แนวทางการดำเนนิ งานขับเคลือ่ นโครงการจติ อาสา ของสำนักงาน กศน. กลุ่มบรหิ ารงานบุคคลและนิตกิ าร สำนกั งาน กศน. สำนกั งานปลัดกระทรวงศกึ ษาธกิ าร กระทรวงศึกษาธกิ าร
คํานาํ ตามมติคณะรัฐมนตรี ครั้งที่ 1/2563 เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2563 ณ ห้องประชุมเฉลิมพระเกียรติ มหาวทิ ยาลัยนราธิวาสราชนครนิ ทร์ จังหวดั นราธวิ าส ขอ้ ที่ 12 เร่อื ง สรปุ ผลการปฏิบตั ิราชการของคณะรัฐมนตรี ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน 3.4 เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนบนพื้นฐานสังคมพหุวัฒนธรรม 2) การจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยเพื่อสร้างโอกาสและลดความเหลื่อมล้ำของสำนักงาน ส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดปัตตานี ข้อสั่งการให้สำนักงานส่งเสริมการศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย ดำเนินการ (1) สนับสนนุ ให้ครแู ละบุคลากรเข้ารบั การอบรมจิตอาสา 904 กอรปกับสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นเสาหลักให้กับชาติบ้านเมืองมาตั้งแต่สมัยโบราณ จวบจนรัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระมหากษัตริย์จึงเป็นสัญลักษณ์ของการดำรงอยู่ของชาติไทย มายาวนานกว่า 700 ปี และเป็นสถาบันทางสังคมท่เี ข้มแข็งยืนยง ทำให้ประเทศไทยสามารถรักษาความเป็นไทภายใต้พระบรมโพธิสมภาร ตราบจนปัจจุบัน สำนักงาน กศน. จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การดำเนินงานขับเคลื่อนโครงการจิตอาสาของสำนักงาน กศน. จะสามารถนำไปขับเคลื่อนการกำหนดยุทธศาสตร์ แผนงาน กลยุทธ์ มาตรการในการจัดกิจกรรมให้ข้าราชการครู บุคลากร เจ้าหน้าที่ในสังกัดสำนักงาน กศน. ได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล ทำให้ผู้เข้ารับการอบรมมี ความรู้ ความเขา้ ใจมจี ติ สาธารณะท่ีพร้อมเป็นอาสาสมัครในการบำเพ็ญประโยชน์ต่อส่วนรวม และเกดิ ความรกั ชาติ เกิดความสามัคคี ร่วมกันปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ และสามารถขยายผลโครงการสู่ประชาชนใน พื้นที่ ซึ่งจะเป็นรากฐานทเ่ี หนียวแน่นในการพฒั นาประเทศชาติให้มคี วามเจริญมั่นคงสืบไป (นายวรัท พฤกษาทวีกุล) เลขาธกิ าร กศน.
สารบญั หน้า 1 บทที่ 1 โครงการจติ อาสาของสำนกั งาน กศน. 1 1. ความเป็นมา 4 2. วตั ถุประสงค์ 4 3. ผรู้ ับผดิ ชอบ 4 4. กจิ กรรมที่ต้องดำเนินการ 4 5. กรอบในการดำเนินงานโครงการจิตอาสาของสำนกั งาน กศน. 5 6. ระยะเวลาดำเนนิ การ 5 7. สถานทด่ี ำเนนิ การ/พื้นทีด่ ำเนนิ การ 5 8. งบประมาณ 5 9. ประโยชนท์ ีค่ าดวา่ จะได้รับ 7 9 บทที่ 2 ภารกิจและหน้าที่ของหน่วยงาน/สถานศกึ ษาในสังกัดสำนกั งาน กศน. 10 1. สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย (สำนักงาน กศน.) 12 2. สถาบนั พัฒนาการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย (สถาบัน กศน. ภาค) 13 3. กล่มุ สำนักงานส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั จังหวัด 15 (กลุ่มสำนักงาน กศน.จงั หวดั ) 17 4. สำนักงานสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั จังหวัด/ 18 กรุงเทพมหานคร (สำนักงาน กศน.จังหวดั /กรุงเทพมหานคร) 30 5. ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อำเภอ/เขต (กศน.อำเภอ/เขต) 30 บทท่ี 3 การดำเนินงานโครงการจติ อาสาของสำนกั งาน กศน. 33 1. กจิ กรรมอบรมหลักสูตรจิตอาสาของสำนักงาน กศน. 37 2. กจิ กรรมขยายผลโครงการจิตอาสาของสำนักงาน กศน. 2.1 กิจกรรมท่ี 1 การประกวดการขยายผลโครงการจิตอาสาประจำปี 2564 2.1.1 ชมุ ชนจิตอาสาดีเดน่ 2.1.2 ผ้นู ำชุมชนจติ อาสาดีเด่น 2.2 กิจกรรมที่ 2 การแข่งขันขับร้องบทเพลงพระราชนพิ นธ์ (กศน.ชาเลนจ)์ ประจำปี 2564 บทท่ี 4 การสรุปรายงานผลการดำเนนิ โครงการจติ อาสาของสำนักงาน กศน. และ การเขียนผลการถอดบทเรยี น
สารบัญ (ตอ่ ) ภาคผนวก หน้า 1. โครงการหลักสูตรจติ อาสาของสำนักงาน กศน. 47 2. บญั ชรี ายชื่อผู้ผา่ นการอบรมจติ อาสา ๙๐๔ \"หลกั สูตรพื้นฐาน\" และ “หลักสตู รหลกั 50 ประจำ” 53 3. กำหนดการอบรมพฒั นาตามโครงการอบรมหลกั สูตรจติ อาสาของสำนักงาน กศน. 54 4. แบบประเมนิ โครงการอบรมหลกั สตู รจติ อาสาของสำนักงาน กศน. 55 5. ตวั อยา่ งวฒุ บิ ตั ร/เกยี รตบิ ตั ร 58 6. แบบข้อมูลและทะเบยี นประวัตชิ มุ ชนจติ อาสาดเี ด่น ระดบั จงั หวดั ประจำปี ๒๕๖๔ 59 7. แบบข้อมูลและทะเบียนประวัติของผู้นำชุมชนจิตอาสา ดีเด่นระดับจังหวัด 60 ประจำปี ๒๕๖๔ 61 8. โครงการแขง่ ขนั ขบั รอ้ งบทเพลงพระราชนิพนธ์ (กศน. ชาเลนจ์) ประจำปี 2564 62 9. ใบสมัคร การแขง่ ขนั ขับร้องบทเพลงพระราชนพิ นธ์ (กศน. ชาเลนจ์) ประจำปี 2564 คณะผูจ้ ดั ทำ
1 บทท่ี 1 โครงการจติ อาสาของสำนกั งาน กศน. 1. ความเป็นมา สถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นเสาหลักให้กับชาติบ้านเมืองมาตั้งแต่สมัยโบราณ จวบจนรัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระมหากษัตริย์จึงเป็นสัญลักษณ์ของการดำรงอยู่ของชาติไทย มายา วนานกว่า 700 ปี และเปน็ สถาบันทางสงั คมทเี่ ข้มแข็งยืนยง ทำใหป้ ระเทศไทยสามารถรักษาความเป็นไท ภายใต้พระบรมโพธิสมภาร ตราบจนปจั จุบัน ธ ทรงเป็นศูนยร์ วมจติ ใจของชาวไทย และดำรงอยภู่ ายใต้ทศพธิ ราชธรรม ทรงเป็นผู้นำการพัฒนา ประเทศในทุกด้าน อันได้แก่ การปกครองประเทศ การพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของประเทศ พระบาทสมเด็จพระวชริ เกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงน้อมนำพระราชดำริของในหลวง รัชกาลที่ 9 เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง มาเผยแพร่ใหป้ ระชาชนได้เรยี นรู้และนำไปปรบั ใช้ ทำใหป้ ระเทศไทยเป็นประเทศที่พัฒนาไปสคู่ วาม “ม่ันคง มั่งคั่ง ยง่ั ยนื ” จนกอ่ ให้เกดิ เป็นพลังท่สี ำคัญย่งิ ในการผลกั ดันใหป้ ระเทศไทยยืนหยัดอยูใ่ นสังคมแหง่ อารยประเทศได้อย่าง สง่างาม ประชาชนสามารถนำความรู้ที่ได้ไปเป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน ตลอดจนใช้ชีวิตอยู่บนพื้นฐานของ ความเป็นไทยและพอเพียง มีความรักความศรัทธาในสถาบันพระมหากษัตริย์ มีจิตใจที่ตั้งมั่นอยู่ในการช่วยเหลือ ผอู้ ื่น เปน็ ท่ีพง่ึ ของสังคม ส่งผลให้ประเทศชาตเิ กิดสนั ตสิ ขุ อยา่ งแทจ้ ริง พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธบิ ดีศรสี นิ ทรมหาวชริ าลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยหู่ วั ทรงมีพระราช ปณิธานในการบำเพ็ญประโยชน์พื้นที่ชุมชนโดยรอบพระราชวังดุสิตเป็นการทำความดีด้วยหัวใจ โดยหน่วยงาน ทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หนว่ ยทหารรกั ษาพระองค์ ข้าราชบริพารในพระองค์ฯ ร่วมกบั ประชาชน จิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการจิตอาสาพระราชทาน และพระองค์ทรง พระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้หน่วยราชการในพระองค์ 904 ร่วมกันจัดโครงการจิตอาสาพระราชทาน ตามแนวพระราชดำริ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ และแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงประกอบพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนมีความสมัครสมาน สามัคคี มคี วามสุขและประเทศชาติมีความมั่นคงอย่างย่ังยืน จงึ ทำให้เกิดจิตอาสาที่มีจิตแห่งการทำความดีงามท้ังปวง แก่เพื่อนมนุษย์โดยเต็มใจสมัครใจอิ่มใจ ซาบซึ้งใจ ปีติสุข ที่พร้อมจะเสียสละเวลา แรงกาย แรงสติปัญญา เพือ่ สาธารณประโยชน์ในการทำกิจกรรมหรือสง่ิ ท่ีเป็นประโยชนแ์ กผ่ ้อู ื่น โดยไมห่ วังผลตอบแทน และมีความสุขที่ได้ ชว่ ยเหลือผู้อ่ืน เปน็ จติ ท่ีไม่น่ิงดูดาย เมื่อพบเห็นปัญหาหรือความทุกขย์ ากทเ่ี กิดขน้ึ กบั ผู้คน เปน็ จติ ที่มีความสุขเม่ือได้ ทำความดีและเห็นน้ำตาเปลี่ยนแปลงเป็นรอยยิ้ม เป็นจิตที่เปี่ยมด้วย “บุญ” คือความสงบเยือกเย็น และพลังแห่ง ความดีงาม ปจั จบุ ันจติ อาสาตามพระราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ ัว รัชกาลท่ี 10 แบ่งเปน็ 3 ประเภท ดงั นี้ 1) จิตอาสาพัฒนา : กิจกรรมจิตอาสาพระราชทานที่มีวัตถุปะสงค์พัฒนาท้องถิ่นของแต่ละชุมชนให้มี คุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ การอนุรักษ์ธรรมชาติและ
2 สิ่งแวดล้อม การอำนวยความสะดวก และความปลอดภัยในการดำรงชีวิตประจำวัน การประกอบอาชีพ รวมทั้งการสาธารณสุข ฯลฯ 2) จิตอาสาภัยพิบัติ : กิจกรรมจิตอาสาพระราชทานที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเฝ้า ตรวจ เตือน และเตรียมการ รองรับภัยพิบัติทั้งที่เกิดจากธรรมชาติ และท่ีเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่โดยรวม และการเข้าช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากภัยพิบัติดังกล่าว เช่น อุทกภัย วาตภัย อัคคีภัย เป็นต้น และ 3) จิตอาสาเฉพาะกิจ : กิจกรรมจิตอาสาพระราชทานที่มีวัตถุประสงค์ให้ปฏิบัติในงานพระราชพิธี หรือการรับเสด็จ ในโอกาสต่าง ๆ เป็นการใช้กำลังพลจิตอาสาร่วมปฏิบัติกับสว่ นราชการที่เกี่ยวข้องในการช่วยเหลือ หรืออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนท่ีมาร่วมงานรวมท้ังการเตรียมการ การเตรียมสถานท่ี และการฟื้นฟูสถานท่ี ภายหลังการปฏิบัติในพระราชพิธี และการเสด็จฯ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวมถึงการน้อมนำพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ บรมนารถบพติ ร หรอื ในหลวงรัชกาลท่ี 9 เป็นแนวทางใน การดำเนินชีวิตโดยยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอย่างยั่งยืนภายใต้กระแส โลกาภิวัฒน์และความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ การวางรากฐานการดำเนินชีวิตจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องปลูกฝังให้เกิด ขน้ึ กบั ทกุ คนในสงั คมไทยโดยเฉพาะอยา่ งยิ่งเยาวชนทจ่ี ะเป็นอนาคตของชาติ สืบเน่อื งจากพระราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หัว รัชกาลท่ี 10 นัน้ สำนักงาน กศน.ได้น้อมนำมา เป็นแนวทางเพื่อให้ผู้ที่ได้รับการอบรมมีความรู้ ความเข้าใจ มีจิตสาธารณะที่พร้อมอาสาสมัครในการบำเพ็ญ ประโยชน์ต่อส่วนรวม และร่วมกันปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ สร้างความรักความสามัคคีของ ประชาชน และขยายผลโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ อันจะส่งผลให้บุคลากรในสังกัดมีความรัก ชาติ เกิดความรักความสามัคคี เป็นรากฐานที่เหนียวแน่นในการพัฒนาประเทศชาติให้มีความเจริญมั่นคง เพราะถือว่าบุคลากรเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่า และมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการปฏิบัติงานทุกประเภท ดังนั้นการพัฒนาทรพั ยากรมนุษย์จึงถูกกำหนดให้เปน็ นโยบายที่มีความสำคัญและจัดเป็นยุทธศาสตร์ในการพัฒนา ประเทศ ดังจะเห็นได้จากยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี ยุทธศาสตร์ที่ 1 ด้านความมั่นคง ที่กำหนดไว้เพื่อบริหาร จัดการสภาวะแวดล้อมของประเทศให้มีความมั่นคง ปลอดภัย และมีความสงบเรียบร้อยในทุกระดับและทุกมิติ และยุทธศาสตร์ที่ 3 ดา้ นการพฒั นาและเสริมสรา้ งศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ ท่กี ำหนดให้การปฎิรูปกระบวนการ เรียนรู้ที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 (การเปลี่ยนโฉมบทบาท “ครู” ให้เป็นครูยุคใหม่) และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี 12 (พ.ศ. 2560-2565) ทกี่ ำหนดวา่ ต้องใหค้ วามสำคัญกับ การวางรากฐานการพัฒนาคนให้มีความสมบูรณ์ ควบคู่กับการพัฒนาคนไทยในทุกชว่ งวัยให้เป็นคนดี มีสุขภาวะ ที่ดี มีคุณธรรมจริยธรรม มีระเบียบวินัย มีจิตสำนึกที่ดีต่อสังคมส่วนรวม มีทักษะความรู้ และความสามารถ ปรบั ตัวเท่าทนั กับการเปลีย่ นแปลงรอบตัวทร่ี วดเร็ว ประกอบกับกระแสการเปลี่ยนแปลงตา่ ง ๆ และอิทธพิ ลต่าง ๆ มีผลต่อการดำเนินงานขององคก์ าร ประกอบกบั มติคณะรฐั มนตรี ครั้งท่ี 1/2563 เมอื่ วนั ท่ี 21 มกราคม 2563 ณ ห้องประชุมเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลยั นราธวิ าสราชนครินทร์ จังหวัดนราธิวาส ข้อที่ 12 เรื่อง สรุปผล การปฏิบัติราชการของคณะรัฐมนตรีในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน 3.4 เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับ ชุมชนบนพื้นฐานสังคมพหุวัฒนธรรม 2) การจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยเพื่อสร้างโอกาส และลดความเหลื่อมล้ำของสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดปัตตานี ข้อสั่งการให้สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ดำเนินการ (1) สนับสนุนให้ครู
3 และบุคลากรเข้ารับการอบรมจิตอาสา 904 และการจัดกิจกรรมที่ส่งผลให้เกิดคว ามรักชาติ เกิดความรัก ความสามัคคี เป็นรากฐานที่เหนียวแน่นในการพัฒนาประเทศชาติให้มีความเจริญมั่นคง สอดคล้องกับนโยบาย และจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ที่กำหนดด้านการพัฒนาการศึกษาเพื่อ ความมั่นคง 1) พัฒนาคุณภาพการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยน้อมนำยุทธศาสตร์พระราชทาน “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” เป็นหลักในการดำเนินการ 2) เฝ้าระวังภัยทุกรูปแบบที่เกิดขึ้นกับนักศึกษา ครู และสถานศกึ ษา โดยเฉพาะภัยจากยาเสพติด อาชญากรรมทางไซเบอร์ การคา้ มนุษย์ 3) สง่ เสรมิ ใหใ้ ช้ภาษาท้องถิ่น รว่ มกบั ภาษาไทย เป็นสื่อจัดการเรยี นการสอนในพื้นท่ีทีใ่ ช้ภาษาอยา่ งหลากหลาย เพื่อวางรากฐานให้นกั ศึกษามีพัฒนาการ ด้านการคิดวิเคราะห์ รวมทั้งมีทักษะการสื่อสารและใช้ภาษาที่สามในการต่อยอดการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ 4) ปลูกฝังนักศึกษาให้มีหลักคิดที่ถูกต้องด้านคุณธรรม จริยธรรม และเป็นผู้มีความพอเพียง มีวินัย มีความสุจริต มีจิตอาสา โดยใช้กระบวนการลูกเสือและยุวกาชาด และเพื่อให้การดำเนินการของสำนักงาน กศน. สอดรับกับนโยบายและหลักการในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และนำไปสู่การปฏิบัติให้เกิด เป็นรูปธรรมให้ได้นั้น สำนักงาน กศน.จำเป็นต้องลงทุนเพื่อพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะ ความรู้ ความสามารถ และทัศนคติที่ดีต่อ การทำงานให้สอดรับกับการเปลีย่ นแปลงสภาพแวดล้อม และปัจจัยอื่น ๆ เพื่อเตรียมความพร้อมด้านทรัพยากร มนุษย์ให้สามารถนำศักยภาพของแต่ละบุคคลมาใช้ และสร้างให้แต่ละบุคคลเกิดทัศนคติที่ดีต่อสถาบันของชาติ และองค์กร ตลอดจนเกิดความตระหนักในคุณค่าของตนเองและเพื่อนร่วมงาน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาเยาวชนไทย บุคลากรผู้ทำหน้าที่ครูในยุคปัจจุบันจงึ ควรเป็นผูอ้ ำนวยการการเรียนรู้เพ่ือใหผ้ ู้เรียน เด็ก และเยาวชนมีความร้ทู ่ี เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลง มีกระบวนการคิดวเิ คราะห์ และแสวงหาความรู้ที่ถูกต้อง เหมาะสม และเหมาะควร ในการกระทำ สำหรับผู้อำนวยการเรียนรู้ในที่นี้จำเป็นต้องส่งเสริมให้ความรู้เรื่องบุญคุณของพระมหากษัตริย์ การปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ และสถาบันสำคัญของชาติ และความปรองดองสมานฉันท์ มีความเข้าใจร่วมกัน เกิดความสมัครสมานสามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และยึดมั่นในการปกครองระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และนำความรู้ดังกล่าวมาถ่ายทอดให้ผู้เรียนในสังกัด สำนกั งาน กศน. รวมทัง้ ประชาชนทวั่ ไปให้ไดร้ ับกระบวนการเรียนรู้ และดำรงตนเปน็ เยาวชนท่ีดี มีจติ สาธารณะพร้อม ที่จะบำเพ็ญประโยชน์ต่อส่วนรวม และร่วมกันปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยสำนักงาน กศน. ได้จัดส่งบุคลากรในสังกัดเข้ารับการอบรมจิตอาสา 904 “หลักสูตรพื้นฐาน” และ “หลักสูตรหลักประจำ” ณ โรงเรียนจิตอาสาพระราชทาน มีผู้ผ่านการอบรมภายในสังกัดสำนักงาน กศน. จำนวน 67 คน (ข้อมูลรุ่นที่ 1 – 4 ทั้ง “หลักสูตรพื้นฐาน” และ “หลักสูตรหลักประจำ”) เพื่อเป็นจิตอาสาตัวอย่าง เป็นกำลัง เป็นแกนนำ เป็นรากแก้วที่จะเป็นเบ้า เป็นแม่พิมพ์ที่จะนำความรู้ ความเข้าใจ คำว่าจิตอาสาไปขยายผลในการพัฒนา บุคลากรภายในสังกัดสำนักงาน กศน. รวมถึงประชาชน ผู้เรียน ให้เกิดการสร้างอุดมการณ์ สร้างจิตสำนึก สร้างระเบียบวินัย สามารถเป็นผู้นำสำคัญในการประสานความร่วมมือ แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับ ประชาชนในพ้ืนท่ี และนำความรู้ที่ไดร้ ับไปชว่ ยเหลือผู้ท่ีได้รบั ความเดือดร้อนจากสถานการณ์วิกฤติ และภัยพิบัติ ไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ดังนั้นเพื่อให้การดำเนินงานโครงการจิตอาสาของสำนกั งาน กศน. เป็นไปอย่างมปี ระสทิ ธิภาพและเกดิ ผล อย่างเป็นรูปธรรม จึงได้กำหนดแนวทางในการดำเนินงานโครงการจิตอาสาของสำนักงาน กศน. ขึ้นเพื่อ ให้เกิด การรับรู้ เข้าใจ และสามารถนำไปปฏิบัติงานเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั่วทั้งหน่วยงานในสังกัดสำนักงาน กศน. และเพือ่ ให้บรรลุเปา้ หมายของโครงการฯ
4 2. วัตถปุ ระสงค์ เพื่อให้หน่วยงาน/สถานศึกษาในสังกัดสำนักงาน กศน. ใช้เป็นแนวทางในการดำเนินงานขับเคลื่อน โครงการจิตอาสาของสำนักงาน กศน. ขึ้นเพื่อให้เกิดการรับรู้ เข้าใจ และสามารถนำไปปฏิบัติงานเป็นไปใน ทศิ ทางเดยี วกันท่ัวทั้งหนว่ ยงานในสังกดั สำนักงาน กศน. และเพื่อให้บรรลุเปา้ หมายของโครงการฯ 3. ผู้รับผดิ ชอบ ผรู้ บั ผิดชอบโครงการจิตอาสาของสำนักงาน กศน. ประกอบด้วย 3.1 สำนักงาน กศน. 3.2 สถาบนั กศน. ภาค 3.3 กล่มุ สำนักงาน กศน.จงั หวดั 3.4 สำนกั งาน กศน.จงั หวดั /กรงุ เทพมหานคร 4. กจิ กรรมท่ีต้องดำเนินการ โครงการจติ อาสาของสำนักงาน กศน. ประกอบดว้ ยโครงการและกจิ กรรมยอ่ ย ๆ ดังน้ี 4.1 กิจกรรมอบรมหลกั สูตรจิตอาสาของสำนกั งาน กศน. 4.2 กจิ กรรมขยายผลโครงการจิตอาสาของสำนักงาน กศน. ประกอบดว้ ย 4.2.1 กจิ กรรมท่ี 1 การประกวดการขยายผลโครงการจติ อาสา ประจำปี 2564 1) ชมุ ชนจติ อาสาดเี ดน่ 2) ผู้นำชมุ ชนจติ อาสาดีเดน่ 4.2.2 กิจกรรมที่ 2 การแข่งขนั ขับรอ้ งบทเพลงพระราชนิพนธ์ (กศน.ชาเลนจ)์ ประจำปี 2564 5. กรอบในการดำเนินงานโครงการจิตอาสาของสำนักงาน กศน.
5 6. ระยะเวลาดำเนินการ ปงี บประมาณ พ.ศ. 2564 7. สถานทดี่ ำเนนิ การ/พื้นทด่ี ำเนนิ การ 77 จงั หวัด/กรงุ เทพมหานคร ครอบคลุมทวั่ ประเทศ 8. งบประมาณ ใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2564 แผนงานยุทธศาสตร์เพื่อสนับสนุนด้านการพัฒนาและ เสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ โครงการขับเคลื่อนการพัฒนาการศึกษาที่ยั่งยืน กิจกรรมพัฒนาบุคลากร สำนักงาน กศน. งบรายจา่ ยอ่นื รายการคา่ ใชจ้ า่ ยหลกั สตู รจิตอาสา 904 9. ประโยชน์ทจ่ี ะได้รบั 9.1 สำนกั งาน กศน. สำนักงาน กศน. มีบุคลากรท่ีเป็นจิตอาสาต้นแบบ เป็นตัวอย่าง เป็นกำลัง และเป็นแกนนำใน การพัฒนาบุคลากรภายในสังกัดสำนักงาน กศน. ในการสร้างอุดมการณ์ สร้างจิตสำนึก สร้างระเบียบวินัย สามารถเป็นผู้นำสำคัญในการประสานความร่วมมือ แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นท่ี และนำความรู้ที่ได้รับไปช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์วิกฤติ และภัยพิบัติได้อย่างมี ประสิทธิภาพ และมีความพร้อมในการการจัดการมีส่วนร่วมกิจกรรมจิตอาสาในการเผชิญสถานการณ์วิกฤติต่างๆ เช่น อุทกภัย วาตภัยฯ 9.2 สำนักงาน กศน.จงั หวดั /กรุงเทพมหานคร สำนักงาน กศน.จังหวัด/กรุงเทพมหานครมีเครือข่ายในการประสานความร่วมมือในการจัดกิจกรรม อาสาในพื้นที่ และได้รับความร่วมมือในการสนับสนุนทรัพยากรในการดำเนินงาน รวมถึงหน่วยงานได้พัฒนา บุคลากรให้มีคุณธรรมจริยธรรม สร้างวินัย เกิดความรัก สามัคคี ในหน่วยงานมากยิ่งขึ้น และสามารถนำ หลักแนวคดิ มาใช้ในการปฏิบตั งิ านได้ 9.3 ชุมชน ชุมชนได้รับความรู้ ความเข้าใจในเรื่องจิตอาสา รู้จักการปฏิบัติหน้าที่ความรับผิดชอบของตนเอง และรู้จักการเสียสละประโยชน์ส่วนตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม เกิดการสร้างความสามัคคีในชุมชน และได้รับ การช่วยเหลือหากได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์วิกฤต รวมถึงการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับจิตอาสาให้กับ ชุมชน และการใช้ชีวิตอย่างการพึ่งพาตนเองและยึดหลักของความพอเพียงตามพระราชดำริในพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอย่หู ัวฯ (รัชกาลที่ 9) 9.4 ประชาชนและผูเ้ รียนทกุ กลมุ่ วัย ประชาชนและผู้เรียนทุกกลุ่มวัยมีความรู้ความเข้าใจหลักการประชาธิปไตยและร่วมกันสร้างสรรค์สังคม ให้เกิดความรู้ รัก สามัคคี เกิดจิตสาธารณะ พร้อมที่จะเป็นอาสาสมัครและบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ต่อส่วนรวม ตลอดเวลา มีคุณธรรมจริยธรรม สร้างวินัย มีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม ยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์ มคี วามภาคภูมิใจในความเปน็ ไทย และประวัติศาสตร์ชาติไทย และเกดิ ความตระหนัก พร้อมที่จะ
6 ร่วมปกป้องเชิดชูสถาบนั ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อีกทั้งกิจกรรมดังกล่าวยังส่งเสริมใหป้ ระชาชนและผู้เรียนทุกกล่มุ วัยสามารถให้ความช่วยเหลือหรือปฐมพยาบาลผู้ประสบภัยให้เกิดความปลอดภัยในเบื้องต้นได้อย่างถูกต้อง น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และแนวการดำรงชีวิตในทางสายกลางไปใช้ในชีวิตประจำวัน และ สามารถแก้ปญั หาและปรบั เปลย่ี นพฤตกิ รรม ความคิด การแก้ไขปัญหาตามกระบวนการคิดเป็น แกป้ ญั หาเป็น
7 บทที่ 2 ภารกจิ และหน้าทข่ี องหนว่ ยงาน/สถานศึกษาในสงั กัดสำนักงาน กศน. สำนักงาน กศน. ได้น้อมนำพระราโชบายของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 มาเป็นแนวทาง เพื่อให้ผู้ที่ได้รับการอบรมมีความรู้ ความเข้าใจ มีจิตสาธารณะที่พร้อมอาสาสมัครในการบำเพ็ญประโยชน์ ต่อส่วนรวม และร่วมกันปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ สร้างความรักความสามัคคีของประชาชน และขยายผลโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพ้นื ท่ี อนั จะส่งผลให้บุคลากรในสังกัดมีความรักชาติ เกิดความรัก ความสามัคคีเป็นรากฐานท่ีเหนียวแน่นในการพัฒนาประเทศชาติใหม้ ีความเจริญมนั่ คง สำนกั งาน กศน. จงึ ได้นำนโยบาย สู่การปฏบิ ัตผิ า่ นการดำเนนิ งานโครงการจติ อาสาของสำนักงาน กศน. โดยกำหนดการดำเนนิ งาน ดงั นี้ 1. กจิ กรรมอบรมหลกั สูตรจิตอาสาของสำนักงาน กศน. 2. กจิ กรรมขยายผลโครงการจติ อาสาของสำนักงาน กศน. ประกอบดว้ ย 2.1 กิจกรรมท่ี 1 การประกวดการขยายผลโครงการจิตอาสา ประจำปี 2564 2.2.1 ชุมชนจิตอาสาดเี ดน่ 2.2.2 ผ้นู ำชุมชนจิตอาสาดเี ดน่ 2.2 กิจกรรมท่ี 2 การแข่งขันขับรอ้ งบทเพลงพระราชนิพนธ์ (กศน.ชาเลนจ์) ประจำปี 2564 และเพื่อให้การดำเนินการขับเคลื่อนโครงการจติ อาสาของสำนักงาน กศน. ให้บรรลตุ ามวัตถปุ ระสงคข์ องโครงการ อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพ เพื่อให้หน่วยงานและสถานศึกษาในสังกัดสำนักงาน กศน. ร่วมดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรม จำเป็นต้องกำหนดภารกิจและหน้าที่ความรับผิดชอบของหนว่ ยงานทั้งในระดับ ส่วนกลาง และส่วนภมู ภิ าคใหช้ ดั เจน โดยแตล่ ะฝา่ ยจะต้องดำเนินงานและประสานงานกนั จัดกิจกรรม ตลอดจนมี การนิเทศ ติดตาม และประเมินผล เพื่อพัฒนาปรับปรุงการดำเนินงานใหม้ ีประสิทธิภาพ เกิดผลเป็นรูปธรรมและ สอดคล้องกับนโยบาย แนวทางการดำเนินงานขับเคลื่อนโครงการจิตอาสาของสำนักงาน กศน. ให้เป็นไปตาม ภารกิจหนา้ ทท่ี ก่ี ำหนด ดงั น้ี
8 การดำเนนิ งานขับเคล่ือนโครงการจิตอาสาของสำนักงาน กศน. มขี ั้นตอนรายละเอียดการปฏิบัติงาน ดังนี้ สำนกั งำน กศน. สถำบนั กศน.ภำค กลมุ่ สำนกั งำน กศน.จงั หวดั สำนกั งำน กศน.จงั หวดั นโยบำย ยทุ ธศำสตรก์ ำร รบั นโยบำยจำกผบู้ รหิ ำร รบั นโยบำยจำกผบู้ ริหำรเพ่อื เป็น รบั นโยบำยจำกผบู้ รหิ ำร ขบั เคล่ือนกำรดำเนนิ งำน เพือ่ เป็นแนวทำงในกำร แนวทำงในกำรวำงแผน เพ่ือเป็นแนวทำงในกำร วำงแผนยทุ ธศำสตร์ ยทุ ธศำสตร์ วำงแผนยทุ ธศำสตร์ จดั สรรงบประมำณ ส่งเสรมิ สนับสนุน ส่งเสริม สนับสนุน ชีแ้ จงนโยบำยในกำร สง่ เสรมิ สนบั สนนุ ให้ กำกับดแู ล ขบั เคล่ือน กำกบั ดูแล ขับเคล่ือน ขับเคลอ่ื นสูก่ ำรปฏิบัติ ดำเนนิ กำรจดั กจิ กรรม นโยบำยสู่กำรปฏิบตั ิ นโยบำยสูก่ ำรปฏิบัติ ส่งเสรมิ สนับสนุน นิเทศ ตดิ ตำม ส่งเสริม สนับสนุนกำร สง่ เสรมิ สนับสนุนกำร กำกบั ดแู ล ขับเคลอื่ น ดำเนนิ งำนพฒั นำสื่อใน ดำเนนิ งำนพัฒนำส่ือใน นโยบำยสู่กำรปฏบิ ตั ิ ประสำนงำน กำรส่งเสริมกำรเรียนรู้ กำรสง่ เสรมิ กำรเรียนรู้ ส่งเสรมิ สนับสนุน จดั เวทแี สดงผลงำน จัดเวทแี สดงผลงำน จดั เวทีแสดงผลงำนระดับ อำนวยควำมสะดวกดำ้ น ระดบั ประเทศ ระดบั ภำค กลมุ่ สำนักงำน กศน. จงั หวดั ทรพั ยำกร กำรประกวดชมุ ชนจิต กำรประกวดชมุ ชนจิต อำสำดีเดน่ /ผนู้ ำชมุ ชนจติ จดั อบรมโครงกำร บคุ ลำกร อำสำดเี ด่น/ผนู้ ำชมุ ชนจติ หลักสูตรจิตอำสำ 904 130 คน อำสำดีเด่น อำสำดีเด่น ของสำนักงำน กศน. ขยำยผลสู่ กำรแข่งขนั ขบั รอ้ งบท กำรแขง่ ขนั ขบั รอ้ งบท จดั เวทแี สดงผลงำนระดบั ชุมชน/ เพลงพระรำชนพิ นธ์ กศน. เพลงพระรำชนพิ นธ์ กศน. สำนักงำน กศน.จังหวัด กลุ่มคน/ ชำเลนจ์ ประจำปี 2564 ชำเลนจ์ ประจำปี 2564 ผูเ้ รียน กำรประกวดชมุ ชนจิต กำกับ ตดิ ตำมและ กำกบั ตดิ ตำมและ อำสำดีเดน่ /ผนู้ ำชมุ ชนจิต ถอด ประเมนิ ผล ประเมินผล บทเรยี น อำสำดเี ดน่ กำรแขง่ ขนั ขบั รอ้ งบท เพลงพระรำชนพิ นธ์ กศน. ชำเลนจ์ ประจำปี 2564 ระยะเวลำดำเนนิ กำร ส.ค. 64 ระยะเวลำดำเนนิ กำร ก.ค.64 ระยะเวลำดำเนนิ กำร มิ.ย. 64 กำกับ ติดตำมและ ประเมนิ ผล ระยะเวลำดำเนินกำร มี.ค.-พ.ค. 64
9 1. ภารกจิ และหน้าท่ีของสำนกั งานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั (สำนักงาน กศน.) สำนักงาน กศน. ได้ดำเนินการวางกรอบงานให้มีการจัดกิจกรรมอบรมหลักสูตรจิตอาสาของสำนักงาน กศน. จำนวน 10,000 คน ให้กับผู้บริหาร ข้าราชการพลเรือน ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พนักงาน ราชการ และบุคลากรสังกัดสำนักงาน กศน.จังหวัด/กรุงเทพมหานคร เพื่อให้บุคลากรในสังกัดสำนักงาน กศน. เปน็ จติ อาสาตวั อยา่ ง เปน็ กำลงั เปน็ แกนนำ เปน็ รากแกว้ ท่ีจะเป็นเบ้า เปน็ แมพ่ มิ พ์ที่จะนำความรู้ ความเข้าใจ คำว่าจิตอาสาไปขยายผลในการพัฒนาบุคลากรภายในสังกัดสำนักงาน กศน. รวมถึงประชาชน ผู้เรียน ให้เกิด การสร้างอุดมการณ์ สร้างจิตสำนึก สร้างระเบียบวินัย สามารถเป็นผู้นำสำคัญในการประสานความร่วมมือ แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ และนำความรู้ที่ได้รับไปช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน จากสถานการณว์ กิ ฤติ และภยั พบิ ตั ิได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ จึงไดก้ ำหนดแนวทางในการดำเนินงาน ดงั นี้
10 1.1 กำหนดนโยบายการดำเนินการ ตลอดทั้งการติดตามประเมินผล เพื่อปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพของ โครงการให้มกี ารดำเนินงานท่ีมปี ระสิทธภิ าพ มคี วามเข้มแข็ง ต่อเนื่อง และยั่งยนื 1.2 จัดสรรงบประมาณให้หน่วยงานในสังกัดสำนักงาน กศน. สถาบัน กศน.ภาค กลุ่มสำนักงาน กศน.จังหวัด และสำนกั งาน กศน.จังหวดั เพอ่ื ดำเนนิ การจดั กจิ กรรมตามทไี่ ด้กำหนด 1.3 ส่งเสรมิ และสนบั สนนุ ใหส้ ถานศึกษาในสังกัดสำนกั งาน กศน. จัดกจิ กรรมตามท่ีไดก้ ำหนด 1.4 นิเทศ ติดตามและประเมินผลการดำเนินงาน สำนักงาน กศน. ร่วมกับศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษา (ETV) และหน่วยงานส่วนกลางลงพื้นที่เพื่อติดตามผลการดำเนินงานใน 5 ภูมิภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ ภาคละ 2 ครั้ง (ก่อนการอบรมและการขยายผล) รวม 10 ครั้ง เพื่อเผยแพร่ประชาสมั พันธ์ผลการดำเนินงาน 1.5 ประสานงานกบั หนว่ ยงานต่าง ๆ ทเ่ี ก่ยี วขอ้ งเพอื่ เชอื่ มโยงกบั พ้ืนท่ี 1.6 จัดเวทีแสดงผลงานระดับประเทศ โดยดำเนินการภายใต้คำสั่งกระทรวงศึกษาธิการ ท่ี สป 1037/2563 เรือ่ ง แต่งต้งั คณะกรรมการขบั เคลื่อนโครงการจิตอาสา 904 ของสำนักงาน กศน. ประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2564 (คณะกรรมการขับเคล่ือนโครงการจิตอาสา 904 ของสำนักงาน กศน. ระดับประเทศ) และดำเนนิ การตามทำหน้าที่ โดยจัดเวทแี สดงผลงานระดับประเทศ 1.7 สำนักงาน กศน. นำสรุปรายงานผลการดำเนินงานโครงการที่สำนักงาน กศน.จังหวัด/กรุงเทพมหานคร ส่งไปยงั “ระบบจดั การฐานขอ้ มลู และการรายงานเก่ียวกบั กิจกรรมตามโครงการหลักสูตรจิตอาสา 904 สำนักงาน กศน.” มาวิเคราะห์ สงั เคราะห์ เพ่อื สรปุ เป็นรูปเลม่ เสนอตอ่ ผ้บู รหิ าร 2. ภารกจิ และหนา้ ท่ีของสถาบันพัฒนาการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั (สถาบนั กศน. ภาค)
11 2.1 สง่ เสรมิ สนบั สนุน กำกับดูแล ขับเคล่อื นนโยบายสู่การปฏบิ ตั ใิ หเ้ กิดเป็นรูปธรรม 2.2 ส่งเสริมและสนบั สนนุ การดำเนินงานพัฒนาส่อื ในการสง่ เสริมการเรยี นรู้ 2.3 ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการ ตามคำสั่งกระทรวงศึกษาธิการ ที่ สป 1037/2563 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการจิตอาสา 904 ของสำนักงาน กศน. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 (คณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการจิตอาสา 904 ของสำนักงาน กศน. ระดับสถาบัน กศน.ภาค) และดำเนนิ การตามทำหนา้ ที่ โดยจัดเวทแี สดงผลงานระดับสถาบัน กศน.ภาค 2.4 กำกับ ติดตามและประเมินผลการดำเนินงาน และรายงานผลการคัดลือกพร้อมเอกสารรายละเอียด ผู้ผ่านการคัดเลือกทุกประเภทไปยังสำนักงาน กศน.(ส่วนกลาง) ภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2564 เพอื่ ให้สำนักงาน กศน. (สว่ นกลาง) ดำเนินการประกวด/คัดเลอื กต่อไป 2.5 รายงานคา่ ใช้จ่ายและสรปุ รายงานผลส่งสำนักงาน กศน. (สว่ นกลาง) รับทราบผลการดำเนินงาน เพ่อื พฒั นากระบวนการดำเนินงานใหเ้ ข้มแข็ง ต่อเน่อื ง และยง่ั ยืน พร้อม หมายเหตุ 1) เมื่อได้รับการจัดสรรงบประมาณและมีการดำเนินการแล้ว ให้หน่วยงานคืนเงินที่เหลือจ่าย พร้อมรายงานค่าใชจ้ ่ายกลบั มาทสี่ ำนกั งาน กศน. (สว่ นกลาง) ภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2564 2) การแสดงผลงานระดับประเทศ สำนกั งาน กศน. ได้กำหนดใหด้ ำเนินการจัดส่งทีม ดงั น้ี 2.1) ชุมชนจติ อาสาดีเด่น จำนวน 1 ทีม (ไม่เกนิ 10 คน) 2.2) ผนู้ ำชมุ ชนจติ อาสาดเี ด่น จำนวน 1 ทีม (ไม่เกนิ 10 คน) 2.3) ทมี ทไ่ี ดร้ ับรางวัลชนะเลิศระดบั ภาค จำนวน 3 ทมี - ระดับประถมศกึ ษา จำนวน 1 ทีม - ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 1 ทมี - ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 1 ทีม 2.4) เจ้าหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมายของสถาบัน กศน. ภาค จำนวนไม่เกิน 5 คน และสำนักงาน กศน.จงั หวดั /กทม. จำนวนไมเ่ กิน 5 คน
12 3. ภารกิจและหน้าที่ของกลุ่มสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัด (กล่มุ สำนกั งาน กศน.จงั หวดั ) 3.1 ส่งเสริม สนบั สนนุ กำกบั ดแู ล ขบั เคล่อื นนโยบายสกู่ ารปฏบิ ตั ใิ ห้เกิดเป็นรปู ธรรม 3.2 สง่ เสรมิ และสนับสนุนการดำเนินงานพฒั นาส่ือในการส่งเสรมิ การเรยี นรู้ 3.3 ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการ ตามคำสั่งกระทรวงศึกษาธิการ ที่ สป 1037/2563 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการจิตอาสา 904 ของสำนักงาน กศน. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 (คณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการจิตอาสา 904 ของสำนักงาน กศน. ระดับกลุ่มสำนักงาน กศน. จงั หวัด) และดำเนนิ การตามทำหนา้ ท่ี โดยจดั เวทีแสดงผลงานระดับกลุม่ สำนักงาน กศน.จังหวัด 3.4 กำกับ ตดิ ตามและประเมินผลการดำเนินงาน และรายงานผลการคดั ลือกพร้อมเอกสารรายละเอียด ผู้ผ่านการคัดเลือกทุกประเภทไปยังสถาบัน กศน. ภาค ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2564 เพื่อให้สถาบัน กศน. ภาคดำเนินการประกวด/คดั เลอื กตอ่ ไป 3.5 รายงานคา่ ใชจ้ า่ ยและสรปุ รายงานผลส่งสำนักงาน กศน. (สว่ นกลาง) รับทราบผลการดำเนินงาน เพ่ือพัฒนากระบวนการดำเนนิ งานให้เข้มแขง็ ตอ่ เน่ือง และย่งั ยืน พร้อม หมายเหตุ เมื่อได้รับการจัดสรรงบประมาณและมีการดำเนินการแล้ว ให้หน่วยงานคืนเงินที่เหลือจ่าย พร้อมรายงานคา่ ใช้จ่ายกลบั มาที่สำนกั งาน กศน. (สว่ นกลาง) ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2564
13 4. ภารกิจและหน้าที่ของสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัด/ กรุงเทพมหานคร (สำนักงาน กศน.จงั หวดั /กรุงเทพมหานคร) 4.1 ชี้แจงนโยบายที่ต้องดำเนินการต่อข้าราชการ บุคลากร และเจ้าหน้าที่ เพื่อสร้างความเข้าใจใน การขบั เคล่อื นนโยบายส่กู ารปฏิบตั ิ 4.2 สง่ เสรมิ สนบั สนุน กำกับดแู ลการขับเคล่ือนนโยบายสกู่ ารปฏิบตั ใิ ห้เกิดเปน็ รูปธรรม 4.4 ส่งเสริม สนับสนุน อำนวยความสะดวกดา้ นงบประมาณ ด้านวชิ าการ ส่อื การเรียนรู้ และทรพั ยากร ฯลฯ 4.4 ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาและอบรมบุคลากร โดยให้สำนักงาน กศน.จังหวัด/ กรุงเทพมหานครดำเนินการจัดกิจกรรมอบรมหลักสูตรจิตอาสาของสำนักงาน กศน. แห่งละ 130 คน กลุ่มเป้าหมายเป็น ผู้บริหาร ข้าราชการพลเรือน ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พนักงานราชการ และบุคลากรสังกัดสำนักงาน กศน.จังหวัด/กรุงเทพมหานคร โดยปฏิบัติตามแนวทางที่สำนักงาน กศน. ในดา้ นเนอื้ หาหลักสูตร และจำนวนช่ัวโมงในการอบรม 4.5 ประสานความรว่ มมือ เพอ่ื สร้างภาคีเครอื ข่ายให้เข้ามามีสว่ นร่วมในการจดั กจิ กรรม หมายเหตุ : 1) วทิ ยากรจติ อาสาตอ้ งเป็นผ้ทู ผี่ า่ นการอบรมจติ อาสา 904 ของหน่วยงานในสังกดั สำนกั งาน กศน. 2) วิทยากรในหัวข้อเรื่องการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน (CPR) ควรเป็นวิทยากร จากสำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร เจา้ หน้าที่กระทรวงสาธารณสุข ฯลฯ 3) สำนักงาน กศน. เป็นผู้จัดทำแบบประเมินความคิดเห็นของผู้จัดการอบรม ผู้เข้ารับการอบรม และผู้ที่เกี่ยวข้องที่มีต่อโครงการหลักสูตรจิตอาสาของสำนักงาน กศน. เพื่อทราบบริบทปัญหาและอุปสรรค โดยแบบประเมินแบง่ เนื้อหาเปน็ 2 ตอน ดังนี้
14 3.1) ขอ้ มลู ทัว่ ไป ไดแ้ ก่ เพศ สถานภาพ อายุ ระดบั การศึกษา และสังกัด 3.2) ความคิดเห็นของผู้เข้ารับการฝึกอบรม ได้แก่ 1) ด้านความคาดหวัง “ก่อน” เข้ารับ การฝกึ อบรม 2) ดา้ นผลทไี่ ดร้ ับ “หลัง” เขา้ รบั การฝึกอบรม 3) ดา้ นการบรหิ ารจดั การโครงการ เพื่อประเมินผลการดำเนินงาน โดยจะนำผลการประเมินดงั กลา่ วมาวิเคราะห์ขอ้ มลู ด้วยวธิ ีการทางสถิติ 4.6 เมื่อดำเนินการจัดการอบรมเสร็จสิ้นแล้ว สำนักงาน กศน.จังหวัด/กรุงเทพมหานครต้องส่งเสริมให้ สถานศึกษาดำเนินการขยายผลการดำเนินงานให้เกิดเป็นรูปธรรม (โดยผู้เข้ารับการอบรมต้องมีส่วนในการดำเนนิ กิจกรรมเป็นหลัก) ในการจัดกิจกรรมจิตอาสาในรูปแบบต่าง ๆ และให้ดำเนินกิจกรรม 2 กิจกรรม ได้แก่ 1) การประกวดการขยายผลโครงการจิตอาสา ประจำปี 2564 2) การแข่งขันขับร้องบทเพลงพระราชนิพนธ์ (กศน.ชาเลนจ์) ประจำปี 2564 4.7. สำนักงาน กศน.จังหวัด/กรุงเทพมหานคร ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการ ตามคำสั่ง กระทรวงศึกษาธิการ ที่ สป 1037/2563 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการจิตอาสา 904 ของสำนักงาน กศน. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 (คณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการจิตอาสา 904 ของสำนักงาน กศน. ระดับจังหวัด) และดำเนินการตามทำหนา้ ท่ี โดยจัดเวทแี สดงผลงานระดับจังหวดั 4.8 สำนักงาน กศน.จังหวัด/กรุงเทพมหานคร กำกับ ติดตามและประเมินผลการดำเนินงาน และรายงานผลการคัดลือกพร้อมเอกสารรายละเอียดผู้ผ่านการคัดเลือกทุกประเภทไปยังกลุ่มสำนักงาน กศน. จังหวดั ภายในวันที่ 30 พฤษภาคม 2564 เพ่ือใหก้ ลุ่มสำนกั งาน กศน.จงั หวดั ดำเนนิ การประกวด/คดั เลอื กตอ่ ไป 4.9. รายงานค่าใชจ้ ่ายและสรปุ รายงานผลสง่ สำนกั งาน กศน. (สว่ นกลาง) รบั ทราบผลการดำเนนิ งาน เพ่อื พัฒนากระบวนการดำเนนิ งานใหเ้ ข้มแขง็ ต่อเนอ่ื ง และยั่งยนื พรอ้ ม หมายเหตุ เมื่อได้รับการจัดสรรงบประมาณและมีการดำเนินการแล้ว ให้หน่วยงานคืนเงินที่เหลือจ่าย พร้อมรายงานค่าใชจ้ า่ ยกลบั มาทส่ี ำนกั งาน กศน. (สว่ นกลาง) ภายในวันท่ี 30 พฤษภาคม 2564
15 5. ภารกิจและหนา้ ทข่ี องศูนย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอำเภอ/เขต (กศน.อำเภอ/เขต) ดำเนินการโดยคณะผู้บริหาร ครู ผู้เรียนและผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการขับเคลื่อนการดำเนินโครงการ ดังนี้ 5.1 ผู้บริหารสถานศึกษา มีภาระหน้าที่ในการนำนโยบายสู่การปฏิบัติ จัดประชุมชี้แจง แต่งตั้ง คณะทำงานผู้รับผิดชอบ มอบนโยบาย จัดทำแผนปฏิบัติงาน จัดกิจกรรมการประกวด ติดตามประเมินผล สรปุ รายงานเสนอตามลำดับ พรอ้ มทง้ั เสนอแนะปญั หาและอุปสรรค เพอื่ นำไปสกู่ ารแกไ้ ขโครงการ 5.2 สถานศึกษาและครู (ผู้ผ่านการอบรมโครงการหลักสูตรจิตอาสาของสำนักงาน กศน.) มีภารกิจหน้าที่ในการขับเคลื่อนกิจกรรมให้ความรู้แก่ชุมชนและผู้เรียนทุกกลุ่มวัย โดยประชาสัมพันธ์และชี้แจง แนวทางการคัดสรรกจิ กรรมการประกวดชุมชนจิตอาสาดเี ด่นและการคัดเลือกผู้นำจิตอาสาชมุ ชนดีเดน่ โดยจัดเวที ประชาคมในหมบู่ ้านหรือเวทีการประชมุ สว่ นราชการตา่ ง ๆ 5.3 พิจารณาคัดเลือกชุมชนจิตอาสาดีเด่นและผู้นำจิตอาสาชุมชนดีเด่นตามที่สำนักงาน กศน. กำหนด และใหแ้ จ้งผลการคดั เลอื กใหส้ ำนกั งาน กศน. จังหวดั /กรุงเทพมหานครทราบ เพือ่ จัดทำกำหนดการตรวจเยีย่ ม 5.4 ผู้ผ่านการอบรมกิจกรรมอบรมหลักสูตรจิตอาสาของสำนกั งาน กศน.หรือครูประสานกลุ่มเป้าหมาย เพื่อเตรียมความพร้อมในการคัดสรร ตามกำหนดการที่กศน.อำเภอ/เขตแจ้ง โดยผู้ผ่านการอบรมกิจกรรมอบรม หลักสูตรจิตอาสา 904 ของสำนักงาน กศน.หรือครู ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงในการส่งเสริม สนับสนุน และให้ คำปรึกษาในการเขา้ รบั การคดั สรร 5.5 กศน.อำเภอ/เขต ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการ ตามคำสั่งกระทรวงศึกษาธิการ ที่ สป 1037/2563 เรอ่ื ง แต่งตง้ั คณะกรรมการขบั เคล่ือนโครงการจิตอาสา 904 ของสำนักงาน กศน. ประจำปี
16 งบประมาณ พ.ศ. 2564 (คณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการจิตอาสา 904 ของสำนักงาน กศน. ระดับอำเภอ) และดำเนนิ การตามทำหน้าท่ี 5.6 ประสานกลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย หมู่บ้าน กลุ่ม องค์กรชุมชน จัดทำป้ายแสดงไว้ทีห่ มูบ่ ้าน/ชุมชน ที่ทำการชุมชนจิตอาสาดีเด่น ตามความเหมาะสม เพื่อสร้างความภาคภูมิใจและประชาสัมพันธ์ขยายผลการสร้าง ความเขม้ แขง็ ใหช้ ุมชน 5.7 ให้ชุมชนจิตอาสาดีเด่น/ผู้นำชุมชนจิตอาสาดีเด่นที่ได้รับการคัดสรร ดำเนินการถอดบทเรียนและ ส่งผลการถอดบทเรยี นให้สำนักงาน กศน.จังหวดั /กรุงเทพมหานคร ดำเนนิ การต่อไป
17 บทที่ 3 การดำเนนิ งานโครงการจิตอาสาของสำนกั งาน กศน. สำนกั งาน กศน. ไดน้ ้อมนำพระราโชบายของสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั รัชกาลที่ 10 ทท่ี รงห่วงใย และทรงคำนึงถึง ความอยู่ดีมีสุขของประชาชนเป็นสำคัญ พระองค์ทรงมีพระราชปณิธานแน่วแน่ที่จะทำให้ประเทศชาติมั่นคงเป็น ปึกแผ่น มีความรักความสามัคคี ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และแนวพระราชดำริต่าง ๆ ในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้ประชาชน ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงนำมาเป็นแนวทางในการดำเนินงานโครงการจิตอาสาของ สำนักงาน กศน. และเป็นการขับเคลื่อนโครงการให้เกิดเป็นรูปธรรม ส่งผลถึงตัวประชาชนและผู้เรียนทุกกลุ่มวัย อีกทั้งเป็นการนำนโยบายสู่การปฏิบัติลงสู่พื้นที่และเล็งเห็นผลที่ชัดเจน ประชาชนยังได้รับผลประโยชน์ในการดำเนิน โครงการท้ังทางตรงและทางอ้อม สำนักงาน กศน. จึงได้นำนโยบายสู่การปฏิบัติผ่านการดำเนินงานโครงการจิตอาสาของสำนักงาน กศน. โดยกำหนดการดำเนนิ งาน ดังน้ี 1. กิจกรรมอบรมหลกั สตู รจติ อาสาของสำนักงาน กศน. 2. กิจกรรมขยายผลโครงการจิตอาสาของสำนกั งาน กศน. ประกอบด้วย 2.1 กจิ กรรมท่ี 1 การประกวดการขยายผลโครงการจิตอาสา ประจำปี 2564 2.1.1 ชมุ ชนจิตอาสาดเี ด่น 2.1.2 ผนู้ ำชมุ ชนจติ อาสาดเี ด่น 2.2 กจิ กรรมท่ี 2 การแขง่ ขันขับรอ้ งบทเพลงพระราชนิพนธ์ (กศน.ชาเลนจ์) ประจำปี 2564
18 1. กจิ กรรมอบรมหลกั สูตรจิตอาสาของสำนกั งาน กศน. 1. หลกั การและเหตุผล การดำเนินการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้เติบโตและเป็นบุคคลที่มีคุณค่าของสังคม มีคุณธรรมจริยธรรม สร้างวินัย มีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม ยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มีความภาคภูมิใจ ในความเป็นไทย และประวัติศาสตร์ชาติไทย โดยผ่านกระบวนการทางการศึกษาที่สถานศึกษาทุกแห่งต้อง ดำเนินการจัดการศึกษาตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ นอกจากการจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมและสนับสนุน ให้ผู้เรียนได้รับกระบวนการเรียนรู้ สิ่งสำคัญอันดับแรกคือบุคลากรทางการศึกษาต้องมีความรู้ ความเข้าใจเรื่อง ประวัติศาสตร์ชาติไทยเกิดความตระหนักรู้ถึงคุณค่า และความสำคัญในประวัติศาสตร์แห่งการสร้างชาติบ้านเมืองด้วย สถาบันพระมหากษัตริย์ การมจี ิตสำนกึ ความเป็นพลเมืองที่ดี รวมถงึ หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงที่ชใ้ี ห้เห็นถึง แนวการดำรงชีวิตในทางสายกลาง เพ่ือเป็นแบบอย่างให้กับผู้เรียน และสามารถถ่ายทอด ใช้วิธีบริหาร จัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจในประวัติความเป็นไทยที่ถูกต้อง มีความภาคภูมิใจในชาติ มีความรักชาติ เทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ มีจิตสำนึกและมีความภูมิใจในความเป็นไทย มีระเบียบวินัย มีจิตสาธารณะ คำนึงถึงประโยชน์ของส่วนรวม และยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมความคิด การแก้ไขปัญหาตามกระบวนการคิดเป็น แกป้ ัญหาเปน็ อนึ่ง สถานการณ์ปัจจุบันผู้เรียนมีความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุที่ไม่สามารถคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าได้ จึงเปน็ สง่ิ จำเปน็ อย่างยงิ่ ทีบ่ ุคลากร ควรมคี วามรู้และทักษะในการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการช่วยชวี ติ ข้ันพ้ืนฐาน (CPR) สามารถช่วยเหลือตนเองและบุคคลใกล้ตัวได้อย่างปลอดภัยก่อนถึงโรงพยาบาล เพื่อให้บุคลากรได้รับความรู้ ท่ถี กู ตอ้ งและมีทักษะในการปฐมพยาบาลและช่วยชีวิตขนั้ พ้ืนฐาน (CPR) และสามารถนำไปใชป้ ระโยชน์ช่วยเหลือผู้อื่น ไดใ้ นภาวะฉุกเฉนิ ๒. วัตถปุ ระสงค์ 2.1 เพื่อปกป้องและเชดิ ชสู ถาบนั พระมหากษัตริย์และสถาบันสำคัญของชาติ 2.2 เพื่อให้บุคลากร ผู้เข้ารับการอบรมมีความปรองดองสมานฉันท์ มีความเข้าใจร่วมกัน เกิดความสมัคร สมานสามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น ประมขุ 2.3 เพื่อให้บุคลากร ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้และทักษะในการปฐมพยาบาลเบื้องต้น สามารถช่วยเหลือ ตนเองและบคุ คลใกลต้ ัวได้อยา่ งปลอดภัยก่อนถงึ โรงพยาบาล 2.4 เพ่ือให้บุคลากร ผูเ้ ขา้ รับการอบรมมจี ติ สาธารณะท่ีพร้อมอาสาสมัครในการบำเพ็ญประโยชน์ต่อสว่ นรวม
19 3. เป้าหมาย 3.๑ เปา้ หมายเชิงปริมาณ ผู้เข้ารับการอบรมเป็นบุคลากรในสังกัดสำนักงาน กศน.จังหวัด/กรุงเทพมหานคร จำนวน 130 คน ประกอบด้วย ผู้บริหาร ข้าราชการพลเรือน ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พนักงานราชการ และบคุ ลากรสงั กดั สำนกั งาน กศน.จังหวัด/กรงุ เทพมหานคร 3.๒ เปา้ หมายเชิงคุณภาพ 1) บุคลากรและผู้เข้ารับการอบรมในสังกัดสำนักงาน กศน.จังหวัด/กรุงเทพมหานคร มีความตระหนักใน การรว่ มกนั แสดงพลังปกป้องและเชิดชสู ถาบันพระมหากษัตริย์ และมีความรคู้ วามเข้าใจเก่ียวกบั พระราชกรณียกิจ โครงการพระราชดำริ และหลกั การทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ฯ 2) บุคลากรและผู้เข้ารับการอบรมในสังกัดสำนักงาน กศน. มีความรัก ความสามัคคี ปรองดอง สมานฉันท์ และยึดมัน่ ในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 3) บุคลากรและผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้และทักษะในการปฐมพยาบาลเบื้องต้น สามารถช่วยเหลือตนเอง และบคุ คลใกลต้ วั ได้อย่างปลอดภัยก่อนถึงโรงพยาบาล 4) บุคลากรผู้เขา้ รบั การอบรมมจี ติ สาธารณะที่พรอ้ มอาสาสมัครในการบำเพ็ญประโยชน์ตอ่ ส่วนรวม ๔. ตัวชวี้ ัดความสำเรจ็ ๔.๑ เชงิ ปริมาณ มีผู้เข้ารับการอบรม (ผู้บริหาร ข้าราชการพลเรือน ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พนักงาน ราชการ และบุคลากรสังกดั สำนกั งาน กศน.จังหวัด/กรุงเทพมหานคร) จำนวน 130 คน 4.2 เชิงคณุ ภาพ 1) ผู้เข้ารับการอบรมสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการดำรงชีวิตและสามารถถ่ายทอดความรู้เรื่อง ประวตั ิศาสตรช์ าติไทยได้ รอ้ ยละ 80 2) ผู้เข้ารับการอบรม สามารถปฐมพยาบาลเบื้องต้นและ/หรือให้ความช่วยเหลือชีวิตในเบื้องต้นได้จริง ร้อยละ 80 3) ผูเ้ ข้ารบั การอบรมมีจติ อาสาและพร้อมท่ีจะบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชนต์ ่อสาธารณชนดว้ ยความเต็มใจ ร้อยละ 80 4) ชุมชนและประชาชนให้ความร่วมมือในกิจกรรมจิตอาสาในรูปแบบต่างๆ โดยมีสมุดบันทึกความดีไว้ เปน็ หลักฐาน 5. โครงสร้างหลักสูตร โครงสรา้ งหลกั สูตรจติ อาสาของสำนักงาน กศน. ไดก้ ำหนดเพอ่ื ใหบ้ คุ ลากรทีเ่ ข้ารบั การอบรมมีคุณลักษณะ ของการเป็นจิตอาสาตัวอย่าง เป็นกำลัง เป็นแกนนำ ที่จะนำความรู้ ความเข้าใจ คำว่าจิตอาสาไปขยายผลถึง ประชาชน ผู้เรียน ให้เกิดการสร้างอุดมการณ์ สร้างจิตสำนึก สร้างระเบียบวินัย สามารถเป็นผู้นำสำคัญใน การประสานความรว่ มมือ แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กบั ประชาชนในพืน้ ที่ และนำความรทู้ ี่ได้รับไปช่วยเหลือ
20 ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการ์วิกฤติ และภัยพิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย 4 เรื่อง (ใช้ระยะเวลาไมน่ อ้ ยกว่า 12 ชัว่ โมง) ได้แก่ ท่ี เรื่อง เวลา (ช่ัวโมง) 1 ประวัตศิ าสตร์ชาตไิ ทยและบญุ คณุ ของพระมหากษตั รยิ ์ไทย ประกอบดว้ ย 5 1) สถาบันพระมหากษตั ริยก์ ับประเทศไทย 2) ความเป็นชาติไทย ตั้งแต่กอ่ ตัง้ ประเทศสยามจนถึงปจั จุบนั 3) ศาสนาพุทธ 4) ประวัติศาสตร์ พระราชกรณยี กจิ ของพระมหากษัตริย์ สถาบนั พระมหากษัตริยก์ บั ประเทศไทย 2 การสร้างความตระหนักในการร่วมกันปกป้องและเชิดชูสถาบัน 2 พระมหากษัตริย์และสถาบันสำคัญของชาติ และพิธีปฏิญาณตนปกป้องและ เชิดชสู ถาบันพระมหากษัตริย์ ประกอบดว้ ย 1) ศาสตร์พระราชา โครงการพระราชดำรสิ ง่ เสรมิ การท่องเทยี่ วใน ทอ้ งถนิ่ 2) พธิ ปี ฏิญาณตนปกป้องและเชดิ ชสู ถาบันพระมหากษตั ริย์ 3 การปฐมพยาบาลเบ้ืองตน้ และการชว่ ยชวี ิตข้นั พนื้ ฐาน (CPR) ประกอบด้วย 3 1) การปฐมพยาบาลเบอ้ื งต้น 2) การสาธติ การชว่ ยชวี ติ ข้นั พืน้ ฐาน (CPR) 4 จิตอาสาพัฒนา การบำเพญ็ ประโยชน์ตอ่ ส่วนร่วม จำนวน 2 ช่ัวโมง 2 ประกอบดว้ ย กิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ตอ่ ส่วนรว่ ม รวม 12 6. รายละเอียดของหลักสตู รจติ อาสาของสำนกั งาน กศน. หลักสูตรจติ อาสาของสำนักงาน กศน. ได้กำหนดใหม้ กี ารอบรมไมน่ ้อยกวา่ 12 ชั่วโมง โดยมเี นือ้ หาแบง่ ออกเป็น 4 เร่อื ง ดงั น้ี 6.1 ประวัติศาสตร์ชาติไทยและบุญคณุ ของพระมหากษัตริยไ์ ทย จำนวน 5 ช่ัวโมง ประกอบด้วย 1) สถาบันพระมหากษตั ริยก์ ับประเทศไทย 2) ความเป็นชาตไิ ทย ตง้ั แต่ก่อตงั้ ประเทศสยามจนถึงปจั จบุ นั 3) ศาสนาพุทธ 4) ประวัติศาสตร์ พระราชกรณียกิจ ของพระมหากษตั ริย์ สถาบันพระมหากษัตรยิ ก์ ับประเทศไทย 6.2 การสร้างความตระหนักในการร่วมกนั ปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตรยิ แ์ ละสถาบันสำคญั ของ ชาติ และพิธปี ฏญิ าณตนปกป้องและเชดิ ชูสถาบันพระมหากษัตรยิ ์ จำนวน 2 ช่วั โมง ประกอบดว้ ย 1) ศาสตรพ์ ระราชา โครงการพระราชดำริส่งเสรมิ การท่องเทยี่ วในทอ้ งถ่ิน
21 2) พธิ ีปฏญิ าณตนปกปอ้ งและเชดิ ชสู ถาบันพระมหากษตั ริย์ 6.3 การปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการชว่ ยชีวติ ขั้นพืน้ ฐาน (CPR) จำนวน 3 ชัว่ โมง ประกอบดว้ ย 1) การบรรเทาสาธารณภยั 2) การปฐมพยาบาลเบอื้ งตน้ 3) การสาธติ การชว่ ยชวี ิตข้ันพ้ืนฐาน (CPR) 6.4 จติ อาสาพฒั นา การบำเพ็ญประโยชนต์ อ่ ส่วนรว่ ม จำนวน 2 ชว่ั โมง ประกอบด้วย กิจกรรมบำเพญ็ ประโยชน์ตอ่ ส่วนร่วม 7. แนวทางการอบรม 7.1 ศึกษาจากวิทยากร หรือผู้ทรงคุณวฒุ ิ 7.2 แลกเปลี่ยนเรียนรู้ โดยกระบวนการกลุ่ม 7.3 เข้ารว่ มกจิ กรรมหลักสูตรจิตอาสาของสำนกั งาน กศน. 8. กระบวนการอบรม 8.1 กอ่ นเขา้ รับการอบรม ผู้เข้ารับการอบรมสามารถศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองจากเอกสารคู่มือ เอกสารประกอบการเรียนรู้ บทความ สื่อและขอ้ มูลดิจิทัล หรือแหล่งเรียนรูต้ ่าง ๆ ตามเนือ้ หาที่ 1 - 4 8.2 ระหว่างการอบรม ผูเ้ ขา้ รับการอบรมร่วมแลกเปล่ยี นเรยี นรู้กบั วทิ ยากร และผ้เู ขา้ รบั การอบรม โดยอาจใชก้ ระบวนการกลุ่ม ในการดำเนินกจิ กรรม บรรยายความรู้ ฝกึ ปฏิบตั ิตามกจิ กรรม 8.3 หลังการอบรม ผู้ผ่านการอบรมสามารถนำความรู้ไปใช้ในการถ่ายทอดความรู้ ความเข้าใจ และเป็นจิตอาสาตัวอย่าง เป็นกำลัง เป็นแกนนำ ไปขยายผลถึงประชาชน ผู้เรียน ให้เกิดการสร้างอุดมการณ์ สร้างจิตสำนึก สร้างระเบียบวินัย สามารถเป็นผู้นำสำคัญในการประสานความร่วมมือ แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับ ประชาชนในพนื้ ที่ และนำความรู้ทไี่ ดร้ ับไปช่วยเหลือผู้ทไ่ี ด้รับความเดือดร้อนจากสถานการ์วกิ ฤติ และภัยพิบัติได้ อย่างมีประสทิ ธภิ าพ 9. สื่อและแหลง่ การเรียนรู้ 9.1 สอ่ื เทคโนโลยีและแหล่งข้อมูลออนไลน์ 9.2 บุคคล ผู้ทรงคุณวฒุ ิ หรือหน่วยงาน 10. วิทยากร สำนักงาน กศน. ขอให้สำนักงาน กศน.จังหวัด/กรุงเทพมหานคร คัดเลือกวิทยากรและทีมวิทยากรที่มี ความเหมาะสม มีความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ และความชำนาญในการบรรยายในเนือ้ หา เช่น วิทยากร ในหัวข้อเรื่องการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน (CPR) ควรเป็นวิทยากรจากสำนักอนามัย
22 กรุงเทพมหานคร เจา้ หนา้ ทก่ี ระทรวงสาธารณสุข ฯลฯ สำหรบั วิทยากรจิตอาสาควรเป็นผู้ทีผ่ า่ นการอบรมจติ อาสา 904 “หลักสูตรพื้นฐาน” และ “หลักสูตรหลักประจำ” ณ โรงเรียนจิตอาสาพระราชทาน ของสำนักงาน กศน. (บัญชีรายช่อื ผ้ผู า่ นการอบรมจติ อาสา 904 สามารถศกึ ษาเพิ่มเติมได้จากภาคผนวก) 11. ระยะเวลาในการอบรม ระยะเวลาในการอบรม จำนวน 2 วนั (12 ชั่วโมง) 12. สถานทีจ่ ัดอบรม สำนักงาน กศน.จังหวดั /กรุงเทพมหานคร หรือหนว่ ยงานภายนอก 13. การประเมนิ ผลโครงการ 13.1 รายงานผลการดำเนนิ กจิ กรรมตามแบบรายงาน (ทั้งในระดบั พื้นท่ีปฏิบตั แิ ละระดับนโยบาย) 13.2 แบบสำรวจความพงึ พอใจของผเู้ ขา้ รว่ มกิจกรรม 13.3 ผลการทดสอบความรู้ ความเข้าใจทง้ั กอ่ นหลงั การเขา้ ร่วมกิจกรรม 13.4 การติดตามผลผู้เข้าร่วมกิจกรรมอย่างต่อเนื่องภายหลังการเข้าร่วมกิจกรรม โดยอาจพิจารณาจาก สมดุ บันทกึ ความดี หรอื ภาพแสดงถงึ การกระทำความดตี อ่ สาธารณชน 14. ผลทคี่ าดว่าจะได้รับ ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ความเข้าใจหลักการประชาธิปไตยและร่วมกันสร้างสรรค์สังคม เกิดความรู้ รัก สามัคคี เกิดความตระหนักและพร้อมที่จะร่วมปกป้องเชิดชูสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึงสามารถให้ ความชว่ ยเหลือหรือปฐมพยาบาลผู้ประสบภัยให้เกิดความปลอดภัยในเบื้องต้นได้อย่างถูกต้อง ส่งผลให้เกิดความพร้อม ที่จะเป็นอาสาสมัครและบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ต่อส่วนรวมตลอดเวลา และสามารถนำความรู้นี้เป็นแนวทางใน การปฏบิ ัติงาน ตลอดจนใช้ชีวติ อยู่บนพน้ื ฐานของความเป็นไทยและพอเพยี ง 15. ผูร้ ับผิดชอบโครงการ 15.1 สำนกั งาน กศน. จังหวดั /กรุงเทพมหานคร 15.2 หนว่ ยงานทเ่ี กยี่ วขอ้ ง
23 รายละเอยี ดกจิ กรรมการอบรมหลกั สูตรจติ อาสาของสำนกั งาน กศน. 1. ประวตั ศิ าสตรช์ าตไิ ทยและบญุ คณุ ของพระมหากษัตริย์ไทย สาระสำคญั สถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นเสาหลักให้กับชาติบ้านเมืองมาตั้งแต่สมัยโบราณ จวบจนรัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระมหากษัตริย์จึงเป็นสัญลักษณ์ของการดำรงอยู่ของชาติไทย มายาวนานกว่า 700 ปี และเป็นสถาบันทางสงั คมทีเ่ ขม้ แข็งยืนยง ทำให้ประเทศไทยสามารถรักษาความเปน็ ไท ภายใต้พระบรมโพธสิ มภาร ตราบจนปจั จุบนั ธ ทรงเปน็ ศูนยร์ วมจติ ใจของชาวไทย และดำรงอย่ภู ายใต้ทศพิศราชธรรม ทรงเป็นผนู้ ำการพฒั นา ประเทศในทุกด้าน อันได้แก่ การปกครองประเทศ การพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของประเทศ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงน้อมนำพระราชดำริของในหลวง รัชกาลท่ี 9 เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง มาเผยแพร่ให้ ประชาชนได้เรียนรู้และนำไปปรับใช้ ทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่พัฒนาไปสู่ความ “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” จนก่อให้เกดิ เป็นพลังท่ีสำคัญยิ่งในการผลักดันให้ประเทศไทย ยนื หยดั อยู่ในสังคมแห่งอารยประเทศได้อย่างสง่างาม การเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทยก่อให้เกิดความภาคภูมิใจในความเป็นชาติ ได้เรียนรู้ความหมาย ความเป็นมาของชาติไทย และความสำคัญของสถาบันหลักของชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เสรีภาพ ในการนับถือศาสนาของไทย และบุญคุณของพระมหากษัตริย์ไทย ตั้งแต่สมัยสุโขทัย อยุธยา ธนบุรี และรัตนโกสินทร์ เรยี นรเู้ กี่ยวกับพระราชประวัติของพระมหากษัตรยิ ์ รวมถึงการสรา้ งความภูมใิ จในความเป็นชาติ การรวมชาตใิ หเ้ ป็นปึกแผน่ ซึ่งประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีประวตั ิศาสตร์ยาวนาน มขี นบธรรมเนยี ม วฒั นธรรม ภาษาของตนเองและมบี รู พมหากษัตริย์ท่มี ีพระปรชี าสามารถ เคยเปน็ ศนู ยร์ วมและมหาอำนาจ ท้ังทางดา้ นการเมือง การปกครอง และเศรษฐกจิ ทีไ่ มแ่ พ้ชาติใดในโลก ซงึ่ คนไทยทุกคนควรภมู ใิ จในความเป็นชาติไทยสบื ต่อไป จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. เพอื่ เรียนรู้ความหมาย ความเป็นมา และความสำคัญของสถาบนั หลกั ของชาติ 2. เพ่ือสร้างความรู้ ความเข้าใจ ตระหนกั เกยี่ วกับสถาบนั พระมหากษตั รยิ ์กบั ประเทศไทย 3. เพื่อนำความรู้ที่ได้ไปเป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน ตลอดจนใช้ชีวิตอยู่บนพื้นฐานของความเป็นไทย และพอเพียง มีความรักความศรัทธาในสถาบันพระมหากษัตริย์ มีจิตใจที่ตั้งมั่นอยู่ในการช่วยเหลือผู้อื่น เป็นที่พึ่ง ของสงั คม ส่งผลใหป้ ระเทศชาติเกิดสนั ติสุขอย่างแท้จรงิ ขอบข่ายเนอื้ หา ขอบขา่ ยเน้ือหา ประกอบดว้ ย สถาบนั พระมหากษตั ริย์กบั ประเทศไทย , ความเปน็ ชาตไิ ทย ตั้งแตก่ ่อต้ัง ประเทศสยามจนถึงปัจจุบัน , ศาสนาพุทธ และประวัติศาสตร์ พระราชกรณียกิจ ของพระมหากษัตริย์ สถาบัน พระมหากษัตริย์กบั ประเทศไทย เวลาท่ีใช้ 5 ชวั่ โมง
24 กระบวนการจัดการอบรม การนำเขา้ สบู่ ทเรยี น แจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้และเรื่องที่จะทำความตกลงกับผู้เข้ารับการอบรมในการจัดกระบวนการ จัดการเรยี นรู้และการวดั ผลและประเมนิ ผล การเรียนรู้ วิทยากรบรรยายในหัวข้อเรื่อง “ประวัติศาสตร์ชาติไทยและบุญคุณของพระมหากษัตริย์ไทย” และใหผ้ ูเ้ ขา้ รบั การอบรมจัดทำแผน และวางแผนในการประยุกต์ใชใ้ นการปฏิบตั ิงานในชีวิตประจำวันท่ีสอดคล้อง กับหลักคุณธรรม การสรปุ วิทยากรสรปุ และซกั ถามความเข้าใจ สอ่ื การเรียนรู้ 1. ส่อื เทคโนโลยแี ละแหลง่ ขอ้ มูลออนไลน์ 2. บคุ คล ผู้ทรงคุณวุฒิ หรอื หน่วยงาน การวัดและประเมินผล ผลจากการมีส่วนร่วมในกิจกรรม และการวางแผนในการประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานในชีวิตประจำวัน และสังเกตพฤติกรรมการแสดงและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น การให้ความร่วมมือในการปฏิบัติงาน ความกระตือรอื ร้น การปฏิบัตงิ านอยา่ งระมัดระวัง การมีความคดิ หลากหลายในการแกป้ ญั หา
25 2. การสร้างความตระหนักในการร่วมกันปกป้องและเชิดชูสถาบนั พระมหากษัตริย์และสถาบันสำคัญของชาติ และพธิ ีปฏิญาณตนปกปอ้ งและเชดิ ชสู ถาบนั พระมหากษตั ริย์ สาระสำคญั การสร้างความรู้ ความเข้าใจ และร่วมกันปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ สร้างความรัก ความสามัคคี เผยแพร่ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องและเป็นจริงเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์และ พระราชกรณียกิจ และสนับสนุนโครงการทั้งหลายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่ สถานศึกษา ตลอดจนเรียนรู้เข้าใจหลักการทรงงาน (แนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช) สามารถนำหลักดังกล่าวมาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติราชการและการพัฒนา ขยายผลโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ และเสริมสร้างความเข้าใจ ปลูกฝัง ค่านิยม อุดมการณ์ใน สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นศูนย์รวมใจและยึดเหนี่ยวจิตใจและคงอยู่คู่ชาติไทย ตลอดไป และร่วมถวายสัตย์ปฏิญาณ แสดงพลังแห่งความจงรักภักดี อันจะส่งผลให้ประชาชนมีความรักชาติ เกิดความรัก ความสามัคคี เป็นรากฐานทเ่ี หนยี วแน่นในการพัฒนาประเทศชาตใิ หม้ คี วามเจริญมนั่ คง จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. เพื่อให้มคี วามรู้ ความเข้าใจ หลกั การประชาธปิ ไตย และร่วมกันสร้างสรรคส์ ังคมให้เกิดความรู้ รัก สามัคคี 2. เพื่อให้สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการดำรงชีวิตและสามารถถ่ายทอดความรู้เรื่อง ประวตั ิศาสตร์ชาติไทยได้ 3. เพื่อให้มีความตระหนักในการร่วมกันแสดงพลังปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ และมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจโครงการพระราชดำริ และหลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยหู่ ัว ขอบข่ายเน้ือหา ศาสตร์พระราชา โครงการพระราชดำริส่งเสริมการท่องเที่ยวในท้องถิ่น และพิธีปฏิญาณตนปกป้องและ เชดิ ชูสถาบันพระมหากษตั รยิ ์ เวลาท่ีใช้ 2 ชว่ั โมง กระบวนการจัดการอบรม การนำเขา้ สบู่ ทเรยี น แจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้และเรื่องที่จะทำความตกลงกับผู้เข้ารับการอบรมในการจัดกระบวนการ จดั การเรยี นรแู้ ละการวัดผลและประเมินผล การเรียนรู้ วิทยากรบรรยายในหัวข้อเรื่อง “การสร้างความตระหนักในการร่วมกันปกป้องและเชิดชูสถาบัน พระมหากษัตริย์และสถาบันสำคัญของชาติ และพิธีปฏิญาณตนปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์” และให้ผู้เข้ารับการอบรมจัดทำแผน และการวางแผนในเร่ืองการนำหลกั เศรษฐกิจพอเพียงไปเผยแพร่และปฏิบัติ
26 ได้ (แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง การสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมการวิเคราะห์ สังเคราะห์ การสร้างภาวะผู้นำ การปรับเปล่ียนวธิ คี ดิ การสรา้ งจิตสำนึกใหมแ่ บบพ่งึ ตนเอง การเรียนรกู้ ระแสการเปลี่ยนแปลงและรู้เทา่ ทนั ) การสรุป วทิ ยากรสรปุ และซักถามความเข้าใจ สื่อการเรียนรู้ 1. ส่อื เทคโนโลยีและแหลง่ ขอ้ มลู ออนไลน์ 2. บคุ คล ผทู้ รงคณุ วฒุ ิ หรือหน่วยงาน การวดั และประเมนิ ผล ผลจากการมีส่วนร่วมในกิจกรรม และการวางแผนในเรื่องการนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงไปเผยแพร่และ ปฏบิ ัติได้ (แนวคิดเศรษฐกจิ พอเพียง การสร้างกระบวนการมีสว่ นรว่ มการวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ การสร้างภาวะผู้นำ การปรับเปลี่ยนวิธีคิด การสร้างจิตสำนึกใหม่แบบพึ่งตนเอง การเรียนรู้กระแสการเปลี่ยนแปลงและรู้เท่าทัน) และสังเกตพฤติกรรมการแสดงและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น การให้ความร่วมมือในการปฏิบัติงาน ความกระตือรือรน้ การปฏิบตั ิงานอยา่ งระมัดระวัง การมีความคดิ หลากหลายในการแกป้ ัญหา
27 3. การปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการชว่ ยชวี ติ ข้นั พื้นฐาน (CPR) สาระสำคญั ปัจจุบันสาเหตุการเสียชีวิตของประชากรในประเทศไทยโดยส่วนใหญ่เกิดจากโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ และหลอดเลือด โรคหัวใจ ความดันโลหิต และอุบัติเหตุ จมน้ำ ผู้ป่วยหรือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเหล่านี้อาจมีอาการท่ี ผิดปกติเกิดขึ้นกับร่างกาย หรือบางรายอาจมีภาวการณ์หยุดหายใจกะทันหันถ้าปล่อยไว้นานเกิน 4 นาที แม้จะ ช่วยให้ฟื้นคืนชีพกลับมาได้ ก็จะเกิดสภาวะการตายของสมองอย่างถาวร ดังนั้นการได้รับการช่วยเหลือเบื้องต้น อย่างทันท่วงทีและถูกต้อง และมีการส่งต่อผู้ป่วยหรือผู้บาดเจ็บต่อไปยังแพทย์หรือสถานพยาบาลอย่างเหมาะสม รวดเร็วและถูกวิธจี ะทำให้ผูป้ ว่ ยหรือผบู้ าดเจบ็ มีโอกาสรอดชีวิตและกลบั คืนมาใช้ชีวิตเป็นปกตไิ ด้ จุดประสงค์การเรียนรู้ เพื่อให้มีความรู้และทักษะในการปฐมพยาบาลเบื้องต้นสามารถช่วยเหลือตนเองและบุคคลใกล้ตัวได้ อยา่ งปลอดภัยก่อนถึงโรงพยาบาล และขอความชว่ ยเหลอื จากระบบบรกิ ารฉกุ เฉินทางการแพทย์ ขอบข่ายเนือ้ หา การปฐมพยาบาลเบอื้ งต้น และการสาธิตการชว่ ยชวี ติ ขั้นพ้ืนฐาน (CPR) เวลาที่ใช้ 3 ชั่วโมง กระบวนการจดั การอบรม การนำเขา้ สบู่ ทเรียน แจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้และเรื่องที่จะทำความตกลงกับผู้เข้ารับการอบรมในการจัดกระบวนการจัด การเรยี นรู้และการวดั ผลและประเมนิ ผล การเรยี นรู้ วิทยากรบรรยายในหัวข้อเรื่อง “การปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน (CPR)” และให้ผูเ้ ข้ารับการอบรมจัดทำแผน และการวางแผนในการปฐมพยาบาลเบอื้ งตน้ และการช่วยชวี ติ ขั้นพ้ืนฐาน การสรุป วิทยากรสรุปและซกั ถามความเขา้ ใจ สอ่ื การเรยี นรู้ 1. สอ่ื เทคโนโลยีและแหลง่ ขอ้ มูลออนไลน์ 2. บคุ คล ผทู้ รงคณุ วฒุ ิ หรือหน่วยงาน การวดั และประเมินผล ผลจากการมีส่วนร่วมในกิจกรรม และการวางแผนในการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการช่วยชีวิต ขั้นพื้นฐาน และสังเกตพฤติกรรมการแสดงและรับฟังความคิดเหน็ ของผู้อื่น การให้ความร่วมมือในการปฏิบัตงิ าน ความกระตอื รือร้น การปฏิบตั งิ านอยา่ งระมัดระวัง การมคี วามคดิ หลากหลายในการแกป้ ญั หา
28 4. จิตอาสาพฒั นา การบำเพญ็ ประโยชนต์ อ่ สว่ นร่วม สาระสำคัญ กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์เป็นกิจกรรมที่ต้องส่งเสริมให้ผู้เข้ารับการอบรมสามารถพัฒนา ตนเองตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ โดยคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลและพัฒนาการทางสมอง เน้นให้ความสำคัญทั้งความรู้ และคุณธรรมจริยธรรม จัดกิจกรรมโดยให้ผู้เข้ารับการอบรมคิดสร้างสรรค์ออกแบบ กจิ กรรมเพอื่ สาธารณประโยชน์ อย่างหลากหลายรปู แบบ เพือ่ แสดงถงึ ความรบั ผิดชอบต่อสังคมในลักษณะจติ อาสา จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. เพือ่ ให้มีความรู้ คุณธรรม จรยิ ธรรม ตามคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 2. เพื่อให้มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ตามความถนัด และความสนใจในลกั ษณะอาสาสมคั ร 3. เพื่อปลูกฝังและสร้างจิตสำนึกในการบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อครอบครัว ชุมชน สังคมและ ประเทศชาติ 4. เพอื่ ให้มีจติ สาธารณะและใช้เวลาวา่ งใหเ้ ป็นประโยชน์ 5. เพ่ือให้มคี วามพร้อมท่ีจะเป็นอาสาสมัครและบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ต่อส่วนรวมตลอดเวลา เนอ้ื หาสาระการเรียนรู้ กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้ เข้ารับการอบรมบำเพ็ญตนให้เป็น ประโยชน์ต่อครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติในลักษณะอาสาสมัครเพื่อช่วยขัดเกลาจิตใจให้มี ความเมตตากรณุ า มีความเสยี สละ และมีจติ สาธารณะเพอ่ื ช่วยสรา้ งสรรคส์ ังคมให้อยรู่ ว่ มกนั อยา่ งมีความสขุ ขอบข่ายเนื้อหา เป็นกระบวนการจัดกิจกรรมในลักษณะกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ กิจกรรมอาสาพัฒนา หรือกิจกรรม สร้างสรรค์สังคม โดยดำเนินการในลักษณะอาสาสมัครเพื่อแสดงถึงความรับผิดชอบ ความดีงาม ความเสียสละตอ่ สังคม และมีจิตสาธารณะ กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์มีลักษณะ ดังน้ี 1) เป็นกิจกรรมที่ผู้ปฏิบัติกิจกรรม ปฏบิ ตั ิดว้ ยความสมัครใจ 2) เปน็ กจิ กรรมทท่ี ำเพ่อื ผอู้ ืน่ / สงั คม ในการจัดกจิ กรรมควรเน้นกระบวนการรายงานและเผยแพร่ผลงานอย่างต่อเน่อื ง เวลาทใ่ี ช้ 2 ชวั่ โมง กระบวนการจัดการอบรม การนำเข้าส่บู ทเรยี น แจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้และเรื่องที่จะทำความตกลงกับผู้เข้ารับการอบรมในการจัดกระบวนการจัด การเรียนรแู้ ละการวดั ผลและประเมนิ ผล
29 การเรียนรู้ วิทยากรบรรยายในหัวข้อเรื่อง “กิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ต่อส่วนร่วม” และให้ผู้เข้ารับการอบรม จดั ทำแผน และการวางแผนในการทำกจิ กรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์ การสรปุ วทิ ยากรสรุปและซกั ถามความเข้าใจ ส่ือการเรยี นรู้ 1. สือ่ เทคโนโลยแี ละแหล่งขอ้ มูลออนไลน์ 2. บุคคล ผู้ทรงคุณวุฒิ หรอื หนว่ ยงาน การวดั และประเมินผล ผลจากการมีส่วนร่วมในกิจกรรม และการวางแผนในการทำกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ และสังเกตพฤติกรรมการแสดงและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น การให้ความร่วมมือในการปฏิบัติงาน ความกระตือรือร้น การปฏบิ ัติงานอย่างระมัดระวงั การมีความคดิ หลากหลายในการแกป้ ญั หา
30 2. กิจกรรมขยายผลโครงการจติ อาสาของสำนักงาน กศน. การดำเนนิ การขยายผลโครงการจติ อาสาของสำนกั งาน กศน. กลุม่ บรหิ ารงานบคุ คลและนิตกิ ารได้กำหนด บทบาทภารกิจ โดยให้ขยายผลการดำเนินงานจิตอาสาให้ปรากฏเป็นรูปธรรม และขับเคลื่อนให้สถานศึกษาใน สังกัดสำนักงาน กศน. จำนวน 928 แห่งทั่วประเทศ ร่วมกันจัดกิจกรรมจิตอาสาในรูปแบบต่าง ๆ และให้ดำเนิน กิจกรรม 2 กจิ กรรม ไดแ้ ก่ 1) การประกวดการขยายผลโครงการจิตอาสาประจำปี 2564 2) การแขง่ ขันขับร้อง บทเพลงพระราชนิพนธ์ (กศน.ชาเลนจ)์ ประจำปี 2564 โดยดำเนินการดังนี้ กิจกรรมท่ี 1 การประกวดการขยายผลโครงการจิตอาสา ประจำปี 2564 1.1 ศึกษารายละเอียด แนวทางการคัดสรรการประกวดการขยายผลโครงการจิตอาสา ประจำปี 2564 ตามทสี่ ำนักงาน กศน.กำหนด 1.2 แต่งตั้งคณะกรรมการ ตามคำสั่งกระทรวงศึกษาธิการ ที่ สป 1037/2563 เรื่อง แต่งตั้ง คณะกรรมการขบั เคล่อื นโครงการจติ อาสา 904 ของสำนักงาน กศน. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 โดย สถาบัน กศน.ภาค กลุ่มสำนักงาน กศน.จังหวัด สำนักงาน กศน.จังหวัด/กรุงเทพมหานคร กศน.อำเภอ/เขต ดำเนินการสรรหาบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการคัดสรรกิจกรรมการขยายผลโครงการจิตอาสา ประจำปี 2564 เพื่อพิจารณากลั่นกรองในแต่ละระดับ ทั้งนี้ ควรประชาสัมพันธ์ให้กศน.อำเภอ และกศน.ตำบล ทราบล่วงหนา้ 1.3 ประชุมคณะกรรมการ จัดประชุมคณะกรรมการคัดสรรกิจกรรมการขยายผลโครงการจิตอาสา ประจำปี 2564 ในแต่ละระดับ เพื่อจัดทำแผนดำเนินงาน กำหนดการตรวจเยี่ยมและหลักเกณฑ์ในการคัดสรร ตามแนวทาง ท่ีสำนกั งาน กศน.กำหนด โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดงั นี้ 1.3.1 ประเภทชมุ ชนจิตอาสาดเี ดน่ ให้พิจารณาคดั เลอื กจาก - ทำไดจ้ รงิ และขยายผล (60 คะแนน) (1) การนำความรู้มาสง่ เสรมิ ขยายผลใหช้ มุ ชนในพืน้ ทีด่ ำเนินการ (20 คะแนน) (2) ผลการดำเนนิ งานเปน็ ท่ปี ระจักษ์ (20 คะแนน) (3) มีกจิ กรรมทส่ี ง่ เสริมใหป้ ระชาชนในชุมชนได้รับความรู้ ความเขา้ ใจ มีจิตสาธารณะ ที่พร้อมอาสาสมัครในการบำเพ็ญประโยชน์ต่อส่วนรวม ตลอดจนมีการขยายผลโครงการอันเนื่องมาจาก พระราชดำริในพืน้ ที่ ทำให้ประชาชนในชุมชนเกดิ ความรกั ความสามัคคี (10 คะแนน) (4) มีการนำโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริมาจัดกิจกรรม เพื่อส่งเสริมให้ชุมชน สร้างสัมมาชีพที่เป็นรูปธรรมและสามารถต่อยอดได้ เช่น ยกระดับรายได้ของครัวเรือน มีกลุ่มอาชีพเพิ่มขึ้น เป็นต้น (10 คะแนน) - งานด้านจิตอาสา (20 คะแนน) (1) เปน็ ชมุ ชนทีไ่ ด้รบั การยกย่องวา่ เป็นชมุ ชนที่มกี ารดำเนินงานด้านจติ อาสา (10 คะแนน)
31 (2) เป็นชุมชนที่สามารถเป็นต้นแบบในการบริหารจัดการจิตอาสาชุมชนเพื่อพึ่งตนเองได้ โดยคนในชมุ ชนมีสว่ นร่วมในการบริหารจดั การ (10 คะแนน) ทง้ั นี้ สามารถกำหนดหลักเกณฑ์การคัดสรรเพ่ิมเติมได้ตามความเหมาะสม โดยพิจารณาให้ ครอบคลมุ การดำเนนิ กจิ กรรมจติ อาสาด้านต่าง ๆ 1.3.2 ประเภทผนู้ ำชุมชนจิตอาสาดเี ดน่ ให้พิจารณาคัดเลอื กจาก - ต้องเป็นผู้นำชุมชนจิตอาสาท่ีผ่านการอบรมตามหลักสูตรโครงการจิตอาสา ของสำนักงาน กศน. โดยเป็นแกนนำในการพัฒนาหมู่บ้าน/ตำบล โดยเป็นผู้ริเริ่ม สร้างสรรค์ ประสานงาน ดำเนนิ การพฒั นาร่วมกับชาวบา้ น มีผลการทำงานโดดเด่นเป็นท่ียอมรบั ของสังคม - มีบทบาทตามภารกิจหลักของผู้นำชุมชนจิตอาสา และต้องมีหน้าที่ปฏิบัติงานในหมู่บ้าน ที่ได้รับการคัดเลือกตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการอาสาพัฒนาชุมชน ปี 2547 (ข้อ 16) 100 คะแนน ประกอบด้วย (1) กระตุ้นให้องค์กรประชาชน รู้สภาพปัญหาของหมู่บ้านและสามารถวางแผน เพื่อแก้ไขปัญหาได้เอง รวมทั้งการกระตุ้นให้ประชาชนรู้จักช่วยตนเอง และเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาหมู่บ้าน ของตนได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ (20 คะแนน) (2) ริเริ่มและสนับสนุนการดำเนินงานพัฒนา โดยเป็นที่ปรึกษากลุ่มเยาวชน กลุ่มสตรี กลมุ่ อาสาสมคั ร ตลอดจนองค์กรประชาชน และกิจกรรมการพฒั นาต่าง ๆ (20 คะแนน) (3) ช่วยเหลือ สนับสนุน การดำเนินงานตามแผนงานโครงการหรือกิจกรรมพัฒนาหมู่บ้าน (20 คะแนน) (4) เป็นผู้ประสานงานระหว่างองค์กรประชาชนกับหน่วยงานของรัฐ องค์กรเอกชน หรอื เอกชนอ่ืน ๆ (20 คะแนน) (5) ปฏิบัติหนา้ ที่อืน่ ตามที่เวทีประชาคม คณะกรรมการหมู่บ้าน องค์การบริหารสว่ นตำบล หรอื ทางราชการมอบหมาย (20 คะแนน) 1.4 แจ้งแนวทางการคดั สรร และแผนการดำเนนิ งาน กำหนดการตรวจเยี่ยม 1.5 ประกาศผลการคดั สรรชุมชนจิตอาสาดีเดน่ และผ้นู ำชุมชนจิตอาสาดีเดน่ 1.6 ดำเนินการถอดบทเรียนชุมชนจิตอาสาดีเด่น ระดับจังหวัด โดยให้สำนักงาน กศน.จังหวัด จัดทำเฉพาะประเด็นสำคัญโดดเด่น พร้อมภาพประกอบ ตามแบบฟอร์มที่กำหนด ส่งให้ กลุ่มสำนักงาน กศน.จังหวัด และ กลุ่มสำนักงาน กศน.จังหวัด จัดส่งผลงานการถอดบทเรียนให้สถาบัน กศน.ภาค พร้อมรายงานผลการคัดสรร ตามแบบฟอร์มที่กำหนด ภายในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน เมื่อได้ดำเนินการคัดสรรเรียบร้อยแล้ว สถาบัน กศน.ภาค ท้งั 5 ภาค (ภาคเหนอื ภาคใต้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง) ดำเนินการคัดสรรให้เหลือ ประเภทละ 1 แหง่ ทั้งนี้ สำนักงาน กศน. จะดำเนินการคัดสรรระดับประเทศ และมอบโล่รางวัลประกาศเกียรติคุณ โดยรัฐมนตรวี า่ การกระทรวงศกึ ษาธิการตอ่ ไป
32 1.7 การนำเสนอผลงาน ให้ ชุมชนจิตอาสาดีเด่น และ ผู้นำชุมชนจิตอาสาดีเด่น ที่ได้รับการคัดเลือกจากระดับภาค ภาคละ 1 ชุมชน/คน จัดนิทรรศการแสดงผลงาน ณ สถานที่ที่สำนักงาน กศน. กำหนด เพื่อให้คณะกรรมการ พิจารณาตดั สินรอบระดบั ประเทศ 1.8 เกณฑ์การตัดสนิ ชมุ ชนจิตอาสาดเี ด่น และผนู้ ำชุมชนจติ อาสาดเี ด่น รอ้ ยละ 80 – 100 ได้รบั รางวัลชนะเลิศ พรอ้ มโล่รางวัลและเกยี รตบิ ัตร ร้อยละ 70 – 79 ไดร้ บั รางวัลรองชนะเลศิ อนั ดบั 1 พรอ้ มโล่รางวัล และเกยี รตบิ ัตร ร้อยละ 60 – 69 ได้รบั รางวลั รองชนะเลศิ อันดบั 2 พรอ้ มโล่รางวลั และเกียรติบัตร ตำ่ กวา่ รอ้ ยละ 60 ได้รบั รางวัลชมเชย เว้นแต่กรรมการเห็นเป็นอยา่ งอน่ื ผลการตัดสนิ ของคณะกรรมการถือเป็นท่ีสิ้นสดุ ทั้งนี้ ชุมชนจิตอาสาดีเด่น และผู้นำชุมชนจิตอาสาดีเด่น ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ จะได้เข้า ร่วมศึกษาดูงาน ณ โคก หนอง นา โมเดล กรมทหารราบที่ 11 มหาดเล็กรักษาพระองค์ หรือมีแหล่งศึกษาดูงาน อน่ื ในพื้นทีใ่ ห้พจิ ารณาข้ึนอยกู่ บั ความเหมาะสม 1.9 สถานที่ดำเนินงาน สถานที่ดำเนินการให้เป็นไปตามที่กลุ่มสำนักงาน กศน. จังหวัด และสถาบัน กศน.ภาค กำหนด 1.10 ระยะเวลาดำเนนิ การ ดำเนินการในไตรมาสที่ 2 และ 3 (มีนาคม - พฤษภาคม 2564) 1.11 งบประมาณ สำนักงาน กศน. จะดำเนินการจดั สรรงบประมาณเพ่ือดำเนินกิจกรรมดังกล่าว
33 กจิ กรรมท่ี 2 การแข่งขันขับร้องบทเพลงพระราชนิพนธ์ (กศน.ชาเลนจ์) ประจำปี 2564 สำนักงาน กศน. เห็นชอบให้ดำเนินการแข่งขันขับรอ้ งบทเพลงพระราชนิพนธ์ (กศน. ชาเลนจ์) ประจำปี 2564 (รายละเอยี ดโครงการแข่งขันขบั ร้องสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากภาคผนวก) โดยมเี กณฑ์การประกวดดังน้ี 2.1 การแข่งขันขบั รอ้ งบทเพลงพระราชนพิ นธ์ (กศน. ชาเลนจ)์ ระดบั จงั หวัด ประจำปี 2564 2.1.1 คณุ สมบตั ิผเู้ ขา้ ประกวด 1) เปน็ นกั ศกึ ษาชาย/หญิง ทก่ี ำลังศึกษาอยู่ในสถานศึกษาสังกัดสำนักงาน กศน. - ระดบั ประถมศึกษา - ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น - ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย 2) ผู้สมัครต้องได้รับอนุญาตจากสถานศึกษา โดยผู้อำนวยการสถานศึกษาเป็นผู้รับรอง การเขา้ ร่วมแข่งขนั 3) การเข้าสมัครเข้าแข่งขันขับร้องบทเพลงพระราชนิพนธ์ต้องมีครูที่ผ่านการอบรม หลักสตู รจติ อาสาเปน็ ท่ีปรกึ ษาและผูค้ วบคุมทีม 2.1.2 วิธดี ำเนินการและรายละเอียดหลกั เกณฑก์ ารแข่งขัน 1) ส่งรายชือ่ ผู้เข้าแข่งขัน 2) หลักเกณฑก์ ารแข่งขัน - เพลงทีใ่ ชป้ ระกวด คอื บทเพลงพระราชนพิ นธ์ โดยมี - ประกวดทีมละ 5 คน โดยมีผขู้ ับร้องทมี ละ 1 คน และแดนเซอร์ จำนวน 4 คน - ต้องนำแถบบันทึกเสียง/ซีดี/เสียงดนตรี สำหรับประกอบการร้องเพลงมาเอง และสามารถตดั Guide Melody ออกได้ (หากไมส่ ามารถตดั ได้กรรมการจะไม่พิจารณาคะแนนให)้ - จบั ฉลาก เพอื่ เรียงลำดบั กอ่ นการแขง่ ขนั 30 นาที - สง่ เนอื้ ร้องให้คณะกรรมการในวนั ประกวด จำนวน 3 ชดุ - แตง่ กายด้วยชดุ นกั ศึกษา - กรณที เ่ี กดิ การผิดพลาด อนญุ าตให้เร่มิ ตน้ ใหมไ่ ด้ ทัง้ นไี้ ม่เกนิ วรรคที่ 2 ของเนื้อร้อง ทอ่ นที่ 1 หากเกินจากนี้ถือวา่ ผิดพลาด กรรมการจะหกั คะแนนตามกรณีท่ผี ดิ 2.1.3 เกณฑ์การให้คะแนน 100 คะแนน 1) นักรอ้ งนำ 50 คะแนน - น้ำเสียง ความไพเราะของเสียง 10 คะแนน - เทคนิคการขบั รอ้ ง 10 คะแนน - จงั หวะ ทำนอง ถูกตอ้ ง 10 คะแนน - อักขระวธิ ถี กู ต้อง 10 คะแนน - บคุ ลิก ลีลา อารมณ์ 10 คะแนน 2) แดนเซอร์ 30 คะแนน - ความพร้อมเพรียงในทา่ ทาง ลลี าสอดคล้องกบั เพลง 10 คะแนน
34 (สวยงาม มั่นใจ สะท้อนความเปน็ ชาตไิ ทย) - ความคดิ สร้างสรรคแ์ ละรปู แบบการนำเสนอ 10 คะแนน - การแตง่ กายเหมาะสมกบั บทเพลง 10 คะแนน 3) การสัมภาษณ์ และการตอบคำถาม 20 คะแนน 2.1.4 หลกั ฐานและการรบั สมัครแขง่ ขัน 1) ใบสมคั รการประกวดตามแบบฟอรม์ ทกี่ ำหนด สามารถดาวน์โหลดใบสมัครได้ท่ี http://www.nfe.go.th/ และนำสง่ ใบสมัครด้วยตนเอง ณ สำนักงาน กศน.จงั หวดั 2) รูปถ่ายของผูเ้ ข้าประกวดทุกคน ขนาด 1 นิ้ว จำนวน 1 รูป 3) สำเนาบตั รประชาชน จำนวน 1 ฉบับ 4) สำเนาบัตรประจำตวั นักศึกษา จำนวน 1 ฉบบั 2.1.5 วัน เวลาและสถานที่ประกวด สำนักงาน กศน.จังหวัด เป็นผู้กำหนดวัน เวลา และสถานที่ จดั ประกวด 2.1.6 เกณฑ์การตดั สิน ร้อยละ 80 – 100 ได้รับรางวลั ชนะเลิศ รอ้ ยละ 70 – 79 ไดร้ ับรางวลั รองชนะเลศิ อนั ดบั 1 รอ้ ยละ 60 – 69 ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดบั 2 ตำ่ กวา่ ร้อยละ 60 ได้รบั รางวัลชมเชย เว้นแตก่ รรมการเห็นเปน็ อย่างอน่ื ** ผลการตัดสนิ ของคณะกรรมการถือเป็นอนั ทส่ี ้นิ สดุ จะอุทธรณม์ ิได้ ** 2.1.7 คณะกรรมการตดั สิน เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ด้านดนตรีหรือขับรอ้ งจากหน่วยงานสงั กดั สำนักงาน กศน. และหรือหน่วยงานภายนอกตามที่คณะกรรมการดำเนินการประกวดพิจารณาตามความ เหมาะสม โดยมีคณุ สมบัติดงั นี้ 1) เป็นครูที่ทำการสอนการขับร้อง หรือผู้ทรงคุณวุฒิเป็นที่ยอมรับในด้านดนตรีสากล ขับร้องสากล หรือขบั รอ้ งเพลงไทยลูกทงุ่ 2) จำนวนกรรมการตัดสิน 3 คน หรือ 5 คน โดยให้เลือกกรรมการ 1 คน เป็นประธานกรรมการตัดสนิ และเปน็ ผู้ชขี้ าดผลการตดั สนิ 3) การจดั หากรรมการตดั สินการประกวดในระดับจังหวัด กลุม่ จังหวัดสำนักงาน กศน.จังหวัด และสถาบัน กศน.ภาค ใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพินจิ ของเจา้ ภาพ 4) คณะกรรมการดำเนินงาน จัดประชุมร่วมกับคณะกรรมการตัดสิน เพื่อชี้แจง วัตถปุ ระสงค์การประกวดและเกณฑ์การตัดสิน ข้อควรคำนึง - กรรมการตอ้ งไมต่ ดั สินในกรณีสถานศกึ ษาของตนเขา้ แข่งขนั - กรรมการควรให้ข้อเสนอแนะเติมเต็มให้กบั นักศึกษาทเี่ ข้าแข่งขันเพื่อนำไปพัฒนา ทกั ษะของตนเอง 2.1.8 การส่งผมู้ ีสิทธเิ ข้ารว่ มการแขง่ ขนั ระดับประเทศ
35 1) ทีมท่เี ปน็ ตวั แทนของสำนักงาน กศน.จงั หวัด และกล่มุ สำนักงาน กศน. จงั หวัดเข้าแข่งขัน ในระดับภาค ต้องได้รับคะแนนระดับชนะเลิศ ลำดับที่ 1 (คะแนนร้อยละ 80 ขึ้นไป) และทีมที่เป็นตัวแทนระดับ ภาคเข้าแข่งขันในระดบั ประเทศ จะต้องได้รับคะแนนระดบั ชนะเลศิ ลำดับท่ี 1 (คะแนนรอ้ ยละ 80 ข้นึ ไป) 2) ในกรณที ี่มผี ชู้ นะเลิศลำดับสูงสุดได้คะแนนเท่ากนั มากกวา่ 3 ทีม ใหพ้ ิจารณาลำดับที่ ตามลำดับข้อของเกณฑ์การให้คะแนน เช่น มีผู้ที่ได้คะแนนข้อที่ 1 เท่ากัน ให้ดูข้อที่ 2 ผู้ที่ได้คะแนนข้อที่ 2 มากกว่าถือเป็นผู้ชนะ แต่ถ้าข้อที่ 2 เท่ากัน ให้ดูในข้อถัดไป กรณีคะแนนเท่ากันทุกข้อใหป้ ระธานกรรมการตัดสนิ เปน็ ผูช้ ขี้ าด 2.1.9 สถานที่ดำเนินการ สถานที่ดำเนินการให้เป็นไปตามที่สำนักงาน กศน. จังหวัด กลุ่มสำนกั งาน กศน. จงั หวัด และสถาบัน กศน. ภาค กำหนด 2.1.10 ระยะเวลาดำเนินการ ดำเนนิ การในไตรมาสที่ 2 และ 3 (มีนาคม – พฤษภาคม 2564) 2.1.11 งบประมาณ สำนักงาน กศน. จะดำเนินการจัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินการกิจกรรม ดงั กล่าว 2.2 การแข่งขันขบั ร้องบทเพลงพระราชนิพนธ์ (กศน. ชาเลนจ์) ระดับประเทศ ประจำปี 2564 2.2.1 กฎ กติกาการประกวด 1) ประเภทระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ผเู้ ข้ารบั การประกวดทกุ คน ทุกประเภทใช้กฎ กติกา และการตดั สินเกณฑเ์ ดยี วกนั ดงั น้ี - ผู้เขา้ รับการแขง่ ขันขบั รอ้ งต้องขับร้องบนเวทตี อ่ หน้าคณะกรรมการโดยไม่ใชด้ นตรีประกอบ - ผู้เข้ารับการแข่งขันขับร้องสามารถแต่งกายได้อิสระ เช่น ผู้เข้ารับการประกวด สามารถแต่งกายสุภาพด้วยชุดนักศึกษา หรือแต่งกายอิสระ ทั้งนี้ลักษณะของการแต่งกายดังกล่าวต้องมี ความเหมาะสมกบั ความเปน็ นกั ศึกษาและไม่ขดั ต่อขนบธรรมเนยี มและศลี ธรรมอันดงี ามของความเป็นไทย 2) เพลงทใี่ ชป้ ระกวดเปน็ บทเพลงพระราชนพิ นธ์ 3) ผู้เข้ารับการแข่งขันขับร้องต้องมารายงานตัวตามวัน เวลา และสถานที่ที่ สำนักงาน กศน. กำหนด 4) จบั ฉลากเพ่ือเรยี งลำดับก่อนประกวด 30 นาที 5) คณะกรรมการ คัดเลอื กให้เหลือ 1 ทมี ในแตล่ ะระดบั (ระดบั ประถมศกึ ษา ระดบั มธั ยมศกึ ษา ตอนตน้ และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย) เพื่อแขง่ ขนั รอบชงิ ชนะเลิศ 2.2.2 แนวปฏิบตั สิ ำหรับผทู้ ่ผี า่ นเข้ารอบชงิ ชนะเลิศ 1) ทันทีที่ทราบผลการคัดเลือก ให้ผู้ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศทุกประเภทต้องมารายงานตัว ตามวัน เวลา และสถานทีท่ สี่ ำนกั งาน กศน.กำหนด 2) จับฉลาก เพ่อื เรียงลำดับกอ่ นประกวด 30 นาที 3) ผู้เข้าประกวดร้องเพลงรอบชิงชนะเลิศทุกประเภทต้องขับร้องสดบนเวทีประกวด พรอ้ มดนตรปี ระกอบตอ่ หน้าคณะกรรมการ 4) กรรมการผูต้ ัดสิน สำนักงาน กศน.จะประกาศใหท้ ราบในวนั รอบชงิ ชนะเลศิ 2.2.3 เกณฑ์การให้คะแนน 100 คะแนน 2.2.4 กรรมการผูต้ ัดสิน สำนักงาน กศน.จะประกาศให้ทราบในวนั รอบชิงชนะเลิศ
36 1) นักรอ้ งนำ 50 คะแนน - นำ้ เสียง ความไพเราะของเสียง 10 คะแนน - เทคนิคการขับรอ้ ง 10 คะแนน - จังหวะ ทำนอง ถูกตอ้ ง 10 คะแนน - อักขระวิธถี ูกต้อง 10 คะแนน - บคุ ลกิ ลลี า อารมณ์ 10 คะแนน 2) แดนเซอร์ 30 คะแนน - ความพรอ้ มเพรยี งในท่าทาง ลีลาสอดคลอ้ งกบั เพลง 10 คะแนน (สวยงาม มั่นใจ สะทอ้ นความเปน็ ชาตไิ ทย) - ความคดิ สร้างสรรคแ์ ละรปู แบบการนำเสนอ 10 คะแนน - การแต่งกายเหมาะสมกบั บทเพลง 10 คะแนน 3) การสมั ภาษณ์ และการตอบคำถาม 20 คะแนน 2.2.5 เกณฑ์การตดั สนิ รอ้ ยละ 80 – 100 ไดร้ ับรางวัลชนะเลิศ พร้อมโล่รางวลั และเกยี รติบัตร ร้อยละ 70 – 79 ได้รับรางวลั รองชนะเลศิ อนั ดับ 1 พรอ้ มโล่รางวลั และเกียรตบิ ตั ร ร้อยละ 60 – 69 ได้รบั รางวัลรองชนะเลิศอันดบั 2 พรอ้ มโล่รางวัล และเกยี รตบิ ตั ร ต่ำกว่าร้อยละ 60 ไดร้ บั รางวลั ชมเชย เว้นแตก่ รรมการเหน็ เป็นอย่างอื่น ** ผลการตดั สนิ ของคณะกรรมการถือเปน็ อันทสี่ ้นิ สดุ จะอุทธรณม์ ิได้ ** ทั้งนี้ ทีมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ จะได้เข้าร่วมศึกษาดูงาน ณ โคก หนอง นา โมเดล กรมทหารราบที่ 11 มหาดเล็กรักษาพระองค์ หรือมีแหล่งศึกษาดูงานอื่นในพื้นที่ให้พิจารณาขึ้นอยู่กับ ความเหมาะสม
37 บทที่ 4 การสรปุ รายงานผลการดำเนินงานโครงการจิตอาสาของสำนักงาน กศน. การสรุปรายงานผลการดำเนินงานโครงการจิตอาสาของสำนักงาน กศน. ให้สำนักงาน กศน.จังหวัด/ กรงุ เทพมหานคร ดำเนนิ การจัดทำสรปุ รายงานผลตามแบบฟอร์มสง่ ให้สำนักงาน กศน. ดังตอ่ ไปน้ี (เคา้ โครงรูปเลม่ รายงานผลการดำเนนิ งานโครงการจิตอาสาของสำนกั งาน กศน.) รายงานผลการดำเนนิ งานโครงการจติ อาสาของสำนักงาน กศน. จงั หวัด.../กรงุ เทพฯ ระหว่างวนั ท.่ี ...........เดือน.......................พ.ศ................ ณ....................................................................................... สำนักงานส่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั สำนกั งานปลดั กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศกึ ษาธิการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ............
38 คำนำ บทสรปุ สำหรับผูบ้ ริหาร สารบัญ บทที่ 1 บทสรปุ บทที่ 2 รายงานผลการดำเนินงาน - กิจกรรมอบรมหลักสูตรจิตอาสาของสำนักงาน กศน. (ให้รายงานผลของการอบรมพร้อมหลักสูตร) - กิจกรรมขยายผลโครงการจติ อาสาของสำนักงาน กศน. 1. กิจกรรมท่ี 1 การประกวดการขยายผลโครงการจติ อาสา ประจำปี 2564 - ชมุ ชนจิตอาสาดีเด่น (ผลการถอดบทเรยี น) - ผูน้ ำชุมชนจิตอาสาดีเด่น (ผลการถอดบทเรียน) 2. กจิ กรรมท่ี 2 การประกวดการแข่งขันขับร้องบทเพลงพระราชนพิ นธ์ (กศน.ชาเลนจ์) ประจำปี 2564 ภาคผนวก - โครงการทไี่ ดร้ บั อนมุ ัติ - คำสง่ั แต่งต้งั คณะกรรมการดำเนนิ โครงการ - เอกสารท่ีเกี่ยวข้องกบั โครงการ เช่น รายชือ่ ผเู้ ข้ารบั การฝึกอบรม กำหนดการ ฯลฯ - เครอ่ื งมือท่ีใชใ้ นการประเมินโครงการ (แบบสอบถาม/แบบประเมิน) - ภาพบรรยากาศการดำเนนิ โครงการ/กิจกรรม จำนวน 10 ภาพ (แสดงถงึ กระบวนการอบรม) - อน่ื ๆ ตามที่เหน็ ว่าเหมาะสม โดยคำนึงถึงความประหยดั โดยจัดทำเป็นส่ือ/รายงานในรูปแบบออนไลน์และ เผยแพร่ไปยงั หน่วยงานอื่น ผา่ นเวบ็ ไซต์ของสำนักงาน กศน. จงั หวดั /กรงุ เทพฯ และส่ืออ่ืน ๆ
39 การเขยี นรายงานผลการดำเนนิ งานโครงการ บทสรปุ เขียนไมเ่ กิน 1 หนา้ กระดาษ โดยแบ่งเป็น ยอ่ หน้าแรก ประกอบด้วย ช่อื โครงการ วัตถุประสงค์ เปา้ หมาย หน่วยงานผ้รู ับผิดชอบ ย่อหน้าที่สอง ให้เขียนสรุปว่าได้ดำเนินการโครงการนี้ ที่ไหน /เมื่อไหร่ /มีขั้นตอนดำเนินการที่สำคัญ อยา่ งไร /ไดผ้ ลทั้งด้านปริมาณเทา่ ไหร่ และหรือมคี ุณภาพของผลงานอยา่ งไร ผลการดำเนนิ การสรปุ ได้ดงั นี้ ... ย่อหน้าสุดท้าย สรุปผลการประเมินตามวัตถุประสงค์ของการประเมินโครงการว่าบรรลุหรือไม่อย่างไร (ประสิทธิผลของโครงการ) รวมทั้งความพึงพอใจของผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยสรุปเป็นภาพรวมและบอกเพียงค่าเฉล่ีย หรอื ร้อยละ พรอ้ มท้ังเขยี นปญั หาอุปสรรคและข้อเสนอแนะในการดำเนินงานโครงการ ผรู้ บั ผิดชอบโครงการ
40 รายงานผลการดำเนินงาน ประกอบด้วย 1. ความเป็นมาและความสำคัญของโครงการ เป็นการเขยี นใหเ้ หน็ ถึงความเป็นมาของโครงการ การประเมินและรายงานผลการดำเนินงานโครงการ ย่อหน้าแรก เขียนจากหลักการและเหตุผลหรือความเป็นมาของโครงการท่ีได้รับอนุมตั ิ และยอ่ หน้าท่สี อง เขียนให้ เห็นความจำเป็นของการประเมินและการรายงานผลโครงการ (เพื่อตรวจสอบความสำเร็จของการดำเนินงาน โครงการ และปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงานโครงการ และนำไปสู่การจัดโครงการครัง้ ต่อไปรวมทั้งการวางแผน จดั ทำโครงการครง้ั ต่อไป) 2. วัตถุประสงคข์ องการประเมินโครงการ เปน็ การเขยี นจากวตั ถุประสงคข์ องโครงการท่ีไดร้ บั อนุมตั ิ โดยระบดุ ังน้ี 1. เพื่อประเมินความสำเร็จของการดำเนินงานโครงการหรอื ประเมินประสิทธิผลของโครงการใน เรื่องต่อไปนี้ (ตามที่ระบุไว้ในวัตถุประสงค์ของโครงการและผลที่คาดว่าจะได้รับ) รวมทั้งประสิทธิภาพ ในการดำเนินงานโครงการ 2. เพอื่ ศึกษาปัญหาอปุ สรรคจากการดำเนินงานโครงการ ขอ้ เสนอแนะและแนวทางการแกป้ ัญหา 3. ขอบเขตของการดำเนินงานโครงการ ประกอบด้วย เป้าหมาย จำนวนผู้เข้ารับการฝึกอบรม สถานท่ี วันเวลาดำเนนิ งาน ขน้ั ตอนการดำเนนิ งานและกจิ กรรมท่ีสำคญั 4. ผลการดำเนนิ โครงการ นำเสนอข้อมูลผลการดำเนินงานทั้งข้อมูลพื้นฐานการดำเนินงานโครงการ และตามด้วยข้อมูลผล การประเมินตามวตั ถุประสงค์ของการประเมินและรายงานผลการดำเนินงานโครงการ 4.1 ข้อมูลพื้นฐานการดำเนินงานโครงการ การเตรียมการดำเนินงาน กระบวนการดำเนินงานและ ผลการดำเนินงาน ผลทีไ่ ดจ้ ากการดำเนนิ งานทั้งในเชงิ ปรมิ าณและคุณภาพ 4.2 ผลการประเมินความสำเรจ็ ของการดำเนนิ งานโครงการ เพื่อตอบคำถามว่าโครงการมีประสิทธิผลและประสิทธิภาพหรือไม่อย่างไร (ตามที่ระบุไว้ใน วัตถุประสงค์ของโครงการและผลที่คาดว่าจะได้รับ และตามที่ระบุไว้ในโครงการ) อาจเป็นทั้งข้อมูลเชิงปริมาณ และข้อมูลเชิงคุณภาพ เช่น ผู้เข้าอบรมมีความรู้ ความเข้าใจในเนื้อหาโดยมีผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ ร้อยละ… ความคดิ เหน็ ของผู้เข้ารว่ มโครงการที่มีตอ่ การบรหิ ารจดั การและการดำเนนิ งานโครงการ ความพงึ พอใจของผู้มีส่วน ไดส้ ่วนเสียต่อโครงการและการดำเนินงานโครงการ โดยหาค่าเฉลย่ี หรอื ค่าร้อยละและการแจงนับจากความคิดเห็น อ่นื ๆ หรอื ข้อเสนอแนะของผรู้ ว่ มโครงการ 4.3 ปญั หาอปุ สรรคที่เกิดข้ึนจากการดำเนินงานโครงการ และแนวทางแกป้ ญั หา 5. สรุปคา่ ใชจ้ ่ายของโครงการ/กจิ กรรม 6. สรุปผลและข้อเสนอแนะ 6.1 สรุปผลตามวัตถุประสงค์ของการประเมินความสำเร็จของการดำเนินงานทั้งด้านประสิทธิผล และประสทิ ธภิ าพ
41 6.2 ปัญหาอุปสรรค ข้อเสนอแนะ อาจเป็นข้อเสนอแนะของผู้เข้าร่วมโครงการและผู้รับผิดชอบ โครงการ ที่ได้จากการดำเนินงานโครงการหรือการประเมินผล เพื่อให้โครงการที่จะทำต่อไปปร ะสบความสำเร็จ หรอื ขยายผลตอ่ ไป ทั้งนี้ สำนักงาน กศน.จังหวัด/กรุงเทพมหานคร สามารถเพิ่มเติมหัวข้ออื่น ๆ ได้ตามความเหมาะสม กบั ลักษณะของโครงการได้ 7. ภาคผนวก - โครงการทไ่ี ดร้ บั อนุมัติ - กำหนดการอบรม - คำสง่ั แต่งตัง้ คณะกรรมการดำเนนิ โครงการ - เอกสารท่ีเกยี่ วขอ้ งกับโครงการ เช่น รายชอ่ื ผู้เข้ารบั การฝึกอบรม กำหนดการ ฯลฯ - เครื่องมอื ท่ใี ชใ้ นการประเมนิ โครงการ (แบบสอบถาม/แบบประเมนิ ) - ภาพบรรยากาศการดำเนนิ โครงการ/กจิ กรรม จำนวน 10 ภาพ (แสดงถงึ กระบวนการอบรม) - อื่น ๆ ตามทเ่ี หน็ ว่าเหมาะสม โดยคำนงึ ถึงความประหยัด โดยจดั ทำเป็นส่ือ/รายงานในรูปแบบออนไลน์ และเผยแพร่ไปยังหน่วยงานอ่ืน ผา่ นเว็บไซต์ของสำนักงาน กศน. จังหวดั /กรุงเทพฯ และสือ่ อนื่ ๆ -ฯลฯ หมายเหตุ อาจเพิ่มเติมหัวข้ออน่ื ๆ ไดต้ ามความเหมาะสมกบั ลกั ษณะของโครงการ
42 (เค้าโครงรูปเลม่ รายงานถอดบทเรยี นชมุ ชนจติ อาสาดเี ด่นและผนู้ ำชุมชนจิตอาสาดีเดน่ ) รายงานถอดบทเรยี นชุมชนจิตอาสาดเี ดน่ และผ้นู ำชุมชนจติ อาสาดีเด่น ของสำนักงาน กศน. จงั หวดั .../กรุงเทพฯ ระหวา่ งวันท่ี............เดอื น.......................พ.ศ................ ณ....................................................................................... สำนักงานสง่ เสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย สำนักงานปลดั กระทรวงศึกษาธกิ าร กระทรวงศึกษาธกิ าร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ............
43 คำนำ บทสรปุ สำหรบั ผูบ้ ริหาร สารบัญ บทที่ 1 บทนำ บทที่ 2 วิธีดำเนินการถอดบทเรยี น บทท่ี 3 ผลการถอดบทเรียน บทที่ 4 สรุปผลการถอดบทเรยี น บทท่ี 5 ขอ้ เสนอแนะ ภาคผนวก - กำหนดการถอดบทเรียน - ประมวลภาพกจิ กรรม จำนวน 10 ภาพ - เคร่อื งมือที่ใชใ้ นการถอดบทเรยี น - รายช่ือคณะผู้ถอดบทเรียน
44 ความเป็นมา เป็นการเขียนให้เหน็ ถงึ ความเป็นมาของชมุ ชนจิตอาสา/ผนู้ ำจติ อาสา ย่อหน้าแรก เขยี นจากหลักการและ เหตุผลหรือความเป็นมา ย่อหนา้ ทสี่ อง เขียนใหเ้ หน็ ความจำเป็นของการถอดบทเรยี น และย่อหนา้ ทส่ี าม เขียนให้ เหน็ ผลท่ีคาดว่าจะได้รบั ประโยชนจ์ ากการถอดบทเรยี น วตั ถุประสงค์การถอดบทเรียน เป็นการเขยี นจากวตั ถุประสงค์ โดยระบใุ ห้ชดั ๆ ต้องตอบวัตถุประสงค์ทกุ ขอ้ 1. เพื่อศึกษาขั้นตอน การปฏิบัติ (เพื่ออธิบายให้ผู้อ่านเข้าใจว่ากำลังถอดบทเรียนเรื่องอะไร มี ขนั้ ตอนการปฏิบตั อิ ยา่ งไร) 2. เพ่อื ศกึ ษาจุดแข็ง จดุ ออ่ น โอกาสพัฒนา และภาวะคุกคาม 3. เพื่อศึกษาข้อเสนอแนะ และแนวทางการพัฒนา (ข้อนี้ ถือเป็นหัวใจหลักการถอดบทเรียน เพื่อ เปน็ การตอ่ ยอดให้เกดิ การนำไปใชอ้ ยา่ งมีประสทิ ธิภาพ) ขอบเขตของการดำเนินงานโครงการ ประกอบด้วย เป้าหมาย จำนวนผู้ถอดบทเรียน สถานที่วันเวลาดำเนนิ งาน ข้นั ตอนการดำเนนิ งานและกิจกรรมท่ีสำคญั วธิ ดี ำเนนิ การถอดบทเรยี น เป็นการอธิบายให้เห็นกระบวนการจริงในการถอดบทเรยี น ที่ทำให้ผู้อ่านได้ประเมินความน่าเชือ่ ถือและ คุณคา่ ของข้อมลู อาจประกอบดว้ ยข้อมูลดงั นี้ การขบั เคล่อื นจิตอาสา 1. กลไกการขับเคล่ือน (หมายถึง กระบวนการ วธิ กี ารจดั การ) 1.1 ระดับอำเภอ 1.2 ระดับตำบล 1.3 ระดับหมูบ่ า้ น 2. กระบวนการในการขับเคลื่อน (หมายถึง วิธีการบริการตามกระบวนการบริหารในหลัก PDCA ซ่ึง ประกอบด้วย Plan (การวางแผน) Do (การดำเนินการ) Check (การตรวจสอบ) และ Action (การปฏิบัติเพ่ือ ปรับปรุงหลังการตรวจสอบ) 3. เครอ่ื งมือทใี่ ช้ในการขับเคล่อื น (รปู แบบการถอดบทเรยี นซงึ่ เน้นกระบวนการประชุม มกี ารนำเสนอ และมีภาคเี ครอื ข่ายเข้ามามสี ่วนร่วมในบทบาทในการดำเนินกิจกรรม) ผลการถอดบทเรียน เกิดจากการนำข้อมูลที่ได้จากการถอดบทเรียนมาวิเคราะห์ สังเคราะห์ และสรุปตีความ เขียนเป็น รายงาน และต้องชใี้ ห้เหน็ แนวปฏบิ ัตทิ ด่ี ี (โดยสรุปประสบการณใ์ นการทำงานที่ผา่ นมาในแง่มมุ ต่าง ๆ เพื่อให้เห็น ถึงรายละเอียดของปัจจัยซึ่งทำให้เกิดผลอย่างที่เป็นอยู่ ทั้งท่ีสำเร็จและไม่สำเร็จเพื่อเป็นแนวทางในการปรับปรุง การปฏบิ ตั ิงานให้บรรลุเปา้ หมาย และสามารถเผยแพร่ศกึ ษาเรยี นร้ไู ด้) สามารถเขยี นเปน็ รายงานตามหวั ขอ้ ดงั น้ี
45 1. ความคาดหวังก่อนดำเนินการ โดยการนำข้อมูลจากวัตถุประสงค์การถอดบทเรียนมาเขียนเป็น รปู แบบพรรณราหรือเปน็ รายข้อ 2. สิ่งที่เกิดขึ้นจริงหลังการดำเนินกิจกรรม เป็นการเล่าถึงข้อมูลที่ได้จากประสบการณ์ แลกเปลี่ยน เรียนรู้ ของผู้เข้าร่วมการถอดบทเรียน เช่น เกิดกระบวนการเรียนรู้สามารถนำไปใช้ในการดำเนินชีวิต และความตอ้ งการของกล่มุ เปา้ หมาย 3. สิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้น/ปัจจัยแห่งความสำเร็จ บรรยายถึงปัจจัยแห่งความสำเร็จ การสื่อสาร ความเขา้ ใจ และความร่วมมอื ของประชาชนในพื้นที่ ทำใหเ้ กิดการยอมรบั และวางระบบงานดว้ ยความเข้าใจและ รับรู้ในขอ้ มูลเดยี วกัน 4. องค์ความรู้ที่ได้จากการถอดบทเรียน องค์ความรู้ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหา หรือองค์ความรู้ใหม่ที่เกิดขึ้น เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงาน ลดความขัดแย้ง ความเข้าใจผล ช่วยทำให้มีการับรู้ และเขา้ ใจการดำเนนิ การ การสอื่ สารแลกเปลย่ี นข้อมลู ท่ีถกู ตอ้ ง ครบถว้ น สรุปผลการถอดบทเรยี น สรุปผลทั้งหมด โดยนำเสนอถึงปัญหา อุปสรรค สาเหตุ และข้อจำกัดในการดำเนินงาน เน้นประเด็น ปัญหาที่ยงั แก้ไขไมไ่ ดเ้ พ่ือใหม้ กี ารดำเนินการหาวธิ แี ก้ไขต่อไป และนำเสนอท่ีทำได้ดีทส่ี ุด ขอ้ เสนอแนะ ข้อเสนอแนะ อาจเป็นข้อเสนอแนะที่ได้จากการดำเนินงาน เพื่อให้งานที่จะทำต่อไปประสบความสำเร็จ หรอื ขยายผลตอ่ ไป ภาคผนวก - กำหนดการถอดบทเรยี น - ประมวลภาพกิจกรรม จำนวน 10 ภาพ - เคร่อื งมือที่ใชใ้ นการถอดบทเรียน - รายชือ่ คณะผู้ถอดบทเรยี น - อื่น ๆ ตามที่เห็นว่าเหมาะสม โดยคำนึงถึงความประหยัด โดยจัดทำเป็นสื่อ/รายงานในรูปแบบออนไลน์และ เผยแพรไ่ ปยงั หนว่ ยงานอื่น ผ่านเว็บไซต์ของสำนักงาน กศน. จงั หวดั /กรุงเทพฯ และส่อื อืน่ ๆ -ฯลฯ หมายเหตุ อาจเพม่ิ เติมหัวข้ออื่น ๆ ไดต้ ามความเหมาะสม
46 ภาคผนวก 1. โครงการหลักสูตรจติ อาสาของสำนกั งาน กศน. 2. บญั ชีรายชื่อผผู้ า่ นการอบรมจิตอาสา “หลกั สตู รพนื้ ฐาน” และ “หลักสตู รหลักประจำ” 3. กำหนดการอบรมพฒั นาตามโครงการอบรมหลักสูตรจิตอาสาของสำนักงาน กศน. 4. แบบประเมินโครงการอบรมหลักสตู รจิตอาสาของสำนกั งาน กศน. 5. ตวั อยา่ งวฒุ ิบัตร/เกยี รตบิ ตั ร 6. แบบขอ้ มูลและทะเบียนประวัติชมุ ชนจติ อาสาดีเด่น ระดับจงั หวัด ประจำปี ๒๕๖๔ 7. แบบข้อมูลและทะเบียนประวตั ขิ องผูน้ ำชุมชนจิตอาสา ดเี ดน่ ระดับจงั หวดั ประจำปี ๒๕๖๔ 8. โครงการแขง่ ขนั ขับร้องบทเพลงพระราชนิพนธ์ (กศน. ชาเลนจ์) ประจำปี 2564 9. ใบสมคั ร การแข่งขันขับรอ้ งบทเพลงพระราชนพิ นธ์ (กศน. ชาเลนจ)์ ประจำปี 2564
Search