ดร.วรี พงษ์ ศรัทธาผล 49 การที่วงล้อน้ีพาคุณมาถึงจุดนี้ได้ ไม่ได้หมายความว่า มันจะไปสู่จุดท่ีสูงกว่าน้ีได้ ดังน้ันเพื่อให้คะแนนส่วนที่ขาดไป เพ่มิ ขึ้น คุณตอ้ งตัง้ เป้าหมายโดยเปล่ยี นระบบความคดิ ใหมค่ รบั ดงั อัลเบิรต์ ไอนส์ ไตน์ อัจฉรยิ ะผ้ยู งิ่ ใหญ่ของโลกทกี่ ลา่ วไว้วา่ ... “We can not solve the problems with the same thinking we used when we created them” “เราไม่สามารถแก้ปัญหาด้วยระบบความคดิ เดิม ที่เราใชส้ รา้ งปัญหานัน้ ขน้ึ มาได้” ดังน้ันส่วนที่เหลือต่อจากน้ีไป จะเป็นส่วนท่ีช่วยให้คุณ สร้างระบบความคิดใหม่โดยใช้กลไกของสมองเป็นตัวช่วยให้คุณ บรรลุเปา้ หมายไดง้ ่ายและเรว็ ข้นึ กวา่ เดมิ ถ้าคุณพร้อมแล้ว เรา มาออกเดินทางไปพรอ้ มๆ กันครับ สำเรจ็ ไว Trick#5 สิ่งทพ่ี าคณุ มาเปน็ คณุ ในวันน้ี อาจจะไมส่ ามารถพาไปอีกจดุ ในชวี ติ ทคี่ ณุ ปรารถนาได้
5 อปุ สรรคฉุดรัง้ ความสำเร็จ เมอ่ื รแู้ ล้วว่าความสำเรจ็ คอื อะไร แต่บางคร้งั เราอาจจะสงสัย ว่าทำไมฉันถึงไมส่ ำเรจ็ สักที ผมมคี ำตอบใหค้ ณุ ครับ ลองมาดกู นั วา่ มอี ปุ สรรคอะไรบา้ ง ท่ีฉดุ ร้งั คุณจากความสำเรจ็ เมือ่ คณุ รแู้ ล้ว จะได้จัดการมันใหอ้ ยู่หมัด ซัดเปรยี้ งไปเลยครบั
1. ไม่ชดั เจน ในส่ิงท่ีคุณอยากได ้ เหตุผลหลักๆ ท่ีคนเราไม่ประสบความสำเร็จก็คือ คุณ ไม่ชัดเจนว่าคุณอยากได้อะไรกันแน่ หรือเหตุผลท่ีมีอาจจะ ไม่หนักแนน่ พอ ว่าทำไมตอ้ งได้มนั มา ขอ้ น้ชี ดั มาก หากคุณไมร่ ู้ว่าตวั เองต้องการอะไร คุณจะไม่มเี ปา้ หมาย และไมก่ ลา้ ลงมือทำอะไรบางอย่าง เพอื่ นำตวั คณุ เองไปส่คู วามสำเรจ็
52 ถึงแม้คุณบอกว่าพอมีเป้าหมายบ้าง แต่ยังตอบตัวเอง ไม่ได้อยู่ดี ทำไมถึงต้องการมันจริงๆ ที่ผ่านมาอาจมีบางคนมา บอกคุณว่า ความสำเร็จต้องมีรูปร่างอย่างน้ีนะ มันดี มันใช่ คุณกเ็ ลยทำตามส่ิงท่เี ขาบอก นีค่ อื ความสำเรจ็ ตราบใดท่ีคุณยังสับสนอยู่ ถ้าฉันได้มันมาแล้ว ฉันจะทำ อยา่ งไรตอ่ ยงั ลงั เล และไมม่ คี วามสขุ สดุ ท้ายคณุ จะไมท่ ำอะไร สักอย่าง เพราะ “มันไม่ชดั เจน ไมห่ นกั แนน่ พอ และสุดท้าย กไ็ ม่สำเรจ็ ” ลองถามตวั เองดูเลน่ ๆ ครบั “ฉนั อยากรวย” “รวยเทา่ ไรครับ 10 ลา้ น 20 ล้าน 100 ล้านพอไหม” “แล้วเอาเงนิ ไปทำอะไรบ้าง” “ฉันอยากมบี ้านของตวั เอง” “บ้านแบบไหน ราคาเท่าไร อย่แู ถวไหน” “ฉันอยากมีแฟน” “ผู้หญิงหรือผู้ชาย หน้าตาแบบไหน อ้วนลำ่ หุน่ ดี นสิ ัยเป็นอย่างไร” “ฉันอยากเตบิ โตในหน้าท่ีการงาน” “โตแบบไหน หมายถึง ตำแหนง่ หรอื ความรู้ หรอื เงนิ เดือนที่เพม่ิ ” “ฉนั อยากมคี วามสุข” “อะไรคือความสขุ ของฉนั ”
ดร.วีรพงษ์ ศรทั ธาผล 53 เปรียบเทียบงา่ ยๆ เมอ่ื คณุ ไปร้านอาหารตามสัง่ แล้วคุณ ก็สงั่ ขา้ วกระเพราไกไ่ ขด่ าวมากิน เพราะข้ีเกียจคดิ เผอญิ อาหาร จานนี้เผ็ดมาก ก็อยากด่ืมน้ำหวานเพ่ือลดอาการเผ็ด จึงบอก แม่คา้ วา่ “ขอนำ้ อัดลมขวดหนงึ่ ครับ” แม่ค้าอาจจะถามคุณกลับมาว่า “รับน้ำอะไรคะคุณ มี หลายอย่างคะ่ เป๊ปซ่ี โคล่า ชาเขยี วโออิชิ หรอื อิชิตันดีคะ” สุดท้ายคุณก็ลังเล ก็เลยส่ังตามความเคยชิน “เอ่อ... ขอนำ้ เปล่ากแ็ ลว้ กันครับ” เปน็ อนั จบข่าว ในเร่อื งของความสำเร็จ ผมบอกได้เลยวา่ คณุ ตอ้ งชัดเจน และมรี ายละเอยี ด เพราะ “ความชดั เจน คอื พลงั ” ฉะนัน้ คณุ ต้องชดั เจนกับภาพความสำเร็จทค่ี ุณอยากไดก้ อ่ นเสมอครับ สำเร็จไว Trick#6 เมอื่ คณุ ไม่ชัดเจน กับความสำเร็จ ความสำเรจ็ ก็ไมช่ ดั เจนกับคุณ
54 2. ไมม่ แี ผนการสคู่ วามสำเร็จ เคยมีคนบอกคุณไหมว่า ถ้าอยากสำเร็จต้องลงมือทำ อะไรสักอยา่ ง ทำไปเถอะ เดี๋ยวความสำเร็จกต็ ามมาเอง ผมจะ บอกว่าถ้าคุณทำไปโดยไม่มีการวางแผน น่ันอาจจะเป็นหนทาง ทร่ี อเชอื ดคุณอย่กู ็ได้ คณุ เคยไดย้ นิ ใช่ไหมวา่ ร้อยละ 95 ของ ธุรกิจเกิดใหม่ จะเจ๊งและปิดกิจการภายในสามปี แล้วคุณ ไม่สงสัยหรือครับว่า แล้วอีกร้อยละ 5 ทำไมถึงประสบความ สำเรจ็ ละ่ คงไมใ่ ช่โชคช่วยเป็นแนแ่ ท ้ คณุ เคยสังเกตไหมวา่ ... • บางคนมีตำแหน่งหน้าท่ีการงานใหญ่โตเลื่อนขั้นทุกปี แต่ทำไมเรายังไปไม่ถึงไหน • หน่มุ บางคนไปจบี สาวเมือ่ ไหร่ กต็ ดิ ทุกที แตพ่ อเราไป จีบบา้ ง ไม่เคยติดเลย • บางคนสมหวังในความรักจนน่าอิจฉา พอถึงตาเรา มแี ตเ่ ลกิ รากันไปไม่ร้กู คี่ น • บางคนมีเงินเดือนเท่ากับเรา แต่เขาสามารถซื้อบ้าน ซ้ือรถ มีเงนิ เก็บกอ้ นโต ในขณะทเ่ี รายงั ไม่มีอะไรเป็นชิน้ เป็นอัน
ดร.วรี พงษ์ ศรทั ธาผล 55 หากลองคิดดูดีๆ ที่กล่าวมามันต้องมีอะไรผิดพลาด ผม จะบอกวา่ ท้ังหมดอยูท่ ี่ ‘ตวั เรา’ ครบั วธิ เี รยี นลดั ไปสู่ ‘ความสำเร็จ’ คอื เดนิ ตามแนวทางหรือ กลยุทธ์ที่คนสำเร็จเขาทำกันมาก่อน ถ้าคุณไปศึกษาเรียนรู้แล้ว ทำตามแผนเหล่าน้ี มันก็จะพาคุณไปสู่ความสำเร็จได้ ไม่ว่า จะเป็นเรื่องงาน เงิน ความรัก สิ่งเหล่าน้ีล้วนมีแผนแห่งความ สำเร็จท้ังนน้ั แต่เท่าที่เห็น คนส่วนใหญ่จะเลือกรับเอาเพียงบางส่ิง แล้วไปทำตามแนวทางของตวั เอง พร้อมกับบอกตวั เองว่า “ฉนั จะสำเร็จบนทางเดินของฉันเอง” หรือไม่ก็ทำไปโดยไม่รู้อะไร เลย แน่นอนครับ มันอาจจะเกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้น และ คุณอาจจะหมดแรงข้าวต้มซะก่อน แล้วล้มเลิกความต้ังใจไป ก่อนท่ีจะสำเร็จก็ได้ ซึ่งผลลัพธ์สุดท้ายสามารถฟันธงได้เลยว่า เจง๊ แนน่ อน! Success Leaves Clues. ความสำเรจ็ ทิง้ ร่องรอยไว้เสมอ อนั ทจี่ ริง กลยุทธห์ รอื แผนแห่งความสำเร็จนี้ นอกจากจะ ดูได้จากผู้ที่เขาทำสำเร็จแล้ว คุณก็สามารถเลียนแบบกลยุทธ์ แห่งความสำเร็จของตัวเองได้ เพราะเป็นแนวทางเฉพาะตัว ซ่ึง แตล่ ะคนจะมไี มเ่ หมือนกนั
56 เช่ือว่าทุกคนล้วนมีศักยภาพอยู่ในตัวแน่นอน ล้าน เปอร์เซน็ ต์ ถ้าจะหามันล่ะก็ คณุ ลองนึกถงึ ความสำเร็จที่คณุ ภูมิใจมากท่ีสุดในอดีตมาสักเหตุการณ์หนึ่ง เร่ิมคิดทบทวนดู วา่ ตอนนัน้ คณุ เรม่ิ ต้นอยา่ งไรและทำไดจ้ นสำเร็จ ลองร่างแบบ ออกมา น่ันคอื แผนแหง่ ความสำเรจ็ ของคณุ ครบั วันนี้อยากให้คุณกลับมาลองดูตอนน้ีครับว่า อะไรที่คุณ อยากสำเร็จ แล้วยังไม่ได้มันมา คุณได้ใช้แผนความสำเร็จของ คนอ่ืนหรือของคุณเองมาช่วยหรือยัง หากคุณนำมันมาใช้ใน บางครั้งสถานการณ์จะส่งผลกลายเป็น “หนังคนละม้วน” ให้ คณุ ประสบความสำเร็จไดง้ า่ ยและเรว็ ขึ้นนะครับ ขอเพียงใหค้ ุณหามันใหเ้ จอแลว้ ลยุ เลยครับ สำเร็จไว Trick#7 ถา้ ไม่อยากหลงทาง จงวางแผนศึกษาเสน้ ทาง ไวก้ ่อนดกี ว่า
ดร.วีรพงษ์ ศรัทธาผล 57 3. มคี วามขัดแย้งภายในตวั เอง ความขัดแย้งนี้มีสองอย่างท่ีอยู่ในตัวคุณ คือ ‘ส่ิงที่คุณ อยากเป็น’ กับ ‘ความเป็นตัวคุณ’ อปุ สรรคอันนี้ถา้ มองผวิ เผิน ก็อาจไม่มีอะไร เพียงแค่ส่ิงที่คุณอยากเป็นนั้น มันไม่ใช่ตัวตน ของคณุ เทา่ นนั้ เอง แต่หากมองลึกลงไป มันคือเรื่องใหญ่ทีเดียว ถ้าเกิดว่า คุณมีตัวน้ีเข้าล่ะ กว่าท่ีคุณจะไปให้ถึงความสำเร็จได้ อาจจะ เหนื่อยพอสมควร เช่นเดียวกันกับคุณพยายามพายเรือทวนน้ำ หรือปั่นจักรยานขึ้นเนินเขายังไงยังงั้น คุณต้องใช้กำลังมหาศาล ในการขบั เคล่ือนเพ่อื ไปสูเ่ ป้าหมายขา้ งหน้าที่ยังไกลอยูล่ ิบๆ เรามาลองดวู า่ ความสำเรจ็ หรือความสุขทีค่ ณุ อยาก ไม่ว่า จะด้านการเงิน การงาน หรือความรัก มีความขัดแย้งในใจ ตัวเองหรือเปลา่
58 เช่น คุณบอกว่าคุณอยากรวย แต่ลึกๆ คุณไม่ชอบ คนรวย เพราะคณุ มองว่าคนรวยชอบเอาเปรยี บคนจน ใช้อำนาจ โกงกิน ไร้น้ำใจ อะไรทำนองนี้ เพียงแค่น้ีการตั้งเป้าหมายว่า จะรวยของคุณก็สร้างความสับสนในชีวิตแล้วครับ ในขณะท ี่ คุณกำลังทำอะไรบางอย่างเพื่อไปสู่ความร่ำรวย คุณจะต่อต้าน เปา้ หมายตัวเองอยใู่ นใจลกึ ๆ ตลอดเวลา คุณคงนกึ ภาพออกวา่ มนั เหนื่อยและท้อขนาดไหน หรือคุณอยากสำเร็จในหน้าที่การงาน ขอเลื่อนข้ันเป็น ผู้จัดการบ้าง ซึ่งคุณรู้ดีว่าต้องมีความรับผิดชอบมากข้ึน ต้อง มีการนำเสนอตัวเองต่อผู้คนมากหน้าหลายตา ต้องใช้อำนาจ ในการจดั การผู้คนให้งานเดินหน้าหรือใหม้ ันสำเรจ็ ลลุ ว่ งไป คราวนี้ลองมาสำรวจตัวคุณเองดูครับ (ไม่อยากจะบอก ว่าบังเอญิ อกี แลว้ ) • ถ้าคณุ เป็นคนสันโดษ รกั อสิ ระ ไมช่ อบอยู่ในกรอบ แต่ ความเป็นจริงการมีหน้าที่การงานสูงข้ึน ความรับผิดชอบย่อม มากขน้ึ อาจจะทำให้คุณไปไหนไมไ่ ด้
ดร.วรี พงษ์ ศรัทธาผล 59 • ตำแหน่งท่ีสูงขึ้น จำเป็นต้องพบปะกับผู้คนมากมาย มนั จะทำให้คณุ เหนื่อย • คุณเปน็ คนชอบประนีประนอม ไมช่ อบมปี ญั หากบั ใคร การใชอ้ ำนาจกบั ผอู้ ่ืนก็เปน็ สงิ่ ทบี่ าดใจ เมื่อประมวลผลได้ดังน้ีแล้ว เป้าหมายท่ีอยากเติบโตใน หนา้ ท่ีการงาน ก็มอี ันต้องพับเกบ็ ไว้ในตตู้ ่อไป มาดูเรื่องความรักกันบ้าง เชื่อว่าส่วนใหญ่ก็อยากได้ คนท่รี ักเราจรงิ ๆ รกั แท้ รักเดียวใจเดียว หนา้ ตาดี และเอาอก เอาใจเกง่ (บงั เอญิ อกี แลว้ ครบั ) เพราะคุณเปน็ คนไมช่ อบความ วุ่นวาย ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง คุณก็เลยไม่ชอบที่จะออกไป เจอผู้คน ไปงานสงั สรรค์ แน่นอนครับ เม่ือไม่ชอบออกงานสังคม ก็คงไม่มีทาง ได้เจอคนรักอย่างที่ต้องการเป็นแน่แท้ หรือถ้าคุณมีแฟนแล้ว แต่บังเอิญมีนิสัยไม่เหมือนกัน คุณเป็นคนท่ีชอบความท้าทาย ความน่าต่ืนเต้น แต่แฟนคุณเป็นคนน่ารัก ชอบอยู่น่ิงๆ เฉยๆ ไม่ต่ืนเต้น คาดเดาได้เลยว่าในกรณีแบบนี้ มักจะมีก๊ิกอยู่ไม่น้อย
60 ความรู้สึกขัดแย้งภายในเหล่าน้ีท่ีเป็นตัวฉุดรั้งคุณไว้จาก ความสำเร็จ ลองหาดูนะครับ หากพบแล้วจะได้หาทางจัดการ กบั ส่ิงท่ฉี ดุ รง้ั ความสำเรจ็ ของเราไว้ โปรดจำไว้ว่า “มีเพียงคนเดียวที่จะหยุดความสำเร็จ ของคุณได้ นั่นคือตัวคุณเอง” ถึงเวลาต้องลุกมาปฏิวัติตัวเอง เสยี ใหม่ครบั สำเรจ็ ไว Trick#8 ถ้าอยากไปถึงท่หี มายเรว็ กอ่ นออกเดนิ ทาง จงวางแผนศึกษาเส้นทาง ท้ังภายในใจและภายนอก ทจ่ี ะนำไปสู่หนทาง แหง่ ความสำเรจ็
ดร.วีรพงษ์ ศรทั ธาผล 61 4. มขี อ้ จำกดั ในการตดั สนิ ใจ ถ้ามีคนถามว่า คุณรู้สึกมีความสุขความสำเร็จได้ตอนไหน คุณจะตอบว่าอยา่ งไร บางคนก็อาจจะตอบว่า เม่ือมันได้ผลลัพธ์ตามท่ีคาดหวัง น่ะสิ หรือบางคนกอ็ าจจะตอบวา่ ในระหว่างทางเดนิ ไปสู่ผลลัพธ์ อันน้ันไง หรืออาจจะบอกว่าแคม่ เี ปา้ หมายก็สขุ แล้ว แต่ไม่ว่าคณุ จะตอบอย่างไร กถ็ ูกของคณุ ครับ ประเด็นอยู่ท่ีว่า ไม่ว่าจะเป็นต้นทาง กลางทาง หรือ ปลายทาง คุณต้องมีการตัดสินใจบางอย่างเก่ียวกับเป้าหมาย ของคุณ เพ่อื ท่ี ‘จะทำ’ หรือ ‘ไมท่ ำ’ จรงิ ไหมครบั แล้วคราวน้ีคุณจะม่ันใจได้อย่างไร ว่าทุกการตัดสินใจ ของคุณ มันจะนำไปสู่ความสำเร็จหรือให้ความสุขแก่คุณจริงๆ แล้วถ้าเกิดไม่ใชข่ น้ึ มาละ่ มันจะใหผ้ ลลพั ธ์อยา่ งอืน่ หรอื เปลา่
62 ถา้ จะดใู หล้ ึกซง้ึ กต็ อ้ งรู้ว่า การท่คี นเราตัดสินใจจะ “ทำ” หรอื “ไม่ทำ” นัน้ สาเหตเุ กดิ มาจากอะไร ตอบแบบตรงๆ เลย ก็คอื มันมาจากอารมณ์ ความคิด และความเชอื่ ของคณุ ครบั สามอย่างนม้ี ารวมตวั กัน เพ่อื ใหค้ ณุ ไดต้ ดั สินใจทำอะไรบางอยา่ ง น่ันเอง หรือแม้กระท่ังการพูดออกมา นั่นก็เป็นการตัดสินใจ แล้วที่จะพดู ไมว่ ่าสถานการณไ์ หนๆ คุณตดั สินใจวา่ ไม่พูดก็ทำ ไม่ทำก็พูด หรือทัง้ พดู ทัง้ ทำ แลว้ 3 ข้อนมี้ าจากท่ีไหน กม็ าจากประสบการณ์ในอดีต ที่คุณเคยเจอ เคยได้ยิน หรือเคยมีประสบการณ์มาด้วยตัวเอง จนมนั หล่อหลอมกลายมาเปน็ ตัวคณุ ในวนั น้ี คำถามตอ่ มาก็คอื ว่า ถ้าอารมณ์ ความคิด และความเชอื่ หรอื อย่างใดอยา่ งหนึ่งไมไ่ ดส้ นับสนนุ เป้าหมายเลย คุณว่า การ ตัดสินใจของคุณจะเป็นอย่างไรครับ โดยเฉพาะถ้ามีลักษณะ ดังต่อไปน ี้
• อารมณ์ลบ (Negative Emotion): ถา้ คุณมอี ารมณ์ เบือ่ เครียด โกรธ เกลยี ด เศร้า ท้อแท้ ในเวลาท่ีต้องตัดสินใจ อะไรบางอย่าง เช่น อยากลดน้ำหนัก แต่ในเวลานั้นคุณกำลัง มีอารมณเ์ หล่านี้ คณุ วา่ ผลลัพธจ์ ะเปน็ เชน่ ไร คณุ ยงั จะตัดสินใจ ควบคุมอาหารหรือไปออกกำลังกายไหมในตอนนั้น • ความคดิ ลบ (Negative Thinking): ถา้ คณุ เปน็ คน คิดลบ ไม่มีอะไรดี ไปโทษทุกอย่างท่ีขวางหน้า เช่น ฝนตก รถติด ท่ีทำงาน เจ้านาย ครอบครัว และอื่นๆ แล้วคุณต้อง ทำการตัดสินใจเพ่ือไปสู่เป้าหมาย เช่น อยากมีครอบครัวที่ อบอุ่น แต่คุณมีความคิดลบเหล่าน้ีอยู่ คุณคิดว่าคุณภาพของ การตดั สนิ ใจและผลลพั ธ์จะเปน็ เชน่ ไร เชน่ แฟนเป็นคนใจเย็น ขบั รถชา้ มาก ท่ีทำงานก็ไกล เจา้ นายบ้าอำนาจ ส่วนลูกก็ไม่ได้ ด่ังใจ คุณจะพูดอย่างไรกับลูก ตอนไปรับเขาที่โรงเรียน พอ กลับถึงบ้านตอนเย็นก็กินข้าวพร้อมกันบรรยากาศบนโต๊ะอาหาร จะเป็นอย่างไร แค่นึกก็ขนลุกเลยว่า ผลลัพธ์ท่ีออกมาน่าจะ ไปทางบ้านแตกมากกว่าอบอนุ่
64 • ความเช่ือทีจ่ ำกัดตวั เอง (Limiting Belief): ถา้ คุณ คดิ เสมอว่า ฉันไมเ่ กง่ ไมด่ พี อ ไมม่ นั่ ใจ ฉันอายุมากแลว้ หรอื ฉันยังเด็กเกินไป หรือสารพัดเหตุผลท่ีคุณจะบอกว่า คุณไม่ได้ เรื่องสักอย่าง เวลาที่คุณทำการตัดสินใจโดยมีความเช่ือนี้อย ู่ ในหัวตลอดเวลา เช่น อยากเป็นเจ้าของธุรกิจ แต่คุณมีความ เชื่อที่จำกัดแบบนี้ คุณว่าคุณภาพของการตัดสินใจจะมีผลลัพธ์ เป็นเช่นไร และคุณยงั จะตดั สินใจเร่มิ หาความรู้ ออกไปพบผคู้ น หรอื เร่มิ ต่อรองหาคนซอ้ื สนิ คา้ ไหมครับ ท่ีเลวร้ายกว่าน้ัน ถ้าเผอิญคุณมีครบท้ังสามตัวในหนึ่ง การตัดสินใจ แค่นึกก็ขนลุกแล้ว สยองยิ่งกว่าดูหนังผีดุญี่ปุ่น “จ-ู ออน” อีกครับ ไม่เชือ่ กล็ องไปตัง้ เปา้ หมายกันเล่นๆ ดู แล้ว ใส่ให้หมดแม็กไปเลยทั้งสามตัวท่ีกล่าวมา แล้วมาดูว่า คุณ ตดั สินใจทำอะไรบา้ ง แนะนำว่าอย่าอยู่คนเดียวตอนน่ังเขียนรายการตัดสินใจ ออกมาเล่นๆ เพราะสิ่งท่ีคุณได้ อาจจะทำให้น้อง “จู-ออน” ตกกระปอ๋ งไปเลยทเี ดยี ว
ดร.วีรพงษ์ ศรทั ธาผล 65 ทง้ั หมดทก่ี ล่าวมานน้ั เพ่ือจะชใี้ หค้ ุณเห็นวา่ การตัดสินใจ ของคุณมีผลอย่างมากต่อการลงมือทำหรือไม่ทำอะไรบางอย่าง เพ่ือบรรลุความสำเร็จ ถ้าคุณภาพในการตัดสินใจของคุณดี แน่นอนครับว่าผลลัพธ์ย่อมออกมาดี แต่ถ้าคุณภาพมันไม่ดีล่ะ ผลลัพธ์จะออกมาเป็นอยา่ งไร นึกไม่ออกจรงิ ๆ ซึง่ เคยมคี ำกลา่ วดว้ ยประโยคที่ว่า... “Life Begins when you make Decision” “ชีวติ เริ่มต้นเม่อื คณุ ทำการตดั สนิ ใจ” สำเรจ็ ไว Trick#9 ชีวิตเริ่มต้นเมื่อคุณทำการตัดสินใจ จงตดั สนิ ใจเลย ณ ตอนนี้ จะมวั รออะไร
66 5. ตดิ อยู่ในโซนขี้เกียจ ข้อน้ีเป็นข้อสุดท้ายและเป็นอุปสรรคอันใหญ่หลวงต่อ ความสำเรจ็ ของคณุ ผ้ใู หญ่มกั จะพูดเสมอว่า “ชอบติดสบาย” หรือภาษาวัยรุ่นยุคฮอร์โมนกำลังพุ่งก็จะพูดกันว่า “ข้ีเกียจ” นั่นเองครบั คุณเคยถามตวั เองไหมว่า... • ทำไมฉันถงึ ไมอ่ ยากลุกข้ึนมาทำอะไรใหม่ๆ แตท่ ำไมฉนั จึงทำอะไรแบบเดมิ ๆ มาไดเ้ ปน็ ห้าปสี บิ ปี • ทำไมเวลาท่ีคณุ เห็นคนอืน่ เขาบา้ พลงั ชอบทำโนน่ ทำน่ี ตลอดเวลา คุณก็ได้แต่คิดในใจว่า “ปล่อยให้พวกบ้าพลังมัน ทำไป” ฉันก็มีความสุขตามอัตภาพของฉันดีอยู่แล้ว อย่ามายุ่ง กบั ฉนั เป็นพอ
ดร.วีรพงษ์ ศรัทธาผล 67 พลังของความรสู้ กึ สบายๆ ชิวชวิ ไมก่ ดดัน ไม่ได้ลำบาก ไม่ต้องด้ินรน เรียกว่าพอกินพอใช้ เท่ียวได้ตามอัตภาพ สิ่ง เหล่าน้ีล่ะครับที่รวมเรียกมันว่า “โซนข้ีเกียจ” (Comfort Zone) ที่มาเป็นกับดักอันน่ากลัวท่ีคอยฉุดรั้งคุณไว้จากความ สำเร็จ มคี นกลา่ วไว้ว่า “A life of comfort will kill you silently : ชีวิตติดข้ีเกียจจะฆ่าคุณอย่างช้าๆ” ช่างเป็น คำกล่าวที่น่ากลัวจริงๆ ครับ เหตุผลก็คือ เพราะคุณไม่อยาก เหน่ือยเพิ่มข้ึน ไม่ว่าจะทางร่างกายหรือจิตใจ ทั้งยังกลัวความ ไมแ่ น่นอน และคาดเดาไมไ่ ด้ของการอยนู่ อก “โซนขีเ้ กยี จ” ดงั น้ัน คณุ กจ็ ะอยใู่ นโซนนไี้ ปเรือ่ ยๆ เพราะรู้สึกปลอดภัย แมว้ ่าคณุ จะ เบ่ือบ้างเป็นบางครั้งก็ตาม คุณก็ยังไม่เริ่มลงมือทำอะไร ชีวิต คุณก็จะย่ำอยู่กับที่ อาชีพการงานก็ไม่ก้าวหน้า และอื่นๆ อีก มากมาย
68 คุณเคยได้ยินหรือมีคนบอกคุณไหมว่า ให้ก้าวออกมา จากพ้ืนที่สบายๆ บ้าง แล้วคณุ จะพบอะไรใหม่ๆ ซง่ึ อาจจะนำ คุณไปส่คู วามสำเร็จทีย่ ง่ิ ใหญก่ ว่านีก้ เ็ ปน็ ไปได้ ทำไมคนสำเรจ็ จงึ สำเรจ็ ครับ เขาจะลุกขึ้นมาทำโน่นทำนี่ตลอดเวลา เพราะรู้ว่าความ สำเร็จท่ีจะได้มามันไม่ได้อยู่ในโซนน้ี เขาก็เลยออกไปหามันเอง ยอมเหน่ือย ยอมแลก ยอมถูกกดดัน และต่อสู้กับความกลัว ในใจ ทำไปตามแรงจูงใจท่ีเขามีต่อความสำเร็จ ต่อเป้าหมาย และพยายาม “ปรับตัวให้คุ้นเคยกับความไม่คุ้นเคย” “Get comfortable with being uncomfortable” เผอ่ื ว่าวนั หนงึ่ เขาอาจจะไปเจอเหตกุ ารณ์ทไ่ี มค่ าดฝนั เกิดขนึ้ นอก “โซนขเี้ กียจ” กไ็ ด้ ใครจะไปรู้ ผมมคี วามลบั บางอย่างจะบอก เผอื่ คุณจะไดม้ แี รงจงู ใจ อยากสำเร็จบ้าง คนสำเร็จเขาก็มี comfort zone ครับ เพียงแต่วา่ ขนาด comfort zone ของเขามพี น้ื ท่ที ใี่ หญก่ ว่า มากกวา่ เท่าน้นั เอง
ดร.วรี พงษ์ ศรัทธาผล 69 ถ้าจะเป็นการเริ่มต้นที่ดี ก็ลองขยาย comfort zone ของคุณดูสักเล็กน้อยก่อนก็ได้ ลองสร้างแรงจูงใจต้ังเป้าหมาย แล้วลองทำอะไรใหม่ๆ ทีละเล็กทีละน้อย มันจะมีแรงผลัก เกดิ ข้นึ เพ่อื ใหค้ ณุ คอ่ ยๆ กา้ วออกมา เรามาลองขยาย comfort zone ของเราไปพร้อมๆ กัน ครับ! สำเร็จไว Trick#10 ความขีเ้ กยี จ คอื ศตั รูที่ร้ายกาจ ของความสำเรจ็
สมองและความสำเร็จ มนษุ ยเ์ กิดมาพรอ้ มกับสมองแห่งความสำเรจ็ แต่ถกู ปิดก้นั จากส่งิ ตา่ งๆ รอบตวั สมองจะมหี นา้ ท่ีรับใช้คณุ ถ้าคณุ เพยี งแคร่ ู้วิธี และเข้าใจกลไกการทำงานของสมอง คณุ พร้อมหรือยงั ทจี่ ะลองหันมาควบคุมสมอง เพ่ือความสำเรจ็ ในส่ิงทคี่ ณุ ต้องการ
1. ภาษาสมอง ตอนนี้ใครๆ ก็อยากเรียนเกี่ยวกับสมอง ว่ามันคืออะไร และทำงานอย่างไร รอยหยักในสมองจะมีผลต่ออนาคตและ ความสำเร็จของเราไหม เพื่อท่ีเราจะได้ฉลาดข้ึน และเราต้องรู้ เก่ียวกับเส้นประสาทสมองด้วย ท้ังนิวรอน แอ็กซอน สมอง สว่ นหนา้ สว่ นกลาง ส่วนหลงั อกี ทง้ั ยังมสี มองซกี ซา้ ย ซกี ขวา สมองสว่ นช้า และสมองส่วนเร็วอีก ส่งิ ทีก่ ลา่ วมานเ้ี ราไดเ้ รียนกนั มามากมาย แตเ่ ราพอจะทราบ ไหมครับวา่ สมองก็มีภาษาของเขาเอง เพือ่ เกบ็ บนั ทึก ไม่ว่า ชนชาตใิ ดในโลกนี้ ก็จะมีภาษาสมองเหมือนกันครบั
72 สมองจะรับข้อมูลผ่านตัวเราเข้ามาและเก็บไว้ในสมอง ผ่านประสาทสัมผัสท้ังห้าคือ ภาพที่ผ่านตา รสชาติที่ผ่านล้ิน กล่ินที่ผ่านจมูก เสียงที่ผ่านหู และการสัมผัสท่ีผ่านร่างกาย หากจะเปรียบเทียบให้เห็นกันชัดๆ ก็จะคล้ายๆ กับภาษา คอมพิวเตอร์ ซึ่งมีเพียงแค่ 0 กับ 1 แต่พอเอามาผสมกัน หลายตัวหลายตำแหนง่ มนั ก็กลายเป็นสิ่งท่อี ลังการขนึ้ มาทเี ดียว ตา รปู ห ู เสียง รสู้ กึ สมั ผสั กลิ่น จมกู รสชาติ ปาก
ดร.วีรพงษ์ ศรัทธาผล 73 สมองก็เช่นกันครบั ถ้าบอกให้นกึ ถงึ ภาพกาแฟ คุณนกึ ถึง อะไร บางคนก็เห็นแก้วกาแฟสีขาวท่ีย่ืนออกไปรอน้ำกาแฟจาก เคร่อื งบด ได้ยนิ เสียงชอ้ นทกี่ ระทบกบั แก้วกาแฟตอนชง จนรู้สึก ได้ถึงไออุ่น ผ่านควันสีขาวท่ีลอยละล่องข้ึนมาพร้อมกลิ่นหอม ของกาแฟ และรสชาติท่ีกลมกล่อมจับใจ สมองจะบันทึกคำว่า ‘กาแฟ’ เข้าสสู่ มองในลักษณะน ี้ ดังนั้นประสบการณ์เกี่ยวกับกาแฟของแต่ละคนไม่เหมือน กัน สมองก็จะบันทึกเอาไว้ไม่เหมือนกัน บางคนจะเห็นเป็น กาแฟกระปอ๋ ง บางคนจะนกึ ถงึ ร้านกาแฟสตารบ์ คั หรือบางคน ก็อาจนึกถึงไร่กาแฟเลยกม็ ี น่เี ป็นเพียงแคภ่ าพแบบเดียวนะครบั ผมยังไม่ได้พูดถึง เสียง สัมผัส กลิ่นและรส ซึ่งแต่ละคนย่อม เห็นไมเ่ หมอื นกนั แนน่ อน นอกจากนี้ สมองจะเกบ็ ข้อมูลไวใ้ นตำแหนง่ เฉพาะเจาะจง มาก เหมือนไฟล์ในคอมพิวเตอร์ยังไงยังงั้นล่ะครับ เปิดเคร่ือง เมื่อไหร่กเ็ ห็นเหมอื นเดิม มันเปน็ การผสมของภาพ เสยี ง สัมผัส กลนิ่ รส กลายเปน็ คำว่า ‘กาแฟ’ จนกว่ามนั จะมีการแก้ไขและ บันทึกลงไปใหม่น่ันแหละครับ โครงสร้างภาษาสมองถึงจะเปล่ียน
74 ยกตวั อยา่ งเช่น เมอื่ ก่อนเคยกนิ กาแฟดำแลว้ ขม เวลา พูดถึงกาแฟก็จะขมตลอด พอมาเจอกาแฟใส่นมผสมน้ำตาล รสชาติกลมกล่อม เราจะได้คำว่ากาแฟแบบใหม่ใส่เข้าไปใน สมอง ดังน้ัน ภาษาพูดท่ีเราเรียนกันมา ล้วนเป็นคำท่ีใช้ สื่อสารกับสมองถึงอารมณ์ความรู้สึกที่เกี่ยวกับคำนั้นๆ เช่น คำวา่ ตำรวจ พ่อแม่ รถไฟ เครอื่ งบนิ อกหัก รกั คุด ล้มเหลว สำเรจ็ ฯลฯ เมอื่ คณุ ลองพดู คำเหล่านี้ออกมา มันมีภาพ เสยี ง สัมผัส อะไรเกิดขึ้นบ้าง ซึ่งภาพ เสียง สัมผัสเหล่าน้ี จะเป็น ตัวกำหนดความรู้สึกเรากับสิ่งน้ันๆ เม่ือเรารู้อย่างน้ีแล้ว เราก็ สามารถสอื่ สารกบั สมองได้เลยว่า เราอยากให้มันเปน็ อย่างไร เช่น บางคนเวลาพูดถึงคำว่า ‘งาน’ ก็ออกอาการหดหู่ ส่ายหน้าไปมา น่ันเป็นเพราะภาพที่เห็นคือ ทำงานดึก ตื่นเช้า เจา้ นายด่า คา่ โอทีไมม่ ี หนกี ลบั กอ่ นกไ็ มไ่ ด ้ แต่คุณก็เลือกได้นี่ว่า คุณอยากจะรู้สึกอย่างไร คุณคง ไม่อยากให้สมองบอกคุณอย่างเดียวใช่ไหมครับ ลองเปลี่ยน ภาพงาน เป็นภาพเงินเดือนเข้ามาทุกเดือน ภาพเจ้านายด่า เป็นภาพเจ้านายที่หวังดีกับเรา อย่างน้ีสมองคุณก็จะให้คุณ รู้สึกดีกับคำวา่ “งาน” ได้ครับ
สำเร็จไว Trick#11 ความหมายในภาษา เมื่อคุณสร้างมันข้ึนมาได้ คณุ กเ็ ปลย่ี นมันได ้
76 2. ลบทิง้ เหมารวม บิดเบอื น คือหนา้ ที่ของเขาล่ะ สมอง คือเคร่ืองเก็บความจำขนาดใหญ่ เพ่ือจะได้มี ข้อมูลเอาไว้ประมวลผล ซ่ึงก็คล้ายๆ คอมพิวเตอร์นั่นแหละ ครับ เก็บข้อมูลเอาไว้ เวลามีคนป้อนชุดคำสั่งเข้าไป เขาก็จะ ประมวลผลขอ้ มลู ทมี่ ีอยู่และใหผ้ ลลพั ธบ์ างอย่างออกมา ข้อมูลท่ีจะเข้าไปเก็บในสมองได้ ก็คือข้อมูลท่ีผ่าน ประสาทสัมผัสท้ังห้า ภาพ เสียง สัมผัส กลิ่น รสชาติ พอ สมองเราไดข้ อ้ มลู เหลา่ นี้แล้ว เขาจะตอ้ งมีกระบวนการ 3 อย่าง ด้วยกันคือ
ดร.วีรพงษ์ ศรัทธาผล 77 2.1) ลบทิ้ง (Delete) รู้ไหมครับว่า ใน 1 วินาทีจะมีข้อมูลเข้าสู่สมองเรา มากมายมหาศาลเป็นล้านบิทต่อวินาที ลองนึกถึงภาพที่มีคน หลายคนช่วยกันสง่ ปากกาให้คุณ ประมาณ 2,000,000 แท่ง ต่อวนิ าที คณุ จะใช้มือรับไดก้ ่แี ทง่ ครบั ตามทฤษฎแี ล้วเขาบอก วา่ เรารบั ไดเ้ พยี งแค่ 134 แท่งเทา่ นัน้ เอง ที่เหลอื สมองก็จะ จดั การลบทิ้งหมด ถ้าไมเ่ ช่ือคณุ ลองไปฟังใครพดู ก็ได้สกั ห้านาที แลว้ ลองพูด ให้เหมอื นเขาเป๊ะเลย รบั รองเอาพงุ เป็นประกนั คณุ ไม่สามารถ จำคำพูดเขาได้ทั้งหมดหรอกครับ เพราะจะจำได้บางคำท่ีสมอง คุณเลือกเท่านั้น เหตุผลท่ีจำไม่ได้ ก็เพราะมันรกสมองไงครับ สมองคุณกเ็ ลยจดั การลบมนั ทิ้งไปซะ
78 2.2) เหมารวม (Generalize) เมื่อสมองทำการลบข้อมูลส่วนมากทิ้งไปและรับเอา ข้อมูลส่วนน้อยเข้ามา สมองก็จะเอามาตีความเหมารวมเป็น ข้อมูลเบ้ืองต้นให้คุณก่อนที่จะนำมันออกไปใช้ ปัญหาก็คือว่า ไอ้ข้อมูลส่วนน้อยน่ีแหละ ไม่ได้เป็นข้อมูลท่ีเป็นจริง หรือเป็น ข้อมูลท่ีถูกต้องเสมอไป หากแต่เป็นข้อมูลท่ีคุณเลือกรับเข้ามา เอง อย่างเช่น คุณไปกินอาหารตามสั่งท่ีร้านข้างทาง แล้ว เกิดทอ้ งเสยี ตอนกลางคืน คุณกเ็ หมารวมไปเลยวา่ “ร้านอาหาร ข้างทางทุกร้านไม่สะอาด” โดยท่ีคุณไม่ได้เลือกเอาข้อมูลอ่ืน มาดู ซ่ึงก็คงมีอีกหลายเหตุการณ์ท่ีคุณเหมารวมไปหมด ไม่ว่า จะเปน็ ... ผู้ชายไทยเจ้าชู้ ภาษาอังกฤษยาก คนรวยมกั เห็นแก่ตวั เปน็ ต้น
ดร.วีรพงษ์ ศรทั ธาผล 79 2.3) บดิ เบอื น (Distort) ข้อนี้มีผลต่อเนื่องมาจากการเหมารวมของคุณ จนกลาย เป็นรูปแบบความเช่ือในสมองไปแล้ว ทำให้คุณมองโลกในแบบ ของคณุ ซ่ึงมันก็ไมใ่ ช่โลกแห่งความเป็นจริงซะทเี ดยี ว เช่น ถ้า คุณเหมารวมว่า ผู้ชายมักจะเจ้าชู้ คุณก็จะมองผู้ชายทุกคน ท่ีผา่ นเขา้ มาในชีวิตคุณวา่ เจ้าชู ้ อันนี้สมองก็จะบิดเบือนข้อมูลจริงให้เข้ากับรูปแบบความ เชื่อของคุณ ขอบอกเอาไว้เลยว่า สมองมีเรดาร์ครับ คุณเช่ือ อย่างไร คุณก็จะเห็นอย่างนั้น เช่น ถ้าคุณเช่ือว่าคนนี้เป็นคน ไม่ดี คุณก็จะเห็นแต่พฤติกรรมไม่ดีของเขา สมองคุณก็จะ พยายามหาเหตุการณ์มาสนับสนุนในส่ิงที่คุณเช่ือ ซึ่งบางคร้ัง มนั อาจจะไมใ่ ช่อยา่ งท่ีคณุ เหน็ ก็ได้
80 ถ้าลองมาผูกโยงกันดูก็จะเห็นชัดเลย เช่น มีคร้ังหนึ่ง คุณจับได้ว่าแฟนเก่ายังคุยกับแฟนเก่าของเขาอยู่ ทำให้คุณ โมโหมากและเช่ือว่า ผู้ชายต่อให้มีแฟนใหม่ ก็ยังมีเย่ือใยกับ แฟนเกา่ อยดู่ ี (เหมารวมครบั ) เรอ่ื งน้ีคณุ ยอมไม่ได้ ก็เลยเลกิ กบั แฟนเก่าไป จากนนั้ คณุ ก็ไปมีแฟนใหม่ และดนั ไปรวู้ า่ แฟนใหม่ คุณก็ต้องมีแฟนเก่า ก่อนท่ีเขาจะมาเจอแฟนใหม่ซ่ึงก็คือ คุณ และต่อให้แฟนใหม่เอาอกเอาใจคุณดีขนาดไหน (ข้อมูลน้ีถูก ลบทิง้ ครบั สมองคณุ ไมเ่ ลอื กทีจ่ ะเอาไปเกบ็ เพราะไมใ่ ช่สาระที่ คณุ ให้ความสนใจ) คุณก็ระแวงวา่ แฟนใหม่จะตอ้ งแอบไปคุยกบั แฟนเก่าแน่ๆ เพราะเร่ืองทำนองนี้ มันเคยเกิดขึ้นมาแล้วกับ แฟนเกา่ ของคณุ คราวนี้ เวลาคุณเห็นแฟนใหม่เดินออกไปคุยโทรศัพท์ใน ท่ีเงยี บๆ คนเดยี ว หรอื พอคณุ โทร.ไปหา เขากไ็ มร่ ับสาย คณุ ก็ ตีความเลยว่า แฟนใหม่คุณต้องแอบไปคุยกับแฟนเก่าอยู่แน่ๆ (ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า แต่สมองคุณบิดเบือนความหมายของ เหตุการณ์ไปแล้ว) และคุณก็จะคอยเก็บเอาเหตุการณ์น้ีแหละ มาเป็นตัวยืนยัน “ความเช่ือของตัวเอง” คุณก็จะมีคำพูด ตดิ ปากเสมอว่า “เหน็ ไหมล่ะ ฉันดผู ิดไปซะท่ีไหน” (จะบอกว่า ดูผิดครับ ท่ีแฟนใหม่คุณไปคุยโทรศัพท์เงียบๆ น่ี เขาอาจจะ
ดร.วีรพงษ์ ศรัทธาผล 81 แอบไปแทงพนันบอลก็ได้ครับ แต่กลัวคุณจะรู้ ส่วนที่คุณโทร. ไปหาแตไ่ ม่รบั สายนั้น เขาเมาคา้ ง นอนยังไม่ต่นื จริงๆ ครับ) เหน็ ไหมครบั ว่า ในเรอ่ื งของสมองถ้ารู้ไม่ทันเขาละ่ ก็ เขา ก็จะสร้างอะไรๆ ให้เราตลอดเวลา สุดท้ายแล้ว ก็จงพึงระวัง ไว้เสมอว่า…“ไม่ว่าคุณจะคิดยังไง สมองก็ถูกเสมอสำหรับ คุณ” ครับ สำเร็จไว Trick#12 แมส้ มองถกู เสมอ แต่เราควบคุมสมองได้
82 3. “สมอง” เครื่องจับคู่ให้ความหมาย สมอง คืออวยั วะทบี่ อบบางมากๆ และมีนำ้ หนักเพยี งแค่ กโิ ลฯ กว่าๆ เท่านนั้ เอง แต่เชื่อไหมครบั ว่า หนา้ ที่ของเขาย่ิงใหญ ่ อลงั การมาก เพราะเขาทำหนา้ ทีค่ วบคุมความเปน็ ไปของมนษุ ย์ ตง้ั แตเ่ ดก็ จนแกต่ ายไปนน่ั แหละครบั คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าสมอง คือ อวัยวะสำคัญท่ีสุด สำหรบั มนษุ ย์ สำคญั ไม่สำคญั ลองดกู ไ็ ดค้ รบั ลองเดนิ ไปบอก ใครสกั คนดวู า่ “ในหวั เธอน่ะ สมองมไี หม” “ในหวั มแี ต่ข้เี ลอ่ื ย หรือไง สมองน่ะหายไปไหน” เช่ือขนมกินได้เลย ร้อยทั้งร้อย ถ้าคนท่ีถูกถามแบบน้ันถ้าไม่โกรธคุณแสดงว่า สมองไม่สำคัญ สำหรับเขา (ไม่ต้องลองจริงนะครับ เพราะอาจมีการเจ็บตัว เปน็ ของแถม)
ดร.วีรพงษ์ ศรทั ธาผล 83 ลองนึกภาพดูครับว่า หากมนุษย์ไม่มีสมองในหัวแล้ว คงจะมีมนุษย์รูปแบบใหม่ท่ีเราอาจจะนึกภาพไม่ออกกันเลยก็ได้ ถา้ สมองสำคัญขนาดน้ี มใี ครเคยสงั เกตการทำงานของเขา บ้างไหม ถ้าลองสังเกตดูดีๆ คุณจะเห็นว่าเขาทำงานได้อย่าง น่ามหศั จรรย์มาก ในทุกๆ เหตุการณ์ท่เี ราเห็นและรับรภู้ ายนอก ไมว่ า่ จะเป็นคนเดนิ คนวงิ่ รถติด เลน่ กีฬา อุบตั เิ หตุ เจา้ นายด่า ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า สิ่งเหล่านี้แหละสมองจะคอยประมวลผลและ ให้ความหมายต่อเหตุการณ์นั้นๆ ตลอดเวลา และเขาก็จะไป เชื่อมโยงเหตุการณ์น้ันกับข้อมูลภายในบางอย่างในหัวสมองเรา ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ ความเช่ือ หรือความทรงจำในอดีต ที่เราเก็บไว้ แล้วตคี วามหมายออกมาในเชิงดี ไมด่ ี ชอบ ไมช่ อบ ถ้าเปรียบเทียบดู สมองก็เหมือนเคร่ืองจักรที่ทำหน้าท่ี คอยจับคู่เช่ือมโยงเหตุการณ์ภายนอกเข้ากับข้อมูลภายใน น่ันเอง (Brain is a connecting machine) จับคู่แล้วจะ ตีความหมายออกมา ยกตวั อย่างเชน่ ดอกไม้ เทา่ กบั สวยงามและหอม เงิน เท่ากบั ความสขุ แต่หายาก เพ่อื น เทา่ กบั มเี ยอะตอนเมาเหล้า แต่ถ้าหากสมองเช่ือมโยงไม่ได้ และให้ความหมายไม่ได้ เราจะมอี าการหงดุ หงดิ ครับ
84 หรือถ้าเป็นเหตุการณ์ที่สมองจะเช่ือมโยงความหมายให้ อย่างเช่น คุณเห็นผู้หญิงคนหน่ึง หน้าท้องยื่นพอสมควร เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าพอดี ขณะท่ีคุณน่ังอยู่บนรถไฟฟ้าท ี่ แน่นมาก สมองคุณจะบอกว่า ผู้หญิงคนน้ีท้องแน่นอน ถัดมา สมองก็ให้ความหมายอีกว่า น่ังต่อไม่ได้นะ เพราะผิดมารยาท สังคม ว่าแล้วคุณก็ลุกข้ึนพร้อมผายมือเชิญให้เธอน่ังตาม มารยาท “เชิญคนท้องน่ังได้เลยครับ” เธอหันมามองคุณอย่าง ตะลึงและไม่คิดวา่ จะมาเจอคนแบบน้ีในสงั คมกรุงเทพฯ พรอ้ มกบั พดู อย่างเขนิ ๆ วา่ “หนอู ว้ นเฉยๆ คะ่ ไม่ไดท้ ้อง” แลว้ อย่างนี้ สมองคุณใหค้ วามหมายว่าอย่างไรครับ สำเร็จไว Trick#13 สมองจะประเมนิ ความหมาย ในทกุ เหตุการณ์ และคณุ เลือกไดว้ า่ จะใหค้ วามหมายมัน วา่ อย่างไร
ดร.วีรพงษ์ ศรัทธาผล 85 4. “ความเจ็บปวด” และ “ความพึงพอใจ” คอื แรงขับ ทำไมสมองต้องคอยให้ความหมายเหล่าน้ันด้วย เหตุผล กค็ อื ว่าเพ่อื ทเ่ี ราจะได้ตัดสินใจทำหรือไมท่ ำอะไรบางอยา่ ง และ การที่ ‘ทำ’ หรอื ‘ไม่ทำ’ นี่ละ่ ครับ มนั เรมิ่ มาจากการทีส่ มอง ต้องจัดการตีความเหตุการณ์ให้เสร็จสรรพว่ามันหมายความว่า ยังไงกอ่ น โดยหลกั การตีความของสมองกง็ ่ายๆ ครบั วา่ เหตกุ ารณ์นี้ หมายความกบั เราว่ายังไง มนั เป็น “ความเจ็บปวด” (pain) หรือเปน็ “ความพึงพอใจ” (pleasure)
86 เมื่อตีความได้แล้ว สมองจะคอยบอกเราต่อทันทีว่าไม่ว่า จะทำอะไรก็ตาม “ให้หลกี เล่ียง Pain นะ หรือให้ทำอะไรกไ็ ด้ ท่ีเธอรู้สึก Pleasure เสมอ” แล้วเราก็จะแสดงพฤติกรรม บางอย่างออกมาเพ่ือที่จะหลีกเลี่ยงความเจ็บปวดและยอมรับ ความพงึ พอใจ (avoid pain and gain pleasure) ตลอดเวลา ครับ ลองนึกภาพดูนะครับ สมมุติว่า ถ้ามีสาวโสดคนหนึ่ง กำลงั ยนื รอรถไฟฟา้ อย่คู นเดยี ว แล้วมชี ายหนมุ่ คนหนึง่ หนา้ ตาดี เดินเข้ามาแนะนำตัวกับหญิงสาวคนนี้อย่างสุภาพ แต่แอบ ประหม่านิดๆ พรอ้ มกบั ขอเปน็ เพอ่ื นใน Facebook ในกรณนี ้ี คุณจะใหค้ วามหมายวา่ ยงั ไงครบั • ถ้าสมองคุณให้ความหมายว่า “เย้ โคตรโชคดีเลย มีคนหล่อน่ารักมาจีบฉันด้วย โอกาสลงจากคานมาถึงแล้ว” (Pleasure) • ถ้าคุณไม่ให้ท่ีอยู่ Facebook เขาไป โอกาสอาจไม่มี อีกแล้ว (Pain) • คุณกเ็ ลยให้ไปทงั้ Facebook เบอร์โทร. อาจจะแถม Line ID ให้เขาไปดว้ ย กนั พลาด (Pleasure)
ดร.วีรพงษ์ ศรัทธาผล 87 แต่ถ้าคณุ ให้ความหมายว่า... • “ไอ้ผู้ชายบ้ากาม หน้าด้าน เจ้าชู้ประตูดิน กลางวัน แสกๆ ยงั กลา้ ” (Pain) • ถ้าคุณให้ Facebook หรือเบอร์โทรศัพท์ไปคุณต้อง เดือดรอ้ นในภายหลังแน่ๆ ถา้ ยงุ่ เกีย่ วกบั เขา (Pain) • คุณก็อาจจะทำเมินเฉย หรืออาจส่งสายตาจิกผู้ชาย คนนน้ั ไป พร้อมกบั พดู ว่า “ขอโทษค่ะ ไมส่ ะดวกคะ่ ” (เพราะ คุณคิดว่าคุณเป็นคนมีมารยาท) แล้วอาจจะทำเป็นไม่สนหรือ เดินหนีไป (Pleasure) หรอื ลองนกึ ถึงเหตกุ ารณอ์ ่ืนเลน่ ๆ ก็ไดค้ รับ เชน่ ตกงาน เจ้านายตำหนิ แฟนให้ของขวัญวันเกิด สมองคุณจะให้ความ หมายกับเหตุการณ์เหล่านี้ว่ายังไง แล้วคุณมีการกระทำอย่างไร ต่อเนื่องมาจากการที่สมองตีความให้คุณบ้าง คุณจะสังเกตว่า สมองบงการคุณอยู่ตลอดเวลาครับว่า ให้เลือกทำสิ่งท่ีคุณ พงึ พอใจ (pleasure) และให้หนีหา่ งความเจ็บปวด (pain) อย่เู สมอครบั
88 ผมพูดไม่ผิดครับ สมองบงการคุณตลอดเวลา น่ากลัว แล้วใช่ไหมครบั เม่ือเราร้อู ย่างน้แี ลว้ เรากส็ ามารถใชป้ ระโยชน์ โดยการบงการสมองกลับไปได้ โดยเฉพาะการต้ังเปา้ หมาย อันนี้ จะมปี ระโยชน์มากๆ เลย คุณก็แคจ่ ดั การใส่ Pain เข้าไปเยอะๆ ถ้าคุณทำไม่สำเร็จ และกใ็ ส่ Pleasure เขา้ ไปเยอะๆ เม่อื คุณ ทำสำเรจ็ อย่างเช่น บางคนอยากลดน้ำหนัก แต่ลดไม่ได้สักที ลองใส่ Pain ดคู รับ เชน่ - ถ้าฉันอว้ นมาก ฉนั จะดูน่าเกลียด - ใสช่ ุดเทย่ี วเท่ๆ ไมไ่ ด้ - เหนือ่ ยง่าย - โรครุมเร้า - ตายเรว็ แนๆ่ - หาแฟนไม่ได้ ตื่นมาตอนเช้าตกใจใบหน้าตัวเองที่อืดเป็นกะละมัง อย่หู น้ากระจก (ผ้เู ขยี นเคยเป็นเอง ฮ่า ฮ่า)
ดร.วรี พงษ์ ศรทั ธาผล 89 เสร็จแล้วลองมาใส่ Pleasure เยอะๆ เช่น • ถ้าฉนั ผอมกวา่ นส้ี ัก 10 กิโลฯ ฉนั จะเป็นคนทมี่ ีรปู ร่าง ดีมาก • ได้ใส่เส้ือผ้าเท่ๆ ดูดี ทันสมัยตลอดเวลา และฉันก็จะ เปน็ จุดเด่นทใี่ ครๆ ก็ชอบมอง • ฉันจะมีสุขภาพดี แข็งแรง ใบหน้ามีเลือดฝาด จน กระทรวงสาธารณสขุ แทบจะมาเชญิ ใหไ้ ปเป็นทตู สขุ ภาพดี • มีคนมาชอบฉนั เยอะแยะไปหมด คราวนีล้ องมาดูกนั วา่ จากความหมายทเ่ี ราให้ไปท้งั Pain และ Pleasure จะมีผลต่อการกระทำและพฤติกรรมของเรา อย่างไร ลองไปทำดูนะครับ อะไรที่อยากทำแล้ว แต่ทำ ไม่สำเร็จ คงสำเรจ็ ไดก้ ็คราวนแ้ี หละครบั อยากสำเรจ็ ไว คุณตอ้ งมีความเจบ็ ปวดมากพอ หากไม่ลงมอื ทำ และตอ้ งสร้างความพงึ พอใจใหม้ ากพอท่จี ะลงมือทำมัน เมื่อคุณมีความพึงพอใจมากพอ คณุ จะลงมอื ทำ แบบท่เี รียกวา่ “สุดแรงเกิด” เลยทเี ดยี ว
90 สำหรับเทคนคิ “หลกี หนีความเจ็บปวด” และ “แสวงหา ความพึงพอใจ” ผมนำมาใช้ตลอดเวลาและให้ผลลัพธ์ทันที โดยเฉพาะถ้างานยากขึ้น ท้าทายข้ึน ผมจะหาความพึงพอใจ ของผลลพั ธท์ ี่ผมจะได้ก่อน และจะคิดต่อไปว่า ถา้ หากไม่สามารถ ทำได้แล้วจะเกิดอะไรขึ้น และความเจ็บปวดก็จะตามมา ไม่ว่า จะเปน็ คนอ่นื จะดถู ูก เพอื่ นหวั เราะเยาะ จะบอกพอ่ กบั แม่วา่ ยงั ไงถา้ ล้มเหลว นกึ ถึงอนาคตของตวั เองทท่ี ำอะไรกไ็ ม่สำเร็จ หรอื รา้ ยแรงถงึ ขัน้ สมเพชตวั เอง ย้อนกลับไปเม่ือสมัยวัยเด็ก หากไปถามรุ่นลุงรุ่นป้า แถวบา้ นของผม คุณอาจจะตกใจแทบตกเก้าอ้ี เพราะว่าสดุ ยอด แห่งความเกเรคือผมนี่เอง ตำแหน่งหนีเรียนท่ีหนึ่งของตำบล ผมจำได้ว่า คุณพ่อขับรถไปส่งท่ีโรงเรียน 7 โมงครึ่ง ยังไม่ทัน เข้าแถวเคารพธงชาติ ผมจะหายตัวไปเรียบรอ้ ยแลว้ ครบั ผมเป็นทั้งหัวหน้าแก๊ง ยิงนก ตกปลา รวมถึงหนีเที่ยว แตพ่ อโตข้นึ นสิ ัยผมไดเ้ ปล่ยี นไปจากหนา้ มือเปน็ หลงั มือ เพราะ แม่ครับ
ดร.วีรพงษ์ ศรทั ธาผล 91 แม่ฉลาดท่ีจะใส่ความเจ็บปวดบางอย่างไว้ในสมองผม ท่านพาผมไปทำงานท่ีไร่ด้วย แดดก็ร้อน เหงื่อแตกพล่ักๆ ท้ัง เหนื่อย ท้ังหิวข้าว มันเป็นภาพท่ีแสนจะทรมาน แม่บอกว่า “แม่ไม่มีสมบัติอะไรจะให้ลูกนะ นอกจากไร่อ้อยไร่มันพวกน้ ี ถ้าลูกไมต่ ั้งใจเรียน ไมเ่ รยี นให้เกง่ ๆ กค็ งต้องออกมาชว่ ยแมก่ บั พอ่ ทำไรก่ ันตามประสานะลูกนะ” เมือ่ ผมเห็นครอบครัวยากจน และรูส้ กึ เขด็ ขยาดตอ่ ความจน ในหัวสมองคิดแต่ว่า หัวเด็ดตีนขาดก็จะไม่ยอมทำไร่อย่างน้ี เพราะมันลำบากมาก ตั้งแต่น้ันมาผมก็ขยันเรียนเป็นบ้า เป็นหลัง และสาบานกับตัวเองว่า จะต้องเรียนเก่งให้ได้ ผม อ่านหนังสือเยอะมากจนหมดทุกเล่มในห้องสมุดโรงเรียน รู้แต่ วา่ ถา้ เรยี นเก่งแลว้ จะไม่ลำบากแน่นอน ถ้าผมข้เี กียจเม่อื ไหรจ่ ะนกึ ถงึ ความลำบาก พอนึกถงึ ตรงน้ี โอ้โฮ...ไม่รู้ว่าเรี่ยวแรงมหาศาลมันมาจากไหน ผมกลายเป็น คนบ้าเรียนและอ่านหนังสือทุกประเภททุกเล่มที่เจอ ไม่เว้น แมก้ ระทงั่ ถุงกล้วยทอด
92 จำได้ว่าตอนอยู่มัธยมปลาย ผมเรียนได้เกรดไม่ค่อยดี โอกาสท่ีจะสอบติดมหาวิทยาลัยน้อยมาก ผมอ่านหนังสือข้ามวัน ข้ามคืนเป็นเดือนๆ เพ่ือไปสอบแข่งขัน (เพ่ิงจะมาอ่านตอน ใกล้สอบ) เพราะผมบอกสมองผมว่า ยอมลำบากอดนอนตอนน้ี ดีกว่าไปลำบากในภายหน้า นึกถึงอนาคตเข้าไว้ ผลปรากฏว่า ผมสอบติดครบั ย่ิงสมัยตอนผมเรียนมหาวิทยาลัย ผมต้องกู้เงินเรียน เพราะที่บ้านไม่มีเงินส่ง ตอนน้ันผมต้องรับจ้างทำงานทุกอย่าง เพอื่ ไม่ใหท้ บี่ า้ นเดอื ดรอ้ น จำไดว้ า่ คา่ หน่วยกิตประมาณ 7,000 บาท เงิน 7,000 บาท เยอะมากสำหรับผม และพอดีท่ี มหาวิทยาลัยมีกฎออกมาว่า ถ้านักศึกษาคนใดเรียนได้เกรดเอ 5 วิชาในเทอมใด เทอมถดั ไปไมต่ อ้ งเสยี ค่าหนว่ ยกติ วินาทีน้นั ตาผมลุกวาว ผมวางแผนเลยครับ ลงเทอมละ 7 ถึง 9 วิชา กนั พลาด กะวา่ ใหไ้ ดเ้ อ 5 ตวั ทีเ่ หลอื ไม่ตกเปน็ พอ เพราะถา้ ลงแค่ 5 วิชามันเส่ยี งเกนิ ไป
ดร.วีรพงษ์ ศรัทธาผล 93 ผมทุ่มเทอ่านหนังสืออย่างหนัก เพื่อนท่ีเรียนเก่งๆ เขา อ่านรอบเดียวก็ได้ A แล้ว แต่ผมรู้ตัวเองดี ถ้าอ่านรอบเดียว ได้ C หรือ D+ มากินแน่ๆ ก็เลยวางแผนเร่ิมอ่านก่อนสอบ อย่างน้อยเดือนคร่ึง ทุกวันจะนึกถึงเงิน 7 พันบาท และภาพ ที่ตัวเองต้องกลับไปทำไร่เท่านั้นครับ ผมจะอ่านตั้งแต่สองทุ่ม ยันตีห้าเกือบทุกวัน ดื่มกาแฟกันง่วงซื้อแบบผงมาชงเอง ไม่ใส่ น้ำตาล นม เอาแบบดำๆ เข้มๆ เพราะประหยัดเงิน ถ้ายัง ง่วงอยู่ไม่ทันใจ ผมก็ตักผงกาแฟใส่ปากเลย (ช่างทำไปได้) ผล เป็นอยา่ งไรทราบไหมครับ ผมก็ได้เอ 5 ตัวมาเกอื บทุกเทอม น่ีคือผลลัพธ์ “หลกี หนคี วามเจ็บปวด” และ “แสวงหา ความพงึ พอใจ” ทผี่ มใช้โดยไม่รตู้ ัว แตไ่ ด้ผลชัดเจนครับ จาก เด็กไม่เอาถ่านกลายเป็นเด็กเกรด A จนเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตผม เลยทเี ดียว สำเรจ็ ไว Trick#14 เมือ่ คุณตดั สินใจทำอะไร แสดงวา่ คุณพอใจ ที่จะทำส่งิ น้นั
94 5. แผนท่สี มอง ตัวกำกบั ความเปน็ ไปของมนุษย์ ถ้าคุณเคยกางแผนที่กรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเปิดจากหนังสือ หรอื หาได้จาก Google Map กค็ งพอจะดอู อกว่า ตกึ นอี้ าคารน้ี อยู่ท่ีไหน ถนนอะไร ทิศไหน คุณก็พอจะคลำทางไปได้ใช่ไหม ครับ แต่ถ้าคุณนำแผนที่นี้ไปใช้เดินทางในปารีสหรือลอนดอน หรือไม่ต้องไปไกล เอาแค่เชียงใหม่พอ แต่คุณสามารถเดินทาง ได้ถูกต้อง ผมว่ามันต้องเป็น “พรจักรวาล” (ย่ิงใหญ่กว่า พรสวรรค์) อยา่ งมาก คุณเชื่อไหมว่า มีคนพยายามใช้แผนท่ีแบบนี้อยู่ตลอด เวลา แผนทท่ี ว่ี า่ นีก้ ็คือ “แผนทส่ี มอง” (Map of the world) คือรูปแบบการมองและเข้าใจโลกที่ซ่อนอยู่ภายในตัวเรา ที่ถูก สรา้ งขน้ึ มาเก็บไว้ในสมองน่ันเองครับ
ดร.วรี พงษ์ ศรัทธาผล 95 อันที่จริงคนเราทุกคนมีแผนที่ของตัวเองซ่อนอยู่ในสมอง น่ีแหละครับ ท่ีเป็นเคร่ืองมือในการดำเนินชีวิตต้ังแต่ตื่นเช้า ข้ึนมา ยันเข้านอน ซ่ึงแผนที่อันน้ี คนเราใช้ตอบสนองต่อ เหตุการณ์ต่างๆ รอบตัวเรา ดังน้ันจึงไม่แปลกเลยท่ีคนสองคน พบเหตุการณ์เดียวกัน อีกคนมีความสุข แต่อีกคนมีความทุกข์ หรือเมอ่ื เราทำส่งิ เดยี วกนั ก็จะมบี างคนสำเร็จ บางคนล้มเหลว น่ันก็เปน็ เพราะพวกเขามแี ผนที่สมองทแ่ี ตกต่างกันโดยส้ินเชิง คำถามก็คือว่า... แล้วแผนทใี่ นสมองถูกสร้างมาได้อย่างไร แล้วเราใช้งานมันอยา่ งไรไดบ้ า้ ง คำตอบก็คือ ตัวแผนที่น้ีถูกสร้างจากประสบการณ์ตรง ของเราตั้งแต่เด็ก เหมือนเราเคยถูกน้ำร้อนลวกตอนเด็ก เวลา เราเห็นน้ำกำลังเดือด เราก็คงไม่เอามือไปจุ่มเล่นใช่ไหมครับ เพราะแผนท่ีในสมองบอกเราว่า “น้ำเดือด = ร้อน = อันตราย” หรือจะเป็นรักแรก อกหัก เสียใจ อะไรก็ตาม ที่เราเจอด้วยตัวเอง เราก็จะสร้างแผนที่ในสมองเกี่ยวกับ เหตุการณ์นี้เอาไว้
96 นอกจากน้ี แผนท่ีในสมองยังถูกสร้างจากประสบการณ์ ทางอ้อม ไม่ว่าจะเป็นคนรอบตัวท่ีพร่ำสอนเรามา ท้ังพ่อแม่ ปยู่ า่ ตายาย ครูอนบุ าล ครูประถม ครมู ัธยม และหนงั สือที่เรา อา่ น เช่น “ทำดไี ด้ดี ทำช่วั ได้ช่วั ” หรอื “มีเงินใหน้ บั เป็นนอ้ ง มที องใหน้ บั เปน็ พ่”ี “ซ่ือกินไม่หมด คดกนิ ไม่นาน” ถา้ เราเชือ่ และทำตาม เราก็ได้แผนทค่ี ลา้ ยต้นฉบับมา แตถ่ ้าเราดอ้ื ต่อตา้ น คำสอนเหล่านี้ เราก็จะมีแผนที่ที่แตกต่างจากฉบับเดิมไปเลย (สมัยนี้ facebook มีส่วนอย่างมากในการสร้างแผนที่ในสมอง ครับ) ประสบการณ์เหลา่ นี้ล่ะครับ ต้งั แต่เลก็ จนโตท่ีหล่อหลอม ข้ึนมา ผ่านกระบวนการสมองที่ทำการลบข้อมูลทิ้ง เหมารวม และบดิ เบือน จนกลายเปน็ แผนทใ่ี นชีวิตเรา ซ่ึงประกอบไปดว้ ย •• คควุณาคม่เาชทอ่ื ่ีเร(Bาeยlึดieถf)ือทเ่ี (รVาaมlี ue) เช่น เงิน ความรัก ครอบค•ร ทัวศั คนวคามตสิขำอเงรเจ็ ร าต่อสงิ่ ต่างๆ (Attitude) วา่ ดหี รอื ไมด่ ี อยา่ งไร
ดร.วรี พงษ์ ศรัทธาผล 97 • ลกั ษณะเฉพาะของตวั เราเอง (Identity) ไม่วา่ จะเปน็ คนสนุก•ส ภนาาษนาจ(รLงิ aจnังgอu่อaนgeโย) นท่ีเเรขาม้ รแับขร็งู้แ ละเข้าใจ ไทย อังกฤษ เพราะหรอื หยาบคาย ที่กล่าวมาน้ีล้วนมีผลต่อลักษณะแผนที่ของคนเราท้ังน้ัน สิ่งเหล่านไ้ี ด้ผสมผสานกนั เปน็ “แผนท่ีสมอง” (Map of the World) ของเราเอง ซ่ึงในโลกนี้ไมม่ ใี ครเหมอื นเราอกี แลว้ สำเรจ็ ไว Trick#15 คุณไมส่ ามารถใช้แผนทก่ี รงุ เทพฯ ไปเดนิ ที่ลอนดอนไดถ้ กู ตอ้ งฉนั ท์ได คณุ ก็ไมส่ ามารถใชแ้ ผนทชี่ วี ิตคุณ ไปเดนิ ในชีวิตคนอน่ื ไดถ้ ูกต้องฉันท์นนั้
98 6. แผนทีไ่ ม่ใชพ่ น้ื ทจ่ี ริง คำถามต่อมาก็คือว่า แล้วแผนที่สมองที่ว่านี้ จะนำไป ใช้งานอยา่ งไร ให้ลองนึกถึงภาพแผนท่ีนะครับ สมมุติว่าคุณจะไปในที่ที่ ไม่คุ้นเคย คุณกด็ ทู ิศทางกอ่ นวา่ จะไปทางไหน ต้องผ่านสถานทใ่ี ด อาคารอะไร เลี้ยวมมุ ไหน บางคนไมร่ ีบร้อน ก็เลอื กเดินไปเร่ือยๆ ชมววิ ทวิ ทัศนส์ องข้างทาง บางคนไม่อยากเสยี เวลา กจ็ ะมองหา ทางลัด แต่เขาทั้งสองก็ไปถึงจุดหมายเหมือนกัน เพียงแต่ว่า จะชา้ หรอื เร็วเทา่ นน้ั เอง แผนทนี่ ้ีจะถกู ใช้โดยสองสว่ นด้วยกนั คอื หนง่ึ “ตัวแผนทเ่ี อง” สองคอื “คนถือแผนที่”
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204