Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 1A ระเบียบวัดผลโรงเรียนมิติ1เล่ม2

1A ระเบียบวัดผลโรงเรียนมิติ1เล่ม2

Published by moetpr2514, 2020-06-20 01:22:22

Description: 1A ระเบียบวัดผลโรงเรียนมิติ1เล่ม2

Keywords: 1A

Search

Read the Text Version

คำนำ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ เป็นหลักสูตรแกนกลางของประเทศ มี จุดประสงค์ที่จะพัฒนาคุณภาพของผู้เรียนให้เป็นคนดี มีปัญญา มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีขีดความสามารถ ในการ แขง่ ขนั โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเพ่ิมศกั ยภาพของผู้เรียนให้สูงขนึ้ สามารถดารงชีวติ อยา่ งมีความสุข บนพื้นฐาน ของความเป็นไทยและความเป็นสากล รวมท้ังมีความสามารถในการประกอบอาชีพ หรือศึกษาต่อตามความ ถนัด ความสนใจและความสามารถของแตล่ ะบุคคล การวัดผลประเมนิ ผลการเรียนเป็นมาตรการหน่ึงท่ีจะช่วยให้ไดม้ าซง่ึ ข้อมลู มาพัฒนาผู้เรยี นใหบ้ รรลุ เป้าหมายของหลักสูตร เพ่ือความเข้าใจตรงกันและมีแนวทางปฏบิ ัติ ในเร่ืองการประเมินผลการเรียนไปใน ทิศทาง เดียวกัน โรงเรียน............................................... จึงได้จัดทาระเบียบการวัดผลประเมินผลการเรียน เพ่ือให้ ผู้บรหิ าร ครู และผู้ ทเ่ี กยี่ วข้องเข้าใจสาระและเจตนารมณ์ของระเบยี บ ตลอดจนแนวปฏิบัติทถ่ี ูกตอ้ ง โรงเรียน.............................................. ได้นาระเบียบการวัดและประเมินผลไปใช้ประกอบกับหลักสูตร สถานศึกษาโรงเรียน.............................................. พุทธศักราช ๒๕๕๑ และได้มีการปรับปรุงในบางกลุ่มสาระการ เรียนรู้ ดังน้ันระเบยี บการวดั และประเมนิ ผลจึงต้องมกี ารปรับปรุงเพ่ือให้มคี วามสอดคล้องกบั หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียน.............................................. พุทธศักราช ............................ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) โรงเรียน.............................................. ขอขอบคุ ณคณะกรรมการบริหารหลักสูตรและวิชาการของ สถานศึกษาที่ได้ ร่วมกันปรับปรุงระเบียบการวัดผลประเมินผล ของโรงเรียนมา ณ ท่ี นี้ด้วย โรงเรียน .............................................. หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ระเบียบการวัดผลประเมินผลการเรียนฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ ตอ่ การปฏบิ ัติงานด้านการวัดผลประเมินการเรียน อันจะนาไปสกู่ ารพฒั นาคุณภาพของผู้เรยี นอย่างมีประสิทธภิ าพ และเกดิ ประสิทธผิ ล (...............................................................) ผอู้ านวยการโรงเรียน..................................................

สำรบญั หวข้อ หน้ำ ประกาศโรงเรยี น..........................ใหใ้ ช้ระเบยี บการวดั และประเมินผลโรงเรียน...................... ประกาศโรงเรียน.......................ให้ใชร้ ะเบียบการวัดและประเมินผลโรงเรียน................... ๑ ระเบียบโรงเรียน.........................วา่ ดว้ ยการวดั ผลและประเมนิ ผลการเรียนรู้ระดบั ประถมศกึ ษาและ มธั ยมศกึ ษาตอนต้น พทุ ธศักราช.......................... ๒ หมวด ๑ หลกั การในการวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ ๒ ๒ ข้อ ๖ หลักการวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ๒ หมวด ๒ องค์ประกอบของการวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ๒ ๒ ข้อ ๗ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ๓ ๗.๑ การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ตามรายกลุ่มสาระการเรียนรู้ ๓ ๗.๒ การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน ๓ ๗.๓ การประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ๓ ๗.๔ การประเมินกจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน ๓ ๗.๕ กจิ กรรมลดเวลาเรยี น เพ่มิ เวลารู้ ๔ ๔ หมวด ๓ วธิ กี ารวัดและประเมินผลการเรียน ๔ ขอ้ ๘ การประเมินผลเพ่ือปรับปรุงพัฒนาการเรียนรู้ ๕ ๘.๑ การจัดการเรียนรู้ ๕ ๘.๒ ก่อนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ๕ ๘.๓ ระหว่างเรียน ๕ ๘.๔ ปลายปี ๕ ข้อ ๙ การประเมนิ ผลเพ่ือปรบั ปรุงการเรยี นรู้ ๗ ขอ้ ๑๐ ให้ใชผ้ ลการประเมินตามข้อ ๘ ในการตดั สิน ๗ ๘ หมวด ๔ เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ๘ ขอ้ ๑๑ การตดั สินผลการเรียน ๑๐ - ระดบั ประถมศึกษา - ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น ข้อ ๑๒ การกาหนดคะแนนระหว่างและปลายปหี รือปลายภาค ข้อ ๑๓ การประเมินผลการเรียนรู้ใหร้ ะดับผลการเรยี น ๑๓.๑ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ๑๓.๒ การประเมนิ ผลการอ่าน คิดวเิ คราะห์ และเขียน ๑๓.๓ การประเมินผลคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ๑๓.๔การประเมินการร่วมกิจกรรมพฒั นาผู้เรียน ต่อ/ข้อ๑๔

สำรบญ(ต่อ) หัวข้อ หนา้ ขอ้ ๑๔ การเล่อื นชั้น ๑๐ ขอ้ ๑๕ การเรียนซา้ ช้นั ๑๑ ข้อ ๑๖ การสอนซ่อมเสรมิ ๑๑ ขอ้ ๑๗ เกณฑ์การจบ ๑๒ - ระดับประถมศึกษา ๑๒ - ระดับมธั ยมศึกษาตอนต้น ๑๒ ข้อ ๑๘ การให้ระดบั ผลการเรยี น ๑๒ ๑๘.๑ รายวชิ ากลุ่มสาระการเรียนรู้ ๑๒ ๑๘.๒ การประเมนิ ผลการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขยี น ๑๓ ๑๘.๓ การประเมนิ การคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๑๓ ๑๘.๔ การประเมนิ การเข้ารว่ มกิจกรรมของผเู้ รียน ๑๕ ๑๖ หมวด ๕ การเทยี บโอนผลการเรยี น ๑๖ ข้อ ๑๙ การเทียบโอนผลการเรียน - แนวปฏบิ ัติการเทียบโอนผลการเรียนรูเ้ ขา้ สู้การศึกษาในระดบั การศึกษา ๑๗ ขนั้ พนื้ ฐาน ๒๐ ๒๐ หมวด ๖ การรายงานผลการเรยี น ๒๐ ขอ้ ๒๐ จุดมงุ่ หมายการรายงานผลการเรียนรู้ ๒๐ ขอ้ ๒๑ ข้อมลู ในการรายงานผลการเรียน ๒๐ ๒๑.๑ ขอ้ มลู ระดับชั้นเรยี น ๒๐ ๒๑.๒ ขอ้ มลู ระดบั สถานศึกษา ๒๐ ๒๑.๓ ข้อมูลการประเมินคุณภาพระดับเขตพืน้ ท่กี ารศกึ ษา ๒๑ ๒๑.๔ ข้อมูลผลการประเมินคุณภาพระดับชาติ ๒๑ ๒๑.๕ ข้อมลู พฒั นาการของผู้เรยี นดา้ นอื่นๆ ๒๑ ขอ้ ๒๒ ลกั ษณะขอ้ มูลสำหรับการรายงาน ๒๒ ขอ้ ๒๓ เป้าหมายการรายงาน ๒๒ ขอ้ ๒๔ วิธกี ารรายงาน ๒๓ ขอ้ ๒๕ การกาหนดระยะเวลาในการรายงาน ๒๓ ๒๓ หมวดั๗ เอกสารหลักฐานการศึกษา ๒๖ ข้อ ๒๖ เอกสารหลักฐานการศึกษาท่ีกระทรวงศึกษากาหนด ข้อ ๒๗ เอกสารหลักฐานการศึกษาควบคมุ และบังคบั หมวดั๘ การย้ายท่เี รยี น

ประกำศโรงเรียน...................................................................... เรอื่ งัใหใ้ ช้ระเบียบกำรวดและประเมินผลโรงเรียน............................พุทธศกรำช........... ตำมหลกสตู รแกนกลำงกำรศึกษำขน้ พืน้ ฐำนัพทุ ธศกรำชั๒๕๕๑ั(ฉบบปรบปรุงัพุทธศกรำชั๒๕๖๐) ............................................................................ ระเบยี บวดั ผลประเมินผลโรงเรียน...........................................................พทุ ธศักราช ........................ เป็นระเบียบวัดผลประเมนิ ผลท่ีมคี วามสอดคล้องกับหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี น................พุทธศักราช ............ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรุง ๒๕๖๐)และได้ดาเนินการตาม คาสั่งกระทรวงศึกษาธกิ าร ท่ี สพฐ. ๑๒๓๙/๒๕๖๐ ลงวนั ที่ ๗ เดือน สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ เรื่องใหใ้ ชห้ ลักสตู ร แกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ โดยระเบียบนกี้ าหนดใหใ้ ชค้ วบคู่กับหลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรียน .........................................................พทุ ธศักราช ...................ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) คณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ไดม้ ีมตเิ หน็ ชอบให้ใช้ระเบียบวดั ผลประเมนิ ผลโรงเรียน .......................... พุทธศักราช ..................... ในระดับประถมศึกษาและมธั ยมศึกษาตอนต้น โดยเริ่มใช้ในปีการศึกษา ............................. เมื่อวันท่ี ......... เดอื น ..................................... พ.ศ............................จึงประกาศใหใ้ ชร้ ะเบียบวัดผลประเมนิ ผลโรงเรยี น.................. พุทธศักราช.............. ประกาศ ณ วนั ที่ .................... เดือน ............................................................ พ.ศ. ......................... ลงชอื่ ลงชอื่ (.....................................................) (................................................) ประธานคณะกรรมการสถานศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน ผอู้ านวยการโรงเรียน............................................ โรงเรยี น.....................................................

ประกำศโรงเรียน...................................................................... เรื่องัใหใ้ ชร้ ะเบียบกำรวดและประเมินผลโรงเรียน............................พุทธศกรำช........... ตำมหลกสตู รแกนกลำงกำรศึกษำข้นพ้ืนฐำนัพทุ ธศกรำชั๒๕๕๑ั(ฉบบปรบปรุงัพุทธศกรำชั๒๕๖๐) ............................................................................ ระเบียบวดั ผลประเมนิ ผลโรงเรียน...........................................................พทุ ธศักราช ........................ เป็นระเบยี บวดั ผลประเมินผลทีม่ คี วามสอดคล้องกับหลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียน................พุทธศักราช ............ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ ๒๕๖๐)และได้ดาเนนิ การตาม คาสั่งกระทรวงศึกษาธิการ ท่ี สพฐ. ๑๒๓๙/๒๕๖๐ ลงวนั ที่ ๗ เดือน สงิ หาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ เรือ่ งใหใ้ ช้หลักสูตร แกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ โดยระเบียบนี้กาหนดให้ใชค้ วบค่กู บั หลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรยี น .........................................................พทุ ธศกั ราช ...................ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐) คณะกรรมการการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน ไดม้ มี ติเห็นชอบใหใ้ ชร้ ะเบียบวดั ผลประเมินผลโรงเรียน .......................... พทุ ธศักราช ..................... ในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้น โดยเรมิ่ ใช้ในปีการศึกษา ............................. เมื่อวนั ท่ี ......... เดอื น ..................................... พ.ศ............................จึงประกาศให้ใชร้ ะเบียบวัดผลประเมนิ ผลโรงเรียน.................. พทุ ธศักราช.............. ประกาศ ณ วันที่ .................... เดือน ............................................................ พ.ศ. ......................... ลงชอ่ื (................................................) ผู้อานวยการโรงเรยี น................................................

ระเบยี บโรงเรยี น................................................................................................................. ัวำ่ ดว้ ยกำรวดผลและประเมนิ ผลกำรเรียน ระดบประถมศกึ ษำและมธยมศกึ ษำตอนตน้ ัพุทธศกรำช..........................ั ตำมหลกสตู รแกนกลำงกำรศึกษำขน้ พ้นื ฐำนัพทุ ธศกรำชั๒๕๕๑ั ------------------------------------------------------------------- ตามทีโ่ รงเรียน................................................ ไดป้ ระกาศใช้หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช...................................ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามคาสง่ั กระทรวงศกึ ษาธิการ ท่ี สพฐ ๑๒๓๙/๒๕๖๐ ลงวันท่ี ๘ เดือน สงิ หาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ เร่อื งใหใ้ ช้ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐) จงึ เป็นการสมควรที่ กาหนดระเบยี บโรงเรียน.......................................วา่ ด้วยการวัดผลและประเมินผลการเรียนตามหลกั สูตร แกนกลางการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐) เพ่อื ใหส้ ามารถดาเนนิ การได้อย่างมี ประสิทธภิ าพ และสอดคลอ้ งกับคาสั่งดงั กลา่ ว ฉะน้ันอาศัยอานาจตามความในมาตรา ๓๙ แหง่ พระราชบญั ญตั ริ ะเบียบบรหิ ารราชการ กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. ๒๕๔๖ และกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการ คณะกรรมการบริหารหลกั สตู ร และงานวิชาการ สถานศึกษาขั้นพ้นื ฐานโดยความเหน็ ชอบของคณะกรรมการสถานศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน จึงวางระเบยี บไว้ดงั ตอ่ ไปน้ี ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกวา่ “ระเบยี บโรงเรียน.........................................วา่ ดว้ ยการวดั และประเมินผลการเรยี น ระดบั ประถมศึกษาและมธั ยมศึกษาตอนต้น ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) ข้อ ๒ ระเบียบนใ้ี ห้ใช้บังคับตั้งแต่ปกี ารศึกษา ......................................................... เป็นต้นไป ข้อ ๓ ใหย้ กเลกิ ระเบียบ ข้อบังคับ ทขี่ ดั แยง้ กับระเบียบนี้ ให้ใช้ระเบียบนแ้ี ทน ข้อ ๔ ให้ใช้ระเบียบน้ีควบคกู่ ับหลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี น........................................................ พทุ ธศักราช ............. ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง ๒๕๖๐) ข้อ ๕ ใหผ้ บู้ รหิ ารสถานศึกษารกั ษาการให้เปน็ ไปตามระเบียบน้ี

๑ หมวดั๑ ั หลกกำรในกำรวดและประเมนิ ผลกำรเรยี นรู้ ข้อั๖ หลกกำรวดและประเมินผลกำรเรียนรู้ การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ของโรงเรียน............................................พทุ ธศกั ราช ...................ตาม หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ เป็นกระบวนการเก็บรวบรวม ตรวจสอบ ตีความผล การเรียนรู้ และพัฒนาการด้านต่าง ๆ ของผู้เรียนตามมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดของหลักสูตร นาผลไปปรับปรุง พัฒนาการจัดการเรียนรูแ้ ละใชเ้ ป็นข้อมลู สาหรับการตัดสินผลการเรียน สถานศึกษาจึงมีกระบวนการจัดการทเ่ี ป็น ระบบ เพ่อื ให้การดาเนนิ การวดั และประเมินผลการเรียนรเู้ ปน็ ไปอย่างมีคุณภาพและประสิทธภิ าพ ผลการประเมินตรงตามสภาพการเรียนรู้ ความสามารถที่แทจ้ ริงของผ้เู รียน ถูกต้องตามหลักการวัดและประเมินผล การเรียนรู้ รวมท้ังสามารถรองรับการประเมินภายในและการประเมินภายนอก ตามระบบประกัน คุณภาพ การศึกษาได้ สถานศึกษาจึงกาหนดหลักการวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ เพื่อเปน็ แนวทางในการตดั สินใจเกี่ยวกับ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของสถานศึกษา ดังนี้ ๖.๑ การประเมนิ ผลการเรียนรูข้ องผู้เรยี น เปดิ โอกาสใหท้ ุกฝ่ายทเ่ี ก่ียวขอ้ งมสี ่วนร่วม ๖.๒ การวัดและประเมินผลการเรยี นรตู้ อ้ งสอดคล้องและครอบคลุมมาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชว้ี ดั ตาม กลุม่ สาระการเรยี นรู้ทีก่ าหนดในหลักสตู ร และจัดให้มีการประเมนิ การอา่ น คิดวิเคราะห์และเขยี น คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ตลอดจนกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น ๖.๓ การประเมินผู้เรยี นพจิ ารณาจากพฒั นาการของผู้เรียน ความประพฤติ การสงั เกตพฤติกรรมการ เรยี นรู้ การรว่ มกจิ กรรมและการทดสอบควบค่ไู ปในกระบวนการเรยี นการสอนตามความเหมาะสมของแต่ละระดับ ๖.๔ การวดั และประเมินผลการเรยี นรูเ้ ป็นสว่ นหนง่ึ ของกระบวนการจัดการเรียนการสอนต้องดาเนินการ ดว้ ยเทคนคิ วิธกี ารทีห่ ลากหลาย เพือ่ ใหส้ ามารถวัดและประเมินผลผเู้ รยี นได้อย่างรอบด้าน ท้งั ดา้ นความรู้ ความคิด กระบวนการ พฤติกรรมและเจตคติ เหมาะสมกบั สง่ิ ท่ตี ้องการวดั ธรรมชาติวิชา และระดับชั้นของผู้เรยี นโดยต้งั อยู่ บนพ้ืนฐานความเทยี่ งตรง ยตุ ิธรรม และเชอื่ ถือได้ ๖.๕ การประเมนิ ผลการเรียนรู้ มีจุดมุง่ หมายเพื่อปรบั ปรงุ พัฒนาผูเ้ รยี น พัฒนาการจัดการเรียนรู้และ ตดั สนิ ผลการเรยี น ๖.๖ เปิดโอกาสให้ผเู้ รียนและผู้มสี ว่ นเกีย่ วข้องตรวจสอบผลการประเมินผลการเรยี นรู้ ๖.๗ มีการเทยี บโอนผลการเรียนระหวา่ งสถานศึกษาและรูปแบบการศึกษาตา่ ง ๆ ๖.๘ จัดทาเอกสารหลักฐานการศกึ ษา เพ่ือเป็นหลักฐานการประเมนิ ผลการเรียนรู้ รายงานผลการเรยี น แสดงวุฒกิ ารศกึ ษาและรับรองผลการเรียนของผูเ้ รยี น

๒ หมวดั๒ องค์ประกอบของกำรวดและประเมนิ ผลกำรเรียนรู้ ข้อั๗ักำรวดและประเมินผลกำรเรียนรู้ หลักสูตรโรงเรียน.........................................................พุทธศักราช .................................................ตาม หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง๒๕๖๐) กาหนดจุดหมาย สมรรถนะ สาคัญของผู้เรียน และมาตรฐาน การเรียนรู้เป็นเป้าหมายและกรอบทิศทางในการพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดี มี ปัญญา มีคุณภาพชีวิตท่ีดีและมีขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับชาติ กาหนดให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ตาม มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวัดท่ีกาหนดในกลุ่มสาระการเรียนรู้ ๘ กลุ่มสาระ มีความสามารถด้านการอ่าน คิด วิเคราะห์และเขียน มคี ุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์และเข้าร่วมกจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน กิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลา รู้ การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ มีองค์ประกอบดงั น้ี ๗.๑ักำรวดและประเมนิ ผลกำรเรยี นรู้ตำมรำยกลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ัผสู้ อนทาการวดั และประเมินผลการ เรียนรู้ผู้เรียนเป็นรายวิชาตามตัวชี้วัดที่กาหนดในหน่วยการเรียนรู้ด้วยวิธีการท่ีหลากหลาย ให้ได้ผลการประเมิน ตามความสามารถท่ีแท้จริงของผู้เรียน โดยทาการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ไปพร้อมกับการจัดการเรียนการ สอน ได้แก่ การสังเกตพัฒนาการและความประพฤติของผู้เรียน การสังเกตพฤติกรรมการเรียน การร่วมกิจกรรม และการทดสอบซึ่งผู้สอนต้องนานวัตกรรมการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ที่หลากหลาย เช่นการประเมินสภาพ จริง การประเมินการปฏิบัติงาน การประเมินจากโครงงานและการประเมินจากแฟ้มสะสมผลงาน ไปใช้ในการ ประเมินผลการเรียนรู้ควบคู่ไปกับการใช้แบบทดสอบแบบต่าง ๆ และให้ความสาคัญกับการประเมินระหว่างปี มากกว่าการประเมนิ ปลายปี ๗.๒ กำรประเมินกำรอำ่ นัคิดวิเครำะหแ์ ละเขียน เป็นการประเมินศักยภาพของผู้เรียนในการอา่ น การ ฟงั การดแู ละการรบั รู้ จากหนงั สือ เอกสารและส่ือต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง แล้วนามาคิดวิเคราะหเ์ น้ือหาสาระ ท่ีนาไปสู่การแสดงความคดิ เห็น การสังเคราะห์สรา้ งสรรคใ์ นเรือ่ งตา่ ง ๆ และถา่ ยทอดความคดิ นั้นดว้ ยการเขยี น ซึ่งสะท้อนถึงสติปัญญา ความรู้ ความเข้าใจ ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหา และสร้างสรรค์ จินตนาการอย่างเหมาะสมและมีคุณค่าแก่ตนเอง สังคม และประเทศชาติ พร้อมด้วยประสบการณ์และทักษะใน การเขียนที่มีสานวนภาษาถูกต้อง มีเหตุผลและลาดับข้ันตอนในการนาเสนอ สามารถสร้างความเข้าใจแก่ผู้อ่านได้ อย่างชัดเจนตามระดับความสามารถในแต่ละระดับช้ัน การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน สรุปผลเป็น รายปี เพอื่ วนิ จิ ฉยั และใชเ้ ป็นข้อมูลเพอื่ ประเมินการเล่อื นชั้นเรียนและการจบการศกึ ษา ๗.๓ กำรประเมินคุณลกษณะอนพึงประสงค์ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ เป็นการประเมินรายคุณลักษณะ แล้วรวบรวมผลการประเมินจากผู้ประเมินทุกฝ่ายนามาพิจารณาสรุปผล เปน็ รายปี เพ่อื ใช้เป็นขอ้ มลู ประเมนิ การเลื่อนชัน้ เรียนและการจบการศึกษา ๗.๔ กำรประเมินกจิ กรรมพฒนำผู้เรียน เป็นการประเมินการปฏิบัติกิจกรรมตามจุดประสงค์และเวลาใน การเข้าร่วมกจิ กรรมตามเกณฑ์ทีก่ าหนดไว้ในแต่ละกจิ กรรมและใช้เป็นข้อมลู ประเมินการเล่ือนชั้นเรยี นและการจบ การศกึ ษา ๗.๕ กิจกรรมลดเวลำเรียนัเพิ่มเวลำรู้ นักเรียนเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติกิจกรรมท่ีหลากหลายตามความ สนใจ โดยคุณครูเป็นเพียงผู้คอยชี้แนะ และแนะนา ประเมินผลจากการปฏิบัติงาน นาเสนอ ชิ้นงาน ผลงาน การ สงั เกตพฤตกิ รรม โดยไมต่ ดั สนิ ผลการเรียน

๓ หมวดั๓ วธิ ีกำรวดและประเมนิ ผลกำรเรยี นรู้ ขอ้ ั๘ กำรประเมนิ ผลเพือ่ ปรบปรุงพฒนำกำรเรยี นรู้ ๘.๑ักำรจดกำรเรียนรู้ ๘.๑.๑ กลุม่ สาระการเรียนรู้ ครูผูส้ อนแจง้ ให้นักเรียนทราบดังนี้ ๑) มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้ีวัดชน้ั ปี ๒) คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ๓) การอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขยี น ๔) วิธีการวดั และประเมินผล ข้อ ๑) , ๒) และ ๓) ๕) เกณฑ์การผา่ นข้อ ๑), ๒) และ ๓) และการผา่ นกลุ่มสาระการเรยี นรู้ ๘.๑.๒ การจัดการเรียนร้กู ิจกรรมพฒั นาผู้เรยี นครูผูส้ อนแจง้ ให้นกั เรยี นทราบดังนี้ ๑) จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๒) คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ๓) วิธกี ารวัดและประเมินผลข้อ ๑) และ ๒) ๔) เกณฑ์การผา่ น ข้อ ๑) และ ๒) และการผา่ นกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน ๘.๑.๓ การจดั กจิ กรรมลดเวลาเรยี น เพม่ิ เวลารู้ ๑) ครูหรือนักเรยี นร่วมกนั เสนอกจิ กรรมตามความถนดั และสนใจ ๒) การกาหนดจดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๓) การลงมือปฏิบตั กิ จิ กรรม ๔) การวดั และประเมนิ ผล โดยไมต่ ัดสนิ ผลการเรยี น ๕) การทา AAR โดยผูบ้ รหิ ารและคณะครูรว่ มกนั ดาเนนิ การ ๘.๒ ก่อนกำรจดกจิ กรรมกำรเรียนรู้ ผู้สอนตอ้ งประเมนิ ผลก่อนเรยี นเพื่อตรวจสอบความรู้ พนื้ ฐานและทักษะเบื้องตน้ ของนักเรียน ๘.๓ัระหว่ำงเรยี น ผสู้ อนประเมนิ ผลการเรียนรู้ของนักเรยี นเป็นระยะ ๆ ดงั นี้ ๘.๓.๑ ประเมนิ ผลตามตวั ชว้ี ดั ช้นั ปีของรายวชิ าเพื่อพัฒนาการเรียนรูข้ องผ้เู รียนและ เพื่อการผ่านตวั ชี้วัดชัน้ ปี และผลการเรียนรู้ในรายวิชาเพ่ิมเตมิ ๘.๓.๒ ประเมินผลตามมาตรฐานการอา่ น คดิ วิเคราะห์ และเขยี น เพื่อพฒั นาการ เรียนรู้และการผ่านการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขยี น ๘.๓.๓ ประเมินผลตามตวั บง่ ชี้แตล่ ะคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ เพ่อื ประเมินวนิ จิ ฉัย และปรับเปลี่ยนคุณลักษณะอันพึงประสงค์ และการผา่ นการประเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ๘.๓.๔ ประเมินผลตามจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ของกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียนเพ่ือ พฒั นาการเรยี นรู้ของผเู้ รยี นและเพื่อผา่ นจุดประสงคก์ ารเรียนรูข้ องกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ๘.๓.๕ ประเมนิ ผลตามจุดประสงคโ์ ดยใช้เทคนคิ วธิ ีการเคร่อื งมือที่หลากหลาย ในกจิ กรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้

๔ ๘.๔ ปลำยปี เมื่อจบกระบวนการเรยี นรู้ มกี ารประเมินผลการเรยี นรูป้ ลายปี โดยเลอื ก ประเมนิ เฉพาะตวั ชี้วัดชัน้ ปีที่สาคัญให้ครอบคลมุ ทัง้ ความรู้ ทกั ษะกระบวนการ และการอ่านคดิ วิเคราะห์และเขียน คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ เพื่อตรวจสอบคุณภาพตามท่กี าหนดไวใ้ นหลักสตู ร ข้อั๙ักำรประเมนิ ผลเพือ่ ปรบปรงุ กำรเรียนรู้ัตามข้อ ๘.๒ ก่อนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้อ ๘.๓ ระหว่างเรียน และข้อ ๘.๔ ปลายปี ถา้ นกั เรียนมีความรู้ความสามารถต่ากว่าเกณฑ์ทีก่ าหนดไว้ ให้ผสู้ อน สอนซ่อมเสริมใหส้ อดคล้องกับลักษณะการเรยี นรู้ของนักเรียน ข้อั๑๐ัใหใ้ ชผ้ ลกำรประเมินตำมข้อั๘ัในกำรตดสินผลดงนี้ ๑๐.๑ ตามข้อ ๘.๓.๑ ตดั สินผลการผ่านตวั ช้วี ัดช้นั ปีของรายวชิ าเพื่อพฒั นาการเรยี นรู้ของผเู้ รยี น เพอ่ื ผ่านตวั ชวี้ ดั ชน้ั ปี ใช้ตดสนิ ผลกำรผำ่ นตวชวี้ ดชน้ ปี และผลกำรเรยี นรูใ้ นรำยวิชำเพมิ่ เติม ๑๐.๒ ตามข้อ ๘.๓.๑ การประเมินผลตัวชว้ี ดั ช้ันปีของรายวิชาเพือ่ พัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียน และเพื่อผา่ นตวั ชวี้ ัดชั้นปี กบั ๘.๔ การประเมนิ ผลปลายปี เมอ่ื จบกระบวนการเรียนรู้ ใช้ตดสินผลกำรผ่ำนกลุ่ม สำระกำรเรียนรู้ ๑๐.๓ ตามข้อ ๘.๓.๒ การประเมนิ ผลตามมาตรฐานการอ่าน คดิ วเิ คราะห์ และเขียนกบั การ ประเมนิ ผลปลายปี ใชต้ ดสินผลกำรผำ่ นกำรประเมนิ กำรอำ่ นัคดิ วเิ ครำะห์และเขียน ๑๐.๔ ตามข้อ ๘.๓.๓ ตัดสนิ ผลการผ่านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ๑๐.๕ ตามข้อ ๘.๓.๔ ตัดสนิ ผลการผ่านกิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน ๑๐.๖ ตามข้อ ๘.๓.๕ ดาเนินการจดั การเรียนรู้กิจกรรมลดเวลาเรยี น เพมิ่ เวลารู้และประเมนิ โดย ไมต่ ดสนิ ผลกำรเรียน ใชผ้ ลการประเมนิ เพอ่ื การปรับปรงุ พัฒนา

๕ หมวดั๔ เกณฑก์ ำรวดและประเมินผลกำรเรียนรู้ ขอ้ ั๑๑ักำรตดสนิ ผลกำรเรยี น หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ได้กาหนดโครงสร้าง เวลาเรียน มาตรฐาน การเรียนรู้/ตัวช้ีวัด การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ท่ี สถานศึกษาต้องจัดให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ มีคุณภาพเต็มตามศักยภาพ สถานศึกษาจึงกาหนดเกณฑ์การวัดและ ประเมนิ ผลการเรียนรู้ เพือ่ ตัดสนิ ผลการเรียนของผ้เู รียน ดังนี้ ระดบชน้ ประถมศกึ ษำ ๑๑.๑ ผเู้ รยี นต้องมีเวลาเรยี นไม่น้อยกวา่ ร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรยี นทั้งหมด ๑๑.๒ ผเู้ รียนตอ้ งไดร้ ับการประเมินทุกตัวชีว้ ดั ชัน้ ปี และผ่านตามเกณฑท์ ส่ี ถานศึกษากาหนด ๑๑.๓ ผเู้ รยี นตอ้ งไดร้ บั การตัดสนิ ผลการเรยี นทกุ รายวิชา ๑๑.๔ ผเู้ รียนตอ้ งได้รับการประเมนิ และมผี ลการประเมนิ ผ่านตามเกณฑ์ท่ีกาหนดใน การอ่าน คดิ วิเคราะห์และเขียน คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน ระดบชน้ มธยมศกึ ษำตอนต้น ๑๑.๕ ผู้เรียนระดบั ข้ันมัธยมศึกษาตอนต้นต้องมเี วลาเรียนไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรียน ในแต่ละรายวิชา ๑๑.๖ ผเู้ รยี นตอ้ งเรียนรู้กลุม่ สาระการเรยี นรูท้ ั้ง ๘ กลมุ่ และไดร้ บั การตดั สนิ ผลการเรยี น ระดบั ๑ คอื ( ผ่านเกณฑ์ข้นั ตา่ ของโรงเรยี น ) ขนึ้ ไป ทุกกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ และต้องไดร้ บั การประเมนิ ทุกตวั ช้วี ดั และผา่ นตามเกณฑ์ท่สี ถานศึกษากาหนด ๑๑.๗ ผเู้ รียนตอ้ งผา่ นการประเมินการอา่ น คิดวิเคราะห์ และการเขียน ได้ตามทีโ่ รงเรยี น กาหนด คือ ระดับคุณภาพ ๑ หรือ รอ้ ยละ ๕๐-๖๔ ผลการประเมนิ ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ๑๑.๘ ผู้เรยี นต้องเข้าร่วมกจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียนและผ่านการประเมนิ ได้ระดบั ผลการเรยี น ผ่าน ๑๑.๙ ผู้เรียนตอ้ งผ่านการประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงคไ์ ด้ระดบั ผลการเรียนตาม ที่ สถานศึกษากาหนด คือ ระดับคณุ ภาพ ๑ หรือ ร้อยละ ๕๐-๖๔ ผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมินขนั้ ต่า ของโรงเรียน ขอ้ ั๑๒ กำรกำหนดคะแนนระหวำ่ งเรียนและปลำยปีหรือปลำยภำคัเพือ่ ใช้ตดั สนิ ผลการเรยี น กาหนด ดังน้ี ๑๒.๑ รำยวิชำของแต่ละกลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ ใหน้ าคะแนนระหวา่ งเรยี นรวมกับปลายภาค เรียนแล้วนามาตัดสินผลการเรียน ดังน้ี ๑๒.๑.๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย, คณิตศาสตร์, วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี , สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม และภาษาต่างประเทศ กาหนดดังน้ี คะแนนระหว่างปี / ภาค ๗๐ คะแนน คะแนนปลายปี / ภาค ๓๐ คะแนน รวมััััััััััััััััััััั ๑๐๐ คะแนน

๖ ๑๒.๑.๒ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ และการงานอาชีพ กาหนดดังน้ี คะแนนระหวา่ งปี / ภาค ๘๐ คะแนน คะแนนปลายปี / ภาค ๒๐ คะแนน ััรวม ๑๐๐ ัคะแนน ( หมายเหตุ : คะแนนระหวา่ งภาค/ปลายภาคแล้วแตบ่ ริบทของแต่ละโรงเรยี นจะกาหนดช่วงคะแนน) ๑๒.๒ กำรประเมนิ กำรอ่ำนัคดิ วิเครำะห์ัและเขียน เพื่อการเล่ือนระดบั ช้ันและจบการศกึ ษา กาหนดเกณฑ์การตดั สินเป็น ๔ ระดบั และความหมายของแต่ละระดับ ดงั น้ี ดีเยยี่ มั(๓) หมายถึง มีผลงานท่ีแสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวเิ คราะห์และเขียนทีม่ ี คณุ ภาพท่ดี เี ลิศอยู่เสมอ ดี (๒) หมายถึง มีผลงานท่ีแสดงถึงความสามารถในการอา่ น คดิ วิเคราะหแ์ ละเขยี นทีม่ ี คุณภาพเป็นท่ยี อมรบั ผำ่ น(๑) หมายถึง มีผลงานท่ีแสดงถึงความสามารถในการอา่ น คิดวเิ คราะห์และเขียนท่ีมี คณุ ภาพเป็นท่ียอมรับ แต่ยังมีขอ้ บกพร่องบางประการ ไมผ่ ่ำน(๐) หมายถึง ไมม่ ผี ลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอา่ น คิดวเิ คราะหแ์ ละเขียน หรือถา้ มผี ลงาน ผลงานนัน้ ยังมีข้อบกพร่องท่ตี ้องได้รับการปรบั ปรุงแก้ไขหลาย ประการ ๑๒.๓ กำรสรปุ ผลประเมินคณุ ลกษณะอนพึงประสงค์รวมทกุ คุณลักษณะ เพือ่ การเลือ่ น ระดบั ชน้ั และจบการศึกษา กาหนดเกณฑ์การตดั สินเปน็ ๔ ระดับ และความหมายของแตล่ ะระดบั ดังนี้ ดเี ยี่ยม (๓) หมายถงึ นักเรยี นปฏบิ ัตติ ามคณุ ลักษณะจนเปน็ นสิ ยั และนาไปใช้ในชีวิต ประจาวนั เพื่อประโยชน์สขุ ของตนเองและสงั คมโดยพิจารณาจาก ผลการประเมนิ ระดับดีเย่ียม จานวน ๕ -๘ คุณลกั ษณะ และไม่มี คุณลักษณะใดไดผ้ ลการประเมินตา่ กว่าระดับดี ดี(๒) หมายถึง นกั เรยี นมคี ณุ ลักษณะในการปฏิบัตติ ามเกณฑ์ เพ่ือใหเ้ ปน็ การยอมรบั ของสงั คมโดยพจิ ารณาจาก (๑) ไดผ้ ลการประเมนิ ระดบั ดีเยีย่ มจานวน ๑-๔ คณุ ลักษณะและไมม่ ี คณุ ลักษณะใดที่ได้ผลการการประเมนิ ตา่ กวา่ ระดับดีหรือ (๒) ได้ผลการประเมนิ ระดับดีเยยี่ มจานวน ๔ คณุ ลกั ษณะและไม่มี คุณลักษณะใดที่ได้ผลการการประเมนิ ตา่ กว่าระดบั ดีหรือ (๓) ไดผ้ ลการประเมนิ ระดบั ดีเย่ียมจานวน ๕-๘ คณุ ลักษณะและไมม่ ี คณุ ลักษณะใดที่ไดผ้ ลการการประเมนิ ต่ากว่าระดับดี ผ่ำน (๑) หมายถงึ นักเรียนรับรู้และปฏิบัตติ ามกฎเกณฑ์และเงื่อนไขทโี่ รงเรียนกาหนด โดยพจิ ารณาจาก (๑) ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับผ่านจานวน ๕-๘ คณุ ลักษณะและไม่มี คุณลักษณะใดท่ีไดผ้ ลการการประเมินต่ากว่าระดบั ผา่ นหรือ (๒) ไดผ้ ลการประเมินระดับดีจานวน ๔ คุณลกั ษณะและไม่มี คุณลักษณะใดท่ีไดผ้ ลการการประเมินตา่ กวา่ ระดบั ผ่าน ไม่ผำ่ น (๐) หมายถงึ นกั เรยี นรับรู้และปฏิบัตไิ ด้ไม่ครบตามกฎเกณฑ์และเง่อื นไขทโ่ี รงเรียน กาหนด โดยพจิ ารณาจากมผี ลการประเมนิ ระดับไมผ่ ่านต้งั แต่ ๑ คณุ ลักษณะ

๗ ๑๒.๔ กำรประเมนิ กจิ กรรมพฒนำผเู้ รยี น จะต้องพิจารณาทง้ั เวลาการเขา้ ร่วมกิจกรรมอย่าง น้อยรอ้ ยละ ๘๐ การปฏิบตั ิกิจกรรม และผลงานของนักเรียน ตอ้ งผา่ นรอ้ ยละ ๗๐ และใหผ้ ลการประเมิน เป็นผา่ นและไม่ผา่ น โดยใหใ้ ช้ตวั อกั ษรแสดงผลการประเมินดังน้ี “ผ” หมายถงึ นักเรยี นมเี วลาการร่วมกิจกรรม การปฏบิ ัติกิจกรรม และมีผลงานผ่านเกณฑ์ “มผ” หมายถึง นักเรยี นมีเวลาการเขา้ รว่ มกิจกรรม การปฏบิ ัติกิจกรรม และมีผลงานไมผ่ ่านเกณฑ์ ในกรณี ที่นักเรยี นได้ผลการเรียน “มผ” ใหค้ รผู สู้ อนจัดซ่อมเสรมิ ให้นักเรียนทากจิ กรรมในส่วนที่ นกั เรียนไม่ไดเ้ ข้าร่วม หรือไม่ได้ทาจนครบถว้ น แล้วจงึ เปลย่ี นผลการเรยี นจากๆไม่ผ่านเป็นผ่านท้งั นตี้ ้อง ดาเนนิ การให้เสรจ็ สิน้ ภายในปีการศึกษานั้น ๑๒.๕ักำรสอนซ่อมเสริมั การสอนซ่อมเสริม เป็นสว่ นหน่งึ ของกระบวนการจดั การเรียนร้แู ละเป็นการใหโ้ อกาสแก่ผ้เู รยี นได้ มเี วลาเรยี นรู้ส่ิงต่าง ๆ เพ่ิมข้นึ จนสามารถบรรลตุ ามมาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชี้วดั ท่ีกาหนดไว้ การสอน ซอ่ มเสรมิ เป็นการสอนกรณีพเิ ศษนอกเหนือไปจากการสอนตามแผนการจดั การเรียนรปู้ กติ เพ่ือแก้ไข ข้อบกพร่องที่พบในผเู้ รียน โดยจัดกระบวนการเรียนรู้ท่ีหลากหลายและคานงึ ถึงความแตกต่างระหวา่ ง บุคคลของผเู้ รยี น การสอนซ่อมเสรมิ สามารถดาเนนิ การได้ในกรณีดงั ตอ่ ไปนี้ ๑๒.๕.๑ ผเู้ รียนมีความรู้/ทกั ษะพ้นื ฐานไมเ่ พียงพอทีจ่ ะศึกษาในแต่ละรายวชิ าน้ัน จะจดั การสอนซอ่ มเสรมิ ปรบั ความรู้/ทกั ษะพน้ื ฐาน ๑๒.๕.๒ การประเมินระหวา่ งเรยี น ผู้เรียนไม่สามารถแสดงความรู้ ทกั ษะกระบวนการ หรือเจตคติ/คุณลักษณะ ทกี่ าหนดไวต้ ามมาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชวี้ ดั ๑๒.๕.๓ ผลการเรยี นไมถ่ งึ เกณฑแ์ ละ/หรอื ต่ากวา่ เกณฑก์ ารประเมิน ต้องจัดการสอน ซ่อมเสรมิ กอ่ นจะให้ผเู้ รยี นสอบแก้ตัว ข้อั๑๓ักำรประเมินผลกำรเรียนรแู้ ละให้ระดบผลกำรเรียนั สถานศกึ ษากาหนดเกณฑก์ ารตดั สินผลการเรยี น ซง่ึ สามารถอธบิ ายผลการเรยี นว่าผูเ้ รียนต้องมีความรู้ ทกั ษะและคุณลักษณะโดยรวม ดงั น้ี ๑๓.๑ กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ กาหนดผลการเรียนเป็น ๘ ระดับ คอื ระดบผลกำรเรยี น ควำมหมำย ช่วงคะแนนรอ้ ยละ ๔ ผลการเรยี นดเี ยี่ยม ๘๐ - ๑๐๐ ๓.๕ ผลการเรยี นดีมาก ๗๕ - ๗๙ ๓ ผลการเรียนดี ๗๐ - ๗๔ ๒.๕ ผลการเรียนคอ่ นขา้ งดี ๖๕ - ๖๙ ๒ ผลการเรยี นปานกลาง ๖๐ - ๖๔ ๑.๕ ผลการเรยี นพอใช้ ๕๕ - ๕๙ ๑ ผลการเรยี นผ่านเกณฑ์ขน้ั ตา่ ๕๐ - ๕๔ ๐ ผลการเรยี นต่ากวา่ เกณฑ์ ๐ - ๔๙

๘ ๑๒.๒ักำรประเมินผลกำรอำ่ นัคดิ วเิ ครำะห์ัและเขยี น กาหนดผลจากการประเมนิ ดงั น้ี ช่วงคะแนน ๘๐ - ๑๐๐ หมายถงึ ผลการประเมนิ อยใู่ นระดบั ดีเยี่ยม (๓) ชว่ งคะแนน ๖๕ - ๗๙ หมายถึง ผลการประเมินอยใู่ นระดบั ดี (๒) ชว่ งคะแนน ๕๐ - ๖๔ หมายถึง ผลการประเมินอยู่ในระดบั ผ่าน (๑) ชว่ งคะแนน ๐ - ๔๙ หมายถงึ ผลการประเมนิ อยใู่ นระดบั ไมผ่ า่ น (๐) และแยกใหค้ ะแนนเปน็ ข้อ ๆ ดงั น้ี น้ำหนกคะแนน กำรอ่ำนั, คดิ วเิ ครำะหั์ , เขยี นส่อื ควำมหมำย ( ๑๐๐ คะแนนั) กลุม่ สำระ ๑.กำรอำ่ น ๒.คิดวิเครำะห์ ๓.เขยี นส่ือควำม เกณฑ์ผ่ำน ภาษาไทย ๓๕ ๓๐ ๓๕ ๕๐ คณติ ศาสตร์ ๒๐ ๕๐ ๓๐ ๕๐ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๒๐ ๕๐ ๓๐ ๕๐ สงั คมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม ๔๐ ๓๐ ๓๐ ๕๐ -ประวัตศิ าสตร์ -หนา้ ทพ่ี ลเมือง -ตา้ นทุจรติ ศึกษา สขุ ศึกษาและพลศึกษา ๓๐ ๔๐ ๓๐ ๕๐ ศลิ ปะ ๓๐ ๔๐ ๓๐ ๕๐ การงานอาชพี ๑๐ ๗๐ ๒๐ ๕๐ ภาษาต่างประเทศ ๔๐ ๓๐ ๓๐ ๕๐ ( หมายเหตุ : คะแนนการอ่าน, คดิ วิเคราะห,์ เขยี น ของแต่ละวิชาต้องขน้ึ อยูก่ ับคณะกรรมการการพัฒนาและ ประเมินความสามารถในการอ่าน คดิ วิเคราะห์ และเขยี น ของโรงเรยี นเปน็ ผ้กู าหนดตามบรบิ ทของโรงเรียน ) รวมคะแนนการประเมนิ ผลการอา่ น คิดวิเคราะห์ และเขียน เปน็ ๑๐๐ คะแนน ๑๓.๓ักำรประเมินคณุ ลกษณะอนพงึ ประสงค์ ทาผลการประเมินเป็น ๔ ระดับ คือ โดย พจิ ารณาผลการประเมนิ ดังนี้ ช่วงคะแนน ๘๐ - ๑๐๐ หมายถงึ ผลการประเมนิ อยใู่ นระดบั ดีเยยี่ ม (๓) ช่วงคะแนน ๖๕ - ๗๙ หมายถึง ผลการประเมินอยใู่ นระดบั ดี (๒) ชว่ งคะแนน ๕๐ - ๖๔ หมายถึง ผลการประเมนิ อยูใ่ นระดับ ผ่าน (๑) ช่วงคะแนน ๐ - ๔๙ หมายถึง ผลการประเมินอย่ใู นระดับ ไม่ผ่าน (๐) และแยกให้คะแนนเปน็ ข้อ ๆ ดงั น้ี

๙ คุณลกษณะอนพึงประสงค์ั๘ัประกำรัไดแ้ ก่ ขอ้ ๑ััรกชำตัิ ศำสน์ักษตริย์ั๑๕ัคะแนนั ตวชี้วดั -เปน็ พลเมืองดขี องชาติ ๔ คะแนน -ธารงไว้ซ่ึงความเป็นชาติไทย ๓ คะแนน -ศรัทธา ยดึ ม่ันและปฏิบตั ิตนตามหลกั ศาสนา ๔ คะแนน -เคารพเทิดทนู สถาบันพระมหากษตั รยิ ์ ๔ คะแนน ขอ้ ๒ััซื่อสตยส์ ุจริตั๑๐ัคะแนนั ัััััััั ตวชีว้ ด -ประพฤตติ รงตามความเปน็ จรงิ ต่อตนเองทง้ั ทางกาย วาจา ใจ ๕ คะแนน -ประพฤตติ รงตามความเปน็ จริงตอ่ ผู้อ่ืนทั้งทางกาย วาจา ใจ ๕ คะแนน ข้อ๓ััมวี นิ ยั๑๕ัคะแนนั ััััั ตวช้ีวด -ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของครอบครวั โรงเรียนและสังคม ๑๕ คะแนน ข้อ๔ััใฝเ่ รียนร้ัู ๑๕ัคะแนนั ััััััััั ตวชี้วด -ตงั้ ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ ๘ คะแนน -แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนร้ตู ่างๆทั้งภายในและภายนอกโรงเรยี นด้วยการเลือกใชส้ ื่อ อย่าง เหมาะสม สรุปเป็นองค์ความรู้ และสามารถนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั ได้ ๗ คะแนน ข้อ๕ััอยู่อย่ำงพอเพยี งั๑๐ัคะแนนั ััััััััััััััััััั ตวชว้ี ด -ดาเนินชีวิตอย่างพอประมาณ มีเหตุผล รอบคอบ มีคุณธรรม ๕ คะแนน -มีภูมิคุ้มกนั ในตัวที่ดี และปรับตัวเพ่อื อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสขุ ๕ คะแนน ขอ้ ๖ััม่งุ ม่นในกำรทำงำนั๑๐ัคะแนนั ััััััั ตวชี้วด -ตง้ั ใจและรับผิดชอบในหนา้ ท่ีการงาน ๕ คะแนน -ทางานด้วยความเพยี รพยายามและอดทนเพื่อใหง้ านสาเร็จตามเป้าหมาย ๕ คะแนน ขอ้ ๗ััรกควำมเปน็ ไทยั๑๐ัคะแนนั ัััััััั ตวช้ีวด -ภาคภูมใิ จในขนบธรรมเนยี มประเพณี ศิลปะ วฒั นธรรมไทยและมีความกตัญญูกตเวที ๔ คะแนน -เห็นคณุ คา่ และใช้ภาษาไทยในการส่ือสารได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ๓ คะแนน -อนรุ กั ษ์ และสืบทอดภมู ปิ ัญญาไทย ๓ คะแนน ข้อ๘ััมจี ติ สำธำรณะั๑๕ัคะแนนั ัััััััั ตวชี้วด -ชว่ ยเหลอื ผอู้ ่นื ด้วยความเตม็ ใจโดยไมห่ วงั ส่งิ ตอบแทน ๘ คะแนน -เขา้ ร่วมกิจกรรมท่ีเปน็ ประโยชนต์ อ่ โรงเรียน ชุมชนและสังคม ๗ คะแนน (หมำยเหตุ : คะแนนคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงคใ์ นแตล่ ะข้อข้ึนอยู่กบั คณะกรรมการประเมนิ คุณลกั ษณะของ โรงเรียนจะกาหนดตามบรบิ ทของโรงเรียนน้ันๆ )

๑๐ ๑๓.๔ักำรประเมินกำรเข้ำรว่ มกจิ กรรมของผ้เู รยี น กาหนดการประเมินเป็น ๒ ระดับ ดังน้คี อื ผา่ น หมายถงึ ผา่ นเกณฑ์ ไมผ่ ่าน หมายถึง ไมผ่ า่ นเกณฑ์ ข้อั๑๔ักำรเลอื่ นช้นั สถานศกึ ษากาหนดกฎเกณฑ์การเล่ือนช้นั โดยพิจารณาให้สอดคล้องกบั เกณฑก์ ารตดั สินผล การเรียน ตลอดจนกาหนดเกณฑเ์ ก่ียวกับการผา่ นตัวช้ีวดั ที่ชดั เจนและประกาศให้ทราบท่ัวกนั ดงั น้ี ๑๔.๑ ผ้เู รียนระดบั ประถมศึกษาต้องมเี วลาเรยี นตลอดปีการศกึ ษาไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรียนท้งั หมด ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนตน้ ต้องมีเวลาเรยี นตลอดภาคเรียนไมน่ อ้ ยกว่าร้อยละ ๘๐ ของวิชาที่เรยี น ๑๔.๒ ผเู้ รยี นต้องไดร้ บั การประเมินทุกตวั ช้ีวัดและต้องผา่ นทุกตัวชวี้ ดั ของแต่ละรายวชิ า ๑๔.๓ ผ้เู รยี นตอ้ งไดร้ ับการตัดสินผลการเรยี น และผา่ นทุกรายวชิ าของกล่มุ สาระการเรยี นรู้ โดย มเี กณฑ์การผา่ น ดังน้ี ๑๔.๓.๑ เวลาเรียนในแตล่ ะรายวชิ าของกลุม่ สาระการเรียนรู้ไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ ๘๐ ของ เวลาเรียนท้ังหมด ๑๔.๓.๒ ต้องได้รับการประเมินทกุ ตัวช้วี ัด และผา่ นตวั ชีว้ ดั ชั้นปีไมน่ อ้ ยกว่าร้อยละ ๑๐๐ ของตัวชว้ี ัดในรายวชิ า ๑๔.๓.๓ ระดบั ผลการเรียนตั้งแตร่ ะดบั ๑ ข้ึนไป ๑๔.๔ การประเมินการอา่ น คิดวเิ คราะห์ และเขยี น ผเู้ รยี นตอ้ งได้ระดับผลการเรียนต้งั แตร่ ะดบั ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ข้นึ ไป ๑๔.๕ การประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ผู้เรียนตอ้ งได้ผลการประเมนิ ระดบั ผา่ นเกณฑก์ าร ประเมนิ ข้ึนไป ๑๔.๖ การประเมิน การเข้ารว่ มกิจกรรมพฒั นาผู้เรียน ผเู้ รยี นต้องได้ผลการประเมนิ ระดับผ่าน โดยมีเกณฑ์การผา่ น ดังนี้ ๑๔.๖.๑ ผเู้ รียนตอ้ งมีเวลาเขา้ รว่ มกิจกรรมแต่ละปไี ม่น้อยกว่ารอ้ ยละ ๘๐ ของเวลาเรียน ๑๔.๖.๒ ผู้เรยี นผา่ นจุดประสงค์การเรยี นรู้ไมน่ ้อยกว่ารอ้ ยละ ๑๐๐ ของจดุ ประสงค์การ เรยี นรใู้ นกจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รียน ๑๔.๖.๓ ผ้เู รยี นเข้าร่วมกิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณะประโยชนต์ ามเวลาทก่ี าหนดไว้ ในโครงสร้างของหลกั สูตรสถานศึกษา ท้งนัี้ ถ้ำผเู้ รียนมีข้อบกพร่องเพยี งเลก็ นอ้ ยัและสถำนศึกษำพจิ ำรณำเห็นวำ่ สำมำรถพฒนำและสอน ซอ่ มเสริมไดั้ ให้อยใู่ นดุลยพินิจของสถำนศึกษำทจ่ี ะผ่อนผนให้เลื่อนชน้ ได้ กำรพิจำรณำเล่อื นชน้ ัถ้าผู้เรียนมขี อ้ บกพร่องเพียงบางตัวช้ีวัด ซึง่ พิจารณาเหน็ วา่ สามารถพัฒนาและ สอนซ่อมเสรมิ ได้ ก็ใหอ้ ยู่ในดุลยพินจิ ของคณะกรรมการท่จี ะผ่อนผนั ให้เลอื่ นชน้ั ได้ ในกรณีท่ีผู้เรียนมีสติปัญญาและความสามารถดีเลิศ สามารถเรียนรู้ได้เร็วเป็นพิเศษ สถานศึกษาจะให้ โอกาสผู้เรียนเลื่อนช้ันระหว่างปีการศึกษา โดยสถานศึกษาแต่งตั้งคณะกรรมการประกอบด้วยคณะกรรมการ บริหารหลักสูตรและวิชาการและผู้แทนของเขตพ้ืนท่ีการศึกษาอย่างน้อย ๑ คน เมื่อผู้เรียนมีคุณสมบัติครบถ้วน ตามเงอ่ื นไขทัง้ ๓ ประการ ตอ่ ไปน้ี ๑) มีผลการเรียนปกี ารศกึ ษาท่ีผ่านมาและมผี ลการเรยี นระหว่างปีอยู่ในเกณฑ์ดเี ยี่ยม ๒) มวี ฒุ ิภาวะเหมาะสมที่จะเรียนในช้นั ที่สูงขึน้

๑๑ ๓) ผ่านการประเมินผลความรู้ความสามารถตามตัวชี้วดั รายปีทัง้ หมดในภาคเรียนท่ี ๒ ปีปัจจุบันและภาค เรยี นท่ี ๑ ของปกี ารศกึ ษาถดั ไป การอนุมัติให้เล่ือนไปเรียนชั้นสูงได้ ๑ ระดับช้ันน้ี ต้องได้รับการยินยอมจากนักเรียนและผู้ปกครองและ ดาเนินการใหเ้ สรจ็ ส้ินภายในวันท่ี ๑ กันยายนของปกี ารศกึ ษานั้น สาหรับในกรณีท่พี บว่ามีผเู้ รยี นกลมุ่ พิเศษประเภทต่าง ๆ ทม่ี ปี ัญหาในการเรียนร้สู ถานศึกษาจะดาเนินงาน ร่วมกบั สานกั งานเขตพนื้ ท่กี ารศกึ ษาหาแนวทางการแกไ้ ขและพฒั นา ข้อั๑๕ักำรเรยี นซ้ำชน้ ั หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐)กาหนดว่า หาก ผู้เรียนไม่ผ่านรายวิชาจานวนมากและมีแนวโน้มว่าจะเป็นปัญหาต่อการเรียนในระดับช้ันท่ีสูงข้ึน สถานศึกษาอาจ ตั้งคณะกรรมการพิจารณาให้เรียนซ้าชั้นได้ ท้ังน้ีให้คานึงถึงวุฒิภาวะและความรู้ความสามารถของนักเรียนเป็น สาคัญ ผูเ้ รยี นท่ไี ม่มีคุณสมบตั ิตามเกณฑ์การอนุมตั ิเลอ่ื นชนั้ เรยี น จะตอ้ งจัดใหเ้ รยี นซ้าช้นั ในกรณีที่ผู้เรียนขาดคุณสมบัติข้อใดข้อหนึ่ง คณะกรรมการอาจใช้ดุลพินิจให้เล่ือนชั้นได้ หากพิจารณา เหน็ ว่า ๑) ผู้เรียนมีเวลาเรียนไม่ถึงร้อยละ ๘๐ อันเน่ืองจากสาเหตุจาเป็น หรือเหตุสุดวิสัย แต่มี คุณสมบัติตามขอ้ อืน่ ๆ ครบถ้วน ๒) ผู้เรียนผ่านมาตรฐานและตัวชี้วัดไม่ถึงเกณฑ์ตามท่ีกาหนดในแต่ละรายวิชา และเห็นว่า สามารถสอนซอ่ มเสรมิ ไดใ้ นปีการศกึ ษาถดั ไปและมีคุณสมบัตขิ ้ออื่น ๆ ครบถว้ น ๓) ผู้เรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๑-๓ มีผลการประเมินกลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทยและ คณิตศาสตร์ อยู่ในเกณฑ์พอใช้ และผู้เรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๔-๖ มีผลการประเมินกลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย คณติ ศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรมอยใู่ นเกณฑ์ผ่าน ขอ้ ั๑๖ักำรสอนซ่อมเสริมั การสอนซ่อมเสริม เป็นส่วนหน่ึงของกระบวนการจัดการเรียนรู้และเป็นการให้โอกาสแก่ผู้เรียนได้มีเวลา เรยี นรู้ส่ิงต่าง ๆ เพม่ิ ขึ้น จนสามารถบรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวัดทก่ี าหนดไว้ การสอนซ่อมเสริมเป็นการ สอนกรณีพิเศษนอกเหนือไปจากการสอนตามแผนการจดั การเรยี นรู้ปกติ เพ่ือแกไ้ ขข้อบกพร่องที่พบในผู้เรียน โดย จดั กระบวนการเรยี นรู้ทหี่ ลากหลายและคานงึ ถึงความแตกตา่ งระหวา่ งบุคคลของผูเ้ รยี น การสอนซ่อมเสริมสามารถดาเนินการได้ในกรณีดังต่อไปนี้ ๑๖.๑ ผู้เรียนมีความรู้/ทักษะพ้ืนฐานไม่เพียงพอที่จะศึกษาในแต่ละรายวิชานั้น จะจัดการสอน ซ่อมเสริม ปรบั ความร/ู้ ทักษะพ้นื ฐาน ๑๖.๒ การประเมินระหว่างเรียน ผู้เรียนไม่สามารถแสดงความรู้ ทักษะกระบวนการหรือเจตคติ/ คุณลกั ษณะ ที่กาหนดไว้ตามมาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชีว้ ัด ๑๖.๓ ผลการเรียนไมถ่ ึงเกณฑ์และ/หรือต่ากว่าเกณฑก์ ารประเมิน ต้องจัดการสอนซ่อมเสริมกอ่ น จะใหผ้ ้เู รียนสอบแกต้ ัว

๑๒ ข้อั๑๗ัเกณฑก์ ำรจบ ระดบประถมศึกษำ ๑) ผูเรียนเรียนรายวชิ าพื้นฐานและรายวิชา/กิจกรรมเพม่ิ เตมิ โดยเปนรายวิชาพื้นฐาน ตามโครงสรางเวลาเรยี นทห่ี ลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐานกาหนด และรายวชิ า/กิจกรรมเพมิ่ เติมตามท่ี สถานศกึ ษากาหนด ๒) ผเู้ รียนต้องมผี ลการประเมนิ รายวชิ าพ้นื ฐาน ผ่านเกณฑ์การประเมินตามท่สี ถานศกึ ษากาหนด ๓) ผู้เรียนมีผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนในระดับผ่านเกณฑ์การประเมิน ตามท่ีสถานศึกษากาหนด ๔) ผู้เรียนมีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในระดับผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่ สถานศกึ ษากาหนด ๕) ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมินตามท่ี สถานศึกษากาหนด ระดบมธยมศกึ ษำตอนต้น ๑) ผู้เรียนเรียนรายวิชาพ้ืนฐานและเพิ่มเติมไม่เกิน ๘๑ หน่วยกิต โดยเป็นรายวิชาพ้ืนฐาน ๖๖ หน่วยกติ และรายวิชาเพิม่ เติมตามท่ีสถานศกึ ษากาหนด ๒) ผูเ้ รยี นตอ้ งไดห้ น่วยกิตตลอดหลักสูตรไมน่ ้อยกว่า ๗๗ หน่วยกติ โดยเป็นรายวิชาพืน้ ฐาน ๖๖ หน่วยกติ และรายวชิ าเพิ่มเตมิ ไมน่ อ้ ยกวา่ ๑๑ หนว่ ยกติ ๓) ผู้เรียนมีผลการประเมิน การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ในระดับผ่าน เกณฑ์การประเมิน ตามทีส่ ถานศกึ ษากาหนด ๔) ผู้เรียนมีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ในระดับผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่ สถานศึกษากาหนด ๕) ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่ สถานศึกษากาหนด ข้อั๑๘ักำรใหร้ ะดบผลกำรเรียน ๑๘.๑ัรำยวิชำของกลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ รายวชิ าท่จี ะนบั หน่วยกิตได้จะตอ้ งไดร้ ะดบั ผลการเรียน ตง้ั แต่ ๑ ขนึ้ ไป โดยมีการให้ระดับผลการเรยี นดงั น้ี ระดบผลกำรเรยี น ควำมหมำย ช่วงคะแนนร้อยละ ๔ ผลการเรียนดเี ยี่ยม ๘๐ - ๑๐๐ ๓.๕ ผลการเรียนดีมาก ๗๕ - ๗๙ ๓ ผลการเรียนดี ๗๐ - ๗๔ ๒.๕ ผลการเรียนค่อนขา้ งดี ๖๕ - ๖๙ ๒ ผลการเรยี นปานกลาง ๖๐ - ๖๔ ๑.๕ ผลการเรยี นพอใช้ ๕๕ - ๕๙ ๑ ผลการเรียนผา่ นเกณฑข์ ั้นต่า ๕๐ - ๕๔ ๐ ผลการเรยี นต่ากว่าเกณฑ์ ๐ - ๔๙

๑๓ ๑๘.๒ักำรประเมินผลกำรอ่ำนัคดิ วิเครำะห์ัและเขยี น กาหนดผลจากการประเมนิ ดงั น้ี ชว่ งคะแนน ๘๐-๑๐๐ หมายถงึ ผลการประเมนิ อยใู่ นระดบั ดีเยี่ยม (๓) ช่วงคะแนน ๖๕-๗๙ หมายถงึ ผลการประเมินอยู่ในระดับ ดี (๒) ชว่ งคะแนน ๕๐-๖๔ หมายถึง ผลการประเมนิ อยู่ในระดบั ผา่ น(๑) ช่วงคะแนน ๐-๔๙ หมายถงึ ผลการประเมนิ อย่ใู นระดบั ไม่ผ่าน (๐) และแยกให้คะแนนเป็นข้อ ๆ ดังนี้ น้ำหนกคะแนน กำรอำ่ นั, คดิ วเิ ครำะหั์ , เขียนส่ือควำมหมำย ( ๑๐๐ คะแนนั) กลมุ่ สำระ ๑.กำรอำ่ น ๒.คดิ วเิ ครำะห์ ๓.เขยี นส่อื ควำม เกณฑ์ผำ่ น ภาษาไทย ๓๕ ๓๐ ๓๕ ๕๐ คณิตศาสตร์ ๒๐ ๕๐ ๓๐ ๕๐ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๒๐ ๕๐ ๓๐ ๕๐ สังคมศึกษาศาสนาและวฒั นธรรม ๔๐ ๓๐ ๓๐ ๕๐ -ประวตั ศิ าสตร์ -หน้าที่พลเมือง -ต้านทจุ รติ ศกึ ษา สุขศกึ ษาและพลศึกษา ๓๐ ๔๐ ๓๐ ๕๐ ศิลปะ ๓๐ ๔๐ ๓๐ ๕๐ การงานอาชพี ๑๐ ๗๐ ๒๐ ๕๐ ภาษาต่างประเทศ ๔๐ ๓๐ ๓๐ ๕๐ ( หมายเหตุ : คะแนนการอ่าน, คิดวเิ คราะห์,เขยี น ของแตล่ ะวชิ าต้องข้นึ อยู่กบั คณะกรรมการการพัฒนาและ ประเมินความสามารถในการอา่ น คดิ วิเคราะห์ และเขยี น ของโรงเรียนเป็นผกู้ าหนดตามบริบทของโรงเรยี น ) รวมคะแนนการประเมนิ ผลการอ่าน คดิ วเิ คราะห์ และเขยี น เปน็ ๑๐๐ คะแนน ๑๘.๓ักำรประเมนิ คณุ ลกษณะอนพงึ ประสงค์ ทาผลการประเมินเปน็ ๔ ระดบั คือ โดยพจิ ารณาผลการประเมินดังน้ี ช่วงคะแนน ๘๐-๑๐๐ หมายถงึ ผลการประเมนิ อยู่ในระดบั ดีเยี่ยม (๓) ช่วงคะแนน ๖๕-๗๙ หมายถึง ผลการประเมินอยใู่ นระดบั ดี (๒) ชว่ งคะแนน ๕๐-๖๔ หมายถึง ผลการประเมินอยู่ในระดับ ผ่าน (๑) ชว่ งคะแนน ๐-๔๙ หมายถึง ผลการประเมนิ อยูใ่ นระดับ ไม่ผ่าน (๐) และแยกใหค้ ะแนนเป็นข้อ ๆ ดังน้ี

๑๔ คณุ ลกษณะอนพงึ ประสงคั์ ๘ัประกำรัไดแ้ ก่ ขอ้ ๑ััรกชำติัศำสนั์ กษตริย์ั๑๕ัคะแนนั ตวชี้วดั -เป็นพลเมอื งดีของชาติ ๔ คะแนน -ธารงไวซ้ ่ึงความเปน็ ชาติไทย ๓ คะแนน -ศรัทธา ยึดมั่นและปฏิบตั ิตนตามหลักศาสนา ๔ คะแนน -เคารพเทิดทนู สถาบนั พระมหากษตั รยิ ์ ๔ คะแนน ข้อ๒ััซ่ือสตยส์ ุจริตั๑๐ัคะแนนั ัััััััั ตวชวี้ ด -ประพฤตติ รงตามความเปน็ จริงตอ่ ตนเองทง้ั ทางกาย วาจา ใจ ๕ คะแนน -ประพฤตติ รงตามความเปน็ จรงิ ต่อผอู้ ่ืนท้ังทางกาย วาจา ใจ ๕ คะแนน ข้อ๓ััมีวินยั๑๕ัคะแนนั ััััั ตวชวี้ ด -ปฏิบตั ติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบงั คบั ของครอบครวั โรงเรยี น และสังคม ๑๕ คะแนน ขอ้ ๔ััใฝเ่ รยี นรูั้ ๑๕ัคะแนนั ััััััััั ตวช้ีวด -ตั้งใจ เพียรพยายามในการเรียนและเข้ารว่ มกจิ กรรมการเรียนรู้ ๘ คะแนน -แสวงหาความรจู้ ากแหลง่ เรยี นรตู้ ่าง ๆ ทัง้ ภายในและภายนอกโรงเรียนด้วยการเลือกใช้สือ่ อยา่ ง เหมาะสม สรุปเป็นองค์ความรู้ และสามารถนาไปใช้ในชวี ติ ประจาวันได้ ๗ คะแนน ขอ้ ๕ััอย่อู ย่ำงพอเพียงั๑๐ัคะแนนั ััััััััััััััััััั ตวช้วี ด -ดาเนินชวี ิตอย่างพอประมาณ มีเหตุผล รอบคอบ มคี ุณธรรม ๕ คะแนน -มีภูมิคุม้ กนั ในตัวท่ดี ี และปรับตวั เพอื่ อยูใ่ นสงั คมได้อยา่ งมีความสุข ๕ คะแนน ข้อ๖ััมงุ่ ม่นในกำรทำงำนั๑๐ัคะแนนั ััััััั ตวชี้วด -ตัง้ ใจและรับผิดชอบในหนา้ ที่การงาน ๕ คะแนน -ทางานดว้ ยความเพียรพยายามและอดทนเพ่ือให้งานสาเร็จตามเป้าหมาย ๕ คะแนน ขอ้ ๗ััรกควำมเป็นไทยั๑๐ัคะแนนั ัััััััั ตวชว้ี ด -ภาคภูมใิ จในขนบธรรมเนียมประเพณี ศลิ ปะ วฒั นธรรมไทยและมีความกตญั ญู กตเวที ๔ คะแนน -เหน็ คุณค่าและใชภ้ าษาไทยในการสอ่ื สารได้อยา่ งถูกต้องและเหมาะสม ๓ คะแนน -อนรุ ักษ์ และสืบทอดภูมปิ ญั ญาไทย ๓ คะแนน ขอ้ ๘ััมจี ติ สำธำรณะั๑๕ัคะแนนั ัััััััั ตวชีว้ ด -ช่วยเหลือผ้อู นื่ ดว้ ยความเต็มใจโดยไมห่ วังส่ิงตอบแทน ๘ คะแนน -เขา้ ร่วมกิจกรรมทเ่ี ป็นประโยชน์ต่อโรงเรยี น ชุมชนและสงั คม ๗ คะแนน (หมำยเหตุ : คะแนนคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในแต่ละข้อข้นึ อยูก่ บั คณะกรรมการประเมินคุณลกั ษณะของ โรงเรียนจะกาหนดตามบรบิ ทของโรงเรยี นน้ันๆ )

๑๕ ๑๘.๔ักำรประเมินกำรเข้ำรว่ มกจิ กรรมของผู้เรยี นักาหนดการประเมนิ เปน็ ๒ ระดบั ดังนค้ี อื ผา่ น (๑) หมายถงึ ผา่ นเกณฑ์ ไมผ่ า่ น (๐) หมายถงึ ไม่ผ่านเกณฑ์ หมายเหตุ (แนวปฏิบตั ิการวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรตู้ ามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ หนา้ ๑๗)

๑๖ หมวดั๕ กำรเทียบโอนผลกำรเรียน ขอ้ ั๑๙ักำรเทยี บโอนผลกำรเรยี นของนักเรยี นท่ีเรียนร้กู รณีย้ายสถานศึกษา การเปลย่ี น รูปแบบ การศกึ ษา การย้ายหลักสูตร การละท้ิงการศึกษาและขอกลบั เข้ารบั การศึกษาต่อ การศึกษาจากตา่ งประเทศและ ขอเข้าศกึ ษาต่อในประเทศ เทียบโอนความรู้ ทักษะ ประสบการณจ์ ากแหลง่ การเรียนรู้อืน่ ๆ เช่น สถาน ประกอบการ สถาบนั ทางศาสนา สถาบนั การฝึกอบรมอาชีพ การศึกษาโดยครอบครวั การเทียบโอนผลการเรยี น ดาเนินการในช่วงก่อนเปดิ ภาคเรียนแรกของโรงเรยี น นักเรียนทไี่ ดร้ ับการเทยี บโอนผลการเรียนต้องศึกษาต่อเนื่อง ในสถานศกึ ษานี้อย่างน้อย ๑ ภาคเรียน โดยสถานศกึ ษากาหนดรายวิชา จานวนหนว่ ยกติ ท่ีจะรับเทยี บโอนตาม ความเหมาะสม การพิจารณาการเทยี บโอน ดาเนินการดงั น้ี ๑๙.๑ พิจารณาจากหลักฐานการศกึ ษา ๑๙.๒ พิจารณาจากความรู้ ประสบการณ์ตรงจากการปฏิบัตจิ รงิ การทดสอบ การสัมภาษณ์ เป็นตน้ ๑๙.๓ พจิ ารณาจากความสามารถและการปฏิบัตจิ ริง ๑๙.๔ ในกรณีมเี หตผุ ลจาเป็นระหวา่ งเรียน นักเรยี นสามารถแจ้งความจานงขอไปศึกษาบาง รายวชิ าในสถานศึกษา/สถานประกอบการอนื่ แล้วนามาเทียบโอนได้ โดยความเหน็ ชอบของคณะกรรมการบริหาร หลักสูตรและวิชาการของสถานศึกษา ๑๙.๕ การเทยี บโอนผลการเรียนใหด้ าเนินการในรปู ของคณะกรรมการ การเทียบโอน จานวน ๓ – ๕ คน ๑๙.๖ การเทียบโอนดาเนินการดังน้ี ๑๙.๖.๑ กรณผี ้ขู อเทยี บโอนมีผลการเรียนมาจากหลักสูตรอื่น นารายวชิ าที่มีตวั ชวี้ ัด/ มาตรฐานการเรียนรู้/ผลการเรยี นร้ทู ่คี าดหวัง/จดุ ประสงค/์ เน้ือหาท่สี อดคลอ้ งกันไม่น้อยกวา่ รอ้ ย ละ ๖๐ มาเทียบโอนผลการเรียนและพจิ ารณาให้ระดับผลการเรยี นให้สอดคล้องกบั หลักสูตร สถานศึกษา ๑๙.๖.๒ กรณีการเทียบโอนความรู้ ทกั ษะและประสบการณ์ พิจารณาจากเอกสาร หลักฐาน (ถา้ ม)ี โดยใหม้ กี ารประเมินด้วยเครื่องมือท่หี ลากหลายและใหร้ ะดบั ผลใหส้ อดคล้อง กับหลักสูตรสถานศึกษา ๑๙.๖.๓ กรณกี ารเทียบโอนที่นักเรียนเขา้ โครงการแลกเปลี่ยนต่างประเทศ ดาเนินการ ตามประกาศกระทรวงศกึ ษาธิการเรอื่ งหลักการและแนวปฏิบัติการเทยี บชั้นการศกึ ษาสาหรับ นักเรียนทเี่ ข้าร่วมโครงการแลกเปลย่ี น ท้งั น้วี ิธีการเทียบโอนผลการเรียนใหเ้ ปน็ ไปตามประกาศของกระทรวงศกึ ษาธกิ ารและแนวปฏบิ ัติท่ี เกี่ยวขอ้ ง

๑๗ แนวปฏิบติกำรเทียบโอนผลกำรเรียนรเู้ ข้ำส่กู ำรศึกษำในระบบระดบกำรศึกษำข้นพ้นื ฐำน แนวทำงั กำรเทัยี บโอนจำก กำรเทยี บโอนั กำรเทียบโอนจำก กำรเทยี บโอน กำรเทีัยบโอนั กำรพิัจำรณำ กำรศัึกษำในระบบ จำกกำรศกึ ษำั กำรจดกำรศกึ ษำั จำกกำรจดกำรั จำกำรศัึกษำั เข้ัำสกูั่ ำรศัึกษำในั นอกระบบเขำ้ สู่ั โดยครอบครวั ศกึ ษำโดยศนู ยก์ ำร ตำมหลักสูตั รั ระบบ กำรศึกษำใน เข้ำสู่กำรศกึ ษำั เรียนกำรศกึ ษำตำมั ต่ัำงประเทศ ระบบ หลกสตู รระยะสน้ ั เข้ำั สู่กั ำรศึักษำ ในระบบ หลกสตู รเฉพำะั ในระบบ ประสบกำรณ์ั กำรทำงำนกำรฝึก อำชพี เข้ำสู่กำรั ศกึ ษำในระบบ วธิ ปี ฏบิ ัติใน ๑. เทียบโอน เทยี บโอน หมวด ๑. ใหน้ าผลการ พจิ ารณาความรู้ ๑. สาเร็จการ การจัดเขา้ ชัน้ รายวชิ า/สาระ วชิ า/สาระ/ วัดและประเมิน ทกั ษะ ศกึ ษาภาคเรียน เรียน กจิ กรรมท่ี ผา่ นการ กจิ กรรมท่ผี ่าน เขตพ้นื ท่กี ารศึกษา ประสบการณ์ทีข่ อ ใดชนั้ ปีใดให้ ตัดสนิ ผลการเรียน การตดั สนิ ผลการ มาประกอบการ เทียบโอนว่าตรงกับ พิจารณา จากสถานศึกษาเดมิ เรียนจาก สถาน พจิ ารณา รายวชิ า/ สาระ/ เทยี บโอน ไดท้ ัง้ หมดและจดั เข้า ศึกษาเดมิ ๒. ให้สถาน กิจกรรมใด จึงทา ภาคเรยี นตอ่ ชัน้ เรียนตอ่ เนอ่ื งจาก ๑. เรยี นผ่าน ศกึ ษา ประเมนิ การประเมนิ หาก ภาคเรียนปีตอ่ ปี ท่ีเขา้ เรียนอยเู่ ดมิ อย่างน้อย ๓ ความรู้ทักษะ ปรากฏวา่ ช่ือไมต่ รง โดยนาพื้น เช่น จบ ป.๑ จัดเขา้ หมวดวิชา ประสบการณ์เพื่อ กบั ที่ปรากฏใน ความรู้สามญั เรยี น ป.๒ สถาน จัดใหเ้ รยี นปีที่ ๒ การจัดเขา้ ชั้นเรยี น โครงสรา้ งหลกั สตู ร เดิมมาประกอบ ศกึ ษาอาจประเมนิ ของระดบั ช้นั และ ให้กาหนด และ การพจิ ารณา บางรายวชิ าที่จาเป็น ลงทะเบยี น เรยี น บรรจุชอ่ื นั้นไว้ ใน หรอื อาจประเมนิ เพอ่ื การตรวจสอบ ต่อไปตามปกติ หลักสตู ร เพิม่ เติมเพื่อ ความรู้พ้นื ฐาน ๒. เรยี นผา่ น ตรวจสอบ ๒. รายวชิ า/สาระ/ อยา่ งน้อย ๖ กจิ กรรมที่ยังไม่ได้ หมวดวิชา จดั ให้ ความรู้พื้นฐาน ตัดสนิ ผลการเรียนให้ เรียนปที ี่ ๓ ของ ๒. รายวชิ า/ ประเมนิ ตามเกณฑ์ที่ ระดับชน้ั และ สาระ/กิจกรรม สถานศกึ ษากาหนด ลงทะเบียนเรียน ท่ยี ังไม่ได้เทยี บ หากไม่ผา่ นตาม ต่อในรายวิชาที่ โอนเนือ่ งจาก เกณฑ์ใหล้ งทะเบยี น จาเปน็ ต้องเรียน เรียนเพิม่ เติม ยังไม่ได้ตดั สนิ ใหค้ รบตามเกณฑ์ ผลการเรียน การจบระดบั ชน้ั ใหป้ ระเมนิ ตาม ตามหลกั สตู รของ เกณฑ์ที่ สถานศกึ ษาใหม่ สถานศึกษา ทรี่ ับเขา้ เรียน กาหนด ตอ่ /

๑๘ แนวทำงั กำรเทีัยบโอนจำก กำรเทยี บโอนั กำรเทยี บโอนจำก กำรเทยี บโอน กำรเทีัยบโอนั กำรพิัจำรณำ กำรศัึกษำในระบบ กำรจดกำรศึกษำั จำกกำรั จำกำรศึักษำั เข้ัำสัู่กำรศัึกษำ จำกกำรศกึ ษำั โดยครอบครว จดกำรศกึ ษำัโดย ตำมหลักสูตั รั นอกระบบั เขำ้ สูก่ ำรศึกษำ ศูนยก์ ำรเรยี น ต่ัำงประเทศ ในระบบ เขำ้ สกู่ ำรศึกษำ ในระบบ กำรศกึ ษำตำม เข้ัำสักู่ ำรศัึกษำ หลกสตู รัระยะส้นั ในระบบ ในระบบ หลกสูตรเฉพำะั ประสบกำรณ์ั กำรทำงำนกำรั ฝกึ อำชีพเข้ำส่ัู กำรศึกษำ ในระบบ จานวนหนว่ ยกิต/ พจิ ารณาแล้วเห็น พจิ ารณาแล้วเห็น จานวนหนว่ ยให้ ใหจ้ านวนหน่วย จานวนหนว่ ย หน่วยการเรยี น/ ว่าเทยี บโอนผลการ ว่าเทยี บโอนผลการ เป็นไปตามเกณฑ์ ของรายวิชา/สาระ ทใ่ี ห้เป็นไปตาม หนว่ ยน้าหนัก เรยี นได้จานวนหน่วย เรียนได้จานวน ท่สี ถานศึกษา ตามเกณฑข์ อง โครงสรา้ ง หนว่ ยให้เปน็ ไปตาม ใหมก่ าหนด สถานศึกษาใหม่ หลักสูตรของ ใหเ้ ป็นไปตาม โครงสร้างหลกั สูตร โครงสรา้ งหลักสตู ร ของสถานศึกษาเดิม ของสถานศึกษาใหม่ สาหรบั กจิ กรรม สถานศึกษาท่ี ไมใ่ ห้จานวนหน่วย รบั เขา้ เรยี น ผลการเรยี น/ ยอมรบั ผลการเรียน ไมต่ ้องใหผ้ ล ยอมรับผลการ ผลการประเมนิ ผลการ ผลการประเมิน ของสถานศึกษา การเรยี นใน ประเมนิ ของเขต ความรู้ ทักษะ ประเมนิ เพม่ิ เติม เดิม รายวชิ า/ สาระ/ พื้นท่ีมาเปน็ สว่ น ประสบการณ์ ให้ ใหเ้ ปน็ ไปตาม กิจกรรมท่ีไดจ้ าก ประกอบในการ เปน็ ไปตามที่ ที่สถานศึกษา การเทียบโอน พิจารณา สถานศกึ ษา ท่รี บั เข้าเรียน ใหม่กาหนด กาหนด การบนั ทกึ ผล ๑. ไม่ตอ้ งนารายวิชา ไม่ต้องนาหมวดวิชา ไมต่ ้องนาราย นาผลการประเมิน ๑. ให้กรอก การเรยี น และผลการเรยี นเดมิ และผลการเรยี น วิชา ผลการเรยี น/ ความรู้ ทกั ษะ รายชอื่ และ กรอกในใบแสดงผล เดมิ กรอกในใบ ผลการวัดและ ประสบการณ์ จานวนหน่วยตาม ในใบแสดงผล การเรยี น ของ แสดงผลการเรยี น ประเมนิ เดิมของ กรอกในใบ รายวชิ าของ การเรยี น สถานศกึ ษาท่ี สถานศึกษาใหม่ แต่ ของสถานศกึ ษาใหม่ เขตพน้ื ที่กรอกใน แสดงผลการเรียน รับเข้าเรยี นใน ใหแ้ นบใบแสดงผล แต่ใหแ้ นบใบแสดง ใบแสดงผลการ การเรยี นเดมิ ไว้กบั ใบ ผลการเรยี นเดิมไว้ เรยี นของสถาน ใบแสดงผลการ แสดงผลการเรยี น กับแสดงผลการ ศึกษาใหม่ แตใ่ ห้ เรียนของสถาน ใหมแ่ ละบนั ทึก เรียนใหมแ่ ละบนั ทกึ แนบเอกสารเดมิ ไว้ ศกึ ษาทีร่ บั เข้า จานวนหนว่ ยท่ไี ดร้ ับ จานวนหน่วยท่ี กับใบแสดงผล เรยี นโดยไม่ตอ้ ง การเทยี บโอนตาม ไดร้ ับการเทยี บโอน การเรยี นใหมแ่ ละ กรอกผลการเรยี น โครงสรา้ งหลักสตู ร ตามโครงสร้าง และแนบใบ ของสถานศกึ ษาเดิม หลักสตู รของ บนั ทกึ ข้อมลู และ แสดงผลการเรยี น ไว้ในช่องหมายเหตุ จานวนหน่วย ตอ่ /

๑๙ แนวทำงั กำรเทียั บโอนจำก กำรเทียบโอนั กำรเทยี บโอนจำก กำรเทยี บโอนจำกั กำรเทีัยบโอนัจำก กำรศึักษำ กำรจดกำรศึกษำั กำรจดกำรศึกษำัั กำรศัึกษำัตำมหลกั สูัตรั กำร ในระบบเข้ัำสัู่ จำกกำรศึกษำั โดยครอบครว โดยศูนยก์ ำรเรยี น ต่ำั งประเทศเข้ำั ส่ัู พิจั ำรณำ กำรศกึั ษำ นอกระบบั เข้ำส่กู ำรศึกษำ กำรศึกษำตำม กำรศัึกษำในระบบ ในระบบ เขำ้ สูก่ ำรศึกษำ ในระบบ หลกสูตรระยะส้นั หลกสูตรเฉพำะั ในระบบ ประสบกำรณ์ั กำรทำงำนกำรฝกึ อำชีพเข้ำสกู่ ำรั ศึกษำในระบบ สถานศกึ ษาใหม่ ทไ่ี ด้รบั การเทียบโอน จากสถานศึกษาเดิมและ ไวใ้ นช่องหมาย ไว้ในช่องหมายเหตุ สถานศึกษาท่ีรบั เข้าเรียนไว้ เหตุ ด้วยกันและบันทึกผลการ เทยี บโอนไวใ้ นชอ่ งหมาย เหตุ ๒. รายวชิ าทย่ี งั ไม่ได้ ตดั สนิ ผลการเรยี นและ สถานศกึ ษาทร่ี ับเข้าเรยี นได้ ประเมินผลการเรยี น เรยี บร้อยแล้วใหน้ าผลการ ประเมินกรอกไว้ในช่อง หมายเหตุ การคดิ การคดิ ผลการ การคิดผลการ การคิดผลการเรยี น การคิดผลการเรยี น ๑. ให้คดิ ผลการเรยี นเฉล่ยี ผลการเรยี น เรียนเฉลีย่ ให้นา เรียนเฉล่ยี ให้คดิ เฉล่ยี ใหค้ ิดจาก เฉลย่ี ใหค้ ิดจาก จากรายวชิ าท่ีมีจานวน เฉลย่ี ผลการเรียนและ จากรายวิชาท่ีมี รายวชิ าที่ได้จาก รายวชิ าทีไ่ ดจ้ าก หน่วยและระดบั ผลการ จานวนหนว่ ยจาก จานวนหน่วย เรียนในสถานศึกษา การเรยี นในสถาน เรยี นทีไ่ ดจ้ ากการเรยี นใน สถานศกึ ษาเดิม และระดับผล ใหม่ โดยนาผล ศกึ ษาใหม่โดย สถานศึกษาใหม่ มาคิดรวมกบั การเรยี นทไี่ ด้ การประเมนิ ของ ไมต่ ้องนาผล ๒. รายวชิ าที่ยังไม่ได้ตดั สนิ ผลการเรียนและ เรียนในสถาน ผลการเรยี นจากหลกั สตู ร จานวนหน่วยทไ่ี ด้ ศกึ ษาใหม่ เขตพื้นท่ี ทีม่ ีระดับ การประเมนิ ตา่ งประเทศทส่ี ถานศกึ ษา จากการเรียนใน ผลการเรยี นมาคดิ ความรู้ ทกั ษะ สถานศึกษาใหม่ รวม ประสบการณ์ ท่รี ับเข้าเรยี นไดป้ ระเมนิ และคิดผลเรียน แล้วและได้ระดบั ผลการ เฉลี่ยรวมตลอด มาคดิ รวม เรียน ให้นามาคิดผลการ ระดบั การศกึ ษา เรียนเฉลี่ยรวมกับผลการ เรยี นท่ีไดจ้ ากการเรยี นใน สถานศกึ ษาทรี่ ับเขา้ เรียน ตลอดระดับการศึกษา

๒๐ หมวดั๖ กำรรำยงำนผลกำรเรียน การรายงานผลการเรียน เปน็ การแจง้ ผลการเรียนร้แู ละพัฒนาการในดา้ นต่าง ๆ ซึ่งเปน็ ความกา้ ว หน้าของผู้เรียนให้ผู้เรียนและผู้ที่เกย่ี วข้องรับทราบอย่างน้อยภาคเรียนละ ๑ คร้ัง เพ่ือใช้เป็นข้อมูลในการปรับปรุง แก้ไขและส่งเสริมพัฒนาการของผู้เรียนให้ประสบความสาเร็จอย่างมปี ระสิทธิภาพ รวมท้ังใชเ้ ปน็ ขอ้ มูลสาหรบั ออก เอกสารหลกั ฐานการศึกษา การตรวจสอบ ยืนยัน การรับรองผลการเรยี นและวฒุ ิการศึกษาของผเู้ รียน ข้อั๒๐ัจดุ มุ่งหมำยกำรรำยงำนผลกำรเรียนั ๒๐.๑ เพอ่ื แจ้งให้ผูเ้ รียน ผเู้ กี่ยวข้องทราบความก้าวหน้าของผู้เรยี น ๒๐.๒ เพือ่ ให้ผู้เรยี น ผเู้ กย่ี วข้องใช้เปน็ ข้อมูลในการปรับปรุงแกไ้ ข สง่ เสริมและพฒั นาการ เรียนของผเู้ รียน ๒๐.๓ เพ่ือใหผ้ เู้ รียน ผู้เก่ียวข้องใชเ้ ป็นข้อมลู ในการวางแผนการเรียน กาหนดแนวทางาน การศึกษาและการเลือกอาชีพ ๒๐.๔ เพื่อเปน็ ขอ้ มูลใหผ้ ้ทู ่มี ีหนา้ ทเ่ี กย่ี วข้อง ใช้ดาเนนิ การออกเอกสารหลกั ฐานการศึกษา ตรวจสอบและรบั รองผลการเรยี น หรือวุฒิทางการศึกษาของผู้เรยี น ๒๐.๕ เพอ่ื เปน็ ข้อมลู สาหรับสถานศกึ ษา เขตพน้ื ที่การศึกษาและหน่วยงานตน้ สงั กัดใช้ ประกอบในการกาหนดนโยบาย วางแผนในการพฒั นาคณุ ภาพการศึกษา ขอ้ ั๒๑ัข้อมูลในกำรรำยงำนผลกำรเรียนั ๒๑.๑ัขอ้ มูลระดบช้นเรียนัประกอบดว้ ย ผลการประเมินความรู้ ความสามารถ พฤติกรรมการ เรียน ความประพฤติและผลงานในการเรยี นของผ้เู รียน เป็นขอ้ มลู สาหรับรายงานใหผ้ ูม้ ีสว่ นเก่ยี วข้อง ได้แก่ ผ้เู รยี น ผสู้ อนและผู้ปกครอง ไดร้ ับทราบความกา้ วหนา้ ความสาเร็จในการเรยี นของผูเ้ รียนเพ่ือนาไปใช้ในการวางแผน กาหนดเป้าหมายและวิธกี ารในการพฒั นาผ้เู รยี น ๒๑.๒ ข้อมูลระดบสถำนศกึ ษำัประกอบด้วย ผลการประเมนิ ผลสัมฤทธทิ์ างการเรียนกล่มุ สาระการเรยี นรู้ ๘ กล่มุ สาระ ผลการประเมนิ การอา่ น คิดวิเคราะหแ์ ละเขียน ผลการประเมินคณุ ลักษณะอันพึง ประสงค์ ผลการประเมนิ กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี นรายปี/รายภาค ผลการประเมินความกา้ วหนา้ ในการเรยี นรรู้ ายป/ี รายภาคโดยรวมของสถานศกึ ษา เพื่อใชเ้ ป็นข้อมูลและสารสนเทศในการพัฒนาการเรยี นการสอนและคณุ ภาพของ ผ้เู รียน ใหเ้ ป็นไปตามมาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวชีว้ ดั การตดั สินการเล่อื นชั้นและการซ่อมเสรมิ ผู้เรียนที่มีข้อบกพร่อง ให้ผ่านระดับชน้ั และเปน็ ข้อมูลในการออกเอกสารหลักฐานการศึกษา ๒๑.๓ ขอ้ มูลกำรประเมนิ คณุ ภำพระดบเขตพน้ื ท่ีกำรศึกษำัได้แก่ ผลการประเมิน คณุ ภาพของ ผเู้ รยี นด้วยแบบประเมินท่สี านกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาจดั ทาขึน้ ในกลมุ่ สาระการเรยี นรู้สาคญั ในระดับชั้นที่ นอกเหนือจากการประเมินคุณภาพระดับชาติ เป็นขอ้ มลู ที่ผู้เกย่ี วข้องใชว้ างแผนและดาเนินการพฒั นาคณุ ภาพ การศึกษาของสถานศกึ ษาเพื่อใหเ้ กดิ การยกระดบั คณุ ภาพและมาตรฐานการศึกษาของผู้เรยี นและสถานศึกษา ๒๑.๔ัข้อมลู ผลกำรประเมนิ คณุ ภำพระดบชำตัิ ไดแ้ ก่ ผลการประเมินคุณภาพของผูเ้ รียน ด้วยแบบประเมินทเี่ ปน็ มาตรฐานระดับชาติในกล่มุ สาระการเรียนรูท้ ่ีสาคัญในประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ ซง่ึ ดาเนินการโดย หนว่ ยงานระดับชาติ เป็นข้อมูลที่ผเู้ กย่ี วข้องใช้วางแผนและดาเนนิ การพฒั นาคุณภาพการศกึ ษาในส่วนท่ีเก่ยี วข้อง เพ่ือใหเ้ กิดการยกระดับคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของผู้เรียน สถานศกึ ษา และนาไปรายงานในเอกสาร หลกั ฐานการศกึ ษาของผเู้ รยี น

๒๑ ๒๑.๕ ขอ้ มูลพฒนำกำรของผูเ้ รยี นดำ้ นอ่นื ัๆัประกอบด้วย ข้อมูลเกี่ยวกบั พัฒนาการ ทางด้านรา่ งกาย จิตใจ อารมณ์ สังคมและพฤตกิ รรมตา่ ง ๆ เป็นขอ้ มูลส่วนหน่งึ ของการแนะแนวและจดั ระบบ การดแู ลชว่ ยเหลอื เพ่ือแจ้งให้ผู้เรยี น ผูส้ อน ผปู้ กครอง และผเู้ ก่ียวข้องได้รับทราบขอ้ มูล โดยผู้มหี นา้ ท่ีรบั ผิดชอบ แต่ละฝ่ายนาไปใช้ปรับปรุงแก้ไขและพฒั นาผเู้ รยี นใหเ้ กดิ พัฒนาการอยา่ งถูกต้อง เหมาะสม รวมทงั้ นาไปจดั ทา เอกสารหลกั ฐานแสดงพฒั นาการของผ้เู รยี น ข้อั๒๒ัลกษณะข้อมลู สำหรบกำรรำยงำนั การรายงานผลการเรยี น สถานศึกษารายงานผลการเรยี นดังน้ี ๒๒.๑ ผลการเรยี นร้กู ลุม่ สาระการเรียนรู้รายงานเป็นระดับผลการเรยี น “๐ – ๔” ( ๘ ระดับ) ๒๒.๒ ผลการประเมินการอ่านคิดวิเคราะห์และเขยี น รายงานผลการประเมนิ คณุ ภาพเป็น ดเี ย่ียม ดี ผา่ น และไม่ผา่ น ๒๒.๓ ผลการประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์รายงานผลการประเมินคุณภาพเปน็ ดีเยีย่ ม ดี ผา่ น และไม่ผา่ น ๒๒.๔ ผลการประเมินกิจกรรมพฒั นาผู้เรียนรายงานผลการประเมนิ คุณภาพเป็น ผา่ น และ ไมผ่ ่าน ขอ้ ั๒๓ัเปำ้ หมำยกำรรำยงำนั การดาเนินการจัดการศึกษา ประกอบดว้ ยบคุ ลากรหลายฝ่ายรว่ มมือประสานงานกันพัฒนา ผู้เรยี นท้งั ทางตรงและทางอ้อม ให้ความรูค้ วามสามารถ คุณธรรม จริยธรรมและค่านิยม อันพงึ ประสงค์ โดยมีผมู้ ีสว่ นเกย่ี วขอ้ งควรได้รบั การรายงานผลการประเมินของผูเ้ รียนเพือ่ ใช้เป็นข้อมลู ในการดาเนนิ งาน ดงั น้ี กลุ่มเปำ้ หมำย กำรใช้ข้อมูล ผ้เู รียน -ปรบั ปรงุ แก้ไขและพฒั นาการเรยี น รวมท้งั พฒั นาร่างกาย อารมณ์ สังคมและพฤติกรรมต่าง ๆ ของคน ผ้สู อน -วางแผนการเรียน การเลอื กแนวทางการศึกษา และอาชพี ในอนาคต -แสดงผลการเรยี น ความรู้ ความสามารถ และวุฒกิ ารศึกษาของตน ครูวดั ผล -วางแผนและดาเนินการปรบั ปรงุ แก้ไขและพัฒนาผู้เรียน -ปรบั ปรุง แก้ไขและพัฒนาการจัดการเรยี นการสอน นายทะเบียน -ตรวจสอบความถูกต้องในการประเมินผลของผสู้ อน/ผู้เรียน ครูแนะแนว -พัฒนาระบบ ระเบยี บและแนวทางการประเมนิ ผลการเรยี น คณะกรรมการบรหิ าร -จัดทาเอกสารหลักฐานการศึกษา หลกั สตู รและวชิ าการของ -ให้คาแนะนาผเู้ รียนในดา้ นต่าง ๆ สถานศึกษา -พิจารณาให้ความเหน็ ชอบผลการเรยี นของผ้เู รยี น ผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา -พฒั นาแนวทางการจดั การศึกษาของสถานศกึ ษา -พิจารณาตดั สิน และอนุมัติผลการเรยี นของผู้เรยี น -พัฒนากระบวนการจัดการเรียนของสถานศึกษา -วางแผนการบริหารจัดการศึกษาด้านต่าง ๆ

๒๒ ผปู้ กครอง -รบั ทราบผลการเรียนและพฒั นาการของผเู้ รียน -ปรบั ปรุง แก้ไขและพัฒนาการเรยี นของผเู้ รียน รวมทั้งการดูแล สขุ ภาพอนามยั ร่างกาย จติ ใจ อารมณ์ สงั คมและพฤติกรรมต่าง ๆ ของผเู้ รยี น -พจิ ารณาวางแผนและส่งเสรมการเรียน การเลือกแนวทางการศกึ ษา และอาชีพในอนาคตของผู้เรยี น ฝา่ ย/หน่วยงานท่มี หี น้าที่ -ตรวจสอบ และรับรองผลการเรียนและวุฒิการศึกษาของผู้เรียน ตรวจสอบรับรองความรู้และ -เทียบระดบั /วุฒกิ ารศกึ ษาของผูเ้ รยี น วฒุ กิ ารศึกษา/สถานศึกษา -เทยี บโอนผลการเรยี น สานักงานเขตพ้ืนท่ี -ยกระดับและพฒั นาการศึกษาของสถานศึกษาในเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษา การศึกษา/หน่วยงานตน้ -นิเทศ ตดิ ตาม และใหค้ วามชว่ ยเหลอื การพัฒนาคุณภาพการศกึ ษา สังกดั ของสถานศกึ ษาที่มีผลการประเมินตา่ กวา่ คา่ เฉล่ยี ของสานักงานเขต ขอ้ ั๒๔ัวิธกี ำรรำยงำน การรายงานผลการเรียนให้ผเู้ กย่ี วขอ้ งรบั ทราบ ดาเนินการดงั น้ี ๒๔.๑ การรายงานผลการเรียนในเอกสารหลกั ฐานการศึกษา ได้แก่ ๒๔.๑.๑ ระเบียบแสดงผลการเรียน (ปพ.๑) ๒๔.๑.๒ แบบรายงานผสู้ าเร็จการศกึ ษา (ปพ.๓) ๒๔.๑.๓ แบบรายงานผลการพฒั นาคุณภาพผ้เู รยี นรายบุคคล ๒๔.๑.๔ แบบบันทึกผลการเรียนประจารายวิชา ๒๔.๑.๕ ระเบียนสะสม ๒๔.๑.๖ ใบรบั รองผลการเรียน ๒๔.๑.๗ แบบบันทกึ ผลการประเมินมาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้ีวดั ชน้ั ปี /ผลการเรียนรู้ / จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๒๔.๒ การรายงานคุณภาพการศกึ ษาให้ผู้เกี่ยวข้องทราบ รายงานหลายวิธี เช่น ๒๔.๑.๑ รายงานคณุ ภาพการศึกษาประจาปี ๒๔.๑.๒ วารสาร/จุลสารของสถานศึกษา ๒๔.๑.๓ จดหมายสว่ นตวั ๒๔.๑.๔ การให้คาปรกึ ษาหารือเปน็ รายบุคคล ๒๔.๑.๕ การใหพ้ บครูทีป่ รกึ ษาหรือการประชมุ ผปู้ กครอง ขอ้ ั๒๕ักำรกำหนดระยะเวลำในกำรรำยงำนัดงน้ัี ๒๕.๑ ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนกลมุ่ สาระการเรียนรู้ ๘ กลุ่มสาระ ผลการประเมินการอา่ น คิดวิเคราะห์และเขยี น ผลการประเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ผลการประเมนิ กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน จะรายงานหลังจากประเมินผลปลายปีแล้วเสร็จภายใน ๑๕ วนั ๒๕.๒ ผลการประเมินคณุ ภาพระดบั เขตพน้ื ท่กี ารศึกษา จะรายงานผลหลงั จากได้รบั ทราบผล ภายใน ๗ วัน ๒๕.๓ ผลการประเมินคุณภาพระดบั ชาติ จะรายงานผลหลังจากได้รบั ทราบภายใน ๗ วัน ๒๕.๔ ข้อมลู พฒั นาการของนักเรียนประกอบดว้ ย ข้อมลู เก่ียวกบั พัฒนาการทางดา้ น ร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สงั คม และพฤตกิ รรมต่าง ๆ จะรายงานให้ทราบพรอ้ มกับการรายงานผลในข้อ๒๔.๑

๒๓ หมวดั๗ เอกสำรหลกฐำนกำรศกึ ษำ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ฉบบั ปรบั ปรุง ๒๕๖๑ กาหนดใหม้ เี อกสาร หลักฐานทางการศกึ ษา ๒ ประเภท คอื เอกสารหลักฐานการศกึ ษาทก่ี ระทรวงศึกษาธกิ ารกาหนด และเอกสาร หลักฐานการศกึ ษาทีส่ ถานศึกษากาหนด รายละเอียด ดังน้ี ข้อั๒๖ัเอกสำรหลกฐำนกำรศกึ ษำทกี่ ระทรวงศึกษำธกิ ำรกำหนดเป็นเอกสารควบคมุ และบงั คบั แบบ เรียกว่า แบบประเมนิ ผลตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน (ปพ.) จดั ทาขึน้ เพื่อตดั สนิ รับรองผลการ เรียน ของผเู้ รยี นตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ที่ใชเ้ ป็นหลักฐานสาหรบั การ ตรวจสอบ ยืนยัน และรบั รองคุณสมบัตทิ างการศกึ ษาของผู้เรยี นได้ตลอดไป สถานศึกษาต้องใชแ้ บบพิมพ์และ ดาเนนิ การจดั ทาตามท่ีกระทรวงศึกษาธิการกาหนดไว้เปน็ มาตรฐานเดยี วกนั ดังน้ี ข้อั๒๗ัเอกสำรหลกฐำนกำรศึกษำควบคุมและบงคบแบบ มดี ังนี้ ๒๗.๑ ระเบียนแสดงผลกำรเรยี นั(ปพ.๑)ัเป็นหลกั ฐานเพื่อแสดงผลการเรียนและรับรองผลการ เรียนของผู้เรียนตามรายวิชา ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ผลการประเมินคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ของสถานศึกษา และผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน สถานศึกษาจะต้องบันทึกข้อมูล และออก เอกสารน้ีใหผ้ เู้ รียนเป็นรายบคุ คล เม่ือผ้เู รยี นจบการศกึ ษาระดบั ประถมศึกษา (ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๖) ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ ๓ หรอื เมือ่ ลาออกจากสถานศึกษาในทุกกรณี ระเบียนแสดงผลกำรเรยี นั(ปพ.๑)ันำไปใช้ประโยชนั์ ดงนี้ั - แสดงผลการเรียนของผ้เู รยี นตามโครงสรา้ งหลักสูตรของสถานศกึ ษา - รบั รองผลการเรียนของผู้เรียนตามข้อมูลท่ีบนั ทกึ ในเอกสาร - ตรวจสอบผลการเรียนและวุฒิการศกึ ษาของผู้เรียน -ใชเ้ ป็นหลักฐานการศึกษาเพ่ือสมัครเข้าศึกษาต่อ สมคั รงานหรือขอรับสิทธิประโยชน์อื่น ใดที่พึงมีได้ตามวุฒิการศกึ ษานน้ั ๒๗.๒ ประกำศนียบตรั(ปพ.๒)ัเป็นเอกสารแสดงวุฒิ การศึกษาท่ีมอบให้แก่ผู้จบการศกึ ษาภาค บังคับ (มัธยมศึกษาปีที่ ๓ ) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 เพื่อรับรองศักดิ์และ สิทธขิ์ องผ้สู าเรจ็ การศึกษาตามวุฒแิ หง่ ประกาศนียบัตรน้นั ๒๗.๓ แบบรำยงำนผสู้ ำเรจ็ กำรศึกษำั(ปพ.ั๓)ัเปน็ เอกสารอนมุ ัติการจบหลกั สตู ร โดยบันทึก รายชื่อและข้อมูลของผจู้ บการศึกษาระดบั ประถมศึกษา (ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๖) ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๓ แบบรำยงำนผู้สำเรจ็ กำรศกึ ษำั(ปพ.๓)ันำไปใช้ประโยชนั์ ดงนี้ั - ใชต้ ัดสินและอนุมัตผิ ลการเรียนของผเู้ รียน - แสดงรายช่อื ผจู้ บหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน แตล่ ะระดับการศึกษา ท่ไี ด้รบั การรับรองวฒุ ิจากกระทรวงศึกษาธิการ -ใช้สาหรบั ตรวจสอบ ค้นหา พสิ จู น์ ยนื ยนั และรบั รองวุฒหิ รอื ผลการศึกษาของ ผู้จบหลกั สตู รการศกึ ษา

๒๔ ๒๗.๔ัเอกสำรหลกฐำนกำรศกึ ษำทีส่ ถำนศึกษำดำเนนิ กำรเองั เอกสารหลักฐานการศึกษาที่สถานศึกษากาหนด เป็นเอกสารที่จัดทาขึ้นเพ่ือบันทึกพัฒนาการผล การเรียนรู้ และข้อมูลสาคัญเก่ียวกับผู้เรียน เช่น แบบบันทึกผลการเรียนประจารายวิชา แบบรายงาน ประจาตัวนักเรียน ระเบียนสะสม ใบรับรองผลการเรียน และเอกสารอื่น ๆ ตามวัตถุประสงค์ของการนา เอกสารไปใช้ ๒๗.๔.๑ แบบรำยงำนผลกำรพฒนำคุณภำพผ้เู รียนรำยบคุ คลัเปน็ เอกสารที่ สถานศึกษาจัดทาข้ึนเพ่ือบันทึกขอ้ มูลผลการเรียนรายวชิ า และพฒั นาการดา้ นต่างๆ ของผู้เรยี นแต่ ละคน ตามเกณฑก์ ารตัดสนิ ผ่านระดบั ชนั้ ของหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน รวมทง้ั ข้อมูล ด้านอืน่ ๆ ของผเู้ รียนทบี่ า้ นและสถานศึกษา โดยจดั ทาเปน็ เอกสารรายบุคคล เพ่ือใช้สาหรับสอ่ื สาร ให้ผู้ปกครองของผ้เู รียนแตล่ ะคนได้รบั ทราบผลการเรียนและพัฒนาการดา้ นตา่ ง ๆ ของผู้เรยี นอย่าง ต่อเน่อื ง แบบรำยงำนประจำตวนกเรียนันำไปใชป้ ระโยชนั์ ดงนั้ี - รายงานผลการเรียน ความประพฤติ และพฒั นาการของผเู้ รียนใหผ้ ู้ปกครองไดร้ บั ทราบ - ใช้เปน็ เอกสารสือ่ สาร ประสานงาน เพอื่ ความร่วมมือในการพฒั นาและปรบั ปรงุ แก้ไขผู้เรยี น - เป็นเอกสารสาหรับตรวจสอบ ยนื ยนั และรับรองผลการเรยี นและพฒั นาการตา่ ง ๆ ของผเู้ รียน ๒๗.๔.๒ แบบบนทึกผลกำรเรียนประจำรำยวิชำัเปน็ เอกสารทส่ี ถานศกึ ษาจดั ทาขนึ้ เพ่อื ให้ครูผูส้ อนใช้บนั ทึกพัฒนาการ ผลการเรยี นรู้ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และ การอ่าน คดิ วเิ คราะห์ และเขยี น สาหรบั การพิจารณาตัดสนิ ผลการเรียนแต่ละรายวชิ าเป็นรายห้องเรียน เอกสำรบนทกึ ผลกำรเรยี นรำยวชิ ำันำไปใช้ประโยชน์ัดงนัี้ - ใช้บนั ทกึ พัฒนาการผลการเรยี นรู้ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ การอา่ น คิดวเิ คราะห์ และเขียน และผลการประเมินกจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รยี นของผู้เรียนแต่ละรายวิชา - ใชเ้ ป็นหลักฐานสาหรับตรวจสอบ รายงาน และรบั รองข้อมูลเก่ียวกบั พัฒนาการ และ ผลการเรยี นรขู้ องผูเ้ รยี น ๒๗.๔.๓ ระเบยี นสะสมัเปน็ เอกสารท่สี ถานศึกษาจดั ทาขึ้น เพ่อื บนั ทึกข้อมูลเก่ยี วกบั พฒั นาการของผเู้ รยี นในด้านต่าง ๆ เปน็ รายบุคคล โดยจะบนั ทึกข้อมูลของผูเ้ รียนอยา่ งต่อเนื่อง ตลอดช่วง ระยะเวลาการศกึ ษาตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ๑๒ ปี ระเบียนสะสมันำไปใช้ประโยชน์ัดงนัี้ - ใชเ้ ป็นขอ้ มูลในการแนะแนวทางการศกึ ษาและการประกอบอาชีพของผ้เู รยี น - ใช้เป็นขอ้ มูลในการพัฒนาปรับปรุงบุคลกิ ภาพ ผลการเรยี น และการปรบั ตัวของผูเ้ รียน - ใช้ตดิ ต่อสือ่ สาร รายงานพัฒนาคณุ ภาพของผ้เู รยี นระหวา่ งสถานศกึ ษากับผู้ปกครอง - ใช้เปน็ หลักฐานสาหรับตรวจสอบ รบั รอง และยนื ยนั คุณสมบัติของผู้เรียน

๒๕ ๒๗.๔.๔ ใบรบรองผลกำรเรียน เป็นเอกสารท่สี ถานศึกษาจดั ทาขึ้นเพอ่ื ใชเ้ ป็นเอกสาร สาหรบั รบั รองความเป็นนักเรียนของผู้เรยี นเป็นการชั่วคราวตามทผี่ ูเ้ รยี นรอ้ งขอ ทั้งกรณีที่ผเู้ รียนกาลัง ศึกษาอยใู่ นสถานศึกษาและเมื่อจบการศึกษาไปแลว้ ใบรบรองผลกำรเรียนันำไปใช้ประโยชนั์ ดงน้ีั - รบั รองความเป็นนักเรยี นของสถานศึกษาทีเ่ รียนหรือที่เคยเรียน - รบั รองและแสดงความรู้ วฒุ ิการศึกษาของผ้เู รยี น - ใช้เปน็ หลักฐานแสดงคุณสมบตั ขิ องผ้เู รยี นในการสมัครเข้าศึกษาต่อ สมคั รเข้าทางาน หรอื มกี รณอี ืน่ ใดทีผ่ ้เู รยี นแสดงคุณสมบัตเิ กี่ยวกบั วฒุ คิ วามรู้ หรอื สถานการณ์เป็นผูเ้ รียน ของตน - เป็นหลกั ฐานสาหรับตรวจสอบ รับรอง ยนื ยันการใชส้ ิทธ์คิ วามเปน็ ผเู้ รียน หรอื การ ได้รับการรับรองจากสถานศึกษา ๒๗.๔.๕ แบบบนทึกผลกำรประเมินมำตรฐำนกำรเรียนรู้/ตวชี้วดชน้ ปัี /ผลกำรเรยี นรูั้ /ัจดุ ประสงค์กำรเรยี นร้ัู เปน็ เอกสารทีส่ ถานศึกษาจัดทาขึ้น เพ่อื ใช้เป็นเอกสารหลกั ฐานสาหรับแสดงผล การเรยี นตามมาตรฐาน/ตัวชวี้ ดั ชนั้ ปี โดยแสดงผลการประเมินมาตรฐาน/ตวั ช้ีวัดชัน้ ปี ท่ีผูเ้ รียนได้ประเมิน ไปแลว้ ในระดับชนั้ ท่ีผเู้ รยี นกาลังศกึ ษาอยู่ สถานศึกษาจะออกเอกสารหลกั ฐานแบบบนั ทึกผลการประเมิน มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั ช้นั ปี เมื่อผู้เรยี นยา้ ยท่เี รยี นไปยังสถานศึกษาอื่นในขณะทยี่ ังไม่ไดร้ บั การประเมินผล ปลายปกี ารศกึ ษานนั้

๒๖ หมวดั๘ กำรย้ำยทเี่ รียน ข้อั๒๘. นกเรยี นคนใดจำเปน็ ต้องยำ้ ยท่เี รียนัโรงเรยี นจดั ทาเอกสารหลักฐานการเรยี นของนักเรยี นไปให้ โรงเรยี นใหม่ ดงั น้ี คอื ๒๘.๑ ระเบียนแสดงผลการเรียน (ปพ.๑) ๒๘.๒ แบบรายงานผลการพัฒนาคุณภาพผ้เู รียนรายบุคคล ๒๘.๓ ระเบียนสะสม ๒๘.๔ แบบบันทึกผลการประเมนิ มาตรฐานการเรียนรู้ /ตัวชีว้ ัด / ผลการเรียนรู้ / จุดประสงค์ การเรยี นรู้ ประกาศ ณ วนั ที่............ เดือน............... พ.ศ. ..................... (......................................................) ผ้อู านวยการโรงเรียน....................................................................

คำส่งั สำนักงานเขตพน้ื ท่กี ารศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๒ ที่ 56 / ๒๕๖3 เรอื่ ง แตง่ ต้ังคณะกรรมการจดั ทำคู่มอื 6 มติ ิคณุ ภาพสกู่ ารปฏบิ ัติ ********************************* เพอ่ื ให้การขบั เคลอ่ื นการนำหลกั สตู รสถานศึกษาสหู่ ้องเรยี นไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพสอดคล้องกบั พระราชบัญญัติการศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และตามทก่ี ระทรวงศกึ ษาธกิ าร โดยสถาบนั สง่ เสรมิ การสอน วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ได้ดำเนนิ การจัดทำมาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชีว้ ัด กล่มุ สาระการเรียนร้คู ณติ ศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ.2560) และสำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐานไดด้ ำเนนิ การ จดั ทำสาระภูมศิ าสตร์ ในกลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 และเพ่ือใหก้ ารจดั ทำหลกั สูตรสถานศึกษา ตาม หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 เปน็ ปจั จบุ นั และสามารถนำหลกั สตู รสถานศกึ ษาสู่ ห้องเรยี นได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาศยั อำนาจตามมาตรา ๓๗ แหง่ พระราชบญั ญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธกิ าร พ.ศ.๒๕๔๖ และท่แี กไ้ ขเพม่ิ เติม จึงแตง่ ต้ังคณะกรรมการจดั ทำคู่มือ 6 มติ ิคุณภาพสู่การปฏิบัติ สำนกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาอุดรธานี เขต 2 ดังนี้ 1. คณะกรรมการอำนวยการ ผอู้ ำนวยการสำนกั งานเขตพืน้ ที่การศึกษา ๑.1 นายบรู พา พรหมสงิ ห์ ประถมศึกษาอดุ รธานี เขต 2 ประธานกรรมการ 1.2 นายชาญชยั ทองแสน รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ๑.๓ นายสมาน บญุ จะนะ ประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต 2 รองประธานกรรมการ ๑.๔ นายสุคิด พนั ธ์พุ รม รองผอู้ ำนวยการสำนักงานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษา 1.๕ นายอุดมศักด์ิ ปอโนนสูง ประถมศกึ ษาอุดรธานี เขต 2 รองประธานกรรมการ ๑.๖ นายสุรยิ นต์ อนิ ทร์อดุ ม 1.๗ นางสาวศศธิ ร นาคดิลก รองผอู้ ำนวยการสำนักงานเขตพ้นื ทก่ี ารศกึ ษา ๑.๘ นางสนุ ีย์ อุทมุ ทอง ๑.๙ นางสภุ าวดี ปกครอง ประถมศึกษาอดุ รธานี เขต 2 รองประธานกรรมการ ผู้อำนวยการกลมุ่ นเิ ทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผล กรรมการ การจัดการศกึ ษา ศกึ ษานเิ ทศก์ กรรมการ ศกึ ษานเิ ทศก์ กรรมการและเลขานกุ าร ศึกษานเิ ทศก์ กรรมการและผ้ชู ว่ ยเลขานกุ าร ศกึ ษานเิ ทศก์ กรรมการและผชู้ ่วยเลขานุการ /.....คณะกรรมการ ๒

มหี น้าที่ : วางแผนการดำเนินงานการขับเคลือ่ น ๖ มติ คิ ุณภาพสู่การปฏบิ ัติให้สอดคล้องกับ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรบั ปรงุ ๒๕๖๐) สภาพเศรษฐกจิ สงั คม ศิลปวฒั นธรรม ภูมปิ ญั ญาทอ้ งถิ่น ตลอดทง้ั ให้คำปรึกษาและใหค้ วามช่วยเหลือคณะกรรมการดำเนินงาน 2. คณะกรรมการดำเนนิ งาน ประกอบดว้ ย ๒.๑ คณะกรรมการจัดทำคู่มอื ๖ มติ ิคณุ ภาพสู่การปฏิบัติ ๒.๑.๑ มิติที่ ๑ การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา ประกอบด้วย ๒.๑.๑.๑ นางสาวศศธิ ร นาคดิลก ศกึ ษานเิ ทศก์ ประธานกรรมการ ๒.๑.๑.๒ นายสุรชยั ไผ่ตง ผอ.ร.ร.บา้ นโคกผักหวานโนนรงั สี รองประธานกรรมการ ๒.๑.๑.๓ นางสนุ ีย์ อทุ มุ ทอง ศึกษานเิ ทศก์ กรรมการ ๒.๑.๑.๔ นางสรอ้ ยทพิ ย์ ทองใหญ่ ครู ร.ร.อนบุ าลศรีธาตุ กรรมการ ๒.๑.๑.๕ นางสกุ ัญญา ศรเี สาวงษ์ ครู ร.ร.บา้ นสวรรค์ราษฎร์ กรรมการ ๒.๑.๑.๖ นางเยาวลกั ษณ์ สวุ รรณดวง ครู ร.ร.บา้ นหว้ ยเกง้ิ วัฒนเสรีราษฎรบ์ ำรงุ กรรมการและเลขานุการ ๒.๑.๑.๗ นางสาวอ้อยใจ ปากวิเศษ ครู ร.ร.อนบุ าลศรธี าตุ กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ๒.๑.๑.๘ นางสาวนธิ ิทัศน์ แก้วเกดิ มี ครู ร.ร.บ้านหว้ ยเกิง้ วัฒนเสรีราษฎร์บำรุง กรรมการและผ้ชู ว่ ยเลขานกุ าร มหี น้าท่ี จัดทำคมู่ ือการพฒั นาหลกั สูตรสถานศกึ ษา หลกั สูตรปฐมวยั ระเบียบการวดั ผลประเมินผล กรอบหลักสตู รท้องถนิ่ ของเขตพนื้ ที่การศึกษา และอน่ื ๆทเี่ กย่ี วข้อง พรอ้ มทงั้ ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของเอกสาร กอ่ นจดั ทำเปน็ รูปเลม่ ทีส่ มบรู ณ์ ๒.๑.๒ มิตทิ ี่ ๒ การจดั การเรยี นรู้ ประกอบดว้ ย ๒.๑.๒.๑ นายสรุ ิยนต์ อนิ ทร์อุดม ศึกษานเิ ทศก์ ประธานกรรมการ ๒.๑.๒.๒ นางสาววรศิ รา เชญิ ชม ศกึ ษานเิ ทศก์ รองประธานกรรมการ ๒.๑.๒.๓ นางทับทมิ ภคู รองทอง ครู ร.ร.บา้ นกดุ ขนวน กรรมการ ๒.๑.๒.๔ นางนงลักษณ์ ทองมาศ ครู ร.ร.บา้ นหนองประเสรฐิ กรรมการ ๒.๑.๒.๕ นายวราวฒั น์ โสภารตั น์ ครู ร.ร.อนบุ าลศรธี าตุ กรรมการและผชู้ ว่ ยเลขานกุ าร มหี นา้ ท่ี จดั ทำคูม่ ือการจดั การเรียนรู้ จติ วิทยาการเรยี นรู้ และอนื่ ๆที่เก่ียวข้อง พร้อมทัง้ ตรวจสอบความถูกตอ้ งของเอกสารกอ่ นจัดทำเป็นรูปเลม่ ทสี่ มบูรณ์ ๒.๑.๓ มติ ทิ ่ี ๓ การใช้สอื่ /ส่ือเทคโนโลยี ประกอบดว้ ย ๒.๑.๓.๑ นายปรดี า พงษ์วุฒนิ ันท์ ศึกษานเิ ทศก์ ประธานกรรมการ ๒.๑.๓.๒ นายณัฐชา ทัศนิยม ผอ.ร.ร.บา้ นบะยาว รองประธานกรรมการ ๒.๑.๓.๓ นายพรี ะพัฒน์ อนุรักษ์ ครู ร.ร.บา้ นคำเตา้ แกว้ หินลาด กรรมการ ๒.๑.๓.๔ นายมนวฒั น์ คำรินทร์ ครู ร.ร.บา้ นดงเมอื ง (ดงเมอื งวทิ ยา) กรรมการ ๒.๑.๓.๕ นางสาวพัชรินทร์ นาคดลิ ก ธรุ การ ร.ร.อนุบาลโนนสะอาด กรรมการและผู้ชว่ ยเลขานุการ มหี น้าที่ จดั ทำคมู่ อื การใชส้ อ่ื /สอ่ื เทคโนโลยี และอ่ืนๆทเ่ี กี่ยวข้อง พร้อมท้ังตรวจสอบความถกู ต้อง ของเอกสารก่อนจดั ทำเปน็ รปู เล่มทีส่ มบรู ณ์ /2.1.4... ๓

๒.๑.๔ มิตทิ ี่ ๔ การวดั และประเมนิ ผล ๒.๑.๔.๑ นางฐติ นิ ันท์ อุปการ ศึกษานเิ ทศก์ ประธานกรรมการ ๒.๑.๔.๒ นางจริ ะพร เสนาภักดี ครู ร.ร.อนบุ าลประจกั ษ์ศลิ ปาคม รองประธานกรรมการ ๒.๑.๔.๓ นางสธุ ารี แสงกลา้ ครู ร.ร.บา้ นดงกลาง กรรมการ ๒.๑.๔.๔ นางปิยฉัตร จติ รดี ศกึ ษานิเทศก์ กรรมการและเลขานุการ มีหนา้ ที่ จดั ทำคูม่ อื การวัดและประเมินผล และอืน่ ๆท่ีเกี่ยวข้อง พรอ้ มทั้งตรวจสอบความถูกตอ้ ง ของเอกสารก่อนจัดทำเปน็ รปู เล่มทีส่ มบูรณ์ ๒.๑.๕ มติ ทิ ่ี ๕ การนเิ ทศภายใน ๒.๑.๕.๑ นายอดุ มศักดิ์ ปอโนนสงู ผอ.กลุ่มนิเทศฯ ประธานกรรมการ ๒.๑.๕.๒ นายสุทธิรักษ์ แสงนาค ผอ.ร.ร.บา้ นเหล่าหมากบา้ เชยี งสม รองประธานกรรมการ ๒.๑.๕.๓ นางสาววมิ ล เถาวลั ย์ ศกึ ษานเิ ทศก์ กรรมการ ๒.๑.๕.๔ นางรดั ดา วทิ ยากร ศกึ ษานิเทศก์ กรรมการและเลขานุการ มหี น้าที่ จัดทำคู่มือการนิเทศภายใน และอน่ื ๆท่เี กย่ี วข้อง พรอ้ มท้งั ตรวจสอบความถกู ต้อง ของเอกสารก่อนจัดทำเป็นรปู เลม่ ท่สี มบรู ณ์ ๒.๑.๖ มิติที่ ๖ การวจิ ยั ในชัน้ เรียน ๒.๑.๖.๑ นางสุภาวดี ปกครอง ศกึ ษานิเทศก์ ประธานกรรมการ ๒.๑.๖.๒ นางจรุ พี ร ชน่ื นริ นั ดร์ ครู ร.ร.บา้ นกุดขนวน กรรมการ ๒.๑.๖.๓ นางสาวจันทร์สดุ า ล้ีพงษก์ ลุ ครู ร.ร.บ้านเมอื งปงั กรรมการ มีหน้าที่ จดั ทำคมู่ ือการวิจยั ในช้ันเรยี น และอืน่ ๆทีเ่ กี่ยวข้อง พรอ้ มทั้งตรวจสอบความถกู ต้อง ของเอกสารกอ่ นจัดทำเปน็ รูปเล่มทส่ี มบูรณ์ ๒.๒ คณะกรรมการจดั ทำรูปเลม่ เอกสาร ประกอบด้วย ๒.๒.๑ นายสุรชัย ไผ่ตง ผอ.ร.ร.บา้ นโคกผักหวานโนนรงั สี ประธานกรรมการ ๒.๒.๒ นายณฐั ชา ทศั นยิ ม ผอ.ร.ร.บา้ นบะยาว รองประธานกรรมการ ๒.๒.๓ นายพรี ะพัฒน์ อนุรกั ษ์ ครู ร.ร.บ้านคำเต้าแก้วหนิ ลาด กรรมการ ๒.๒.๔ นายวราวัฒน์ โสภารตั น์ ครู ร.ร.อนบุ าลศรีธาตุ กรรมการ ๒.๓.๕ นายมนวฒั น์ คำรินทร์ ครู ร.ร.บ้านดงเมือง (ดงเมอื งวทิ ยา) กรรมการและเลขานุการ มีหน้าที่ ออกแบบและจดั ทำปกเอกสารคมู่ อื ๖ มติ ิคุณภาพสูก่ ารปฏิบัติทกุ มติ ิ ทงั้ น้ีให้ผ้ไู ด้รบั การแต่งตัง้ ปฏิบตั ิหนา้ ทที่ ไี่ ด้รับมอบหมายอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ และบรรลุตามวตั ถุประสงค์ ท่ตี ัง้ ไว้ ตงั้ แตบ่ ัดนี้เป็นตน้ ไป ส่ัง ณ วันท่ี ๒ เดอื น มนี าคม พ.ศ. ๒๕๖๓ (นายบรู พา พรหมสงิ ห)์ ผอู้ ำนวยการสำนักงานเขตพื้นทีก่ ารศึกษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต 2


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook