ประวตั ิศาสตร์ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๑ ๑หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ เวลาและการแบง่ ยคุ สมัย ทางประวัติศาสตร์ จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๑. วิเคราะหค์ วามสาคัญของเวลาในการศกึ ษาประวตั ศิ าสตรไ์ ด้ ๒. เทยี บศกั ราชตามระบบต่างๆ ทีใ่ ชศ้ ึกษาประวตั ิศาสตร์ได้
๑หน่วยการเรยี นรู้ท่ี เวลาและการแบ่งยุคสมัย ทางประวตั ิศาสตร์ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. วิเคราะห์ความสาคญั ของเวลาในการศึกษาประวัติศาสตร์ได้ ๒. เทยี บศกั ราชตามระบบตา่ งๆ ที่ใช้ศกึ ษาประวตั ิศาสตร์ได้
ความสาคญั ของเวลาและชว่ งเวลา • เวลาและช่วงเวลาในประวตั ิศาสตร์ ถูกกาหนดขึน้ เพื่อใชล้ าดบั เหตกุ ารณท์ างประวัติศาสตร์ เ ว ล า ในประวตั ศิ าสตร์ ช่ ว ง เ ว ล า ในประวัติศาสตร์ • นิยมบอกเป็น ปี บอกใหร้ รู้ ะยะเวลาที่ชดั เจน เก่ยี วกับบคุ คลหรือ เหตกุ ารณท์ างประวตั ิศาสตร์ • ถ้าตอ้ งการระบใุ ห้ชดั เจน จะบอกเปน็ วัน เดือน ปี • พอ่ ขุนรามคาแหงมหาราช ครองราชย์ระหวา่ ง พ.ศ. • ศักราชที่พบในหลักฐานทางประวตั ศิ าสตร์ ๑๘๒๒ - ๑๘๔๑ • สมยั สโุ ขทัย ตรงกบั ชว่ งเวลา พ.ศ. ๑๗๙๒ - ๒๐๐๖ พทุ ธศกั ราช (พ.ศ.) คริสตศ์ ักราช (ค.ศ.) มหาศักราช (ม.ศ.) ฮจิ เราะหศ์ ักราช (ฮ.ศ.) จลุ ศกั ราช (จ.ศ.) รัตนโกสินทร์ศก (ร.ศ.)
เวลาและช่วงเวลา ๑ • บอกให้ร้วู า่ เหตุการณ์ต่างๆ เกดิ ขึน้ และ สน้ิ สุดเวลาใด ๔ • บอกใหร้ ู้ถงึ ความสัมพนั ธ์หรือเกี่ยวขอ้ งของ เหตกุ ารณใ์ นประวตั ิศาสตร์ ๒ • บอกใหร้ ูว้ ่าเหตกุ ารณ์ตา่ งๆ เกดิ ข้ึน มานานเทา่ ใด ๕ • ทาให้เขา้ ใจและวิเคราะห์เหตกุ ารณ์ตา่ งๆ ในประวตั ศิ าสตร์ไดด้ ขี น้ึ ๓ • บอกให้รวู้ ่าเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นกอ่ นหรอื หลัง เมอื่ เปรียบเทยี บกับเหตุการณอ์ ่นื ๆ
การนับและการเปรียบเทียบศกั ราชแบบตา่ งๆ การนบั ศกั ราชแบบสากล ครสิ ตศ์ กั ราช (ค.ศ.) ครสิ ต์ศักราชที่ ๑ เรม่ิ นับต้ังแตป่ ที พ่ี ระเยซคู ริสตป์ ระสูติ ตรงกับ พ.ศ. ๕๔๔ ฮิจเราะห์ศักราช (ฮ.ศ.) ฮจิ เราะห์ศกั ราชท่ี ๑ ยึดปีทท่ี า่ นนบีมฮุ มั มัดอพยพจากเมืองเมกกะไปเมืองเมดินะ ตรงกบั พ.ศ. ๑๑๖๕
การนับศกั ราชแบบไทย พุทธศักราช (พ.ศ.) ไทยเรมิ่ นับพุทธศกั ราชท่ี ๑ เมอ่ื พระพทุ ธเจา้ เสดจ็ ดบั ขันธ์ปรนิ ิพพานไปแลว้ ๑ ปี มหาศักราช (ม.ศ.) พระเจ้ากนษิ กะ แหง่ ราชวงศก์ ษุ าณะ ทรงตัง้ ข้ึน เรม่ิ ภายหลังพทุ ธศกั ราช ๖๒๑ ปี พบมากในศลิ าจารกึ สโุ ขทัย จุลศกั ราช (จ.ศ.) บุปผะอรหนั ต์ กษัตรยิ ์พมา่ ทรงต้ังข้ึน เร่มิ ภายหลงั พทุ ธศักราช ๑๑๘๑ ปี พบมากในศลิ าจารึกและพงศาวดารของลา้ นนา สโุ ขทยั อยุธยา และรัตนโกสินทร์ รตั นโกสนิ ทรศ์ ก (ร.ศ.) เริ่มนบั ปีที่รชั กาลที่ ๑ ทรงสถาปนกรงุ เทพมหานคร ข้ึนเป็นราชธานีแหง่ ใหม่ของไทย เมื่อ พ.ศ. ๒๓๒๕ เปน็ รตั นโกสนิ ทรศ์ กท่ี ๑
หลักเกณฑก์ ารเทยี บศักราช ม.ศ. + ๖๒๑ = พ.ศ. พ.ศ. - ๖๒๑ = ม.ศ. จ.ศ. + ๑,๑๘๑ = พ.ศ. พ.ศ. - ๑,๑๘๑ = จ.ศ. ร.ศ. + ๒,๓๒๔ = พ.ศ. พ.ศ. - ๒,๓๒๔ = ร.ศ. ค.ศ. + ๕๔๓ = พ.ศ. พ.ศ. - ๕๔๓ = พ.ศ. ฮ.ศ. + ๑,๑๒๒ = พ.ศ. พ.ศ. - ๑,๑๒๒ = ฮ.ศ. • ประเทศไทยเริม่ ใช้พุทธศกั ราชอยา่ งเป็นทางการ เมอื่ วนั ที่ ๒๑ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ.๒๔๕๕ ตรงกบั ในรชั สมยั พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจา้ อย่หู วั
ตวั อย่างศกั ราชในหลกั ฐานทางประวัตศิ าสตร์ พุทธศกั ราช (พ.ศ.) “บ้านโนล แครนลี ประเทศอังกฤษ” “…ข้าพเจ้ามีความเต็มใจที่จะสละอานาจอันเป็นของข้าพเจ้าอยู่แต่เดิมให้แก่ราษฎรโดยท่ัวไป แต่ข้าพเจ้าไม่ยินยอมยกอานาจท้ังหลายของข้าพเจ้าให้แก่ผู้ใด คณะใดโดยเฉพาะ เพ่ือใช้อานาจนั้น โดยสิทธ์ิขาดและโดยไม่ฟงั เสยี งอันแทจ้ ริงของประชาราษฎร...” ประชาธปิ ก ปร. วนั ที่ ๒ มนี าคม พ.ศ. ๒๔๗๗ เวลา ๑๓ นาฬกิ า ๔๕ นาที ที่มา : ประมวลพระบรมราโชวาทและพระราชดารัสในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว หนา้ ๓๖๕ - ๓๗๐. หลักฐานทางประวัติศาสตร์ไทยข้างบนน้ี เป็นพระราชหัตถเลขาบางตอนในการสละราชสมบัติ ของพระบาทสมเด็จพระปกเกลา้ เจ้าอยูห่ ัวเมือ่ วันท่ี ๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๗
มหาศักราช (ร.ศ.) “๑๒๐๕ ศกปีมะแม พอ่ ขุนรามคาแหง หาใครใ่ จในใจ แลใสล่ ายสือไทยนี้…” ท่มี า : ศลิ าจารึกพอ่ ขุนรามคาแหงมหาราช ดา้ นที่ ๔. ปี ๑๒๐๕ เป็นการนับแบบมหาศักราช เม่ือเทียบเป็น พ.ศ. บวกด้วย ๖๒๑ = พ.ศ. ๑๘๒๖ เป็นปีท่ี พ่อขุนรามคาแหงมหาราชประดษิ ฐอ์ กั ษรไทย จลุ ศกั ราช (จ.ศ.) “ศกั ราช ๗๑๒ ขาลศก…แรกสถาปนากรงุ พระนครศรอี ยธุ ยา” ทม่ี า : พระราชพงศาวดารกรุงศรอี ยุธยา ฉบบั หลวงประเสรฐิ ฯ หนา้ ๑. ศกั ราช ๗๑๒ เปน็ การนับแบบจุลศักราช เม่ือเทียบเป็น พ.ศ. บวกด้วย ๑๑๘๑ = พ.ศ. ๑๘๙๓ เป็นปีที่ สมเด็จพระรามาธิบดที ี่ ๑ (อทู่ อง) ต้ังกรุงศรอี ยธุ ยาเปน็ ราชธานี
รตั นโกสนิ ทร์ศก (ร.ศ.) “วนั ท่ี ๑๙ เมษายน รตั นโกสินทร์ศก ๑๐๙ ถึงทปี่ ระชมุ เสนาบดี ซ่ึงอยู่รักษาพระนคร” ท่ีมา : ประชุมพระราชหัตถเลขาพ๒ร๓ะบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวท่ีทรงบริหารราชการ แผน่ ดิน ภาคที่ ๓ (ตอน ๒) หน้า ๒๖๗. รัตนโกสินทร์ศก หรือ ร.ศ. ๑๐๙ เม่ือเทียบเป็น พ.ศ. บวกด้วย ๒๓๒๔= พ.ศ. ๒๔๓๓ สาหรับเลข ๒๓ ที่อยู่ข้างบนคาว่า “ศก” หมายถึง ปีที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวครองราชสมบัติ เป็นปีท่ี ๒๓ พระราชหัตถเลขาน้ที รงมถี งึ คณะเสนาบดีระหวา่ งเสดจ็ ประพาสแหลมมลายู
การแบ่งยคุ สมยั ทางประวัติศาสตร์ การแบง่ ชว่ งเวลาตามแบบสากล ๑ สมยั กอ่ นประวตั ศิ าสตร์ แบง่ ตามเทคโนโลยกี ารทาเครอ่ื งมอื เครอ่ื งใช้ • ยุคหนิ จะแบง่ ยอ่ ยออกเป็นยุคหนิ เก่า ยุคหินกลาง และยคุ หนิ ใหม่ มอี ายปุ ระมาณ ๒ - ๕ ล้านปี - ๔,๐๐๐ ปี ลว่ งมาแลว้ • ยุคโลหะ ครอบคลมุ ช่วงเวลาประมาณ ๔,๐๐๐ ปี - ๑,๕๐๐ ปีลว่ งมาแลว้ แบง่ ยอ่ ยออกเป็นยุคสาริด และยคุ เหลก็ คอื ยดึ ถอื เอาชนิดของโลหะท่ีมนุษยน์ ามาใช้ประโยชน์เปน็ หลักเกณฑก์ ารแบง่ แบ่งตามลกั ษณะการดารงชวี ิตของผูค้ น • ยุคล่าสัตว์ เกบ็ หาอาหาร มนษุ ยล์ ่าสตั ว์ เก็บหาอาหาร ยงั ไมม่ ที ่ีพานักแนน่ อน ยุคนีค้ รอบคลุมชว่ งเวลาประมาณ ๒.๕ ล้านปี - ๘,๐๐๐ ปีลว่ งมาแล้ว • ยคุ สงั คมเกษตรกรรม มนุษยร์ ้จู กั การดารงชพี ดว้ ยการเพาะปลกู เล้ยี งสตั ว์ เริ่มตน้ การตั้งถ่นิ ฐานอย่รู วมกันมากขนึ้ กลายเปน็ สงั คม ยคุ น้ีเกิดข้นึ เม่อื ประมาณ ๘,๐๐๐ ปี - ๖,๐๐๐ ปลี ว่ งมาแล้ว • ยุคสังคมเมือง เป็นชว่ งที่ชมุ ชนพฒั นาเป็นสังคมเมือง มีลักษณะเปน็ เมืองเล็กๆ สังคมแบบน้จี ะถือกาเนดิ ขนึ้ ตั้งแต่ เมื่อ ๖,๐๐๐ ปลี ่วงมาแล้ว
การแบง่ ยุคสมัยก่อนประวัตศิ าสตรต์ ามแบบสากล ยคุ แบ่งตามเทคโนโลยี ชว่ งระยะเวลา ลกั ษณะการดาเนนิ ชีวิตของมนุษย์ ยคุ หนิ เครื่องมอื เคร่ืองใช้ โดยประมาณ ยุคโลหะ ลา่ สตั ว์ อาศัยอยู่ในถา้ ใช้เครอ่ื งมอื หนิ ขดั แบบหยาบๆ ยุคหนิ เก่า ๒,๕๐๐,๐๐๐- ๑๐,๐๐๐ รจู้ ักเขียนภาพตามผนัง ปี ล่วงมาแลว้ ยุคหินกลาง รู้จกั ทาเคร่อื งมอื หนิ ที่ประณีตขนึ้ ๑๐,๐๐๐-๘,๐๐๐ ปี รจู้ ักทาเครื่องป้ันดินเผาผิวเรยี บมัน ยคุ หนิ ใหม่ ล่วงมาแล้ว รู้จกั การเพาะปลกู ตั้งหลกั แหล่งถาวร ๘,๐๐๐-๔,๐๐๐ ปี ทาเครอ่ื งมือหินขัด เครื่องปนั้ ดนิ เผา เคร่อื งประดับ ลว่ งมาแลว้ ยคุ สารดิ ๔,๐๐๐ - ๓,๐๐๐ ปี อาศัยเป็นชมุ ชนใหญ่ข้นึ รจู้ กั เพาะปลูก เลยี้ งสัตว์ ยคุ เหลก็ ลว่ งมาแล้ว และรู้จักใชส้ าริดทาเครือ่ งประดับ ๓,๐๐๐ - ๑,๕๐๐ ปี มกี ารติดต่อคา้ ขาย รบั อารยธรรมจากตา่ งแดน ลว่ งมาแลว้ มกี ารนาเหลก็ มาเปน็ เคร่ืองมือ
๒ สมยั ประวัตศิ าสตร์ ประวตั ศิ าสตรส์ มัยโบราณ • เร่ิมต้นตงั้ แต่อารยธรรมเมโสโปเตเมยี และสนิ้ สุดใน พ.ศ. ๑๐๑๙ เมอ่ื กรุงโรมของอาณาจกั รโรมนั ถูกพวกอนารยชนตแี ตก ประวตั ศิ าสตร์สมยั กลาง • ภายหลังกรุงโรมแตกใน พ.ศ.๑๐๑๙ จนถึง พ.ศ. ๑๙๙๖ พวกเติร์กที่นับถือศาสนาอิสลามตีกรุงคอนสแตนติโนเปิลแตก เปน็ สมยั ทอี่ ารยธรรมหยดุ ชะงักในชว่ งแรก และเริม่ เปล่ยี นแปลงในครง่ึ หลงั ประวตั ศิ าสตรส์ มัยใหม่ • หลังกรุงคอนสแตนติโนเปิลแตก จนสิ้นสุดสงครามโลกครั้งท่ี ๒ ใน พ.ศ. ๒๔๘๘ มีการเปล่ียนแปลงมากมายทั้งด้าน ศาสนา ดา้ นการปกครอง ด้านเศรษฐกจิ ประวตั ศิ าสตรร์ ่วมสมยั • หลังสงครามโลกคร้ังท่ี ๒ ถึงปัจจุบัน มีความก้าวหน้าและเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็วมีเคร่ืองมือและอุปกรณ์เทคโนโลยี สารสนเทศ เช่น โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ โทรศพั ท์เคลอื่ นที่ GPS เปน็ ตน้
การแบ่งช่วงเวลาตามแบบไทย ชอื่ เรยี กสมยั ช่อื เรยี กยุค แบง่ ตามสมยั ช่วงระยะเวลา สมยั ก่อน ยุคหิน การแบง่ ยุคยอ่ ย ๗๐๐,๐๐๐ - ๑๐,๐๐๐ ปลี ่วงมาแล้ว ประวัตศิ าสตร์ ยุคโลหะ ๑๐,๐๐๐ - ๔,๓๐๐ ปลี ่วงมาแลว้ ยุคหินเกา่ ๔,๓๐๐ - ๓,๕๐๐ ปีลว่ งมาแลว้ ยคุ หินกลาง ๓,๕๐๐ - ๒,๕๐๐ ปลี ว่ งมาแลว้ ยุคหินใหม่ ยคุ สารดิ ๒,๕๐๐ ปีล่วงมาแลว้ ยคุ เหลก็ สมัยประวัติศาสตร์ มีวิธีการแบง่ ที่หลากหลาย ดนิ แดนไทยเขา้ สู่สมยั ประวัติศาสตร์ เมื่อประมาณพทุ ธศตวรรษที่ ๑๒
การค้นพบหลักฐานทางโบราณคดีสมยั ก่อนประวัติศาสตรท์ ่วั ทุกภมู ิภาคของประเทศไทย ยุคหนิ เกา่ • พบเคร่ืองมือหินยุคหินเก่า จากแหล่งโบราณคดีถ้าฉานเรน ตาบลตะโก อาเภอทุ่งตะโก จงั หวดั ชุมพร ยุคหินกลาง • พบขวานหินยุคหินกลาง จากแหล่งโบราณคดีบ้านพลีควาย ตาบลกระดงั งา อาเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา ยคุ หินใหม่ • พบขวานหินขัด จากการขุดค้น ท่ีโคกพนมดี อาเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบรุ ี ยคุ สาริด • พบขวานสาริด ที่บ้านเชียง อาเภอหนองหาน จงั หวดั อดุ รธานี ยุคเหลก็ • พบเครือ่ งมือเหลก็ ท่ีบา้ นดอนตาเพชร อาเภอพนมทวน จงั หวดั กาญจนบุรี
แบง่ ตามอาณาจักร สมัยทวารวดี • อาณาจักรหรือแคว้น : ละโว้ สมยั ละโว้ • ช่วงระยะเวลา (ประมาณพุทธศตวรรษ) : (ลพบรุ )ี • อาณาจกั รหรือแควน้ : ทวารวดี • ช่วงระยะเวลา (ประมาณพุทธศตวรรษ) : ๑๒ - ๑๘ ๑๑ - ๑๖ สมัยศรีวชิ ัย สมัยตามพรลงิ ค์ • อาณาจักรหรอื แคว้น : ศรีวชิ ยั • อาณาจกั รหรือแคว้น : ตามพรลงิ ค์ • ชว่ งระยะเวลา (ประมาณพทุ ธศตวรรษ) : • ช่วงระยะเวลา (ประมาณพุทธศตวรรษ) : ๑๓ - ๑๘ ๑๓ - ๑๘
สมยั สโุ ขทัย แบง่ ตามราชธานี • ราชธานี : กรงุ สโุ ขทยั สมยั อยธุ ยา • ชว่ งระยะเวลา : พ.ศ.๑๗๙๒ - ๒๐๐๖ • ราชธานี : กรุงอยุธยา • ชว่ งระยะเวลา : พ.ศ.๑๘๙๓ - ๒๓๑๐ สมัยธนบุรี • ราชธานี : กรุงธนบรุ ี • ชว่ งระยะเวลา : พ.ศ.๒๓๑๐ - ๒๓๒๕ สมยั รตั นโกสินทร์ • ราชธานี : กรุงเทพฯ หรือกรงุ รัตนโกสนิ ทร์ • ช่วงระยะเวลา : พ.ศ.๒๓๒๕ - ปจั จุบนั
แบง่ ตามราชวงศ์ สมยั ราชวงศพ์ ระร่วง สมยั ราชวงศ์อทู่ อง ราชธานี : สโุ ขทยั ราชธานี : อยุธยา ปฐมกษัตรยิ ์ : พอ่ ขนุ ศรีอินทราทิตย์ ปฐมกษัตรยิ ์ : สมเดจ็ พระรามาธิบดีที่ ๑ (อทู่ อง) ชว่ งระยะเวลา : พ.ศ.๑๗๙๒ - ๒๐๐๖ ชว่ งระยะเวลา : พ.ศ. ๑๘๙๓ - ๑๙๑๓ และพ.ศ. ๑๙๓๑ - ๑๙๕๒ สมยั ราชวงศ์สุพรรณภมู ิ สมยั ราชวงศ์สโุ ขทัย ราชธานี : อยธุ ยา ราชธานี : อยูธยา ปฐมกษัตรยิ ์ : สมเดจ็ พระบรมราชาธิราชท่ี ๑ (ขนุ หลวงพงว่ั ) ปฐมกษตั รยิ ์ : สมเด็จพระมหาธรรมราชา ช่วงระยะเวลา : พ.ศ. ๑๙๑๓ - ๑๙๓๑ และพ.ศ. ๑๙๕๒ - ๒๑๑๒ ช่วงระยะเวลา : พ.ศ. ๒๑๑๒ - ๒๑๗๒ สมยั ราชวงศป์ ราสาททอง สมัยราชวงศบ์ า้ นพลหู ลวง ราชธานี : อยธุ ยา ราชธานี : อยุธยา ปฐมกษัตรยิ ์ : สมเด็จพระเจา้ ปราสาททอง ปฐมกษัตริย์ : สมเดจ็ พระเพทราชา ชว่ งระยะเวลา : พ.ศ. ๒๑๗๒ - ๒๒๓๑ ช่วงระยะเวลา : พ.ศ. ๒๒๓๑ - ๒๓๑๐ สมัยราชวงศพ์ ระเจา้ ตากสิน สมัยราชวงศจ์ ักรี ราชธานี : ธนบรุ ี ราชธานี : กรุงเทพมหานคร ปฐมกษัตรยิ ์ : สมเด็จพระเจา้ ตากสนิ มหาราช ปฐมกษัตริย์ : พระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราช ชว่ งระยะเวลา : พ.ศ. ๒๓๑๐ - ๒๓๒๕ ช่วงระยะเวลา : พ.ศ. ๒๓๒๕ - ปจั จุบัน
สมัยพ่อขนุ รามคาแหงมหาราช แบง่ ตามรัชกาล • ช่วงระยะเวลา : พ.ศ. ๑๘๒๒ - ๑๘๔๑ การแบ่งยุคสมัย • ยคุ สมัยราชวงศ์ : สมยั ราชวงศ์พระร่วง • ยคุ สมยั ตามราชธานี : สมยั สุโขทัย ตามรชั กาล • ช่วงระยะเวลา : พ.ศ. ๒๑๙๙ - ๒๒๓๑ • ชว่ งระยะเวลา : พ.ศ.๒๔๑๑ - ๒๔๕๓ • ยุคสมัยราชวงศ์ : สมัยราชวงศ์ปราสาททอง • ยุคสมยั ราชวงศ์ : สมยั ราชวงศ์จักรี • ยคุ สมัยตามราชธานี : สมยั อยุธยา • ยคุ สมยั ตามราชธานี : สมยั รตั นโกสนิ ทร์ สมยั สมเด็จพระนารายณม์ หาราช สมัยพระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกล้าเจา้ อยู่หัว
การแบง่ ยคุ สมัยตามลาดบั รัชกาล สมยั รัชกาลท่ี ๑ • ยคุ สมยั ตามรชั กาล : รชั สมัยพระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟ้าจฬุ าโลกมหาราช สมัยรัชกาลที่ ๒ • ชว่ งระยะเวลา : พ.ศ. ๒๓๒๕ - ๒๓๕๒ สมัยรชั กาลที่ ๓ สมัยรัชกาลท่ี ๔ • ยุคสมัยตามรัชกาล : รัชสมยั พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลยั สมยั รชั กาลที่ ๕ • ช่วงระยะเวลา : พ.ศ. ๒๓๕๒ - ๒๓๖๗ สมยั รชั กาลท่ี ๖ สมัยรชั กาลท่ี ๗ • ยคุ สมัยตามรชั กาล : รชั สมัยพระบาทสมเดจ็ พระน่งั เกลา้ เจ้าอย่หู วั สมัยรัชกาลท่ี ๘ • ช่วงระยะเวลา : พ.ศ. ๒๓๖๗ - ๒๓๙๔ สมยั รชั กาลท่ี ๙ สมยั รชั กาลที่ ๑๐ • ยุคสมยั ตามรัชกาล : รชั สมยั พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจา้ อยูห่ ัว • ช่วงระยะเวลา : พ.ศ. ๒๓๙๔ - ๒๔๑๑ • ยุคสมยั ตามรชั กาล : รชั สมยั พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา้ เจ้าอยหู่ วั • ชว่ งระยะเวลา : พ.ศ. ๒๔๑๑ - ๒๔๕๓ • ยุคสมัยตามรชั กาล : รัชสมัยพระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจ้าอยหู่ ัว • ชว่ งระยะเวลา : พ.ศ. ๒๔๕๓ - ๒๔๖๘ • ยคุ สมัยตามรชั กาล : รัชสมยั พระบาทสมเดจ็ พระปกเกลา้ เจา้ อย่หู ัว • ช่วงระยะเวลา : พ.ศ. ๒๔๖๘ - ๒๔๗๗ • ยุคสมยั ตามรัชกาล : รชั สมัยพระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรมหาอนนั ทมหิดล • ช่วงระยะเวลา : พ.ศ. ๒๔๗๗ - ๒๔๘๙ • ยุคสมัยตามรัชกาล : รชั สมยั พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช • ชว่ งระยะเวลา : พ.ศ. ๒๔๘๙ - ๒๕๕๙ ๒๗ ๑๕ ๒๗ ๑๗ ๔๒ ๑๕ ๙ ๑๒ • ยุคสมัยตามรชั กาล : รชั สมยั สมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั มหาวชริ าลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกูร • ชว่ งระยะเวลา : พ.ศ. ๒๕๕๙ - ปจั จุบนั ยุคสมยั ตามรชั กาล ชว่ งระยะเวลา / ปี ๗๐ ข้อมลู : ณ วนั ท่ี ๑ ธันวาคม ๒๕๕๙
แบง่ ตามการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง • เปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตยตัง้ แต่ วันที่ ๒๔ มิถนุ ายน ๒๔๗๕ - ปจั จุบัน สมยั สมบูรณาญาสทิ ธริ าชย์ สมัยประชาธิปไตย หรือสมยั รฐั ธรรมนญู • ต้งั แต่เรม่ิ แรกถงึ เมือ่ มีการเปล่ียนแปลงการปกครอง มาเปน็ ระบอบประชาธิปไตย เม่ือวันท่ี ๒๔ มิถนุ ายน ๒๔๗๕
แบ่งตามการเปลีย่ นแปลงทางวัฒนธรรม สมยั โบราณ ชว่ งระยะเวลา • สมัยเรมิ่ ตน้ ประวตั ิศาสตรไ์ ทย - สมยั เริ่มรับวฒั นธรรมตะวันตก (ในชว่ งรชั กาลท่ี ๔) สมยั ใหม่ ช่วงระยะเวลา • สมัยเรม่ิ รบั วัฒนธรรมตะวนั ตก - ปจั จุบัน
แบง่ ตามรฐั บาลบรหิ ารประเทศ ยุคสมัย : สมัยรฐั บาลพลเอกประยทุ ธ์ จันทรโ์ อชา ช่วงระยะเวลา : สงิ หาคม ๒๕๕๗ - ปัจจุบนั ยคุ สมัย : สมัยรัฐบาลนางสาวย่งิ ลักษณ์ ชนิ วตั ร ชว่ งระยะเวลา : สิงหาคม ๒๕๕๔ - พฤษภาคม ๒๕๕๗ ยุคสมยั : สมัยรฐั บาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ช่วงระยะเวลา : ธันวาคม ๒๕๕๑ - สงิ หาคม ๒๕๕๔ ยคุ สมัย : สมยั รฐั บาลนายสมัคร สนุ ทรเวช ช่วงระยะเวลา : มกราคม ๒๕๕๑ - กันยายน ๒๕๕๑ ยคุ สมัย : สมยั รฐั บาลพลเอกเปรม ตณิ สลู านนท์ ชว่ งระยะเวลา : มีนาคม ๒๕๒๓ - สิงหาคม ๒๕๓๑ ยุคสมัย : สมยั รัฐบาลจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ช่วงระยะเวลา : กุมภาพันธ์ ๒๕๐๒ - ธนั วาคม ๒๕๐๖
ตวั อยา่ งการใชเ้ วลา ช่วงเวลา และยคุ สมยั ทป่ี รากฏในหลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตรไ์ ทย “เม่ือชั่วพอ่ กู กบู าเรอแกพ่ ่อกู กบู าเรอแก่แม่กู กไู ด้ตวั เน้อื ตวั ปลา กเู อามาแก่พ่อกู กูได้หมากสม้ หมากหวาน อันใดอนั กินอรอ่ ยกินดี กูเอามาแก่พ่อก.ู ..” (จารึกพอ่ ขนุ รามคาแหง พ.ศ. ๑๘๓๕ ด้านที่ ๑) • ขอ้ ความขา้ งตน้ กลา่ วถงึ ช่วงเวลา หรือสมยั คาว่า “เมอ่ื ชัว่ พอ่ ก”ู คือ เมื่อครั้งหรอื สมยั พระราชบดิ าของ พ่อขุนรามคาแหงมหาราช (เมื่อชั่ว = เม่ือคร้ัง, เม่ือรัชสมัย) คือ พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ พ่อขุนรามคาแหง มหาราชทรงปรนนิบัติต่อพระราชบิดา ได้เนื้อ (สัตว์บก) ได้ปลา (สัตว์น้า) ได้ผลไม้เปรี้ยวหวานท่ีอร่อย กเ็ อามาถวาย
“เราจะคน้ หาข้อความเร่ืองราวของประเทศสยาม ไม่วา่ เมืองใด ชาติใด วงษ์ใด สมัยใด รวบรวมเรยี บเรียงขน้ึ เป็นเร่อื งราวของประเทศสยาม…” (พระราชดารสั ของพระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกล้าเจา้ อยูห่ วั ทรงก่อต้งั โบราณคดีสโมสร พ.ศ. ๒๔๕๐) • ขอ้ ความนี้ เรา คือ พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยู่หวั (ครองราชย์ พ.ศ. ๒๔๑๑ - ๒๔๕๓) และบคุ คล อน่ื ท่ีมีความรู้ความสนใจประวตั ิศาสตร์ จะช่วยกนั ศกึ ษาคน้ คว้าประวตั ศิ าสตรไ์ ทย (สยาม คอื ไทย) โดยให้ ครอบคลมุ ทกุ เมอื ง ทุกชนชาติ ทกุ ราชวงศ์ ทุกสมัย เช่น เชียงแสน สุโขทัย อยุธยา ทวารวดี นครศรธี รรมราช ทเ่ี คยตั้งอยู่ เคยรงุ่ เรอื งบนผนื แผน่ ดนิ ไทย แล้วเรยี บเรียงขนึ้ มาเปน็ ประวัตศิ าสตรไ์ ทย พระราชดารัสนม้ี ขี ึ้นใน พ.ศ. ๒๔๕๐ แสดงท้งั เวลา คือปีท่มี พี ระราชดารัส ช่วงเวลาทค่ี รองราชย์มาแลว้ ก่ปี ี และสมัยตา่ งๆ ใน ประวัตศิ าสตร์ ดังน้ัน นกั เรียนจงึ ควรสังเกตการใชค้ าในหลักฐานทางประวตั ศิ าสตรไ์ ทย
ความสัมพันธ์และความสาคญั ของอดีตท่ีมตี ่อปจั จุบนั และอนาคต อดตี กาหนดปจั จุบัน • ประวตั ิศาสตร์มคี วามต่อเนื่อง ความเจริญหรือความเสอื่ มจากอดตี ย่อมมีผลตอ่ เนือ่ งถึงปจั จุบนั อดีตให้บทเรียนกบั ปัจจุบัน • อดีตทาใหเ้ กดิ บทเรียน เป็นตวั อยา่ งใหก้ ับคนร่นุ ปัจจบุ นั ทงั้ ในเรื่อง ดีและไมด่ ี ปจั จบุ นั สอ่ งทางแกอ่ นาคต • ถ้าเราคนรุน่ ปัจจบุ ันมีความรกั มคี วามสามคั คีตอ่ กัน ใช้คณุ ธรรมเป็น หลักในการดารงชีวิต ประเทศชาติก็จะเจริญและกา้ วหน้าตอ่ ไปได้
ประวัตศิ าสตร์ ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ ๑ ๑หน่วยการเรียนรูท้ ่ี เวลาและการแบง่ ยุคสมยั ทางประวัติศาสตร์
Search
Read the Text Version
- 1 - 27
Pages: