หน่วยท่ี 5 เทคนิคการเช่ือม ตวั แปรท่มี ีผลต่อการเช่ือม และปัญหาการเช่ือม วชิ า งานเช่อื มอาร์กโลหะแก๊สคลุม 1 ครูสมหมาย เยาว์แสง
1 ใบเนือ้ หา รหัสวิชา 2103-2006 วิชางานเชอื่ มอารก์ โลหะแก๊สคลุม 1 สอนครงั้ ที่ 13 ชอื่ หนว่ ย เทคนิคการเช่ือม เวลา 1 ชวั่ โมง ชอื่ เรื่อง ตวั แปรทม่ี ผี ลต่อการเชื่อมและปัญหาการเช่ือม 5.1 ตวั แปรทมี่ ีผลตอ่ การเช่ือมและปญั หาการเช่อื ม 5.1.1 ตัวแปรทม่ี ีผลตอ่ การเชอ่ื ม ในการปฏิบัติงานเช่ือมอาร์กโลหะแก๊สคลุมและการเช่ือม Flux Core Wire จะต้องมีการ ปรบั ตง้ั ค่าตัวแปรหลายอยา่ ง เพ่อื ใหแ้ นวเชอ่ื มออกมาดีมีคณุ ภาพ ตวั แปรที่มผี ลตอ่ การเชือ่ มดงั น้ี 5.1.1.1 กระแสไฟเช่ือม (Welding Current) กระแสไฟเชื่อม คือ กาลังไฟฟ้าท่ีเคร่ือง เช่ือมผลิตออกมา กระแสไฟเชื่อมมีหน่วยเป็นแอมแปร์ สามารถอ่านได้จากแอมป์มิเตอร์ท่ีติดอยู่กับ เครอื่ งเช่อื ม ปริมาณการใชก้ ระแสไฟเชือ่ มสูงๆ จะมผี ลกระทบต่ออัตราการหลอมเหลวลวด ขนาดและ รูปทรงรอยเชื่อม และการหลอมลึกของแนวเชื่อม ในระบบของแรงดันคงที่ (Constant Voltage : CV) กระแสไฟเช่อื มจะถูกควบคมุ ดว้ ยปุ่มปรับความเร็วป้อนลวด ดังนั้นถ้าจะปรับกระแสก็ต้องมาปรับ ทีป่ มุ่ ปรบั ความเรว็ ป้อนลวด ถา้ ความเร็วป้อนลวดสงู ข้ึนกระแสไฟเช่อื มกจ็ ะสูงข้ึนตาม แต่ถ้าเป็นระบบ กระแสไฟคงที่ (Constant Current : CC) กระแสไฟเชื่อมสามารถค่าปรับได้ที่ปุ่มด้านหน้าของเครื่อง อัตราการหลอมเหลวลวดที่สูงข้ึนกระแสไฟเช่ือมจะสูงขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน การปรับกระแสไฟเชื่อมมี ความสัมพันธ์กับขนาดลวดเช่ือม อัตราการป้อนลวด ตาแหน่งท่าเช่ือมและระยะ Tip-To-Work อธบิ ายดังนี้ 1) การปรับอัตราการป้อนลวด ก็คือการปรับกระแสไฟเช่ือม เมื่อเพ่ิมอัตราการป้อน ลวด กระแสไฟเช่ือมก็จะเพมิ่ ข้นึ 2) ขนาดลวดเช่ือม เมื่อใช้ลวดเช่ือมขนาดโตขึ้นต้องปรับกระแสไฟให้สูงข้ึนเพื่อเพ่ิม อตั ราการหลอมละลายของลวดเชื่อมที่ข้ึน ในทางตรงกันข้ามถ้าเปลี่ยนลวดเช่ือมเป็นขนาดเล็ก ก็ต้อง ปรบั กระแสไฟใหต้ ่าลง 3) ระยะ Tip-To-Work ส้นั หรือยาวมผี ลต่อกระแสไฟเชอื่ ม 4) ตาแหน่งท่าเช่ือม การเช่ือมในท่าต่างๆ การปรับต้ังค่ากระแสไฟเชื่อมไม่เท่ากัน การเช่ือมในตาแหน่งทา่ ตั้งใชก้ ระแสไฟเช่ือมต่ากวา่ การเช่ือมในตาแหนง่ ทา่ ราบ 5.1.1.2 แรงดันเช่อื ม (Arc Voltage) แรงดนั อารก์ จะขึ้นอยู่กับ Tip-To-Work ในระบบ ของแรงดันคงท่ี (Constant Voltage System) การปรับค่าแรงดันเช่ือมสามารถปรับค่าได้ท่ีปุ่มปรับ ด้านหน้าของเคร่ืองเช่ือม ท้ังน้ีเพราะว่า เคร่ืองเชื่อมจะต้องให้ระดับแรงดันคงท่ีสม่าเสมอจึงจะทาให้ แรงดันอาร์ก รักษาระดับคงที่ตลอดเวลาด้วย แต่ถ้าในระบบกระแสคงที่ (Constant Current
2 System) แรงดันเชื่อมจะถูกควบคุมโดยระยะอาร์กตามที่ช่างเชื่อมเคล่ือนไหวหัวเช่ือม ทาให้แรงดัน เชื่อมส่งผลไปบังคับชุดความเร็วป้อนลวด ดังนั้นแรงดันอาร์กจึงถูกพิจารณาเลือกใช้ตามความ เหมาะสมของขนาดลวด ชนิดของแก๊สคลุม ตาแหน่งท่าเช่ือม ชนิดของรอยต่อและขนาดความหนา ของโลหะช้ินงาน 5.1.1.3 ขนาดลวดเชื่อม (Electrode Size) ลวดเช่ือมแต่ละขนาดจะมีส่วนผสมทางเคมี ทชี่ ว่ ยใหใ้ ชก้ ระแสไฟเชื่อมได้สะดวก ลวดเชื่อมท่ีมีขนาดโตกว่าก็จะใช้กระแสไฟเช่ือมในระดับท่ีสูงกว่า สาหรับอัตราการหลอมเหลวลวดจะสัมพันธ์โดยตรงกับความเข้มของกระแสไฟเช่ือม ถ้าเปรียบเทียบ ความโตลวดเชอื่ มสองขนาด ทดลองเช่ือมท่ีกระแสไฟเท่ากัน จะพบว่าลวดเชื่อมที่มีขนาดเล็กกว่าจะมี อัตราการหลอมเหลวท่ีสูงกว่า หากต้องการให้ลวดเช่ือมขนาดโตกว่ามีอัตราการหลอมละลายลวด สูงขึ้นให้เพิ่มกระแสไฟซ่ึงก็คือการเพ่ิมความเร็วลวด ดังน้ันในการเลือกใช้ขนาดลวดเช่ือมควรเลือกให้ เหมาะสมกับความหนาของโลหะชิ้นงาน และขึ้นอยู่กับความต้องการให้เกิดการหลอมละลายลึก ลักษณะรูปทรงของรอยเชื่อม ตาแหนง่ ทา่ เชื่อมและความแตกต่างดา้ นราคา 5.1.1.4 ชนิดแก๊สคลุม แก๊สคลุมแต่ละชนิดจะให้ผลการหลอมละลายท่ีแตกต่างกันใน หลายๆด้าน ได้แก่ อัตราการหลอมละลาย รูปทรงของแนวเช่ือม ความเร็วในการเชื่อม สมบัติทางกล ของแนวเช่อื ม ชนิดของการสง่ ถ่ายนา้ โลหะและยังสง่ ผลในด้านปริมาณควันและเมด็ โลหะกระเด็น แก๊สคลุมท่ีใช้กันอย่างกว้างขวางในการเช่ือมโลหะประเภทเหล็กคือแก๊สคาร์บอนไดออก ไซด์ เป็นแก๊สท่ีให้อัตราการหลอมเหลวสูงสุด อัตราการหลอมลึกมากท่ีสุด แนวเช่ือมกว้างและนูนใน ระดับพอดี แต่จะมีควันและสะเก็ดเช่ือมมากที่สุด การใช้แก๊สผสมระหว่างแก๊สอาร์กอนกับแก๊ส คาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อให้ซึมลึกมากย่ิงข้ึนและลดการกระเด็นของสะเก็ดเชื่อม สาหรับการเช่ือม โลหะทไ่ี ม่ใชเ่ หล็กใชแ้ กส๊ อาร์กอน แกส๊ ฮีเลยี ม หรือแก๊สอาร์กอนผสมแก๊สฮีเลียม การปรับความดันแก๊สใชง้ านจะต้องเปดิ เครื่องเช่ือม โดยโซลินอยด์ (Solenoids)ท่ีติดตั้งไว้ กับเครื่องเชือ่ มหรือชดุ ควบคุมการป้อนลวด จะทาหน้าท่ีเป็นอุปกรณ์เปิดและปิดวาล์วให้แก๊สไหลหรือ หยุดไหล วงจรจะต่อโซลินอยด์ (Solenoids) กับสวิทซ์หัวเช่ือมคือเมื่อกดสวิทซ์จะทาให้วาล์ว โซลินอยด์เปิดแก๊สก็ไหลผ่านได้ เคร่ืองเช่ือมบางรุ่นมีปุ่มกดสาหรับเช็คหรือปรับแก๊สใช้งานติดต้ังที่ ดา้ นหนา้ เคร่ืองเชอ่ื ม การปรบั แก๊สใชง้ านจงึ ไมต่ อ้ งกดสวิทซ์หวั เช่อื ม ปริมาณการไหลของแก๊สใช้งาน จะขึ้นอยู่กับขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางลวดเชื่อมเป็นสาคัญ แตอ่ าจจะเพม่ิ ความดนั เผื่อกรณมี ีปจั จยั อ่ืนๆ เข้ามาเกยี่ วขอ้ ง ปริมาณแกส๊ ใช้งาน = ขนาดเสน้ ผา่ ศูนย์กลางลวดเชอ่ื ม × 10
3 ตัวอย่าง เช่น เส้นผ่าศูนย์กลางลวดเช่ือม 0.8 มม. × 10 เท่ากับ 8 มีหน่วยเป็นลิตรต่อ นาที (LPM หรือ L/min) การอ่านค่าความดันแก๊สใช้งานของโฟลว์มิเตอร์ (Flow meter) แบบบอลวาลว์ ต้องให้ขอบด้านบนลกู บอลตรงกบั ขีดที่อ่านค่า รปู ท่ี 5.1 ตาแหนง่ การอ่านค่าบอลวาลว์ ของโฟลว์มเิ ตอร์ 5.1.1.5 การปรับต้ังแก๊สก่อน-หลังเชื่อม (Pre Flow - Post Flow) แก๊สก่อนเช่ือม (Pre Flow) เป็นการปรับตั้งให้แก๊สไหลก่อนเกิดการอาร์ก คือ ถ้าปรับค่าแก๊สก่อนเช่ือม (Pre Flow) 2 วินาที หมายความวา่ เมอ่ื กดสวิทซ์หวั เชอ่ื มแก๊สคลุมจะไหลออกมากอ่ นเป็นเวลา 2 วินาที แล้วจึงเกิด การอารก์ การให้แกส๊ คลุมกอ่ นจะทาให้การเรม่ิ ต้นอาร์กมคี วามสมบูรณ์ลดปัญหาจุดเร่ิมต้น แกส๊ หลังเชื่อม (Post Flow) เป็นการปรับตั้งให้แก๊สไหลหลังการอาร์ก คือ ถ้าปรับค่าแก๊ส หลังเชื่อม (Post Flow) 3 วินาที หมายความว่าเม่ือเช่ือมเสร็จปล่อยสวิทซ์หัวเช่ือมการอาร์กหยุดแล้ว แก๊สคลุมยังคงไหลออกมาเป็นเวลา 3 วินาที แลว้ เคลื่อนหัวเชื่อมออกไป การให้แก๊สคลุมหลังเชื่อม จะ ทาให้ทา้ ยแนวเชอ่ื มมีความสมบูรณ์ ลดปัญหาการแตกรา้ ว 5.1.1.6 ความเร็วการเดินแนวเช่ือม (Travel Speed) คืออัตราความเร็วท่ีวัดได้จาก การเคล่ือนหัวเช่ือมไปบนความยาวของโลหะช้ินงาน ความเร็วในการเดินแนวเช่ือมจะถูกควบคุมโดย การเช่ือมแบบก่ึงอัตโนมัติ (Semiautomatic Welding) แต่ถ้าเป็นการเช่ือมแบบอัตโนมัติก็จะถูก ควบคุมด้วยระบบควบคุมของเครื่องเชื่อม ความเร็วการเดินแนวเชื่อมที่ระดับคงที่ จะมีผลให้การ หลอมลกึ ไดส้ ูงสดุ ถ้ามกี ารปรับความเร็วการเดินแนวเชื่อมให้สูงข้ึนหรือช้าลงก็จะมีผลทาให้การหลอม ลกึ ต่าลงได้ ถา้ ลดความเร็วการเดินแนวให้ช้าลง กจ็ ะทาใหผ้ ลแนวเชอ่ื มจะย่ิงนูนสูงมากข้ึน จนอาจจะมี ผลทาให้เกดิ รอยซ้อน (Overlapping) ตรงบรเิ วณขอบแนวเชอ่ื ม
4 5.1.1.7 ระยะยนื่ ลวดเช่ือม (Wire Extention) รปู ท่ี 5.2 ระยะยื่นลวดเช่ือม ระยะยื่นลวดเชื่อม คือความยาวปลายลวดเช่ือมท่ีโผล่ออกไปจากท่อนาลวด (Contact Tip) ภาษาอังกฤษใช้คาว่า Wire Extention หรือ Stick out บางตาราใช้คาว่า Electrode Stick Out หรือ Wire Stick Out ระยะยื่นลวดเช่ือมที่ใช้ทั่วไป ประมาณ 10-15 มม. ส่วนลวดเช่ือมและหัว เชื่อมขนาดใหญ่ท่ีใช้ในงานอุตสาหกรรม ส่วนมากเป็นหัวเชื่อมสาหรับลวดเชื่อม Flux Core Wire ระยะยื่นก็จะยาวออกไปตามความเหมาะสม การเตรียมความพร้อมก่อนเช่ือมเป็นการประมาณระยะ ยนื่ แตเ่ มือ่ จะทาการอาร์กจะเรียกวา่ ระยะ Tip-To-Work คือระยะความยาวจากท่อนาลวด (Contact Tip) ถึงชน้ิ งาน รูปที่ 5.3 ระยะท่อนาลวดถึงช้ินงาน (Tip-To-Work) ระยะ Tip-To-Work จะยาวหรอื สนั้ มีความแตกตา่ งของการเชอ่ื ม ดงั นี้ 1) ถ้าปรับใช้ระยะ Tip-To-Work ยาวจะมีผลทาให้เกิดความต้านทานที่ลวดเชื่อม สูงขึ้นตาม ทาให้เพ่ิมความร้อนให้ลวดเช่ือมก่อนท่ีจะเกิดการอาร์ก จากผลดังกล่าวจะทาให้กระแสไฟ เชื่อมท่ีจะมาช่วยหลอมเหลวลวดและอัตราการป้อนลวดเหลือน้อยลง จึงทาให้รูปทรงแนวเช่ือมและ การหลอมลกึ ไมส่ มบูรณ์และยังทาให้เกดิ แรงดันอาร์กไม่คงท่ี
5 2) ถ้าปรับใช้ระยะ Tip-To-Work สั้นคือหัวเชื่อมใกล้ชิ้นงาน จะทาให้เกิดกระแสไฟ เชื่อมสูงข้ึน แรงดันจะลดลงเล็กน้อย จะมีผลทาให้เปลวอาร์กส้ันไม่ค่อยมีสะเก็ดเชื่อม การหลอมลึกดี (Good Penetration) แต่ถ้าทาการเชื่อมแนวเชื่อมแคบ ๆ จะมีผลทาให้เกิดการหลอมเหลวไม่ดี (Poor Fusion) a) b) c) a) ระยะ Tip-To-Work ยาว b) ระยะ Tip-To-Work ปานกลาง c) ระยะ Tip-To-Work สัน้ รูปท่ี 5.4 แสดงความแตกต่างของแนวเชือ่ มท่ีระยะ Tip-To-Work ตา่ งกัน 5.1.2 ปัญหาการเชือ่ มและวธิ ีแกไ้ ข ในการปฏิบัติงานเช่ือมอาร์กโลหะแก๊สคลุมและงานเชื่อม Flux Core Wire มีข้อขัดข้องที่ทา ให้เกดิ ความย่งุ ยากในการเช่ือมหลายกรณี ดงั นี้ 5.1.2.1 การเริ่มตน้ อาร์กยงุ่ ยาก ตารางที่ 5.1 แสดงสาเหตุและวิธีแกไ้ ขการเรม่ิ ตน้ อาร์กยงุ่ ยาก สาเหตทุ ่เี กดิ ข้นึ วธิ ีแก้ไข ตอ่ ขวั้ กระแสไฟผิดพลาด ตรวจสอบการตอ่ ขั้วกระแสไฟให้ถูกต้อง คือ หวั เชอื่ มจับที่ การต่อสายดินอาจจะไม่แน่น ขว้ั บวก ยึดขอ้ ต่อหรือการจับสายดนิ กบั ชน้ิ งานให้แนน่
6 5.1.2.2 การอาร์กไมส่ ม่าเสมอ ตารางที่ 5.2 แสดงสาเหตุและวธิ แี ก้ไขการอาร์กไม่สมา่ เสมอ สาเหตทุ เ่ี กดิ ขึน้ วิธีแก้ไข ท่อนาลวด(Contact tip) ขนาดใหญ่ เปลี่ยนท่อนาลวด(Contact tip) ให้เหมาะสมกับลวด เกินไป เชอื่ ม ประกอบท่อนาลวดไมแ่ น่น ใชป้ ระแจหรือคมี ขนั ท่อนาลวดให้แน่น ล้อม้วนลวดหมนุ ไม่สม่าเสมอ ตรวจสอบการหมุนท่ขี ดั ขอ้ ง รอ่ งของลอ้ ป้อนลวดหลวม ปรับตวั กดลอ้ ป้อนลวดใหแ้ น่นมากข้นึ สายเชอ่ื มมว้ นพับ ตรวจเชค็ อย่าให้สายเชอื่ มม้วนพับ 5.1.2.3 สะเกด็ เชอื่ มกระเด็นจา่ นวนมาก ตารางที่ 5.3 แสดงสาเหตแุ ละวธิ ีแก้ไขสะเกด็ เชือ่ มกระเด็นจานวนมาก สาเหตุท่ีเกิดขนึ้ วิธแี ก้ไข ใชแ้ ก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ สะเก็ดเช่ือม เปล่ยี นเป็นแกส๊ ผสมอาร์กอนผสมคาร์บอนไดออกไซด์ กระเด็นจานวนมาก มมุ เอียงหวั เชือ่ มไม่ถูกต้อง ใชม้ ุมนาลวดใหถ้ กู ต้อง ประมาณ 15° ระยะหวั เชอื่ มถงึ ช้นิ งานมากเกินไป ลดระยะหวั เชอ่ื มถงึ ชนิ้ งานให้ตา่ ลง มีลมพดั ผ่านบริเวณเช่ือม ใชฉ้ ากหรอื แผงบังลม ท่อนาลวดไมไ่ ด้อยศู่ ูนย์กลางนอซเซลิ ปรบั ทอ่ นาลวดให้อยูศ่ นู ยก์ ลางนอซเซิล 5.1.2.4 อัตราป้อนลวดไม่สมา่ เสมอและเกิดการหลอมย้อนกลบั (Burn back) ตารางที่ 5.4 แสดงสาเหตแุ ละวิธแี ก้ไขอตั ราปอ้ นลวดไม่สม่าเสมอและเกดิ การหลอมย้อนกลบั สาเหตทุ เี่ กิดขึน้ ได้ วิธีแก้ไข เกิดการแกวง่ ตัวของวงจรกระแส ตรวจสอบแรงดันในสาย ตอ่ ขั้วกระแสไฟผิดพลาด ตรวจสอบข้วั กระแสไฟถา้ ผิดพลาดให้สบั เปลย่ี นข้วั ไฟ ใหม่
7 5.1.2.5 สายเชอื่ ม สายกราวด์รอ้ นผิดปกติ ตารางท่ี 5.5 แสดงสาเหตแุ ละวิธีแก้ไขสายเชอื่ ม สายกราวด์รอ้ นผิดปกติ สาเหตทุ ่ีเกิดข้นึ วธิ ีแกไ้ ข จุดตอ่ ต่างๆ ของสายเชื่อมและสาย ตรวจสอบจุดตอ่ ต่างๆ และขันยดึ ใหแ้ น่น กราวด์อาจจะหลวม 5.1.2.6 ชดุ หวั เช่ือมร้อนผดิ ปกติ ตารางที่ 5.6 แสดงสาเหตแุ ละวธิ ีแกไ้ ขชดุ หัวเช่อื มร้อนผิดปกติ สาเหตทุ ่ีเกิดข้นึ วิธแี กไ้ ข กระแสไฟสูงเกนิ ไป ลดกระแสไฟลงหรือเปลย่ี นชุดปืนเช่อื มใหถ้ ูกต้อง เหมาะสม 5.1.2.7 ลวดเช่อื มไมส่ ามารถปอ้ นออกได้ ตารางท่ี 5.7 แสดงสาเหตุและวธิ ีแก้ไขลวดเช่อื มไมส่ ามารถป้อนออกได้ สาเหตุท่เี กิดขน้ึ วิธแี ก้ไข ฟิวส์ของวงจรหรือฟิวส์เคร่ืองเช่ือมขาด เปล่ียนฟิวส์ใหม่ สวิทซห์ วั เชอ่ื มเกดิ บกพร่องหรือสายไฟขาด ตรวจสอบข้อต่อ, หรือเปลยี่ นสวทิ ซใ์ หม่ มอเตอรข์ บั ป้อนลวดไหม้ ตรวจสอบและเปลี่ยนใหม่ 5.1.2.8 ลวดเชื่อมกระแทกชิ้นงาน ตารางท่ี 5.8 แสดงสาเหตแุ ละวิธแี กไ้ ขลวดเชอื่ มกระแทกชิ้นงาน สาเหตุท่เี กดิ ขน้ึ วธิ แี ก้ไข อัตราปอ้ นลวดสงู เกินไป ลดความเรว็ ลง แรงดนั เช่อื มต่าเกินไป เพิม่ แรงดันเชื่อมสงู ขน้ึ การเอยี งมุมลวดมากเกินไปสาหรับการ ปรบั การเอียงมมุ ลวดให้เหมาะสม สง่ ถ่ายนา้ โลหะแบบลัดวงจร
8 5.1.2.9 แกส๊ คลุมไมไ่ หล ตารางที่ 5.9 แสดงสาเหตุและวิธแี กไ้ ขแกส๊ คลุมไม่ไหล สาเหตุทีเ่ กิดขึ้น วธิ ีแก้ไข วาล์วโซลินอยด์แกส๊ ชารุด เปลี่ยนใหม่ สายไฟตัวนาไปยงั ชดุ วาล์วโซลินอยด์ ตรวจสอบและซ่อม หลวมหรอื ขาด 5.1.2.10 ลวดเชื่อมไมส่ ามารถจุดอาร์กได้ ตารางที่ 5.10 แสดงสาเหตุและวิธีแกไ้ ขลวดเชอ่ื มไมส่ ามารถจุดอาร์กได้ สาเหตุทเ่ี กิดข้ึน วธิ แี ก้ไข ไมไ่ ดต้ อ่ สายกราวด์ ต่อสายกราวด์ จุดจับยึดสายกราวด์มสี หี รอื สนมิ และ ทาความสะอาด โดยเฉพาะสีหรอื สนิมบริเวณอุปกรณ์ อาจจะจับยดึ สายกราวด์ไมแ่ น่น จบั ยึดสายกราวดแ์ ละจบั ยดึ ให้แนน่ สายไฟตวั นาเข้าสชู่ ดุ ควบคุมขาด ซอ่ มแซมหรอื เปล่ียนใหม่ 5.2.11 แนวเชือ่ มเกดิ รพู รนุ ตารางที่ 5.11 แสดงสาเหตุและวธิ ีแกไ้ ขแนวเชอ่ื มเกิดรูพรนุ สาเหตทุ ่เี กิดข้นึ วธิ แี ก้ไข โลหะชิ้นงานสกปรก ทาความสะอาดกาจดั คราบสเกล, สนิม อัตราป้อนลวดสูงเกินไป ลดอตั ราป้อนลวดลง แกส๊ คลมุ มีความชื้นสงู เปลยี่ นทอ่ บรรจุแกส๊ ใหม่ ลวดเชอื่ มสกปรก ทาความสะอาดลวดก่อนใส่เข้าชุดป้อนลวด อตั ราการไหลของแก๊สตา่ ปรับตง้ั อตั ราไหลของแก๊สเพิม่ สงู ข้ึน เมด็ โลหะเกาะภายในนอซเซลิ กาจดั เม็ดโลหะออก ลดพัดแรงเกินไป ใช้แผ่นหรอื ฉากมาบงั ลม
9 5.1.2.12 ลวดเชือ่ มมว้ นทับกนั รอบ ๆ ล้อขบั ตารางท่ี 5.12 แสดงสาเหตแุ ละวธิ ีแกไ้ ขลวดเชื่อมม้วนทับกันรอบ ๆ ล้อขับ สาเหตทุ ่ีชอื่ เกดิ ขน้ึ วิธีแก้ไข แรงกดท่ีล้อขับป้อนลวดมากเกินไป หมุนปรับให้แรงกดนอ้ ยกว่าเดิม แล้วส่งป้อนลวดใหม่ ท่อนาลวด (Contact Tip) หลอมติด เปลี่ยนทอ่ นาลวด แล้วสง่ ป้อนลวดใหม่ ล้อขับป้อนลวดหรอื ชดุ นาลวดไมไ่ ด้ศนู ย์ ตรวจสอบและปรบั ให้ได้ศูนย์ แล้วส่งป้อนลวดใหม่ ภายในหัวเชื่อมหรือภายในสายเคเบลิ หัว กาจัดจดุ ท่ีตดิ ขดั ออก แล้วส่งปอ้ นลวดใหม่ เชอ่ื มเกดิ การติดขัด 5.1.2.13 ลวดเช่อื มหลอมติดกบั ทอ่ นา่ ลวด (Contact Tip) ตารางท่ี 5.13 แสดงสาเหตุและวิธีแก้ไขลวดเชอื่ มหลอมตดิ กับท่อนาลวด สาเหตทุ ี่เกิดขึ้น วิธแี กไ้ ข ระยะ Tip-To-Work ของลวดยาวเกนิ ไป ปรบั ระยะ Tip-To-Work ให้สน้ั หรอื ใกลช้ นิ้ งานมากขนึ้ ท่อนาลวด (Contact Tip) สึกกร่อนมาก เปล่ียนท่อนาลวด (Contact Tip) เกินไป 5.1.2.14 ปลายลวดเชอ่ื มแกว่ง ตารางท่ี 5.14 แสดงสาเหตุและวิธีแก้ไขปลายลวดเชอื่ มแกวง่ สาเหตทุ ี่เกิดขึน้ วิธีแกไ้ ข ระยะ Tip-To-Work ของลวดยาวเกินไป ปรบั ระยะ Tip-To-Work ให้สั้นหรอื ใกล้ชน้ิ งานมากขึ้น ท่อนาลวด (Contact Tip) สึกกร่อนมาก ท่อนาลวด (Contact Tip) เกนิ ไป
10 5.2.15 มอเตอร์ขบั ป้อนลวดท่างานแตล่ วดไม่ถกู ป้อน ตารางท่ี 5.15 แสดงสาเหตแุ ละวธิ ีแก้ไขมอเตอร์ขับปอ้ นลวดทางานแตล่ วดไมถ่ ูกปอ้ น สาเหตทุ เี่ กิดข้ึน วธิ แี กไ้ ข แรงกดดนั ทล่ี ้อขับป้อนลวดไม่เพียงพอ ปรบั เพิ่มแรงกดเลือกใช้ร่องล้อขบั ป้อนลวดให้ เหมาะสม แรงกดทีล่ ้อมว้ นลวดจากชดุ เบรกมากเกินไป ลดแรงกดท่เี บรกล้อมว้ นลวดใหล้ ดลง มีสิ่งทก่ี ดี ขวางภายในท่อนาลวดในสายเชอื่ ม กาจัดสิง่ กีดขวางภายในท่อนาลวดในสายเช่ือมหรอื หรอื ภายในหวั เช่อื ม ภายในหัวเชื่อม อาจจะเปล่ียนทอ่ นาลวดใหม่ ท่อนาลวดภายในสายเชื่อม หรอื ท่อนาลวด ตรวจสอบและเปล่ียนให้ไดข้ นาดที่ถกู ต้อง (Contact Tip) ไม่ถูกต้อง
Search
Read the Text Version
- 1 - 11
Pages: