1 จัดทาํ โดย นกั เรยี นระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปท่ี 3 ครทู ป่ี รกึ ษา 1. คุณครเู มตตา ชาญฉลาด 2. คณุ ครูชไมพร เหาะเหนิ 3. คณุ ครูชิตพล พวงทิม 4. คุณครอู ฐั พร อบเชย โรงเรยี นบา นแกง อาํ เภอวานรนิวาส จงั หวัดสกลนคร สาํ นักงานเขตพ้นื ท่กี ารศึกษาประถมศึกษาสกลนคร เขต 3
ก2 คํานาํ โครงงานเรอื่ ง แหนมเหด็ นางฟา มีจดุ มงุ หมายเพอ่ื สรางความตระหนกั ใหน กั เรยี นไดฝก อาชีพ เพอื่ นํา เห็ดนางฟา มาแปรรปู เพอื่ เพิม่ มลู คาใหกบั ผลติ ภณั ฑ สรา งรายไดระหวา งเรียน และ ใหนกั เรยี น เห็นถงึ ความสาํ คญั ของการดาํ เนนิ ชีวิตตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ดงั นน้ั ผจู ดั ทาํ จงึ ไดด ดั แปลงของเดมิ ท่ีมี อยู นนั่ คือแหนมมาผสมกับเหด็ นางฟา ซ่ึงนอกจากจะไดสารอาหารทเี่ ปน ประโยชนจ ากเห็ดนางฟา ยังเปนการ สง เสริมส่ิงใหมใหแ กเ ห็ดนางฟา ทาํ ใหแ หนมเหด็ เปน ทางเลือกใหมส าํ หรบั ผูรกั สุขภาพ
3ข สารบัญ เรอื่ ง หนา คาํ นาํ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………ก บทที่ 1 บทนาํ ………………………………………………………………………………………………………………………………1 ท่มี าและความสําคัญ……………………………………………………………………………………………………………1 วัตถปุ ระสงค ……………………………………………………………………………………………………………………….1 ผลท่ีคาดวา จะไดร ับไดร ับ………………………………………………………………………………………………………1 บทท่ี 2 เอกสารทเี่ ก่ียวของ……………………………………………………………………………………………………………2 เห็ดนางฟา …………………………………………………………………………………………………………………………2 ประโยชนของเหด็ นางฟา……………………………………………………………………………………………………..3 เมนสู ขุ ภาพท่ีทาํ จากเห็ดนางฟา…………………………………………………………………………………………….3 บทท่ี 3 อปุ กรณแ ละวธิ กี ารดาํ เนนิ งาน…………………………………………………………………………………………..5 วัตถดุ ิบ………………………………………………………………………………………………………………………………5 เครื่องมือ/วัสดอุ ุปกรณ…………………………………………………………………………………………………………5 สวนผสม…………………………………………………………………………………………………………………………….5 กระบวนการผลติ …………………………………………………………………………………………………………………7 บทที่ 4 ผลการดําเนินการ……………………………………………………………………………………………………………11 ผลการศกึ ษา……………………………………………………………………………………………………………………..11 บทที่ 5 สรปุ อภปิ รายผล ขอ เสนอแนะ………………………………………………………………………………………13 สรุปผลการศกึ ษา………………………………………………………………………………………………………………..13 ขอ เสนอแนะ………………………………………………………………………………………………………………………13 ภาคผนวก……………………………………………………………………………………………………………………………………….14 ภาพกจิ กรรม…………………………………………………………………………………………………………………………………..15 การออกแบบโลโกผ ลิตภณั ฑ………………………………………………………………………………………………………………17 บรรณานกุ รม……………………………………………………………………………………………………………………………………19 คณะผจู ัดทํา……………………………………………………………………………………………………………………………………..20
1 บทท่ี 1 บทนําที่มาและความสาํ คญั ของโครงงาน อาหารเปน ปจจัยที่สําคัญมากตอ การดํารงชวี ติ ของมนษุ ย เพราะอาอาหารเปน ปจ จยั 4 ทมี่ นษุ ยแ ละ สิ่งมชี วี ิตทกุ ชีวิตบนโลกตองการมากทสี่ ุดในแตละวนั อาหารมมี ากมายหลายประเภทท้ัง ตม แกง ทอดผัด น่งึ ยา ง ฯลฯ ในปจจบุ นั อาหารมีการถูกพัฒนาใหมหี ลากหลายรปู แบบ ดวยการพัฒนาการดา นโภชนาการ ของมนษุ ย มีการแปรรปู อาหารหรือวตั ถดุ ิบใหน ารับประทานมากขน้ึ “ เห็ด” เปนพืชชนิดหน่ึงที่คนไทยนยิ มรบั ประทาน การรบั ประทานเห็ดสามารถนํามาประกอบ อาหารไดหลายอยาง โรงเรียนบา นแกงจงึ ไดจัดทาํ โครงการปลูกเหด็ นางฟา เพอ่ื อาหารกลางวนั ซ่งึ ไดผ ล ผลิตเปนจาํ นวนมากตอวัน เหด็ ทเี่ กบ็ ไดถาเหลือจากโครงการอาหารกลางวนั นกั เรียนท่ีรบั ผิดชอบจะนําไป จาํ หนา ยใหชาวบานในหมูบ าน เหด็ ทเ่ี ก็บไดจ ะไมสามารถเก็บไวไดนาน ดังนน้ั คณะผูจัดทํา จงึ ไดจ ัดทําโครงงานท่ีนาํ เห็ดนางฟามาแปรรูปเปนแหนม เพราะสามารถเกบ็ ไว กินไดนานหลายวัน สะอาด ถูกหลกั อนามัย และสามารถเพิม่ มูลคา ของสนิ คาไดม ากขน้ึ รวมท้ังใหน กั เรยี น ไดฝกอาชพี ความรบั ผดิ ชอบ กระบวนการทาํ งานกลุม การคดิ สรา งสรรคใ นการออกแบบบรรจภุ ณั ฑแ ละ ผลิตภณั ฑ รวมทง้ั ใหนกั เรยี นรจู ดั ทําบัญชรี ายรบั – รายจา ย การคิดตน ทนุ กาํ ไร การวางแผนการตลาดยึด หลกั ของความพอประมาณ มเี หตุผล และมีภูมิคุมกนั ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง วัตถุประสงคการทําโครงงาน 1. เพือ่ เปนการนําเหด็ นางฟาท่ีมมี าก นาํ มาแปรรูปเปน แหนมท่อี รอย ถกู หลกั อนามยั 2. เพอื่ เปน การใชเวลาวางใหเ กดิ ประโยชน 3. เพอ่ื ฝกพัฒนาการดา นความคดิ สรางสรรคใ นดา นการประกอบอาหาร และการออกแบบบรรจุ ภัณฑแ ละผลติ ภัณฑ 4. เพอ่ื ฝก ใหนักเรียนดาํ เนินชีวิตตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ผลที่คาดวา จะไดรับ 1. ไดแหนมท่ีทาํ จากเหด็ นางฟาท่ีอรอ ย สะอาด และนา รบั ประทาน ถกู หลกั อนามยั 2. ไดร ูจกั ใชเ วลาวา งใหเ กดิ ประโยชน 3. ไดม ีความคิดสรางสรรคเกย่ี วกบั การประกอบอาหาร และการออกแบบบรรจุภณั ฑและ ผลติ ภัณฑ 4. นกั เรียนมรี ายไดเ สรมิ ระหวางเรยี น 5. นกั เรยี นไดฝ ก อาชีพระหวา งเรยี น และดาํ เนนิ ชีวิตตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
2 บทท่ี 2 เอกสารท่ีเกีย่ วของ เหด็ เห็ด เปนแหลงอาหารโปรตนี จากธรรมชาติ ทีม่ วี วิ ฒั นาการมาจากการประสานเสน ใยจํานวนมาก ของเชอื้ ราช้นั สูง และถึงแมเหด็ จะขาดกรดอะมิโนบางตัวไปบา ง แตในเรอ่ื งของรสชาตแิ ละเนอื้ สัมผสั นน้ั รบั รองวาเห็ดไมเ ปนรองใครในยทุ ธจักรอาหารอยางแนนอน ที่สาํ คญั เห็ดยังใหคุณคาทางโภชนาการและมี สรรพคณุ ทางยา ซ่งึ มีคุณสมบตั ิท่ชี ว ยเสรมิ ภูมคิ ุมกนั ในรา งกาย และชว ยลดอัตราความเสย่ี งจากโรครายตางๆ เชน โรคมะเร็ง เบาหวาน อัลไซเมอร หลอดเลือดหวั ใจอดุ ตัน และความดันโลหิตสูง เปน ตน เหด็ จดั เปน อาหารประเภทผกั ทป่ี ราศจากไขมนั มปี ริมาณนํา้ ตาลและเกลือคอ นขางตาํ่ และยังเปน แหลง โปรตีนทด่ี ี เม่ือเทยี บกับผกั อกี หลายชนิด อีกทั้งยังมีรสชาติและกลิน่ ทช่ี วนรับประทาน ซ่ึงรสชาตทิ ีโ่ ดด เดนน้ี มาจากการทเี่ หด็ มกี รดอะมโิ นกลตู ามิคเปนองคป ระกอบโดยกรดอะมิโนตวั นี้ จะทาํ หนาทีช่ ว ยกระตนุ ประสาทการรบั รรู สอาหารของลิ้นให ไวกวาปกติ และทาํ ใหม ีรสชาติคลา ยกับเนื้อสตั ว นอกจากน้ีเห็ดยงั อุดมไป ดว ยวิตามนิ โดยเฉพาะวิตามนิ บีรวม (ไรโบฟลาวนิ ) และไนอาซนิ ซง่ึ จะชว ยควบคุมการทํางานของระบบยอย อาหาร ในสวนของเกลือแร เห็ดจัดเปน แหลง เกลอื แรทีส่ ําคัญ โดยมเี กลือแรต างๆ เชน ซลิ เิ นียม ทําหนาที่ ชวยตานอนมุ ลู อสิ ระ ลดความเสี่ยงตอการเกิดโรคมะเรง็ โรคหลอดเลือดหัวใจอดุ ตนั โปแตสเซยี ม ทาํ หนาที่ ควบคมุ จังหวะการเตนของหัวใจ สมดลุ ของนํ้าในรา งกาย การทํางานของกลา มเน้อื และระบบประสาทตางๆ ลดการเกดิ โรคความดนั โลหิตสงู อัมพฤกษ และอมั พาต สว นทองแดง ทาํ หนาท่ีชวยเสรมิ สรางการทํางานของ ธาตเุ หลก็ และทส่ี าํ คญั เหด็ มีองคป ระกอบของพฤกษเคมีทีช่ ่ือวา “โพลแี ซคคาไรด” (Polysaccharide) จะ ทาํ งานรว มกับแมคโครฟากจ (macrophage) ซง่ึ เปนเซลลคุม กันขนาดใหญ ท่อี อกจากหลอดเลอื ดเขาสู เน้ือเยอื่ และจะไป จับกับโพลแี ซคคาไรดทบี่ รเิ วณกระเพาะอาหาร และนําไปสง ยงั เซลลค ุม กันตวั อื่นๆ โดยจะ ชวยกระตนุ วงจรการทาํ งานของระบบภมู ิคมุ กนั ของรา งกาย เสริมและชว ยเพม่ิ ปริมาณและประสทิ ธภิ าพของ เซลลค ุม กนั ธรรมชาติ ใหทาํ หนาท่ีทําลายเซลลแปลกปลอมท่เี ขา มาในรา งกาย รวมถึงพวกไวรัสและแบคทีเรีย อื่นๆ ดว ย เหด็ ทมี่ ีปรมิ าณสารโพลแี ซคคาไรดสูง คือ เหด็ หอมหรอื เห็ดชติ าเกะ เห็ดนางรม เห็ดหูชา ง และเหด็ กระดุม เปน ตน และเห็ดอ่ืนๆ ที่นิยมนาํ มารับประทาน ไดแก เหด็ หลนิ จือ เห็ดฟาง เหด็ หูหนู เหด็ กระดมุ หรอื แชมปญอง เหด็ โคน และเหด็ เข็มทอง เปนตน นอกจากน้ยี ังสามารถใชเห็ดเปน ยาไดอ กี ดว ย ซงึ่ สรรพคุณทางยาของเห็ดมมี ากมาย เชน ชว ยควบคมุ การทํางานของอวยั วะสาํ คัญตา งๆ เชน สมอง หวั ใจ ปอด ตับ และระบบไหลเวียนของโลหติ เน่อื งจากชาวจีน จัดเหด็ เปน ยาเยน็ เพราะมีสรรพคณุ ชว ยลดไข เพมิ่ พลังชวี ิต ดบั รอนใน แกช ํ้าใน บาํ รงุ รา งกาย ลดระดับ นํา้ ตาล และคอเลสเตอรอลในหลอดเลือด ลดความดัน ขบั ปส สาวะ ชว ยใหหายหงดุ หงดิ บํารุงเซลลประสาท รักษาอาการอลั ไซเมอร และที่สาํ คัญ คือ ชวยยบั ยัง้ การเจรญิ เตบิ โตของเซลลม ะเรง็
3 ประโยชนท างการแพทยข องเหด็ นางฟา 1. ซอ มแซมสวนท่สี กึ หรอในรา งกาย โปรตนี ในเหด็ นางฟา ชว ยซอมแซมสว นท่ีสึกหรอในรา งกาย และยงั ชว ยเสรมิ สรางการเจรญิ เตบิ โตของกลามเนอื้ อีกดวย 2. ชว ยลดนา้ํ หนกั เหด็ นางฟามใี ยอาหารสงู และมไี ขมนั ตา่ํ เมอื่ ทานเขา ไปแลว จะทําใหรูสกึ อ่ิมเร็ว และอม่ิ ทอ งนานขน้ึ จึงลดความอยากอาหารไดเปน อยา งดี หากออกกําลังกายควบคู กจ็ ะย่งิ ทําใหน้าํ หนกั ลด เรว็ ย่ิงขึ้น 3. ควบคมุ ความดนั โลหิต การรบั ประทานเหด็ นางฟา เปน ประจํา ชว ยควบคุมระดับความดนั โลหิตให เปนปกตไิ ด เนอ่ื งจากในเหด็ นางฟา มีโปรตนี ที่ทาํ หนาทเ่ี หมอื นฮอรโมนขับนาํ้ ทาํ ใหค วามดันโลหิตลดลงได 4. ปองกนั อลั ไซเมอร เหด็ นางฟาชวยกระตุนการทํางานของสมองและระบบประสาท จึงชะลอการ เสือ่ มสภาพของเซลลสมอง และปองกันโรคอัลไซเมอรไ ดเปน อยางดี 5. ลดการอกั เสบ เม่อื เกดิ การอักเสบขน้ึ ภายในรา งกาย การรบั ประทานเหด็ นางฟา จะสามารถบรรเทา อาการลงได เพราะเห็ดนางฟามสี ารบางอยางทม่ี ฤี ทธ์ิตานการอกั เสบ 6. ปองกันโรคโลหติ จาง เหด็ นางฟามธี าตเุ หลก็ สูง จงึ ชว ยปอ งกันการเกดิ โรคโลหิตจาง จากการสราง เซลลเมด็ เลือดแดงเพ่มิ มากขน้ึ และยงั ชว ยกาํ จดั โลหะหนกั ทีเ่ ปนพิษออกจากรา งกาย 7. ยับยง้ั การเกิดมะเรง็ ลาํ ไส ในเหด็ นางฟา มสี ารตานอนมุ ูลอิสระมากมาย ท่ีชวยยบั ยงั้ การทําลายของ เซลลลาํ ไสท่ีจะพฒั นาไปเปน มะเรง็ ท่เี กิดขึ้นในรางกาย 8. ปองกนั โรคหวัด เห็ดนางฟา มีสารตานอนุมลู อสิ ระและวติ ามนิ ที่มปี ระโยชนต อรา งกาย จึงสามารถ ปองกนั โรคหวดั ไดเ ปน อยางดี เมนูสขุ ภาพท่ที ําจากเห็ดนางฟา 1. น้ําพรกิ เห็ดนางฟา ตงั้ กระทะใสก ระเทียม พริกขหี้ นูลงไปคว่ั ใหสุก จากนั้นนาํ หอมแดง เห็ดนางฟา พรกิ หนมุ มาเสียบไมแลวยา งบนเตาจนกวา จะสกุ หอม ลอกเปลอื กพรกิ สว นท่ไี หมออก เอาเห็ดนางฟา พริกข้หี นู คว่ั กระเทยี มคว่ั พรกิ หนุม ยาง ลงไปโขลกจนเขากนั ใสน ้ําปลา น้ํามะนาว กะป นาํ้ ตาลปป โขลกตออีกคร้ัง ตัก ขึ้นเสริ ฟคกู ับไขตม 2. ยาํ เหด็ นางฟา ทอดกรอบ นําเห็ดนางฟา ไปลา งนํา้ ใหสะอาด ตัดโคนเหด็ ออก ฉกี เหด็ เปน ชิน้ เลก็ ๆ ผสมแปงทอดกรอบและนา้ํ เย็นจดั ตอกไขไกใ สล งไป ผสมใหเ ขากัน นาํ เห็ดนางฟา ลงไปคลกุ กับแปงใหท ั่ว ตั้ง กระทะใสน ํา้ มันรอจนนา้ํ มนั เดือด ใสเ หด็ ลงไปทอดใหส กุ เหลือง เมือ่ เหด็ สุกแลวตกั ขน้ึ นาํ หมูสับไปรวนใหส กุ ผสมนา้ํ ยาํ โดยใชพริกตาํ นาํ้ ปลา นา้ํ ตาลทราย นํา้ มะนาว และหมสู บั ลงไป นําน้าํ ซปุ จากการรวนหมูใสลงไป ตามดว ยหอมแดงซอย แลวนาํ น้ํายํามาเสิรฟคูกบั เห็ดทอดไดเลย 3. ลาบเตาหูเห็ดนางฟา ตม นาํ้ ใหเดือด นําเตา หลู งไปตม ตกั ข้นึ พักไว ใชสอ มยีเตาหใู หแหลก ลางเห็ด นางฟาแลวนํามาห่นั รวมกับเหด็ หหู นู นําลงไปควั่ ในกระทะจนเรม่ิ หอม นาํ เตา หูทเี่ ตรียมไวลงไปผสมกับเห็ด ใส นํา้ ตาล น้ํามะนาว พรกิ ปน ซอี ิว้ ขาว ผสมใหเขา กัน ซอยผกั ชโี รยหนา ใสขาวคว่ั ลงไป ตกั ใสจานยกขนึ้ เสิรฟได ทันที
4 4. หมกเหด็ นางฟา นาํ เห็ดนางฟา มาลา งใหส ะอาด ตัดโคนออก นาํ พริก หอมแดง ตะไครมาตาํ รวมกันใหล ะเอียด ใสไ ขเปดและนา้ํ ปลาลงไปผสมใหเขากนั ฉกี เห็ดเปน ชน้ิ ใสลงไป ตามดว ยใบแมงลกั จากน้นั คลุกเคลาใหเขากนั อีกครง้ั แลว ตักใสใบตองที่หอเตรียมไว กลัดดวยไมก ลัด นําไปยางบนเตาจนสกุ 5. เหด็ นางฟา ผดั นํ้ามนั หอย นาํ เหด็ นางฟา มาลางนํ้าใหสะอาด ตัดโคนเห็ดทิง้ ฉีกเปนช้นิ เล็กๆ ตง้ั กระทะใสนาํ้ มันจนเร่ิมรอ น ผดั กระเทียมใหห อม ตามดวยใสห มูทหี่ ่ันแลว ลงไป ผัดจนหมสู กุ ใสน ้าํ มัน หอย พริกไทย ซอสปรงุ รส เหด็ นางฟา และตนหอม จากนั้นปด ไฟ ตกั ใสจ าน
5 บทที่ 3 วธิ ีดําเนนิ การ จากการศกึ ษาโครงงานเรื่องแหนมเห็ดนางฟา ผจู ดั ทําไดผลติ ตามขัน้ ตอนการดาํ เนินงาน จนกระท่งั เสรจ็ สนิ้ กระบวนการผลิตทุกขั้นตอน โดยมีรายละเอยี ดในการดําเนินงาน ดงั นี้ 1. วางแผนเรื่องคิดที่จะทาํ ภายในกลมุ 2. แบง หนาที่ในการทาํ งาน 3. รวบรวมขอมลู เอกสารทีเ่ กี่ยวของกบั เรื่องที่จะทํา 4. ซือ้ อุปกรณในการทําแหนมเหด็ นางฟา 5. ทาํ แหนมเห็ดนางฟาตามขั้นตอน วตั ถดุ บิ เคร่อื งมือ/อุปกรณ กระทะ ตะหลวิ
6 ตาชง่ั กระชอน เตาแกส กะล ะมงั 1. เห็ดนางฟา สับหยาบๆ สว นผสม 2. ขา วเหนียวนึ่งสุก 3. เกลอื ปน 1 กก. 4. น้าํ ตาลทราย 0.5 กก. 5. ซีอว้ิ ขาว 2 ชอ นชา 6. น้ํามะนาว 1 ชอ นชา 7. พริกไทยปน 2 ชอนชา 8. กระเทยี ม 2 ชอ นชา 9. รากผักซี 2 ชอ นชา 1 ขีด 0.5 ขีด
7 กระบวนการผลติ กระบวนการ/ข้ันตอนในการทํา 1. นาํ เหด็ นางฟา ไปชง่ั นาํ้ หนกั ปริมาณ 1 กโิ ลกรมั 2. นาํ เหด็ นางฟาไปลา งใหส ะอาด นาํ มาสบั หยาบๆ หรอื ฉกี เปนช้นิ เล็ก ๆ นาํ ไปน่งึ ประมาณ 5 นาที
8 2. นาํ เหด็ นางฟาไปนง่ึ ประมาณ 5 นาที 3. นาํ เห็ดท่นี งึ่ เสร็จแลว มากรองดว ยผา ขาวบาง และบดิ น้าํ เห็ดออกใหห มด
9 4. ขา วเหนียวนงึ่ สุกพรมน้ําใหก ระจาย (เพื่อขา วไมเ กาะตวั ) 5. นาํ ทุกอยางมาผสม คลกุ เคลา ใหเ ขากัน
10 6. นาํ มาหอดวยใบตองหรอื ถงุ พลาสตกิ มัดใหแ นน และตดิ โลโกผ ลติ ภณั ฑ 7. ท้งิ ไว 2-3 คนื ใหม รี สเปร้ยี ว พรอมรบั ประทาน
11 บทที่ 4 ผลการศกึ ษา 1. ผลจากการแปรรปู อาหารจากเห็ดนางฟา ในการทําโครงงาน การทําแหนมจากเห็ดนางฟา มีข้ันตอนการทําท่ีไมย งุ ยากนกั และมอี ุปกรณใน การทาํ แคเ พียง เหด็ นางฟา พริกข้หี นู กระเทยี ม เกลือ รากผกั ชี พรกิ ไทย น้ําตาล นํา้ มะนาว ซีอวิ้ ขาว โดยมี วธิ กี ารทําคอื นาํ เหด็ มาฉีกใหเปนเสน แลว นําไปนึง่ และนํามาผสมกับสวนผสมตา ง ๆ แตท ีส่ ําคญั ตองมขี น้ั ตอน การทําท่สี ะอาด แหนมถงึ จะออกมาอรอย และมีรสชาติทด่ี ี และในการทําโครงงานการทาํ แหนมจากเหด็ นางฟา นี้ ผจู ัดทําไดท ดลองทําแหนมจากเห็ดนางฟา ตามสตู รท่คี น หามาไดน ้ัน ผลปรากฏวาแหนมจากเห็ด นางฟาทไ่ี ดม รี สชาติทีอ่ รอ ย สามารถนํามากินสด หรอื นาํ ไปทอดใหกรอบ ก็จะมีรสชาติท่แี ปลกไปอีก แบบ ถือวาการทาํ โครงงานนี้ประสบความสาํ เรจ็ ไดด ว ยดี ตารางท่ี 1 การคดิ คํานวณตนทนุ – กําไร ในการจาํ หนา ยผลติ ภัณฑแปรรปู แหนมเหด็ นางฟา ตน ทุน (วัตถุดบิ ท่ีใช) จาํ นวน ราคา ผลติ ภัณฑท ่ผี ลิตข้นึ ได ราคาขาย รวม กาํ ไรตอ แหนมเห็ด 37 ชนิ้ ตอ หอ/ช้ิน เปน เงนิ เห็ด 1 กก. 1. เหด็ นางฟา 1 กิโลกรมั 60 5 ถงุ ใหญ (7 ช้ิน) 2. เครอ่ื งปรงุ รส 10 5 บาท 185 95 3. บรรจุภณั ฑ 10 เห็ด 1 กิโลกรัม 30 บาท 150 60 4. แกสทําอาหาร 10 90 30/หอ 150 150-90=60 รวมตน ทุน จากตารางท่ี 1 พบวา เห็ดนางฟา 1 กโิ ลกรมั สามารถนํามาแปรรปู เปนแหนมเหด็ ไดจ ํานวน 37 ชิน้ หรอื ประมาณ 5 หอใหญบรรจหุ อละ 7 ชน้ิ ซึ่งมตี น ทนุ ในการผลิต 90 บาท นาํ ไปจาํ หนา ยไดเงนิ จาํ นวน 150 บาทตอ เหด็ นางฟา 1 กิโลกรัม ผลปรากฏวา ไดก าํ ไร 60 บาท ซ่ึงคุมคาตอการผลติ และเปนการเพ่ิมมลู คา ของ เห็ดนางฟา ได
12 2. การออกแบบโลโกผ ลติ ภัณฑของนักเรยี น นกั เรยี นแตละกลมุ ไดว างแผนรว มกัน ในการออกแบบโลโกและบรรจภุ ัณฑในการจาํ หนายสนิ คา พบวาโลโกแ ละบรรจุภณั ฑท ี่นกั เรยี นจดั ทาํ ขนึ้ มคี วามสวยงาม ความคดิ สรางสรรค และเปนการบูรณาการ เทคโนโลยีมาใชใ นกระบวนการทําโครงงานอีกดว ย 3. การแปรรปู อาหารแหมเหด็ นางฟากับหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง นักเรียนนาํ หลักปรชั ญาของ เศรษฐกิจพอเพยี ง ซ่ึงเปน ปรัชญาท่พี ระบาทสมเด็จพระเจา อยูห ัวทรงมี พระราชดํารสั ช้แี นะแนวทางการดาํ เนินชีวิตแกพสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอด ใหดาํ เนินชวี ติ อยูบ นพน้ื ฐานของ ทางสายกลาง คํานงึ ถึงความประมาณ ความมีเหตผุ ล การสรา งภมู คิ ุมกนั ทด่ี ีในตัว ตลอดจนใชความรู ความ รอบคอบและคุณธรรมประกอบการวางแผน การตัดสนิ ใจและการกระทํา โดยการจัดทาํ ความโครงนี้มคี วาม พอประมาณการเลือกวัตถุดิบทมี่ ีในโรงเรียน และหางายในทองถิ่นมาแปรรปู เพอ่ื เพม่ิ มลู คา จากภมู ิปญ ญา ทอ งถิ่น โดยคดิ คํานวณตน ทนุ กําไรใหเหมาะสมกบั การลงทุน รูจ ักวางแผนและออกแบบบรรจุภณั ฑท ใี่ ห ความสําคญั ตอ ผูบริโภค ในเร่ืองความสะอาด อรอยและถูกหลักอนามยั และราคาไมแ พงจนเกินไป
13 บทท่ี 5 สรุปผลการทาํ โครงงาน ในการทําโครงงานการทําแหนมจากเหด็ นางฟา ไดมีการศกึ ษาคน ควาจากหลายแหลง เรยี นรู ไมวา จะเปน หองสมุด การสอบถามผรู ู และจากอินเทอรเน็ต จนสามารถทดลองทาํ แหนมจากเหด็ นางฟา ซ่งึ มี วัตถุดิบในการทําไมม ากนกั และมขี ้ันตอนการทําท่งี า ย และสามารถไดแ หนมจากเห็ดนางฟาท่มี ีรสชาตดิ ี ไม เปร้ยี วจนเกินไป และไมเ คม็ จนเกนิ ไป และแหนมจากเห็ดนางฟาจะมีรสชาตดิ ีมากขึน้ เมอ่ื เรานําไปชบุ แปง ทอดกรอบ หรอื รับประทานคกู ับพรกิ ขี้หนูสวนและแตงกวาสด กเ็ ปน การเพิ่มรสชาติในการรบั ประทานมาข้ึน แลแหนมเหด็ ทผ่ี ลติ ขน้ึ มีตน ทุนในการผลติ 90 บาท นาํ ไปจาํ หนา ยไดเงนิ จํานวน 150 บาทตอ เห็ดนางฟา 1 กโิ ลกรมั ไดก าํ ไร 60 บาท ซ่ึงคุมคา ตอการผลติ และเปนการเพ่ิมมูลคา ของเห็ดนางฟา ได ซ่งึ เปนการสงเสรมิ ให นกั เรยี นมคี วามคดิ สรา งสรรค และบรู ณาการเทคโนโลยมี าใชในกระบวนการทาํ โครงงานโดยยึดหลกั ปรชั ญา ของเศรษฐกิจพอเพยี ง ขอ เสนอแนะ 1. ควรเลือกใชว ัตถุดิบทหี่ ลากหลาย เชน เห็ดชนิดตา ง ๆ มาแปรรปู เปน แหนมเห็ด
14 ภาคผนวก
15 โรงเรอื นปลกู เห็ดของโรงเรยี น
16 ภาพกจิ กรรมการดแู ละเห็ดนางฟา ของนักเรยี น
17 ตวั อยา งโลโกผ ลติ ภัณฑ ออกแบบโดยนักเรียน ชัน้ มธั ยมศึกษาปท ี่ 3
18
19 บรรณานุกรม โครงการศูนยความรกู นิ ได @สานักงานบรหิ ารและพัฒนาองคค วามรู ทอ่ี ยู 69/18-19 อาคารชดุ มวิ บิลดงิ้ ชนั้ 18-19 ถ.วิภาวดรี ังสิต แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 เวบ็ ไซต : http://www.okmd.or.th
20 คณะผูจัดทาํ 1. เด็กชายสหรัฐ เปรมปรดี ิ์ นักเรยี นชัน้ มัธยมศกึ ษาปท่ี 3 2. เดก็ ชายกติ ติพงษ ทิพยม งั อินทร นกั เรียนชัน้ มัธยมศึกษาปท่ี 3 3. เดก็ ชายพงษพทิ ักษ บญุ เฮา นกั เรียนชน้ั มัธยมศกึ ษาปท ่ี 3 4. เดก็ ชายชัยวัฒน อน จนั ทรห อม นักเรยี นชน้ั มัธยมศกึ ษาปท ่ี 3 5. เด็กชายณฐั ภมู ิ ออนขาว นกั เรยี นชั้นมธั ยมศึกษาปที่ 3 6. เด็กชายอัษฎายทุ ธ ทมุ โส นกั เรียนช้นั มัธยมศกึ ษาปท่ี 3 7. เดก็ ชายอดิเทพ บุญเฮา นักเรียนช้ันมธั ยมศกึ ษาปท ่ี 3 8. เด็กชายอดศิ กั ดิ์ เนินนาค นกั เรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษาปท ่ี 3 9. เด็กหญงิ มุทติ า สวุ รรณโมก นักเรียนชน้ั มธั ยมศึกษาปท ่ี 3 10. เด็กหญิงอกั ษราภคั ทิพย มังอนิ ทร นักเรยี นช้ันมัธยมศกึ ษาปท ี่ 3 11. เดก็ หญิงณฐิ ฐินันท ไตรสุ นักเรยี นช้นั มธั ยมศกึ ษาปที่ 3 12. เดก็ หญิงอริศรา หนุ ตริ าช นกั เรียนชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที่ 3 13. เด็กชายภาคนิ อคั จันทร นักเรยี นช้นั มัธยมศึกษาปท ่ี 3
Search
Read the Text Version
- 1 - 23
Pages: