Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รู้เท่าทันCOVID-19

รู้เท่าทันCOVID-19

Published by pampamarthit, 2021-02-04 08:30:55

Description: หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ รู้เท่าทันโควิด-19 ใช้ชีวิตอย่างไรให้ปลอดภัย

Keywords: COVID19,E-BOOK

Search

Read the Text Version

รู้ เ ท่ า ทั น C O V I D - 1 9 รูเ้ ท่าทัน COVID-19 สอนโดย นางสาวอาทิตยา ศูนยศ์ ร

7 อาหารไทยต้าน 'โควดิ -19' เปิ ดสรรพคุณเดด็ ทช่ี ่วยป้ องกนั ไวรัส 1. เมี่ยงคา อาหารไทยอยา่ ง \"เมี่ยงคา\" มีส่วนผสมหลกั คือ มะนาวหน่ั พร้อมเปลือก และหอมแดงสด ท้งั สอง อยา่ งน้ีถือเป็ นสมุนไพรท่ีมีสารเฮสเพอริดิน สารรูติน และวติ ามินซี ช่วยป้ องกนั ไม่ใหไ้ วรัสเขา้ สู่ เซลลข์ องร่างกาย ช่วยลดโอกาสการติดเช้ือในอวยั วะต่างๆได้ 2. ต้มยา เมนูอาหารไทยเมนูถดั มาคือ \"ตม้ ยา\" มีส่วนประกอบหลกั คือ หอมใหญ่ หอมแดง ซ่ึงมีสารสาคญั อยา่ ง สารเคอร์ซีทิน (quercetin) ที่มีศกั ยภาพในการป้ องกนั ไม่ใหไ้ วรัสเขา้ เซลล์ ช่วยลดโอกาสการ ติดเช้ือ อีกท้งั ยงั มีเห็ดท่ีมีสารเบตา้ กลูแคน ช่วยกระตุน้ ภูมิคุม้ กนั ของร่างกาย ทาใหไ้ ม่ป่ วยง่าย และ มะนาวท่ีใส่ในตม้ ยามีวติ ามินซีที่มีฤทธ์ิตา้ นอนุมูลอิสระสูง ช่วยเสริมการทางานของระบบภมู ิคุม้ กนั 3. ต้มโคล้ง ส่วนเมนูอาหารไทยอีกจานท่ีมีรสชาติแซ่บจดั จา้ นไม่แพก้ นั นน่ั คือ \"ตม้ โคลง้ \" (รวมถึงเมนูแกงเลียง และยาชนิดต่างๆ) มีส่วนผสมของสมุนไพรจาพวกหอมใหญ่ หอมแดง เห็ดชนิดต่างๆ และมะนาว ซ่ึงมีสารสาคญั เช่น สารเคอร์ซีทิน เบตา้ กลูแคน และวติ ามินซี ท่ีช่วยกระตุน้ ภมู ิคุม้ กนั ของร่างกาย ทาใหไ้ มป่ ่ วยง่าย มีฤทธ์ิตา้ นอนุมูลอิสระสูง ช่วยส่งเสริมการทางานของระบบภมู ิคุม้ กนั 4. แกงส้มมะรุม แกงส้มผกั รวม แกงส้มท้งั สองชนิดน้ีตา่ งก็เป็ นอาหารไทยที่มีสมุนไพรเป็ นส่วนประกอบ เริ่มจาก \"แกงส้มมะรุม\" มี มะรุมเป็นส่วนประกอบหลกั ซ่ึงมีสารเคอร์ซีติน (quercetin) ที่มีศกั ยภาพในการป้ องกนั ไม่ใหไ้ วรัส เขา้ เซลล์ ช่วยลดโอกาสการติดเช้ือ ส่วนเมนู \"แกงส้มผกั รวม\" ควรใชผ้ กั หลากหลายสีผสมกนั เพราะอุดมไปดว้ ยวติ ามินซี และสารกลุ่มแอนโทไซยานินซ่ึงเป็นสารเฟลโวนอยดท์ ่ีมีฤทธ์ิตา้ น อนุมลู อิสระสูง ช่วยเสริมการทางานของเซลลใ์ นระบบภมู ิคุม้ กนั ทาใหไ้ มป่ ่ วยง่าย 5. นา้ พริกผกั ต้ม ผกั สด บา้ นเราคุน้ เคยกบั อาหารไทยประเภทเคร่ืองจิ้มกนั อยแู่ ลว้ อยา่ งเช่นเมนูน้าพริกผกั ตม้ หรือผกั สด โดยอาจจะเนน้ ผกั สมุนไพรท่ีมีสรรพคุณทางยาในเมนูน้ีมหม้ ากข้ึน เช่น ดอกข้ีเหล็ก ยอดมะยม ใบ เหลียง ยอดสะเดา มะระข้ีนก ฟักขา้ ว ผกั เชียงดา คะนา้ มะรุม ผกั แพว ผกั หลากสี ซ่ึงผกั เหล่าน้ีอุดม ไปดว้ ยสารกลุ่มแอนโทไซยานิน ซ่ึงเป็นสารกลุ่มเฟลโวนอยดท์ ่ีมีฤทธ์ิตา้ นอนุมลู อิสระสูง และมี วติ ามินซีสูงดว้ ย

รู้เท่าทนั COVID-19 ประเทศไทยมีเป้ าหมายทางการแพทยแ์ ละการสาธารณสุขท่ีสาคญั ประกอบดว้ ย 2 ส่วน คือ การ มีอายยุ นื ยาวและการมีคุณภาพชีวติ ท่ีดี การท่ีประชาชนมีสุขภาพแขง็ แรงในทุกช่วงวยั ทาใหม้ ี อายยุ นื ยาวเมื่อเขา้ สู่ วยั ผสู้ ูงอายุ ซ่ึงการมีอายยุ นื ยาวไม่เจบ็ ป่ วยเป็นโรค เป็นปัจจยั หน่ึงที่ส่งผล ต่อคุณภาพชีวติ เน่ืองจากคุณภาพชีวติ ประกอบดว้ ยสุขภาพในหลายดา้ นรวมกนั ไดแ้ ก่ สุขภาพ ดา้ นกายภาพ (physical health) สุขภาพดา้ นจิตใจ (mental health) สุขภาพดา้ นสังคม (social health) และภาวะสุขภาพโดยทว่ั ไป (general health) เช้ือไวรัสโคโรนาน้ี ติดต่อผา่ นทางการไอ จาม สมั ผสั น้ามูก น้าลาย จากผตู้ ิดเช้ือ ซ่ึงอาจจะเป็นการรับละอองจากการไอจามโดยตรงมาสู่ เยอ่ื บุตา จมูก ปากหรือผา่ นการสมั ผสั จากมือกไ็ ด้ ยกตวั อยา่ ง ถา้ ผปู้ ่ วยโรค COVID-19 ท่ีมีอาการ ไอ จาม เอามือไปสมั ผสั น้ามกู หรือน้าลาย และไปจบั มือคนอ่ืน หรือไปจบั ผวิ สัมผสั ของส่ิงท่ีใช้ มือร่วมกนั จบั บ่อย ๆ เช่น ลกู บิดประตู สวติ ชไ์ ฟ โทรศพั ท์ (รวมไปถึงอาหารท่ีใชม้ ือดว้ ย) เช้ือ ไวรัสจะติดอยทู่ ่ีพ้ืนผวิ วสั ดุน้นั เมื่อผอู้ ื่นเอามือมาสัมผสั แลว้ เอามือท่ีปนเป้ื อนเช้ือไวรัสมาสมั ผสั บริเวณใบหนา้ ขย้ตี า แคะจมูกหรือเอามือเขา้ ปาก กส็ ามารถรับเช้ือไปได้ แต่นนั่ ไม่ไดแ้ ปลวา่ ผทู้ ี่ รับเช้ือจะตอ้ งติดเช้ือหรือป่ วยเป็นโรค COVID-19 ทุกคน เพราะการติดเช้ือน้นั ข้ึนกบั ปัจจยั ต่าง ๆ ไดแ้ ก่ ปริมาณไวรัสที่ไดร้ ับ ภมู ิคุม้ กนั ของร่างกาย และสภาพแวดลอ้ มดว้ ย (อุณหภูมิและ ความช้ืน) โดยไวรัสตวั น้ี (รวมถึงไวรัสก่อโรคอ่ืน ๆ) ส่วนมากจะชอบอากาศเยน็ และความช้ืน สูง สาหรับการติดเช้ือทางอากาศ ในลกั ษณะละอองฝอยที่ไม่จาเป็นตอ้ งไอ จามใส่ เพียงแค่อยใู่ น พ้นื ท่ีปิ ดที่อากาศไม่ถ่ายเทร่วมกนั กส็ ามารถแพร่เช้ือไดแ้ ลว้ จะเกิดเฉพาะในกรณีระหวา่ งที่มีการ พยาบาลที่ก่อใหเ้ กิดละอองฝอยเท่าน้นั เช่น การพ่นยา การใส่ท่อช่วยหายใจ การดูดเสมหะ การ ใชเ้ ครื่องช่วยหายใจ และผปู้ ่ วยส่วนใหญ่จะมีอายมุ าก ประมาณ 50 ปี พบในเพศชายมากกวา่ เพศ หญิงเลก็ นอ้ ย ผปู้ ่ วยยงิ่ อายมุ าก หรือมีโรคประจาตวั เช่น ความดนั โลหิตสูง เบาหวาน มีโอกาส เกิดภาวะแทรกซอ้ นหรือการเสียชีวติ ไดส้ ูงกวา่ คนท่ีอายนุ อ้ ยกวา่ หรือไม่มีโรคประจาตวั ท่ี น่าสนใจคือ ในกลุ่มเดก็ พบวา่ อาการนอ้ ยมากหรืออาจไม่มีอาการใด ๆ เลยรวมไปถึงโอกาสเกิด ภาวะแทรกซอ้ นหรือการเสียชีวติ กต็ ่ามาก อยา่ งไรกต็ าม เดก็ สามารถแพร่เช้ือสู่ผอู้ ื่นได้

โดยเฉพาะผสู้ ูงอายทุ ่ีในสังคมไทยมกั มีความใกลช้ ิดกบั เดก็ โรค COVID-19 น้ีมีระยะฟักตวั (ระยะเวลาต้งั แต่รับเช้ือจนถึงเร่ิมมีอาการ) กวา้ งต้งั แต่ 2-14 วนั แต่โดยเฉลี่ยจะอยทู่ ี่ 5 วนั อาการ ของผปู้ ่ วยติดเช้ือน้นั มีความหลากหลาย ต้งั แต่ไม่มีอาการเลยจนถึงมีอาการ เช่น ไข้ ไอ (มกั จะ ไอแหง้ ๆ มากกวา่ มีเสมหะ) เจบ็ คอ ปวดศีรษะ ปวดเม่ือยตามตวั หายใจไม่สะดวก ถ่ายเหลว ซ่ึง อาการเหล่าน้ีไม่จาเพาะต่อโรคน้ีเท่าน้นั จึงไม่สามารถแยกไดจ้ ากการติดเช้ือไวรัสกลุ่มอื่น ๆ (เช่น ไขห้ วดั ใหญ่หรือไขห้ วดั ธรรมดา) ดงั น้นั การวินิจฉยั จึงตอ้ งใชป้ ัจจยั เส่ียงจากการสมั ผสั โรคหรือใกลช้ ิดผปู้ ่ วยท่ีเป็นโรคประกอบ ผปู้ ่ วยส่วนมากอาการไม่รุนแรง (ร้อยละ 80) ในขณะที่ ร้อยละ 15 มีอาการรุนแรง ไดแ้ ก่ปอดอกั เสบติดเช้ือ และมีเพยี ง ร้อยละ 5 ที่ตอ้ งเขา้ หออภิบาล ผปู้ ่ วยหนกั (ICU) สาหรับอตั ราการเสียชีวติ ของโรคน้ี อยทู่ ่ีประมาณ ร้อยละ 1-3 ซ่ึงถือวา่ นอ้ ย กวา่ โรคซาร์สและเมิร์สท่ีเคยระบาดในอดีต (ร้อยละ 10 และ 37 ตามลาดบั ) และเน่ืองจากการท่ี โรคน้ีความรุนแรงนอ้ ย ผปู้ ่ วยจึงสามารถที่จะเดินทางไปยงั สถานที่ต่าง ๆ ทวั่ โลกได้ แมจ้ ะป่ วย เป็นโรค ทาใหเ้ กิดการระบาดทวั่ โลก วิธีการตรวจหาเชือ้ และการป้ องกนั การวินิจฉยั โรคนีใ้ นปัจจบุ นั วิธีท่ีใช้คอื การเอาสิง่ สง่ ตรวจจากโพรงหลงั จมกู และคอ ไปตรวจหาสาร พนั ธุกรรมของเชือ้ ซง่ึ ใช้เวลาในการตรวจไมน่ านนกั (ไมเ่ กิน 1 วนั ) แตเ่ น่ืองจากมีผ้ปู ่ วยเข้าเกณฑ์สงสยั โรค นีจ้ านวนมาก ผลการตรวจจงึ อาจลา่ ช้าไปบ้าง เม่ือผลตรวจพบวา่ ไมม่ ีเชือ้ ไวรัส ก็จะรักษาตามอาการและ ให้กลบั บ้านไปแยกตวั (isolation) ตอ่ ให้ครบ 14 วนั แตถ่ ้าตรวจพบเชือ้ ไวรัส จะได้รับการรักษาใน รพ. จนอาการดีขนึ ้ และอาจให้ยารักษาไวรัสเฉพาะในบางรายที่อาการมาก (มีปอดอกั เสบ) หรือมีความเส่ียงสงู ตอ่ การเกิดภาวะแทรกซ้อนและการเสียชีวิต (เชน่ อายมุ าก มีโรคประจาตวั กลมุ่ โรคปอด โรคหวั ใจ) จากวธิ ีการแพร่เชือ้ ดงั กลา่ วข้างต้น แนวทางการป้ องกนั รวมถงึ การปฏิบตั ติ นระหวา่ งกกั ตวั มีดงั นี ้ - ล้างมือด้วยนา้ และสบู่ หรือ แอลกอฮอล์เจลเป็นประจา - หลีกเลี่ยงการเอามือมาสมั ผสั บริเวณใบหน้า

ใสห่ น้ากากอนามยั เม่ือต้องไปท่ีที่มีความเส่ียงสงู เชน่ ชมุ ชนท่ีมีผ้คู นหนาแนน่ หรือ โรงพยาบาล กรณี หน้ากากอนามยั ไมเ่ พียงพอ อาจใช้หน้ากากผ้า ที่มีคณุ สมบตั ใิ กล้เคียงหน้ากากอนามยั ได้ เชน่ ผ้ามิสลิน อยา่ งไรก็ตาม กรณีใสห่ น้ากากอนามยั เพราะมีอาการป่ วย ยงั คงแนะนาหน้ากากอนามยั มากกว่าถ้าเป็นไป ได้ เวลาไอจามให้ปิ ดปาก จมกู ด้วยกระดาษชาระและทงิ ้ ทนั ทีในถงุ แล้วปิ ดปากถงุ ให้สนิทมดิ ชิด กรณีไมม่ ี กระดาษชาระ ให้ใช้แขนเสือ้ แทนและรีบไปทาความสะอาดล้างมือทนั ที หยดุ เรียนหรือหยดุ งาน และให้พกั อยกู่ บั บ้าน ในห้องท่ีอากาศถ่ายเทสะดวก รักษาระยะห่างจากคนอื่น เป็นระยะ 1 เมตร ออกนอกบ้านกรณี จาเป็น และรีบกลบั บ้านทนั ทีเมื่อเสร็จธุระ รับประทานอาหารแยกจากผ้อู ่ืน ไมค่ วรรับประทานอาหารใน ร้านอาหาร ควรซือ้ กลบั มาทานท่ีบ้านหรือท่ีพกั และกินอาหารท่ีปรุงสดใหมๆ่ แยกสิง่ ของสว่ นตวั จากผ้อู ่ืน เชน่ จามชาม ช้อนส้อม แก้วนา้ ผ้าเช็ดตวั หลงั เข้าห้องนา้ ให้ปิ ดฝาโถส้วมก่อนกดชกั โครก (เน่ืองจากอาจมี กระจายของเชือ้ ในอจุ จาระได้ ) หลีกเลี่ยงการใช้นวิ ้ มือกบั พืน้ ผวิ ท่ีใช้มือสมั ผสั บอ่ ย ๆ เชน่ ลกู บอดประตู สวติ ช์ไฟ ป่ มุ กดลิฟต์ โดยให้ใช้สว่ นอ่ืนของมือเช่นหลงั มือ หรืออปุ กรณ์อื่น ๆ แทน และทาความสะอาด บอ่ ย ๆด้วยนา้ ยาฆา่ เชือ้ การทาความสะอาดเสือ้ ผ้าใช้ผงซกั ฟอกหรือนา้ ร้อนอณุ หภมู ิ 60-90 องศา เซลเซียส ถ้ามีอาการ ไข้ หรืออาการทางเดนิ หายใจ ให้ไป รพ. โดนรถสว่ นตวั หากเป็นไปได้หลีกเลี่ยงรถ สาธารณะทกุ ประเภท ถ้าจาเป็นต้องไป รพ. ตามนดั เพ่ือรักษาโรคประจาตวั ควรตดิ ตอ่ โรงพยาบาลก่อน เพื่อตรวจสอบนโยบายการพบแพทย์หรือรับยา และถ้าต้องไป รพ. ให้ใสห่ น้ากากอนามยั ไปด้วยทกุ ครัง้

รูเ้ ท่าทัน COVID-19 มหาวทิ ยาลัยราชภัฏอุดรธานี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook