึ พอใจทมี่ ีต่อโครงการ โดยสอบถามจากกลุ่มตวั อย่าง 4 จำนวน คน ดงั น้ี 2.1.ขอ้ มลู พ้นื ฐานของผ้เู ขา้ ร่วมกจิ กรรม 2.๑.1. เพศ เพศ จำนวน เปอรเ์ ซน็ ต์ ชาย 1 25.00 หญิง 3 75.00 รวม 4 100.00 จากตารางพบว่า ผเู้ ข้ารว่ มกิจกรรมเปน็ เพศชาย จำนวน 1 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 25.00 ผูเ้ ข้าร่วมโครงการฯเปน็ เพศ หญิง จำนวน 3 คน คิดเปน็ ร้อยละ 75.00 2.๑.2. อายุ รายการ ชว่ งอายุ( ปี ) ตำ่ กว่า 15 ปี 15 - 39 40- ๕9 60ปขี ึ้นไป จำนวน ( คน ) - --4 เปอร์เซน็ ต์ - -- - จากตารางพบวา่ ผเู้ ข้าร่วมกิจกรรมอยู่ในชว่ งอายุ 60 ปี เข้าร่วมกจิ กรรมมากทสี่ ุด คิดเป็นร้อยละ 100.00 ตามลำดับ 2.๑.3. ระดบั การศกึ ษา เพศ จำนวน เปอร์เซน็ ต์ ระดับประถม 4 1.60 ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนต้น - - ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย - - รวม 4 1.60 จากตารางพบว่า ผู้เขา้ รว่ มกิจกรรมระดับประถม จำนวน 4 คน คิดเปน็ ร้อยละ 1.60 2.๑.3. ด้านอาชพี จำนวน เปอร์เซ็นต์ เพศ -- -- อาชพี รบั จา้ ง อาชีพค้าขาย อาชพี เกษตรกรรม -- อาชีพรับราชการ -- อ่ืนๆ 4 1.60 4 1.60 รวม จากตารางพบวา่ ผู้เขา้ ร่วมกิจกรรมอาชีพอน่ื ๆ จำนวน 4 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 1.60
21 2.2 ขอ้ มลู ระดบั ความพึงพอใจทม่ี ตี ่อ โครงการปฐมนิเทศนกั ศกึ ษาหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับ การศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 ประจำภาคเรียนที่ 2/๒๕๖4 ๑. ดา้ นวิทยากร ระดับความพงึ พอใจ ท่ี รายการ มากทส่ี ุด มาก ปาน น้อย นอ้ ย X แปล กลาง ท่ีสดุ ความหมาย 1. การเตรยี มตวั และความพรอ้ มของวทิ ยากร 15 4 - - - 4.75 มากท่สี ดุ 2. การถา่ ยทอดของวิทยากร 20 - - - - 5.00 มากทส่ี ุด 3. สามารถอธิบายเนื้อหาได้ชัดเจนและตรงประเด็น 10 8 - - - 4.50 มากที่สดุ 4. ใช้ภาษาที่เหมาะสมและเข้าใจงา่ ย 20 - - - - 5.00 มากทส่ี ุด ๕. การตอบคำถามของวทิ ยากรและการมสี ว่ นรว่ มใน มากทส่ี ุด กิจกรรม 15 4 - - - 4.75 6. เอกสารประกอบการบรรยายส่ือ /ประกอบการ มากทสี่ ดุ เรยี นเพียงพอเพยี งใด 20 - - - - 5.00 รวม X 4.83 มากที่สุด จากตาราง จะพบว่า ผู้เข้าร่วมกิจกรรมตามโครงการมีความพึงพอใจ โดยรวมเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด (=5.00) และเม่อื พิจารณาเปน็ รายดา้ นพบว่าอยู่ในระดับมากทส่ี ดุ ตามลำดับ โดยเรยี งลำดบั จากมากไปน้อย ดังน้ี ใช้ภาษาที่เหมาะสมและเข้าใจง่าย (=5.00)การถ่ายทอดของวิทยากร(=5.00) เอกสารประกอบการบรรยาย เหมาะสมจำนวนสื่อ / อุปกรณ์การฝึกประกอบการเรียนเพียงพอเพียงใด(=5.00) การเตรียมตัวและความพร้อม ของวทิ ยากร(=4.75) การตอบคำถามของวทิ ยากร (=4.75) สามารถอธบิ ายเนอื้ หาไดช้ ัดเจนและตรงประเดน็ (=4.50) ตามลำดับ ๒.ด้านสถานท่ี / ระยะเวลา ระดบั ความพึงพอใจ ท่ี รายการ มากทสี่ ุด มาก ปาน นอ้ ย น้อย แปล กลาง ทีส่ ุด X ความหมาย 1.สถานท่ีจัดสะอาดและมคี วามเหมาะสม 2.ความพร้อมของอปุ กรณ์โสตทัศนปู กรณ์ 10 8 - - - 4.50 มากที่สดุ 3.ระยะเวลาในการอบรมมีความเหมาะสม 20 - - - - 5.00 มากทส่ี ดุ 15 4 - - - 4.75 มากทส่ี ุด รวม X 4.75 มากที่สดุ จากตาราง จะพบวา่ ผูเ้ ขา้ รว่ มกิจกรรมตามโครงการมคี วามพงึ พอใจ โดยรวมเฉลีย่ อยู่ในระดับมากทส่ี ุด (=5.00) และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบวา่ อยใู่ นระดับมากทสี่ ุดทกุ ด้าน โดยเรยี งลำดับจากมากไปน้อย ดังนี้ ของอปุ กรณโ์ สตทัศนูปกรณ์ (= 5.00) ระยะเวลาในการอบรมมีความเหมาะสม(=4.75) สถานทีจ่ ัดสะอาดและมี ความเหมาะสม(= 4.50) ความพร้อม ตามลำดับ
22 ๓. ดา้ นเนอื้ หา ระดับความพึงพอใจ ที่ รายการ มากที่สดุ มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย X แปล กลาง ทส่ี ุด ความหมาย เนอื้ หามีความชดั เจนครบตามวัตถุประสงค์ 15 4 - - - 4.75 มากที่สุด ความรู้ทกั ษะที่ได้ สามารถนำไปใชเ้ ผยแพรได้ 20 - - - - 5.00 มากทส่ี ดุ ทา่ นพึงพอใจต่อหลักสูตรนเี้ พียงใด 10 8 - - - 4.50 มากทส่ี ุด รวม X 4.75 มากท่สี ุด จากตาราง จะพบวา่ ผู้เข้ารว่ มกจิ กรรมตามโครงการมคี วามพงึ พอใจ โดยรวมเฉล่ยี อยูใ่ นระดบั มากท่ีสดุ (=5.00) และเมอ่ื พิจารณาเป็นรายดา้ นพบวา่ อยู่ในระดบั มากทส่ี ุดทุกดา้ น โดยเรียงลำดับจากมากไปน้อย ดังน้ี ความรูท้ ักษะทีไ่ ด้ สามารถนำไปใชป้ ระกอบอาชีพได้เพยี งใด(=5.00) สามารถฝกึ ทกั ษะไดต้ ามทคี่ าดหวังมากนอ้ ย เพยี งใด(=4.75) ท่านพึงพอใจตอ่ หลกั สูตรนี้เพยี งใด(=4.50) ทา่ นได้รบั ความรู้ และ ตามลำดบั ๔. ดา้ นการนำความร้ไู ปใช้ ระดับความพึงพอใจ ท่ี รายการ มากท่สี ดุ มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย แปล กลาง ทีส่ ุด X ความหมาย 1. เขา้ ใจเนื้อหาตามตวั ช้ีวัดและนำความรู้ทไ่ี ด้รับ 15 4 - - - 4.75 มากที่สดุ ไปใชเ้ กิดประโยชน์และคุ้มคา่ 2. สามารถนำความรู้ไปเผยแพร่/และถา่ ยทอดได้ 20 - - - - 5.00 มากที่สุด รวม X 4.87 มากท่ีสุด จากตาราง จะพบว่า ผู้เขา้ รว่ มกจิ กรรมตามโครงการมีความพึงพอใจ โดยรวมเฉล่ยี อยู่ในระดับมากที่สุด (=4.80) และเมื่อพจิ ารณาเปน็ รายด้านพบว่าอย่ใู นระดับมากที่สดุ ทกุ ดา้ น โดยเรยี งลำดบั จากมากไปน้อย ดงั น้ี สามารถนำความรู้ทไี่ ด้รับไปประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ของตนเอง ครอบครวั ได้(=4.80) และสามารถนำความรู้ ไปเผยแพร่ / ถ่ายทอดแก่ชุมชนได(้ =4.79) ตามลำดบั ๕. ความพึงพอใจที่มีตอ่ การเข้าร่วมโครงการ ที่ รายการ มากที่สุด ระดับความพงึ พอใจ มาก ปานกลาง นอ้ ย นอ้ ยที่สุด 1. มคี วามพึงพอใจต่อการเข้ารว่ ม 225 44 - - - โครงการสง่ เสรมิ การรหู้ นังสือไทย ลมื หนงั สอื รวม 225 44 - - - จากการประเมนิ ความพงึ พอใจของผเู้ ข้าร่วมโครงการสง่ เสริมการรู้หนังสอื ไทย ลมื หนงั สือ ผู้เขา้ ร่วมโครงการมรี ะดับความพงึ พอใจระดบั มากและมากที่สุด รอ้ ยละ 66.21 บรรลุตามเปา้ หมายท่ีกำหนดไว้ โดยการส่มุ ตัวอย่างจากกตารางแคซ่ี&มอร์แกรน จำนวน 4 คน
สรุป 23 ตารางที่ สรปุ ผลการดำเนนิ งานตามโครงการ ตัวชว้ี ัด เกณฑ์ ผลการ เปา้ หมายการบรรลุ หมายเหตุ ๑. ด้านวิทยากร ดำเนนิ งาน บรรลุ ไมบ่ รรลุ 4.83 ดมี าก 4.83 √ ๒. ดา้ นสถานท่ี 4.75 4.75 √ ดีมาก 4.75 ๓. ด้านความรู้ 4.75 √ ความเข้าใข ดีมาก 4.ดา้ นนำความรู้ 4.87 4.87 √ ไปใช้ ดมี าก
24 บทท่ี 5 สรุปผลและอภปิ รายขอ้ มูล ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอชุมพลบรุ ี ดำเนนิ การจดั โครงการสง่ เสรมิ การ รูห้ นังสอื ไทย ลมื หนังสือ มีวิธีการสรุปผลและอภิปรายข้อมูล ดงั น้ี 1.สรุปผลการประเมนิ โครงการ วตั ถุประสงค์การศกึ ษา ๑. เพ่ือศกึ ษาสภาพการดำเนินงานของโครงการส่งเสริมการรหู้ นงั สอื ไทย ลมื หนังสือ ๒. เพ่ือศกึ ษาผลการดำเนนิ งานของโครงการ ดังนี้ ๒.๑. จำนวนผู้เขา้ ร่วมโครงการเปรยี บเทยี บกับเป้าหมาย ๒.๒. ความรู้ ความเข้าใจและทักษะที่ไดร้ ับจากการเข้าร่วมโครงการ ๒.๓. การนำไปใช้ประโยชน์ ๒.๔. ความพงึ พอใจ ๓. เพือ่ ศึกษาข้อคดิ เห็นและข้อเสนอแนะ ขอบเขตของโครงการ ๑. ดา้ นเนื้อหา 1. แนะแนวโครงสร้างหลกั สตู รและการลงทะเบียนเรยี นประจำภาคเรยี นทื 1/2565 2. การฝกึ ลีลามอื 3. พยญั ชนะไทย 4. สระ วรรณยุกต์และการผสมคำ 5. ชื่อ - ช่ือสกุลของตนเอง และบุคคลใกลต้ ัว สถานที่ 6. วนั สำคญั วฒั นธรรมและประเพณที ้องถ่นิ 7. ช่อื อาหารชนิดตา่ งๆ 8. ชื่อผกั - ผลไม้ 9. คำท่ใี ชเ้ รยี กชือ่ ที่เก่ียวข้องกับรา่ งกายของเราและเคร่ืองนุ่งห่ม 10. คำท่ใี ช้เรยี กชอ่ื ของใชใ้ นห้องนอนและห้องนำ้ 11. คำทกั ทาย คำอำลา คำกลา่ วขอบคณุ 12. จำนวนนับและตวั เลข 0 - 9 การบวก ลบ คูณ หาร เลข 2 หลกั 13. วนั เดอื น ปี และ เวลา 14. ลักษณนาม 15. คำกรยิ า 16. ข้อความท่ใี ชใ้ นชีวิตประจำวนั 2.รปู แบบการจดั กิจกรรม 1. สำรวจพื้นท่แี ละจดั เตรยี มสถานท่ีเพื่อจัดกจิ กรรมฯ 2. ประสานงานกลุ่มเป้าหมายเพ่อื เข้ารว่ มกจิ กรรมฯ 3. จัดหาวสั ดอุ ปุ กรณท์ ี่เก่ยี วขอ้ ง สื่อ /คู่มือ 4. จัดกิจกรรมฯ ตามวนั เวลาและสถานท่ีที่กำหนด โดยมกี ารดำเนินงาน ตามกำหนดการ
25 3.สรปุ ผลการศึกษา 1. เพอื่ ต้องการทราบความพงึ พอใจของผู้เขา้ ร่วมโครงการส่งเสริมการรูห้ นังสือไทย ลืมหนงั สอื ประชาชน เพ่อื เปน็ แนวทางในการปฏิบตั ิตนให้เปน็ นกั ศกึ ษาท่ีดีของสถานศึกษา 2. กลุ่มเป่าหมายสามารถอ่านออกเขียนได้และมีทักษะในการเขียนสามารถนำไปใช้ในการดำเนินชีวิต ได้ อยูใ่ นเกณฑด์ ีมาก 3. เพอื่ เปิดโอกาสให้ผู้เขา้ ร่วมกิจกรรมมีสว่ นร่วมในการแสดงความคิดเห็น และข้อเสนอแนะต่างๆ 4. เพือ่ นำผลจากการติดตามและประเมินผล ไปเป็นข้อมูลในการพัฒนา ปรบั ปรุงการดำเนนิ งานตาม แผนกำหนดการให้บรรลตุ ามวัตถุประสงค์และมปี ระสทิ ธภิ าพมากยิง่ ขึ้น 4.อภิปรายผล สรุปผลการดำเนินงาน ๑. สรุปภาพรวมจากการดำเนนิ โครงการสง่ เสริมการร้หู นังสือไทย ลืมหนงั สือ มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจ ๒. สามารถดำเนินงานได้ สำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์ของโครงการฯ ผู้ที่เข้าร่วมโครงการส่วนใหญ่ มี ความคดิ เหน็ เก่ยี วกับการดำเนนิ โครงการในภาพรวม อยูใ่ นระดับ มาก ๓.และจากการติดตามและประเมนิ ผลจากกลุ่มตัวอยา่ งท่ีเข้า รว่ มโครงการ จำนวน 4 คน พบวา่ ผ้ตู อบ แบบประเมนิ ส่วนใหญ่มีความพึงพอใจต่อการดำเนินงานในภาพรวม อยู่ในระดบั ดมี าก 5.ประโยชน์ที่ได้รับจากการทำกจิ กรรม 1. กลมุ่ เป่าหมาย ความเข้าใจใน 2. นกั ศกึ ษามีความรู้ ความเข้าใจในการปฏิบัติตนตามกฎ ระเบียบของสถานศึกษา 3. นักศกึ ษามีทักษะในการเรียนรูแ้ ละร่วมกิจกรรมตามหลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 4. ครูและนักศึกษามีปฏิสัมพันธ์และสรา้ งมนุษยส์ ัมพันธต์ อ่ การเรียนรู้ 5. ครูและนกั ศึกษามีเจตคติ ท่ีดตี ่อการจดั การศึกษาตามหลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 6.ปัญหาและข้อเสนอแนะ 1. นกั ศกึ ษาบางทา่ นมีปัญหาเกีย่ วกับการลืมหนังสือตามช่วงอายวุ ยั 2. ความหลากหลายของชว่ งอายุ นกั ศกึ ษา มีอายมุ าก ครตู ้องใหค้ วามสนใจและแลกเปลย่ี นเรยี นรกู้ บั กลมุ่ ผู้เรยี นใหม้ ากย่งิ ข้ึน 3.ติดตามผลหลงั จากการจัดกจิ กรรม
7. ขอ้ เสนอแนะเพือ่ การดำเนินงานตอ่ ไป 26 ควรมีการศึกษาผลลพั ธ์ (Outcome) หรอื ผลกระทบ (Impact) ของโครงการทม่ี ตี ่อผ้รู ่วมโครงการ ในลกั ษณะของการติดตามผล (Follow-up or Tracer Study) เพ่ือดผู ลสรุปรวมและประโยชน์ท่ีไดร้ บั จาก โครงการ ท่ีแท้จรงิ ทัง้ น้ีเพ่อื การกำหนดแนวทางการขยายโครงการอยา่ งต่อเน่ือง ลงชื่อ....................................ผรู้ ายงาน (นางสาวพัชรี เทพบรรทม) ศรช.บ้านทพั ค่าย ลงชอ่ื ............ .....................ผูร้ บั รอง (นางสำลี ธราวุธ) ผ้อู ำนวยการศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อำเภอชมุ พลบุรี
ที่ปรึกษา คณะผ้จู ดั ทำ นางสำลี ธราวธุ ผอู้ ำนวยการ กศน.อำเภอชมุ พลบรุ ี รวบรวม/ออกแบบปกรปู เล่ม ศรช.บา้ นทัพค่าย นางสาวพัชรี เทพบรรทม
ภาคผนวก
เลขทโ่ี ครงการ ๓๔/ ๒๕๖๕ โครงการสง่ เสริมการรหู้ นงั สอื ไทย ลมื หนงั สอื ๑. ชอ่ื โครงการสง่ เสรมิ การรูห้ นังสอื ไทย ลืมหนังสือ กศน.อำเภอชมุ พลบุรี (ไตรมาส ๓-๔) ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๕ ๒.ความสอดคลอ้ งกบั รา่ งยทุ ธศาสตรแ์ ละจดุ เนน้ การดำเนนิ งาน ของสำนกั งาน กศน.ประจำปงี บประมาณ ๒๕๖๕ ภารกจิ ตอ่ เนอื่ ง ๓.๒ ดา้ นการสรา้ งสมรรถนะและทกั ษะคณุ ภาพ ๑) สง่ เสรมิ การจัดการศกึ ษาตลอดชวี ติ ทเี่ นน้ การพัฒนาทกั ษะทจี่ ําเป็นสำหรับแตล่ ะชว่ งวัย และการจัด การศึกษาและการเรียนรทู้ ่ีเหมาะสมกบั แตล่ ะกลมุ่ เป้าหมายและบรบิ ทพืน้ ที่ ๔) ส่งเสรมิ การจดั การศึกษาของผูส้ ูงอายุ เพ่ือให้เป็น Active Ageing Workforce และมี Life skill ใน การดำรงชวี ติ ทเ่ี หมาะกบั ชว่ งวัย ๓. หลกั การและเหตผุ ล การรู้หนังสือ เปน็ สิทธทิ ี่มนุษย์ทุกคนพึงไดร้ ับ และเป็นพื้นฐานท่จี ำเปน็ ต่อการเรียนรู้ การส่อื สารตลอดจน เป็นเคร่ืองมอื ทจ่ี ำเป็นในการแสวงหาความรู้ ซึ่งประชาชนชาวไทยทุกคนมสี ิทธ์ิได้รบั การศึกษาข้ันพื้นฐานอย่างเท่า เทียมกันและมีคุณภาพ ส่งเสริมให้ทุกคนได้เรียนรู้ภาษาไทยเพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสารได้เข้าใจตรงกัน และนำ ความรู้ไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตได้ตรงตามความต้องการของบุคคลอีกท้ั งภาษาไทยเป็นภาษาประจำชาติ เป็นกลางในการสื่อสารและสืบสานวัฒนธรรม ดังนั้น กศน.อำเภอชุมพลบุรี ซึ่งมีบทบาทหน้าที่ในการส่งเสริมให้ บุคคลที่ไม่รู้หนังสือไทยหรือลืมหนังสือได้รู้หนังสือไทยเห็นว่าควรกระจายโอกาสและเพิ่มความเสมอภาคทาง การศกึ ษาให้มากข้ึน จงึ ใหค้ วามสำคัญกบั การสง่ เสริมการรู้หนงั สือโดยเฉพาะประชากรวัยแรงงานที่ถือว่าเป็นกำลัง สำคัญในการพฒั นาประเทศชาตใิ ห้ร่งุ เรอื งสบื ไป ๔. วตั ถปุ ระสงค์ ๔.๑. เพอ่ื ส่งเสริมการรหู้ นังสือ และป้องกันการลมื หนงั สือให้กับประชาชน ๔.๒. เพอ่ื พัฒนาทักษะด้านการอ่าน การเขียน และการคิดคำนวณไดอ้ ย่างถูกต้องสำเนาถูกต้อง ๔.๓. เพ่อื พัฒนาคุณภาพชวี ติ ของประชาชนให้ดีขน้ึ ๕. เปา้ หมายการดำเนนิ งาน ๕.๑ เชงิ ปรมิ าณ - ผู้ไม่ร้หู นังสอื ผู้ลืมหนงั สือ และประชาชนท่ัวไปทส่ี นใจในการเรียนร้ใู นพ้นื ท่ีอำเภอชมุ พลบุรี จำนวน ๔ คน
๕.๒ เชงิ คณุ ภาพ - ร้อยละ ๘๕ ของผู้เรยี นท่ีอา่ นออกเขียนได้และคิดเลขเปน็ เขียน - ร้อยละ ๘๕ ส่งเสรมิ การรูห้ นังสือ และป้องกนั การลืมหนงั สอื ใหก้ ับประชาชนและพฒั นา คณุ ภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขนึ้ ๖.วธิ ดี ำเนนิ การ กิจกรรมหลกั วตั ถปุ ระสงค์ กลมุ่ เป้าหมาย เป้าหมาย พ้ืนท่ี ระยะเวลา งบประมาณ ดำเนนิ การ ๑.ขั้นเตรียมกา(P:Plan) ๑.เพือ่ วางแผนการ บคุ ลากร ๑๘ คน กศน.อำเภอ มกราคม ๑.๑ประชมุ ผู้บรหิ าร ดำเนินงาน กศน.อำเภอ ชมุ พลบรุ ี ๒๕๖๕ และคณะครู กศน.อ.ชมุ ๒.เพอื่ ให้บคุ ลากรได้ ชมุ พลบรุ ี พลบุรี ระดมความคดิ รไู้ ด้เข้าใจและเหน็ จัดทำแผน/โครงการ ความสำคัญของการ ๑.๒.จดั ทำโครงการและ จดั ทำโครงการ ขออนุมัติ เสนอเพื่อขออนุมัติ ๑.๓.แต่งตัง้ จาก ผอ.กศน. คณะกรรมการ อำเภอชุมพลบรุ ี ดำเนินงาน มผี ู้รับผดิ ชอบการ ๑.๔.ประชมุ คณะกรรม ดำเนนิ งาน แตล่ ะ ดำเนนิ งาน ขัน้ ตอนชัดเจน การ ดำเนนิ งานบรรลุ ๑.๕.หลกั สตู รและ วตั ถุปะสงค์ ขัน้ ตอนการดำเนิน มผี ไู้ ดร้ ัมอบหมาย กจิ กรรม โครงกดำเนนิ งาน บรรวัตถุประสงค์ ๑.๖.ประสานงานแจง้ ของโครงการ กล่มุ เปา้ หมายและ มีหลักสูตรและ ประชาสัมพันธ์ ข้ันตอนการดำเนิน ๑.๗.ประสานงานพื้นท่ี กจิ กรรม และสถานที่ในการจัด ประชาสัมพนั ธ์ให้ กจิ กรรม กลมุ่ เปา้ หมายไดเ้ ข้า รว่ มโครงการ เพื่อเตรยี มสถานท่ี และแจง้ ผ้นู หมบู่ า้ น
กจิ กรรมหลกั วตั ถปุ ระสงค์ กลมุ่ เปา้ หมาย เป้าหมาย พืน้ ที่ ระยะเวลา งบประมาณ ดำเนนิ การ ๒๒ ๒,๒๐๐ บาท ๒.ขน้ั ดำเนินงาน (D:Do) ๑. เพ่อื สง่ เสรมิ บุคลากร กศน. ๒.๑.การปฏิบตั ติ ามแผน การรหู้ นังสือ และ อำเภอชุมพลบรุ ี จำนวน โรงเรียน กรกฎาคม (Do) ปอ้ งกนั การลืม ๒.ผไู้ มร่ หู้ นังสอื ๔ คน ผสู้ ูงอายุ ๒๕๖๕ -โครงการสง่ เสริมการรู้ หนงั สือให้กับ ในพ้นื ที่ อำเภอ หนงั สือไทย ลืมหนังสือ ประชาชน ชมุ พลบุรี เทศบาลตำบล กนั ยายน กศน.อำเภอชุมพลบรุ ี ๒. เพือ่ พัฒนา จำนวน ๑ คน ชุมพลบรุ ี ๒๕๖๕ (ไตรมาส ๓-๔) ทักษะดา้ นการ ประจำปงี บประมาณ อา่ น การเขียน บุคลากร กศน. จำนวน กศน.อำเภอ กนั ยายน ๒๕๖๕ และการคิด อำเภอชมุ พลบรุ ี ๑ คน ชมุ พลบรุ ี ๒๕๖๕ คำนวณได้อย่าง จำนวน ๑ คน ๓.ขัน้ ตดิ ตามประเมนิ ผล ถูกต้อง จำนวน กศน.อำเภอ (C:Check) ๓. เพ่ือพัฒนา บคุ ลากร กศน. ๑ คน ชุมพลบรุ ี ๓.๑.จัดทำแบบประเมนิ คุณภาพชวี ิตของ อำเภอชุมพลบรุ ี ความพึ่งพอใจเกีย่ วกับ ประชาชนให้ดีขน้ึ การจดั กจิ กรรม ๑.เพอ่ื ให้ทราบ ๓.๒.สรุปผลการ ความพึง่ พอใจ ดำเนินงาน ของการจดั กจิ กรรม ๔.ขนั้ การปรบั ปรงุ ๒.สรุปผลการ (A:Action) ดำเนนิ งานปญั หา ๔.๑.การตดิ ตามและ ท่พี บ เพื่อนำไปสู่ ประเมนิ ผลโครงงการ การแก้ไขและการ พฒั นาต่อไป บุคลากรมีความ เข้าใจเกยี่ วกับการ จดั การอบรมให้ ความรู้ ในเขต บริการ กศน. อำเภอชมุ พลบุรี และสามารถนำ ความรไู้ ปตอ่ ยอด ได้
๗. วงเงนิ งบประมาณทง้ั โครงการ แผนงาน : พื้นฐานด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ ผลผลิตที่ ๔ ผู้รับบริการ การศกึ ษานอกระบบ งบดำเนินงาน รหสั งบประมาณ ๓๖๐๐๐๔ : ผไู้ มร่ ู้หนังสือ จำนวน ๒,๒๐๐ บาท (สองพันสองร้อยบาทถ้วน) ดงั นี้ -วสั ดกุ ารจดั การเรยี นการสอน เป็นเงิน ๒,๒๐๐ บาท รวมเปน็ เงนิ ๒,๒๐๐ บาท รวมทั้งส้นิ (สองพันสองร้อยบาทถ้วน) หมายเหตุ : ทุกรายการถั่วจ่ายตามที่จ่ายจรงิ ๘.แผนการใช้จา่ ยงบประมาณ กจิ กรรมหลกั ไตรมาส ๑ ไตรมาส ๒ ไตรมาส ๓ ไตรมาส ๔ (ต.ค.๖๔-ธ.ค.๖๔) (ม.ค.๖๕-ม.ี ค.๖๕) (เม.ย.๖๕-ม.ิ ย.๖๕) (ก.ค.๖๕-ก.ย.๖๕) การจดั การเรยี นการสอน - - - ๒,๒๐๐ ๙. ผรู้ บั ผิดชอบโครงการ นางสาวพัชรี เทพบรรทม นกั วชิ าการศึกษา กศน.อำเภอชุมพลบุรี ๑๐. เครอื ขา่ ย ผ้นู ำชมุ ชน/ผ้นู ำหม่บู ้านอำเภอชุมพลบุรี ๑ ๑. โครงการทเี่ ก่ียวขอ้ ง โครงการส่งเสรมิ ทักษะการเรยี นรูส้ ำหรับผไู้ ม่รหู้ นังสอื ๑๒. ผลลัพธ์( Outcome ) ๑๒.๑ กลมุ่ ผ้ไู มร่ ูห้ นังสือ ป้องกันการลมื หนงั สอื ๑๒.๒ กล่มุ ผไู้ มร่ หู้ นังสือพฒั นาทักษะด้านการอา่ น การเขียน และการคิดคำนวณไดอ้ ย่างถกู ต้อง ๑๒.๓ กลุ่มผู้ไม่รู้หนงั สอื พัฒนาคุณภาพชวี ติ ให้ดขี ึ้น ๑๓. ดชั นีช้ีวัดผลสำเร็จของโครงการ ๑๓.๑ ตัวข้วี ัดผลผลติ ( Output ) -เชิงปริมาณ ผ้ไู มร่ ู้หนังสอื ในพื้นท่อี ำเภอชุมพลบุรี จำนวน ๔ คน - เชิงคุณภาพ ผู้ไม่รู้หนังสือในพื้นที่อำเภอชุมพลบุรีสามารถอ่านหนังสือออกเขียนหนังสือได้แล: การเรียนรู้นำไปปฏิบัติได้ ร้อยละ ๑๐๐ ๑๓.๒ ตัวช้ีวดั ผลลัพธ์ ( Outcome )
-ผูไ้ มร่ ้หู นังสือในพื้นที่อำเภอชุมพลบุรี สามารถอา่ นหนังสือออกเขยี นหนังสือได้และเกิดการเรียน ไปฏบิ ัตไิ ด้ -กลุ่มเป่าหมาย มีทักษะด้านการอ่าน การเขียน และการคิดคำนวณได้อย่างถูกต้อง นำไปพัฒนา คุณภาพชวี ิตของให้ดีขึน้ ๑๔. การติดตามประเมินผลโครงการ - ประเมินกอ่ นดำเนินโครงการเพ่อื ทราบถึงความรู้พ้ืนฐานของกลมุ่ เป้าหมาย - ประเมินผลระหว่างการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน - ประเมินผลหลังการจดั กิจกรรมการเรียนการอน
ภาพกิจกรรมโครงการส่งเสริมการร้หู นงั สือไทย ลืมหนังสือ วนั ท่ี 22 เดอื นกรกฎาคม ๒๕๖๕ ณ โรงเรยี นผู้สงู อายุ อำเภอชุมพลบุรี จังหวดั สุรินทร์
Search
Read the Text Version
- 1 - 39
Pages: