Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอน ภาษามลายู อต4

แผนการสอน ภาษามลายู อต4

Description: แผนการสอน ภาษามลายู อต4

Search

Read the Text Version

แผนการจักการเรียนรู้ วชิ า ภาษามลาย(ู รูม)ี ชัน้ อสิ ลามศึกษาตอนต้น ปี ท๔่ี นายมหู มั มะตอหา สามะ ครูผู้สอน โรงเรยี นบา้ นป่ ามวง สานักงานเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษา ปัตตานีเขต๓

1 การจัดทาโครงสร้างรายวิชา รายวชิ า ย 14801 ภาษามลายู ชน้ั อสิ ลามศึกษาตอนตน้ ปีที 4 เวลาเรียน 40 ช่วั โมงตอ่ ปี หนว่ ย ชอื่ มาตรฐาน/ สาระการเรยี นรู้ สาระสาคัญ/ เวลา นา้ หนกั ช้นิ งาน การ หนว่ ย ตัวชวี้ ัด ความคดิ รวบยอด เรียน ภาระ เรียนรู้ งาน ท่ี 1 ภาษา ย 1 1. คาและประโยค รู้และเขา้ ใจ 18 30 นาเสนอ พา อต 4/1 เกยี่ วกบั อาหาร กระบวนการฟงั 20 ผัง เพลิน 2. ข้อความเกี่ยวกบั พูด อ่าน เขยี น อาหาร ประเภทของคา 3. คาและประโยค วัน ประโยค สาคญั ข้อความ 4. ขอ้ ความเกย่ี วกบั วัน สามารถใชใ้ น สาคัญ ชวี ิตประจาวนั ได้ 5. คาและประโยค เก่ียวกับสถานทท่ี อ่ งเท่ียว 6. ขอ้ ความเก่ยี วกบั สถานที่ 2 คาสรรพ ย 1 1. ความหมายประเภท รู้และเข้าใจ 10 นามน่ารู้ อต 4/2 ของคาสรรพนาม ความหมาย ค 2. สรรพนามบุรษุ ที่ 1 ประเภทของคา ว 3.สรรพนามบุรุษท่ี 2 สรรพนาม า 4.สรรพนามบุรษุ ท่ี 3 สามารถนาไปใช้ใน ม กระบวนการฟงั คิ พูด อ่าน เขียน ด 3 สนทนา ย 1 1.การสนทนา เรือ่ งสวน รู้และเขา้ ใจใน 10 20 สาธติ พาสนุก อต 4/3 สัตวส์ งขลา ประโยคบอกเล่า การ 2. สนทนาโดยใช้ ประโยคคาถาม สนทนา ประโยคบอกเลา่ ประโยคคาส่ัง และ 3.สนทนาโดยใช้ ประโยค ประโยคปฏเิ สธ คาถาม สามารถนาไปใช้ใชี 4.สนทนาโดยใช้ ประโยค วิตประจาวันได้ ปฏเิ สธ 5.สนทนาโดยใช้ ประโยค คาสง่ั ระหวา่ งภาค/ระหว่างปี 38 70 70 ปลายภาค/ปลายปี 2 30 30 รวม 40 100 100

2 กาหนดการจดั ทาแผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชา ย 14801 ภาษามลายู ช้นั อิสลามศึกษาตอนต้นปที ี่ 4 หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 1 เรอ่ื ง ภาษาพาเพลนิ จานวน 18 ชว่ั โมง สมรรถนะสาคญั มคี วามสามารถในการส่ือสาร มีความสามารถในคิด คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ มมี ารยาทแบบอิสลาม รักความสะอาด ภาระงาน/ชิ้นงาน นาเสนอ หน่วย เร่ือง มาตรฐาน/ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้ เวลา ยอ่ ยที่ เรยี น 1.1 คาและประโยค ย.1 อต.4/1 ออกเสียงประโยค 1. คาและประโยค 3 3 เก่ยี วกับอาหาร ขอ้ ความ และบอกความหมายคาศพั ท์ท่ี เกย่ี วกับอาหาร 3 3 กาหนด 3 1.2 อาหารท่ีหะลาล ย.1 อต.4/1 ออกเสยี งประโยค 2 .ข้อความเกี่ยวกับ ในอิสลาม ขอ้ ความ และบอกความหมายคาศพั ท์ อาหาร ทกี่ าหนด 1.3 คาและประโยค ย.1 อต.4/1 ออกเสียงประโยค 3. คาและประโยค เกีย่ วกับวนั ขอ้ ความ และบอกความหมายคาศพั ท์ เก่ยี วกับวนั สาคัญ สาคญั ทก่ี าหนด 1.4 อดี ีลฟติ รแี ห่ง ย.1 อต.4/1 ออกเสยี งประโยค 4. ขอ้ ความเก่ยี วกับการ ความบารอกะห์ ขอ้ ความ และบอกความหมายคาศัพท์ วนั สาคญั ที่กาหนด 1.5 คาและประโยค ย.1 อต.4/1 ออกเสยี งประโยค และ 5. .คาและประโยค เกย่ี วกับสถานที่ บอกความหมายคาศพั ท์ทีก่ าหนด เกยี่ วกบั สถานที่ ทอ่ งเทย่ี ว ท่องเที่ยว 1.6 ความนา่ สนใจ ย.1 อต.4/1 ออกเสยี งประโยค และ 6. ข้อความเกีย่ วกบั 3 ของสวนสัตว์ ข้อความ และบอกความหมายคาศพั ท์ท่ี สถานทีท่ ่องเท่ยี ว 18 สงขลา กาหนด รวม

3 รายวิชา ย 14801 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1 ชนั้ อสิ ลามศกึ ษาตอนต้นปที ่ี 4 หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 1 ภาษามลายู เวลา 18 ชัว่ โมง หนว่ ยการเรียนรยู้ ่อยที่ 1.1 เร่ืองภาษาพาเพลนิ เวลา 3 ชัว่ โมง เร่อื งคาและประโยคเก่ยี วกบั อาหาร 1. สาระสาคญั รูแ้ ละเขา้ ใจกระบวนการฟัง พูด อา่ น เขียน ของคา ประโยค ข้อความ สามารถใช้ในชีวติ ประจาวนั ได้ 2. มาตรฐานการเรียนรู้ ย 1 รู้เข้าใจกระบวนการฟัง พูด อา่ น และเขยี น มีทกั ษะและเห็นคุณค่าในการใชภ้ าษามลายูเพ่ือ เรยี นรู้ ศึกษาค้นคว้าจากแหลง่ วทิ ยาการเกยี่ วกับศาสนาอิสลามและการสอื่ สารอยา่ งสรา้ งสรรค์ 3. ตัวช้วี ัด ย 1 อต 4/1 ออกเสียงประโยค ขอ้ ความ และบอกความหมายคาศัพท์ทก่ี าหนด 4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ อา่ นคาและสร้างประโยคเก่ียวกับอาหารได้ 5. สาระการเรียนรู้ คาและประโยคเกย่ี วกับอาหาร 6. สมรรถนะสาคญั 6.1. ความสามารถในการสอื่ สาร 6.2. .ความสามารถในการคิด 6.3.ความสามารถในการใชอ้ ัลกรุ อาน 7. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 7.1 มีมารยาทแบบอิสลาม 7.2 รกั ความสะอาด 8. การบูรณาการกบั หลกั แนวคิดของเศรษฐกจิ พอเพียง 8.1 ความพอประมาณ นกั เรียนรจู้ ักการออกเสียงและความหมายของคาอย่างเหมาะสม 8.2 ความมเี หตุผล นกั เรยี นร้หู ลกั การเขยี นและสะกดคาไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 8.3 การมภี มู คิ มุ้ กนั ทดี่ ี นกั เรยี นเหน็ ความสาคญั ของการเรียนรถู้ งึ คาและประโยคเกี่ยวกบั อาหาร 8.4 เงอ่ื นไขความรู้ รู้จกั การใช้คาและประโยค ทเี่ กี่ยวขอ้ งกับอาหาร 8.5 เงอ่ื นไขคุณธรรม รกั การอ่านออกเสยี งและเห็นคุณคา่ ของภาษามลายู

4 9. กจิ กรรมการจดั การเรยี นรู้ ชั่วโมงท่ี 1 9.1 นกั เรยี นอ่านดอุ าอกอ่ นเรยี นและซูเราะฮฺ อัล-ฟาติฮะห์พรอ้ มๆกนั 9.2 ใหน้ กั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน 9.3 ครูแจ้งจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ใหก้ บั นกั เรยี น 9.4 ครซู กั ถามนักเรยี นเรอื่ งเกี่ยวกบั อาหารทีน่ ักเรยี นรู้จัก 9.5 ใหน้ ักเรียนแบ่งกล่มุ สนทนาระหวา่ งเพ่อื นเรอ่ื งอาหารหลกั 5 หมู่ ประโยชน์ของอาหาร และโทษ ของการรับประทานอาหารทไ่ี มม่ ีประโยชน์ และจดบนั ทึกคา 9.6 ใหน้ ักเรียนอา่ นคาทบี่ ันทึกไว้และนาคาท่ีบนั ทึกไวไ้ ปสร้างประโยคเก่ียวกบั อาหารหลัก 5 หมู่ 9.7 ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั สรุปคาและประโยคเก่ยี วกับอาหารหลกั 5 หมู่ 9.8 รว่ มกันอ่านดุอาอหฺ ลงั เรียนและสเู ราะฮฺอลั -อสั รี ชวั่ โมงท่ี 2 9.9 นักเรียนอ่านดอุ าอก่อนเรียนและซูเราะฮฺ อลั -ฟาตฮิ ะห์พร้อมๆกนั 9.10 ครูแจกใบความรเู้ ร่ืองอาหารหลัก 5 หมู่ และอธบิ ายเกีย่ วกับอาหารหลัก5 หมู่ ประโยชนข์ อง อาหาร และโทษของการรบั ประทานอาหารท่ไี ม่มปี ระโยชน์ 9.11 นกั เรยี นทาใบงานท่ี 1.1 อาหารหลัก 5 หมู่ ประโยชนแ์ ละโทษของการรับประทานอาหาร 9.12 ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรปุ บทเรยี น 9.13 รว่ มกนั อา่ นดุอาอหฺ ลงั เรียนและสูเราะฮฺอลั -อัสรี ช่วั โมงที่ 3 9.14 นักเรยี นอา่ นดอุ าอกอ่ นเรยี นและซูเราะฮฺ อลั -ฟาติฮะห์พรอ้ มๆกนั 9.15 ครูแบง่ กลมุ่ นกั เรียนใหน้ กั เรยี นร่วมกนั อภปิ รายเก่ียวกบั มารยาทในการรบั ประทานอาหารตาม หลักการอสิ ลาม 9.16 ครูและนกั เรียนรว่ มกนั สรุปบทเรยี น 9.17 ให้นกั เรยี นทาแบบทดสอบหลังเรยี น 9.18 ร่วมกันอ่านดอุ าอฺหลงั เรยี นและสเู ราะฮฺอัล-อสั รี 10. สอื่ อุปกรณ์ และแหล่งการเรยี นรู้ 10.1 แผนภาพอาหารหลัก 5 หมู่ 10.2 ใบความรู้ 11. ชิน้ งาน/ภาระงาน จดบันทกึ คา 12. การวัดและประเมนิ ผล 12.1 วิธีการ ทดสอบก่อนเรียน 12.2 เครื่องมือ แบบทดสอบหลังเรยี น 12.3 เกณฑก์ ารประเมนิ

5 เกณฑ์การประเมนิ พดู รายการประเมิน ระดับคณุ ภาพ ดมี าก (3) ดี (2) ควรปรับปรงุ (1) 1.การออกเสยี ง ออกเสยี งถกู ต้องตาม ออกเสียงคา ประโยค ออกเสียงคา ประโยค หลักการออกเสยี ง ไดถ้ กู ตอ้ ง มีเสียง ผิดหลกั การ ไมเ่ นน้ มเี สยี งเน้นหนกั ในคา เนน้ หนกั ในคา เสียง ทาใหส้ ่ือสาร ประโยคอยา่ งสมบูรณ์ ประโยคเป็นสว่ นใหญ่ ไมไ่ ด้ 2.พดู ตามเรอ่ื งและ พูดได้ตรงตามเร่อื ง พดู เบย่ี งเบนเลก็ น้อย พูดไม่ตรงตาม บทบาท และบทบาทที่ได้รับ จากเนอื้ เร่อื งและ เรอื่ งและบทบาท มอบหมาย บทบาทท่ไี ดร้ บั ที่ไดร้ ับมอบหมาย มอบหมาย 3.ความคล่องแคล่ว พูดต่อเนื่อง ไมต่ ดิ ขัด พูดตะกุกตะกักบา้ ง พดู เปน็ คา ๆ หยดุ เปน็ พูดชดั เจน ทาให้ส่ือสาร ไดด้ ี แตย่ งั พอส่ือสารได้ ชว่ ง ๆ ทาให้สอ่ื สาร 4. ความตรง ทอ่ งตรงประเด็น ไดไ้ ม่ชัดเจน ประเดน็ ทอ่ งค่อนขา้ งตรงประเดน็ ทอ่ งไม่ตรงประเดน็ 5.การแสดงท่าทาง แสดงท่าทางประกอบ พดู โดยไมค่ อ่ ยแสดง พดู เหมอื นอ่าน น้าเสียง และพดู โดยใชน้ า้ เสียง ท่าทางประกอบ ไม่เป็นธรรมชาติ เหมาะสมกบั บทบาท นา้ เสยี งไม่คอ่ ย ยืนน่งิ ๆ ไม่มีท่าทาง และสถานการณ์ เหมาะสมกบั บทบาท ทาใหก้ ารสือ่ สาร และสถานการณ์ ขาดความนา่ สนใจ เกณฑ์การตัดสนิ /ระดบั คณุ ภาพ 10 - 15 ระดบั ดี 6 – 9 ระดบั พอใช้ 1– 5 ระดับ ปรับปรงุ เกณฑก์ ารผา่ น ไดร้ ะดบั “พอใช้” ข้ึนไป

6 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 2 ชน้ั อิสลามศกึ ษาตอนตน้ ปที ่ี 4 รายวิชา ย 14801 ภาษามลายู เวลา 18 ชว่ั โมง หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 เรอ่ื งภาษาพาเพลนิ เวลา 3 ช่ัวโมง หน่วยการเรยี นรยู้ ่อยที่ 1.2 เร่ือง อาหารทีห่ ะลาล 1. สาระสาคญั ร้แู ละเข้าใจกระบวนการฟงั พดู อา่ น เขยี น ของคา ประโยค ขอ้ ความ สามารถใช้ในชีวิต ประจาวันได้ 2. มาตรฐานการเรียนรู้ ย 1 รเู้ ข้าใจกระบวนการฟัง พูด อา่ น และเขยี น มีทกั ษะและเห็นคุณค่าในการใช้ภาษามลายเู พื่อการ เรียนรู้ ศึกษาคน้ คว้าจากแหล่งวิทยาการเกยี่ วกับศาสนาอสิ ลามและการสอื่ สารอยา่ งสรา้ งสรรค์ 3. ตวั ช้วี ัด ย 1 อต 4/1 ออกเสยี งประโยค ข้อความ และบอกความหมายคาศพั ท์ทก่ี าหนด 4. จุดประสงค์การเรยี นรู้ อา่ นคาและสรา้ งประโยคเกี่ยวกับอาหารท่หี ะลาลได้ 5. สาระการเรยี นรู้ คาและประโยคเกีย่ วกับอาหารท่ีหะลาล 6. สมรรถนะสาคญั 6.1. มคี วามสามารถในการสื่อสาร 6.2. มคี วามสามารถในการคิด 7. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 7.1.มีมารยาทแบบอสิ ลาม 7.2.รักความสะอาด 8. การบูรณาการกับหลักแนวคดิ ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 8.1 ความพอประมาณ นักเรียนรู้จกั การออกเสยี งและความหมายของคาอยา่ งเหมาะสม 8.2 ความมีเหตุผล นักเรียนรหู้ ลักการเขียนและสะกดคาไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 8.3 การมภี มู คิ ้มุ กนั ท่ดี ี นักเรยี นเหน็ ความสาคญั ของการเรียนรู้ถงึ คาและประโยคเกีย่ วกับอาหารหะลาล 8.4 เง่ือนไขความรู้ ร้จู กั การใช้คาและประโยค ทเี่ กี่ยวขอ้ งกับอาหารหะลาล 8.5 เงอื่ นไขคุณธรรม รักการอ่านออกเสียงและเหน็ คณุ ค่าของภาษามลายู 9. กิจกรรมการจดั การเรียนรู้

7 ชว่ั โมงท่ี 1 9.1 นกั เรียนอา่ นดอุ าอกอ่ นเรียนและซูเราะฮฺ อลั -ฟาติฮะห์พร้อมๆกัน 9.2 ใหน้ ักเรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรยี น 9.3 ครูแจ้งจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ใหก้ บั นักเรียน 9.4 ครูซักถามนักเรยี นเร่ืองอาหารทหี่ ะลาลที่นกั เรียนรจู้ กั 9.5 ครใู ห้นักเรยี นออกเสียงประโยค ขอ้ ความ เร่ืองอาหารท่หี ะลาลที่นักเรยี นรจู้ ัก 9.6 ให้นักเรียนแบ่งกลุม่ สนทนาระหว่างเพื่อนเรอ่ื งอาหารที่หะลาลในอิสลาม และจดบันทึก 9.7 ใหน้ ักเรียนอ่านคาทบ่ี นั ทกึ ไว้และนาเสนอ 9.8 ครูและนกั เรยี นร่วมกันสรุปคา ขอ้ ความ และประโยคเกี่ยวกับอาหารท่หี ะลาล 9.9 ร่วมกนั อา่ นดอุ าอหฺ ลงั เรยี นและสเู ราะฮฺอัล-อสั รี ชว่ั โมงที่ 2 9.10 นักเรียนอา่ นดุอาอก่อนเรยี นและซูเราะฮฺ อัล-ฟาติฮะห์พรอ้ มๆกนั 9.11 ครูแจกใบความรเู้ รื่องอาหารท่ีหะลาลในอิสลามให้กบั นกั เรียน พรอ้ มอธิบายเกย่ี วกบั อาหารที่หะลาล 9.12 นกั เรียนทาใบงานที่กาหนด 9.13ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ บทเรยี น 9.14รว่ มกันอ่านดอุ าอฺหลังเรยี นและสูเราะฮอฺ ัล-อสั รี ช่ัวโมงท่ี 3 9.15 นักเรียนอ่านดอุ าอก่อนเรยี นและซูเราะฮฺ อัล-ฟาตฮิ ะห์พร้อมๆกัน 9.16 ครูใหน้ ักเรยี นสรปุ เร่ืองอาหารที่หะลาลในอิสลามโดยเปน็ รายบคุ คล พรอ้ มนาเสนอ 9.17 ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรุปบทเรยี น 9.19 ร่วมกนั อ่านดุอาอฺหลงั เรยี นและสเู ราะฮฺอัล-อสั รี 10. สื่อ อุปกรณ์ และแหลง่ การเรียนรู้ แผนภาพอาหารหะลาล 11. ชนิ้ งาน/ภาระงาน 11.1 จดบันทึกคา 11.2 นาเสนอ 12. การวัดและประเมินผล 12.1 วิธีการ ทดสอบกอ่ นเรียน ทดสอบหลงั เรียน 12.2 เครอ่ื งมือ แบบทดสอบหลงั เรียน 12.3 เกณฑ์การประเมนิ

8 เกณฑ์การประเมินการพดู รายการประเมนิ ระดับคณุ ภาพ ดีมาก (3) ดี (2) ควรปรับปรงุ (1) 1.การออกเสียง ออกเสยี งถกู ต้องตาม ออกเสียงคา ประโยค ออกเสียงคา ประโยค หลกั การออกเสยี ง ไดถ้ กู ตอ้ ง มีเสียง ผิดหลกั การ ไมเ่ นน้ มเี สยี งเนน้ หนักในคา เนน้ หนกั ในคา เสียง ทาใหส้ ่ือสาร ประโยคอย่างสมบูรณ์ ประโยคเป็นสว่ นใหญ่ ไมไ่ ด้ 2.พดู ตามเร่อื งและ พูดไดต้ รงตามเรื่อง พดู เบย่ี งเบนเลก็ น้อย พูดไม่ตรงตาม บทบาท และบทบาททีไ่ ด้รับ จากเนอื้ เร่อื งและ เรอื่ งและบทบาท มอบหมาย บทบาทท่ไี ดร้ บั ที่ไดร้ ับมอบหมาย มอบหมาย 3.ความคล่องแคลว่ พูดต่อเนื่อง ไมต่ ดิ ขดั พูดตะกุกตะกักบา้ ง พดู เปน็ คา ๆ หยดุ เปน็ พูดชัดเจน ทาให้สอ่ื สาร ไดด้ ี แตย่ งั พอส่ือสารได้ ชว่ ง ๆ ทาให้สอ่ื สาร 4. ความตรง ท่องตรงประเด็น ไดไ้ ม่ชัดเจน ประเด็น ทอ่ งค่อนขา้ งตรงประเดน็ ทอ่ งไม่ตรงประเดน็ 5.การแสดงทา่ ทาง แสดงท่าทางประกอบ พดู โดยไมค่ อ่ ยแสดง พดู เหมอื นอ่าน นา้ เสยี ง และพดู โดยใช้น้าเสียง ท่าทางประกอบ ไม่เป็นธรรมชาติ เหมาะสมกบั บทบาท นา้ เสยี งไม่คอ่ ย ยืนน่งิ ๆ ไม่มีท่าทาง และสถานการณ์ เหมาะสมกบั บทบาท ทาใหก้ ารสือ่ สาร และสถานการณ์ ขาดความนา่ สนใจ เกณฑ์การตัดสิน/ระดับคณุ ภาพ 10 - 15 ระดับ ดี 6 – 9 ระดับ พอใช้ 1– 5 ระดบั ปรบั ปรุง เกณฑ์การผ่าน ได้ระดับ “พอใช้” ขึ้นไป

9 รายวิชา ย 14801 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 3 ช้ันอิสลามศกึ ษาตอนต้นปที ี่ 4 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 ภาษามลายู เวลา 18 ชวั่ โมง หน่วยการเรียนร้ยู ่อยท่ี 1.3 เรอ่ื งภาษาพาเพลิน เวลา 3 ช่วั โมง. เรอื่ ง คาและประโยคเก่ยี วกับวันสาคญั 1. สาระสาคัญ รูแ้ ละเข้าใจกระบวนการฟงั พดู อา่ น เขยี น ของคา ประโยค ข้อความ สามารถใช้ในชีวติ ประจาวันได้ 2. มาตรฐานการเรียนรู้ ย 1 รเู้ ข้าใจกระบวนการฟัง พดู อา่ น และเขยี น มีทักษะและเหน็ คณุ ค่าในการใช้ภาษามลายเู พ่อื การ เรยี นรู้ ศกึ ษาค้นควา้ จากแหล่งวทิ ยาการเกีย่ วกบั ศาสนาอสิ ลามและการส่อื สารอย่างสรา้ งสรรค์ 3. ตัวชีว้ ัด ย 1 อต 4/1 ออกเสียงประโยค ข้อความ และบอกความหมายคาศพั ท์ทก่ี าหนด 4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ อา่ นคาและสรา้ งประโยคเกี่ยวกับวนั สาคญั ได้ 5. สาระการเรียนรู้ คาและประโยคเกีย่ วกับวนั สาคัญ 6. สมรรถนะสาคัญ 6.1 มคี วามสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต 6.2 มีความสามารถในการแกป้ ญั หา 7. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 7.1 มีมารยาทแบบอิสลาม 7.2 รักความสะอาด 8. การบูรณาการกบั หลกั แนวคดิ ของเศรษฐกิจพอเพยี ง 8.1 ความพอประมาณ นักเรียนรู้จกั การออกเสียงและความหมายของคาอย่างเหมาะสม 8.2 ความมีเหตุผล นักเรยี นรหู้ ลักการเขียนและสะกดคาไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 8.3 การมภี ูมิค้มุ กันทดี่ ี นกั เรียนเห็นความสาคัญของการเรยี นรู้ถึงคาและประโยคเกี่ยวกับวันสาคญั 8.4 เงอ่ื นไขความรู้ รูจ้ ักการใช้คาและประโยค ท่เี ก่ยี วข้องกับวนั สาคัญ 8.5 เงอื่ นไขคุณธรรม รักการอ่านออกเสียงและเหน็ คุณคา่ ของภาษามลายู

10 9. กิจกรรมการจดั การเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 9.1 นกั เรียนอ่านดุอาอกอ่ นเรียนและซูเราะฮฺ อลั -ฟาติฮะห์พรอ้ มๆกัน 9.2 ให้นกั เรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรยี น 9.3 ครแู จง้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 9.4 ครูซักถามนกั เรียนเรอ่ื งวนั สาคญั ทางศาสนาท่ีนกั เรียนรู้จัก 9.5 ใหน้ ักเรยี นแบ่งกลมุ่ สนทนาระหวา่ งเพอ่ื นเรื่องวนั สาคัญทางศาสนาและจดบนั ทึกคา 9.6 ใหน้ กั เรยี นอา่ นคาที่บนั ทกึ ไว้และนาคาที่บันทึกไว้ไปสรา้ งประโยคเกีย่ วกับวนั สาคญั ทางศาสนา อิสลาม 9.7 ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันสรปุ คาและประโยคเก่ียวกับวันสาคญั ทางศาสนาอิสลาม 9.8 รว่ มกันอ่านดุอาอหฺ ลังเรียนและสเู ราะฮฺอลั -อสั รี ชัว่ โมงท่ี 2 9.9 นกั เรียนอ่านดุอาอก่อนเรียนและซูเราะฮฺ อัล-ฟาติฮะห์พรอ้ มๆกนั 9.10 ครูแบ่งนักเรยี นเปน็ กลมุ่ ใหน้ ักเรยี นไปสบื คน้ ขอ้ มูลเรื่องประวัติความเปน็ มาวนั สาคัญวันฮารรี ายอ และใหน้ กั เรยี นส่งตวั แทนออกมานาเสนอ 9.11 ครแู จกใบงานให้นักเรยี นทาใบงานเรื่องประวตั ิความเปน็ มาวันสาคัญวันฮารรี ายอ 9.12 ครูและนกั เรยี นรว่ มกันสรปุ บทเรียน 9.13 ร่วมกันอ่านดุอาอฺหลังเรยี นและสเู ราะฮอฺ ลั -อสั รี ชั่วโมงท่ี 3 9.14 นกั เรียนอา่ นดุอาอกอ่ นเรียนและซเู ราะฮฺ อัล-ฟาตฮิ ะห์พร้อมๆกัน 9.15 ครูแบง่ กลมุ่ นกั เรียนให้นักเรยี นร่วมกนั อภิปรายเกีย่ วกับหลกั การปฏบิ ัตใิ นวนั สาคัญวันฮารีรายอ 9.16 ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปบทเรียน 9.17 ใหน้ ักเรียนทาแบบทดสอบหลังเรยี น 9.18 รว่ มกนั อา่ นดอุ าอหฺ ลังเรียนและสเู ราะฮฺอัล-อัสรี 10. สือ่ อปุ กรณ์ และแหล่งการเรยี นรู้ ส่อื อินเตอร์เนต็ 11. ชนิ้ งาน/ภาระงาน 11.1 จดบนั ทกึ คา 11.2 ใบงาน 11. การวัดและประเมินผล 12.1 วิธกี าร ทดสอบกอ่ นเรยี น ทดสอบหลงั เรียน 12.2 เคร่อื งมอื แบบทดสอบหลังเรยี น

11 12.3 เกณฑก์ ารประเมนิ ประเดน็ การประเมนิ แบบประเมินความรู้ ความเข้าใจ รวม ผ่าน ไม่ เกณฑ์การประเมนิ ตอบได้ ตอบได้ ตอบได้ ตอบได้ ตอบได้ คะแนน ผ่าน ระดบั คะแนน ถูกต้อง ถูกต้อง ถูกต้อง ถกู ตอ้ ง ถกู ตอ้ ง 5 ขอ้ 4 ขอ้ 3 ขอ้ 2 ขอ้ 1 ข้อ สรุป ได้ 3 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์การประเมิน 5 432 1

12 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 4 ชน้ั อิสลามศึกษาตอนตน้ ปีท่ี 4 รายวชิ า ย 14801 ภาษามลายู เวลา 18 ชัว่ โมง หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 เร่อื งภาษาพาเพลนิ เวลา 3 ชว่ั โมง หน่วยการเรียนร้ยู ่อยที่ 1.4 เร่ือง อดี ีลฟิตรแี ห่งความบารอกะห์ 1. สาระสาคัญ รแู้ ละเข้าใจกระบวนการฟงั พดู อ่าน เขยี น ประเภทของคา ประโยค ข้อความ สามารถใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ได้ 2. มาตรฐานการเรียนรู้ ย 1 รเู้ ข้าใจกระบวนการฟัง พูด อ่าน และเขยี น มที ักษะและเหน็ คุณค่าในการใช้ภาษามลายเู พือ่ การ เรยี นรู้ ศกึ ษาค้นควา้ จากแหล่งวทิ ยาการเกย่ี วกับศาสนาอสิ ลามและการส่อื สารอย่างสรา้ งสรรค์ 3. ตัวช้ีวัด ย 1 อต 4/1 ออกเสยี งประโยค ขอ้ ความ และบอกความหมายคาศัพท์ทีก่ าหนด 4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ อา่ นคาและสรา้ งประโยคเกีย่ วกับอีดีลฟติ รแี หง่ ความบารอกะห์ได้ 5. สาระการเรยี นรู้ คาและประโยคเกีย่ วกับอีดีลฟติ รแี หง่ ความบารอกะห์ 6. สมรรถนะสาคัญ 6.1. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ 6.2 ความสามารถในการคิด 7. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 7.1 มมี ารยาทแบบอสิ ลาม 7.2 รกั ความสะอาด 8. การบรู ณาการกับหลักแนวคดิ ของเศรษฐกิจพอเพยี ง 8.1 ความพอประมาณ นักเรยี นรจู้ ักการออกเสียงและความหมายของคาอยา่ งเหมาะสม 8.2 ความมีเหตุผล นกั เรยี นรหู้ ลักการเขียนและสะกดคาไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง 8.3 การมีภูมคิ มุ้ กันที่ดี นักเรียนเห็นความสาคัญของการเรียนรู้ถงึ คาและประโยคเกย่ี วกับวันอีดีลฟิตรี 8.4 เง่ือนไขความรู้ รู้จกั การใชค้ าและประโยค ทีเ่ กยี่ วขอ้ งกับวนั อดี ีลฟติ รี 8.5 เง่ือนไขคณุ ธรรม รกั การอา่ นออกเสียงและเห็นคุณคา่ ของภาษามลายู

13 9. กจิ กรรมการจดั การเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 9.1 นกั เรียนอ่านดุอาอกอ่ นเรียนและซเู ราะฮฺ อัล-ฟาตฮิ ะห์พรอ้ มๆกัน 9.2 ใหน้ ักเรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน 9.3 ครูแจ้งจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 9.4 ครูใหน้ ักเรยี นออกเสยี งคาอีดีลฟติ รีแห่งความบารอกะห์ และบอกความหมายคาศัพท์ 9.5 ใหน้ กั เรียนแบ่งกลมุ่ สนทนาระหว่างเพอื่ นเรอื่ งอีดลี ฟติ รีแหง่ ความบารอกะห์และจดบันทึกคา 9.6 ใหน้ ักเรียนอ่านคาท่ีบันทึกไว้และนาคาที่บันทึกไว้ไปสร้างประโยค 9.7 ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันสรุปคาและประโยคเกย่ี วกบั อีดลี ฟิตรีแห่งความบารอกะห์ 9.8 รว่ มกันอา่ นดุอาอหฺ ลังเรียนและสเู ราะฮฺอัล-อัสรี ชวั่ โมงท่ี 2 9.9 นกั เรยี นอา่ นดุอาอกอ่ นเรียนและซเู ราะฮฺ อัล-ฟาติฮะห์พร้อมๆกนั 9.10 ครูแบ่งนกั เรยี นเป็นกล่มุ ให้นักเรยี นไปสืบค้นขอ้ มูลอีดลี ฟติ รแี หง่ ความบารอกะห์ 9.11 ครูแจกใบงานให้นักเรียนทาใบงานเร่อื งอดี ลี ฟิตรแี หง่ ความบารอกะห์ 9.12 ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ บทเรียน 9.13 รว่ มกันอ่านดุอาอหฺ ลงั เรียนและสูเราะฮอฺ ัล-อสั รี ชั่วโมงที่ 3 9.14 นักเรยี นอา่ นดอุ าอก่อนเรยี นและซเู ราะฮฺ อัล-ฟาติฮะห์พร้อมๆกัน 9.15 ครแู บ่งกลุม่ นกั เรยี นให้นักเรียนร่วมกนั อภิปรายเกี่ยวกับหลกั การปฏิบัติในวันสาคัญอดี ีลฟิตรีแหง่ ความบารอกะห์ 8.16 ครูและนกั เรยี นรว่ มกันสรปุ บทเรียน 9.17 ให้นักเรยี นทาแบบทดสอบหลังเรียน 9.18 รว่ มกนั อ่านดุอาอฺหลังเรียนและสเู ราะฮฺอลั -อัสรี 10. สือ่ อุปกรณ์ และแหลง่ การเรียนรู้ ใบความรู้ 11. ชิน้ งาน/ภาระงาน จดบันทกึ คา 12. การวัดและประเมินผล 12.1 วิธกี าร - ทดสอบก่อนเรียน - ทดสอบหลังเรียน 12.2 เคร่ืองมือ - แบบทดสอบหลังเรยี น 12.3 เกณฑ์การประเมิน

14 เกณฑก์ ารประเมนิ การพูด รายการประเมิน ระดบั คุณภาพ 1.การออกเสียง ดีมาก (3) ดี (2) ควรปรบั ปรงุ (1) 2.พดู ตามเร่อื งและ บทบาท ออกเสียงถกู ตอ้ งตาม ออกเสยี งคา ประโยค ออกเสียงคา ประโยค หลกั การออกเสยี ง ได้ถกู ตอ้ ง มีเสียง ผิดหลกั การ ไม่เนน้ 3.ความคลอ่ งแคลว่ มีเสียงเนน้ หนกั ในคา เนน้ หนกั ในคา เสียง ทาให้ส่ือสาร ประโยคอยา่ งสมบูรณ์ ประโยคเปน็ สว่ นใหญ่ ไม่ได้ 4. ความตรง พูดไดต้ รงตามเร่ือง พูดเบ่ยี งเบนเล็กนอ้ ย พดู ไม่ตรงตาม ประเด็น และบทบาทท่ไี ดร้ บั จากเน้ือเรือ่ งและ เรอ่ื งและบทบาท มอบหมาย บทบาททไ่ี ด้รบั ท่ไี ดร้ บั มอบหมาย มอบหมาย พูดตอ่ เนอื่ ง ไมต่ ดิ ขดั พูดตะกุกตะกักบ้าง พูดเป็นคา ๆ หยดุ เปน็ พดู ชัดเจน ทาให้สอื่ สาร แตย่ งั พอสือ่ สารได้ ชว่ ง ๆ ทาให้ส่อื สาร ได้ดี ได้ไมช่ ัดเจน ทอ่ งตรงประเดน็ ทอ่ งค่อนข้างตรงประเดน็ ท่องไมต่ รงประเดน็ 5.การแสดงท่าทาง แสดงท่าทางประกอบ พูดโดยไมค่ อ่ ยแสดง พดู เหมือนอ่าน น้าเสียง และพูดโดยใชน้ ้าเสียง ท่าทางประกอบ ไมเ่ ปน็ ธรรมชาติ เหมาะสมกับบทบาท น้าเสยี งไม่ค่อย ยนื นิง่ ๆ ไม่มที ่าทาง และสถานการณ์ เหมาะสมกับบทบาท ทาใหก้ ารสื่อสาร และสถานการณ์ ขาดความนา่ สนใจ เกณฑ์การตัดสิน/ระดับคณุ ภาพ 10 - 15 ระดบั ดี 6 – 9 ระดบั พอใช้ 1– 5 ระดับ ปรบั ปรุง เกณฑก์ ารผ่าน ไดร้ ะดบั “พอใช้” ข้ึนไป

15 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 5 รายวิชา ย 14801 ภาษามลายู ช้ันอสิ ลามศกึ ษาตอนต้นปีที่ 4 หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 1 เรอื่ งภาษาพาเพลนิ เวลา 18 ชวั่ โมง หนว่ ยการเรยี นรู้ย่อยท่ี 1.5 เร่ือง คาและประโยคเก่ยี วกับสถานที่ทอ่ งเที่ยว เวลา 3 ชวั่ โมง 1. สาระสาคญั รแู้ ละเข้าใจกระบวนการฟัง พูด อา่ น เขียน ประโยค ขอ้ ความ สามารถใชใ้ นชีวิตประจาวนั ได้ ประจาวันได้ 2. มาตรฐานการเรยี นรู้ ย 1 รูเ้ ขา้ ใจกระบวนการฟงั พูด อ่าน และเขียน มที ักษะและเห็นคุณค่าในการใชภ้ าษามลายูเพื่อการ เรียนรู้ ศกึ ษาค้นควา้ จากแหลง่ วิทยาการเกยี่ วกบั ศาสนาอสิ ลามและการสอ่ื สารอย่างสร้างสรรค์ 3. ตวั ชี้วัด ย 1 อต 4/1 ออกเสียงประโยค ขอ้ ความ และบอกความหมายคาศพั ท์ที่กาหนด 4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ อ่านประโยค ขอ้ ความเกี่ยวกบั สถานท่ีทอ่ งเทีย่ ว 5. สาระการเรยี นรู้ ประโยค และขอ้ ความเกี่ยวกบั สถานท่ีทอ่ งเทีย่ ว 6. สมรรถนะสาคัญ 6.1. มคี วามสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ 6.2. มีความสามารถในการส่ือสาร 7. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 7.1 มมี ารยาทแบบอิสลาม 7.2 รกั ความสะอาด 8. การบูรณาการกบั หลักแนวคดิ ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 8.1 ความพอประมาณ นักเรียนรู้จักการออกเสยี งและความหมายของคาอย่างเหมาะสม 8.2 ความมเี หตุผล นักเรยี นรูห้ ลักการเขยี นและสะกดคาไดอ้ ย่างถูกต้อง 8.3 การมีภมู ิคุ้มกนั ท่ดี ี นักเรยี นเห็นความสาคญั ของการเรียนรถู้ ึงคาและประโยคเกีย่ วกับสถานทที่ อ่ งเที่ยว 8.4 เงอ่ื นไขความรู้ ร้จู กั การใชค้ าและประโยค ท่เี กีย่ วข้องกบั สถานที่ทอ่ งเท่ยี ว 8.5 เงอื่ นไขคุณธรรม รกั การอ่านออกเสียงและเหน็ คณุ คา่ ของภาษามลายู

16 9. กจิ กรรมการจัดการเรยี นรู้ ชั่วโมงที่ 1 9.1 นักเรียนอ่านดุอาอก่อนเรียนและซูเราะฮฺ อลั -ฟาตฮิ ะห์พรอ้ มๆกัน 9.2 ใหน้ ักเรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรียน 9.3 ครูแจ้งจุดประสงค์การเรยี นรู้ใหก้ ับนักเรยี น 9.4 ครซู ักถามนกั เรยี นเร่อื งสถานท่ีทอ่ งเทยี่ วท่ีนักเรยี นรู้จกั 9.5 ให้นกั เรียนแบ่งกลุ่มสนทนาระหวา่ งเพื่อนเรอื่ งสถานที่ทอ่ งเท่ียวและจดบนั ทกึ คา 9.6 ใหน้ ักเรยี นอ่านคาทบี่ นั ทกึ ไว้และนาคาท่ีบันทึกไว้ไปสร้างประโยคเก่ียวกับส ถานทที่ ่องเทย่ี วทนี่ ักเรียนรจู้ กั 9.7 ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั สรุปประโยคเก่ียวกับสถานทที่ อ่ งเทย่ี ว 9.8 รว่ มกันอา่ นดอุ าอฺหลังเรยี นและสเู ราะฮอฺ ัล-อสั รี ช่ัวโมงที่ 2 9.9 นักเรียนอ่านดุอาอกอ่ นเรียนและซเู ราะฮฺ อลั -ฟาติฮะห์พร้อมๆกัน 9.10 ครูแบง่ นักเรียนเป็นกลุ่มให้นักเรยี นไปสบื คน้ ข้อมูลเก่ยี วกบั สถานท่ีท่องท่ึยวท่ีสาคญั ในสาม จังหวัดชายแดนภาคใต้ และให้นักเรยี นสง่ ตัวแทนออกมานาเสนอ 9.11 ครูแจกใบงานให้นักเรยี นทาใบงานท่ีกาหนด 9.12 ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรปุ บทเรยี น 9.13 รว่ มกันอ่านดอุ าอฺหลงั เรยี นและสเู ราะฮฺอลั -อัสรี ชั่วโมงท่ี 3 9.14 นกั เรยี นอ่านดุอาอก่อนเรยี นและซเู ราะฮฺ อลั -ฟาตฮิ ะห์พร้อมๆกัน 9.15 ครูให้นักเรียนเขยี นเรยี งความเรือ่ งสถานทท่ี ่องเท่ียวที่นกั เรยี นประทบั ใจโดยเขยี นเป็นรายบคุ คล 9.16 ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรปุ บทเรียน 9.17 ให้นักเรยี นทาแบบทดสอบหลังเรียน 9.18 รว่ มกนั อ่านดุอาอหฺ ลังเรยี นและสูเราะฮอฺ ลั -อสั รี 10. สื่อ อุปกรณ์ และแหล่งการเรียนรู้ 10.1 ใบความรู้ 10.2 แผนภาพ 11. ช้ินงาน/ภาระงาน การเขยี นเรียงความ 12. การวัดและประเมนิ ผล 12.1 วธิ กี าร ทดสอบก่อนเรยี น 12.2 เคร่ืองมอื แบบทดสอบหลังเรียน

17 12.3 เกณฑ์การประเมิน แบบประเมนิ ความรู้ ความเข้าใจ ประเด็นการประเมิน ตอบได้ ตอบได้ ตอบได้ ตอบได้ ตอบได้ รวม ผ่าน ไม่ ถูกตอ้ ง ถกู ตอ้ ง ถูกต้อง ถกู ตอ้ ง ถกู ตอ้ ง คะแนน ผ่าน 5 ข้อ 4 ขอ้ 3 ขอ้ 2 ข้อ 1 ข้อ เกณฑก์ ารประเมิน ได้ 3 ขน้ึ ไป ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน สรุป ระดบั คะแนน 10 8 6 4 2

18 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 6 ช้ันอสิ ลามศึกษาตอนตน้ ปที ่ี 4 รายวิชา ย 14801 ภาษามลายู เวลา 18 ชัว่ โมง หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เรอื่ งภาษาพาเพลนิ หน่วยการเรียนรยู้ ่อยที่ 1.6 เร่ืองความน่าสนใจของสวนสตั ว์สงขลา เวลา 3 ชว่ั โมง 1. สาระสาคัญ ร้แู ละเข้าใจกระบวนการฟงั พูด อ่าน เขียน ประโยค ข้อความ สามารถใชใ้ นชวี ิต ประจาวนั ได้ 2. มาตรฐานการเรียนรู้ ย 1 รูเ้ ขา้ ใจกระบวนการฟัง พดู อา่ น และเขยี น มที กั ษะและเหน็ คุณค่าในการใชภ้ าษามลายเู พอ่ื การ เรียนรู้ ศึกษาคน้ ควา้ จากแหล่งวิทยาการเกี่ยวกับศาสนาอสิ ลามและการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ 3. ตัวชีว้ ัด ย 1 อต 4/1 ออกเสียงประโยค ขอ้ ความ และบอกความหมายคาศพั ท์ที่กาหนด 4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ อา่ นประโยคและข้อความเก่ยี วกับความนา่ สนใจของสวนสัตวส์ งขลา 5. สาระการเรียนรู้ ความน่าสนใจของสวนสัตว์สงขลา 6. สมรรถนะสาคัญ 6.1. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 6.2. ความสามารถในการสือ่ สาร 6.3. ความสามารถในการคิด 7. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 7.1 มีมารยาทแบบอสิ ลาม 7.2 รกั ความสะอาด 8. การบรู ณาการกับหลักแนวคดิ ของเศรษฐกิจพอเพยี ง 8.1 ความพอประมาณ นักเรยี นรู้จักการออกเสียงและความหมายของคาอยา่ งเหมาะสม 8.2 ความมเี หตุผล นกั เรียนรหู้ ลกั การเขยี นและสะกดคาไดอ้ ย่างถกู ต้อง 8.3 การมภี ูมิคมุ้ กันที่ดี นักเรยี นเห็นความสาคญั ของการเรียนรถู้ งึ คาและประโยคเก่ยี วกับสวนสัตว์สงขลา 8.4 เง่ือนไขความรู้ ร้จู ักการใช้คาและประโยค ทเ่ี กยี่ วขอ้ งกับสวนสัตว์สงขลา 8.5 เงือ่ นไขคณุ ธรรม รักการอา่ นออกเสียงและเห็นคุณคา่ ของภาษามลายู

19 9. กจิ กรรมการจดั การเรยี นรู้ ชั่วโมงที่ 1 9.1 นกั เรียนอา่ นดอุ าอก่อนเรียนและซูเราะฮฺ อลั -ฟาติฮะห์พร้อมๆกนั 9.2 ครูให้นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน 9.3 ครแู จ้งจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ใหก้ ับนักเรยี น 9.4 ครูใหน้ กั เรยี นออกเสียงคาศัพท์ และข้อความท่กี าหนด 9.5 ครูให้นกั เรียนแบง่ กลุ่มสนทนาระหว่างเพ่อื นเร่ืองความน่าสนใจของสวนสตั วส์ งขลาและ จดบนั ทึกคา 9.6 ใหน้ กั เรียนอา่ นคาที่บนั ทึกไว้และนามาเขียน 9.7 ครแู ละนักเรียนร่วมกนั สรุปคาเก่ียวกับความน่าสนใจของสวนสัตว์สงขลา 9.8 รว่ มกนั อา่ นดอุ าอฺหลังเรยี นและสูเราะฮฺอลั -อัสรี ชั่วโมงที่ 2 9.9 นักเรยี นอ่านดอุ าอก่อนเรยี นและซูเราะฮฺ อัล-ฟาติฮะห์พรอ้ มๆกัน 9.10 ครูแบง่ นักเรียนเป็นกลุม่ ให้นกั เรียนไปสืบคน้ ข้อมลู และเรอ่ื งราวเกยี่ วกบั ความน่าสนใจของสวน สัตวส์ งขลา และใหน้ ักเรียนส่งตวั แทนออกมานาเสนอ 9.11 ครแู จกใบงานให้นักเรียนทาใบงานทก่ี าหนด 9.12 ครแู ละนักเรียนร่วมกนั สรปุ บทเรยี น 9.13 รว่ มกนั อา่ นดุอาอฺหลังเรยี นและสเู ราะฮอฺ ลั -อสั รี ชัว่ โมงท่ี 3 9.14 นักเรยี นอา่ นดอุ าอกอ่ นเรียนและซเู ราะฮฺ อลั -ฟาติฮะห์พร้อมๆกัน 9.15 ครใู ห้นักเรยี นแต่งประโยคจดุ เด่นของสวนสัตวส์ งขลาเป็นรายบุคคล พร้อมนาเสนอ 9.16 ครแู ละนักเรียนรว่ มกันสรปุ บทเรยี น 9.17 ใหน้ กั เรยี นทาแบบทดสอบหลังเรียน 9.18 รว่ มกันอา่ นดุอาอหฺ ลังเรยี นและสเู ราะฮอฺ ัล-อสั รี 10. ส่อื อุปกรณ์ และแหล่งการเรยี นรู้ ใบความรู้ 11. ช้ินงาน/ภาระงาน จดบนั ทึกคา 12. การวัดและประเมนิ ผล 12.1 วิธีการ ทดสอบก่อนเรยี น ทดสอบหลงั เรยี น 12.2 เครื่องมอื แบบทดสอบหลังเรยี น

20 12.3 เกณฑ์การประเมนิ ประเด็นการประเมนิ แบบประเมนิ ความรู้ ความเข้าใจ รวม ผ่าน ไม่ ตอบได้ ตอบได้ ตอบได้ ตอบได้ ตอบได้ เกณฑก์ ารประเมิน ถกู ตอ้ ง ถกู ตอ้ ง ถูกต้อง ถกู ตอ้ ง ถกู ตอ้ ง คะแนน ผ่าน ระดบั คะแนน 5 ข้อ 4 ขอ้ 3 ขอ้ 2 ข้อ 1 ข้อ สรุป ได้ 3 ขน้ึ ไป ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน 10 8 6 4 2

21 กาหนดการจัดทาแผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ า ย 14801 ภาษามลายู ชั้นอสิ ลามศึกษาตอนต้นปที ่ี 4 หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 2 เรื่องคาสรรพนามน่ารู้ จานวน 10 ชว่ั โมง สมรรถนะสาคัญ มคี วามสามารถในการส่ือสาร มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ มมี ารยาทแบบอิสลาม มีความรบั ผิดชอบ ภาระงาน/ช้นิ งาน ผงั ความคิด หนว่ ย ชือ่ เร่อื ง มาตรฐาน/ตัวชี้วดั สาระการเรยี นรู้ เวลา ย่อยท่ี เรยี น 2.1 ความหมาย ประเภท ย.1 อต.4/2 อา่ นและเขยี นประโยคที่ ความหมาย ประเภท 3 ของคาสรรพนาม ใชค้ าสรรพนามและข้อความที่กาหนด ของคาสรรพนาม 2.2 สรรพนามบุรุษท่ี 1 ย.1 อต.4/2 อ่านและเขียนประโยคที่ คาสรรพนามบุรษุ ท่ี 1 3 ใชค้ าสรรพนามและขอ้ ความทีก่ าหนด 2.3 สรรพนามบุรุษท่ี 2 ย.1 อต.4/2 อ่านและเขียนประโยคที่ คาสรรพนามบุรษุ ที่ 2 2 ใชค้ าสรรพนามและข้อความท่กี าหนด 2.4 สรรพนามบรุ ษุ ท่ี 3 ย.1 อต.4/2 อา่ นและเขยี นประโยคท่ี คาสรรพนามบุรุษที่ 3 2 ใชค้ าสรรพนามและข้อความที่กาหนด รวม 10

22 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 7 ชน้ั อสิ ลามศึกษาตอนต้นปที ี่ 4 รายวชิ า ย 14801 ภาษามลายู เวลา 10 ช่ัวโมง หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 เรอ่ื ง คาสรรพนามน่ารู้ หน่วยการเรยี นร้ยู อ่ ยที่ 2.1 เร่ือง ความหมาย ประเภทของคาสรรพนาม เวลา 3 ชวั่ โมง 1.สาระสาคัญ การเรียนรคู้ าสรรพนามเปน็ พืน้ ฐานสาคัญในการสอ่ื สารภาษามลายู เพือ่ ใช้ในชีวติ ประจาวัน 2. มาตรฐานการเรยี นรู้ ย.1 รเู้ ขา้ ใจกระบวนการฟัง พูด อา่ น และเขียน มีทักษะและเห็นคณุ ค่าในการใชภ้ าษามลายู เพอ่ื การ เรียนรู้ ศึกษาคน้ ควา้ จากแหลง่ วทิ ยาการเกย่ี วกับศาสนาอิสลามและการสอื่ สารอย่างสร้างสรรค์ 3. ตัวช้วี ัด ย1อต4/2. อา่ นและเขียนประโยคทีใ่ ช้คาสรรพนาม และข้อความทีก่ าหนด 4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ บอกความหมาย ประเภทของคาสรรพนาม 5. สาระการเรยี นรู้ ความหมาย ประเภทของคาสรรพนาม 6. สมรรถนะสาคัญ 6.1. ความสามารถในการสือ่ สาร 6.2. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 7. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 7.1 มีความรบั ผดิ ชอบ 7.2 มมี ารยาทแบบอสิ ลาม 8. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ชวั่ โมงท่ี 1 8.1.นักเรยี นอ่านซเู ราะฮฺ อัล-ฟาตฮิ ะห์และดอุ าอกอ่ นเรยี น 8.2. ครูแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้ใหน้ กั เรยี นทราบ 8.3. ครูให้นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรยี น 8.3 ครูแบ่งกลมุ่ นักเรียนใหส้ บื ค้นข้อมูลเก่ยี วกับความหมายของคาสรรพนาม ทางอินเตอรเ์ นต็ พร้อมสง่ ตัวแทนใหน้ าเสนอ 8.4 ครูอธบิ ายความหมายของคาสรรพนาม 8.5 ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันสรปุ เนอ้ื หา 8.6 รว่ มกนั อ่านดุอาอฺหลงั เรียนและสเู ราะฮฺอัล-อัสรี ชั่วโมงท่ี 2 8.7. นักเรียนอ่านซูเราะฮฺ อลั -ฟาตฮิ ะห์และดอุ าอก่อนเรยี น 8.8 ครแู จง้ จุดประสงคก์ ารเรยี นรูใ้ หน้ ักเรียนทราบ

23 8.9 ครูให้นกั เรียนสืบคน้ ประเภทของคาสรรพนาม พร้อมใหน้ กั เรียนนาเสนอ 8.10 ครแู ละนักเรยี นสรปุ เนื้อหาท่นี ักเรยี นสง่ 8.11 ร่วมกนั อ่านดุอาอฺหลงั เรียนและสูเราะฮฺอัล-อัสรี ช่วั โมงท่ี 3 8.14 นกั เรียนอา่ นดอุ าอก่อนเรียนและซูเราะฮฺ อัล-ฟาตฮิ ะห์พรอ้ มๆกัน 8.15. ครูให้นักเรยี นสรุปผงั ความคิดเกย่ี วกบั คาสรรพนาม 8.17 นกั เรยี นสรปุ เปน็ ผงั ความคิด 8.18. ครใู ห้นกั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรยี น 8.19. ร่วมกนั อ่านดุอาอฺหลังเรยี นและสูเราะฮอฺ ลั -อสั รี 9. แหลง่ การเรียนรู้ สอื่ และอุปกรณ์ ห้องสมุด/หอ้ งคอมพวิ เตอร์ 10. ช้นิ งาน/ภาระงาน 10.1. ผังความคิด 10.2. การนาเสนอ 11. การวัดและประเมินผล 11.1. วธิ กี าร การนาเสนอผงั ความคิด ทดสอบกอ่ นเรยี น 11.2. เครอื่ งมือ สังเกต ใบงาน แบบทดสอบหลงั เรยี น

24 11.3. เกณฑก์ ารประเมนิ เขยี นแผนผังความคดิ ประเดน็ การประเมนิ เกณฑ์การให้คะแนน ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรงุ (1) ออกแบบแผนความคิดไม่ 1. ออกแบบแผนที่ ออกแบบแผนความ ออกแบบแผนความ ดี เขยี นไมค่ รบถว้ น และไม่ ความคดิ ได้ดี คดิ ได้ดีและสร้างสรรค์ คดิ ไดด้ ี ตอ่ เน่อื ง ใช้ภาษาส่ือสารไม่ชัดเจน 2. เขียนได้ครบถ้วน/ เขยี นไดค้ รบถ้วนครอบคลุม เขียนได้ครบถ้วน แตไ่ ม่ นาเสนอผลงานไม่ดี ครอบคลุม ตอ่ เนื่องตงั้ แตต่ น้ จนจบ ตอ่ เน่ืองเลก็ น้อย ทางานเกนิ เวลา 3. ใช้ภาษาสื่อสารได้ดี ใช้ภาษาส่ือสารในภาษาเขียน ใชภ้ าษาสือ่ สารได้ดแี ตม่ ี ได้ดีทาให้เข้าใจสง่ิ บกพรอ่ งในบางประเดน็ ท่สี ือ่ สารอย่างชดั เจน 4. นาเสนอผลงานได้ดี นาเสนอผลงานได้ดมี ีความ นาเสนอผลงานได้ดีแตไ่ ม่ ครบถว้ นทกุ ประเดน็ ครบ สมบูรณ์ สมบรู ณต์ ้งั แตต่ ้นจนจบ 5. ทางานไดท้ ันเวลา ทางานไดท้ นั เวลากาหนด ทางานเกนิ เวลาเล็กน้อย เกณฑ์การตัดสนิ /ระดบั คุณภาพ 10 - 15 ระดบั ดี 6 – 9 ระดบั พอใช้ 1– 5 ระดับ ปรบั ปรุง เกณฑก์ ารผา่ น ไดร้ ะดับ “พอใช้” ขึน้ ไป

25 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 8 ชนั้ อิสลามศกึ ษาตอนต้นปที ่ี 4 รายวิชา ย 14801 ภาษามลายู เวลา 10 ชว่ั โมง หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 เรอื่ ง คาสรรพนามน่ารู้ หน่วยการเรยี นรู้ย่อยที่ 2.2 เร่ือสรรพนามบุรุษที่ 1 เวลา 3 ชว่ั โมง 1. สาระสาคญั การเรียนรคู้ าสรรพนามเปน็ พ้ืนฐานสาคัญในการสอ่ื สารภาษามลายู เพือ่ ใชใ้ นชีวติ ประจาวัน 2. มาตรฐานการเรียนรู้ ย.1 รู้เขา้ ใจกระบวนการฟงั พดู อ่าน และเขียน มีทกั ษะและเห็นคุณค่าในการใชภ้ าษามลายู เพ่ือ การเรียนรู้ ศึกษาค้นควา้ จากแหล่งวทิ ยาการเกย่ี วกับศาสนาอิสลามและการสือ่ สารอยา่ ง สร้างสรรค์ 3. ตวั ช้ีวัด ย1อต4/2 อา่ นและเขยี นประโยคทีใ่ ชค้ าสรรพนามและข้อความทก่ี าหนด 4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ อา่ น เขียนขอ้ ความ ประโยคคาสรรพนามบุรษุ 1 5. สาระการเรียนรู้ คาสรรพนามบุรษุ ท่ี1 6. สมรรถนะสาคญั 6.1. ความสามารถในการสอื่ สาร 6.2. ความสามารถในการคดิ 6.3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 7. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 7.1 มีความรับผดิ ชอบ 7.2 มมี ารยาทแบบอสิ ลาม 8. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ชวั่ โมงท่ี 1 8.1 นกั เรยี นอา่ นซเู ราะฮฺ อัล-ฟาตฮิ ะห์และดุอาอก่อนเรยี น 8.2. ครูแจง้ จุดประสงค์การเรยี นร้ใู ห้นกั เรยี นทราบ 8.3. ครซู ักถามนกั เรยี นเร่อื งคาทนี่ กั เรยี นรูจ้ กั เก่ยี วกบั สรรพนามบรุ ุษที่ 1 8.4. ครูให้นกั เรยี นยกตัวอย่างคนละ 1 ประโยค 8.5. แบง่ กลุ่มนกั เรยี นกลุม่ ละ 3-4 คน และนาเสนอ 8.6. นกั เรียนสรปุ เปน็ ผงั ความคดิ 8.7. รว่ มกันอา่ นดอุ าอหฺ ลงั เรยี นและสูเราะฮฺอลั -อัสรี ชว่ั โมงที่ 2 8.8. นกั เรียนอ่านซเู ราะฮฺ อัล-ฟาตฮิ ะห์และดอุ าอกอ่ นเรียน 8.9. ครแู จง้ จุดประสงค์การเรยี นรูใ้ ห้นักเรยี นทราบ 8.10. ครใู ห้นักเรียนทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น

26 8.11. ครใู ห้นกั เรียนอา่ นคาสรรพนามบุรษุ ท่ี 1 โดยเปน็ รายบคุ คล 8.12. ให้นักเรียนทาแบบทดสอบหลังเรียน 8.13. รว่ มกนั อา่ นดุอาอหฺ ลงั เรยี นและสเู ราะฮฺอลั -อัสรี ชว่ั โมงท่ี 3 8.14 นักเรียนอา่ นดุอาอก่อนเรยี นและซเู ราะฮฺ อัล-ฟาตฮิ ะห์พรอ้ มๆกัน 8.15 ครใู ห้นักเรยี นแต่งประโยคบรุ ุษที่ 1 แล้วนามาสง่ ครู 8.16. ครแู ละนกั เรียนร่วมกันสรปุ เนื้อหา 8.17. ครใู ห้นักเรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน 8.18. รว่ มกันอา่ นดอุ าอฺหลังเรยี นและสูเราะฮอฺ ัล-อัสรี 9. แหล่งการเรยี นรู้ ส่ือและอปุ กรณ์ ห้องสมุด/หอ้ งคอมพิวเตอร์ 10. ชิน้ งาน/ภาระงาน 10.1. ผังความคดิ 10.2. การนาเสนอ 11. การวัดและประเมนิ ผล 11.1. วธิ กี าร การนาเสนอผังความคิด ทดสอบกอ่ นเรยี น 11.2. เครอื่ งมือ สังเกต ใบงาน แบบทดสอบหลงั เรยี น 11.3. เกณฑ์การประเมิน

27 การประเมนิ การเขียนแผนผงั ความคิด ประเดน็ การประเมนิ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1) ออกแบบแผนความคิดไม่ 1. ออกแบบแผนที่ ออกแบบแผนความ ออกแบบแผนความ ดี ความคดิ ไดด้ ี เขียนไม่ครบถ้วน และไม่ 2. เขยี นไดค้ รบถว้ น/ คดิ ได้ดีและสร้างสรรค์ คดิ ไดด้ ี ตอ่ เนอ่ื ง ครอบคลมุ ใช้ภาษาส่อื สารไม่ชัดเจน 3. ใชภ้ าษาสือ่ สารไดด้ ี เขยี นไดค้ รบถ้วนครอบคลมุ เขียนไดค้ รบถ้วน แต่ไม่ นาเสนอผลงานไม่ดี 4. นาเสนอผลงานได้ดี ต่อเนอ่ื งตง้ั แตต่ ้นจนจบ ต่อเนือ่ งเลก็ นอ้ ย ทางานเกินเวลา 5. ทางานไดท้ ันเวลา ใช้ภาษาสือ่ สารในภาษาเขียน ใช้ภาษาส่อื สารได้ดแี ต่มี ไดด้ ีทาให้เขา้ ใจส่ิง บกพรอ่ งในบางประเดน็ ท่ีสื่อสารอย่างชัดเจน นาเสนอผลงานได้ดีมคี วาม นาเสนอผลงานได้ดแี ตไ่ ม่ ครบถว้ นทุกประเด็น ครบ สมบูรณ์ สมบรู ณ์ตัง้ แต่ตน้ จนจบ ทางานไดท้ นั เวลากาหนด ทางานเกนิ เวลาเลก็ นอ้ ย เกณฑ์การตัดสิน/ระดบั คณุ ภาพ 10 - 15 ระดับ ดี 6 – 9 ระดบั พอใช้ 1– 5 ระดับ ปรับปรงุ เกณฑก์ ารผ่าน ได้ระดบั “พอใช้” ขึ้นไป

28 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 9 ชั้นอิสลามศกึ ษาตอนต้นปีท่ี 4 รายวิชา ย 14801 ภาษามลายู เวลา 10 ช่ัวโมง หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 เรื่อง คาสรรพนามน่ารู้ เวลา 2 ช่ัวโมง หนว่ ยการเรยี นรู้ย่อยที่ 2.3 เรอื่ งสรรพนามบรุ ษุ ที่ 2 1. สาระสาคญั การเรยี นรูค้ าสรรพนามเปน็ พน้ื ฐานสาคัญในการส่ือสารภาษามลายู เพ่อื ใชใ้ นชวี ติ ประจาวัน 2. มาตรฐานการเรียนรู้ ย.1 รเู้ ข้าใจกระบวนการฟัง พูด อ่าน และเขียน มีทกั ษะและเห็นคณุ ค่าในการใช้ภาษา มล เพอ่ื การเรียนรู้ ศกึ ษาคน้ ควา้ จากแหลง่ วิทยาการเกี่ยวกบั ศาสนาอิสลามและการส่อื สารอยา่ งสรา้ งสรรค์ 3. ตวั ชวี้ ัด ย1 อต 4/2 อ่านและเขยี นประโยคท่ีใช้คาสรรพนามและข้อความทกี่ าหนด 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ อ่าน เขยี นขอ้ ความ ประโยคสรรพนามบรุ ุษ 2 5. สาระการเรยี นรู้ คาสรรพนามบรุ ุษท่ี2 6. สมรรถนะสาคญั 6.1. ความสามารถในการส่อื สาร 6.2. ความสามารถในการคดิ 7. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ มีความรับผดิ ชอบ 8. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ช่วั โมงท่ี 1 8.1.นกั เรยี นอ่านซเู ราะฮฺ อัล-ฟาติฮะห์และดุอาอก่อนเรียน 8.2. ครูแจง้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรใู้ หน้ กั เรยี นทราบ 8.3. ครใู ห้นักเรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น 8.4 ครอู ธบิ ายสรรพนามบรุ ษุ ที่ 2 ใหก้ ับนักเรยี น 8.5 ครใู หน้ ักเรยี นแต่งประโยคสรรพนามบรุ ุษที่ 2 เปน็ รายบุคคล พรอ้ มนาเสนอ 8.6. ร่วมกันอ่านดอุ าอหฺ ลงั เรียนและสเู ราะฮอฺ ลั -อสั รี ช่ัวโมงที่ 2 8.7 นกั เรยี นอา่ นดอุ าอก่อนเรยี นและซูเราะฮฺ อลั -ฟาตฮิ ะห์พร้อมๆกนั 8.8. ครใู หน้ ักเรยี นสรุปเนื้อหาของคาสรรพนามบุรุษ ที่ 2 และสง่ ตวั แทนนาเสนอ 8.9. ครแู ละนักเรียนร่วมกนั สรปุ เนือ้ หาที่ได้นาเสนอ 8.10. ครูให้นกั เรยี นทาแบบทดสอบหลังเรยี น 8.11. รว่ มกันอา่ นดอุ าอฺหลงั เรียนและสูเราะฮอฺ ลั -อัสรี

29 9. แหลง่ การเรียนรู้ ส่ือและอปุ กรณ์ - 10. ช้ินงาน/ภาระงาน การนาเสนอ 11. การวัดและประเมินผล 11.1. วิธกี าร ความสามัคคีภายในกลุ่ม การนาเสนอผังความคิด ทดสอบกอ่ นเรียน 11.2. เคร่อื งมอื สงั เกต ใบงาน แบบทดสอบหลังเรียน 11.3. เกณฑ์การประเมิน เกณฑ์การประเมนิ พดู รายการประเมนิ ดีมาก (3) ระดับคณุ ภาพ 1.การออกเสยี ง ออกเสียงถกู ตอ้ งตาม ดี (2) ควรปรบั ปรงุ (1) หลักการออกเสียงมีเสยี ง ออกเสยี งคา ประโยค ออกเสยี งคา ประโยคผดิ ไดถ้ กู ต้อง มเี สียง เนน้ หนกั หลกั การ ไมเ่ นน้ เสียง ทาให้ เนน้ หนกั ในคา ประโยค ในคาประโยคเป็นส่วนใหญ่ สอ่ื สารไม่ได้ อย่างสมบูรณ์ 2.พูดตามเรือ่ งและ พูดไดต้ รงตามเร่อื ง พูดเบีย่ งเบนเลก็ น้อย พดู ไม่ตรงตาม บทบาท และบทบาทท่ไี ด้รบั จากเนื้อเรือ่ งและบทบาทท่ี เรือ่ งและบทบาท มอบหมาย ไดร้ ับมอบหมาย ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย 3.ความคลอ่ งแคล่ว พูดต่อเน่อื ง ไมต่ ิดขัดพูด พดู ตะกกุ ตะกักบ้าง พูดเป็นคาๆ หยุดเป็นช่วงๆ ชดั เจน ทาให้ส่อื สารได้ดี แตย่ ังพอสอื่ สารได้ ทาให้สอื่ สารได้ไม่ชัดเจน 4. ความตรงประเดน็ ท่องตรงประเดน็ ทอ่ งค่อนข้างตรงประเด็น ทอ่ งไม่ตรงประเดน็ 5.การแสดงท่าทาง แสดงท่าทางประกอบ พูดโดยไมค่ อ่ ยแสดง พูดเหมือนอ่านไม่เป็น น้าเสียง และพูดโดยใช้นา้ เสียง ท่าทางประกอบนา้ เสียงไม่ ธรรมชาติยืนนง่ิ ๆ ไมม่ ี เหมาะสมกบั บทบาท ค่อยเหมาะสมกบั บทบาท ทา่ ทางทาให้การสื่อสาร และสถานการณ์ และสถานการณ์ ขาดความนา่ สนใจ เกณฑ์การตัดสิน/ระดบั คุณภาพ 10 - 15 ระดับ ดี 6 – 9 ระดับ พอใช้ 1– 5 ระดบั ปรบั ปรงุ เกณฑ์การผา่ น ได้ระดบั “พอใช้” ขึ้นไป

30 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 10 ช้นั อิสลามศกึ ษาตอนต้นปที ี่ 4 รายวิชา ย 14801 ภาษามลายู เวลา 10 ช่ัวโมง หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 เรือ่ ง คาสรรพนามนา่ รู้ หน่วยการเรยี นร้ยู ่อยที่ 2.4 เรอ่ื งสรรพนามบุรษุ ท่ี 3 เวลา 2 ชว่ั โมง 1. สาระสาคัญ เพ่ือ การเรยี นรู้คาสรรพนามเป็นพนื้ ฐานสาคัญในการสอ่ื สารภาษามลายู เพอ่ื ใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั 2. มาตรฐานการเรยี นรู้ ย.1 รเู้ ข้าใจกระบวนการฟงั พดู อา่ น และเขยี น มีทกั ษะและเห็นคณุ ค่าในการใชภ้ าษา มลายู การเรยี นรู้ ศกึ ษาคน้ ควา้ จากแหล่งวทิ ยาการเก่ยี วกบั ศาสนาอิสลามและการสอ่ื สารอยา่ ง สร้างสรรค์ 3. ตวั ชว้ี ัด ย1อต4/2 อ่านและเขยี นประโยคที่ใชค้ าสรรพนามและข้อความทก่ี าหนด 4. จุดประสงค์การเรยี นรู้ อ่าน เขียนข้อความ ประโยคสรรพนามบุรุษ 3 5. สาระการเรยี นรู้ คาสรรพนามบุรุษท่ี3 6. สมรรถนะสาคญั ความสามารถในการคดิ 7. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ มคี วามรบั ผดิ ชอบ 8. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ชว่ั โมงท่ี 1 8.1.นักเรียนอ่านซเู ราะฮฺ อลั -ฟาติฮะห์และดุอาอก่อนเรียน 8.2. ครูแจ้งจุดประสงค์การเรียนร้ใู หน้ กั เรียนทราบ 8.3. ครใู ห้นักเรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น 8.4 ครใู หน้ กั เรยี นสบื คน้ ขอ้ มูลทางอนิ เตอร์เน็ตคาสรรพนามบรุ ษุ ท่ี3 8.5 ครอู ธบิ ายเนอ้ื หาคาสรรพนามบรุ ุษท่ี3 8.5 ครใู ห้นกั เรยี นแตง่ ประโยคสรรพนามบรุ ุษที่ 3 เป็นรายบุคคล พรอ้ มนาเสนอ 8.6. รว่ มกนั อ่านดุอาอฺหลงั เรยี นและสูเราะฮอฺ ลั -อัสรี ช่วั โมงที่ 2 8.7 นกั เรียนอา่ นดุอาอกอ่ นเรยี นและซูเราะฮฺ อัล-ฟาตฮิ ะห์พร้อมๆกนั 8.8. ครใู หน้ กั เรียนสรุปเน้อื หาของคาสรรพนามบุรุษ ท่ี 3 8.9. ครูและนักเรียนร่วมกนั สรปุ เนื้อหา 8.10. ครใู ห้นักเรยี นทาแบบทดสอบหลังเรยี น 8.11. รว่ มกันอ่านดุอาอหฺ ลงั เรียนและสเู ราะฮอฺ ัล-อสั รี 9. แหลง่ การเรยี นรู้ สื่อและอุปกรณ์

31 - หอ้ งสมดุ / ห้องคอมพวิ เตอร์ 10. ชิ้นงาน/ภาระงาน -การนาเสนอ 11. การวัดและประเมินผล 11.1. วธิ กี าร - ความสามคั คภี ายในกลุ่ม -ทดสอบกอ่ นเรียน 11.2. เครื่องมอื - สังเกต -แบบทดสอบหลังเรยี น 11.3. เกณฑก์ ารประเมินการอา่ น

32 กาหนดการจัดทาแผนการเรยี นรู้ รายวชิ า ย 14801 ภาษามลายู ชนั้ อสิ ลามศกึ ษาตอนต้นปที ่ี 4 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 เรอื่ ง สนทนาพาเพลนิ จานวน 10 ชว่ั โมง สมรรถนะสาคญั ความสามารถในการสอื่ สาร มีความสามารถในคิด คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ มีมารยาทแบบอิสลาม มีความรับผิดชอบ ภาระงาน/ช้ินงาน สาธิตการสนทนา หน่วย เร่ือง มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั สาระ เวลาเรียน ย่อยท่ี 3.1 การสนทนา เรื่อง ย1 อต 4/3 สนทนาโดยใช้ประโยคท่ี การสนทนา 2 ประโยคบอกเล่า 2 สวนสัตว์สงขลา กาหนด ประโยคคาถาม 2 ประโยคปฏเิ สธ 2 32 สนทนาโดยใช้ ย 1 อต 4/3 สนทนาโดยใชป้ ระโยคที่ ประโยคคาส่ัง 2 10 ประโยคบอกเลา่ กาหนด 3.3 สนทนาโดยใช้ ย 1 อต 4/3 สนทนาโดยใชป้ ระโยคที่ ประโยคคาถาม กาหนด 3.4 สนทนาโดยใช้ ย 1 อต 4/3 สนทนาโดยใช้ประโยคท่ี ประโยคปฏเิ สธ กาหนด 3.5 สนทนาโดยใช้ ย 1 อต 4/3 สนทนาโดยใชป้ ระโยคที่ ประโยคคาสง่ั กาหนด รวม

33 แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 11 ช้นั อสิ ลามศึกษาศึกษาปีท่ี 4 รายวชิ า 14801 ภาษามลายู เวลา 10 ช่ัวโมง หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เร่อื ง สนทนาพาสนุก เวลา 2 ชั่วโมง หน่วยการเรยี นรูย้ อ่ ยที่ 3.1 เรอ่ื งสวนสัตว์สงขลา 1. สาระสาคญั ประโยคเปน็ พื้นฐานสาคัญในการสนทนาใช้ส่ือสารในชวี ติ ประจาวนั 2. มาตรฐานการเรยี นรู้ ย 1 รู้เขา้ ใจกระบวนการฟัง พดู อ่าน และเขียน มที ักษะและเหน็ คณุ ค่าในการใชภ้ าษามลายเู พ่อื การ เรยี นรู้ ศึกษาคน้ ควา้ จากแหลง่ วทิ ยาการเกี่ยวกับศาสนาอสิ ลามและการส่อื สารอยา่ งสร้างสรรค์ 3. ตวั ชวี้ ัด ย 1 อต 4/3 สนทนาโดยใช้ประโยคท่ีกาหนด 4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ผเู้ รยี นสามารถสนทนาภาษามลายไู ด้ 5. สาระการเรียนรู้ การสนทนา เรื่องสวนสตั ว์สงขลา 6. สมรรถนะสาคญั ความสามารถในการสื่อสาร 7. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 7.1 มีมารยาทแบบอสิ ลาม 7.2 มคี วามรบั ผดิ ชอบ 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ช่วั โมงท่ี 1 8.1 นกั เรียนอ่านดอุ าอกอ่ นเรยี นและซเู ราะฮฺ อลั -ฟาติฮะห์พร้อมๆกัน 8.2 ครูแจ้งจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ให้นกั เรยี นทราบ 8.3 อธบิ ายถึงความสาคัญและมารยาทการสนทนา 8.4 แบ่งกลุ่มๆละ 4-5 คน 8.5 เขียนบทสนทนาทว่ั ไปกลุม่ ละ 1 บท 8.6 รว่ มกันอา่ นดอุ าอฺหลังเรียนและสูเราะฮฺอัล-อัสรี ชว่ั โมงท่ี 2 8.7 นกั เรียนอา่ นดุอาอกอ่ นเรียนและซเู ราะฮฺ อัล-ฟาตฮิ ะห์พร้อมๆกนั 8.8 นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ สาธติ การสนทนาเร่ืองสวนสัตว์สงขลา 8.9 ตกแตง่ ชิน้ งานให้สวยงามส่งครู 8.10 ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันสรปุ 8.11 รว่ มกนั อ่านดอุ าอฺหลังเรียนและสเู ราะฮอฺ ัล-อสั รี 9. สอื่ อปุ กรณ์ และแหล่งการเรียนรู้

34 - 10. ชิน้ งาน/ภาระงาน - สาธิตบทสนทนา 11. การวัดและประเมินผล 11.1 วิธีการ - 11.2 เครอ่ื งมอื - 11.3 เกณฑ์การประเมิน -

35 แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 12 ช้นั อิสลามศกึ ษาศึกษาปที ่ี 4 รายวิชา 14801 ภาษามลายู เวลา 10 ชวั่ โมง หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 3 เร่อื ง สนทนาพาสนุก เวลา 2 ชว่ั โมง หน่วยการเรียนรูย้ ่อยท่ี 3.2 เรือ่ ง สนทนาโดยใชป้ ระโยคบอกเล่า 1. สาระสาคญั ประโยคเปน็ พืน้ ฐานสาคญั ในการสนทนาใช้สือ่ สารในชวี ติ ประจาวัน 2. มาตรฐานการเรยี นรู้ ย 1 รู้เขา้ ใจกระบวนการฟงั พดู อา่ น และเขยี น มที ักษะและเหน็ คณุ ค่าในการใชภ้ าษามลายเู พ่อื การ เรยี นรู้ ศึกษาคน้ ควา้ จากแหล่งวทิ ยาการเก่ียวกบั ศาสนาอิสลาม และการส่ือสารอย่างสรา้ งสรรค์ 3. ตัวชี้วัด ย 1 อต 4/3 สนทนาโดยใชป้ ระโยคทก่ี าหนด 4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สนทนาโดยใช้ประโยคบอกเล่าได้ 5. สาระการเรยี นรู้ ประโยคบอกเล่า 6. สมรรถนะสาคญั ความสามารถในการส่อื สาร 7. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 7.1 มมี ารยาทแบบอสิ ลาม 7.2 มีความรบั ผดิ ชอบ 8. กิจกรรมการเรยี นรู้ ชวั่ โมงท่ี 1 8.1 นักเรียนอา่ นดุอาอก่อนเรียนและซเู ราะฮฺ อลั -ฟาตฮิ ะห์พร้อมๆกนั 8.2 ครใู หน้ กั เรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน 8.3 ครูแจ้งจดุ ประสงคก์ ารเรียนรใู้ ห้นักเรยี นทราบ 8.4 อธิบายความหมายประโยคบอกเลา่ 8.5 นกั เรยี นเขียนบทสนทนาในรูปของประโยคบอกเล่า 8.6 ร่วมกันอ่านดุอาอฺหลังเรยี นและสเู ราะฮฺอลั -อสั รี ชวั่ โมงที่ 2 8.7 นกั เรียนอ่านดุอาอก่อนเรียนและซูเราะฮฺ อัล-ฟาติฮะห์พรอ้ มๆกัน 8.8 นกั เรยี นนาเสนอบทสนทนา 8.9 นกั เรียนส่งบทสนทนา 8.10 ครูใหน้ กั เรียนทาแบบทดสอบหลังเรยี น 8.9 รว่ มกันอา่ นดอุ าอหฺ ลงั เรยี นและสเู ราะฮอฺ ลั -อสั รี 9. ส่ือ อปุ กรณ์ และแหล่งการเรยี นรู้

36 - 10. ชน้ิ งาน/ภาระงาน - นาเสนอบทสนทนา 11. การวัดและประเมนิ ผล 11.1 วิธีการ - ประเมินชน้ิ งาน (บทสนทนา) -ทดสอบกอ่ นเรยี น -ทดสอบหลังเรยี น 11.2 เครอ่ื งมอื - แบบตรวจชนิ้ งาน -แบบทดสอบหลังเรียน 11.3 เกณฑ์การประเมนิ - ช้นิ งานผ่านเกณฑร์ ้อยละ 60 เกณฑ์การประเมินผลกาสาธติ บทสนทนา ประเดน็ การ ระดบั คะแนน ประเมิน 4 32 1 ความถกู ต้อง ออกเสยี งคาศพั ท์ ออกเสยี งคาศัพท์และ ออกเสียงคาศพั ท์และ ออกเสียงคาศัพท์ และประโยคไม่ ความ ถกู ตอ้ งทาให้สื่อสาร คล่องแคล่ว ประโยคได้ถูกตอ้ งตาม ประโยคไดถ้ ูกต้องตาม และประโยคได้ ไม่ได้ การแสดง ท่าทาง นา้ เสียง หลกั การออกเสยี ง หลกั การออกเสียง มี ถูกต้องเปน็ ส่วน พดู ได้บางคาทาให้ ประกอบ สือ่ ความหมายไมไ่ ด้ เน้นหนักในคา / เสียงเนน้ หนกั ในคา / ใหญ่ ขาดการ พูดได้นอ้ ยมาก ประโยคอยา่ งสมบูรณ์ ประโยคเป็นส่วนใหญ่ ออกเสยี ง เนน้ หนกั พดู ตอ่ เนอ่ื งไม่ติดขดั พดู ตะกุกตะกกั บ้าง พูดเปน็ คาๆ แต่ พดู ชดั เจน ทาให้ แต่ยังพอสอื่ สารได้ ยงั พอสือ่ สารได้ ส่อื สารได้ แสดงทา่ ทางและพูด พูดดว้ ยนา้ เสียง พูดเหมือนอ่าน ดว้ ยนา้ เสยี งเหมาะสม เหมาะสมกับบท ไมเ่ ป็นธรรมชาติ กบั บทสนทนา สนทนา แตไ่ มม่ ที ่าทาง ขาดความ ประกอบ น่าสนใจ การประเมนิ ผลรวม มีระดับคณุ ภาพดงั นี้ คะแนน 10-12 หมายถึง ดีมาก คะแนน 7-9 หมายถึง ดี คะแนน 4-6 หมายถงึ พอใช้ คะแนน 1-3 หมายถงึ ปรบั ปรงุ

37 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 13 ช้นั อสิ ลามศึกษาศึกษาปีท่ี 4 รายวชิ า 14801 ภาษามลายู เวลา 10 ช่ัวโมง หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3 เร่ือง สนทนาพาสนกุ เวลา 2 ชว่ั โมง หน่วยการเรียนรยู้ ่อยท่ี 3.3 เรือ่ ง สนทนาโดยใชป้ ระโยคคาถาม 1. สาระสาคญั ประโยคเปน็ พ้นื ฐานสาคัญในการสนทนาใช้สื่อสารในชีวิตประจาวนั 2. มาตรฐานการเรียนรู้ ย 1 รเู้ ข้าใจกระบวนการฟัง พูด อ่าน และเขยี น มีทักษะและเหน็ คุณค่าในการใชภ้ าษามลายเู พ่อื การ เรยี นรู้ ศกึ ษาค้นคว้าจากแหลง่ วิทยาการเก่ยี วกบั ศาสนาอิสลาม และการสอื่ สารอยา่ งสร้างสรรค์ 3. ตัวชว้ี ัด ย 1 อต 4/3 สนทนาโดยใช้ประโยคทก่ี าหนด 4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สนทนาโดยใช้ประโยคคาถามได้ 5. สาระการเรียนรู้ ประโยคคาถาม 6. สมรรถนะสาคญั ความสามารถในการส่ือสาร 7. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 7.1 มมี ารยาทแบบอสิ ลาม 7.2 มคี วามรบั ผิดชอบ 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ชัว่ โมงท่ี 1 8.1 นกั เรยี นอ่านดอุ าอกอ่ นเรยี นและซเู ราะฮฺ อลั -ฟาติฮะห์พร้อมๆกัน 8.2 ครูให้นกั เรียนทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น 8.3 ครแู จง้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรใู้ ห้นกั เรียนทราบ 8.4 อธบิ ายความหมายประโยคคาถาม 8.4 แบง่ กลมุ่ ๆละ 5-6 คน 8.5 เขียนบทสนทนาในรปู ของประโยคคาถามกลุ่มละ 1 บท 8.2 ครใู หน้ ักเรียนทาแบบทดสอบหลงั เรยี น 8.6 ร่วมกันอ่านดุอาอฺหลังเรียนและสูเราะฮอฺ ลั -อสั รี ชวั่ โมงที่ 2 8.7 นกั เรียนอ่านดุอาอก่อนเรยี นและซูเราะฮฺ อัล-ฟาติฮะห์พรอ้ มๆกนั 8.8 นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มสาธติ การสนทนา 8.9 นักเรยี นทาใบงานเป็นการบ้าน 8.10 สรปุ บทเรียน

38 8.11 รว่ มกันอา่ นดุอาอฺหลังเรยี นและสูเราะฮอฺ ลั -อสั รี 9. สอื่ อุปกรณ์ และแหลง่ การเรียนรู้ ใบงาน 10. ช้นิ งาน/ภาระงาน การสาธติ บทสนทนา 11. การวัดและประเมนิ ผล 11.1 วธิ ีการ ทดสอบกอ่ นเรยี น ทดสอบหลังเรยี น 11.2 เครอ่ื งมอื แบบทดสอบหลังเรยี น 11.3 เกณฑ์การประเมนิ

39 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 14 รายวชิ า 14801 ภาษามลายู ชั้นอิสลามศกึ ษาศึกษาปีท่ี 4 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 เรอื่ ง สนทนาพาสนุก เวลา 10 ช่วั โมง หนว่ ยการเรียนร้ยู อ่ ยที่ 3.4 เรื่อง สนทนาโดยใชป้ ระโยคปฏิเสธ เวลา 2 ช่ัวโมง 1. สาระสาคญั ประโยคเป็นพนื้ ฐานสาคัญในการสนทนาใช้ในการสื่อสารในชวี ิตประจาวัน 2. มาตรฐานการเรียนรู้ ย 1 ร้เู ข้าใจกระบวนการฟงั พดู อา่ น และเขียน มีทกั ษะและเห็นคณุ ค่าในการใชภ้ าษามลายเู พอ่ื การ เรยี นรู้ ศึกษาค้นควา้ จากแหล่งวิทยาการเกี่ยวกบั ศาสนาอิสลาม และการสอ่ื สารอย่างสร้างสรรค์ 3. ตวั ช้วี ัด ย 1 อต 4/3 สนทนาโดยใช้ประโยคท่ีกาหนด 4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สนทนาโดยใช้ประโยคปฏิเสธได้ 5. สาระการเรียนรู้ ประโยคปฏเิ สธ 6. สมรรถนะสาคญั ความสามารถในการสอ่ื สาร 7. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 7.1 มมี ารยาทแบบอิสลาม 7.2 มคี วามรบั ผิดชอบ 8. กจิ กรรมการเรียนรู้ ช่ัวโมงท่ี 1 8.1 นักเรยี นอ่านดอุ าอก่อนเรยี นและซเู ราะฮฺ อัล-ฟาตฮิ ะห์พรอ้ มๆกัน 8.2 ครแู จ้งจุดประสงคก์ ารเรยี นรใู้ หน้ กั เรียนทราบ 8.3 อธบิ ายความหมายประโยคปฏิเสธ 8.4 นักเรยี นเขยี นบทสนทนาในรปู ของประโยคปฏเิ สธ 8.5 รว่ มกนั อ่านดุอาอหฺ ลงั เรียนและสูเราะฮฺอลั -อัสรี ชว่ั โมงที่ 2 8.6 นกั เรียนอ่านดุอาอก่อนเรียนและซูเราะฮฺ อลั -ฟาติฮะห์พรอ้ มๆกนั 8.7 ครูสุ่มนกั เรียนนาเสนอประโยคทีเ่ ขียนไว้ 8.8 นกั เรียนแลกเปลย่ี นประโยคกบั เพือ่ นรวบรวมใหไ้ ดม้ ากท่ีสุด 8.10 ตกแตง่ ประโยคทีน่ าเสนอให้สวยงามส่งครู 8.11 รว่ มกนั อา่ นดอุ าอหฺ ลงั เรยี นและสเู ราะฮอฺ ลั -อสั รี 9. สือ่ อปุ กรณ์ และแหลง่ การเรียนรู้ - 10. ช้นิ งาน/ภาระงาน

40 - บทสนทนา 11. การวัดและประเมนิ ผล 11.1 วิธีการ - ประเมนิ ชิ้นงาน (บทสนทนา) 11.2 เคร่อื งมอื - แบบประเมินช้ินงาน 11.3 เกณฑ์การประเมิน - ชิน้ งานผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 60

41 แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 15 ชนั้ อสิ ลามศกึ ษาศกึ ษาปที ี่ 4 รายวชิ า 14801 ภาษามลายู เวลา 10 ชว่ั โมง หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 เรื่อง สนทนาพาสนกุ เวลา 2 ชั่วโมง หน่วยการเรียนรยู้ ่อยที่ 3.5 เร่อื ง สนทนาโดยใชป้ ระโยคคาส่งั 1. สาระสาคญั ประโยคเปน็ พนื้ ฐานสาคญั ในการสนทนาใช้ในการสอ่ื สารในชวี ิตประจาวนั 2. มาตรฐานการเรยี นรู้ ย 1 ร้เู ขา้ ใจกระบวนการฟัง พดู อา่ น และเขยี น มีทักษะและเห็นคุณค่าในการใชภ้ าษามลายเู พอื่ การ เรียนรู้ ศกึ ษาคน้ ควา้ จากแหลง่ วทิ ยาการเก่ียวกับศาสนาอิสลาม และการสื่อสารอยา่ งสรา้ งสรรค์ 3. ตัวชว้ี ัดท่ี ย 1 อต 4/3 สนทนาโดยใช้ประโยคท่กี าหนด 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ สนทนาโดยใช้ประโยคคาส่ังได้ 5. สาระการเรยี นรู้ ประโยคคาสงั่ 6. สมรรถนะสาคญั ความสามารถในการสื่อสาร 7. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 7.1 มมี ารยาทแบบอสิ ลาม 7.2 มีความรับผดิ ชอบ 8. กิจกรรมการเรยี นรู้ ชัว่ โมงท่ี 1 8.1 นกั เรียนอ่านดอุ าอกอ่ นเรียนและซูเราะฮฺ อัล-ฟาตฮิ ะห์พรอ้ มๆกัน 8.2 ครแู จง้ จดุ ประสงค์การเรียนรใู้ ห้นักเรียนทราบ 8.3 อธิบายความหมายประโยคคาสัง่ พรอ้ มยกตวั อย่าง 8.4 นักเรยี นอา่ นบทสนทนาในรูปของประโยคคาสงั่ 8.5 รว่ มกนั อ่านดุอาอฺหลังเรยี นและสเู ราะฮฺอลั -อัสรี ช่วั โมงท่ี 2 8.6 นักเรียนอา่ นดุอาอก่อนเรียนและซูเราะฮฺ อัล-ฟาตฮิ ะห์พร้อมๆกนั 8.7 ครจู ับคู่ให้นกั เรียนสาธติ การสนทนา 8.8 ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั สรุปเน้อื หาท้งั หนว่ ยการเรียนรู้ 8.9 ร่วมกนั อ่านดุอาอหฺ ลังเรยี นและสูเราะฮฺอัล-อสั รี 9. ส่ือ อุปกรณ์ และแหล่งการเรยี นรู้ -

42 10. ช้นิ งาน/ภาระงาน การสาธติ 11. การวัดและประเมินผล 11.1 วธิ ีการ ประเมินสาธิตบทสนทนา 11.2 เคร่ืองมอื แบบประเมนิ การสาธิตบทสนทนา 11.3 เกณฑก์ ารประเมิน เกณฑ์การประเมินผลกาสาธติ บทสนทนา ประเด็นการ ระดบั คะแนน ประเมนิ 4 32 1 ความถูกต้อง ออกเสยี งคาศัพท์ ออกเสยี งคาศพั ท์และ ออกเสยี งคาศัพท์และ ออกเสียงคาศพั ท์ และประโยคไม่ ความ ถกู ต้องทาให้สื่อสาร คลอ่ งแคลว่ ประโยคไดถ้ กู ต้องตาม ประโยคได้ถกู ตอ้ งตาม และประโยคได้ ไมไ่ ด้ การแสดง หลักการออกเสยี ง หลกั การออกเสยี ง มี ถกู ต้องเปน็ ส่วน พูดไดบ้ างคาทาให้ ทา่ ทาง น้าเสียง สอ่ื ความหมายไม่ได้ ประกอบ เนน้ หนักในคา / เสยี งเนน้ หนกั ในคา / ใหญ่ ขาดการ พูดได้น้อยมาก ประโยคอย่างสมบรู ณ์ ประโยคเปน็ สว่ นใหญ่ ออกเสยี งนน้ หนกั พดู ต่อเนือ่ งไมต่ ิดขดั พูดตะกุกตะกกั บ้าง พูดเปน็ คาๆ แต่ พูดชดั เจน ทาให้ แต่ยงั พอส่ือสารได้ ยงั พอสื่อสารได้ สือ่ สารได้ แสดงทา่ ทางและพูด พูดดว้ ยนา้ เสียง พูดเหมือนอา่ น ด้วยน้าเสียงเหมาะสม เหมาะสมกบั บท ไมเ่ ป็นธรรมชาติ กับบทสนทนา สนทนา แต่ไมม่ ที ่าทาง ขาดความ ประกอบ น่าสนใจ การประเมนิ ผลรวม มีระดบั คุณภาพดงั นี้ คะแนน 10-12 หมายถงึ ดมี าก คะแนน 7-9 หมายถึง ดี คะแนน 4-6 หมายถึง พอใช้ คะแนน 1-3 หมายถึง ปรบั ปรงุ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook