๒หน่วยการเรียนรู้ที่ ประวัติศาสตร์ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๑ วิธกี ารทางประวัตศิ าสตร์ จุดประสงค์การเรยี นรู้ • นาวิธีการทางประวตั ิศาสตรม์ าใช้ศึกษาเหตุการณท์ างประวัติศาสตร์ได้
ความหมายและความสาคัญของประวัติศาสตร์ ความหมายของประวัตศิ าสตร์ • ประวัตศิ าสตร์ เปน็ การศกึ ษาเร่อื งราวประสบการณข์ องมนุษยใ์ นอดีต จาก หลกั ฐานที่มีการจดบันทกึ ไวห้ รอื จากหลักฐานที่เปน็ ลายลักษณ์อกั ษร และ หลักฐานประเภทคาบอกเลา่ เชน่ ตานาน นทิ านพ้นื บ้าน รวมไปถงึ วัตถุ ประจกั ษพ์ ยานตา่ งๆ • มนษุ ย์รู้จักคดิ คน้ ตัวอกั ษรหรอื ตวั หนังสือขึ้นมาจดบนั ทกึ เหตุการณ์ตา่ งๆ หรอื เรอื่ งราวในชวี ติ ประจาวนั เรมิ่ มีตวั หนังสือและจดบนั ทกึ เมอื่ ราว ๕,๐๐๐ - ๖,๐๐๐ ปีลว่ งมาแล้ว ช่วงเวลาดงั กล่าวถอื วา่ เป็นการเริ่มสมัยประวัติศาสตร์ ของมนุษยชาติ ช่วงเวลากอ่ นหน้าน้ันเรยี กว่า “สมัยก่อนประวัตศิ าสตร์”
ความแตกต่างของการศกึ ษาประวัติศาสตรแ์ ละโบราณคดี ประวัติศาสตร์ • ศึกษาเร่ืองราวของมนษุ ย์ จากหลกั ฐานทเ่ี ป็นลาย ลกั ษณ์อักษร และหลักฐานประเภทอืน่ ๆ รวมทงั้ คาบอกเล่าแลว้ นามาศกึ ษา วเิ คราะหเ์ รียบเรียง เป็นเรอ่ื งราว โบราณคดี • ศึกษาเรื่องราวและพฤตกิ รรมของมนษุ ย์ในอดตี จากโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศลิ ปวัตถุ ที่มนุษย์ ไดส้ ร้างไว้ และยงั คงเหลอื ซากหรือร่องรอยมา จนถงึ ปัจจุบนั แลว้ นามาวิเคราะห์เรยี บเรียงเป็น เร่ืองราว
ความสาคัญของประวัติศาสตร์ • ทาให้รู้ความเปน็ มาของมนษุ ย์ในอดีต • ทาให้ร้รู ากเหงา้ ความเป็นไทย • ทาให้มนุษยม์ ีความละเอียดรอบคอบ มเี หตุผล มีความคดิ ท่ดี ี • ใหบ้ ทเรียนทางจรยิ ธรรม • ทาให้เขา้ ใจความแตกตา่ งของอารยธรรม
วธิ กี ารทางประวตั ิศาสตร์ ความหมายและความสาคญั ของวธิ ีการทางประวตั ศิ าสตร์ ความหมาย • เป็นขน้ั ตอน หรอื วิธกี ารทีน่ ักประวัติศาสตรห์ รือผู้ที่ศึกษาทางด้านประวัตศิ าสตร์ใช้ เพอ่ื ศึกษาคน้ ควา้ และเรียบเรียงเหตุการณท์ างประวตั ิศาสตรจ์ ากหลักฐานต่างๆ เพื่อให้ไดข้ อ้ มูลท่ีมีความถูกต้องและชดั เจนมากทสี่ ุด ความสาคัญ • วธิ กี ารทางประวตั ศิ าสตรม์ ีความสาคญั มาก เพราะทาใหเ้ รื่องราวทางประวตั ศิ าสตร์ มีความถกู ต้อง เทยี่ งตรง สมบรู ณ์ และมีความนา่ เชอื่ ถือมากท่ีสุด
ขน้ั ตอนของวธิ กี ารทางประวตั ิศาสตร์ การรวบรวมหลกั ฐาน ๒ การกาหนดหัวข้อเรอื่ งทจ่ี ะศกึ ษา ๑ ขั้นตอนของวิธกี ารทาง ๓ ประวตั ิศาสตร์ การประเมินคุณค่า การเรยี บเรียง ๕ ของหลักฐาน หรือการนาเสนอ ๔ การวิเคราะห์ สงั เคราะห์ และจดั หมวดหมู่ขอ้ มลู
ลักษณะ ประเภท และแหล่งทมี่ าของหลักฐานทางประวตั ศิ าสตร์ ลกั ษณะของหลักฐานทางประวตั ศิ าสตร์ • หลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ไทยท่เี ป็นลายลักษณอ์ กั ษรโดยท่ัวไปกลา่ วได้วา่ ไมค่ ่อยสมบรู ณ์ เพราะคนไทยไมค่ ่อยชอบจดบนั ทกึ จงึ ทาใหม้ หี ลกั ฐานทางประวัติศาสตรน์ ้อย • หลกั ฐานบางอยา่ งยังถกู ทาลายไปจากการศึกสงคราม และการที่มอี ากาศรอ้ นชน้ื ทาให้ หลักฐานเสียหายเรว็ • ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนงั่ เกลา้ เจ้าอยู่หัว คนไทยต้องจดคัดลอกขอ้ มลู ทาง ประวตั ศิ าสตร์ด้วยลายมอื เพราะยงั ไม่มรี ะบบการพมิ พ์ด้วยถอื วา่ วชิ าประวัติศาสตร์เรียนรู้ กนั เฉพาะเจา้ นายหรือคนระดบั สงู เท่านัน้ ทาใหก้ ารศึกษาประวัตศิ าสตร์ โดยเฉพาะในสมยั โบราณต้องมีการสนั นษิ ฐานกนั มาก
ประเภทของหลักฐานทางประวตั ิศาสตร์ไทย ตานาน หลกั ฐานท่ีเปน็ ลายลกั ษณ์อักษร • ตานาน เป็นเร่อื งท่เี ลา่ ตอ่ ๆ กันมาดว้ ยวาจา ภายหลงั มีการจด บันทกึ และพมิ พ์เผยแพร่ เร่ืองท่อี ยู่ในตานานอาจถกู เปลยี่ นแปลง จากเรือ่ งเดมิ ได้ เพราะการลมื ความไม่แม่นยาในการจดจา มกี าร กลา่ วถึงกาลเวลาอยา่ งกวา้ งๆ • เร่ืองทีป่ รากฏในตานานมกั จะกลา่ วถงึ เรื่องในพระพทุ ธศาสนา เรอ่ื งราวของบคุ คล เรอื่ งราวของปชู นียสถาน เชน่ ตานานมูล ศาสนา ตานานจามเทววี งศ์ ตานานพระแกว้ มรกต ตานาน ชนิ กาลมาลีปกรณ์ เป็นต้น • ตานานสะทอ้ นใหเ้ หน็ ความเช่ือ ความศรัทธาคตชิ าวบ้าน ตานานจงึ มปี ระโยชน์ในการศกึ ษาประวตั ิศาสตร์ไทยอยมู่ าก แตก่ ็ตอ้ งใช้ดว้ ย ความระมดั ระวัง และตรวจสอบกบั หลกั ฐานอื่นๆ ด้วย เชน่ หลกั ฐาน ทางโบราณคดี เป็นตน้
หลักฐานท่เี ปน็ ลายลกั ษณ์อกั ษร จารึก • ทาขึ้นเพื่อใชอ้ ธิบายเรอื่ งราวเหตุการณ์ท่เี กิดขึ้นในสงั คม โดยมจี ุดมุง่ หมายอยา่ งใดอย่างหน่งึ • จารึกของไทยปรากฏในหลายลกั ษณะ เช่น จารกึ บนแทน่ ศิลา หรือแผน่ ศลิ า เรยี กวา่ “ศลิ าจารกึ ” จารกึ ลงบนแผ่นทอง เรยี กว่า “จารกึ ลานทอง” จารกึ ลงบนแผ่นเงนิ เรียกวา่ “จารึก ลานเงนิ ” จารึกหรือจารบนใบลานเรียกว่า “หนงั สือใบลาน” • จารกึ เปน็ หลักฐานทางประวัติศาสตร์ไทยทีม่ ีความสาคญั ศลิ าจารึกวดั ศรีชุม หรือศลิ าจารึกสุโขทยั หลกั ท่ี 2 มาก โดยเฉพาะในสมัยสโุ ขทัย
หลักฐานที่เป็นลายลกั ษณอ์ กั ษร พงศาวดาร • พงศาวดาร เป็นการบันทึกเรอ่ื งราวในอดีตภายใต้การอุปถัมภ์ของ ราชสานกั เน้ือหาในพงศาวดารจะเนน้ เหตกุ ารณเ์ ก่ียวกับ อาณาจักรและกษตั รยิ ์ท่ีปกครองอาณาจกั รน้ันๆ • พงศาวดารทีม่ อี ยู่ในปัจจบุ ันมีเนือ้ หา ๓ ประเภทใหญ่ๆ คอื พงศาวดาร กรงุ ศรีอยธุ ยา พงศาวดารกรงุ รตั นโกสินทรจ์ นถึงต้นรชั กาลที่ ๕ พงศาวดารทอ้ งถิ่นและประเทศเพ่ือนบา้ น • ถึงพงศาวดารไม่ไดใ้ ห้ความสาคัญเก่ียวกบั สามญั ชนท่วั ไปและบางเร่อื ง ยงั เกีย่ วกับเรอ่ื งไม่ปกติ แต่กม็ ปี ระโยชนแ์ ละทรงคุณค่ามากใน การศึกษาประวัตศิ าสตร์ โดยเฉพาะในสมัยอยธุ ยาและรตั นโกสินทร์ จนถงึ ตน้ รัชกาลท่ี ๕
หลกั ฐานทเ่ี ปน็ ลายลักษณ์อกั ษร บนั ทกึ ของชาวต่างชาติ • เกิดจากการทชี่ าวต่างชาติได้เดนิ ทางเขา้ มาในประเทศไทย สมัยตา่ งๆ มที ัง้ นกั การทูต พ่อค้า นักเผชิญโชค ไดบ้ นั ทึก เร่ืองราวตา่ งๆ ทงั้ ท่ีเกี่ยวกบั ประวตั ิศาสตร์ ภมู ิศาสตร์ วัฒนธรรม การดารงชีวติ • ทาใหเ้ ราได้ทราบเหตกุ ารณ์ทางประวัตศิ าสตรไ์ ทยมากขึน้ บันทกึ ทส่ี าคัญของชาวต่างชาตใิ นสมัยอยุธยา เชน่ พงศาวดารกรุงศรอี ยุธยาฉบับฟาน ฟลีต หรือวัน วลติ จดหมายเหตุลาลูแบร์ เปน็ ตน้ • เนื่องจากชาวตา่ งชาตมิ พี นื้ ฐานทางความคิด วฒั นธรรมที่ แตกตา่ งจากคนไทย จงึ อาจทาใหม้ ีการเข้าใจผดิ ใน วฒั นธรรมของไทยในบางเร่ือง เพราะฉะนั้นในการศกึ ษา จึงตอ้ งระมดั ระวังในประเด็นเหลา่ นี้
หลกั ฐานทเี่ ป็นลายลกั ษณ์อกั ษร จดหมายเหตุ • จดหมายเหตุ เป็นหลักฐานทางประวตั ิศาสตร์ท่ีสาคญั ประเภทพงศาวดาร แต่แตกตา่ งกนั ตรงท่จี ดหมายเหตุเป็น การบันทึกรว่ มสมยั • จดหมายเหตจุ ะบอกเกย่ี วกบั วนั เวลา ทมี่ เี หตกุ ารณเ์ กดิ ขน้ึ มี ลกั ษณะเดน่ ในเร่ืองการใหร้ ายละเอียด และความถกู ตอ้ งในเรอื่ ง เวลา พรอ้ มท้ังแทรกความคดิ เหน็ ของผบู้ ันทกึ ลงไปดว้ ย • จดหมายเหตุแบง่ ออกเปน็ หลายประการ ไดแ้ ก่ จดหมายเหตุของ หลวง จดหมายเหตโุ หร จดหมายเหตุของบุคคล และเอกสาร คาให้การของรฐั หรือฝ่ายปกครอง
หลกั ฐานทเ่ี ปน็ ลายลกั ษณอ์ กั ษร เอกสารทางราชการ • เอกสารทางราชการ เปน็ เอกสารทีเ่ ก่ียวขอ้ งกับการ บริหารราชการและการปกครองทีร่ ัฐบาลมีตอ่ ขา้ ราชการ ท้งั สว่ นกลางและส่วนภมู ภิ าค • เอกสารทางราชการ เชน่ รายงานการตรวจสอบราชการ รายงานความคิดเห็นเพื่อกราบบังคมทูล รายงานการประชุม เปน็ ต้น • ก่อนสมยั รัตนโกสินทรเ์ อกสารทางราชการ ชารดุ เสีย หายไปมาก ประกอบกบั ยงั ไมม่ รี ะบบการจัดเก็บ จนในสมัย รชั กาลที่ ๕ จงึ ไดเ้ ริม่ การจดั เก็บเอกสารอย่างเปน็ ระบบ โดยเก็บไวท้ ห่ี อจดหมายเหตแุ หง่ ชาติเป็นแหลง่ สาคัญ
หลกั ฐานท่ไี ม่เป็นลายลกั ษณ์อกั ษร • หลกั ฐานทไ่ี มเ่ ป็นลายลักษณ์อกั ษรมีหลายประเภท ทั้งโบราณสถาน โบราณวัตถุ เชน่ แนวพระราชวงั เก่า แนวเมืองเก่า แหลง่ โบราณคดีตา่ งๆ เจดีย์ ปรางค์ โบสถ์ วิหาร ผลงานศลิ ปะ เครือ่ งแตง่ กาย เคร่อื งมอื เครอ่ื งใช้ เป็นตน้ • หลกั ฐานที่ไม่เป็นลายลักษณอ์ กั ษรสามารถนามาใช้ประกอบการศึกษาประวตั ิศาสตรใ์ น สมัยตา่ งๆ ได้เป็นอยา่ งดี เพอื่ จะไดเ้ ข้าใจวถิ ีชีวติ ของคนไทยไดด้ ีข้นึ
การนาหลกั ฐานไปใชใ้ นการศกึ ษาประวตั ิศาสตร์สุโขทยั หลกั ฐานช้นั ตน้ ศิลาจารกึ หลักที่ ๑ หรือศิลาจารกึ พ่อขนุ รามคาแหงมหาราช • เป็นหลักฐานทใ่ี หข้ ้อมลู ของอาณาจกั รสุโขทัยหลายๆ ดา้ น ทั้งการเมอื ง การปกครอง เศรษฐกจิ สังคม ขนบธรรมเนยี มประเพณี และวถิ ชี ีวติ ความเป็นอย่ขู องผู้คน เจดยี ท์ รงดอกบวั ตูม หรอื เจดยี ์ทรงพมุ่ ขา้ วบิณฑ์ • เป็นโบราณสถานในวดั มหาธาตุ จงั หวดั สโุ ขทัย แสดงใหเ้ หน็ ถึงความ เจริญรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนาในสมัยสุโขทยั
หลักฐานชั้นรอง สารนพิ นธ์ ประเสรฐิ ณ นคร • เปน็ หลักฐานที่ให้ข้อมลู ของอาณาจกั รสุโขทัยหลายๆ ดา้ น ท้ังการเมืองการ ปกครอง เศรษฐกิจ สงั คม ขนบธรรมเนยี มประเพณี และวถิ ชี ีวติ ความเป็นอยู่ ของผคู้ น สโุ ขทัยเมอื งพระรว่ ง • เปน็ โบราณสถานในวัดมหาธาตุ จังหวดั สโุ ขทัย แสดงใหเ้ หน็ ถงึ ความ เจรญิ รุ่งเรืองของพระพทุ ธศาสนาในสมัยสโุ ขทัย
๒หน่วยการเรียนรู้ท่ี ประวตั ศิ าสตร์ ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๑ วธิ กี ารทางประวัตศิ าสตร์
Search
Read the Text Version
- 1 - 20
Pages: