งานวจิ ัยในชน้ั เรยี น การพฒั นาผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นเร่ือง การใชง้ านมัลติมเิ ตอรแ์ บบเขม็ โดยการสอนแบบสาธิต นักเรียน ช้นั มัธยมศึกษาชน้ั ปีท่ี 4/3 สายชา่ งเชือ่ มโลหะ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวัดเชยี งใหม่ โดย นายวรวฒุ ิ อรชุน โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวัดเชยี งใหม่ สานกั บริหารงานการศกึ ษาพเิ ศษ
การพัฒนาบทเรียนคอมพวิ เตอรผ์ ่านเวบ็ ดว้ ยโปรแกรม Google Site ตามแนวทฤษฎสี รา้ งสรรค์ความรู้ เร่ือง หลักการใชม้ ัลตมิ ิเตอร์แบบเข็ม นกั เรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาชนั้ ปที ี่ 4/3 สายช่างเช่อื มโลหะ โรงเรยี นราช ประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่ ทีม่ าและความสาคญั ของปัญหา การจัดการเรียนรู้โดยใช้บทเรยี นคอมพิวเตอร์ผ่านเวบ็ เป็นวิธีการหนึง่ ท่ีมีส่วนช่วย พัฒนาการเรยี นรู้ ของนักเรียน นักเรียนสามารถใช้เวลาใดก็ได้ สถานที่ใดก็ได้ ข้ึนอยู่กับความพร้อม ของนักเรียน โดยไม่จากัด การปฏิสัมพันธ์ไว้แต่เพียงในห้องเรียน ผู้สอนสามารถให้ผลย้อนกลับแก่ นักเรียนได้ทันที โดยไม่ต้องรอให้ถึง เวลาเรียน (พัทธพล2553:ฟุ้งจันทึก,2)ซึ่งการจัดการเรียน การสอนในปัจจุบันได้นาโปรแกรมสาเร็จรูป โปรแกรมคอมพวิ เตอร์ชว่ ยสอน การเรียนการสอน ทางไกลและการเรียนการสอนผ่านเครือข่ายออนไลน์ (ทิศ นา แขมมณี,2556:149–155) เข้ามา เปน็ สือ่ ชว่ ยในการเรยี นการสอนให้มคี ุณภาพมากยง่ิ ขึ้นGoogleโปรแกรม Site เป็นโปรแกรม ออนไลน์หนึ่งท่ีช่วยในการเรียนการสอนของครูโดยสามารถเช่ือมโยงเนื้อหา แหล่งข้อมูล ต่างๆ ไม จะเป็นรูปแบบไฟล์ เสียง วีดิโอ ท่ีนักเรียนสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลได้ง่ายว่าจะอยู่ที่ไหนและไม่ เวลาใด ก็สามารถเกดิ การเรยี นรูด้ ้วยตนเองได้ (องิ อร นลิ ประเสรฐิ 2557:และคณะ,33) โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 อาเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ได้ดาเนินการจัดกิจกรรมการเรยี น การสอนตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ มีความพร้อมทางด้านอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และ ระบบ อินเทอร์เนต็ เพยี งพอท่ีจะให้นกั เรียนศึกษาบทเรยี นคอมพิวเตอรผ์ ่านเว็บได้ โดยมุ่ง กระบวนการความคิดและ การปฏิบัติ ส่งเสริมการจัดการเรียนการสอนให้เป็นไปตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช2551โดยเฉพาะการจัดการเรียนรู้รายวิชาเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสาร จากผลการ ประเมินการจัดการเรียนรู้ ในภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา2562 พบว่า ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนในรายวิชา โครงงานคอมพิวเตอร์เบื้องต้น ร้อยละของนักเรียนท่ีมีผลการเรียนระดับดีขึ้นไป ร้อยละ 57.78 ถือว่า ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นของนักเรียนต่ากว่าเกณฑ์มาตรฐานการเรยี นรู้ กลุม่ สาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชีพและ เทคโนโลยีของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 กาหนดเกณฑ์ คะแนนการผ่านร้อยละ66 ขึ้นไป ซ่ึงพบว่า ปัญหาเกิดจากวิธีการจัดการเรียน การสอนของครูผู้สอนเป็นแบบบรรยายจากใบความรู้ ใบงานและเอกสาร ค่มู ือประกอบการเรียน ไมไ่ ด้เนน้ นักเรยี นใหล้ งมอื ปฏบิ ัตจิ ริง และสร้างองคค์ วามรดู้ ้วยตนเอง ด้วยเหตดุ งั กลา่ ว ผวู้ ิจัยท่ีจะพฒั นาบทเรียนคอมพวิ เตอร์ผ่านเว็บไซต์ดว้ ยโปรแกรม Google Site โดย นาทฤษฎีสร้างสรรค์ความรู้มาช่วยในการพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ผ่านเว็บ เรื่อง หลักการทาโครงงาน คอมพวิ เตอร์ โดยวธิ ีการเลือกแบบเจาะจงกบั นักเรียนชั้นมธั ยมศกึ ษาตอนตน้ จานวน1 ห้องเรียน เพ่ือสรา้ งและ หาประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ผ่านเว็บ ด้วย โปรแกรม Google Site ตามแนวทฤษฎีสร้างสรรค์ ความรู้ เรื่อง หลักการทาโครงงานคอมพิวเตอร์ สาหรับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นเพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรยี นของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาตอนต้นหลังจากเรียนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอรผ์ ่านเว็บ กับเกณฑ์ ร้อยละ70และเพือ่ ศึกษาความพึง พอใจต่อการจัดการเรยี นรู้โดยใช้บทเรยี นคอมพิวเตอร์ผ่านเวบ็ ของนักเรยี น ชัน้ มธั ยมศกึ ษาตอนต้นซ่ึง ประโยชนท์ ่ีได้จากการวจิ ัยจะทาให้นกั เรียนไดร้ ับการพัฒนาความรจู้ ากการเรยี นด้วย บทเรียนคอมพิวเตอร์ผ่านเว็บไซต์ เป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้สาหรับครู อาจารย์ในการใช้บทเรียน คอมพวิ เตอรผ์ า่ นเว็บกบั รายวชิ าอืน่ ระดบั ช้ันอน่ื ตอ่ ไป วัตถุประสงค์
1. เพ่ือสร้างและหาประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ผ่านเว็บ ด้วยโปรแกรม Google Site ตามแนว ทฤษฎีสร้างสรรค์ความรู้ เร่ือง หลกั การทาโครงงานคอมพวิ เตอร์ สาหรบั ช้ัน มัธยมศกึ ษาตอนต้น 2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นหลังจาก เรียนโดยใช้ บทเรยี นคอมพิวเตอร์ผา่ นเวบ็ ไซต์ กบั เกณฑร์ ้อยละ70 3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ผ่านเว็บของ นักเรียนชั้น มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ ขอบเขตการวิจยั การวจิ ยั ครั้งน้ผี ู้วิจัยไดก้ าหนดขอบเขตการวจิ ยั ไว้ดังน้ี 1. ประชากรและกล่มุ ตัวอยา่ ง ประชากรท่ใี ชใ้ นการวจิ ยั ครั้งน้ี ได้แกน่ กั เรยี นชั้นมัธยมศึกษาตอนตน้ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 อาเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ กลุ่มตัวอย่างท่ีใช้ในการวิจัยคร้ังนี้ ได้แก่ นักเรียนช้ันมัธยมศึกษาตอนต้นที่ กาลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา2562 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 อาเภอแม่แจ่ม จังหวัด เชียงใหม่ จานวน 40 คน จานวน 1 หอ้ งเรียน ทไ่ี ดม้ าโดยวิธีการเลอื กแบบเจาะจงPurposive( Sampling) ทมี่ ี ห้องเรียนเป็นหน่วยในการเลือก 2. เนื้อหา เนื้อหาที่ใช้ในการวิจัย ไดแ้ ก่ เนื้อหากลมุ่ สาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี เรือ่ ง หลกั การ ทาโครงงานคอมพวิ เตอร์ ชน้ั มัธยมศึกตอนต้น ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษา ขนั้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช2551 3. ตัวแปรทศี่ ึกษา ตัวแปรต้น ได้แก่ การจัดการเรียนรู้โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ผ่านเว็บ ตัวแปรตาม ได้แก่ 1) ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน 2) ความพงึ พอใจต่อการจัดการเรยี นรู้ ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 1. นักเรียนไดร้ ับการพฒั นาความรู้จากการเรยี นด้วยบทเรยี นคอมพวิ เตอร์ผ่านเวบ็ ไซต์ 2. เป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้สาหรับครู อาจารย์ในการใช้บทเรียน คอมพิวเตอร์ผ่านเว็บกับ รายวิชาอน่ื ระดบั ชน้ั อ่ืนต่อไป ประชากรและกล่มุ ตัว ประชากรทใี่ ชใ้ นการวิจยั ครัง้ นี้ ได้แก่นกั เรยี นช้ันมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 อาเภอแม่แจ่ม จังหวดั เชยี งใหม่ กลุ่มตัวอย่างท่ใี ชใ้ นการวิจยั คร้ังนี้ ได้แก่ นกั เรียนชัน้ มธั ยมศึกษาตอนต้นท่ี กาลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา2562 โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 อาเภอแม่แจม่ จงั หวัด เชยี งใหม่ จานวน 40 คน จานวน 1 หอ้ งเรยี น ท่ีไดม้ าโดยวธิ ีการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือทีใ่ ชใ้ นการวิจัย
1. บทเรียนคอมพิวเตอร์ผ่านเว็บด้วยโปรแกรมGoogle Site ตามแนวทฤษฎี สร้างสรรค์ความรู้ เร่ือง หลกั การทาโครงงานคอมพิวเตอร์ 2. แผนการจดั การเรียนรู้ด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ผ่านเว็บ ดว้ ยโปรแกรมGoogle Site ตามแนวทฤษฎี สร้างสรรค์ความรู้ เร่อื ง หลกั การทาโครงงานคอมพิวเตอร์ 3. แบบประเมนิ ผลงานนกั เรียน 4. แบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธิท์ างการเรยี น 5. แบบประเมินความพงึ พอใจต่อการจัดการเรยี นรู้โดยใช้บทเรยี นคอมพิวเตอร์ผา่ นเว็บ การเกบ็ รวบรวมข้อมลู 1. ครูผู้สอนแนะนาวิธีการใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ผ่านเว็บ ที่จัดทาขึ้นตามแผน จัดการเรียนรู้ตามแนว ทฤษฎีสร้างสรรค์ความร้ขู องยาเกอร(์ Yager)โดยให้นักเรียนเข้าไปบทเรียนคอมพวิ เตอร์ผ่านเว็บ ด้วย โปรแกรมGoogle Site 2. นักเรยี นเข้าไปเรยี นบทเรียนคอมพวิ เตอรผ์ ่านเว็บในWebsite https://sites.google.com/view/kruwootrpk31เพ่อื ศกึ ษาบทเรียน คอมพิวเตอร์ผา่ นเวบ็ ด้วย โปรแกรมGoogle Site ทพ่ี ัฒนาตามแนวทฤษฎีสรา้ งสรรคค์ วามรู้ของยาเกอร์ (Yager) เร่ือง หลักการ ทาโครงงานคอมพวิ เตอร์จานวน 6 หนว่ ย ใชเ้ วลาเรียน14 ชวั่ โมง 3. นักเรียนศึกษาบทเรียนคอมพิวเตอร์ผ่านเว็บด้วยโปรแกรมGoogleSiteที่พัฒนาตามแนวทฤษฎี สร้างสรรค์ความรู้ของยาเกอร์ เรื่องหลักการทาโครงงานคอมพิวเตอร์ โดยมี ครูผู้สอนคอยให้ คาแนะนา ชแ้ี นะ เพื่อใหน้ กั เรียนเกิดการเรียนรู้ สามารถเรยี นรแู้ ละเชอ่ื ทีม่ ีกบั ความรูใ้ หมท่ ไี่ ดร้ ับจาก การเรียนบทเรียนคอมพวิ เตอรผ์ ่านเว็บ จนสามารถลงมอื ปฏิบตั ิ สรา้ งผลงานท่ตี นเองสนใจได้ 4. นักเรียนทาใบงาน หลังจากศึกษาบทเรียนแต่ละบทเรียนและส่งคาตอบไปทาง อีเมล์ของครูผู้สอน [email protected] 5. ครูผู้สอนตรวจคาตอบ และรายงานผลให้นักเรียนทราบ ซึ่งในแต่ละบทเรียน ครูผู้สอนจะใช้แบบ ประเมินทักษะการท าผลงานนักเรียนในองค์ประกอบ5ด้านคือ ความคิด สร้างสรรค์ การสื่อ ความหมาย การจัดองค์ประกอบ ทกั ษะการทางาน และการนาเสนอ หลงั จาก นักเรยี นเรยี นครบท้ัง6 บทเรียน ให้นักเรียนทาแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน จานวน 20 ข้อและทาแบบประเมิน ความพึงพอใจต่อการจัดการเรยี นรู้โดยใช้บทเรยี นคอมพิวเตอรผ์ า่ นเว็บ การวิเคราะห์ข้อมูล 1. ตรวจให้คะแนนการทาแบบทดสอบ การปฏบิ ตั ิงานตามใบงานทัง้ 6บทเรยี นจากนัน้ หาค่าร้อยละของ คะแนนเฉลี่ยรวม กาหนดค่าเป็น ������1ประสิทธิภาพของกระบวนการ แล้วตรวจคะแนนแบบทดสอบ วัดผลสัมฤทธิท์ างการเรยี น เรอ่ื ง หลกั การทาโครงงานคอมพิวเตอร์ จานวน 30 ข้อ หาค่าเฉล่ยี ร้อยละ ของคะแนนท่ีนักเรียนทาได้กาหนดค่าเปน็ ประสิทธิภาพ ������2ของผลลัพธ์ โดยประสทิ ธิภาพตามเกณฑ์ ทกี่ าหนดไว้คือ ������1/������2 เทา่ กบั 85/85 2. นาแบบทดสอบหลังเรียนของนักเรียนกลุ่มตัวอย่างมาตรวจให้คะแนน แล้วนามาวิเคราะห์ผลหา ค่าเฉลี่ย (���̅���) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน(S.D.) จากนั้นนามาเปรียบเทียบค่าเฉล่ีย ของคะแนน ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนของนกั เรียนหลังเรียนกับเกณฑ์ ร้อยละ70 ดว้ ยค่าสถติ ิ t-test (One Sample t-test)
3. นาแบบประเมินความพงึ พอใจของนักเรยี นทีม่ ีตอ่ การจัดการเรยี นร้โู ดยใช้ บทเรียนคอมพิวเตอร์ผ่าน เว็บด้วยโปรแกรมGoogle Site ตามแนวทฤษฎีสร้างสรรค์ความรู้ ของนักเรียนกลุ่มตัวอย่างมา วเิ คราะหผ์ ลหาค่าเฉลีย่ (���̅���) และสว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) สถิติท่ีใช้ในการวิจยั ได้แก่ ค่าเฉลยี่ (���̅���) คา่ เบยี่ งเบนมาตรฐาน(S.D.) และ สถิติทดสอบt-test (One Samples t-test) ข้นั ตอนการวิจัย แบง่ ออกเป็น3 ขน้ั ตอน ดังภาพท่ี1 ข้ันตอนท่ี 1 หาประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ผ่านเว็บ1 ด้วยโปรแกรม Google Siteตาม แนวทฤษฎีสร้างสรรค์ความรู้ เร่ือง หลักการท าโครงงานคอมพิวเตอร์ สาหรับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ประกอบด้วย 1.1 ผู้วิจัยศึกษา ออกแบบ สร้างบทเรียนคอมพิวเตอร์ผ่านเว็บ ด้วยโปรแกรม Google Site ตาม แนวคิดของADDIE Model 5 ขั้นตอนคือ การวิเคราะห์ การออกแบบการ พัฒนา การนาไปใช้ และการ ประเมินผล โดยออกแบบผสมผสานระหว่างโครงสร้างแบบเรียงลาดับ โครงสร้างลักษณะตาราง โครงสร้าง ลักษณะลาดับชั้นและโครงสร้างลักษณะเว็บของ ถนอมพร เลาหจรัสแสง (2545 : 128- 130) ให้สอดคล้อง ตามแนวทฤษฎีสร้างสรรค์ความรู้ของยาเกอร์ เรื่อง หลักการทาโครงงานคอมพิวเตอร์ สาหรับช้ันมัธยมศึกษา ตอนต้น 1.2 ผ้เู ช่ยี วชาญด้านเนอ้ื หาและดา้ นการออกแบบบทเรียนคอมพวิ เตอรผ์ ่านเว็บ จานวน 5 ท่าน ดาเนินการประเมินความเหมาะสมของบทเรียนคอมพวิ เตอร์ผ่านเว็บแกรมดว้ ยโปร Google Site ตามแนวทฤษฎีสร้างสรรคค์ วามรู้ เรอ่ื งหลักการทาโครงงานคอมพิวเตอร์ สาหรับชั้น มัธยมศกึ ษาตอนต้นจากน้นั ผวู้ จิ ยั นามาปรบั ปรงุ และแก้ไข 1.3 หาประสทิ ธิภาพของบทเรียนคอมพวิ เตอรผ์ ่านเว็บ ดว้ ยโปรแกรมGoogle
Site ตามแนวทฤษฎีสร้างสรรค์ความรู้ เร่ืองหลักการทาโครงงานคอมพิวเตอร์ ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นตาม เกณฑ์85/85 โดยการนาไปทดลองใช้กับ นักเรียนช้ันมัธยมศึกษาตอนต้นโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จานวน40 คน ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2562 ข้นั ตอนท่ี2 เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังการเรียนรูจ้ าก บทเรยี น คอมพิวเตอร์ผ่านเวบ็ ด้วยโปรแกรมGoogle Site ตามแนวทฤษฎีสร้างสรรค์ความรู้ เร่ือง หลักการทา โครงงานคอมพวิ เตอร์สาหรับชนั้ มัธยมศกึ ษาตอนต้น กับเกณฑร์ อ้ ยละ70 กับนักเรยี น กลุ่มตัวอย่าง โดยการทบบทดสอบผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียนหลังเรียน จานวน 30ขอ้ ข้ันตอนท่ี3 ศกึ ษาความพึงพอใจของนกั เรียนทีม่ ีตอ่ การจดั การเรียนร้โู ดยใชบ้ ทเรียน คอมพิวเตอร์ผ่านเว็บด้วยโปรแกรมGoogle Site ตามแนวทฤษฎีสร้างสรรค์ความรู้ โดยให้นักเรียน กลุ่ม ตวั อย่างตอบแบบประเมนิ ความพงึ พอใจต่อการเรียนรโู้ ดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ผา่ นเวบ็ ผลการวิจยั 1.บทเรยี นคอมพิวเตอร์ผา่ นเว็บ ดว้ ยโปรแกรมGoogle Site ตามแนวทฤษฎีสรา้ งสรรค์ ความรู้ เรื่อง หลกั การ ทาโครงงานคอมพิวเตอร์ สาหรับช้ันมัธยมศึกษาตอนต้นได้บทเรียน คอมพิวเตอร์ จานวน6บทเรียน มีเน้ือหา รายละเอยี ด ดงั ตาราง1 ตาราง 1 รายละเอยี ดบทเรียนคอมพิวเตอรผ์ า่ นเว็บ ด้วยโปรแกรมGoogleSite ตามแนวทฤษฎี สร้างสรรค์ความร้เู รอ่ื งหลักการทาโครงงานคอมพิวเตอร์สาหรับชน้ั มธั ยมศึกษาตอนตน้ บทเรียนคอมพิวเตอรผ์ ่าน เวลาเรยี น หวั ข้อเร่อื ง เน้ือหา เว็บ (ชั่วโมง) ความหมาย ความสาคัญและ ประกอบด้วยเน้อื หาเกย่ี วกับ บทเรียนที่ 1 2 ประเภทของโครงงานคอมพวิ เตอร์ ความหมายความสาคญั ประเภท บทเรยี นที่ 2 2 ของโครงงานคอมพิวเตอร์และ ตวั อย่างชอ่ื โครงงานคอมพวิ เตอร์ ข้ั น ต อ น ก าร พัฒ น า โ คร ง ง าน ประกอบด้วยเน้ือหาเก่ียวกั บ คอมพวิ เตอร์ องค์ประกอบของโครงงาน ขนั้ ตอน การพัฒนาโครงงานและตัวอย่าง หัวข้อโครงงานคอมพิวเตอร์
บทเรยี นท่ี 3 2 คุ ณ ลั ก ษ ณ ะ ข อ ง โ ค ร ง ง า น ประกอบด้วยเนื้อหาเก่ียวกั บ คอมพิวเตอร์ที่ดีและเกณฑ์ในการ คุ ณ ลั ก ษ ณ ะ ข อ ง โ ต ร ง ง า น ประเมินผลโครงงานคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ท่ีดี และเกณฑ์การ ประเมนิ ผงโครงงานคอมพิวเตอร์ บทเรยี นท่ี 4 2 ผลกระทบทางบวกและลบของ ประกอบไปด้วยเน้ือหาเก่ียวกับ โครงงานคอมพวิ เตอร์ ผลกระทบทางบวกและทางลบของ โครงงานคอมพวิ เตอร์ บทเรียนท่ี 5 2 การเขยี นเคา้ โครงงานคอมพิวเตอร์ ประกอบไปด้วยเนื้อหาเกี่ยวกับ การวางแผนการทาโครงงานและ การเขียนเคา้ โครงงานคอมพิวเตอร์ บทเรยี นท่ี 6 4 การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศในการ ประกอบด้วยเนื้อหาเก่ียวกั บ นาเสนองาน ความหมายวัตถุประสงค์ หลักการ ออกแบบส่ือสาหรับการนาเสนอ และการนาซอฟต์แวร์มาช่วยใน การนาเสนอ จากเนื้อหาสาระของบทเรียนคอมพิวเตอร์ผ่านเว็บในตาราง1พบว่าบทเรียน คอมพิวเตอร์ผ่านเว็บ ด้วย โปรแกรมGoogle Site ตามแนวทฤษฎีสร้างสรรค์ความรู้ เร่ือง หลักการทาโครงงานคอมพิวเตอร์ สาหรับช้ัน มัธยมศึกษาตอนต้นทุกบทเรยี นมคี วามสอดคล้องระหว่างเนือ้ หา จุดประสงค์ มาตรฐานการเรยี นรู้ ตัวช้ีวัดกับ สาระการเรียนรู้แกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน2551 และมอี งคป์ ระกอบเหมาะสมอยู่ในระดบั ดีมาก 2.บทเรียนคอมพิวเตอร์ผ่านเว็บ ด้วยโปรแกรมGoogle Site ตามแนวทฤษฎีสร้างสรรค์ ความรู้ เร่ือง หลกั การทาโครงงานคอมพิวเตอร์ สาหรับชั้นมธั ยมศึกษาตอนต้นมีประสทิ ธิภาพดัง ตาราง 2 ตาราง 2 ผลการหาประสิทธิภาพบทเรียนคอมพวิ เตอร์ผ่านเว็บ ผลการทดสอบ คะแนนเฉลี่ยการทาแบบทดสอย/การบา้ น ผลสัมฤทธิ์ บทเรียน 1 2 3 4 5 6 1045 คะแนน 350 343 348 336 344 346 26.35 เฉล่ยี 8.75 8.58 8.70 8.40 8.60 8.65 ร้อยละ 87.5 85.75 87.00 84.00 86.00 86.50 ������������= 87.83 ������������ =86.13 จากตาราง 2 พบว่า คะแนนเฉลี่ยระหว่างเรียนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ผ่านเว็บ ด้วย โปรแกรม Google Site ตามแนวทฤษฎีสร้างสรรค์ความรู้ เร่ือง หลักการทาโครงงานคอมพิวเตอร์ ช้ันมัธยมศึกษาตอนต้นมี คะแนนเฉล่ยี เทา่ กบั 86.13 จาก 100 คะแนน แสดงว่า ประสิทธภิ าพของ กระบวนการ (E1) เทา่ กับ86.13 จาก การทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน จากคะแนนเต็ม30 คะแนน ได้ค่าเฉล่ีย26.35 แสดงว่า ประสิทธิภาพของผลลพั ธ์(E2) เทา่ กับ87.83 ดังนัน้
บทเรียนคอมพวิ เตอร์ผ่านเว็บ ด้วยโปรแกรมGoogle Site ตามแนวทฤษฎสี ร้างสรรค์ความรู้ เรอื่ ง หลักการทา โครงงานคอมพิวเตอร์ สาหรบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่3มปี ระสิทธิภาพเท่ากับ 86.13/87.83 สูงกว่าเกณฑ์85/85 ที่ กาหนดไว้ 3 .การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนกั เรยี นหลังเรียนกบั เกณฑร์ ้อยละ70ดัง ตาราง 3 ตาราง 3 ผลการเปรียบเทียบผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนของนักเรียนหลงั เรยี นกบั เกณฑ์ร้อยละ70 จานวน คะแนนเต็ม คะแนนร้อย คา่ เฉล่ีย คา่ เบย่ี งเบน t Sig. นักเรียน ละ 70 กลมุ่ ตัวอย่าง มาตรฐาน 10.658 0.000 40 30 21.00 26.35 3.175 จากตาราง 3 พบว่า นักเรียนที่เรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ผ่านเว็บ มีผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนหลังเรียน เฉล่ีย26.35 คิดเป็น ร้อยละ87.83 สูงกว่าเกณฑ์ระดับคะแนนเฉลี่ยร้อยละ70 ( ���̅���= 21.00) อย่างมีนัยสาคัญ ทางสถติ ทิ ่รี ะดบั .05 4. ผลการศึกษาความพงึ พอใจตอ่ การจัดการเรียนรู้โดยใช้บทเรียนคอมพวิ เตอรผ์ ่านเว็บ ของนักเรยี นช้ัน มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ ดงั ตาราง4 ตาราง 4แสดงผลการศึกษาความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ผ่าน เว็บของ นักเรยี นช้นั มธั ยมศึกษาตอนต้น รายการประเมิน ���̅��� S.D. ระดับความพึงพอใจ ส่วนประกอบดา้ นการออกแบบ 4.54 0.48 มากที่สุด ส่วนประกอบดา้ นเนื้อหา 4.78 0.41 มากทส่ี ดุ ดา้ นการเรยี นรู้ตามแนวคดิ ทฤษฎีสรา้ งสรรค์ 4.54 0.48 มากท่ีสุด เฉลย่ี 4.62 0.46 มากที่สุด จากตาราง 4 พบว่า นักเรียนช้ันมัธยมศึกษาตอนต้น ท่ีเรียนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ ผ่านเว็บ ด้วย โปรแกรมGoogle Site ตามแนวทฤษฎีสร้างสรรค์ความรู้เร่ือง หลักการทาโครงงาน คอมพิวเตอร์ มีความพึง พอใจตอ่ การจดั การเรียนรูโ้ ดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอรผ์ า่ นเว็บ อย่ใู นระดบั มากท่ีสุด สรปุ และอภิปรายผล จากการพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ผ่านเว็บ ด้วยโปรแกรมGoogle Site ตามแนว ทฤษฎีสร้างสรรค์ความรู้ เรอื่ ง หลกั การทาโครงงานคอมพิวเตอร์ สาหรบั ชั้นมัธยมศึกษาตอนตน้ สามารถอภปิ รายผลการวจิ ยั ไดด้ งั นี้ 1.บทเรียนคอมพิวเตอร์ผ่านเว็บ ด้วยโปรแกรมGoogle Site ตามแนวทฤษฎีสร้างสรรค์ ความรู้เรื่อง หลักการทาโครงงานคอมพิวเตอร์ สาหรับช้ันมัธยมศึกษาตอนต้นท่ีสร้างข้ึนจานวน 6 บทเรียน ผ่านการ พิจารณาความเหมาะสมในด้านต่างๆ ของบทเรียนคอมพิวเตอร์ผ่านเว็บจาก ผู้เช่ียวชาญ พบว่า ด้านเน้ือหา สาระและจุดประสงค์การเรียนรู้มีความสอดคล้องกบั หลัก แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และมีความเหมาะสมด้านองค์ประกอบต่างๆ อยู่ ในระดับมากที่สุดและเม่ือนามาทดลองใช้กับกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา2562
จานวน40 คน พบว่านักเรียนมผี ลคะแนน ทดสอบระหว่างเรียน6 บทเรียน มีค่าร้อยละ86.13 และค่าเฉลี่ยรวม เท่ากับร้อยละ87.83แสดง ว่าบทเรียนคอมพิวเตอร์ผ่านเว็บ ด้วยโปรแกรมGoogleSite ตามแนวทฤษฎี สรา้ งสรรคค์ วามร้ทู ่ี ผูว้ จิ ัยสรา้ งข้นึ มีประสทิ ธภิ าพE1/E2)เท่ากบั (86.13/87.83 สงู กวา่ เกณฑ์85/85 ทีก่ าหนดไว้ ทง้ั นี้ เพราะบทเรียนคอมพิวเตอร์ผ่านเว็บ ด้วยโปรแกรมGoogle Site ตามแนวทฤษฎีสร้างสรรค์ความรู้ เรื่อง หลักการทาโครงงานคอมพวิ เตอร์ ช้ันมธั ยมศึกษาตอนต้น ท่สี รา้ งและพัฒนาข้ึนน้ีผู้วิจัยได้ดาเนนิ การออกแบบ บทเรียนคอมพิวเตอร์ผ่านเว็บ ด้วยโปรแกรมGoogleSite ตามแนวทฤษฎีสร้างสรรค์ความรู้ประกอบไปด้วย วิธีการใชบ้ ทเรียนคอมพิวเตอร์ผ่านเว็บตามแนวคิดวิธีการระบบของ ADDIE Model (มนตช์ ัย เทียนทอง,2545: 148) 5 ขนั้ ตอน ไดแ้ ก่ การวิเคราะห์ การออกแบบ การพัฒนา การนาไปใช้ และการประเมินผล โดยออกแบบ ผสมผสานระหว่าง โครงสร้างแบบเรยี งลาดับ โครงสร้างลักษณะตาราง โครงสร้างลักษณะลาดับชั้นโครงสรา้ ง และ ลักษณะเวบ็ ของ ถนอมพร เลาหจรัสแสง2545:( 128-130) เพื่อใหส้ อดคล้องกบั แผนการจัดการ เรียนรใู้ น การจัดการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีสร้างสรรค์ความรู้4ข้ันตอนตามรูปแบบของยาเกอร์ (Yager, 1993: 145 - 151 อ้างถึงใน ชัยวัฒน์ สุทธิรัตน์,2553:85–86) ซึ่งได้แก่ข้ันเชิญชวนข้ันสารวจ ขั้นนาเสนอ และขั้นนาไป ปฏิบัติ ซ่ึงเน้นให้ผู้เรียนสร้างความรู้ใหม่ด้วยตนเองโดยการาไปปฏิบัติ เช่ือมโยงประสบการณ์เดิมหรอื ความรู้ เดิมที่มีอยู่กับความรู้ใหม่ แล้วกระตุ้นให้ผู้เรียน เรียนรู้และค้นพบคาตอบ สอดคล้องกับงานวิจัยของาตอบ บัญชา สารวยรื่น(Samruayruen et al.,2013: 45-69)ได้ทาการวิจัยเร่ือง การเปรียบเทียบคุณลักษณะการ เรียนแบบควบคุมตนเองท่ีประสบความสาเรจ็ กับแบบไม่ประสบความสาเร็จของe-Learning ในประเทศไทย ผลการวิจัยพบวา่ การเรียนผา่ นเครือขา่ ยอินเทอร์เนต็ ในประเทศไทยแบบควบคุมตนเองจะประสบความสาเรจ็ ข้ึนอยู่กับ เพศ ช่วงอายุ สถานภาพ และประสบการณ์ในการใช้อินเทอร์เน็ตจึงทาให้ผู้เรียนเกิดการเรยี นรทู้ ่มี ี ประสิทธิภาพ ส่งผลให้ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์ท่ีกาหนดและ สอดคล้องกับผลการ พัฒนาของ (พงษ์ศักดิ์2555:บัวหุ่ง47) ได้ทาการพัฒนาบทเรียนออนไลน์ เร่ือง การสร้างเว็บเพจ สาหรับ นักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่3โรงเรียนพรตพิทยพยัต ที่มี ประสิทธิภาพตามเกณฑ์85/85 กลุ่มตัวอย่างท่ีใช้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี3ภาคเรียนท่ี1 ปีการศึกษา2554 โรงเรียนพรตพิทยพยัต จานวน48คน โดยได้มา จากการสุ่มอย่างงง่าย ผลการ พัฒนาพบว่า บทเรียนออนไลน์ เรื่อง การสร้างเว็บเพจ สาหรับนักเรียนช้ัน มัธยมศึกษาปี3 โรงเรยี นพรตพทิ ยพยัต มปี ระสทิ ธภิ าพ89.83/91.33 ซ่ึงสงู กวา่ เกณฑ์ที่กาหนด85/85 2.การเปรียบเทยี บผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนของนักเรียนหลังการเรยี นรจู้ ากบทเรียน คอมพิวเตอร์ผ่าน เวบ็ ด้วยโปรแกรมGoogle Site ตามแนวทฤษฎสี รา้ งสรรค์ความรู้ เรอ่ื ง หลกั การ ทาโครงงานคอมพิวเตอร์ สาหรับช้ันมัธยมศึกษาตอนต้นกับเกณฑ์รอ้ ยละ70 พบว่านักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทการ เรียนหลังเรียนสงู กว่าเกณฑ์ร้อยละ70อย่างมนี ยั สาคญั ทางสถิติที่ระดบั 0.5 สอดคลอ้ งกับงานวิจัยของลดารัตน์ สงวรรณา2553:( บทคัดย่อ)ได้ศึกษาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน ของนักเรียนหลังเรียนกับเกณฑ์ร้อยละ75ด้วย บทเรียนออนไลน์แบบเว็บเควสท์ เรื่อง ทฤษฎีกราฟ เบื้องต้นช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี5ของโรงเรียนป้อมนาคราช สวาทยานนท์ พบวา่ ผลสมั ฤทธ์ิทางการ 3.การศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี3ที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้ บทเรียน คอมพวิ เตอร์ผ่านเว็บดว้ ยโปรแกรมGoogle Site ตามแนวทฤษฎีสร้างสรรค์ความรู้ เร่ือง หลักการทาโครงงาน คอมพวิ เตอร์ พบว่า นักเรียนชน้ั มธั ยมศกึ ษาตอนต้นจานวน40คนที่เรียนโดยใชบ้ ทเรียนคอมพวิ เตอรผ์ ่านเวบ็ มี ความพึงพอใจอยู่ในระดับมากท่ีสุด( ������ =4.62, S.D.=0.46)สอดคล้องกับผลการพัฒนาของ อัญชลี ขุนศรีสุข
2553:112(-114) ได้ทาการพัฒนาบทเรียนคอมพวิ เตอร์ผ่านเว็บวิชาการผลิตส่ือส่ิงพิมพ์Adobeด้วยโปรแกรม PageMaker7.0 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์85/85 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ คือ ผู้เรียนระดับปวช.2สาขางานการ บัญชี.วิทยาลัยอาชีวศึกษาภูเก็ต ภาคเรียนท่ี2ปีการศึกษา2553 จานวน30 คน โดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง และผลการประเมินความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ ช่วยสอนผ่านเว็บอยู่ในระดับมาก ทสี่ ุด ทงั้ น้กี ารสง่ เสริมกิจกรรมการเรยี นรู้เปน็ วธิ ีการท่สี ร้างความสนใจให้กับนกั เรียนเพราะนกั เรียนเองได้ลงมือ ปฏิบัติและค้นพบองค์ความรู้ด้วยตนเอง โดยส่ิงสาคัญท่ีช่วยให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดี ซ่ึงนาไปสู่ความพงึ พอใจ ประกอบดว้ ย ความเหมาะสมและความพร้อมของผูเ้ รียนในระดบั พัฒนาการทางกาย อารมณ์ สติ ปญั ญา ใจ ความสามารถและประสบการณ์เดมิ แรงจงู ใจทัง้ ภายในและภายนอก ทัศนคติท่ดี ีตอ่ สง่ิ ท่ีเรียนตรงตามความ ต้องการ ความปรารถนาและความสนใจของผู้เรียน สิ่งที่เรียนรู้ใหม่สอดคล้องกบั ประสบการณ์2537:(เชียรศรี 22) วิวิธสิริ,โดยการศึกษาครง้ั นี้ผู้วิจัยไดอ้ อกแบบบทเรียนคอมพิวเตอร์ผ่านเว็บให้มคี วามน่าสนใจ ง่ายต่อการ ใช้งาน มีลักษณะของขนาด สี แบบอักษร สวยงามเหะสมกับระดับผู้เรียน มีตัวอย่างเว็บไซต์เช่ือมโยงข้อมูล สารสนเทศไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ ในด้านเนอื้ หามคี วามเหมาะสมสอดคล้องกับจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ใช้ภาษา ถูกต้องเนื้อหามีความยาก-ง่ายน่าสนใจ มีการประเมินผลท่ี ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ สอดคล้องด้าน ตามแนวทฤษฎีสร้างสรรค์ความรู้ท่ี กระตุ้นให้ผู้เรียนค้นคว้าหาคาตอบและสร้างความรู้ด้วยตนเอง ส่งเสริม ผู้เรียนให้มีกา ระหว่างผู้เรียนกับผู้สอนในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน โดยมีการจัดกิจกรรมให้ผู้เรียนมี กระตอื รือร้นที่จะเรยี นรจู้ ากประสบการณ์ตรงผลทมี่ าคอื ผู้เรยี นเกดิ ความประทบั ใจ สนใจ และมคี วามพึงพอใจ ตอ่ การจัดการเรยี นรู้โดยใชบ้ ทเรียนคอมพิวเตอรผ์ า่ นเวบ็ ในระดบั มากท่ีสุด ข้อเสนอแนะ ข้อเสนอแนะในการน าผลการวิจัยไปใช้ 1.การจัดกิจกรรมการเรียนรูโ้ ดยใช้บทเรยี นคอมพิวเตอรผ์ า่ นเว็บGoogleด้วยโปรแกรม Site ตามแนวทฤษฎีสรา้ งสรรค์ความรู้ เปน็ รูปแบบการจดั การเรียนรูท้ ท่ี าให้ผลสมั ฤทธ์ทิ างกา ของผู้เรยี นสูงข้นึ รวมถึงทาใหผ้ เู้ รยี นมเี จตคติทีด่ ีต่อการเรียนเนน้ ให้ผูเ้ รยี นไดท้ บทวนความรู้เดมิ เช่ือมโยงกับความรู้ใหม่โดยการ ค้นหาคาตอบดว้ ยตนเอง 2.ครผู ้สู อนควรชีแ้ นะให้คาดูแลแนะนาตดิ ตามสงั เกตการณ์นกั เรยี นที่มีปญั หาในการเรียนรอู้ ยา่ งใกล้ชดิ เนอื่ งจากนกั เรยี นอาจจะยงั ไม่เข้าใจในการใช้บทเรยี นคอมพวิ เตอรผ์ ่านเวบ็ 3.ครูผู้สอนควรกระตุ้นให้ผู้เรยี นช่วยกันตั้งคาถามเพ่ือนาไปสู่การหาคาตอบและ ส่ิงใหม่ควบคู่กับการทบทวน ความรู้เดมิ คอยชแี้ นะแนวทางการเรียนร้ขู องผ้เู รียนรวมถงึ การ ส่งเสริมความคิดนอกกรอบของผเู้ รียนท่ีน่าทา ไดจ้ รงิ เพอ่ื ใหผ้ ้เู รยี นได้ประสบความสาเร็จในการเรยี นรู้ 4.ครผู ู้สอนชแ้ี นะนกั เรียนในขน้ั ตอนการน างานออกมาจากบทเรยี นคอมพิวเตอร์ผา่ นเว็บ เพื่อใหน้ ักเรียนปรับ แก้ไข เพ่ิมคาตอบของใบงาน แบบฝึกหัด และสามารถส่งคาตอบทางอีเม ย้อนกลับให้กับครูผู้สอนได้อย่าง ถูกตอ้ ง ขอ้ เสนอแนะในการทาวจิ ัยในคร้ังต่อไป 1.ควรมีการวิจยั และพัฒนาบทเรยี นคอมพวิ เตอร์ผ่านเว็บ เพ่อื เพ่มิ ทักษะการเรยี นรู้ ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี น และความพงึ พอใจตอ่ การจัดการเรียนรู้โดยใช้บทเรยี นคอมพวิ เตอรผ์ า่ น เวบ็ ของผู้เรียนให้สูงข้นึ ต่อไป
2.ควรศกึ ษาการจัดกจิ กรรมการเรียนรดู้ ว้ ยบทเรียนคอมพวิ เตอร์ผา่ นเวบ็ ท่ีพัฒนาตาม แนวทฤษฎสี รา้ งสรรค์ ความรู้ในหัวขอ้ อื่นๆ เพอ่ื เป็นการพฒั นาการเรยี นการสอนใหแ้ กผ่ เู้ รยี น เอกสารอา้ งอิง
ชยั วัฒน์ สุทธริ ตั น์2553).80.( นวัตกรรม การจดั การเรยี นรู้ทเ่ี น้นผเู้ รยี นเปน็ สาคญั .(พิมพ์คร้งั ที่2).กรงุ เทพฯ:แด เนก็ ซ์ อนิ เตอรค์ อร์ปอเรช่นั . เชยี รศรวี วิ ธิ สิริ2537).(. จติ วทิ ยาการเรียนรู้ของผ้ใู หญก่ รุงเทพฯ:.มหาวิทยาลยั ศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร. ถนอมพร เลาหจรสั แสง(2545).. หลกั การออกแบบและการสรา้ งเวบ็ เพือ่ การเรียนการสอน.กรงุ เทพฯ: อรุณ กราฟกิ .ทศิ นา แขมมณี(2556).. ศาสตร์การสอน องค์ความรเู้ พอื่ การจัดกระบวนการเรียนรทู้ ่มี ีประสทิ ธภิ าพ. (พิมพ์ครัง้ ท่ี17).กรงุ เทพฯ: จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย. นครไทย, โรงเรียน. 2557)(. ปัญหาการจดั การเรยี นการสอนวิชาคอมพิวเตอร์การประชุม. ขา้ ราชการครูประจาเดือนมนี าคม, วนั ท17มนี่ าคม พ.ศ2557. ณ หอ้ งโสต ทัศนศึกษา โรงเรียนนครไทย. พษิ ณุโลก:ล่มุ บริหารงานวิชาการ โรงเรยี นนครไทย. พงษศ์ ักด์ิ บวั ห่งุ 2555).การพฒั นาบทเรียนออนไลน์.( เรอื่ ง การสร้างเว็บเพจส าหรับนกั เรยี น ชั้นมธั ยมศกึ ษาปี ท3่ี .(วิทยานพิ นธก์ ารศกึ ษามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลยั ศรนี ครนิ ทรวโิ รฒ, กรุงเทพมหานคร. พทั ธพลฟุ้งจันทกึ 2553).(. การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอรผ์ ่านเว็บ วิชาฮาร์ดแวร์และยูทิลติ ี้ เบอื้ งต้น. (วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑติ ). มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยพี ระจอมเกลา้ พระ นครเหนือ,กรุงเทพมหานคร. มนตช์ ัย เทยี นทอง2545).(. การออกแบบคอรส์ แวร์และการพัฒนาบทเรยี นคอมพวิ เตอรช์ ว่ ย สอน. กรุงเทพฯ: สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนอื .ลดารตั น์ สงวรรณา2553).(. ผลการจัดการเรยี นการสอนดว้ ย บทเรียนออนไลน์แบบเวบ็ เควสท์ เร่ือง ทฤษฎีกราฟเบื้องต้นที่มตี อ่ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น และความสามารถในการคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณของ นักเรียนชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี5.(วิทยานพิ นธ์การศึกษา มหาบัณฑิต). มหาวทิ ยาลัยศรีนครนิ ทรวโิ รฒ,กรุงเทพมหานคร. องิ อรนลิ ประเสริฐ และคณะ2557).(. Google Site. ค้นเม่ือ30 กรกฎาคม 2557, จาก https://noppakornru.files.wordpress.com/2012/09/google_sites.pdf. อญั ชลี ขนุ ศรีสุข2553)..( การพฒั นาบทเรยี นคอมพิวเตอรผ์ ่านเว็บวิชาการผลติ สอ่ื สิ่งพมิ พด์ ้วย โปรแกรม Adobe PageMaker 7.0. (วทิ ยานพิ นธ์ศึกษาศาสตรมหาบณั ฑิต). มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกลา้ พระ นครเหนอื ,กรุงเทพมหานคร.
Search
Read the Text Version
- 1 - 12
Pages: