โครงการเศรษฐกิจพอเพียงเลยี้ งชพี ได้นางสาวชญานี อินรญั รหัสนสิ ติ 60240581นางสาวชนญั ชิดา ดปี า รหสั นิสิต 60240598นายชยกติ ิ์ สดสะอาด รหสั นิสิต 60240635นางสาวชลาลัย หงษว์ ิลยั รหสั นสิ ติ 60240673นายชาญวทิ ย์ คงกาเนดิ รหสั นสิ ติ 60240703นางสาวชุติมณฑน์ ช่นื ชม รหัสนสิ ิต 60240734นางสาวฑิฆมั พร ไชยรัตน์ รหัสนิสติ 60240772นายณฐกร กิ่งเส็ง รหัสนสิ ิต 60240789นายณัฐชานนท์ บุญญานนั ท์ รหสั นสิ ติ 60240819นางสาวณัฏฐณชิ า คงยอด รหัสนสิ ิต 60240840
คานาE-book เลม่ นี้เปน็ สว่ นหน่งึ ของการศกึ ษารายวชิ าสารสนเทศศาสตรเ์ พื่อการศึกษาค้นควา้ รหัสวชิ า 001221พฤศจิกายน 2560 ของนสิ ติ ชน้ั ปที ี่1 ลิขสิทธเ์ ป็นของมหาวทิ ยาลัยนเรศวร โดยมวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พ่ือให้ผู้อ่านไดม้ ีความรู้ ความเข้าใจ เกีย่ วกับเศรษฐกิจพอเพยี งทฤษฎีใหม่ผู้จดั ทาหวังเป็นอย่างยิง่ ว่า E-book เล่มน้ี จะมีประโยชน์ต่อผทู้ ส่ี นใจไม่มากก็น้อย หากมีขอ้ ผิดพลาดประการใด ตอ้ งขออภยั ไว้ ณ ทนี่ ี้ดว้ ย ชนญั ชดิ า ดปี า และคณะผ้จู ัดทา
สารบญัเร่อื ง หนา้บทคัดย่อ กกติ ติกรรมประกาศ ขสารบัญ คบทท่ี 1 บทนา1.1ความเป็นมาและความสาคัญของโครงงาน 11.2วัตถุประสงค์ของโครงงาน 11.3สมมตฐิ าน 11.4ความมงุ่ หมาย 11.5ความสาคัญ 11.6ขอบเขตการทาโครงงาน 11.7ประโยชนททีค่ าดวา่ จะได้รับ 1บทที่ 2 เอกสารและทฤษฎีทเี่ ก่ยี วข้อง2.1จุดเร่มิ ต้นแนวคิดเศรษฐกิจพอเพยี ง 32.2หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง 32.3การจดั ทาแผนการจัดการเรยี นรใู้ หบ้ รู ณาการเข้ากับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 52.4เศรษฐกจิ พอเพยี งและการประยกุ ตใ์ ช้ด้านการศึกษาหลักแนวคิดของเศรษฐกิจพอเพียง 52.5แผนภาพแสดงแนวคิดเศรษฐกจิ พอเพียง3หว่ ง2เงื่อนไข 62.6พระราชดาริวา่ ด้วยเศรษฐกิจพอเพียง 7
2.7ประเทศไทยกับเศรษฐกิจพอเพียง 82.8การดาเนนิ ชวี ิตตามแนวพระราชดารพิ อเพียง 92.9ตวั อย่างเศรษฐกิจพอเพียงทฤษฎใี หม่ 92.9.1ความสาคญั ของทฤษฎใี หม่ 102.9.2หลกั การและแนวทางสาคญั 122.9.3ตัวอยา่ งพืชที่ควรปลูกและสัตว์ท่คี วรเลยี้ ง 142.9.4ประโยชนข์ องทฤษฎีใหม่ 152.9.5ระบบทฤษฎใี หมท่ ี่สมบูรณ์ 16บทท่ี 3 วิธเี นนิ การ 18บทท่ี 4 ผลการดาเนินการ4.1เศรษฐกจิ พอเพียง 194.2ผลการศึกษา 19บทที่ 5 สรปุ ผลอภิปราย ประโยชน์ทไี่ ดร้ บั และ5.1ขอ้ เสนอแนะ 21อภปิ รายผล 21ภาคผนวก งบรรณานุกรม จ
กติ ติกรรมประกาศ การศึกษาโครงงานเร่ืองนี้สาเร็จ ได้ดว้ ยความช่วยเหลือใหค้ าปรึกษาจากครผู ู้สอนทไี่ ดใ้ หค้ วามกรณุ าช้แี นะแนวทางและการตรวจสอบการแกไ้ ขข้อบกพร่องของโครงงานจนสาเรจ็ ดว้ ยดี คณะผู้ศึกษาจงึ ขอกราบพระคณุ ท่านเปน็ อย่างย่งิ ทีค่ อยเปน็ กาลังใจอันสาคญั ยงิ่ ให้แก่คณะผูศ้ ึกษาค้นควา้ จนประสบผลสาเรจ็ คณุ คา่ และประโยชน์ของการศกึ ษาคน้ ควา้ ในครั้งน้ี คณะผศู้ ึกษาค้นคว้าขอมอบเป็นสอ่ื การเรียนการสอนใหก้ ับมหาวิทยาลัย เพ่ือผลประโยชนข์ องนิสติ ในรุ่นต่อไป คณะผู้จดั ทา
ชือ่ โครงการ : เศรษฐกิจพอเพยี งเลยี งชพี ได้ผูด้ าเนนิ โครงการ : นางสาวชญานี อนิ รญั รหสั นสิ ิต 60240581นางสาวชนญั ชิดา ดีปา รหัสนิสิต 60240598 นายชยกิติ์ สดสะอาด รหัสนิสติ 60240635นางสาวชลาลยั หงษว์ ิลยั รหัสนสิ ิต 60240673 นายชาญวทิ ย์ คงกาเนดิ รหัสนิสิต 60240703นางสาวชุติมณฑน์ ช่นื ชม รหัสนิสติ 60240734 นางสาวฑฆิ ัมพร ไชยรัตน รหสั นิสติ 60240772นายณฐกร กิง่ เส็ง รหัสนสิ ิต 60240789 นายณัฐชานนท์ บุญญานนั ท์ รหัสนิสิต 60240819นางสาวณฏั ฐณชิ า คงยอด รหัสนสิ ิต 60240840ทปี่ รึษาโครงการ :สาขาวชิ า :ภาควิชา :ปกี ารศึกษา : 1/2560บทคัดย่อ โครงงานหลักเศรษฐกิจพอเพยี งเรื่อง เศรษฐกจิ พอเพยี ง ตามแนวพระราชดารัส มีจุดมงุ่ หมายเพ่ือศกึ ษาเรื่องเกย่ี วกับเศรษฐกิจพอเพยี งตา่ ง ๆ เพื่อท่ีจะสามารถนามาใชก้ ับชีวิตประจาวันและสอดคลอ้ งกับแนวพระราดารัสของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยูห่ ัวรัชกาลที่ 9 โดยผจู้ ัดทาได้ออกศึกษาค้นควา้ จากอนิ เทอรเ์ น็ตผู้จัดทาได้ความรู้เร่ืองเศรษฐกิจพอเพยี ง ต่าง ๆแลว้ ก็มีแนวความคิดจัดทาขนึ้ เป็นโครงงาน เพื่อใหน้ ิสติ มีความรู้เร่ืองเศรษฐกิจต่าง ๆ และเมื่อไดค้ วามร้แู ลว้ ก็สามารถท่ีจะนาไปประยกุ ต์ใชก้ ับชวี ิตประจาวนั ได้ เมื่อนาไปประยุกต์ใช้ก็ทาให้เกดิ ความพอเพยี ง พอมี พอกนิ เศรษฐกจิ พอเพียงมุ่งเนน้ ใหบ้ ุคคลสามารถประกอบอาชพี ไดอ้ ย่างยั่งยนื และใชจ้ า่ ยเงินให้ได้มาอย่างพอเพยี งและประหยดั ตามกาลังของเงินของบุคคลนัน้ โดยปราศจากการกหู้ นยี้ มื สนิ และถา้ มีเงนิ เหลอื ก็แบ่งเก็บออมไวบ้ างส่วน ช่วยเหลอื ผอู้ ื่นบางสว่ น และอาจจะใช้จา่ ยมาเพื่อปจั จัยเสริมอกี บางสว่ นสาเหตุท่ีแนวทางการดารงชีวติ อย่างพอเพียง ได้ถูกกลา่ วถึงอยา่ งกว้างขวางในขณะน้ี เพราะสภาพการดารงชวี ติ ของสังคมทุนนยิ มการใชจ้ ่ายอยา่ งเกนิ ส่งผลให้เกิดการกหู้ นี้ยืมสิน เกิดเป็นวฏั จักรท่ีบุคคลหนึง่ ไม่สามารถหลุดออกมาได้ ถ้าไม่เปล่ียนแนวทางในการดารงชีวติ ผลการศกึ ษาโครงงาน
โครงงานพบว่ามเี ศรษฐกจิ พอเพียงตา่ ง ๆหลายประเภททั้งจากอินเทอรเ์ นต็ เราสามารถนามาประยุกตใ์ ช้กบัเศรษฐกิจพอเพียงได้ในชวี ิตประจาวันได้โดยสรุป โครงงานเรื่องเศรษฐกจิ พอเพยี งตามแนวพระราชดารสั เป็นประโยชน์อยา่ งยิ่งตอ่ การนามาใชเ้ พื่อเปน็ ความรทู้ ี่ได้ไปเผยแพร่ให้นสิ ติ เพ่อื ประยุกต์ใชก้ ับปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง
บทท่ี 1บทนา1.1 หลกั การและเหตผุ ล จากการสังเกตุปัญหาความเปน็ อยู่ในสังคม ไมว่ า่ จะเปน็ นา้ ท่วม แห้งแลง้ ขาดแคลนอาหาร ล้วนเกิดจากความโลภของมนษุ ยท์ ี่อาศัยอยู่ต่างๆทาให้ความเป็นอยู่ของสังคมเปล่ียนไปจึงมีหลักเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางการดาเนินชวี ิตในสงั คมให้ดีขนึ้ ต่อไป1.2 วตั ถปุ ระสงค์ของโครงงาน 1. เพ่ือศึกษา เศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดารสั จากอนิ เทอร์เน็ต 2. เพือ่ ให้นสิ ติ มีความรู้เรื่องเกษตรพอเพยี ง ตามแนวพระราชดารสัสมมุตฐิ านการศึกษาคน้ ควา้ ผูจ้ ดั ทาไม่รู้เรื่องเศรษฐกิจพอเพยี ง ตามแนวพระราชดารสั มากพอ และไมม่ ีความเช่ียวชาญเก่ียวกับการลงมือปฏบิ ัติจรงิความมุง่ หมายของการศกึ ษา เพอ่ื รวบรวมข้อมลู เรอื่ งเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดารัสความสาคญั ของการศึกษา ทาให้ทราบเร่อื ง เศรษฐกิจพอเพยี ง ตาแนวพระราชดารสั ร้เู รือ่ งเกษตรต่าง ๆ มากมายขอบเขตของการศกึ ษาค้นคว้า การศกึ ษาคร้ังน้ีได้ศึกษาจากอินเทอรเ์ นต็นิยามศพั ทเ์ ฉพาะ เกษตร หมายถึง ทด่ี ิน , ทุง่ , นา , ไร่ เช่น พุทธเกษตร พอเพียง หมายถงึ ไดเ้ ท่าที่กะไว้ เช่น ได้เท่านี้ก็พอแล้ว
พระราชดารัส หมายถงึ คาสัง่ สอนของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ ัว ศึกษา หมายถงึ การเล่าเรยี น , ฝึกฝน , และอบรม ค้นควา้ หมายถงึ ข้อมูลอย่างถ่ีถ้วนตามหลกั วชิ า , เสาะหาเอามาประโยชนท์ ่ีคาดว่าจะได้รบั 1. รู้และเขา้ ใจ เร่อื ง เกษตรพอเพยี ง ตามแนวพระราชดารัส 2. ไดอ้ อกเผยแพรใ่ ห้ความรู้ 3. นสิ ติ สามารถนาความรูท้ ไี่ ด้จากการจัดทาโครงงานนาไปปฏิบตั จิ รงิ ท่บี า้ น และทมี่ หาวทิ ยาลยั 4. ไดร้ จู้ ักการทางาน 5. ไดป้ ฏิบัตติ ามแนวพระราชดารัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั
บทที่ 2จุดเร่มิ ต้นแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ผลจากการใชแ้ นวทางการพัฒนาประเทศไปสคู่ วามทันสมยั ได้กอ่ ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแก่สังคมไทยอยา่ งมากในทุกดา้ น ไมว่ ่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม สงั คมและสิ่งแวดล้อม อีกท้งั กระบวนการของความเปลี่ยนแปลงมีความสลับซับซ้อนจนยากทจี่ ะอธิบายใน เชิงสาเหตุและผลลพั ธไ์ ด้ เพราะการเปล่ยี นแปลงทัง้ หมดต่างเป็นปัจจัยเชอ่ื มโยงซงึ่ กันและกนั สาหรบั ผลของการพัฒนาในด้านบวกนนั้ ได้แก่ การเพิ่มข้นึ ของอัตราการเจรญิ เติบโตทางเศรษฐกจิ ความเจริญทางวตั ถุ และสาธารณูปโภคตา่ งๆ ระบบสื่อสารท่ีทนั สมยั หรือการขยายปริมาณและกระจายการศึกษาอย่างท่วั ถึงมากขึน้ แตผ่ ลดา้ นบวกเหลา่ น้ีส่วนใหญ่กระจายไปถึงคนในชนบท หรอื ผู้ดอ้ ยโอกาสในสังคมน้อย แตว่ า่ กระบวนการเปล่ียนแปลงของสงั คมไดเ้ กดิ ผลลบตดิ ตามมาด้วย เชน่ การขยายตวั ของรฐั เขา้ ไปในชนบท ไดส้ ง่ ผลให้ชนบทเกิดความอ่อนแอในหลายดา้ น ท้งัการตอ้ งพง่ึ พงิ ตลาดและพอ่ ค้าคนกลางในการส่ังสนิ คา้ ทุน ความเส่ือมโทรมของทรพั ยากรธรรมชาติ ระบบความสมั พนั ธแ์ บบเครือญาติ และการรวมกลุ่มกนั ตามประเพณีเพื่อการจัดการทรัพยากรทีเ่ คยมีอยู่แต่เดิมแตกสลายลง ภูมคิ วามรทู้ เ่ี คยใชแ้ กป้ ัญหาและส่งั สมปรบั เปลี่ยนกนั มาถูกลมื เลือนและเร่มิ สูญหายไปสง่ิ สาคัญ ก็คือความพอเพยี งในการดารงชีวิต ซ่ึงเป็นเง่อื นไขพื้นฐานท่ีทาให้คนไทยสามารถพ่ึงตนเอง และดาเนินชีวติ ไปได้อยา่ งมีศักดิ์ศรภี ายใต้อานาจและความมีอสิ ระในการกาหนด ชะตาชีวิตของตนเอง ความสามารถในการควบคุมและจดั การเพ่ือให้ตนเองได้รับการสนองตอบต่อความต้อง การต่างๆ รวมทง้ั ความสามารถในการจัดการปญั หาตา่ งๆ ได้ด้วยตนเอง ซึง่ ทั้งหมดน้ีถือวา่ เปน็ ศกั ยภาพพ้ืนฐานท่ีคนไทยและสังคมไทยเคยมีอยู่แต่ เดิม ต้องถูกกระทบกระเทอื น ซึ่งวกิ ฤตเศรษฐกิจจากปญั หาฟองสบู่และปญั หาความอ่อนแอของชนบท รวมทงั้ ปัญหาอื่นๆท่ีเกิดขนึ้ ล้วนแต่เปน็ ขอ้ พิสจู น์และยืนยนั ปรากฏการณน์ ้ีได้เป็นอย่างดีหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง “เศรษฐกิจพอเพยี ง” เป็นปรชั ญาทพ่ี ระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ ัวทรงมีพระราชดารสั ชีแ้ นะแนวทาง การดาเนนิ ชวี ิตแก่พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอดนานกวา่ 25 ปี ตั้งแต่ก่อนเกิดวิกฤตกิ ารณท์ างเศรษฐกจิ และเม่ือภายหลงั ได้ทรงเนน้ ยา้ แนวทางการแก้ไขเพ่ือใหร้ อดพ้น และสามารถดารงอยู่ได้อย่างมัน่ คงและยง่ั ยืนภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์และความเปล่ียนแปลงมีหลกั พจิ ารณา ดังน้ี
กรอบแนวคดิ เป็นปรชั ญาทชี่ ีแ้ นะแนวทางการดารงอยู่และปฏิบัติตนในทางท่ีควรจะเปน็ โดยมีพื้นฐานมาจากวิถีชีวติ ดัง้ เดมิ ของสังคมไทย สามารถนามาประยกุ ต์ใช้ได้ตลอดเวลา และเปน็ การมองโลกเชิงระบบทมี่ ีการเปลีย่ นแปลงอยู่ตลอดเวลา ม่งุ เน้นการรอดพ้นจากภัยและวกิ ฤติ เพื่อความมนั่ คงและความย่งั ยืนของการพฒั นา คุณลกั ษณะ เศรษฐกิจพอเพียงสามารถนามาประยุกตใ์ ช้กบั การปฏบิ ัตติ นได้ในทกุ ระดับ โดยเนน้การปฏิบตั บิ นทางสายกลาง และการพัฒนาอย่างเปน็ ขัน้ ตอน คานยิ าม ความพอเพยี งจะต้องประกอบดว้ ย 3 คณุ ลกั ษณะพร้อม ๆ กัน ดังนี้ 1. ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดีที่ไมน่ ้อยเกิดไปและไม่มากเกินไป โดยไม่เบยี ดเบียนตนเองและผู้อ่ืน เช่น การผลติ และการบริโภคทอี่ ยู่ในระดบั พอประมาณ 2. ความมีเหตุผล หมายถงึ การตัดสนิ ใจเกีย่ วกับระดบั ของความพอเพียงนนั้ จะต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผลโดยพจิ ารณาจากเหตุปัจจยั ทเี่ กยี่ วข้องตลอดจนคานงึ ถึงผลที่คาดว่าจะเกดิ ขึ้นจากการกระทานัน้ ๆ อย่างรอบคอบ 3. การมภี ูมิคุ้มกันทีด่ ีในตวั หมายถึง การเตรยี มตวั ใหพ้ รอ้ มรบั ผลกระทบ และการเปลย่ี นแปลงด้านตา่ งๆ ทจี่ ะเกิดขึน้ โดยคานึงถึงความเปน็ ไปไดข้ องสถานการณ์ต่าง ๆ ท่ีคาดว่าจะเกดิ ขน้ึ ในอนาคตทั้งใกล้และไกล เง่อื นไข การตัดสินใจและการดาเนนิ กิจกรรมตา่ ง ๆ ให้อย่ใู นระดับพอเพียงน้นั ต้องอาศัยทั้งความรู้ และคุณธรรมเปน็ พ้ืนฐาน กล่าวคอื 1. เงือ่ นไขความรู้ ประกอบดว้ ย ความรอบรเู้ กี่ยวกบั วิชาการตา่ ง ท่ีเกย่ี วข้องอยา่ งรอบด้าน ความรอบคอบทจี่ ะนาความรเู้ หล่านน้ั มาพิจารณาใหเ้ ช่ือมโยงกัน เพื่อประกอบการวางแผนและความระมัดระวังในข้ันปฏบิ ตั ิ 2. เงอ่ื นไขความธรรม ทีจ่ ะต้องเสริมสร้างประกอบดว้ ย มีความตระหนกั ในคุณธรรม มคี วามช่อื สตั ย์สุจรติ และมีความอดทน มีความพากเพียร ใช้สตปิ ัญญาในการดาเนนิ ชวี ิตแนวทางปฏบิ ัติ/ผลท่ีคาดวา่ จะได้รบั จากการนาปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาประยุกต์ใช้ คือ การพัฒนาที่สมดลุ และย่งั ยืน พร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลงในทุกด้าน ทั้งดา้ นเศรษฐกิจ สงั คมสง่ิ แวดล้อม ความรู้และเทคโนโลยี
การจดั ทาแผนการจดั การเรยี นรใู้ หบ้ ูรณาการเข้ากับหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงเปาู หมายสาคญั ของการจัดการศึกษาตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง คอื การปลูกฝงั ใหเ้ ด็กและเยาวชนรู้จักการใช้ชวี ิตทพ่ี อเพยี งเหน็ คุณค่าของทรัพยากรตา่ งๆ ฝึกการอยูร่ ว่ มกบั ผู้อ่นื อย่างเอ้ือเฟื้อเผ่ือแผ่และแบ่งปัน มีจิตสานึกรักษส์ ง่ิ แวดล้อม และเห็นคุณค่าของวัฒนธรรม คา่ นิยม เอกลักษณ์ และความเปน็ ไทยเศรษฐกจิ พอเพียงและการประยกุ ตใ์ ช้ดา้ นการศึกษาหลกั แนวคิดของเศรษฐกจิ พอเพียง การพฒั นาตามหลกั เศรษฐกจิ พอเพยี ง คือการพัฒนาท่ีต้งั อยบู่ นพื้นฐานของทางสายกลาง และความไมป่ ระมาท โดยคานึงถึง ความพอประมาณ ความมเี หตผุ ล การสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว ตลอดจนใชค้ วามรู้ความรอบคอบ และคุณธรรม ประกอบการวางแผน การตดั สนิ ใจ และการกระทา ปรชั ญาของเศรษฐกจิพอเพยี ง กรอบแนวคิด เป็นปรชั ญาทชี่ แ้ี นะแนวทางการดารงอยู่ และปฏิบตั ิตนในทางท่คี วรจะเป็น โดยมีพ้ืนฐานมาจากวิถชี ีวติ ดั้งเดิมของสังคมไทย สามารถนามาประยกุ ตใ์ ช้ได้ตลอดเวลา และเป็นการมองโลกเชิงระบบท่ีมีการเปลยี่ นแปลงอยู่ตลอดเวลา และเป็นการมองโลกเชิงระบบทีม่ ีการเปล่ียนแปลงอย่ตู ลอดเวลามุ่งเนน้ การรอดพน้ จากภัย และวกิ ฤต เพ่ือความม่นั คง และความยั่งยนื ของการพัฒนา คุณลักษณะ เศรษฐกจิพอเพยี งสามารถนามาประยุกตใ์ ช้กับการปฏบิ ัตติ นได้ในทกุ ระดับ โดยเนน้ การปฏบิ ตั บิ นทางสายกลาง และการพฒั นาอย่างเปน็ ขัน้ ตอนคานยิ าม ความพอเพียงจะต้องประกอบด้วย 3 คณุ ลักษณะ พรอ้ ม ๆ กันดงั นี้ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดีทีไ่ มน่ ้อยเกินไป และไม่มากเกินไปโดยไมเ่ บยี ดเบียนตนเอง และผู้อื่นเชน่ การผลติ และการบริโภคทอ่ี ย่ใู นระดบั พอประมาณความมีเหตุผล หมายถงึ การตดั สนิ ใจเกี่ยวกบั ระดับของความพอเพียงนั้น จะต้องเปน็ ไปอยา่ งมีเหตุผล โดยพจิ ารณาจากเหตุปจั จัยทเ่ี กี่ยวขอ้ งตลอดจนคานึงถงึ ผลที่คาดว่าจะเกิดข้ึนจากการกระทานั้นๆการมีภูมคิ ้มุ กันที่ดีในตัว หมายถึง การเตรยี มตวั ให้พร้อมรับผลกระทบ และการเปล่ียนแปลงดา้ นตา่ ง ๆ ทจี่ ะเกิดขึ้นโดยคานึงถงึ ความเป็นไปได้ของสถานการณ์ ต่าง ๆ ที่คาดวา่ จะเกดิ ขน้ึ ในอนาคต
เงอื่ นไข การตัดสนิ ใจและการดาเนินกิจกรรมต่าง ๆ ให้อยูใ่ นระดบั พอเพียงนนั้ ต้องอาศัยทั้งความรู้ และคณุ ธรรมเปน็ พ้ืนฐาน กลา่ วคือ เงือ่ นไขความรู้ ประกอบดว้ ย ความรอบรู้เกี่ยวกับวชิ าการตา่ ง ๆ ทเ่ี ก่ียวข้องอย่างรอบดา้ น ความรอบคอบที่จะนาความรู้เหล่านั้นมาพิจารณาใหเ้ ชอ่ื มโยงกนั เพ่อื ประกอบการวางแผน และความระมดั ระวังในข้ันปฏบิ ตั ิ เงื่อนไขคุณธรรม ท่ีจะตอ้ งเสริมสร้างประกอบด้วย มคี วามตระหนกั ในคุณธรรม มีความซ่อื สัตย์สจุ รติ และมีความอดทน มคี วามเพียร ใชส้ ติปัญญาในการดาเนินชีวติแนวทางปฏิบตั ิ / ผลทคี่ าดวา่ จะได้รบั จากการนาปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาประยุกตใ์ ช้ คือ การพฒั นาที่สมดุล และยั่งยืน พร้อมรับต่อการเปลีย่ นแปลงในทุกด้าน ทัง้ ด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดลอ้ ม ความรู้ และเทคโนโลยี
แผนภาพแสดงแนวคิดเศรษฐกิจพอเพยี ง 3 ห่วง 2 เง่ือนไข ทางสายกลางพอประมาณมเี หตผุ ล มีภมู คิ ้มุ กนั เงื่อนไขความรู้ เงื่อนไขคณุ ธรรม(รอบรู้ รอบคอบ ระมดั ระวงั ) (ซื่อสตั ย์ สจุ ริต ขยนั อดทน แบง่ บนั )ชีวติ /เศรษฐกจิ /สงั คมสมดลุ มน่ั คง ยง่ั ยืน
พระราชดารวิ า่ ด้วยเศรษฐกิจพอเพียง การพฒั นาประเทศจาเปน็ ต้องทาตามลาดบั ข้นั ต้องสรา้ งพ้นื ฐานคือ ความพอมี พอกิน พอใชข้ องประชาชนส่วนใหญเ่ บือ้ งตน้ ก่อน โดยใช้วธิ กี ารและอุปกรณ์ทป่ี ระหยัดแต่ถูกตอ้ งตามหลักวชิ าการ เมอ่ื ได้พนื้ ฐานความม่ันคงพรอ้ มพอสมควร และปฏิบตั ิได้แล้ว จงึ คอ่ ยสร้างคอ่ ยเสรมิ ความเจรญิ และฐานะทางเศรษฐกจิ ขน้ั ท่สี ูงขนึ้ โดยลาดับต่อไป‘’เศรษฐกจิ พอเพียง” เปน็ แนวพระราชดารใิ นพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั ท่ีพระราชทานมานานกวา่ ๓๐ ปีเป็นแนวคิดทตี่ ัง้ อยบู่ นรากฐานของวฒั นธรรมไทย เป็นแนวทางการพฒั นาท่ีตั้งบนพ้ืนฐานของทางสายกลางและความไม่ประมาท คานึงถงึ ความพอประมาณ ความมีเหตผุ ล การสรา้ งภมู ิค้มุ กนั ในตวั เอง ตลอดจนใช้ความร้แู ละคณุ ธรรม เปน็ พื้นฐานในการดารงชีวติ ทีส่ าคัญจะต้องมี “สติ ปญั ญา และความเพยี ร” ซงึ่ จะนาไปสู่ “ความสุข” ในการดาเนินชวี ิตอย่างแท้จรงิ ภาพท2ี่ .1พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู ิพลอดุลยเดชจาก http://www.lady108.com คนอ่ืนจะวา่ อย่างไรกช็ ่างเขา จะว่าเมืองไทยลา้ สมยั ว่าเมืองไทยเชย วา่ เมอื งไทยไมม่ ีส่ิงทส่ี มยั ใหม่ แต่เราอยพู่ อมีพอกิน และขอให้ทกุ คนมีความปรารถนาทจี่ ะใหเ้ มืองไทย พออย่พู อกิน มีความสงบ และทางานตง้ัจติ อธษิ ฐานต้ังปณิธาน ในทางนี้ท่จี ะให้เมืองไทยอยแู่ บบพออย่พู อกิน ไม่ใชว่ ่าจะรุ่งเรืองอย่างยอด แต่วา่ มคี วามพออยพู่ อกิน มีความสงบ เปรียบเทยี บกบั ประเทศอนื่ ๆ ถ้าเรารักษาความพออยู่พอกินน้ีได้ เราก็จะยอดยิ่งยวดได้พระบรมราโชวาทนี้ ทรงเห็นวา่ แนวทางการพัฒนาทีเ่ น้นการขยายตวั ทางเศรษฐกิจของประเทศเปน็ หลักแต่
เพยี งอย่างเดียวอาจจะเกิดปัญหาได้ จงึ ทรงเน้นการมีพอกินพอใช้ของประชาชนส่วนใหญ่ในเบือ้ งต้นก่อน เมือ่ มีพนื้ ฐานความมน่ั คงพร้อมพอสมควรแลว้ จึงสร้างความเจริญและฐานะทางเศรษฐกิจใหส้ ูงข้นึซึ่งหมายถึง แทนทีจ่ ะเนน้ การขยายตวั ของภาคอุตสาหกรรมนาการพัฒนาประเทศ ควรท่ีจะสรา้ งความม่ันคงทางเศรษฐกจิ พ้นื ฐานกอ่ น น่ันคอื ทาให้ประชาชนในชนบทสว่ นใหญพ่ อมพี อกนิ ก่อน เป็นแนวทางการพฒั นาท่ีเนน้ การกระจายรายได้ เพ่ือสรา้ งพืน้ ฐานและความมน่ั คงทางเศรษฐกจิ โดยรวมของประเทศ ก่อนเนน้ การพัฒนาในระดับสูงขึ้นไป ทรงเตือนเร่ืองพออยู่พอกิน ตงั้ แต่ปี ๒๕๑๗ คอื เม่ือ ๓๐ กวา่ ปที ี่แลว้ แตท่ ิศทางการพัฒนามิไดเ้ ปลย่ี นแปลงเมื่อปี ๒๕๑๗ วันน้ันได้พดู ถึงวา่ เราควรปฏิบัตใิ ห้พอมีพอกนิ พอมีพอกินนี้กแ็ ปลวา่เศรษฐกจิ พอเพียงน่ันเอง ถา้ แต่ละคนมีพอมีพอกิน ก็ใชไ้ ด้ ยง่ิ ถา้ ทัง้ ประเทศพอมีพอกินก็ยิ่งดี และประเทศไทยเวลานนั้ ก็เริ่มจะเป็นไม่พอมพี อกิน บางคนกม็ ีมาก บางคนก็ไมม่ ีเลย.ประเทศไทยกับเศรษฐกจิ พอเพียง เศรษฐกิจพอเพยี ง มุ่งเน้นให้ผู้ผลติ หรอื ผบู้ ริโภค พยายามเริ่มตน้ ผลติ หรือบริโภคภายใตข้ อบเขตข้อจากัดของรายได้ หรือทรพั ยากรที่มีอยไู่ ปก่อน ซง่ึ ก็คือ หลกั ในการลดการพ่ึงพา เพ่มิ ขีดความสามารถในการควบคุมการผลิตได้ด้วยตนเองและลดภาวะการเสีย่ งจากการไม่สามารถควบคุมระบบตลาดไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพเศรษฐกจิ พอเพียงมิใช่หมายความถงึ การกระเบียดกระเสียรจนเกนิ สมควร หากแต่อาจฟุมเฟอื ยไดเ้ ปน็ ครัง้คราวตามอตั ภาพ แตค่ นส่วนใหญข่ องประเทศ มักใช้จา่ ยเกนิ ตวั เกินฐานะที่หามาไดเ้ ศรษฐกิจพอเพียงสามารถนาไปส่เู ปูาหมายของการสรา้ งความม่ันคงในทางเศรษฐกิจได้ เช่น โดยพ้ืนฐานแลว้ ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม เศรษฐกิจของประเทศจึงควรเนน้ ทเ่ี ศรษฐกจิ การเกษตร เนน้ ความมน่ั คงทางอาหาร เปน็การสร้างความม่ันคงใหเ้ ป็นระบบเศรษฐกจิ ในระดับหนึง่ จึงเปน็ ระบบเศรษฐกจิ ท่ีช่วยลดความเสี่ยง หรอื ความไมม่ ัน่ คงทางเศรษฐกิจในระยะยาวได้ เศรษฐกิจพอเพยี ง สามารถประยุกต์ใชไ้ ด้ในทุกระดบั ทกุ สาขา ทุกภาคของเศรษฐกิจ ไม่จาเป็นจะตอ้ งจากัดเฉพาะแต่ภาคการเกษตร หรอื ภาคชนบท แม้แต่ภาคการเงิน ภาคอสังหารมิ ทรัพย์ และการค้าการลงทนุ ระหวา่ งประเทศโดยมหี ลกั การที่คลา้ ยคลงึ กันคือ เน้นการเลือกปฏิบัติอยา่ งพอประมาณ มีเหตมุ ผี ล และสร้างภูมิค้มุ กนั ให้แกต่ นเองและสังคม
การดาเนินชีวิตตามแนวพระราชดาริพอเพยี ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั ทรงเขา้ ใจถึงสภาพสงั คมไทย ดังน้ัน เมื่อได้พระราชทานแนวพระราชดาริหรือพระบรมราโชวาทในดา้ นต่างๆ จะทรงคานึงถงึ วิถีชีวิต สภาพสังคมของประชาชนดว้ ย เพอ่ื ไม่ให้เกิดความขัดแยง้ ทางความคิด ที่อาจนาไปสคู่ วามขัดแยง้ ในทางปฏิบัตไิ ด้แนวพระราชดาริในการดาเนินชีวิตแบบพอเพียง1. ยึดความประหยดั ตัดทอนคา่ ใช้จา่ ยในทุกดา้ น ลดละความฟมุ เฟือยในการใชช้ วี ติ2. ยึดถอื การประกอบอาชพี ด้วยความถูกต้อง ซ่ือสตั ย์สุจรติ3. ละเลกิ การแก่งแยง่ ผลประโยชนแ์ ละแขง่ ขันกันในทางการค้าแบบต่อสู้กันอย่างรุนแรง4. ไม่หยุดนง่ิ ทจี่ ะหาทางใหช้ ีวติ หลุดพ้นจากความทุกขย์ าก ด้วยการขวนขวายใฝหุ าความรใู้ ห้มรี ายได้เพ่ิมพนูข้นึ จนถึงขน้ั พอเพยี งเป็นเปูาหมายสาคัญ5. ปฏิบัติตนในแนวทางที่ดี ลดละส่งิ ชวั่ ประพฤติตนตามหลกั ศาสนาตวั อย่างเศรษฐกจิ พอเพียงทฤษฎใี หม่ ทฤษฎีใหม่ คอื ตวั อย่างทเี่ ป็นรูปธรรมของ การประยุกต์ใช้เศรษฐกจิ พอเพียงท่ีเดน่ ชัดท่สี ดุ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั ได้พระราชทานพระราชดารินี้ เพ่ือเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรท่ีมักประสบปญั หาทั้งภยั ธรรมชาตแิ ละปัจจยั ภาย นอกท่ีมีผลกระทบตอ่ การทาการเกษตร ให้สามารถผา่ นพน้ ช่วงเวลาวกิ ฤตโดยเฉพาะการขาดแคลนน้าไดโ้ ดยไมเ่ ดือดร้อนและยากลาบากนักความเส่ยี งทเ่ี กษตรกร มักพบเปน็ ประจา ประกอบด้วย๑. ความเสี่ยงด้านราคาสนิ ค้าเกษตร๒. ความเสี่ยงในราคาและการพ่งึ พาปัจจัยการผลิตสมยั ใหม่จากตา่ งประเทศ๓. ความเสยี่ งด้านน้า ฝนทิ้งชว่ ง ฝนแล้ง๔. ภัยธรรมชาตอิ ื่นๆ และโรคระบาด๕. ความเส่ยี งดา้ นแบบแผนการผลติ
- ความเสย่ี งด้านโรคและศตั รูพชื- ความเส่ยี งดา้ นการขาดแคลนแรงงาน- ความเสี่ยงดา้ นหนส้ี นิ และการสญู เสยี ทด่ี ิน ทฤษฎใี หม่ จงึ เปน็ แนวทางหรือหลกั การในการบริหารการจดั การที่ดินและน้า เพื่อการเกษตรในท่ีดนิขนาดเล็กใหเ้ กิดประโยชนส์ ูงสดุความสาคญั ของทฤษฎีใหม่๑. มีการบรหิ ารและจดั แบ่งทดี่ ินแปลงเลก็ ออกเปน็ สดั สว่ นที่ชัดเจน เพอื่ ประโยชนส์ ูงสดุ ของเกษตรกร ซ่งึ ไม่เคยมีใครคิดมาก่อน๒. มกี ารคานวณโดยใชห้ ลักวิชาการเกยี่ วกบั ปรมิ าณนา้ ทจ่ี ะกกั เก็บให้พอเพียงต่อการเพาะปลกู ไดอ้ ย่างเหมาะสมตลอดปี๓. มกี ารวางแผนท่ีสมบรู ณแ์ บบสาหรบั เกษตรกรรายยอ่ ย โดยมถี ึง ๓ ขั้นตอนทฤษฎีใหม่ข้นั ตน้ให้แบ่งพน้ื ท่ีออกเป็น ๔ สว่ น ตามอัตราส่วน ๓๐:๓๐:๓๐:๑๐ ซึง่ หมายถึงพน้ื ที่ส่วนทีห่ นงึ่ ประมาณ ๓๐% ให้ขดุ สระเก็บกักนา้ เพือ่ ใชเ้ ก็บกักน้าฝนในฤดฝู น และใชเ้ สรมิ การปลูกพืชในฤดแู ลง้ ตลอดจนการเลยี้ งสัตวแ์ ละพืชน้าตา่ งๆพน้ื ทีส่ ่วนทส่ี อง ประมาณ ๓๐% ใหป้ ลกู ขา้ วในฤดฝู นเพ่ือใชเ้ ปน็ อาหารประจาวันสาหรับครอบครัวให้เพียงพอตลอด ปี เพ่ือตดั คา่ ใชจ้ ่ายและสามารถพึ่งตนเองได้พืน้ ที่สว่ นที่สาม ประมาณ ๓๐% ใหป้ ลูกไม้ผล ไมย้ นื ตน้ พชื ผกั พืชไร่ พืชสมุนไพร ฯลฯ เพ่ือใชเ้ ป็นอาหารประจาวนั หากเหลอื บรโิ ภคก็นาไปจาหนา่ ยพนื้ ทสี่ ่วนท่ีส่ี ประมาณ ๑๐% เป็นที่อยอู่ าศัย เล้ยี งสัตว์ ถนนหนทาง และโรงเรอื นอน่ื ๆ
ภาพท่ี 2.2 เกษตรทฤษฏใี หม่ จาก http://www.kasetorganic.com/ทฤษฎีใหมข่ ั้นท่สี อง เม่ือเกษตรกรเข้าใจในหลกั การและได้ปฏิบัติในทีด่ ินของตนจนไดผ้ ลแล้ว กต็ อ้ งเริม่ ขั้นทส่ี อง คือให้เกษตรกรรวมพลงั กันในรูป กลุ่ม หรือ สหกรณ์ รว่ มแรงร่วมใจกันดาเนนิ การในดา้ น(1) การผลติ (พันธุพ์ ืช เตรยี มดิน ชลประทาน ฯลฯ)- เกษตรกรจะต้องร่วมมือในการผลิต โดยเร่ิม ตั้งแต่ขนั้ เตรียมดิน การหาพนั ธุ์พืช ป๋ยุ การจดั หานา้ และอ่ืนๆเพ่ือการเพาะปลูก(2) การตลาด (ลานตากข้าว ย้งุ เครอ่ื งสขี ้าว การจาหน่ายผลผลิต)- เม่ือมีผลผลติ แล้ว จะต้องเตรียมการตา่ งๆ เพอ่ื การขายผลผลิตใหไ้ ด้ประโยชนส์ งู สดุ เชน่ การเตรยี มลานตากขา้ วร่วมกัน การจัดหายงุ้ รวบรวมข้าว เตรียมหาเครื่องสีข้าว ตลอดจนการรวมกันขายผลผลิตให้ไดร้ าคาดีและลดค่าใชจ้ ่ายลงดว้ ย(3) การเปน็ อยู่ (กะปิ นา้ ปลา อาหาร เครื่องนุง่ หม่ ฯลฯ)- ในขณะเดยี วกันเกษตรกรต้องมีความเปน็ อยู่ท่ดี ีพอสมควร โดยมีปจั จัยพนื้ ฐานในการดารงชีวิต เช่น อาหารการกนิ ตา่ งๆ กะปิ นา้ ปลา เสือ้ ผ้า ทพี่ อเพยี ง
(4) สวสั ดิการ (สาธารณสขุ เงินก)ู้- แตล่ ะชุมชนควรมสี วัสดิภาพและบริการทีจ่ าเปน็ เชน่ มสี ถานอี นามยั เม่ือยามปุวยไข้ หรอื มีกองทุนไว้กยู้ ืมเพ่อื ประโยชน์ในกจิ กรรมต่างๆ ของชมุ ชน(5) การศึกษา (โรงเรยี น ทนุ การศกึ ษา)- ชุมชนควรมบี ทบาทในการส่งเสริมการศึกษา เช่น มกี องทนุ เพือ่ การศึกษาเลา่ เรียนให้แกเ่ ยาวชนของชมชนเอง(6) สงั คมและศาสนา- ชมุ ชนควรเปน็ ทีร่ วมในการพัฒนาสังคมและจิตใจ โดยมีศาสนาเป็นทีย่ ดึ เหน่ยี วโดยกจิ กรรมทัง้ หมดดงั กล่าวข้างตน้ จะตอ้ งไดร้ ับความร่วมมอื จากทุกฝาุ ยที่เกีย่ วข้อง ไม่วา่ ส่วนราชการ องคก์ รเอกชน ตลอดจนสมาชิกในชุมชนนั้นเป็นสาคัญทฤษฎใี หม่ขนั้ ทส่ี าม เมอ่ื ดาเนนิ การผ่านพ้นขัน้ ทส่ี องแลว้ เกษตรกร หรือกลุม่ เกษตรกรกค็ วรพฒั นากา้ วหนา้ ไปสู่ขนั้ ท่สี ามตอ่ ไป คอื ตดิ ตอ่ ประสานงาน เพอื่ จดั หาทนุ หรือแหล่งเงิน เชน่ ธนาคาร หรอื บรษิ ัท ห้างร้านเอกชน มาชว่ ยในการลงทนุ และพฒั นาคณุ ภาพชีวิตทงั้ นี้ ทัง้ ฝาุ ยเกษตรกรและฝาุ ยธนาคาร หรอื บริษัทเอกชนจะได้รับประโยชน์ร่วมกนั กล่าวคือ- เกษตรกรขายขา้ วได้ราคาสงู (ไม่ถูกกดราคา)- ธนาคารหรอื บรษิ ัทเอกชนสามารถซ้ือขา้ วบริโภคในราคาต่า (ซอ้ื ข้าวเปลือกตรงจากเกษตรกรและมาสีเอง)- เกษตรกรซ้ือเครือ่ งอุปโภคบริโภคได้ในราคาต่า เพราะรวมกนั ซอ้ื เป็นจานวนมาก (เป็นร้านสหกรณ์ราคาขายสง่ )- ธนาคารหรอื บริษทั เอกชน จะสามารถกระจายบคุ ลากร เพ่ือไปดาเนินการในกจิ กรรมต่างๆ ใหเ้ กิดผลดีย่งิ ขนึ้หลักการและแนวทางสาคัญ
1. เป็นระบบการผลติ แบบเศรษฐกิจพอเพียงท่ีเกษตรกรสามารถเลยี้ งตัวเองได้ในระดบั ทป่ี ระหยดั ก่อน ทง้ั น้ีชมุ ชนต้องมีความสามคั คี ร่วมมอื ร่วมใจในการช่วยเหลือซึง่ กันและกันทานองเดียวกับการ “ลงแขก” แบบดั้งเดิมเพอ่ื ลดค่าใช้จา่ ยในการจา้ งแรงงานด้วย2. เนอ่ื งจากข้าวเป็นปัจจยั หลกั ที่ทกุ ครัวเรอื นจะต้องบริโภค ดงั นัน้ จงึ ประมาณว่าครอบครัวหนง่ึ ทานาประมาณ ๕ ไร่ จะทาให้มีขา้ วพอกินตลอดปี โดยไมต่ ้องซอื้ หาในราคาแพง เพื่อยึดหลกั พึ่งตนเองได้อย่างมีอิสรภาพ3. ต้องมีนา้ เพือ่ การเพาะปลกู สารองไวใ้ ช้ในฤดแู ลง้ หรอื ระยะฝนทิง้ ช่วงได้อยา่ งพอเพยี ง ดังนัน้ จงึ จาเป็นต้องกันท่ีดนิ ส่วนหนึง่ ไว้ขดุ สระน้า โดยมหี ลักว่าตอ้ งมนี ้าเพียงพอที่จะเพาะปลกู ไดต้ ลอดปี ทัง้ น้ี ได้พระราชทานพระราชดาริเป็นแนวทางวา่ ต้องมนี ้า 1000 ลูกบาศกเ์ มตร ตอ่ การเพาะปลกู 1 ไร่ โดยประมาณ ฉะนัน้ เม่ือทานา 5 ไร่ ทาพชื ไร่ หรือไมผ้ ลอีก 5 ไร่ (รวมเป็น 10 ไร)่ จะต้องมีน้า 10000 ลูกบาศกเ์ มตรตอ่ ปี4. การจัดแบ่งแปลงท่ดี นิ เพื่อให้เกดิ ประโยชน์สูงสุดน้ี พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวทรงคานวณและคานงึ จากอตั ราการถอื ครองท่ดี นิ ถัว เฉล่ยี ครวั เรือนละ 15 ไร่ อย่างไรก็ตาม หากเกษตรกรมีพ้ืนทถี่ ือครองน้อยกว่านี้หรอื มากกว่านี้ กส็ ามารถใชอ้ ัตราสว่ น 30:30:30:10 เปน็ เกณฑ์ปรับใช้ได้ กล่าวคอื ภาพท่ี 2.3 เกษตรทฤษฏีใหม่ จาก http://www.kasetorganic.com/ ร้อยละ 30 สว่ นแรก ขดุ สระน้า (สามารถเลย้ี งปลา ปลูกพืชน้า เช่น ผกั บุ้ง ผกั กะเฉด ฯลฯ ได้ด้วย) บนสระอาจสร้างเล้าไกแ่ ละบนขอบสระน้าอาจปลูกไมย้ ืนตน้ ที่ไม่ใช้นา้ มากโดยรอบ ได้รอ้ ยละ 30 สว่ นที่สองทานาร้อยละ 30 ส่วนทีส่ าม ปลูกพืชไร่ พืชสวน (ไมผ้ ล ไม้ยืนตน้ ไมใ้ ชส้ อย ไมเ้ พ่อื เป็นเช้ือฟืน ไมส้ รา้ งบา้ น พชื ไร่พชื ผัก สมุนไพร เปน็ ตน้ )
รอ้ ยละ 10 สุดทา้ ย เป็นทีอ่ ยอู่ าศัยและอื่นๆ (ทางเดิน คันดนิ กองฟาง ลานตาก กองปุ๋ยหมกั โรงเรอื น โรงเพาะเห็ด คอกสตั ว์ ไม้ดอกไม้ประดบั พืชสวนครัวหลังบ้าน เปน็ ตน้ )อย่างไรก็ตาม อตั ราส่วนดงั กล่าวเปน็ สตู ร หรอื หลกั การโดยประมาณเทา่ น้ัน สามารถปรับปรงุ เปลยี่ นแปลงได้ตามความเหมาะสม โดยขึน้ อยกู่ ับสภาพของพน้ื ท่ดี ิน ปริมาณน้าฝน และสภาพแวดลอ้ ม เช่น ในกรณภี าคใตท้ ี่มฝี นตกชุก หรอื พ้ืนท่ีทม่ี ีแหล่งน้ามาเติมสระได้ต่อเนื่อง ก็อาจลดขนาดของบ่อ หรือสระเกบ็ นา้ ให้เล็กลง เพื่อเก็บพื้นท่ไี ว้ใชป้ ระโยชนอ์ ื่นต่อไปได้5. การดาเนนิ การตามทฤษฎีใหม่ มีปจั จยั ประกอบหลายประการ ขึน้ อยู่กับสภาพภูมิประเทศ สภาพแวดล้อมของแตล่ ะท้องถน่ิ ดังนน้ั เกษตรกรควรขอรับคาแนะนาจากเจ้าหนา้ ทด่ี ้วย และทส่ี าคัญ คือ ราคาการลงทุนค่อนข้างสูง โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงการขดุ สระน้า เกษตรกรจะตอ้ งไดร้ ับความช่วยเหลือจากสว่ นราชการ มูลนิธิและเอกชน6. ในระหวา่ งการขุดสระน้า จะมดี ินท่ีถูกขุดขน้ึ มาจานวนมาก หนา้ ดินซง่ึ เป็นดินดี ควรนาไปกองไว้ ว้ตา่ งหากเพื่อนามาใชป้ ระโยชน์ในการปลกู พืชต่างๆ ในภายหลงั โดยนามาเกลยี่ คลุมดินชน้ั ลา่ งทเี่ ปน็ ดนิไม่ดี หรืออาจนามาถมทาขอบสระน้า หรอื ยกร่องสาหรับปลูกไมผ้ ลกจ็ ะไดป้ ระโยชนอ์ ีกทางหน่ึงตัวอย่างพชื ที่ควรปลกู และสตั ว์ท่ีควรเลยี้ งไม้ผลและผกั ยนื ต้น : มะม่วง มะพร้าว มะขาม ขนนุ ละมุด สม้ กลว้ ย น้อยหน่า มะละกอ กะท้อน แคบา้ นมะรุม สะเดา ข้ีเหล็ก กระถนิ ฯลฯผักลม้ ลุกและดอกไม้ : มนั เทศ เผือก ถวั่ ฝกั ยาว มะเขือ มะลิ ดาวเรือง บานไม่รโู้ รย กุหลาบ รัก และซ่อนกล่ินเปน็ ตน้เห็ด : เหด็ นางฟูา เหด็ ฟาง เห็ดเปา๋ ฮ้ือ เปน็ ตน้สมุนไพรและเคร่ืองเทศ : หมาก พลู พริกไท บุก บวั บก มะเกลือ ชุมเหด็ หญา้ แฝก และพชื ผักบางชนิด เชน่กะเพรา โหระพา สะระแหน่ แมงลกั และตะไคร้ เป็นต้นไม้ใชส้ อยและเช้อื เพลงิ : ไผ่ มะพรา้ ว ตาล กระถินณรงค์ มะขามเทศ สะแก ทองหลาง จามจรุ ี กระถนิ สะเดาข้เี หล็ก ประดู่ ชิงชัน และยางนา เปน็ ตน้
พืชไร่ : ข้าวโพด ถวั่ เหลอื ง ถั่วลิสง ถั่วพ่มุ ถ่วั มะแฮะ อ้อย มันสาปะหลงั ละหงุ่ นุ่น เป็นต้น พชื ไรห่ ลายชนดิอาจเกบ็ เก่ียวเมอื่ ผลผลิตยังสดอยู่ และจาหน่ายเปน็ พืชประเภทผักได้ และมีราคาดีกว่าเกบ็ เมอ่ื แก่ ไดแ้ ก่ขา้ วโพด ถัวเหลือง ถัว่ ลสิ ง ถัว่ พมุ่ ถัว่ มะแฮะ ออ้ ย และมนั สาปะหลังพชื บารุงดินและพืชคลุมดนิ : ถ่วั มะแฮะ ถั่วฮามาต้า โสนแอฟริกัน โสนพ้นื เมือง ปอเทอื ง ถัว่ พร้า ขเ้ี หล็กกระถิน รวมทั้งถว่ั เขียวและถั่วพ่มุ เป็นต้น และเม่ือเกบ็ เก่ียวแล้วไถกลบลงไปเพื่อบารุงดินได้หมายเหตุ : พืชหลายชนดิ ใชท้ าประโยชน์ได้มากกว่าหน่ึงชนดิ และการเลอื กปลกู พืชควรเน้นพชื ยืนตน้ ดว้ ยเพราะการดแู ลรักษาในระยะหลงั จะลดน้อยลง มผี ลผลติ ทยอยออกตลอดปี ควรเลือกพืชยืนตน้ ชนิดตา่ งๆ กันให้ความรม่ เย็นและชมุ่ ชนื้ กบั ทีอ่ ยู่อาศยั และส่ิงแวดล้อม และควรเลือกต้นไมใ้ ห้สอดคล้องกับสภาพของพ้ืนท่ีเชน่ ไม่ควรปลกู ยคู าลปิ ตัสบริเวณขอบสระ ควรเปน็ ไม้ผลแทน เป็นต้นสตั ว์เล้ียงอนื่ ๆ ได้แก่สัตว์น้า : ปลาไน ปลานิล ปลาตะเพยี นขาว ปลาดุก เพ่ือเป็นอาหารเสรมิ ประเภทโปรตีน และยงั สามารถนาไปจาหน่ายเปน็ รายไดเ้ สริมได้อีกด้วย ในบางพน้ื ทีส่ ามารถเล้ียงกบได้สุกร หรอื ไก่ เลย้ี งบนขอบสระน้า ทงั้ นี้ มลู สุกรและไก่สามารถนามาเป็นอาหารปลา บางแหง่ อาจเลย้ี งเป็ดได้ ภาพท่ี 2.4 ปลูกผกั ตามหลกั เศรษฐกิจพอเพียง จาก http://www.royalparkrajapruek.org
ประโยชน์ของทฤษฎใี หม่1. ใหป้ ระชาชนพออย่พู อกนิ สมควรแกอ่ ัตภาพในระดับท่ปี ระหยัด ไม่อดอยาก และเลีย้ งตนเองไดต้ ามหลักปรชั ญา “เศรษฐกิจพอเพยี ง”2. ในหนา้ แล้งมีน้านอ้ ย ก็สามารถเอานา้ ทเ่ี ก็บไวใ้ นสระมาปลูกพชื ผกั ตา่ งๆ ท่ใี ชน้ า้ นอ้ ยได้ โดยไม่ต้องเบียดเบียนชลประทาน3. ในปีท่ฝี นตกตามฤดูกาลโดยมนี า้ ดตี ลอดปี ทฤษฎใี หม่นสี้ ามารถสรา้ งรายได้ให้แก่เกษตรกรได้โดยไม่เดอื ดรอ้ นในเรื่องคา่ ใช้จา่ ยต่างๆ4. ในกรณีท่เี กดิ อุทกภัย เกษตรกรสามารถทีจ่ ะฟ้นื ตวั และชว่ ยตวั เองได้ในระดับหน่งึ โดยทางราชการไม่ตอ้ งชว่ ยเหลอื มากนกั ซึ่งเปน็ การประหยดั งบประมาณด้วยทฤษฎีใหม่ท่ีสมบรู ณ์ ทฤษฎีใหม่ที่ดาเนินการโดยอาศยั แหลง่ นา้ ธรรมชาติ นา้ ฝน จะอยู่ในลักษณะ “หมน่ิ เหม่” เพราะหากปีใดฝนน้อย น้าอาจจะไมเ่ พียงพอ ฉะนั้น การท่จี ะทาให้ทฤษฎใี หมส่ มบูรณ์ไดน้ ้ัน จาเปน็ ตอ้ งมีสระเกบ็ กกั นา้ ท่ีมีประสิทธภิ าพและเต็มความสามารถ โดยการมีแหล่งนา้ ขนาดใหญท่ ส่ี ามารถเพิ่มเติมน้าในสระเกบ็ กักนา้ ใหเ้ ต็มอยู่ เสมอ ดงั เช่น กรณขี องการทดลองทโี่ ครงการพัฒนาพนื้ ท่ีบริเวณวดั มงคลชยั พฒั นาอันเน่ืองมาจากพระราชดาริ จงั หวัดสระบรุ ี
ระบบทฤษฎใี หมท่ ่ีสมบรู ณ์ อ่างใหญ่ เติมอ่างเล็ก อ่างเลก็ เติมสระนา้ ภาพท่ี 2.5 เข่ือนปาุ สักอา่ งใหญ่ จาก http://www.thaigoodview.com จากภาพ วงกลมเล็ก คอื สระน้าทีเ่ กษตรกรขดุ ขึ้นตามทฤษฎใี หม่ เมือ่ เกิดชว่ งขาดแคลนน้าในฤดูแล้งเกษตรกรสามารถสบู น้ามาใช้ประโยชนไ์ ด้ และหากน้าในสระน้าไมเ่ พียงพอก็ขอรับน้าจากอ่างห้วยหนิ ขาว (อ่างเล็ก) ซ่ึงได้ทาระบบสง่ น้าเชื่อมต่อทางทอ่ ลงมายงั สระนา้ ที่ไดข้ ุดไว้ในแต่ละแปลง ซึ่งจะชว่ ยใหส้ ามารถมีน้าใช้ตลอดปี กรณีทเ่ี กษตรกรใชน้ ้ากันมาก อ่างห้วยหนิ ขาว (อา่ งเล็ก) ก็อาจมปี ริมาณนา้ ไมเ่ พยี งพอก็สามารถใช้วิธกี ารผนั นา้ จากเขอื่ นปาุ สักชลสทิ ธิ์ (อ่างใหญ)่ ตอ่ ลงมายังอ่างเก็บน้าห้วยหินขาว (อ่างเล็ก) ก็จะชว่ ยให้มีปริมาณน้ามาเติมในสระของเกษตรกรพอตลอดทง้ั ปโี ดยไม่ตอ้ งเสยี่ ง ระบบการจัดการทรพั ยากรน้าตามแนวพระราชดาริพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอย่หู วั สามารถทาใหก้ ารใช้น้ามปี ระสทิ ธิภาพอยา่ งสูงสุด จากระบบสง่ ท่อเปดิ ผา่ นไปตามแปลงไร่นาตา่ งๆ ถึง ๓-๕ เทา่ เพราะยามหน้าฝน นอกจากจะมีน้าในอ่างเกบ็ น้าแล้ว ยังมนี า้ ในสระของราษฎรเกบ็ ไว้พร้อมกันด้วย ทาใหม้ ีปริมาณน้าเพิ่มอย่างมหาศาล น้าในอ่างที่ต่อมาสสู่ ระจะทาหนา้ ท่ีเป็นแหล่งน้าสารอง คอยเติมเท่านนั้ เองการเชิดชู 13 นักคดิ ระดบั โลกเห็นดว้ ยกบั แนวทางเศรษฐกจิ พอเพยี ง และมีการนาเสนอบทความ บทสมั ภาษณ์ต่าง ๆ เช่น ศ.ดร. วลู ฟ์ กัง ซคั ส์ นกั วิชาการดา้ นส่ิงแวดล้อมคนสาคญั ของเยอรมนี สนใจการประยุกต์ใช้หลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งอยา่ งมาก และมองวา่ น่าจะเป็นอีกทางเลือกหนง่ึ สาหรับทุกชาตใิ นเวลานี้ ทั้งมีแนวคดิ ผลกั ดันเศรษฐกิจพอเพยี งให้เป็นทร่ี จู้ ักในเยอรมนี
ศ.ดร. อมาตยา เซน ศาสตราจารยช์ าวอินเดีย เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ ปี ค.ศ. 1998 มองว่า ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงเปน็ การใชส้ ง่ิ ตา่ ง ๆ ทีจ่ าเปน็ ต่อการดารงชีพ และใช้โอกาสใหพ้ อเพยี งกบั ชีวติ ทดี่ ีซึง่ ไม่ไดห้ มายถึงความไม่ต้องการ แตต่ อ้ งรูจ้ ักใช้ชวี ิตใหด้ ีพอ อย่าใหค้ วามสาคญั กบั เรื่องของรายไดแ้ ละความรา่ รวย แต่ใหม้ องทค่ี ุณค่าของชวี ิตมนุษย์ จกิ มี ทินเลย์ นายกรฐั มนตรแี หง่ ประเทศภูฏาน ให้ทรรศนะว่า หากประเทศไทยกาหนดเรอื่ งเศรษฐกิจพอเพียงใหเ้ ป็นวาระระดับชาติ และดาเนินตามแนวทางน้ีอย่างจริงจัง \"ผมวา่ ประเทศไทยสามารถสร้างโลกใบใหมจ่ ากหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง สร้างชวี ิตทยี่ ่ังยนื และสุดท้ายจะไม่หยดุ เพียงแค่ในประเทศ แตจ่ ะเปน็หลกั การและแนวปฏิบตั ิของโลก ซึ่งหากทาได้สาเรจ็ ไทยก็คอื ผูน้ า ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงไดร้ ับการเชิดชูเป็นอย่างสงู จากองคก์ ารสหประชาชาติ โดยนายโคฟี อนั นนั ในฐานะเลขาธกิ ารองค์การสหประชาชาติ ได้ทลู เกล้าฯ ถวายรางวลั ความสาเร็จสงู สดุ ด้านการพฒั นามนษุ ย์ แด่พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู ัว เมอื่ วนั ท่ี 26พฤษภาคม พ.ศ. 2549 และไดม้ ปี าฐกถาถึงปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งวา่ เปน็ ปรชั ญาท่ีมปี ระโยชน์ต่อประเทศไทยและนานาประเทศ[5] และสามารถเริ่มได้จากการสร้างภมู คิ มุ้ กันในตนเอง สหู่ มู่บา้ น และส่เู ศรษฐกิจในวงกว้างขนึ้ ในท่สี ุด และนาย Hakan Bjorkman รกั ษาการผ้อู านวยการสานักงานโครงการพฒั นาแห่งสหประชาชาตใิ นประเทศไทย กลา่ วเชิดชปู รชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง และยังได้ตระหนักถึงวสิ ยั ทศั น์และแนวคิดในการพฒั นาของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หัว[18] และองค์การสหประชาชาติยังได้สนบั สนนุ ให้ประเทศตา่ งๆ ทีเ่ ปน็ สมาชกิ 166 ประเทศใหย้ ึดเป็นแนวทางสูก่ ารพฒั นาประเทศแบบย่ังยืน
บทที่ 3วิธดี าเนนิ งานจดั ทาโครงงาน เรื่อง เศรษฐกจิ พอเพียง1. ศึกษาเอกสารท่ีเกีย่ วข้องกับ เร่ือง เศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดารสั2. แบง่ หน้าท่ีในการทางาน3. ศึกษาคน้ ควา้ จากอินเทอรเ์ น็ต4. รวบรวมขอ้ มูลทไ่ี ด้5. ทา PowerPoint เพอ่ื นาเสนองาน6. จัดทารปู เล่มรายงานขน้ึ7. นาเสนอโครงงาน
บทท่ี 4ผลการดาเนนิ โครงการ เรือ่ ง เศรษฐกพิ อเพียง ตามแนวพระราชดารัส จากการ สมั ภาษณ์ ชาวบา้ นหมบู่ า้ นใกล้เคยี ง และจากอนิ เทอรเ์ น็ต ปรากฏการศึกษา ดังตอ่ ไปนี้ การจัดทาโครงงาน เรอื่ ง เศรษฐกิจพอเพียง มีวัตถปุ ระสงค์เพื่อ เผยแพรค่ วามร้เู ศรษฐกจิ พอเพยี ง เพ่ือให้ผจู้ ดั ทาโครงงานสารมารถนามาประยุกตใ์ ช้ในชีวติ ประจาวันของตนเองและครอบครัว ตลอดจนเพื่อน และผู้ท่ีสนใจ ซึง่ มผี ลการดาเนินโครงงาน ดังน้ี4.1 เศรษฐกิจพอเพยี ง ผจู้ ดั ทาไดเ้ ริ่มดาเนนิ งานตามขัน้ ตอนการดาเนนิ งานท่เี สนอในบทท่ี 3 แล้ว จากน้นั ไดน้ าเสนอเผยแพรผ่ ลงานผา่ นโปรแกรมพาวเวอรพ์ ้อยท์ ท่ีสามารถเข้าถึงได้ทุกทที่ ุกเวลา ซ่งึ สามารถเชื่อมต่อกบั ส่ือสังคมของผจู้ ัดทาทชี่ ่ือวา่ สามารถเช่ือมต่อกบั เว็บไซตอ์ น่ื ๆไดเ้ ปน็ อยา่ งดี โดยทั้งครูท่ปี รึกษา และเพื่อนๆในห้อง ได้เขา้ มีสว่ นรว่ มในการจัดการเรียนรู้ โดยแสดงความเห็นในเนอ้ื หาและรปู แบบนาเสนอ ซึ่งทาให้เกิดการเรียนรู้และเปน็ แหลง่ เรียนรู้ในโลกออนไลน์อยา่ งหลากหลายและรวดเร็ว4.2 ผลการศึกษา ผศู้ ึกษาไมม่ ีความเชยี่ วชาญเก่ยี วกับเศรษฐกจิ พอเพียงตา่ ง ๆ จงึ มีแนวความคิดจดั ทาโครงงานเร่อื ง เศรษฐกิจพอเพยี ง ตามแนวพระราชดารัส อยากมีความรู้เรอื่ งเกษตรต่างๆ เพ่อื ประยุกตใ์ ช้กับปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยูห่ ัว เพื่อท่ีจะไดอ้ อก สัมภาษณ์ ลงมอื ปฏิบัติจริง และได้ศึกษาคน้ ค้าหาความรูเ้ ร่ืองเศรษฐกิจพอเพยี ง ตามแนวพระราชดารัส มาทาเป็นเวบ็ บล็อก ด้วยตนเอง และนาความรู้ท่ีได้ไปเผยแพร่ให้ความรนู้ ักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 6 และชาวบา้ นหมู่บ้านใกลเ้ คยี ง เช่น บ้านโคกกลว้ ย บ้านระโยง บา้ นสองช้ัน และมีความเชีย่ วชาญเรอื่ งเกษตรต่างๆ และมีโอกาสไดล้ งมอื ปฏิบตั ิจริงและสามารถสอบเร่ืองเกษตร ได้ผลสมั ฤทธ์ิ ในระดับดี ทกุ คนต้องมีความรูค้ วามเช่ียวชาญ เกยี่ วกบั เศรษฐกิจพอเพยี งต่าง ๆ การศึกษาโครงงาน เร่ืองเศรษฐกิจพอเพียงตามแนว พระราชดารัส จึงเป็นประโยชน์อยา่ งยิง่ สาหรับผู้ท่ีต้องการศกึ ษาค้นคว้าต้องการรู้จักเร่อื งเกษตรตา่ ง ๆ ของพืชผักต่าง ๆเช่น ผกั กาด ผกั หอม เป็นต้น จึงจะไดค้ วามร้จู ากการศึกษาค้นคว้าในครัง้ นมี้ าก
ในปัจจบุ ันเศรษฐกิจพอเพียงได้มีการนามาปฏิบัติในดา้ นการเกษตร กันอยา่ งแพร่หลาย คณะผู้ศึกษาจึงไดจ้ ัดทาโครงงาน เรื่องเศรษฐกจิ พอเพยี งตามแนวพระราชดารัส ขึ้น เพอื่ เป็นประโยชนก์ ับผ้จู ดั ทาและทุกๆคนบทท่ี 5สรุปผลาราเนินงานและข้อเสนอแนะสรปุ ผล การวจิ ัยเรอ่ื งการดาเนินงานของการจดั โครงการเศรษฐกจิ พอเพียง มวี ตั ถุประสงค์เพือ่ เปน็ ปรชั ญาที่ช้แี นะแนวทางการดารงอยู่และปฏบิ ตั ิตนในทางท่คี วรจะเป็นโดยมีพ้นื ฐานมาจากวิถชี วี ิตดัง้ เดิมของสงั คมไทยสามารถนามาประยุกต์ใช้ไดต้ ลอดเวลาและเป็นการมองโลกเชงิ ระบบที่มีการเปลย่ี นแปลงอยตู่ ลอดเวลา มงุ่ เนน้การรอดพน้ จากภัยและวิกฤติ เพือ่ ความมั่นคงและความยงั่ ยืนของการพฒั นาอภปิ รายผล จากผลการประเมนิ โครงการเศรษฐกจิ พอเพียงโดยภาพรวมพบว่า การจัดกจิ กรรมในโครงการเศรษฐกจิพอเพียงมจี านวน10กจิ กรรมซ่งึ เป็นกจิ กรรมที่มีความสาคัญตอ่ การดาเนินชวี ติ และการนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ของผ้เู รียนได้เป็นอย่างดี โครงการเศรษฐกิจพอเพยี งในการประเมนิ ของผูเ้ รยี นกจิ กรรมมีความเหมาะสม พงึ พอใจอยใู่ นระดับมาก เหตุผลดังกลา่ วจะเห็นได้วา่ การเตรยี มความพร้อมในการจัดกจิ กรรมน้ัน มีความพร้อมมากเนื่องจากโครงการเศรษฐกิจพอเพียงเปน็ กิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี นทาให้ผู้เรียนมคี วามรู้ความสามารถ และมีประสบการณ์มากทาให้การดาเนนิ กิจกรรมดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบรอ้ ยตลอดจนคานึงถงึ ประโยชน์ท่ีไดร้ ับจากการจัดกิจกรรมซง่ึ เป็นกิจกรรมทท่ี า้ ทายความสามารถผเู้ รยี น ได้ฝึกคิด แก้ปัญหา
ในสถานการณจ์ รงิ ในกิจกรรมต่างๆ ซ่ึงแฝงด้วยความสนุกสนาน เสรมิ สร้างความสามัคคี เสยี สละ อดทน การคาดการณ์ ไดร้ บั ความรปู้ ระสบการณม์ ากมายซึ่งอาจไดม้ ีโอกาสสมั ผสั ในชีวติ ประจาวันโดยทว่ั ไปข้อเสนอแนะ 1. ครทู ี่ปรึกษากิจกรรมตา่ งๆท่ีท่านรบั ผิดชอบควรสร้างความตระหนักตอ่ ผู้เรยี นถงึ ผลท่เี กิดขน้ึ จริงในชวี ิตประจาวนั 2. ครู ผปู้ กครองหรือผทู้ เ่ี กี่ยวขอ้ งควรเปน็ แบบอย่างทดี่ ีต่อผูเ้ รยี น 3. ควรเนน้ ใหผ้ ู้เรยี นได้ปฏิบตั จิ ริงและผลทเ่ี กดิ ขึน้ จรงิ ได้คิดและแก้ปญั หาจรงิ ๆ
ภาคผนวกประชุมและแบง่ งาน
ศกึ ษาหาขอ้ มลูจดั ทารปู เล่มผู้จัดทารูปเล่ม
จัดทาพาวเวอร์พอยท์เรยี บเรยี งหนา้ และจัดทารูปเลม่
บรรณานกุ รมพระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หัวภมู ิพลอดุลยเดช พระราชทานแก่คณะครแู ละนกั เรยี นที่ได้รับพระราชทานรางวลั ณ ศาลาดุสดิ าลยั , (2537). ม.ป.ท. .กรมวิชาการ. (2542). แนวการจัดการเรียนรเู้ กษตรแบบเศรษฐกิจพอเพียง. กรงุ เทพฯ :กรมวชิ าการ.กระทรวงศกึ ษาธกิ าร . (2549). โครงการขับเคล่ือนปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งส่สู ถานศกึ ษา.กรุงเทพฯ (เอกสารอัดสาเนา)จาเนยี ร นาศรเี จรญิ กุล. (2542). การจดั โครงการเกษตรเพอื่ อาหารกลางวันในโรงเรยี นประถมศึกษา จังหวัดนครนายก ตามพระราชดาริ สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี .วิทยานพิ นธ์ กศ.ม. มหาวิทยาลัยบรู พา.ชยั รนิ ทร์ ชัยวิสทิ ธ์. (2545). “การวิจัยเชิงปฏิบตั ิการแบบมสี ่วนรว่ มเพอ่ื สร้างคา่ นิยมตามแนวเศรษฐกิจพอเพยี งใหน้ กั เรียนและชุมชนด้วยโครงงานอาชพี ”.วิทยานิพนธ์ศกึ ษาศาสตร์ มหาบัณฑติ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.นิศา ชโู ต . (2538). การประเมนิ โครงการ. พิมพค์ รั้งที่ 4. กรงุ เทพฯ : พ.ี เอน็ .บุญชม ศรสี ะอาด. (2535). การวจิ ยั เบือ้ งตน้ . พมิ พค์ รั้งท่ี 2. กรงุ เทพฯ : สวุ ริ ิยาสาสน์ .ปรียาพร วงคอ์ นตุ รโรจน์. (2535). การบรหิ ารงานวิชาการ. กรุงเทพฯ : ศนู ย์สื่อเสริม กรงุ เทพฯ.พิสณุ ฟองศรี. (2549). การประเมนิ ทางการศกึ ษา : แนวคดิ สู่การปฏบิ ตั ิ. พิมพค์ รง้ั ท่ี 2. กรงุ เทพฯ : เทียมฝุา.
Search
Read the Text Version
- 1 - 34
Pages: