61 บทท่ี 4 สรุปผลกำรนเิ ทศกจิ กรรม กำรสรุปและรำยงำนผลกำรนเิ ทศ 1. การตรวจสอบ ทบทวนการนิเทศ การสรุปผล และการรายงานผลการนิเทศ เป็นส่ิงที่สาคัญมาก ต้องสรุปผลการจากการวิเคราะห์ข้อมูลท่ีได้จากเคร่ืองมือที่นาไปใช้ในการปฏิบัติการนิเทศ ส่วนการรายงาน ผล ตอ้ งรายงานผลตามวัตถุประสงค์ของการนิเทศในกิจกรรม/โครงการ น้ัน ๆ รวมทั้งควรนาเสนอจุดเด่น จุด ท่ตี ้องพฒั นา จึงจะทาให้การนิเทศนั้นมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล โดยรายงานผลให้ผู้ที่เก่ียวข้องทราบ เพื่อ นาไปใช้ในการวางแผนการพัฒนาการศึกษาตอ่ ไป ตรวจสอบ ทบทวนแผนการนิเทศ สื่อการนิเทศ เครื่องมือการนิเทศ กระบวนการนิเทศ และผลการ นเิ ทศ เพอ่ื ปรบั ปรงุ กระบวนการนเิ ทศให้มปี ระสิทธิภาพ การนาผลการนเิ ทศไปใช้ในการพฒั นา/ปรับปรุง และ รายงานผลการนิเทศ ในการนิเทศบางครั้ง ผู้รับการนิเทศสามารถนาข้อเสนอแนะไปปรับปรุง/พัฒนาการดาเนินงานได้ ทนั ที หรอื ในกรณีทผ่ี ลการนเิ ทศเปน็ ที่พงึ พอใจ ผู้นิเทศสามารถขยายผลกระบวนการนิเทศท่ีประสบผลสาเร็จ ไปใชใ้ นการพัฒนากิจกรรมให้กบั ผู้รบั การนิเทศกลุ่มอน่ื ได้ และสรุปรวบรวมรายงานผลการนิเทศ การวิเคราะหผ์ ลเมอ่ื ได้ข้อมลู มาแลว้ กจ็ ะมกี ารวิเคราะหข์ ้อมลู รว่ มกนั ระหวา่ งผู้นิเทศและผ้รู บั การ นิเทศ ถา้ จะใหด้ คี วรมีผบู้ ริหารด้วย แลว้ ร่วมกันหาแนวทางปรบั ปรุงแก้ไขให้การดาเนนิ งานของผรู้ บั การนเิ ทศ เปน็ ไปอยา่ งมีประสิทธิภาพและกอ่ ให้เกดิ คณุ ภาพกบั งานต่อไป โดยการนาขอ้ มลู ที่ได้จากการนาเคร่อื งมอื ไป ใช้ในการปฏิบตั ิ การนิเทศมาวิเคราะห์ผล ท้ังเชิงคณุ ภาพ และเชงิ ปริมาณ มาวเิ คราะห์ และสงั เคราะห์เป็น สารสนเทศเพ่ือนา ไปใช้ในการประเมนิ ผลและรายงานผลการนเิ ทศ การวิเคราะหข์ ้อมลู เชงิ คุณภาพ เปน็ การวิเคราะห์ข้อมลู ท่ีได้จากการเขยี นบรรยายสภาพ ความคดิ เห็น ขอ้ เสนอแนะต่าง ๆ การวเิ คราะห์ข้อมลู เชงิ ปริมาณ สว่ นมากใช้สถติ ิพ้ืนฐานในการวิเคราะห์ข้อมูล เพ่ือทาให้สามารถเข้าใจ ไดง้ า่ ย หรือสามารถนาไปใช้เทียบกับเกณฑท์ ่กี าหนดได้ สถิติที่ใช้ เช่น ความถ่ี ร้อยละ ค่าเฉล่ีย ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน เป็นตน้ 2. การรายงานผลการนิเทศ เมื่อสิ้นสุดผลการนิเทศแตล่ ะครง้ั ควรรายงานผลใหผ้ ู้บงั คับบญั ชา ทร2า.บ โดยทาเปน็ บนั ทึกข้อความ หรอื แบบรายงาน ที่กาหนดไว้ในหัวขอ้ ประเด็นต่าง ๆ เชน่ ผนู้ ิเทศ (ใครคือ ผู้นิเทศ) ผรู้ บั การนเิ ทศ วนั เดอื นปีทีน่ เิ ทศ กจิ กรรมทน่ี เิ ทศ เนือ้ หาสาระทนี่ เิ ทศ การประเมนิ ผลของผู้รับ การนิเทศ หลงั จากนิเทศแลว้ จะตอ้ งมีการบนั ทึกผลการนเิ ทศทุกกจิ กรรม สรปุ จดั ทาเป็นรายงานผลการ นิเทศสรุปในภาพรวมรายไตรมาส รายครึง่ ปี และรายปีตามความพร้อม เพื่อให้ไดข้ ้อมลู สภาพการทางาน สรุปรวบรวมเป็นรายงานผลการนเิ ทศมีขอ้ เสนอแนะ เพ่ือรายงานผู้เกย่ี วข้องทง้ั ระดบั สถานศกึ ษา และ
หนว่ ยงานตน้ สงั กัด และนาผลการนเิ ทศไปประกอบการตดั สนิ ใจพฒั นา ปรบั ปรงุ การดาเนนิ งานพัฒนำงาน ของสถานศึกษาให้มีคณุ ภาพและมีประสทิ ธภิ าพตอ่ ไป 62 การประเมินผลและปรับปรุงการนิเทศ เม่ือปฏิบัติการนิเทศแล้วควรจะมีการประเมินผลการ ปฏิบัติงานว่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือไม่ผลการนิเทศเป็นอย่างไร หากมีปัญหาคงต้องตรวจสอบดูใหม่ แลว้ ปรับปรงุ การนเิ ทศ และประเมินผลอีกครัง้ เม่ือพอใจแล้วจึงถือว่าการนิเทศน้ันประสบผลสาเรจ็ 3. ข้อควรคานึงในการนเิ ทศภายใน การจัดการนเิ ทศภายใน มสี ิง่ ที่ควรคานึงถงึ บางประการ คอื 1. ผู้บริหารของหนว่ ยงานต้องเหน็ ความสาคัญ ความจาเป็น และสนบั สนนุ ให้มีการนิเทศภายในของ หน่วยงานอย่างเขม้ แข็ง โดยสนับสนนุ ทง้ั นโยบาย ทรพั ยากรบคุ คล วัสดุอุปกรณ์ ยานพาหนะ และเวลา 2. การนิเทศภายในต้องทางานเป็นทีม ให้ทุกงาน ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในทีมงานด้วย ผลงานที่เกิดข้ึน เปน็ ผลงานรวมของหนว่ ยงานที่ทกุ คนทุกฝ่ายต้องรบั ผิดชอบรว่ มกัน 3. บุคลากรผู้นิเทศภายในหน่วยงาน ต้องเสียสละ อดทน ทางานหนักขึ้น ต้องแสวงหาความรู้ ใหม่ ๆ อยูต่ ลอดเวลา มีทกั ษะในการถ่ายทอด ทักษะในการทางาน 4. บรรยากาศของการทางานต้องให้เกียรติ ยกย่อง เคารพนับถือ ทุกฝ่าย เน้นให้ทุกคน มี ความสาคัญเท่าเทียมกัน พร้อมที่จะร่วมมือกันปฏิบัติงานให้เป็นผลสาเร็จรู้จักการเป็นผู้นาและผู้ตามได้ตาม โอกาสที่เหมาะสม สรปุ ผลกำรนเิ ทศติดตำมกำรดำเนินงำน โครงกำรจัดกำรศึกษำขนั้ พน้ื ฐำน ********************** ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอบางปลาม้า จึงไดด้ าเนนิ การจัด โครงการจดั การเรียนการสอนการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน เพื่อยกระดบั การศกึ ษาอย่างมีคุณภาพ ให้กับประชาชน กล่มุ เป้าหมายประชากรวยั เรียนทอ่ี ยนู่ อกระบบโรงเรียน ผ้ดู ้อย พลาด และขาดโอกาสทางการศึกษา เขา้ รบั การศึกษาหลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 ระดบั ประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย วิธเี รยี นแบบพบกลุ่ม ผู้เรยี นตอ้ งเขา้ รว่ มกิจกรรมต่าง ของสถานศึกษา ตามเกณฑท์ ี่หลกั สตู รกาหนด โดยมี กศน.ตาบลเป็นศนู ย์กลางการเรียนรใู้ นชุมชน อนั จะ ส่งผลใหป้ ระชาชนกล่มุ เปา้ หมาย ไดร้ ับการยกระดบั การศึกษา นาไปสู่การยกระดบั คุณภาพชีวติ และ เสริมสร้างคณุ ภาพชีวิตผ้เู รยี นหลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน ประเด็น/ข้อนเิ ทศ 1. กำรพฒั นำหลักสตู ร 1..1 หลักสตู รสถานศึกษาสะทอ้ นเอกลักษณ์ของสถานศึกษา 1..2 มีการจัดทาหรอื พัฒนาหลกั สูตรรายวชิ าเลอื ก 1..3 กระบวนการพัฒนาหลักสูตรรายวชิ าเลอื ก 1.4 มีการจดั หาหรอื จัดทาสือ่ ประกอบหลกั สูตรทีพ่ ัฒนาอยา่ งมีคณุ ภาพและสอดคล้องกับหลักสูตร 15 กระบวนการนาหลักสตู รไปใชม้ ีการสร้างความรู้ ความเข้าใจแกผ่ ูเ้ กย่ี วข้องหรือไม่ อย่างไร (มีการ ประชุมช้แี จง/อบรมครู/จัดทาคู่มือการใช้หลักสูตร) 2. กำรจัดกระบวนกำรเรียนรู้ มกี ารจัดทาข้อมลู สารสนเทศผเู้ รียนรายบคุ คลหรือไม่ อยา่ งไร
2.1 กำรจัดทำแผนกำรเรยี นรู้ มีจัดทาแผนการเรียนร้รู ายภาคเรยี นและแผนรายสัปดาห์หรือไม่ อยา่ งไร 63 2.2 กำรจดั กระบวนกำรเรียนรู้ มีออกแบบการจดั กระบวนการเรียนรสู้ อดคลอ้ งตามสภาพธรรมชาติ วิชา และสภาพผู้เรียนหรอื ไม่ อยา่ งไร มีการใช้ Stem และ E-learning หรอื ไม่อยา่ งไร 3. สอ่ื กำรเรยี นรู้ สื่อที่ใชม้ ีความหลากหลายหรอื ไม่เหมาะสมกบั เนื้อหา ทันสมัย กระตนุ้ ความสนใจ ผเู้ รยี น หรอื ไม่ อยา่ งไร ส่อื ทใี่ ชม้ อี ะไรบ้าง (Clip /สือ่ แบบเรียน/ผ้รู ู้ ฯลฯ) เหมาะสมกบั กจิ กรรมการเรียนรู้/ กล่มุ ผเู้ รยี น ทหี่ ลากหลายหรอื ไมอ่ ยา่ งไร 4. กำรวดั ผลประเมนิ ผล 4.1 สถานศกึ ษามีการประกาศหลกั เกณฑ์การวัดผล ประเมินผลตามหลกั สตู รสถานศึกษาหรอื ไม่ อยา่ งไร 4..2 มกี ารออกแบบวิธกี ารวัดผล ประเมินผลดว้ ยวธิ กี ารท่ีหลากหลาย ตามธรรมชาตวิ ชิ า ตรงตาม จุดประสงคเ์ รียนรทู้ ีก่ าหนดหรือไม่ อยา่ งไร 5. กำรยกระดับประสิทธภิ ำพกำรปฏิบัติงำนของครเู พ่อื กำรยกระดบั คุณภำพกำรจดั กำรศกึ ษำ 5.1 มีการอบรมดิจิทลั พืน้ ฐานให้ครแู ละบุคลากร กศน. เพื่อใช้ในการจดั การเรียนรู้ และการสร้าง กระบวนการเรยี นร้ดู ว้ ยตนเอง (DIY) หรือไม่ อยา่ งไร ผลเปน็ อย่างไร 5.2 มกี ารพฒั นาครู กศน.ต้นแบบการเรยี นรภู้ าษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสารหรือไม่ อยา่ งไร ผลเป็น อย่างไร 5.3 มีการพฒั นาครแู ละผู้เรยี นในการใช้ เทคโนโลยที างการศึกษา E-learning MOOCหรือไม่ อย่างไร ผลเป็นอยา่ งไร 5.4 มีการนเิ ทศ ตดิ ตามผลการดาเนนิ งานอยา่ งต่อเน่ืองหรือไม่ อย่างไร 5.5 มกี ารนาผลจากการนิเทศไปปรับปรุงพฒั นาหรือไม่ อยา่ งไร สภำพที่พบ 1. กำรพัฒนำหลกั สตู ร 1..1 หลักสูตรสถานศกึ ษาสะท้อนเอกลกั ษณ์ของสถานศึกษา คือม่งุ เน้นให้ผู้เรียนมีวนิ ยั มคี วามพอเพยี ง มจี ติ อาสา และมคี วามสุภาพ และผา่ นความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศกึ ษาทุกหลักสตู ร 1..2 มีการจดั ทาหรอื พัฒนาหลกั สตู รรายวชิ าเลือกท่สี อดคล้องกบั สภาพ บรบิ ท ความตอ้ งการ ปัญหา ฯลฯ ของชุมชนทอ้ งถนิ่ 1..3 กระบวนการพฒั นาหลกั สูตรรายวชิ าเลือก เนื้อหาของหลกั สูตรสอดคล้องกับบริบท สภาพความ ตอ้ งการ ความจาเปน็ ของชุมชน และยุทธศาสตร์การพฒั นาท้องถนิ่ เนือ้ หาหลกั สูตรมีความทันสมยั กบั สถานการณ์ปจั จบุ ัน องคป์ ระกอบของหลกั สูตรครบถ้วน กระบวนการพฒั นาหลกั สตู รเปน็ ไปตามขั้นตอนของ การพัฒนาหลักสูตรมคี วามนา่ เชอื่ ถือ มีการศึกษาวิเคราะห์ข้อมลู /ร่างหลักสูตร/ตรวจสอบคณุ ภาพและการนา หลกั สูตรไปใช้ 1.4 มกี ารจดั หาหรือจัดทาส่ือประกอบหลักสูตรที่พฒั นาและสอดคลอ้ งกบั หลักสตู รท่จี ัดทาขน้ึ 1.5 กระบวนการนาหลักสตู รไปใช้มีการสร้างความรู้ ความเข้าใจ มีการประชุมชแี้ จงแก่ครผู สู้ อน วิทยากร 2.กำรจัดกระบวนกำรเรียนรู้ 2.1 กำรจัดทำแผนกำรเรยี นรู้ มีการจัดทาข้อมลู สารสนเทศผเู้ รียนรายบุคคล เช่น สารวจสภาพ ความสามารถ ความต้องการ เปา้ หมายการเรยี น การประกอบอาชีพ มกี ารนาขอ้ มูลสารสนเทศของผเู้ รยี นไปใชใ้ นการจดั ทาแผนการ เรยี นจดั การเรยี นที่เอ้ือตอ่ การเรียนรู้ มกี ารจัดทาแฟ้มข้อมูลรายบุคคลให้ผู้เรียนทราบสถานะ/ความก้าวหน้าใน
การเรียน เช่นข้อมูล ผลการเรียน /กพช./การประเมินคุณธรรม /N-net ฯลฯ) มีการวิเคราะห์หลักสูตร และ นาไปสกู่ ารจัดทาแผนการจัดกระบวนการเรียนรู้ มีการจัดทาแผนการเรียนรู้รายภาคเรียนและแผนรายสปั ดาห์ 64 ทุกภาคเรียน มีออกแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้สอดคล้องตามสภาพธรรมชาติวิชาและสภาพผู้เรียน มี การใช้ Stem และ E-learning ในการช่วยในการจดั กระบวนการเรียนรู้ มีกิจกรรมการเรียนรู้ส่งเสริมการอ่าน การเขียน ทักษะการคิดวิเคราะห์ ทักษะการส่ือสาร การประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน การแก้ปัญหาและพัฒนา คณุ ภาพชีวติ อย่างสร้างสรรค์ โดยจัดใหท้ าใบงาน โครงงาน 2.2 กำรจัดกระบวนกำรเรียนรู้ ครูจัดกระบวนการเรียนรู้ตามแผนการเรียนรู้ มีการใช้สะเต็มศึกษา /E-learning/ทักษะการคิดวิเคราะห์ และเทคนิคการเรียนรู้อื่นๆ ในการจัดกระบวนการเรียนรู้ ครูมีการดูแล ช่วยเหลอื ผู้เรียน อย่างเปน็ ระบบ มีการบันทึกหลังสอนที่เน้นปัญหาจากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และมีการ นาผลไปปรับปรุงแก้ไข โดยจัดกิจกรรมท่ีสอดคล้องกับความต้องการและสภาวการณ์ในปัจจุบัน การวิจัยใน ชั้นเรียนมีความสอดคล้องกับสภาพปัญหาเชื่อมโยงกับบันทึกหลังสอน และช่วยพัฒนาคุณภาพการเรียนการ สอนให้ดีขนี้ การจดั กจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน ส่งเสริมการพัฒนาทักษะการเรยี นรขู้ องผูเ้ รียนทุกๆดา้ น 3. สื่อกำรเรียนรู้ 3.1 สื่อทีใ่ ชม้ ีความหลากหลายเหมาะสมกับเน้ือหา มีความทนั สมยั เป็นการกระตุ้นความสนใจผเู้ รยี น สอ่ื ทใี่ ช้มี Clip /สอ่ื แบบเรยี น/ผรู้ ู้ ฯลฯ เหมาะสมกบั กิจกรรมการเรียนร/ู้ กลมุ่ ผูเ้ รียน ท่ีหลากหลาย 4. กำรวดั ผลประเมินผล 4.1 สถานศึกษามีการประกาศหลักเกณฑ์การวัดผล ประเมินผลตามหลักสูตรสถานศกึ ษา 4..2 มกี ารออกแบบวธิ กี ารวดั ผล ประเมินผลดว้ ยวธิ ีการทห่ี ลากหลาย ตามธรรมชาติวิชา ตรงตาม จุดประสงค์เรียนรทู้ ่กี าหนด 4.3 จานวนผเู้ รียนเขา้ สอบปลายภาค คดิ เป็นร้อยละ 74.00 เทียบเท่ากับจานวน ผู้ลงทะเบียนของครูแต่ ละคน 4.4 จานวนผู้เรียนมผี ลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นเฉลี่ย 200 ในรายวชิ าบังคบั ตอ่ ภาคเรียนคดิ เป็นร้อยละเท่าใด 4.5 ผู้เรียนเข้าสอบ N-net/ e-examคิดเป็นรอ้ ยละ 75 กบั จานวนผ้มู สี ิทธ์สิ อบ 4.6 ครูนาผลสัมฤทธิท์ างการเรยี นของผเู้ รยี นมาวิเคราะหแ์ ละวางแผนแก้ปญั หา และพฒั นาอยา่ ง ตอ่ เน่ือง 4.7 ครมู กี ระบวนการและหลักฐานการประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คณุ ลักษณะ อันพึงประสงค์ของ ผเู้ รียน 4.8 ครูจดั ทาเอกสารและหลกั ฐานการศึกษาครบถว้ นถกู ต้องทุกภาคเรียน 5 กำรยกระดับประสทิ ธิภำพกำรปฏบิ ัตงิ ำนของครเู พื่อกำรยกระดบั คณุ ภำพกำรจัด กำรศึกษำ 5.1 มกี ารอบรมดจิ ิทลั พืน้ ฐานใหค้ รแู ละบุคลากร กศน. เพ่ือใชใ้ นการจดั การเรยี นรู้ และการสร้าง กระบวนการเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง (DIY) 5.2 มีการพฒั นาครูและผูเ้ รยี นในการใช้ เทคโนโลยที างการศึกษา E-learning MOOC เพอ่ื ใชใ้ นการ จดั การเรียนรู้ และการสรา้ งกระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเอง 5..3 มีการนเิ ทศ ตดิ ตามผลการดาเนนิ งานอยา่ งตอ่ เนือ่ ง
65 ปญั หำ/ข้อเสนอแนะ - ควรส่งเสรมิ ใหค้ รูมีการจัดทาปฏิทินการพบกลุม่ รายภาค รายสปั ดาห์ และมีแผนจดั การเรยี นร้ทู ่ี ชดั เจนและสม่าเสมอ - จดั กจิ กรรมท่ี มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพของบุคคลท่ีอยนู่ อกระบบโรงเรียน - ควรจัดสถานที่จดั การเรยี นการสอน (กศน.ตาบล) ให้มีบรรยากาศเอื้อต่อการเรียนรู้ และมีสอื่ การ เรียนร้สู อดคลอ้ งตรงกับวิชาเนื้อหาที่เรียนอย่างต่อเนือ่ ง -.ครูควรมีการซักซอ้ มความเข้าใจกบั ผเู้ รยี นในการเข้าสอบปลายภาค ให้ถือปฏบิ ัติระเบยี บวา่ ดว้ ยการ เขา้ สอบ เช่น การแต่งกาย การปฏิบตั ิตนในหอ้ งสอบ การตรงต่อเวลาในการเขาสอบ ปจั จุบนั ผ้เู รียนหลักสูตร การศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน มีอายุไม่สงู มากนัก และอยู่ในวยั รุ่น ชอบการเข้าสงั คม รกั ความสนกุ สนาน ทายงั ขาดความรับผดิ ชอบในการเขา้ ร่วมกิจกรรม จงึ เปน็ หนา้ ที่ของครทู ี่จะตอ้ งเคยคอย ตดิ ตาม กระตนุ้ ให้ผเู้ รยี นใสใ่ จต่อการรว่ มกจิ กรรมต่างๆ และการเข้าสอบปลาย การพบกลุ่มนักศึกษาการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาข้นั พื้นฐาน ตาบลสาลี ตาบลกฤษณา การพบกลุ่มนักศึกษาการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาข้นั พน้ื ฐานตะค่า
การพบกลมุ่ นักศึกษาการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน ตาบลบางใหญ่ ตาบลไผก่ องดนิ 66 โครงการอบรมเชงิ ปฏบิ ตั กิ ารพัฒนาศักยภาพครูและบุคลากร การจัดการศึกษา 5 ดีพรีเมีย่ ม วนั ที่ 17-18 กันยายน 2563 บา้ นภฟู า้ รีสอรท์ อาเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี สรปุ ผลกำรนิเทศติดตำมกำรดำเนนิ งำน โครงกำรพฒั นาคณุ ภาพผู้เรียน ********************** กระทรวงศกึ ษาธิการได้ประกาศใช้หลกั สตู รการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ทม่ี ุง่ จดั การศึกษาเพื่อตอบสนองอุดมการณ์การจดั การศึกษาตลอดชวี ิตและการสร้างสังคมไทยให้เป็นสังคม แห่งการเรยี นรตู้ ามหลกั ปรชั ญา “คดิ เปน็ ” เพือ่ สร้างคณุ ภาพชวี ิตและสังคม มีการบรู ณาการอย่างสมดุลระหวา่ งปัญญา ธรรม ศีลธรรมและวฒั นธรรม มุง่ สรา้ งพืน้ ฐานการเป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัว ชมุ ชน สังคม และพฒั นา ความสามารถเพื่อการทางานทมี่ ีคุณภาพ โดยให้ภาคเี ครือข่ายมีส่วนรว่ มในการจัดการศกึ ษาให้ตรงตามความ ต้องการของผู้เรียน และสามารถตรวจสอบไดว้ ่า การศกึ ษานอกระบบเปน็ กระบวนการของการพัฒนาชีวติ และ สงั คม สามารถพ่งึ พาตนเองได้ และรู้เท่าทันการเปลีย่ นแปลง เปน็ หลักสูตรทมี่ ีความเหมาะสม สอดคล้องกับสภาพ ปัญหา ความตอ้ งการของบุคคลทอี่ ยนู่ อกระบบโรงเรยี น ซ่ึงเปน็ ผูม้ คี วามรู้ ประสบการณ์ จากการทางานและการ ประกอบอาชีพ โดยการกาหนดสาระการเรียนรู้ มาตรฐาน การเรียนรู้ การจดั การเรียนรู้ การวดั และประเมนิ ผล ให้ ความสาคัญกบั การพัฒนากลุ่มเปา้ หมายด้านจิตใจให้มีคุณธรรม ควบคู่ไปกับการพฒั นาการเรียนรู้ สรา้ งภมู ิคมุ้ กนั
สามารถจัดการกบั องค์ความรู้ ทง้ั ภมู ิปญั ญาท้องถ่นิ และเทคโนโลยี เพอื่ ใหผ้ ู้เรียนสามารถปรบั ตัวอยใู่ นสังคมทีม่ ีการ เปลย่ี นแปลงตลอดเวลา สรา้ งภูมคิ ุ้มกัน ตามแนวปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง รวมท้ังคานึงถึงธรรมชาติการ 67 เรยี นรู้ของผู้ที่อยูน่ อกระบบ และสอดคล้องกบั สภาพเศรษฐกจิ สังคม การเมือง การปกครอง ความเจริญก้าวหนา้ ของเทคโนโลยแี ละการส่ือสาร กศน.อาเภอบางปลาม้า จึงได้จัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน หลักสูตรการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 โดยมีจดุ มงุ่ หมายเพือ่ พฒั นาคณุ ภาพผ้เู รยี น ให้มีคณุ ธรรม จริยธรรม มีสติปัญญา มีคุณภาพชีวิต ทด่ี ี มศี ักยภาพในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพและ การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง และมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตามทีส่ ถานศกึ ษากาหนด รวมถึงการเป็นสมาชิกท่ีดีของสังคม และเป็นไปตามกรอบการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ของสานกั งาน กศน. ประเดน็ /ข้อนเิ ทศ 1.จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้/ผลกำรเรยี นรู้ สอดคลอ้ งกับมาตรฐาน/ตวั ชว้ี ัด 2.กำรออกแบบกจิ กรรมกำรเรยี นกำรสอน สอดคล้องกบั จุดประสงค์/ผลการเรียนรู้ 3. กระบวนการนาหลักสูตรไปใชม้ ีการสร้างความรู้ ความเขา้ ใจแกผ่ ูเ้ ก่ยี วขอ้ งหรอื ไม่ อยา่ งไร (มีการ ประชุมชแี้ จง/อบรมครู/จัดทาคู่มือการใชห้ ลกั สตู ร) 4.กำรกำหนดสื่อ/แหลง่ เรยี นรู้ 5. กำรวดั และประเมินผลกำรเรียนรู้จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้/ผลการเรยี นรู้ สภำพทพี่ บ 1.กำรจัดโครงกำรมีจุดประสงค์กำรเรียนรู้/ผลกำรเรียนรู้ สอดคล้องกับมาตรฐาน/ตัวชี้วัดของ สถานศึกษา มีความชัดเจนสามารถวัดได้ ครอบคลุมทั้งด้าน เกณฑ์การประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียน ประกอบด้วยการประเมินด้านความรู้ (Knowledge) ด้านทักษะและการปฏิบัติ (Practice) และด้านเจตคติหรือ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 2.กำรออกแบบกิจกรรมกำรเรียนกำรสอน สอดคล้องกับจุดประสงค์/ผลการเรียนรู้(ช่วยให้ผู้เรียน บรรลจุ ุดประสงค์/ผลการเรยี นรูท้ กุ ข้อ) เหมาะสมกับเวลาที่กาหนด กิจกรรมเน้นให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติโดยผ่าน กระบวนการคดิ วเิ คราะห์ (Active Learning) 3.กระบวนการนาหลักสตู รไปใช้มีการสรา้ งความรู้ ความเข้าใจแก่ผู้เกี่ยวข้อง มกี ารประชุมช้แี จง/อบรม ครู วทิ ยากรก่อนการจดั โครงการก่อนทุกโครงการ 4. กำรกำหนดสือ่ /แหลง่ เรียนรู้ เหมาะสมกับศกั ยภาพ ความสามารถของผู้เรียน ช่วยให้ผู้เรียนเกิดการ เรยี นรไู้ ดอ้ ยา่ งแทจ้ ริง 5. กำรวัดและประเมนิ ผลกำรเรยี นรู้จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้/ผลการเรียนรู้ วิธกี ารวดั ประเมินผล สอดคลอ้ งกบั กิจกรรมการเรียนการสอนท่ีออกแบบไว้ กาหนดเกณฑก์ ารวดั และประเมนิ ผลไดช้ ัดเจนเหมาะสม ปัญหำ/ข้อเสนอแนะ 1. ผเู้ รยี นมารว่ มกิจกรรมไม่ครบตามจานวนเปา้ หมายทตี่ ้งั ไว้ สถานศึกษาไดซ้ ักซอ้ มความเข้าใจ กับครู ใหค้ รูประสานงานหรือนัดหมายผ้เู รยี นเหมาะสมกบั ให้มารว่ มกิจกรรมในครงั้ ต่อไป ใหค้ รบตามกาหนด
2. ควรประสานวิทยากรและเตรยี มความพร้อม เพ่ือการจัดกจิ กรรมบรรลวุ ตั ถปุ ระสงค์ 68 ภำพกจิ กรรม โครงกำรพฒั นำคณุ ภำพผเู้ รยี นพฒั นำคณุ ภำพผู้เรียน โครงการพัฒนาคณุ ภาพผู้เรยี นกิจกรรมเรยี นรตู้ ามหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2562 โครงการพฒั นาผู้เรียนกจิ กรรมจิตอาสา \"กศน.ทาดดี ้วยหัวใจ\"
โครงการสถานศึกษาสีขาว สร้างภมู ิคมุ้ กันต้ายภัยยาเสพตดิ 69 กจิ กรรมเพศศกึ ษาควรรูส้ ่กู ารครองตนและหา่ งไกลยาเสพติด กิจกรรมอบรมนักศึกษาแกนนาเศรษฐกิจพอเพียงสูส่ ถานศึกษาคุณธรรม โครงการพัฒนาคุณภาพผ้เู รยี นกจิ กรรมอบรมให้ความรู้เร่ือง ประวตั ิศาสตร์ชาติไทยและบุญคุณพระมหากษัตรยิ ์ โครงการส่งเสรมิ การจัดการเรียนการสอน แบบสะเต็มศึกษา
70 กิจกรรมปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ ประจาภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2563 และจดั โครงการพฒั นาคุณภาพผู้เรียนกจิ กรรมฝึกอบรมการปอ้ งกนั โรคไวรสั โคโรนา่ (COVID-19) โครงการพัฒนาคุณภาพผู้เรยี น กจิ กรรมค่ายอาสายุวกาชาด รุ่น 5187/สพ.33 กจิ กรรมเพศศึกษาควรร้สู กู่ ารครองตนและห่างไกลยาเสพติด
71 สรุปผลกำรนิเทศตดิ ตำมกำรดำเนนิ งำน โครงกำรศูนยฝ์ ึกอำชพี ชุมชน การศึกษาโครงการศูนย์ฝกึ อาชีพชุมชน เปน็ การจดั กระบวนการเรยี นรเู้ พ่ือสง่ เสริมการมีส่วนร่วมใน การ พัฒนา สังคมโดยใช้ชมุ ชนเปน็ ฐาน โดยใหป้ ระชาชน ชุมชนร่วมกนั รบั ผดิ ชอบ และเห็นถงึ ความสาคัญในการฟนื้ ฟู พัฒนาอาชีพของตนเอง เพ่ือสง่ เสริมให้ประชาชนเกิดการเรียนรู้ มีการบรู ณาการความรู้ ประสบการณแ์ ละทักษะ อาชพี ใหเ้ กิดประโยชนต์ อ่ การพัฒนาอาชีพโดยรวม ทาให้เกดิ สงั คมแห่งการเรยี นร้นู าสู่สังคมท่ีเขม้ แขง็ มคี วามเอ้ือ อาทรต่อกนั และพ่ึงพาตนเองได้อย่างยั่งยืน โดยการจัดการศึกษาโครงการศนู ยฝ์ กึ อาชพี ชุมชน สถานศกึ ษา กศน. อาเภอ จานวน 14 ตาบล เป็นฐานในการจัดการศึกษาต่อเน่ืองในการส่งเสริมและสนับสนุนการจัดโครงการศูนย์ฝึก อาชีพชุมชน อาชีพ 5 กลุ่มอาชีพ ดังนี้ 1. เช่น หลักสูตรอาชีพพานิชยกรรมและบริการ เช่น ธุรกิจขนมไทย หลักสูตรอาชพี ความคิดสรา้ งสรรคเ์ ชน่ ศลิ ปะประดษิ ฐ์จากไหม . หลักสูตรอาชพี เฉพาะทาง เชน่ ช่างปูกระเบ้ือง เป็น ตน้ จากการนิเทศศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน ของสถานศกึ ษาในกากับชอง กศน.อาเภอบางปลามา้ สรปุ ผลการนิเทศไดด้ ังน้ี ขอ้ นเิ ทศต่อผู้รบั กำรนเิ ทศ 1 หลกั สูตรมอี งคป์ ระกอบครบถ้วนตามกระบวนการพัฒนาหลักสตู รหรอื ไม่ ดาเนนิ การอยา่ งไร 2. มีแผนงาน/ โครงการ / กิจกรรมเพื่อส่งเสริมการเรียนที่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนและ ตลาดแรงงานหรือไม่ อย่างไร 3. มแี ผนการจัดการเรยี นรู้ตามหลักสูตรหรอื ไม่ ใครเปน็ ผดู้ าเนนิ การจัดทา 4.วิทยากรมีความรู้ความสามารถตามเน้ือหาหลักสูตรหรือไม่ วิทยาการได้รับการพัฒนาเทคนิคการ ถ่ายทอดองค์ความร้หู รอื ไมอ่ ย่างไร 5.วสั ดุ อปุ กรณ์ มีความเพียงพอและสถานท่ีมคี วามเหมาะสมหรือไม่ 6.กำรจัดกระบวนกำรเรยี นรู้ (Process) วิทยากร มคี วามรู้ ความสามารถและมเี ทคนคิ การถา่ ยทอด เหมาะสมหรือไม่ อย่างไร 7. ผู้จบหลกั สูตรสามารถนาความรูไ้ ปประกอบอาชีพ มีงานทา มีรายไดห้ รอื ไม่ อย่างไร สภำพทีพ่ บ 1. ด้ำนปัจจัยป้อน หลักสูตรมีองค์ประกอบท่ีครบถ้วนตามกระบวนการพัฒนาหลักสูตร หลักสูตรท่ีใช้ใน การสอนได้พัฒนาขึ้นจากสถานศึกษาและสานักงาน กศน.จังหวัดสุพรรณบุรี เนื้อหาของหลักสูตรมีการบูรณาการ สภาพปัญหา ความตอ้ งการของผู้เรียน มีการจัดทาแผนปฏิบัติการประจาปี 2563 ท่ีสอดคล้องกับความต้องการของ ประชาชน ครู กศน.ตาบล วิทยากร และผู้เรียนมีส่วนร่วมในการจัดทาแผนการจัดการเรียนรู้ครู กศน.ตาบลมีการ ชี้แจงวิทยากรก่อนการดาเนินกิจกรรม มีการจัดทาทาเนียบวิทยากร ทาเนียบภูมิปัญญาท้องถิ่น วิทยากรมีความรู้ ความสามารถตามเน้ือหาหลักสูตรมีเอกสารรับรองความรู้ความสามารถประกอบ วัสดุ อุปกรณ์บางหลักสูตร มี เพียงพอ บางหลักสูตรไม่เพียงพอ อาทิหลักสูตรการทาผลิตภัณฑ์จากเส้นพลาสติก, หลักสูตรวิชาศิลปะประดิษฐ์ (ตุ๊กตาเบาะรองนงั่ ),หลักสตู รการทาไมก้ วาด สถานท่ีจดั กิจกรรมแตล่ ะแห่งมคี วามเหมาะสม
2.ดำ้ นกำรจดั กระบวนกำรเรียนรู้ วทิ ยากร มคี วามรู้ ความสามารถและบางคนมีเทคนคิ เฉพาะตัวบุคคล มกี ารเชญิ ภมู ิปัญญาท้องถิ่นมาเปน็ วทิ ยากร และร่วมนเิ ทศกจิ กรรม ครู กศน.ตาบลใช้ส่อื ออนไลน์ เชน่ Application line facebook ใหผ้ ู้เรียนศึกษารูปแบบผลิตภัณฑ์ และประชาสัมพนั ธ์ผลงาน ชิ้นงานรวมทัง้ มีการวัดผลจากการฝึก 72 ปฏิบัตจิ รงิ ครู กศน.ตาบลดาเนนิ การประเมินความพงึ พอใจของผเู้ รียนด้วยเคร่ืองมือแบบประเมินความพึงพอใจ กศน. 13 ครู กศน.ตาบลดาเนนิ การรายงานผลการจัดกิจกรรมและขออนุมตั ิการจบหลกั สตู รหลังจากการ ดาเนนิ การจดั กจิ กรรมเสรจ็ สิ้นภายใน 10 วนั ตามข้อตกลงของสถานศึกษา ปัญหำอุปสรรค/ขอ้ เสนอแนะ 1. สถานศึกษาควรมีการจัดประชมุ หรอื อบรมวทิ ยากรงานการศึกษาตอ่ เนื่อง 2. สถานศกึ ษาควรจดั ให้มีการประเมินหลักสตู ร 3. สถานศกึ ษาควรมีการพัฒนาศูนยฝ์ ึกอาชพี ชุมชนให้มีความพรอ้ มในการจัดการเรยี นรู้ 4. ครู กศน.ตาบลควรขอความอนุเคราะห์จากผู้นาชุมชน หรือ อบต./เทศบาลในการจดั หาวัสดุ เพ่มิ เติมใหเ้ พียงพอต่อความต้องการของผู้เรียน 5. ได้รับความรว่ มมือจากภาคีเครือขา่ ย 6. มกี ารนเิ ทศ ตดิ ตามผลการดาเนนิ งานสมา่ เสมอ ภาพกจิ กรรมโครงกำรศนู ยฝ์ กึ อำชีพชุมชน ช้นั เรียนวชิ าชีพ ( 1 อาเภอ 1 อาชีพ ) ชน้ั เรยี นวชิ ำชพี ( 1 อาเภอ 1 อาชพี ) เชอื กปา่ นมหศั จรรย์ เชอื กป่านมหัศจรรย์ ชน้ั เรยี นวชิ าชีพ ( 1 อาเภอ 1 อาชพี ) เชือกป่านมหศั จรรย์ ช้นั เรยี นวิชาชีพ เชอื กป่านมหศั จรรย์ตาบลสาลี
73 ช้ันเรยี นวชิ าชีพการทาผลิตภณั ฑจ์ ากผักตบชวา ต.ไผก่ องดิน ชน้ั เรียนวชิ าชีพ การทาเปลญวนประยกุ ต์ ตาบลสาลี ชั้นเรยี นวิชาชพี การทาเปลญวนประยกุ ต์ ต. ตะค่า ชนั้ เรียนวิชาชพี การสานเสน้ พลาสติก ต.ตะค่า ชนั้ เรียนวชิ าชพี การสานเส้นพลาสติก ต.ตะคา่ ช้นั เรยี นวิชาชีพ การสานเส้นพลาสติก ต.วดั โบสถ์ ชนั้ เรยี นวชิ าชพี เชอื กปา่ นมหัศจรรย์ ต.จรเข้ใหญ่ ชั้นเรียนวชิ าชพี เปลญวนประยกุ ต์ ต.จรเข้ใหญ่
74 ชัน้ เรียนวิชาชีพ การปูกระเบื้อง ต.บางใหญ่ ช้ันเรียนวชิ าชีพ เชือกป่านมหัศจรรย์ ต.วดั ดาว ชั้นเรียนวชิ าชพี เชอื กป่านมหศั จรรย์ ต.บางใหญ่ ชนั้ เรยี นวิชาชพี การปกุ ระเบอื้ ง ต.องครกั ษ์ ระยะสั้น ไม่เกนิ 30 ชั่วโมง การทาพรมเชด็ เท้า ต.สาลี ระยะสั้น ไม่เกนิ 30 ช่ัวโมง การทาพรมเชด็ เท้า ต.สาลี
75 หลักสตู รระยะสั้น การทาขนมไทย ต.บางปลามา้ หลักสตู รระยะสนั้ การแปรรูปอาหาร ต.ไผ่กองดนิ หลักสูตรระยะสน้ั การถนอมอาหาร ต.มะขามล้ม หลักสูตรระยะสั้น การแปรรปู อาหาร ต.สาลี หลกั สตู รระยะสั้น การสานพดั จากเส้นพลาสตกิ ต.มะขามลม้ หลกั สูตรระยะสน้ั การถนอมอาหาร ต.มะขามล้ม
76 สรปุ ผลกำรนิเทศตดิ ตำมกำรดำเนนิ งำน โครงการการจัดการศกึ ษาเพ่ือพฒั นาทกั ษะชีวติ เปน็ การจัดการศึกษาเพ่อื พัฒนาทักษะชวี ติ ใหก้ บั ทุกกล่มุ เปา้ หมาย โดยเฉพาะ ผู้สงู อายุ ท่ีสอดคล้อง กบั ความตอ้ งการจาเป็นของแต่ละบคุ คล และมุ่งเนน้ ให้ทกุ กลุม่ เป้าหมายมีทักษะการดารงชีวติ ตลอดจน สามารถ ประกอบอาชีพพ่ึงพาตนเองได้ มคี วามรู้ความสามารถในการบริหารจัดการชีวติ ของตนเอง ให้อยู่ในสังคม ได้อย่าง มีความสุข สามารถเผชิญสถานการณ์ต่าง ๆ ท่ีเกิดข้ึนในชีวิตประจาวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเตรียมพร้อม สาหรับ การปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของข่าวสารข้อมูลและเทคโนโลยีสมัยใหม่ในอนาคต โดยจัด กิจกรรม ท่ีมีเน้ือหา สาคัญต่างๆ เช่น สุขภาพกายและจิต การป้องกันภัยยาเสพติด เพศศึกษา คุณธรรมและ ค่านิยมท่ีพึงประสงค์ ความ ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ผ่านการศึกษารูปแบบต่าง ๆ อาทิ ค่ายพัฒนาทักษะ ชีวิต การจัดตั้งชมรม/ชุมนุม การ ส่งเสริมความสามารถพิเศษต่าง ๆ จากการนิเทศ โครงการการจัดการศึกษา เพื่อพฒั นาทักษะชีวิต ปีงบประมาณ 2563 สรปุ ผลการนิเทศไดด้ งั น้ี ข้อนิเทศต่อผู้รับกำรนิเทศ 1 ปจั จยั ป้อน (Input) 1. มีการวางแผนสารวจกล่มุ เป้าหมายเพื่อเตรยี มความพร้อมที่จะเข้าสู่วัยผสู้ ูงอายุหรือไม่ อยา่ งไร 2. โครงการ /กจิ กรรมดาเนินการสอดคล้องตามหลักการจดั การศกึ ษาเพอ่ื พัฒนาทกั ษะชีวิต ทสี่ านกั งาน กศน.กาหนด หรอื ไม่ อยา่ งไร (Smart Aging/Active Aging/การเผยแพร่ภูมปิ ัญญา) 3. โครงการ /กิจกรรม มสี ถานที่และอปุ กรณ์ มีการออกแบบให้เหมาะสม สอดคล้องกับสภาพปัญหา ความ ต้องการของกลุ่มเป้าหมายหรือไม่ อย่างไร 4 โครงการ / กิจกรรม ทีม่ รี ปู แบบการจัดการศึกษาที่หลากหลายดาเนนิ การใช้รูปแบบการให้ความรู้ ความ เขา้ ใจ /ชมรม /คลงั สมอง /กลุ่มสนใจ หรือฝึกอบรมหรือไม่ เพราะเหตุใด 5.- หลกั สตู ร / แผนการจัดกจิ กรรมท่ีดาเนินการ มีการฝึกทักษะชวี ิตดา้ นใดบ้าง เหมาะสมกับสภาพ กลุม่ เปา้ หมายหรือไม่ อย่างไร 2 กำรจดั กระบวนกำรเรยี นรู้ (Process) 1. วทิ ยากรมีความรูค้ วามสามารถและเทคนิคการถา่ ยทอดเหมาะสมหรือไม่ อยา่ งไร 2. มีการใช้ส่อื เทคโนโลยี แหลง่ เรยี นรู้ ภูมิปญั ญาทอ้ งถนิ่ ประกอบการจัดกิจกรรมหรอื ไม่ อย่างไร 3. มกี ารจดั ทารายงานผลการจัดโครงการ / กจิ กรรม เมอ่ื ส้ินสุดโครงการหรือไม่ อย่างไร 4. มกี ารตดิ ตามผลการนาความรไู้ ปใช้ประโยชนห์ รือไม่ อยา่ งไร 3. ผลผลติ (Output) 1. ผสู้ ูงอายุสามารถดแู ลตนเอง ท้ังสขุ ภาพกาย / สขุ ภาพจิตได้ เพิ่มรายได้ /อาชีพ /สวัสดิการหรอื ไม่ อยา่ งไร 2. ผ้สู งู อายมุ ีกิจกรรมรว่ มกนั อยา่ งสม่าเสมอหรือไม่ อย่างไร
77 2. สภำพท่พี บ ด้ำนปัจจยั ป้อน ครู กศน.ตาบลจดั ทาเวทปี ระชาคม จดั ทาแบบสารวจความตอ้ งการเพอ่ื นาข้อมลู มาจัดทา แผนการปฏบิ ัติงาน โครงการ/กจิ กรรมสอดคลอ้ งตามหลักการจัดการศึกษาเพือ่ พัฒนาทักษะชีวิต ดา้ นการดูแล สขุ ภาพและการป้องกนั โรค สถานทจ่ี ดั กจิ กรรมมีความเหมาะสม วิทยากรจัดกิจกรรมโดยใช้รปู แบบท่หี ลากหลาย อาทิ บรรยาย แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และฝึกปฏบิ ตั ิจริง หลกั สูตร/แผนการจัดกจิ กรรมมีการฝึกทกั ษะชวี ติ ด้านการดูแล สุขภาพสอดคลอ้ งกบั กลมุ่ เป้าหมายและสถานการณป์ จั จบุ ัน ภาคี เครือข่าย มสี ว่ นร่วมในการออกแบบจดั กิจกรรม และร่วมนเิ ทศ ด้ำนกำรจัดกระบวนกำรเรยี นรู้ วิทยากรมีความรู้ ความสามารถและเทคนิคในการถา่ ยทอดท่ีเหมาะสม มีการใช้สอ่ื การเรียนรู้ประกอบการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ มีการประเมนิ ผลการจัดกิจกรรมโดยการประเมินความพงึ พอใจของผเู้ รยี น ครู กศน.ตาบลจดั ทารายงานผลการดาเนินโครงการเมื่อสนิ้ สุดโครงการประมาณ 10 วันตาม ขอ้ ตกลงของสถานศกึ ษา ครู กศน.ตาบลมีการตดิ ตามผู้เรียนหลงั จากกจิ กรรมเสร็จสิน้ แลว้ เป็นระยะๆ ดำ้ นผลผลติ ผู้สูงอายสุ ามารถดแู ลตนเองไดต้ ามความเหมาะสม ผ้สู งู อายุมีกจิ กรรมร่วมกนั อยา่ งสม่าเสมอ เป็นประจาทุกเดอื น ปัจจยั ท่ีส่งผลต่อควำมสำเร็จ (ถำ้ ม)ี 1. หลักสตู รสอดคล้องตามความต้องการของผเู้ รยี น 2. วิทยากรมีความรู้ความสามารถและเทคนิคในการถ่ายทอดทเี่ หมาะสม 3. ได้รบั ความรว่ มมอื จากภาคเี ครือขา่ ยอาทิ สถานีพัฒนาท่ดี ินจังหวัดสพุ รรณบุรี ให้การสนับสนุนวสั ดุ สถานี ตารวจภธู รสพุ รรณบรุ ี 4. มกี ารนิเทศ ติดตามผลการดาเนินงานสมา่ เสมอ ปญั หำอปุ สรรค - . ฝึกอบรมให้ความรใู้ นการปอ้ งกันตนเองจาก จดั การศกึ ษาเพ่ือพัฒนาทกั ษะชวี ติ โรคไวรสั โคโรนา่ 2019 ต.วังน้าเยน็ ทกั ษะชีวิต การทาหน้ากากอนามยั ต.องครกั ษ์
78 ฝกึ อบรมใหค้ วามร้ใู นการป้องกนั ตนเองจาก ฝกึ อบรมใหค้ วามรูใ้ นการป้องกันตนเองจาก โรคไวรสั โคโรนา่ 2019 ต.ไผ่กองดิน โรคไวรัสโคโรน่า 2019 ต.ไผ่กองดิน ฝกึ อบรมใหค้ วามรู้ในการปอ้ งกันตนเองจาก ฝึกอบรมให้ความรใู้ นการปอ้ งกนั ตนเองจาก โรคไวรัสโคโรนา่ 2019 ต.วัดดาว โรคไวรัสโคโรน่า 2019 ต. โคกคราม ฝึกอบรมให้ความรู้ในการปอ้ งกนั ตนเองจาก ฝกึ อบรมให้ความรใู้ นการปอ้ งกันตนเองจาก โรคไวรสั โคโรนา่ 2019 ต.บ้านแหลม โรคไวรสั โคโรน่า 2019 ต. จรเขใ้ หญ่
79 แบบรำยงำนกำรนเิ ทศ โครงกำรจดั กำรศกึ ษำเพื่อพัฒนำสงั คมและชมุ ชน จัดกระบวนการเรยี นรู้เน้นใหผ้ ู้เรยี นมีส่วนร่วม โดยการแบ่งกลุ่มใหผ้ ู้เรียนระดมความคดิ เหน็ การขจดั และป้องกันยาเสพตดิ ในชมุ ชนของตนเอง และมแี นวคดิ ใหผ้ ู้ปกครองมีส่วนรว่ มกบั โรงเรียนเกยี่ วกับ การจดั การเรยี นการสอน ใหม้ ีหลกั สูตรหรือเนื้อหาเก่ียวกบั โทษของยาเสพตดิ และความผิดเกย่ี วกบั การกบั ยา เสพตดิ ใหโ้ ทษ ประเด็น/ข้อนิเทศ 1 ปัจจยั ป้อน(Input) 1.1 โครงการ /กจิ กรรมดาเนินการโดยมุ่งใหค้ วามรูเ้ กยี่ วกบั การเสรมิ สร้างคณุ ภาพชวี ติ - โครงการ /กิจกรรม ท่ี ดาเนนิ การเหมาะสม สอดคลอ้ งกบั สภาพความตอ้ งการของประชาชนและชมุ ชนหรอื ไม่ อย่างไร 1.2 โครงการ / กิจกรรม ท่ีดาเนนิ การใช้รูปแบบกล่มุ สนใจ ฝกึ อบรมหรอื อน่ื ๆ เพราะเหตใุ ด 1.3 มีการจดั ทาขอ้ มลู สารสนเทศทเ่ี ก่ียวขอ้ งหรือไม่ อย่างไร ( แนวโน้มความเสีย่ ง/สถิตกิ ารเกิดภัยพบิ ตั ิ /การคดิ ดี ทาดี) 2. กำรจัดกระบวนกำรเรยี นร(ู้ Process) 2.1 วิทยากรมีความรู้ความสามารถและเทคนิคการถ่ายทอดเหมาะสมหรือไม่ อย่างไร 2.2 มกี ารใชส้ ่อื เทคโนโลยแี หล่งเรยี นรู้ ภูมิปญั ญาท้องถ่นิ ประกอบการจดั กิจกรรมหรือไม่ อยา่ งไร 2.3 มีการประเมินผลการจัดกจิ กรรมหรอื ไม่ อย่างไร 2.4 มีการจัดทารายงานผลการจัดโครงการ / กิจกรรม เมื่อสิน้ สดุ โครงการหรือไม่ อยา่ งไร 2.5 มกี ารตดิ ตามผลการนาความรู้ไปใช้ประโยชนห์ รือไม่ อยา่ งไร 3. ผลผลิต(Output) 3.1 ประชาชนทีเ่ ขา้ รว่ มโครงการ/กจิ กรรม มคี วามรู้ ความเข้าใจเกยี่ วกับการป้องกนั ผลกระทบและ ปรับตวั ต่อการเปล่ียนแปลงสภาพภูมอิ ากาศ และภยั พบิ ัติธรรมชาติหรอื ไม่ อยา่ งไร 3..2 ป ระชาชนทเี่ ข้าร่วมโครงการ/กิจกรรม มคี วามตระหนกั ในการรว่ มสร้างสงั คมสีเขยี วดาเนินการกาจดั ขยะและมลพษิ ในบ้าน ชมุ ชนไดอ้ ยา่ งถกู ต้องและตอ่ เน่อื ง หรือไม่ อยา่ งไร 3.3มีกจิ กรรมป้องกนั กาจัดบรหิ ารจัดการขยะ มลพิษ และกจิ กรรมปอ้ งกันภัยพบิ ัติธรรมชาติ ในชุมชนอย่าง สม่าเสมอหรือไม่ อยา่ งไร สภำพที่พบ 1 ปัจจัยป้อน(Input) โครงการ /กจิ กรรมดาเนินการโดยมุ่งให้ความรูเ้ กย่ี วกบั การเสรมิ สร้างคณุ ภาพชวี ติ ทีเ่ ปน็ มิตรกับส่ิงแวดล้อม การ ป้องกันผลกระทบการปอ้ งกนั ภยั พบิ ัติธรรมชาตแิ ละสภาพภมู ิอากาศ การลดความสญู เสยี ในการผลติ และใช้เทคโนโลยี ทเ่ี ป็นมติ ร กบั สงิ่ แวดล้อมและ การคานงึ ถึงสว่ นรวม (เชน่ การบริหารจดั การขยะและมลพิษในชมุ ชน/การป้องกันภยั พบิ ตั ิธรรมชาตแิ ละ สภาพภมู อิ ากาศ) โครงการ /กิจกรรม ท่ีดาเนนิ การเหมาะสม สอดคล้องกับสภาพความต้องการของประชาชนและชมุ ชน โครงการ / กจิ กรรม ท่ีดาเนนิ การใชร้ ปู แบบกลมุ่ สนใจ ฝึกอบรม มีการจัดทาขอ้ มลู สารสนเทศท่เี ก่ียวข้องหรอื ไม่ อยา่ งไร (สภาพ ภมู อิ ากาศ /แนวโน้มความเสยี่ ง/สถติ กิ ารเกดิ ภยั พบิ ตั ิ /การคิดดี ทาดี) 2 กำรจัดกระบวนกำรเรียนร(ู้ Process) วทิ ยากรมีความรูค้ วามสามารถและเทคนิคการถา่ ยทอดเหมาะสม สาหรับโครงการอบรมเชงิ ปฏบิ ัตกิ ารให้ความร้เู ร่ืองการปรับปรุงบารุงดนิ วทิ ยากรเปน็ เจ้าหนา้ ทเี่ กษตรประจา ตาบล มีการใช้สื่อ เทคโนโลยี แหล่งเรียนรู้ มีการประเมินความพงึ พอใจ โดยใช้เครื่องมือแบบประเมินความพึง พอใจ (กศน.13)มีการจดั ทารายงานผลการจดั โครงการเมอ่ื สน้ิ สดุ โครงการภายใน 10 วัน ตามข้อตกลงของ สถานศกึ ษาประชาชนท่เี ขา้ รว่ มโครงการมีความรู้ ความเข้าใจเกยี่ วกบั การปรับปรุงบารงุ ดิน และการทาปุ๋ย
80 ชีวภาพจากเศษใบจามจรุ ีมีความรเู้ รอ่ื งการคดั แยกขยะในครวั เรอื น ประชาชนทีเ่ ข้ารว่ มโครงการมีความตระหนัก ในการรว่ มอนรุ ักษ์สง่ิ แวดล้อม 3. ผลผลิต(Output) ประชาชนท่ีเข้ารว่ มโครงการ/กจิ กรรม มีความรู้ ความเขา้ ใจเก่ยี วกับการป้องกันผลกระทบและปรบั ตวั ต่อการเปลย่ี นแปลงสภาพภูมิอากาศ ภัยพิบัติธรรมชาติและโรคอบุ ัติใหม่ ประชาชนที่เขา้ รว่ มโครงการ/กจิ กรรม มคี วามตระหนกั ในการรว่ มสรา้ งสังคมสเี ขยี วดาเนินการกาจัดขยะและมลพิษในบา้ น ชมุ ชนไดอ้ ย่างถูกต้องและตอ่ เนอื่ ง มีกิจกรรมปอ้ งกันกาจัดบรหิ ารจดั การขยะ มลพษิ และกิจกรรมป้องกนั ภยั พบิ ตั ิธรรมชาตใิ นชุมชนอยา่ งสมา่ เสมอ ปัจจัยท่ีส่งผลต่อควำมสำเร็จ 1. หลกั สตู รสอดคลอ้ งตามความต้องการของผเู้ รยี น 2. วิทยากรมคี วามรคู้ วามสามารถและเทคนิคในการถา่ ยทอดที่เหมาะสม 3. ไดร้ ับความร่วมมือจากภาคีเครือขา่ ยอาทิ สถานีพัฒนาท่ดี ินจังหวัดสุพรรณบรุ ี ให้การสนับสนุนวัสดุ 4. มีการนิเทศ ติดตามผลการดาเนนิ งานสมา่ เสมอ ปัญหำ/ข้อเสนอแนะ ควรเพม่ิ สื่อการเรยี นรเู้ กย่ี วกบั ยาเสพติดใหม้ ีความหลากหลาย ฝึกอบรมใหค้ วามรู้เรือ่ ง การบรหิ ารจัดการขยะในชุมชน ต. มะขามล้ม ฝกึ อบรมให้ความรเู้ รอื่ ง การบรหิ ารจดั การขยะในชุมชน ต. องครกั ษ์ ฝึกอบรมให้ความรูเ้ รอ่ื ง การบรหิ ารจัดการขยะในชุมชน ฝึกอบรมให้ความรูเ้ ร่ือง การบรหิ ารจดั การขยะในชุมชน ต. ไผก่ องดนิ ต. วดั ดาว
81 ฝกึ อบรมให้ความรู้เร่ืองชุมชนุ ดี สังคมดวี ถิ ปี ระชาธปิ ไตย ฝกึ อบรมให้ความรูเ้ รื่องชุมชุนดี สงั คมดีวถิ ีประชาธิปไตย ต. โคกคราม ต. วัดดาว ฝึกอบรมให้ความรู้เรอ่ื งชมุ ชนดหี า่ งไกลยาเสพติด ฝึกอบรมใหค้ วามรู้เรื่อง การบรหิ ารจัดการขยะในชุมชน ต. โคกคราม ต. ตะคา่ ฝึกอบรมใหค้ วามรู้เร่ือง การบริหารจัดการขยะในชุมชน ฝกึ อบรมให้ความรู้เรือ่ ง การบรหิ ารจดั การขยะในชมุ ชน ต. บางใหญ่ ต. วดั ดาว
82 แบบรำยงำนกำรนเิ ทศ กำรจัดกำรศกึ ษำตำมหลกั ปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียง การขบั เคลอื่ นหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงด้านการศกึ ษา หมายถึง การดาเนินการส่งเสริม และสนับสนุน ให้บุคลากรในภาคการศึกษาทุกระดับ น้อมนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ใน ชีวิตประจาวนั และการปฏิบัติ ภารกิจ เชน่ การบริหารการศึกษา การบริหารจัดการงบประมาณการศึกษา การ จัดสถานศึกษา การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ การจัดกจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น การจดั กจิ กรรมนักเรียน เป็นต้น เพ่ือที่ ท้ายทส่ี ดุ แลว้ เกดิ กระบวนการปรบั เปลีย่ นวิธคี ิดและ วถิ ีปฏบิ ตั ิ จนเป็นวิถชี วี ิต เพื่อผลให้เกิดการปลูกฝังและบ่ม เพาะผู้เรียน เด็ก และเยาวชน ให้มีจิตสานึกและอุปนิสัย “พอเพียง” (Sufficiency Mindset and Behavior) เพอ่ื จะได้สามารถดารงตน และดาเนนิ ชีวิตให้เจริญก้าวหน้าไปได้ อย่างสมดุลและพร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลง ต่างๆ จดุ เร่ิมตน้ ของการขับเคล่ือน เนื่องมาจากกระแสพระราชดารัส “เศรษฐกิจพอเพียง” ที่ปวงชนชาวไทยได้ เร่ิมรับรู้และเรียนรู้มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 และโดยเฉพาะอย่างย่ิงพระราชดารัส พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลท่ี 9 เม่ือวันศุกร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2541 ความตอนหน่ึงว่า “... คนเราถ้าพอในความต้องการ ก็มีความโลภน้อย เมื่อมีความโลภน้อย ก็เบียดเบียนคนอื่นน้อยถ้าทุก ประเทศมี ความคิด ‘อันน้ีไม่ใช่เศรษฐกิจ’ มีความคิดว่าทาอะไรต้องพอเพียง หมายความว่า พอประมาณ ไม่สุดโต่ง ไม่ โลภ อย่างมาก คนเราก็อยู่เป็นสุข พอเพียงนี้อาจจะมีมาก อาจจะมีของหรูหราก็ได้ แต่ว่าต้องไม่ไปเบียดเบียน คนอ่ืน ต้องให้ พอประมาณตามอัตภาพ พูดจาก็พอเพียง ทาอะไรก็พอเพียง ปฏิบัติตนก็พอเพียง ฉะนั้น ความ พอเพียงน้ี ก็แปลว่า ความ พอประมาณ และความมีเหตุผล...” จึงเป็นที่มาของความเข้าใจว่า “เศรษฐกิจ พอเพียง” เป็นหลักคิดหลักปฏิบัติในการ ดาเนินชีวิตท่ีทุกคน ทุกประเทศสามารถนาไปใช้ในทุกกิจกรรม ทุก สาขาอาชพี และทุกระดับ เพือ่ ใหเ้ กิดการพฒั นาที่ สมดลุ มัน่ คง และยงั่ ยืน ประเด็น/ข้อนเิ ทศ 1 ปัจจัยปอ้ น 1.1หลักสูตรมอี งค์ประกอบครบถว้ นตามกระบวนการพัฒนาหลกั สูตรหรือไม่ ดาเนินการอย่างไร 1.2 หลกั สูตรทใ่ี ช้ในการสอนได้พัฒนาข้ึนเองหรอื นามาจากแหลง่ อ่นื (ระบแุ หล่งทีม่ า) 1.3 เนอื้ หาหลกั สตู รมีการบรู ณาการสภาพ ปัญหา ความตอ้ งการของผ้เู รียนชุมชนและแนวโน้มการพัฒนา หรือไม่ อยา่ งไร 1.4 มแี ผนงาน/ โครงการ / กิจกรรมเพ่ือส่งเสริมการฝึกที่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนและ ตลาดแรงงานหรอื ไม่ อย่างไร 1.5 วทิ ยากรมีความรู้ความสามารถตามเนื้อหาหลักสตู ร วสั ดุ อุปกรณ์ มีความเพียงพอและสถานท่ีมี ความเหมาะสมหรือไม่ มกี ารจดั ทาหลกั สตู รอบรมให้ความรแู้ ก่ประชาชนท่หี ลากหลาย สอดคล้องกับสภาพความต้องการ หรือไม่ อยา่ งไร 2. กำรจดั กระบวนกำรเรยี นรู้ (Process) 2.1 ดาเนนิ กจิ กรรม/โครงการตามแผนท่กี าหนดหรอื ไม่ ถา้ ไมเ่ พราะเหตุใด 2.2 มกี ารฝึกปฏบิ ตั จิ ริงในครอบครัว/ชุมชนหรอื ไม่ ผลเป็นอยา่ งไร
83 2.3 จดั วทิ ยากร/จิตอาสาประจาศนู ยเ์ รียนรู้ แหลง่ เรียนรู้ในชมุ ชน ให้บรกิ ารข้อมลู แนะนา ใหค้ าปรึกษา แกน่ กั ศกึ ษา และประชาชนที่มาศกึ ษาเรียนรูเ้ ป็นประจาหรือไม่ อยา่ งไร 2.4 มกี ารวดั ผล ประเมินผลการเรยี นรูส้ อดคล้องตามหลักสูตรหรอื ไม่ อย่างไร มีเครอ่ื งมอื วดั ผล ประเมนิ ผลหรอื ไม่ มีการประเมินความพึงพอใจของผเู้ รยี นทุกหลักสูตรหรือไม่ อย่างไร มีการจัดทารายงานผล การปฏบิ ัตงิ านเมื่อส้นิ สดุ โครงการหรอื ไม่ อย่างไร 3 ผลผลิต (Output) 3.1 นกั ศึกษาและประชาชนนาหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ไปใช้ในการพัฒนา คณุ ภาพชีวิตได้หรือไม่ อย่างไร นกั ศกึ ษาและประชาชนมีความร้ดู ้านเกษตรธรรมชาติ หรอื ไมอ่ ยา่ งไร 3.2 นักศึกษาและประชาชนสามารถนาความรู้ด้านเกษตรธรรมชาติ ไปพัฒนาอาชีพเกษตรกรรม ได้หรือไม่ อย่างไร สภำพท่ีพบ ดำ้ นปัจจัยป้อน หลักสตู รมีองค์ประกอบที่ครบถ้วนตามกระบวนการพัฒนาหลักสูตร หลกั สตู รที่ใช้ใน การสอนได้พัฒนาข้นึ จากสถานศกึ ษาและสานักงาน กศน.จังหวดั สพุ รรณบรุ ี เนอื้ หาของหลกั สูตรมกี ารบรู ณาการ สภาพปัญหา ความต้องการของผู้เรยี น มีการจัดทาแผนปฏิบตั ิการประจาปี 2563 ทสี่ อดคลอ้ งกับความต้องการ ของประชาชน ครู กศน.ตาบล วทิ ยากร และผู้เรยี นมสี ่วนรว่ มในการจัดทาแผนการจัดการเรยี นรู้ครู กศน.ตาบลมี การช้แี จงวิทยากรกอ่ นการดาเนนิ กิจกรรม มีการจัดทาทาเนียบวิทยากร ทาเนียบภมู ปิ ัญญาท้องถน่ิ ทาเนยี บ แหลง่ เรยี นรดู้ า้ นเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎใี หม่ มีการจัดทาหลกั สตู รอบรมให้ความรู้ท่หี ลากหลาย สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน วิทยากรมคี วามร้คู วามสามารถตามเน้ือหาหลักสูตรมีเอกสารรับรอง ความร้คู วามสามารถประกอบ วสั ดุ อปุ กรณม์ เี พียงพอ สถานท่จี ดั กจิ กรรมแตล่ ะแหง่ มีความเหมาะสม ดำ้ นกำรจัดกระบวนกำรเรยี นรู้ ครู กศน.ตาบลดาเนินการจดั กจิ กรรม/โครงการตามแผนท่ี กาหนดไว้ โดยจัดส่งแผนการจัดกิจกรรมให้งานการศึกษาต่อเนื่องเป็นประจาทุกเดือน มีการและเปลี่ยนเรียน ศึกษาดูงานในสถานท่ีจัดกิจกรรมที่เป็นแหล่งเรียนรู้ มีการวัดผลประเมินผลการเรียนรู้สอดคล้องตามหลักสูตร อาทิการทาแบบทดสอบ และการฝึกปฏิบัติจริง ครู กศน.ตาบลดาเนินการประเมินความพึงพอใจของผู้เรียนด้วย เครื่องมือแบบประเมินความพึงพอใจ กศน. 13 ครู กศน.ตาบลดาเนินการรายงานผลการจัดกิจกรรมและขอ อนมุ ตั ิการจบหลักสตู รหลังจากการดาเนนิ การจดั กิจกรรมเสรจ็ ส้ินภายใน 10 วัน ตามข้อตกลงของสถานศกึ ษา ปัจจยั ที่ส่งผลตอ่ ควำมสำเรจ็ (ถ้ำมี) 1. หลักสูตรสอดคล้องตามความตอ้ งการของผู้เรยี น 2. ไดร้ บั ความรว่ มมือจากภาคเี ครือข่าย 3. มีการนเิ ทศ ติดตามผลการดาเนนิ งานสม่าเสมอ เศรษฐกิจพอเพียง การเพาะเหด็ ในตะกรา้ ต.องครักษ์ การทาหมักแบบไมพ่ ลิกกอง (ออนไลน์ ) ต. องครักษ์
84 การทาปุ๋ยหมักแบบไม่พลกิ กอง (ออนไลน์ ) ต.สาลี การทาปยุ๋ หมักแบบไม่พลกิ กอง (ออนไลน์ ) ต.ไผ่กองดนิ การทาปุ๋ยน้าชวี ภาพ การปลูกผกั สวนครัว (ออนไลน์ ) ต.มะขามลม้ การทาปยุ๋ น้าชวี ภาพ การปลูกผักสวนครวั (ออนไลน์ ) ต.วดั ดาว การทาปยุ๋ น้าชีวภาพ การปลูกผกั สวนครัว (ออนไลน์ ) การทาป๋ยุ นา้ ชวี ภาพ การปลกู ผักสวนครวั (ออนไลน์ ) ต.จรเขใ้ หญ่ ต. ตะคา่ การทาปุ๋ยนา้ ชีวภาพ การปลกู ผกั สวนครัว (ออนไลน์ ) การทาป๋ยุ นา้ ชวี ภาพ การปลูกผกั สวนครัว (ออนไลน์ ) ต.บางใหญ่ ต. วัดดาว
85 แบบรำยงำนกำรนเิ ทศ โครงกำรสร้ำงเครือข่ำยดิจทิ ัลชุมชนระดบั ตำบล สานักงาน กศน. ในฐานะหน่วยงานทีท่ าหนา้ ที่ สง่ เสริมสนบั สนนุ การจดั การศึกษานอกระบบและ การศกึ ษาตาม อัธยาศัยซึ่งเป็นภาพรวมของการศึกษาตลอดชวี ติ ได้กาหนดยทุ ธศาสตร์การพฒั นาการศกึ ษาตาม นโยบายรฐั บาลในการ ขบั เคลื่อนเศรษฐกจิ ดจิ ทิ ลั เพื่อสรา้ งสารสนเทศ และองค์ความรตู้ ่างๆ สาหรับการพฒั นา สงั คมและคณุ ภาพชีวิตของ ประชาชนดา้ นนวัตกรรม การใช้บรกิ ารตา่ ง ๆ ของภาครัฐ รวมถึงการพัฒนาดา้ น เศรษฐกจิ จงึ ได้กาหนดให้ กศน. ตาบล มี บทบาทภารกจิ ตามนโยบายการขบั เคล่ือนเศรษฐกจิ ดจิ ิทัล ภายใต้การ ขบั เคลือ่ นการดาเนนิ งาน “ศนู ย์ดิจทิ ลั ชมุ ชน” เพ่อื การบริหารจดั การฐานข้อมูลท่จี าเป็นสาหรับ กศน. และชุมชน รวมทง้ั เพ่ือจดั การเรยี นร้แู ละการรับรขู้ อ้ มูลขา่ วสารของ ประชาชนให้เท่าทนั และสอดคลอ้ งกบั การเปล่ียนแปลง ของสังคม เทคโนโลยี และโลกยคุ ดจิ ิทัล สานกั งาน กศน. มี นโยบายให้ กศน.ตาบลทกุ แห่ง ดาเนินการจดั โครงการสร้างเครือขา่ ยดิจิทลั ชมุ ชนระดบั ตาบล โดยใหส้ านักงาน กศน. จังหวดั จัดอบรมวิทยากร แกนนา ครู ก หลักสตู ร Digital Literacy และ E- Commerce พร้อมให้วทิ ยากรแกนนา ครู ก ขยายผลจดั อบรมใหก้ ับ วทิ ยากรแกนนา ครู ข และ ครู ค ในระดับจังหวดั เพื่อให้ครู ข และ ครู ค นาไปถา่ ยทอดให้กบั ประชาชนในพืน้ ที่ ระดับตาบลท่ีรบั ผิดชอบ สอดคลอ้ งกับ ยุทธ์ศาสตร์ดา้ นการสรา้ งความสามารถในการแขง่ ขัน การ พัฒนาทกั ษะ ใหป้ ระชาชนเพื่อการสรา้ งมูลคา่ เพิ่มใหก้ บั สนิ ค้าและบริการ 1) พัฒนาทักษะและสง่ เสริมให้ประชาชนประกอบ ธุรกิจการคา้ ออนไลน์ ประเด็น/ขอ้ นเิ ทศ 1. ปัจจยั ป้อน (Input) 1.1 หลักสตู รมอี งค์ประกอบครบถ้วนตามกระบวนการพฒั นาหลักสตู รหรือไม่ ดาเนนิ การอย่างไร 1.2 เนื้อหาหลักสูตรมีการบูรณาการสภาพ ปัญหา ความต้องการของผู้เรียนชุมชนและแนวโน้มการ พฒั นาหรอื ไม่ อยา่ งไร 1.3 หลักสูตรที่ดาเนินการสอดคล้องตามหลักการหรือไม่ อย่างไร- มีแผนงาน/ โครงการ / กิจกรรมเพื่อ สง่ เสริมเรียนรูท้ สี่ อดคล้องกบั ความตอ้ งการของประชาชนและตลาดแรงงานหรือไม่ อย่างไร 1.4 มีแผนการจัดการเรียนรู้ตามหลักสูตรหรือไม่ ใครเป็นผู้ดาเนินการจัดทา มีการประชุมชี้แจง /อบรม เทคนิควิธีการถ่ายทอดความรู้แก่วิทยากรก่อนดาเนินการหรือไม่ อย่างไร วิทยากรมีความรู้ความสามารถตาม เนื้อหาหลักสูตรหรือไม่ วัสดุ อุปกรณ์ มีความเพียงพอและสถานท่ีมีความเหมาะสมหรือไม่ มีการประเมินหลักสูตร หรอื ไม่ ดาเนนิ การอย่างไร 2 กำรจดั กระบวนกำรเรียนรู้ (Process) 2.1 วิทยากร มีความรู้ความสามารถและมีเทคนิคการถ่ายทอดเหมาะสมหรือไม่ อย่างไร วิทยากร จัดการ เรียนรู้ตามแผนทกี่ าหนดหรือไม่ 2.2 มีการใช้ส่ือ แหล่งเรียนรู้ /ภูมิปัญญาท้องถิ่นประกอบการสอนหรือไม่ อย่างไร มีการประยุกต์ใช้ “สะ เต็มศกึ ษา”(STEM Education) ในการจดั กจิ กรรมการเรียนรหู้ รอื ไมอ่ ย่างไร
86 2.3 มีการวัดผล ประเมินผลการเรียนรู้สอดคล้องตามหลักสูตรหรือไม่ อย่างไร มีเครื่องมือวัดผล ประเมนิ ผลหรือไม่ มีการประเมนิ ความพงึ พอใจของผู้เรยี นทกุ หลักสูตรหรือไม่ อย่างไร 3 ผลผลติ (Output) 3.1 ประชาชนมีความรู้พื้นฐานด้านดิจิทัลหรือไม่อย่างไร ผู้เรียนมีความรู้เร่ืองกฎหมายเก่ียวกับ คอมพวิ เตอร์สาหรบั การใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ติ ประจาวันหรอื ไม่ อย่างไร สภำพท่ีพบ 1.สภำพกำรดำเนนิ งำนของจงั หวัด /อำเภอ กระบวนการสนบั สนนุ การดาเนนิ งานศูนย์ดจิ ทิ ัลเป็น มีเพียงแท็บเล็ดของครู เพยี ง 1 เครอื่ ง ครูมีการประชมุ จดั ทาหลักสตู รโดยสานกั งาน กศน.จังหวัด มีการใชโ้ ทรทัศน์ทสี่ ามารถรบั สัญญาณอนิ เทอร์เน็ตได้มาใชเ้ ปน็ สอื่ ในการจดั กจิ กรรม กศน.ตาบลสาลี ใชเ้ คร่อื ง ฉายโปรเจคเตอรเ์ ป็นสื่อในการจดั กิจกรรม มีการนิเทศ ตดิ ตามอย่างตอ่ เน่ือง 2.สภำพของศูนย์ดิจิทลั ชุมชน ความพร้อมในการให้บรกิ าร เก่ียวกับ สถานท่ี คอมพิวเตอร์ สญั ญาณอินเทอร์เน็ตมีสภาพใช้งานได้เปน็ อย่างดี สถานทจ่ี ัดกจิ กรรมมีความเหมาะสม กศน.ตาบล มกี ารตดิ ต้ังสญั ญาณอินเทอรเ์ น็ต สัญญาณอนิ เทอร์เน็ต เสถยี รตอ่ การบริการการเรียนรู้ 3.กำรดำเนินงำนของศูนย์ดจิ ทิ ัลตำมนโยบำยปี 2563 การดาเนินงานตามบทบาทการเปน็ ศูนย์บริการทางอินเทอรเ์ น็ต การบริการการศกึ ษาและการเรยี นรู้ของ ประชาชน การเปน็ แหล่งเรียนร้อู อนไลน์ และการพฒั นาเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ มกี ารจัดทาแผนสาหรับการ ฝึกอบรมนักศึกษาและประชาชน 4.หลักสูตร/โครงกำร/กิจกรรม ที่เปดิ สอน กระบวนการจัดการศึกษาและการเรยี นรู้ตามหลกั สูตร โครงการ กิจกรรม ดาเนนิ การอยา่ งต่อเน่ือง มีหลกั สตู ร/โครงการ/กิจกรรม หลักสูตร จานวน 2 หลกั สตู ร หลกั สูตรการเขา้ ใจดิจทิ ัล (Digital Literacy) หลักสูตร E-Commerce (การคา้ ออนไลน์) 5. กำรพัฒนำบคุ ลำกร บคุ ลากรท่ผี า่ นการอบรมมีความรคู้ วามเข้าใจ และสามารถนาความร้ไู ปขยายผลให้กบั กลุม่ เปา้ หมายที่ ตอ้ งการได้ .ครผู ่านการอบรมสามารถเปน็ วิทยากรได้ (หลักสูตรวิทยากร ครู ข) ครมู กี ารนาความรู้ไปขยายผลแก่ กลมุ่ เปา้ หมาย 6. ปจั จัยท่ีสง่ ผลตอ่ ควำมสำเร็จ (ถ้ำมี) 1. หลักสตู รสอดคล้องตามความตอ้ งการของผเู้ รียน 2. วทิ ยากรมคี วามรูค้ วามสามารถและเทคนคิ ในการถา่ ยทอดทเี่ หมาะสม 3. ไดร้ บั ความรว่ มมอื จากภาคเี ครือขา่ ย อาทิ เครอื ข่ายร่วมนิเทศ 4. มีการนเิ ทศ ติดตามผลการดาเนนิ งานสมา่ เสมอ ปัญหำอุปสรรค - ครู ใชแ้ ลบ็ ท็อปเป็นส่ือในการจดั การเรียนรู้ เสียงและภาพไมช่ ดั เจน - ควรมีการนาลาโพงมาเช่อื มต่อกบั แล็บท็อป เพอ่ื ให้ไดย้ นิ เสียงชดั เจน - ควรมเี ครือ่ งฉายโปรเจคเตอรเ์ พ่ือใชเ้ ปน็ ส่ือในการจัดการเรียนรผู้ เู้ รียนสามารถรับชมภาพและเสียงไดอ้ ย่าง ชดั เจน และมีโอกาสได้เกิดการเรยี นรู้พร้อมกัน
87 ดิจิทัลชมุ ชนหลกั สตู รการเข้าใจดจิ ิทลั (Digital Literacy) ดจิ ิทัลชมุ ชน ตาบลสาลี ดิจิทัลชุมชนตาบลองครกั ษ์ ดจิ ิทัลชมุ ชน ตาบลตะคา่ ดจิ ิทลั ชุมชนตาบลจรเข้ใหญ่ ดิจทิ ัลชุมชน ตาบลบางใหญ่ ดิจทิ ัลชมุ ชนตาบลโคกคราม
88 ดจิ ิทัลชมุ ชนหลักสตู ร E-Commerce (การคา้ ออนไลน)์ ดิจทิ ลั ชมุ ชนตาบลองครกั ษ์ ดิจทิ ัลชุมชน ตาบลสาลี ดิจทิ ลั ชุมชนตาบลวดั ดาว ดิจทิ ลั ชมุ ชน ตาบลสาลี ดจิ ทิ ลั ชุมชนตาบลตะคา่ ดิจิทลั ชุมชน ตาบลจะเขใ้ หญ่
89 แบบรำยงำนกำรนเิ ทศ กำรจัดกำรศึกษำตำมอธั ยาศัย ห้องสมุดประชาชน อาเภอบางปลาม้า มีความพร้อมในด้านการบริการหนังสือเป็นหลัก แต่ในส่วน ของอุปกรณ์การเล่นสาหรับเด็ก ส่ือการ เรียนรู้อ่ืนๆยังมีไม่เพียงพอ และคอมพิวเตอร์ยังไม่มีให้บริการ มีบริการ สัญญาณ WiIFi ฟรี การสรรหาอาสาสมัคร ส่งเสริมการอ่านประจาห้องสมุด การประสานความร่วมมือจากภาคี เครือข่ายในการสนับสนุนทรัพยากรในการจัดกิจกรรม ห้องสมุดประชาชน มีการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร ผ่านชอ่ งทาง Social media เชน่ Facebook Line QR Code หาความรู้ ทดสอบความรู้เบ้ืองต้นจากเร่ืองท่ีอ่าน ผ่านโปรแกรม Kahoot และแนะนาหนังสอื ผ่าน Application ฯลฯ รวมถงึ การดาเนนิ การประชาสัมพันธ์ข่าวสาร ขอ้ มลู ท้ังในระดับอาเภอ ตาบล และหมู่บา้ นอยา่ งต่อเนื่อง เปน็ ต้น แตย่ ังขาด การประชาสัมพันธ์ที่เป็นระบบ การ วางแผนจัดกิจกรรม การพัฒนาสภาพแวดล้อม จัดหาส่ือส่ิงพิมพ์ และหนังสือท่ีผ่านความเห็นชอบจาก คณะกรรมการสถานศึกษาและได้รับการอนุมัติจากผู้บริหารสถานศึกษา นอกจากนี้รถห้องสมุดเคลื่อนที่พร้อม อุปกรณ์ (รถโมบาย) เป็นรูปแบบการจัดกิจกรรมหนึ่งท่ีให้บริการในพื้นที่ของ กศน.ตาบลและชุมชนอย่างน้อย ตาบลละ ๑ ครงั้ ตามนโยบายสานักงาน กศน.จงั หวดั สุพรรณบรุ ี โดยให้ครู กศน.ตาบล เป็นผู้จัดทาแผนเสนอขอ ใช้จัดกิจกรรมท่ีจัด เช่น บริการหนังสืออ่านเล่น กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน การทาพวงกุญแจ และตอบปัญหาชิง รางวลั เป็นต้น ประเดน็ /ขอ้ นเิ ทศ 1.ปจั จัยปอ้ น(Input) 1.1.สภำพควำมพร้อมทัง้ ภำยใน-ภำยนอก เป็นอยำ่ งไร เช่น สถำนที่ ส่ือ/หนงั สือ ผ้รู บั ผดิ ชอบ 2.กำรดำเนนิ งำน(Process) 2.1. เปิดใหบ้ รกิ ารสมา่ เสมอ หรอื ไม่ อยา่ งไร เปิดบรกิ ารวนั -เวลา ใด .2.2. ดแู ลสถานทีใ่ ห้น่าใชบ้ รกิ ารอย่างสม่าเสมอหรือไม่ อยา่ งไร 2.3.มีการประสานความร่วมมอื สนบั สนนุ วัสดุอุปกรณ์หรอื ไม่ อยา่ งไร 2.4. จัดกจิ กรรมสง่ เสริมการอา่ นท่ีหลากหลายหรือไม่ อย่างไร 2.5. มกี ารประชาสมั พนั ธ์เชิญชวนผใู้ ชบ้ รกิ ารอย่างสม่าเสมอ หลายช่องทาง เช่น การบอกต่อ/เสียงตามสาย ฯลฯ หรอื ไม่ อย่างไร 3.ผลผลิต(Output) 3.1. ความพงึ พอใจของผู้ใช้บรกิ ารอยู่ในระดับใด 3.3. มจี านวนผใู้ ช้บรกิ ารเพ่ิมมากข้ึนหรือไม่ อย่างไร หน่วยงานภาคีเครือข่ายเข้ามามีส่วนร่วมเพ่ิมมากข้ึน หรือไม่ อย่างไร 4.กจิ กรรมส่งเสริมกำรอ่ำนอ่นื ๆ ไดแ้ ก่. การจัดกิจกรรมสง่ เสริมการอ่านทหี่ ลากหลาย ตามสภาพบรบิ ท ชมุ ชน เชน่ เอกสารแผน่ พบั การบรกิ ารส่ือผา่ นระบบ QR Codeฯลฯมีหรือไม่ อะไรบา้ ง (ระบ)ุ
สภำพท่ีพบ 90 2.คร/ู มีการประสานงานการจัดกจิ กรรมร่วมกับภาคเี ครือขา่ ยในการดาเนนิ งาน มกี ารประสานงาน โรงเรียน ขอนานกั เรยี นเข้าร่วมกิจกรรม ประสานงานวดั ขอใช้สถานท่จี ัดกจิ กรรม 3.มีการจดั กิจกรรมท่ีหลากหลายสอดคล้องกบั ความต้องการของกลุ่มเปา้ หมาย อาทิ กจิ กรรมสง่ เสริมการ อ่าน บงิ โก คาศัพท์ กจิ กรรมสง่ เสริมการอ่านวิธที าน้าใบเตย และนา้ ดอกอัญชนั กจิ กรรมวาดภาพระบายสี 4.ครู/บรรณารักษ์มรี ูปแบบการจัดกิจกรรมอย่างมีระบบและแบบแผน 5.สถานท่กี ารจัดกจิ กรรม มคี วามเหมาะสมและเอื้ออานวยกบั กลุ่มเปา้ หมาย 6.ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมมีความหมายกบั กลุ่มเปา้ หมาย 7.กจิ กรรมมีความเหมาะสมกับกลมุ่ เปา้ หมาย/มีสือ่ ทเ่ี หมาะสมกบั ลุ่มเป้าหมายและเพียงพอกับ กลมุ่ เปา้ หมาย 8.มีการประชาสมั พันธ์กจิ กรรมการส่งเสริมการอา่ นผ่าน แอปพลเิ คชัน่ ต่างๆ 9.กลุ่มเปา้ หมายใหค้ วามสนใจในการจดั กจิ กรรมส่งเสริมการอา่ นและมสี ่วนรว่ มในกิจกรรม สง่ เสรมิ การ อ่านและ มีส่วนร่วมในการจัดกจิ กรรมเปน็ อยา่ งดี 10.ผู้เขา้ ร่วมกิจกรรมมคี วามพึงพอใจในการเขา้ ร่วมกจิ กรรมในการเข้ารว่ มกจิ กรรมอยู่ในระดบั ดี ปัจจัยทส่ี ่งผลต่อควำมสำเรจ็ 1. ภาคเี ครอื ข่ายให้การสนบั สนนุ 2. ผจู้ ดั กจิ กรรมเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ 3. กจิ กรรมมีความหลากหลายเหมาะสมกบั กลุ่มเป้าหมาย 4. มีการนเิ ทศ ติดตามผลการดาเนนิ งานสม่าเสมอ กจิ กรรมสง่ เสรมิ การอา่ น ชาวตลาด ต.ตะคา่ 2 เมษายน วันรักการอา่ น ห้องสมดุ ฯอาเภอ 91
กิจกรรมส่งเสริมการอ่านใน กศน.ตาบลสาลี กิจกรรมสง่ เสริมการอา่ นเคล่ือนท่ีศนู ยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็ ต.สาลี จดั กจิ กรรมสง่ เสริมการอา่ น กจิ กรรมสง่ เสรมิ การอา่ น รถโมบายเคลือ่ นท่ี ต.องครักษ์ \"วันลอยกระทง\"ของห้องสมดุ ประชาชน อาเภอบางปลามา้ วันท่ี 30 ตุลาคม 2563 ณ กศน.อาเภอบางปลามา้ กิจกรรมส่งเสรมิ การอ่าน หอ้ งสมุดประชาชน \" กิจกรรมสง่ เสริมการอา่ น หอ้ งสมุดประชาชน กิจกรรมสง่ เสริมการอ่าน บ้านหนงั สือชมุ ชน ตาบลองครักษ์ 91
กจิ กรรมส่งเสริมการอา่ น ชาวตลาด ต.ไผ่กองดนิ กจิ กรรมสง่ เสริมการอา่ น บา้ นหนังสือชมุ ชน ตาบลองครักษ์ กจิ กรรมส่งเสริมการอ่าน บา้ นหนังสือชมุ ชน กิจกรรมส่งเสริมการอา่ น บ้านหนงั สือชุมชน ตาบลไผก่ องดนิ ตาบลไผ่กองดนิ
93 บทที่ 5 ขอ้ เสนอแนะและแนวทางการพฒั นา ผลจากการนิเทศการจดั กิจกรรมมขี อ้ เสนอแนะและแนวทำงกำรพฒั นำดงั นี้ งำนกำรศกึ ษำนอกระบบระดบั กำรศกึ ษำขนั้ พน้ื ฐำน ปัญหา/ข้อเสนอแนะ 1.ครู กศน. ตาบลของ กศน. อาเภอบางปลาม้า มวี ุฒิการศกึ ษาไม่ตรงกับรายวิชาบงั คบั หรือการสอน การศึกษาขั้นพนื้ ฐาน เช่นภาษาองั กฤษ คณิตศาสตร์ และวิยาศาสตร์ เปน้ ตน้ 2.ปจั จบุ ันผเู้ รียนหลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน มีอายุไม่สงู มากนกั และอยู่ ในวยั รุน่ ชอบการเขา้ สงั คม รักความสนกุ สนาน ทายงั ขาดความรบั ผิดชอบในการเขา้ รว่ มกจิ กรรม จงึ เปน็ หนา้ ท่ี ของครทู ่ีจะตอ้ งเคยคอยตดิ ตาม กระตุน้ ใหผ้ ูเ้ รยี นใสใ่ จต่อการร่วมกิจกรรมต่างๆ และการเข้าสอบปลาย 3.ผเู้ รยี นมารว่ มกจิ กรรมไมค่ รบตามจานวนเป้าหมายที่ตง้ั ไว้ สถานศกึ ษาได้ซกั ซ้อมความเขา้ ใจกับครู ใหค้ รปู ระสานงานหรือนดั หมายผ้เู รียนใหม้ ารว่ มกิจกรรมในครัง้ ตอ่ ไป ให้ครบตามกาหนด แนวทำงกำรพฒั นำ 1.สถานศึกษาควรหาแนวทางชว่ ยเหลือผเู้ รยี น โดยสง่ เสริมพัฒนาให้ครูทาวิจัยในช้ันเรยี นเพือ่ แก้ปญั หาผูเ้ รยี นสง่ เสริมและจดั กิจกรรมใหผ้ เู้ รียนได้แสดงออก คดิ สร้างสรรค์ ใชเ้ ทคโนโลยใี นการพฒั นาการ เรียนรหู้ รอื นวตั กรรมใหม่ๆ เพื่อเพิม่ ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียนให้สูงขึน้ และจบตามเกณฑข์ องหลักสูตร 2.สถานศึกษาควรพัฒนาปรับปรงุ เครอ่ื งมือตดิ ตามผลการนาความรู้ไปใชข้ องผู้เรยี นให้ครอบคลุม สอดคลอ้ งกับวตั ถุประสงคข์ องหลักสตู รสถานศึกษา งำนกำรศกึ ษำต่อเนื่อง ปัญหำอุปสรรค/ขอ้ เสนอแนะ 1. สถานศึกษาควรมีการจัดประชมุ หรอื อบรมวิทยากรงานการศึกษาต่อเนื่อง 2. สถานศึกษาควรจัดให้มีการประเมินหลกั สูตร 3. สถานศึกษาควรมีการพัฒนาศูนยฝ์ ึกอาชีพชมุ ชนให้มีความพรอ้ มในการจดั การเรยี นรู้ 4. ครู กศน.ตาบลควรขอความอนเุ คราะหจ์ ากผ้นู าชุมชน หรือ อบต./เทศบาลในการจดั หาวัสดุ เพิม่ เติมให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้เรียน 5. ไดร้ บั ความร่วมมือจากภาคเี ครือขา่ ย 6. มีการนิเทศ ตดิ ตามผลการดาเนนิ งานสม่าเสมอ แนวทำงกำรพฒั นำคุณภำพ 1. สถานศึกษาควรพัฒนาระบบการติดตามการนาความรู้ไปใช้ หรือประยุกต์ใช้ของผู้จบการศึกษา ต่อเนอ่ื ง ให้ครอบคลมุ หลักสูตร 2. สถานศึกษาควรส่งเสริม สนับสนุนให้วิทยากร หรือผู้จัดการเรียนรู้การศึกษาต่อเน่ือง ได้รับการ พัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนรู้ การศึกษาต่อเนื่อง เพื่อให้ยกระดับความรู้ความสามารถของวิทยากร หรอื ผู้จดั การเรยี นรู้อย่างมอื อาชีพ 3. สถานศกึ ษาควรพฒั นาหลักสูตรการศึกษาต่อเน่ือง โดยประเมินผลการใช้หลักสูตรและนาผลไป พฒั นาให้มปี ระสทิ ธภิ าพ เหมาะสมกบั สถานการณ์ และความต้องการของกล่มุ เป้าหมาย
94 งำนกำรศึกษำตำมอัธยำศยั ปัญหำอุปสรรค/ข้อเสนอแนะ 1..ครู กศน.ตาบลควรจดั กิจกรรมสง่ เสริมการอ่านในบ้านหนงั สอื ชมุ ชน อยา่ งต่อเน่อื ง 2. ควรให้การสนับสนุนและให้ความรู้ในเร่ืองของการจัดทาข้อมูลสารสนเทศ การจัดการศึกษาตาม อธั ยาศัย แนวทำงกำรพัฒนำคุณภำพ 1. สถานศึกษาควรมีการพฒั นา จัดหาสื่อ นวตั กรรม ที่หลากหลายสอดคลอ้ งตามความต้องการของ กลมุ่ เป้าหมาย ส่งเสรมิ การอ่านในรูปแบบออนไลน์ ปรบั เปลีย่ นรูปแบบการให้บริการทนี่ ่าสนใจขึน้ และเขา้ ถึง กลุ่มเปา้ หมาย เช่นจดั มรี ถส่งเสรมิ การอ่านเคล่ือนท่ีขนาดเล็ก 2. จดั สภาพแวดล้อมใหเ้ อือ้ ต่อการเรียนรู้ มจี ุดเชค็ อนิ มุมกาแฟ มุมหนงั สือน่าอา่ น ทันสมัย มีความ พรอ้ มต่อกิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศัย 3 สถานศึกษาควรจัดกิจกรรมที่หลากหลาย เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย ทุกช่วงวัย ท้ังภายในและ ภายนอกห้องสมุดประชาชน ส่งเสริมกิจกรรมแบบเครือข่ายนักอ่าน (เชิงรุก ) ประสานความร่วมมือกับ หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ชุมชน และท้องถิ่นในการจัดทาข้อมูลพ้ืนฐานแหล่งเรียนรู้ ภูมิปัญญาท้องถ่ินใน เว็บไซต์ ของ กศน.อาเภอให้เป็นปจั จบุ นั ทันสมัย เปน็ ข้อมลู สารสนเทศแกผ่ รู้ ับบรกิ าร ........................................................
บรรณานุกรม การศกึ ษานอกโรงเรียน, กรม. กำรพฒั นำบุคลำกรผ้ทู ำหน้ำที่นเิ ทศภำยในของสถำนศกึ ษำต้นสงั กดั กรมกำรศกึ ษำนอกโรงเรียน. กรงุ เทพมหานคร : หน่วยศึกษานเิ ทศก์, 2542. การศึกษานอกโรงเรียน, กรม. กำรพฒั นำระบบนิเทศกำรศึกษำนอกโรงเรยี น. กรงุ เทพมหานคร : โรงพมิ พค์ ุรสุ ภา, 2543. กรองทอง จิรเดชากลุ . ค่มู ือกำรนเิ ทศภำยในโรงเรียน. กรุงเทพมหานคร : บรษิ ทั สานักพมิ พ์ ธารอักษรจากัด, 2550 . ศกึ ษานิเทศก์, หนว่ ย. กรมการศกึ ษานอกโรงเรยี น. ค่มู ือกำรนเิ ทศภำยใน. กรงุ เทพมหานคร : สานกั พิมพ์เสมาธรรม, ม.ป.ป. สงดั อทุ รานนั ท.์ การนเิ ทศการศึกษา หลกั การ ทฤษฎแี ละปฏบิ ตั .ิ กรงุ เทพมหานคร: โรงพมิ พม์ ิตรสยาม, 2530. หน่วยศกึ ษานิเทศก์, สานักงาน กศน. สรุปรำยงำนผลกำรนเิ ทศ กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอธั ยำศัย ปีงบประมำณ 2553. กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พ์รังษีการพิมพ์, 2553. การนิเทศภายในสถานศึกษา (ชัด บุญญา. ออนไลน์, 2553. สุชิน สวนศรี. 2543 : 7, ไพฑูรย์ ทิพยสุข. ออนไลน์, 2553.) คมู่ อื การนิเทศภายในของสถานศกึ ษา กศน. (ออนไลน์ )เขา้ ถึงได้จาก : https://www.google.com/search?ei=n0aMX8yPFYrorQHV5pagCA&q สรปุ ผลการนเิ ทศ กศน. (ออนไลน์ ) เขา้ ถงึ ไดจ้ าก : https://www.google.com/search?ei=j0aMX_3mEtD8rQG7n5rwCw&q
ภำคผนวก
บนั ทกึ ขอ้ ความ ศนู ย์ สว่ นราชการ กลุ่มงานอานวยการ กศน. อาเภอบางปลาม้า ท่ี ศธ 0210.8105 /............. วนั ท่ี ตลุ าคม 2563 เร่ือง รายงานผลการนิเทศภายในสถานศกึ ษา เรยี น ผอู้ านวยการศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อาเภอบางปลามา้ ตามท่ีศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อาเภอบางปลาม้า ได้แต่งตั้งและมอบหมายให้คณะกรรมการนิเทศภายใน สถานศึกษาดาเนินงานนิเทศติดตามผลการจัดการศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัย ตามแผนการนิเทศนั้น คณะกรรมการนิเทศได้ จัดทารายงานผลการนิเทศกิจกรรมการศึกษานอกโรงเรียน ประจาปี งบประมาณ 2563 ระหว่างวันที่ 20 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 ถึง วันท่ี 30 เดือน กันยายน พ.ศ. 2563 เพื่อนาผลการนิเทศมาพัฒนาการ ดาเนินการจัดกิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยนั้น บัดนี้ กลุ่มอานวยการ งานนิเทศภายในสถานศึกษา ได้ดาเนินการ เรียบร้อยแล้ว เอกสารดังแนบ จึงเรยี นมาเพ่อื 1. โปรดทราบ 2. โปรดลงนามทราบผลการดาเนินงานเพ่อื จะไดแ้ จ้ง ผูเ้ กยี่ วข้องตอ่ ไป ขอแสดงความนับถอื
( นางอญั ชลี ดว้ งประสิทธ์ิ ) งานนิเทศภายในสถานศึกษา (นายนรินทรธ์ ร พัฒนไชยการ) หัวหน้ากลมุ่ อานวยการ ( นางสมควร วงษแ์ กว้ ) ผู้อานวยการ กศน.อาเภอบางปลามา้
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138