44 มีหน่วยยอ่ ย เรยี กวำ่ นวิ คลโี อไทด์ (Nucleotide)
45 DNA RNA (Deoxyribonucleic acid) (Ribonucleic acid)
46
47
48
49
50 วิตำมิน (Vitamin) เป็นสารประกอบอินทรีย์ ซึ่งเป็นสารอาหารสาคัญ ที่สิ่งมีชีวิตต้องการใน ปริมาณเล็กน้อย และ ไมใ่ ห้พลงั งาน
51 Vitamin A Vitamin C Vitamin K Vitamin E
52 วติ ำมิน ละลำยในนำ้ ละลำยในไขมัน BC ADEK
53 ละลำยในนำ้ ลำยในไขมัน การดูดซึมในระบบ เข้าสกู่ ระแสเลอื ด เข้าสูร่ ะบบนา้ เหลอื ง ทางเดินอาหาร ก่อนแลว้ คอ่ ไปยังเลือด การขนส่งในร่างกาย ลาเลียงไปกับน้าเลอื ด ขนส่งไปกับโปรตีน การเกบ็ สะสม เกบ็ และหมุนเวยี น เกบ็ สะสมในไขมนั การขบั ออกจาก ตามนา้ ในร่างกาย รา่ งกาย ทางน้าปัสสาวะ ขบั ออกได้น้อย สว่ นใหญ่สะสมใน ไขมัน ** คนเรำมักจะขำดวิตำมนิ ทลี่ ะลำยในน้ำ และควรไดร้ ับทุกวนั
54 1 วิตามินบางตัวมีหน้าที่ควบคุมความสมดุลของแร่ธาตุใน ร่างกาย เชน่ vitamin D 2 ควบคุมการเจริญและการเปลี่ยนแปลงไปทาหน้าที่เฉพาะ ของเซลล์และเนื้อเย่อื 3 เปน็ สารตา้ นอนมุ ูลอสิ ระ (เช่น Vitamin C และ E) 4 หลายชนิดมีหน้าที่เป็นสารตั้งต้นของโคแฟกเตอร์เอนไซม์ ซงึ่ ชว่ ยเอนไซมท์ างานเป็นตวั เร่งปฏิกิริยาในเมแทบอลิซมึ
SUMMARY 55
56
57 Malnutrition Overnutrition
กำรคำนวณคำ่ ดัชนมี วลกำย 58 (Body Mass Index: BMI)
3
ปฏกิ ริ ิยาเคมใี นสงิ่ มชี วี ิต 59 ปฏิกริ ิยำเคมใี นเซลล์ของสิง่ มีชวี ิต ดดู พลังงำน คำยพลงั งำน
ปฏกิ ริ ยิ าเคมีในส่ิงมชี ีวิต 60 พลังงำนของผลติ ภัณฑ์ > พลงั งำนของสำรต้งั ต้น พลังงานทก่ี ระตุ้น ให้เกิดปฏิกิริยา พลังงานทส่ี ะสม ในสารผลติ ภณั ฑ์
ปฏกิ ริ ิยาเคมีในสงิ่ มีชีวิต 61 พลงั งำนของผลติ ภัณฑ์ < พลงั งำนของสำรตงั้ ต้น พลังงานท่กี ระตนุ้ ให้เกิดปฏิกิรยิ า พลงั งานที่ ปลอ่ ยออกมา
ปฏกิ ริ ิยาเคมใี นสง่ิ มชี ีวิต 62 ปฏกิ ิรยิ ำทง้ั หมดทเ่ี กดิ ข้ึนในสงิ่ มีชีวติ เรียกวำ่ เมทำบอลิซึม (Metabolism) แคทาบอลิซึม (Catabolism) แอนาบอลิซมึ (Anabolism) สลายสารโมเลกุลใหญ่ ใช้พลังงานเพ่อื สงั เคราะห์ ใหไ้ ดพ้ ลงั งาน สารโมเลกุลใหญ่
ปฏกิ ริ ิยาเคมใี นส่งิ มีชวี ิต 63
ปฏกิ ริ ิยาเคมีในส่งิ มีชวี ิต 64 A---B A+B พลังงำนกระตุ้น พลงั งำนกระตุ้น เม่อื มีตัวเร่ง C+D
เปรยี บเทียบปฏกิ ิรยิ าเคมี 65 ปฏกิ ิรยิ ำปกติ ปฏิกริ ิยำทมี่ ีตัวเร่ง
เอนไซม์ (Enzyme) : ตัวเร่งปฏิกริ ยิ าเคมี 66 เปน็ สำรประเภทโปรตนี เป็นตัวเรง่ ปฏิกริ ิยำ (catalyst) ทำหน้ำที่ลดพลังงำนกระตนุ้ ของปฏกิ ิรยิ ำ
เอนไซม์ (Enzyme) : ตัวเร่งปฏิกริ ิยาเคมี 67 ทฤษฎแี มก่ ญุ แจ-ลูกกุญแจ (lock-and-key theory)
เอนไซม์ (Enzyme) : ตัวเรง่ ปฏิกิริยาเคมี 68 ควำมจำเพำะของเอนไซม์กบั ซบั สเตรท
เอนไซม์ (Enzyme) : ตัวเร่งปฏกิ ิรยิ าเคมี 69 เอนไซมบ์ ำงชนดิ จำเป็นตอ้ งมีโคแฟกเตอร์ (Cofactor)
เอนไซม์ (Enzyme) : ตวั เรง่ ปฏกิ ิรยิ าเคมี 70 เร่งปฏิกริ ยิ ำของสำรต้งั ตน้ ตวั ใหม่ไปเรอ่ื ย ๆ
เอนไซม์ (Enzyme) : ตัวเร่งปฏิกริ ิยาเคมี 71 กำรทำงำนยอ้ นกลับของเอนไซม์
ปจั จยั ทม่ี ผี ลตอ่ การทางานของเอนไซม์ 72 1 อุณหภมู ิ (Temperature)
ปจั จยั ท่มี ผี ลตอ่ การทางานของเอนไซม์ 73 2 คำ่ ควำมเปน็ กรด – เบส (pH)
ปจั จยั ทม่ี ผี ลต่อการทางานของเอนไซม์ 74 3 ควำมเข้มขน้ ของสำรต้งั ต้น (Substrate concentration) เพิม่ ความเขม้ ขน้ ของสารตั้งตน้ อัตราการเกิดปฏกิ ิริยาไม่เปล่ยี นแปลง
ปัจจยั ท่ีมีผลตอ่ การทางานของเอนไซม์ 75 4 ตัวยบั ย้ังเอนไซม์ (Enzyme inhibitor) แบบแข่งขนั แบบไมแ่ ข่งขัน (Competitive inhibitor) (Non-competitive inhibitor)
Search