Error! Number cannot be represented in specified format.
เลือกหนังสอื ดสี าํ หรับเด็ก เดก็ ในชว งวัยแรกเกดิ ถงึ ๖ ป เปน ชวงท่มี พี ัฒนาการสูงสุดในชวี ิตทุกดาน เด็กทุกคนมพี ฒั นาการทางรางกายตามวยั เริ่มตง้ั แต การเคลอื่ นไหว ไดย ิน มองเหน็ การพลิกควา่ํ -หงาย กระดืบ คืบคลาน การรูจักใชอวยั วะ นงั่ ยนื และเดิน ฯลฯ พัฒนาการที่กาวหนา ท้ังหมดน้เี กิดขึ้นในเวลาชว งเวลาเพยี งไมถ ึงหน่ึงปสาํ หรบั เด็กทีม่ ีรา งกายสมบูรณแข็งแรง ไดรบั สารอาหาร อยา งเพยี งพอ ไดร ับการโอบอมุ ดูแลและสงเสริม สมองของเด็กแรกเกิดก็เตบิ โตและมีพฒั นาการอยางรวดเร็วในชว งเวลานี้ หากไดรบั การกระตุนสงเสริมใหถ ูกทาง จงึ จะเกิดการพัฒนาไดอยา งเต็มทแี่ ละมปี ระสทิ ธภิ าพ ปจจุบันมีการศกึ ษาเร่อื งการทาํ งานของสมองอยา งแพรห ลายและมขี อ มูล ความรูใหมๆอยเู สมอ ลาสุดนักวชิ าการดานสมองเผยวา เซลลสมองของมนุษย จะเตบิ โตงอกงามไดมากนับลา นลา นเซลล หาก ถกู กระตนุ อยางสมํา่ เสมอ นอกจากเปนการเพมิ่ เซลลสมองแลว แรงสงเสริมจากภายนอก จะชว ยทําใหเ สนใยของสมอง เชอ่ื มโยงติดตอ กันเปนโครงขายอนั ทรงพลังเอื้อตอ การใชงาน การอา นหนังสอื นทิ านใหเ ด็กฟง เปนวิธหี นง่ึ ท่ีงา ย ในการกระตุน เซลลส มองใหเ ติบโต เกาะเกี่ยวเช่ือมโยงกัน อนั จะ สงผลตอพฒั นาการในทุกๆดานของเดก็ เพราะขณะเด็กๆฟง นิทาน พวกเขาตอ งใชค วามคดิ จนิ ตนาการ สมาธิและความต้งั อก ตงั้ ใจ ตองนึกภาพตามไปดวย ฯลฯ ส่ิงท่เี กิดข้ึนขณะฟง นทิ านเหลานล้ี ว นสง ผลตอการเติบโตของสมองท้ังสิ้น เม่อื เด็กๆเติบโตข้นึ เปนคนที่มีรา งกายและสติปญญาทพ่ี รอ ม อีกทั้งยงั ไดรับการปูลกฝง นสิ ัยรักการอานมาตงั้ แตเลก็ ๆ การสงเสริมนิสัยรักการอา นก็ยังเปน สิ่งสําคัญที่ไมอ าจละเลย ในขณะทเี่ ดก็ มีอายุมากขึน้ หนงั สอื อาจจะมบี ทบาทเปล่ยี นแปลง ไป เด็กโตตอ งการความสนกุ สนานตน่ื เตน เรยี นรโู ลกกวา ง อยากคนควา ดวยตัวเอง อยากท่ีจะรูจกั และเขาใจผอู ่นื ฯลฯ ส่งิ ตาง เหลาน้ลี วนมีอยใู น “หนังสือ” รูจักหนังสอื เด็ก หนงั สือเด็กเล็ก เปนหนังสอื ทีเ่ ลาเรือ่ งงาย ๆ มักเปน เรอ่ื งใกลต ัวเด็ก อยา งเชน รา งกาย ของเลน ผลไม เปนตน มีภาพ ชดั เจนเหมอื นจริง ไมมฉี ากหลังรกรงุ รงั ใชค าํ นอ ยแตสอ่ื ความหมายไดช ัดเจน เหมาะสําหรบั เดก็ เล็กแรกเกดิ จนถึง ๑ ขวบหรือ มากกวาเลก็ นอย หนังสอื กลุมน้ี มักทําจากวัสดทุ ่มี ีความนมุ น่ิม เชน ผา หรือ ฟองน้ํา และอีกประเภทหนง่ึ คือ กระดาษอดั แข็งที่เรียกวา Board Book ซ่ึงมจี ํานวนหนา ไมมากนกั · หนงั สอื รอยกรองสําหรับเด็ก รวมถงึ หนังสอื บทเพลงกลอ มเดก็ เปนหนังสอื ท่ใี ชคําสมั ผัสคลอ งจอง ใชภ าษาทีม่ ี ทวงทํานอง สาํ หรบั รองหรือเลา ใหเด็กฟง หนงั สอื ประเภทนเ้ี หมาะกับเดก็ ทุกวยั เพราะเด็กสวนใหญช่ืนชอบความเปน ทวงทํานอง ในหนึ่งเลม อาจจะมีหลายบท · หนงั สือสามมิติ (Pop-up books) เปน หนังสือกง่ึ ของเลน ทสี่ รา งความตน่ื ตาต่นื ใจใหแ กเ ด็ก หนงั สือประเภทน้ีมกั ให ความสาํ คัญกบั เทคนิคและความหวอื หวามากกวาเนอ้ื หา ลักษณะเดนของหนังสือประเภทนี้อยทู ่คี วามนา ต่ืนเตน การมกี ลไกท่ี ซับซอนสามารถดึงดูดความสนใจของเด็กไดในระยะสั้น แตความนา ต่นื เตนหวอื หวาเชนน้กี ็มักจะลบเลอื นเน้อื หาของหนังสอื ไป สิน้ เดก็ ๆจะมองหนังสือประเภทนีเ้ ปนของเลน จึงมกั ไมคอยรูสึกซาบซงึ้ กับเนือ้ หา ๑
· หนงั สือสอนตัวอกั ษร เปนหนงั สอื ทเ่ี นน ใหเด็กไดรูจ ักพยญั ชนะ ก - ฮ หรือ A - Z โดยใหพยญั ชนะเปน ตัวเลาเรื่อง และ เปนภาพทีม่ ชี วี ิตชวี า เพอ่ื ใหเดก็ ๆสนุกและจดจาํ ไดง า ยขึ้น หนงั สืออกี ประเภทหน่ึงทมี่ ีมากในรา นขายหนงั สือคือ สมดุ ฝก หัด เขียนพยัญชนะ ประเภทน้เี ราไมเรียกวา หนงั สือภาพ · หนงั สือสอนตวั เลข เปนหนงั สือภาพท่เี นนใหความรูคณติ ศาสตร มุงเนน ท่ีเรื่องของจาํ นวน สัญลักษณต ัวเลข นาํ เสนอดว ยเรอ่ื งและภาพที่เชอ่ื มโยงกบั ตัวเลข มที ้งั ทเี่ ลาเรื่องแบบนิทาน และพูดถึงแตต วั เลขอยางเดียว เหมาะกบั เด็กเลก็ จนถึง ๕ ขวบ ท้ังนข้ี ้นึ อยกู ับวิธีการนําเสนอเรอ่ื งราวของหนงั สอื แตละแบบ · หนังสอื เสริมความรู และสง เสริมพฤติกรรมทด่ี ี หนังสอื ประเภทนม้ี ีอยูมากในทอ งตลาด เพราะผูป กครองชน่ื ชอบ อยากใหเ ด็กไดรบั ความรู และสง เสรมิ ลกั ษณะนิสยั ท่ีดี หนังสอื กลุมนี้ผลติ ขึ้นเพอื่ เด็กหลายวัย ผูปกครองตอ งเลือกใหเหมาะกบั อายุของลูก เพื่อใหเหมาะสมกบั พัฒนาการและความเขาใจ · หนังสือภาพที่ไมมีคําบรรยาย เปนหนังสือท่ีส่อื ดวยภาพ เลาเร่ืองดว ยภาพ ตงั้ แตต นจนจบ แมไ มม ีคาํ อานแตก็ สามารถเขา ใจเรื่องราวได หนังสือกลุมนใ้ี นเมอื งไทยยงั มนี อยมาก · หนงั สอื นทิ านภาพ มเี นื้อเร่อื งและภาพประกอบเพอ่ื เลา เรอื่ ง และมีตัวละคร เหตุการณตางๆ มเี ร่อื งของอารมณ ความรูสึก เปน หนังสอื สว นใหญในรา นหนังสอื เหมาะสําหรบั เด็กอายุ ๓ ขวบขนึ้ ไปจนกระทั่งถึงเด็กโต ทัง้ น้ีข้นึ อยกู บั เน้อื หา เรือ่ งราวและความซบั ซอ นของเนื้อเรื่อง อยางไรกต็ าม หนงั สอื ภาพบางเลมก็นาํ เอาคณุ สมบตั แิ ละลักษณะตางๆมารวมกันเขา อยใู นเลม เดยี วกนั การเลือก หนงั สอื ภาพสําหรับเด็กนน้ั ขอใหม ุงหวังเพ่ืออา นใหเ ด็กๆฟงอยางมีความสขุ เปนอนั ดับแรก หนังสอื สําหรับเด็กอายุ ๑ ป เด็กท่ีมีอายุอยรู ะหวาง ๐ - ๑ ป จะสนใจเรอ่ื งราวของตัวเองเปน หลัก อยา งเชนรางกายของตัวเอง หรอื สนใจส่ิงตางๆที่ อยูรอบตัวในระยะใกลๆ รวมถึงผูคนทอี่ ยใู กลชดิ เชน พอ แม พี่นอง ญาตทิ ี่รูจ ักใกลชิด ภาพของเลน สัตวเ ลี้ยง เปน ตน หนังสอื สาํ หรับเด็กวยั น้ีจะเก่ยี วขอ งกับเร่ืองของตวั เดก็ เอง และสิง่ ใกลตัวเปน สว นใหญ มีวิธีการเลาเรอ่ื งราวอยาง งายๆ ไมซ ับซอ น ใชค าํ นอยไมมีการอธบิ ายความ มภี าพประกอบชัดเจนใกลเ คียงกับของจรงิ หรือภาพถายท่เี ขาใจงาย ไมร ก รงุ รัง อยบู นพื้นสีสะอาดตา อยางไรก็ดี หนังสือภาพสําหรบั เด็กเล็กมีลักษณะการนําเสนอคลายบตั รคาํ แตค วามแตกตางอยูตรงที่หนังสอื ภาพ มี การคิดและการออกแบบใหร อยเรียงกันต้ังแตเริ่มเร่อื งจนจบเลม มีหลักเกณฑการดําเนินเรอื่ ง หรือบางครั้งอาจจะมีตัวเอก ดําเนนิ เรื่องราว ซ่ึงตัวละครและการเลาเรื่องน้ีเองเปน เสนห และเปนความแตกตางระหวางหนงั สอื ภาพกบั บตั รคํา เดก็ สวนใหญ ช่ืนชอบหนงั สือภาพมากกวาบัตรคาํ เพราะหนังสอื ภาพนั้นนําเสนอเรื่องราวอยา งมีอารมณทีเ่ ขาถงึ เดก็ เลก็ มากกวาบตั รคาํ ๒
หนังสือสําหรับเด็กอายุ ๒ ป เดก็ ในวยั ๒ ปยังถอื เปนวัยเด็กเล็ก ความสนใจของเดก็ วัยนย้ี ังวนเวยี นอยกู ับเร่อื งรอบๆ ตัว และเริ่มสนอกสนใจ ส่ิงมชี ีวิตมากขนึ้ กวาตอนอายุ ๑ ป สนใจส่งิ ของทีเ่ คลอื่ นทไี่ ด หนังสือสําหรบั เด็กอายุ ๒ ปมักเกี่ยวขอ งกับส่ิงรอบตัว สัตวเ ล้ียง และสัตวอ่ืนๆ ยวดยานพาหนะ ของเลน และหนังสืออีกประเภททีเ่ ดก็ วัยนชี้ ื่นชอบคือ หนังสือคํากลอน หนังสือทม่ี ภี าษาเปน จังหวะ ใชค าํ สมั ผัสคลองจอง สาํ หรับหนังสอื ประเภทคํากลอน คําคลองจองอาจจะมขี อจํากัดในเรื่องภาพประกอบ ภาพในหนังสือประเภทน้ีสวน ใหญจึงเปน ภาพประกอบสําหรับตอนใดตอนหนึ่งของเนือ้ เร่อื งท่ีกลาวถงึ ในหนานัน้ ๆ หนงั สอื สาํ หรบั เด็กอายุ ๓ - ๔ ป เด็กวยั ๓ - ๔ ปเ ปน วยั ที่สนุก ต่นื เตน ชอบเรยี นรเู ร่อื งราวใหมๆ ชา งสงสัยชางซัก ชางถามวาอะไร ทําไม อยางไร กําลังตนื่ ตวั ที่จะพฒั นาทกั ษะในดานตางๆ เร่ิมมคี วามคิดตอ โลกรอบตัวมากขึน้ พวกเขาเร่มิ ท่จี ะสนใจคนอน่ื สง่ิ ตางๆ ทอ่ี ยูไกล ออกไปจากตวั เอง เร่มิ อยากรูจกั เพือ่ นใหม สนใจส่งิ มีชวี ติ สง่ิ แวดลอมใหมๆ เร่ิมมีจนิ ตนาการท่นี าตน่ื เตน เดก็ วยั ๓ - ๔ ปม หี นงั สือใหเ ลอื กมากมายและหลากหลาย เนอ่ื งจากเดก็ วัยนเ้ี ริ่มมีบุคลิกภาพ เรมิ่ แสดงออกถึงความ เปน ตัวของตัวเอง การเลือกหาหนังสือสาํ หรับเดก็ ทอี่ ยใู นวยั นี้ จงึ ตองดคู วามชอบ ความสนใจของเขาเปนหลกั บางคนชอบเรือ่ ง จรงิ บางคนชอบเรือ่ งแตง เร่อื งนาต่นื เตนผจญภัย รวมทั้งเร่ืองตลก โดยเฉพาะเด็กวัย ๔ ป มีพลังขับมากมาย คลอ งแคลว วอ งไว กระตอื รอื รน เปลยี่ นแปลงตลอดเวลา บางครัง้ ชอบเร่อื งราวที่เกินจริงมากๆ เด็กผชู ายวัยนีส้ วนใหญช ืน่ ชอบหนงั สอื เกีย่ วกับ ยวดยานพาหนะชนดิ ตางๆ และเครือ่ งยนตกลไก ขณะที่เด็กผูหญิงมกั จะชอบเรอื่ งราวของสง่ิ มีชวี ติ มากกวา หนงั สอื สาํ หรับเด็กวัย ๕ ป เด็กวัย ๕ ป แตกตางจากเด็กวัย ๔ ปอยา งมาก เขาสามารถเลือกไดแ ลววาตัวเองชอบหรอื ไมช อบอะไร เดก็ ๆ วยั นีม้ ี สมาธทิ ยี่ าวนานข้ึน จดจอกบั ส่ิงที่ตัวสนใจไดมากขึ้น คิดภาพเองได สามารถเชอื่ มโยงส่ิงตา งๆ เขา ดว ยกนั ไดอยางซับซอ น มี ความตอ งการท่จี ะเรียนรโู ลกกวาง เปนวัยท่ีมีการเปล่ียนแปลงอยางมากมาย เด็กวยั ๕ ปต องเขาช้ันเรยี นอนุบาลแลว ถึงแมจะไมไดม กี ารเรียนการสอนอยางเขมขน แตเ ด็กๆ เร่ิมรบั รูแลว วา ตนเองตอ ง “เรียน” ถึงแมจะเปนการเรียนท่ีมาในรปู แบบของการเลนก็ตาม เดก็ วัยนี้เร่ิมรจู ักการรับผิดชอบ มีความสนใจเฉพาะ ตวั อยา งชดั เจน เรม่ิ ปฏเิ สธในส่ิงทไ่ี มชอบหรอื ไมถ ูกใจ และยอมรบั กฎเกณฑ กติกาในการอยูรวมกบั ผูอ่ืนได พรอมกบั รบั รูไดถึง ความเปนนามธรรม รจู ักอารมณความรูสึกของผอู ่ืน รูจกั ความเมตตา สงสาร เห็นใจ รจู ักรกั ชอบผอู ่ืนเปน การเลือกหนังสอื สําหรบั เด็กวัย ๕ ป ข้ึนอยูก ับความชอบ ความสนใจของเด็กๆ เปนหลกั เน่ืองจากเขาตัดสินใจเองได แลววา หนังสือเลมนน้ั ๆ ใชห รอื ไมใ ชส่ิงท่ตี ัวเองชื่นชอบ และเด็กๆ วัยนีอ้ ยากฟงเรอ่ื งราวที่ลึกลบั ซบั ซอน ตื่นเตน เตม็ ไปดวย อารมณความรูสกึ ดว ยความสามารถในการคิดภาพไดแ ลว บางครง้ั ไมจําเปน ตองอานหนังสือภาพใหฟงอยางเดียว การเลา นทิ านปาก เปลา อยา งนิทานพ้นื บา น นิทานปรัมปรา เทพนยิ าย นิทานกริมส ใหเด็กๆ ฟง ก็เปน หนทางทนี่ าสนใจ เพราะเด็กๆ จะไดฝ กใช ความสามารถในการจินตนาการ สรา งภาพเองได ๓
หนังสอื สาํ หรบั เด็กวัย ๖ - ๗ ป เดก็ วัย ๖ - ๗ ป อยใู นวยั ทก่ี าํ ลังเร่ิมอา นหนงั สอื เอง เด็กวัยนีอ้ าจจะไมชอบอา นหนังสือเองตามลําพัง แตอ ยากอา น อวดผใู หญด วยความภาคภมู ใิ จ ทสี่ ําคัญผูใหญก็ควรแสดงความสนใจและชน่ื ชมดว ย เด็กๆ วยั น้ีมีความเปน ตัวของตัวเอง ขณะเดียวกนั กช็ อบที่จะมเี พอื่ นเลน หนังสอื ไมไ ดเ ปนแคเคร่ืองมือสงเสริมพัฒนา ทกั ษะการอา นเทานน้ั แตยงั เปนสิ่งท่ีทาํ ใหพ วกเขารจู ักและเขาใจผูอ่นื ท่ีมีปญ หา มอี ารมณแ ละความรูสึกคลา ยๆ กับตัวเอง ผใู หญตองไมเลือกหนงั สือท่ีงายเกินไปสาํ หรบั เดก็ อายุ ๖ - ๗ ป เด็กๆ กลุมน้สี ามารถเขา ใจเรือ่ งราวท่ีซบั ซอ นได แยกแยะส่ิงดีส่ิงไมดไี ดแ ลว และบางคนกช็ อบหนังสือประเภทเร่ืองจรงิ หนงั สอื สําหรับเด็กวัย ๗ - ๙ ป เดก็ ในวัยนี้จะเปลี่ยนส่งิ แวดลอมจากบานเปน โรงเรยี น ตองปรบั ตัวใหเขา กบั คนแปลกหนาและระเบยี บของโรงเรยี น เปน วัยทชี่ อบความสนุกสนาน จึงยังสนใจหนังสือภาพและชอบเร่ืองทช่ี วนใหคิดเกีย่ วกบั ชีวิตจริงมากขึน้ ซ่ึงอาจเปนเร่ืองจริงท่ี เลาสน้ั ๆ งา ยๆ มบี ุคลกิ ลักษณะผูน ําของตัวละคร สนใจอานเร่อื งสัตวต างๆ ไมคอ ยชอบเร่ืองหวาดเสียว หรอื ตืน่ เตน จนเกนิ ไป ชอบเรอ่ื งเก่ียวกับชวี ิตประจําวนั ส่งิ ทีพ่ บเห็นและเกิดความคดิ ริเริ่ม อยากทดลอง อยากคนควา และอยากทํา เด็กผูชายและ เด็กผูหญงิ เร่ิมมคี วามสนใจตางกนั เพราะเด็กผหู ญิงชอบตกุ ตา ของเลน สวยๆ งามๆ สว นเด็กผชู ายชอบเลน ปน รถยนต เครอื่ งยนตต า งๆ เด็กจะมีพฒั นาการทางดา นภาษาดขี ึ้น รคู ําศพั ทเพ่มิ ขน้ึ ใชภาษาแสดงความคิดความรสู กึ ไดอยางดี ความรูสกึ ดาน จรยิ ธรรมเร่ิมพัฒนา มีความรบั ผิดชอบไดบาง เริ่มสนใจส่ิงถูกหรือสง่ิ ผิดแตไมม ีความเขา ใจอยางลึกซึ้งถึงเรอ่ื งความถูกตอ ง พฒั นาการทางสติปญญาของเด็กวัยน้จี ะดูไดจ ากการอาน เดก็ ชายชอบอา นหนงั สอื เก่ียวกับวทิ ยาศาสตร ประวตั ิศาสตรและ ชวี ประวัตติ า งๆ สวนเดก็ หญงิ ชอบนยิ ายเกยี่ วกับอารมณ ความสนใจในการอานจะทาํ ใหเ ด็กสามารถรจู กั คนควา ลงมอื ทาํ เอง และสง ผลใหเ ด็กสามารถพึ่งตนเองมากขึ้น นอกจากนก้ี ารสะสมของตางๆ เปน กจิ กรรมทเ่ี ด็กวยั น้ีชอบมาก แมย ังไมร ูจัก แยกประเภทของที่เก็บมา เชน ตราไปรษณียากร แตจ ะใชวธิ เี ก็บรวบรวมโดยไมแยกประเภท เปน ตน มีความสนใจในสิ่ง แปลกๆ ใหมๆ สีสนั สะดุดตา สัตวเลี้ยง ภาพระบายสี การเลนทใ่ี ชกาํ ลงั แขนขา พฒั นาการทางปญญาทเี่ หน็ ไดชัดคือ มี จินตนาการสงู ขน้ึ เพราะไดรากฐานจากการอา น มคี วามคิดรเิ ร่ิมสรางสรรค คดิ ท่ีจะทาํ และประดิษฐส ิ่งตางๆ ทั้งที่เปน งาน อดิเรกและกจิ กรรมในช้นั เรยี น หนงั สอื ทเ่ี หมาะสําหรบั เด็กวัยนี้ ไดแก หนังสอื ภาพ หนังสอื นทิ าน หนงั สือนวนิยายขนาดสั้น หนังสอื บทรอยกรอง หนังสือการตนู หนังสอื ความรูทวั่ ไป เปนตน หนงั สือสําหรบั เดก็ วัย ๑๐ - ๑๒ ป เด็กในวัย ๑๐ - ๑๒ ป เปนวัยคาบเก่ียวระหวา งวัยเดก็ กบั ระยะกอนวยั รุน วยั น้ีไมแ ตกตา งจากเด็กวัย ๗ - ๙ ปมาก นกั แตเ กิดการเปล่ียนแปลงในรางกายเนอื่ งจากการทํางานของตอมตางๆ มีการเปล่ียนแปลงของโครงกระดกู และสัดสว นของ รางกายเพ่ือเตรียมเขาสวู ยั รนุ วยั เด็กตอนปลายสามารถคิดและแกป ญหาไดมากขนึ้ เร่มิ สนใจอานหนงั สอื ตางๆ เพ่ือทีจ่ ะรวมอภปิ ราย หรอื พดู คุย กับเพื่อนฝูง มคี วามคดิ ริเร่ิมทจ่ี ะทาํ สงิ่ ใหมๆ ทาํ ใหเ กิดความมนั่ คงและเช่ือมัน่ ในตนเอง สนใจเรอ่ื งท่ีเปนจรงิ ธรรมชาตแิ ละ การเดนิ ทาง เดก็ หญงิ สนใจอานเรื่องประเภทรกั เร็วกวาเด็กชาย เด็กเร่ิมคิดและตดั สนิ ใจเอง รูจักรับผดิ ชอบ รูจกั ใชเหตุผล มี ความอยากรูอยากเหน็ เขา ใจสงิ่ ตางๆ ไดเ รว็ ลักษณะเดน ทางสติปญญาของวัยน้ี คือมีความกระตอื รือรน รูจักใชเหตุผลและ ๔
รับฟง ความคิดของผอู ื่น มกี ารวางแผนการไวลว งหนา รกั ษาความลับได และรักษาสญั ญาทใ่ี หไว เด็กผูชายสนใจเรอ่ื ง วิทยาศาสตร คณิตศาสตร ดาราศาสตร เดก็ ผูห ญิงสนใจเร่อื งการครัว ตัดเยบ็ เพราะมรี ากฐานจากการสนใจรูปรางของ ตนเอง ท้ังเดก็ หญิงและเดก็ ชายจะสนใจเลย้ี งสตั ว ดูภาพยนตร เที่ยวไกลๆ และนอ ยรายท่จี ะสนใจเร่ืองของอาชพี การคัดสรรหนงั สือสาํ หรับเด็ก การคัดสรรหนงั สือสาํ หรับเดก็ แตล ะชวงวัย สงิ่ ทคี่ วรคํานึงถึงและสามารถนาํ มาใชเปน วธิ กี ารหรือหลักการในการ พจิ ารณาได ดงั นี้ ๑. พฒั นาการเดก็ หมายถึง กระบวนการเปล่ียนแปลงดา นวฒุ ิภาวะของอวัยวะระบบตางๆและตวั บคุ คล ทาํ ใหเพ่ิมความสามารถของ ระบบและบุคคลใหท าํ หนา ท่ตี างๆไดอยา งมปี ระสทิ ธิภาพสูงขนึ้ ทําส่ิงท่ยี ากและซับซอนย่ิงขึ้นได ตลอดจนการเพมิ่ ทกั ษะใหม และความสามารถในการปรบั ตัวในภาวะใหมข องบุคคลนน้ั พฒั นาการของเด็กแบบองครวม มี ๔ ดาน ประกอบดวย ๑.๑ พฒั นาการทางรางกาย การพัฒนาการใชก ลามเน้อื ใหญ (กลามเนื้อแขน-ขา-ลาํ ตัว) กลา มเน้ือเลก็ (กลา มเนอื้ มอื -นิว้ มือ) และการ ประสานสัมพันธระหวา งกลามเน้อื และระบบประสาท(กลา มเน้ือมือ-ประสาทตา) ในการทาํ กจิ วตั รประจําวนั หรอื ทํากจิ กรรม ตางๆ เชน การเคลอ่ื นไหวสวนตา งๆ ของรางกายตามจังหวะดนตรี การเลน เคร่อื งเลน สมั ผัส การเลนออกกาํ ลงั กลางแจง เปน ตน ประสบการณสาํ คัญท่คี วรสง เสริมประกอบดวย การเคลอ่ื นไหวและการทรงตัว การประสานสมั พันธข องกลามเน้ือและ ระบบประสาท เดก็ ควรมโี อกาสเรียนรูผา นกิจกรรมและการเลนในสภาพแวดลอ มใกลตัว ไดรบั ประสบการณการใชกลามเน้อื ใหญ กลา มเน้ือเลก็ และฝก การประสานสัมพนั ธร ะหวางแขนกบั ขา มือกบั ปาก มอื กับตาไปดว ยกนั ๑.๒ พฒั นาการทางอารมณแ ละจติ ใจ การแสดงออกทางอารมณและความรสู ึกทเี่ หมาะสมกบั วัย มีความสุข รา เริง แจม ใส ไดพัฒนาความรูสึกท่ีดี ตอ ตนเอง และความเช่ือม่ันในตนเอง จากการปฏิบัติกจิ กรรมตางๆ ในชวี ติ ประจําวัน เชน เลน ฟง นิทาน ทองคําคลอ งจอง รอง เพลง เปน ตน ประสบการณสาํ คญั ที่ควรสงเสริมประกอบดวย การรบั รอู ารมณหรอื ความรสู ึกของตนเอง การแสดงอารมณท ี่ เปน สขุ การควบคมุ อารมณและการแสดงออก พอ แมห รอื ผเู ลี้ยงดเู ปนบุคคลที่มีสวนสาํ คัญอยา งยิ่งในการทาํ ใหเดก็ รูสกึ เปน ท่ี รัก อบอุน มน่ั คง เกิดความรูสึกปลอดภัยไววางใจ ซงึ่ จะสง ผลใหเด็กสรา งความรูสกึ ท่ีดีตอ ตนเองและเรยี นรทู จ่ี ะสราง ความสมั พนั ธทดี่ ีกับผูอ่นื ๑.๓ พฒั นาการทางสังคม การสนบั สนนุ ใหเ ด็กไดม โี อกาสปฏิสมั พันธกับบคุ คลและสงิ่ แวดลอ มตางๆ รอบตัวในชวี ติ ประจําวัน ได ปฏิบตั กิ ิจกรรมตางๆ เชน เลนอยา งอิสระ เลนรวมกลมุ กบั ผอู ่ืน แบง ปนหรอื ให รูจกั รอคอย ใชภ าษาบอกความตอ งการ ชว ยเหลือตนเองในกิจวัตรประจําวันได ประสบการณส ําคญั ที่ควรสง เสรมิ ประกอบดวย การชวยเหลอื ตนเอง การปรบั ตวั อยใู น สงั คม เด็กควรมีโอกาสไดเ ลน รวมกลมุ หรือทาํ กจิ กรรมรวมกับผอู ่ืนไมวาจะเปน เดก็ วยั เดยี วกันหรือตา งวัย เพศเดยี วกนั หรือตาง เพศหรือผใู หญอ ยางสมํ่าเสมอ ตลอดจนฝกใหช วยเหลือตนเองในกจิ วตั รประจาํ วนั ตามวัยท่เี ด็กสามารถทําได ๕
๑.๔ พัฒนาการทางสตปิ ญญา เปนการสนบั สนนุ ใหเด็กไดรับรูและเรียนรูสิ่งตางๆ รอบตัวในชีวิตประจําวันผานประสาทสัมผัสท้ัง ๕ และ การเคล่ือนไหว ไดพ ัฒนาการใชภาษาสื่อความหมายและความคิด รูจักสังเกตคุณลักษณะตางๆ ไมวาจะเปนสี ขนาด รูปราง รปู ทรง ผิวสัมผสั จดจาํ ชอ่ื เรยี กสง่ิ ตา งๆ รอบตวั มกี ารฝก การใชอวัยวะรับสัมผัสตางๆ ไดแก ตา หู จมูก ลิ้น และผิวหนังในการ แยกแยะสิ่งที่รับรูและเรียนรูเกี่ยวกับความเหมือน ความแตกตาง และมิติสัมพันธ ประสบการณสําคัญท่ีควรสงเสริม ประกอบดว ย การสังเกต การฟง การคิด การแกปญหา และภาษา เด็กควรไดรับการชี้แนะใหรูจักคุณลักษณะหรือคุณสมบัติ ของสง่ิ ตางๆ รอบตัว สังเกตวัตถหุ รอื สิง่ ของทม่ี ีสีสันและรูปทรงทีแ่ ตกตางกัน เดก็ ควรไดฝ ก การฟง เสียงตางๆ รอบตัว โดยเฉพาะ เสียงพูดหยอกลอโตตอบของพอแมหรือผูเล้ียงดู เพ่ือกระตุนใหเด็กออกเสียงและเลียนเสียงจนพัฒนาเปนคําพูดท่ีส่ือ ความหมายไดมากขึ้น เด็กควรมีโอกาสสํารวจ คนควา ทดสอบ ทดลองวัตถุสิ่งของที่เปนของจริง ส่ิงของที่เลียนแบบของจริง และส่ิงของที่ไมมีรูปแบบชัดเจน ตลอดจนฝกใหเด็กไดคิดวางแผน คิดตัดสินใจ หรือ คิดแกปญหาในเร่ืองท่ีงายๆ ดวยตนเอง และใหเด็กไดแสดงออกถึงจินตนาการ ความคิดสรางสรรคตางๆ ออกมาเปนภาพวาดหรือบอกเลาเรื่องราวตางๆ ตาม ความสามารถของวยั นอกจากพัฒนาการในดา นตางๆ ขางตน แลว เด็กควรไดรับการปลูกฝง คุณธรรมควบคูไปกบั การเรยี นรู พื้นฐานอนื่ ๆ อันไดแก ๘ คุณธรรมพืน้ ฐาน ประกอบดวย ขยัน คือ ผทู ่มี ีความตั้งใจเพียรพยายามทําหนาท่ีการงานอยา งจรงิ จังและตอเนือ่ งในเร่ืองที่ถูกท่ีควร สงู าน มีความพยายาม ไมทอ ถอย กลา เผชิญอปุ สรรค รักงานท่ีทํา ตัง้ ใจทําหนา ทอี่ ยางจริงจัง ประหยัด คอื ผทู ี่ดําเนนิ ชวี ิตความเปนอยูอ ยางเรียบงา ย รูจกั ฐานะการเงินของตน คิดกอ นใช คิดกอ นซ้ือ เก็บออมถนอมใชท รัพยสนิ ส่ิงของอยางคุมคา ไมฟ ุมเฟอ ย ฟุงเฟอ รูจักทําบัญชีรายรบั – รายจา ย ของตนเองอยเู สมอ ซอ่ื สัตย คือ ผทู ่มี คี วามประพฤติตรงท้ังตอเวลา ตอหนา ที่ และตอวิชาชพี มคี วามจรงิ ใจปลอดจาก ความรสู ึกลําเอียง หรอื อคติ ไมใชเ ลหก ลคดโกงท้ังทางตรงและทางออ ม รบั รูหนาที่ของตนเอง ปฏบิ ัตอิ ยางเต็มท่ีและถกู ตอ ง มีวนิ ัย คือ ผทู ป่ี ฏิบัตติ นในขอบเขต กฎ ระเบยี บของสถานศกึ ษา สถาบนั องคกร และประเทศ โดยท่ตี น ยนิ ดีปฏิบตั ติ ามอยา งเต็มใจและตงั้ ใจยึดมน่ั ในระเบียบแบบแผนขอบงั คับและขอ ปฏบิ ตั ิ รวมถึงการมวี นิ ยั ท้ังตอ ตนเองและ สังคม สุภาพ คือ ผูทีม่ คี วามออนนอมถอมตนตามสถานภาพและกาลเทศะ มสี มั มาคารวะ เรยี บรอยไมกา วราว รุนแรง หรือวางอํานาจขมผูอ่ืนทั้งโดยวาจาและทาทาง เปน ผูมีมารยาทดีงาม วางตนเหมาะสมกบั วัฒนธรรมไทย สะอาด คือ ผทู ี่รกั ษารางกาย ทอี่ ยูอาศัย และสง่ิ แวดลอมไดอยา งถูกตองตามสขุ ลักษณะ ฝก ฝนจิตไมใ ห ขุนมวั มีความแจมใสอยเู สมอ ปราศจากความมัวหมองท้ังกาย ใจและสภาพแวดลอม มีความผอ งใสเปนทเี่ จริญตาทําใหเกิด ความสบายใจแกผูพ บเหน็ สามัคคี คอื ผูทีเ่ ปด ใจกวา ง รบั ฟงความคิดเหน็ ของผอู น่ื รบู ทบาทของตนทัง้ ในฐานะผูนําและผูตามท่ีดี มี ความมุงมน่ั ตอ การรวมพลงั ชวยเหลือเกอ้ื กูลกนั เพือ่ ใหก ารงานสาํ เรจ็ ลุลวง สามารถแกป ญ หาและขจดั ความขัดแยง ได เปนผูมี เหตมุ ผี ล ยอมรบั ความแตกตาง ความหลากหลายทางวัฒนธรรม ความคิดและความเชอ่ื พรอ มทจี่ ะปรับตัวเพื่ออยูรวมกนั อยาง สนั ติและสมานฉนั ท มีนํา้ ใจ คอื ผูใ หและผูอาสาชวยเหลอื สังคม รจู กั แบงปน เสยี สละความสุขสวนตน เพอื่ ทาํ ประโยชนใหแ ก ผอู ืน่ เห็นอกเห็นใจ และเห็นคณุ คา ในเพือ่ นมนษุ ยและผูท่ีมีความเดอื ดรอน มคี วามเอือ้ อาทรเอาใจใส อาสาชว ยเหลอื สังคม ดว ยแรงกายและสติปญ ญา ลงมอื ปฏบิ ตั กิ ารเพ่อื บรรเทาปญหา หรอื รวมสรางสรรคสง่ิ ดงี ามใหเ กิดขน้ึ ในชมุ ชน ๖
๒. หลักสูตรการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๔๔ ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร แบงออกเปน ๘ กลุมสาระ การเรียนรู ประกอบดว ย ๒.๑ กลุมสาระการเรยี นรภู าษาไทย ๒.๒ กลุมสาระการเรียนรูคณิตศาสตร ๒.๓ กลุมสาระการเรียนรวู ิทยาศาสตร ๒.๔ กลมุ สาระการเรียนรูสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๒.๕ กลมุ สาระการเรียนรูสขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ๒.๖ กลุมสาระการเรียนรศู ิลปะ ๒.๗ กลุมสาระการเรียนรูการงานอาชพี และเทคโนโลยี ๒.๘ กลุมสาระการเรียนรูภาษาตางประเทศ สาระการเรยี นรทู ั้ง ๘ กลมุ เปน พน้ื ฐานสําคัญที่ผูเรียนทกุ คนตองเรยี นรู โดยจัดเปนสองกลุม คอื กลมุ แรก ประกอบดวย ภาษาไทย คณติ ศาสตร วิทยาศาสตร สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เปนสาระการเรยี นรทู ่สี ถานศึกษาตอ ง ใชเ ปนหลกั ในการจดั การเรียนการสอนเพอ่ื สรา งพนื้ ฐานการคดิ และเปนกลยุทธใ นการแกปญหาและวกิ ฤตของชาติ กลุมทสี่ อง ประกอบดวย สุขศึกษา และพลศกึ ษา ศิลปะ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ภาษาตางประเทศ เปน สาระการเรียนรทู เี่ สรมิ สราง พน้ื ฐานความเปนมนุษยแ ละสรางศักยภาพในการคิดและการทํางานอยา งสรา งสรรค ตัวอยางหนังสอื สาํ หรบั เด็กชวง ๗-๙ ป และ ๑๐-๑๒ ป จะจดั กลุม เนือ้ หาตามกลุม สาระการเรียนรู เพอ่ื ความสะดวก สําหรบั ครู ในการสงเสริมและแนะนําหนงั สือทเ่ี หมาะสม การแบงกลมุ อายุหนังสือสําหรับเด็ก ๑. กลมุ อายุ ๐ – ๓ ป : หนังสือที่พอ แมอา นใหฟ ง ๒. กลุมอายุ ๔ – ๖ ป : หนังสอื ท่พี อ แมแ ละลูกอานดวยกนั ๓. กลุมอายุ ๗ – ๙ ป : หนงั สือเสริมการเรียนรูเด็กวัยเรียนชว งชน้ั ท่ี ๑ ๔. กลมุ อายุ ๑๐ – ๑๒ ป : หนงั สอื เสริมการเรียนรเู ด็กวยั เรียนชว งช้ันที่ ๒ ๗
หลักเกณฑในการคดั สรรหนงั สอื สําหรบั เด็กวัย ๐ – ๖ ป ๑. เนื้อหา ๑.๑ สนุก นา อา น ชวนตดิ ตาม ๑.๒ เร่อื งราวเหมาะสมกบั ความรสู ึกของเด็ก สอดคลองกบั ชีวติ ประจาํ วันและการเรียนรูต ามวยั ๑.๓ สงเสรมิ และกระตนุ จนิ ตนาการ ๑.๔ สงเสรมิ พัฒนาการของเด็กแบบองครวม (รา งกาย อารมณแ ละจิตใจ สังคม สติปญ ญา) ๑.๕ สงเสรมิ คุณคาทางจิตใจและอารมณ ๑.๖ สง เสรมิ คุณลักษณะที่พึงประสงคข องเด็กไทย ๑.๗ เด็กไดความรแู ละความเขา ใจจากเรื่องนั้นในระดับทเ่ี หมาะสม ๑.๘ เน้อื หามีความหลากหลาย สอดคลอ งกับยุคสมัย ๑.๙ หากเปน สารคดี ตอ งสอื่ สาระท่ีถกู ตอ งและชัดเจน ๒. ภาษา ประโยคสัน้ เขาใจงาย เปนภาษาที่เหมาะสมกับการสื่อสารของเด็ก ๒.๑ ภาษาสละสลวย อา นหรือฟงแลว ร่ืนหู ไมสะดุด ไมติดขัด ๒.๒ มจี ังหวะ คาํ คลองจอง คาํ ซ้ํา ชวนใหเด็กติดตาม และจํางา ย ๒.๓ จัดวรรคตอนถกู ตอง ๒.๔ ภาษาและภาพนาํ เสนอไดอยางสอดคลองเขา กันไดดี ๒.๕ ภาษาจูงใจใหเด็กสนใจติดตามเรอื่ งลําดับถัดไป ๒.๖ ลกั ษณะและขนาดของตัวอกั ษรเหมาะสมกับวัยของเดก็ อา นแลวสบายตา ๒.๗ ๓. แนวการเขียนและวรรณศิลป ๓.๑ การนาํ เสนอนาสนใจ ชวนฟงและชวนอา นตาม ๓.๒ ลีลาสนุก เราใหอยากอาน มีลกู เลน ภาษา ๓.๓ แฝงอารมณข ันและสรางความตืน่ เตน สรางความรูสกึ พงึ พอใจและประทบั ใจ ๓.๔ มีความคดิ สรางสรรค นําเสนอดวยวิธแี ปลกใหม ๓.๕ ชวนใหเ ดก็ รูจ ักตงั้ คาํ ถาม หรอื สนใจคิดคนตอเน่ือง ๓.๖ สรา งเสรมิ นิสยั รักการอา นได ๔. ภาพประกอบ ๔.๑ ภาพมขี นาดใหญ สวยงาม ดงึ ดูดใหอยากดู และชว ยเสรมิ จินตนาการ ๔.๒ ภาพสวยงามเหมาะสมกับวัยของเด็ก ลายเสน ไมซบั ซอนจนเขา ใจยาก ๔.๓ สดั สวนภาพมากกวาคร่ึงของรปู เลม หรือเนอื้ เร่ือง ๔.๔ มมี มุ ในการนําเสนอภาพ หากเปนภาพวาดตอ งสามารถเชอ่ื มโยงกับของจรงิ ได ๔.๕ คําอธบิ ายมีนอ ย หรอื อาจไมมเี ลยกไ็ ด แตส ื่อความไดเ หมาะสม ๘
๕. ภาพและองคประกอบอืน่ ๆ ๕.๑ ออกแบบและจัดวางสวนประกอบตา งๆ ลงในหนาหนังสือไดด ี ๕.๒ สสี ันสดใสสวยงาม ชว ยสง เสริมจินตนาการของเดก็ ๕.๓ รูปเลมขนาดเหมาะสม หยิบจบั อานไดสะดวก การเขาเลมแข็งแรงคงทน ๕.๔ วสั ดทุ ใ่ี ชไมกออันตราย เชน กระดาษไมบางหรอื คมจนอาจบาดมือเด็ก ๕.๕ มเี ทคนิคพิเศษ ชวนใหเ ดก็ อานและรักการอา นมากขน้ึ ๕.๖ การพมิ พชัดเจน กระจางตา ตวั อักษรอา นงาย ๕.๗ ราคาเหมาะสมกับรปู เลม และเนอื้ หา ๕.๘ สีของกระดาษพื้นและสีของตัวอกั ษรไมเ ปน อันตรายตอ สุขภาพตาของผอู า น หลกั เกณฑก ารคัดสรรหนงั สือสําหรับเดก็ วยั ๗-๙ ป ๑. เนอ้ื หา ๑.๑ สง เสริมและสรา งจินตนาการ ๑.๒ สง เสริมและพฒั นาทักษะกระบวนการคิด เชน ความคิดสรา งสรรค, ความคดิ วเิ คราะห ๑.๓ สนุกสนานเพลิดเพลนิ ชวนติดตาม ๑.๔ เปน ตัวอยางที่ดีในการดําเนินชวี ิต สงเสรมิ คุณธรรมและศีลธรรมอันดี ไมเปน เรอื่ งท่โี หดรายรุนแรง ไมสราง คานิยมในทางที่ผิด ไมน ําเสนอเน้ือหาในทางลบ ๑.๕ นาํ เสนอเนอ้ื หาไดตามวัตถุประสงค สอ่ื ความเขา ใจไดตรงกัน ๒. ภาษา ๒.๑ ราบร่นื สละสลวย เหมาะสมกับเนอ้ื หาและตัวละครนนั้ ๆ เปน ภาษาที่เหมาะสมกบั วยั และสอ่ื ความหมายได เขาใจโดยท่ัวกัน ๒.๒ ไมม ถี อยคาํ หยาบคาย ถาเปนรอยกรองและบทกวีตางๆ มีการเลือกสรรภาษาไดอยา งงดงาม มีอรรถรสทาง วรรณศิลป และใหค วามสุนทรีตอ ผูอาน ๒.๓ ใชป ระโยคที่ไมซบั ซอน เขาใจงาย ๒.๔ ถูกตองตามหลกั ภาษา ๓. ภาพประกอบ ๓.๑ มีสีสนั สดใส สวยงาม เหมาะสมและสอดคลอ งกับเนอื้ เร่อื ง ๓.๒ ภาพประกอบกบั เน้ือหามีความสําคญั เทาเทยี มกัน ๓.๓ สามารถส่อื ความหมายไดชัดเจน ๓.๔ ตอบสนองความสนใจ ๓.๕ สีที่พิมพไ มเปน อันตรายตอ สุขภาพของผูใช ๙
๔. องคป ระกอบอ่นื ๆ ๔.๑ เปน หนังสือท่เี ด็กอา นและสามารถเขา ใจไดเอง ๔.๒ ขนาดและสขี องตัวอักษรชัดเจน อา นงาย ถูกตอ งตามรูปแบบพยญั ชนะไทย ๔.๓ สขี องกระดาษพ้ืนและสีของตัวอักษรไมเปนอันตรายตอ สุขภาพตาของผอู าน ๔.๔ ตัวละคร อาจเกิดจากจนิ ตนาการ มีพฤติกรรมทีเ่ หนอื จริงได เชน สัตวพูดได ตนไมพ ดู ได ถา เปนขอ มลู ทางดานวิชาการตองเปน ขอมูลท่ีถูกตอง ๔.๕ ถา ตวั ละครเปนคน ควรอยใู นวัยเดียวกบั ผอู าน ๔.๖ การจบของเรอื่ งตอ งจบดวยความสขุ หลักเกณฑการคดั สรรหนงั สือสําหรับเดก็ วัย (๑๐-๑๒ ป) ๑. เนอื้ หา ๑.๑ สง เสริมและสรา งจินตนาการ ๑.๒ พฒั นาทักษะกระบวนการคิด เชน ความคิดสรา งสรรค, การคิดอยางมีวิจารณญาณ ๑.๓ สนุกสนานเพลิดเพลิน ชวนติดตาม หากเปน หนังสือประเภทสารคดีควรมีเนือ้ หาถูกตองตามความเปน จรงิ ๑.๔ เปนตวั อยา งท่ดี ีในการดาํ เนินชวี ิต และสรางคานิยมดานคณุ ธรรมจริยธรรม ไมเ ปน เรือ่ งท่ีโหดรา ยรนุ แรง ไม สรา งคา นิยมในทางที่ผิด ไมน าํ เสนอเน้ือหาในทางลบ หรอื ลอ แหลมตอ ศีลธรรม ๑.๕ นําเสนอเนื้อหาไดต ามวัตถุประสงค ส่ือความเขา ใจตรงกัน ๒. ภาษา ๒.๑ ราบรืน่ สละสลวย เหมาะสมกบั เน้อื หาและตัวละครน้นั ๆ เปนภาษาที่เหมาะสมกับวยั และสื่อความหมายได เขาใจโดยทั่วกนั ๒.๒ ไมมถี อ ยคาํ หยาบคาย ถาเปนรอ ยกรองและบทกวตี างๆ เลอื กสรรภาษาไดอ ยางงดงาม มอี รรถรสทาง วรรณศิลป และใหค วามสนุ ทรีตอ ผอู าน ๒.๓ ใชป ระโยคท่ียาวขึ้นและมีความซบั ซอนมากข้ึน แตสามารถสอ่ื ความหมายไดต รงตามวตั ถุประสงคข อง ผเู ขยี น ๒.๔ ถกู ตองตามหลักภาษา ๓. ภาพประกอบ ๓.๑ มคี วามเหมาะสมและสอดคลอ งกบั เนื้อเรื่อง ถา เปนขอมูลทางดา นวชิ าการ ภาพประกอบตองเปน ภาพท่ี ถูกตอ ง ๓.๒ ไมเนนภาพประกอบมากนัก ๓.๓ สามารถสอื่ ความหมายไดชดั เจน ๓.๔ ตอบสนองความสนใจ ๓.๕ สที ีพ่ ิมพไ มเ ปนอันตรายตอสขุ ภาพของผูใช ๑๐
๔. องคป ระกอบอนื่ ๆ ๔.๑ เปนหนงั สอื ที่เด็กอานแลว สามารถเขาใจไดเอง ๔.๒ ขนาดและสีของตวั อักษรชัดเจน อานงาย ถูกตองตามรปู แบบพยญั ชนะไทย ๔.๓ สขี องกระดาษพ้นื และสขี องตัวอักษรไมเ ปนอนั ตรายตอสุขภาพตาของผูอ า น ๔.๔ ตัวละครสมจรงิ มากข้ึน ๔.๕ ขอมลู ถูกตอ งตามความเปน จริง ๔.๖ เนอ้ื หาควรใหกาํ ลงั ใจ ใหค วามหวังแกผูอ าน เสริมสรางใหเกดิ ปญญา และกลอมเกลาจิตใจใหอ อ นโยน รายชื่อหนังสือสําหรับเด็กกลุมอายุ ๐-๑๒ ปท่ียกมาแนะนําไวในคูมือการเลือกหนังสือเขาหองสมุดชุดนี้ เปนเพียง หนังสือสวนหนึ่งท่ีเจาหนาที่คณะทํางาน สํานักงานอุทยานการเรียนรู (TK Park) ไดคัดเลือกมาจากเกณฑที่คณะกรรมการ ผทู รงคุณวฒุ ไิ ดต งั้ ไว โดยจัดแบง ตามการเรียนรู และกลมุ อายุของเดก็ กลา วคือ หนงั สอื สาํ หรบั เดก็ เล็กอายุ ๐-๓ ป ๔-๖ ป ๗-๙ ป และ ๑๐-๑๒ ป โดยหนงั สอื สําหรบั ทุกกลุมอายุ เนนใหส อดคลอ งและเหมาะสมกับวัย รวมท้ังสอดรับกับหนวยการเรียนของ เด็กในระดับช้นั อนบุ าล และสาระการเรียนรูในกลมุ เด็กชนั้ ประถมศกึ ษา ดงั น้นั หนงั สือสาํ หรับเด็กเลก็ (อายุ ๐-๖ ป) ท่ีนํามาแนะนําท้ังหมดน้ี จึงมีลักษณะกระจายใหเขากับหนวยการเรียน ของเดก็ ในระดบั อนบุ าล ซ่ึงรายชอ่ื ของหนงั สอื จงึ ไมไ ดจาํ กัดอยทู หี่ นังสือนทิ านเทา นน้ั สวนระดับประถมศกึ ษา (อายุ ๗-๑๒ ป) ก็เชนเดียวกัน เปนรายชื่อหนังสือที่สวนใหญถูกจัดใหอยูในกลุมที่สามารถ เช่ือมโยงเขา กบั สาระการเรียนรูของเดก็ ครบทุกหนว ยสาระการเรียนรู โดยมิไดเนนท่ีหนังสือประเภทวรรณกรรม ซ่ึงเปนหนังสือ อกี กลมุ หนงึ่ ท่มี คี วามสาํ คัญไมแพหนังสอื กลุมความรู คณะผูจัดทาํ มคี วามประสงคจ ะใหข อมูลทั้งหมดอนั ประกอบดวย แนวทางการวิเคราะหหนังสือเพ่ือนํามาใช ภาษาที่ ใชในหนังสอื และการนําเสนอภาพประกอบของหนังสือในคูมือฉบับน้ี เปนขอมูลประกอบแกครู หรือบรรณารักษ ท่ีมีหนาที่ คดั เลือกหนงั สอื เขา หอ งสมดุ และเพือ่ เปนแนวทางเบือ้ งตนในการพิจารณาคัดเลอื กหนงั สือเลม อืน่ ๆเขา หองสมุดตอ ไป ๑๑
หนังสือสาํ หรับเด็กชวงวยั ตา งๆ พรอ มบทวเิ คราะห ๑๒
สาํ หรับเด็กวัย ๐ – ๓ ป หนังสอื ที่พอ แมอ านใหฟ ง ๑๓
ชดุ พอแมล ูก ช่ือหนงั สอื นอ งหมเี ลนกบั พอ ผแู ตง ชเิ งโอะ วาทานาเบะ ผแู ปล พรอนงค นิยมคา สํานักพิมพ แพรวเพ่ือนเดก็ ปท ่พี ิมพ พ.ศ. ๒๕๔๗ ราคา ๑๔๐ บาท นอ งหมเี ลน กบั พอ เปนหนังสือที่ไดรับคัดเลือกใหในโครงการ “หนังสือเลมแรก” และถูกจัดอยูในชุดหนังสือเรื่องเอก ของโลกของสํานักพมิ พแพรวเพือ่ นเดก็ นอ งหมีเลน กบั พอ ถูกใจเดก็ เลก็ ดว ยภาษาและกริยาทาทางของตวั ละครอยาง “นองหมี” เนื้อหาใหความรูสึกที่อบอุน และบอกเลาเร่อื งความสัมพันธอนั งดงามระหวางพอกับลูกไดอยางดี เรื่องเลาถึงนองหมีตัวเล็กๆกําลังเลนสนุกกับพอ ซึ่งบาง กจิ กรรมท่เี ลนอาจจะดเู หมอื นโลดโผนสําหรบั เด็กเล็ก แตเมื่อเด็กไดอยูกับพอ เลนกับพอ (หรือแม) จะทําใหเด็กรูสึกปลอดภัย ซ่ึงเด็กๆมกั จะชอบและรสู กึ สนุกทุกครง้ั ทไ่ี ดเหน็ ภาพนองหมเี ลนกบั พอ ในหนังสือเลม นี้ ใชภาษางา ยๆ เพียงหนาละหนงึ่ ประโยคเทานัน้ เชน ประโยค นองหมียืนบนเทาพอ โยกเยก โยกเยก หรือ พอเหว่ียงนองหมี ตุบ แตสามารถทําใหเด็กรูสึกสนุกไดดวยภาพท่ีมีชีวิตชีวา ใบหนาของตัวละครท่ีบงบอกถึงความสุข ขณะทอี่ า นหนงั สอื เลมนใี้ หเด็กฟง เด็กๆมกั อยากจะเลนเลียนแบบตัวละครเสมอ และพอแมผ ูปกครองก็ไมควรปลอยโอกาสนี้ให ผา นไป หนังสอื สาํ หรบั เดก็ เล็ก ควรมีภาพทช่ี ดั เจน ไมมฉี ากรกรุงรงั ใชคํานอยแตสามารถส่ือความหมายไดดี ซ่ึงเร่ืองนองหมี เลน กบั พอ มีคุณสมบตั ิที่ดีของหนงั สือภาพสําหรับเดก็ อยา งครบถว น สว นตวั อกั ษรทใ่ี ชใ นเลม เปน ตัวเขยี น ซงึ่ ใหอ ารมณที่แตกตางจากตัวพิมพ เด็กๆที่ดูหนังสือเลมน้ีจะมองวาตัวอักษรท่ี ปรากฏอยใู นหนาเปนภาพไปดวย เด็กเล็กๆจะไมแยกวาสวนใดเปนตัวหนังสือ สวนใดคือภาพ จึงทําใหหนังสือเลมน้ีมีความ สมบรู ณอยูในทุกๆหนา เทคนิคในการวาดภาพเปนเทคนิคสีไมท่ีมีใหความรูสึกท่ีนุมนวล ดวยโทนสีสะอาด ไมมีสีสันฉูดฉาด บาดตา ภาพประกอบจงึ เขากนั ไดเ ปนอยา งดกี ับเน้ือเรอื่ งท่อี บอนุ และออนโยน การทีห่ นังสือมพี ื้นทโ่ี ลงขาวสะอาด ไมไดห มายความวาพืน้ กระดาษสีขาวๆนเ้ี ปนความวา งเปลา แตเด็กๆท่ีดูจะรูสึกได ถึงพื้นท่ีเลนที่มีความโลงมากพอสําหรับใหนองหมีไดเลนสนุกกับพออยางการเลนรถไฟ เลนเคร่ืองบิน และกวางขวางมาก พอทีจ่ ะนอนเหยียดอยางสบายฟงพอ อา นหนังสอื นิทาน และส่ิงสําคญั ในหนังสือเด็ก คือตอนจบ นอ งหมเี ลน กับพอ จบลงอยา งมีความสุขคอื พออา นนิทานใหนองหมีฟง และ ภาพสดุ ทายเปนภาพพอ กบั นองหมนี อนหลับไปดว ยกนั อยางมคี วามสุข เมื่ออานเร่อื ง นองหมีเลนกับพอ จบลงควรใหเด็กไดมีโอกาสเลนแบบนองหมีบาง เพราะจะทําใหเด็กไดฝกเชื่อมโยง ภาพทเ่ี ห็นในหนังสอื กับความเปน จริงที่กําลังกระทําอยู การทําเชนนี้จะชวยใหหนังสือมีชีวิตชีวามากข้ึน และเปนการสงเสริม นสิ ยั รักการหนังสอื และรกั การอา นใหแ กเ ด็กๆ ๑๔
ชื่อหนงั สอื เพราะวาแมรกั ลกู มากจะ ผแู ตง กิโด ฟาน เกเนต็ เทน ผูแปล ประวี ศรนี อก สาํ นักพมิ พ แพรวเพ่ือนเด็ก ปทพ่ี มิ พ พ.ศ. ๒๕๔๘ ราคา ๒๒๐ บาท “เพราะวา แมรักลูกมาจะ” เปน หนงั สือสําหรบั เด็กเล็กทม่ี ขี นาดคอนขา งใหญ ซงึ่ อาจจะใหญเ กนิ ไปสักหนอยสําหรับให เด็กๆเปดดเู อง หนงั สือเลม นีจ้ ึงเหมาะอยา งยิ่งท่จี ะใชด ว ยกนั ระหวา งผใู หญกบั เด็ก หรอื ระหวา งแมกับลกู เนื้อหาในเลมนําเสนอดวยประโยคถาม-ตอบ ซ่ึงนําเด็กเล็กๆไปสูความรูความเขาใจตอโลก และชวยเพ่ิมพูน ประสบการณใ หแ กเ ด็กไดเปนอยางดี หนงั สอื เลมนี้นาํ เสนอดวยภาพวาดสสี ะอาดตา เหมาะสมกับเนอ้ื เรือ่ งท่ีเกิดขึ้นท่ีข้ัวโลก เปนเรื่องราวของลูกหมีขั้วโลก แสนฉลาดและซกุ ซน เนอ้ื เรื่องบอกเลา เรือ่ งราวชวี ิตของลูกหมขี ้ัวโลกทอี่ ยูในวัยกําลังเรียนรู เชน ลูกหมีรูวาหิมะเย็นและละลาย ไดในปาก รูวาพระอาทิตยข ึ้นทางทิศตะวนั ออก และตกทางทิศตะวันตก รูจักวิธีจับปลาเปนอาหาร รูจักวิธีการเดินและล่ืนไถล บนพืน้ หิมะอยา งปลอดภยั ลกู หมีขัว้ โลกตวั นี้รูจกั เกือบทกุ สิ่งท่ีอยรู อบๆตวั แตม ีเพียงสิ่งเดียวที่มันไมคอยแนใจนัก คือ มันอยาก รูวาถาลูกหมีขั้วโลกตัวน้ี ไมไดเปนลูกหมีสีขาวสะอาดและนารักแลว แมหมีจะยังคงรักมันอยูหรือเปลา และลูกหมีก็ไดรับ คาํ ตอบทที่ าํ ใหม ันพอใจและรูสึกอบอุนใจอยางทส่ี ุด หนังสอื ที่เก่ียวกบั หมขี ว้ั โลกและความหนาวเย็นของหิมะข้ัวโลก มีตีพิมพไมมากนักในเมืองไทย การอานหนังสือท่ีมี ภาพบรรยากาศท่ีแตกตางกับเมืองรอนอยางเมืองไทยใหเด็กๆฟง จะชวยใหเด็กไดเปดโลกทัศน และไดรูจักโลกกวาง การ นําเสนอเร่ืองราวของแมหมกี บั ลกู หมีขั้วโลก เปน การนําตวั ละครท่เี ดก็ ๆชืน่ ชอบโดยธรรมชาติมาผูกเปนเรื่องราวท่ีอบอุนและนา ประทับใจ เดก็ ๆจะไดเ รยี นรูเรอ่ื งราวมากมายจากหนงั สือภาพสาํ หรบั เด็กเลมโตเลมน้ี เมื่ออานเรื่อง “เพราะวาแมรักลูกมากจะ” จบแลว คณุ พอคุณแมอาจจะพาลูกทํากจิ กรรมเพือ่ กระตนุ การพฒั นาประสาทสมั ผสั เชน ประสาทสัมผัสทางผิวกาย แนะนําให เด็กๆรูจ กั และเขา ใจคาํ วา รอ น เยน็ และอุน หรอื การใหเดก็ ๆทดลองอมน้ําแข็งกอนเล็กๆ เหมือนกับที่ลูกหมีขั้วโลกไดเลียหิมะ แลว รอใหมันละลายอยใู นปาก กิจกรรมเชน นี้จะทําใหเ ดก็ ๆรูสึกสนุกพรอ มๆกบั ไดพ ฒั นาการเรยี นรูไปดวย ภาษาท่ีใชใ นหนังสอื เลม นี้ เปนภาษาทเี่ รยี บงาย เหมาะสมกับวัยของเด็กเล็กหรือวัยของลูกหมีข้ัวโลก การตั้งคําถาม โดยใชรูปประโยคแบบเดก็ ๆของลูกหมี ชวยในการสื่อสารเรื่องราวตางๆที่ดูเหมือนจะเปนเรื่องยาก ใหเขาใจไดอยางงายๆ ใน เนอ้ื เรอ่ื งแฝงการใหข อมูลความรแู กเด็กโดยทไี่ มมีลกั ษณะยัดเยยี ด เดก็ ๆจงึ สามารถเรียนรไู ดอ ยา งสนกุ สนาน ๑๕
ชอื่ หนังสือ เคา โมงหลบมุม ผูแตง ภาพพมิ พ สาํ นกั พิมพ ไทยวฒั นาพานชิ ปท พ่ี มิ พ พ.ศ. ๒๕๔๕ ราคา ๕๐ บาท เคาโมงหลบมุม เปนหนังสือภาพที่เลาเรื่องความสัมพันธของเด็กกับครอบครัว ซ่ึงเปนเรื่องราวท่ีอาจจะเกิดข้ึนกับ ครอบครวั ใดกไ็ ด เคาโมงเปน นกเคาแมวตัวเล็กๆท่ีเรียกรองความสนใจดวยการพาตัวเองหลบไปอยูตามลําพัง แตเมื่อถึงที่สุด เคาโมง ก็เปน เชน เดยี วกบั เดก็ ๆทุกคน คอื ไมม ที ่ีไหนจะทําใหรูสึกอบอนุ ไดเทากับที่บา น ทมี่ พี อแมพี่นอ งอยูร วมกนั เทคนิคในการทาํ ภาพประกอบของ”เคา โมงหลบมุม” เปนงานที่มชี ้ันเชงิ ทางศลิ ปะ สรา งภาพดว ยเทคนิคภาพพิมพ ดวย สโี ทนอบอนุ ใหความรสู กึ ที่เขากันไดดีกับเนื้อเร่ือง ดวยขอจํากัดของเทคนิคภาพพิมพที่ไมสามารถสรางภาพใหมีรายละเอียด ไดม ากนัก แต “เคาโมงหลบมมุ ” ก็ดึงดูดความสนใจของเด็กๆดวยดวงตาทีโ่ ดดเดนของนกฮกู ตัวนอ ย เมื่อวิเคราะหถึงเน้ือหาหรือแกนของหนังสือเร่ืองเคาโมงหลบมุม จะเห็นวา ผูเขียนหนังสือเลมน้ีมีความเขาใจ ความรูสึกนึกคิดของเด็กไดดี การท่ี “เคาโมง” พยายามยึดตัวเองเปนศูนยกลางนี้ เปนพฤติกรรมตามวัยของเด็กเล็ก และ โดยเฉพาะการเกดิ มาเปน ลูกคนเลก็ ของครอบครวั เด็กจะไดเ รยี นรปู ระสบการณจ ากเคาโมง ขณะที่ผูใหญเองก็จะไดเรียนรูและ ทาํ ความเขาใจตอ ความรูสกึ นกึ คดิ ของเด็กๆดวยเชนกัน หมวดคณุ ธรรม ช่อื หนังสือ ขอบคุณ ขอบคณุ ผแู ตง สริ ิลกั ษณ รัตนสุวจั น สํานกั พมิ พ พาส พับลชิ ช่ิง ปท ่ีพมิ พ พ.ศ. ๒๕๔๗ ราคา ๔๕ บาท หนังสือเร่อื ง “ขอบคณุ ขอบคณุ ” อยูในชดุ หนังสอื เลม แรกของสาํ นกั พิมพ และยังมีอีก ๒ เลมคือ “สวัสดี สวัสดี” และ “ขอโทษ ขอโทษ” เปนหนงั สือทีส่ อนใหเ ด็กไดร จู ักแสดงกรยิ าขอบคุณ สวดั สดีทกั ทายและกลาวคําขอโทษ หนงั สอื ชดุ น้ีเหมาะสาํ หรับเด็กเลก็ เพราะเนื้อหาของเรื่องต้ังใจสื่อสารกับเด็กเล็ก ใหคําคลองจองในการเลาเร่ือง ทํา ใหเ ดก็ ๆ สามารถจดจาํ และทอ งตามได เนื่องจากเนื้อหาในเลมมคี วามต้ังใจสอนเด็กในเรื่องการของคุณเทานั้น จึงไมไดใหความสําคัญตอความสมจริงของ เนอื้ เรอ่ื ง เชน หนงั สอื เลม น้รี ะบุวา เหมาะสาํ หรับเด็กอายุ ๐-๓ ขวบ หากแตการดาํ เนนิ เรอื่ งราวดูจะเหมาะสําหรับเด็กท่ีโตกวาน้ี เพราะลูกหมีที่เปน ตัวแทนเด็กวัยสามขวบ ซึ่งโดยปกตจิ ะไมแ สดงพฤติกรรมเชนเดียวกับตัวละคร เชน การชวยคนแกขามถนน การซื้อของเอง การคนื ของทเี่ ก็บได เหลา นีเ้ ปนพฤตกิ รรมท่ดี ที ีค่ วรปลูกฝงแกเด็ก แตย งั ไมเ หมาะสําหรบั เดก็ เล็กๆ วยั ๐-๓ ขวบ สาํ หรับภาพประกอบที่แมจะสรางขน้ึ ดว ยเทคนคิ คอมพิวเตอร แมผ ทู าํ ภาพปรพกอบไดพยายามสรางสรรคใหดูคลาย กับเปน การวาดดว ยมอื ใหสีสะอาดดสู บายตา ตวั ละครหลกั คือลูกหมี มบี ุคคลกิ ทน่ี า รกั สมวยั หนงั สอื “ขอบคณุ ขอบคุณ” มคี ําลงทา ยในทุกหนาดวยคําวา ขอบคุณ ขอบคุณ ในขณะท่ีอานหนังสือเลมน้ีใหเด็กๆ ฟง ควรเปด โอกาสใหเด็กไดม ีสว นรวมในหนังสอื ดวยการเวนจังหวะเพอ่ื ใหเ ดก็ ไดต อคําวา “ขอบคณุ ขอบคุณ” ๑๖
ช่อื หนงั สอื เพื่อนนอยนารัก ผแู ตง เกริก ยุนพนั ธ สาํ นักพมิ พ เกรกิ ยุนพันธ ปท่พี มิ พ พ.ศ. ๒๕๔๘ ราคา ๑๕๐ บาท “เพอื่ นนอ ยนารัก” เปนผลงานของรศ.เกริก ยุนพันธ อาจารยประจําสาขาวิชาวรรณกรรมสําหรับเด็ก มศว ประสาน มติ ร ผมู ผี ลงานโดดเดน เปน เอกลักษณด ว ยการใชสีสันสดใสและมีความฉูดฉาด เร่อื งเพื่อนนอยนา รกั เลมน้ี นอกจากมีสีสันที่ดูสะดดุ ตาแลว ยังมีการออกแบบใหป ากสัตวแตละตัวในทุกหนาใหมีปาก ย่ืนแหลมออกมาใหลักษณะ pop up การใชภาษาในหนังสือเลมนี้ ก็มีรูปแบบเฉพาะของตัวแตง คือ ใชคําคลองจองและเปนคําซ้ําๆ ตลอดเรื่อง เชน กระตา ยขนฟู ยืนดูเจาของ กระตายไมสงเสียงรอ ง แตทําจมูก ฟุดฟด ฟุดฟุด....ฟุดฟด ฟุดฟด...ฟุดฟด ฟุดฟด ภาพตัวละครที่ นอกจากจะใชสีฉดู ฉาดสะดดุ ตาแลว ตวั ละครทุกตวั ยงั หนั หนา เขาหาเด็กผูอ าน และดึงดดู สายตาของผูอ า นดว ย สาระหลกั ของเร่ืองตองการเสนอใหเ ด็กไดร ูจกั เสียงรองของสัตว แตก็ไมไดจงใจสอนมากเกินไปจนทําใหหนังสือขาด เสนห การใชหนังสือเรอ่ื งเพ่ือนนอ ยนารักกับเด็กๆ นั้น ควรอานตามตัวอักษร และเปดโอกาสใหเด็กๆ ไดสงเสียงตาม และ ควรท้ิงภาพใหเด็กๆ ไดดูสักชวงเวลาหน่ึง ไมควรรีบเปดผานไป หรืออธิบายความเพ่ิมเติมมากมายจนเด็กๆ ไมมีโอกาสใช จินตนาการของตนเอง หมวดภาษา (การเลนคํา คาํ คลอ งจอง) ชอ่ื หนงั สอื อเี ลงเคงโคง ผแู ตง ชวี ัน วสิ าสะ แพรวเพื่อนเดก็ สาํ นกั พมิ พ ปท พ่ี ิมพ พ.ศ. ๒๕๔๗ ราคา ๑๒๕ บาท เปน หนังสอื ประเภทคํากลอน คําคลอ งจองสําหรบั เดก็ เด็กทกุ วัยชืน่ ชอบหนังสือคํากลอน โดยเฉพาะเร่ืองอีเลงเคงโคง เลมน้ี ลกั ษณะเดน ของอเี ลง เคง โคง อยทู ่กี ารเลา เรอื่ งในรปู แบบคํากลอน และการใชคําเรียบงาย สนุก และมีคําแปลกคือ อีเลง เคง โคง ลงทายในทกุ หนา การอานอเี ลงเคงโคงในเด็กๆฟง น้นั งายและสนกุ ซึ่งเดก็ ๆเองกร็ สู กึ เชน นน้ั ดว ยเหมือนกัน เด็กๆฟงเรื่องน้ีเพียงไมกี่คร้ัง กส็ ามารถอานเองได ท้ังที่ในความจริงแลวเด็กๆใชการจดจําไมใชการอาน อีเลงเคงโคงจึงเปนหนังสือสรางแรงจูงใจใหเด็กๆ อยากอานหนังสอื ผูใหญโดยเฉพาะคุณครูมักจะคิดวา ไมอยากใหเด็กๆฟงสนุกเทานั้น ในหนังสือควรตองใหอะไรแกเด็กดวย แลว คาํ ถามท่ตี ามมาก็คอื อีเลงเคง โคงเลมน้ีใหการเรียนรูอะไรแกเด็กๆ...ยกตัวอยางงายๆอยางคําวา หนาบึ้งหนาบูด สําหรับเด็ก น้ันเปนคําท่มี เี สยี งใหค วามรูส กึ สนกุ แมเ ด็กเลก็ ๆอาจจะยังไมเขาใจความหมาย แตภาพของหานแสดงอาการหนาบึ้งหนาบูด ใหเ หน็ ตรงน้ชี ว ยใหเด็กๆไดเขา ใจความหมายของคําจากหนังสอื ภาพไดไมยาก ขอยกตัวอยางอีกคําหน่ึงคือคําวา โฆษณา ซ่ึง เด็กๆบางคนอาจจะรจู กั แตส ว นใหญย ังไมไ ดส นใจคํานี้ ซ่งึ เปน คาํ ใหมและเปนคํายาก ท่ีเด็กๆจะมีโอกาสไดร จู ัก ๑๗
เดก็ ๆที่มีคนอานหนังสือใหฟ งอยา งหลากหลายและสม่ําเสมอนั้น จะมีคําศัพทสะสมอยูในหัวมากมายกวาเด็กท่ีไมมี คนอา นหนังสือใหฟง เพราะภาษาในหนังสือน้ันเปนภาษาวรรณกรรมที่เราอาจจะไมคอยไดใชพูดในชีวิตประจําวัน การอาน หนังสือท่ีมีภาษาดีๆ ใหเด็กฟงจะเปนการเพิ่มพูนคําศัพทใหแกเด็กๆ เมื่อถึงเวลาที่มีความพรอมในการพูด เขาก็จะดึงเอา คําศัพทท่ีสะสมอยูในหัวออกมาใช เปนลักษณะเดียวกันกับคนท่ีพูดภาษาอังกฤษไดดี น่ันเปนเพราะวาเขามีคําศัพท ภาษาองั กฤษมากมายสะสมอยู สามารถดงึ ออกมาใชไดทันทที ่ตี องการ การอา นหนังสือท่ีมีความโดดเดน เห็นไดชัดเจนอยา งเรือ่ งอเี ลงเคงโคงน้ี จริงอยทู ่ีเดก็ ๆรูส ึกสนกุ และชื่นชอบมาก แตขอ ที่ผูใหญควรสนใจและแนะนําตอเดก็ ๆ คอื สาระทมี่ ีอยใู นหนังสือ ช่อื หนังสือ กระตายต่ืนตมู ผแู ตง ตุบปอง สาํ นักพมิ พ แฮปปคดิ ส ปทพี่ ิมพ พ.ศ. ๒๕๔๙ ราคา ๔๙๕ บาท (Big Book) นทิ านอีสปทีถ่ กู นํามาเรยี บเรียงใหมในรูปแบบคํากลอน อานสนกุ ฟงสนุก มคี วามโดดเดนอยูที่การใชภาษาท่ีมีลูกเลน มีเสียงสูงเสียงตํ่าท่ีเด็กๆ จะรูสึกสนุกขณะที่ฟง เชน กระรอก กระแต ตัวตุน วิ่งชุลมุน กระแตะ กระเตาะ กระโดด กระดุง กระดุง หัวเราะ ตพี งุ ในปา ละเมาะ ความเปน นทิ านอสิ ปมเี นอ้ื หาท่ลี งตัวอยูแลว ฉะน้ัน หนังสือเลมนี้จึงแทบจะไมตองบอกกลาวกันวา สาระหลักในเลอ คืออะไร แตหนังสือเลมนี้ทําใหเด็กๆ ไดคําศัพทใหมจากการฟงผูใหญอานใหฟง การอาน”กระตายต่ืนตูม” ควรอานอยางมี จังหวะ ไมต องรบี เพราะมิเชน นั้นแลวจะฟง ไมร ูเรอ่ื ง การอานหนังสอื เลม นใ้ี หเ ดก็ ๆ ฟงครง้ั แรก เดก็ อาจจะรูสึกเพียงสนุกท่ีไดฟงเสียงวรรณยุกตท่ีสูงๆ ต่ําๆ แมเม่ืออานให ฟง ซาํ้ หลายๆ รอบ เดก็ ๆ จะเริ่มคุนเคยและจดจาํ คําทีอ่ อกเสียงยากๆ ได และพวกเขาจะสามารถทองไดเองอยางสนุกสนานใน ที่สดุ ภาพประกอบท่ีดูแปลกตานี้ เกิดจากการปนตัวละครดวยแปงปน ซึ่งผูใหญสามารถชักชวนเด็กๆ ใหทํากิจกรรมปน แปงโดยใหห นงั สอื เร่ือง กระตา ยตืน่ ตูม เปนแรงบนั ดาลใจสาํ หรับเดก็ ๆ สาํ หรับเด็กเลก็ อาจจะยังไมสามารถปนแปงเปนรูปรางไดตามตองการ แตการปนแปงมีประโยชนอยางยิ่งตอเด็กๆ เพราะกิจกรรมนี้จะชว ยฝก ทักษะในการใชกลามเนือ้ มัดเล็ก “กระตายต่ืนตูม” เลม ท่นี ํามาแนะนาํ นี้ เปน หนงั สอื Big Book มีขนาดใหญโ ต เหมาะสมใชเลาใหเด็กกลุมใหญฟง แต ควรมขี าต้งั เพื่อชวยรับน้ําหนักของหนังสอื ดวย แตสาํ หรบั การอานใหเ ด็กฟงในครอบครัว หรือสําหรับเด็กกลุมเล็ก “กระตายต่ืน ตมู ” กม็ ีเลมเล็กดว ย ๑๘
สรางเสริมลกั ษณะนิสัย (ในชวี ติ ประจาํ วัน) ชื่อหนงั สือ คณุ ฟองนักแปรงฟน ผแู ตง ชีวัน วสิ าสะ สํานักพมิ พ แพรวเพ่อื นเด็ก ปที่พมิ พ พ.ศ. ๒๕๔๙ ราคา ๑๗๐ บาท “คุณฟอง” ตัวละครในเร่ืองคุณฟองนักแปรงฟน นับเปนตัวละครขวัญใจตัวหน่ึงในโลกของหนังสือภาพสําหรับเด็ก เพราะคณุ ฟองคอื ตวั กระตุน ใหเด็กๆ รสู ึกสนุกกบั การแปรงฟน คุณฟองนักแปรงฟน เปน หนงั สือทใ่ี หท ัศนคตเิ ชิงบวกในการสงเสริมใหเด็กๆ มีพฤติกรรมอันพึงประสงค หนังสือเร่ือง คุณฟองฯ จงึ เปนตวั อยา งที่ดีในการคัดเลือกหนังสอื ประเภทสง เสรมิ ลกั ษณะนสิ ยั ที่ดีใหแ กเด็ก แนนอนวา ในเร่ืองคณุ ฟองนกั แปรงฟน ตอ งเปน เรื่องราวเกี่ยวกับการแปรงฟน แตผูเขียนก็ไมไดนําเสนอการแปรงฟน ในรปู แบบเดมิ ๆทีเ่ ดก็ เคยเห็น เร่ิมจากคณุ ฟองตนื่ เชา แปรงฟนเอง (ผูแตงไมไดเนน ตรงน้ี เพ่ือจะใหเด็กเห็นวาการแปรงฟนเปน เร่อื งธรรมดา ใครๆเขาก็ทํากัน) กอนจะออกเดินทางไปแปรงฟนใหกับเพื่อน ! (เริ่มไมธรรมดาแลว) ความสนุกเร่ิมขึ้น เพราะ เพื่อนของคณุ ฟองแตละตัว ไมธรรมดาทั้งนั้น คุณฟองตองขึ้นภูเขาไปแปรงฟนใหคุณหมีท่ีนอนหลับอยู ลงนํ้าเพ่ือแปรงฟนให คณุ ปลาตงั้ สองตวั แถมยังมีคณุ ฮิปโป คุณจระเข คุณชางเขาไปอีก การแปรงฟนธรรมดาๆกลับกลายเปนการผจญภัยสําหรับ เดก็ ๆ ทน่ี าสนกุ และตืน่ เตน ทนั ที นอกเหนือจากท่ีกลาวมาแลว ยังมีสาระอะไรแฝงอยูอีก เม่ือคุณฟองเตรียมจะแปรงฟนใหคุณชาง แตคุณชางกลับ บอกวา ชางโตแลว แปรงฟนเองไดแลว ประโยคนี้เปนดังประโยคทาทายและเชิญชวนเด็กๆ วา ถาใครอยากโตก็ตองแปรงฟน เอง นบั วา ผูเขยี นเขา ใจธรรมชาตขิ องเดก็ ไดด ี เพราะเดก็ ทกุ คนอยากโตดวยกนั ทั้งนั้น ในเร่ืองคณุ ฟองนกั แปรง มภี าพทด่ี ูสะอาดตา ไมมีฉากหลังใดๆ มีเพียงภาพตัวละครท่ีใชเทคนิคสีผสม ตัดเสนดําบน พ้นื กระดาษขาวเทา นน้ั เปนการนําเสนออยางเรยี บงายไมมีสีสันฉดู ฉาดสะดุดตา แตท ําไมเดก็ ๆจึงไดตดิ ใจคณุ ฟองกันมาก นอกจากเนอื้ เรอื่ ง และภาษาท่ีสนุก ภาพก็มอี ารมณส นกุ ตัวละครทกุ ตัวแสดงออกถึงความอารมณด ี การเลาเร่ืองคณุ ฟองฯ ดาํ เนนิ ไปอยางเรยี บงา ย ใชภ าษางายๆ ไมม ีอะไรซบั ซอ น ภาพก็ดูเรียบงายเขากันกับเนื้อ ลองคิดดูเลนๆ วา ถาหากภาพในเร่ืองน้ีใชสีสดใส ใสเทคนิคแพรวพราวใหดูหวาหวือดึงดูดสายตา มีฉากรกรุงรัง หนังสือจะมีหนาตาเปน อยา งไร แตทแ่ี นน อนก็คอื เรือ่ งกบั ภาพจะไปกนั คนละทศิ ละทางขาดความเปน เอกภาพ ช่ือหนังสือ ฟนไมไ ดมไี วก ดั ผูแตง เอลิซาเบท เวอรด กิ ผแู ปล นา นกฮูก สํานกั พมิ พ แปลนฟอรค ดิ ปท ี่พิมพ พ.ศ. ๒๕๔๙ ราคา ๑๘๕ บาท หนังสือภาพ ๒ ภาษา (ไทย-อังกฤษ) สําหรับเด็ก ท่ีบอกเด็กๆ อยางตรงไปตรงมาวา “ฟนไมไดมีไวกัด” ดวยภาษา งา ยๆ เปน หนังสอื กระดาษแข็ง มีจํานวนหนา นอยจึงเหมาะอยางยิ่งสําหรับเด็กเล็ก ๑๙
“ฟนไมไดมีไวกัด” จัดอยูในหนังสือประเภทสารคดีสําหรับเด็ก ตัวละครที่นํามาเสนอตอผูอานมีหลายชนชาติและ หลายวยั ทั้งเดก็ เลก็ เด็กโต หนงั สอื เลม นจ้ี ึงใชไดกบั เดก็ ทกุ วัย ต้งั แตวยั ท่ฟี น น้าํ นมกาํ ลงั จะข้นึ และวยั ที่ฟนแทกําลงั จะข้ึน การนําเสนอตวั ละครทใี่ ชเ ดก็ นานาชาติเชนน้ี จะชวยใหเ ด็กทด่ี ูภาพรูจักวา ในโลกน้ีมีคนที่แตกตางหลากหลาย เด็กๆ ตวั ละครในเรอื่ งมีทง้ั เด็กผิวขาวและผวิ สี แตผูใหญไมตองกังวลวา เด็กๆ ดูภาพแลวจะไมเขาใจ เพราะความจริงแลว เด็กและ หนงั สือเดก็ มีความเปน สากล หนงั สอื เด็กท่ีดีทุกเลม ในโลกนีส้ ามารถสื่อสารกบั เดก็ ๆ ท่อี ยูทวั่ ทกุ มมุ โลกไดเชนกัน เนอ้ื หาภายในเลม นอกจากบอกเด็กวา “ฟน ไมไดม ีไวกัด” แลว ยงั มวี ิธีชว ยคุณพอ คุณแมผูปกครองแกปญหา ในกรณี ท่ีเด็กๆ อาจจะรสู กึ มนั เข้ียวและอยากกดั ในหนังสือเลมน้ีมขี อแนะนํางายๆ และไดผลอยางชะงัด น่ันคือ การอุมแลวกอดเด็กๆ เอาไวเมอื่ รูส ึกวา พวกเขาเริ่มมนั เข้ยี วและอยากกัด หนงั สือเลมนี้สามารถเปด อา นทหี่ นา ใดกอ นกไ็ ด เพราะวา เน้อื หาจบลงในหนาคูนน้ั ๆ หรือจะอานหนาแรกไลไปถึงหนา สดุ ทายเชนหนังสอื ปกติกไ็ ดเ ชน กัน เมื่ออานต้ังแตตนจนจบก็จะพบวา เน้ือหาท่ีดูเหมือนจบในแตละหนานั้นรอยเรียงเปนเนื้อ เดยี วกนั ดว ย ภาพประกอบมลี ักษณะเปนปอปอารต คือมีสีสันสดใส รูปแบบทันสมัย ดูสะดุดตา แตขอดอยของงานลักษณะน้ีคือ ไมค อ ยมรี ายละเอยี ด อยางไรกต็ าม การเลือกหนงั สอื สําหรับเด็ก ควรเลือกใหหลากหลายเขาไว เพราะเม่ือเด็กๆ เติบโตขึ้น จะ เริ่มมแี นวหนังสอื ท่ตี ัวเองชืน่ ชอบชัดเจนขึ้น ดังน้นั เดก็ ๆ ควรมโี อกาสไดเหน็ หนงั สือใหห ลากหลายเอาไวกอน ช่อื หนงั สอื อึ ผูแตง ทาโร โกมิ ผูแปล พรอนงค นยิ มคา สํานักพมิ พ แพรวเพอื่ นเดก็ ปทพ่ี ิมพ พ.ศ. ๒๕๔๘ ราคา ๑๔๕ บาท “อึ” เปนหนังสอื ทพี่ ูดถงึ เรื่องวิทยาศาสตรใหเดก็ เล็กเขาใจไดง า ยๆ ขอมูลในหนังสือบอกเลาถึงกริยาการ “อึ” ของสัตว มากมายหลายชนดิ รวมท้ังคนดวย หากมองกนั อยางผวิ เผินจะดเู หมือนวา หนงั สือเลม นส้ี อนใหเ ดก็ รูจกั การอเึ ทา น้นั แตหากไดม โี อกาสอา นเนื้อหาอยา งละเอียด ดภู าพประกอบอยางพนิ จิ พิเคราะหแลวจะเห็นวา ในหนังสือเด็กเล็กๆ ชื่อ เรอื่ งนาขาํ เลม น้มี อี ะไรซอ นอยูม ากมาย เพียงแคห นา ปกท่ีมภี าพ เด็กทําหนาเหยเก ภาพเปดกระดกกน ภาพผลแอปเปล ท่ถี ูกกดั จนแหวง และภาพมากําลังยก หาง ทกุ ภาพอยูในกรอบแยกกนั แตท ุกภาพกลบั มีความหมายและมีความสัมพันธกัน ทุกภาพลวนเตรียมพาผูอานเขาสูเนื้อหา ขา งใน เรอื่ งเรมิ่ ตน ดวยประโยค “ชางตัวใหญ อึกอ นใหญ หนตู วั เล็ก อกึ อนเลก็ ” พรอ มภาพชา งตัวโตเต็มสองหนาคู กับหนูตัว เล็กจ๋ิว หากคุณครูอนุบาลเปนผูนําหนังสือเลมนี้ไปใช ก็จะบอกไดทันที่วาเพียงแคในหนานี้สามารถเช่ือมโยงสูหมวด คณิตศาสตรไ ด การเลาเร่ืองเปนไปอยา งงายๆ ดวยภาษาทีเ่ ปนจังหวะ และมีลกู เลนไปตลอดท้ังเรื่อง หากอานใหเด็กๆ ฟงกันเพลินๆ ตามตวั อักษรและอานอยางมีจังหวะจะโคน เด็กๆ จะไมรูสึกเลยวา กําลังฟงหนังสือสารคดีท่ีใหความรู กลับรูสึกคลายกับฟง นทิ านสนุกสกั เลม หน่งึ เลยทีเดียว ๒๐
ผูใหญจํานวนมากอาจจะมองวา หนงั สอื เลมนี้มีภาพประกอบไมสวย ดูทึบทึมและมีสีตุนๆ แตเม่ือพิจารณาถึงความ เหมาะสมลงตวั ระหวางเรอื่ งกับภาพแลว (เทียบกับเร่ืองตด ที่อยูในชุดเดียวกัน) ก็จะเขาใจไดวา เหตุใดหนังสือเลมนี้จึงเสนอ ดวยภาพลักษณะนี้ เพราะ “อึ” มีมวลจึงตางกบั “ตด” ทีเ่ ปน กาซน่ันเอง ชอื่ หนงั สอื ตด ผแู ตง ชนิ ตะ โช ผูแ ปล พรอนงค นยิ มคา สํานกั พมิ พ แพรวเพอ่ื นเดก็ ปท่ีพิมพ พ.ศ. ๒๕๔๙ ราคา ๑๔๕ บาท จดั เปน หนงั สอื ภาพสารคดีสําหรบั เดก็ เชน เดียวกบั เร่อื งอึ แต “ตด” จะมีการเลา เรื่องท่ีซับซอนกวา มีขอมูลมากและยาก กวา แมจะอยูในชุดเดียวกันกับเร่ือง “อึ” แตเมื่อพิจารณาจะเน้ือหาแลว “ตด “ควรถูกจัดวาเหมาะสําหรับเด็กวัย ๔-๖ ขวบ มากกวา เพียงแคอ านช่ือเร่ืองใหฟ ง เทาน้ีก็สามารถเรียกรองความสนใจของเด็กๆ ไดแลว ประกอบกับภาพชางหันกนใหผูอาน ซ่ึงแตกตา งจากหนงั สือเลม อ่นื ๆ ทตี่ วั ละครมักจะหนั หนามาหาผอู า นเสมอ เรือ่ งเรม่ิ เลาต้งั แตปกหนา ปกรองจนกระทัง่ เขา สเู น้อื หาภายใน ภาษาทใี่ ชเ ลา เรื่องเปนภาษาที่ชวยเกิดความสนุกสนาน ขณะที่เดก็ ๆ ฟง เรือ่ งราว เน่ืองจากมเี สียงประกอบไปตลอดทั้งเร่ือง ไมวาจะเปนเสียงแมวตดดัง ปุง ปุง ปุง ปุง ปุง เรียกวา ตด ผันตามพยัญชนะ เพียงเทานี้เด็ก ๆก็รูสึกสนุกมาก ซ่ึงคุณครูสามารถนําจุดเดนเร่ืองเสียงจากหนังสือเลมน้ีชวนเด็กผันเสียง ตา งๆ ในภาษาไทยก็ยงั ได เน้ือหาของหนังสือ “ตด” พูดถึงเร่ืองการตดเพียงเร่ืองเดียว แตผูเขียนมีทักษะอยางเย่ียมยอดในการส่ือสารเรื่องที่ ซับซอนเชนน้ีใหเดก็ เขา ใจไดง า ยๆ หนงั สอื ชดุ นีป้ ระสบความสําเร็จอยางมากในหลายประเทศ รวมทั้งในประเทศไทยดวย ดงั ท่ีไดเ ขียนเปรยี บเทียบภาพประกอบระหวางเร่ือง “อึ” กับ “ตด” เอาไวแลววา หนังสือสองเลมมีการนําเสนอภาพท่ี แตกตางกันอยา งส้นิ เชิงในเรอื่ งของเทคนิค แมจะถกู จดั ใหอ ยใู นชุดเดยี วกนั ก็ตาม สําหรับภาพในเลม “ตด” ใชเสน ท่ีดงู ายๆ ใหความรูส ึกโปรงและเบา มีอากาศมากเน่ืองจากมีสีนอย ภาพท่ีมีลักษณะ ลายเสนคลายเสนของภาพการต ูน กบั ลกู ตาที่แสดงอารมณต างๆ ชวนใหเด็กสนกุ จนกระท่งั อดไมไ ดท ่จี ะหัวเราะออกมา หนังสือทั้งนี้ ท้ังเร่ืองอึและตด เปนตัวอยางของหนังสือภาพสารคดีชั้นยอดสําหรับเด็ก เพราะส่ือสารงาย มี ภาพประกอบที่มีชั้นเชิงทางศิลปะ มีการนําเสนอท้ังภาพและเนื้อหาไปในทิศทางเดียวกัน จึงเปนหนังสือที่หองสมุดหรือคุณ ครูผสู อนเดก็ เลก็ ไมควรพลาดดวยประการทงั้ ปวง ๒๑
สําหรบั เด็กวัย ๔ – ๖ ป หนงั สือทีพ่ อ แมและลูกอานดว ยกัน ๒๒
ชอ่ื หนังสือ ผีเส้ือ ผูแตง นา นกฮกู สาํ นักพิมพ แฮปปคดิ ส ปท ่พี มิ พ พ.ศ. ๒๕๔๗ ราคา ๒๕๐ บาท หนังสือชุดธรรมชาติหรรษาเร่ือง “ผีเส้ือ” เปนหนังสือสารคดีสําหรับเด็กเล็ก ท่ีไดรับรางวัลดีเดน ประเภทหนังสือ สวยงาม จากคณะกรรมการการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร ประจําปพ.ศ.๒๕๔๙ เนือ้ หาของ “ผีเสื้อ” บอกเลาขอมลู ท่วั ๆของผีเสอื้ อยา งกวา ง ๆ รวมถึงชนดิ และการแพรพ นั ธขุ องผีเสื้อ ชวยใหเด็ก ๆได รูจ ักผเี ส้อื มากขึ้น หนังสอื เลมนี้ เลาเร่อื งในรูปแบบของสารคดีจริงจัง คือไมมีการแสดงอารมณใด ๆในเนื้อเรื่อง ไมมีประโยคคําพูดหรือ แสดงถงึ ความสมั พนั ธของตวั ละคร มเี พยี งการบอกเลา ดวยน้ําเสียงท่ีราบเรียบ ทวางายแกการเขาใจ ดังตัวอยางเน้ือหาขอมูล ของผีเส้ือในหนาแรก ผีเสื้อเปนแมลงแสนสวย โบยบินไปทุกหนทุกแหงในธรรมชาติ ทุงหญา ปาโปรง หุบเขา สวนผลไม สวนสาธารณะ และละแวกบา นของเรา จากขอ มูลเบื้องตน ในหนาแรก ดวยภาษาทา ทที ีร่ าบเรยี บเชนน้ี มีจุดดีตรงท่ี เด็ก ๆทุกคนสามารถเขาถึงขอมูลไดงาย และรวดเรว็ แทบจะไมมีเดก็ คนใดปฏิเสธการรบั ฟง อีกทัง้ ตวั อักษรทีเ่ ลอื กมาใชก เ ปนตัวอกั ษรที่โตพอที่จะเชิญชวนใหเด็กอยาก อา นเอง หนังสือเลมนี้ ไดรับรางวัลดีเดน ประเภทสวยงาม ซึ่งมอบใหแกหนังสือที่มีภาพประกอบท่ีคณะกรรมการตัดสินวา สวยงาม หากเมื่อพจิ ารณาภาพอยา งละเอียด และอานออกเสียงอยา งตอเนื่องทั้งเลม จะพบวา ภาพประกอบท้ังเลม อยูในมุม กวางแบบเดียวกันตลอดเลม ไมมีการใชระยะ(Zoom In, Zoom Out) เขามาชวย อยางเชนในเน้ือหาบางตอนที่กลาวถึงตัว ผีเสื้อในระยะใกลชิด บอกรายละเอียดของ หนวด ปก และลําตัวของผีเส้ือ แตการนําเสนอภาพก็ไมไดเนนระยะเพ่ือใหเห็น รายละเอยี ดอยางชัดเจน มเี พยี งการขยายภาพผีเส้ือใหใหญข ้นึ กวา องคป ระกอบแวดลอมอ่นื ๆเล็กนอย แตยังคงอยูในมุมกวาง อยเู ชน เดมิ และไมไ ดค ํานึงถึงระยะใกล- ไกล นอกจากเรอ่ื งระยะใกล-ไกลท่ีหนังสือเลมน้ีไมไดใหความสําคัญแลวนั้น ภาพรวมของภาพประกอบ นับวานาสนใจ ตรงท่ีผวู าดภาพไดใ หค วามสําคญั กบั องคป ระกอบแวดลอมตาง ๆท่ีอยูรายรอบผีเส้ือ เชน ตนไม ก่ิงไม ใบไม ตนหญา เนินดิน แมลงและสัตวชนิดตางๆ ทเ่ี นอ้ื เรื่องมไิ ดกลาวถึง ซึง่ เดก็ ๆจะคอย ๆพิจารณามองดูอยางชา ๆ นับวาเปนรายละเอียดท่ีสามารถ ส่ือสารกับเด็กได การใชหนงั สือเรื่อง “ผเี สอื้ ” อยางมชี วี ิตชวี า อาจจะทําไดโดยการพาเด็ก ๆออกนอกหองเรียน อานหนังสือทามกลาง ตน ไมแ ละดอกไม เม่ืออา นจบแลว พาเด็ก ๆเดินดูผีเส้ือ หรือแมลงชนิดตาง ๆรอบบริเวณ ก็ชวยใหเด็ก ๆรูจักเชื่อมโยงหนังสือ และสิง่ แวดลอ มรอบตวั เขาดว ยกัน จากนัน้ อาจจะพาเดก็ ๆทํากจิ กรรมศิลปะ เชน พับครึ่งกระดาษขนาด A4 แลวตัดใหเปนรูปทรงของปกผีเสื้อ จากน้ัน ใหเด็ก ๆระบายสีทปี่ ก ผเี สอื้ กอนจะนําดานสันของกระดาษท่ีมีรอยพับครึ่ง ติดเขากับหลอดหรือตะเกียบสําหรับทําเปนลําตัว ผีเส้อื เทา นเ้ี ดก็ ๆก็จะไดผเี ส้ือแสนสวยแลว ๒๓
ชื่อหนังสอื ทายซิ ทายซิ ฉนั คือใคร ผูแ ตง ตลุ ย สวุ รรณกจิ สํานักพิมพ แพรวเพอื่ นเด็ก ปทพ่ี มิ พ พ.ศ. ๒๕๕๐ ราคา ๑๔๙ บาท เน้ือหา ภาษาและภาพใน “ทายซิ ทายซิ ฉันคือใคร” “ทายซิ ทายซิ ฉนั คือใคร” เปน หนงั สอื ภาพประเภทสารคดสี าํ หรับเด็ก ท่ีใหขอมูลจริงแกเด็กๆ สําหรับตัวสมเสร็จ เปน สัตวท ่ผี ูใหญส วนมากรจู ักกันดอี ยูแ ลว แตกับเด็กเล็กๆนั้น นับเปนเรื่องที่นาทึ่งทีเดียวท่ีสัตวเพียงชนิดเดียวกลับมีลักษณะ หลายอยา งทีค่ ลายคลึงกับสตั วอนื่ ๆอกี หลายชนดิ แม “ทายซิ ทายซิ ฉันคอื ใคร” จะเปนหนังสอื ประเภทใหค วามรู แตดวยการเลาเร่ืองนาสนุก มีอารมณขัน และให ขอมลู แปลกใหมแ กเ ดก็ ๆ จึงทาํ ใหห นังสือเลม นม้ี ีความแตกตา งจากหนังสือความรสู าํ หรบั เดก็ โดยทว่ั ไป กอ นท่เี ดก็ ๆจะไดร ูจักกบั สมเสร็จในตอนจบ เดก็ ๆกไ็ ดมีโอกาสรูจักกับสัตวหลายตอหลายชนิด ไมเพียงแคไดรูจัก ชอ่ื และรูปรางหนา ตาเทา นนั้ แตยงั ไดร ูจกั ลกั ษณะนสิ ัยตางๆ หรอื บางตวั ไดส งั เกตเหน็ ลกั ษณะเดน ของมัน หรือบางตัว เด็กๆจะ ไดร ูว า อวัยวะของสตั วเ หลา นี้มเี อาไวใชทาํ อะไร ดังน้ัน เน้ือหาหลกั ของเร่อื งนี้ จงึ ไมใ ชการแนะนาํ ใหเ ด็กรูจ กั สมเสร็จ แตผูเขียนใชกลวิธีที่แยบยลในการนําพาให เด็กๆไดไปรูจักและสงั เกตสัตวอีกนับสบิ ชนิด สว นการใชภ าษาในเร่อื งน้ี ทีด่ เู หมอื นจะเปนคาํ กลอน แตกไ็ มใช ควรจะเรียกกวา ใชภาษาท่ีเปนจังหวะมากกวา ในหนงั สอื สาํ หรบั เด็กน้ัน ควรจะมีคํายากปะปนอยูบาง เพ่ือเปนการเพิ่มพูนคําศัพทใหแกเด็ก ซึ่งในเร่ืองนี้ มีคําวา “ละมาย” ท่ี เดก็ ๆอาจจะไมรจู ัก บางคนอาจจะไมเคยไดยนิ มากอ นดว ยซํ้า แตเ ม่อื เห็นคําวา “ละมาย” อยูในบริบทของประโยคและภาพใน หนาน้ันๆ คือ สวนหูของฉัน นั้นก็ละมาย กระตายหูดี ใกลไกลแคไหน ฉันยังไดยิน ชัดเจนทุกท่ี เด็กๆจะสามารถเขาใจ ความหมายของคาํ วา “ละมา ย” ไดเ อง โดยไมตองอธิบาย ซง่ึ เปนการเรยี นรูคําศัพทโ ดยธรรมชาติ การเลาเร่ืองดวยอารมณขันก็เปนอีกประเด็นหน่ึงที่นาสนใจสําหรับหนังสือเลมนี้ เพราะเด็กๆจะไดยินเรื่อง ธรรมดาๆ ในรูปแบบทีไ่ มธ รรมดาจากหนังสือเลม นี้ ตัวอยางในหนา ทเี่ ขียนไววา ฉันดมกล่ินได ดีเย่ียมและไว ไมแพสุนัข เอะ! ใครตดเหมน็ เปน เธอใชไ หม คณุ ลุงเตา ยักษ เพราะเดก็ ๆไมเคยคิดวา จะมีใครไดกลิ่นตดของเตา และเด็กๆคงไมเคยคิดวา เตา ก็ตดดว ย !! “ทายซิ ทายซิ ฉนั คือใคร” ไดรับรางวัลทีไ่ ดรบั รางวลั ดเี ดน ประเภทหนงั สอื สวยงาม จากคณะกรรมการการศึกษา ขน้ั พื้นฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ ประจําปพ.ศ.๒๕๕๑ การวาดภาพสตั วส ําหรับหนังสือสารคดีนั้นเปนงานที่ยาก ผูวาดภาพจะตองศึกษารายละเอียดของสัตวมาเปน อยางดี และยิ่งเม่ือมีสัตวหลายชนิดรวมอยูในเลมเดียว ย่ิงเปนงานที่ไมงายเลย เพราะงานสารคดีตองการภาพที่สมจริง ขณะเดียวกันก็ตองไมแ ขง็ หรือดูแลงแหง แตจะตองมีชีวิตชวี า มีรายละเอียดซ่ึงจะตองเปนขอมูลท่ีดีและถูกตองสําหรับเด็กอีก ดว ย นับวา ภาพสตั วท ุกตัวใน “ทายซิ ทายซิ ฉันคอื ใคร” ทําออกมาไดอ ยา งดคี รบถว น ๒๔
หนว ยสรางเสริมลักษณะนสิ ัย (ในชีวติ ประจาํ วนั ) ช่อื หนังสอื ความลบั ของสะเก็ดแผล ผูแ ตง เกนอิชิโร ยางิว ผแู ปล มารนิ า โฮรคิ าวา สาํ นักพิมพ วาดดาว ปท่ีพิมพ พ.ศ. ๒๕๔๙ ราคา ๒๘๐ บาท เด็กๆ ทุกคนมีประสบการณในการมสี ะเกด็ แผลกนั ทั้งนน้ั ดงั นน้ั เร่ืองเล็กๆ อยา งเร่อื งของสะเก็ดแผล จึงไมใชเรื่องเล็ก สําหรับเด็กๆ “ความลับของสะเก็ดแผล” เปนเรือ่ งทไ่ี มล ับ และเปน เรอ่ื งทเี่ ดก็ ๆ ควรรู หนังสือ “ความลับของสะเก็ดแผล” เปนหนังสือภาพท่ีแปลมาจากหนังสือตนฉบับภาษาญ่ีปุน ในชุด ความลับของ รา งกาย นําเสนอเร่ืองราวใกลต วั เดก็ และสื่อสารดวยภาษาที่เขาใจงาย ใชประโยคถาม-ตอบ และการพูดคุยกับผูอาน เพ่ือนํา เดก็ ๆ ท่ีอานเขา สเู นอ้ื หาสาระท่ผี เู ขยี นตอ งการนําเสนอ กลวิธีการนําเสนอเชนนี้ นับเปนกลยุทธท่ีใชไดผลในหนังสือเด็ก ทําใหเด็กๆ ผูอานเกิดความรูสึกเปนอันหน่ึงอัน เดียวกันกับเนื้อเรอ่ื ง ผเู ขยี นเลอื กใชป ระโยคสน้ั ๆ กระชบั ไดใจความ จึงชว ยใหเ ร่อื งท่ีดูเหมอื นยาก กลับกลายเปนเรื่องที่สามารถ เขา ใจไดงา ยสาํ หรบั เด็ก ภาพบนหนาปกสามารถดึงดดู ความสนใจของเดก็ ๆ ไดดี ดวยการใชสีสมตัดดวยเสนดํา และเปนภาพท่ีเหมือนกับไม สมบรู ณเ พราะมีใหเหน็ เพียงใบหนา มือและหวั เขาเทา น้ัน แตผูด กู ส็ ามารถสรา งภาพตอ เติมไดเองในหัว จากประสบการณ เด็ก ๆหรอื ผใู หญท ุกคนท่มี องดูภาพกจ็ ะเขา ใจไดท ันทวี า เปน ภาพของเดก็ นั่งยอง ๆมองดูสะเกด็ แผลบนหัวเขา ของตัวเอง เมื่อเปดมาท่หี นา ปกรอง พบประโยคสัน้ ๆ คือ อยากแกะจัง อยากแกะจัง สะเก็ดแผล อยากแกะจังเลย เพียงเทานี้ก็ เรา ความสนใจของเดก็ ๆไดแ ลว เนื้อหาภายในเลม ลวนเปน ขอ มูลทางวทิ ยาศาสตร แตภ าพประกอบภายในเลมเปนภาพลายเสนท่ีแสดงอารมณสนุก และดูนาขาํ จากนั้นจงึ ใชเ ทคนิคการสั่งสีเพอ่ื ใหเ กิดรูปทรง เปนเทคนิคหนึ่งในการทําประกอบในสไตลหนังสือภาพสําหรับเด็ก ของญ่ปี ุน หนังสอื เลม นี้ เหมาะสําหรบั อานหรอื เลาเร่อื งใหเด็กๆ ฟง หรือใหเด็กเปดภาพเอง เนื่องจากเนื้อหาและตัวหนังสือใน เร่อื ง “ความลับของสะเก็ดแผล” มีอยูมากสักหนอย หากอานตามหนังสือก็จะใชเวลาพอสมควร และเด็กๆ อาจจะไมมีสมาธิ มากพอทีจ่ ะจดจอ อยเู ปนเวลานาน จึงควรใชว ธิ เี ปดอา นไปสักคร่ึงเลม แลว เวน เพื่อทํากิจกรรมอื่น กอนจะกลับมาอานตอก็ไมได ทําใหเ สยี อรรถรสในการฟงแตอยา งใด เสนห ท พี่ บมากในหนังสอื ความรจู ากประเทศญ่ีปุนคือความรูสึกมีอารมณรวมในขณะอาน ราวกับกําลังอานหนังสือ ภาพนิทาน หรอื หนังสือวรรณกรรมเลยทเี ดียว เชน “ความลบั ของสะเก็ดแผล” เลม นี้ แมจะเปนหนังสือท่ีเนนการใหสาระความรู แตก็ไมละเลยความสําคัญในการออกแบบภาพและจัดวางรูปเลมท่ีสวยงาม มีความลงตัวในดานศิลปะ แมเร่ืองราวจะไมได เจาะจงหรือเอยพาดพิงถึงเร่ืองของเวลา สถานท่ี แตดวยความภาษา ทาทางและคําพูดของตัวละคร ก็ทําใหเราทราบวา เหตกุ ารณน ้ีกําลังเกิดอยทู ่ีใด โดยมิตอ งอาศยั ฉากหรือคําบรรยาย ๒๕
ชือ่ หนังสือ หนูนดิ ไมอ ยากกนิ ผัก ผูแตง ลาํ พู แสงลภ สาํ นกั พิมพ อกั ษรา ฟอร คิดส ปท ่พี ิมพ พ.ศ. ๒๕๔๒ ราคา ๓๐ บาท หนงั สือชดุ “หนูนิด” มอี ยดู วยถึง ๖ เลม ลว นแตจ ัดอยูในกลุมหนังสือสงเสริมลักษณะนิสัย เชน เรื่อง หนูนิดไมอยาก ไปโรงเรียน หนนู ิดไมอ ยากมนี อ ง หนนู ิด..เดก็ ดีไมด อ้ื รน้ั หนนู ดิ ไมอยากแปรงฟน หนูนิดไมอยากไปหาหมอ และหนูนิดไมอยาก กนิ ผัก “หนนู ดิ ” เปนตวั ละครขวญั ใจของเด็กๆ ทอี่ ยูในวัย ๔-๕ ขวบ เพราะหนนู ิดเปน เหมือนกบั เดก็ สวนใหญ คือไมชอบและ ไมอยากทําอะไรกต็ ามทผี่ ใู หญอ ยากใหทาํ หรอื ผูใหญเห็นวาเปนสิ่งท่ีดี หนูนิดไมเขาใจหรือไมรูสึกสนุกที่จะทําตาม จนกระท่ัง หนนู ดิ ตอ งไดรับบทเรยี นดวยตวั เอง ชื่อหนังสือท้ัง ๖ เลมนี้ เกือบจะบอกเน้ือหาขางในทั้งหมดอยูแลว ผูใหญคงจะเดาไดวา เร่ืองราวของหนูนิดจะเปน อยางไร และจะจบอยางไร แตทาํ ไมหนูนดิ จงึ เปน ท่ีตดิ อกติดใจของเดก็ ๆ ? สาํ หรบั “หนูนดิ ไมอ ยากกินผกั ” เพยี งแคภาพบนหนาปกกเ็ รยี กรอ งความสนใจจากเด็กไดแลว ภาพหนูนิดรองไหจาอยู หนา โตะ อาหารซง่ึ มจี ากอาหาร แกว น้ําและขวดนมวางอยู แมเด็กท่ียังอานหนังสือเองไมได ก็สามารถเดาไดวา หนูนิดตองไม พอใจอะไรสกั อยา งเปน แน (ไมพ อใจมากดว ย จงึ รอ งไหนํ้าตาไหลพรากขนาดนน้ั ) และยิง่ กบั เดก็ ๆ ท่ีมีประสบการณเดียวกับหนู นิด ตองรูส กึ ทนั ทีวา เรื่องน้ตี องเกีย่ วของกับการกินแนนอน เมื่อเหน็ หนา ปก เดก็ เรม่ิ เชอื่ มโยงหนนู ดิ เขา หาตวั เอง กย็ ง่ิ อยากรูเร่ืองขางใน จงึ ไมย ากที่เขาจะสนใจจดจอฟงเรื่องราว ของหนูนิด เม่ือเด็กๆ ไดรูจักกับหนูนิดในหนังสือเลมใดเลมหน่ึงในชุดนี้แลว พวกเขาก็อยากจะรูจักเพิ่ม อยากรูวาหนูนิดจะ แผลงฤทธ์ิอะไรอีก แลว หนนู ดิ จะไดรับบทเรียนอะไร หนงั สอื ชุด “หนูนิด” จึงเปนท้ังหนังสือที่เปนอานแลวเด็กจะรูสึกชอบ เขาใจ และรูสึกเห็นใจหนูนิด พรอมกับรูสึกวา ตวั เองเกง กวา และไมตอ งการเปนแบบหนูนดิ นบั วา หนงั สือชดุ นเ้ี ปนหนงั สอื เสรมิ แรงใหแกเ ด็ก ภาพประกอบเร่ืองหนูนดิ ท้ัง ๖ เลม เปนภาพในสไตลที่มองปุบสวยปบ เนื่องจากไมไดมีความซับซอนในแงของงาน ศิลปะ ภาพดูสะอาด ตัวละครมีหนาตาจ้ิมล้ิม ผูใหญก็ดูใจดี การออกแบบจัดวางองคประกอบและตัวหนังสือก็ดูงาย แม เรือ่ งราวในบางตอนจะยาวไปหนอ ย แตกไ็ มไดท ําใหรสู ึกวาเยอะเกนิ ไป เพราะตัวหนังสือโตทาํ ใหอ านไดงา ย ดว ยเหตนุ ้ีเอง หนูนดิ จึงเปน ขวัญใจของเด็กๆ จํานวนมาก ชอ่ื หนังสือ หนูเกดิ มาไดอยางไร ผแู ตง คริสตอป อูบเลต สํานักพมิ พ แฮปปค ดิ ส ปท ่ีพิมพ พ.ศ. ๒๕๕๐ ราคา ๒๗๕ บาท หนูเกิดมาไดอยางไร เปนหนังสือที่อยูในชุด โลกนารูของหนูนอย มีอยูดวยกันท้ังหมด ๖ เลม ไดแกเร่ือง ประสาท สัมผสั ทั้งหา ยานพาหนะของหนู โลกไดโนเสาร รางกายของหนู สาํ รวจทองฟา และหนเู กิดมาไดอ ยางไร ๒๖
หนังสือชุดน้ีเปนหนังสือประเภทเสริมความรูใหแกเด็ก เหมาะสําหรับเด็กระดับชั้นประถมศึกษาขึ้นไป เพราะมี ตวั หนงั สอื คอนขางมาก ใหขอมลู รายละเอียดมาก และเปน ในเชงิ กวา งมากกวาการใหขอมูลเชงิ ลึก มีการกลาวถึงเร่ืองราวตางๆ ในแบบแตะๆ จนบางครั้งอาจจะทาํ ใหรูสกึ อึดอัด เพราะบอกไมห มด การเลาเรื่องในหนังสือชุดน้ี เปนการเลาเรื่องไปเร่ือยๆ คลายการบอกขอมูลตามปกติ มีลักษณะการเลาเรื่องแบบ หนงั สือเรียน สว นภาพประกอบก็ทําหนาท่ีเพียงเปนภาพประกอบ ที่ดูนารักแตขาดอารมณสนุก ตางจากหนังสือเสริมความรู บางเลมทไ่ี ดแ นะนาํ ในเอกสารชดุ น้ี แตบางครัง้ การบอกไมห มดก็มีขอดี อยูตรงที่ผูใหญสามารถกระตุนใหเด็กไปคนควาหาอานหนังสือเลมอื่นตอไป ซ่ึง หนังสือชุดนี้ มลี ักษณะเชนน้ันคือ เปน หนงั สือที่กระตุนความอยากรูของเด็ก เนือ้ หาท่ีมอี ยใู นหนังสือทัง้ ๖ เลม สื่อสารในวิธขี องผูใหญ (ท่ีปลอมตัวเปนเด็ก) สื่อสารกับเด็ก ทําใหเน้ือหาบางตอน ไมร าบรนื่ เทาท่ีควร เพราะเมอ่ื อา นแลวทําใหร ูส ึกวา บางขอ มลู เหมาะสาํ หรบั ผูใหญ หรือเด็กโต แตวิธีการเขียนกลับเหมือนกําลัง ส่ือสารกับเดก็ เลก็ ๆ อยา งไรกด็ ี หนังสอื ชุดนี้ ตงั้ ใจผลิตขนึ้ สําหรับเดก็ ประถม สงั เกตไดจากเน้ือหาโดยรวมและภาพตัวละครที่มีอายุอยูใน วัยเดียวกัน และหนังสือไดรับการจัดพิมพในรูปเลมท่ีแข็งแรงทนทานตอมือของเด็กๆ กลาวคือ พิมพในรูปแบบปกแข็งพิเศษ สว นเนอื้ ในใชก ระดาษหนาและเคลือบมันอีกคร้ัง จะทําใหทนตอความเปยกช้ืนไดดี จึงเหมาะอยางย่ิงสําหรับการใชงานหนัก หากเด็กๆ เปดดู เปด อานบอยๆ หนงั สอื ก็ยังคงสภาพดีอยเู สมอ หนงั สือในชดุ นี้ ก็เปนเชนดวยกับหนังสอื เสรมิ ความรชู ดุ อื่นๆ ที่ไมใ ชหนงั สอื ประเภทหลกั ที่เด็กอยากดูอยากเปดทุกวัน หนงั สอื ประเภทนจี้ ําเปนอยางยิ่งที่จะตองไดรับการกระตุนสงเสริมใหมีการเปดอาน ฉะน้ัน หนังสือกลุมนี้จึงนาจะจัดใหอยูใน ประเภท “หนงั สือชวนคยุ ชวนคน” ในการจะใชหนังสือกลุม “ชวนคุย ชวนคน” นี้ คุณครูจําเปนตองเลือกหาหนังสือที่มีขอมูลเก่ียวของสัมพันธหรือ สง เสริมกันและกนั มาจัดเตรียม รอเด็กๆ ไวหลายๆ เลม หลายๆ เร่ือง โดยคุณครูจะเปนผูเปดประเด็น เพื่อกระตุนใหเด็กๆ ได เปดอา นขอมลู ภายในเลม กอนจะกระตนุ ใหเ ดก็ ไดพดู คยุ แลกเปล่ยี น หรอื จัดกจิ กรรมสง เสริมความเขาใจใหแ กเดก็ ตอไป หนวยส่ิงของใกลต วั ช่ือหนังสือ หนังสือสมั ผสั ชดุ ส่งิ ของใกลต วั ผแู ตง เอื้อพร สัมมาทิพย (โอนพรตั นวิบูล) สํานักพิมพ พาส พบั ลิชช่งิ ปท่พี มิ พ พ.ศ. ๒๕๕๐ ราคา ๒๒๕ บาท หนังสือสัมผัส เปนหนังสือสําหรับเด็กเล็กอีกรูปแบบหนึ่ง เปนหนังสือท่ีใชเทคนิคซับซอนในการจัดพิมพ กลาวคือ ไมไ ดใชเฉพาะกระดาษเชน หนงั สอื ทัว่ ไป แตหนังสือสัมผัสมวี ัตถปุ ระสงคเ พื่อใหเดก็ ๆ ไดฝก ประสาทสัมผัสไปดวย เพื่อใหเด็กได รูจักแยกแยะผวิ สัมผัสใหอ อก จึงตอ งเสริมดว ยวัสดอุ ื่นๆ ทไ่ี มใ ชก ระดาษดวย เปดเรื่องดวย ทรายละเอียด ทรายหยาบ เราทราบได ..........ในภาพประกอบไดมีการนํากระดาษทรายมาสอดไว เพอ่ื ใหเ ด็กไดสัมผัส หรือใหหนาถัดไป แนะนําใหเด็กๆ ไดรูจักผิวของไม ภาพประกอบบางสวนก็มีไมอัดบางๆสอดอยูภายใน เพื่อใหเด็กไดส มั ผสั เรื่องราวนําเสนอดวยคําคลองจอง จบความในหนาเดียวแลวเริ่มผิวสัมผัสใหม กับวัสดุชนิดใหม พรอมกับบอกถึง ประโยชนการใชสอย เรยี กไดว า เลม เดียวมีครบเกอื บทุกเรือ่ งท่ผี ใู หญม คี วามตั้งใจอยากสอนเด็ก ๒๗
แตใ นหนงั สือสําหรับเด็ก โดยเฉพาะสําหรับเด็กเล็กน้ัน การใสเนื้อหาสาระและเร่ืองราวลงไปมากมาย หลากหลาย ประเดน็ อาจจะไมใ ชส ่งิ ท่ีเหมาะสมสําหรับเด็กมากนัก ทําใหรูสึกคลายการยัดเยียดความรู จนกระท่ังความสนุกที่เด็กควรจะ รสู ึกอาจจางหายไป อีกท้งั ยังไมกลมกลืนกบั ธรรมชาตติ ามวัยของเดก็ ขณะท่ีผใู หญใชหนงั สือเลม นก้ี บั เด็กๆ จึงไมควรพยายามสั่งสอนเพ่ิมเติมเขาไปอีก ควรเสริมสรางความสุขและความ สนกุ จากการอา นหนงั สือดวยกนั กอน เชน เม่ืออา นจบแลว ผใู หญอาจจะชักชวนเด็กๆ ผลัดกันปดตา แลวเลนทายผิววัสดุวา ส่ิง ท่ลี บู น้ันคอื ผิวของอะไร ซงึ่ กิจกรรมเชน นีผ้ ูใหญอาจจะเปนคนท่ถี ูกปด ตาบางเพ่ือใหเด็กเปนผเู ฉลย และอาจจะลุกลามเลยไปถึง วัสดุอนื่ ๆ ที่ไมไ ดอยใู นหนังสอื เพ่ือฝกประสาทสมั ผสั ของเดก็ การเรียนรูในเด็กเลก็ น้ัน ประสาทสัมผัสเปนส่ิงจําเปน ดังน้ัน การฝกใหเด็กไดมีโอกาสใชประสาทสัมผัสทั้งหา ไดแต ตา หู จมกู ลิ้นและผวิ สัมผัส บอยๆ เปน สง่ิ ท่ีดี ขณะเดียวกนั ตองใหเ ดก็ ๆ ไดใ ชค วามรสู กึ และรจู กั ท่ีสื่อสารความรูสึกออกมา แต ตองไมลืมวา กิจกรรมการพัฒนาทักษะ หรือการฝกฝนพัฒนาประสาทสัมผัสตางๆ ของเด็กนี้ จะตองเกิดข้ึนและเปนไปดวย ความสนุกสนาน และอยางเปนธรรมชาติ หนวยคณุ ธรรม ชื่อหนังสอื แบง “ฉนั ” บา งสิ ผูแ ตง ศกั ด์ชิ ัย ศรีวัฒนาปต กิ ุล สํานักพมิ พ พาส พบั ลชิ ชงิ่ ปทพ่ี ิมพ พ.ศ. ๒๕๔๘ ราคา ๑๕๐ บาท “แบง ‘ฉัน’ บา งส”ิ เปนหนังสือภาพที่ไมมีตัวอักษร (Wordless) ซ่ึงสามารถนํามาใชกับเด็กหลายๆวัย ตั้งแตเด็กเล็ก จนกระท่ังถงึ เด็กโต แมในระดบั ประถมตน กย็ ังสามารถใหเดก็ ๆแตง เรอื่ งและเขียนลงบนหนงั สือเองได เนอ้ื หาของ “แบง ‘ฉัน’ บางสิ” ตรงไปตรงมาตามช่ือเรื่อง แตความสนุกต่ืนเตน และความนาติดตามอยูท่ีขบวนสัตว ตา งๆ ทพี่ ากนั ว่งิ ไลตามผลแอปเปล ทีร่ วงหลน ลงจากตน ภาพแรกในหนังสอื เปน ภาพผลแอปเปลสีแดงสดหลุดจากขว้ั ลอยลิ่วผานหนานกสีแดงไปอยางเฉียดฉิวแลวรวงผาน หนากระรอกนอยสแี ดงท่พี ยายามเอื้อมสองขาหนา ไปควา แอป เปล แตม นั ก็ควาเอาไวไมได เจากระตายหูยาวตัวสีแดงกําลังรอ รบั ผลไมส ีแดงสดนา กินอยูโ คนตน แตป รากฏวา แอป เปล สีแดงกลับไมตกลงมาใสมือกระตาย มันเบ่ียงผลหลบ รวงหลนไปบน พนื้ แลวกลิง้ หนีทั้งนก กระรอกและกระตายทหี่ มายจะควา มากนิ แอปเปลกลิ้งลิ่วๆ ผานแมวตัวโตที่ควาแอปเปลไวไมทัน มันกล้ิงไปถนนทองถนนที่มีรถราวิ่งผานไปมา กระท่ังผาน หนาเจาหมาซ่ึงก็ไมสามารถควาจบั แอป เปล ไวไ ดท นั ผลแอปเปลสีแดงและขวบวนสัตวตัวเล็กตัวใหญสีแดงทุกตัวทั้งกล้ิงทั้งวิ่ง ออกไปนอกเมอื ง กระท่ังทัง้ หมดมาหยดุ กกึ ตรงทเ่ี ทาของใครคนหน่งึ ... วิธีเลา เรอ่ื งของ “แบง ‘ฉนั ’ บางส”ิ มคี วามนาสนใจอยางย่ิง ผูแตงสามารถชักชวนใหเด็กๆ คอยลุน คอยติดตามเรื่อง ไปตลอดตัง้ แตตน จนจบ โดยมภี าพนาํ สายตาคอื “ผลแอป เปล สแี ดง” ใชหนังสือเลม นอ้ี ยา งไร เม่อื คุณพอ คณุ แม หรือคณุ ครูไดห นังสอื เลมน้ีมาเปนคร้ังแรก ไมตองตกใจวา ไมมีตัวหนังสือแบบนี้ แลวเด็กๆ จะดูรู เรอื่ งหรอื ไม พวกเขาจะเขาใจหรือเปลา ซึ่งในความเปน จรงิ แลว เด็กๆ สามารถเขาใจเรื่องราวตางๆ ในหนังสือภาพสําหรับเด็ก ไดมากกวาท่ีผูใหญคิด หรือท่ีผูใหญเขาใจ เนื่องจากเด็กๆ ไมเคยมีขอจํากัดในการจินตนาการ เรื่อง “แบง ‘ฉัน’ บางสิ” เปน หนังสืออกี เลมหนึ่งทีเ่ ปด โอกาสใหเ ด็กๆ ใชจินตนาการไดอ ยางไมจ ํากัด ๒๘
การใชห นงั สอื เร่อื งนกี้ ับเด็กๆ จึงเปนอสิ ระอยางย่งิ ไมม ภี าษาหรอื ตัวอกั ษรมาคอยกํากับ ผูอานสามารถแตงเร่ือง เลา เรื่องเองไดตามในนึก หากเปนเดก็ เลก็ ๆ ผูใหญอ าจจะชว ยนาํ เรื่องดวยการตง้ั คําถาม เพ่ือใหเร่ืองราวดําเนินตอไป เชน “ท่ีเมือง แสนงามเมืองหนงึ่ มตี น ไมใ หญอ อกผลอยเู ตม็ ตน วันหนึ่งผลไมส กุ สีแดงสดลูกหน่ึงปลิดรวงลงจากตนไม นกตัวหน่ึงบินโฉบมา เหน็ เขา จงึ ท้งิ ตัวด่ิงลงตามผลไม....เอ นกตัวน้ีจะไดกินผลไมผลนี้ไหมนะ...เปดหนาถัดไปดูกวา...เม่ือถึงตรงน้ี เร่ิมชักชวนให เด็กๆชวยแตง เตมิ เรื่องราว อาจจะใชเสียง ใชภ าษาทีช่ วยใหเกิดความสนุกสนาน และยังไดเปนการชวยกระตุนใหเด็กไดนึกคํา ไดม ีโอกาสนําภาษาท่ีเคยไดยนิ ไดฟง ออกมาใชอ ีกดวย เมื่อถงึ ตอนจบ ผลแอป เปล มาหยดุ กึกที่เทาของคณุ แม และคณุ แมก็ตดั แบงแอป เปล ออกเปนชนิ้ เล็กๆ แบงใหทุกตัวได กินดวยกัน ในภาพน้ผี ูเขียนไดใสต ัวเลขกํากบั เอาไว เผือ่ วา ใครอยากจะชักชวนใหเด็กๆนับจํานวนยังได แตเช่ือแนวา แมผูใหญ ไมเอยชวน เดก็ ๆเขากจ็ ะมองเหน็ ตวั เลขไดเ อง และสามารถรูไ ดใ นทันทีวา ทง้ั สตั วและคนรวมกันทง้ั หมดมีจํานวนเทาไร สาํ หรบั ภาพปก ผูวาดจงใจใชแดงเพอ่ื ใหดูเดน สะดุดตา ภาพท่หี นามผี ลไมผ ลใหญสีแดงดูฉ่ํานากิน แวดลอมดวยสัตว ตัวเล็กตัวนอ ยรวมทั้งเด็กผูหญงิ ชอื่ เรื่องใชตัวลายมอื เขียนตัวโตวา “แบง ‘ฉัน’ บา งส”ิ เหมอื นเปนประโยคเชิญชวน เพราะ “ฉัน” ในทนี่ ี้ ไมไ ดบ อกวา เปนใครคนใดหรือตวั ใดตวั หนง่ึ ดังน้ัน เด็กๆ ทอ่ี า นหนังสือเลมนี้ก็สามารถเปน “ฉัน” ไดเหมือนกัน เพียงแค ชื่อเร่ือง กับภาพประกอบบนหนาปก กเ็ ชิญชวนใหอ ยากติดตามเรอ่ื งขางในแลว และยิ่งเม่ือหนังสือเลมนี้ไดรับการออกแบบมา เปนพิเศษ คือ ใหเ ด็กๆไดแ ตงเรอ่ื งเอง จึงไมอ ยากเลย ท่หี นงั สือเลมนีจ้ ะเปนเลมโปรดอกี เลมของเด็กๆ ชื่อหนังสอื ปลาสายรุง ผแู ตง มารคัส ฟส เตอร ผแู ปล ปา นแกว สํานักพิมพ แพรวเพื่อนเดก็ ปท ีพ่ ิมพ พ.ศ. ๒๕๔๐ ราคา ๓๔๕ บาท “ปลายสายรุง ” เปนหนงั สอื ภาพท่ีสวยงาม แพรวพราวดวยเทคนคิ การพิมพสีเงิน และ”ปลาสายรุง” เปนท่ีชื่นชอบของ เด็กๆ อยางยงิ่ โดยเฉพาะเดก็ ผหู ญิง ปลาสายรุงไดร ับการตพี ิมพเ ปนภาษาตา งๆ ทวั่ โลกมากกวา ๒๐ ภาษา ปลาสายรงุ เปน ปลาแสนสวย ทวาเยอ หยงิ่ แมป ลาตวั อน่ื ๆ ในทองทะเลจะพยายามเขา มาชักชวนใหปลาสายรุงไปเลน ดวยกัน หรือบางตวั ถงึ ขน้ั กลา มาขอเกลด็ แสนสวยของปลาสายรงุ แตท้ังหมดก็ถูกปลาสายรุงไลตะเพิดไปทุกตัว ดังน้ัน จึงไมมี ปลาตัวใดเขาใกลปลาสวยอกี ตอ ไป เด็กๆ จะไดเรียนรสู าระจากบทเรยี นท่ปี ลาสายรุงไดรับ และการเลาเรื่องดวยภาษาชั้นวรรณกรรมท่ีเด็กๆ จะสามารถ ซาบซงึ้ กับภาษาไปพรอมๆ กับการดภู าพทสี่ วยงามในหนังสือดังประโยคที่วา แมจะมีเกล็ดสวยงามสักเพียงใด หากไมมีใครชื่น ชม ไมม ีใครเขาใกล มันจะไปดีไดอ ยางไร ปลาสายรงุ จงึ กลายเปน ปลาทีเ่ หงาทส่ี ุดในทะเลแหง นัน้ “ปลาสายรงุ ” ถือวา เปน หนงั สือภาพสาํ หรบั เด็กที่ใชภาษาไทยไดอ ยางงดงามถงึ ขนั้ วรรณกรรม เหมาะอยางยิ่งสําหรับ อานใหเ ด็กฟง เพอ่ื ใหเ ดก็ ไดรับฟงภาษาทด่ี ี ไดเสพภาพทงี่ าม แมเร่ืองจะยาวไปสักหนอย แตดวยความสวยงามนาต่ืนตาต่ืนใจ ก็ชว ยทาํ ใหเ ดก็ ๆ สนใจตดิ ตามอยา งใจจดใจจอ เมอ่ื อา นหนังสือเร่อื งปลาสายรุงแลว ผูใหญไมจําเปนตองสรุปความตอนทายใหเด็ก เพราะเราตองเช่ือม่ันวา เด็กจะ สามารถเรยี นรูไ ดดวยตัวเองเชน เดยี วกับปลาสายรุง ๒๙
กลุมสงเสริมภาษา การเลนคาํ คาํ คลอ งจอง ช่อื หนังสอื บองแบว ผแู ตง พรรณทพิ ย บรบิ รู ณ / ทวี ศริ ธิ นชยั สาํ นกั พิมพ แพรวเพ่ือนเดก็ ปทพ่ี มิ พ พ.ศ. ๒๕๔๘ ราคา ๑๖๐ บาท หนงั สือภาพสําหรับเดก็ รางวลั นายอินทรอ ะวอรด เรือ่ ง บองแบว เปน หนังสอื ภาพประเภทคาํ กลอนท่ีอานสนุก ข้ึนตน ดว ยเสยี งที่ชวนใหเ ดก็ อยากติดตาม เชน ตะแงว ตะแงว เจาแมวลงพุง หรือ ฮิกฮู ฮิกฮู นกฮูกตาโต หรือ วิบวับ วิบวับ ดาวกับ พระจนั ทร เปน ตน ตลอดทง้ั เรอื่ งดแู ลว คลา ยกบั จะจบในหนาเดียว ไมมีความตอ เนือ่ ง แตเ มือ่ อา นอยางตอเน่ืองไปพรอมๆ กับการดูภาพ จะพบวา บองแบว มคี วามตอเน่อื งและมกี ารเคลอื่ นไหวอยตู ลอดทั้งเรอ่ื ง เดก็ ๆ ทฟ่ี งเรื่องบองแบวจะเกิดคําถามในทุกๆ หนาวา แททจ่ี ริงแลวบอ งแบว คอื อะไร แมใ นตอนจบกไ็ มไดเ ฉลยหรอื เปดเผยวา บอ งแบว คอื อะไรกันแน หนังสือประเภทนี้จะเปดโอกาส ใหเ ด็กไดค ิดและใชจินตนาการอยางเต็มที่ คาํ ตอบทีไ่ ดไมม ีถูกหรือผดิ เด็กๆบางคนอาจจะบอกวา บองแบวเปนสัตวประหลาด บางคนบอกวาบองแบวเปนความมืด ซึ่งไมวาบองแบวจะเปนอะไรก็ตามในความคิดของเด็กๆ แตสารที่เด็กไดรับก็คือ ถาไม นอนบองแบวก็จะมาหา ผูใหญหลายคนอาจจะไมอยากหยบิ หนังสอื เลม นม้ี าอา นใหเด็กๆฟง เน่ืองจากเกรงวาเด็กจะกลัว แตอยาลืมวาเด็กๆ เกือบทุกคนชอบเร่ืองที่ตื่นเตน ลึกลับแตไมโหดราย ขณะท่ีผูใหญอานเร่ืองบองแบวใหเด็กๆ ฟง พวกเขาจะรูสึกสนุก ต่ืนเตน ขณะเดียวกนั ก็รูสกึ หวัน่ ๆ ไปดวย แตความรสู ึกหวนั่ เกรงเชน น้จี ะไมสามารถสัน่ คลอนเด็กๆ ได ถาพวกเขากําลังฟงอยูกับผูใหญ ทีเ่ ขาไววางใจ และรสู กึ ไดถ ึงความปลอดภัยขณะท่นี ั่งฟง อยู ภาพประกอบในบองแบว ไดร บั การออกแบบมาใหดูแปลกตา โดยใชส ีดําทแี่ ทนความมืดของยามคํ่าเปนหลัก ตัดดวย สสี ันสดใสนา ตน่ื ตาต่ืนใจ ประกอบกับการเวนพน้ื ท่สี ขี าวไวค อนขางมาก จึงทําใหไมรูสึกอึดอัดแมเน้ือเร่ืองจะลึกลับก็ตาม การ ใชส ีนา้ํ ก็ชว ยไดม ากในการทาํ ใหภ าพนน้ั ไมห นักทบึ แมจะดูเหมือนสสี นั ฉูดฉาดแตไ มบ าดตา กลบั มองดอู อนนุมลง การอา น “บองแบว ” ใหเดก็ ๆฟงจะไดบรรยากาศที่สนุกสนาน เพราะในทุกๆ หนาเปดโอกาสใหเด็กๆไดมีสวนรวมใน การออกเสยี ง ในวลี “โครกคราก โครกคราก” ตัวอยางเชน บอ งแบว เอย อยใู นโพรงไม ตกคํา่ เมอื่ ไร กอ็ อกหากนิ ทองรอ งโครกคราก อา ปากแลบลน้ิ ถาใครไดย นิ ตองหนใี หไ กล โครกคราก โครกคราก ก๊บั แก กับ๊ แก ตุก แกหัวโต ผลบุ ๆ โผลๆ ไมย อมหลับใหล บองแบวมาเจอ ตอ งรบี หลบไป แตหนีไมไหว บอ งแบวจับกนิ โครกคราก โครกคราก เดก็ ๆ ไดอะไรจากหนงั สอื เร่อื ง บองแบว ความโดดเดนของ “บองแบว” มีเห็นไดอยางชัดเจน คือ ภาษาที่มีความคลองจองเปนจังหวะ ใชภาษาที่ เรยี บงายแตส รางใหเกิดภาพไดช ัดเจน เดก็ ๆ ทีไ่ ดย ินไดฟงเรอ่ื งน้เี พียงไมก่คี รั้ง กจ็ ะสามารถทองตามไดท้ังเรื่อง แมเด็กๆจะอาน หนังสอื ไมอ อก แตการทพ่ี วกเขาสามารถทอ งตามไดต ลอดท้งั จะชวยสรางความรูสึกภาคภูมิใจ คลายกับวาตัวเองอานหนังสือ ไดแลว ซึ่งจะชว ยสง เสรมิ เจตคตทิ างบวกตอ หนังสือ กระตนุ ใหพวกเขาอยากหดั อานหนังสือเอง ๓๐
ชื่อหนังสือ คา งคาว คา งคนื ผูแตง ขตั ตยิ ดา ไชยโย ผวู าดภาพ เยาวภา จรี าระรืน่ ศกั ด์ิ อรรถพล ดุมใหม สํานักพิมพ แปลนสารา ปท พี่ ิมพ พ.ศ. ๒๕๕๐ ราคา ๗๕ บาท คางคาวคา งคืน นทิ านคณุ ธรรมทผี่ ูแตง ไดรบั แรงบันดาลใจมาจาก คาํ กลอนสอนเรอ่ื งหนาท่ี ของทานพทุ ธทาสภกิ ขุ คางคาวคางคืน เปน หนงั สอื นิทานคํากลอนสําหรับเดก็ เล็ก เลาเรื่องราวของคางคาว ช่ือ คางคืน เปนคางคาวนอยท่ี ไมร จู ักหนา ที่ของตน และในทา ยที่สดุ คางคาวคางคนื กไ็ ดรบั บทเรียน และเรมิ่ สํานึกในการทําหนา ท่ขี องตนในตอนจบ นิทานที่มีเรื่องราวทํานองน้ี มีอยูไมนอยในตลาดหนังสือเด็กบานเรา แตก็มีจํานวนไมมากนักที่สอนใหเด็กไดรูจัก หนาทีข่ องตนต้ังแตย งั เลก็ ๆ เชน “คา งคาวคางคนื ” เลม นี้ ภาษาท่ีใชในหนังสือเลมนี้ เปนคําคลองจองที่ไมมีคํายาก ใหเด็กๆ จึงจดจําไดงาย และการเลนคําวา คางคาว กับ คางคนื ชวยใหเ กดิ เสยี งทฟี่ งแลว ชวนสนกุ ในสว นของภาพประกอบทใ่ี ชเ ทคนคิ คอมพวิ เตอร จึงเปนขอจํากัดอยา งมากในเรื่องของการนําเสนอรายละเอียดตางๆ ในแตล ะภาพ แตล ะตอน จึงทําใหห นังสอื เลม น้ีขาดเสนห ของหนงั สอื ภาพสําหรับเด็กไปอยางนา เสยี ดาย ชวนคดิ กิจกรรมสําหรบั เด็ก หลังอา น “คางคาวคางคืน” คา งคาว เปนสัตวท น่ี า ตน่ื เตนสาํ หรับเด็ก เนือ่ งจากเปนสตั วทีม่ ลี ักษณะคลายทั้งนกและหนู การใชชีวิตของคางคาวก็ นามหศั จรรยส ําหรับเด็กเล็กๆ เพราะคางคาวออกหากินตอนกลางคืน มิหนําซ้ํายังเกาะกิ่งไมหอยหัวลง คุณครูจึงสามารถนํา จดุ เดนเหลาน้ีของคางคาว มานาํ เสนอแกเด็กเพื่อเช่ือมโยงใหเดก็ เขา สูกระบวนการเรียนรู เรื่องกลางวันกลางคืน เรื่องชนิดของ สัตวต างๆ เปน ตน ๓๑
สําหรบั เด็กวัย ๗ - ๙ ป หนงั สือเสริมการเรยี นรูเ ด็กวยั เรยี น ชว งช้ันที่ ๑ ๓๒
กลุม สาระการเรยี นรภู าษาไทย ชือ่ หนงั สอื โสนนอ ยเรือนงาม ผแู ตง นานกฮกู สํานักพมิ พ แฮปปคิดส ปทพี่ ิมพ พ.ศ. ๒๕๔๗ ราคา ๕๕ บาท โสนนอยเรือนงาม เปนนทิ านไทยทผี่ ูใหญร จู ักกนั ดหี รอื บางคนอาจจะหลงลืมไปแลว โสนนอยเรือนงาม เปนเร่ืองราว ของเจาหญิงโสนนอย ลูกสาวจาเมือง ผูเกิดมาพรอมกับเรือนไทยแสนงามอยูในมือ และเปนเรือนไทยมีนาอัศจรรยเพราะ สามารถขยายใหญโตกวา งขวางไดตามตองการ เมื่อเจา หญงิ โสนนอยอายุใกลครบสิบหาป โหรหลวงทํานายทายทัก เจาหญิง โสนนอ ยจึงตองปลอมตัวเปน สาวชาวบา นออกจากเมืองเปนการแกเคล็ด ระหวางทางโสนนอยไดประกอบคุณงามความดี จึง ไดร ับของวิเศษที่ชุบชวี ิตคนตายใหฟน และไดชว ยเหลอื หญิงชาวบาน ชื่อวานางกุลาใหฟน นางกุลาจึงติดตามเปนทาสคอยรับ ใช และเมอ่ื ท้ังคเู ดินทางมายงั เมอื งๆ หนงึ่ ซึง่ มเี จาชายองคหนงึ่ ไดสิ้นพระชนม แนนอนวาเจาหญิงโสนนอยผูมีของวิเศษ ไดชุบชีวิตของเจาชายได แตกาลกลับเปนวา เจาหญิงโสนนอยถูกนางกุลาหักหลัง ปลอมตัวเปนเจาหญิงเสียเอง เรื่องราว ดําเนนิ ไปตามแบบฉบบั ของนิทานไทย ทตี่ วั รายไดร ับผลของการกระทํา และเจาหญิงก็ยังรักษาความดีงามไวดวยการยกโทษ ใหน างกลุ า ไมใ ชเ รอื่ งงายท่ีจะนํานิทานไทยมีเลาใหมด วยภาษาปจ จบุ นั โดยใหอ า นงา ย มีเน้ือความสั้นและกระชับ ซึ่ง”โสนนอย เรอื นงาม” เลมนี้สามารถทาํ ได แมวา บางตอนที่อานแลว ใหเกดิ ความสงสัยใครร อู ยูบาง ท่จี ๆู ความมหัศจรรยก็บังเกิดข้ึนโดยไม รทู ม่ี าท่ีไป จงึ เขาใจวา ผเู ขยี นพยายามเขยี นใหเน้อื หาสัน้ กระชบั จึงไมอ ธบิ ายขยายความ สาํ หรับภาพประกอบในเลม ดูโดดเดน ฉูดฉาดสะดุดตา เนื่องจากตองการใหมีความทันสมัย หลุดกรอบความเปน นทิ านโบราณ ภาพตัวละครท้ังเจา หญิงและเจาชายใชรูปแบบการวาดภาพการต นู คือหัวโต ตัวเล็ก แตแสดงความเปนไทยดวย เสื้อผา และฉาก รวมท้งั การใหสี แมว า นทิ านไทยเร่ือง โสนนอยเรือนงาม จะมีความยาว และมเี รอื่ งราวทค่ี อนขางซับซอนตามแบบฉบับของนิทานไทย มคี วามอจิ ฉารษิ ยา แกง แยง ชิงดี แตภาพประกอบของเรอื่ ง มาชวยลดความคดิ ขดั แยง แบบผูใหญล งไดมาก จนแทบจะไมเหลือ เลย เมื่อ “โสนนอ ยเรอื นงาม” ถูกจดั ใหอ ยใู นหมวดสาระการเรียนรภู าษาไทยสาํ หรบั เดก็ ประถม การจะใหเด็กอานเรื่องเอง ก็เปน เร่อื งยาก เพราะมีเนอ้ื หายาว มีศัพทบางคําที่ไมคุนเคย คุณครูจึงควรถือโอกาสน้ี อานใหเด็กฟงพรอมกับชักชวนใหเด็ก คน หาคาํ ศพั ทท่ียากหรอื ที่ไมค นุ เคย เชน คําวา ชปี ะผา ผูมีบุญญาธิการ จากน้ันก็ถือโอกาสนํานิทานไทยเรื่องอ่ืนๆ มาเลา มา อา นใหเดก็ ฟงตอ ๓๓
ช่ือหนังสือ ทองโลกจนิ ตนาการแสนสนุก ผูแตง Emille Beaumont สํานกั พิมพ นานมีบคุ สพับลิเคชัน่ ส ปท ีพ่ มิ พ พ.ศ. ๒๕๔๗ ราคา ๒๔๕ บาท หนังสือ “ทองโลกจินตนาการแสนสนุก” เปนหนังสือภาพท่ีนําเด็ก ๆไปรูจักเหลาตัวละครในเทพนิยาย ในนิทาน ตาํ นานเทพและวีรบุรุษ เร่ืองลึกลับชวนพิศวง และบรรดาสัตวประหลาดท้ังหลายวาบรรดาผูคน หรือสัตว หรือเทพเหลาน้ีถือ กําเนดิ ขึ้นมาไดอ ยา งไร มีนิสยั อยา งไร ชอบหรอื ไมชอบอะไร หนงั สือเลม นี้ ไมจัดอยูในประเภทหนังสือนิทาน แตเปนหนังสือคูมือรูจักตัวละครในนิทาน ในตํานานและเรื่องเลา มากกวา เชน เร่อื งของพอแมเมอรล นิ ผูโดง ดงั รวมไปถงึ แมม ดและนางฟา เร่อื งราวของตวั ละครหรือแตละเหตกุ ารณ เขียนเลาสั้นๆ ไมเกินสองหนา พรอมภาพประกอบที่มีรายละเอียด ดูสนุก มลี ลี าความเคล่ือนไหวอยตู ลอดทงั้ เลม แตไมไดท าํ ใหภ าพดูยุงเหยงิ เนอื่ งจากมกี ารออกแบบจัดวางภาพอยางเปนระเบียบ ใน หน่ึงหนาแบง เปนภาพเลก็ สภ่ี าพ ชวยใหดงู า ย ไมล ะลานตาจนเกินไป ภาษาและทาทีการนําเสนอทําใหเนือ้ หาดขู งึ ขงั และจริงจัง ทําใหเ ด็ก ๆท่ีกําลังอานอยูอาจจะรูสึกตื่นเตนตามไปดวย ท้ังทคี่ วามจรงิ แลว เรอื่ งหาทงั้ หมดเปน เพยี งเร่อื งราวทีบ่ อกเลา ตอๆ กนั มา สาํ หรบั บางเร่ืองราว อาจจะดูคลา ยกบั เปน เร่ืองทรี่ ับรูและเขาใจไดเฉพาะกลุมเด็กโลกตะวันตกเทานั้น เชน เรื่องของ “พอ คาทราย” ทค่ี อยเอาทรายวเิ ศษมาโปรยใสบ า นที่มีเดก็ ไมย อมนอน หรือยักษโขมดท่ีรอคอยโทรศัพทจากพอแมใหมารับตัว เดก็ ไมนอน แตท้ังนี้และทั้งนั้น มิใชวา เร่ืองที่เลากันในประเทศตะวันตกจะไมเหมาะสําหรับเด็กบานเรา ในทางตรงกันขาม เด็กๆ ทุกคนลว นแตม ีจนิ ตนาการ โดยเฉพาะเรื่องท่ีนาตื่นเตน และเก่ียวของกับวัยของตัวเอง ยอมดึงดูดใหเด็ก ๆสนใจไดไม ยาก ในการใชหนังสอื “ทอ งโลกจนิ ตนาการแสนสนุก” ใหสนุกจริงๆ คุณครูควรเลาเร่ืองราวตํานานของตัวละครท่ีปรากฏ อยูในเรือ่ งราวของไทย หรอื จากเรอื่ งราวใกลตัวใหเดก็ ไดฟง กอน เพื่อปูพื้นและโนมนาวความสนใจ กอนจะนําเสนอหนังสือเลม น้ี โดยคุณครูยังคงเปน ผูเ ลาเรือ่ งในตอนตน จากน้นั จึงใหเดก็ ใชห นงั สอื สําหรบั กิจกรรมหลงั การอาน ไมควรบังคบั ใหเด็กๆ เขียน แตควรจะเสนอใหเด็กออกมาเลาใหเพ่ือนฟงมากกวา หรือ บางคนอาจจะแตงเรื่องราวข้ึนเอง โดยคุณครูอาจจะตั้งโจทย กําหนดตัวละคร กําหนดตอนจบ แลวใหเด็กแบงกลุม ผลัดกัน ออกมาเลาเร่ืองราวท่ีกลุมแตงใหเพอ่ื นฟง เชนน้ีนา จะเปนกจิ กรรมท่ีนา สนกุ กวาการส่ังใหเด็กอานและเขียนสรุปเหตุการณเพื่อ ประเมินการอา น ซึง่ ไมใ ชว ิธที ีเ่ ด็กๆ จะรสู กึ สนกุ ดวยเลย และอาจจะทาํ ใหกจิ กรรม \"สง เสรมิ การอา น” ดอยประสทิ ธภิ าพลงไป กลุมสาระการเรยี นรคู ณิตศาสตร ชื่อหนงั สอื ตะลยุ ดา นปริศนาเมอื งคณิตศาสตร เลม ๑-๓ ผูแ ตง Tori Jung สาํ นกั พมิ พ se-ed Kiddy Book ปท พี่ ิมพ พ.ศ. ๒๕๕๐ ราคา ๑๔๕ บาท ๓๔
หนังสอื ชุดตะลุยดา นปรศิ นาเมืองคณติ ศาสตร มีทงั้ หมด ๓ เลม เปนหนังสือการูตนู ความรเู รื่องเก่ียวกับคณิตศาสตรที่ มเี นื้อหาเรยี งลาํ ดับจากงายไปสคู ณติ ศาสตรที่ซบั ซอ นขึ้น เน้ือหานําเสนอในรูปแบบและเร่ืองราวของการตูน มีตัวละครอยูหนึ่งชุด มีตัวเอก ตัวราย และการฝาผานผจญภัย และการตองไขปรศิ นาโจทยท างคณิตศาสตร เรมิ่ ดว ยเลม แรก เพ่ือนาํ ผูอานใหไดรูจักเรื่องเกี่ยวกับจํานวน ตัวเลขโรมัน จํานวน ค-ู ค่ี จากเน้ือเร่ือง อลิซ สาวนอยนารักของกลุมเพ่ือนๆถูกปศาจเจาแหงคณิตศาสตรจับตัวไป ดังน้ัน ทั้งจิมมี โคลบีและ แซม ตองปฏิบัติภารกิจตลุยฝาดานปศาจ ตองตอสูกับโจทยตางๆทางคณิตศาสตร เพื่อใหบรรลุเปาหมาย น่ันคือการ ชวยเหลืออลซิ ใหพนจากเงื้อมมอื ของปศ าจคณิตศาสตร เพียงเลม ๑ เลมเดียว หรือการรูจักเร่ืองจํานวนเพียงอยางเดียวยังไมเพียงพอ จิมมี โคลบีและแซม ยังไมสามารถ ชว ยเหลืออลิซได เดก็ ๆ จะตองอานทั้งเลม ๒ ซงึ่ นอกจากมเี น้ือหาการแกโจทยเร่ืองจํานวนคู-คี่ พวกเขาทั้งสามยังตองแกโจทย เร่ืองเศษสวน ทศนิยม การบวบและการลบ ซ่ึงกวาจะชวยเหลือเพ่ือนรักได ก็ตองอานเลม ๓ ดวย ซ่ึงมีโจทยที่ยุงยากและ ซบั ซอ นขึน้ ไป น่ันคอื เรื่องเกี่ยวกับพืน้ ท่ี และสัดสวน การนําเรื่องราวความรูเชิงคณิตศาสตรมานําเสนอในรูปแบบที่เด็กๆ ชอบอยูแลว คือ การตูน เปนกลวิธีหน่ึงในการ ชว ยใหเด็กรสู กึ สนกุ กับการเรยี นรู และไมนาเบือ่ จงึ เห็นไดวา ในปจ จุบนั น้ี มีหนังสอื ประเภทนี้ออกมาวางจาํ หนายมากมาย จริงอยูที่เด็กๆ จะชน่ื ชอบอานหนังสือการต นู เพราะมีเรอ่ื งราวทอ่ี า นงาย ตวั หนงั สือนอ ย มภี าพประกอบมาก แตก็ควร ที่จะสง เสริมและสนบั สนุนใหเ ด็กๆ ไดอ านหนังสือประเภทวรรณกรรมท่ีมีแตตัวหนังสือควบคูไปดวย เพ่ือใหเด็กไดรูสึกซาบซ้ึง กับความงดงามของภาษา ที่หนงั สือการตูนเพียงอยางเดียวไมมีให ชื่อหนงั สอื กบ๊ิ กบ๊ิ กา บกาบ ตามขา พเจามา ผแู ตง แชร อึน ควิ สาํ นกั พมิ พ ไทยวฒั นาพานิช ปท่ีพิมพ พ.ศ. ๒๕๔๘ ราคา ๒๘๐ บาท หนังสือชุดคณิตศาสตรหรรษา ประกอบดวยหนังสือภาพนิทานหลายเลม เชนเรื่อง คืนหวาน วันดาวเต็มฟา หมวก วิเศษ เตเต เพ่อื นใหมข ไ่ี มกวาด และเร่อื งกี๊บกี๊บ กา บกาบ ตามขาพเจามา หนังสือในชุดนี้เปนหนังสือนิทานสอนคณิตศาสตร สําหรับเดก็ เลก็ คอื สอนใหเดก็ เขา ใจเรอื่ งตําแหนง ทีต่ ง้ั ขนาดและระยะทางมากกวา การพูดเรื่องตวั เลข “ก๊ีบก๊บี กา บกาบ ตามขา พเจา มา” เปน หนังสือภาพนทิ าน ทแ่ี ปลมาจากหนงั สือของประเทศเกาหลี เปนหนังสือภาพ สําหรับเด็กทอ่ี า นสนุก เปนเรื่องราวของเปด สามตัว ท่ีชอื่ วา กี๊บกบ๊ี กาบกาบ และแกบแกบ ทั้งสามอาศัยอยูในบานบนเนินเขา และที่น่ีเองท่ีมีเจาหมีตัวโตมารบกวน บุกรุกเขามาทําลายขาวของของพวกเปด ก๊ีบกี๊บ กาบกาบ และแกบแกบจึงตัดสินใจ อพยพ ยา ยหนีเขามายงั หมบู านท่อี ยไู กลออกไป ระหวางทางทีพ่ วกเปดพากนั ตนื่ เตน วา จะหนเี จาหมีทันหรือไม ขณะนนั้ เองเจาหมีตัวโตก็โผลหัวออกมาใหเห็นวา มัน กําลังไลต ามพวกเปด มาไมหา ง และมันยางเขามาใกลเร่อื ยๆ ใกลเร่ือยๆ จนกระทั่งเกือบจะจับเปดท้ังสามตัวได แตชาวบานได เขา มาชว ยเอาไวไ ดท นั และไลห มีตวั โตใหหนีไป เดก็ ๆเรียนรอู ะไรจาก “กี๊บกีบ๊ กาบกา บ ตามขาพเจามา” ๓๕
เมอื่ กบ๊ี กบ๊ี กาบกา บ และแกบแกบ พากันอพยพออกจากบาน ท้ังสามขนขาวขนของแลวออกเดินทาง ในหนังสือใช ประโยค ทั้งสามเริ่มตนการเดินทางทย่ี าวไกล โดยเดมิ ตามกนั ไปเปนแถว ประกอบกับภาพที่ใหเด็ก ๆเห็นวาระยะทางที่เปดท้ัง สามเดินหางออกจากบานเพียงใด และลักษณะการเดินเปนแถวเปนอยางไร ในการอานหนังสือเร่ืองนี้ใหเด็กฟง เม่ือผูอาน อา นถงึ ประโยคขา งตน นี้ ควรถอื หนงั สือนิ่ง นานสกั นิดเพอ่ื ใหเดก็ ไดสงั เกตเหน็ ภาพระยะทาง และเปด เดินเปนแถว หรอื เมอ่ื ถึงเหตุการณท เ่ี ปด ทั้งสามเดิมมาถึงบนเนินเขาลูกหน่ึง แลวพากันพูดดวยความดีใจวา “เฮ ฉันเห็นหมูบาน แลว โนนไง !” แกบ แกบ สงเสยี งลัน่ ทจี่ ริงแลวหมบู า นนน่ั ต้งั อยไู กลลิบ ซึง่ ในภาพแสดงใหเด็กระยะใกล-ไกลอยางชดั เจน หนงั สือเลมนี้ใชไดท งั้ กับเด็กเลก็ และเดก็ โต ดวยเรื่องสื่อสารงายๆ มเี หตุการณชวนติดตาม แมวาในตอนจะจบลงงาย และไมคอ ยจะเกี่ยวของกับตอนตน มากนักก็ตาม ชอ่ื หนังสอื โดเรมอนสอนคณิตศาสตร ปริมาณ-รปู ทรง ผูแตง - สาํ นกั พมิ พ นานมีบคุ สพ ับลิเคชนั่ ส ปท ่ีพมิ พ พ.ศ. ๒๕๕๑ ราคา ๙๕ บาท โดเรมอนสอนคณิตศาสตร แบง ออกเปน ๒ เลม คือ สอนเรอ่ื งปรมิ าณ-รปู ทรง ทีอ่ ธบิ ายเรื่องของความยาว ความกวาง ปริมาณ นํ้าหนักและเวลา สวนอีกเลมคือ สอนเรื่องจํานวน เพ่ือใหเด็กๆ ไดเขาใจเรื่องเกี่ยวกับจํานวน ต้ังแต ๑-๑๐๐ ที่มิใช เขาใจเพยี งสญั ญาลักษณตวั เลข โดเรมอนสอนเร่อื งปริมาณ-รูปทรงเลม น้ี จัดพิมพในรูปเลมท่ีใหญกวาหนังสือการตูนท่ัวไป จึงทําใหอานงาย รูปภาพ และตัวอกั ษรมขี นาดใหญเ หมาะสมสําหรับเด็กวัยนี้ การนําเสนอเรือ่ งราวกเ็ ปน อยา งสนุกสนานตามวัย เนื้อเรื่องเปนแนวผจญภัย เร่ิมตนจากการท่ีโดเรมอนและเพ่ือน ๆ ต้ังใจไปปคนิค ขณะที่จักรพรรดิจอมเบ่ือและ ลกู สมนุ กก็ าํ ลังเบื่อและอยากจะหาเรื่องสนกุ ๆเลนกนั อยูพอดี ทั้งหมดจึงไดเผชิญหนากัน ไดฝกสมองประลองปญญาในเร่ืองท่ี เกี่ยวกับคณติ ศาสตร ทง้ั การวดั ความยาว ความกวา ง ความจุดว ยวธิ ีตา งๆ ในการประลองปญญานีเ้ อง ที่เดก็ ผูอา นจะไดท งั้ ความสนุกและความรู เพราะทั้งโดเรมอน โนบิตะ ซุเนโอะ ไจแอนท และชิซกู ะตา งไดล องผดิ ลองถกู และไดม ีโอกาสตัง้ โจทยค ณติ ศาสตรใ หลกุ สมุนของจกั รพรรดิจอมเบือ่ ใหตอบอกี ดวย การทีเ่ ด็กๆ ไดอานหนงั สือการตนู คณิตศาสตรเลมนี้ พวกเขาจะมีสวนรว มในการคิดและแกโจทยไปดวยโดยธรรมชาติ เพราะโจทยท ตี่ วั ละครถาม-ตอบกันนน้ั ไมยากและไมงายจนเกินไป อกี ทง้ั ยังมีการอธิบายทั้งวิธีคํานวณเสริมเขามาดวย นับวา หนงั สือการตูนโดเรมอนสอนคณติ ศาสตรช ดุ นีเ้ ปนหนังสือนาสนุก เหมาะสําหรับเด็กอยางยง่ิ การใชหนังสือการตนู เลม นกี้ ับเดก็ ๆ ใชไ ดท้งั วิธใี หเ ด็กอานเอง หรอื คณุ ครูจําลองสถานการณจากหนังสือเพื่อมาใชฝก ถาม-ตอบโจทยส าระการเรยี นรคู ณิตศาสตรรว มกบั เด็กๆ ๓๖
กลมุ สาระการเรียนรูวิทยาศาสตร ช่อื หนังสือ ชดุ หนูนอ ยนกั สํารวจ “ทะเล” ผอู อกแบบจดั ทาํ โคลด เดอลาโฟส - สํานักพมิ พ แฮปปคิดส ปท ่ีพมิ พ พ.ศ. ๒๕๔๙ ราคา ๓๕๐ บาท หนงั สอื ชดุ หนูนอ ยนกั สาํ รวจ ประกอบดว ยเรื่องราวที่นาสนใจและเด็กๆ ควรรูอยูถึง ๖ เลม คือเรื่อง ทะเล ไดโนเสาร รางกาย ภาพยนตร ทอ งฟาและอวกาศ สุสานอียิปตโบราณ ท้ังหมดเปนหนังสือนาสนุก เปนหนังสือความรูกึ่งเลน ใชเทคนิค พเิ ศษในการพมิ พ มีการออกแบบมาเปนพิเศษ คอื ทายเลม ใชก ารพื้นขาว สมมุตวิ า เปน ไฟฉายวเิ ศษ ใหเดก็ ๆ ไดฉายคนหาภาพ สงิ่ ตางๆ ที่ตีพิมพเปนพิเศษบนพื้นพลาสติคท่ีมีสีเขม ทําใหภาพดูกลืนไปกับพื้น แตเม่ือเด็กๆ ใชไฟฉายวิเศษท่ีติดมากับเลม ฉายไปทภ่ี าพทบึ ทมึ กจ็ ะปรากฏภาพใหเ ห็นอยา งชัดเจน หนังสือประเภทใหความรูสําหรับเด็ก มีตีพิมพออกมามากมายในโลกของหนังสือเด็ก ดวยเน้ือหาการเรียนรูท่ี ใกลเคียงกัน ดังนั้น แตละสํานักพิมพจึงพยายามคิดคนและออกแบบรูปเลม รวมท้ังการนําเสนอใหดูแตกตางและนาตื่นเตน ทัง้ นี้กเ็ พ่ือดงึ ดดู ความสนใจของเดก็ ๆ และนบั วา หนังสอื ชดุ หนูนอ ยนักสํารวจสามารถทาํ ไดดีในการดงึ ความสนใจของเดก็ สาํ หรับเลม ท่ไี ดร ับการคัดเลือกมานาํ เสนอในที่นี้ คือ ทะเล เริม่ เร่ืองดวยการแนะนาํ และชักชวนใหเด็ก ๆลองใชไฟฉาย วิเศษจากทายเลม พลิกหนาหนังสือเพ่ือติดตามลงสูใตทะเลลึกลงไป ลึกลงไป ไดเห็นปลาทะเลหลากหลายชนิด ต้ังแตสัตว ทะเลชายฝง ปลานา้ํ ต้ืน ปลากลางทอ งทะเล ปลากน ทะเล และสงิ่ มชี ีวติ ตามแนวปะการงั สําหรับขอมูลที่ใหไวในเลม ถือวาเปนขอมูลเชิงกวาง คือ การแนะนําใหเด็กๆ ไดรูจักชื่อ แหลงที่อยูอาศัย และมี ภาพประกอบท่สี วยงามเทานั้น หากเดก็ ๆ ตองการขอมลู เพมิ่ เติมในแนวลึก คุณครูหรือบรรณารักษสามารถแนะนําหนังสือเลม อื่นๆ ท่มี ขี อมลู เพม่ิ เตมิ ใหแกเด็กๆ ได จึงนับวา หนังสือชุดหนูนอยนักสํารวจนี้ เปนหนังสือกลุมที่มีไวจุดประกายความสนอก สนใจของเด็กๆ ตอเรื่องราวตางๆ ทีค่ วรรู ชือ่ หนงั สือ วินนีเดอะพหู เปดโลกการเรยี นรู สาํ นักพิมพ นานมบี คุ สพับลเิ คช่ันส ปที่พิมพ พ.ศ. ๒๕๔๘ ราคา ๙๕ บาท วนิ นเี ดอะพูห เปนตัวละครจากวรรณกรรมสําหรับเด็กจากประเทศอังกฤษท่ีมีช่ือเสียงโดงดังไปทั่วโลก สําหรับวินนี เดอะพหู ห รอื หมพี ูห และเพ่อื นๆ ทกุ ตัวของมนั ท่ปี รากฏภาพอยูในหนังสือชุดนี้ เปนหมีพูหและผองเพ่ือนท่ีไดรับการนํามาวาด ภาพใหม และมกี ารออกแบบดัดแปลงใหดูเปนเด็กลงดวยเทคนิคการวาดภาพท่ีแตกตางไปจากหมีพูหในรูปแบบดั้งเดิม โดย บรษิ ทั วอลทด สิ นีย บริษัทผลติ ภาพยนตรช ื่อดัง ฉะนนั้ หมีพูหแ ละเพ่อื นของมันท่ีเราเห็นในหนังสือชุดนี้ จึงไมใชหมีพูห ตัวละคร ตน แบบดัง้ เดมิ ท่เี รยี กกันวา พหู ค ลาสสิค ในชุด วนิ นเี ดอะพหู เปดโลกการเรียนรู มหี นงั สอื อยูดวยกันหลายเลม แตในท่ีนี้จะยกมาเปนตัวอยางพอสังเขปเพียง ๔ เลม ไดแ ก สตั วทะเล นา้ํ แมลงและนก โดยในแตละเลม แตละตอนจะมีตัวละครคือ หมีพูห และผองเพ่ือน เปนตัวละครนํา เดก็ ๆ ใหไ ปรูจักกับส่ิงมีชวี ิตและไมม ชี ีวิตท่เี ดก็ ๆ ควรไดร จู ัก ในรูปแบบทีเ่ รียบงา ยหากแตนา สนใจ ๓๗
ความแตกตางที่โดดเดนของหนังสือชุด วินนีเดอะพูห เปดโลกการเรียนรู น้ีคือ การใชภาพถายที่คมชัด เห็น รายละเอยี ดและมีความสวยงามมาเปนภาพประกอบ ซึ่งมีความเหมาะสมเปนอยางยิ่งสําหรับหนังสือประเภทสารคดีสําหรับ เดก็ สาํ หรบั วินนเี ดอะพหู เปดโลกการเรียนรสู ตั ว เชน แมลง นก และสตั วท ะเล นอกจากการบอกเลาเรื่องราวชีวิตจริงของ สัตวชนดิ น้ันๆ แลว ภายในเลมไดแบงหัวขอไวอยางชัดเจน ๓ หัวขอหลัก คือ ออกจากไข (แรกเกิด) เติบโต (คืบคลานและโผ บนิ ) และหัวขอ สดุ ทายคอื ที่อยอู าศัย (บา นของมัน) เมอ่ื มีการแบง หวั ขอ ท่ชี ดั เจนเชน น้ี จงึ เปนเรือ่ งงายสาํ หรับเด็ก ทจ่ี ะซึมซับขอมูลจากการอาน ทําใหไมสับสน และงาย ตอการจดจาํ สวนในเลม นํ้า ท่ีไมใชส่ิงมีชีวิต ไดจัดแบงหัวขอเอาไววา มันเปนอยางไรนะ มันอยูรอบๆ ตัวเรา และมีตัวอะไร อาศัยอยูหรือมนั อยทู ไี่ หน ในสวนของเลม “นํา้ ” มกี ารใหข อ มูลทเ่ี กยี่ วกบั นาํ้ ทง้ั หมดทีเ่ ดก็ ๆควรรจู กั ทัง้ มหาสมุทร ฝน นํ้าตก แมน้ํา ข้ัวโลกเหนือ และใต หนองนํ้า ทัง้ หมดนสี้ อ่ื สารดว ยภาษาทเ่ี ขา ใจงายเหมือนการเลาเร่ืองใหเด็กฟง มีตัวหนังสือไมมากและพิมพตัวหนังสือ ใหญพ อทจ่ี ะเด็กเริ่มหัดอานเองได ใชภาพประกอบใหญดูไดเต็มตา ในบางตอนยังใชตัวละครในวินนีเดอะพูห ที่มีทั้งพิกเล็ต แคงกา เบบร้ี ู อียอร และอารว ซง่ึ เปนบรรดาเพอ่ื นของหมีพูห มาเปนผูต ้ังคาํ ถาม เปนผูใ หคําตอบ หรือบางคร้ังมาตัวดําเนินเร่ือง ทําใหเ ดก็ ๆ รสู ึกเพลดิ เพลนิ เหมอื นกบั กําลงั อา นหนังสอื นทิ านแสนสนกุ ไมใ ชก าํ ลงั อา นหนงั สอื ความรทู นี่ าเบื่อ หนังสือชดุ วนิ นเี ดอะพูห เปด โลกการเรยี นรู จดั เปน หนังสือประเภทความรู จึงมีการนําเสนอทีแ่ ตกตางจากหนังสืออาน เลนประเภทหนังสอื ภาพนิทาน ซ่ึงหนงั สอื ประเภทนจี้ ะเนนความสาํ คญั ของขอ มูลเร่ืองราวท่ีนาสนุก ชวนติดตาม แตหนังสือชุด นกี้ ท็ าํ ไดด เี พราะมีวิธีการเลาเร่อื งทส่ี นุกและชวนใหตดิ ตาม กลมุ สาระการเรียนรูสังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ช่อื หนงั สือ อศั วนิ ดอกหญา ผูแตง วรรณรินทร วินจิ กจิ เจริญ มลู นธิ ิเพ่ือเดก็ สํานักพมิ พ ปท่พี มิ พ พ.ศ. ๒๕๔๘ ราคา ๑๔๐ บาท หนงั สอื รางวลั ภาพประกอบดเี ดนจากการประกวดนิทานมูลนิธเิ ด็ก คร้ังท่ี ๘ หนังสือเลมน้ีจึงมีภาพประกอบท่ีดูสดใส และโดดเดน เปนพเิ ศษ ดว ยเทคนคิ สหี มึก ซง่ึ มคี วามสดและใส มีการออกแบบจัดวางภาพมาเปนอยางดี ทําใหรูสึกไดถึงความ เคล่อื นไหว และการเดินทางของตัวละคร หากแตยังมีจุดที่นาสังเกตคือ ดอกไมเกือบทุกดอกไม ดูแข็งราวกับตนไม กลีบดอก ไมไดอ อ นหวานดังทกี่ ลีบดอกไมค วรจะเปน เน้ือหาสาระหรือประเด็นหลักของเรื่อง คือ ดอกหญาเปนพืชท่ีสวยงามท่ีไมควรมองขาม นิทานเร่ืองนี้เร่ิมเร่ืองเม่ือ เจา ชายแหงความมดื หลงรกั ดอกไมบนโลก แตเ พราะเปน เจา ชายแหงความมืดจงึ ไมเคยมโี อกาสไดพ บกับดอกไมบานในยามค่ํา เจาชายจึงตดั สินใจรวบดอกไมบนโลกทั้งหมดมาไวกบั ตัวเอง เพอ่ื วาเมอื่ ถงึ เวลากลางคืน จะไดเห็นดอกไมบานท่ีวังอยางสบาย ใจ เมื่อไมม ดี อกไม สง่ิ มีชีวิตทั้งหลายบนโลกก็เดือดรอน จึงพากันออกตามหาดอกไม นําขบวนโดยบรรดาดอกหญาท้ังหลาย ท้งั หมดตอ งผจญกบั ทหารแหง ความมืด และสุดทายก็ผานดานมาได ขณะที่เจาชายก็สํานึกไดเชนกัน เพราะดอกไมท่ีเจาชาย รวบมานัน้ ก็ไมไดเ บง บานอยา งใจนกึ เจาชายจึงปลดปลอยบรรดาดอกไมทั้งหมดใหเปนอิสระ โดยเจาหญิงแหงรุงเชาไดมอบ ดอกแกว และดอกราตรี ท่บี านตอนกลางคืนใหแ กเจาชายเปนการตอบแทน สว นบรรดาดอกหญา ท่ีกลาหาญนั้น ยังยินดีท่ีจะยืน ๓๘
หยัดอยูต ามริมทางตอไป แมวา เจา หญิงจะเสนอเขามาอยูรว มกับแปลงดอกไมแ สนสวย และในตอนทายเร่ืองไดบอกไววา ดวย เหตุน้ีเอง ดอกหญา นานาชนดิ จงึ ยังคงขึ้นอยูตามขางทางและท่รี กราง การเลาเร่ือง “อัศวินดอกหญา” ผูแตงไดเริ่มสรางปมเล็ก ๆเอาไวตั้งแตเร่ิมเรื่องวา แมดอกหญาหัวยุง (วาดแลวดู เหมือนดอกชบา) ทเ่ี ปนดอกไมเชนกัน แตเจาชายก็ไมไ ดร วบเอาไปดว ย นน่ั ก็เพราะ เจา ชายมองขามดอกหญาไปแลวต้ังแตเริ่ม เรือ่ ง แตส ดุ ทา ยบรรดาดอกหญา เหลา นีก้ ็ไดม ีบทบาทสําคญั ในการนาํ พาดอกไมกลบั คนื มา ภาษาท่ีใชในนิทานเรื่องนี้ ไมมีจุดเดนเปนพิเศษ มีเพียงการเลาเร่ืองแบบนิทานเจาหญิงเจาชาย เราจึงไดเห็นรูป ประโยคทม่ี ีอารมณฝน หวาน อยาง เจา ชายแหงความมืด เจา หญิงแหง รุงเชา ดอกหญาขนสีฟูฟองปลิวไปกับสายลม ดอกไมท่ี หลับใหลอยใู นออมแขน ดอกไมจะไมบานในความมืด เหลานี้เปนภาษาท่ีใหอารมณฝน มากกวาเลาเรื่องสนุกในแบบนิทาน สาํ หรับเดก็ จึงนบั วา “อศั วินดอกหญา” เปนหนังสืออกี กลมุ หน่ึงท่มี ีรูปแบบการใชภาษาท่ีตางออกไปจากหนังสือเด็กโดยท่ัวไป และเพ่อื ใหเกิดความหลากหลายทางภาษา จึงควรมใี ชใ หเดก็ ๆไดอ านในหอ งสมุด ช่ือหนงั สือ ราหุลกมุ าร ผแู ตง หมอู ว น สาํ นกั พิมพ เบบ้ีแกงค ปท ่ีพิมพ พ.ศ. ๒๕๔๙ ราคา ๑๒๐ บาท ราหุลกุมาร เปนโอรสของเจาชายสิทธัตถะ และถือเปนสามเณรองคแรกในพุทธศาสนา ไดรับการยกยองจาก พระพทุ ธเจาวาเปน “เอตทคั คะ” หรอื มีความเปนเลิศในดานใฝก ารศึกษา หนงั สอื เร่ือง ราหลุ กุมาร เสนอประวัตแิ ละคณุ งามความดีของตวั ราหุลกมุ าร ในรปู แบบหนังสือท่ีมีภาพประกอบ ใชคํา นอ ย เลาเรื่องกระชบั มีคาํ ราชาศพั ทมากและมีคําแปลอยใู นวงเล็บ ซงึ่ ทําใหด ูยาก ไมชวนอาน บางจุดมีคําแปล บางจุดไมมีคํา แปล เชน เริ่มเรอ่ื งดวย เจาชายสิทธัตถะเปนพระโอรสของ...เม่ือประสูติได 7 วนั พระมารดาก็สิ้นพระชนม (ความในหนาแรกน้ี ไมมีคําแปลราชาศัพท) ในหนา ถัดมา เม่อื เจา ชายสทิ ธัตถะพระชนมายุ (อาย)ุ ได 16 พรรษา ก็อภิเษกสมรส (แตงงาน) กับ.... หรือในหนาถดั มา เจา สิทธัตถะทรงตรสั (พดู ) วา .... การอานตวั หนังสือทีเ่ ตม็ ไปดวยวงเลบ็ นั้น เปน ความลาํ บากมากสาํ หรบั เด็ก ซึ่งหากตอ งการใหเด็กไดรูจัก ความหมาย ของคาํ ราชาศัพท ควรแยกไปไวท า ยเลม นา จะเหมาะสมและสะดวกกวา สาํ หรับการอา น การออกแบบภาพประกอบ และจดั วางรูปเลม นับวาเรียบงาย อานงาย จัดแยกตัวหนังสืออยูหนาซาย ภาพประกอบ อยูขวา เปนเชนนีไ้ ปตลอดจนจบ สาระหลกั ของ “ราหุลกมุ าร” คอื การยึดม่ันอยูใ นคาํ สงั่ สอน และการเปนคนที่มีความประพฤติดียอมสงผลดีแกตน ซ่ึง สาระหลักนี้ คน หาไมย ากในหนังสอื เลมนี้ กระทั่งเด็กในระดับช้ันประถมตนก็สามารถสรุปเองได โดยคุณครูหรือผูใหญไมตอง ยํา้ เตือน ๓๙
ชอ่ื หนงั สอื แมวดาํ จอมตะกละ ผูแตง จามิเลห ฟาราฮานี สํานักพิมพ แฮปปค ดิ ส ปท ีพ่ มิ พ พ.ศ. ๒๕๔๘ ราคา ๖๕ บาท “แมวดําจอมตะกละ” เปนนิทานอิหราน มีรูปแบบการเลาเร่ืองแบบเพิ่มตัวละครและสะสมถอยคํา (cumulative story) เปนการเลาดว ยภาษาซ้าํ ๆ และเติมประโยคเขามาเร่ือย ๆตลอดเร่ืองจนจบ เปน รูปแบบหนง่ึ ของนิทานท่ีใชแพรหลายทั่ว โลก เปน เรื่องของแมวดาํ ทีม่ าขโมยกนิ นมแพะของคุณยาย เม่ือคุณยายจับไดจึงมีการยื้ดยุดฉุดหาง จนหางของเจาแมว ดําหลุด เมอ่ื มันรอ งขอหางคืน คุณแมจ ึงบอกมนั วา ใหไ ปเอานมแพะมาคืนกอน แลวจึงจะคืนหางให เมื่อเจาแมวดําไปหาแพะ เพอื่ ขอนม ดว ยประโยควา “แพะจา แพะเพ่อื นรัก ขอนมไปคนื คณุ ยายหนอยเถอะนะ แลวคณุ ยายจะไดค ืนหางใหฉัน” เมื่อแพะ ถามเจา แมววา เคยเอาหญามาใหม นั กนิ บางไหมละ เจาแมวจงึ ไปทท่ี ุงหญา แลวบอกวา “ทุง หญา จา ขอหญาไปใหแ พะหนอยเถอะนะ แพะจะไดใหน ม ฉันจะไดเอานมไป คนื คณุ ยาย แลวคณุ ยายจะไดค นื หางใหฉนั ” ตน หญาจงึ ถามแพะวา เคยเอาน้ํามารดทุงหญา บา งไหมละ เจาเมวจงึ รบี ไปทแ่ี มนํา้ แลวพดู วา “แมน้ําจา ขอนํ้าไปใหทุงหญาหนอยเถอะนะ ทุงหญาจะไดใหหญา ฉันจะไดเอา หญา ไปใหแ พะ แพะจะไดใ หน ม ฉนั จะไดเอานมไปคนื คุณยาย แลว คณุ ยายจะไดคนื หางใหฉัน” แมนํ้าก็ตามแมววา มันเคยมา รอ งเพลงเพราะใหแ มน ้ําฟงบางหรือเปลา ละ แมวจึงไปหาเด็กนอ ยใหม าชว ยรองเพลง โดยใหคําพูดประโยคซ้ําเดิม เพียงแตเพ่ิม ประโยคเขามา แตกไ็ มมีใครชวยแมวได เพราะแมวไมเคยชวยใครเลย ในท่ีสุดมันตองชวยเหลือตัวเอง และมันจึงไดหางกลับคืนมา จากคุณยาย เนื้อหาของนิทานเรื่องนี้ มีประเด็นหลักอยูท่ีการชวยเหลือตนเอง การเลาเร่ืองเปนไปในทํานองสงเสริมการจัดการ แกปญหาดวยตัวเอง แมเจาแมวจะทําความผิด แตคุณยายก็ใหโอกาส รวมทั้งบรรดาสัตวหรือสิ่งตาง ๆที่เจาแมวไดขอความ ชวยเหลอื กใ็ หโอกาส แมท ุกตัว ทกุ สง่ิ ไมไ ดออกแรงชวยเหลือ แตจะต้ังคําถามกลับมาเพื่อใหเจาแมวไดคิด และทายท่ีสุดมันก็ คิดไดดวยตวั เอง จัดการแกป ญ หาดวยตัวเอง นิทานเรอ่ื งนี้จึงเปน ตัวอยางที่ดีของการใหโอกาส “แมวดําจอมตะกละ” มีภาพประกอบท่สี วยงาม ดแู ปลกตาไปจากหนงั สอื ที่มีแนวเรอื่ งทํานองนี้ (การเลาเรื่องดวยการ เพ่ิมพนู ประโยค) การลงสนี ํา้ ใหม คี วามเขม และการปลอ ยใหเห็น Texture (รอ งรอยของเนื้อกระดาษ) ปรากฏขึ้นมานั้น ชวยให ภาพไดอ ารมณม ากย่ิงข้ึนแมว างอยบู นพน้ื ขาว ไมม ฉี ากหลงั รกรุงรงั เพราะในเนอื้ เรอ่ื งน้ันมีความยุงวุนวายพออยูแลว จะสังเกต วา ทง้ั เรอ่ื งไมม ีใครใหความชว ยเหลอื แกเจาแมวเลย แตทุกตัวก็ไมไดปฏิเสธโดยส้ินเชิง มีเพียงคําถามกลับมาใหเจาแมวไดคิด ดว ยตวั เอง ฉะนัน้ เราจึงเหน็ ภาพประกอบที่เปนตัวละครแสดงทาทกี งึ่ ใจดี กง่ึ เฉยเมยตอเจาแมว เพ่ือใหภาพกับเร่ืองเขากันไดดี การจดั วางองคประกอบนนั้ ชวยใหภาพทดี่ เู หมือนไมม อี ะไรมากน้ี ดูโดดเดนสะดุดตา ใหอ ารมณทีน่ า ตนื่ เตน ๔๐
กลมุ สาระการเรียนรสู ุขศึกษาและพละศกึ ษา ชอ่ื หนังสอื เลนกลางแจง ผวู าดภาพ ปรดี า ปญ ญาจันทร ผูเ ขียนคาํ ชวี ัน วิสาสะ สาํ นกั พิมพ แพรวเพอื่ นเด็ก ปท่พี ิมพ พ.ศ. ๒๕๔๕ ราคา ๑๗๐ บาท หนังสอื ชดุ “เลม” มที ั้งหมด ๓ เลมคอื เลนกลางแจง เลนรมิ น้ํา เลนในปา ทั้งสามเลมน้ีมีวิธีการนําเสนอเรื่องราวและ ภาพประกอบท่ีเอกลักษณ แสดงถงึ ใหเห็นบรรยากาศของเมืองไทยในชนบทไดดี แมวาปจจุบันการละเลนบางอยางที่เสนอใน เลม เดก็ ๆ อาจจะไมคอ ยไดเ ลนกนั แลว กต็ าม แตห นังสอื ชุดนีอ้ าจจะเปนแรงบันดาลใจใหท ้ังผใู หญและเด็กอีกครง้ั การเลน กลางแจงเปนโอกาสท่ีเด็กๆ ควรจะไดรับอยางย่ิง โดยเฉพาะเด็กๆ ในยุคปจจุบันที่ตองครํ่าเครงรํ่าเรียนกัน อยางหนักเกินควร ประกอบกับส่ืออิเลคทรอนิคตางๆที่ดึงใหเด็กอยูแตในหอง ไมไดออกไปสูดอากาศและออกกําลังกายนอก อาคาร หนังสอื ชดุ นี้ จะสง เสรมิ และกระตุนใหเ ดก็ ไดอ อกนอกหอ งเรยี นกันอกี ครั้ง ภาพประกอบในหนังสือชุด “เลน” มีรายละเอียดที่นาสนใจมาก เด็กๆ ตัวละครมีหลากหลายวัย ทั้งเด็กผูหญิงและ เดก็ ผูชาย อีกท้งั ภาษาในเร่อื งกเ็ ปนภาษาเชญิ ชวน และสรางใหเกิดภาพ เชน คุณตาตดั ไม ใหเดก็ ตอขา ไมสงู เดนิ มา โถกเถกโถกเถก ในบทนี้บรรยายการเลน เดินไมโถกเถก ท่ีบางโรงเรียนโดยเฉพาะในตางจังหวัดยังมีใหเห็นกันอยู และเด็กๆ เองก็ได สนุกสนานกับภูมปิ ญ ญาดง้ั เดิมของไทย และยังไดอ อกกําลงั กายอีกดว ย หรือในบทวง่ิ เปย วและขีม่ า สง เมอื ง คนไหนวิ่งไว ไปเลน วงิ่ เปย ว ฟากผาเฟย วเฟย ว ว่ิงเล้ยี วไลต ี เมืองอยูข า งหนา เปน มาใหที เกาะหลังใหด ี ข่มี าสงเมือง เนอ้ื หาทุกบททุกตอนและภาพประกอบในหนงั สือเลม น้ี มีความลงตวั อยางยิง่ ท้ังภาพก็ดูสนุก คําก็อานสนุก เมื่ออาน หนังสอื เลม น้ดี วยกันจบแลว จึงไมควรนงั่ นงิ่ อยูแ ตในหองเรียน ชักชวนใหเด็กๆ ไดออกเลนกลางแจง เลียนแบบตัวละครเด็กใน หนงั สือ และทา ยเลม ไดเ ขยี นบอกรายละเอียดเกีย่ วกบั วธิ ี รวมถงึ กตกิ าในการละเลนแตละชนดิ ดว ย ในโรงเรยี นทางภาคอสิ าน ไดมีกิจกรรมเชิญชวนใหผูปกครองมารวมกันทําของเลนสําหรับใหเด็กๆ ไดเลนกลางแจง ตามหนงั สอื เลมน้ี ซง่ึ กจิ กรรมเชน นเ้ี กิดข้นึ ไดดวยคุณครูที่เห็นความสําคัญของการพัฒนาทักษะทางรางกายของเด็ก และเห็น ถงึ ความสําคญั ของภูมิปญ ญาไทย ๔๑
ชื่อหนงั สือ สามนกั สู ผแู ตง วิริยะ สริ ิสงิ ห สํานักพิมพ สุวรี ิยาสาสน ปท ี่พมิ พ พ.ศ. ๒๕๔๘ ราคา ๑๘๐ บาท “สามนกั ส”ู เปน หนงั สือนิทานทมี่ ีเร่ืองราวเก่ยี วกบั การสง เสรมิ พฤติกรรมอันพึงประสงคสําหรับเด็ก นั่นคือ สงเสริมให เด็ก ๆอยากแปรงฟน และชว ยใหเขา ใจการเรอื่ งสขุ ภาวะในชอ งปาก สามนักสู ไดแก ขนเมน ฟองขาวและถวยโถ ชอื่ เรียกของสามนักสูนี้ เด็ก ๆสามารถเชื่อมโยงเขากับส่ิงของเครื่องใชที่ จําเปน สาํ หรับการแปรงฟน ไดอ ยา งไมลําบาก ประกอบกับมีภาพท่ีแสดงใหเห็นชัดเจนอยูดวย ซ่ึงขนเมนก็คือ แปรงสีฟน ฟอง ขาวคอื ยาสฟี น และถว ยโถคือถวยนํา้ ใชสาํ หรับปว นปาก นน่ั เอง เน้อื เร่ืองของ “สามนักส”ู เลาดว ยภาษาทฟี่ ง ดนู า ต่นื เตน เชน ขนเมนรองสง่ั ผกู าํ ลังขดุ เจาะภูเขาดวยเสียงดังกังวานไป ทง้ั หุบเขา หรอื “พวกเราบุก ! “ ฟองขาวประกาศกอ ง พรอมกับแปลงกายเปนของเหลวสีขาวติดที่ขนเมน ประกอบกับภาพซึ่ง วาดในมมุ ระยะใกล (Close Up) ยิ่งเสริมเร่ืองและภาพยิง่ ดนู าตื่นเตน แตการนําเสนอภาพในมุมระยะใกลเพียงมุมเดียวตลอด เลมเชน นี้ กเ็ ปนจดุ ออ นดว ยเชน กนั เพราะทาํ ใหมองภาพในอารมณเ ดียวกนั ตลอดท้งั เรือ่ ง ไมม ีการผอ นหนักผอนเบา และทําให ภาพขาดรายละเอยี ดไปอยา งนา เสียดาย ภาพประกอบในหนังสือเลมนี้ สรางสรรคขึ้นจากเทคนิคสีไม คลุมโทนสีรอนและสีเย็นสลับกันไปในแตละชวงของ เหตุการณ เมื่อเร่ืองราวเลาถึงการตอสูระหวาง “สามนักสู” กับ พวกวายรายทําลายภูเขา (ฟน) ก็มีการเนนสีโทนรอนอยาง ชัดเจน และเม่อื เหตุการณก ารตอ สสู งบลง กจ็ ะเหน็ สีฟาท่ีแสดงใหเ ห็นถงึ ความสงบเย็นและรูสึกสบาย หนงั สือท่ีมเี ร่อื งราวสง เสรมิ ใหเดก็ อยากแปรงฟน ในลักษณะน้ี มีอยูมากในตลาดหนังสือเด็กของเมืองไทย แตการเลา เรอ่ื งราวท่ีเกิดข้ึนภายในชองปากเชน นีม้ ไี มม ากนกั และสวนใหญจะเปน หนังสือท่แี ปลมาจากภาษา ตางประเทศ “สามนักส”ู เปนหนังสือทีเ่ หมาะสําหรับอานใหเดก็ ๆฟง เปน กลุม ใหญ ผอู า นสามารถใชลีลาและทาทางไดอยางเต็มที่ เพราะตวั ละครมีการเคลอื่ นไหวอยูตลอดทง้ั เรอื่ ง และภาพประกอบในลกั ษณะน้เี หมาะสําหรับมองดูในระยะหางมากกวา จึงจะ เหน็ ถึงความงามและเกิดความรูสึกรว ม ในขณะท่อี า นเรือ่ ง “สามนักส”ู ใหเดก็ ๆฟง ผูอ านอาจจะเตรยี มอุปกรณเ สริมเชน แปรงสีฟนซึ่งเปน “ขนเมน” ในเร่ือง หลอดยาสฟี น และถว ยน้าํ ทเ่ี ปนฟองขาว และถวยโถตามลําดับ เพอ่ื ใหเ ปน สสี ันในการนําเสนอเร่ืองราว และถาจะไดผลดี ควร เลากอ นที่เด็กๆ จะไปรบั ประทานอาหาร เพราะหลังรบั ประทานแลว เด็กๆจะไดสนุกกับการกําจัดพวกวายรายในชองปาก ดวย การใชอ ุปกรณอ ยาง ขนเมน ฟองขาวและถวยโถ ๔๒
กลมุ สาระการเรียนรศู ลิ ปะ ช่อื หนงั สอื ART PROJECTS ผูแตง Flona Watt สํานกั พิมพ นานมบี คุ สพับลิเคชนั่ ส ปท ีพ่ ิมพ พ.ศ. ๒๕๔๙ ราคา ๒๙๕ บาท หนังสือชุด ชวนเด็ก ๆสูโลกศิลปะ มีทั้งหมด ๓ เลม คือ Art Ideas, Art Skills และ Art Projects ท้ังสามเลมเปน หนังสอื ทไี่ ดร ับการออกแบบมาอยางสวยงาม นา เปด อาน นาลงมอื ทําตาม ในการเรียนรูศิลปะน้ัน บางคร้ังเด็ก ๆตองมีโอกาสลงมือสรางสรรคผลงานจากความคิดของตัวเอง หนังสือ Art Project จะเปนเครื่องมอื ทีช่ วยใหเ ด็กไดค น หาเทคนคิ ตา ง ๆเพื่อมาใชในสาระการเรียนรูศิลปะ แตขณะเดียวกันคุณครูก็ไมควร ปลอยใหเด็กใชหนังสือเลมน้ี เพื่อเปดดูแลวทําตามเทานั้น หนังสือเลมน้ีควรถูกใชเปนคูมือศึกษาเทคนิคการสรางงาน สวน จินตนาการและความคดิ สรางสรรค จะตองเกดิ จากการกระตนุ กอ นลงมือ ภายในเลมประกอบดวยกิจกรรมและเทคนิคการทําผลงานศิลปะหลากหลาย มีมากถึง ๘๐ ผลงานซึ่งมีคําอธิบาย สั้นๆ ถึงข้ันตอนการลงมือ พรอมภาพประกอบทุกข้ันตอน ดวยการออกแบบจัดวาง และการออกแบบสีสันเพ่ือใหสวยงาม นา สนใจ หนังสือศิลปะชุดน้ี ในความเปนจริงแลวนาจะเหมาะสําหรับคุณครูผูสอนมากเทาๆ กับเหมาะสําหรับเด็ก และไม เพียงแตเด็กระดับชั้นประถมเทาน้ัน หากแตเด็กโตในระดับช้ันมัธยมก็สามารถใชได เพราะหลายเทคนิค หลายกิจกรรมท่ี นําเสนอในหนงั สอื เลมนี้ มีความซบั ซอน และยังตองการผทู ีม่ ปี ระสบการณในการใชวัสดุอุปกรณทางศิลปะมาไมนอย จึงจะได ประโยชนอยางแทจรงิ ชื่อหนงั สอื เสนลายแสนสนกุ ผูแตง สทิ ธิพร กลุ วโรตตมะ สาํ นกั พมิ พ มลู นิธิเด็ก ปท่พี มิ พ พ.ศ. ๒๕๔๙ ราคา ๓๕ บาท เสนสายแสนสนุก เปนแบบฝกหัดการพื้นฐานการวาดการตูน โดยใหเด็กไดเขาใจเร่ืองเสน และการใชเสนใหเกิด อารมณความรสู ึก เหมาะสําหรบั ใหเ ด็กๆ ไดฝ กมือ ฝกฝนการลากเสน ตอเติมเสนควบคูไปกับการใชจินตนาการและความคิด สรา งสรรค แบบฝกหดั เลมน้ี จะชวยใหเด็กที่ไมชอบวาดรูปหรือไมสนุกกับการวาดรูปเลย ไดรูสึกวาการรูปภาพน้ันสนุกมากขึ้น เพราะในเลมไดแนะนําอยา งเปนข้นั เปน ตอน กระทัง่ ไดเหน็ ผลงานที่เสร็จเปนรูปรางหรือรูปทรงดังใจ อีกทั้งแบบฝกหัดเลมน้ียัง ชว ยเปน แนวทางสาํ หรบั คณุ ครใู นการแนะนําใหเ ด็กรูจักเทคนคิ การวาดการตูนอยางงาย รวมทั้งอาจจะเปนเคร่ืองมือชวยเหลือ นักจัดกิจกรรมสําหรับเด็ก หรือแมแตคุณพอคุณแมหลายคนใหทํากิจกรรมวาดเสนแสนสนุกกับลูกๆ ได โดยจะเห็นวา ไม จําเปนตองเปนคนวาดภาพหรือคนทาํ งานศลิ ปะเทา นัน้ ท่ีจะมสี วนรวมในกิจกรรมศลิ ปะกบั ลกู ๆ ในครอบครวั ได แบบฝกหัดเลมน้ีจึงเหมาะสําหรับท้ังเด็กและผูใหญ และหากตองการสนุกกับการใชแบบฝกหัดเลมนี้มากขึ้น ควร เตรยี มอุปกรณประเภทสไี วดวย เมอื่ วาดเสนเสรจ็ อาจจะลงสีเพอ่ื ความสวยงามไดท นั ที ๔๓
กลมุ สาระการเรยี นรูก ารงานอาชพี และเทคโนโลยี ช่ือหนังสอื ยกั ษตัวใหญๆ กบั ของชิ้นเล็กๆ คนธรรมดาๆ ตัวไมใหญไมเลก็ ผแู ตง นองฟา สาํ นักพมิ พ เบบแ้ี กงค ปท ี่พมิ พ พ.ศ. ๒๕๔๘ ราคา ๑๒๐ บาท หนังสือสองเลมที่อยูในชุดเดียวกันนี้ ช่ือเร่ืองท่ี “ไมธรรมดา” เพื่อเรียกรองความสนใจของคนอาน ท้ังสองเลมเปน หนงั สอื ใหข อมลู และประโยชนข องมะพรา ว สําหรับประโยชนข องเนือ้ มะพรา วและนํ้ามะพราว มีอยูในเลม “คนธรรมดาๆ ตัวไม ใหญไ มเ ล็ก” และประโยชนจ ากกะลามะพรา วในเลม “ยักษตัวใหญๆ กับของชนิ้ เล็กๆ” เน้อื หาของหนังสือท้ังเลม กลาวถึงประโยชนอยางตรงไปตรงมาของมะพราว ดังในเรื่อง “ยักษตัวใหญๆ กับของช้ิน เลก็ ๆ” เลา ถงึ ยักษต นหนง่ึ อาศยั อยูในบานหลงั เล็ก ขา วของเครอ่ื งใชก ช็ ิน้ เลก็ ๆ ยกั ษจ งึ ตอ งใชค วามระมัดระวังอยางมากในการ ใชข องขา ว ในทางกลบั กันเจายักษก็มีของใชที่ทําจากกะลา เชน กระบวยตักน้ํา กระจาซึ่งท้ังหมดทํามาจากกะลามะพราว มี ความเข็งแรงทนทาน เจายักษจ งึ ไมต องใชค วามระมัดระวงั มากนกั (จบ) ทา ยเลมนาํ เสนอวธิ ที ํากระบวย และ กระจา สวนเลม “คนธรรมดาๆ ตวั ไมใหญไ มเ ล็ก” กม็ ีวิธกี ารนําเสนอในแบบเดียวกัน คือเริ่มเรื่องที่คนธรรมดาๆตัวไมใหญไม เล็ก อาศยั อยูในบา นหลงั ไมใ หญไ มเ ล็ก มขี าวของเครื่องใชข นาดกําลงั พอดี คนธรรมดาคนนี้อาศัยอยูในดินแดนที่มีตนมะพราว ข้ึนเต็มไปหมด ยามกระหายนาํ้ คนธรรมดากด็ ืม่ น้าํ มะพรา ว ยามหิว คนธรรมดาคนน้ีก็ใชมะพราวมาคั้นกะทิสําหรับทําอาหาร หลายอยาง เชน ตนขาไก แกงเขียวหวาน หรือเม่ืออยากกินขนม คนธรรมดาคนนี้ก็ใชมะพราวมาทําขนม เชน ตะโก มะราว พรอ มเสนอวิธีทํามะพราวแกว ในตอนทา ย แมวาสํานักพิมพจะจัดหนังสือทั้ง ๒ เลมน้ีใหอยูในชุด “กะโหลกกะลา” เพ่ือใหเห็นชัดเจนวา ตั้งใจใหขอมูลถึง ประโยชนของมะพราวและกะลาเปนหลัก แตวิธีการนําเสนอทั้งเร่ือง ทั้งภาษาและภาพ ขาดความพิถีพิถัน ไมมีการรอย เรยี งลาํ ดับความ การเลาเรอื่ งทเ่ี ร่ิมตน เหมอื นจะใหเ ปนนิทาน แตส ดุ ทา ยกลายเปน หนังสือใหขอมลู พื้นฐานทสี่ ดุ ของมะพรา ว เม่ือหนังสือชุดน้ี ไดรับการจัดใหอยูในกลุมสาระการเรียนรูการงานอาชีพ คุณครูอาจจะเปนผูแนะนําใหเด็กๆ ไดใช หนงั สือชุดน้ีอา นประกอบ ควบคไู ปกบั หนงั สอื ทเ่ี กี่ยวของกับการเสรมิ สรางอาชีพจากกะลามะพราวเลม อน่ื ๆ ประกอบดว ย กลุมสาระการเรยี นรูภาษาตางประเทศ ชอื่ หนังสอื โดเรมอนสอนสนทนาภาษาองั กฤษ เลม ๑ ผูแตง - สํานักพิมพ นานมบี ุค สพ บั ลเิ คช่นั ส ปท ีพ่ ิมพ พ.ศ. ๒๕๔๘ ราคา ๙๕ บาท การต ูนโดเรมอน เปนตวั การตนู ขวัญใจเดก็ ๆจํานวนมาก การนําตวั การตูนทเี่ ด็ก ๆรูส กึ ชื่นชอบอยูแลว มานําใหเด็กได เรียนรเู รือ่ งราวตาง ๆนัน้ เปน เรื่องทช่ี าญฉลาดมาก โดยเฉพาะเรียนรูการสนทนาภาษาอังกฤษ หนังสือเลมน้ีไดรับการแปลมา จากภาษาญป่ี ุน ซึ่งเปนเประเทศทใี่ ชภ าษาองั กฤษไมค ลองเชนเดียวกับชาวไทย ๔๔
เนอื้ หาภายในเลม น้ี เนน เฉพาะการออกเสียง และการใชประโยคงายๆ เทานั้น ไมไดใชหลักไวยากรณ วัตถุประสงค คือ เพ่ือใหเด็กกลาที่จะสนทนาภาษาอังกฤษ เริ่มต้ังแตการแนะนําตัว การทักทาย การบอกสิ่งท่ีชอบและไมชอบ การบอก ความรูสกึ อารมณ การบอกเวลาและสภาพอากาศ ฯลฯ ในทา ยบทไดเสริมขอ มลู ที่เปนประโยชนเ ขามาดว ย เรือ่ งราวการนําเสนอเปนเชนเดยี วกบั เร่ือง โดเรมอนในภาคปกติ มีตวั เอก คือ โดเรมอน โนบิตะ ไจแอน ชิซูกะ และยัง มขี องวเิ ศษของโดเรมอนเชนเคย คุณครู หรือบรรณารักษสามารถใชหนังสือเลมน้ีกับเด็กเปนกลุมไดอยางสนุกสนาน เพียงเปดหนังสือและสมมุติ บทบาทใหน กั เรียนเปนตวั ละครในเรื่อง แลวโตตอบกันดวยประโยคภาษาอังกฤษเชนเดียวกับตัวละครในเร่ือง จากนั้นคุณครู สามารถตอ ยอดการเรียนรูใหกับเด็กๆ ไดในเวลาเดียวกัน ซึ่งวิธีนี้จะชวยใหเด็กไมตองกลัวภาษาอังกฤษ และไมตองการออก เสียงภาษาอังกฤษ เพราะการจาํ ลองสถานการณแ ละแสดงบทบาทตวั ละคร จะชวยใหเดก็ สนุกจนกระทง่ั ลมื ความกงั วล ภายในเลมยังไดแทรกเกลด็ เล็กเกล็ดนอยในการฝกสนทนาภาษาอังกฤษดวย เชน การฟงภาษาอังกฤษจากส่ือวิทยุ หรือโทรทัศนบอยๆ เพื่อใหคนุ เคย และมกี ารอธบิ ายขยายความเร่ืองการใชประโยคเพมิ่ เติมในทา ยบท ชือ่ หนังสอื แมไ กกบั เมลด็ ขาวสาลี ผแู ตง มณฑิรา พานชิ ย่ิง สถาพรบุคส สํานกั พิมพ ปท ี่พิมพ พ.ศ. ๒๕๔๙ ราคา ๑๔๐ บาท นิทานเรื่อง แมไกกับเมล็ดขาวสาลี เปนนิทานที่ดัดแปลงมาจากนิทานพื้นบานของยุโรปเร่ือง The Little Red Hen หรือที่คุณหญิงแมนมาส ชวลิตนํามาแปลงเปนภาษาไทยในเร่ือง แมไกสีแดง วาดภาพประกอบโดย คุณประยูร จรรยาวงศ นกั เขยี นการตนู ชอ่ื ดังในอดตี เคยตีพิมพเ มอ่ื กวาย่ีสบิ ปม าแลว และพิมพค ร้ังสุดทายเมอื่ เกอื บสิบปมานี้ “แมไกก ับเมล็ดขาวสาร” มกี ารเลาเรื่องแบบนทิ านลูกโซ คือใชคาํ ซาํ้ ๆ กับเหตกุ ารณท ีค่ ลายเดิมตอ กันไปจนจบเรอ่ื ง เรือ่ งเลาถงึ แมไ กต วั หนึ่ง ท่ีตระเตรียมทาํ ขนมปง จึงชกั ชวนเพอ่ื นสัตวใหม าชว ยกนั ทํางาน เร่ิมตนดวยประโยค “ใครจะ ชวยฉนั นําเมลด็ ขาวสาลีไปปูลกบาง” สนุ ัข แมวและแมเ ปด ตางตอบเหมอื นกันทกุ ตัววา “ฉันไมไปหรอก” เรื่องราวดาํ เนินตอ มา โดยแมไ กคอยตงั้ คําถามกับเพ่ือน ๆทุกคร้ัง กอนลงมือทํางานวา “ใครจะชวยฉัน บาง” ขณะท่ี เพอ่ื นทุกตวั ตางตอบเหมอื นกนั ทุกครัง้ วา “ฉนั ไมไ ปหรอก” และแมไกก ็พดู ดวยประโยคเดิมซํ้าทุกสถานการณวา “เอาละ ฉันจะ นาํ ไป....เอง” จนกระทงั่ ทายท่สี ดุ เมอื่ ขนมปงอบเสร็จพรอมกิน แมไกจ ึงถามเพอ่ื น ๆ อีกคร้ังวา “ใครจะชวยจะกินขนมปงบาง” สุนัข แมวและแมเปด ตางตอบพรอมกับวา “ฉันกิน” “ฉันกนิ ” “ฉันกนิ ” แตแ มไกบอกกลับไปวา “โอ..ไมละ ฉนั กินกบั ลูก ๆของฉนั ดกี วา” เดก็ ๆ สวนมากชอบฟง นิทานแบบลูกโซ เพราะนิทานลักษณะน้ีพวกเขาสามารถคาดเดาเหตุการณที่จะเกิดข้ึนตอไป ไดไ มยาก และเปนการเปด โอกาสใหเ ด็กๆ ไดมสี ว นรว มในนทิ าน จึงทําใหรสู ึกสนุกสนานท้งั ผเู ลาและผูฟง สาํ หรบั “แมไ กก บั เมล็ดขา วสาลี” ซ่ึงนํามาเลาใหม พรอมบทแปลเปนภาษาอังกฤษดวย ในการเลาหรืออานหนังสือ สองภาษานั้น ควรอานใหเด็กๆฟงทีละภาษาไปจนจบเรื่อง ไมควรอานทั้งสองภาษาแบบหนาตอหนา เพราะจะทําใหอารมณ ของเรอ่ื งไมตอเนื่อง ไมเอื้อตอการฟงหรือการติดตามเร่ืองราว และที่สําคัญไปกวานั้น คือ ผูอานควรมีอานภาษาที่สองอยาง คลองปาก เหมือนการอา นภาษาแม มิเชนน้นั แลว การฟง นิทานในภาษาท่ีสองก็ไมตางอะไรกับการฟงคนที่พูดจาติดขัด ซ้ํายัง เปน ตัวอยางท่ีไมด ีแกเ ด็ก ๆอีกดว ย ๔๕
สวนภาพประกอบในเลมน้ี ดูคอนขางรกตา เพราะไมมีการแบงหนาใหชัดเจนในหนาซายหรือขวา ทําใหทุกภาพดู ตดิ ตอเปน ภาพเดียวกัน ท้งั ทไ่ี มใชภ าพเดยี วกัน และไมใชเหตกุ ารณเ ดียวกนั ประกอบเสนสายที่มีอยูในภาพนั้นมากมาย จึงย่ิง ทําใหดูรกมากยิ่งข้นึ ไปอีก อา น “แมไ กกับเมล็ดขาวสาล”ี อยางไร ในการอา นหนงั สอื ใหเด็กๆ ฟงนัน้ ควรอา นตงั้ แตชื่อเรอ่ื ง ชอ่ื ผแู ตง ชอื่ ผูว าดภาพประกอบ (เรือ่ งน้ีอาจจะทําใหเกิดการ เขาใจผดิ เพราะไมไดแตง เอง ควรใชค าํ วา ผูเลาเร่ือง จึงจะถกู ตอ ง) เร่อื งเร่มิ ดวย วันหน่ึงขณะทแี่ มไกตวั หน่ึงกาํ ลังคยุ เขี่ยหาอาหารกนิ อยูน นั้ มันกเ็ หลือบไปพบเมล็ดขาวสาลีเขา “ใครจะ นําเมลด็ ขาวสาลีนไ้ี ปปลกู บา ง” แมไ กร อ งถามเพอื่ นสัตวท อี่ ยูในทุง นานั้น “ฉนั ไมปลกู หรอก” เปด ตอบ “ฉนั ไมปลกู หรอก” แมวตอบ “ฉันไมป ลกู หรอก” สนุ ัขตอบ ตั้งแตเรม่ิ เรือ่ งบรรทดั แรก ควรอานวา วันหนง่ึ (หยุดส้นั ๆ แมการพิมพในเลมจะไมเวนวรรคก็ตาม) กอนจะอานตอไป เพือ่ โนม นาวความสนใจใหเดก็ ๆ ไดร บั รูวา วนั หน่งึ ในทน่ี ้ี กาํ ลงั จะมีเหตกุ ารณที่ไมธ รรมดาเกิดขึ้น เมื่ออานมาถงึ ทีส่ ัตวแ ตล ะตัวพดู ผูเลา ก็ควรใหผ ูฟ ง ไดมสี วนรวม เชน “ฉนั ไมป ลูกหรอก” เปด ตอบ “ฉนั ไมปลกู หรอก” แมว..... (เวน คําวา “ตอบ” ใหเด็กพดู ) “ฉนั ไมปลกู หรอก” สุนัข.... เปน ตน ในการเปดโอกาสใหเ ดก็ ๆ ผฟู งไดม ีสวนรวมในการเลาเรอื่ ง เปน เทคนิคท่ีตองคอยๆ ฝกฝน คอยหาจังหวะใหดี เม่ือใช บอ ยๆ ผเู ลา จะสามารถหาจังหวะไดเอง เพราะหากไมชาํ นาญหรือมีประสบการณนอย ชวงเวลาที่เราตองการใหเด็กมีสวนรวม กลับทําใหเด็กๆ ไมร ว มก็เปน ได เพราะจังหวะไมด ีนั่นเอง ๔๖
สําหรับเด็กวยั ๑๐ - ๑๒ ป หนังสือเสริมการเรยี นรูเด็กวยั เรียน ชวงช้นั ท่ี ๒ ๔๗
เสริมกลมุ สาระการเรยี นรูภาษาไทย ชือ่ หนงั สือ ตาํ นานภาษิตไทย ผแู ตง พชั รี มีสุคนธ สาํ นักพิมพ หอ งเรียน ปที่พมิ พ พ.ศ. ๒๕๔๘ ราคา ๑๒๐ บาท เปนหนังสือสําหรับอานเสริม เพ่ิมเติมในวิชาภาษาไทย ไดรวบรวมตํานาน เร่ืองเลา ตนเคาของสุภาษิต คําพังเพย และสํานวนโวหารหลายรปู แบบรวมอยใู นเลม เดียวกนั หนังสืออานเสริมในวิชาภาษาไทยสําหรับเด็กระดับประถม ซ่ึงมีอยูมากมายในทองตลาด แต “ตํานาน ภาษิตไทย” เลมนี้ จดั วา มีรปู แบบและการเลา เรอื่ งทท่ี นั สมยั นาสนใจ นา ตดิ ตาม มีการจดั หมวดหมูของคําภาษิต พังเพยหรือสํานวนโวหาร เชน หมวดของ “กระตาย” ในบทแรก เร่มิ ตน ดวยภาษิต “กระตายตนื่ ตูม” พรอมใหความหมาย กอนจะเลาตํานานท่ีมาของภาษิต กระตายต่ืนตูม จากนั้น ไดม ีการนาํ เสนอคําภาษิต และคําพังเพยทมี่ คี าํ วา “กระตา ย” เขา มาเกี่ยวของ ตัวอยางเชน กระตายหมายจันทร พรอมอธิบาย ความหมาย และ ยืนกระตา ยขาเดียว ยืนกระตายสามขา พรอมอธิบายความหมายและภาพประกอบที่ออกแบบมาดวยการใช ลายเสน แบบกราฟฟค มาชว ย และลงดวยสีอะครลิ ิค แมภาพสวนใหญจะเลาเรื่องอยางตรงไปตรงมา แตก็นับวาเปนเสนหอยาง หน่งึ ของหนงั สือเลม น้ี ในการใชห นังสือเลม น้ใี นหองเรยี น หรือในหอ งสมดุ อาจจะทาํ ไดห ลายวิธี สาํ หรับคณุ ครูบรรณารักษ อาจจะใชหนังสือเลมนี้ เริ่มตนเพ่ือนําเด็กไปสูหนังสือนิทาน หนังสือตํานานพ้ืนบานเร่ือง อืน่ ๆ หรอื แมแตใชห นงั สือเลมนเี้ พ่ือกระตุนใหเ ดก็ ๆ ไดค น ควาหนังสือความรูเลมอน่ื ตอ ไป ตัวอยางวิธีการใช คุณครูบรรณารักษจัดเตรียมหนังสือกลุมท่ีเก่ียวของกับชางเอาไว ท้ังหนังสือนิทาน สารานุกรม วรรณกรรมและอ่นื ๆ ท่มี ีในหองสมุด และใหเหมาะสมตามวัยของเด็กดวย จากน้ันจึงแนะนําหนังสือเลมนี้ต้ังแตหนาปก บอก เลาใหเดก็ ๆ สนใจวา ภายในเลมมีเรอื่ งราวเกยี่ วกบั อะไรบาง กอ นจะเปดไปท่ี “ชา ง” อา นตํานานเร่ืองเลา สํานวน “ตาบอดคลํา ชา ง” จากหนังสือใหเด็กฟงจนจบ กอนจะใหเด็กๆ ชวยกันอธิบายความหมายของสํานวน และคําพังเพยท่ีปรากฏอยูในหนา ถัดไป คือ ชา งตายทง้ั ตัวเอาใบบวั มาปด ฆา ชา งเอางา เหน็ ชา งเทา หมู ดูชางใหด หู าง ดนู างใหดูแม ขช่ี างจบั ตกั๊ แตน เมื่อท้ังเด็กและคุณครบู รรณารักษไดอ า นหนงั สือดวยกัน ในกลุมเด็กๆก็ไดพูดคุย อธิบายแลกเปลี่ยนกันแลว จากน้ัน คุณครูจึงเริม่ แนะนาํ หนงั สือเลม อื่นๆ ทีเ่ ก่ยี วกบั “ชาง” ที่จัดเตรยี มเอาไวแลว เพ่ือใหเด็กไดรูจักหนังสือหลายเลมท่ีเกี่ยวกับชาง ที่มีอยูในหอ งสมดุ โดยหวงั วา เดก็ ๆ จะมีโอกาสไดเ ห็นปกหนงั สือหลายๆ เลม และในเวลาน้ีเด็กก็เริ่มใหความสนใจในหนังสือที่ ตวั เองไมเคยคดิ หยบิ หรอื จบั มาพลิกเปด ดมู ากอ นเลย การจดั กจิ กรรมเชน น้จี ะชว ยกระตุนใหการอานหนงั สอื นั้นสนุก และมีมิติมากข้ึน อีกทั้งยังเปนการฝกการสนทนาหรือ การแลกเปล่ยี นความคดิ มุมมองทไ่ี ดจากหนงั สอื เลมเดียวกนั เชนน้ีคงนาสนุกกวา การใหเด็กๆ แยกกันไปอานหนังสือของตน แลวจดบันทึกการอา นทอี่ าจจะกลับกลายเปนเรื่องไมน า สนุกไปสาํ หรับเด็กๆ หนังสือ “ตาํ นาน ภาษิตไทย” มคี ําทเี่ ปน ตน ความคิด (Key Word) อยมู ากถึง ๑๕ คํา ซ่ึงมีท้ังท่ีเปนคํานาม คําบุพบท และคํากริยา คุณครูจึงสามารถใชหนังสือเลมน้ีไดหลายตอหลายคร้ัง และยังใชสําหรับกิจกรรมสงเสริมการอานสําหรับเด็กๆ โดยนาํ พวกเขาไปสูห นงั สอื เลมอน่ื ๆ อกี จาํ นวนนับไมถว น ๔๘
ชือ่ หนังสือ ผจญภัยสุดปลายรงุ กับนางฟาสายรงุ สแี ดง ผแู ตง Daisy Mesdows สํานักพิมพ นานมีบุคส Young Reading ปท ่ีพมิ พ พ.ศ. ๒๕๔๙ ราคา ๔๘ บาท หนังสือชุดผจญภัยสุดปลายรุง เปนหนังสือสําหรับเด็กเริ่มอานเอง ในชุดนี้มีอยูทั้งหมด ๗ เลม ครบตามสีรุง เปน เรื่องราวเก่ียวเด็กผูหญิงเล็กๆ สองคน ท่ีไปเที่ยวพักผอนกับพรอมครอบครัว และเร่ิมตนการผจญภัยกันบนเกาะที่ไปพักผอน นัน้ เอง หนังสอื ชุดน้ี แบงแยกเพศผอู า นอยางชดั เจน ตงั้ แตก ารออกแบบปก ตัวละครและวิธีการที่เด็กทั้งสองออกผจญภัย ซ่ึง หนังสือสําหรับเด็กอานเองในลักษณะน้ีมีไมมากนักในบานเรา แมจะเปนหนังสือท่ีเหมาะสําหรับใหเด็กก็ตาม เน่ืองมาจาก ผูใหญจํานวนมากตองการใหเด็กๆ ไดอานหนังสือประเภทเสริมความรูเพียงอยาง ไมวาจะมาในรูปแบบใดก็ตาม ซึ่งผูใหญ จํานวนมากน้ีเองไมทันไดนึกวา เน้ือหาภายในเลมเลาเร่ืองในลักษณะนิยายสําหรับเด็กน้ี ก็ไดสอดแทรกความรู คุณธรรม จริยธรรมและการแกปญ หา การพฒั นาทักษะความคดิ ใหแกเ ดก็ ผอู า น ผานการกระทาํ ของละครน่ันเอง เรอ่ื ง ผจญภัยสดุ ปลารุงกเ็ ชนกัน ที่ราเชลกับคริสตี้ ตัวละครหลักไดออกตามหา และชวยเหลือนางฟารุงใหกลับคืนสู ทอ งฟาได ทง้ั คตู อ งใชทกั ษะในการคดิ แกปญหา และฟน ฝา อุปสรรคมากมาย กอนท่จี ะไดช ว ยเหลอื นางฟา ทง้ั เจด็ องคใน ๗ เลม การเปดโอกาสใหเด็กไดอานหนังสือท่ีเหมาะสมตามวัย เปนการชวยสรางนิสัยรักการอานใหแกเด็กไปดวย และ กจิ กรรมหน่ึงทจ่ี ะชวยใหเ ดก็ ๆ อยากอานหนงั สอื คือผใู หญจ ะตอ งอา นใหเ ห็นเปน ตัวอยางดว ย กลุมสาระการเรียนรคู ณิตศาสตร ช่ือหนังสอื นทิ านเกง เลข เลม ๒ ผแู ตง Yong-Ran Kim และ Hyang-Sook Choi สํานักพมิ พ นานมีบุคสพ ับลเิ คชนั่ ส ปท ่ีพมิ พ พ.ศ. ๒๕๔๙ ราคา ๑๐๕ บาท เปนหนงั สือท่ีระบุอยางชัดเจนวา เหมาะสาํ หรบั นกั เรียนระดับชน้ั ประถมศึกษาปท ี่ ๓ และ ๔ เปนหนังสือท่ีแปลมาจาก ภาษาเกาหลี ซ่ึงชือ่ เลม ในฉบับภาษาไทยบอกอยา งตรงไปตรงมาวา เปน “นิทานเกง เลข” มที ั้งหมด ๓ เลมในชดุ เดยี วกนั นี้ ในแตล ะเลมประกอบดวยนิทานเรอ่ื งส้นั ๆ ซง่ึ สวนใหญแ ตงเตมิ หรอื ใชตวั ละครจากนทิ านบางเรื่อง จากบางฉากท่ีเด็ก รสู ึกกันดีอยแู ลว เชน เร่อื ง ๘๐ วนั รอบโลก เรือโอนาร เชอล็อคโฮม รวมทั้งนิทานพื้นบานของเกาหลี เพียงแตผูแตงวางเง่ือนไข ทางคณติ ศาสตรเ อาไว แลวผูกโยงตวั ละครเขาดว ยกนั นบั เปน กลวธิ ีทีช่ าญฉลาดเพือ่ ดึงดูดใหเด็ก ๆสนใจในการคาํ นวณ ไมเพยี งแตน ิทานทแี่ ตงเติมจากของเดิมเทาน้ัน ท่ีถูกบรรจุอยูในเลม แตหนังสือชุดนี้มีรูปแบบเปนหนังสือแบบฝกหัด วชิ าคณิตศาสตรค วบคูไปดว ย ซ่งึ ออกจะดูนา สบั สนอยสู กั หนอ ยสําหรบั เดก็ ๆทีต่ อ งการเพียงเนอื้ หานาสนกุ ของนทิ าน คณติ ศาสตรท แ่ี ฝงมาในรูปของนทิ านชุดน้ี ไดรวบรวมคณิตศาสตรท ุกสาขาทเ่ี ด็กประถมจะตองเรียน จึงมีทั้งเร่ืองของ จดุ ทศนยิ ม ที่อยูในเรื่องชายเข้ีเหนียวทีส่ ุดในโลก เรือ่ งของเศษสว นท่ีมากบั นิทานเร่ืองโซโลมอน นอกจากน้ียังมีเรขาคณิต และ การคาดคะเนที่มาพรอมกบั นกั สืบเชอล็อคโฮม และเรือ่ งของการคาํ นวณระยะทางในเรื่อง ๘๐ วันรอบโลก เนอื่ งจากหนังสือในชุดนี้ จัดพิมพข้ึนโดยมีวัตถุประสงคที่ชัดเจน นั่นคือ การใหความรูเร่ืองคณิตศาสตร ดังน้ันจึงไม ควรคาดหวังความสนกุ หรอื การเลาเรือ่ งท่ีราบรื่นแบบนิทาน เพราะความต้ังใจท่ีจะใหเด็ก ๆที่อานไดลงมือคิดคํานวณไปดวย ๔๙
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181