Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 631081432

631081432

Published by อดิศักดิ์ จิตรแก้ว, 2021-09-29 12:17:57

Description: นางสาวเสาวลักษณ์ โชติกะ 631081432

Search

Read the Text Version

0801221 กฎหมายอาญา 2 ภาคความผิด ความผิดฐาน ทาใหแ้ ทง้ ลกู นางสาวเสาวลักษณ์ โชติกะ 631081432 นิติศาสตร์

คานา หนังสอื เล่มน้ ีเป็ นส่วนหนึ่งของรายวิชา 0801221 กฎหมาย อาญา 2 ภาคความผิด โดยมีจุดประสงค์ เพ่ือการศึกษาความรูท้ ่ีไดจ้ ากเร่ือง ความผิดฐานทาให้แท้งลูก ท้ังน้ ี ในหนังสือเล่มน้ ีน้ ีมีเน้ ือหาประกอบดว้ ย คว า มรู ้เ กี่ ย ว กับ คว า ม ผิ ดฐ า น ทา ให้แท้งลู ก ต า มป ร ะ มว ล ก ฎ ห มา ย อ า ญ า ความผิดฐานหญงิ อายคุ รรภเ์ กิน 12 สัปดาหท์ าใหต้ นเองแทง้ ลูกหรือยินยอม ใหผ้ ูอ้ ื่นทาใหต้ นแทง้ ลูก ( มาตรา 301) ความผิดฐานทาใหแ้ ทง้ ลูกมาตรา 302 และมาตรา 303เหตุยกเวน้ โทษมาตรา 304 และการทาแทง้ ที่ไม่เป็ น ความผิดมาตรา 305 ผูจ้ ดั ทาหวังว่า หนังสือเล่มน้ ีจะเป็ นประโยชน์กับผู้อ่าน หรือ นกั เรียน นักศึกษา ที่กาลงั หาขอ้ มูลเรื่องน้ ีอยู่ หากมีขอ้ แนะนาหรือข้อผิดพลาด ประการใด ผูจ้ ดั ทาขอนอ้ มรบั ไวแ้ ละขออภยั มา ณ ท่นี ้ ีดว้ ย เสาวลกั ษณ์ โชตกิ ะ

สารบญั ความผดิ ฐานทาใหแ้ ทง้ ลูกตามประมวลกฎหมายอาญา 1-2 ความผิดฐานหญงิ อายคุ รรภเ์ กิน 12 สปั ดาห์ 3-9 ทาใหต้ นเองแทง้ ลูกหรือยินยอมใหผ้ ูอ้ ื่นทาใหต้ นแทง้ ลูก ( มาตรา 301) 11-15 ความผิดฐานทาใหแ้ ทง้ ลกู มาตรา 302 และมาตรา 303 16-17 เหตุยกเวน้ โทษมาตรา 304 18-25 การทาแทง้ ทไ่ี มเ่ ป็ นความผิดมาตรา 305 บรรณานุกรม

ความผิดฐานทาใหแ้ ทง้ ลกู ตามประมวลกฎหมายอาญา 01 ความผดิ เกี่ยวกบั การทาใหแ้ ทง้ ลกู ท่ีบญั ญตั ิไวใ้ นประมวลกฎหมายอาญามาตรา 301 จนถึงมาตรา 305 สามารถจาแนกออกเป็ นความผดิ ตา่ งๆตลอดจนเหตยุ กเวน้ ความผิดและเหตุยกเวน้ โทษ ไดด้ งั น้ ี (1) ความผดิ ฐานหญงิ อายุครรภเ์ กนิ 12 สปั ดาหท์ าใหต้ นเองแทง้ ลูกหรือยอมใหผ้ ูอ้ ื่นทาใหต้ นแทง้ ลกู ตามมาตรา 301 (2) ความผิดฐานทาใหแ้ ทง้ ลูกตามมาตรา 302 และมาตรา 303 (3) เหตยุ กเวน้ โทษตามมาตรา 304 (4) เหตทุ ีท่ าใหก้ ารกระทาไม่เป็ นความผิดตามมาตรา 350 อย่างไรกด็ ี ตามคาวินิจฉยั ของศาลรฐั ธรรมนูญเมอ่ื วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563 ศาลรฐั ธรรมนูญมี มตโิ ดยเสยี งขา้ งมากวินิจฉยั ใน 3 ประเดน็ ที่เกยี่ วกบั ความผดิ ฐานทาใหแ้ ทง้ ลกู ดงั น้ ี (1) มาตรา 301 ขดั หรือแยง้ กบั รฐั ธรรมนูญมาตรา 27 หรอื มาตรา 28 (2) ไม่ขดั หรือแยง้ กบั รฐั ธรรมนูญมาตรา มาตรา 27 มาตรา 28 และมาตรา 77 (3) ใหห้ น่วยงานที่เกี่ยวข้องดาเนินการแกไ้ ขปรับปรุงบทบัญญตั ิแห่งกฎหมายใหส้ อดคลอ้ งกับ สภาพการณ์

ความผิดฐานทาใหแ้ ทง้ ลกู ตามประมวลกฎหมายอาญา 02 นอกจากน้ ีศาลรฐั ธรรมนูญยงั กาหนดใหบ้ งั คับตามมาตรา 301 มีผลเมื่อพน้ 360 วันนับแต่วันที่ ศาลรฐั ธรรมนูญวินิจฉยั ตอ่ มาเมื่อเดือนมีนาคม 2563 คณะรฐั มนตรีมมี ตเิ หน็ ชอบใหแ้ กไ้ ขเพิ่มเติมมาตรา 301 ใหเ้ ป็ นไป ตามคาวินิจฉยั ศาลรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการกฤษฎีกาไดด้ าเนินการและเสนอพระราชบัญญตั ิแกไ้ ขเพ่ิมเติม ประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่…) พ.ศ. … ต่อคณะรฐั มนตรี ต่อมาในช้ันการพิจารณาของสภาผูแ้ ทนราษฎร คณะกรรมาธกิ ารวิสามญั ฯ ไดพ้ ิจารณาและแกไ้ ขเพิ่มเติมร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวโดยเฉพาะเหตุท่ีทาใหก้ าร กระทาไม่เป็ นความผดิ ตามมาตรา 350 เพิ่มเติมจากฉบบั ที่คณะรฐั มนตรีเสนอมา หลงั จากสภาผูแ้ ทนราษฎรมีมติ เห็นชอบแล้ว ร่างพระราชบัญญัติดงั กล่าวก็ไดร้ ับความเห็นชอบจากวุฒิสภาเมื่อเดือนมกราคม 2564 และ ประกาศใชเ้ ป็ นกฎหมายโดยพระราชบญั ญตั ิแกไ้ ขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับท่ี 28) พ.ศ.2564 เมื่อ วันท่ี 6 กุมภาพนั ธ์ 2564 ใชบ้ งั คบั ต้งั แตว่ ันท่ี 7 กุมภาพนั ธ์ 2564 เป็ นตน้ ไป

ความผิดฐานหญงิ อายคุ รรภเ์ กนิ 12 สปั ดาหท์ าใหต้ นเองแทง้ ลูก 03 หรือยนิ ยอมใหผ้ ูอ้ น่ื ทาใหต้ นแทง้ ลูก ( มาตรา 301) มาตรา 301 หญิงใดทาใหต้ นเองแทง้ ลูกหรือยอมใหผ้ ูอ้ ื่นทาใหต้ นแทง้ ลูกขณะมีอายุครรภเ์ กิน 12 สปั ดาห์ ตอ้ งระวางโทษจาคุกไม่เกินหกเดอื นหรอื ปรบั ไม่เกิน หนึ่งหม่ืนบาท หรอื ทง้ั จาท้งั ปรบั องคป์ ระกอบภายใน องคป์ ระกอบภายใน (1) หญิงใด เจตนาธรรมดา (2) ทาใหต้ นเองแทง้ ลกู หรือยอมใหผ้ อู้ น่ื ทาใหต้ นแทง้ ลูก (3) ขณะมีครรภเ์ กิน 12 สปั ดาห์

ความผดิ ฐานหญงิ อายคุ รรภเ์ กนิ 12 สปั ดาหท์ าใหต้ นเองแทง้ ลูก 04 หรอื ยนิ ยอมใหผ้ ูอ้ ่นื ทาใหต้ นแทง้ ลูก ( มาตรา 301) (1) หญงิ ใด ความผิดตามมาตรา 301 น้ ีจากดั เฉพาะหญิงเท่าน้ัน ดังน้ัน หญิงจะตอ้ งรบั ผิดตามมาตราน้ ีหากลงมือทาให้ ตนเองแทง้ ลกู หรอื ยอมใหผ้ อู้ น่ื ทาใหต้ นเองแทง้ ลูก ส่วนบุคคลที่หญงิ ยินยอมใหท้ าแทง้ จะมีความผิดตามมาตรา 302 (2) ทาใหแ้ ทง้ ลูกหรอื ยอมใหผ้ อู้ ่ืนทาใหต้ นแทง้ ลูก องคป์ ระกอบทางดา้ นการกระทาของมาตราน้ ีมี 2 ประการกล่าวคือ 1 ยิงน้ันทาใหต้ นเองแทง้ ลูกเช่นการกินยาขับทารกหรือ 2 หญิงน้ันยอมใหผ้ ูอ้ น่ื ทาใหต้ นแทง้ ลูกเช่นใหผ้ ูท้ ่ีไมไ่ ดป้ ระกอบวิชาชีพเวชกรรมทาแทง้ ดว้ ยความยินยอม คาว่า “แทง้ ลูก” น้ันในทางการแพทยห์ มายถึงการท่ีทารกคลอดออกมาโดยมีอายุครรภไ์ ม่เกิน 20 สัปดาห์ ซ่ึง การแทง้ ลกู ในลกั ษณะน้ ีเกดิ ข้ ึนเป็ นจานวนมากโดยธรรมชาตโิ ดยเฉพาะในระยะแรกของการต้ังครรภ์ ทารกท่ีไม่มีชีวิตหลงั จาก การต้งั ครรภไ์ ด้ 20 สปั ดาหข์ ้ ึนไปในทางการแพทยจ์ ะจดั อยู่ในประเภท s t i l l b o r n หรอื s t i i l b i r t h แตใ่ นทางกฎหมาย “แทง้ ลูก” หมายถึงการที่ทารกคลอดออกมาในลักษณะไม่มีชีวิตโดย ไม่คานึงถึงอายคุ รรภซ์ ่งึ จะเกิดจากเหตธุ รรมชาติหรอื จากน้ามอื มนุษยก์ ็ได้

ความผดิ ฐานหญิงอายุครรภเ์ กนิ 12 สปั ดาหท์ าใหต้ นเองแทง้ ลูก 05 หรอื ยนิ ยอมใหผ้ ูอ้ น่ื ทาใหต้ นแทง้ ลูก ( มาตรา 301) สาหรบั การทาใหแ้ ทง้ ลูก หมายถึง การท่บี คุ คลกระทาโดยเจตนาจะยตุ กิ ารตง้ั ครรภโ์ ดยการทาลายหรือขับ ตวั อ่อนหรอื ทารกออกมาจากมดลูกของหญิงกอ่ นที่ทารกจะสามารถมีชีวิตอยู่ไดด้ ว้ ยตนเองการทาแทง้ ลูกจะใชว้ ิธีการใดก็ ไดเ้ ช่น การรดี หนา้ ทอ้ ง การกินยาขับ การฉดี ยาใหห้ วั ใจของทารกในครรภห์ ยุดทางาน เป็ นตน้ ในส่วนของมาตรา 301 น้ ีเอาผิดเฉพาะหญิงท่ีทาให้ตนเองแทง้ ลูกซ่ึงอาจเกิดจากการกระทาของตนเอง โดยตรง หรอื การยอมใหผ้ อู้ ่ืนทาใหต้ นแทง้ ลูก โดยมิไดเ้ ป็ นผลู้ งมือกระทาดว้ ยตนเอง ตวั อยา่ ง นางฟ้าต้งั ครรภอ์ นั ไม่พงึ ประสงค์ จงึ ไปขอใหน้ ายทะเลทาแทง้ ให้ นายทะเลป้อนยาขับจนทาใหน้ างฟ้าแทง้ ลูก นางฟ้ามีความผิดตามมาตรา 301 เพราะยอมใหน้ ายทะเลทาใหต้ นแทง้ ลูก ส่วนนายทะเลย่อมมี ความผิดฐานทาใหห้ ญิงแทง้ ลกู โดยหญงิ ยินยอมตามมาตรา 302

ความผิดฐานหญงิ อายคุ รรภเ์ กนิ 12 สปั ดาหท์ าใหต้ นเองแทง้ ลูก 06 หรือยนิ ยอมใหผ้ ูอ้ น่ื ทาใหต้ นแทง้ ลูก ( มาตรา 301) (3) ขณะมีอายคุ รรภเ์ กินสิบสองสัปดาห์ งานท่หี ญิงทาใหต้ นเองแทง้ ลูกหรือยอมใหผ้ ูอ้ ่ืนทาใหต้ นแทง้ ลูกตามมาตรา 301 จะเป็ นความผิดก็ต่อเม่ืออายุครรภข์ อง หญงิ เกนิ 12 สปั ดาหเ์ ทา่ น้นั โดยจาแนกไดเ้ ป็ น 2 กรณีดงั น้ ี กรณีท่ี (1) หญิงทาใหต้ นแทง้ ลูกเป็ น กรณีท่ี (2) หญิงยินยอมใหผ้ ูอ้ ื่นทาใหต้ นแท้งลูก กรณีที่หญิงน้ันทาให้แทง้ ลูกดว้ ยตนเองขณะท่ีมีอายุ เป็ นกรณีที่มีผูอ้ ่ืนมาทาใหห้ ญิงที่มีอายุครรภเ์ กิน 12 สัปดาหแ์ ท้ง ครรภเ์ กนิ 12 สปั ดาหห์ ญงิ น้ันจะมีความผิดตามมาตรา ลูกโดยหญิงน้ันยนิ ยอมในลกั ษณะที่ลงมือกระทาเองแต่ผูเ้ ดียวหรือ 301 และผู้ท่ีร่วมลงมือกับหญิงจะมีความผิดตาม ลงมือร่วมกบั ผอู้ ่นื หรอื หญิงทีม่ ีครรภก์ ็ได้ หญิงย่อมมีความผิดตาม มาตรา 302 เพราะเป็ นผูท้ ่ีหญิงยอมให้ผูอ้ ื่นทาใหต้ น มาตรา 301 และผทู้ ี่ทาใหห้ ญิงแทง้ ลูกมีความผิดตามมาตรา 312 แท้งลูก ส่วนกรณีที่บุคคลอื่นเข้ามาเก่ียวข้องกับ เวน้ แต่จะเขา้ เหตุตามมาตรา 305 ซ่งึ กระทาโดยผูป้ ระกอบวิชาชีพ ความผดิ หนีไม่ว่าจะไดใ้ ช้ใหห้ ญิงกระทาความผิดหรือ เวชกรรมตามหลกั เกณฑท์ กี่ าหนดไวท้ ง้ั หญิงและผูป้ ระกอบวิชาชีพ เป็ นตวั การรว่ มก็เป็ นไดเ้ พยี งแตผ่ ูส้ นับสนุนเทา่ น้ัน เวชกรรมน้ันไม่มีความผิด

ความผิดฐานหญงิ อายุครรภเ์ กนิ 12 สปั ดาหท์ าใหต้ นเองแทง้ ลูก 07 หรอื ยนิ ยอมใหผ้ ูอ้ ่นื ทาใหต้ นแทง้ ลูก ( มาตรา 301) ในกรณหี ากหญิงมคี รรภไ์ ม่เกนิ 12 สปั ดาหแ์ มห้ ญงิ น้นั จะทาใหต้ นเองแทง้ ลูกหรอื ยอมใหผ้ ูอ้ ืน่ ทาใหต้ นแทง้ ลกู หญงิ ไม่มีความผดิ สามารถจาแนกออกเป็ น 2 กรณดี งั น้ ี กรณีท่ี (1) กรณีทาใหต้ นเองแทง้ ลูกเป็ นกรณที เี่ มื่ออายคุ รรภไ์ ม่เกนิ 12 สปั ดาหก์ ารกระทายอ่ มขาด องคป์ ระกอบภายนอกของความผิดดงั น้นั หญิงจึงไม่มีความผิด ตวั อยา่ ง นอกจากน้ ีหากหญิงทาใหต้ นเองแทง้ ลูกโดยมีผูอ้ ื่นเก่ียวข้อง ดว้ ยท้ังหญิงและบุคคลอื่นน้ันก็ไม่มีความผิดดว้ ยเช่นกัน เพราะเมื่อการ นางสาวแสนสวยขณะ กระทาของหญิงผลู้ งมอื แมเ่ ป็ นความผิดเสียแลว้ ผูอ้ ื่นท่ีมีความเก่ียวขอ้ งย่อม อายุคร รภ์ได้ 4 สัปดาห์กินยาขับ ไมม่ ีความผดิ ในฐานะผใู้ ช้ตวั การหรือผูส้ นับสนุนดว้ ยเว้นแต่จะเก่ียวขอ้ งถึง ท า ร ก แม่ น า งส า ว แส น ส ว ย จะ ท า ใ ห้ ขนาดเป็ นผลู้ งมอื กระทาความผิดเสียเองผูอ้ ่ืนน้ันอาจมีความผิดตามมาตรา ต น เ อ ง แ ท ้ง ลู ก ก็ ไ ม่ มี ค ว า ม ผิ ด ต า ม 302 มาตรา 301

ความผดิ ฐานหญิงอายุครรภเ์ กนิ 12 สปั ดาหท์ าใหต้ นเองแทง้ ลูก 08 หรือยนิ ยอมใหผ้ ูอ้ น่ื ทาใหต้ นแทง้ ลูก ( มาตรา 301) กรณีที่ (2) ยินยอมใหผ้ ูอ้ ื่นทาใหต้ นเองแทง้ ลูกหากมีผูอ้ ื่นทาใหห้ ญิงแทง้ ลูกโดยหญิงยินยอมค่ะอายุ ครรภไ์ ม่เกิน 12 สัปดาหห์ ญิงน้ันไม่มีความผิดตามมาตรา 301 แต่ผูท้ ่ีลงมือทาใหห้ ญิงแทง้ ลูกยังคงมีความผิดตาม มาตรา 302 เพราะมาตรา 302 มไิ ดก้ าหนดอายุครรภท์ ยี่ กเวน้ ไม่ตอ้ งรับผิดเอาไวด้ ว้ ยเพราะฉะน้ันไม่ว่าหญิงจะมีอายุ ครรภเ์ ท่าใดผทู้ ่ที าใหห้ ญิงน้นั แทง้ ลูกก็ย่อมมีความผิดเวน้ แต่จะกระทาโดยผูป้ ระกอบวิชาชีพเวชกรรมและการกระทา ตามหลกั เกณฑท์ ก่ี าหนดไวใ้ นมาตรา 305

ความผิดฐานหญิงอายคุ รรภเ์ กนิ 12 สปั ดาหท์ าใหต้ นเองแทง้ ลูก 09 หรอื ยนิ ยอมใหผ้ ูอ้ ่นื ทาใหต้ นแทง้ ลูก ( มาตรา 301) (4) เจตนาธรรมดา การกระทาความผิดตามมาตราน้ ีเอาผิดแก่หญิงที่มีเจตนาทาใหต้ นเองแทง้ ลูกท้ังที่เป็ นการกระทาดว้ ย ตนเองหรอื ยนิ ยอมใหผ้ อู้ ่นื กระทาเจตนาในท่ีน้ ีอาจเป็ นไปไดท้ ง้ั เจตนาประสงคต์ ่อผลหรือเจตนายอ่ มเลง็ เห็นผลมา ตวั อยา่ ง นางกญั ญาต้งั ครรภ์ ทราบว่าการด่ืมเคร่ืองดื่มชนิดหนึ่งอาจทาใหแ้ ทง้ ลูกไดด้ ว้ ย ความชอบด่มื เคร่ืองด่ืมชนิดน้ ีเป็ นพิเศษจงึ ดม่ื ทุกวนั โดยไม่ใยดีว่าจะทาใหต้ นเองแทง้ ลูกหรือไม่ สุดทา้ ยนางกัญญาแทง้ ลูกเช่นน้ ีนางกญั ญามีความผิดฐานทาใหต้ นเองแทง้ ลูกโดยเจตนาย่อม เลง็ เหน็ ผล

จะนบั อายคุ รรภอ์ ยา่ งไร??? 10 เน่ืองจากการเรมิ่ ตน้ ที่แทจ้ ริงของการต้ังครรภเ์ ป็ นส่ิงท่ียากแก่การระบุไดอ้ ย่างแน่ ชดั กว่าหญิงจะทราบว่าตนต้งั ครรภอ์ าจใชเ้ วลาเป็ นเเรมเดือน ในทางการแพทยก์ าหนดใหค้ านวณ อายุครรภเ์ ป็ นสปั ดาหซ์ ่ึงมีอยู่หลายวิธี เช่น การนับอายุครรภต์ ้งั แต่วันแรกท่ีมีประจาเดือนคร้ัง สุดทา้ ย(Last Menstrual Period: LMP) การใช้อัลตราซาวนด์ หรือการประเมินทารกในครรภ์ ดว้ ย เหตุน้ ี การคานวณอายคุ รรภด์ ว้ ยวิธีการที่ต่างกนั อาจไดผ้ ลไม่ตรงกนั เสียทีเดียวก็ได้ ในขณะท่ีอายุ ครรภเ์ ริ่มนับแลว้ อาจยังไม่มีการต้งั ครรภเ์ ลยก็ได้ (โดยเฉพาะสัปดาหแ์ รกๆของอายุครรภท์ ่ีนับ ดว้ ยวิธี LMP ) เกิดคดขี ้ ึนกอ็ าจเกดิ ความย่งุ ยากอยู่บา้ งพอสมควรในการพิสูจน์อายุครรภ์ อยา่ งไรกต็ าม หญงิ อาจจะอา้ งไมร่ ูข้ อ้ เทจ็ จรงิ อนั เป็ นองคป์ ระกอบของความผิดตาม มาตรา 59 วรรคสาม ซ่ึงถึงหญิงน้ันขาดเจตนาตามหลัก ไม่รูไ้ ม่มีเจตนา หญิงน้ันย่อมไม่มี ความผิดตามมาตรา 301

ความผิดฐานทาใหแ้ ทง้ ลกู มาตรา 302 และมาตรา 303 ความผดิ ฐานทาใหห้ ญิงแทง้ ลกู โดยยินยอมมาตรา 302 11 มาตรา 302 ผใู้ ดทาใหห้ ญิงแทง้ ลูกโดยหญงิ น้ันยนิ ยอม ตอ้ งระวางโทษจาคกุ ไมเ่ กนิ หา้ ปี หรือปรบั ไมเ่ กินหนึ่ง แสนบาท หรือท้งั จาทง้ั ปรบั ถา้ การกระทาน้ันเป็ นเหตใุ หห้ ญงิ รบั อนั ตรายสาหสั อยา่ งอื่นดว้ ยผูก้ ระทาตอ้ งระวางโทษจาคกุ ไม่เกนิ เจด็ ปี หรือ ปรบั ไมเ่ กนิ หน่ึงแสนส่ีหม่นื บาท หรอื ทง้ั จาทง้ั ปรบั ถา้ การกระทาน้ันเป็ นเหตุใหห้ ญิงถึงแก่ความตาย ผกู้ ระทาตอ้ งระวางโทษจาคกุ ไม่เกนิ สิบปี หรือปรบั ไม่เกินสอง แสนบาท องคป์ ระกอบภายนอก องคป์ ระกอบภายใน (1) ผใู้ ด เจตนาธรรมดา (2) ทาใหห้ ญงิ แทง้ ลูก (3) โดยหญิงน้ันยินยอม

ความผิดฐานทาใหแ้ ทง้ ลกู มาตรา 302 และมาตรา 303 (1) ผใู้ ด 12 คาว่า “ผใู้ ด” หมายถึง บุคคลทวั ่ ไปไม่ว่าจะเพศไหนแต่ไม่รวมถึงสิ่งท่ีทาใหต้ นแทง้ ลูกเพราะสิ่งที่กระทาใหต้ น แทง้ ลกู มีความผิดตามมาตรา 301 ซ่งึ เป็ นบทบญั ญตั ทิ ลี่ งโทษหญิงดงั กลา่ วโดยเฉพาะการกระทาความผิดตามมาตราน้ ีผูก้ ระทา จะเป็ นผูล้ งมือกระทาใหห้ ญิงแทร้ ่วมดว้ ยน้ามือของตนเองหรือมีส่วนในการกระทาความผิดกบั ผูอ้ ื่นในฐานะตวั การ ผูใ้ ช้ หรือ ผสู้ นบั สนุนก็ได้ (2) ทาใหห้ ญงิ แทง้ ลูก การทาใหห้ ญิงแทง้ ลูก หมายถึง การทาให้ทารกคลอดออกมาในลักษณะไรช้ ีวิต โดยจะใช้วิธีการใดก็ได้ นอกจากน้ ียงั ไม่ตอ้ งพจิ ารณาว่าหญิงจะมีอายคุ รรภเ์ ทา่ ใด ถา้ ไดจ้ ะทาใหผ้ ูอ้ นื่ แทง้ ลกู ผูก้ ระทามคี วามผิดตามมาตรา 302 (3) โดยหญงิ น้ันยนิ ยอม ความยินยอมของหญิงตามมาตราน้ ีเป็ นองคป์ ระกอบภายนอกของความผิด การท่ีจะเรียกว่าเป็ นความยินยอม ตามมาตรา 302 ได้ จะตอ้ งเกดิ ข้ ึนดว้ ยความสมคั รใจ(ไม่ถกู ข่มขู่หรือถกู หลอก) และความยินยอมน้ันจะตอ้ งมีอยู่ก่อนหรือขณะ ทาใหห้ ญิงน้นั แทง้ ลูกหาไม่แลว้ จะถอื ว่าหญิงน้นั ยนิ ยอมไม่ได้ และถา้ หญิงไม่ใหค้ วามยินยอมจะถือเป็ นความยินยอมตามมาตรา 302 น้ ีไม่ได้ เพราะการกระทาขาดองคป์ ระกอบภายนอก แตผ่ กู้ ระทากย็ งั คงมคี วามผิดตามท่ีบญั ญตั ไิ วใ้ นมาตรา 303

ความผิดฐานทาใหแ้ ทง้ ลกู มาตรา 302 และมาตรา 303 (4) เจตนาธรรมดา 13 การกระทาตามมาตราน้ ีอาศัยองคป์ ระกอบภายในคือเจตนาธรรมดาซ่ึงอาจเป็ นกรณีประสงคต์ ่อผลหรือย่อม เลง็ เห็นผลก็ได้ (5) เหตทุ ท่ี าใหร้ บั โทษหนกั ข้ ึน มาตราน้ ีมเี หตุท่ที าใหร้ บั โทษหนักข้ ึนอยู่ 2 กรณีไดแ้ ก่ การทาใหแ้ ทง้ ลูกจนเป็ นเหตุใหไ้ ดร้ บั อันตรายสาหสั ตาม วรรคสองและการทาใหแ้ ทง้ ลูกจนเป็ นเหตใุ หห้ ญงิ ถึงแก่ความตายตามวรรคสามทง้ั สองกรณีน้ ีเป็ นผลฉกรรจก์ ารกระทาความผิด ตามวรรคแรกผูก้ ระทาตอ้ งรบั โทษหนักข้ ึน เหตุน้ ีจึงตอ้ งพิจารณาว่า อนั ตรายสาหัสหรือความตายที่เกิดข้ ึนกบั หญิงน้ันเป็ นผล ธรรมดาท่ีย่อมเกิดข้ ึนไดต้ ามมาตรา 63 หรือไม่ ถา้ หากอนั ตรายสาหัสหรือความตายน้ันเป็ นผลธรรมดาที่ย่อมเกิดข้ ึนได้ ผกู้ ระทาจะตอ้ งรบั โทษตามวรรคสองหรือวรรคสามแลว้ แต่กรณี ทางน้ ีไม่ตอ้ งคานึงถึงว่าการกระทาดังกล่าวเกิดผลคือแทง้ ลูก แลว้ หรือไม่ ดงั น้ัน ถา้ หากลงมือทาใหแ้ ทง้ ลกู แตห่ ญงิ ไดร้ บั อนั ตรายสาหัสหรือตายแมไ้ ม่แทง้ ลูก ผูก้ ระทาก็ยังคงตอ้ งไดร้ บั โทษ หนกั ข้ ึนตามวรรคสอง สว่ นคาว่า “อนั ตรายสาหสั อย่างอืน่ ” หมายถงึ อนั ตรายสาหสั ตามมาตรา 297 ยกเวน้ อันตรายตามอนุมาตรา 5 เพราะการทาใหแ้ ทง้ ลกู เป็ นอนั ตรายสาหสั อยา่ งหน่ึงทร่ี ะบไุ วใ้ นอนุมาตรา 5 อยแู่ ลว้

ความผิดฐานทาใหแ้ ทง้ ลกู มาตรา 302 และมาตรา 303 14 ผดิ ฐานทาใหห้ ญิงแทง้ ลกู โดยหญิงไม่ยนิ ยอมมาตรา 303 มาตรา 303 ผใู้ ดทาใหห้ ญิงแทง้ ลูกโดยหญิงน้ันไม่ยินยอม ตอ้ งระวางโทษจาคุกไม่เกินเจ็ดปี หรือปรบั ไม่ เกินหน่ึงแสนสี่หมืน่ บาท หรือทง้ั จาทง้ั ปรบั ถา้ การกระทาน้นั เป็ นเหตุใหห้ ญงิ ไดร้ บั อนั ตรายสาหสั อย่างอ่ืนดว้ ย ผูก้ ระทาตอ้ งระวางโทษจาคุกต้ังแต่หน่ึง ปี ถึงสิบปี และปรบั ต้งั แตส่ องหมืนบาทถึงสองแสนบาท ถา้ การกระทาน้ันเป็ นเหตุใหห้ ญิงถึงแก่ความตาย ผูก้ ระทาตอ้ งระวางโทษจาคุกต้ังแต่หา้ ปี ถึงยี่สิบปี และ ปรบั ต้งั แตห่ นึ่งแสนบาทถึงสี่ แสนบาท องคป์ ระกอบภายนอก องคป์ ระกอบภายใน (1) ผใู้ ด เจตนาธรรมดา (2) ทาใหแ้ ทง้ ลกู (3) โดยหญิงน้ันไมย่ ินยอม

ความผิดฐานทาใหแ้ ทง้ ลกู มาตรา 302 และมาตรา 303 15 เหตุทีท่ าใหร้ บั โทษหนักข้ ึน ผลฉกรรจต์ ามวรรคสอง ถา้ การกระทาน้ันเป็ นเหตุใหห้ ญงิ ไดร้ บั อนั ตรายสาหสั อยา่ งอน่ื ดว้ ย ตอ้ งระวางโทษหนักข้ ึน ผลฉกรรจต์ ามวรรคสาม การกระทาน้นั เป็ นเหตใุ หห้ ญงิ ถึงแกค่ วามตาย ตอ้ งลองโทษหนักข้ ึนไปอีก คาอธิบาย องคป์ ระกอบท้ังภายในและภายนอกเกือบทุกข้อของความผิดฐานน้ ีไปตามมาตรา 302 จะมีแต่เฉพาะข้อที่ว่า ความผิดตามมาตราน้ ีตอ้ งเกดิ ข้ ึนโดยหญงิ “ไมย่ ินยอม” ใหผ้ ูก้ ระทาทาใหห้ ญิงน้ันแทง้ ลูกซึ่งผูก้ ระทาจะตอ้ งระวางโทษหนักกว่าท่ี บญั ญตั ิไวใ้ นมาตรา 302 นอกจากน้ ีหากมกี ารใชก้ าลงั ทารา้ ยหญิงโดยหญงิ ไม่ยนิ ยอมผูก้ ระทาย่อมมีความผิดต่อชีวิตและความผิด ตอ่ ร่างกายฐานอ่นื ๆอีกดว้ ย ตวั อยา่ ง นายเอเป็ นสามีทราบว่านางสาวบีต้ังครรภ์ นายเอไม่อยากมีลูกจึงนายาขับมาให้นางบี รบั ประทานโดยหลอกว่าเป็ นยาบารุงครรภ์ ต่อมานางบีแทง้ ลูกเช่นน้ ีนายย่อมมีความผิดตามมาตรา 303

เหตยุ กเวน้ โทษมาตรา 304 มาตรา 304 ผใู้ ดเพียงแต่พยายามกระทาความผิดตามมาตรา301หรอื มาตรา302วรรคแรกผูน้ ้ันไม่ตอ้ งรบั โทษ 16 เหตยุ กเวน้ โทษตามมาตรา 341 เกดิ ข้ ึนจากการพยายามกระทาความผดิ ตามมาตรา 80 หรอื มาตรา 81 กไ็ ด้ 1. การพยายามกระทาความผดิ ตามมาตรา 80 เป็ นกรณีที่ผูก้ ระทาลงมือกระทาแลว้ แต่ผลคือการแทง้ ไม่ เกดิ ข้ ึนซึ่งแบง่ ออกเป็ น 2 กรณดี งั น้ ี 1.1 กรณีท่ีลงมือกระทาแล้ว 1.2 กร ณี ท่ีกร ะทา ไปแ ล้ว แต่ไ ม่ แต่กระทาไปไม่ตลอด หมายถึง การท่ีหญิง บรรลุผล หมายถึง การที่หญิงหรือผู้หญิงยินยอมให้ หรือผู้ที่หญิงยินยอมใหท้ าแท้งน้ันได้ลงมือ ทาแทง้ น้นั ไดล้ งมือกระทาไปครบทุกข้ันตอนแลว้ แต่ กระทาแลว้ แต่ยงั กระทาไม่ครบข้ันตอน ไม่บรรลุผล กลา่ วคือ หญงิ ไม่แทง้

เหตยุ กเวน้ โทษมาตรา 304 2. การพยายามกระทาความผิดตามมาตรา 81 เป็ นกรณีที่กระทาไม่อาจบรรลุผลโดยแน่แท้ เนื่องจากเหตุปัจจยั ซ่ึงใชใ้ นการกระทา หรอื เหตุแหง่ วัตถุทมี่ ่งุ หมายกระทาต่อ 17 2.1 กรณีเหตุแห่ง 2.2 กรณีวัตถทุ ่ีมุ่งหมายกระทาต่อ หมายถึงตวั ทารกใน ปั จจัยที่ใช้กระทาผิด หมายถึง ครรภ์ ผูก้ ระทาเข้าใจผิดว่ามีทารกอยู่ในครรภห์ รือทารกมีชีวิตอยู่ใน การใชว้ ิธีการท่ีไม่อาจทาให้หญิง ครรภ์ และพยายามจะทาใหแ้ ทง้ แตผ่ กู้ ระทาจะไมต่ อ้ งรบั ผิดดว้ ยเหตุผล แทง้ ลูกได้ ใดน้นั มีความเห็นอยู่ 2 ฝ่ าย ฝ่ ายเเรก เห็นว่ากรณีดังกล่าวเป็ นเร่ืองของการขาด องค์ประกอบความผิด ท้ังในส่วนที่เป็ นองค์ประกอบภายนอกและ องคป์ ระกอบภายใน ฝ่ ายที่สอง เห็นว่ากรณีน้ ีเป็ นการพยายามทาใหแ้ ทง้ ท่ี เป็ นไปไมไ่ ดอ้ ย่างแน่แท้

การทาแทง้ ท่ไี ม่เป็ นความผิดมาตรา 305 ประมวลกฎหมายอาญาไดบ้ ัญญตั ิการทาแทง้ ที่ไม่เป็ นความผิดไว้ในกรณีท่ีเป็ นการกระทาของแพทยแ์ ละ 18 เป็ นไปตามหลักเกณฑท์ ี่กาหนด ท้งั น้ ีเพ่ือผ่อนคลายมิใหค้ วามผิดฐานทาใหแ้ ท้งลูกน้ันเคร่งครัดจนปราศจากเหตุผลอัน สมควรและทาใหเ้ สียความเป็ นธรรมไป มาตรา 305 ถา้ การกระทาความผดิ ตามมาตรา 301 หรือมาตรา 302 เป็ นการกระทาของผปู้ ระกอบวิชาชีพเวช กรรมและตามหลกั เกณฑข์ องแพทยสภาในกรณีดงั ต่อไปน้ ี ผกู้ ระทาไม่มคี วามผดิ (1) จาเป็ นตอ้ งกระทาเนื่องจากหากหญงิ ตง้ั ครรภต์ ่อไปจะเสีย่ งต่อการไดร้ บั อนั ตรายต่อสุขภาพทางกายหรอื จติ ใจของหญงิ น้ัน (2) จาเป็ นตอ้ งกระทาเนื่องจากมีความเส่ียงอย่างมากหรือมีเหตุผลทางการแพทย์ อนั ควรเช่ือไดว้ ่าหากทารก คลอดออกมาจะมีความผิดปกติถงึ ขนาดทุพพลภาพอย่างรา้ ยแรง (3) หญิงยนื ยนั ต่อผปู้ ระกอบวิชาชีพเวชกรรมว่าตนมคี รรภเ์ นื่องจากมกี ารกระทาความผิดเกี่ยวกบั เพศ (4) หญงิ ซ่ึงมอี ายคุ รรภไ์ ม่เกนิ 12 สปั ดาห์ ยืนยนั ทีจ่ ะยตุ ิการต้งั ครรภ์ (5) หญิงซึ่งมีอายคุ รรภเ์ กิน 12 สปั ดาห์ แต่ไม่เกนิ 20 สปั ดาห์ ยืนยนั ท่จี ะยุตกิ ารต้งั ครรภ์ ภายหลงั การตรวจ และรบั คาปรกึ ษาทางเลือกจากผูป้ ระกอบวิชาชีพเวชกรรมและผปู้ ระกอบวิชาชีพอน่ื ตามหลกั เกณฑแ์ ละวิธีการที่รฐั มนตรวี ่าการ กระทรวงสาธารณสขุ ประกาศกาหนดโดยคาแนะนาของแพทยสภาและหน่วยงานท่ีเก่ยี วขอ้ งตามกฎหมายว่าดว้ ยการป้องกนั และแกไ้ ขปัญหาการต้งั ครรภใ์ นวัยรุน่

การทาแทง้ ท่ไี ม่เป็ นความผิดมาตรา 305 ผกู้ ระทาไม่มี 1.การกระทาความผิดตามมาตรา 301 หรือมาตรา 302 เป็ นการกระทา ความผิด 19 โดยผูป้ ระกอบวิชาชีพเวชกรรม 2. เป็ นการกระทาตามหลกั เกณฑข์ องแพทยสภา 3.ดงั กรณีตอ่ ไปน้ ี - จาเป็ น สขุ ภาพหญิง (อนุมาตรา 1) สุขภาพทารก (อนุมาตรา 2) - หญิงยืนยนั ยตุ ิ การต้งั ครรภ์ เกิดจากการกระทาความผิดเกี่ยวกบั เพศ (อนุมาตรา 3) หญงิ อายคุ รรภไ์ มเ่ กนิ 12 สปั ดาห์ (อนุมาตรา 4) - ยงิ่ อายคุ รรภเ์ กนิ 12 สปั ดาหแ์ ต่ไม่เกิน 20 สปั ดาห์ รบั คาปรกึ ษา และปฏิบัติตาม หลกั เกณฑแ์ ละวิธีการของรฐั มนตรวี ่าการกระทรวงสาธารณสุข (อนุมาตรา 5)

การทาแทง้ ท่ไี มเ่ ป็ นความผิดมาตรา 305 คาอธบิ าย 1.การกระทาความผดิ ตามมาตรา 301 หรือมาตรา 302 เป็ นการกระทาโดยผปู้ ระกอบวิชาชีพเวชกรรม 20 “การกระทาความผิด” หมายถึง การกระทาท่ีครบองคป์ ระกอบความผิดซึ่งไดแ้ ก่ องคป์ ระกอบภายนอกและ องคป์ ระกอบภายในของมาตรา 301 หรือมาตรา 302 ถา้ หากการกระทาดังกล่าวครบเง่ือนไขตามมาตรา 305 ผูก้ ระทาไม่มี ความผดิ แมไ้ ดก้ ระทาครบองคป์ ระกอบตามความผิดตามมาตรา 301 หรือมาตรา 302 แลว้ ก็ตาม เหตุท่ีทาใหก้ ารกระทาไม่เป็ นความผิดตามมาตราน้ ีจากัดเฉพาะกรณีท่ีไดก้ ระทาครบองคป์ ระกอบความผิด เฉพาะ 2 ฐานน้ ีเทา่ น้นั ไดแ้ ก่ (1) ความผดิ ฐานหญิงอายุครรภ์ (2) ความผิดฐานทา เกนิ 12 สปั ดาหท์ าใหต้ นเองแทง้ ลูกหรือยินยอม ใหห้ ญิงแทง้ ลูกโดยหญิงยินยอมตาม ใหผ้ อู้ ื่นทาใหต้ นแทง้ โลกตามมาตรา 301 มาตรา 302

การทาแทง้ ท่ไี มเ่ ป็ นความผิดมาตรา 305 ถา้ หากเป็ นการกระทาความผิดตามมาตรา 303 คือ ทาใหห้ ญิงแทง้ ลูกโดยหญิงน้ันไม่ยินยอม ผูก้ ระทา 21 ไมอ่ าจอา้ งมาตรา 305 เพอื่ ใหต้ นเองหลดุ พน้ จากความผดิ ในทางอาญาได้ มาตรา 305 จากดั เฉพาะที่เป็ นการกระทาโดย “ผูป้ ระกอบวิชาชีพเวชกรรมเท่าน้ัน “ผูป้ ระกอบวิชาชีพ เวชกรรม” หมายความว่า บุคคลซึ่งไดข้ ้ ึนทะเบียนและรบั ใบอนุญาตเป็ นผูป้ ระกอบวิชาชีพเวชกรรมจากแพทยสภา ตวั อยา่ ง นายไก่สาเรจ็ การศึกษาแพทยศาสตรแ์ ต่ยงั ไม่ไดร้ บั ใบอนุญาตใหป้ ระกอบวิชาชีพเวชกรรม ไดย้ ุติการต้งั ครรภ์ ใหแ้ ก่นางสาวแสนดี ขณะอายคุ รรภ์ 24 สปั ดาห์ เพราะครรภเ์ ป็ นพิษอยา่ งรุนแรง ในการลงมือกระทาน้ัน มีนางสาวฟ้าใสช่วย ส่งเครื่องมือใหแ้ ก่นายไก่และอยู่ใกลๆ้ พรอ้ มช่วยเหลือ จนนางสาวแสนดีเเทง้ ลูก เช่นน้ ีนายจ่อยมีความผิดตามมาตรา 302 ประกอบมาตรา 83 ส่วนนางสาวแสนดีมีความผิดฐานยอมใหผ้ อู้ น่ื กระทาใหต้ นเองแทง้ ลูกตามมาตรา 301 อย่าง ไรก็ตาม ถา้ หากนางสาวแสนดแี ละนางสาวฟ้าใสไมท่ ราบว่านายไก่ ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม การกระทาดงั กล่าวเกิดข้ ึน เพราะความสาคญั ผดิ ว่ามขี อ้ เทจ็ จรงิ ทีท่ าใหก้ ารกระทาไมเ่ ป็ นความผิด เช่นน้ ี ท้งั นางสาวแสนดีและนางสาวฟ้าใสไม่ตอ้ งรบั ผิด ดงั ท่ีบญั ญตั ิไวใ้ นมาตรา 62

การทาแทง้ ท่ไี มเ่ ป็ นความผิดมาตรา 305 2. เป็ นการกระทาตามหลกั เกณฑข์ องแพทยสภา 22 แมว้ ่าการทาใหแ้ ทง้ ลกู ตามมาตรา 301 หรือมาตรา 302 จะกระทาโดยผูป้ ระกอบวิชาชีพเวชกรรมก็ ตาม แตก่ ารกระทาดงั กล่าวจะตอ้ งอยู่ ภายใตห้ ลักเกณฑข์ องแพทยสภา ดว้ ย มิฉะน้ันผูก้ ระทาและผูเ้ ก่ียวขอ้ งมิอาจ อา้ งมาตรา 305 เพอ่ื ใหพ้ น้ จากความผิดได้

การทาแทง้ ท่ไี มเ่ ป็ นความผิดมาตรา 305 3. ดงั กรณีตามอนุมาตรา 1 ถึงอนุมาตรา 5 3.1 กรณมี ีความจาเป็ น กรณมี ีความจาเป็ นตามประมวลกฎหมายอาญาประกอบดว้ ย กรณีมคี วามจาเป็ นเพราะสขุ ภาพหญิง และกรณมี คี วามจาเป็ นเพราะอาจเกิดจากความผิดปกติของทารกในครรภ์ 3.1.1 กรณมี คี วามจาเป็ นเพราะสขุ ภาพหญิงตามอนุมาตรา 1 23 ตามอนุมาตรา 1 ผูป้ ระกอบวิชาชีพเวชกรรมยุติ 3.1.2 กรณีมีความจาเป็ นเพราะอาจเกิดความผิดปกติ การต้ังครรภใ์ ห้แก่หญิงไดโ้ ดยไม่มีความผิดเพราะจาเป็ นตอ้ ง ของทารกในครรภต์ ามอนุมาตรา 2 กระทาเนื่องจากถา้ ปล่อยใหห้ ญิงต้ังครรภต์ ่อไปจะเส่ียงต่อการ ไดร้ บั อนั ตรายต่อสขุ ภาพทง้ั ทางดา้ นร่างกายหรือจติ ใจ ถ้า ห า ก มี ค ว า ม เ ส่ี ย ง อ ย่ า ง ม า ก ห รื อ มี เหตุผลทางการแพทยอ์ ันควรเช่ือไดว้ ่าถา้ ทารกคลอด เหตุตามอนุมาตรา 1 คือต้องยุติการต้ังครรภ์ อ อ ก ม า จ ะ มี ค ว า ม ผิ ด ป ก ติ ถึ ง ข น า ด ทุ พ พ ล ภ า พ อ ย่ า ง เพราะจาเป็ นเท่าน้ัน กล่าวคือ ถา้ ไม่ยุติการต้ังครรภแ์ ล้วย่อมมี รา้ ยแรง โอกาสท่หี ญงิ จะไดร้ บั อนั ตราย แต่ถา้ หากไม่มีความจาเป็ นเช่นว่า น้ัน เช่น มีหนทางอ่ืนในการรักษาพยาบาลแทนการยุติการ ความผิดปกติข องทาร กในคร ร ภ์น้ัน ตง้ั ครรภ์ ยอมไม่เป็ นเหตใุ หโ้ อนความรบั ผิดตามอนุมาตราน้ ี จะตอ้ งมคี วามเสี่ยงอย่างมากหรือมีเหตุผลทางการแพทย์ ถึงข้ันทุพพลภาพอย่างรา้ ยแรง จึงจะเป็ นเหตุท่ีผูก้ ระทา ไม่มีความผดิ ตามอนุมาตรา 2 น้ ี

การทาแทง้ ท่ไี มเ่ ป็ นความผิดมาตรา 305 3.2 กรณีหญิงยนื ยนั ยุตกิ ารต้งั ครรภ์ 24 กรณีหญิงยืนยนั ยุติการต้ังครรภเ์ ป็ นเหตุที่ทาใหผ้ ูก้ ระทาไม่มีความผิดซ่ึงเป็ นการคานึงถึงสิทธิใน รา่ งกายของหญงิ ประกอบดว้ ย 3.2.1 กรณีมกี ารกระทาความผดิ เกี่ยวกบั เพศตอ่ หญิง ตามมาตรา 305 (3) หญงิ มีสทิ ธิยุตกิ ารต้งั ครรภไ์ ดห้ ากยืนยนั ต่อผูป้ ระกอบวิชาชีพเวชกรรมว่า ตนมคี รรภเ์ น่ืองจากมกี ารกระทาเก่ียวกบั เพศ เช่นการถูกข่มขืนกระทาชาเราหรือกระทาอนาจารจนต้งั ครรภ์ ถา้ ไดก้ ระทาครบเงื่อนไขของมาตรา 305 แลว้ ทง้ั หญิง ผปู้ ระกอบวิชาชีพเวชกรรมและผูเ้ กี่ยวข้องอื่นไม่มีความผิด ตามมาตรา 301 หรือมาตรา 302 แลว้ แต่กรณี

การทาแทง้ ท่ไี มเ่ ป็ นความผิดมาตรา 305 3.2.2 กรณหี ญิงมีอายุครรภไ์ ม่เกิน 12 สปั ดาห์ 25 มาตรา 305(4) ใชเ้ ฉพาะกรณีทผ่ี กู้ ระทาตามมาตรา 302 กล่าวคอื เป็ นการกระทาของผู้ ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ไม่ใช่กบั กรณมี าตรา 301 ดว้ ยเน่ืองจากหญิงทย่ี อมใหผ้ อู้ นื่ ทาใหต้ นแทง้ ลูกขณะมีอายุครรภไ์ ม่ เกนิ 12 สปั ดาหไ์ ม่เป็ นความผิดอยู่แลว้ 3.2.3 กรณหี ญิงมีอายคุ รรภเ์ กิน 12 สปั ดาหแ์ ต่ไม่เกนิ 20 สปั ดาห์ หญิงซึ่งมีอายุครรภ์เกิน 12 สัปดาหแ์ ต่ไม่เกิน 20 สัปดาหอ์ าจยืนยนั ยุติการต้ังครรภไ์ ด้ ทาให้หญิงน้ัน ผู้ ประกอบวิชาชีพเวชกรรมหรือผเู้ กยี่ วขอ้ งไม่มีความผิดตามมาตรา 301 หรือมาตรา 302 แลว้ แต่กรณี แต่ตอ้ งประกอบดว้ ย เง่อื นไขทง้ั 3 ประการตามมาตรา 305 (5) ดงั ตอ่ ไปน้ ี - หญงิ ซงึ่ มีอายุครรภเ์ กิน 12 สปั ดาหแ์ ต่ไมเ่ กนิ 20 สปั ดาหย์ ืนยนั ที่จะยตุ ิการต้งั ครรภ์ - ภายหลงั การตรวจและรบั คาปรกึ ษาทางเรอ่ื งจากผูป้ ระกอบวิชาชีพเวชกรรมและผูป้ ระกอบวิชาชีพอื่น - ตามหลกั เกณฑแ์ ละวิธกี ารทีร่ ฐั มนตรวี ่าการกระทรวงสาธารณสขุ กาหนดโดยคาแนะนาของแพทยสภาและ หน่วยงานทเ่ี กีย่ วขอ้ งตามกฎหมายว่าดว้ ยการป้องกนั และการแกไ้ ขปัญหาการต้งั ครรภใ์ นวัยรุ่น

บรรณานุกรม ศาสตราจารย์ ดร.คณพล จนั ทรห์ อม.คาอธบิ ายกฎหมายอาญา ภาค ความผิด 2.พิมพค์ ร้งั ที่ 6.ปี ท่ีพิมพ.์ 2564 ราชกจิ จา ประกาศ พ.ร.บ. แกไ้ ขเพ่ิมเตมิ หญิงอายุครรภไ์ ม่เกนิ 12 สปั ดาห์ ทาแทง้ ได.้ https://www.prachachat.net/politics/news-609129 (ออนไลน)์ .สบื คน้ วันท่ี 15 สิงหาคม 2564 เปิ ดกฎหมายอาญาแกไ้ ขใหม่ #ทาแทง้ ปลอดภยั ไดใ้ นอายคุ รรภ์ 12 สปั ดาห.์ https://ilaw.or.th/node/5816 (ออนไลน)์ .สบื คน้ วนั ท่ี 15 สิงหาคม 2564

Thanks!


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook