Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 631081389

631081389

Published by อดิศักดิ์ จิตรแก้ว, 2021-10-08 09:14:06

Description: นางสาวอภิชญา พูลสวน 631081389

Search

Read the Text Version

บทท่วั ไปสัญญาเช่าซื้อ Hire Purchase Contract อภิชญา พลู สวน รหสั นิสิต 631081389

คานา อีบุก๊ เล่มน้ีเป็นส่วนหน่ึงของวชิ าเอกเทศสัญญารหสั วิชา 0801211 ซ่ึง จดั ทาในเรื่องสญั ญาเช่าทรัพยท์ ้งั ในเรื่องของหลกั ทวั่ ไป ความหมาย และ หลกั เกณฑแ์ ละรวมถึงหนา้ ท่ีและความรับผิดของผใู้ หแ้ ละผใู้ ห้เช่าจนไปถึง การระงบั ของสญั ญาเช่าทรัพย์ ผจู้ ดั ทาหวงั วา่ เน้ือหาในรายงานฉบบั น้ีท่ีได้ เรียบเรียงมาจะเป็นประโยชน์ต่อผสู้ นใจ หากมีสิ่งใดจะตอ้ งปรับปรุง ผจู้ ดั ทาขอนอ้ มรับและจะนามาแกไ้ ขหรือพฒั นาใหถ้ ูกตอ้ งสมบูรณ์ต่อไป อภิชญา พลู สวน รหสั นิสิต 631081389

สารบัญ บทท่ี 1 บทท่ี 2 บทท่ี 4 บททวั่ ไป ความหมายของ หลกั เกณฑก์ ารทา ความระงบั แห่งสญั ญาเช่า สญั ญาเช่าทรัพย์ สัญญาเช่าทรัพย์ บทท่ี 3 หนา้ ท่ีและความรับผดิ ของผใู้ หเ้ ช่าและผเู้ ช่า

ความหมายของสัญญาเช่าซื้อ มาตรา 572 วรรคแรก อนั วา่ เช่าซ้ือน้นั คือสัญญาซ่ึงเจา้ ของเอาทรัพยส์ ินออกใหเ้ ช่าและใหค้ ามน่ั วา่ จะขาย ทรัพยส์ ินน้นั หรือวา่ จะใหท้ รัพยส์ ินน้นั ตกเป็นสิทธิแก่ผเู้ ช่า โดยเง่ือนไขที่ผเู้ ช่าไดใ้ ชเ้ ป็นจานวนเท่าน้นั เท่าน้ีคราว

ความหมายของสัญญาเช่าซื้อ อธิบาย ด้วยเหตทุ ี่สญั ญาซือ้ ขาย ผ้ซู ือ้ จะต้องชาระราคาสง่ิ ของที่ ตนซือ้ มาทนั ทีและเตม็ จานวนผ้ทู ี่ไมม่ ีเงินมากพอก็ไม่มีโอกาสได้เป็น เจ้าของเลย แตด่ ้วยความท่ีจาเป็นต้องใช้สอยทรัพย์สินนนั้ ทนั ที จงึ จาต้องไปเชา่ ทรัพย์สินมาใช้ไปก่อน ตอ่ มาผ้เู ชา่ กเ็ ริ่มเลง็ เหน็ วา่ หาก จะต้องเสียค่าเช่าเชน่ นีต้ ลอดไป พอครบกาหนดเวลาเช่ากต็ ้องคืน ทรัพย์สินนนั้ ให้แก่ผ้ใู ห้เชา่ ไป ตนจะเสียประโยชน์มาก สญั ญาเชา่ ซอื ้ จงึ เกิดขนึ ้ มาเพ่ือแก้ไขปัญหานีโ้ ดยเฉพาะ ทงั้ นีแ้ ม้ผู้เชา่ จะต้องเสียคา่ เชา่ ก็ตามแตก่ ย็ งั มีสทิ ธิท่ีจะเป็นเจ้าของกรรมสทิ ธ์ินนั้ เมือ่ ชาระคา่ เชา่ ครบถ้วนตามสญั ญา

อาจกล่าวไดว้ า่ สัญญาเช่าซ้ือ มีลกั ษณะ ส่วนหน่ึงเป็นสญั ญาทรัพยค์ ือผเู้ ช่าไดใ้ ชห้ รือ ไดร้ ับประโยชนจ์ ากทรัพยส์ ินและจะตอ้ ง ชาระคา่ เช่าและอีกส่วนหน่ึงเป็นสญั ญาเช่าซ้ือ มีสิทธ์ิที่เป็นเจา้ ของกรรมสิทธ์ิเม่ือชาระคา่ เช่า ครบถว้ น กลา่ วโดยสรุป สญั ญาเช่าซ้ือ (Hire- Purchase) คือ สญั ญา ท่ีเจา้ ของทรัพยส์ ินหรือ ผใู้ หเ้ ช่านาซบั สินออกใหเ้ ช่าและใหค้ ามน่ั วา่ จะขายทรัพยส์ ินน้นั หรือใหท้ รัพยส์ ินตกเป็น กรรมสิทธ์ิแก่ผเู้ ช่าซ้ือเม่ือผเู้ ช่าซ้ือไดช้ าระเงิน ครบถว้ นตามสัญญาแลว้

คาพพิ ากษาฎีกาที่ 2872 / 2535 ขอ้ ตกลงที่ใหผ้ ซู้ ้ือชาระราคาเป็น เดือน เมื่อชาระเงินงวดสุดทา้ ยจะ โอนกรรมสิทธ์ิในทรัพยส์ ินน้นั ให้ ทนั ที ไม่ใช่สญั ญาเช่าซ้ือ แตเ่ ป็น สญั ญาซ้ือขายที่มีเง่ือนไขตาม มาตรา 459 อยา่ งไรกด็ ี ในปัจจุบนั ไดม้ ี การทาสัญญาแบบใหม่ๆกนั เสมอ ซ่ึงสัญญาบางอยา่ งกค็ ลา้ ยกนั กบั สญั ญาเช่าซ้ือ เช่น สญั ญาเชา่ แบบ ลีลซิ่ง (Leasing)

สัญญาเช่าแบบลลี ซิ่ง (Leasing) คือ การทาสญั ญาระหวา่ งผใู้ หเ้ ช่า (Lessor) ดว้ ยเหตุท่ีสญั ญาเช่าแบบลีสซ่ิง แมผ้ เู้ ช่าจะจ่ายค่าเช่าครบถว้ น กรรมสิทธ์ิกย็ งั กบั ผเู้ ช่า (Lessee) เพื่อเช่าทรัพยส์ ินตามที่ผเู้ ช่า ไม่โอนไปเป็นของผเู้ ช่าทนั ที จะตอ้ งมีการสนองรับคามนั่ ของผใู้ หเ้ ช่าก่อน ซ่ึงต่าง กบั สญั ญาเช่าซ้ือท่ีกรรมสิทธ์ิยอ่ มโอนไปทนั ทีดงั น้นั สญั ญาเช่าแบบลีสซิ่งจึงไม่เป็น ตอ้ งการ ซ่ึงผเู้ ช่าจะเป็นผเู้ ลือกทรัพยส์ ิน จาก สญั ญาเช่าซ้ือ ตามมาตรา 572 วรรคแรก แต่กย็ งั ถือวา่ เป็นสญั ญาเช่าทรัพยต์ าม ผผู้ ลิตหรือจาหน่ายเอง เมื่อตกลงเงื่อนไขในการ มาตรา 537 โดยอาศยั มาตรา 4 เทียบเคียงกฎหมายที่ใกลเ้ คียงอยา่ งยงิ่ ซ้ือขายกนั แลว้ ผเู้ ช่าจะขอใหผ้ เู้ ช่าซ้ือทรัพยส์ ิน น้นั จากผผู้ ลิตหรือผจู้ าหน่ายแลว้ นามาใหผ้ เู้ ช่าทา การเช่า โดยผใู้ หเ้ ช่ายงั คงมีกรรมสิทธ์ิในทรัพยส์ ิน น้นั ในขณะท่ีผเู้ ช่าครอบครองและใชป้ ระโยชน์ จากทรัพยส์ ินน้นั ๆ โดยจ่ายค่าเช่าตามที่กาหนด ภายในระยะเวลาท่ีตกลงกนั เมื่อสิ้นสุดสญั ญา กรรมสิทธ์ิในทรัพยส์ ินอาจเปล่ียนไปเป็นของ ผใู้ หเ้ ช่าหรือไม่กไ็ ด้

ลกั ษณะสาคญั ของสัญญาเช่าซื้อ

ลกั ษณะสาคญั ของสัญญาเช่าซื้อ 1.เช่าซื้อเป็ นสัญญาระหว่างบุคคล 2 ฝ่ าย 3. ผู้ให้เช่าสือต้องเป็ นเจ้าของทรัพย์สินและเอาทรัพย์สิน กล่าวคือ ตอ้ งมีผใู้ หเ้ ช่าซ้ือ (เจา้ ของทรัพยส์ ินที่ให้ ออกให้เช่า เช่า) ฝ่ ายหนง่ึ และผ้เู ชา่ ซอื ้ ีกฝ่ ายหนง่ึ โดยสภาพของสญั ญาเช่าซ้ือ กรรมสิทธ์ิใน 2.วัตถแุ ห่งสัญญาเช่าซอื้ คอื ทรัพย์สิน ทรัพยส์ ินยอ่ มจะโอนไปยงั ผเู้ ช่าซ้ือในอนาคตหาไดโ้ อน ดงั น้นั จึงอาจเป็นสงั หาริมทรัพย์ เช่น รถยนต์ กรรมสิทธ์ิในทนั ทีขณะทาสญั ญาไม่ ดงั น้นั “เจา้ ของ” จึง หมายถึง ผมู้ ีกรรมสิทธ์ิในทรัพยส์ ินขณะทาสญั ญาเช่าซ้ือ รถจกั รยานยนต์ โทรทศั น์ หรืออสงั หาริมทรัพย์ เช่น ตึก และหมายความรวมถึงผทู้ ี่จะมีกรรมสิทธ์ิในทรัพยส์ ินใน บา้ น ท่ีดินกไ็ ด้ แมจ้ ะเป็นวตั ถุไม่มีรูปร่างกย็ อมไดแ้ ต่ตอ้ ง อนาคตโดยชอบดว้ ยตามคาพิพากษาฎีกาท่ี 740 / 2547 ซ่ึง ไม่ใช่ทรัพยน์ อกพาณิชยห์ รือสาธารณสมบตั ิของแผน่ ดิน ถา้ ผใู้ หเ้ ช่าซ้ือเอาทรัพยส์ ินซ่ึงมิใช่ของตนเองมาใหเ้ ช่าซ้ือ ยอ่ มไม่ชอบดว้ ยกฎหมาย ผใู้ หเ้ ช่าซ้ือไม่อาจอา้ งสญั ญาเช่า ซ้ือนามาฟ้ องร้องบงั คบั ผเู้ ช่าซ้ือไดต้ ามคาพพิ ากษาฎีกาที่ 4544/2533

ลกั ษณะสาคญั ของสัญญาเช่าซื้อ ในกรณีท่ีผเู้ ช่าซ้ือยงั ไม่ไดเ้ ป็นเจา้ ของทรัพยส์ ินในขณะทา สัญญาเช่าซ้ือ แตผ่ ใู้ หเ้ ช่าซ้ือจะเป็นเจา้ ของในอนาคตและ จะสามารถโอนกรรมสิทธ์ิในทรัพยส์ ินดงั กล่าวใหแ้ ก่ผเู้ ช่า ซ้ือไดส้ ัญญาเช่าซ้ือยอ่ มมีผลบงั คบั กนั ได้ ไม่เป็นโมฆะ ตามคาพพิ ากษาท่ี 4405 / 2540 ดงั น้นั เมื่อผเู้ ช่าซ้ือเองก็ สมคั รใจเขา้ ทาสญั ญาและปฏิบตั ิต่อกนั ตามสญั ญาแลว้ เช่นน้ีผเู้ ช่าซ้ือจะมาอา้ งในภายหลงั วา่ ขณะทาสญั ญา ผใู้ ห้ เช่าซ้ือมิใช่เจา้ ของกรรมสิทธ์ิที่ใหเ้ ช่าซ้ือ จึงไม่มีอานาจ ฟ้ องหาไดไ้ ม่ตามคาพิพากษาฎีกาท่ี 615 / 2537

ลกั ษณะสาคญั ของสัญญาเช่าซื้อ 3. ถา้ ผแู้ ทนของบริษทั (กรรมการผมู้ ีอานาจ) ทาสญั ญาใหเ้ ช่าสือเองแต่ลงลายมือชื่อไม่ นอกจากน้ีเจา้ ของทรัพยส์ ินยงั อาจต้งั ตวั แทนไปทาสญั ญาใหเ้ ช่าซ้ือได้ ซ่ึง ตรงตามขอ้ บงั คบั เช่นลงช่ือโดยไม่ประทบั ตา เห็นไดช้ ดั วา่ ตวั แทนน้ีมิไดเ้ ป็นเจา้ ของทรัพยส์ ินท่ีใหเ้ ช่าเลย แต่อยา่ งไรกด็ ี บริษทั หรือลงลายมือช่ือไม่ครบตามขอ้ บงั คบั มีผลใหส้ ญั ญาเช่าซ้ือเป็นโมฆะเช่นกนั ตาม คาพิพากษาฎีกาที่ 953 / 2520 1. การต้งั ตวั แทนไปทาสญั ญา 2. การต้งั ตวั แทนไปทาสญั ญาใหเ้ ช่า ใหเ้ ช่าซ้ือ ตอ้ งทาเป็นหนงั สือ ซ้ือ ตวั แทนมีอานาจลงลายมือช่ือแทน ตามมาตรา 798 วรรคแรก ถา้ เจา้ ของทรัพยส์ ินถา้ ตวั แทนไม่ลง หากมิไดท้ าเป็นหนงั สือ การเช่า ลายมือช่ือ สญั ญาเช่าซ้ือเป็นโมฆะ ซ้ือยอ่ มตกเป็นโมฆะ ตามคา ตามคาพิพากษาฎีกาที่ 3862 / 2533 พิพากษาฎีกาท่ี 685/2508

ลกั ษณะสาคญั อีกประการหน่ึงกค็ ือ เจา้ ของ ทรัพยส์ ินจะตอ้ งนาทรัพยส์ ินออกใหเ้ ช่าดว้ ยเสมอ ถา้ ไม่มีการเช่าทรัพยก์ ่อนจะเป็นสญั ญาเช่าซ้ือ ไม่ได้ เช่น เจา้ ของทรัพยส์ ินเอาทรัพยส์ ินไปฝาก นาย ก และนาย ก เลือกซ้ือโดยชาระเป็นงวดๆ ยอ่ มจะไม่ใช่สญั ญาเช่าซ้ือเพราะไม่มีการเช่ากนั ท้งั น้ี สญั ญาเช่าซ้ือเป็นสัญญาเช่าบวกดว้ ยคามนั่ วา่ จะ ขาย ดงั น้นั กรณีใดที่ไม่ไดบ้ งั คบั ไหวในเร่ืองเช่าซ้ือ จะตอ้ ง นาบทบญั ญตั ิเร่ืองเช่าทรัพยม์ าใชบ้ งั คบั เช่น เร่ืองสิทธิและ หนา้ ที่ของผใู้ หเ้ ช่าและผเู้ ช่ารับของสัญญาเป็นตน้ แต่ท้งั น้ี ตอ้ งไม่ขดั ตอ่ ลกั ษณะของสัญญาเช่าซ้ือดว้ ย

คาพิพากษาฎีกาที่ 951 / 2544 การที่ผใู้ หเ้ ช่าซ้ือส่งมอบรถยนตท์ ่ี ใหเ้ ช่าซ้ือโดยยงั ไม่ไดท้ าทะเบียนและแผน่ ป้ ายวงกลมตามท่ีกาหนด ในสญั ญาเช่าซ้ือ เมื่อเอกสารดงั กล่าว ถือเป็นสาระสาคญั ในการใชร้ ถ จึงเป็นกรณีท่ีผเู้ ช่าซ้ือส่งมอบรถยนตใ์ นสภาพท่ีไม่เหมาะสมแก่การ ใชป้ ระโยชน์ ตามมาตรา 572 ประกอบมาตรา 549 ผใู้ หเ้ ช่าซ้ือจึงเป็น ฝ่ ายผดิ สัญญา ผเู้ ช่าซ้ือมีสิทธ์ิท่ีจะไม่ชาระค่าเช่าซ้ือได้ ตามหลกั ของ สญั ญาต่างตอบแทน คาพพิ ากษาฎีกาท่ี 9571 / 2544 สิทธิบอกเลิกสญั ญาและวธิ ีการ บอกสญั ญาเช่าซ้ือน้นั ตามประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์ กาหนดไวโ้ ดยเฉพาะแลว้ โดยใหส้ ิทธิผเู้ ช่าซ้ือตามมาตรา 573 และ ผใู้ หเ้ ช่าซ้ือตามมาตรา 574 มิใช่กรณีที่ไม่มีกฎหมายที่จะยกมาปรับ แก่คดีมาตรา 4 จึงไม่อาจนาวธิ ีการบอกเลิกสญั ญาเช่า ตามมาตรา 560 มาใชบ้ งั คบั ในกรณีบอกเลิกสญั ญาเช่าซ้ือ

ลกั ษณะสาคญั ของสัญญาเช่าซื้อ 4. ผู้ให้เช่าให้คามน่ั ว่าจะขายทรัพย์สินหรือจะให้ทรัพย์สินตกเป็ นสิทธิ แก่ผ้เู ช่าซือ้ คามนั่ วา่ จะขายน้ีเป็นของผใู้ หเ้ ช่าฝ่ ายเดียว ถา้ ไม่มีคาวา่ รวา่ จะขายหรือ จะใหท้ รัพยส์ ินน้นั ตกเป็นสิทธิแก่ผเู้ ช่าก็ไม่ใช่สญั ญาเช่าซ้ือ ซ่ึงเห็นไดช้ ดั วา่ กรรมสิทธ์ิในทรัพยส์ ินท่ีเช่าซ้ือในระหวา่ งท่ีผเู้ ช่าซ้ือยงั ชาระค่าเช่าซ้ือไม่ ครบถว้ นน้นั ยงั อยใู่ หเ้ ช่าซ้ือ ดงั น้นั ผใู้ หเ้ ช่าซ้ือซ่งึ มีสิทธ์ิเหนือทรัพยส์ ินท่ีเช่า ซ้ือในฐานะเจา้ ของกรรมสิทธ์ิโดยมีสิทธิติดตามเอาคืนจากผไู้ มม่ ีอานาจยดึ ถือ ทรัพยส์ ินไว้ รวมท้งั มีกรรมสิทธ์ิฟ้ องเรียกค่าเสียหายในส่วนที่เป็นคา่ ซ่อมแซมจากซ้ือหรือบุคคลใดๆที่ทาใหท้ รัพยส์ ินท่ีเช่าซ้ือเสียหาย ตามคา พิพากษาฎีกาท่ี 66/2537 อยา่ งไรก็ตาม แม้วา่ ในระหวา่ งที่ยงั ชาระค่าเชา่ ซือ้ ไมค่ รบถ้วน หากมี ผ้ทู าความเสยี หายแก่ทรัพย์สนิ ท่ีตนเช่าซือ้ ผ้เู ชา่ ซือ้ กม็ ีสทิ ธิฟ้ องเรียกคา่ สนิ ใหมท่ ดแทนได้ การฟ้ องนีไ้ มใ่ ชก่ ารฟ้ องในฐานะที่เป็นเจ้าของกรรมสทิ ธ์ิ แต่ ฟ้ องในฐานะผ้ไู ด้รับความเสยี หายจากการขาดประโยชน์ในการใช้ทรัพย์สนิ นนั ้ ตามคาพพิ ากษาฎีกาท่ี 1008 / 2506 และมสี ทิ ธ์ิทนิ าทรัพย์สนิ ที่เชา่ ซือ้ ไป ทาสญั ญาประกนั ภยั ได้ด้วยตามคาพพิ ากษาฎีกาท่ี 2705 / 2516

ลกั ษณะสาคญั ของสัญญาเช่าซื้อ 5. ผ้เู ช่าซื้อตกลงชาระค่าเช่างวดๆ จนกว่าจะกาหนดตามที่ระบุไว้ในสัญญา คา่ เช่าซ้ือน้ีตอ้ งเป็น “เงิน”เสมอ จะเป็นทรัพยส์ ินอยา่ งอ่ืนเช่นเดียวกบั ในกรณีของ คา่ เช่าไม่ไดซ้ ่ึงเงินในท่ีน้ีมิใช่หมายความเฉพาะเงินสดเท่าน้นั ยงั รวมถึงการชาระดว้ ยเช็ค และตวั๋ แลกเงินดว้ ยตามคาพิพากษาฎีกาที่ 3934/2525 แต่ท้งั น้ีผเู้ ช่าซ้ือจะตอ้ งชาระเงินคา่ เช่าซ้ือเป็นคราวๆไป เช่น เดือนละคร้ังหรือสอง เดือนต่อคร้ังมีกาหนด 40 เดือน เป็นตน้ ถา้ หากตกลงใหผ้ เู้ ช่าซ้ือชาระคา่ เช่าซ้ือคร้ังเดียว ท้งั หมด หรือตกลงจะชาระคา่ เช่าซ้ือเมื่อใดกไ็ ด้ ยอ่ มไม่เป็นสญั ญาเช่าซ้ือ แมห้ นงั สือ สญั ญาจะระบุวา่ เป็นสญั ญาเช่าซ้ือกต็ าม แต่อาจเป็นสญั ญาซ้ือขายไดต้ ามคาพิพากษาฎีกา ที่ 460/2488 ในกรณีท่ีสญั ญาไดต้ กลงใหช้ าระเงินเป็น 2 งวด คือชาระในวนั ทาสญั ญาจานวน หน่ึงและชาระในวนั ท่ีระบุไวอ้ ีกจานวนหน่ึง ถา้ คสู่ ญั ญาตกลงกนั วา่ เมื่อชาระเงิน ครบถว้ น ใหก้ รรมสิทธ์ิตกเป็นของผเู้ ช่าซ้ือเช่นน้ีกย็ งั ถือวา่ เป็นสญั ญเช่าซ้ือตามคา พิพากษาฎีกาท่ี 1617/2515

สาหรับดอกเบ้ียท่ีนามารวมไวใ้ นสญั ญาเช่าซ้ือและค่าเช่าซ้ือท่ีคา้ ง ชาระน้นั แมจ้ ะมีจานวนเกินกวา่ ร้อยละ 15 ต่อปี กไ็ ม่ตอ้ งหา้ มตาม พระราชบญั ญตั ิหา้ มเรียกดอกเบ้ียเกินอตั รา พ.ศ.2475 เพราะมิใช่ดอกเบ้ีย เงินกยู้ มื ตามคาพิพากษาฎีกาท่ี 9571/2544 ทงั้ ไม่จาเป็นต้องลดลงมาเป็น ร้อยละ 15 ต่อปีตามมาตรา 654 ด้วยเพราะบทบญั ญตั ดิ งั กลา่ วใช้บงั คบั เฉพาะเร่ืองการก้ยู ืมเงินเท่านนั้ อยา่ งไรกด็ ี เมื่อผเู้ ช่าซ้ือตกลงชาระค่าเช่าซ้ือครบงวดและครบจานวน ตามที่ระบุไวใ้ นสญั ญาแลว้ กรรมสิทธ์ิในทรัพยส์ ินยอ่ มตกเป็นของผเู้ ช่า ทนั ที (หรือตกเป็นของบุคคลซ้ือผเู้ ช่าซ้ือระบุไวใ้ นสญั ญา) ถา้ ทรัพยส์ ินท่ี เช่าซ้ือน้นั เป็นสงั หาริมทรัพย์ แมจ้ ะมิไดไ้ ปโอนทางทะเบียนกนั และแมใ้ น สญั ญาจะไม่ไดร้ ะบุขอ้ ความน้ีไวก้ ต็ าม ดงั น้นั แมผ้ ใู้ หเ้ ช่าซ้ือจะมีชื่อใน ทะเบียนรถยต์ ผใู้ หเ้ ช่าซ้ือกม็ ิใช่เจา้ ของรถยนตค์ นั น้นั อีก แต่สาหรับ อสงั หาริมทรัพยแ์ ละสงั หาริมทรัพยช์ นิดพิเศษ กรรมสิทธ์ิจะยงั ไม่โอนไป ยงั ผเู้ ช่าซ้ือจนกวา่ จะไดจ้ ดทะเบียนต่อพนกั งานเจา้ หนา้ ที่ตามมาตรา 1299 วรรคแรกและมาตรา 1302 แลว้ แต่กรณี

ความสมบูรณ์หรือแบบของสัญญาเช่าซื้อ มาตรา 572 วรรคสอง “สญั ญาเช่าซ้ือน้นั ถา้ ไม่ทาเป็นหนงั สือ ท่านวา่ เป็นโมฆะ” อธิบาย จากบทบญั ญตั ิดงั กล่าว จะเห็นวา่ สญั ญาเช่าซ้ือ กฎหมายไดก้ าหนดแบบของสญั ญาไวว้ า่ ตอ้ งทาเป็น หนงั สือ ท้งั น้ีไม่วา่ ทรัพยส์ ินที่เช่าซ้ือจะเป็นสังหาริมทรัพยห์ รืออสังหาริมทรัพย์ ดงั น้นั ถา้ ไม่ทาเป็นหนงั สือยอ่ ม ตกเป็นโมฆะทนั ที เพราะถือวา่ ไม่ทาตามแบบที่กฎหมายกาหนด

ท่ีวา่ ตอ้ งทาเป็นหนงั สือหมายความวา่ สญั ญาเช่าซ้ือตอ้ งทาเป็น ลายลกั ษณ์อกั ษรแสดงสาระสาคญั ของสญั ญาเช่าซ้ือ ท่ีสาคญั ตอ้ งลง ลายมือช่ือท้งั ของผใู้ หเ้ ช่าซ้ือและผเู้ ช่าซ้ือท้งั สองฝ่ายจึงมีผลสมบรู ณ์ ตามกฎหมาย แต่ไม่มีบทบญั ญตั ิใดระบุวา่ คู่สญั ญาฝ่ายใดฝ่ายหน่ึง หรือท้งั สองฝ่ ายจะตอ้ งลงชื่อในวนั ทาสญั ญาน้นั เมื่อคู่สญั ญาลงชื่อ ในสญั ญาเช่าซ้ือท้งั สองฝ่ ายแลว้ กย็ อ่ มถือไดว้ า่ สญั ญาเช่าซ้ือน้นั ได้ กระทาเป็นหนงั สือแลว้ ดงั น้นั ฝ่ ายใดมิไดล้ งลายมือในหนงั สือ สญั ญา จะถือวา่ ฝ่ ายน้นั ทาหนงั สือสญั ญาดว้ ยมิได้ เม่ือกฎหมายบญั ญตั ิวา่ ตอ้ งทาเป็นหนงั สือ ถา้ หากสญั ญาเช่าซ้ือ มีเพยี งหลกั ฐานเป็นหนงั สือลงลายมือผตู้ อ้ งรับผดิ ฝ่ายเดียวยอ่ มจะตก เป็นโมฆะเช่นกนั สญั ญาน้นั ไม่สามารถจะบงั คบั กนั ได้ และไม่ทาให้ สญั ญาน้นั กลายเป็นสญั ญาเช่าทรัพย์ ดงั น้นั สญั ญาเช่าซ้ือที่ตกลงกนั ดว้ ยวาจา แมผ้ เู้ ช่าซ้ือจะชาระค่า เช่าซ้ือทุกคราว ท้งั ผใู้ หเ้ ช่าซ้ือกอ็ อกใบเสร็จรับเงนิ ทุกคร้ัง กย็ อ่ มมี ผลเป็นโมฆะไม่มีผลผกู พนั สญั ญา

คาพิพากษาฎีกาท่ี 953/2520 คาพพิ ากษาฎีกาท่ี 423/2528 คาพิพากษาฎีกาที่ 8011/2548 คู่สญั ญา บริษทั จากดั ผใู้ หเ้ ช่าซ้ือมีขอ้ บงั คบั คู่สญั ญาเช่าซ้ือไม่จาตอ้ งลงนาม วา่ กรรมการ 2 คนร่วมกนั ลงลายมือ ดว้ ยตนเองเสมอไป อาจจะมีการ ลงลายมือชื่อดว้ ยกนั ท้งั สองฝ่ายในสญั ญา มอบอานาจใหบ้ ุคคลอ่ืนลงนาม เช่าซ้ือแมเ้ พยี งแห่งเดียวกม็ ีผลเป็นสญั ญาเช่า ชื่อประทบั ตราของบริษทั จึงผกู พนั แทนได้ แมจ้ ะไม่ไดร้ ะบุในสญั ญา ซ้ือท่ีสมบูรณ์ เม่ือโจทยผ์ ใู้ หเ้ ช่าซ้ือและ เช่าซ้ืออีกวา่ มีการมอบอานาจ จาเลยท่ี 1 ผเู้ ช่าซ้ือไดล้ งลายมือชื่อดว้ ยกนั ท้งั บริษทั เม่ือกรรมการนายเดียวลง สองฝ่ ายในหนงั สือสญั ญาต่อทา้ ยสญั ญาที่ทา ลายมือชื่อ จึงเท่ากบั ผใู้ หเ้ ช่าซ้ือ สญั ญาเช่าซ้ือกห็ าตกเป็นโมฆะไม่ ไม่ไดล้ งชื่อในสญั ญา สญั ญาเช่าซ้ือ ข้ึนพร้อมกบั หนงั สือสญั ญาเช่าซ้ือและ เป็นโมฆะ บริษทั ฟ้ องเรียกรถยนต์ คู่สญั ญาตกลงใหส้ ญั ญาต่อทา้ ยสญั ญาเป็น คืนหรือใชร้ าคาและค่าเสียหาย ส่วนหน่ึงของสญั ญาเช่าซ้ือท้งั หมด ยอ่ มเป็น ไม่ได้ สญั ญาเช่าซ้ือท่ีมีผลสมบรู ณ์ตามกฎหมาย

ข้อสังเกต คาพิพากษาฎีกาท่ี 8703/2543 วนิ ิจฉยั ไปในทานองท่ีวา่ สญั ญาเช่าซ้ือที่ผใู้ หเ้ ช่าซ้ือยงั ไม่ไดล้ งลายมือช่ือใน สญั ญาคงมีแตผ่ เู้ ช่าซ้ือลงลายมือช่ือแต่ฝ่ ายเดียว สญั ญาเช่าซ้ือดงั กลา่ วยอ่ มไม่มีผล บงั คบั ไดต้ ามกฎหมาย แมผ้ รู้ ับมอบอานาจจะมาลงลายมือชื่อในฐานะตวั แทนผใู้ ห้ เช่าซ้ือในภายหลงั กห็ ามีผลใหส้ ัญญาเช่าซ้ือสมบรู ณ์ไม่ ซ่ึงต่างกบั คาพิพากษาฎีกา ท่ี 1453/2530 ท่ีวา่ คูส่ ญั ญาหาจาเป็นตอ้ งลงช่ือในวนั เดียวกบั ที่ทาสัญญาเช่าซ้ือไม่ ดงั น้นั จึงตอ้ งศึกษาแนวคาพพิ ากษาใหม่ต่อไป

ความระงบั แห่งสัญญาเช่าซอื้

สัญญาเช่าซื้อระงบั เมอื่ ผู้เช่าซื้อบอกเลกิ สัญญา มาตรา 573 ผเู้ ช่าจะบอกเลิกสญั ญาในเวลาใดเวลาหน่ึงกไ็ ดด้ ว้ ยส่งมอบทรัพยส์ ินกลบั คืนใหแ้ ก่เจา้ ของโดยเสียค่าใชจ้ ่ายของตนเอง อธิบาย ผเู้ ช่าซ้ือมีสิทธิบอกเลิกสญั ญาเมื่อใดกไ็ ด้ โดยผใู้ หเ้ ช่าซ้ือไม่ตอ้ งผดิ สญั ญา เพราะเป็นสิทธิตามกฎหมายของผเู้ ช่าซ้ือที่ไม่ ตอ้ งการจะไดก้ รรมสิทธ์ิในทรัพยส์ ินน้นั ต่อไป แต่ถึงแมผ้ เู้ ช่าซ้ือเองจะเป็นฝ่ายผดิ สญั ญา เช่น ไม่ใชเ้ งินค่าเช่าซ้ือ 2 งวดติดกนั หรือแม้ ทรัพยส์ ินท่ีเช่าจะชารุดบุบสลายกต็ าม ผเู้ ช่าซ้ือกย็ งั สิทธิบอกเลิกสญั ญาส่วนความรับผดิ ของผเู้ ช่าซ้ือน้นั เป็นอีกเรื่องหน่ึง แต่ประการสาคญั การบอกเลิกสญั ญาเช่าซ้ือตามมาตรา 573 น้ีมิไดห้ มายถึง การบอกกล่าวใหผ้ ใู้ หเ้ ช่าซ้ือทราบเพียงอยา่ งเดียววา่ จะ เลิกสญั ญาเท่าน้นั แต่ผเู้ ช่าซ้ือจะตอ้ งส่งมอบทรัพยส์ ินคืนใหแ้ ก่เจา้ ของดว้ ยโดยเสียคา่ ใชจ้ ่ายของผเู้ ช่าซอ้ื เอง ลาพงั แต่เพียงบอกกล่าววา่ เลิกสญั ญา แต่มิไดส้ ่งมอบทรัพยค์ ืนแก่ผใู้ หเ้ ช่าซ้ือยงั คงครอบครองทรัพยส์ ินท่ีเช่าซ้ืออยู่ เช่นน้ีไมท่ าใหส้ ญั ญาเช่าซ้ือระงบั เพราะบอกเลิก สญั ญาไม่ชอบดว้ ยกฎหมาย อยา่ งไรกด็ ีถา้ ผเู้ ช่าซ้ือส่งมอบทรัพยท์ ี่เช่าซ้ือกลบั คืน แต่ไม่ไดบ้ อกเลิกสญั ญา กรณีน้ีกถ็ ือเป็นการเลิกสญั ญาท่ี มีผลสมบูรณ์แลว้ ตามมาตรา 573 ในบางกรณีผเู้ ช่าซ้ือสามารถเลิกสญั ญาตามมาตรา 573 ไดโ้ ดยไม่ตอ้ งส่งมอบทรัพยท์ ี่เช่าซ้ือคืน เช่น ตารวจยดึ รถไปสอบสวน กรณี รถน้นั ถกู ลกั มา ทาใหผ้ เู้ ช่าซ้ือไม่ไดใ้ ชร้ ถยนตต์ ามสญั ญา เป็นตน้ อน่ึงถา้ มีขอ้ สญั ญาระบุวา่ ผเู้ ช่าซ้ือสามารถบอกเลิกสญั ญาเม่ือใดกไ็ ด้ แต่ตอ้ งบอกกล่าวลาล่วงหนา้ ก่อน การบอกเลิกสญั ญากใ็ ห้ เป็ นไปตามน้ นั

ข้อสังเกต 1. เม่ือผเู้ ช่าซ้ือเลิกสญั ญาตามมาตรา 2. เมื่อผเู้ ช่าซ้ือเลิกสญั ญาตามมาตรา 3. ในกรณีท่ีผใู้ หเ้ ช่าซ้ือผดิ สญั ญา ผู้ 4. เมื่อผเู้ ช่าเลิกสญั ญาตาม 573 แลว้ ถือวา่ สญั ญาเช่าซ้ือระงบั เงิน 573 เงินค่าเช่าซ้ือที่คา้ งชาระก่อน เช่าซ้ือจะบอกเลิกสญั ญาตามมาตรา ค่าเช่าซ้ือที่ชาระไปแลว้ ผใู้ หเ้ ช่าซ้ือไม่ สญั ญาเลิกกนั ผใู้ หเ้ ช่าสือไม่มีสิทธ์ิ 573 หรือมาตรา 387 กไ็ ด้ ถา้ การ มาตรา 573 หากทรัพยส์ ินท่ีเช่า ตอ้ งคืน เพราะเงินค่าเช่าซ้ือเป็นเงินคา่ เช่าท่ีผเู้ ช่าซ้ือไดใ้ ชส้ อยทรัพยส์ ินใน เรียกได้ เพราะจะมีผลเป็นการบงั คบั บอกเลิกสญั ญาตามมาตรา 387 ผใู้ ห้ ซ้ือเสียหายเพราะความผดิ ของผู้ ระหวา่ งท่ีสญั ญาไม่ระงบั หากจะใหผ้ ู้ เช่าซ้ือ ผเู้ ช่าซ้ือกต็ อ้ งรับผดิ ชอบ ตามสญั ญาเช่าซ้ือท่ีเลิกกนั ไปแลว้ เช่าซ้ือตอ้ งคืนคา่ เช่าซ้ือที่ไดร้ ับคืน แต่หากความเสียหายน้นั เป็น เช่าซ้ือคืนกไ็ ม่เป็นธรรม แต่ผเู้ ช่าซ้ือจะตอ้ งใชค้ ่าเสียหายใน ใหแ้ ก่ผเู้ ช่าซ้ือ โดยมีสิทธิหกั ค่าเช่า เร่ืองการเส่ือมสภาพตามปกติ การใชท้ รัพยแ์ ก่ผใู้ หเ้ ช่าซ้ือดว้ ยตาม ออกจากจานวนค่าเช่าซ้ือท่ีตอ้ งคืน เพราะคา่ เช่าซ้ือไม่ใช่ราคาทรัพย์ อนั เกิดแต่การใชท้ รัพย์ ผเู้ ช่าซ้ือ มาตรา 391 อยา่ งเดียวแต่มีคา่ เช่ารวมอยดู่ ว้ ย กไ็ ม่ตอ้ งรับผดิ

สัญญาเช่าซื้อระงบั เมอ่ื ผู้ใช้เช่าซื้อบอกเลกิ สัญญา มาตรา 574 ในกรณีผดิ นดั ไม่ใชเ้ งินสองคราวติดๆกนั หรือ 1. กรณผี ดิ นัดไม่ใช้เงนิ สองคราวติดๆกนั กระทาผดิ สญั ญาในขอ้ ท่ีเป็นส่วนสาคญั เจา้ ของทรัพยส์ ินจะ บอกเลิกสญั ญาเสียกไ็ ด้ ถา้ เช่นน้นั บรรดาเงินท่ีไดใ้ ชม้ าแลว้ แต่ สาหรับการผดิ นดั ในกรณีของสัญญา ก่อน ใหร้ ิบเป็นของเจา้ ของทรัพยส์ ิน และเจา้ ของทรัพยส์ ินชอบ เช่าซ้ือ โดยทว่ั ไปยอ่ มหมายถึงกรณี ท่ีหน้ี มีกาหนดเวลาชาระไวช้ ดั เจนแน่นอนตาม ท่ีจะกลบั เขา้ ครองทรัพยส์ ินน้นั ไดด้ ว้ ย วนั เวลาแห่งปฏิทิน ตามมาตรา 204 วรรค อน่ึงในกรณีกระทาผดิ สัญญาเพราะผิดนดั ไม่ใชเ้ งินซ่ึงเป็น สอง เพราะการชาระคา่ เช่าซ้ือน้นั ตอ้ ง กาหนดเป็นคราวหรืองวด ดงั น้นั หากผเู้ ช่า คราวที่สุดน้นั ท่านวา่ เจา้ ของทรัพยส์ ินชอบท่ีจะริบบรรดาเงินที่ ซ้ือมิไดช้ าระหน้ีตามกาหนด ผเู้ ช่าซ้ือยอม ไดใ้ ชม้ าแลว้ แต่ก่อนและกลบั เขา้ ครองทรัพยส์ ินไดต้ อ่ เม่ือ ตกเป็นผผู้ ดิ นดั โดยผใู้ หเ้ ช่าซ้ือไม่ตอ้ ง เตือนใหผ้ เู้ ช่าชาระค่าเช่าซ้ือแต่อยา่ งใด ระยะเวลาใชไ้ ดพ้ น้ กาหนดไปอีกงวดหน่ึง อธิบาย มาตรา 574 ดงั กลา่ วขา้ งตน้ ไดก้ าหนดถึงสาเหตุที่ ผใู้ ชเ้ ช่าซ้ือจะบอกเลิกสัญญาไดไ้ ว้ 3 กรณี

อยา่ งไรกต็ ามการผดิ นดั ดงั กล่าวน้ีจะตอ้ งเป็นความผดิ ของผเู้ ช่าซ้ือดว้ ย หากการไม่ชาระค่าเช่าซ้ือน้ีเป็นเพราะ ความผดิ ใดๆ อนั มิใช่เกิดจากผเู้ ช่าซ้ือแลว้ กไ็ ม่ถึงวา่ ผเู้ ช่าซ้ือผดิ นดั ผใู้ หเ้ ช่าซ้ือจึงบอกเลิกสญั ญาไม่ได้ เช่น นาค่าเช่าซ้ือ ไปชาระตามกาหนด แต่ผใู้ หเ้ ช่าซ้ือไม่อยไู่ ปต่างประเทศ หรือผใู้ หเ้ ช่าซ้ือไม่ยอมรับอา้ งวา่ จะไปทาธุระส่วนตวั ก่อน เป็ นตน้ ประการสาคญั จะตอ้ งเป็นการผดิ นดั ไม่ใช่เงินสองคราวติดๆกนั เท่าน้นั ที่ผใู้ หเ้ ช่าซ้ือจะบอกเลิกสญั ญาได้ ถา้ ผู้ เช่าซ้ือผดิ นดั เพียงคร้ังเดียวหรือผดิ นดั หลายคร้ังแต่ไม่ใช่สองคร้ังติดกนั ผใู้ หเ้ ช่าซ้ือกย็ งั บอกเลิกสญั ญาไม่ได้ - ตกลงชาระค่าเช่าซ้ือ 12 งวด ผดิ นดั งวดที่ 7 และ 8 ผใู้ หเ้ ช่าซ้ือบอกเลิกสญั ญาได้ - ตกลงชาระค่าเช่าซ้ือทุกวนั สิ้นเดือน ผดิ นดั สาหรับงวดเดือนมีนาคม พฤษภาคม และกรกฎาคมผใู้ หเ้ ช่าซ้ือบอกเลิก สญั ญาไม่ได้ เพราะไม่ใช่ผดิ 2 เดือนติดกนั เดือนเมษายน และมิถุนายน ผเู้ ช่าซ้ือยงั คงชาระค่าเช่าซ้ือ - ตกลงชาระค่าเช่าทุก 10 หา้ วนั ผดิ นดั งวดท่ี 15 กนั ยายนและ 15 ตุลาคมไม่ใช่ผดิ นดั 2 งวดติดกนั - ตกลงชาระค่าเช่าซ้ือทุก 2 เดือน ผดิ นดั งวดของเดือนมกราและมีนาคม ผใู้ หเ้ ช่าซ้ือบอกเลิกสญั ญาได้ - ตกลงชาระค่าเช่าซ้ือ 20 งวดผดิ นดั งวดท่ี 19 และ 20 เป็นการผดิ นดั สองงวดคราวติดติดกนั ไม่ใช่การผดิ นดั งวด สุดทา้ ยงวดเดียว - ตกลงชาระค่าเช่าซ้ือ 20 งวด ผดิ นดั งวดท่ี 5,6,7,8 ติดต่อกนั แมจ้ ะปล่อยใหผ้ ดิ นดั มาถึง 4 งวดแต่เมื่อมีการผดิ นดั สองคราวติดต่อกนั กย็ อมบอกเลิกสญั ญาได้

อยา่ งไรกด็ ี คู่สญั ญาอาจจะตกลงกนั วา่ ถา้ ผเู้ ช่าซ้ือไม่ชาระเงินเพยี งคราวเดียว ใหผ้ ใู้ หเ้ ช่าซ้ือบอกเลิกสญั ญาได้ หรือใหถ้ ือวา่ ผเู้ ชา่ ซ้ือผดิ นดั ผดิ สญั ญาเช่าซ้ือท้งั หมด ขอ้ ตกลงน้ีใชบ้ งั คบั ไดเ้ พราะแมจ้ ะผดิ แผกแตกต่างจากบทบญั ญตั ิมาตรา 574 แต่กฎหมายเช่าซ้ือกม็ ิใช่ กฎหมายเก่ียวกบั ความสงบเรียบร้อยหรือศีลและทาอนั ดีของประชาชน ดงั น้นั เมื่อผใู้ หเ้ ช่าซ้ือบอกเลิกสญั ญาแลว้ สญั ญาเช่าซ้ือยอ่ มระงบั สิ้นไป แมภ้ ายหลงั ผเู้ ช่าซ้ือจะส่งค่าเช่าซ้ือที่คา้ งชาระและชาระค่า เช่าซ้ืองวดต่อไปกไ็ ม่ทาใหส้ ญั ญาเช่าซ้ือกลบั มามีผลผกู พนั ข้อสังเกต 1. ถา้ หากผเู้ ช่าซ้ือชาระ 2. ผใู้ หเ้ ช่าซ้ือจะตอ้ งบอก 3. ง้นั ผดิ นดั งวดเดียว หรือ ค่าเช่าซ้ือล่วงหนา้ ไวก้ ่อน เลิกสญั ญาดว้ ย ถา้ ไม่บอก สองงวดแต่ไม่ติดกนั แม้ จะตอ้ งนาค่าเช่าซ้ือท่ีให้ เลิกสญั ญา แมจ้ ะมีการผดิ ผใู้ หเ้ ช่าซ้ือจะบอกเลิก ล่วงหนา้ มาหกั ออกเสีย นดั ไม่ใชเ้ งินถึงสองคราว สญั ญาไม่ได้ แต่กย็ งั มี ก่อนแลว้ ดูวา่ ยงั คงผดิ นดั ติดกนั สญั ญาเช่าซ้ือกย็ งั ไม่ สิทธิเรียกดอกเบ้ียในค่า สองคราวติดกนั หรือไม่ ระงบั เวน้ แต่จะตกลงกนั เช่าซ้ือที่คา้ งชาระได้

คาพพิ ากษาฎีกาท่ี 931 / 2534 ผเู้ ช่า คาพิพากษาฎีกาท่ี 1459 / 2522 ขณะท่ีจาเลยท่ี 1 ซ้ือไม่ชาระค่าเช่าซ้ือตรงตามงวด ผใู้ หเ้ ช่า ทาสญั ญารับช่วงสญั ญาเช่าซ้ือต่อจากสามีซ่ึงถึงแก่ ซ้ือกม็ ิไดบ้ อกเลิกสญั ญา ผมยอมรับค่าเช่า กรรมน้นั มีค่าเช่าซ้ือที่คา้ งส่งอยแู่ ลว้ รวม 10 งวด การที่ ซ้ือท่ีชาระเกินกาหนดเวลาดงั น้ีผใู้ หเ้ ช่าซ้ือ โจทกต์ กลงใหจ้ าเลยท่ี 1 ปฏิบตั ิตามสญั ญาต่อไป เห็น จะมาบอกเลิกสญั ญาในภายหลงั โดยอา้ งวา่ ไดว้ า่ โจทกไ์ ม่ประสงคท์ ี่จะบอกเลิกสญั ญาเพราะเหตุ ผเู้ ช่าซ้ือไม่ชาระค่าเช่าซ้ือสองคราวติดกนั อีกไม่ไดก้ รณีเช่นน้ีหากผใู้ หเ้ ช่าซ้ือจะบอก ผดิ นดั ไม่ชาระค่าเช่าซ้ือ 10 งวดน้นั แลว้ เมื่อจาเลยที่ 1 เลิกสญั ญาจะตอ้ งปฏิบตั ิตามมาตรา 387 ทาสญั ญารับช่วงสญั ญาเช่าซ้ือแลว้ ผดิ นดั ไม่ชาระค่า เช่าซ้ืออีกเพยี งหน่ึงงวด จึงไม่ใช่เป็นการผดิ นดั ชาระ โดยตอ้ งบอกกล่าวใหผ้ เู้ ช่าซ้ือชาระค่าเช่า ค่าเช่าซ้ือ 2 คราวติดกนั โจทกไ์ ม่มีสิทธิบอกเลิกสญั ญา ซ้ือภายในกาหนดเวลาอนั สมควรก่อนผเู้ ช่า และกลบั เขา้ ครอบครองทรัพยส์ ินน้นั พร้อมเรียกค่าใช้ ซ้ือไม่ชาระจึงจะบอกเลิกสญั ญาได้ ทรัพยส์ ินตามมาตรา 574 และมาตรา 391 วรรคสาม

2. กรณผี ดิ สัญญาในข้อทเ่ี ป็ นส่วนสาคญั 3. กรณผี ดิ นัดไม่ใช้เงนิ อนั เป็ นคราวสุดท้าย ในกรณีที่มีการผดิ สญั ญา แต่ขอ้ สญั ญาน้นั มิใช่ส่วนสาคญั ผใู้ หเ้ ช่าซ้ือยงั บอกเลิก คือ การที่ผใู้ หเ้ ช่าซ้ือผดิ นดั ไม่ใชเ้ งินงวดสุดทา้ ย สญั ญาไม่ไดส้ ่วนสญั ญาในขอ้ ที่เป็นส่วนสาคญั น้นั หมายถึง การกระทาท่ีเป็นผลใหผ้ ใู้ ห้ ผใู้ หเ้ ช่าซ้ือจะบอกเลิกสญั ญาทนั ทีไม่ได้ แต่ตอ้ งรอไปอีก เช่าซ้ือบอกเลิกสญั ญาไดท้ นั ที โดยไม่ตอ้ งบอกกล่าวใหป้ ฎิบตั ิตามสญั ญาก่อน ซ่ึงตอ้ ง งวดหน่ึงก่อนถึงจะบอกเลิกสญั ญาได้ เช่น ตกลงชาระค่า พิจารณาเป็นกรณีๆไป เช่น เช่าซ้ือ 20 งวด ผดิ นดั งวดที่ 20 ผเู้ ช่าซ้ือตอ้ งรอไปจนถึงงวด - ฝืนขอ้ สญั ญาท่ีหา้ มนาทรัพยส์ ินท่ีเช่าซ้ือไปดดั แปลงหรือนาไปวิง่ ขบั แขง่ ขนั ใดๆ ที่ 21 ถา้ ผเู้ ช่าซ้ือยงั คงไม่ชาระค่าเช่าซ้ือจึงจะบอกเลิก - ผเู้ ช่าซ้ือนาทรัพยส์ ินที่ยงั ชาระคา่ เช่าซ้ือไม่ครบงวดไปขาย หรือจานา จานองทโดย สญั ญาได้ ไม่คิดจะไถ่คืน (เป็นการกระทาเป็นปรปักษต์ ่อกรรมสิทธ์ิของผใู้ หเ้ ช่าซ้ือ) แต่อยา่ งไรกด็ ีถา้ คูส่ ญั ญาตกลงใหไ้ ม่ตอ้ งรอไปอีก 1 - ขอ้ สญั ญามีวา่ ถา้ จะยา้ ยท่ีอยจู่ ะตอ้ งแจง้ ใหท้ ราบล่วงหนา้ เพื่อสะดวกในการเกบ็ คา่ งวด หรือตกลงใหร้ ะงบั สญั ญาทนั ที เม่ือผดิ นดั ไม่ใช่ เงินงวดสุดทา้ ย ขอ้ ตกลงน้ีบงั คบั กนั ได้ เช่ามิฉะน้นั จะถือวา่ ผดิ สญั ญาในขอ้ ที่เป็นส่วนสาคญั เมื่อผใู้ หเ้ ช่าซ้ือไม่แจง้ จึงถือวา่ ผดิ สญั ญาในขอ้ ท่ีเป็นส่วนสาคญั ทนั ที ท้งั น้ีเพราะในสญั ญากาหนดไว้ ข้อสังเกต - แมก้ ฎหมายจะบญั ญตั ิใหร้ อไปอีกงวดหน่ึงกต็ าม แต่ผใู้ ห้ ตวั อยา่ งกรณีท่ีไม่ถือวา่ เป็นการผดิ สญั ญาในขอ้ ท่ีเป็นส่วนสาคญั เช่าซ้ือกบ็ อกเลิกสญั ญาดว้ ย ไม่ใช่วา่ รอเฉยๆ แลว้ จะทาให้ - ผเู้ ช่าซ้ือใชท้ รัพยส์ ินโดยไม่ชอบ ไม่สงวนทรัพยส์ ินเช่นอยา่ งวิญญูชนหรือไม่ สญั ญาเช่าซ้ือระงบั ไปโดยไม่ตอ้ งบอกเลิกสญั ญา - การรอไปอีกงวดหน่ึงน้นั กเ็ พ่อื ใหผ้ เู้ ช่าสือเอาเงินมาชาระ ซ่อมแซมเลก็ นอ้ ย ถา้ เขาเอาเงินมาชาระกห็ มดสิทธิบอกเลิกสญั ญา - เช่าซ้ือบา้ นเพื่อทาเป็นสานกั งานกฎหมาย ต่อมาเปลี่ยนเป็นกิจการนวดแผนโบราณ - กฎหมายบญั ญตั ิใหร้ อไปอีกงวดหน่ึงเท่าน้นั ไม่ไดบ้ ญั ญตั ิ - ขอ้ สญั ญา “วา่ หา้ มนาวตั ถุที่เป็นเช้ือเพลิงเขา้ มาเกบ็ ไวใ้ นโกดงั ถา้ หากผเู้ ช่าซ้ือฝ่ าฝืน ใหต้ อ้ งบอกกล่าวใหเ้ อาคา่ เช่าซ้ือมาชาระดว้ ย ผใู้ หเ้ ช่าซ้ือมีสิทธ์ิทิท่ีจะบอกเลิกไดท้ นั ที” แมเ้ ช่าซ้ือจะฝ่ าฝืน กไ็ ม่เป็นการผดิ สญั ญา ในขอ้ ท่ีเป็นส่วนสาคญั

ผลของการบอกเลกิ สัญญาตามมาตรา 574 เมื่อผใู้ หเ้ ช่าซ้ือบอกเลิกสญั ญาแลว้ ยอ่ มมีสิทธ์ิดงั น้ี คือ 1. เงนิ ทไ่ี ด้ใช้มาแล้วแต่ก่อน หมายถึง ใหเ้ งินที่ผเู้ ช่าซ้ือชาระแก่ผใู้ หเ้ ช่าซ้ือเป็นงวดๆ ก่อนบอกเลิกสญั ญา ตกเป็นของผใู้ หเ้ ช่าซ้ือ เช่น กาหนดชาระค่าเช่าซ้ือ 12 งวด ชาระมาแลว้ 10 งวด แต่ผดิ นดั งวดท่ี 11 และงวดท่ี 12 ดงั น้นั เม่ือผใู้ หเ้ ช่าซ้ือบอกเลิกสญั ญาแลว้ คา่ เช่าซ้ืองวดที่ 1-10 ผใู้ หเ้ ช่าซ้ือมีสิทธิริบไดร้ วมท้งั มีสิทธ์ิริบเงินดาวน์ได้ ดว้ ย เพราะเป็นค่าเช่าซ้ือท่ีเป็นส่วนหน่ึงของราคาเช่าซ้ือ แต่จะเรียกคา่ เช่าซ้ือท่ีคา้ งชาระอยู่2 งวด คือ งวดท่ี 11 และงวดที่ 12 ไม่ได้ เพราะกฎหมายบญั ญตั ิใหร้ ิบไดเ้ ฉพาะ เงินที่ไดใ้ ชม้ าแลว้ เท่าน้นั ท้งั คา่ เช่าซ้ือยงั ไม่รวมราคาทรัพยส์ ินอยดู่ ว้ ย หากใหเ้ รียกกนั ไดแ้ ลว้ ยอ่ มจะเป็นการไม่ยตุ ิธรรมแก่ผเู้ช่าซ้ือท่ีแมจ้ ะชาระค่าเช่าซ้ือครบทุกงวด แต่ตน กลบั ไม่มีกรรมสิทธ์ิ ถึงแมผ้ ใู้ หเ้ ช่าซ้ือจะเรียกค่าเช่าซ้ือที่คา้ งชาระไม่ได้ แต่กย็ งั มีสิทธิเรียกค่าขาดประโยชนห์ รือคา่ ใชท้ รัพยเ์ พราะผเู้ ช่าซ้ือยงั ใชท้ รัพยท์ ่ีเช่าซ้ืออยตู่ ลอดเวลาที่ยงั ครอบครองทรัพยน์ ้นั อยู่ ตามมาตรา 391 วรรคสามและถา้ ทรัพยส์ ินที่คืนมาเสียหาย ผเู้ ช่าซ้ือจะตอ้ งรับผดิ นอกเหนือไปจากความเสียหายอนั เกิดจากการใชท้ รัพยโ์ ดยชอบ อีกดว้ ย อยา่ งไรกต็ าม คสู่ ญั ญาอาจตกลงกนั ใหผ้ เู้ ช่าซ้ือชาระค่าเช่าซ้ือที่คา้ งชาระก่อนเลิกสญั ญาจนครบถว้ นแก่ผใู้ หเ้ ช่าซ้ือได้ ขอ้ ตกลงดงั กล่าวไม่ขดั ต่อกฎหมายใช้ บงั คบั ได้ เพราะแมจ้ ะเป็นการกาหนดความรับผดิ ของผเู้ ช่าซ้ือนอกเหนือไปจากมาตรา574 แต่บทบญั ญตั ิดงั กล่าวกไ็ ม่ใช่กฎหมายเก่ียวกบั ความสงบเรียบร้อยอนั ดีของ ประชาชน และขอ้ ตกลงดงั กล่าวยงั มีลกั ษณะเป็นการกาหนดคา่ เสียหายไวล้ ่วงหนา้ จึงเป็นเบ้ียปรับตามมาตรา379 ซ่ึงหากสูงเกินส่วน ศาลมีอานาจลดลงได้ ตามมาตรา 383 แต่ค่าเช่าซ้ือท่ีคา้ งชาระน้ี ไม่รวมถึงค่าเช่าซ้ือที่ยงั ไม่ถึงกาหนดชาระในขณะเม่ือเลิกสญั ญาเพราะเมื่อสญั ญาสิ้นสุดแลว้ ผเู้ ช่าซ้ือกไ็ ม่มีหนา้ ที่ตอ้ งชาระคา่ เช่าซ้ือ สาหรับงวดต่อไปอีก

2. ผ้ใู ห้เช่าซื้อมีสิทธ์ิทิกลบั เข้าครอบครองทรัพย์สิน นอกจากผเู้ ช่าซ้ือจะมีสิทธ์ิริบเงินที่ไดใ้ ชม้ าแลว้ แต่ก่อน ยงั มีสิทธิกลบั เขา้ ครอบครองทรัพยส์ ินตามเดิมได้ ผเู้ ช่าซ้ือจะปฏิเสธไม่คืน ทรัพยส์ ินน้นั ไม่ได้ เจา้ ของยอ่ มมีสิทธ์ิฟ้ องร้องใหส้ ่งคืน ถา้ คืนไม่ไดเ้ พราะสูญหายหรือบุบสลาย กต็ อ้ งใชร้ าคาทรัพยแ์ ทนนอกจากผู้ เช่าซ้ือจะใชท้ รัพยส์ ินโดยชอบหรือการสูญหายน้นั เกิดจากเหตุสุดวิสยั เวน้ แต่จะมีขอ้ ตกลงใหต้ อ้ งรับผดิ แมเ้ หตุสุดวสิ ยั หรือความสูญ หายใดๆ กรณีที่ผเู้ ช่าทรัพยเ์ พิกเฉยไม่ส่งมอบรถคืน ผเู้ ช่าซ้ือจะตอ้ งชดใชค้ ่าเสียหายแก่ผใู้ หเ้ ช่าซ้ือที่ทาใหเ้ ขาขาดประโยชน์ที่จะใช้ ทรัพยน์ ้นั หรือจะใชท้ รัพยน์ ้นั ต่อไปตามคา พิพากษาฎีกาที่ 7812/2540 และในบางคร้ังคสู่ ญั ญาอาจตกลงกนั วา่ “ เม่ือผใู้ หเ้ ช่าซ้ือบอกเลิกสญั ญาแลว้ ยอ่ มมีสิทธ์ินาทรัพยส์ ินที่ไดค้ ืนมาออกขาย ถา้ ไดเ้ งินไม่พอชาระคา่ เช่าซ้ือท่ีตอ้ งชาระท้งั หมดกบั คา่ เสียหายอ่ืนๆ ท่ีเกิดข้ึนผเู้ ช่าซ้ือยอมชดใชใ้ หจ้ นครบ ” ขอ้ ตกลงน้ีใชบ้ งั คบั ได้ หาเกี่ยวกบั ความสงบเรียบร้อยของประชาชนไม่ เป็นเร่ืองที่ผเู้ ช่าซ้ือสมคั รใจทาสญั ญาเสียเปรียบเอง และขอ้ ตกลงน้ีมีลกั ษณะเป็น วธิ ีการกาหนดคา่ เสียหายไวล้ ่วงหนา้ จึงเป็นเบ้ียปรับตามมาตรา 379 ซ่ึงหากสูงเกินส่วน ศาลมีอานาจลดลงไดต้ ามมาตรา 383 แต่ศาล จะงดเบ้ียปรับเสียท้งั หมดไม่ได้ เพราะไม่มีกฎหมายมาตราใดใหอ้ านาจ คาพิพากษาฎีกาที่ 1814 / 2545 แมส้ ญั ญาเช่าซ้ือจะระบุวา่ “ หากผเู้ ช่าซ้ือนาสิ่งของมาดดั แปลง ต่อเติม ติดต้งั อยใู่ นตวั ทรัพยส์ ินท่ีเช่าซ้ือ ส่ิงน้นั จะตกเป็นส่วนหน่ึงของตวั ทรัพยส์ ินท่ีเช่าซ้ือและเป็นกรรมสิทธ์ิของเจา้ ของทนั ที ” แต่วิทยุ เครื่องเล่นเทป เครื่องเล่นซีดี ลาโพงและอปุ กรณ์เคร่ืองเสียง เป็นส่ิงท่ีผเู้ ช่าซ้ือนามาติดต้งั เพอื่ ประโยชนแ์ ก่ตนเอง มิใช่เพ่ือประโยชนใ์ นการจดั การ ดูแล จึงมิใช่อุปกรณ์ท่ีจะตกติดไปกบั ทรัพยป์ ระธาน เมื่อตอ้ งคืนทรัพยจ์ ึงไม่ตอ้ งส่งมอบส่ิงเหล่าน้ีไปดว้ ย ผเู้ ช่าซ้ือมีสิทธิหรือถอนออก ได้ คาพิพากษาฎีกาท่ี 1422 / 2545 จาเลยเป็นฝ่ ายผดิ สญั ญาเช่าซ้ือยอมใหบ้ ุคคลอ่ืนใชร้ ถที่เช่าซ้ือ จนถูกเจา้ พนกั งานตารวจ ยดึ เป็นของกลางในคดีอาญา จาเลยจะอา้ งวา่ โจทกไ์ ม่ยอมไปขอรับรถท่ีถูกยดึ คืน จาเลยจึงหลุดพน้ จากการตอ้ งคืนรถที่เช่าซ้ือแก่โจทก์ หรือไม่ตอ้ งรับผดิ ในคา่ ขาดประโยชน์ไม่ได้ กรณีมิใช่เป็นการชาระหน้ีพน้ วสิ ยั ตามมาตรา 219 อนั จาเลยจะไม่ตอ้ งรับผดิ

สัญญาเช่าซื้อระงบั เมอ่ื ซับทเ่ี ช่าซื้อสูญหายหรือถูกทาลายไปท้งั หมด สญั ญาเช่าซ้ือกเ็ ช่นเดียวกบั สญั ญาเช่าซบั ในขอ้ ท่ีวา่ หากทรัพยส์ ินที่เช่าซ้ือสูญหายหรือถกู ทาลายไปท้งั หมด เช่น สูญหายเพราะถกู โจรภยั หรือถกู ไฟไหม้ สญั ญาเช่าซ้ือยอ่ มระงบั ลงต้งั แตว่ นั ที่เกิดเหตุน้นั มาตรา 567 ประกอบมาตรา 572 นอกจากน้ี ผเู้ ช่าซ้ือยงั ไม่ตอ้ งชาระค่าเช่าซ้ือท่ีคา้ งชาระนบั แต่วนั ที่ซบั น้นั สูญหายหรือถกู ทาลายอีกดว้ ยและถา้ ชาระไปแลว้ งวดหนา้ กเ็ รียกคืนได้ เวน้ แต่จะมี ขอ้ สญั ญาวา่ “ แมท้ รัพยเ์ ช่าซ้ือจะสูญหายหรือถกู ทาลายไม่วา่ ดว้ ยเหตุใด แมเ้ ป็นเหตุสุดวสิ ยั ผเู้ ช่าซ้ือจะตอ้ งชาระคา่ เช่าซ้ือจนครบ ” ขอ้ ตกลงดงั กลา่ วใชบ้ งั คบั ไดไ้ ม่ขดั ต่อ มาตรา 567 และไม่ขดั ต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลและทาอนั ดีของประชาชน โดยถือวา่ ขอ้ สญั ญาดงั กล่าวเป็นการกาหนดเบ้ียปรับโดยเอาค่าเช่าซ้ือท่ีคา้ งชาระมาเป็น จานวนคา่ เสียหาย หากสูงเกินส่วน ศาลอาจลดลงได้ ผใู้ หเ้ ช่าซ้ือจึงมีสิทธ์ิทิเรียกคา่ เช่าซ้ือนบั แต่วนั ท่ีเกิดเหตุน้นั ไปจนครบได้ คาพิพากษาฎีกาท่ี 4819 / 2549 สญั ญาเช่าซ้ือใหผ้ เู้ ช่าซ้ือเอาประกนั ภยั กรณีถกู โจรกรรม โดยเป็นผเู้ สียเบ้ียประกนั แต่ผใู้ หเ้ ช่าซ้ือเป็นผรู้ ับประโยชน์ ขอ้ สญั ญา ที่วา่ “ ถา้ รถยนตส์ ูญหาย ผเู้ ช่าซ้ือจะตอ้ งชดใชค้ า่ รถยนตเ์ ป็นเงินเท่ากบั คา่ เช่าซ้ือส่วนท่ีเหลือที่จะตอ้ งชาระท้งั หมดทนั ที โดยผเู้ ช่าซ้ือจะไม่ยกเหตุที่เจา้ ของมีสิทธิไดร้ ับคา่ สินไหมทดแทนจากบริษทั ประกนั ภยั มาปฏิเสธความรับผดิ น้ี ” ขอ้ สญั ญาดงั กล่าวแมจ้ ะไม่เป็นโมฆะ แต่เมื่อรถยนตห์ าย บริษทั ประกนั ภยั กช็ ดใชค้ ่าสินใหม่ทดแทนใหเ้ ตม็ จานวนราคาทรัพแลว้ การที่ผใู้ หเ้ ช่าซ้ือรับเงินค่าเช่าซ้ือท่ีเหลือจากผเู้ ช่าซ้ืออีกยอ่ มเป็นการใชส้ ิทธิโดยไม่สุจริต ตอ้ งคืนเงินคา่ เช่าสือใหผ้ เู้ ช่าซ้ือ มิฉะน้นั จะเป็นการไดร้ ับ ชดใชค้ ่าเสียหาย 2 ทาง อนั เกินกวา่ ความเสียหายท่ีตนไดร้ ับ ท้งั การที่ผเู้ ช่าซ้ือยอมเสียเบ้ียประกนั กเ็ พื่อที่ตนจะไม่ตอ้ งรับภาระใชร้ าคารถยนตเ์ องหากรถเกิดสูญหาย ผใู้ ห้ เช่าซ้ือจึงปฏิเสทไม่คืนเงินค่าเช่าซ้ือดงั กล่าวไม่ได้

ผู้เช่าซื้อตาย สัญญาเช่าซื้อไม่ระงบั สญั ญาเช่าซ้ือมิใช่สญั ญาเช่าธรรมดา แต่มีคามน่ั วา่ จะขายทรัพยโ์ ดยมี เง่ือนไขการชาระเงินคืนเป็นคร้ังคราวรวมอยดู่ ว้ ย ถา้ ผเู้ ช่าซ้ือชาระเงินแก่ผใู้ หเ้ ช่าสือครบ ถว้ นตามเง่ือนไขกไ็ ดก้ รรมสิทธ์ิในทรัพยส์ ินน้นั ซ่ึงสิทธิที่จะไดก้ รรมสิทธ์ิในทรัพยส์ ินน้ี มิใช่สิทธิเฉพาะตวั สญั ญาเช่าซ้ือจึงมีผลท่ีอาจสืบสิทธิกนั ไดเ้ ม่ือผเู้ ช่าซ้ือตาย ทายาทจึงสืบ สิทธิของผเู้ ช่าซ้ือไดแ้ ละสิทธิในการเช่าซ้ือน้ีไม่เป็นมรดกของผเู้ ช่าซ้ือซ่ึงมรณะ อนั ผจู้ ดั การมรดกจะฟ้ องเรียกคืนได้ ตวั อยา่ ง สญั ญาเช่าซ้ือรถยนตก์ าหนดชาระค่าเช่าซ้ือ 40 งวดงวดท่ี 40 มี กาหนดชาระในวนั ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2564 ปรากฏวา่ ผเู้ ช่าซ้ือถูกไฟครอกตายใน ระหวา่ งไปฉลองปี ใหม่ที่ทองหล่อเมื่อวนั ท่ี 31 ธนั วาคม พ.ศ. 2563 ดงั น้ีหากทายาทของผู้ เช่าซ้ือ เช่น บุตร หรือบิดามารดา ฯลฯ นาเงินคา่ เช่าซ้ืองวดที่ 40 มาชาระในวนั ท่ี 15 มกราคม พ.ศ. 2564 เขากจ็ ะไดร้ ับโอนกรรมสิทธ์ิในรถยนตค์ นั ดงั กล่าวไป ถือเป็นการสืบ สิทธิของผเู้ ช่าซ้ือ อายุความฟ้ องร้องเกยี่ วกบั สัญญาเช่าซื้อ 1. การฟ้ องเรียกคา่ เช่าซ้ือท่ีชาระ มีอายคุ วาม 2 ปี ตามมาตรา 193/34(6) 2. การฟ้ องเรียกทรัพยส์ ินที่เช่าซ้ือคืน มีอายคุ วาม 10 ปี ตามมาตรา 193/30 3. การฟ้ องเรียกคา่ เสียหายอนั เป็นค่าเสื่อมราคาหรือคา่ ขาดราคาหรือค่าขาดประโยชน์ มี อายคุ วาม 10 ปี ตามมาตรา 193/30


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook