Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 2204 2005_content - 1

2204 2005_content - 1

Published by bjs2534, 2017-03-21 00:49:39

Description: 2204 2005_content - 1

Search

Read the Text Version

คอมพิวเตอรแ์ ละการบารงุ รักษา 5อ1.1 งงาอปรบกงบองงารบบบองพิวว ตองร าพิจนานกุ รพฉบับราชบัณฑอว ยสถาน ิ.ศ. 2525 หมายถึง เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ แบบอัตโนมัติทาหน้าท่เี ป็นเสมือนสมองกล ใชส้ าหรบั แกป้ ัหหาตา่ ง ๆ ทงั้ ท่ีง่ายและ ซบั ซ้อนโดยวธิ ที างคณิตศาสตร์ อาพอาศิั ทภาษางงั ากฤษ หมายถึง เคร่ืองคานวณ ทเ่ี ปน็ เครือ่ งไฟฟา้ หรือเครอ่ื งท่ีเปน็กลไกกส็ ามารถจัดเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ทั้งสน้ิ สรปุ องพิววตองร คือ อปุ กรณอ์ เิ ลก็ ทรอนิกส์ท่มี ีความสามารถประมวลผลแบบอัตโนมัติทาหนา้ ท่ีเหมือนสมองกลใชส้ าหรบั การแกป้ ัหหาต่างๆ ท้ังที่งา่ ย และซบั ซ้อน โดยวธิ ีทางคณติ ศาสตร์ซ่งึ ต้องอาศัยองคป์ ระกอบพืน้ ฐานของระบบคอมพวิ เตอร์ ประกอบด้วย 5 องค์ประกอบ ดังนี้ 1.1.1 ฮารดแวร (Hardware) หมายถงึ สิง่ ท่มี องเหน็ และจบั ต้องสัมผัสได้ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกบั คอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นตัวเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ (Case) เมนบอร์ด (Mainboard) และอุปกรณ์ตอ่ พ่วงรอบขา้ ง (Peripheral) ท่เี ก่ียวข้อง เช่น ฮาร์ดดสิ ก์ แป้นพิมพ์ เม้าส์ หนว่ ยประมวลผลกลาง จอภาพ เครือ่ งพมิ พ์ และอุปกรณ์อน่ื ๆ ฮาร์ดแวร์จะไม่สามารถทางานดว้ ยตัวเองเดี่ยว ๆ ได้จะต้องนามาต่อเชอ่ื มเพ่ือทางานร่วมกันเปน็ ระบบที่เรยี กวา่ \"ระบบคอมพวิ เตอร์ (ComputerSystem)\" ที่มีโครงสร้างของระบบจะทางานตามโปรแกรมหรอื ซอฟต์แวร์ท่ีเขียนขนึ้ ภาพท่ี 1.1 ฮารด์ แวร์คอมพิวเตอร์ (Computer hardware)ทมี่ า : http://https://sites.google.com/site/ahciploy [03/03/2558] หนว่ ยที่ 1 การทางานของระบบคอมพิวเตอร์

คอมพิวเตอรแ์ ละการบารงุ รกั ษา 6 1.1.2 ซงฟอแวร (Software) หมายถึง โปรแกรม (Program) หรือชดุ คาสง่ั ที่ควบคมุ ให้เคร่อื งคอมพิวเตอร์ทางานใหไ้ ด้ผลลัพธ์ตามทต่ี ้องการ ซึง่ คอมพวิ เตอร์ฮาร์ดแวรท์ ป่ี ระกอบออกมาจากโรงงานจะยังไม่สามารถทางานไดใ้ นทนั ที ตอ้ งมซี อฟต์แวร์ซ่งึ เปน็ โปรแกรมหรือชุดคาสง่ั ท่สี ่ังให้ฮารด์ แวรท์ างานตามต้องการได้ โดยโปรแกรมหรือชดุ คาส่ังนัน้ จะเขียนจากภาษาต่าง ๆ ที่มนษุ ย์สรา้ งขึ้น เรียกวา่ ภาษาคอมพิวเตอร์ (Programming Language) ภาษาใดภาษาหนงึ่ และมีโปรแกรมเมอร์ (Programmer) หรือนกั เขียนโปรแกรมเป็นผใู้ ชภ้ าษาคอมพวิ เตอรเ์ หลา่ น้นั เขียนซอฟตแ์ วรแ์ บบต่าง ๆ ขนึ้ มา ภาพท่ี 1.2 ซอฟต์แวรค์ อมพิวเตอร์ (Computer Software)ทมี่ า : http://mbbsoftware.wordpress.com [03/03/2558] ซงฟอแวร สาพารถแบง่ างงกตปน็ 2 ปรบตภทใหญ่ ๆ อืง 1.1.2.1 ซงฟอแวรรบบบ (System Software) เป็นซอฟตแ์ วรท์ ที่ าหน้าทจี่ ัดการและควบคุม ทรัพยากรตา่ ง ๆ ของคอมพวิ เตอร์ และอานวยความสะดวกด้านเครอื่ งมอืสาหรับการทางานพ้นื ฐานต่าง ๆ ตัง้ แต่ผู้ใช้เรมิ่ เปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ การทางานจะเป็นไปตามชุดคาสัง่ ที่เขียนข้ึน ตลอดจนควบคมุ การส่ือสารข้อมลู ในระบบเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ หนว่ ยที่ 1 การทางานของระบบคอมพิวเตอร์

คอมพิวเตอรแ์ ละการบารุงรักษา 7 ภาพที่ 1.3 ซอฟต์แวรร์ ะบบ (System Software)ทมี่ า : http://samsalinasaleh.wordpress.com [03/03/2558] 1.1.2.2 ซงฟอแวรปรบยุกอ (Application Software) หมายถึงซอฟต์แวร์ที่สรา้ งหรอื พฒั นาขึ้น เพ่อื ใช้งานด้านใดด้านหนงึ่ โดยเฉพาะตามที่ผ้ใู ชต้ อ้ งการ เชน่ งานดา้ นการจดั ทาเอกสาร การทาบัหชี การจดั เก็บข้อมลู ขา่ วสาร ตลอดจนงานดา้ นอืน่ ๆ ตามแต่ผูใ้ ช้ตอ้ งการ ภาพที่ 1.4 ซอฟตแ์ วรป์ ระยุกต์ (Application Software)ที่มา : http://mcnewton.org/web-apps.php [03/03/2558] หน่วยที่ 1 การทางานของระบบคอมพิวเตอร์

คอมพิวเตอร์และการบารงุ รักษา 8 1.1.3 บอุ ลากรทางาองพิววตองร (People ware) คือ เจ้าหนา้ ทปี่ ฏิบัติงานต่างๆ และผ้ใู ชเ้ คร่อื งคอมพวิ เตอร์ในหน่วยงานน้นั ๆ บุคลากรดา้ นคอมพิวเตอรน์ ้ัน มีความสาคัหมาก เพราะการใช้เคร่ืองคอมพวิ เตอร์ทางานต่างๆ นน้ั จะต้องมีการจัดเตรียมเปลย่ี นระบบ จัดเตรียมโปรแกรมดาเนนิ การต่างๆ หลายอย่าง ซึง่ ไมส่ ามารถทาด้วยตัวเองได้ ถา้ หากไม่ใชผ่ ู้ท่รี เู้ ร่ืองคอมพิวเตอร์มากนกัเราจึงถอื ว่าบุคลากร เปน็ สว่ นประกอบทีส่ าคัหของ ระบบคอมพวิ เตอรด์ ว้ ย ซ่ึงสามารถสรุปเป็นประเภทใหห่ ๆ ได้ดงั น้ี - เจา้ หน้าท่ีปฏบิ ัติการ (Operator) - บุคลากรท่เี กยี่ วข้องกับระบบ (System) - ผจู้ ัดการศูนย์ประมวลผลคอมพวิ เตอร์ (Electronic Data ProcessingManager) - ผู้ใช้คอมพวิ เตอร์ (Computer user) ภาพท่ี 1.5 บคุ คลากร (People ware)ท่ีมา : http://munkahelyiterror.blog.hu [03/03/2558] 1.1.4 อ้งพูล/สารสนตทศ (Data/Information) คอื ข้อมลู ตา่ งๆ ท่เี รานามาให้คอมพวิ เตอร์ทาการประมวลผลคานวณ หรือกระทาการอยา่ งใดอย่างหน่ึงใหไ้ ด้มาเป็นผลลัพธ์ทีเ่ ราตอ้ งการ ยกตวั อยา่ งเช่น ข้อมูลบคุ ลากรเกีย่ วกับรายละเอยี ดประวัติส่วนตวั ประวตั กิ ารศึกษาหรอืประวัตกิ ารทางาน ซ่ึงอาจนามาจาแนกเปน็ รายงานต่างๆ เกีย่ วกับบคุ ลากรในหน่วยงานได้ หรอื ขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตวั เลขมาตรๆ ไฟฟา้ ของบ้านแตล่ ะหลัง ก็ใช้สาหรบั คานวณเปน็ ปรมิ าณไฟฟ้า ที่ใช้ในแตล่ ะเดือน แลว้ คิดเป็นเงนิ ท่ีจะต้องชาระให้กบั การไฟฟ้าฯ หน่วยที่ 1 การทางานของระบบคอมพิวเตอร์

คอมพิวเตอร์และการบารุงรกั ษา 9 ภาพท่ี 1.6 ข้อมลู /สารสนเทศ (Data/Information)ท่ีมา : http://sagoondej142.blogspot.com [03/03/2558] 1.1.5 กรบบวนการทางาาน (Documentation/Procedure) เปน็ ขนั้ ตอนการทางานเพอ่ื ให้ได้ ผลลพั ธ์หรือข้อสนเทศจากคอมพิวเตอร์ ในการทางานกบั คอมพิวเตอร์จาเปน็ ที่จะตอ้ งให้ผู้ใช้เขา้ ใจข้ันตอนการทางาน ต้องมรี ะเบยี บปฏบิ ตั ิให้เป็นแบบเดียวกัน มกี ารจดั ทาคูม่ ือการใช้คอมพวิ เตอร์ใหท้ กุ คนเรียนรูแ้ ละใช้อ้างอิงได้นอกจากน้นั เม่ือการใชม้ าตรฐาน ชว่ ยให้การประสานงาน ระหวา่ งหน่วยงานยอ่ ยๆ ราบรืน่ การจดั ซ้ือจัดหา ตลอดจนการบารุงรกั ษาเคร่อื งคอมพวิ เตอร์ และซอฟต์แวร์ก็จะงา่ ยข้นึ เพราะทุกหน่วยงานใชม้ าตรฐานเดยี วกนั ภาพท่ี 1.7 กระบวนการทางาน (Documentation/Procedure)ทมี่ า : http://51011211104.blogspot.com [03/03/2558] หน่วยที่ 1 การทางานของระบบคอมพิวเตอร์

คอมพิวเตอร์และการบารุงรกั ษา 10อ1.2 วงาจรปรบพวลผลอ้งพลู แลบหลกั การทางาานองงาองพิวว ตองร วาพสามารถหลกั ของคอมพวิ เตอรก์ ็คอื การทางานไดโ้ ดยอัตโนมตั ิ การที่คอมพิวเตอร์ สามารถทางานได้อัตโนมัตินน้ั กเ็ พราะคอมพิวเตอรถ์ ูกส่ังการโดยโปรแกรม ซ่งึ ประกอบด้วยชดุ คาสัง่ ภาษาคอมพิวเตอรท์ ่ีมนษุ ย์เขยี นขึ้นมาเพ่ือควบคมุ การทางานของระบบคอมพวิ เตอร์ จากนั้น คอมพวิ เตอรก์ ็ทางานแทนเรา โดยมนษุ ย์ไมจ่ าเปน็ ต้องน่งั ปฏิบัตงิ านกบัตัวเคร่อื งคอมพิวเตอร์อยูต่ ลอดเวลา สามารถปลอ่ ยให้คอมพวิ เตอรท์ างานแทนได้ ตัวอย่างเชน่เจ้าหนา้ ทฝ่ี ่ายบคุ ลากรของบริษัทจะใชโ้ ปรแกรมคิดเวลาทางาน โดยส่ังใหค้ อมพิวเตอร์ประมวลผลวันที่มาทางาน วันทลี่ ากจิ วันทีล่ าป่วย และวนั ท่มี าสายของพนักงานแตล่ ะคนในบริษัท เพื่อสรปุ ผลการมาทางานของพนกั งานทุกคน เป็นต้น และในการท่จี ะบรรลถุ ึงวตั ถุประสงค์ดงั กล่าว จาเป็นต้องพึง่ พาขั้นตอนทางเทคนิคทเี่ รียกว่า วงจรประมวลผลขอ้ มลู ซึ่งประกอบด้วยองคป์ ระกอบสาคหั อยู่ 4ระบบดว้ ยกัน คือ 1. ระบบการสง่ ข้อมลู เข้า (Input) 2. ระบบการประมวลผล (Processing) 3. ระบบการแสดงผล (Output) 4. ระบบการจดั เกบ็ ขอ้ มลู /สารสนเทศ (Storage) ภาพท่ี 1.8 องคป์ ระกอบพ้ืนฐานของระบบคอมพวิ เตอร์ (พซี ีคอมพวิ เตอร์)ท่มี า : http://www.bbc.co.uk/education/guides/zmb9mp3/revision [04/03/2558] หน่วยที่ 1 การทางานของระบบคอมพิวเตอร์

คอมพิวเตอรแ์ ละการบารุงรกั ษา 11 องค์ประกอบท้งั สี่ เม่อื ถูกรวมเข้าด้วยกัน จะเรยี กว่า “วงาจรปรบพวลผลอ้งพลู ”ดงั น้ันเมอ่ื นาวงจรประมวลผลข้อมลู มาใช้กับ “การทางาานองงารบบบองพิววตองร”ในเรอ่ื ง โปรแกรมคิดเวลาทางาน ก็สามารถอธบิ ายได้ดังน้ี 1.2.1 การนาอง้ พลู ตอ้า (Input) เปน็ การปอ้ นขอ้ มลู เขา้ ไปในเคร่ืองคอมพวิ เตอรโ์ ดยผ่านแป้นพมิ พ์ (Keyboard) หรือเมาส์ (Mouse) ดังนี้ - โดยการสง่ั รนั โปรแกรม แล้วให้คดิ เวลาทางานภายในระยะเวลา 1 เดือน 1.2.2 การปรบพวลผล (Processing) เมื่อนาข้อมลู เขา้ ไปในเคร่อื งคอมพวิ เตอร์แลว้ เคร่อื งคอมพิวเตอร์กจ็ ะดาเนินการกบั ข้อมูลตามท่ีได้รับ โดยใช้หนว่ ยประมวลผลกลาง(Microprocessor) เป็นตัวประมวลผลขอ้ มูล ดังนี้ - โปรแกรมไดอ้ ่านขอ้ มูลเวลาการทางานของพนักงานในแต่ละคนภายในเดือนนนั้จากแฟ้มข้อมูล แล้วโหลดมาเกบ็ ไวใ้ นหน่วยความจาหลัก - เครอ่ื งคอมพิวเตอร์เร่ิมดาเนนิ การประมวลผลข้อมูล ด้วยการคานวณระยะเวลาในการทางานของพนักงานแตล่ ะคนตามสูตรการคานวณ และเงอ่ื นไขทีร่ ะบุไวใ้ นตวั โปรแกรม ให้คอมพิวเตอรป์ ระมวลผล วนั ที่มาทางาน วนั ทีล่ ากิจ วนั ทีล่ าปว่ ย และวันทม่ี าสายของพนกั งานแต่ละคนในบรษิ ัท เพ่ือนาไปใช้เป็นขอ้ มลู ประกอบการพจิ ารณา อาทเิ ชน่ การเลื่อนข้ันตาแหนง่ การขน้ึ เงินเดอื น และการจัดสวัสดกิ ารใหเ้ ปน็ พิเศษ เป็นตน้ 1.2.3 อ้งพูลผลลิั ธ หรืงการแสดงาผลอ้งพูล (Output) เมอื่ เครื่องคอมพวิ เตอร์ประมวลเสรจ็ เครือ่ งคอมพวิ เตอร์จะแสดงผลลัพธ์ทีป่ ระมวลผลได้ ให้ผใู้ ชค้ อมพิวเตอร์ดผู ลท่ีเกดิ ข้ึน โดยจะแสดงผลลัพธ์ออกมาทางจอภาพ (Monitor) หรือเครือ่ งพิมพ์ (Printer) หรือบางครง้ั แสดงผลลพั ธ์ออกมาเป็นเสยี งโดยผา่ นทางลาโพง (Speaker) ดังน้ี - พิมพ์รายงานการทางานของพนกั งานในบริษัทในแต่ละคนมาเกบ็ รกั ษาไวใ้ นแฟ้มบุคลากรในแตล่ ะเดือน เพ่ือเปน็ ข้อมูล 1.2.4 รบบบการจัดตก็บอ้งพูล/สารสนตทศ (Storage) เมื่อได้ผลลพั ธท์ ปี่ ระมวลผลแล้ว ก็ทาการจดั เกบ็ ข้อมูล เพอื่ นาไปใช้ในการทางาน เช่น ฮารด์ ดิสก์ ซดี ี ดีวดี ี และแฟลซไดรฟ์ เปน็ ตน้ - โปรแกรมคิดเวลาทางานก็จะมกี ารอัตเดตข้อมลู ของพนักงานในบรษิ ัทเก็บไว้ลงในดสิ ก์ ฮารด์ ดิสก์ ซดี ี ดีวีดี และแฟลซไดรฟ์ เปน็ ตน้ เพื่อเก็บไว้ใชง้ านในรอบเดือนถัดไป หน่วยที่ 1 การทางานของระบบคอมพิวเตอร์

คอมพิวเตอร์และการบารุงรักษา 12 1.3 ปรบตภทองงาองพิวว ตองร 1.3.1 ปรบตภทองงาองพิววตองรแบ่งาอาพลักษณบองงาอ้งพลู ได้ 3 ปรบตภท องื 1.3.1.1 งนาลงกองพิวว ตองร (Analog Computer) เปน็ เครื่องคอมพวิ เตอร์ทีส่ รา้ งขึ้นเปน็ พิเศษ เพื่อใช้กับงานเฉพาะดา้ น มกี ารทางานโดยใชห้ ลักในการวดั มลี ักษณะเป็นวงจรอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ท่ีแยกสว่ นทาหนา้ ที่เปน็ ตวั กระทาและฟังก์ชัน ทางคณติ ศาสตร์ โดยใช้คา่ ระดับแรงดันไฟฟา้ เป็นหลักในการคานวณ และการรับข้อมลู จะรับในลกั ษณะของปริมาณที่มีค่าต่อเน่ืองสว่ นการรับขอ้ มูลสามารถรบั ข้อมลู ไดโ้ ดยตรงจากแหล่งเกิดขอ้ มูล แลว้ แสดงผลออกมาทางจอภาพหรืออา่ นค่าได้จากเครื่องวดั และแทนค่าเป็นอุณหภมู ิ ความเร็ว หรือความดัน มคี วามละเอียดและสามารถคานวณไดน้ ้อยกว่าดิจิทลั คอมพวิ เตอร์ ไมส่ ามารถเกบ็ ข้อมูลได้เป็นจานวนมากเหมือนกบัดิจทิ ลั คอมพิวเตอร์ ได้แก่ เคร่อื งทใี่ ช้วดั ปริมาณทางฟสิ ิกส์ ซง่ึ ผลลัพธ์ทไี่ ดจ้ ะออกมาในรูปของกราฟเครื่องคอมพิวเตอร์ทตี่ รวจสภาพอากาศ และที่ใชใ้ นวงการแพทย์ เช่น เครอื่ งตรวจวัดสายตา ตรวจวัดคลื่นสมองและการเต้นของหวั ใจ เป็นตน้ ภาพท่ี 1.9 อนาลอกคอมพิวเตอร์ (Analog Computer)ทม่ี า : http:// www.reddit.com [04/03/2558] หน่วยที่ 1 การทางานของระบบคอมพิวเตอร์

คอมพิวเตอร์และการบารุงรักษา 13 1.3.1.2 ดจว ทว ัลองพิววตองร (Digital Computer) เป็นเคร่อื งคอมพิวเตอรท์ ี่ทางานโดยใช้หลักในการคานวณแบบลูกคิด หรือหลกั การนับ และทางานกับข้อมลู แบบไมต่ อ่ เนื่องลกั ษณะการคานวณจะแปลงเลขเลขฐานสิบก่อน แลว้ จึงประมวลผลดว้ ยระบบเลขฐานสอง แลว้ ให้ผลลพั ธ์ออกมาอยู่ในรูปของตัวเลข ซ่งึ คอมพวิ เตอรจ์ ะแปลงเปน็ เลขฐานสบิ เพื่อแสดงใหผ้ ูใ้ ชเ้ ขา้ ใจง่ายมคี วามสามารถในการคานวณและมีความแม่นยามากกว่าอนาลอกคอมพิวเตอร์ สามารถเกบ็ ข้อมูลได้เปน็ จานวนมากจึงต้องใชส้ อ่ื ในการบนั ทกึ ข้อมลู เช่น จานแมเ่ หลก็ และเทปแมเ่ หล็ก เปน็ ต้นเน่ืองจากดจิ ิทลั คอมพวิ เตอรม์ ีอุปกรณช์ นิ้ สว่ นต่าง ๆ เป็นมาตรฐานเดียวกนั และใชก้ บั งานไดอ้ ย่างแพรห่ ลายในปัจจบุ นั ทาใหด้ ิจทิ ลั คอมพิวเตอร์มีการพัฒนาใหส้ ามารถทางานได้เหมาะสมกบั สภาพงานท่วั ไป เช่น งานพิมพเ์ อกสาร งานคานวณ งานวิจยั เปรียบเทียบคา่ ทางสถติ ิ งานบันทึกนดั หมายงานส่งขอ้ ความในรปู เอกสาร ภาพและเสยี ง ตลอดจนงานกราฟิกเพ่ือนาเสนอในรปู แบบต่างๆ เป็นต้น ภาพท่ี 1.10 ดิจทิ ลั คอมพิวเตอร์ (Digital Computer)ทม่ี า : http:// www.wisegeek.com [04/03/2558] 1.3.1.3 ไฮบรวดองพิววตองร (Hybrid Computer) เปน็ เครื่องคอมพิวเตอรท์ ่ใี ช้กบั งานเฉพาะด้าน มีประสิทธภิ าพสูงและสามารถทางานท่ีซบั ซอ้ นได้ เนอ่ื งจากการนาเทคนคิ การทางานของอนาลอกคอมพิวเตอร์และดจิ ิทัลคอมพิวเตอรม์ า ใช้งานร่วมกัน เชน่ การสง่ ยานอวกาศขององค์การนาซา จะใช้เทคนิคของอนาลอกคอมพิวเตอร์ในการควบคมุ การหมนุ ของตวั ยานอวกาศ ซง่ึเกย่ี วขอ้ งกบั ความกดดนั อากาศ อณุ หภูมิ ความเรว็ และใชเ้ ทคนคิ ของดจิ ิทัลคอมพิวเตอร์ในการคานวณระยะทางจากพ้นื ผวิ โลก เป็นต้น หน่วยที่ 1 การทางานของระบบคอมพิวเตอร์

คอมพิวเตอรแ์ ละการบารุงรักษา 14 ภาพที่ 1.11 ไฮบรดิ คอมพิวเตอร์ (Hybrid Computer)ท่ีมา : http:// www.reddit.com [04/03/2558] 1.3.2 ปรบตภทองงาองพิววตองรแบง่ าอาพสพรรถนบ อนาดแลบราอาได้ 5 ปรบตภท อืง 1.3.2.1 ซตู ปงรองพิวว ตองร (Supercomputer) เป็นคอมพิวเตอร์ที่มขี นาดใหห่ทสี่ ุดรุน่ แรก สร้างในปี ค.ศ. 1960 ท่อี งค์การทหารของสหรัฐอเมริกา สรา้ งสามารถประมวลผลได้กวา่ 100 ลา้ นคาสงั่ ตอ่ วินาที จงึ ทาใหท้ างานได้รวดเร็วและมปี ระสทิ ธภิ าพสงู มรี าคาแพงทส่ี ุด เป็นเคร่อื งคอมพวิ เตอรท์ ่เี หมาะกับงานคานวณที่ต้องคานวณตัวเลขจานวนมหาศาล ให้เสร็จภายในระยะเวลาอันสั้น โดยตอ้ งอยู่ในห้องทมี่ ีการควบคมุ อุณหภูมิและปราศจากฝุ่นละออง มกั ใช้กบั องค์กรท่ีมขี นาดใหห่เทา่ นนั้ เนื่องจากสามารถรองรับการใช้งานของผูใ้ ชจ้ านวนมากพร้อมๆ กนั ได้ เรียกว่ามัลตโิ ปรเซสซ่ิง (Multiprocessing) อนั เปน็ การใชห้ น่วยประมวลผลหลายตวั เพ่อื ให้คอมพิวเตอร์สามารถทางานหลายงานพร้อมๆ กนั ได้ จงึ นยิ มใช้กบั งานท่ีการคานวณท่ีซบั ซ้อน เช่น การพยากรณ์อากาศ การทดสอบทางอวกาศ การคานวณทางวทิ ยาศาสตร์ การบิน อุตสาหกรรมน้ามัน ตลอดจนการวจิ ัยในห้องปฏิบัติการ ทงั้ ของภาครัฐบาลและเอกชน เปน็ ตน้ ซเู ปอรค์ อมพวิ เตอร์ท่รี ู้จกั กนั ดีในปัจจุบนั ได้แก่ Cray Supercomputer ภาพท่ี 1.12 ซเู ปอร์คอมพวิ เตอร์ (Supercomputer)ท่มี า : http://www.oknation.net [04/03/2558] หน่วยที่ 1 การทางานของระบบคอมพิวเตอร์

คอมพิวเตอรแ์ ละการบารุงรกั ษา 15 1.3.2.2 ตพนตฟรพองพิววตองร (Mainframe Computer) เปน็ เครอื่ งคอมพิวเตอร์ขนาดใหห่มี ความเร็วในการประมวลผลสูงรองลงมาจากซเู ปอรค์ อมพิวเตอร์ ตอ้ งอยู่ในหอ้ งท่คี วบคุมอุณหภมู ิและปราศจากฝ่นุ ละออง และไดร้ บั การพฒั นาใหม้ ีหน่วยประมวลผลหลายหน่วยทางานพร้อม ๆ กันเช่นเดียวกบั ซเู ปอร์คอมพวิ เตอร์ แตม่ จี านวนหนว่ ยประมวลผลทน่ี อ้ ยกวา่ จงึทาใหส้ ามารถประมวลผลคาสั่งได้หลายสิบล้านคาสง่ั ต่อวนิ าที ระบบคอมพวิ เตอร์ของเคร่ืองเมนเฟรมส่วนมากจะมรี ะบบคอมพวิ เตอรย์ ่อย ๆ ประกอบอยู่ด้วย เพ่ือช่วยในการทางานบางประเภทใหก้ ับเคร่อื งหลัก มรี าคาแพงมาก (แตน่ ้อยกว่าซูเปอร์คอมพวิ เตอร์) เหมาะกับงานที่มีข้อมลู ท่ีมีปรมิ าณมากตอ้ งประมวลผลพร้อมกนั โดยผ้ใู ชน้ บั พนั คน (Multi-user) ใช้กับองค์กรใหห่ ๆ ทว่ั ไป เช่น งานด้านวศิ วกรรมคอมพิวเตอร์ วทิ ยาศาสตร์ การควบคุมระบบเครือข่าย งานพัฒนาระบบ งานด้านธรุ กิจธนาคาร งานสามะโนประชากร งานสายการบิน งานประกันชีวติ และมหาวิทยาลัย เป็นตน้ ภาพที่ 1.13 เมนเฟรมคอมพวิ เตอร์ (Mainframe Computer)ทีม่ า : http://www.oknation.net [04/03/2558] 1.3.2.3 พวนอว งพิววตองร (Minicomputer) เป็นเครอื่ งคอมพิวเตอร์ทีม่ ขี นาดกลางท่ีมีประสทิ ธภิ าพในการทางานน้อยกว่าเมนเฟรม แต่สูงกวา่ ไมโครคอมพิวเตอร์ สามารถรองรบัการทางานจากผู้ใช้หลายร้อยคน (Multi-user) ในการทางานท่ีแตกต่างกนั (Multi Programming)เชน่ เดยี วกับเครือ่ งเมนเฟรม แตส่ ิ่งท่แี ตกตา่ งกันระหวา่ งเครอ่ื งเมนเฟรมและเคร่ืองมนิ ิคอมพิวเตอร์คือ ความเรว็ ในการทางาน เนื่องจากมนิ ิคอมพวิ เตอร์ทางานไดช้ า้ กวา่ และควบคุมผใู้ ชง้ านตา่ ง ๆ ในจานวนทีน่ อ้ ยกว่า รวมทงั้ สื่อทีเ่ กบ็ ข้อมูลมีความจนุ ้อยกวา่ เมนเฟรม จงึ เหมาะกบั องค์กรขนาดกลางเพราะมรี าคาถกู กวา่ เครอื่ งเมนเฟรมมาก ทางานเฉพาะด้าน เชน่ การคานวณทางดา้ นวิศวกรรม การจองหอ้ งพักของโรงแรม การทางานดา้ นบัหชีขององค์การธรุ กจิ เปน็ ตน้ ในสถานศึกษาต่าง ๆ และบางหนว่ ยงานของรฐั นยิ มใช้คอมพวิ เตอร์ประเภทน้ี หน่วยที่ 1 การทางานของระบบคอมพิวเตอร์

คอมพิวเตอร์และการบารุงรักษา 16 ภาพที่ 1.14 มินิคอมพวิ เตอร์ (Minicomputer)ท่ีมา : http://www.glogster.com [04/03/2558] 1.3.2.4 ตววรอสตอชนั องพิววตองร (Workstation Computer) เปน็ เครื่องคอมพิวเตอร์แบบตั้ง โตะ๊ ท่สี นบั สนนุ การทางานของคอมพิวเตอร์เครอื ขา่ ย ซ่งึ ใชใ้ นการจัดสรรและใช้ทรัพยากรรว่ มกนั เช่น แฟ้มข้อมลู โปรแกรมประยุกต์ อุปกรณ์คอมพวิ เตอร์ เชน่ เคร่ืองพิมพแ์ ละอุปกรณ์อน่ื ๆ โดยการเชือ่ มโยงกบั เทอรม์ ินัล (Terminal) หลาย ๆ เคร่อื ง อีกทั้งได้ถูกออกแบบมาให้มคี วามสามารถในการคานวณด้านวิศวกรรม สถาปตั ยกรรม หรืองานอน่ื ๆ ท่ีเนน้ การแสดงผลดา้ นกราฟิก เช่น การนามาช่วยออกแบบภาพกราฟิกท่ีมีความละเอยี ดสงู ทาใหเ้ วิรค์ สเตชันใช้หน่วยประมวลผลทีม่ ีประสทิ ธภิ าพสงู และมีหน่วยเก็บข้อมูล สารองจานวนมากดว้ ย ผูใ้ ชบ้ างกลุ่มจะเรียกเคร่อื งระดบั เวริ ์คสเตชนั น้วี ่า ซเู ปอร์ไมโคร (Supermicro) เพราะถกู ออกแบบให้ใช้งานแบบต้ังโตะ๊แต่ชปิ ท่ีใชท้ างานนนั้ แตกต่างกนั มาก เน่ืองจากเวริ ค์ สเตชนั ส่วนมากใชช้ ิปที่ลดจานวนคาสงั่ ท่สี ามารถใช้ส่งั งานให้ เหลือเฉพาะทีจ่ าเปน็ เพอ่ื ใหส้ ามารถทางานได้ดว้ ยความเรว็ สูง ภาพที่ 1.15 เวริ ค์ สเตชันคอมพวิ เตอร์ (Workstation Computer)ทีม่ า : http://www.medicalexpo.com [04/03/2558] หนว่ ยที่ 1 การทางานของระบบคอมพิวเตอร์

คอมพิวเตอรแ์ ละการบารุงรกั ษา 17 1.3.2.5 ไพโอรองพิวว ตองร (Microcomputer) เป็นเครอ่ื งคอมพิวเตอร์ขนาดเลก็ ราคาถูกสามารถเรียกได้อกี อยา่ งหนงึ่ ว่า เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (Personal Computerหรอื PC) เราสามารถแบ่งคอมพวิ เตอรส์ ่วนบคุ คล ไดด้ ังนี้ 1.3.2.5.1 องพิววตองรแบบอง้ั าโอ๊บ (Desktop Computer) เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเลก็ ราคาถกู สามารถเรียกได้อีกอย่างหนง่ึ ว่า เคร่ืองคอมพวิ เตอรส์ ่วนบุคคล(Personal Computer หรือ PC) มกี ารพฒั นาขึ้นในปี ค.ศ. 1975 ซึ่งได้รบั ความนยิ มเปน็ อันมาก เมอื่IBM ได้สร้างเคร่ือง IBM PC ออกมา ซึ่งความแตกต่างระหวา่ งเวิรค์ สเตชันคอมพิวเตอร์ และไมโครคอมพวิ เตอร์ได้ลดนอ้ ยลงเรอ่ื ย ๆ เนือ่ งจากเครื่องไมโครคอมพวิ เตอรร์ ะดับสูงในปัจจบุ นั มีประสทิ ธิภาพ และมคี วามเร็วในการแสดงผลทด่ี ีกวา่ เวิรค์ สเตชนั คอมพวิ เตอร์มาก สามารถใช้งานโดยใช้คนเดียว (Stand-alone) หรอื เช่ือมต่อเปน็ เครอื ข่ายเพื่อติดต่อสื่อสารกบั คอมพิวเตอร์เครอ่ื งอน่ื ได้จากการที่เทคโนโลยที กี่ า้ วนาสมยั ทาให้ PC สามารถเช่อื มโยงเขา้ กับระบบเครือข่ายอนิ เทอรเ์ นต็ตดิ ตอ่ ส่อื สารกับคนอนื่ ได้ ท่ัวโลก เหมาะกบั งานทว่ั ไป เชน่ การประมวลผลคา (Word Processing)การคานวณ (Spreadsheet) การบัหชี (Accounting) จดั ทาส่ิงพิมพ์ (Desktop Publishing) และงานทเี่ กย่ี วข้องกบั ฐานข้อมูล เปน็ ต้น ภาพที่ 1.16 คอมพวิ เตอร์แบบตงั้ โตะ๊ (Desktop Computer)ท่ีมา : http://grabworthy.pricegrabber.com [04/03/2558] หนว่ ยที่ 1 การทางานของระบบคอมพิวเตอร์

คอมพิวเตอรแ์ ละการบารงุ รักษา 18 1.3.2.5.2 โนอ๊ บอุ๊ องพิววตองร (Notebook Computer) เป็นคอมพวิ เตอร์ขนาด เล็ก มี นา้ หนักเบาประมาณ 2-4 กิโลกรมั และบางกวา่ แบบตง้ั โต๊ะ สามารถพกพาไปยังสถานที่ต่าง ๆ ได้สะดวก โดยมหี น้าจอและคยี บ์ อรด์ ติดกนั ส่วนเม้าส์ (Mouse) และลาโพงจะอยู่ติดกบั ตวั เครื่อง โดยสามารถหาอุปกรณด์ งั กล่าวติดต้ังภายนอกเพม่ิ เติมก็ได้ มเี คร่ืองอ่านแผน่ ดิสก์(Floppy Disk Drive) และเครือ่ งอ่านแผ่นซีดรี อม (CD-ROM drive) และพฒั นาให้มีขนาดเลก็กว่าเดมิ สามารถวางบนตักได้ ภาพท่ี 1.17 โนต๊ บุ๊คคอมพวิ เตอร์ (Notebook Computer)ที่มา : http://www.bhphotovideo.com [04/03/2558] หนว่ ยที่ 1 การทางานของระบบคอมพิวเตอร์

คอมพิวเตอรแ์ ละการบารุงรักษา 19ส1.4 สถาปัอยกรรพซีิยี ู ถาปอั ยกรรพองงาซิี ียู สามารถแบง่ ออกเปน็ 2 ชนิดด้วยกนั คอื ซพี ยี ูแบบ CISC และ RISC ดงั น้ี 1.4.1 CISC (Complex Instruction Set Computers) การใชห้ น่วยความจาสถาปัตยากรรมแบบ CISC จะมชี ดุ คาสั่งมากมายหลายคาสง่ั ท่ีซับซอ้ นและยงุ่ ยาก แต่นนั้ ไม่ไดห้ มายความวา่ทุกชุดคาส่งั จะมีการ FIX CODE คือ ถ้ามกี ารใช้ชุดคาสง่ั ที่มคี วามซับซ้อนมากก็จะใช้จานวนบิตมากแตถ่ ้าใช้งานชดุ คาส่ังทม่ี ีความซบั ซ้อนน้อยก็จะใช้จานวนบติ นอ้ ยเชน่ กนั ในการเกบ็ ชดุ คาสงั่ ของ CISCนั้นจะเก็บเทา่ กบั จานวนจรงิ ของการใช้งาน จึงประหยดั เนื้อทใี่ นหน่วยความจาแตเ่ นื่องจากการเก็บชุดของคาสง่ั น้นั เก็บเฉพาะการใชง้ านจริง ซ่ึงจะใช้งานหนว่ ยความจาน้อย แต่นัน้ ไม่ได้หมายความว่าจะทาให้เกิดประสทิ ธิภาพในการทางาน แตจ่ ะทาให้ประสิทธภิ าพการทางานของเครอื่ งคอมพวิ เตอร์ช้าลงเพราะต้องเสียเวลาการถอดรหัสอนั ย่งุ ยากของการเข้ารหัสทมี่ ีขนาดไมเ่ ท่ากนั เน่ืองจาก CISC มชี ุดของคาสง่ั ท่ีซบั ซอ้ นมากกว่า RISC และในคาส่ังพิเศษทม่ี ีอยใู่ น CISC นั้น หรอื คาสงั่ ยากๆ เช่น การแก้สมการในการทางานหนง่ึ คาสั่งของ CISC อาจใชเ้ วลา (สัหหาณนาฬิกา) มากกว่าการนาเอาคาสัง่ ที่มีอยู่ใน RISC หลายๆ คาสงั่ มารวมกัน ตัวอยา่ ง ซีพียูท่ีใช้สถาปตั ยกรรม CISC เชน่ ชิปตระกูล Intelและ AMD ท้ังน้ีพซี ีคอมพวิ เตอร์ท่ีใชง้ านอยูใ่ นทุกวนั นี้ ล้วนเปน็ ซีพียแู บบ CISC ภาพท่ี 1.18 ซพี ยี จู ากค่าย Intel และ AMDที่มา : http:// www.tomshardware.com [04/03/2558] 1.4.2 RISC (Reduced Instruction-Set Computing) การใช้หนว่ ยความจาเน้นหลกั การของการนาเอาชุดคาส่ังงา่ ยๆเพยี งไม่ก่ีคาสงั่ (โดยทั่วไปไม่เกนิ 128 คาส่งั เช่น บวก ลบคูณ หาร) มาประกอบรวมเข้าไวด้ ว้ ยกัน 128 คาสั่ง มีค่าเท่ากบั 2 ยกกาลงั 6 หรอื กล่าวคือใชง้ านแค่6 บิต ในการเกบ็ ค่าของชดุ คาส่ัง ในการเกบ็ ชุดคาส่ังจงึ FIX CODE ไวแ้ ค่ 6 เทา่ น้ัน ซึ่งเกิดขอ้ เสยี คือถา้ หากคาส่งั ทีใ่ ชง้ านใช้แค่ 1 บิต กย็ งั คงเกบ็ 6 บิต ทาให้เกิดการสูหเสยี แต่เน่ืองจากการเก็บข้อมูลของ RISC น้เี ป็นลักษณะ FIX CODE จึงสง่ ผลให้การถอดรหัสรวดเรว็ เพราะชดุ คาส่ังเท่ากันทกุ หนว่ ยที่ 1 การทางานของระบบคอมพิวเตอร์

คอมพิวเตอร์และการบารุงรกั ษา 20Record การทางานจะทาได้เร็วกว่า CISC เพราะ RISC ประกอบด้วยคาสั่งงา่ ยๆ ทีมีการบรรจเุ ฉพาะชุดคาสงั่ พืน้ ฐานเท่าน้ันจึงทาให้ซีพียูมีขนาดเล็ก และใช้พลงั งานนอ้ ยกว่า ตวั อย่างซีพียทู ใ่ี ช้สถาปตั ยกรรม RISC เชน่ ชปิ ตระกลู Power PC, Silicon Graphics และ DEC Alpha เปน็ ตน้ ภาพที่ 1.19 ซีพยี ูจากค่าย IBMที่มา : http:// www.tomshardware.com [04/03/2558] ซพี ยี ทู ั้งสองชนิด CISC และ RISC ตา่ งกม็ ขี ้อดีและข้อเสยี ท่แี ตกต่างกนั โดยเปรียบเทยี บข้อดี และข้อเสยี ของซพี ียูทั้งสองแบบเอาไว้ ดงั แสดงในตารางที่ 1.1อารางาท่ี 1.1 ตปรยี บตทยี บอ้งดแี ลบอ้งตสยี องงาซิี ียูชนวด CISC แลบ RISCซิี ยี ูชนดว อ้งดี อ้งตสีย CISC 1. พีซีคอมพวิ เตอร์จานวนมากใน 1. กระบวนการผลติ ค่อนข้างยุง่ ยาก ปจั จบุ นั ใชส้ ถาปัตยกรรมแบบ CISC และซับซ้อน ทาให้เกิดข้อผิดพลาดได้ง่าย 2. มแี อปพลิเคชน่ั มากมายที่ 2. แอปพลิเคชนั่ ทีเ่ ก่ียวกับมัลติมีเดียหรือ ออกแบบมาทางานกับซีพียชู นิดน้ี กราฟิก เมอื่ รนั อยูบ่ นซีพยี ู CISC จะ เนอ่ื งจากผูผ้ ลิตคือบรษิ ัทอนิ เทล ส่วน ทางานชา้ กว่าซีพียู RISC ดา้ นซอฟตแ์ วรค์ ือบรษิ ทั ไมโครซอฟต์RISC 1. การออกแบบซีพียมู ีความง่ายกว่า 1. ผู้พฒั นาซอฟตแ์ วรส์ ่วนใหห่พฒั นา และใช้กาลงั ไฟฟ้าน้อย แอปพลเิ คชั่นให้ CISC มากกวา่ เพราะ 2. โปรแกรมทางกราฟิก เมือ่ รันอยู่ เหตุผลทางการตลาด บนซีพยี ูแบบ RISC จะทางานเร็วกวา่ 2. ตลาดซพี ยี ูส่วนใหห่เป็นของอนิ เทล CISC ทาใหซ้ พี ยี ู RISC ไมเ่ ตบิ โตเทา่ ทคี่ วร แมว้ า่ RISC จะดีกว่าในหลายๆ ด้าน หน่วยที่ 1 การทางานของระบบคอมพิวเตอร์

คอมพิวเตอรแ์ ละการบารงุ รกั ษา 21อุ1.5 อุณลักษณบทพี่ ีอวาพแอกอ่างาในรบบบองพิววตองร ณลกั ษณบที่บอกความแตกต่างในระบบคอมพวิ เตอร์เคร่ืองหน่งึ ๆ เมือ่ เปรยี บเทยี บกบั เครื่อง คอมพิวเตอร์อ่ืนๆ นั้น จะพจิ ารณาจากคุณลักษณะขนาดขอ้ มลู ความเร็วของโปรเซสเซอร์ และขนาดความจขุ องหน่วยความจา ดังน้ี 1.5.1 อนาดอง้ พลู (Word Size) ความหมายของคอมพิวเตอรก์ ็คือ \"คา\" หรือ \"ตัวอักษร\"อนั เป็นสัหหาณไฟฟ้าที่รับ หรอื ส่งเขา้ สู่ระบบ โดยจะนบั เป็นจานวนครัง้ ละก่บี ติ ดังน้ันคอมพิวเตอร์ท่ีมีประสิทธิภาพสงู จะสามารถรบั /สง่ ขอ้ มลู จานวนบติ มากกว่าตามไปดว้ ย เชน่ เครื่องทม่ี ี Word ขนาด32 บิต ย่อมรับ/ส่งข้อมลู ได้มากกว่าเครื่อง 16 บติ และเรยี กขนาดของ Word วา่ 16-bit word หรอื32-bit word นนั่ เอง 1.5.2 อวาพตรว็ องงาโปรตซสตซงร (Processor speed) หมายถงึ ความเร็วในการประมวลผลของ Processor ซึง่ สามารถแบ่งได้หลายหน่วย ดงั นี้ 1.5.2.1 MHz ย่งพาจาก Megahertz เปน็ หนว่ ยที่วัดการงานของคอมพวิ เตอร์ในอตั รา Million of clock cycle ท้ังหนว่ ยวดั ความเรว็ MHz และ GHz (กกิ ะเฮิรตซ)์ จะถกู นามาใช้วดั ความเร็วของซีพียู เชน่ ไมโครคอมพวิ เตอร์ท่มี ีความเร็ว 100MHz จะใช้เวลาในการปฏบิ ตั งิ านเศษ1 ส่วน 100,000,000 วนิ าที อย่างไรก็ตามเคร่ืองที่มี Word size ตา่ งกัน ก็จะมีความเร็วต่างกันไปด้วย เช่น เคร่ือง 32-bit 200 MHz ทางานชา้ กวา่ เคร่อื ง 64-bit 200MHz 1.5.2.2 MIPS ย่งพาจาก Million of instructions per second ใชก้ ับคอมพิวเตอร์ขนาดกลางขึน้ ไป 1.5.2.3 FLOPS ย่งพาจาก Floating point operations per second เป็นหนว่ ยวดั สาหรับ Supercomputer โดยวัดจากงานท่ปี ฏิบตั ิ และเน้นงานดา้ นวิทยาศาสตรเ์ ป็นหลัก 1.5.3 อนาดอวาพจุองงาหน่วยอวาพจาหลกั (RAM) ความจขุ องหนว่ ยความจาหลกั(RAM) เป็นตัวบง่ บอกให้เหน็ ถึงสมรรถนะของเครื่องคอมพิวเตอร์เคร่ืองนั้น หากมหี นว่ ยความจาหลกัมากๆ ทาให้ประสทิ ธภิ าพ และการทางานของเครอื่ งคอมพิวเตอร์เร็วข้ึน การวดั ความจหุ รอื ขนาดของข้อมูล มรี ายละเอยี ดดังนี้ 1.5.3.1 บวอ (Bit) เป็นหนว่ ยวัดข้อมูลท่ีมขี นาดเล็กที่สุด โดยแต่ละบิตจะถูกแสดงดว้ ยตวั เลขไบนารี (Binary Digits) หรือเลขฐานสองคอื “0″ หรอื “1″ ซ่ึงจะบง่ บอกถึงสถานะการทางาน 1.5.3.2 ไบอ (Byte) เปน็ หน่วยวดั พ้ืนฐานท่สี ามารถพบเห็นได้ทัว่ ไป โดย 1 ไบต์จะมีขนาด 8 บิต ใช้แทนตัวอักษรใดๆเช่น ตัวเลข, พยัหชนะ หรอื สัหลกั ษณ์ต่างๆได้ 1 ตวั หน่วยที่ 1 การทางานของระบบคอมพิวเตอร์

คอมพิวเตอรแ์ ละการบารุงรักษา 22 1.5.3.3 กวโลไบอ (Kilobyte อวั ย่ง KB) จะมีค่าเท่ากบั 1,024 ไบต์ หรือประมาณ1,000 ไบต์ เทียบเทา่ กบั ตัวอักษรประมาณ 1,000 ตวั หรอื ประมาณ 1 หนา้ กระดาษ ใช้วัดความจุของแรมในเคร่ืองคอมพิวเตอร์ในอดีตที่เป็นรนุ่ แรกๆ 1.5.3.4 ตพกกบไบอ (Megabyte อวั ย่งอืง MB) จะมีคา่ ประมาณ 1,000กิโลไบต์ หรอื ประมาณ 1 ลา้ นไบต์ เทียบเท่ากับตวั อักษรประมาณ 1 ลา้ นตัว หรือประมาณหนงั สอื1 เล่ม ใชว้ ดั ความจขุ องแรมในเครอ่ื งคอมพิวเตอรร์ นุ่ ถดั มา และไมน่ ิยมใช้แล้ว 1.5.3.5 กวกบไบอ (Gigabyte อัวย่งอืง GB) เป็นหน่วยวดั ทีม่ กั ใช้บอกความจุขอ้ มลู ของอปุ กรณ์จาพวก ฮาร์ดดิสต์, ยูเอสบไี ดรว์, แผ่นดวี ีดี และอ่ืนๆ โดยจะมีค่าประมาณ 1,000เมกกะไบต์หรือประมาณ 1 พันลา้ นไบตเ์ ทยี บเท่ากับตัวอกั ษรประมาณ 1 พนั ลา้ นตัวหรอื ประมาณหนังสือทถี่ ูกบรรจอุ ยู่ในตู้หนังสือจานวน 1 ตู้ ปัจจุบนั นยิ มมาใช้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ในยคุ นี้ 1.5.3.6 ตทงราไบอ (Terabyte อัวยง่ TB) เป็นหน่วยวดั ข้อมูลท่ีมขี นาดใหหม่ ากปจั จุบนั มเี พียงอุปกรณจ์ าพวกฮาร์ดดสิ ต์บางรนุ่ เทา่ นัน้ ท่มี ีความจมุ ากถึง ระดบั นี้ แตด่ ้วยปริมาณความตอ้ งการข้อมูลทเี่ พมิ่ สูงขึน้ เร่ือยๆ ทาให้อีกไม่นานความจรุ ะดบั นอ้ี าจมีแพรห่ ลายมากขึน้ โดยใชก้ บัซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ในเทอราไบต์จะมีคา่ ประมาณ 1,000 กกิ ะไบต์ หรือประมาณ 1 ล้านลา้ นไบต์เทยี บเทา่ กับตวั อักษรประมาณ 1 ลา้ นลา้ นตวั หรอื ประมาณหนังสอื ท้ังหมดที่ถูกบรรจุอยู่ในหอ้ งสมดุ1 ห้อง หนว่ ยที่ 1 การทางานของระบบคอมพิวเตอร์

คอมพิวเตอร์และการบารงุ รักษา 23 1.6 การนาองพิวว ตองรไปใชง้ าานปัจจบุ นั คอมพิวเตอรม์ รี าคาถูกลงมาก ผู้คนจึงนยิ มซ้อื คอมพิวเตอร์ไปใชใ้ นงานส่วนตัวท่ีบา้ น ส่วนใหหน่ าไปใชใ้ นด้านงานเอกสาร เกบ็ ข้อมลู สว่ นตวั วเิ คราะห์รายรับรายจ่ายของ ครอบครัว เลน่ เกม หรือเพ่อื ความบนั เทงิ จากระบบมลั ติมเี ดีย นอกจากน้ีแล้วยังมกี ารนาคอมพวิ เตอร์ไปประยุกต์ใช้งานตา่ ง ดงั น้ี 1.6.1 การปรบยกุ อใชอ้ งพิววตองรในงาานการตงาวนแลบบญั ชี งานประเภทนต้ี ้องใช้ตัวเลขเปน็ จานวนมาก การตรวจสอบความถูกต้องของตวั เลขเป็นสงิ่ ทย่ี ุ่งยากมาก การตรวจสอบความถูกต้องของตวั เลขเป็นสง่ิ ทีย่ ุ่งยากมากโดยเฉพาะในธุรกจิ ขนาดใหห่ การนาคอมพิวเตอร์เข้ามาใชท้ าให้การทางานสะดวกข้นึ เช่น การวางระบบคอมพวิ เตอรส์ าหรับออกแบบใบทวงหน้ี การออกใบเสร็จรบั เงิน การทาประวตั ิและบัหชีลูกค้า และการทาบัหชีเงนิ เดือน เปน็ ต้น 1.6.2 การปรบยุกอใช้องพิววตองรในงาานธนาอาร ธนาคารทุกแหง่ จะเกีย่ วข้องโดยตรงกบั การฝากหรือถอนเงิน ความถูกต้องและรวดเรว็ ในการให้บรกิ ารเปน็ สิง่ ที่มีความสาคหั สูงสุดนอกจากน้ยี ังมีบริการด้านสินเชื่อ เงินกู้ การแลกเปลยี่ นเงินตรา การถอนเงนิ แบบ ATM เป็นต้น การนาคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้ทาให้งานทกุ ด้านมคี วามคลอ่ งตัวสูงทกุ ดา้ น เชน่ การรวบรวมข้อมลู เก่ียวกบัการลงทนุ การตลาด ลูกค้าจะไดร้ ับความสะดวกในการฝากถอนเงนิ และสามารถตรวจสอบสถานะทางการเงินได้อยา่ งรวดเร็วอีกดว้ ย 1.6.3 การปรบยุกอใช้องพิววตองรในการสารงงาทนี่ ง่ั า การนาระบบคอมพิวเตอร์มาชว่ ยเก็บชอื่ ผู้โดยสารหรอื นักทอ่ งเทย่ี ว วันเวลาเดนิ ทาง สถานที่จะข้ึนหรือลง สายการบิน เท่ียวบนิ และจานวนทนี่ ่งั ของยานพาหนะ จะทาใหเ้ จา้ หนา้ ทที ราบสถานะและเหตุการณ์ไดท้ นั ท่วงที ข่ายงานคอมพิวเตอร์ท่ตี ดิ ต่อถึงกนั ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ จะทาใหม้ ีการแลกเปลีย่ นข้อมลู และรบัชว่ งผูโ้ ดยสารหรอื นกั ท่องเท่ียวได้ทันท่วงที 1.6.4 การปรบยกุ อใชอ้ งพิววตองรในการอวบอุพการผลวอ โรงงานอุตสาหกรรมที่ทันสมยัแทบทกุ แหง่ ไดน้ าคอมพวิ เตอรม์ าควบคมุ การผลิตเพ่อื ใหส้ ินค้ามคี ุณภาพดีข้ึนโดยมกี ารควบคมุ ทุกขั้นตอน ต้งั แต่ตรวจสอบคุณภาพของวตั ถุดบิ ข้นั ตอนการผลติ จนกระทงั่ คณุ ภาพของสินคา้ สาเรจ็ รปูทอ่ี อกมาจากโรงงานกอ่ นทีจ่ ะนาไปจาหนา่ ยให้แกล่ กู คา้ คอมพิวเตอร์จะรายงานอปุ สรรคทเี่ กิดขึ้นแล้วแกไ้ ขอตั โนมัติ งานจึงไม่หยุดชะงัก 1.6.5 การปรบยุกอใช้องพิววตองรในการงงกแบบ งานออกแบบทั่วไป เช่น การออกแบบก่อสร้าง ออกแบบเครื่องยนต์ รถยนต์ ผลิตภัณฑ์ตา่ ง ๆ เป็นงานทตี่ ้องรอบคอบ สน้ิ เปลอื งแรงงานและเวลา ปัจจุบนั ได้นาคอมพิวเตอรม์ าช่วยออกแบบ เรยี กวา่ โปรแกรม CAD (Computer หนว่ ยที่ 1 การทางานของระบบคอมพิวเตอร์

คอมพิวเตอร์และการบารงุ รกั ษา 24Aided Design) เช่น โปรแกรม AUTOCAD และคอมพวิ เตอรช์ ่วยการผลิตทางอุตสาหกรรมเรยี กวา่CAM (Computer Aided Manufacturing) มาอานวยความสะดวกในการเขียนแบบชิน้ ส่วนต่าง ๆบนจอภาพ ปรบั ปรงุ แก้ไข 1.6.6 การปรบยกุ อใช้องพิววตองรในการศึกษา ประเทศไทยไดน้ าคอมพวิ เตอร์มาชว่ ยในการศกึ ษาไมน่ ้อยกว่า 20 ปมี าแล้ว โดยนามาใช้ในหลายลักษณะ เช่น ในการเรยี นการสอนโดยเปิดสอนวิชาของคอมพวิ เตอรแ์ ละการประยุกต์ใชค้ อมพวิ เตอร์กับวชิ าอืน่ ๆ นอกจากนย้ี ังนามาช่วยในงานบรหิ าร เชน่ การทาระเบียนประวตั ิของนักศึกษาช่วยงานทะเบยี นและงานแนะแนว การเกบ็ เงนิลงทะเบียนเรียนของงานการเงนิ งานวัดผลช่วยตดั เกรดและคดิ เกรดเฉลี่ยสะสม งานทาใบ รบ. หรือใบประกาศนียบตั ร ฯลฯ ปัจจบุ ันไดพ้ ฒั นาโปรแกรมสาเรจ็ รูปเพอ่ื ช่วยสอน ท่ีเรยี กว่า คอมพวิ เตอร์ช่วยสอน หรอื CAI (Computer Aided Instruction) ในวชิ าต่าง ๆ เช่น คณติ ศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ภาษาไทย ภาษาองั กฤษ และแมก้ ระทัง่ วิชาของคอมพวิ เตอรเ์ อง มีภาพเคลอ่ื นไหวและมเี สียงเสมือนจรงิ นักเรียนจงึ สนใจมากขึน้ ได้สนกุ สนานกับการเรียนดว้ ยเครือ่ งคอมพิวเตอร์ ทาใหน้ ักเรียนไม่เบ่ือหน่ายในการแสวงหาความรู้อีกตอ่ ไป 1.6.7 การปรบยกุ อใชอ้ งพิววตองรในวงาการแิทย วงการแพทย์ไดใ้ ชค้ อมพิวเตอร์ ในการตรวจเลอื ด ตรวจปสั สาวะ หวั ใจ อวัยวะภายใน โดยใชค้ อมพิวเตอร์ช่วยวิเคราะห์ผลรังสเี อ็กซ์ที่ผ่านเขา้ ไปในคนไข้ โดยการแสดงขอ้ มูลบนจอภาพ เรยี กวา่ “ เอ็กเรยโ์ ทโมกราฟี “ (X – RayTomography) ภาพทไี ดเ้ ปน็ ภาพตัดขวางทลี ะแนว นอกจากนย้ี ังนาคอมพิวเตอร์มาชว่ ยการบรหิ ารงานในโรงพยาบาล เช่น การจองเตียงคนไข้, คมุ สต๊อกยา และระเบยี นคนไข้ เป็นต้น 1.6.8 การปรบยุกอใชอ้ งพิววตองรในการอพนาอพแลบการสง่ื สาร ปัจจุบนั การคมนาคมและการสื่อสารไมว่ า่ จะเป็นข่าวสารดา้ นวทิ ยุ โทรทัศน์ ดาวเทยี มต่าง ๆ ใชค้ อมพิวเตอร์เข้าควบคุมและจัดการทงั้ สิ้น เชน่ การถา่ ยทอดสดทางโทรทศั น์ผา่ นดาวเทยี มท้งั ภายในประเทศและภายนอกประเทศเปน็ ไปอยา่ งรวดเรว็ ทันเหตกุ ารณ์ 1.6.9 การปรบยุกอใช้องพิววตองรในด้านนนั ทนาการ เช่น เกมส์คอมพิวเตอร์ท่ัวไปปัจจุบันคอมพิวเตอร์ได้พัฒนาเข้าสูร่ ะบบมัลติมเี ดยี ทาให้คอมพวิ เตอรม์ ีลักษณะเป็นเคร่ืองเสยี ง รวมกับโทรทัศน์ รวมกบั วดิ ีโอ และคอมพิวเตอร์อยใู่ นเครื่องเดยี วกนั ในราคาท่ีไม่แพงจนเกินไป หนว่ ยที่ 1 การทางานของระบบคอมพิวเตอร์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook