..
คำนำ . หนงั สือเล่มน้ีจดั ทำข้นึ เพ่อื เป็นส่วนหน่ึงของวชิ ำ 0801221 กฎหมำยอำญำ 2 ภำคควำมผดิ เพอื่ ใหไ้ ดศ้ ึกษำหำควำมรู้ในเร่ืองกฎหมำยอำญำลกั ษณะควำมผดิ ต่อชีวิต และไดศ้ กึ ษำอยำ่ งเขำ้ ใจเพื่อเป็นประโยชนก์ บั กำรเรียน ผูจ้ ดั ทำหวงั วำ่ หนงั สือเล่มน้ีจะเป็นประโยชนก์ บั ผูอ้ ่ำน ที่กำลงั หำขอ้ มลู เร่ืองน้ี อยู่ หำกมีขอ้ แนะนำหรือขอ้ ผดิ พลำดประกำรใด ผจู้ ดั ทำขอนอ้ มรบั ไวแ้ ละขออภยั มำ ณ ทน่ี ้ีดว้ ย นำยฮำมดี ี ดอเล๊าะ ผ้จู ดั ทา
สำรบัญ หน้ำ ควำมผิดต่อชีวติ และร่ำงกำย 1-6 1.ควำมผดิ ฐำนฆ่ำผ้อู ืน่ โดยเจตนำ 7-8 2.ควำมผดิ ฐำนทำร้ำยผ้อู ่นื จนเป็ นเหตุให้ถงึ แก่ควำมตำย 9-10 3.ควำมผดิ ฐำนกระทำโดยประมำทจนเป็ นเหตุให้ผ้อู ่นื ถงึ แก่ควำมตำย 11-12 4.ควำมผดิ ต่อชีวิตฐำนทำให้ผ้อู ืน่ ฆ่ำตนเอง 13-14 5.ควำมผดิ ฐำนชุลมุนต่อสู้เป็ นเหตใุ ห้ผ้อู น่ื ถงึ แก่ควำมตำย 15-18 6.ควำมผดิ ฐำนทำร้ำยร่ำงกำยผ้อู น่ื จนเป็ นเหตใุ ห้ได้รับอันตรำย แก่กำยหรือจติ ใจ 19-23 7.ควำมผดิ ฐำนทำร้ำยร่ำงกำยผ้อู น่ื เป็ นเหตใุ ห้ได้รับอนั ตรำยสำหสั 24 บรรณำนุกรม
1 ควำมผดิ ต่อชีวติ 1. ควำมผดิ ฐำนฆ่ำผ้อู ืน่ โดยเจตนำ มำตรำ 288 ผใู้ ดฆ่ำผอู้ ่นื ตอ้ งระวำงโทษประหำรชีวิต จำคุกตลอดชีวติ หรือจำคกุ ต้งั แต่ สิบห้ำปี ถงึ ยส่ี ิบปี 1. องคป์ ระกอบควำมผดิ 1.1 ผใู้ ด 1.2 ฆำ่ 1.3 ผอู้ น่ื 1.4 โดยเจตนำ(องคป์ ระกอบภำยใน) 2. คำว่ำ “ผใู้ ด” หมำยถึง บุคคลธรรมดำ 3. คำว่ำ “ฆำ่ ” หมำยถึง ทำใหต้ ำยโดยไมจ่ ำกดั วธิ ีกำร ไม่ว่ำจะเป็นกำรกระทำโดยตรง หรือโดยออ้ ม รวมถงึ กำรงดเวน้ กำรทจี่ กั ตอ้ งกระทำเพอ่ื ป้องกนั ผลน้นั ดว้ ย 4. คำวำ่ “ผูอ้ น่ื ” หมำยถงึ บคุ คลอ่นื ดงั น้นั กำรฆำ่ ตวั ตำย แต่ไม่ตำยก็ไมม่ ีควำมผดิ 5. องคป์ ระกอบภำยใน ไดแ้ ก่เจตนำ ตำมมำตรำ 59 คือ 1.เจตนำประสงคต์ อ่ ผล 2. เจตนำยอ่ มเล็งเห็นผล เจตนำยอ่ มเลง็ เหน็ ผล คือ เล็งเห็นไดว้ ำ่ ผลน้นั จะเกิดข้ึนไดอ้ ยำ่ งแน่นอน เทำ่ ท่ีจิตใจ ของบคุ คลในฐำนะเชน่ น้นั จะเล็งเห็นได้ กำรกระทำใดจะเป็นเล็งเห็นผลหรือไม่ จะตอ้ งพจิ ำรณำ เป็นเร่ือง ๆ ไป โดยคำนึงถึงเจตนำรมณ์ของกฎหมำยเร่ืองประมำทดว้ ย 6. กำรกระทำตำมมำตรำ 288 จะตอ้ งมผี ลของกำรกระทำควำมผิด คอื ควำมตำย เกิดข้ึนจำกกำรฆำ่ จงึ จะถอื ว่ำเป็นควำมผดิ สำเร็จ ฆำ่ หมำยควำมว่ำ กำรกระทำอนั เป็นเหตุใหค้ นตำย หรือกำรกระ ทำใหบ้ คุ คลท่มี ชี ีวติ อยูถ่ ึงแกค่ วำมตำย กฎหมำยไมไ่ ดจ้ ำกดั ลกั ษณะของกำรกระทำในกำรฆำ่ ไว้ ผกู้ ระทำจะกระทำ ดว้ ยวิธีกำร ใดๆ กไ็ ด้ เช่น ใชป้ ื นยงิ ใชม้ ีดแทง กดใหจ้ มน้ำ หรือบงั คบั ใหด้ ่ืมยำพิษ เป็นตน้ รวมท้งั กำรทำรำ้ ยทำงจติ ใจ เช่น แกลง้ บอกข่ำวรำ้ ยแกค่ นป่ วยจวนจะตำยให้ตกใจ ตำย กำรกระทำ คอื กำรฆำ่ น้นั หมำยควำมรวมถึงกำรงดวนั กำรทจ่ี ะตอ้ งกระทำเพื่อป้องกนั ผลน้นั ดว้ ย ตำม มำตรำ 59 วรรค5
2 เช่น มำรดำซ่ึงมีหนำ้ ทีใ่ ห้บตุ รกินนม แตง่ ด เวน้ ไมใ่ หน้ มบตุ รกินโดยเจตนำใหบ้ ุตรถงึ แกค่ วำม ตำย เป็นตน้ สรุปว่ำกำรฆ่ำคือกำรทำดว้ ยประกำรใดๆ ใหค้ นตำย ผอู้ ื่น หมำยควำมว่ำบุคคลอื่นและ บคุ คลอืน่ น้นั ตอ้ งมชี ีวติ อยู่ ดงั น้นั กำรพยำยำมฆำ่ ตนเองจงึ ไม่มคี วำมผดิ และกำรยงิ คนท่ีตำย แลว้ โดยเขำ้ ใจวำ่ ยงั มชี ีวิตอยกู่ ไ็ ม่มคี วำมผดิ คำพพิ ำกษำศำลฎีกำท่ี 724/2563 จำเลยเป็นผใู้ หญบ่ ำ้ นมีหนำ้ ท่ดี แู ลรกั ษำควำมสงบเรียบรอ้ ยและควำมปลอดภยั ให้แก่ รำษฎรในหมู่บำ้ น นอกจำกอำวุธปื นยำวลกู ซองเดี่ยวขนำด 12 ทใี่ ชย้ งิ ผตู้ ำย ซ่ึงเป็นอำวุธปื นที่ ทำงรำชกำรมอบให้ไวใ้ ชต้ รวจรกั ษำควำมปลอดภยั ในหมูบ่ ำ้ นแลว้ จำเลยยงั มีอำวุธปื นยำวลกู ซองเด่ียว (NTS) แบบสไลด์ แอ็คชน่ั (SLIDE ACTION) บรรจุ 4 นดั ขนำด 12 ท่ีใชย้ ิงข้ึนฟ้ำใน วนั เกิดเหตอุ กี 1 กระบอก จำเลยยอ่ มมีควำมชำนำญในกำรใชอ้ ำวธุ ปื นและทรำบดีอยแู่ ลว้ ว่ำ อำวุธปื นเป็นอำวุธท่ีร้ำยแรงสำมำรถทำอนั ตรำยถึงแกช่ ีวติ ไดง้ ่ำย แตจ่ ำเลยยงั ใชอ้ ำวธุ ปื นยำวลูก ซองเดี่ยวขนำด 12 ของกลำงท่มี กี ระสุนบรรจุอยใู่ นกำรข่มขู่ผูต้ ำย ในขณะผตู้ ำยนงั่ อยูบ่ นแคร่ จำเลยเดินถอื อำวธุ ปื นเขำ้ ไปหำผตู้ ำยเพอื่ ข่มขู่ โดยปำกกระบอกปื นช้ีไปหำผูต้ ำยในระยะใกลจ้ น ผูต้ ำยสำมำรถจบั ปำกกระบอกปื นได้ จำเลยยอ่ มเลง็ เหน็ ไดว้ ำ่ อำวธุ ปื นของกลำงอำจลน่ั ถูกผตู้ ำย ถงึ แก่ชีวิตได้ แตจ่ ำเลยยงั คงกระทำกำรดงั กลำ่ ว เม่ือเกิดกำรดึงปื นกนั จนปื นลน่ั ถกู ผตู้ ำยถงึ แก่ ควำมตำย จึงเป็นกำรกระทำโดยเจตนำฆ่ำผตู้ ำย หำใช่เป็นกำรกระทำโดยประมำทไม่ คำพิพำกษำศำลฎกี ำท่ี 643/2563 จำเลยกบั ผูเ้ สียหำยที่ 2 อยกู่ ินฉันสำมภี ริยำและมบี ุตรดว้ ยกนั เพิ่งเลกิ คบหำกนั ก่อนเกิดเหตุ เพียงหน่ึงเดือน ควำมสัมพนั ธย์ งั คงมีอยไู่ มถ่ งึ กบั ตดั ขำดทเี ดียว กำรท่จี ำเลยขบั รถจกั รยำนยนต์ ตำมหำผูเ้ สียหำยท่ี 2 ในขณะที่เพิ่งมีปำกเสียงกนั จำเลยจงึ อยูใ่ นสภำวะอำรมณข์ ุ่นเคืองและโกรธ มำกกวำ่ ทจ่ี ะวำงแผนหรือใคร่ครวญตรึกตรองหำวิธีทำรำ้ ยผเู้ สียหำยท่ี 2 เมอื่ จำเลยเหน็ ผเู้ สียหำย
3 ท่ี 2 บริเวณบำ้ นทเี่ กิดเหตุโดยบงั เอญิ จำเลยเล้ยี วรถกลบั ไปจอดหนำ้ บำ้ นทเี่ กิดเหตแุ ลว้ เดินเขำ้ ไปหำ ผูเ้ สียหำยที่ 2 เหน็ จำเลยก็วงิ่ หนี จำเลยว่ิงตำมไปใชอ้ ำวธุ มดี ที่พกตดิ ตวั มำแทงทำร้ำย เป็น เหตุให้ผเู้ สียหำยที่ 2 และท่ี 3 ซ่ึงอยใู่ นบริเวณเดียวกนั ไดร้ ับอนั ตรำยสำหสั เป็นเหตุกำรณ์เฉพำะ หนำ้ จำเลยกระทำไปโดยขำดควำมยบั ย้งั ชง่ั ใจและขำดสติดว้ ยคิดวำ่ ผเู้ สียหำยที่ 2 ตีจำกและหัน ไปคบกบั ผเู้ สียหำยที่ 3 พยำนหลกั ฐำนที่โจทก์นำสืบมำยงั มีควำมสงสยั ตำมสมควรว่ำ จำเลย กระทำควำมผดิ ฐำนพยำยำมฆำ่ ผูอ้ น่ื โดยไตร่ตรองไวก้ อ่ นหรือไม่ ใหย้ กประโยชน์แห่งควำม สงสยั น้นั ใหจ้ ำเลย คำพิพำกษำศำลฎีกำท่ี 5299/2562 กำรท่ผี เู้ สียหำยกบั พวกขวำ้ งปำขวดสุรำและไมเ้ ขำ้ ไปยงั บริเวณที่จำเลยและ ว. หลบซ่อน อยโู่ ดยจำเลยและ ว. มไิ ดก้ อ่ เหตขุ ้ึนกอ่ น ยอ่ มเป็นเหตทุ ำให้จำเลยสำคญั ผดิ ว่ำผเู้ สียหำยกบั พวก ซ่ึงมีจำนวนมำกกวำ่ มีเจตนำประทษุ ร้ำยจำเลยและ ว. อนั เป็นภยนั ตรำยซ่ึงเกิดจำกกำร ประทุษร้ำยอนั ละเมดิ ต่อกฎหมำย และเป็นภยนั ตรำยทใ่ี กลจ้ ะถงึ จำเลยจึงมสี ิทธิกระทำกำร ป้องกนั เพ่อื ให้พน้ จำกภยนั ตรำยดงั กล่ำว แต่ไม่ปรำกฏว่ำผเู้ สียหำยกบั พวกมีอำวธุ รำ้ ยแรงอ่นื ใด อีก กำรทจี่ ำเลยใชอ้ ำวุธปื นยงิ ผเู้ สียหำยกบั พวกยอ่ มไมไ่ ดส้ ัดส่วนกบั กำรป้องกนั ตวั ของจำเลย กำรกระทำของจำเลยจงึ เป็นกำรป้องกนั เกินสมควรแก่เหตุโดยสำคญั ผดิ เมอื่ กระสุนปื นทจี่ ำเลย ยิงถกู ผเู้ สียหำยเป็นเหตุให้ผเู้ สียหำยไดร้ ับบำดเจ็บเป็นอนั ตรำยสำหสั จำเลยมคี วำมผิดฐำน ร่วมกนั พยำยำมฆำ่ ผูอ้ ืน่ อนั เป็นกำรป้องกนั เกินสมควรแก่เหตโุ ดยสำคญั ผดิ มำตรำ 289 ผใู้ ด (1) ฆ่ำบพุ กำรี (2) ฆำ่ เจำ้ พนกั งำน ซ่ึงกระทำกำรตำมหนำ้ ที่ หรือเพรำะเหตทุ ่ีจะกระทำ หรือไดก้ ระทำกำรตำม หนำ้ ท่ี (3) ฆ่ำผชู้ ว่ ยเหลอื เจำ้ พนกั งำน ในกำรที่เจำ้ พนกั งำนน้นั กระทำตำมหนำ้ ท่ี หรือเพรำะเหตุท่ีบคุ คล น้นั จะชว่ ยหรือไดช้ ว่ ยเจำ้ พนกั งำนดงั กลำ่ วแลว้ (4) ฆำ่ ผอู้ นื่ โดยไตร่ตรองไวก้ ่อน
4 (5) ฆำ่ ผอู้ ่นื โดยทรมำนหรือโดยกระทำทำรุณโหดร้ำย (6) ฆ่ำผอู้ น่ื เพอื่ ตระเตรียมกำร หรือเพ่ือควำมสะดวกในกำรท่จี ะกระทำควำมผดิ อยำ่ งอื่น หรือ (7) ฆ่ำผอู้ ื่นเพอ่ื จะเอำ หรือเอำไวซ้ ่ึงผลประโยชน์อนั เกิดแต่กำรท่ตี นไดก้ ระทำควำมผิดอ่นื เพอื่ ปกปิ ดควำมผิดอืน่ ของตน หรือเพื่อหลีกเล่ียงใหพ้ น้ อำญำในควำมผิดอ่นื ท่ีตนไดก้ ระทำไว้ ตอ้ งระวำงโทษประหำรชีวิต เหตฉุ กรรจ์ หมำยถงึ เหตุทท่ี ำให้ผกู้ ระทำตอ้ ง รับโทษ ซ่ึงอำจจะมำจำกวตั ถแุ ห่งกำร กระทำทีก่ ฎหมำย ประสงคจ์ ะใหค้ วำมคมุ้ ครองมำกเป็นพเิ ศษ เช่น เจำ้ พนกั งำน ผใู้ ดทีฆ่ ่ำเจ้ำ พนกั งำนก็ยอ่ มตอ้ งรบั โทษหนกั กวำ่ กำรฆำ่ คนธรรมดำตำยซ่ึงกฎหมำยลงโทษ หนกั กว่ำกำรคน ตำยธรรมดำ เป็นตน้ เหตุฉกรรจใ์ น ควำมผดิ ฐำนฆำ่ คนตำยพจิ ำรณำดงั ต่อไปน้ี อนุมำตรำ 1 บุพกำรี หมำยถงึ ฆำ่ บิดำ มำรดำ ป่ ู ยำ่ ตำ ยำย ทวด ซ่ึงเป็นญำติสืบสำยโลหิตโดยตรงข้นึ ไป กำร พจิ ำรณำว่ำบุคคลใดเป็นบพุ กำรีหรือไมพ่ จิ ำรณำตำม สำยโลหิตยงิ่ กว่ำควำมสมั พนั ธท์ ำง กฎหมำย ดงั น้นั แม้ บิดำไม่ไดจ้ ดทะเบยี นสมรสกบั มำรดำ แต่เป็นบดิ ำใน ควำมเป็นจริงก็ถอื ว่ำ เป็ นบุพกำรีตำมควำมหมำยน้ี อนุมำตรำ 2 ควำมผิดฐำนฆ่ำคนตำยโดยมเี หตฉุ กรรจ์ตำม มำตรำ 289 (2) กฎหมำยตอ้ งกำรใหค้ วำม คุม้ ครองเจำ้ พนกั งำนเป็นพเิ ศษกวำ่ บคุ คลทวั่ ไป เน่ืองจำกเป็นผู้ ปฏบิ ตั หิ นำ้ ทใี่ ห้ทำงรำชกำรมี ควำมเส่ียงทจ่ี ะถกู ทำ อนั ตรำยต่อชีวิต เชน่ เจำ้ พนกั งำนตำรวจทีป่ รำบปรำมยำเสพตดิ ปัญหำท่จี ะตอ้ งพจิ ำรณำ คือ บุคคลทเ่ี ป็นเจำ้ พนกั งำนน้นั หมำยถงึ ใคร ใหค้ วำมหมำยไวว้ ำ่ หมำยถึง บคุ คล ผูไ้ ดร้ ับแต่งต้งั ใหป้ ฏบิ ตั ริ ำชกำร ไมว่ ำ่ เป็นประจำหรือชวั่ ครำว และหมำยควำมรวมถึงบคุ คลผทู้ ำหนำ้ ทชี่ ว่ ยรำช กำรซ่ึงกฎหมำยถอื ว่ำเป็นเจำ้ พนกั งำน เฉพำะกรณีดว้ ย ดงั น้นั เจำ้ พนกั งำนตอ้ งมีกฎหมำยแต่งต้งั อนุมำตรำ 3 กำรเป็นผชู้ ว่ ยเหลือเจำ้ พนกั งำนที่จะไดร้ บั คมุ้ ครองตำมมำตรำน้ีไมจ่ ำเป็นทผี่ ูน้ ้นั เจำ้ พนกั งำนจะตอ้ ง ร้องขอให้ชว่ ยเหลือ แมเ้ จำ้ พนกั งำนไมไ่ ดข้ อใหช้ ่วย ก็ถอื วำ่ เป็นผชู้ ว่ ยเหลือเจำ้ พนกั งำนแลว้ เช่น ตำรวจกำลงั วิง่ ไลจ่ บั คนรำ้ ยอยู่ เหน็ นำยแดงจงึ ตะโกนขอใหน้ ำยแดงช่วยจบั
5 แต่ปรำกฏวำ่ คนรำ้ ยไดย้ งิ นำยแดงทกี่ ำลงั เขำ้ มำ จบั ถึงแก่ควำมตำย คนรำ้ ยยอ่ มมคี วำมผิดฐำนฆำ่ ผเู้ หลอื เจำ้ พนกั งำนตำม มำตรำ 289 (3) อนุมำตรำ 4 กำรฆำ่ คนโดยไตร่ตรองไวก้ อ่ นถอื เป็นเหตฉุ กรรจ์ ของกำรฆำ่ คนตำยธรรมดำ เน่ืองจำก กฎหมำยมองวำ่ กำรฆำ่ โดยไตร่ตรองไวก้ ่อนเป็นกำรกระทำทอ่ี ำมหิตและ เพรำะมไี ตร่ตรองไว้ กอ่ นแลว้ เป็นพฤตกิ ำรณป์ ระกอบกำรกระทำที่ผทู้ ล่ี งมอื ไดค้ ดิ และ ทบทวนกอ่ นมกี ำรลงมือฆ่ำ มีเวลำคดิ ไตร่ตรองว่ำจะฆำ่ หรือไมว่ ำ่ ดี และตดั สินใจที่จะลงมือฆ่ำไวล้ ว่ งหนำ้ และไม่ จำเป็นตอ้ งไตร่ตรองนำน กำรจำ้ งวำนฆำ่ หรือกำรไปดกั รอฆ่ำ ถือวำ่ เป็นกำร ฆำ่ โดยไตร่ตรองไวก้ ่อนเสมอ เน่ืองจำกมีกำรไตร่ตรอง อยำ่ งดีก่อนลงมือฆ่ำ อนุมำตรำ 5 กำรฆ่ำโดยทรมำน หมำยถึง กำรฆ่ำไมต่ อ้ งกำรให้ ตำยทนั ที แตท่ ำใหผ้ ตู้ ำยไดร้ บั ทุกขเวทนำหรือไดร้ ับ ควำมลำบำกอยำ่ งสำหสั กอ่ นตำย เรียกไดว้ ่ำฆำ่ ใหต้ ำย อยำ่ งชำ้ ๆ เชน่ ใช้ เชือกลำกไปตำมถนนจนตำย เป็นตน้ กำรฆ่ำโดยกระทำทำรุณโหดรำ้ ย พิจำรณำจำก ควำมรูส้ ึกของคนทว่ั ไปวำ่ ทำรุณโหดรำ้ ย หรือไม่ เชน่ กำรฆ่ำยกครวั (ฆำ่ ตำยท้งั ครอบครัว) ใชเ้ ชือกรัดคอเด็ก กระทืบจนตำยคำเทำ้ อนุมำตรำ 6,7 กำรฆ่ำผอู้ ืน่ ตำม (7) กเ็ ชน่ เดียวกบั กำรฆำ่ ผอู้ น่ื ตำม (6) เพรำะมีมลู เหตุจูงใจในกำรฆำ่ โดยกำรฆำ่ ผอู้ ื่น เพอื่ จะเอำไวซ้ ่ึงผลประโยชน์อนั เกิดแตก่ ำรทตี่ นไดก้ ระ ทำควำมผดิ อน่ื เชน่ ไป ปลน้ ทรัพยม์ ำดว้ ยกนั แลว้ ฆำ่ พรรคพวกทไี่ ปปลน้ น้นั เสียเพ่อื เอำทรพั ยท์ ปี่ ลน้ มำเพยี ง คนเดียว หรือมำผอู้ น่ื เพอื่ เอำไวซ้ ่ึงผลประโยชน์อนั เกิด แตก่ ำรทตี่ นไดก้ ระทำควำมผิดอ่นื เชน่ ลกั ทรพั ย์ ไดแ้ ลว้ เจำ้ ทรัพยต์ ำมมำเอำคืนจึงฆ่ำเจำ้ ทรัพยน์ ้นั เสีย หรือฆำ่ ผู้ อืน่ เพือ่ ปกปิ ดควำมผิดอื่นของตน เช่น เจำ้ ทรพั ยเ์ สียง ดงั กลวั ว่ำชำวบำ้ นแถวน้นั จะแตกตน่ื จงึ ฆ่ำเสียเพ่อื หลีกเล่ยี งให้พน้ อำญำใน ควำมผิดท่ตี นไดก้ ระทำไว้ ฆำ่ คนตำยเพ่ือหลบหนี ฆ่ำตำรวจหรือเจำ้ ทรพั ยท์ ่ีไล่ตำม เป็นตน้ แตท่ ำรำ้ ยตำมมำตรำ 290 ไมค่ ำนึงว่ำผกู้ ระทำมเี จตนำในผลว่ำจะเป็นเหตุให้ไดร้ ับอนั ตรำยแก่ กำยหรือจติ ใจหรือไม่หำกเกิดควำมตำย ผกู้ ระทำตอ้ งรบั โทษตำมมำตรำ 290
6 คำพพิ ำกษำศำลฎกี ำท่ี 6663/2562 กำรที่จำเลยกบั ผเู้ สียหำยที่ 1 ชกตอ่ ยและแยกยำ้ ยจำกกนั แลว้ จำเลยบอกผเู้ สียหำยท่ี 1 ให้ รออยกู่ อ่ น จำเลยจะกลบั ไปเอำอำวธุ ปื น แลว้ จำเลยขบั รถจกั รยำนยนตไ์ ปเอำอำวธุ ปื นของกลำง กลบั มำยงั ที่เกิดเหตโุ ดยใชเ้ วลำประมำณคร่ึงชว่ั โมง นบั เป็นเวลำเพียงพอที่จำเลยสำมำรถระงบั สตอิ ำรมณท์ ำให้โทสะหมดส้ินไปและกลบั มำมสี ติสมั ปชญั ญะได้ ดงั น้นั เมอื่ จำเลยเดินทำง กลบั มำยงั ที่เกิดเหตุแลว้ ใชอ้ ำวุธปื นยิงผเู้ สียหำยที่ 1 จงึ เป็นเหตกุ ำรณ์ทขี่ ำดตอนกนั ไปแลว้ จำเลย จะอำ้ งวำ่ เป็นกำรตดั สินใจเฉพำะหนำ้ และไม่ไดไ้ ตร่ตรองไวก้ อ่ นหำไดไ้ ม่ พฤติกำรณข์ องจำเลย บง่ ช้ีใหเ้ ห็นวำ่ จำเลยตระเตรียมกำรพรอ้ มทจี่ ะกลบั ไปฆำ่ ผเู้ สียหำยท่ี 1 จำเลยจงึ มเี จตนำฆำ่ ผูเ้ สียหำยที่ 1 โดยไตร่ตรองไวก้ ่อน เม่ือผูเ้ สียหำยที่ 1 ไม่ถึงแกค่ วำมตำย จำเลยจงึ มคี วำมผิดฐำน พยำยำมฆำ่ ผเู้ สียหำยท่ี 1 โดยไตร่ตรองไวก้ อ่ น คำพิพำกษำศำลฎกี ำที่ 8572/2558 แมข้ ณะเกิดเหตดุ ำบตำรวจ ช. จะคอยอยทู่ ี่ตูย้ ำมพิชยั รักษ์ แตก่ เ็ ป็นกำรปฏบิ ตั ิหนำ้ ที่ใน ฐำนะหัวหนำ้ เขตงำนตยู้ ำมพชิ ยั รักษ์ ซ่ึงเป็นเจำ้ พนกั งำนตำรวจเพยี งคนเดียวที่จะตอ้ งควบคมุ กำร ทำหนำ้ ทขี่ องผชู้ ว่ ยเหลือเจำ้ พนกั งำนหลำยคน ท้งั ดำบตำรวจ ช. ยงั เตรียมพร้อมทจ่ี ะออกไป สนบั สนุนกำรทำหนำ้ ท่ขี องผชู้ ว่ ยเหลอื เจำ้ พนกั งำน ยอ่ มถือไดว้ ่ำเป็นเจำ้ พนกั งำนทกี่ ำลงั กระทำ กำรตำมหนำ้ ท่ี ส่วนผตู้ ำยและผเู้ สียหำยนอกจำกจะไดร้ บั แตง่ ต้งั ใหเ้ ป็นผูช้ ว่ ยเหลอื เจำ้ พนกั งำน ตำมคำสงั่ สถำนีตำรวจภธู รเมืองอดุ รธำนีแลว้ ในวนั เกิดเหตุผตู้ ำยและผูเ้ สียหำยไดแ้ ตง่ กำยในชุด ผชู้ ว่ ยเหลือเจำ้ พนกั งำนซ่ึงบุคคลทพี่ บเห็นยอ่ มทรำบว่ำเป็นผชู้ ว่ ยเหลือเจำ้ พนกั งำน และยงั ไดร้ ับ มอบหมำยจำกดำบตำรวจ ช. ใหอ้ อกตรวจทอ้ งท่ีและกวำดลำ้ งกลุ่มวยั รุ่นทกี่ ระทำกำรฝ่ำฝืนต่อ กฎหมำย จงึ ฟังไดว้ ่ำผูต้ ำยและผเู้ สียหำยเป็นผูช้ ว่ ยเหลอื เจำ้ พนกั งำนในกำรที่เจำ้ พนกั งำนน้นั กระทำกำรตำมหนำ้ ที่ กำรทีจ่ ำเลยท้งั สองร่วมกนั ใชอ้ ำวธุ ปื นยิงผตู้ ำยและผเู้ สียหำย 1 นดั จำกน้นั จำเลยท้งั สองร่วมกนั ใชอ้ ำวธุ มีดดำบฟันผูต้ ำยและผูเ้ สียหำยหลำยคร้งั เป็นเหตุให้ผตู้ ำยถงึ แก่ ควำมตำยและผเู้ สียหำยไดร้ บั อนั ตรำยสำหัส จึงเป็นควำมผิดฐำนร่วมกนั ฆำ่ และร่วมกนั พยำยำม ฆำ่ ผูช้ ่วยเหลือเจำ้ พนกั งำนในกำรทเ่ี จำ้ พนกั งำนน้นั กระทำกำรตำมหนำ้ ท่ี
7 2.ควำมผิดฐำนทำร้ำยผ้อู ่ืนจนเป็ นเหตใุ ห้ถงึ แก่ควำมตำย มำตรำ 290 ผใู้ ดมิไดม้ ีเจตนำฆำ่ แต่ทำรำ้ ยผอู้ นื่ จนเป็นเหตใุ ห้ผนู้ ้นั ถึงแกค่ วำมตำยตอ้ ง ระวำงโทษจำคกุ ต้งั แตส่ ำมปี ถึงสิบหำ้ ปี ถำ้ ควำมผิดน้นั มลี กั ษณะประกำรหน่ึงประกำรใด ดงั ที่บญั ญตั ไิ วใ้ นมำตรำ 28 ผกู้ ระทำ ตอ้ งระวำงโทษจำคกุ ต้งั แตส่ ำมปี ถงึ ยี่สิบปี ควำมผดิ ฐำนน้ีเร่ิมมำจำกเจตนำทำรำ้ ย มไิ ดม้ เี จตนำฆ่ำ แตผ่ ลทเ่ี กิดข้ึนจำกกำรทำรำ้ ยน้นั ทำใหผ้ อู้ ่ืนเสียชีวิต จงึ เป็นควำมผิดตำมมำตรำน้ี องค์ประกอบภำยนอก 1.ผใู้ ด 2.ทำรำ้ ย 3.ผอู้ ืน่ 4.จนเป็นเหตุใหผ้ ูอ้ ืน่ น้นั ถึงแกค่ วำมตำย ผกู้ ระทำควำมผดิ ควำมผดิ ฐำนน้ี มโี ทษจำคกุ สถำนเดียว ผูก้ ระทำควำมผดิ จงึ ตอ้ งเป็น มนุษยเ์ ทำ่ น้นั กฎหมำยมไิ ดบ้ ญั ญตั ิคณุ สมบตั ไิ วเ้ ป็นพิเศษจึงเป็นมนุษยผ์ ใู้ ดกไ็ ด้ กำรกระทำท่ีเป็นควำมผิดคอื “ทำรำ้ ย” “ทำร้ำย”ตำมมำตรำน้ี คอื กระทำให้เกิดควำมเสียหำยแก่ร่ำงกำยหรือจิตใจทำนองเดยี วกนั กบั ทำ ร้ำยตำมมำตรำ 295แต่แตกตำ่ งกนั ในผล กล่ำวคือ ทำรำ้ ยตำมมำตรำ 295เกิดผลคืออนั ตรำยแก่ กำยหรือจติ ใจโดยผกู้ ระทำมีเจตนำทำรำ้ ยใหเ้ กิดผลดงั กลำ่ ว คำพพิ ำกษำศำลฎกี ำท่ี 8403/2561 กำรทจ่ี ำเลยที่ 1 ใชน้ ้ำมนั เช้ือเพลิงเบนซินรำดใส่ผูต้ ำยแลว้ จุดไฟเผำผตู้ ำยเป็นเหตุกำรณท์ ่ี เกิดข้ึนเฉพำะหนำ้ อยำ่ งกะทนั หนั โดยจำเลยท่ี 2 มิไดค้ บคดิ นดั หมำยกบั จำเลยท่ี 1 มำก่อน จึง ไมใ่ ช่เร่ืองกำรแบง่ หนำ้ ทก่ี นั ทำ จึงถอื ไม่ไดว้ ่ำ จำเลยท่ี 2 ร่วมกบั จำเลยท่ี 1 กระทำควำมผดิ ฐำน ฆ่ำผตู้ ำยโดยไตร่ตรองไวก้ อ่ น แต่พฤตกิ ำรณ์ท่ีผตู้ ำยโทรศพั ทต์ ดิ ต่อกบั จำเลยท่ี 2 แลว้ จำเลยท่ี 2 บอกจำเลยท่ี 1 ว่ำ ผตู้ ำยให้จำเลยที่ 2 ไปพบผตู้ ำยทบี่ ำ้ น จำเลยที่ 1 บอกให้จำเลยที่ 2 แจง้ ใหผ้ ตู้ ำย ไปพบยงั สถำนทเี่ กิดเหตุโดยไม่ตอ้ งบอกว่ำจำเลยที่ 1 จะเดินทำงไปดว้ ยพฤติกำรณด์ งั กล่ำวแสดง ใหเ้ ห็นว่ำจำเลยท่ี 2 ทรำบมำก่อนว่ำจำเลยท่ี 1 มีเจตนำจะทำรำ้ ยผตู้ ำยซ่ึงมกี ำรคิดไตร่ตรองไว้
8 กอ่ นแลว้ และจำเลยท่ี 2 เพียงแต่มีเจตนำทีจ่ ะร่วมกบั จำเลยที่ 1 ทำรำ้ ยผตู้ ำยโดยไตร่ตรองไวก้ อ่ น เพอื่ จะทำใหผ้ ูต้ ำยไดร้ ับอนั ตรำยแก่กำยหรืออนั ตรำยสำหัสเท่ำน้นั แมจ้ ำเลยท่ี 1 เลือกท่จี ะทำรำ้ ย ผูต้ ำยโดยกำรใชน้ ้ำมนั เช้ือเพลิงเบนซินรำดใส่ผตู้ ำยและจดุ ไฟเผำผูต้ ำยซ่ึงเป็นกำรกระทำ นอกเหนือเจตนำของจำเลยท่ี 2 ทำใหจ้ ำเลยท่ี 2 ไม่เป็นตวั กำรร่วมกบั จำเลยท่ี 1 ในกำรกระทำ ควำมผิดฐำนฆำ่ ผอู้ นื่ โดยไตร่ตรองไวก้ ่อน แต่เมือ่ จำเลยที่ 2 มีเจตนำทีจ่ ะร่วมกบั จำเลยที่ 1 ทำ ร้ำยผตู้ ำยโดยไตร่ตรองไวก้ ่อน และกำรกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นเหตุใหผ้ ตู้ ำยถงึ แก่ควำมตำย จำเลยที่ 2 ก็ตอ้ งรับผลแห่งกำรกระทำของจำเลยท่ี 1 ท่ีทำใหผ้ ูต้ ำยถึงแกค่ วำมตำยน้นั ดว้ ย กำร กระทำของจำเลยท่ี 2 จงึ เป็นควำมผิดฐำนทำรำ้ ยผอู้ ่ืนโดยไตร่ตรองไวก้ ่อน แต่เป็นเหตใุ หผ้ ูน้ ้นั ถงึ แก่ควำมตำย ตำม ป.อ. มำตรำ 290 วรรคสอง ประกอบมำตรำ 289 (4) อนั เป็นควำมผดิ หลำย อยำ่ งซ่ึงรวมอยูใ่ นควำมผดิ ฐำนฆำ่ ผอู้ ื่นโดยไตร่ตรองไวก้ ่อนตำมทโ่ี จทกฟ์ ้องและเป็นควำมผิด ไดใ้ นตวั ศำลฎีกำสำมำรถลงโทษในควำมผดิ ดงั กลำ่ วตำมท่ไี ดค้ วำมได้ ตำม ป.ว.ิ อ. มำตรำ 192 วรรคทำ้ ย ประกอบมำตรำ 215 และมำตรำ 225 คำพิพำกษำศำลฎกี ำที่ 10065/2558 โจทก์บรรยำยฟ้องว่ำ จำเลยใชอ้ ำวธุ มีดแทงผตู้ ำย ถูกบริเวณหนำ้ อกดำ้ นซำ้ ย โดยเจตนำฆ่ำ และผตู้ ำยถึงแกค่ วำมตำย ขอให้ลงโทษตำม ป.อ. มำตรำ 288 น้นั ควำมผดิ ตำมฟ้องของโจทก์ ยอ่ มรวมถึงกำรทำรำ้ ยผอู้ ่นื จนเป็นเหตใุ หถ้ ึงแก่ควำมตำย ซ่ึงเป็นควำมผดิ ตำม ป.อ. มำตรำ 290 ดว้ ย ถือไดว้ ่ำควำมผิดตำมฟ้องรวมกำรกระทำหลำยอยำ่ ง แตล่ ะอยำ่ งอำจเป็นควำมผิดไดอ้ ยใู่ น ตวั เอง เมือ่ ขอ้ เท็จจริงไดค้ วำมวำ่ จำเลยทำรำ้ ยผูอ้ นื่ จนเป็นเหตใุ ห้ถึงแกค่ วำมตำยตำม ป.อ. มำตรำ 290 ศำลยอ่ มมอี ำนำจลงโทษจำเลยในขอ้ หำดงั กล่ำว ซ่ึงมีอตั รำโทษเบำกว่ำตำมทีพ่ จิ ำรณำได้ ควำมไดต้ ำม ป.ว.ิ อ. มำตรำ 192 วรรคทำ้ ย ในกำรพิจำรณำวำ่ ผูก้ ระทำมเี จตนำทำรำ้ ยร่ำงกำยหรือเจตนำฆ่ำน้นั จะตอ้ งพิจำรณำจำก ควำมรำ้ ยแรงของอำวธุ อวยั วะทีถ่ กู กระทำ ลกั ษณะบำดแผลท่ีไดร้ บั และพฤติกำรณ์แห่งกำร กระทำอ่ืน ๆ ประกอบกนั ซ่ึงพฤตกิ ำรณแ์ ห่งกำรกระทำของจำเลย จะมีควำมสำคญั ในกำวนิ ิจฉัย ถึงเจตนำของจำเลยยิง่ กว่ำหลกั เกณฑอ์ ่นื ๆ มิใชพ่ จิ ำรณำแตเ่ พยี งอำวุธ ลกั ษณะอำกำรในกำรจว้ ง แทง และบำดแผลทีไ่ ดร้ บั เทำ่ น้นั
9 3.ควำมผิดฐำนกระทำโดยประมำทจนเป็ นเหตุให้ผ้อู ่ืนถงึ แก่ควำมตำย มำตรำ 291 ผใู้ ดกระทำโดยประมำท และกำรกระทำน้นั เป็นเหตใุ ห้ผอู้ ืน่ ถึงแกค่ วำมตำย ตอ้ งระวำงโทษจำคุกไม่เกินสิบปี และปรบั ไมเ่ กินสองแสนบำท องค์ประกอบควำมผดิ (1) ผใู้ ด (2) กระทำโดยประกำรใด (3) เป็นเหตใุ หผ้ อู้ ่นื ถึงแก่ควำมตำย (4) โดยประมำท (องคป์ ระกอบภำยใน (ไมต่ อ้ งมเี จตนำ)) กำรกระทำโดยประมำท คือ กำรกระทำทีไ่ ม่ไดใ้ ชค้ วำมระมดั ระวงั ท้งั ๆท่ีสำมำรถใชค้ วำม ระมดั ระวงั เช่นน้นั ได้ ซ่ึงมีกฎหมำยบญั ญตั ไิ วใ้ นมำตรำ 59 วรรคส่ี “กระทำโดยประมำท ไดแ้ ก่ กระทำควำมผดิ มใิ ชโ่ ดยเจตนำ แตก่ ระทำโดยปรำศจำกควำมระมดั ระวงั ซ่ึงบคุ คลในภำวะ เช่นน้นั จกั ตอ้ งมตี ำมวิสยั และพฤตกิ ำรณ์ และผกู้ ระทำอำจใชค้ วำมระมดั ระวงั เช่นวำ่ น้นั ได้ แต่หำ ไดใ้ ชใ้ หเ้ พียงพอไม่” สำหรบั กำรกระทำน้นั ไดแ้ ก่ กำรเคลือ่ นไหวและรวมถงึ กำรงดเวน้ ตำมมำตรำ 59 วรรคทำ้ ย คำพิพำกษำศำลฎกี ำที่ 5055/2559 เหตคุ ดีน้ีเกดิ จำกกำรท่จี ำเลยขบั รถจกั รยำนยนตแ์ ล่นแซงรถกระบะท่อี ยดู่ ำ้ นหนำ้ ล้ำเขำ้ ไป เฉ่ียวชนรถจกั รยำนยนตข์ องผตู้ ำยท่ีแลน่ สวนทำงมำในชอ่ งเดินรถของผตู้ ำย ซ่ึงหำกจำเลยไม่ขบั รถจกั รยำนยนตแ์ ลน่ ล้ำเขำ้ ไปในชอ่ งเดินรถของผตู้ ำยเหตุคร้งั น้ีก็คงไม่เกิดข้นึ ส่วนที่จำเลยฎีกำ วำ่ ผตู้ ำยขบั รถโดยไม่ชิดขอบทำงดำ้ นซ้ำยและขบั รถมำดว้ ยควำมเร็ว ก็อำจเป็นเพยี งกำรไม่ ปฏิบตั ติ ำม พ.ร.บ.จรำจรทำงบก พ.ศ.2522 เท่ำน้นั ซ่ึงเป็นคนละกรณีกบั กำรกระทำควำมผิดของ จำเลย ประกำรสำคญั ขณะเกดิ เหตผุ ตู้ ำยขบั รถจกั รยำนยนตแ์ ลน่ อยใู่ นช่องเดินรถของตน กำรท่ี ผตู้ ำยขบั รถโดยไม่ชิดขอบทำงดำ้ นซำ้ ยและขบั รถมำดว้ ยควำมเร็วดงั กล่ำวจงึ ไมใ่ ชเ่ ป็นเหตโุ ดย ตรงทที่ ำใหร้ ถจกั รยำนยนตข์ องผตู้ ำยถูกรถจกั รยำนยนตข์ องจำเลยเฉี่ยวชน แต่กำรท่ี รถจกั รยำนยนตข์ องผตู้ ำยถกู รถจกั รยำนยนตข์ องจำเลยเฉี่ยวชน ผตู้ ำยหำมสี ่วนประมำทดว้ ยไม่
10 ผูต้ ำยจงึ เป็นผเู้ สียหำยโดยนิตนิ ยั โจทกร์ ่วมท้งั สองซ่ึงเป็นบดิ ำมำรดำของผูต้ ำยยอ่ มมสี ิทธิเขำ้ ร่วมเป็นโจทกใ์ นคดีน้ี คำพพิ ำกษำศำลฎกี ำที่ 12114/2556 กำรทีจ่ ำเลยนำรถยนตบ์ รรทกุ คนั เกิดเหตไุ ปซ่อมรอยร่วั ซึมของถงั น้ำมนั โดยจำเลย ไมไ่ ดแ้ จง้ ให้นำยจำ้ งทรำบกอ่ น กลบั แจง้ ผูต้ ำยโดยตรงให้ซ่อมถงั น้ำมนั ของรถยนตบ์ รรทกุ น้ำมนั อนั เป็นกำรไม่ปฏบิ ตั ิตำมขอ้ กำหนดในกำรทำงำนทีม่ ีข้นึ เพื่อควำมปลอดภยั และจำเลย ไม่ไดบ้ อกผตู้ ำยวำ่ รถยนตบ์ รรทกุ คนั เกิดเหตบุ รรทุกน้ำมนั เบนซินมำดว้ ย ทำให้ผตู้ ำยไมท่ รำบ ขอ้ เท็จจริงจึงไมไ่ ดป้ ฏิบตั ติ ำมข้นั ตอนในกำรทำงำน เป็นเหตใุ หร้ ถยนตบ์ รรทุกน้ำมนั เกิดระเบิด ข้นึ และผตู้ ำยถงึ แก่ควำมตำย นบั เป็นผลโดยตรงจำกควำมประมำทของจำเลยฝ่ำยเดียวท่ีงดเวน้ กำรทจี่ กั ตอ้ งกระทำเพือ่ ป้องกนั ผลน้นั หำไดเ้ กิดจำกควำมประมำทของผตู้ ำยดว้ ยไม่ จำเลยจึงมี ควำมผิดฐำนกระทำโดยประมำทเป็นเหตุใหผ้ ูอ้ ่นื ถึงแก่ควำมตำย
11 4.ควำมผิดต่อชีวิตฐำนทำให้ผ้อู น่ื ฆ่ำตนเอง มำตรำ 292 ผใู้ ดกระทำดว้ ยกำรปฏบิ ตั อิ นั ทำรุณ หรือดว้ ยปัจจยั คลำ้ ยคลงึ กนั แก่บคุ คลซ่ึง ตอ้ งพ่ึงตน ในกำรดำรงชีพหรือในกำรอ่ืนใด เพื่อใหบ้ ุคคลน้นั ฆ่ำตนเอง ถำ้ กำรฆำ่ ตนเองน้นั ได้ เกิดข้นึ หรือไดม้ ีกำรพยำยำมฆำ่ ตนเอง ตอ้ งระวำงโทษจำคกุ ไม่เกินเจด็ ปี และปรับไมเ่ กินหน่ึง แสนส่ีหมื่นบำท มำตรำ 292 มีหลักเกณฑ์ดงั ต่อไปนี้ 1. จะตอ้ งมีควำมสมั พนั ธ์ ไมว่ ำ่ ทำงกฎหมำย หรือ สญั ญำ หรือ พฤตกิ ำรณก์ ด็ ี 2. ทำให้เขำรูส้ ึกว่ำตำยดกี วำ่ 3. กำรฆำ่ ตวั ตำยหรือพยำยำมฆำ่ ตวั ตำยเกิดจำกกำรตดั สินใจโดยอิสระของบุคคลน้นั เอง ซ่ึงสำมำรถอธิบำยหลกั เกณฑไ์ ดด้ งั ตอ่ ไปน้ี ควำมสมั พนั ธท์ ำงกฎหมำย เช่น พ่อแม่ ควำมสมั พนั ธท์ ำงสญั ญำ เชน่ นำยจำ้ ง ลูกจำ้ ง ควำมสัมพนั ธท์ ำงพฤติกำรณ์ เช่น แม่เลำ้ ผทู้ ่เี กบ็ เดก็ จรจดั มำเล้ยี ง ตวั อย่ำง นำย ก เก็บ เดก็ ชำย ข มำเล้ียง พอเดก็ ชำยขอโตข้ึน วนั ๆไม่ทำอะไรเอำแต่กินกบั นอน นำย ก จึงขงั เดก็ ชำย ข ไวใ้ นห้องให้กินแตข่ ำ้ วบูด และบอกวำ่ ให้ตำยๆไปซ่ะเล้ยี งไวเ้ ปลืองขำ้ ว สุก เดก็ ชำย ข จงึ ตดั สินใจผกู คอตำย นำย ก ผิด ม. 292 มำตรำ 293 ผใู้ ดช่วยหรือยยุ งเดก็ อำยยุ งั ไมเ่ กนิ สิบหกปี หรือผซู้ ่ึงไมส่ ำมำรถเขำ้ ใจว่ำ กำรกระทำของตนมีสภำพหรือสำระสำคญั อยำ่ งไร หรือไมส่ ำมำรถบงั คบั กำรกระทำของตนได้ ให้ฆ่ำตนเอง ถำ้ กำรฆ่ำตนเองน้นั ไดเ้ กิดข้ึนหรือไดม้ ีกำรพยำยำมฆำ่ ตนเอง ตอ้ งระวำงโทษจำคกุ ไม่เกินหำ้ ปี หรือปรับไม่เกินหน่ึงแสนบำท หรือท้งั จำท้งั ปรับ มำตรำ 293 มีหลักเกณฑ์ดงั ต่อไปน้ี 1. จะตอ้ งชว่ ยหรือยุยงส่งเสริม 2. ให้เดก็ หรือผทู้ ่ีบกพร่องทำงจติ ฆำ่ ตนเอง 3. กำรฆ่ำตนเองไดเ้ กิดข้ึน หรือไดม้ ีกำรพยำยำมฆ่ำตนเองเกิดข้ึน
12 หำกผยู้ ยุ งอำ้ งว่ำไดก้ ระทำควำมผดิ ไปโดยไมร่ ู้ถงึ ขอ้ เทจ็ จริงดงั กล่ำวและนำสืบไดต้ ำมน้นั จะถอื วำ่ ผูย้ ยุ งประสงคต์ อ่ ผลหรือยอ่ มเลง็ เห็นผลของกำรกระทำน้นั มิได้ และถอื ไดว้ ่ำผยู้ ยุ งได้ กระทำไปโดยขำดเจตนำตำมประมวลกฎหมำยอำญำมำตรำ 59 วรรคสำม ผยู้ ยุ งจงึ ไม่มคี วำมผิด ตำมประมวลกฎหมำยอำญำมำตรำ 293 ตวั อย่ำง เด็กชำย ก อำยุ 15ปี มำหำนำย ข แลว้ บอกนำย ข วำ่ เบ่ือโลกอยำกตำย นำย ข จึงส่งปื นให้ แลว้ บอกว่ำ ง้นั กฆ็ ่ำตวั ตำยเลยสิ เด็กชำยก็จึง ยิงตวั เองตำย อธบิ ำยหลกั เกณฑ์ได้ดังต่อไปนี้ 1. เดก็ ตอ้ งอำยุไม่เกิน 16ปี ถำ้ เกิน16ปี ไม่มคี วำมผิดมำตรำ 293 2. กำรยยุ งใหผ้ อู้ น่ื ฆำ่ ตวั ตำยเป็นกำรกระทำทก่ี ่อใหผ้ อู้ ่นื เกิดควำมคิดฆำ่ ตวั ตำย หรือส่งเสริม ให้ตดั สินใจฆำ่ ตวั ตำย 3. กำรกระทำน้นั มีผลกระทบต่อกำรตดั สินใจฆ่ำตวั ตำยของบคุ คลอน่ื ในลกั ษณะของกำร กระทำกำร 4. กำรละเวน้ กระทำกำร หรือเพียงแตก่ ำรอยเู่ ฉยๆ ไมใ่ ช่กำรยยุ งอันเป็นควำมผิดตำม กฎหมำย 5. กำรฆำ่ ตวั ตำยหรือพยำยำมฆำ่ ตวั ตำยเกิดจำกกำรตดั สินใจโดยอสิ ระของบคุ คลน้นั เอง 6. กำรละเวน้ กระทำกำร หรือเพยี งแตก่ ำรอยเู่ ฉยๆ เป็นกำรชว่ ยเหลือให้ผอู้ ่ืนฆ่ำตวั ตำย 7.ผยู้ ุยงจะมีควำมผดิ ตอ่ เมือ่ ตนไดร้ ูข้ อ้ เทจ็ เก่ียวกบั ตวั บคุ คลผถู้ กู ยยุ งดว้ ยวำ่ เป็นบคุ คลตำมท่ี กฎหมำยกำหนดไว้
13 5.ควำมผดิ ฐำนชุลมนุ ต่อสู้เป็ นเหตุให้ผ้อู ่ืนถงึ แก่ควำมตำย มำตรำ 294 ผใู้ ดเขำ้ ร่วมในกำรชุลมุนต่อสู้ระหวำ่ งบคุ คลต้งั แต่สำมคนข้ึนไป และบุคคล หน่ึงบุคคลใดไม่วำ่ จะเป็นผูท้ เ่ี ขำ้ ร่วมในกำรน้นั หรือไม่ ถงึ แกค่ วำมตำยโดยกำรกระทำในกำร ชุลมนุ ตอ่ สู้น้นั ตอ้ งระวำงโทษจำคกุ ไม่เกินสองปี หรือปรบั ไม่เกินสี่หมื่นบำท หรือท้งั จำท้งั ปรบั ถำ้ ผูท้ ่เี ขำ้ ร่วมในกำรชุลมนุ ต่อสู้น้นั แสดงไดว้ ำ่ ไดก้ ระทำไปเพอ่ื ห้ำมกำรชุลมุนตอ่ สู้น้นั หรือเพือ่ ป้องกนั โดยชอบดว้ ยกฎหมำย ผูน้ ้นั ไม่ตอ้ งรับโทษ องค์ประกอบควำมผดิ 1.ผใู้ ด 2.เขำ้ ร่วมชุลมนุ ตอ่ สูร้ ะหว่ำงบคุ คลต้งั แต่ 3 คนข้นึ ไป 3.เป็นเหตุใหบ้ คุ คลหน่ึงบคุ คลใดไม่ว่ำจะเป็นผทู้ ีเ่ ขำ้ ร่วมในกำรน้นั หรือไมถ่ งึ แกค่ วำม ตำย ข้อสังเกต 1. ผใู้ ด หมำยถงึ บุคคลธรรมดำไม่รวมถงึ นิตบิ คุ คล 2. เขำ้ ร่วมชุลมนุ ตอ่ สู้ระหวำ่ งบุคคลต้งั แต่3คนข้นึ ไปไมจ่ ำเป็นตอ้ งมีลกั ษณะเป็นตวั กำร กำรชุลมนุ เขำ้ ตอ่ สู้ หำกมีกำรป้องกนั กจ็ ะเป็นควำมผิดแตไ่ ม่ตอ้ งรับโทษ 3.ต่อสู้ หมำยถงึ กำรใชก้ ำลงั เขำ้ ทำรำ้ ยซ่ึงกนั และกนั 4.ควำมตำยตอ้ งเกิดจำกเหตชุ ุลมุน คำพพิ ำกษำศำลฎกี ำท่ี 14232/2558 กรณีควำมผดิ ตำม ป.อ. มำตรำ 294 และ 299 น้นั ตอ้ งเป็นกำรชุลมุนตอ่ สู้กนั ระหวำ่ ง บุคคลต้งั แตส่ ำมคนข้ึนไป และมีบคุ คลถงึ แก่ควำมตำยและไดร้ ับอนั ตรำยสำหสั โดยไม่ทรำบว่ำ ผูใ้ ดหรือผูใ้ ดร่วมกบั ใครกระทำจนถงึ แกค่ วำมตำยหรือจนไดร้ ับอนั ตรำยสำหสั แต่หำกสำมำรถรู้ และแบ่งฝ่ำยแบ่งพวกกนั ได้ ท้งั รู้ว่ำผูใ้ ดหรือฝ่ำยใดเป็นผลู้ งมอื ทำร้ำยยอ่ มลงโทษผนู้ ้นั กบั พวก ไดต้ ำมเจตนำและผลของกำรกระทำ จำเลยกบั พวกฝ่ำยหน่ึงและผตู้ ำยกบั ผเู้ สียหำยฝ่ำยหน่ึงววิ ำท ต่อสูก้ นั แม้
14 พยำนโจทกท์ ่ีอยใู่ นเหตุกำรณจ์ ะไม่อำจระบไุ ดแ้ น่ชดั วำ่ คนใดในกลมุ่ ของจำเลยเขำ้ ไปใชอ้ ำวุธ มดี แทงผตู้ ำยเป็นเหตุให้ผูต้ ำยถึงแก่ควำมตำยและฟันผเู้ สียหำยเป็นเหตใุ หผ้ เู้ สียหำยไดร้ ับ อนั ตรำยสำหสั ก็ตำม ยอ่ มมิใช่กรณีตำม ป.อ. มำตรำ 294 และ 299 พวกของจำเลยที่เขำ้ ร่วมใน กำรทะเลำะววิ ำทกบั ผตู้ ำยและผเู้ สียหำยไดใ้ ชม้ ีดแทงผตู้ ำยและฟันผเู้ สียหำย จำเลยซ่ึงมีเจตนำ ร่วมกบั พวกกระทำต่อผตู้ ำยและผเู้ สียหำยยอ่ มตอ้ งรบั ผลอนั เป็นธรรมดำยอ่ มเกิดข้ึนจำกกำรน้นั ในฐำนะเป็นตวั กำร แมม้ ิไดเ้ ป็นผลู้ งมอื แทงผตู้ ำยและฟันผเู้ สียหำยดว้ ยตนเองกต็ ำม คำพิพำกษำศำลฎีกำที่ 6476/2541 จำเลยท่ี 1 กบั พวกเพยี ง 5 คน นง่ั มำดว้ ยกนั บนรถโดยสำรประจำทำง ส่วนผตู้ ำยกบั พวกมี จำนวนประมำณ 30 คนทยี่ นื คอยรถโดยสำรประจำทำงอยกู่ ำรทฝ่ี ่ำยผตู้ ำยกบั พวกอำศยั พวกมำก ข้ึนไปทำรำ้ ยจำเลยท่ี 1 ถงึ ที่ 5 จงึ เป็นกำร ประทุษรำ้ ยอนั ละเมดิ ต่อกฎหมำยและเป็นภยนั ตรำยที่ ใกลจ้ ะถึง จำเลยท่ี 1 ถึงที่ 5 จงึ จำเป็นตอ้ งป้องกนั สิทธิของตนเอง หำใชเ่ ป็นกำรสมคั รใจเขำ้ ร่วม ชุลมุนต่อสู้ไม่ กำรที่ จำเลยที่ 1 ถงึ ที่ 5 ถอดเข็มขดั และใชห้ ัวเขม็ ขดั ป้องกนั ขดั ขวำง มิให้ฝ่ำย ผตู้ ำยข้ึนมำบนรถทำงประตหู นำ้ และประตหู ลงั แสดงว่ำ ฝ่ำยจำเลยท่ี 1 กบั พวกไดก้ ระทำไป พอสมควรแกเ่ หตุ และไมไ่ ดค้ วำมว่ำกำรที่ผูต้ ำยถึงแกค่ วำมตำยน้นั เกิดจำก กำรกระทำของจำเลย ที่ 1 ถงึ ท่ี 5 จำเลยที่ 1 ถงึ ที่ 5จงึ ไมต่ อ้ งรบั โทษฐำนชุลมนุ ตอ่ สู้เป็นเหตุให้คนตำย
15 ควำมผิดต่อร่ำงกำย 6.ควำมผดิ ฐำนทำร้ำยร่ำงกำยผู้อื่นจนเป็ นเหตใุ ห้ได้รับอันตรำยแก่กำยหรือจิตใจ มำตรำ 295 ผูใ้ ดทำรำ้ ยผูอ้ ่ืน จนเป็นเหตใุ ห้เกิดอนั ตรำยแก่กำยหรือจิตใจของผอู้ ่นื น้นั ผู้ น้นั กระทำควำมผิดฐำนทำร้ำยร่ำงกำย ตอ้ งระวำงโทษจำคกุ ไมเ่ กินสองปี หรือปรับไมเ่ กินสี่หมืน่ บำท หรือท้งั จำท้งั ปรบั มำตรำ 295 น้นั เป็นมำตรำทมี่ ีองคป์ ระกอบควำมผดิ 2 ส่วน โดยแบ่งออกเป็น องคป์ ระ กอบภำยนอกคอื มีกำรทำรำ้ ยผอู้ ่นื ซ่ึงเป็นกำรกระทำ ทเ่ี ป็นเหตุใหเ้ กิดอนั ตรำยแก่กำยและจิตใจ ของผูอ้ ่ืน และองคป์ ระกอบภำยในคอื กำรมเี จตนำในกำรกระทำควำมผิดซ่ึงสำมำรถอธิบำยได้ ดงั ต่อไปน้ี องค์ประกอบภำยนอก 1.กำรทำรำ้ ยผูอ้ ืน่ หมำยถึงกำรกระทำ หรืองดเวน้ กำรกระทำ อยำ่ งใดอยำ่ งหน่ึงเป็นเหตุให้ เกิดอนั ตรำยแก่ผูอ้ นื่ โดยกำรกระทำทเ่ี ป็นกำรทำรำ้ ยน้นั ไมจ่ ำกดั วิธีกำรในกำรกระทำแต่ กำรทำรำ้ ยจะตอ้ งกอ่ ใหเ้ กิดผลข้นึ แก่ผถู้ ูกกระทำ ซ่ึงผลทเี่ กิดข้ึนอำจจะเป็นกรณีผูถ้ ูกกระทำถงึ แกค่ วำมตำยอนั ตรำยแก่กำยหรือจติ ใจ หรืออนั ตรำยสำหัสกไ็ ดแ้ ต่อยำ่ งไรกต็ ำมกำรกระทำ ควำมผดิ ฐำนทำรำ้ ยร่ำงกำยผูอ้ นื่ นตำมบทบญั ญตั ิของกฎหมำยดงั กลำ่ วไมไ่ ดห้ มำยควำมรวมถึง กำรใชก้ ำลงั ประทุษรำ้ ยดว้ ย 2.คำว่ำ“จนเป็นเหตุใหเ้ กิดอนั ตรำยแกก่ ำยหรือจติ ใจของผอู้ ืน่ ” อำจตคี วำมไดว้ ่ำอนั ตรำย แกก่ ำย คอื กำรทร่ี ่ำงกำยไดร้ บั อนั ตรำยเป็นบำดแผลไม่ว่ำจะเป็นบำดแผลภำยนอกหรือบำดแผล ภำยในโดยไมจ่ ำตอ้ งมีโลหิตไหลออกมำ ในส่วนของอนั ตรำยตอ่ จติ ใจน้นั หมำยถึงกรณีทีส่ มอง ไดร้ บั กำรกระทบกระเทอื นเป็นเหตใุ หจ้ ิตใจแปรปรวนแต่ไมถ่ งึ ข้นั วิกลจริต แต่อยำ่ งไรกต็ ำมกำร ทีผ่ ถู้ ูกกระทำตอ้ งเสียควำมรู้สึกทำงดำ้ นอำรมณ์เช่น กำรเสียควำมรูส้ ึก กำรอกหกั หรือถกู หกั หลงั เป็นตน้ ไมถ่ ือว่ำเป็นกำรก่อให้เกิดอนั ตรำยตอ่ จิตใจตำมควำมหมำยของบทบญั ญตั ิมำตรำ 295 องค์ประกอบภำยใน องคป์ ระกอบภำยใน หมำยถึง เจตนำในกำรกระทำควำมผิด โดยอำจำรยจ์ ติ ติ ติงศภทั ยิ ์ ได้ ใหค้ วำมเหน็ ในเร่ืองของเจตนำในควำมผิดฐำนทำรำ้ ยร่ำงกำยว่ำเป็นเจตนำทม่ี งุ่ ประสงคก์ ระทำ
16 ใหเ้ กิดผลเป็นอนั ตรำยแกก่ ำยหรือจติ ใจของผูถ้ ูกกระทำหำกผกู ร้ ะทพไดก้ ระทำกำรถึงข้นั ลงมือ ในกำรกระทำอนั เป็นข้นั ตอนสุดทำ้ ยใกลช้ ิดตอ่ ควำมผิดสำเร็จแลว้ แต่กำรกระทำไม่บรรลผุ ล ผกู้ ระทำจะมีควำมรับผิดฐำนพยำยำมกระทำควำมผดิ ตำมประมวลกฎหมำยอำญำ คำพิพำกษำศำลฎีกำท่ี 5053/2555 จำเลยท่ี 1 มำขอไม่ให้ผูเ้ สียหำยยืน่ ซองสอบรำคำโดยจำเลยท่ี 2 ก็อยใู่ นบริเวณน้นั แต่ ผูเ้ สียหำยคงยืนยนั จะย่นื ซองสอบรำคำ จำกน้นั จำเลยที่ 1 เดินมำพดู กบั ผเู้ สียหำยว่ำ “ไอน้ อ้ ยมงึ แน่หรือ” และตบหนำ้ ผูเ้ สียหำยทบี่ ริเวณเบำ้ ตำขวำเป็นเหตุใหผ้ เู้ สียหำยตกจำกเกำ้ อ้ีลม้ ลงที่พ้นื แลว้ จำเลยที่ 2 กบั พวกเขำ้ สมทบกบั จำเลยท่ี 1 รุมทำร้ำยผเู้ สียหำย โดยระหวำ่ งน้นั จำเลยที่ 1 พดู ในเชิงข่มขู่ผเู้ สียหำยวำ่ “ไอน้ อ้ ยมงึ เก่งจริงมงึ ย่ืนเลย” พฤติกำรณ์แห่งคดีบ่งช้ีโดยแจง้ ชดั ว่ำจำเลย ท่ี 2 ร่วมกบั พวกรุมทำรำ้ ยผเู้ สียหำยเพื่อเป็นกำรข่มขมู่ ใิ ห้ผูเ้ สียหำยยื่นซองสอบรำคำจำ้ งเหมำงำน ท่จี ำเลยท่ี 1 ซ่ึงเป็นพีช่ ำยต่ำงบดิ ำของจำเลยที่ 2 ขอไมใ่ หผ้ ูเ้ สียหำยยนื่ ในวนั เกิดเหตุ ดงั น้ี จำเลยที่ 2 จึงมีควำมผิดตำม ป.อ. มำตรำ 295, 309 วรรคแรก ประกอบมำตรำ 83 แมจ้ ำเลยที่ 2 ไม่ไดย้ ื่น ซองสอบรำคำในวนั เกิดเหตุตำมทีจ่ ำเลยท่ี 2 อำ้ งกต็ ำม แต่กำรทจ่ี ำเลยท่ี 2 ร่วมใชก้ ำลงั ประทษุ ร้ำยตอ่ ผเู้ สียหำยเพื่อให้จำยอมไม่เขำ้ ร่วมในกำรเสนอรำคำตำมประกำศสอบรำคำจำ้ ง เหมำในเหตุคดีน้จี นผูเ้ สียหำยตอ้ งเขำ้ รับกำรรกั ษำพยำบำลจำกแพทยท์ โี่ รงพยำบำลและไมก่ ลำ้ ยืน่ ซองสอบรำคำภำยในกำหนด ถอื ไดว้ ำ่ เป็นกำรกระทำท่ีเป็นควำมผิดตำม พ.ร.บ.วำ่ ดว้ ย ควำมผิดเกี่ยวกบั กำรเสนอรำคำตอ่ หน่วยงำนของรฐั พ.ศ.2542 มำตรำ 6 อีกฐำนหน่ึงดว้ ย คำพพิ ำกษำศำลฎีกำท่ี 11466/2554 จำเลยทำรำ้ ยร่ำงกำยผเู้ สียหำยท้งั หกและขู่ผูเ้ สียหำยท้งั หกจนผูเ้ สียหำยท้งั หกหำเงินมำให้ จำเลยคนละ 1,000 บำท แมจ้ ำเลยจะปักใจเชื่อโดยสุจริตวำ่ ผเู้ สียหำยท้งั หกลกั เงินจำเลยไป จำเลยก็ชอบที่จะใชส้ ิทธิตำมกฎหมำยโดยไปแจง้ ควำมร้องทุกขใ์ ห้ดำเนินคดีแกผ่ ูเ้ สียหำยท้งั หก ไดใ้ นทนั ที จำเลยหำมีสิทธิตำมกฎหมำยท่จี ะดำเนินกำรไดด้ ว้ ยตนเองไม่ ท้งั วธิ ีกำรทีจ่ ำเลยทำ เป็นส่ิงทีผ่ ดิ ต่อกฎหมำย กำรกระทำของจำเลยจงึ เป็นควำมผดิ ฐำนทำร้ำยร่ำงกำยและกรรโชกอนั เป็ นกรรมเดียวผิดกฎหมำยหลำยบท
17 มำตรำ 296 ผใู้ ดกระทำควำมผิดฐำนทำรำ้ ยร่ำงกำย ถำ้ ควำมผิดน้นั มีลกั ษณะประกำรหน่ึง ประกำรใดดงั ที่บญั ญตั ไิ วใ้ นมำตรำ 289 ตอ้ งระวำงโทษจำคุกไม่เกินสำมปี หรือปรับไม่เกินหก หมื่นบำท หรือท้งั จำท้งั ปรบั กำรกระทำควำมผดิ ตำมบทบญั ญตั มิ ำตรำ 296 มอี งคป์ ระกอบสองประกำรคือ ประกำร แรกกำรกระทำจะตอ้ งเป็นควำมผิดฐำนทำรำ้ ยร่ำงกำยผูอ้ ่ืนให้ไดร้ ับอนั ตรำยแกก่ ำยหรือจติ ใจ ตำมมำตรำ295 และประกำรทสี่ องกำรกระทำตอ้ งมลี กั ษณะประกำรหน่ึงประกำรใดดงั ที่บญั ญตั ิ ไวใ้ นมำตรำ 289 ฉะน้นั กำรกระทำควำมผิดตำมมำตรำ 296 นอกจำกกำรกระทำตอ้ งครบองค์ ประกอบภำยและครบองคป์ ระกอบภำยในเป็นควำมผิดมำตรำ 295 ครบถว้ นทกุ ประกำรแลว้ ผกู้ ระทำจะตอ้ งกระทำโดยปรำกฏพฤตกิ ำรณ์หรือมูลชกั จงู ใจประกำรใดประกำรหน่งึ หรือหลำย ประกำรตำมทีบ่ ญั ญตั ไิ วใ้ นมำตรำ 289 ดว้ ย ซ่ึงผูก้ ระทำควำมผดิ ฐำนทำรำ้ ยร่ำงกำยตำมมำตรำ 295 จะตอ้ งรบั โทษหนกั ข้นึ กวำ่ ท่ีมำตรำดงั กลำ่ วบญั ญตั ิไวโ้ ดยจะตอ้ งเป็นกำรรบั โทษตำมมำตรำ 296แทน สำหรับเหตุฉกรรจใ์ นกำรกระทำควำมผดิ ฐำนทำร้ำยร่ำงกำยตำมมำตรำ295 น้นั บทบญั ญตั ิในมำตรำ 296 ไมไ่ ดบ้ ญั ญตั ิไวเ้ ป็นกำรเฉพำะโดยไดบ้ ญั ญตั ใิ ห้นำเอำเหตุฉกรรจใ์ น กำรกระทำควำมผิดฐำนฆำ่ ผูอ้ น่ื ตำมมำตรำ 289 มำใชบ้ งั คบั โดยอนุโลม ซ่ึงเหตฉุ กรร์ในควำมผดิ ฐำนฆ่ำผอู้ ื่นตำมำตรำ 289 บทบญั ญตั ิไวห้ ลำยประกำรดว้ ยกนั ไม่ว่ำจะเป็นกำรกระทำควำมผดิ ต่อบพุ กำรีกำรกระทำตอ่ เจำ้ พนกั งำนซ่ึงกระทำกำรตำมหนำ้ ทหี่ รือเพรำะเหตุทจ่ี ะกระทำกำรตำม หนำ้ ท่ีหรือไดก้ ระทำกำรตำมหนำ้ ทีก่ ำรกระทำโดยไตร่ตรองไวก้ อ่ น กำรกระทำโดยทรมำนหรือ กระทำโดยทำรุณโหดรำ้ ย กระทำเพือ่ ตระเตรียมกำรหรือเพ่ือควำมสะดวกในกำรทจ่ี ะกระทำ ควำมผิดอยำ่ งอ่นื และกระทำเพอ่ื จะเอำหรือเอำไวซ้ ่ึงงผลประโยชน์อนั เกิดแตก่ ำรท่ตี นไดก้ ระทำ ควำมผิดอื่น เพอื่ ปกปิ ดควำมผดิ อื่นของตนหรือเพ่ือหลีกเลยี่ งให้พน้ อำญำในควำมผดิ ที่ตนได้ กระทำไว้ คำพพิ ำกษำศำลฎีกำท่ี 6020/2559 พฤตกิ ำรณท์ จี่ ำเลยที่ 1 ร่วมเดินทำงไปกบั พวกไปท่เี กิดเหตุโดยทรำบมำก่อนแลว้ วำ่ พวก ของจำเลยท่ี 1 จะไปทำรำ้ ยผเู้ สียหำย และหลงั เกิดเหตกุ ห็ ลบหนีไปดว้ ยกนั ยอ่ มแสดงให้เหน็ ว่ำ จำเลย18
18 ที่ 1 มีเจตนำทีจ่ ะร่วมทำรำ้ ยผเู้ สียหำยกบั พวกซ่ึงมกี ำรคิดไตร่ตรองไวก้ อ่ นแลว้ จงึ ฟังไดว้ ำ่ จำเลย ท่ี 1 มีเจตนำเพียงตอ้ งกำรทำร้ำยผูเ้ สียหำยโดยไตร่ตรองไวก้ อ่ นเท่ำน้นั แตเ่ ม่อื ผลกำรกระทำของ พวกจำเลยที่ 1 ไมท่ ำใหผ้ เู้ สียหำยไดร้ บั บำดเจ็บ แต่พลำดไปถกู ผตู้ ำยจนเป็นเหตุใหผ้ ูต้ ำยถึงแก่ ควำมตำย จำเลยท่ี 1 จงึ ตอ้ งรบั ผลแห่งกำรกระทำน้นั จำเลยท่ี 1 จงึ มีควำมผดิ ฐำนร่วมกนั พยำยำม ทำร้ำยร่ำงกำยผอู้ ืน่ โดยไตร่ตรองไวก้ ่อน ตำม ป.อ. มำตรำ 296 ประกอบมำตรำ 80 และฐำนทำ รำ้ ยผูอ้ ่ืนโดยไตร่ตรองไวก้ อ่ นและไมม่ ีเจตนำฆำ่ แตเ่ ป็นเหตใุ หผ้ ูน้ ้นั ถงึ แก่ควำมตำยโดยพลำด ตำม ป.อ. มำตรำ 290 วรรคสอง ประกอบมำตรำ 60 อนั เป็นควำมผิดหลำยอยำ่ งซ่ึงรวมอยใู่ น ควำมผดิ ฐำนพยำยำมฆำ่ ผูอ้ ืน่ โดยไตร่ตรองไวก้ ่อนและฆ่ำผูอ้ น่ื โดยไตร่ตรองไวก้ อ่ นโดยพลำด ตำมที่โจทก์ฟ้อง และเป็นควำมผดิ ไดใ้ นตวั ศำลฎีกำสำมำรถลงโทษในควำมผิดดงั กลำ่ วตำมท่ีได้ ควำมได้ ตำม ป.วิ.อ. มำตรำ 192 วรรคทำ้ ย ประกอบมำตรำ 215 และ 225 คำพพิ ำกษำศำลฎกี ำท่ี 2741/2550 กำรที่จำเลยใชไ้ มต้ ีแลว้ กอดปล้ำผเู้ สียหำยซ่ึงเป็นเจำ้ พนกั งำนตำรวจและแตง่ เคร่ืองแบบ ตำรวจออกตรวจทอ้ งที่ ในขณะปฏิบตั หิ นำ้ ที่ดูแลควำมสงบเรียบร้อยภำยในงำนวดั ไมว่ ่ำกำรทำ รำ้ ยร่ำงกำยดงั กลำ่ วจะมมี ลู เหตุมำโดยประกำรใด ก็เป็นกรณีทถี่ ือไดว้ ่ำจำเลยไดท้ ำรำ้ ยร่ำงกำยเจำ้ พนกั งำนตำรวจผกู้ ระทำกำรตำมหนำ้ ที่ เพรำะกำรทผ่ี เู้ สียหำยกำลงั ปฏบิ ตั ิหนำ้ ที่ดแู ลควำมสงบ เรียบร้อยภำยในงำนวดั เป็นกำรปฏบิ ตั ิหนำ้ ทีโ่ ดยชอบดว้ ยกฎหมำย กำรกระทำของจำเลยยอ่ ม เป็นควำมผิดฐำนทำรำ้ ยร่ำงกำยเจำ้ พนกั งำนซ่ึงกระทำกำรตำมหนำ้ ท่ตี ำม ป.อ. มำตรำ 296
19 7.ควำมผิดฐำนทำร้ำยร่ำงกำยผ้อู นื่ เป็ นเหตใุ ห้ได้รับอนั ตรำยสำหสั มำตรำ 297 ผใู้ ดกระทำควำมผิดฐำนทำรำ้ ยร่ำงกำย จนเป็นเหตุใหผ้ ถู้ กู กระทำรำ้ ยรับ อนั ตรำยสำหัส ตอ้ งระวำงโทษจำคกุ ต้งั แตห่ กเดือนถึงสิบปี และปรับต้งั แตห่ น่ึงหม่ืนบำทถึงสอง แสนบำท อนั ตรำยสำหสั น้นั คอื (1) ตำบอด หูหนวก ลิน้ ขำด หรือเสียฆำนประสำท (2) เสียอวยั วะสืบพนั ธุ์ หรือควำมสำมำรถสืบพนั ธุ์ (3) เสียแขน ขำ มอื เทำ้ น้ิวหรืออวยั วะอืน่ ใด (4) หนำ้ เสียโฉมอยำ่ งตดิ ตวั (5) แทง้ ลูก (6) จิตพกิ ำรอยำ่ งตดิ ตวั (7) ทพุ พลภำพ หรือป่ วยเจ็บเร้ือรังซ่ึงอำจถงึ ตลอดชีวิต (8) ทุพพลภำพ หรือป่ วยเจ็บดว้ ยอำกำรทกุ ขเวทนำเกินกวำ่ ยสี่ ิบวนั หรือจนประกอบกรณีย กิจตำมปกตไิ ม่ไดเ้ กินกว่ำย่ีสิบวนั มำตรำ 298 ผูใ้ ดกระทำควำมผดิ ตำมมำตรำ ๒๙๗ ถำ้ ควำมผดิ น้นั มลี กั ษณะประกำรหน่ึง ประกำรใดดงั ท่ีบญั ญตั ไิ วใ้ นมำตรำ ๒๘๙ ตอ้ งระวำงโทษจำคกุ ต้งั แต่สองปี ถงึ สิบปี และปรบั ต้งั แต่ส่ีหมนื่ บำทถึงสองแสนบำท จำกบทบญั ญตั ิตำมประมวลกฎหมำยอำญำมำตรำ 297 และมำตรำ 298 สำมำรถอธิบำย หลกั เกณฑท์ ีส่ ำคญั เก่ยี วกยั องคป์ ระกอบของเหตุฉกรรจ์ในควำมผิดฐำนทำรำ้ ยร่ำงกำยผูอ้ น่ื เป็น เหตุให้ผถู้ ูกทำรำ้ ยไดร้ ับอนั ตรำยสำหสั ไดด้ งั น้ี หลกั กำรทว่ั ไป “ควำมผิดฐำนทำรำ้ ยร่ำงกำยผูอ้ ่ืนเป็นเหตทุ ำใหผ้ ถู้ กู ทำร้ำยไดร้ บั อนั ตรำยสำหสั ” เป็นกำร กระทำท่เี ป็นควำมผดิ ตำมประมวลกฎหมำยอำญำมำตรำ 297 ซ่ึ งคุณธรรมทำงกฎหมำยตำมบท บทบญั ญตั ิดงั กลำ่ วมีลกั ษณะเช่นเดียวกบั กำรกระทำควำมผดิ ฐำนทำร้ำยร่ำงกำยตำมประมวล กฎหมำยอำญำมำตรำ 295 คอื กำรคมุ้ ครองควำมปลอดภยั ของร่ำงกำยโดยปรำกฏชดั แจง้ ตำม บทบญั ญตั ิของกฎหมำยดงั กลำ่ ว
20 กำรครบองค์ประกอบท่กี ฎหมำยบญั ญตั ิ เนื่องจำกควำมผิดฐำนทำรำ้ ยผอู้ ืน่ จนเป็นเหตใุ ห้ผถู้ กู ทำร้ำยไดร้ ับอนั ตรำยสำหสั เป็น “ควำมผดิ ทีผ่ ูก้ ระทำตอ้ งรับโทษหนกั ข้ึนเน่ืองจำกผลของกำรกระทำ ” เช่นเดียวกบั กำรกระทำ ควำมผิดฐำนทำรำ้ ยร่ำงกำยตำมมำตรำ 295 ฉะน้นั กำรกระทำทจ่ี ะเป็นควำมผิดฐำนทำร้ำยผูอ้ ื่น จนเป็นเหตใุ หผ้ ถู้ กู ทำรำ้ ยไดร้ บั อนั ตรำยสำหัสจึงตอ้ งเป็นกำรกระทำทีค่ รบองคป์ ระกอบ ภำยนอกและองคป์ ระกอบภำยในของกำรกระทำควำมผิดฐำนทำรำ้ ยร่ำงกำยตำมมำตรำ 295 ทว่ั ไปผลที่ทำให้ผกู้ ระทำตอ้ งรับโทษหนกั ข้ึนสำหรบั กรณีผลทีท่ ำให้ผกู้ ระทำตอ้ งรับโทษหนกั ข้ึนตำมควำมผิดฐำนน้ีคือ “อนั ตรำยสำหสั ” ซ่ึงตำมมำตรำ 297 น้นั ไดก้ ำหนดไวด้ งั ตอ่ ไปน้ี (1) “ตำบอด” หมำยถงึ ตำทมี่ องไม่เหน็ แมจ้ ะบอดขำ้ งเดียวกเ็ ป็นอนั ตรำยสำหสั แต่ตอ้ งไม่ใช่กำรมองไมเ่ ห็นชวั่ ครำว (2) “หูหนวก” หมำยถงึ หูทีไ่ มส่ ำมำรถฟังเสียงได้ตลอดแมจ้ ะฟังไมไ่ ดข้ ำ้ งเดียวก็ เป็นอนั ตรำยสำหสั ซ่ึงกำรไดย้ ินเสียงบำ้ งแต่ไม่ไดย้ ินชดั พอทจ่ี ะรูว้ ่ำเสียงอะไร พูดว่ำ อะไรกถ็ ือ วำ่ เป็นหูหนวกและกำรทีต่ อ้ งพูดกรอกหูดงั ๆจงึ จะไดย้ นิ เขำ้ ใจคำพดู ไดห้ รือสำมำรถไดย้ นิ โดยใช้ เครื่องช่วยในกำรฟังถอื เป็นหูหนวกเช่นกนั (3) “ล้ินขำด” หมำยถึงล้ินขำดหำยไป ควำมขำดหำยจะมำกนอ้ ยเพียงใดไมส่ ำคญั (4) “เสียฆำนประสำท” หมำยถงึ เสียประสำทท่ีจะไดด้ มกลน่ิ ซ่ึงตอ้ งเป็นกำรเสีย โดยสิ้นเชิงทำนองเดียวกบั ตำบอด หูหนวก (5) “เสียอวยั วะสืบพนั ธุ”์ หมำยควำมถึงอวยั วะในกำรร่วมประเวณีไม่ว่ำจะเป็น ของชำยหรือหญงิ อำจเป็นอวยวั ะภำยนอกหรือภำยใน เช่น มดลูกรงั ไข่ ซ่ึงคำวำ่ “เสีย” คอื อวยั วะสืบพนั ธุข์ ำดหำยไป และหมำยควำมรวมถึงกำรทำให้อวยั วะสืบพนั ธุ์ใชส้ ืบพนั ธุ์ไมไ่ ดแ้ ม้ จะไม่ถงึ ขำดหำยกต็ ำม (6) “เสียควำมสำมำรถสืบพนั ธุ”์ หมำยถึง ทำให้ชำยหญงิ ไม่สำมำรถสืบพนั ธุไ์ ดแ้ ม้ จะยงั สำมำรถร่วมประเวณีไดท้ ้งั น้ีกำรทำหมนั ในชำยหรือหญงิ เป็นกำรทำให้ “เสียควำมสำมำรถ สืบพนั ธุ์” ซ่ึงคำวำ่ “เสีย” ตำม (3)ไมห่ มำยเฉพำะขำดหำยไปเทำ่ น้นั แต่หมำยควำมถึงทำ ให้ใช้ อยำ่ งอวยั วะน้นั ๆ ไม่ไดด้ ว้ ยเช่น แขนหรือขำเป็นอมั พำต (7) “อวยั วะอน่ื ใด” ตำม (3) ตอ้ งเป็นอวยั วะสำคญั และรวมถึงอวยั วะภำยในดว้ ย
21 สำหรบั ในกรณีของ “ฟัน” ตำมควำมเหน็ ของศำลฎีกำไม่ถือวำ่ เป็นอวยั วะสำคญั แตก่ ำรเสียฟัน ที่ให้หนำ้ ทีข่ องฟันสูญเสียไปเป็นกำรเสียอวยั วะสำคญั ตำมกฎหมำย (8) “หนำ้ เสียโฉมอยำ่ งตดิ ตวั ” คือ กำรเสียควำมงำมของใบหนำ้ จนน่ำเกลียด กลำ่ วคอื มคี วำมเปลยี่ นแปลงอยำ่ งสำคญั ของรูปพรรณของใบหนำ้ เม่ือมองจำกภำยนอก โดยเฉพำะอยำ่ งยง่ิ เกิดบำดแผลหรือรอยแผลเป็น (9) เก่ียวกบั “แทง้ ลูก” อนั จะเป็นควำมผิดตำมมำตรำ 297 (5) น้นั ศำลฎีกำเห็นว่ำ จะตอ้ งเป็นกรณีกระทำให้ลกู ในครรภขอ์ งผูถ้ ูกทำร้ำยออกมำในลกั ษณะที่ลกู น้นั ไมม่ ชี ีวิต (10)“จติ พกิ ำรอยำ่ งตดิ ตวั ” หมำยควำมว่ำ จิตพิกำรทม่ี ลี กั ษณะแสดงว่ำไมห่ ำยไดแ้ ตไ่ ม่ หมำยควำมว่ำตอ้ งตดิ ตวั ไปตลอดชีวิตจริงๆ เพรำะถำ้ เช่นน้นั จะตอ้ งคอยจนผูเ้ สียหำยตำย เสียกอ่ นจึงจะกลำ่ วไดว้ ่ำ จติ พกิ ำรอยำ่ งติดตวั (11) คำวำ่ “ทุพพลภำพ” ตำม (7) หมำยถึงควำมพกิ ำรและคำวำ่ “ป่ วยเจ็ยเร้ือรงั ซ่ึง อำจถึงตลอดชีวิต” เป็นขอ้ ขยำยควำมพิกำรว่ำ ตอ้ งเป็นควำมพกิ ำรในระยะยำวท่ีเป็นผลต่อ คุณภำพชีวิตอยำ่ งชดเั จน กลำ่ วคือควำมพิกำรบำงกรณีอำจได้รบั กำรรกั ษำใหห้ ำยขำดไดท้ ้งั น้ี ตำมควำมเห็นของศำลฎีกำ “ทพุ พลภำพ” ไมจ่ ำเป็นตอ้ งเป็นทุพพลภำพท่สี มบรู ณซ์ ่ึงถอ้ ยคำ ใน กฎหมำยหลงั คำวำ่ ทพุ พลภำพในอนุมำตรำ (8) น้ีกเ็ ป็นเพยี งคำอธิบำยว่ำ ทุพพลภำพเท่ำน้นั แต่ สำหรบั ควำมพิกำรชว่ั ระยะเวลำตำมควำมเหน็ ของศำลฎีกำตอ้ งเป็ นควำมพกิ ำรท่รี ำ้ ยแรงตำม สมควร คำพพิ ำกษำศำลฎกี ำท่ี 15667/2558 แมร้ ำยงำนผลกำรตรวจชนั สูตรบำดแผลของแพทยเ์ อกสำรทำ้ ยฟ้องระบุว่ำ กำรบำดเจ็บ ของผเู้ สียหำยใชเ้ วลำรกั ษำ 2 สปั ดำห์ หำกไม่มภี ำวะแทรกซ้อนก็ตำม แตก่ ็เป็นเพยี งควำมเหน็ ของแพทยท์ ี่ทำไวข้ ณะตรวจรกั ษำบำดแผลของผเู้ สียหำยเท่ำน้นั เมือ่ โจทก์บรรยำยฟ้องวำ่ กำร กระทำของจำเลยเป็นเหตุใหผ้ เู้ สียหำยไดร้ บั อนั ตรำยสำหสั ตอ้ งทุพพลภำพป่ วยเจบ็ ดว้ ยอำกำร ทกุ ขเวทนำและประกอบกรณียกิจตำมปกติไม่ไดเ้ กินกวำ่ ยี่สิบวนั ซ่ึงเขำ้ องคป์ ระกอบควำมผดิ ตำม ป.อ. มำตรำ 297 (8) แลว้ ดงั น้ี เมอ่ื จำเลยให้กำรรบั สำรภำพและควำมผดิ ดงั กลำ่ วมิใช่เป็น คดีทีม่ ีอตั รำโทษอยำ่ งต่ำจำคกุ ต้งั แตห่ ำ้ ปี ข้ึนไปหรือโทษสถำนทหี่ นกั กวำ่ น้นั ซ่ึงศำลยอ่ ม
22 พพิ ำกษำลงโทษจำเลยตำมฟ้องโดยไม่ตอ้ งสืบพยำนหลกั ฐำนต่อไปไดต้ ำม ป.ว.ิ อ. มำตรำ 176 วรรคหน่ึง ขอ้ เท็จจริงจึงตอ้ งรับฟังตำมฟ้องวำ่ กำรกระทำของจำเลยเป็นเหตใุ หผ้ เู้ สียหำยไดร้ ับ อนั ตรำยสำหสั และลงโทษจำเลยตำม ป.อ. มำตรำ 297 (8) ได้ เม่ือกำรกระทำของจำเลยเป็น ควำมผิดตำมบทบญั ญตั ิดงั กล่ำวแลว้ จงึ ไมเ่ ป็นควำมผิดอนั ยอมควำมไดต้ ำม พ.ร.บ.คมุ้ ครอง ผถู้ ูกกระทำดว้ ยควำมรุนแรงในครอบครัว พ.ศ.2550 มำตรำ 4 วรรคสอง ตอนทำ้ ย แต่อยำ่ งไรก็ ตำม ควำมผิดฐำนกระทำกำรอนั เป็นควำมรุนแรงในครอบครวั ตำม พ.ร.บ.ดงั กลำ่ วมำตรำ 4 วรรคหน่ึง เป็นควำมผิดอนั ยอมควำมไดต้ ำมมำตรำ 4 วรรคสอง ตอนตน้ เมือ่ ผเู้ สียหำยยื่นคำร้อง ฉบบั ลงวนั ที่ 22 พฤษภำคม 2558 เอกสำรทำ้ ยอทุ ธรณห์ มำยเลข 2 วำ่ ไม่ประสงคห์ รือตดิ ใจ ดำเนินคดีแกจ่ ำเลยอีกตอ่ ไป พอแปลควำมไดว้ ่ำเป็นกำรยอมควำมโดยถกู ตอ้ งตำมกฎหมำย สิทธิ ในกำรนำคดีอำญำมำฟ้องในควำมผิดฐำนดงั กลำ่ ว ซ่ึงเป็นควำมผิดอนั ยอมควำมไดย้ อ่ มระงบั ไป ตำม ป.ว.ิ อ. มำตรำ 39 (2) คำพพิ ำกษำศำลฎีกำที่ 2494 – 2495/2562 จำเลยท่ี 1 และท่ี 3 ไม่ไดเ้ ขำ้ ไปร่วมทำร้ำยร่ำงกำยโจทกร์ ่วมตำมที่วำงแผนกนั ไว้ โดยอยทู่ ่ี รถจกั รยำนยนตซ์ ่ึงจอดอยูด่ ำ้ นหลงั รถยนตข์ องโจทกร์ ่วมซ่ึงเป็นระยะทใี่ กลช้ ิดกบั สถำนที่เกิด เหตุ อยใู่ นลกั ษณะท่อี ำจเขำ้ ไปช่วยเหลอื ให้กำรกระทำควำมผิดสำเร็จ มีลกั ษณะแบง่ หนำ้ ทกี่ นั ทำ แต่กำรทพี่ วกของจำเลยใชอ้ ำวธุ ปื นยงิ โจทกร์ ่วม เป็นเหตุกำรณ์ทเ่ี กิดข้ึนเฉพำะหนำ้ อยำ่ ง กะทนั หนั โดยจำเลยท่ี 1 และที่ 3 มิไดค้ บคดิ นดั หมำยมำกอ่ น จึงถอื ไมไ่ ดว้ ่ำ จำเลยที่ 1 และที่ 3 เป็นตวั กำรร่วมกระทำควำมผดิ ฐำนพยำยำมฆ่ำโจทกร์ ่วมโดยไตร่ตรองไวก้ ่อน แตจ่ ำเลยที่ 1 และ ที่ 3 ตอ้ งรบั ผลแห่งกำรกระทำของพวกดว้ ย จำเลยที่ 1 และท่ี 3 จึงเป็นตวั กำรกระทำควำมผดิ ฐำน ทำร้ำยจนเป็นเหตใุ หโ้ จทกร์ ่วมรับอนั ตรำยสำหสั โดยไตร่ตรองไวก้ อ่ น ตำม ป.อ. มำตรำ 298 อนั เป็นควำมผิดหลำยอยำ่ งซ่ึงรวมอยใู่ นควำมผิดฐำนพยำยำมฆำ่ ผอู้ ่นื โดยไตร่ตรองไวก้ ่อน และเป็น ควำมผิดไดอ้ ยใู่ นตวั เอง ศำลฎีกำลงโทษในควำมผิดดงั กล่ำวตำมทพ่ี จิ ำรณำไดค้ วำมได้ ตำม ป. ว.ิ อ. มำตรำ 192 วรรคทำ้ ย ประกอบมำตรำ 215 และมำตรำ 225 แมโ้ จทก์ไมไ่ ดฎ้ ีกำขอใหล้ งโทษ ก็ตำม เพรำะกำรปรับบทลงโทษเป็นปัญหำขอ้ กฎหมำยทเ่ี ก่ียวกบั ควำมสงบเรียบร้อย ศำลฎีกำมี อำนำจหยิบยกข้นึ วนิ ิจฉยั และแกไ้ ขเสียให้ถูกตอ้ งไดต้ ำม ป.ว.ิ อ. มำตรำ 195 วรรคสอง ประกอบ
23 มำตรำ225 แต่เมอ่ื โจทกฎ์ ีกำขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 และที่ 3 ฐำนร่วมกนั ทำรำ้ ยจนเป็นเหตใุ ห้ โจทก์ร่วมรบั อนั ตรำยสำหสั ตำมคำพพิ ำกษำศำลช้นั ตน้ เท่ำน้นั จงึ ไมอ่ ำจกำหนดโทษให้สูงข้นึ ในควำมผิดฐำนร่วมกนั ทำร้ำยจนเป็นเหตุให้โจทกร์ ่วมรบั อนั ตรำยสำหสั โดยไตร่ตรองไวก้ ่อน ตำม ป.อ. มำตรำ 298 เพรำะจะเป็นกำรเพม่ิ เตมิ โทษจำเลย ตอ้ งห้ำมตำม ป.วิ.อ. มำตรำ 212 ประกอบมำตรำ 225
24 บรรณำนกุ รม เฉลมิ วฒุ ิ สำระกิจ. พมิ พค์ ร้ังที1่ (2561).ควำมผดิ เก่ียวกบั ชีวติ และร่ำงกำย.[หนงั สือออนไลน์] จิตติ ติงศภัทิย์. (2545). กฎหมำยอำญำ ภำค 2 ตอน 2 และภำค 3. กรุงเทพมหำนคร: เนตบิ ณั ฑิตย สภำ นพนภสั ทนำยควำมเชียงใหม่.com (ไม่ระบปุ ี จดั ทำ). [ออนไลน์]. เขำ้ ถงึ ไดจ้ ำก https://www.xn42cgi4cjab1btnchd1exbza5gvad6dvnqc6f.com/%E0%B8%9B%E0%B8%A3% E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%8E%E0% B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8 %8D%E0%B8%B2%20%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8 %B2%20288.html laws24hr.com. (ไมร่ ะบุปี จดั ทำ). [ออนไลน์]. เขำ้ ถึงไดจ้ ำก http://www.laws24hr.com/2021/01/288.html?m=1 สืบค้นฎีกำ (ไมร่ ะบุปี จดั ทำ). [ออนไลน]์ . เขำ้ ถงึ ไดจ้ ำก http://deka.supremecourt.or.th/
Search
Read the Text Version
- 1 - 28
Pages: