Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่ 3 โครงสร้างเครือข่าย

หน่วยที่ 3 โครงสร้างเครือข่าย

Published by 6032040007, 2018-09-05 00:26:58

Description: หน่วยที่ 3 โครงสร้างเครือข่าย

Search

Read the Text Version

1.ลักษณะการ 2. ลักษณะของเชอื่ มต่อเครือขา่ ย โครงสร้าง เครอื ขา่ ย3.สว่ นประกอบ 4. รปู แบบของ ของเครือขา่ ย เครือข่าย 5. อปุ กรณ์ทใ่ี ช้ เช่ือมตอ่ ระบบ เครือขา่ ย

1.1 การเชื่อมตอ่ แบบจุดต่อจุด (Point to Point) แบบจุดต่อจุด (point-to-point) คือ วิธเี ช่ือมต่อสื่อสงข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ 2 อุปกรณ์ โดยมีเส้นทางเพียง 1 เส้นเทา่ นัน้ เช่น ลักษณะการเชือ่ มต่อระหว่างเคร่ืองคอมพิวเตอร์พีซีแต่ละเครื่องมีเพียงสายเพียง 1 สายต่อเช่ือมโยงกันในการทางาน

1.2 การเชือ่ มต่อแบบหลายจุด (Multipoint or Multidrop) แบบหลายจุดหรือมัลติดรอปไลน์ แบบหลายจุด หรือ มัลติดรอปไลน์ (multidrop lime) หมายถงึ ส่ือส่งข้อมูล 1 สื่อ มีอุปกรณ์หลายๆอุปกรณ์ นอกจากนี้ถ้าสอื่ ส่งข้อมูลเป็นคล่ืนวิทยุ แบบหลายจุดใช้คล่ืนวิทยุในอากาศร่วมกันการใช้คลื่นวิทยุร่วมกัน ทาได้โดยแบ่งความถ่ีออกเป็นช่วงความถีข่ องอุปกรณ์แต่ละตัวซึง่ ถอื ว่าเป็นการใช้สื่อสงข้อมูลร่วมกันในแบบแบง่ สว่ นทเี่ รยี กว่า การแบง่ ปันส่วน

โครงสร้างเครอื ขา่ ยคอมพิวเตอร์ (TOPOLOGY)แบ่งออกเปน็ 6 ชนดิ 2.1 โครงสรา้ งแบบบัส (Bus Topology) โครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบบัส จะประกอบด้วย สายส่งข้อมูลหลัก ท่ีใช้ส่งข้อมูลภายในเครือข่ายเคร่ืองคอมพิวเตอร์แต่ละเคร่ือง จะเชื่อมต่อเข้ากับสายข้อมูลผ่านจุดเช่ือมต่อ เมื่อมีการส่งข้อมูลระหว่างเคร่ืองคอมพิวเตอร์หลายเคร่ืองพร้อมกัน จะมีสัญญาณข้อมูลส่งไปบนสายเคเบ้ิลและมกี ารแบ่งเวลาการใช้สายเคเบลิ้ แต่ละเครื่อง

ข้อดี - ใชส้ ่ือนาขอ้ มลู นอ้ ย ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่าย - ถ้าเครื่องคอมพวิ เตอรเ์ ครื่องใดเครอื่ งหน่ึงเสยี ก็จะไมส่ ง่ ผลต่อการทางานของระบบโดยรวมข้อเสีย - การตรวจจดุ ที่มีปญั หา กระทาได้คอ่ นข้างยาก และถา้ มีจานวนเคร่อื งคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายมากเกนิ ไป จะมีการสง่ข้อมูลชนกันมากจนเป็นปัญหา

โครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบดาว ภายในเครือข่ายคอมพิวเตอร์จะต้องมีจุกศูนย์กลางในการควบคุมการเช่ือมต่อคอมพิวเตอร์ หรือ ฮับ (hub) การสื่อสารระหว่างเคร่ืองคอมพิวเตอร์ต่างๆ จะสื่อสารผ่านฮับก่อนที่จะส่งข้อมูลไปสู่เครื่องคอมพวิ เตอร์เครือ่ งอื่นๆ โครงสร้างเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์

ข้อดี - ถา้ ต้องการเชอื่ มตอ่ คอมพิวเตอร์เครื่องใหมก่ ส็ ามารถทาได้งา่ ยและไม่กระทบตอ่ เคร่ืองคอมพิวเตอร์อื่นๆ ในระบบข้อเสีย - คา่ ใชจ้ ่ายในการใชส้ ายเคเบ้ิลจะค่อนข้างสงู และเมอ่ื ฮับไมท่ างาน การส่อื สารของคอมพิวเตอรท์ ง้ั ระบบก็จะหยุดตามไปด้วย

โครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบวงแหวน มีการเชื่อมต่อระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์โดยท่ีแต่ละการเชื่อมต่อจะมีลักษณะเป็นวงกลม การส่งข้อมูลภายในเครือข่ายน้ีก็จะเป็นวงกลมด้วยเช่นกนั ทิศทางการส่งข้อมูลจะเป็นทิศทางเดียวกันเสมอ จากเคร่ืองหน่ึงจนถึงปลายทาง

ขอ้ ดี - ใช้สายเคเบิล้ น้อย - ถ้าตัดเคร่อื งคอมพวิ เตอร์ท่ีเสยี ออกจากระบบ ก็จะไม่ส่งผลต่อการทางานของระบบเครือขา่ ยนี้ และจะไม่มกี ารชนกนั ของข้อมูลที่แต่ละเครอ่ื งสง่

มีลักษณะเช่ือมโยงคล้ายกับโครงสร้างแบบดาวแต่จะมีโครงสร้างแบบต้นไม้ โดยมีสายนาสัญญาณแยกออกไปเป็นแบบกิ่งไม่เป็นวงรอบ โครงสร้างแบบน้ีจะเหมาะกับการประมวลผลแบบกลุ่มจะประกอบด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ระดับต่างๆกันอยู่หลายเครื่องแล้วต่อกันเป็นช้ัน ๆ ดูราวกับแผนภาพองค์กร แต่ละกลุ่มจะมีโหนดแม่ละโหนดลูกในกลุ่มนนั้ ท่มี ีการสัมพันธก์ ัน

ขอ้ ดี – มีความเร็วในการส่ือสารข้อมูลสูงโปรแกรมที่ใช้ในการควบคุมการสื่อสารก็เป็นแบบพนื้ ฐานไม่ซับซอ้ นมากนักขอ้ เสีย – จานวนสายที่ใชต้ อ้ งมีจานวนมากและอินพุด / เอาต์พุตพอร์ต ต้องใช้จานวนมากเชน่ กนั – เน่ืองจากอุปกรณ์ต้องการใช้อินพุด /เอาต์พุตพอร์ตจานวนมาก ดังนั้นราคาของอปุ กรณ์ตอ่ เชอ่ื มจงึ มรี าคาแพง

คือ เป็นเครือข่ายท่ีผสมผสานกันท้งั แบบดาว,วงแหวน และบัสเช่น วิทยาเขตขนาดเล็กท่ีมีหลายอาคาร เครือข่ายของแต่ละอาคารอาจใช้แบบบสั เชื่อมต่อกบั อาคารอนื่ ๆที่ใชแ้ บบดาว และแบบวงแหวน

ขอ้ ดี - ไมต่ อ้ งเสียค่าใช้จ่ายในการวางสายเคเบิลมากนกั - สามารถขยายระบบไดง้ ่าย - เสียค่าใช้จา่ ยน้อยข้อเสีย - อาจเกิดข้อผิดพลาดง่าย เน่ืองจากทุกเคร่ืองคอมพิวเตอร์ต่อยู่บนสายสัญญาณเพียงเส้นเดียว ดังน้ันหากมีการขาดท่ีตาแหน่งใดตาแหน่งหนึ่ง ก็จะทาให้เครื่องอ่ืนส่วนใหญ่หรือทั้งหมดในระบบไม่สามารถใช้งานได้ตามไปดว้ ย

มีลักษณะคล้ายกับโทโพโลยีแบบสมบูรณ์ แต่จะมีเพียงเฉพาะบางสถานี (terminal) ในเครือข่ายเท่านั้น ทาให้ลดค่าใช้จ่ายลงเนื่องจากในการเชื่อมโยงแบบสมบูรณ์มีค่าใช้จ่ายสูงและ บางสถานีอาจจะมีการใช้งานไม่มากนัก การเช่ือมโยงแบบเมซนี้เป็นรูปแบบเครอื ขา่ ยท่ีนิยมใชใ้ นกรณกี ารส่อื สารขอ้ มลู ถงึ กันในปริมาณสงู

ข้อดี - อัตราความเร็วในการส่งข้อมูล ความเช่อื ถอื ได้ของระบบ - งา่ ยตอ่ การตรวจสอบความผดิ พลาด - ข้อมูลมีความปลอดภัยและมีความเป็นสว่ นตัวข้อเสยี - ค่าใช้จ่ายสายเคเบ้ิลสูง เช่น ถ้าในกรณีที่จานวนโหนดมากเช่นถา้ จานวนโหนดทง้ั หมด - ในเครือข่ายมีอยู่ 100 โหนด จะต้องมีจานวนจุดเช่อื มตอ่ ถงึ 4,950 เสน้ เปน็ ต้น

Internet เป็นระบบเครือข่ายทีใ่ หญท่ ีส่ ุดในโลกในทน่ี ี้จะกล่าวถงึ ส่วนประกอบของระบบเครอื ขา่ ย ซงึ่ประกอบไปดว้ ย• เคร่อื งบริการขอ้ มลู (Server)• เคร่ืองลูกขา่ ยหรอื สถานี (Client)• การด์ เครอื ขา่ ย (Network Interface Cards)• สายเคเบิลท่ีใชบ้ นเครอื ขา่ ย (Network Cables)• ฮบั หรอื สวิตช์ (Hubs and Switches)• ระบบปฏิบตั ิการเครือข่าย (Network operating System)

เครอื่ งศูนย์บริการข้อมลู โดยมกั เรียกว่า เคร่อื งเซริ ฟ์ เวอร์ เปน็ คอมพวิ เตอรท์ ที่ าหนา้ ที่บริการทรพั ยากรให้กบั เครื่องลกู ข่าย เชน่ การบรกิ ารไฟล์ การบรกิ ารงานพมิ พ์ เป็นตน้ เน่ืองจากเครื่องเซฟเวอรม์ กั ตอ้ งรบั ภารกิจหนกั ในระบบจงึ มกั ใชเ้ ครอื่ งทมี่ ขี ีดความสามารถมาเปน็ เครอื่ งแมข่ ่าย

เครือ่ งลกู ข่ายหรอื สถานเี ครอื ข่าย เครอ่ื งลกู ข่ายเป็นคอมพวิ เตอร์ท่ีเชือ่ มต่อเข้ากบั ระบบเครือข่าย ซึ่งอาจเรยี กว่า เวริ ก์ สเตชนั กไ็ ด้ โดยมกั เปน็ เครอ่ื งของผ้ใู ชง้ านท่วั ไปสาหรับตดิ ตอ่ เพื่อขอใช้บรกิ ารจากเซิรฟ์ เวอร์ ซึ่งสามารถจะขอหรือนา software ทง้ั ขอ้ มลู จากเครือ่ งแม่ข่ายมาประมวลผลใช้งานไดแ้ ละยงั ติดตอ่ สอื่ สาร รบั -ส่งขอ้ มลู จากคอมพิวเตอร์เครอื่ งอื่นๆในเครือข่ายได้

การด์ เครือขา่ ย แผงวงจรสาหรบั ใช้ในการเชอ่ื มตอ่ สายสัญญาณของเครือขา่ ย คอมพิวเตอร์ทุกเครอื่ งในเครือข่ายจะต้องมีอปุ กรณน์ ้ี และหน้าทขี องการด์ กค็ อื แปลงสญั ญาณของคอมพิวเตอรส์ ง่ ผา่ นไปตามสายสญั ญาณทาใหค้ อมพิวเตอรใ์ นเครอื ขา่ ยแลกเปล่ยี นขอ้ มลู กนั ได้

สายเคเบิลที่ใช้บนเครือขา่ ย เครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอรจ์ าเป็นต้องมีสายเคเบิลเพอื่ ใชส้ าหรับเช่อื มตอ่คอมพิวเตอร์ต่าง ๆ ใหอ้ ยบู่ นเครือขา่ ยเดยี วกนั เพ่ือสอื่ สารกนั ได้ นอกจากน้ีเครอื ขา่ ยยังสามารถส่อื สารระหว่างกนั โดยไมใ่ ช้สายกไ็ ด้ เรียกวา่ เครือข่ายไรส้ ายโดยสามารถใชค้ ลื่นวิทยหุ รืออนิ ฟาเรด เปน็ ตัวกลางในการปลงสญั ญาณ อีกทง้ั ยังสามารถนาเครอื ข่ายแบบมสี ายและเครอื ข่ายแบบไรส้ ายมาเช่อื มตอ่ เขา้ ดว้ ยกนั เป็นเครอื ขา่ ยเดยี วกนั ได้

ฮับและสวิตช์ เป็นอปุ กรณ์ฮบั และสวติ ช์มักนาไปใชเ้ ปน็ ศนู ย์กลางของสายเคเบลิ ท่ีเช่ือมตอ่เครอื ขา่ ยเข้าไว้ด้วยกนั ซ่ึงฮบั หรือสวติ ชจ์ ะมีพอร์ตเพ่อื ใหส้ ายเคเบิลเชอื่ มตอ่ เข้าระหวา่ งฮับกับคอมพิวเตอร์ โดยจานวนพอรต์ จะข้นึ อยู่กับแต่ละชนดิ เชน่ แบบ 4 ,8, 16 , 24 พอรต์ ยังสามารถนาฮบั หรอื สวิตช์หลายๆตัว มาเชื่อมตอ่ เข้าด้วยกันเพื่อขยายเครอื ข่ายได้อกี ด้วย

ระบบปฏิบตั กิ ารเครอื ข่าย เคร่อื งแมข่ ่ายของระบบจาเป็นตอ้ งตดิ ต้งั ระบบปฏบิ ัตกิ ารเครอื ขา่ ยไว้ เพ่อื ทาหนา้ ทค่ี วบคมุ และรองรบั การทางานของเครือข่ายไว้ เครอื ข่ายทีม่ ปี ระสิทธภิ าพจาเป็นตอ้ งพงึ่ Software ทีม่ ปี ระสทิ ธภิ าพตามดว้ ยเช่นกัน

รูปแบบของเครอื ขา่ ยแบง่ เปน็ 2 ประเภท ได้แก่ 1. เครอื ข่ายแบบ Client/Server 2. เครอื ขา่ ยแบบ Peer To Peer

1. เครอื ข่ายแบบ Client/Server เป็นรูปแบบหนึ่งของเครอื ข่ายแบบ server-based โดยจะมีคอมพิวเตอรห์ ลักเครื่องหนึ่งเป็นเซริ ฟ์ เวอร์ ซ่งึ จะไม่ได้ทาหน้าที่ประมวลผลท้ังหมดใหเ้ ครอื่ งลกู ข่าย หรอื ไคลเอนต์ (client) เซิร์ฟเวอร์ทาหนา้ ทเี่ สมือนเป็นท่เี ก็บขอ้ มลู ระยะไกล (remotedisk) และประมวลผลบางอยา่ งใหก้ ับไคลเอนต์เทา่ นนั้ เช่น ประมวลผลคาสงั่ ในการดงึ ข้อมูลจากเซริ ์ฟเวอรฐ์ านข้อมลู (database server) เปน็ ตน้

2. เครือขา่ ยแบบ Peer To Peer เ ค รื อ ข่ า ย แ บ บ น้ี จ ะ เ ก็ บ ไ ฟ ล์ แ ล ะ ก า รเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ไว้ท่ีเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใชแ้ ต่ละคน โดยไม่มีคอมพิวเตอร์ส่วนกลางท่ีทาหนา้ ทีน่ ้ี เรยี กได้วา่ ต่างคนต่างเกบ็ ต่างคนตา่ งใช้แ ต่ ผู้ ใ ช้ ใ น เ ค รื อ ข่ า ย ส า ม า ร ถ เ รี ย ก ใ ช้ ไ ฟ ล์ จ า กคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นได้ ถ้าคอมพิวเตอร์เคร่ืองนั้นทาการแชร์ไฟล์เหล่าน้ันไว้ เครือข่ายแบบPeer-to-Peer น้เี หมาะสาหรบั องค์กรขนาดเล็กท่ีมีคอมพวิ เตอร์เชอ่ื มตอ่ กันไม่เกิน 10 เคร่อื ง

ผจู้ ดั ทำชนิกำนต์ สนธิโพธิ์ ปวส.2 คอม.1


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook