การศึกษาดูงานทศ่ี าลแขวงชลบุรี 1. บทนำ เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2565 นายภีม ธงสันติ เลขาธิการสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่าย ตุลาการศาลยุติธรรม นายศรัณย์รัฐ ศรัณยสุนทร ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นประจำสำนักประธาน ศาลฎีกา นายลักษณ์พงศ์ จันทระ ผู้พิพากษาศาลจังหวัดเพชรบูรณ์ ช่วยทำงานชั่วคราวใน ตำแหน่งผู้พิพากษาศาลชั้นต้นประจำสำนักประธานศาลฎีกา นางสาวมาเรียม วันเดวา ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม และนางจุฬาลัคน์ ปราโมช ณ อยุธยา ผู้อำนวยการวิทยาลัยข้าราชการศาลยุติธรรม ได้นำคณะผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตร “ผู้อำนวยการระดับต้น” รุ่นที่ 9 เดินทางไปศึกษาดูงานศาลแขวงชลบุรี โดยมีนายคนองเดช สวัสดิ์วงศ์วิชา ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลจังหวัดกาญจนบุรี ช่วยทำงานชั่วคราวใน ตำแหน่ง ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแขวงชลบุรี และจ่าสิบตำรวจนิกร น้อยรักษา ผู้อำนวยการ สำนักงานประจำศาลแขวชลบุรี และคณะให้การต้อนรับ ภาพแสดงอาคารศาลแขวงชลบุรี
๒ ภาพผพู้ ิพากษาหัวหนา้ ศาลแขวงชลบุรีใหก้ ารต้อนรบั คณะศกึ ษาดงู าน 2. สภาพทั่วไป 2.1 ประวตั ิของศาลแขวงชลบุรี กระทรวงยุติธรรมโดยพระยาธนกิจรักษาและหลวงกิติประกาศได้ทำสัญญาจ้างจีนจงให้ เป็นผูร้ บั เหมาทำการก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลเมืองชลบุรเี มื่อวันที่ 22 มกราคม ร.ศ. 128 ใน วงเงินค่าจ้าง 25,400 บาท กำหนดแล้วเสร็จตามสัญญาภายใน 10 เดือน หรือ 300 วัน ตัว อาคารศาลหลังที่สร้างขึ้นนั้นใช้แบบแปลนของอาคารศาลเมืองเพชรบุรี ซึ่งได้ก่อสร้างเมื่อ ร.ศ. 126 เป็นอาคารตึกชั้นเดยี วมีบัลลังกพ์ ิจารณาเพียง 1 บัลลังก์ และมีหอ้ งผู้พิพากษา ห้องเสมียน พนักงาน ซึ่งเป็นอาคารที่สง่างามเหมาะสมกับที่จะเป็นอาคารที่ทำการศาลในสมัยนั้น ในปี พ.ศ. 2499 รัฐบาลได้มีนโยบายที่จะเปิดดำเนินงาน ศาลแขวงขึ้นในส่วนภูมิภาคเป็นบางจังหวัด และ จังหวัดชลบุรีเป็นจังหวัดหนึ่งที่ทางกระทรวงยุติธรรมกำหนดให้มีศาลแขวง ในระยะแรกนี้ศาล แขวงไม่มีที่ทำการศาลเป็นของตนเองจึงต้องใช้ที่ทำการของ ศาลจังหวัดเป็นที่ทำการของศาล แขวงด้วย จึงทำให้ตัวอาคารของศาลเดิมทีค่ ับแคบไมเ่ พียงพอแก่การปฏิบัติงานอยู่แล้ว เมื่อศาล แขวงมารวมอยู่ในอาคารเดียวกันอีกก็จะไมส่ ะดวกในการปฏิบัติราชการยิ่งขึ้น ศาลจังหวัดชลบรุ ี จงึ รายงานกระทรวงยุตธิ รรมผ่านอธบิ ดีผู้พิพากษาภาคของบประมาณมาทำการต่อเติมอาคารท่ีทำ การของศาลจังหวัดชลบุรี โดยเสริมปีกทั้งสองข้างออกไปเป็นห้องพิจารณา และแบ่งส่วนหน่ึง ทางด้านทิศเหนือเป็นที่ทำการของศาลแขวง โดยศาลแขวงชลบุรีได้เปิดทำการตั้งแต่วันที่
๓ 1 มิถุนายน 2500 มีนายสัญชัย สัจจวานิช เป็นผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแขวงชลบุรีคนแรก และ นายสมบูรณ์ บุญภินนท์ เปน็ ผูพ้ ิพากษา เนื่องจากมีคดีมาสู่ศาลมากขึ้นทุก ๆ ปี ที่ทำการคับแคบไม่สะดวกแก่การพิจารณา พิพากษาคดี กระทรวงยุติธรรมได้ตะหนักถึงความจำเป็นดังกล่าวในปีงบประมาณ 2507 จึง จัดสรรงบประมาณจำนวน 400,000 บาท เป็นค่าก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลแขวงชลบุรีหลัง ใหม่ มขี นาด 2 บลั ลงั ก์ โดยได้รับอนุมัติจากจงั หวดั ชลบรุ ใี ห้ใชท้ ดี่ ินที่ราชพสั ดุ (ท่ีดินวดั สวนตาล) ของกรมการศาสนา กระทรวง ศึกษาธิการ เนื้อที่ 1 ไร่ 65 ตารางวา ตั้งอยู่ที่ ถนนวชิรปราการ ตำบลบางปลาสรอ้ ย อำเภอเมือง จังหวดั ชลบรุ ี เริม่ ทำการกอ่ สรา้ งอาคารท่ีทำการศาลแขวงชลบรุ ี เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2507 โดยมีนายสมาน เจนนภา ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแขวงชลบุรีใน ขณะนั้นเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างและประกอบพิธีเปิดอาคารที่ทำการศาลหลังใหม่ เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2508 โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นประธาน แต่ได้มอบหมายให้ นายศิริ มลลิ า อธบิ ดผี ู้พพิ ากษาภาค 2 เปน็ ประธานในพธิ แี ทน ทง้ั นี้เนือ่ งจากรัฐมนตรีปว่ ยกะทันหนั หลังจากที่ศาลแขวงชลบุรีเปิดทำการแล้ว ปรากฏว่ามีการขยายตัวของชุมชนในจังหวัด ชลบรุ ีอยา่ งตอ่ เน่อื ง มีการก่อสรา้ งสถานประกอบการ นคิ มอุตสาหกรรม โครงการหมบู่ ้านจัดสรร และศนู ย์การค้าขนาดใหญ่ โดยเฉพาะจงั หวัดชลบุรีมีแหล่งทอ่ งเทีย่ วที่สำคญั หลายแหง่ เปน็ เหตุให้ มีข้อพพิ าทเพ่มิ ขนึ้ ปริมาณคดที เี่ ข้าสกู่ ารพจิ ารณาของศาลแขวงชลบรุ ีเพม่ิ ขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงได้มี การปรับปรุง ขยายอาคารศาลโดยเพิ่มห้องพิจารณาเป็น 4 บัลลังก์ รวมทั้งได้ขยายห้องพักผู้ พิพากษาและห้องทำงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรการเพิ่มขึ้นอีก แต่ก็ยังคงไม่เพียงพอท่ี จะรองรับ ปริมาณคดีที่เพิ่มมากขึ้นทุกปี ในแต่ละวันจะมีประชาชนและคู่ความมาติดต่อราชการเป็นจำนวน มาก อาคารสถานที่จึงคับแคบ ทั้งห้องพิจารณาคดีก็มีไม่เพียงพอกับจำนวนผู้พิพากษา เป็นการ ไม่สะดวกแก่การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่และการให้บริการแก่ประชาชนที่มาติดต่อราชก าร ด้วยเหตุขัดข้องดงั กลา่ ว กระทรวงยุติธรรมจึงได้พิจารณาจดั สรรงบประมาณในปี 2538 เป็นเงิน จำนวน 183,079,900 บาท เพื่อก่อสร้างอาคารศาลแขวงชลบุรีขึ้นใหม่บริเวณถนนพระยาสัจ จา ตำบลบางปลาสรอ้ ย อำเภอเมืองชลบรุ ี จงั หวดั ชลบุรี ซ่งึ เป็นทีด่ ินของศาลจงั หวดั ชลบรุ ดี ้านทิศ ตะวันตก โดยสร้างเป็นอาคารคอนกรีตขนาดใหญ่จำนวน 9 ชั้น มีห้องพิจารณาคดีจำนวน 16 บัลลังก์ อาคารศาลหลังนี้ ห้างหุ้นส่วนจำกัดบางแสนมหานครเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง เริ่มทำการ กอ่ สร้างเมื่อวนั ท่ี 1 ตุลาคม 2539 และได้กอ่ สร้างแลว้ เสร็จเมอ่ื วนั ที่ 23 พฤษภาคม 2541 โดย เปิดทำการตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม 2543 เป็นต้นมา ส่วนอาคารศาลแขวงชลบุรีหลังเดิมที่ กอ่ สรา้ งบนทด่ี ินวดั สวนตาลส่งมอบคนื ให้กบั สำนกั พระพุทธศาสนาแห่งชาติ
๔ 2.2 เขตอำนาจศาล เดิมศาลแขวงชลบุรีมีเขตอำนาจครอบคลุมทุกพื้นท่ใี นจังหวัดชลบรุ ี รวม 11 อำเภอ คือ อำเภอเมืองชลบุรี อำเภอพนัสนิคม อำเภอพานทอง อำเภอบ้านบึง อำเภอบ่อทอง อำเภอศรี ราชา อำเภอบางละมุง อำเภอสัตหีบ อำเภอบ่อทอง อำเภอหนองใหญ่ อำเภอเกาะสีชัง และ อำเภอเกาะจันทร์ ต่อมาเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2543 ศาลจังหวัดพัทยาได้เปิดทำการพื้นท่ี บางส่วนจึงอยู่ในเขตอำนาจของศาลจังหวัดพัทยา และได้มีพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงเขต อำนาจศาลแขวงชลบุรี พ.ศ. ๒๕๔๓ และพระราชกฤษฎกี าเปลี่ยนแปลงเขตอำนาจศาลแขวงชลบรุ ี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2543 กำหนดเขตอำนาจใหม่ โดยให้ศาลแขวงชลบุรีมีเขตอำนาจในพื้นท่ี เหลืออยู่รวม 9 อำเภอ คอื 1. อำเภอเมอื งชลบรุ ี 2. อำเภอบ่อทอง 3. อำเภอบา้ นบึง 4. อำเภอ พนัสนิคม 5. อำเภอพานทอง 6. อำเภอหนองใหญ่ 7. อำเภอเกาะสีชัง 8. อำเภอเกาะจันทร์ 9. อำเภอศรรี าชา ยกเว้น ตำบลทงุ่ สขุ ลา ตำบลบงึ และตำบลบ่อวิน ภาพแสดงเขตอำนาจศาลแขวงชลบรุ ี 2.3 ที่ตัง้ หน่วยงาน ศาลแขวงชลบุรี ตั้งอยู่ที่อาคารศาลแขวงชลบุรี ถนนพระยาสัจจา ตำบลบางปลาสร้อย อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี 20000 โทร. 038-261518 , 038-288359 , 038-274184 โดยมีหน่วยงานอื่นของสำนักงานศาลยุติธรรมใช้พื้นที่ร่วมด้วย ได้แก่ สำนักงานอธิบดีผู้พิพากษา ภาค 2 ศาลแรงงาน ภาค 2 และศาลจังหวัดชลบรุ ี (กลมุ่ งานไกล่เกลย่ี และประนอมข้อพิพาท)
๕ ภาพแสดงแผนทีศ่ าลแขวงชลบุรี 3. ภารกิจของหนว่ ยงานตามนโยบายผู้บริหารศาลยตุ ธิ รรม จากการศึกษาดูงานศาลแขวงชลบุรี พบว่าศาลแขวงชลบุรีสามารถดำเนินงานตาม นโยบายของสำนกั งานศาลยตุ ิธรรมและนโยบายประธานศาลฎีกาได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ อาทิเชน่ 3.1 ดำเนินการตามนโยบายประธานศาลฎีกา พ.ศ. 2564 – 2565 “ความยุติธรรมที่ เขา้ ถงึ ง่าย” โดยศาลแขวงชลบรุ ไี ดน้ ำคำรอ้ งขอปล่อยชว่ั คราวโดยโดยไม่ตอ้ งเสนอหลักประกันมา พร้อมคำร้องมาใช้ เพ่ือให้เป็นไปตามนโยบายประธานศาลฎีกา ข้อ 1 ส่งเสริมบทบาทศาลยุตธิ รรม ในการคุม้ ครองสิทธเิ สรีภาพของประชาชนภายใตห้ ลักนิติธรรม ปรับปรุงกระบวนการในช้นั ฝากขัง และการปล่อยชั่วคราวให้เกิดการบูรณาการเพื่อลดการคุมขังที่ไม่จำเป็น เสริมสร้างระบบการ ปล่อยตวั ชั่วคราวทม่ี ีประสิทธภิ าพ สะดวก รวดเรว็ ลดการเรียกหลักประกนั ลงเพื่อลดความเหลอ่ื ม ลำ้ ของโอกาสทจ่ี ะไดร้ ับแล้ว มุง่ เน้นให้โอกาสประชาชนเข้าถึงสทิ ธิท่ีจะไดร้ ับการปลอ่ ยชว่ั คราว ภาพแสดงการศกึ ษาดูงานกลมุ่ งานไกลเ่ กลี่ยและประนอมข้อพพิ าท
๖ 3.2 การวางระบบการบริหารจัดการคดีให้สามารถดำเนินการเสร็จภายในมาตรฐาน ระยะเวลาที่กำหนด ประชาสัมพันธ์ระบบการยื่นฟ้องผ่านระบบ e-Filing ซึ่งในเดือนมิถุนายน 2565 ศาลแขวงชลบุรี เป็นศาลที่มีสถติ ิคดีการให้บริการยื่น ส่งและรับคำคู่ความและเอกสารทาง ระบบรับ-ส่ง อิเล็กทรอนิกส์ (e - Filing) ลำดับที่ 1 ในศาลประจำภาค 2 และลำดับที่ 6 จากศาล ทั่วประเทศ โดยการนัดพิจารณาคดีต้องเป็นไปตามนโยบายของสำนักงานศาลยุติธรรม คือ คดี จดั การพิเศษนบั แตว่ นั ฟอ้ งถึงวันนัดระยะเวลาไม่เกนิ 45 วัน กรณีทนายความต้องการยืน่ ฟ้องผ่าน ระบบ e - Filing ต้องโทรสอบถามวันนดั กับเจา้ หนา้ ที่รบั ฟ้องที่ได้รบั มอบหมายให้เปิดวันนดั กอ่ นจงึ จะยืน่ ฟ้องได้ ทำใหส้ ามารถควบคุมวันนดั ใหเ้ ป็นไปตามกรอบในการบรหิ ารจดั การคดใี ห้เสรจ็ ภายใน ระยะเวลาท่ีกำหนดได้ รวมทัง้ การจัดทำรปู เลม่ สำนวน e-Filing ดำเนนิ การตามแนวทางปฏิบัติตาม มาตรการลดกระดาษ ลดพื้นที่จัดเก็บของสำนวน ภายใต้การบริหารด้วยความคิดเห็นตรงกัน ระหวา่ งผูบ้ ริหาร ผู้พพิ ากษาและผู้ปฏิบตั ิ ภาพแสดงขอ้ มูลสถติ ิการรบั ส่งคำคคู่ วามทางระบบ e-Filing
๗ 3.3 ส่งเสริมการใช้วิธีพิจารณาคดีทางอิเล็กทรอนิกส์ ทุกขั้นตอนของการดำเนินคดี สำหรับคู่ความ ที่มีความพร้อมด้านเทคโนโลยี ปรากฏตามข้อมูลสถิติการใช้วิธีพิจารณาคดีทาง อิเล็กทรอนิกส์ของสำนักส่งเสริมงานตุลาการ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565 สูงสุดเป็นลำดับที่ 1 ของสำนกั งานศาลยุติธรรมประจำภาค 2 รวมจำนวน 8,938 คร้ัง ภาพแสดงการศกึ ษาดูงานห้องพิจารณาคดอี เิ ล็กทรอนิกส์ 3.4 การสร้างสรรค์นวัตกรรมมาใช้ในการบริหารจัดการคดี เพื่อให้ผู้บรหิ ารสามารถ มาบริหารจดั การคดไี ด้โดยง่าย ถูกต้อง ครบถว้ น ภายใต้กำหนดระยะเวลามาตรฐาน ซึ่งนวตั กรรม นี้ผูบ้ รหิ ารตรวจสอบปริมาณคดฟี อ้ งใหม่ วันนดั ทำใหส้ ามารถควบคมุ วันนดั และปรมิ าณคดีให้อยู่ ภายในกรอบคดีได้ ซึ่งผลงานดังกล่าวติดลำดับ 1 ใน 7 ผลงานประเภทนวัตกรรมการบริหารคดี (รอบแรก) ของการประกวดแข่งขันการสร้างสรรค์นวัตกรรมการบริหารคดีและนวัตกรรมการ บรกิ าร ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2565 ภาพแสดงรายช่ือศาลแขวงชลบรุ ที ต่ี ิดลำดับผลงานนวัตกรรมการบรหิ ารจดั การคดี
๘ ดังนั้น จะเห็นได้ว่าการศึกษาดูงานศาลแขวงชลบุรีครั้งนี้มีประโยชน์และสามารถ นำไปพัฒนาเป็นแนวทางในการบริหารงาน การประสานงาน และการประชาสัมพันธ์ เพื่อให้เกิด ผลสมั ฤทธิ์แก่องค์กรได้ 4. ประโยชนจ์ ากการศึกษาดงู านศาลแขวงชลบรุ ี 4.1 สามารถนำความรู้จากการศึกษาดูงานมาใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาบุคลากร ของหน่วยงานเพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานมีความรู้ ความเข้าใจ และสามารถปฏิบัติตามแนวนโยบายได้ อย่างเหมาะสมและมปี ระสทิ ธิภาพ 4.2 ทำให้คู่ความ ทนายความและประชาชนที่มาติดต่อราชการศาลได้รับความ สะดวก รวดเร็ว และการบริการอย่างมีประสทิ ธภิ าพ 4.3 ทำให้องค์กรศาลได้รับความเชื่อมั่นศรัทธาจากประชาชนในอันที่จะได้รับการ อำนวยความยุตธิ รรมทางศาลและเป็นภาพลักษณท์ ด่ี ีตอ่ องค์กรศาล 4.4 ทำให้หน่วยงานแต่ละหน่วยงานทราบแนวทาง สาเหตุ ปัจจัยที่เป็นปัญหาและ อปุ สรรคของการปฏิบตั งิ านของแตล่ ะศาล 5. ข้อเสนอแนะ หากหน่วยงานที่เข้าศึกษาดูงานสามารถนำแนวทางและนโยบายการบริหารงานของ ศาลแขวงชลบุรีที่ดำเนินการตามนโยบายประธานศาลฎีกาจะทำให้การอำนวยความยุติธรรม เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้การปฏิบัติงานเป็นไปตามมาตรฐานเดียวกัน ลดขั้นตอนการ ปฏิบตั ิงาน สามารถบริการประชาชนท่มี าติดตอ่ ราชการศาลได้รับความสะดวก รวดเรว็ และทวั่ ถงึ
๙ ภาพการศกึ ษาดงู านท่งี านบริหารจัดการคดี ภาพการศกึ ษาดูงานทีง่ านไกลเ่ กล่ียและประนอมขอ้ พพิ าท
๑๐ ภาพการศกึ ษาดูงานทหี่ อ้ งพิจารณาคดอี เิ ลก็ ทรอนิกส์
๑๑ การศกึ ษาดูงานโครงการป่าวังจนั ทร์ 1. ประวัติความเปน็ มาโครงการปา่ วังจนั ทร์ จากนโยบายของ ปตท. ที่ให้ความสำคัญในด้านสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างยิ่ง โดยในปี พ.ศ. 2537 ได้อาสาปลูกป่า 1 ล้านไร่ ทั่วประเทศ ในโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั ฯ รัชกาลที่ 9 เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ปีที่ 50 จากผลสัมฤทธิ์ ในการดำเนินงานตลอด 25 ปี ในการฟื้นฟูป่าทั่วประเทศกว่า 1 ล้านไร่ ปตท. ได้พัฒนาต่อยอด และจัดตั้ง “สถาบันปลูกป่าและระบบนิเวศ ปตท.” ดำเนินภารกิจในการฟื้นฟูป่าและระบบนิเวศ ส่งเสริมพัฒนาเครือข่ายเพื่อดูแลป่าอย่างยั่งยืน ซึ่งนอกจากการดำเนินงานของ ปตท. ที่ช่วยฟื้นฟู ป่าเสื่อมโทรมให้แก่ประเทศกว่า 1 ล้านไร่ แล้ว ยังได้ก่อให้เกิดองค์ความรู้ด้านการจัดการป่าจาก ประสบการณ์จริงในการดำเนินโครงการ และเพื่อเป็นการรวบรวมองค์ความรู้ รวมถึงแสดง ผลสำเร็จเผยแพร่สู่สาธารณชน ปตท. จึงได้จัดตั้งศูนย์เรียนรู้ทั้งหมด 3 แห่ง โดยได้ร่วมมือกับ หน่วยงานภาครัฐ จัดตั้งโครงการ “ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี” จังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ และจัดตั้งศูนย์เรียนรู้ขึ้นบนที่ดินของ ปตท. อีก 2 แห่ง ได้แก่ “ศูนย์เรียนรู้ป่าใน กรุง” กรุงเทพมหานคร และ “ศนู ยเ์ รียนรู้ปา่ วงั จนั ทร”์ จังหวัดระยอง โดยในปี พ.ศ. 2557 สถาบันปลูกป่าและระบบนิเวศ ปตท. ได้รับมอบหมายเข้ามา พัฒนาที่ดินในพื้นที่วังจันทร์วัลเลย์ จ.ระยอง และเลือกพื้นที่จำนวน 351.35 ไร่ เพื่อเป็นพื้นท่ี สำหรับการเรียนรู้ การพักผ่อนหย่อนใจ โดยคำนึงถึงการออกแบบการใช้ประโยชน์ของพื้นที่ โดยเปลี่ยนแปลงสภาพธรรมชาติให้น้อยท่สี ุด โดยพัฒนาเป็นพื้นท่ีรวบรวมองคค์ วามรจู้ ากประสบการณ์ การดำเนินโครงการปลกู ปา่ ฯ 1 ล้านไร่ ท่ัวประเทศของ ปตท. จงึ ไดจ้ ัดตง้ั “ศนู ยเ์ รยี นรปู้ า่ วงั จนั ทร์” ภายใตแ้ นวคิดการพัฒนาศนู ย์เรียนรูด้ ้านการจดั การปา่ ครบวงจร เป็นพนื้ ท่ีสาธติ การปลูกป่าและวิจัย การฟื้นฟูปา่ หลากหลายรปู แบบ เป็นแหล่งรวบรวมพันธุ์ไม้ท้องถ่ินภาคตะวันออกและพนั ธุ์ไมห้ ายาก ของไทย รวมถึงเป็นแหล่งศกึ ษาเรยี นรู้เรือ่ งการปลกู ป่าและระบบนิเวศป่าไม้ ใหแ้ กน่ ิสิต นักศึกษา นักเรียน และประชาชนผู้สนใจ อีกทั้งเป็นแหลง่ ทอ่ งเทยี่ วเชงิ นเิ วศแหง่ ใหมท่ ส่ี ำคญั ของภาคตะวันออก โดยศูนยเ์ รียนรู้ป่าวังจนั ทร์ ได้รับพระมหากรุณาธคิ ณุ จากสมเด็จพระกนษิ ฐาธิราชเจ้า กรมสมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จเปิดศูนย์ฯ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม 2558 และไดเ้ ปดิ ให้บริการแกป่ ระชาชนต้ังแต่นน้ั เป็นตน้ มา
๑๒ 2. วัตถปุ ระสงคข์ องโครงการปา่ วังจันทร์ 1. เป็นศูนยก์ ารศกึ ษา วิจัย และพัฒนาองคค์ วามรูด้ า้ นการจดั การปา่ ไม้ ตั้งแต่การผลิต และคดั เลอื กเมลด็ พันธุ์ การเพาะชำกล้าไม้คณุ ภาพ การปลกู บำรุงรกั ษา และการใชป้ ระโยชนจ์ ากป่าไม้ 2. เป็นศูนยร์ วบรวมศาสตรค์ วามรูเ้ รอ่ื งการปลกู ปา่ รูปแบบตา่ ง ๆ ภูมิปญั ญาด้านการปา่ ไม้ เปน็ แหล่งรวบรวมชนิดพันธุ์ไมท้ อ้ งถน่ิ ของภาคตะวนั ออก และพนั ธ์ไม้หายาก 3. เป็นแหล่งเผยแพร่ความรู้ และศึกษาดูงานด้านป่าไม้ สิ่งแวดล้อม รวมทั้งยังเป็น แหลง่ ทอ่ งเที่ยวเชงิ นิเวศ สำหรบั นกั เรียน นกั ศึกษา และผ้สู นใจท่ัวไป 4. เป็นพื้นที่ปลูกป่านำร่องเพื่อเข้าร่วมโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจ (Thailand Voluntary Emission Reduction ; T-VER) สาขาปา่ ไม้
13 มหัศจรรย์แห่งการเรียนรทู้ ่ปี า่ วงั จันทร์ ภายในอาณาบริเวณโครงการ ป่าวังจันทร์ซึ่งมีเนื้อที่กว่า 351.35 ไร่ ได้รับ การจัดสรรพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อใช้ประโยชน์ใน การศึกษาเรียนรู้ด้านการฟื้นฟูป่า และงาน ศึกษาวิจัยด้านการป่าไม้ โดยแบ่งสัดส่วนการ พัฒนา ประกอบด้วยพื้นที่ปลูกป่า 281.07 ไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 80 พน้ื ที่สำหรับการบริหาร จัดการน้ำและบ่อเก็บน้ำ 42.31 ไร่ หรือร้อยละ 12 นอกจากนี้ยังได้จัดสรรพื้นท่ีให้เป็นที่ตั้งของ อาคารสำนักงาน ห้องนิทรรศการ และกลุ่ม เรือนเพาะชำกล้าไม้ และเส้นทางศึกษา ธรรมชาติรวม 27.97 ไร่ หรือร้อยละ 8 ของ พน้ื ที่ แหลง่ เรียนรูเ้ รอื่ งราวของผนื ป่า บนพืน้ ที่ 281.07 ไร่ หรอื รอ้ ยละ 80 ของพื้นที่รวมทั้งหมดของโครงการป่าวัง จันทร์ ส่วนที่เป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องการฟื้นฟูป่า ถูกจัดแบ่งเป็นโซนจำนวน 6 โซน โดยแต่ละโซน จะจัดแสดงรูปแบบการฟื้นฟูป่าในแต่ละแบบ ที่ผู้ เขา้ ชมสามารถศึกษาเรียนรู้และนำไปประยกุ ต์ใช้ได้ ซ่งึ ประกอบด้วย โซน A มหศั จรรย์พรรณไม้ โซน B พื้นที่ฟื้นฟูป่าธรรมชาติ โซน C พื้นที่ป่า คาร์บอนต้นแบบ โซน Dพื้นที่วิจัยรูปแบบการ ปลูกป่า โซน E มหัศจรรย์พรรณไม้ โซน F พ้นื ท่ฟี น้ื ฟูปา่ ธรรมชาติ
14 อาคารนิทรรศการและสำนกั งาน อาคารนิทรรศการไดร้ ับการออกแบบใหม้ คี วามกลมกลนื กับบรรยากาศท่ีเป็นธรรมชาติ ด้วย แนวคิด “บ้านต้นไม้” ซึ่งจะสังเกตเห็นว่าโครงสร้างเสาของอาคารจะเอียงเลก็ นอ้ ยเหมือนกับต้นไม้ในปา่ ขณะทีภ่ ายในอาคารประกอบดว้ ยหอ้ งจดั แสดงสาระความรู้จำนวน 3 หอ้ งดว้ ยกัน ไดแ้ ก่ 1. หอ้ งจันทรฉ์ าย ท่บี อกเลา่ เรอ่ื งราวเกยี่ วกับจังหวดั ระยอง 2. ห้องจันทร์พนา นำเสนอเรื่องราวความรู้เกี่ยวกับป่าไม้ และผลสำเรจ็ ของโครงการปลกู ป่าตลอดระยะเวลา 20 ปี ของ ปตท. 3. ห้องวังจันทร์ นำเสนอเรื่องภูมิศาสตร์ของอำเภอวังจันทร์ ประวัติ และพัฒนาการของ โครงการป่าวังจนั ทร์ และแนวคิดดา้ นการฟนื้ ฟปู ่ารปู แบบตา่ ง ๆ ทีน่ ำมาใชใ้ นพ้นื ท่ีแห่งนี้ ภาพแสดงหอ้ งแหล่งเรียนรู้การบริหารจัดการพ้นื ดินและผนื ทป่ี ่า
15 ภาพการบรรยายของวิทยากรและการนำเสนอข้อมลู ของพื้นท่ี หลังจากได้รับความรู้จากนิทรรศการและสื่อมัลติมีเดียบนอาคารนิทรรศการ สามารถออก กำลังกายด้วยการเดินเก็บเกี่ยวความรู้จากห้องเรียนธรรมชาติที่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ ของป่าไม้ใน เสน้ ทางธรรมชาตภิ ายในโครงการทัง้ ระยะทางสน้ั และยาว เสน้ ทางตัดผา่ นแหลง่ เรยี นรู้เพอื่ เตมิ เต็มสารพัด ความรู้เรื่องการปลูกป่า
16 ภาพกจิ กรรมการปลกู ปา่ ของผเู้ ขา้ รับการอบรม “โครงการป่าวังจันทร์” ได้รับความร่วมมือจากหลาย ๆ ฝ่าย ในการวางแผน คิด ค้นคว้า วิจัย และดึงเอานวัตกรรมต่าง ๆ มาปรับใช้มากมาย จนทำให้ป่าแห่งนี้มีความพิเศษเฉพาะตัว เป็น เอกลักษณท์ แ่ี ตกต่างไปจากปา่ อืน่ ๆ อยู่ในหลายแงม่ มุ ดังนี้ 1. ปลกู ป่านเิ วศสไตลญ์ ปี่ นุ่ แบบ “ศ. ดร.อาคิระ มยิ าวาก”ิ ป่าวังจันทร์ มีการออกแบบป่าตามแนวคิดของ ศาสตราจารย์ ดร.อาคิระ มิยาวากิ (Miyawaki’s Method) ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศวิทยานานาชาติประจำประเทศญี่ปุ่น โดยร่วมกับองค์ ความรู้การปลูกป่าของ ปตท. ให้มีสภาพใกล้เคียงสภาพป่าธรรมชาติมากที่สุด สร้างความหลากหลายทาง ชีวภาพให้เหมือนป่าดั้งเดิม มีการเตรียมพื้นที่ ขุดบ่อสร้างเนินดินสูง วิเคราะห์และปรับปรุง คุณภาพดนิ แ ล ะ เ ล ื อ ก ใ ช ้ พ ร ร ณ ไ ม ้ ด ั ้ ง เ ด ิ ม ข อ ง จ ั ง ห ว ั ด ร ะ ย อ ง ท ี ่ เ ห ม า ะ ส ม ก ั บ ส ภ า พ ข อ ง ด ิ น ม า ป ลู ก จึงสามารถฟน้ื ฟูป่าได้ในระยะสั้นและเรว็ ปลูกไดใ้ นพน้ื ท่ีจำกดั แม้ตน้ ทนุ จะสงู แต่คุม้ คา่ ช่วยดดู ซบั มลพษิ ทางอากาศได้ดี
17 2. ปลูกปา่ ด้วยพรรณไม้ดงั้ เดิมของจงั หวดั ระยอง เพื่อเป็นการฟื้นฟูป่าให้เหมือนธรรมชาติมากที่สุด ต้นไม้ที่นำมาปลูกในป่าแห่งนี้จะใช้ พรรณไม้พื้นเมือง (Native Species) ท้องถิ่นดั้งเดิม ไม่ใช้ไม้ต่างถิ่น เพื่อเป็นการคืนธรรมชาติให้กับดิน และทำใหง้ า่ ยต่อการดแู ลรกั ษาดว้ ย นอกจากนี้จะมีการปลกู พรรณไมห้ ลาย ๆ ชนดิ ปะปนกนั ท้ังไม้ยืนตน้ ไมพ้ ุ่ม ผลไม้ข้ึนชื่อของระยอง เพ่ือใหม้ สี ภาพคลา้ ยธรรมชาตมิ ากท่ีสดุ มีการปลกู พรรณไมร้ มิ นำ้ และไมย้ นื ตน้ อย่ใู นบรเิ วณใกลเ้ คยี งกัน 3. ปลกู ปา่ ใหห้ นาแนน่ มีต้นไม้เตม็ พน้ื ทเ่ี พอื่ แยง่ กันเจริญเติบโต ภายในพื้นที่ 1 ตารางเมตร จะปลูกต้นไม้ประมาณ 3-4 ต้น เพื่อเพิ่มความหนาแน่น โดย ใน 1 ไร่ จะมไี ด้มากถึง 6,000 ตน้ เลยทีเดยี ว โดยจะปลกู แบบสุม่ ไม่เป็นแนวตรง เพ่อื บังคบั ให้ต้นไม้สูงข้ึนไป หาแสงแดด และแข่งกันเจริญเติบโต หากต้นไหนรอดก็เท่ากับว่าธรรมชาติได้คัดสรรให้ต้นนั้นมีอัตราการ เจรญิ เติบโตทส่ี งู น่ันเอง ภาพกจิ กรรมการปลกู ป่าของผู้เขา้ รบั การอบรม 4. ปลกู ป่าคาร์บอนตน้ แบบ ลดภาวะเรือนกระจก ป่าวังจนั ทร์ ถอื เป็นปา่ คารบ์ อนตน้ แบบ (Forest Carbon Model) ท่ีมสี ว่ นช่วยลดภาวะ โลกร้อนไดส้ ูง สามารถดูดซับก๊าซคารบ์ อนไดออกไซด์ได้มากกว่าป่าที่ปลูกทัว่ ไปกวา่ 3-4 เท่า เพราะมีการ ปลูกเลียนแบบธรรมชาติ ไม่เป็นแถวเป็นแนว และคายออกซิเจนกลับคืนสู่บรรยากาศได้จำนวนมาก เชน่ กนั 5. ปลูกป่าสรา้ งระบบนเิ วศ ขดุ บ่อ สรา้ งพ้ืนท่ีชุม่ น้ำกระจายทวั่ ป่า ป่าวังจันทรม์ ีการขดุ บ่อนำ้ ขนาดตา่ ง ๆ ข้ึนมาใหม่ กระจายอยู่ทัว่ ท้ังป่าทั้งหมด 8 บ่อ ลดหลั่นตามความสูงของพื้นที่ เพื่อกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้และไหลคืนสู่คลองตามธรรมชาติ เมื่อมีพื้นที่ชุ่มน้ำ เยอะก็จะทำให้มีระบบนิเวศที่หลากหลาย เป็นแหล่งอาศัยของสัตว์นานาชนิด โดยเฉพาะนกและสัตว์น้ำ และยังมีเส้นทางน้ำเลก็ ๆ จากเขาขนุ อินทร์ ไหลลงสแู่ มน่ ้ำประแสร์ ชว่ ยฟ้ืนฟรู ะบบนเิ วศต้นน้ำอกี ด้วย
18 6. ปลูกปา่ หลากหลาย 4 โมเดล ภาพพ้ืนทีข่ องปา่ อีกหน่ึงจดุ เด่นด้านการออกแบบป่าวังจนั ทรก์ ค็ อื โมเดลปา่ 4 แบบ คือ ป่าไม้โตเร็ว ป่าไม้ ธรรมชาติ ป่าผสมพืชเกษตร และป่าผลไม้ขึ้นชื่อของจังหวัดระยอง เพื่อให้คนในชุมชน หรือประชาชนทั่วไป เข้ามาศึกษาเรียนรู้การสร้างป่าในหลากหลายแบบที่มีความแตกต่างกันออกไป ไดเ้ หน็ ภาพจรงิ ๆ แล้วนำกลบั ไปปรบั ใชต้ ามความเหมาะสมกับพ้นื ท่ตี วั เองในอนาคต 7. ปลูกป่าผสมพืชผกั กนิ ได้ ให้ชาวบา้ นไดเ้ ข้ามาเรยี นรเู้ พ่ิมประโยชน์พ้ืนท่ที ำกนิ ภายในป่าวังจันทร์จะมีการปลูกพืชผักกินได้แล้วเพาะเมล็ดพันธุ์เพื่อส่งต่อให้ชาวบ้าน บริเวณโดยรอบนำไปปลกู ต่อได้ เมื่อโตเต็มทีแ่ ล้วก็สามารถนำไปขาย หรือผ่านโครงการ “วังจันทร์รวมรกั ปลูกผักแบ่งปัน” บริเวณสถานีบริการน้ำมัน PTT Station สาขาป่ายุบใน และนอกจากนี้ก็ยังมีแปลงนาสาธิต ปลูกข้าวนางพญาแม่ทองดำ พันธุ์พื้นเมืองของระยอง มีแปลงผักเพาะเมล็ดพันธ์ุพระราชทานเพื่อให้ ชาวบา้ นและประชาชนทัว่ ไปได้เขา้ ไปศกึ ษาหาความรเู้ พม่ิ เติมด้วย 8. ปลูกปา่ ใหเ้ ป็นทอี่ ยู่ของสัตว์นานาชนิด การออกแบบป่าให้มีความสมดุล มีสระน้ำขนาดใหญ่ แบ่งเป็นสายเล็ก ๆ จึงเป็นพื้นท่ี ชุ่มน้ำที่กระจายอยู่ทั่วพื้นที่ป่า ทำให้มีระบบนิเวศที่หลากหลาย เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ รวมถึงเริ่มมี ร่องรอยของสัตว์ป่าเขา้ มาอยู่อาศยั แลว้ เชน่ นก ชะมด หมปู ่า เป็นตน้ 9. ปลูกป่าใหค้ นในชมุ ชนมีสว่ นร่วมในการดแู ลปา่ เนือ่ งจากเปน็ การปลกู ปา่ ที่ใชพ้ รรณไมท้ ้องถน่ิ ของจงั หวดั ระยอง จงึ จำเปน็ ตอ้ งใชค้ วามรู้ เฉพาะทางและความค้นุ เคยกับพรรณไม้จากชาวบา้ นในชุมชนในการชว่ ยดแู ลรกั ษาได้อยา่ งถกู ต้องและ เข้าใจ เพื่อใหต้ ้นไม้เติบโตไดอ้ ย่างเตม็ ประสิทธิภาพมากทีส่ ดุ 10. ปลูกปา่ ให้กลายเป็นห้องเรียนธรรมชาติขนาดใหญ่ นอกจากจะเป็นปา่ ทีส่ ร้างขน้ึ มาเพอื่ ฟนื้ ฟูธรรมชาติแลว้ ยงั เปิดเป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องป่า และระบบนเิ วศที่เปิดให้คนทั่วไปเข้ามาศึกษาหาความรู้ ปลูกฝังจติ สำนึก เห็นคุณค่าของการเพ่มิ พ้นื ท่ีป่าได้ ตั้งแต่เริ่มต้น นอกจากนี้ยังเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ สำหรับเข้ามาเที่ยวพักผ่อนและมีเส้นทาง จักรยานสำหรบั นกั ปน่ั ด้วย
19 ภาพอาคารในพน้ื ท่ีป่า หลักเกณฑก์ ารจองเข้าเย่ียมชมศูนย์ 1. ศูนยเ์ รียนรูป้ า่ วงั จันทร์ เปดิ ทำการวนั อังคาร – วันอาทิตย์ (หยุดทุกวนั จนั ทร)์ 2. ผู้เขา้ เยี่ยมชม สามารถจองเย่ียมชมผา่ นระบบออนไลน์ ทางเวบ็ ไซต์ https://learningcenter.pttreforestation.com ลว่ งหนา้ อย่างนอ้ ย 7 วันทำการหรอื ผา่ นทางโทรศพั ท์ 09 8283 1857 3. เจ้าหน้าที่ติดต่อประสานงานกลับเพื่อยืนยันการจองเยี่ยมชมล่วงหน้าอย่างน้อย 2 วนั ทำการ ก่อนการเขา้ เยย่ี มชม 4. สามารถยกเลิกการจองล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน โดยดำเนินการยกเลิกการจองกับ เจ้าหนา้ ท่ี เบอรโ์ ทรศัพท์ 09 8283 1857 เทา่ นัน้ 5. มาตรการลดความเสี่ยงการแพร่ระบาด COVID-19 สำหรับผูเ้ ข้าเยี่ยมชมศูนย์เรียนรู้ปา่ วัง จนั ทร์ 5.1 ผู้เยี่ยมชมทุกท่าน ต้องแสดงผลตรวจ ATK ไม่เกิน 72 ชั่วโมง ก่อนเข้าเยี่ยมชมและ หลกั ฐานยืนยันการรับวคั ซีนปอ้ งกัน COVID-19 แล้ว อยา่ งนอ้ ย 2 โดส แก่เจ้าหนา้ ท่ี 5.2 สวมหนา้ กากผ้าหรอื หน้ากากอนามยั ตลอดเวลาที่อยใู่ นศูนยเ์ รียนรู้ 5.3 ผเู้ ขา้ เย่ยี มชมสามารถอยภู่ ายในพน้ื ท่ไี ด้ไม่เกนิ 1.30 ชวั่ โมง ส่ิงทไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษาดูงาน 1. เรียนรู้การฟื้นฟูดิน การอนุรักษ์ชนิดพันธุ์พืช การจัดการป่าไม้อย่างครบวงจร การรักษาสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติเพื่อให้เกิดความอุดมสมบูรณ์และความสมดุล สร้างองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการศาลยุติธรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับนโยบาย ป ร ะ ธ า น ศ า ล ฎ ี ก า ด ้ า น ก า ร ส ่ ง เ ส ร ิ ม ก า ร พ ั ฒ น า ศ ั ก ย ภ า พ ค ว า ม ก ้ า ว ห น ้ า แ ล ะ ส ุ ข ภ า ว ะ ท ี ่ ดี
20 ของบุคลากร เพื่อยกระดับระบบการดแู ลรักษาสุขภาพของบคุ ลากร เสริมสร้างประสทิ ธิภาพในการอำนวย ความยุตธิ รรมให้ประชาชน 2. ได้รับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเลือกพันธุ์ไม้ให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ การจัดระบบนิเวศสิ่งแวดล้อม การบริหารจัดการเพิ่มการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ปลูกป่าผสม สามารถ นำไปใช้พัฒนาปรับปรุงการจัดภูมิทัศน์ของศาลให้สง่างาม ส่งเสริมภาพลักษณ์ศาลยุติธรรม เพ่อื สรา้ งความเชือ่ มน่ั ศรัทธาให้แก่ประชาชน 3. เรียนรู้การจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม เสริมสร้างความรู้ความเขา้ ใจและจติ สำนึกดา้ นสิ่งแวดล้อม ทำให้ผู้เข้ารบั การอบรมเห็นคุณคา่ และเอาใจใส่หวงแหนในการอนุรักษ์และรักษาส่ิงแวดล้อมร่วมกัน โดยสอดคล้องกับแนวปฏิบัติในการ บริหารจดั การศาลยตุ ิธรรมทเ่ี ป็นมติ รตอ่ ส่ิงแวดลอ้ ม “สขุ กายเพลินใจท่ามกลางธรรมชาตปิ ่าเขาลำเนาไพร สารพัดความรู้เรื่องการป่าไมบ้ นเสน้ ทางศึกษาธรรมชาต”ิ ประมวลภาพกจิ กรรม “โครงการปา่ วังจนั ทร์”
21
22 การศึกษาดูงานโรงเรียนกำเนิดวิทย์ (กว.) 1. ข้อมูลพ้ืนฐานของโรงเรียนกำเนิดวิทย์ ช่ือภาษาไทย: โรงเรียนกำเนิดวิทย์ อักษรย่อโรงเรียนกำเนิดวิทย์: กว. ช่ือภาษาอังกฤษ: Kamnoetvidya Science Academy อักษรย่อภาษาอังกฤษ: KVIS ลกั ษณะของโรงเรยี น: โรงเรียนเอกชน สามัญศกึ ษา ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย (ม. 4 – ม. 6) จำนวนนักเรียนแต่ละช้นั เรียน: 72 คน จำนวนนักเรียนท้ังโรงเรียน: 216 คน สถานท่ีตั้ง: 999 หมู่ท่ี 1 ตำบลป่ายุบใน อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง 21210 วันที่ได้รับใบอนุญาต: 29 มกราคม 2558 สังกัด: ศึกษาธิการจังหวัดระยอง 2. วิสัยทัศน์ของโรงเรียนกำเนิดวิทย์ วิสัยทัศน์ของโรงเรียนกำเนิดวิทย์ เป็นโรงเรียนวิทยาศาสตร์ชั้นนำระดับนานาชาติ บ่มเพาะผู้มี ความสามารถพิเศษด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายเพื่อพัฒนาไปสู่
23 การเป็นนักวิจัย นักประดิษฐ์ และนักนวัตกรรม สามารถสร้างองค์ความรู้เพื่อการพัฒนาประเทศอย่าง ย่ังยืน 3. พันธกิจของโรงเรียนกำเนิดวิทย์ 1. ค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับการสรรหาและการจัดการศึกษาให้กับนักเรียนผู้มีความสามารถพิเศษ ด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 2. สรรหาและจัดการศึกษาให้กับนักเรียนผู้มีความสามารถพิเศษด้านคณิตศาสตร์และ วิทยาศาสตร์ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายในลักษณะของโรงเรีย นประจำโดยใช้ ภาษาอังกฤษเป็นหลักในการจัดการเรียนการสอน เพื่อให้นักเรียนได้รับการพัฒนาอย่างเต็ม ศักยภาพเป็นรายบุคคล มีคุณภาพทุกด้านไม่ต่ำกว่านักเรียนของโรงเรียนวิทยาศาสตร์ชั้นนำ ของนานาชาติ 3. สรรหาครูและบุคคลากรทางการศึกษาที่มีความสามารถสูง และจัดให้มีการพัฒนาวิช าชีพ อย่างต่อเน่ือง เพ่ือกระตุ้นและส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียนอย่างเต็มศักยภาพ เป็นคนเก่ง ดีและมีความสุข 4. สร้างโอกาสให้กับนักเรียนผู้มีความสามารถพิเศษด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ที่มี กระจายอยู่ในทุกภูมิภาคของประเทศ และนักเรียนผู้มีความสามารถพิเศษด้านคณิตศ าสตร์ และวิทยาศาสตร์ที่ด้อยโอกาสและขาดแคลนทุนทรัพย์โดยจัดให้มีทุนการศึกษาให้กับ นักเรียนของโรงเรียนทุกคนตามความจำเป็น 5. ร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนทั้งในและต่างประเทศ ที่เกี่ยวกับการจัด การศึกษาสำหรับผู้มีความสามารถพิเศษทุกด้านและทุกระดับการศึกษา 4. ความเป็นมาของการจัดต้ังโรงเรียนกำเนิดวิทย์ กลุ่ม ปตท. ประกอบด้วย 1. บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) 2. บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) 3. บริษัท พีทีที โกลบอลเคมิคอล จำกัด (มหาชน) 4. บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) 5. บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) 6. บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ย่ี จำกัด (มหาชน) 7. บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) ตระหนักถึงความสำคัญของการจัดการศึกษาด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จึงได้ ร่วมกันจัดตั้ง “มูลนิธิโรงเรียนวิทยาศาสตร์ระยอง” เพื่อให้มูลนิธิฯ ดำเนินการจัดตั้งโรงเรียน วิทยาศาสตร์ระยอง ต่อมา บริษัทโกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ปตท.
24 น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) ได้เข้าร่วมกับบริษัทในกลุ่ม ปตท.ทั้ง 5 บริษัทที่เริ่มก่อตั้ง โรงเรียนสนับสนุนงบประมาณและทรัพยากรต่าง ๆ ในการก่อสร้างและการดำเนินงานของโรงเรียน ตลอดจนจัดให้มีทุนการศึกษาแก่นักเรียน ด้วยพระกรุณาธิคุณของ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรม สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงสนพระทัยในการจัดการศึกษาด้าน คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เมื่อกลุ่ม ปตท. ได้จัดต้ังโรงเรียนวิทยาศาสตร์ระยองข้ึน ได้ พระราชทานชื่อโรงเรียนว่า “โรงเรียนกำเนิดวิทย์” อันหมายถึง “โรงเรียนที่เป็นแหล่งความรู้” เมื่อ วันที่ 16 พฤษภาคม 2557 โดยโรงเรียนเริ่มเปิดภาคเรียนคร้ังแรกในปีการศึกษา 2558 ภาพแสดงโครงสร้างการบริหารงานโรงเรียนกำเนิดวิทย์ 5. วัตถุประสงค์ของการจัดต้ังโรงเรียนกำเนิดวิทย์ 1. เพื่อจัดการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายให้กับนักเรียนผู้มีความสามารถพิเศษด้าน คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายในลักษณะโรงเรียนประจำ โดยใช้ ภาษาอังกฤษเป็นหลักในการจัดการเรียนการสอนให้มีคุณภาพดีเลิศสามาร ถศึกษาต่อ
25 ทางด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีในมหาวิทยาลัยวิจัยชั้นนำของโลกจนถึง ระดับปริญญาเอกและหลังปริญญาเอกได้ 2. เพื่อสร้างโอกาสให้กับนักเรียนผู้มีความสามารถพิเศษด้านคณิตศาสตร์และ วิทยาศาสตร์ โดยมีทุนการศึกษาให้กับนักเรียนของโรงเรียนตามความจำเป็น 3. เพื่อส่งเสริมสนับสนุนนโยบายการพัฒนากำลังคนด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี ของประเทศ 4. เพื่อให้บริการ ความร่วมมือทางวิชาการ และให้บริการอื่นในเรื่องที่เกี่ยวกับการศึกษา โดยเฉพาะการศึกษาสำหรับผู้มีความสามารถพิเศษด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ หรือ ในเร่ืองอื่นท่ีเก่ียวเน่ืองกับกิจการของโรงเรียนให้แก่นักเรียน ครู ผู้ปกครอง บุคลากรทางการ ศึกษา ตลอดจนองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน ชุมชน โรงเรียน และบุคคลทั่วไป ภาพการศึกษาดูงานโรงเรียนกำเนิดวิทย์
26 7. การจัดการเรียนการสอนภายในโรงเรียน โรงเรยี นกำเนิดวิทย์เปน็ โรงเรยี นระดับมัธยมศึกษาตอนปลายประเภทโรงเรียนประจำ โดยแต่ละ ปีจะเปิดรับนักเรียนที่มีความเป็นเลิศทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์เพียงปีละ 72 คน เท่านั้น ซึ่งท้งั 72 คน ก็จะมาแบ่งเป็น 4 ห้อง ห้องละเพียง 18 คนเท่านั้น นอกจากนี้ นักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกให้ เขา้ เรยี นจะไดร้ บั ทนุ การศึกษาเตม็ จำนวนตลอด 3 ปีทีเ่ รียน โดยไมม่ ีขอ้ ผกู มัดและไม่ต้องใชท้ ุนคืน ในส่วนของการเรียนการสอนนั้น นักเรียนชั้น ม.4 ที่เพิ่งเข้ามา จะเรียนเนื้อหาปรับพื้นฐาน เหมือนกันหมด โดยเม่ือเริ่มเขา้ สู่ ม.4 เทอม 2 นักเรียนจะเริ่มรู้แลว้ ว่าตัวเองชอบอะไร อยากเรียนอะไร ก็จะให้เลือกเรียนเฉพาะด้านไปเลย อาทิ ถ้ารู้ตัวว่าชอบเรียนเคมี ตั้งแต่ ม.4 เทอม 2 ถึง ม.6 เนื้อหาที่ เรียนทั้งหมดก็จะเน้นการเรียนวิชาเคมีเป็นหลัก นอกจากนี้ โรงเรียนกำเนิดวิทย์ยังมีวิธีการจัดการเรียน การสอน และส่ิงอำนวยความสะดวกทห่ี ลากหลาย กลา่ วคือ - ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักในการจัดการเรียนการสอน ก่อนจบการศึกษา ทุกคนต้องมีการ ทดสอบความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษได้เทียบเท่าไม่ต่ำกว่า ๖๐ คะแนนของแบบทดสอบ TOEFL IBT กรณีที่สอบไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำ นักเรียนต้องเข้าค่ายฝึกฝนทักษะภาษาอังกฤษเพิ่มเติมที่โรงเรียนจดั ให้ - ใช้หลกั สตู รที่สง่ เสรมิ การพฒั นานักเรียนเปน็ รายบคุ คล และมีการเปิดรายวชิ าเลือกเสรีอน่ื ๆ ตามความถนัดและความสนใจ - นักเรียนทุกคนต้องทำวิจัยและนำเสนอผลงานเป็นภาษาอังกฤษทั้งภาคโปสเตอร์และภาค บรรยาย ในทปี่ ระชุมวิชาการทีโ่ รงเรยี นจดั ขน้ึ หรอื ทอี่ ่นื ที่โรงเรียนเหน็ ชอบ - จัดให้มีคลินิกวิชาการ โดยมีครูสาขาวิชาต่างๆ หมุนเวียนมาประจำ ณ บริเวณที่กำหนด เพื่อให้คำปรึกษาด้านวิชาการ และจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตร กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมเสริม ทักษะ ดนตรี กฬี า นนั ทนาการ กิจกรรมชมุ นุม ให้นักเรยี นได้เข้ารว่ มตามสมคั รใจ - มีระบบไอซที ีทล่ี ำ้ สมัย นักเรยี นสามารถสบื คน้ ข้อมูลเพ่ือการเรียนรไู้ ด้รวดเร็ว ทุกเวลาและ ทุกสถานที่ โดยไมม่ ขี อ้ จำกดั ใดๆ - มีห้องปฏิบัติการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เปิดให้บริการแก่นักเรียนเพ่ือ ทำงานวจิ ัยทุกวัน โดยมคี ณุ ครูเปน็ ผ้กู ำกบั ดแู ลตลอดเวลา - มหี อ้ งสมุดท่ลี ้ำสมยั มสี อ่ื การเรยี นรู้ท้ังสอ่ื อเิ ล็กทรอนกิ ส์ ส่อื ออนไลน์ สอ่ื สง่ิ พิมพ์ ทมี่ ี คณุ ภาพสูงและปรมิ าณเพียงพอ เปดิ ใหบ้ ริการทกุ วนั ทง้ั กลางวันและกลางคนื
27 - จัดให้มีเครือข่าย ความร่วมมือทางวิชาการกับโรงเรียนวิทยาศาสตร์ชั้นนำทั้งในและ ต่างประเทศ ส่งเสริมนักเรียนให้ได้มีโอกาสไปนำเสนอผลงานแข่งขัน และเข้าร่วมกิจกรรมทาง วชิ าการในระดับนานาชาติ - ครูทุกคนตอ้ งผ่านการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาทักษะความสามารถในการจัดกิจกรรมการเรียน การสอนนักเรียนผู้มคี วามสามารถพิเศษดา้ นคณิตศาสตร์ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลายไมน่ อ้ ยกวา่ ๖๐ ชั่วโมง และผ่านการทดสอบความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษตามเกณฑ์ที่โรงเรียนกำหนด มี แผนพฒั นาครอู ยา่ งต่อเนือ่ งตลอดชวี ิตเป็นรายบุคคล - จดั ระบบหอพกั แยกชายและหญงิ มีครหู อพักดแู ลอย่างใกลช้ ิดตลอด ๒๔ ชั่วโมง หอพกั ได้ ถูกออกแบบให้มีภูมิสถาปัตย์ที่สง่างาม ร่มรื่น สร้างความรู้สึกที่อบอุ่นเชื่อมั่น และภูมิใจในการพัก อาศยั ภาพหอ้ งเรียนวชิ าไฟฟา้ และหุ่นยนต์ 8. การสอบเขา้ โรงเรยี นกำเนดิ วิทย์ การสอบจะแบง่ เป็นสองรอบดว้ ยกัน เม่อื สอบรอบแรกผ่านแลว้ ก็จะมกี ารสอบรอบสองต่อ ประกอบกบั การพิจารณาถึงผลงานและกิจกรรมเดน่ ท่เี คยทำในระดบั ชั้นมธั ยมศกึ ษาต้น โดยปกติแลว้ โรงเรยี นกำเนดิ วิทยจ์ ะเปิดรบั สมคั รชว่ งเดอื นกันยายนของทุกปี คณุ สมบตั ิผูส้ มคั รทั่วไป (1) กำลังศกึ ษาอยใู่ นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 หรือเทียบเท่า (2) มคี ณุ สมบตั ิขอ้ ใดขอ้ หนงึ่ ดังต่อไปน้ี - มผี ลการเรยี นรายวชิ าคณิตศาสตรพ์ ืน้ ฐานและวทิ ยาศาสตรพ์ น้ื ฐาน ระดับชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 1
28 และ 2 เฉลยี่ ตงั้ แต่ 3.50 ขนึ้ ไป และมีผลการเรยี นเฉลย่ี สะสมรวมทกุ รายวชิ าตง้ั แต่ 3.00 ขนึ้ ไป หรอื - ผ่านการคดั เลือกรอบแรก โครงการพฒั นาอัจฉรยิ ภาพทางคณิตศาสตรแ์ ละวทิ ยาศาสตรข์ อง สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีหรอื - ไดร้ บั รางวลั การแขง่ ขันดา้ นคณติ ศาสตรห์ รอื วทิ ยาศาสตร์ระดบั ชาตหิ รอื ระดบั นานาชาติ 9. ส่งิ ที่ได้รับจากการศึกษาดูงานโรงเรยี นกำเนดิ วทิ ย์ จากการเรียนรู้ ศกึ ษา เปรียบเทยี บ เพอ่ื นำไปเปน็ แนวทางหรอื ประยุกต์ใช้ประกอบการทำงานใน เชงิ เปรยี บเทยี บได้ดงั น้ี โรงเรียนกำเนดิ วิทย์ การนำไปปรบั ใชก้ ับสำนกั งานศาลฯ - ใช้ภาษาองั กฤษเป็นหลกั ในการจดั การ การส่งเสริมการเรยี นรใู้ ห้กบั ด้าน เรียนการสอน ก่อนจบการศกึ ษา ทุกคนตอ้ งมกี าร ทดสอบความสามารถทางด้านภาษาองั กฤษได้ ภาษาองั กฤษใหก้ บั บคุ ลากร โดย เทียบเทา่ ไม่ตำ่ กวา่ ๖๐ คะแนนของแบบทดสอบ กำหนดทกั ษะดา้ นภาษาอังกฤษใน TOEFL IBT กรณที สี่ อบไมผ่ า่ นเกณฑข์ ั้นตำ่ นกั เรยี น ระดบั ท่ีสอื่ สารเบื้องตน้ ได้ ต้องเขา้ คา่ ยฝกึ ฝนทักษะภาษาองั กฤษเพิ่มเตมิ ที่ โรงเรียนจดั ให้ การจดั ใหม้ แี นวทางการเรยี นรู้ - มีห้องสมุดท่ลี ำ้ สมัย มสี อ่ื การเรยี นร้ทู ง้ั สอ่ื เพิ่มเตมิ หรอื เนื้อหาการพฒั นาคนให้ อิเลก็ ทรอนกิ ส์ สอ่ื ออนไลน์ สอื่ สงิ่ พิมพ์ ทม่ี ีคณุ ภาพสงู มีความหลากหลายมากขึ้น โดยมี และปรมิ าณเพยี งพอ เปดิ ให้บรกิ ารทุกวันทั้งกลางวนั สถาบนั พฒั นาฯ หรอื ห้องสมดุ เปน็ และกลางคนื ศนู ยก์ ลาง (อเิ ล็กทรอนกิ ส)์ - มรี ะบบไอซีทที ่ลี ้ำสมัย นกั เรยี นสามารถ มีแผนการพฒั นาทกั ษะดา้ น สืบค้นข้อมูลเพ่อื การเรยี นรไู้ ดร้ วดเร็ว ทกุ เวลาและ เทคโนโลยดี ิจติ ัลท่เี ป็นรปู ธรรม มี ทกุ สถานท่ี โดยไมม่ ีขอ้ จำกดั ใดๆ ตัวชว้ี ัดทีช่ ัดเจนในบคุ ลากรแต่ละ ประเภทและระดบั - มหี อ้ งปฏบิ ตั ิการดา้ นวิทยาศาสตรแ์ ละ เทคโนโลยี ทล่ี ้ำสมัย เปดิ ให้บริการแก่นกั เรียน พฒั นาใหม้ เี ครอื ขา่ ยความ เพ่อื ทำงานวจิ ยั ทกุ วนั โดยมคี ุณครูเปน็ ผกู้ ำกับ รว่ มมอื ของหน่วยงานในกระบวนการ ดูแลตลอดเวลา ยตุ ิธรรม รวมถงึ หน่วยงานอนื่ ๆ - จัดให้มเี ครือขา่ ย ความรว่ มมือทาง วิชาการกบั โรงเรยี นวทิ ยาศาสตร์ชนั้ นำท้ังในและ ต่างประเทศ สง่ เสรมิ นกั เรยี นให้ไดม้ โี อกาสไป นำเสนอผลงานแข่งขัน และเขา้ รว่ มกิจกรรมทาง วชิ าการในระดับนานาชาติ
- ครทู ุกคนต้องผา่ นการฝกึ อบรมเพ่ือ 29 พัฒนาทกั ษะความสามารถในการจดั กจิ กรรมการ เรียนการสอนนักเรียนผมู้ คี วามสามารถพิเศษดา้ น บุคลากรในระดบั บรหิ ารหรอื คณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายไม่น้อย หวั หน้างานต่างๆ ตลอดจนผทู้ ีจ่ ะเปน็ กวา่ ๖๐ ชวั่ โมง และผา่ นการทดสอบ พ่ีเลีย้ งสอนงาน ต้องไดร้ ับการพฒั นา ทกั ษะในการสอนงาน ความสามารถทางด้านภาษาองั กฤษตามเกณฑท์ ี่ โรงเรยี นกำหนด มแี ผนพัฒนาครูอยา่ งตอ่ เน่ือง ตลอดชีวติ เป็นรายบุคคล
30 กิจกรรม CSR ศูนย์พฒั นาการจัดสวัสดิการสงั คมผูส้ ูงอายุบ้านบางละมุง
31 สืบเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรไทยที่มีอัตราการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ของประชากรสูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นเจ้าภาพหลักร่วมกับ กระทรวงมหาดไทยและสมาคมสภาผู้สูงอายุแห่งประเทศไทยฯ ร่วมกันกำหนดรูปแบบการดำเนินงาน จัดต้ังศนู ยพ์ ฒั นาคณุ ภาพชวี ิตและสง่ เสริมอาชีพผ้สู งู อายเุ พ่ือส่งเสริมการจัดกิจกรรมของชมรมผู้สูงอายไุ ด้ มีสถานที่ในการจัดกิจกรรมและบริการ ส่งเสริมด้านอาชีพและการถ่ายทอดภูมิปัญญาของผู้สูงอายุใน ชุมชน ส่งเสริมให้ผู้สูงอายุได้รับการพัฒนาด้านสุขภาพกาย จิตใจ และสังคม เป็นศูนย์ส่งเสริมและ สนับสนนุ อาสาสมัครดแู ลจัดระบบขอ้ มูลผู้สูงอายุในพื้นที่ เป็นต้น โดยมีระยะเวลาการดำนเนนิ งาน 3 ปี ต้ังแต่ปี 2557 เป็นตน้ 1. แนวคิดการจดั ตัง้ ศูนยฯ์ ศนู ย์พฒั นาคุณภาพชวี ิตและสง่ เสรมิ อาชพี ผู้สงู อายุ เปน็ การจัดสวัสดิการสังคมสำหรับผู้สูงอายุ ในชมุ ชนรูปแบบหน่งึ โดยใชช้ มุ ชนเป็นฐานและเปิดโอกาสให้ผ้สู งู อายุแกนนำ อาสาสมคั ร ชุมชน องค์กร เครือข่ายจากภาครัฐ และภาคเอกชนมีส่วนร่วมขับเคลื่อนการดำเนินงานศูนย์ฯ โดยมีองค์กรปกครอง สว่ นท้องถนิ่ ใหก้ ารหนุนเสริม ศูนยฯ์ ดำเนินการภายใตแ้ นวคิด “ร่วมแรง ร่วมใจ ผูส้ งู วยั กายใจ เบกิ บาน” เพื่อให้ผู้สูงอายุได้ มีสถานที่รวมกลุ่มในการจัดกิจกรรมและบริการที่ครอบคลุมทุกมิติทางด้านสุขภาพ สังคม จิตใจ และ เศรษฐกิจ โดยเฉพาะมิติด้านเศรษฐกิจท่ีเน้นการสร้างรายได้และการมีงานทำทเี่ หมาะสมสำหรับผู้สูงอายุ เพื่อยกระดับการจัดบริการและสวัสดิการทางสังคมในการคุ้มครอง ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิต ผสู้ ูงอายุแบบครบวงจร สามารถตอบสนองปัญหาและความต้องการของผสู้ ูงอายแุ ละชมุ ชนได้
32 2. วตั ถุประสงค์การจัดตั้ง 1. เพื่อส่งเสริมให้ผู้สูงอายุได้มีสถานที่ในการจัดกิจกรรมและบริการเพื่อการพัฒนาด้าน สังคม เศรษฐกจิ และสขุ ภาพผสู้ ูงอายุและสมาชิกอน่ื ๆ ในชมุ ชน 2. เพ่อื เป็นศนู ยส์ ่งเสรมิ อาชพี และจำหน่ายผลิตภณั ฑ์ผู้สูงอายุ 3. เพ่อื เปน็ ศูนย์รวมการถ่ายทอดภูมปิ ัญญาของผู้สูงอายุในชุมชน 4. เพื่อเป็นศูนย์ส่งเสรมิ และสนบั สนุนอาสาสมคั รดแู ลผูส้ งู อายุ 5. เปน็ ศนู ยข์ อ้ มูลผูส้ งู อายุในพื้นที่ 3. กลุ่มเปา้ หมาย กลุ่มเป้าหมายที่ใช้บริการในศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวติ และสง่ เสรมิ อาชีพผู้สงู อายุ แบ่งเป็น 2 กลมุ่ ได้แก่ 1. กลุ่มเป้าหมายหลัก ได้แก่ ผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในชุมชนและพื้นที่ให้บริการศนู ย์ฯ รวม ไปถึงสมาชกิ ครอบครวั ของผูส้ งู อายุและผ้ดู ูแล 2. กล่มุ เปา้ หมายรอง ไดแ้ ก่ สมาชิกทุกวยั ในชุมชน และสมาชิกกลมุ่ องค์กรตา่ ง ๆ 4. ประโยชนจ์ ากการจัดต้ังศนู ย์ฯ ผู้สูงอายุ 1. การมีส่วนร่วมในกิจกรรมและเข้าร่วมทางสังคม ทำให้ผู้สูงอายุคลายเหงา เกิดการ แลกเปลยี่ น เรียนรู้ เป็นการใช้เวลาอย่างเกิดประโยชน์ 2. ผู้สูงอายไุ ด้รับการเสรมิ สรา้ งภาวะทางรา่ งกาย จิตใจ สงั คม และสตปิ ัญญา 3. ผสู้ งู อายเุ กดิ ความตระหนกั ตอ่ คณุ ค่าและศกั ยภาพของตนเอง 4. ผู้สูงอายไุ ดถ้ ่ายทอดความรแู้ ละภูมปิ ัญญาใหส้ บื ทอดต่อไปในชุมชน 5. ผู้สูงอายุได้ฝึกฝนเรียนรู้ทักษะทางด้านอาชีพ สามารถนำไปประกอบอาชีพสร้างงาน สรา้ งรายได้ ชว่ ยเหลอื ตนเองตอ่ ไป 6. ผู้สูงอายมุ ีคุณภาพชวี ติ ทีด่ ีขึ้น องคก์ ร/ชมรมผู้สงู อายุ 1. เพื่อเป็นศูนย์รวมให้ผู้สูงอายุ สมาชิกชมรม องค์กรเครือข่าย มีสถานที่ในการดำเนิน กิจกรรมต่าง ๆ 2. เพ่อื ส่งเสริมการจดั กิจกรรมสำหรับผ้สู ูงอายแุ ละชมุ ชนในรปู แบบใหมๆ่ ซึ่งทำให้เกิดการ พัฒนาความสามารถและทักษะตามความสนใจ รวมทั้งส่งเสริมให้ผู้สูงอายุเกิดการดูแลตนเอง ผู้อื่น และ ชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน 1. เป็นการยกระดับและพัฒนารูปแบบการจัดบริการและสวัสดิการสังคมเพื่อการพัฒนา คณุ ภาพชีวติ ของผสู้ ูงอายุ
33 2. ส่งเสริมการให้เกิดการระดมทรัพยากร และความร่วมมือจากหน่วยงานทั้งภายในและ ภายนอกให้มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมและบริการสำหรับผู้สูงอายุและเ ชื่อมโยงคนทุกวัยให้ได้รับ ประโยชนจ์ ากการดำเนินงานศนู ยฯ์ 5. ประวัตศิ นู ยพ์ ัฒนาการจดั สวัสดิการสังคมผ้สู ูงอายบุ ้านบางละมุง สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีและพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 เมื่อ ครั้งทรงดำรงพระอิสริยยศเป็น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมาร ได้เสด็จพระราชดำเนนิ วางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2510 และเปิดดำเนินการ เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2511 ใช้ชื่อว่า สถานสงเคราะห์คนชราบ้านบางละมุง สถานสงเคราะห์แห่งนี้นับเป็นสถานสงเคราะห์คนชราแห่งแรกที่ จัดสร้างขน้ึ โดยความรว่ มมือระหว่างรฐั บาลกบั ภาคเอกชน กลุ่มเป้าหมาย คือ ผูส้ ูงอายุ
34 6. บทบาทหนา้ ท่ี ศูนย์พัฒนาการจดั สวัสดกิ ารสังคมผู้สงู อายุบ้านบางละมุง มีบทบาทหน้าที่ในการพัฒนาการ จัดสวัสดิการด้านผู้สูงอายุให้ได้มาตรฐาน มีความมั่นคง มีคุณภาพชีวิตที่ดี ได้รับการพัฒนาศักยภาพ
35 ส่งเสริมสนบั สนุน การมีส่วนร่วมของเครอื ข่ายทั้งภาครฐั ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชมรม ผ้สู ูงอายุ ฯลฯ เพอื่ ใหค้ รอบครวั และชุมชนเข้มแขง็ สามารถพึง่ ตนเองได้ โดยมีพืน้ ที่รบั ผดิ ชอบ 7 จังหวดั ได้แก่ ชลบรุ ี ระยอง จันทบรุ ี ตราด ฉะเชงิ เทรา ปราจีนบุรี และสระแก้ว โดย 7. ดำเนนิ งานภายในภารกิจ 4 ข้อ 1. ศูนย์การจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุแบบสถาบัน (Social welfare service for older persons under institutional care center) 2. ศูนย์การจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุในชุมชน (Social welfare service for older persons within communities center) 3. ศนู ยก์ ารเรยี นรูแ้ ละใหค้ ำปรึกษาด้านผสู้ งู อายุ (Learning and Counseling center) 4. ศูนย์ข้อมูลด้านผู้สูงอายุ (Data center)
36 8. คุณสมบัตขิ องผู้ใช้บรกิ าร ระเบียบกรมกิจการผู้สูงอายุ ว่าด้วยการใหบ้ ริการผ้สู งู อายุ พ.ศ.2558 หมวด 1 1. อายเุ กนิ 60 ปี บริบรู ณข์ ึน้ ไป และมีสญั ชาติไทย 2. ไม่เป็นผู้ต้องหาว่ากระทำผิดอาญาและอยู่ระหว่างการสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรืออยู่ระหว่างการพจิ ารณาคดขี องศาล 3. ไม่เปน็ โรคตดิ ต่อ ตามพระราชบญั ญัติโรคตดิ ตอ่ พ.ศ. 2523 4. มคี วามสมคั รใจ 5. สามารถชว่ ยเหลอื ตนเองได้ในกิจวตั รประจำวนั 6. ไม่มอี าการทางจิตทร่ี นุ แรง หรือมพี ฤตกิ รรมดา้ นลบท่จี ะสง่ ผลกระทบตอ่ ผู้อืน่ 7. กรณีคนเร่ร่อน ถูกทอดทิ้ง หรือไร้ที่พึ่ง ต้องผ่านกระบวนการตามพระราชบัญญัติ คุม้ ครองคนไรท้ ี่พึ่ง พ.ศ.2557 ก่อน เชน่ การเยี่ยมครอบครัว ชมุ ชน การหาอาชพี ทีเ่ หมาะสม เปน็ ต้น 8. ผูส้ ูงอายทุ ี่มีความประสงคเ์ ขา้ อยใู่ นศนู ย์ ต้องมีคณุ สมบัตติ ามท่ีกลา่ วมาขา้ งต้น และต้อง เปน็ ผู้ประสบปัญหาความเดอื ดร้อนอย่างใดอยา่ งหน่ึง เช่น 1. ฐานะยากจน 2. ไม่มที อ่ี ยอู่ าศัย 3. ขาดผูอ้ ุปการะ หรอื ผู้ให้ความช่วยเหลือดแู ล
37 9. การขอเอกสารเขา้ ใช้บรกิ าร 1. สำเนาบตั รประจำตวั ประชาชน 2. สำเนาทะเบยี นบา้ น 3. ใบรับรองแพทย์ 4. ผลเอก็ ซ์เรยป์ อด 5. หนงั สือสมัครใจเข้ารับบริการ 10. การแสดงความประสงค์เข้ารับบรกิ าร ต้องเป็นบุคคลที่ประสบปัญหาทางสังคม ได้แก่ ยากจน ไม่มีรายได้ ไม่มีบุตรหรือญาติดูแล สามารถขอเข้ารับบริการได้ท่ี 1. สำนักงานพัฒนาสังคมและความมนั่ คงของมนษุ ยจ์ งั หวัด ทกุ จงั หวัด 2. ศนู ยพ์ ัฒนาการจดั สวัสดิการสงั คมผสู้ งู อายุทวั่ ประเทศ 3. องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่นท่ีผู้สงู อายอุ าศัยอยู่ ภาพแสดงสาเหตุในการเขา้ รับบรกิ าร
38 ภาพแสดงชว่ งอายขุ องผเู้ ขา้ รบั บรกิ าร 11. ขอ้ กำหนดของศนู ยพ์ ฒั นาคณุ ภาพชวี ติ และสง่ เสริมอาชีพผู้สงู อายุ 1. ด้านอาคารสถานท่จี ัดตง้ั ศูนย์ 1.1 ควรพิจารณาปรับปรงุ อาคารสถานทที่ มี่ ิไดใ้ ชป้ ระโยชนท์ ีม่ อี ย่ใู นชุมชน เช่น พืน้ ท่ใี น องค์การบริหารส่วนตำบล เทศบาล วัด มัสยิด สถานีอนามัย อาคารโรงเรียนหรือศูนย์พัฒนาเด็กเล็กท่ี ไมไ่ ดม้ ีการใช้งานแลว้ 1.2 หากจะมีการก่อสร้างที่ทำการศูนย์ ฯ ขึ้นใหม่ ควรคำนึงถึงระยะทางการเดินทาง ไป – มา สะดวก ไม่หา่ งจากชุมชน 1.3 มกี ารจัดสภาพแวดลอ้ มให้เหมาะสมและปลอดภัยสำหรบั ผู้สูงอายุภายในศนู ย์ 2. การบริหารจดั การศูนย์ กลไกการบรหิ ารจัดการศูนย์ฯ ให้ดำเนินงานอย่างมปี ระสิทธิภาพ ประกอบด้วย 2.1 คณะกรรมการบริหารศูนย์ฯ องค์ประกอบของคณะกรรมการบริหารศูนย์พัฒนา คณุ ภาพชวี ติ และส่งเสริมการอาชีพ ได้แก่ - นายกองคก์ ารปกครองส่วนทอ้ งถิ่น เปน็ ทีป่ รกึ ษา - ประธานศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุ คัดเลือกจาก ประธานชมรมผู้สงู อายุ - รองประธาน คดั เลือกจากผู้แทนชมรมผสู้ งู อายุ - ผู้แทนผสู้ งู อายุ จำนวน 3 - 5 คน เปน็ กรรมการ - ผูแ้ ทนอาสาสมคั ร จำนวน 1 – 2 คน เปน็ กรรมการ
39 - กรรมการและเลขานุการ ใหค้ ัดเลอื กจากผแู้ ทนองค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่นหรือ ผูส้ งู อายุ อำนาจหน้าทข่ี องคณะกรรมการศนู ย์ฯ มดี ังนี้ 1. กำหนดแนวทางการดำเนินงาน 2. จัดทำแผนปฏิบัติงาน โครงการ กิจกรรมของศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิต และ ส่งเสริมอาชพี ผสู้ ูงอายุ 3. จัดทำระบบข้อมูลผู้สูงอายใุ นพนื้ ที่ 4. แสวงหาความรว่ มมือจากภาคี องคก์ รเครอื ขา่ ยในชุมชน 5. สง่ เสริมและสนับสนุนให้เกดิ การดำเนนิ งานศนู ย์ฯ อย่างตอ่ เนื่อง 6. ดำเนนิ การอน่ื ๆ ตามท่เี หน็ สมควร เพื่อใหก้ ารดำเนินงานศูนย์บรรลวุ ัตถุประสงค์ 2.2 งบประมาณศนู ยฯ์ งบประมาณในการขับเคล่ือนการดำเนนิ งานศนู ย์ฯ ได้แก่ 2.2.1 การก่อสรา้ งหรอื ปรับปรงุ อาคารสถานท่ี 2.2.2 การจัดกิจกรรมเพอื่ ผสู้ งู อายขุ องศูนยฯ์ นอกจากนี้ยังสามารถขอรับสนับสนุนจากกองทุนต่าง ๆ เช่น กองทุนผู้สูงอายุ กองทุน ส่งเสริมการจัดสวสั ดิการสังคม กองทุนสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแหง่ ชาติ (สปสช.) และรายได้จากแหลง่ ทม่ี าอ่ืน ๆ เชน่ การจำหน่ายผลติ ภัณฑ์ของศนู ย์ฯ การจัดกจิ กรรมระดมทุน กิจกรรมหารายได้ การบริจาค การเก็บเงินค่าใช้บริการ การให้เช่าสถานที่จัดงาน รวมทั้งการสนับสนุน งบประมาณขององคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่นิ เปน็ ต้น 12. กลไกการดำเนินงาน แบ่งออกเปน็ 3 ระดับ ไดแ้ ก่ ส่วนกลาง สว่ นภูมภิ าค ระดบั พืน้ ท่ี ภาพแสดงสถานการณส์ งั คมผู้สูงอายไุ ทย
40 13. หนว่ ยงานที่รว่ มดำเนินการ ดังน้ี 1. องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิ่น มภี ารกิจโดยตรงในการคมุ้ ครอง สง่ เสริมและพัฒนาศักยภาพผสู้ งู อายุ อกี ท้ังยงั เป็นกลไก สำคัญในการกำหนดนโยบายและขับเคลื่อนงานผู้สูงอายุในระดับพื้นที่ ซึ่งนับวันจะต้องดูแลผู้สูงอายุที่มี จำนวนเพ่ิมข้ึน จึงเป็นผู้ให้การกอ่ ต้ังและสนับสนุนโดยตรงในการจัดต้ังศนู ยฯ์ ร่วมกบั ชมรมผู้สูงอายุ 2. ชมรมผ้สู งู อายุ ชมรมผู้สูงอายุ เป็นการรวมกลุ่ม ของผู้สูงอายุ เพื่อทำกิจกรรมร่วมกัน ปัจจุบันชมรม ผู้สูงอายุมีจำนวนมากและกระจายอยู่ทุกพื้นที่ ชมรมผู้สูงอายุจึงมีบทบาทสำคัญในการร่วมจัดตั้ง ศูนย์ฯ มปี ระสบการณ์ในการบริหารจัดการงานผ้สู งู อายใุ นระดบั ชมุ ชน ชมรมผู้สูงอายุท่ีเข้มแข็งจะมีส่วน รว่ มในการบริหารจดั การศูนยฯ์ ได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ 3. ความร่วมมือของหน่วยงานในจังหวดั และพ้ืนที่ การจัดต้งั และดำเนนิ งานศูนยฯ์ จะต้องได้รบั ความร่วมมือจากหน่วยงานในระดับพื้นที่ท่ี มีภารกจิ เก่ียวกบั การให้การสนบั สนนุ กจิ กรรมผสู้ งู อายุ ได้แก่ 1) หน่วยงานด้านสังคม ได้แก่ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัด ทำหน้าที่บูรณาการกับหน่วยงานของกระทรวงการพฒั นาสังคมและความมั่นคงของมนษุ ย์ และ หนว่ ยงานในระดบั พ้นื ที่ สนับสนุนทรพั ยากรในการจดั ต้งั ศูนยฯ์ ขับเคลอื่ นการดำเนินงาน 2) หน่วยงานด้านสาธารณสุข ให้บริการผู้สูงอายุด้านสุขภาพอนามัยซึ่งมีการ จัดบริการในโรงพยาบาลและในชุมชน เช่น การตรวจโรคการรักษาโรค การป้องกันโรค การส่งเสริม สขุ ภาพ 3) หน่วยงานด้านวัฒนธรรม มีภารกิจเกี่ยวกับการสนับสนุนการจัดกิจกรรม ดา้ นวัฒนธรรม ประเพณี ศาสนา ไดแ้ ก่ วฒั นธรรมจงั หวดั 4) หนว่ ยงานด้านอาชีพและการมงี านทำ ไดแ้ ก่ สำนักงานแรงงานจังหวัด สำนักงาน จัดหางานจังหวดั สำนกั งานพาณชิ ย์จงั หวดั สำนกั สง่ เสรมิ ภูมปิ ญั ญาและวสิ าหกจิ ชมุ ชน ศูนย์และสถาบัน พัฒนาฝีมือแรงงาน มีภารกิจในการให้บริการ ด้านการฝึกอาชีพ การจัดหางานให้แก่ผู้สูงอายุ การ รวมกลุ่มประกอบอาชีพ การส่งเสรมิ ใหผ้ สู้ ูงอายรุ บั งานไปทำที่บ้าน การประกอบอาชีพอสิ ระของผสู้ งู อายุ การพฒั นารูปแบบและผลติ ภณั ฑ์ เป็นต้น 5) หน่วยงานดา้ นการศึกษา มภี ารกจิ ในการส่งเสรมิ สนับสนนุ การศกึ ษาทง้ั ในระบบ และนอกระบบ และตามอัธยาศัย เช่น กศน. เนื่องจากผู้สูงอายุมีความต้องการที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ตาม ความถนัดและความสนใจ 6) สาขาสภาผู้สูงอายุประจำจังหวัด เป็นองค์กรที่มีความสามารถในการดำเนนิ งาน ทั้งด้านการบริหาร การแสวงหาแหล่งทุนการขยายเครือข่าย และการสร้างความพึงพอใจแก่สมาชิก สามารถส่งเสรมิ บทบาทของชมรมผู้สงู อายุให้เขา้ ไปดำเนินการศนู ย์ฯ ได้ 7) องค์กรทางศาสนา องค์กรชุมชน หรืออาสาสมัครทำงานด้านสังคมจะเป็น เครือขา่ ยในการขับเคลือ่ นให้เกดิ กิจกรรมอยา่ งต่อเนือ่ ง
41 14. ข้ันตอนการจดั ตงั้ ศนู ยพ์ ฒั นาคณุ ภาพชีวิตและสง่ เสรมิ อาชีพผสู้ งู อายุ 1. ขนั้ ตอนการดำเนินงาน 1) จัดประชุมหรือจัดเวทีประชาคม เพื่อเผยแพร่แนวคิดและรูปแบบการจัดตั้งศูนย์ฯ พรอ้ มทง้ั ร่วมเสนอความเหน็ ในการจัดกิจกรรมของศูนย์ฯ 2) แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารศูนย์ฯ เพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินงาน การจัดทำ แผนงาน โครงการ การแสวงหาความร่วมมือจากภาคีองค์กร เครือข่ายในชุมชน และการส่งเสริม สนบั สนนุ ให้การดำเนนิ งานศนู ย์ฯ ต่อเนื่อง การจดั หาสมาชิกจากชมรมผสู้ งู อายใุ นพน้ื ที่ การจัดหาสถานที่ จัดตั้งศูนย์ฯ โดยจัดทำแผนงาน โครงการ จะส่งไปยังสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จงั หวัด เพ่ือรวบรวมส่งใหส้ ่วนกลางพิจารณา 3) จดั ต้งั ศูนยฯ์ และดำเนินกจิ กรรม 4) การติดตามและประเมินผลการดำเนินงาน โดยสำนักงานพัฒนาสังคมและ ความม่ันคงของมนุษยจ์ งั หวัด ติดตามความก้าวหน้าเปน็ ระยะ 2. การจัดกิจกรรมและบริการ 1) กำหนดระเบียบ ข้อปฏิบตั ิทีเ่ กดิ จากข้อตกลงร่วมกัน จากการประชุมคณะกรรมการ บรหิ ารศนู ย์ฯ 2) จัดทำแผนการดำเนินกิจกรรมประจำสัปดาห์ เดือน ปี อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ โดย ให้บริการ ทั้งในศูนย์ฯ และนอกศูนย์ฯ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุทุกกลุ่ม และสมาชิกทุกวัยในชุมชนได้ เขา้ รว่ มกจิ กรรม 3. ประเภทกิจกรรม 3.1 กจิ กรรมภายในศนู ย์ฯ ประกอบด้วย 1) กิจกรรมการประชุมคณะกรรมการบริหารศูนย์ฯ ชมรมผู้สูงอายุหรือการ ปรกึ ษาหารอื ร่วมกันของผู้สงู อายุรว่ มกบั ชุมชน 2) กิจกรรมด้านสังคมและนันทนาการ เพื่อสร้างสัมพันธภาพที่ดีต่อกัน ผู้สูงอายุมีความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับผู้อื่นและพัฒนาบุคลิกภาพ ทักษะในการติดต่อสื่อสาร เสริมสร้างการปรับตัวให้เข้ากับผู้อื่นและพัฒนาบุคลิกภาพ ทักษะในการติดต่อสื่อสาร เสริมสร้างการ ปรับตัวทางสงั คมทำใหจ้ ิตใจของผสู้ งู อายุใหค้ ลายเหงา ลักษณะของกจิ กรรม 3) กิจกรรมด้านอาชีพ กิจกรรมนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้สูงอายุใช้เวลาให้เกิด ประโยชน์ โดยคำนงึ ถงึ ความถนัดและความสนใจ รวมทั้งศักยภาพของผู้สงู อายุแตล่ ะบคุ คล มวี ิทยากรซ่ึง เปน็ จติ อาสา 4) กิจกรรมส่งเสริมสุขภาพอนามัย สามารถดำเนินงานร่วมกับโรงพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพตำบล สถานีอนามัย โรงพยาบาล หน่วยบริการทางการแพทย์ต่าง ๆ เพื่อให้การดูแล สุขภาพทางด้านร่างกายที่เหมาะสมกับวัยส่งผลให้สภาพจิตใจของผู้สูงอายุดีขึ้น ภายในศูนย์จัดให้มีมุม ออกกำลังกาย มุมเล่นกีฬา มุมให้ความรู้เรื่องการดูแลรักษาสุขภาพ การส่งเสริมด้านโภชนาการ ติดต้ัง อปุ กรณ์กายภาพบำบัด เป็นตน้
42 5) กิจกรรมถ่ายทอดวัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น ก่อให้เกิดการอนุรักษ์ และสบื ทอดศลิ ปะ วฒั นธรรม และประเพณที ี่มีอยู่ในชมุ ชน 6) กิจกรรมการจัดให้มีระบบขอ้ มูลของผู้สูงอายุในพื้นที่ เพื่อให้ศูนย์ฯ มีข้อมูล แสดงถงึ ระดบั ของคณุ ภาพชีวิตของผู้สงู อายุ เพือ่ นำไปส่กู ารจดั ทำแผนงานโครงการ หรอื กิจกรรมรองรับ ในการสง่ เสรมิ สวัสดภิ าพและคุ้มครองพิทักษ์สิทธผิ ูส้ ูงอายุ 7) กิจกรรมการให้คำปรึกษา หารือ และการชว่ ยเหลอื เกื้อกูลเป็นลักษณะการ ให้บริการทางด้านสังคม การสงเคราะห์ การช่วยเหลือ และการใหค้ ำปรกึ ษาแก่ผู้สูงอายุ 8) กิจกรรมที่ส่งเสริมศักยภาพการดำเนินงานของอาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุ (เปน็ ศูนยป์ ระสานงานอาสาสมัคร) เพอ่ื สรา้ งฐานของชุมชนใหเ้ กิดการดูแลช่วยเหลอื คุม้ ครอง และพิทักษ์ สทิ ธิแก่ผู้สงู อายใุ นระยะยาว 10) กิจกรรมที่ตอบสนองตามความตอ้ งการอ่ืน ๆ ของผสู้ ูงอายุ เป็นตน้ 3.2 กิจกรรมภายนอกศูนยฯ์ ประกอบดว้ ย 1) กจิ กรรมทางศาสนา และประเพณี 2) กิจกรรมการเยี่ยมบ้านผู้สูงอายุ ผู้สูงอายุที่เจ็บป่วย อยู่ตามลำพัง ขาดผ้ดู ูแล การให้ความชว่ ยเหลอื ผ้สู งู อายทุ ีถ่ กู ทอดทงิ้ เดือดรอ้ น 3) กิจกรรมอาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุ ให้คำแนะนำในการดูแลรักษาสุขภาพให้ ความรู้ที่จำเปน็ สำหรับผู้สูงอายุ เป็นอาสาสมัครเคลื่อนที่เยี่ยมบ้านผู้สูงอายุที่อยู่ติดเตียงรวมทงั้ การให้บริการตามชุมชนต่าง ๆ 4) การประสาน การเชอื่ มโยง การดำเนินงานร่วมกบั กิจกรรมอ่ืน ๆ ทา่ นสามารถดูรายละเอยี ดโครงการกิจกรรมของศนู ย์ฯ โดยวิธกี ารสแกน QR – Code อา่ นในรูปแบบออนไลน์ 15. การจัดเก็บข้อมูลสำคัญเพื่อขับเคลื่อนการจัดกิจกรรมศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิต และสง่ เสรมิ อาชีพผู้สูงอายุ การจัดเก็บขอ้ มลู มคี วามสำคัญสำหรบั การใช้ประโยชนเ์ พอ่ื การวางแผนการกำหนดแนวทาง ขับเคลื่อนการจัดกิจกรรมของศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุ (ศพอส.) และการบูร ณาการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในระดับชุมชน ข้อมูลสำคัญ ประกอบดว้ ย
43 1. ข้อมูลดา้ นผู้สูงอายุ 2. ขอ้ มูลด้านอาชพี 3. ขอ้ มลู ดา้ นอาสาสมัคร ภาพแสดงการจดั เกบ็ ขอ้ มลู ผูส้ งู อายุในดา้ นต่างๆ ทา่ นสามารถศกึ ษารายละเอยี ดของศูนย์ฯ โดยวิธีการสแกน QR – Code อา่ นในรูปแบบออนไลน์
44
45
46
47
48
Search
Read the Text Version
- 1 - 48
Pages: