Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore อีสานออนทัวร์

อีสานออนทัวร์

Published by thanakit ritsri, 2023-03-03 18:29:37

Description: อีสานออนทัวร์
ทัวร์ท่องเที่ยว นครพนม - สปป.ลาว - สกลนคร
วันที่ 17-20 กุมภาพันธ์ 2566

ภาพ : นักท่องเที่ยวทุกคน
เนื้อหา : วิทยา วรพันธุ์ และสินธะวา คามดิษฐ์
แบบปก อาร์ตเวิร์ค : ธนกิจ ฤทธิ์ศรี

Search

Read the Text Version

...แนะนำนักท่องเทยี่ ว… สมบรู ณ์วลั ย์ สัตยารกั ษว์ ทิ ย์ วิศรตุ สุวรรณวเิ วก พาชติ ชนัต-สุรนิ ทร์ ศิรพิ านชิ ปรยี าภรณ์ -สมชาย-พิชญาณนิ วิทยา วรพนั ธ์ุ สินธะวา คามดษิ ฐ์ เผอื กผอ่ ง

กำหนดการ นครพนม - สปป.ลาว - สกลนคร ระหว่างวนั ที่ 17 - 20 กุมภาพันธ์ 2566 กิจกรรมทอ่ งเทีย่ วนครพนม (เมืองแหง่ ความสขุ ) สกลนคร และสปป.ลาว วันแรก ศกุ ร์ท่ี 17 กมุ ภาพนั ธ์ 2566 - เดินทางจากสนามบินดอนเมืองถึง สนามบินนครพนม ( 10.00 น.) / สัมผัส บรรยากาศบริเวณพญาศรีสัตตนาคราช แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของนครพนม - นมัสการพระธาตุพนม สถานที่บรรจุ พระบรมสารีริกธาตุมาแต่ครั้งสมัยอาณาจักร ศรีโคตรบรู ณ์ - รับประทานอาหารเที่ยงที่ร้านแหนมเนือง ดาวทอง ต้นตำหรับอาหารเวียดนามเมนู “พิซ ซา่ ญวน” หน่งึ เดียวนครพนม - ชมธรรมชาติสองฝั่งโขงและลานพญานาค ที่ แก่งกะเบา มุกดาหาร - ชมอนุสรณ์สถาน “ลุงโฮจิมินห์” ผู้ประกาศ อิสรภาพของเวียดนาม - เข้าที่พัก/เช็คอินโรงแรมเดอะริเวอร์ นครพนม (ทุกห้องเห็นวิวแม่น้ำโขง/มีจักรยาน ปนั่ ชมวิวสวยเลยี บโขงให้บริการ) - ค่ำไปถนนคนเดิน ชมหอนาฬิกาเวียดนาม อนุสรณ์ ลอดอุโมงค์นาคราช และรับประทาน อาหารเย็นที่รา้ นระเบียงโขง

กจิ กรรมทอ่ งเที่ยวนครพนม (เมอื งแหง่ ความสุข) สกลนคร และสปป.ลาว วันท่สี อง เสารท์ ่ี 18 กุมภาพนั ธ์ 2566 - รับประทานอาหารเช้าที่คอฟฟีซอฟโรงแรม ดว้ ยเมนเู วียดนาม อสี าน และ สากล - เดินทางไป สปป.ลาว (แขวงคำม่วน) /แวะชม ทัศนียภาพสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 / ไหว้พระธาตุ / ไปดูถ้ำพระ / เที่ยวท่าฝร่ัง (อาหารกลางวัน) / เที่ยวถ้ำแอ่น / ซื้อของ ในตลาดหรอื duty-free - บ่ายเดินทางกลับนครพนม เข้าที่พักโรงแรม เดอะรเิ วอร์ - รับประทานอาหารเย็นและสัมผัสธรรมชาติ ยามค่ำสองฝั่งโขงบนเรือสำราญ “แม่โขงพารา ไดซค์ รซู ” เรอื ออกจากทา่ เวลา 17.45 น. ใช้เวลา บนเรือ 2 ช่ัวโมง

กจิ กรรมทอ่ งเที่ยวนครพนม (เมอื งแห่งความสุข) สกลนคร และสปป.ลาว วันที่สาม อาทิตยท์ ่ี 19 กมุ ภาพันธ์ 2566 - รับประทานอาหารเช้าที่คอฟฟี่ซอปโรงแรม เดอะริเวอร์ - เช้าเดินทางไปสกลนคร สักการะพุทธสถาน ในเขตจังหวัดสกลนครพิพิธภัณฑ์หลวงปู่มั่น / วดั ถำ้ ผาแดน่ / ร ั บ ป ร ะ ท า น อ า ห า ร ก ล า ง ว ั น ร ้ า น ส เ ต็ ก สหกรณ์โพนยางคำ ที่ผลิตเนื้อโคขุนที่เลื่องชื่อ ระดับประเทศ พร้อมอาหารหลากหลายรสชาติ ทา่ มกลางบรรยากาศแบบคาวบอย บ่ายนมัสการพระธาตุเชิงชุม/แวะชอปปิ้ง สินคา้ พนื้ เมอื งระดับ OTOP ถนนฟ้าคราม ย่าน เมอื งเก่า - เดินทางกลับนครพนมแวะชมพิพิธภัณฑ์ จวนผู้ว่า ที่สวยงามตามแบบสถาปัตยกรรม ตะวันตก (ฝรั่งเศส) สร้างสมัยสงครามอินโดจีน และโบสถ์คริสต์ (วัดนักบุญอันนา) ที่สวยงาม แปลกตา มีลักษณะเป็นหอคอยคู่ เป็นยอดแหลม สงู เด่นเป็นสงา่ - รับประทานอาหารเยน็ ที่ร้านอาหารววิ แมน่ ำ้ โขง ของโรงแรม “เดอะริเวอรไ์ ซต์” สไตล์ปิ้ง ยา่ ง ต้ม และอกี หลายเมนใู หเ้ ลือก วันทสี่ ่ี จนั ทร์ท่ี 20 กุมภาพันธ์ 2566 - รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมและเดินทาง กลับ กทม. โดยสวัสดิภาพ (สายการบินแอร์ เอเชยี เวลา 10.25 น.)



หนา้ คั่นวนั ท่ี 1 วันแรก 17 ก.พ. 66

สจาู่นกมคหารนคพร...นม… .....เช้าวันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 นักท่องเที่ยวจากกรุงเทพฯ พร้อมกันท่ี สนามบินดอนเมือง เดินทางมุ่งสู่นครพนม เมืองแห่งความสุขของประเทศไทย โดยสาย การบินแอร์เอเชีย ถึงสนามบินประมาณ 10.00 น. BKK to Nakhon Phanom

น@คพรพรนะมย..า.ศรีสตั ตนาคราช… ....จุดแรกที่ไปคือ การสัมผัสบรรยากาศบริเวณ พญาศรีสัตตนาคราช แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของ นครพนม พญาศรีสัตตนาคราช รูปลักษณะเป็น องค์พญานาค 7 เศียร ประทับพักอิริยาบทสงบ นิ่งขดลำตัว 3 ชั้น บ่งบอกถึงความสงบสุขของ จังหวัดนครพนมที่พญานาคเลือกเป็นที่ประทับ สร้างด้วยทองเหลืองทั้งองค์ มีขนาดกว้าง 4.49 เมตร สูง 10.90 เมตร น้ำหนักรวม 9 ตัน ประดิษฐานอยู่บนแท่นรวมความสูง 16.29 เมตร ถือว่าเป็นพญานาคองค์เดียวในโลกที่ไม่ เหมือนใคร เพราะที่พระศอมีสร้อยสังวาลย์ที่ นำเอาสัญลักษณ์เหนือซุ้มประตูองค์พระธาตุ พนมมาสวมคล้องไว้ ซึ่งนักท่องเที่ยวของเราได้ สักการะขอพรเพื่อเป็นศิริมงคลก่อนเดินทางไป สถานท่ีท่องเทยี่ วอน่ื ๆ ในลำดบั ตอ่ ไป



น@คพรพรนะมธาตพุ นม… นมัสการพระธาตุพนม พระธาตุพนม ศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์แห่งอีสาน พระบรมธาตุ ที่แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองทางพุทธศาสนาของ นครพนมมาแต่ โบราณกาล สร้างขึ้นเมื่อต้น พุทธกาลประมาณ พ.ศ.8 ในสมัยอาณาจักรศรี โคตรบูรเจริญรุ่งเรือง ประดิษฐานอยู่บนภูกำพร้า ตง้ั ตระหงา่ น อยรู่ มิ ฝ่งั โขง เป็นสถานที่ครั้งหนึ่งพุทธองค์เคยเสด็จมาโปรด สัตว์น้อยโหญ่ ตามตํานานอุรังคธาตุกล่าวถึง พระมหากัสสปะและพระอรหันต์ 500 องค์ ได้ นาํ พระอรุ งั คธาตุ (กระดกู สว่ นหน้าอก) ของพระ สัมมาสัมพุทธเจ้ามาจากชมพูทวีปและทา้ วพญา ผู้ครองนครทั้ง 5 เป็นประธาน ในการสร้างท่ี ประดิษฐานพระอุรังคธาตุ อันเป็นที่ตั้งของพระ ธาตุพนมในปจั จุบัน

ต่อจากนั้นเราก็เดินทางไปรับประทานอาหารเที่ยงที่ร้าน แหนมเนืองดาวทอง ต้นตำหรับอาหารเวียดนามขึ้นชื่อและ หนึ่งเดียวของอำเภอพระธาตุพนม หลังอิ่มบุญจากการ ทำบุญถวายเป็นพุทธบูชา อีกแห่งท่ีเราไม่พลาด “ร้านดาว ทอง” ต้นตำหรับสารพัดเมนูเวียดนาม หนึ่งเดียวของ นครพนม ตงั้ อยู่เลขท่ี 388 ถนนพนมพนารักษ์ วงเวยี นประตู โขงหน้าวัดพระธาตุพนม โดยเปิดมานาน นับ 10 ปี เน้นเมนู เวยี ดนามที่เปน็ ต้นตำหรับแท้ อาหารอรอ่ ยมาก ๆ

หลังจากนมัสการพระธาตุพนม นักท่องเที่ยวเดินทาง มุ่งหน้าไปอีก 24 กิโลเมตร เพื่อชมธรรมชาติสองฝ่ัง โขง ที่แก่งกะเบา จังหวัดมุกดาหาร และนมัสการ “องค์พญาศรีภุชงค์มุกดานาคราช” พญานาคองค์ ใหญ่สีขาวงดงาม และลานนักษัตร 12 ราศี รวมทั้ง ลานวัฒนธรรม 8 ชนเผ่า แก่งกะเบาอยู่ตรงข้ามกับ เมืองไชยบุรี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เป็นแก่งหินและโขดหินยาวตามลำน้ำโขง สายน้ำโขง ที่ไหลมาจะกระทบกบั แก่งหินมีการกัดเซาะทำใหเ้ กิด รูปร่างที่สวยงาม ในบางที่จะมีลักษณะเหมือนกับ หลุมลึกบางที่ก็จะเป็นลักษณะเหมือนถ้ำใต้น้ำ บาง ช่วงบนฝั่งมีลานหินกว้างใหญ่เป็นที่พักผ่อนได้อย่างดี โดยช่วงที่ไปเป็นฤดูน้ำลดจนมองเห็นเกาะแก่งกลาง น้ำและหาดทรายสวย

ตอนบ่ายเดินทางกลับนครพนม ช ม อ น ุ ส ร ณ ์ ส ถ า น “ ล ุ ง โ ฮ จ ิ ม ิ น ห์ ” ผู้ประกาศอิสรภาพของเวียดนาม ซึ่งอยู่ใน พื้นทจ่ี งั หวดั นครพนม ในชว่ งปี พ. ศ 2466 - 2474 อนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์ ตั้งอยู่ที่บ้านนาจอก ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม ภายในมีอาคารพิพิธภัณฑ์ มี อาคารจำลองบา้ นเก่าของทา่ นโฮจมิ นิ ส์ จัด แสดงข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านแบบ เดียวกับยุคที่ประธานโฮจิมินห์ได้มาอาศัย อยู่ที่นี้ในช่วงสงครามเวียดนามให้ได้ชมกัน โดยการเยี่ยมชมครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่ของ อนุสรณ์สถาน บรรยายสรุปประวัติความ เป็นมาอย่างละเอียดและนักท่องเที่ยวได้ รว่ มถา่ ยภาพไว้เป็นที่ระลกึ ....

หลังจากนั้นนักท่องเที่ยวเข้าที่พัก โรงแรมเดอะริเวอร์ นครพนม โรงแรม ที่ผู้เข้าพักทุกห้องสามารถมองเห็นวิว แม่น้ำโขงและทัศนียภาพที่สวยงาม (ววิ ภูเขาหนิ ปนู ) จาก สปป.ลาว

ถนนคนเดิน เป็นสถานที่สุดท้ายของ วันแรก นักท่องเที่ยวเดินชม บรรยากาศตั้งแต่หอนาฬิกาเวียดนาม อนุสรณ์ แวะถ่ายภาพเป็นที่ระลึกตาม จุดตา่ งๆ กอ่ นรบั ประทานอาหารเย็นที่ ร้านระเบียงโขง อากาศเย็นสบาย แต่ มีลมแรง

วนั สอง 18 ก.พ. 66

สจาู่สกนปครปพน.ม.ล.. าว… ….วันที่สองหลังจากที่ทุกคนได้พักผ่อน เอาแรงแล้ว เช้าวนั ใหม่ก็ได้ล้ิมรสอาหาร เช้าที่ห้องอาหารริเวอร์บาร์ของโรงแรม เ พ ื ่ อ พ ิ ส ู จ น ์ ค ำ โ ฆ ษ ณ า ท ี ่ ส ่ ง ใ ห ้ ที ม นักท่องเที่ยวล่วงหน้า อาหารมีหลาย เมนใู ห้เลือก เชน่ ไขก่ ระทะ ก๋วยจั๊บญวน ข้าวต้มหมู ขนมปังญวน รวมทั้งอาหาร อืน่ ๆใหเ้ ลือกมากมาย เมื่อถึงเวลาประมาณ 9.00 น. ทุกคน พร้อมออกเดินทางไปตา่ งประเทศ : สปป.ลาว แขวงคำม่วนเพอ่ื ท่องเทีย่ วตามโปรแกรม โดย ครูวุธช่วยประสานการทำเรื่องการเดินทาง ข้ามประเทศ ทั้งฝั่งไทย-สปป.ลาว ชม ทัศนียภาพสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งท่ี 3 ท่สี วยงามและมคี วามยาวรวม 780 เมตร สะพานนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (พระอิสริยยศ ในขณะ นั้น) เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธาน ในพิธีวางศิลาฤกษ์เมื่อวันศุกร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2552 และเสด็จทรงเป็นประธานพิธี เปิดอย่างเป็นทางการ ร่วมกับสหายบุนยัง วอละจิด รองประธานประเทศสาธารณรัฐ ประชาธิปไตยประชาชนลาว ในวันที่ 11 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2554

จสาู่สกนปครปพน.ม.ล.. าว… จุดท่องเที่ยวแรกของเรา คือ “ถ้ำ นางแอ่น” ที่มองภายนอกดูธรรมดา แต่ภายในถ้ำสวยงามมาก จากภาพท่ี ช่วยกันถ่ายสวยงามอย่างที่เห็น ด้วย ความสูงและลึก บางท่านได้เข้าไป สัมผัสบรรยากาศ และบางท่านเข้าไป ถงึ ครงึ่ ทางก็ถอยกลับมารอที่ปากถ้ำ

ถ้ำนางแอ่น เป็นถ้ำที่สมเด็จพระเทพฯเคย เสด็จมาทอดพระเนตรแล้ว ภายในถ้ำ สภาพปรอดโปร่ง อากาศเย็นสบาย สามารถเดินทะลุไปยังอีกฝากหนึ่งของถ้ำ ได้ แทบไม่ร้อนหรืออับชื้นเลย ในถ้ำ ประดับประดาไปด้วยหลอดไฟสีต่างๆทำ ให้ดูหลอนบ้างคลังบ้าง ตาลายบ้างหรือ อาจจะสวยงามแปลกตาไปตามอารมณ์ มี บนั ไดสำหรับไว้เดนิ เทยี่ วเพื่อความสะดวก แก่การเดินชม มีธารน้ำผ่านอยู่ในถ้ำหาก ไม่อยากเดินชมก็สามารถนั่งเรือชมได้ นอกจากนั้นมีหินที่เกิดจากน้ำหยดสะสม กันมานานจะมีรูปร่างคล้ายศิวลึงค์มีการ พันผ้าขาวม้าพร้อมผ้า3สีมีชื่อเรียกว่า “อ้ายเซียงเลียบ” ถ้าลึกเข้าไปอีกจะเจอ หินคล้ายของลับของสาวๆ อันเนื่องมาจาก ความอศั จรรยเ์ ล็ก ๆ ของธรรมชาติ



ท่าฝรงั่ วังสคี ราม ....จุดที่สอง เป็นแพริมน้ำ “ท่าฝรั่ง วังสีคราม” เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน แหล่ง ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีน้ำเขียวมรกตจากลำห้วยนำโดนไหลลงสูงสู่แม่น้ำโขง ล้อมรอบด้วยภูเขาหินปูนทำให้มีวิวธรรมชาติที่สวยงาม น้ำในแม่น้ำเป็นสีครามสวยมาก เมื่อพวกเราจับจองที่นัง่ ในแพริมน้ำหรือภาษาลาวเรียนว่า “ตูบ” เป็นที่เรียบร้อย โดยได้ ตูบเลขที่ 32-33 อยู่เกือบสุดท้ายของแพ อาจเป็นเพราะเป็นวันหยุด นักท่องเที่ยวมาก เปน็ พเิ ศษ เม่ือถงึ ตอนส่งั อาหาร มนี ้อง ๆ มารบั order ไดแ้ ก่ ไก่ยา่ ง ปลาเผา สม้ ตำไทย (คงคิดถึงประเทศไทย 555) ขา้ วเหนยี ว และน้ำเปลา่ +นำ้ แข็ง อยา่ งละ 2 ท่ี (ตามจำนวน ตูบ)...

เมื่อเวลาผ่านไปเกือบ1ชั่วโมง อาหารยังไม่ มา แต่พวกเราก็รอจนได้น้ำเปล่าและ น้ำแข็งในถุงพลาสติกก่อน เวลาต่อมา อาหารชุดแรกก็เดินทางมาถึงตูบเรา เป็น ไก่ย่างและข้าวเหนียวพร้อมแจ่ว ทำให้ทุก คนได้รับประทานรอปลาเผาและส้มตำ แต่ เมื่อเวลาผ่านไปกว่า 30 นาที อาหารยังไม่ มวี แ่ี วววา่ จะมา มกี ารลนุ้ อยา่ งสนุกเมื่อเห็น น้องลงมาจากบนฝั่งว่าจะเลย้ี วขวา หรือซ้าย (ตูบเราอยู่ด้านซ้าย) ในที่สุดก็ได้คำตอบว่าอาหาร หมดแล้ว เลยให้เช็คบิลค่าอาหารตามรายการ ซึ่งมีมูลค่าสูง ถึง 358,000 กีบ (เงินลาว) ดูแล้วตกใจ แต่เมื่อคิดเป็นเงิน ไทยเท่ากับ 746 บาท ก็ไม่แพงเกินไปสำหรับบรรยากาศท่า ฝรง่ั วงั สคี ราม ซ่ึงจะอยู่ในความทรงจำของพวกเราตลอดไป

....จุดทสี่ าม นมัสการ “พระธาตสุ ีโคดตะบอง” เจดีย์ทองคำสูง 29 เมตรแห่งนี้เป็นหนึ่งใน สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในลาว. สร้างขึ้นครั้งแรก เพื่อรักษาพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจา้ ในศตวรรษที่ 6. หลังจากศตวรรษที่ 7 เมอ่ื พนื้ ที่ ถูกหลอมรวมเข้ากับอาณาจักรเขมรเจดีย์ นั้น ได้รับการปรับปรุงใหม่ในสไตล์ฮินดู. เม่ือ อาณาจักรล้านชา้ งฟ้ืน การควบคมุ พ้นื ทกี่ ษตั ริย์ โพธิสัตว์ (1520-1547) ได้เพิ่มยอดบัวดอกตูม เข้ากับโครงสร้าง ต่อมาสมเด็จพระไชยเชษฐาธิ ราช เสด็จพระราชดำเนินทรงบูรณะเจดีย์ใน รูปแบบปัจจุบันซึ่งยังคงไม่เปลี่ยนแปลง นับตั้งแต่ในช่วงทศวรรษที่ 1950 มีการสร้างส่งิ อำนวยความสะดวกรอบ ๆ เจดียห์ ลายแหง่ …

หลังนมัสการพระธาตุสีโคดตะบองแล้ว เดินทางกลับโดยลัดเลาะชมทิวทัศน์ริม โขง มองเห็นเมืองนครพนมในฝั่งตรง ข้ามและแวะ shopping ที่ duty-free ก่อนขา้ มสะพานกลับท่ีพกั โรงแรมเดอะริ เวอร์ พักผ่อนตามอัธยาศัย ก่อนไป ล่องเรือแมโ่ ขงพาราไดซ์ครูซในตอนคำ่

ลช่อมงเรทอื กวิ ินลทม.ศั.. น์… ....ได้เวลาล่องเรือสำราญ “แม่โขงพารา ไดซ์ครูซ” โดยเรือออกจากท่าเวลา 17.45 น. ใช้เวลาบนเรือ 2 ชั่วโมง รับประทานอาหารเย็น และสัมผัส บรรยากาศยามค่ำสองฝั่งโขง บนเรือมี อาหารและเครื่องดื่มพร้อมเสิฟ มีดนตรี และนักร้องขับกล่อมนักท่องเที่ยวกว่า 100 คน เราได้ที่นั่งระดับ VIP อยู่ใน ตำแหน่งบนสุดของเรือ มองเห็นทิวทัศน์ สองฝั่งโขงชัดเจน โดยเฉพาะฝั่งไทย (นครพนม) มองเห็นแสงสีบริเวณถนน คนเดิน พญาศรีสัตตนาคราชที่กำลังพ่น น้ำ และดวงดาวบนโบสต์คริสต์ที่เปล่ง ประกายระยบิ ระยับ

ส่วนฝั่งลาวดูเงียบสงบ มีแสงสีบ้างเล็กน้อย บรรยากาศบนเรือพวกเราสนุกและสำราญ มาก (ตามช่ือเรอื ) มอื้ นี้มีความพิเศษท่หี วั หน้า ทัวร์ (อ.สมบูรณ์วัลย์) ใจดีอนุญาตให้สั่งเบียร์ ได้ ถูกใจคอเบียร์มาก พอเบียร์ออกฤทธิ์ ได้ เห็นลีลาการเต้นอย่างสนุกของคุณหนึ่ง สมชาย (เป็นหมอดูด้วย) และเล่าเรื่องสนุกๆ รวมถึงงัดภาพอดีตสมัยหนุ่มสาว (อ.อุ๋ยพา ชติ ชนัตและคุณลุงสุรนิ ทร)์ ทท่ี งั้ หล่อและสวย ออกมาโชว์กัน แต่เราก็ไม่ลืมให้ทิปนักร้อง และนอ้ ง ๆ ทีบ่ รกิ ารและดูแลพวกเรา เมื่อเรือกลับถึงฝั่งแล้ว เข้า ทพ่ี กั โรงแรม พกั ผ่อนอยา่ ง มีความสุข เตรียมพร้อมท่ี จะออกเดินทางท่องเที่ยว ในวันสุดท้ายที่สกลนคร ต่อไป

วนั สาม-ส่ี 19-20 ก.พ. 66

สจาู่สกนกครลพนนม.ค.. ร… ....หลังรับประทานอาหารเช้าที่อร่อยแล้วพวกเราเดินทาง ไปท่องเท่ยี วท่สี กลนคร จุดแรกทไี่ ป คือ วดั ถำ้ ผาแด่น โดย ที่แห่งนีม้ ีหลายสิ่งหลายอย่างทีส่ วยงาม น่าสนใจ และเป็น แลนด์มารค์ ด้านการท่องเทย่ี วของจังหวดั สกลนครก็ว่าได้

เยอื นวัดถำ้ ผาแด่น ...วัดถ้ำผาแด่น ตั้งอยู่ระหว่างเทือกเขา ภพู านและภผู ายล ในตำบลดงมะไฟ อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร เป็นวัดเก่าแก่มีอายุกว่า 100 ปี เชื่อกันว่าในอดีตนั้นเป็นสถานที่ที่หลวงปู่มั่น ภู ร ิ ท ั ต โ ต แ ล ะ ค ณ ะ ค ร ู บ า อ า จ า ร ย ์ ส า ย ว ั ด ป่ า กรรมฐาน เคยธุดงค์มาปักกลด บำเพ็ญเพียร เมื่อปี พ.ศ. 2483 วัดนี้ตั้งอยู่บนภูเขาสูง อยู่ ท่ามกลางธรรมชาติ ทำให้สามารถชมทิวทัศน์ รอบ ๆ ทม่ี องเหน็ ตวั เมอื งสกลนครและทะเลสาบ หนองหารได้แบบ 180 องศา…

ส่วนไฮไลท์ของวัดถ้ำผาแด่น เช่น งาน ประติมากรรมแกะสลักหินทรายขนาดใหญ่ ที่แกะสลักเป็นเรื่องราวต่าง ๆ เป็นภาพ แกะสลักหินทรายพระพุทธสีหไสยาสน์ และ องค์พญานาคปรกขนาดใหญ่ ที่มีรูปปั้นองค์ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประดิษฐานอยู่ใต้เศียร พญานาค เป็นจุดถ่ายรูปที่พวกเราไม่พลาด นอกจากนี้ยังมีไม้ประดับและไม้ดอก ที่สวยงามและร่มรื่นอยู่ตามจุดต่าง ๆ ของ วัด

เราใช้เวลาอยู่วัดนี้มากกว่าที่กำหนด ทำให้เปลี่ยนกำหนดการไปวัดที่สอง (ทำตามหมายเหตุของกำหนดการที่ระบุว่า กำหนดการอาจเปลี่ยนแปลง ตามความเหมาะสม) โดยมุ่งหน้าไปร้านสเต็กสหกรณ์โพนยางคำ ที่ผลิต เนื้อโคขุนที่เลื่องชื่อระดับประเทศ พร้อมอาหารหลากหลายรสชาติ ท่ามกลางบรรยากาศแบบคาวบอย ที่อยู่ห่างจากวัดประมาณ 25 กิโลเมตร เพื่อรับประทานอาหารกลางวัน เมื่อถึงร้านต่างก็สั่งอาหารจาน โปรด เช่น ทีโบนสเต็กเนื้อ มีโปรโมชั่น สั่ง 3 แถม 1 ส่วนสเต็กหมูราคา ปกติ ขอบคุณ อ.อุ๋ยพาชิตชนัตและคุณลุงสุรินทร์ ที่ซื้อผลไม้และข้าวโพด บริการพวกเราเปน็ ออเดิฟทงั้ บนรถต้แู ละระหว่างรออาหารทรี่ ้าน

หลังอาหารกลางวันพวกเรามุ่งหน้าไป นมัสการพระธาตุเชิงชุม โดยวัดพระธาตุ เชงิ ชุม ตั้งอยถู่ นนเจรญิ เมือง อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร ในวัดพระธาตุเชิงชุม วรวิหาร สร้างขึ้นเมื่อใดไม่ปรากฏ หลักฐานชัด เป็นปูชนียสถานสำคัญ คู่บ้านคู่เมืองสกลนครมาแต่โบราณ ยอด ฉัตรเหนือองค์พระธาตุทำด้วยทองคำ บริสุทธิ์ ภายในมีรอยพระพุทธบาท 4 พระองค์ นับเป็นดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ ดัง คำกล่าวที่ว่า “จะมีครั้งไหนที่ได้อานิสงส์ มากไปกว่าการไดม้ าบชู า พระธาตทุ ส่ี รา้ ง ครอบรอยพระบาทแห่งพระพทุ ธเจา้ ถงึ 4 พระองค์” เชื่อกันว่าอานิสงส์ในการ นมัสการพระธาตุเชิงชุมจะก่อให้เกิด ความ เป็นสิริมงคลสูงสุดแก่ตนเองและ ครอบครัวให้มีความเจริญรุ่งเรือง แคล้ว คลาดปราศจากอันตราย… รวมไปถึงการนมัสการหลวงพ่อพระองค์แสน ที่ประดิษฐานภายในวิหารใกล้ พระธาตเุ ชงิ ชุม ที่เชื่อกันว่าให้พรในด้านโชคลาภ ให้มีเงินทองนับหม่นื นับแสน มคี วามมงั่ มศี รสี ุขในชีวติ

....หลังนมัสการพระธาตุเชิงชุม พ ว ก เ ร า เ ด ิ น ช อ ป ป ิ ้ ง ส ิ น ค้ า พื้นเมืองระดับ OTOP ถนนฟ้า คราม ย่านเมืองเก่า ซึ่งได้พบ กับสินค้าและผลิตภัณ ฑ์ หลากหลายจากผ้าย้อมคราม ของชาวบ้าน ที่ทั้งสวยและมี เอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร...

จวนผ้วู ่า..นครพนม หลงั จากน้นั เดินทางกลับนครพนม แวะ ชมพิพิธภัณฑ์จวนผู้ว่าราชการจังหวัด นครพนม (หลังเก่า) ที่สร้างข้ึน ประมาณปี พ.ศ. 2457 โดยพระยา พนมนครานุรักษ์ (อุ้ย นาครทรรพ) ซึ่ง เป็นพื้นที่ส่วนตัว โดยว่าจ้างให้นาย กูบาเจริญ เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง ปี พ.ศ. 2468 พระยาพนมนครานุรักษ์ (อุ้ย นาครทรรพ) ได้ขึ้นดำรงตำแหน่ง สมุหเทศาภิบาล จึงขายจวนหลังนี้ให้ กระทรวงมหาดไทยใช้เป็นจวนผู้ว่า ราชการจังหวัดนครพนม

....เมอ่ื วนั ท่ี 12-13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2498 พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดุลย เดช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระราชินีได้เสด็จฯ เยี่ยมราษฎรจังหวัดนครพนม และ ประทบั แรมท่ีจวนผวู้ า่ ราชการจังหวัดนครพนม ปี พ.ศ. 2527 อาคารถูกปดิ ตาย เน่ืองจาก ความเก่าและทรุดโทรม จนกระทั่ง ปี พ.ศ. 2548 อาคารถูกยกเป็นโบราณสถานของกรม ศลิ ปากร และบรู ณะในปี 2549 และจดั ต้ังเปน็ พพิ ิธภัณฑใ์ นทีส่ ุด...

ชมโบสถ์ครสิ ต์.. ....จุดสุดท้ายของโปรแกรมท่องเที่ยว คือ โบสถ์คริสต์ (วัดนักบุญอันนา) โบสถ์คริสต์แห่งนี้สร้างมาตั้งแต่ พ.ศ. 2469 และถือว่าเป็นโบสถ์คริสต์ที่มี ความเก่าแก่สวยงามมากแห่งหนึ่งของ เมืองไทย จุดโดดเด่นที่มองเห็นและ ส ะ ด ุ ด ต า ม า แ ต ่ ไ ก ล ก ็ ค ง ห น ี ไ ม ่ พ้ น หอคอยคู่สูงสง่าด้านบนของโบสถ์ส่วน หน้านั่นเอง โบสถ์แห่งนี้เป็นอาคารท่ี สร้างขึ้นมาใหม่ภายหลังจากโบสถ์เดิม ที่อยู่ด้านข้างโดนระเบิดเสียหายไปใน สมัยสงครามอินโดจีน จึงมีการร่วมใจ กันสร้างโบสถ์ใหม่แห่งนี้ขึ้นมาเพื่อเป็น ศูนย์รวมใจและสัญลักษณ์ของการอยู่ ร่วมกันระหว่างคนหลายเชื้อชาติไม่ว่า จะไทย ญวน เวยี ดนาม ลาว หรอื จีน

....พอถึงเวลาตามนัด 18.30 น. ทุกคนพร้อม กันที่ร้านอาหาร ชื่อ ริเวอร์ไซต์ ตามช่ือ โรงแรมเพราะเป็นร้านอาหารของโรงแรม ตั้งอยู่ด้านหลังของโรงแรม ก่อนรายการ หัวหน้าทัวร์ (อ.สมบูรณ์วัลย์) ได้มอบของท่ี ระลึกเพื่อขอบใจผู้ประสานงานการ ทอ่ งเทย่ี วทรปิ น้ี คือ อ.วทิ ยา และ อ.สนิ ธะวา สองหนมุ่ นอ้ ย-ใหญ่ จาก มมส มาถงึ ชว่ งสัง่ อาหารจากโปรด เมนูหลัก คือ ตำถ่วั ฝักยาว-หมกู รอบ รวมทงั้ รายการอาหาร อื่น ๆ ด้วย โดยเฉพาะอาหารจานโปรด คือ ผัดผักหวาน (ที่ยังรักษาสภาพเดิม มี กิง่ ก้านสาขาอยู่ครบ) จาก สปป.ลาว อภินันทนาการจากคุณหนึ่งสมชายที่มีวิสัยทัศน์ ทำให้คิดถึงอาหารในแพหรือตูบที่ท่าฝรั่ง สปป.ลาว ด้วยบรรยากาศดี ๆ ของรา้ นอาหารริมโขง รเิ วอรไ์ ซต์ ทุกคนสนุกสนาม สบาย ๆ และผ่อนคลาย หลังการ เดินทางท่องเที่ยวมา 2-3 วันติดต่อกันด้วยโปรแกรม ที่อัดแน่น และได้ฟังเรื่องเล่าสนุก ๆ และตื่นเต้น (เร้าใจ) จาก อ.อุ๋ยพาชิตชนัต (ในชุดเสื้อสีแดง ตรงกับวันอาทิตย์) ผู้ร่วมชะตากรรมกับผู้โดยสาร สายการบิน (ขออภัยจำไม่ได้) ตอนเดินทางไปเนปาล และเรื่องอื่น ๆ มากมาย เมื่อถึงเวลาทุกคนเดิน เข้าที่พกั โรงแรมโดยไม่ต้องอาศยั รถต้คู รวู ุธ

สจาู่กกนรครุงพเนทม..พ. ฯ… เช้าวันที่ 4 : วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 ท ุ ก ค น พ ร ้ อ ม อ อ ก เ ด ิ น ท า ง ก ลั บ กรุงเทพมหานคร และมหาสารคาม และก่อน เดินทางได้รับประทานอาหารเช้าที่ริเวอร์บาร์ ของโรงแรม อย่างอร่อย เช่นทุกวัน อ.วิศรุต (ตื่นเช้าทุกวันและเป็นคนแรกที่ได้ทานก๋วยจ๊ับ ญวนของร้านครงั้ ละ 3 ชาม) เผยว่า “อยากให้มี อาหารแบบนี้ที่กรุงเทพจังเลย” ท่านอื่น ๆ ก็คง ชื่นชอบอาหารเชา้ ทน่ี ี่เช่นกนั รถตู้ครูวุธไปส่งพวกเราที่สนามบิน นครพนม ก่อนเวลาบิน 10.25 น. ถึงกรุงเทพฯ และมหาสารคาม โดยสวสั ดิภาพ…

เทีย่ วทอ่ ง ล่องแมโ่ ขง

....นริ าศจรนครพนมยามลมหนาว เก้าหนุ่มสาว สว ทัง้ หล่อสวย พอชวนปบ๊ั รบั ถอ้ ยพลอยเอออวย สมัครใจไปด้วยช่วยเชียรก์ นั วันศกุ ร์เรารวมพลคนสนทิ มงุ่ สูท่ ศิ อสิ านกาลสุขสนั ต์ หัวเรอื ใหญ่ใครช่ มสมบรู ณ์วัลย์ ชว่ ยเสกสรรปั้นทรปิ นีด้ ีจริงเจียว คนวางแผนแสนดีครั้งน้ีหนา ท่านอาจารย์สินธะวาหาที่เทย่ี ว กบั มิง่ มติ รวิทยานา่ รักเชียว ไดเ้ ก็บเกยี่ วท่ีเทีย่ วชมเหมาะสมดี… อ๋ยุ กบั ลุงมงุ่ หมายมาคลายเครียด หลงั โควิดชิดเฉียดเร่ิมเบยี ดหนี วศิ รตุ บรุ ษุ เงยี บเฉยี บในที แต่กม็ ีวจีคมพอสมตัว หรีดคนงามตามด้วยหนึ่งซง่ึ หล่อเหลา คอยหยอกเย้าเคล้าปว่ นแบบชวนหัว พรอ้ มลกู หวา้ พาใหไ้ ลก์รวั รวั เป็นครอบครัวสขุ สนั ต์ครบครันเอย...

....ถึงจดุ หมายปลายทางอย่างเรยี บหรู มีรถตขู้ องครวู ุธรุดมารบั รถสะอาดเอ่ยี มอ่องผ่องแวววับ ฝมี ือขบั นับวา่ ดมี นี ำ้ ใจ เข้าตวั เมอื งเลอ่ื งชอื่ คือแลนด์มาร์ค พญาศรีสตั ตนาคราชขนาดใหญ่ อยรู่ ิมโขงโจง่ แจ้งแสงแววไว ดเู กรียงไกรวิไลตาค่าควรโชว์ แมโ่ ขงน้ีมีตำนานเลา่ ขานว่า พญานาคนามสุทโธขี้โมโห สรา้ งแม่นำ้ คดเคีย้ วเลีย้ วใหญโ่ ต ให้ไปโผลผ่ นื ทะเลเฮก่อนใคร ชนะพญาสุวรรณนาคฝากรอยแคน้ ตรงดินแดนสุวรรณภูมิปูมกล่าวไว้ เกดิ “แมน่ ้ำโค้ง” คดปรากฏไกล แล้วเพี้ยนไปกลายเป็น “โขง” ตรงน้แี ล ไทยเชือ่ วา่ พญานาคฝังรากอยู่ ยงั สงิ สู่คโู่ ขงโยงกระแส เฝ้าพทิ กั ษ์รกั ษไ์ วไ้ มป่ รวนแปร มอบดวงแดแห่เคารพนบบูชา....

....ถึงเวลาอาหารญวนด่วนไวว่อง รา้ นดาวทองจองไวถ้ ูกใจหนา เด่นดงั ดีมชี อื่ เลือ่ งลอื ชา สมราคาอรอ่ ยรสหมดทุกจาน อิ่มแล้วไปไหวพ้ ระธาตุพนมน้อม ถอื พยอมพร้อมตัง้ จติ อธษิ ฐาน ประทักษิณสามรอบกรอบธรรมการ ใจเบกิ บานสราญสุขกันทุกคน อนจิ จาว่าไว้ “ไมเ่ ทีย่ งแท้” เห็นจริงแนแ่ ม้เจดียย์ ังมผี ล เคยเสียหายทลายลงไม่คงทน กลับสร้างใหมไ่ ด้ทกุ หนจนสวยงาม มีเรื่องเล่าลาว-ไทยร่วมใจสร้าง เจดียข์ ้างสองฝ่งั โขงโยงเขตขาม ชา่ งสาวไทยไตแ่ ต้มแย้มอกงาม อะรา้ อร่ามเลา่ ลือระบือไกล หนุม่ ลาวไทยใครย่ ลขนมาชว่ ย สรา้ งเสร็จไวไดด้ ้วยชว่ ยกนั ใหญ่ เพอื่ “ปะนม” ชมชน่ื รนื่ หัวใจ เน่ินนานไปพูดพลาดเปน็ “ธาตพุ นม”

....แกง่ กะเบาเบาใจไดแ้ งค่ ดิ ช่วงชีวติ ติดขดั ไดไ้ มข่ ืน่ ขม เหมือนสายธารผา่ นแก่งแหลง่ นยิ ม ดูน่าชมร่มร่นื ชมุ่ ช่ืนใจ พญาศรภี ุชงคฯ์ องคน์ าคราช ผวิ ผดุ ผาดผงาดกร้าวสกาวใส สญั ลกั ษณ์พทิ ักษ์แกง่ แจ้งความใน มีโชคชัยเมือ่ ไดล้ อดตลอดตัว… ถงึ สถาน “บ้านลงุ โฮ” โชวใ์ ห้รู้ ลุงกอบก้สู ้ตู ายถวายหวั เพื่อเอกราชชาตเิ วยี ดนามไมค่ ร้ามกลัว ชวั่ ชีวติ อทุ ศิ ตนชนเชดิ ชู ไทยควรรดู้ ชู วี ติ แลว้ คดิ บา้ ง เสยี สละละวางทางอดสู อย่าขายชาตขิ ายสมบตั ใิ หศ้ ัตรู รกั ษาไทยใหอ้ ยู่คโู่ ลกา มฉิ ะน้นั มนั จะใหไ้ ทยเป็นทาส ศักดิศ์ รชี าตขิ าดวิ่นหมดสน้ิ หนา ใครจะกอบกู้ไทยไดอ้ ีกครา จะหมายมาดชาตหิ น้าอยา่ หวังเอย... พาชติ ชนตั ศริ พิ านิช พาชติ ชนตั ศริ ิพานชิ

ฤาเพราะฟา้ กำหนดให้ พบกนั ครอบครัวต่างสุขสนั ต์ พรัง่ พรอ้ ม นครพนมดัง่ ความฝนั ยง่ิ ใหญ่ ประนมหตั ถ์ศริ ะนอ้ ม กลา่ วถ้อยขอบพระคุณ (ครอบครัวเผอื กผ่อง) หนึง่ &หรดี &หวา้ 21/2/66 ***เสน่ห์โขง*** พระพายพัด ณ ขอบโค้ง รมิ โขง ชา่ งชูช่นื จติ จรรโลง เจดิ จ้า สองฝั่งต่างเชือ่ มโยง น้องพ่ี มติ รภาพทั่วแหล่งหล้า จรดฟ้านริ นั ดร์กาล ———-&———- -1-

พราะฟา้ กำหนดไว้ ใชแ่ ล้ว เราจึ่งพบเพอื่ นแก้ว พวกพอ้ ง ถูกจริตคดิ ตรงแนว ทางร่วม กนั เฮย ชวนเทย่ี วต่อไปตอ้ ง รบั ถอ้ ยไปกัน พาชติ ชนัต & สุรินทร์ 21 กมุ ภาพนั ธ์ 2566

***แด่ โฮจมิ ินห์ (ลงุ โฮ)*** ปลดแอกแหวกว่ายนำ้ สุดชอกชำ้ หนีความตาย พง่ึ พงิ มติ รสหาย หวงั กอบกสู้ ทู้ รุ ชน ปลดแอกแหวกวา่ ยน้ำ หนตี าย หวงั พ่ึงพงิ มติ รสหาย ปกป้อง เสรภี าพดัง่ จดุ หมาย สูงสดุ วีรบุรษุ เกรกิ เกียรตกิ อ้ ง แซ่ซ้องโฮจิมนิ ห์ ———-&———- -1-

อลั บ้มั นกั ทอ่ งเท่ยี ว

สมบรู ณ์วลั ย์ สัตยารกั ษ์วทิ ย์

วศิ รตุ สุวรรณวเิ วก


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook