1
1 สว่ นท่ี 1 แบบรายงานสำหรบั โรงเรียน คำช้ีแจงการกรอกแบบฟอร์ม รร. 1-2 1. แบบฟอร์มท่ี รร.1 สรปุ ข้อมูลการพัฒนาผูเ้ รยี นใหม้ ที กั ษะการเรียนรใู้ นศตวรรษที่ 21 ตามทักษะ การเรยี นรู้ 3Rs8Cs - ข้อมูลจำนวนนักเรยี นกลุ่มเป้าหมายทั้งหมดท่ีไดร้ ับการพฒั นาให้มีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 ในภาพของโรงเรยี น - จำนวนครทู ั้งหมดท่เี ข้ารว่ มดำเนนิ งานตามกจิ กรรม 2. แบบฟอร์มท่ี รร.2 การถอดบทเรยี น (Lesson learned) - สังเคราะห์ข้อมูลการดำเนินงานตามโครงการ ฯ ของโรงเรียน และสรุปรายงานตามหัวข้อ เปน็ รายกิจกรรม 3. เอกสารประกอบอืน่ ๆ /หลกั ฐาน/ร่องรอย (แนบตามความจำเปน็ ) เช่น ตัวอยา่ งสื่อ/นวัตกรรม แบบทดสอบ แบบประเมิน ชนิ้ งาน รายงานวจิ ยั ภาพถ่าย วดิ ที ศั น์ (ถา้ ม)ี ฯลฯ
2 แบบรายงานผลการดำเนินงานโครงการส่งเสรมิ ผู้เรียนให้มีคณุ ลกั ษณะและทักษะการเรยี นรู้ ในศตวรรษที่ 21 (สำหรับโรงเรยี น) แบบฟอร์มที่ รร.1 สรปุ ขอ้ มลู การพฒั นาผเู้ รยี นให้มที ักษะการเรียนร้ใู นศตวรรษที่ 21 ตามทกั ษะการเรียนรู้ 3Rs8Cs โรงเรยี นวดั เขานางเภา สังกดั สำนักงานเขตพื้นทกี่ ารศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 1 จำนวนนกั เรียนกลมุ่ เปา้ หมายท้งั หมด 83 คน* (*นักเรียนกลุม่ เป้าหมายเปน็ นักเรียนกลุ่มเดยี วกนั ในทกุ กจิ กรรม) จำนวนครทู ้งั หมดทีร่ ว่ มกจิ กรรมตามกิจกรรมโครงการ 8 คน (ถา้ ครคู นเดยี วกนั ทำกจิ กรรมมากกวา่ 1 กจิ กรรม ให้ รายงานจำนวน 1 คน ไมน่ ับซ้ำ เช่น คุณครู A ทำกจิ กรรมรกั การอ่านและกจิ กรรมจิตอาสา ให้นบั เปน็ 1 คน ไม่นับ ตามกจิ กรรม) กิจกรรมท่ดี ำเนินการส่งผลให้ จำนวนนักเรียนทีไ่ ด้รับการพัฒนา (คน) สรปุ เอกสาร/ นักเรียนกลมุ่ เป้าหมาย นกั เรยี นท่ี ทัง้ หมด ไดร้ บั ไม่ได้รบั ได้รบั การ หลกั ฐาน/ เกิดทักษะการเรียนร้ใู นศตวรรษที่ การพัฒนา การพัฒนา พัฒนา ร่องรอย 21 ดงั นี้ (รอ้ ยละ) 83 83 0 3Rs 83 83 0 100 1. Reading (อา่ นออก) 83 83 0 100 2. (W) Riting (เขียนได)้ 100 3. (A) Rithemetics (คิดเลขเปน็ ) 83 83 0 100 8Cs 1. Critical Thinking and 83 83 0 100 Problem Solving (ทกั ษะด้าน 83 83 0 การคิดอย่างมีวจิ ารณญาณ และ 100 ทักษะในการแกป้ ัญหา) 83 83 0 2. Creativity and Innovation 100 (ทกั ษะด้านการสร้างสรรค์ และ 83 83 0 นวตั กรรม) 100 3. Cross-cultural Understanding (ทกั ษะดา้ นความ เขา้ ใจความต่างวัฒนธรรม ต่าง กระบวนทัศน)์ 4. Collaboration, Teamwork and Leadership (ทกั ษะด้าน ความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ) 5. Communications, Information, and Media
3 กจิ กรรมทีด่ ำเนนิ การส่งผลให้ จำนวนนกั เรยี นที่ไดร้ บั การพัฒนา (คน) สรุป เอกสาร/ นักเรียนกลุม่ เปา้ หมาย นกั เรยี นที่ ทง้ั หมด ไดร้ บั ไม่ได้รับ หลักฐาน/ เกดิ ทักษะการเรียนรใู้ นศตวรรษท่ี การพัฒนา การพัฒนา ไดร้ ับการ ร่องรอย 21 ดงั นี้ พัฒนา (ร้อยละ) Literacy (ทกั ษะดา้ น การสือ่ สาร สารสนเทศ และรูเ้ ท่าทันส่อื ) 6. Computing and ICT 83 83 0 100 Literacy (ทักษะดา้ นคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการ สือ่ สาร) 7. Career and Learning Skills 83 83 0 100 (ทักษะอาชพี และทกั ษะการ เรยี นร)ู้ 8. Compassion (ความมเี มตตา 83 83 0 100 กรณุ า มวี ินัย คณุ ธรรม และ จริยธรรม) หมายเหตุ การเกิดทกั ษะการเรยี นรใู้ นศตวรรษท่ี 21 (3Rs8Cs) ขึ้นอยู่กบั การออกแบบกจิ กรรมการเรยี นรูว้ ่า กิจกรรมการเรียนรู้นน้ั ส่งผลใหน้ กั เรยี นเกิดทักษะการเรยี นร้ใู นศตวรรษที่ 21 ในเร่อื งใดบา้ ง ดงั น้ัน นกั เรียน กลุ่มเปา้ หมายอาจมีทักษะการเรียนรูใ้ นศตวรรษท่ี 21 (3Rs8Cs) ไมค่ รบทัง้ หมดภายในระยะเวลาการจดั กจิ กรรมของโครงการ (โครงการสิน้ สดุ 30 ก.ย. 2565)
4 แบบรายงานผลการดำเนินงานโครงการส่งเสริมผ้เู รียนให้มคี ณุ ลักษณะและทักษะการเรียนรู้ ในศตวรรษที่ 21 (สำหรับโรงเรียน) แบบฟอรม์ ที่ รร.2 การถอดบทเรยี น (Lesson learned) โรงเรยี น วัดเขานางเภา สำนกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษาสุราษฎร์ธานี เขต 1 ชือ่ ผู้รายงาน นางสาวภัทราวลัย ลิ้นโป ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดเขานางเภา หมายเลขโทรศพั ทท์ ่ตี ิดตอ่ ได้ 063-5194532 E-mail [email protected] 1. วัตถปุ ระสงค์ของโครงการ 1.เพอื่ ส่งเสริมผู้เรียนโรงเรียนวัดเขานางเภาให้มีคุณลกั ษณะและทกั ษะการเรยี นรู้ในศตวรรษที่ 21 2.เพื่อพฒั นาสมรรถนะของครใู นการจัดการเรียนรสู้ ำหรบั ผู้เรียนใหเ้ กดิ คุณลกั ษณะและทกั ษะการ เรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 2. เป้าหมายในการดำเนนิ งานโครงการ 2.1 เชิงปริมาณ 2.1.1 นักเรียน รอ้ ยละ 84.33 มีคุณลกั ษณะและทกั ษะการเรยี นร้ใู นศตวรรษที่ 21 2.1.2 ครู ร้อยละ 87.50 สามารถจดั การเรียนรทู้ สี่ ่งเสรมิ ผูเ้ รียนใหม้ คี ณุ ลกั ษณะและทกั ษะการเรียนรใู้ น ศตวรรษท่ี 21 2.2 เชงิ คุณภาพ 2.2.1 นักเรยี นมีคณุ ลักษณะและทักษะการเรยี นร้ใู นศตวรรษที่ 21 อยูใ่ นระดับดขี ้นึ ไป กจิ กรรมท่ี 1 มกี ารดำเนนิ งานจดั การเรยี นการสอนโดยใชเ้ ทคนิค/วิธีการจดั การเรียนรู้ ส่อื นวตั กรรม เพอ่ื พัฒนา ผู้เรยี นให้มที ักษะการเรียนรใู้ นศตวรรษท่ี 21 ตามบริบทของพ้ืนทแี่ ละผ้เู รียน โครงการ/กิจกรรมการจัดการเรยี นร้ทู ด่ี ำเนนิ งาน 1. “การพฒั นากระบวนการเรียนรเู้ พือ่ การจัดการขยะนักเรียนของโรงเรียนวดั เขานางเภา” 1.1 ทักษะการเรยี นรู้ในศตวรรษท่ี 21 (3Rs8Cs) ท่นี ักเรยี นไดร้ ับการพัฒนา 1) Critical Thinking and Problem Solving (ทกั ษะดา้ นการคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณ และทกั ษะในการ แกป้ ัญหา) 2) Collaboration, Teamwork and Leadership (ทกั ษะดา้ นความร่วมมอื การทำงานเป็นทีม และ ภาวะผนู้ ำ) 3) Communications, Information, and Media Literacy (ทักษะดา้ น การสื่อสารสารสนเทศ และ รู้เทา่ ทนั ส่อื )
5 1.2 แนวทางการดำเนนิ งาน โรงเรียนวัดเขานางเภา ได้เล็งเห็นถึงปัญหาของขยะที่เกิดขึ้นทั้งในโรงเรียนและชุมชน ส่งผลให้เกิด ปัญหาของสงิ่ แวดลอ้ ม สง่ ผลให้โรงเรยี นต้องดำเนนิ การสร้างความรู้ ความเข้าใจ ความตระหนักให้กับนักเรียน ในปัญหาขยะมูลฝอยที่เกิดขึ้นในโรงเรียนและชุมชน ตลอดจนสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับนักเรียนในการ จัดการขยะตามความสามารถของผู้เรียน โดยโรงเรียนมแี นวทางการดำเนินการจัดการเรียนรู้การจัดการขยะ ให้กับนักเรียน เพื่อให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง เป็นระบบ และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ใน ชวี ติ ประจำวัน โดยมีขั้นตอนในการพฒั นากระบวนการเรียนรู้ ดังน้ี ขัน้ ที่ 1 : กระตุ้นความรู้ ประเมนิ ความรนู้ กั เรียนเกย่ี วกับการคดั แยกขยะของตนเอง ผา่ นกระบวนการท่คี รจู ดั เตรยี ม ใหค้ ือ การ ทำใบงานทดสอบเพื่อประเมินความรู้พื้นฐานเดิมของนักเรียนเรื่องการคัดแยกขยะ เพื่อนำไปวางแผนการ ดำเนนิ การตอ่ ไป ข้นั ท่ี 2 : การสร้างองค์ความรใู้ หม่ ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 ส่งผลให้โรงเรียนต้องจัดการเรียน การสอนใน 5 รูปแบบ คือ On-site, On-line, On-demand, On-air และ On-hand ซึ่งในภาคเรียนที่ 1 ปี การศกึ ษา 2564 โรงเรียนวัดเขานางเภา ไดจ้ ดั การเรยี นการสอนใน 3 รูปแบบ คอื On-line, On-demandและ On-hand เป็นหลัก และเปิดการเรียนแบบ On-site เพิ่มอีก 1 รูปแบบในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 และด้วยสถานการณด์ ังกล่าว ผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้ปรับกระบวนการพัฒนากระบวนการ เรียนรู้เพื่อการจัดการขยะให้กับนักเรียนให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยโรงเรียนมี วธิ ีการดำเนนิ การ ดังนี้ 1) จัดการอบรมการกำจัดขยะและปลอดขยะในสถานศึกษาให้กับนักเรียนในรปู แบบ On-line ให้กับนักเรียนในทุกระดับชั้น เพื่อสร้างองค์ความรู้ ความเข้าใจให้กับนักเรียนในช่วงที่นักเรียนไมส่ ามารถมา เรียนทโ่ี รงเรียนได้ โดยนกั เรียนจะมเี อกสารประกอบการอบรม 2) นักเรียนนำความรู้ที่ได้จากการอบรวมไปประยุกต์ใช้ในครัวเรือน โดยศึกษาจากเอกสาร ความรแู้ ลพนำความรู้สู่การปฏิบตั ใิ นครัวเรือนของนักเรียน เพือ่ เพิ่มความรคู้ วามเข้าใจของนักเรยี น
6 ขั้นท่ี 3 : การนำความรสู้ กู่ ารปฏิบัติ เม่อื นกั เรยี นไดร้ บั ความรู้ ความเขา้ ใจในการจัดการขยะ การคดั แยกขยะโดยผ่านการอบรม นักเรียนนำ ความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในครัวเรือนในช่วงที่นักเรียนเรียนรู้ด้วยรูปแบบ On-hand และการประยุกต์ใช้ใน สถานศึกษาช่วงการเรียนในรูปแบบ On-site ที่โรงเรียน ซึ่งโรงเรียนจะมีแหล่งเรียนรู้ในโรงเรียน การ ประชาสัมพันธ์ ส่งเสริมให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจในกระบวนการจัดการขยะ การคัดแยกอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการจัดการขยะทงั้ 4 รปู แบบได้เปน็ อยา่ งดี ข้นั ที่ 4 : การสร้างสรรคผ์ ลงาน เมอื่ นักเรียนไดเ้ รยี นรู้ มีความรู้ ความเข้าใจในการจัดการขยะในสถานศึกษาและในครัวเรือน มาอย่าง ต่อเนื่อง ตลอดจนการนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำแล้ว นักเรียนสามารถประยุกต์ความรู้ ต่อยอดความรู้ เกี่ยวกับการจัดการขยะ มาสร้างสรรค์ผลงานของตนเองที่ประดิษฐ์ขึ้นจากการนำขยะมาใช้ เช่น การประดิษฐ์ ของใช้จากวสั ดเุ หลอื ใช้ หรอื การนำวัสดทุ ใ่ี ชแ้ ล้วมาใช้ใหมใ่ นรูปแบบใหม่ เปน็ ตน้ เพือ่ ให้นกั เรียนไดน้ กั เรียนเกิด การสร้างองค์ความรู้ พฒั นา ปรับปรงุ และต่อยอดความรู้สกู่ ารสร้างผลงานเปน็ ของตนเอง ส่งผลให้นักเรียนได้ เกดิ ทกั ษะการคดิ อย่างเปน็ ระบบ เกิดความคิดสร้างสรรค์ มคี วามรับผดิ ชอบ และเป็นมติ รกับสงิ่ แวดล้อม ขนั้ ที่ 5 : การนำผลงาน เมื่อนักเรียนได้สร้างสรรค์ผลงานที่เกิดจากการนำขยะในแต่ละประเภทมาสร้างสรรค์เป็นผลงานแลว้ นักเรียนสามารถนำเสนอผลงานทีส่ ร้างขึน้ ได้ ซึ่งผลงานทีเ่ กิดขึน้ อาจจะเป็นรูปแบบสิ่งของท่ีประดิษฐ์จากการ แปรรูปขยะ หรือการนำขยะมาประยุกต์ใช้เป็นฐานในการปลูกพืช เช่น การปลูกถั่วงอกจากขวดพลาสติก ตะกรา้ พลาสตกิ การประดิษฐ์กระเป๋าจากกล่องนม เป็นต้น ซ่ึงนกั เรยี นสามารถนำผลงานทสี่ ร้างข้นึ หรือเกิดข้ึน ไปจำหนา่ ยออกสูช่ มุ ชนได้ 1.3 ผลการดำเนนิ งาน ▪เชิงปรมิ าณ นักเรยี นโรงเรียนวัดเขานางเภา รอ้ ยละ 90 รูจ้ กั ประเภทของขยะ สามารถบรหิ ารจัดการขยะ แยก ขยะแต่ละประเภทได้อย่างถูกต้อง และสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ เมื่อการวัดผล ความรู้ ความเข้าใจของผเู้ รียน พบว่านักเรียนมคี วามร้คู วามเขา้ ใจของผเู้ รียนเก่ียวกับการคัดแยกขยะท่ีสูงขึ้น ▪เชิงคุณภาพ 1. ครู นักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครองและชุมชน มีความพึงพอใจในการพัฒนา กระบวนการเรยี นรูเ้ พื่อการจดั การขยะ อยู่ในระดบั ดีมาก
7 2. การพฒั นาทักษะการอา่ น การเขียนเพอ่ื ยกระดับผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี น โดยใช้บนั ได 8 ขนั้ 2.1 ทักษะการเรยี นรใู้ นศตวรรษที่ 21 (3Rs8Cs) ท่นี กั เรยี นไดร้ ับการพัฒนา 1) Reading (อ่านออก) 2) WRiting (เขียนได)้ 3) Critical Thinking and Problem Solving (ทกั ษะ ดา้ นการคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณ และทักษะในการแกป้ ัญหา) 2.2 แนวทางการดำเนินงาน อา่ นเรอื่ ง วิเคราะห์/ เขยี นเร่ือง สั้น สรุปใจความ ตาม สาคัญ จินตนาการ คดั สะกดคา/ แต่ง เขียนได้ ลายมือ จาแนกคา ประโยค อา่ นได้ 1. ทดสอบความรเู้ ดิม -ประเมินทักษะการอา่ นการเขียนของนกั เรยี นเปน็ รายบุคคล อ่านคำพน้ื ฐานทีค่ รูกำหนด เขยี นคำบอกจากคำพน้ื ฐานนัน้ ๆ อ่านนิทาน / ข้อความส้ัน ๆ บันทกึ ผลการอ่าน / การเขยี นของนักเรียนเป็นรายบคุ คล ประเมินผล 2. แบ่งกลุ่มนักเรียน ตามผลการประเมิน เพื่อเป็นแนวทางแก้ไข และพัฒนาการอ่านและการเขียนด้วย วธิ กี ารและนวตั กรรมท่ีเหมาะสมกบั นักเรียนในแต่ละกลมุ่ กลมุ่ ที่ 1 นกั เรยี นอา่ นคล่อง / เขยี นคลอ่ ง กลุ่มที่ 2 นกั เรยี นอา่ นไม่คลอ่ ง / เขยี นไมค่ ล่อง กลุม่ ท่ี 3 นกั เรียนอา่ นไมอ่ อก / เขียนไมไ่ ด้ 3. กำหนดกิจกรรมการพัฒนารายกลุ่ม เปน็ การกำหนดวิธีการและนวตั กรรมทเ่ี หมาะสมกับนกั เรยี น แต่ละกลุม่ เพื่อฝกึ ทักษะการอา่ นและการเขียนของนักเรยี นให้เหมาะสม กลมุ่ ที่ 1 นักเรียนอ่านคล่อง / เขียนคลอ่ ง - อา่ นคำศัพท์พนื้ ฐานระดับชั้นประถมสึกษาปที ี่ ๔ - เขียนตามคำบอกท้งั แบบเป็นคำและเป็นประโยค - คดั ลายมอื จากนทิ าน / บทความ / หนังสอื - แต่งประโยคสั้นๆ - เขยี นเรอ่ื งตามจินตนาการ - อ่านนิทาน / บทความ / หนังสือ สรุปบันทกึ ผลจากการอ่าน กล่มุ ท่ี 2 นกั เรียนอ่านไม่คลอ่ ง / เขยี นไม่คล่อง - อา่ นคำศัพท์พน้ื ฐานระดบั ชนั้ ประถมสกึ ษาปีท่ี 4
8 - เขียนตามคำบอกทง้ั แบบเปน็ คำและเปน็ ประโยค - คดั ลายมือ จากนิทาน / บทความ / หนงั สือ - แจกลูกสะกดคำศพั ท์พื้นฐานระดบั ชน้ั ประถมสึกษาปีที่ 4 - แต่งประโยคสนั้ ๆ - เขียนเร่ืองตามจนิ ตนาการ - อ่านนทิ าน / บทความ / หนังสือ กบั เพอ่ื นหรอื ครู บอกขอ้ คดิ ที่ได้ สรปุ บนั ทกึ ผลจากการอา่ น กล่มุ ที่ 3 นกั เรียนอ่านไมอ่ อก / เขียนไม่ได้ - อา่ นคำศพั ท์พ้ืนฐานระดบั ชั้นประถมสึกษาปีที่ 4 - แจกลูกสะกดคำ - เขียนตามคำบอกท้ังแบบเปน็ คำ - คัดลายมอื จากนิทาน / บทความ / หนังสือ - เขียนเรอ่ื งตามจนิ ตนาการ - อา่ นนิทาน / บทความ / หนงั สือ กบั เพอ่ื นหรอื ครู บอกข้อคดิ ทไ่ี ด้ สรุปบนั ทกึ ผลจากการอา่ น 4. ดำเนนิ การพฒั นาการอา่ น การเขียน ตามกิจกรรมตามท่ีกำหนดตลอดปีการศึกษาผลสำเร็จ 5. ประเมินผลการอ่านการเขยี นของนักเรียน เพื่อดูพัฒนาการ การอา่ นและการเขยี นของนักเรยี น - แบบสรปุ พฒั นาการของนักเรียน - แบบบันทึกการการอา่ น / การเขียนของนักเรียน - ผลสมั ฤทธ์ิ การเรยี นภาษาไทยและกล่มุ สาระ อ่ืน ๆ ของนกั เรยี น - ผลการประเมินคณุ ภาพการศึกษาขน้ั พนื้ ฐานระดับเขตพนื้ ที่ 6. รวบรวมสรุปผลข้อมูลเพื่อสรุปผลการดำเนนิ กิจกรรมประสบผลสำเรจ็ บรรลุเป้าหมายมากนอ้ ยเพยี งใ - นักเรียนมีพัฒนาการดา้ นการอา่ นการเขยี นดีขึน้ กวา่ เดมิ - ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี นของนักเรยี นพฒั นาขนึ้ - การประเมินคณุ ภาพการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน ระดบั เขตพ้ืนที่ สงู กวา่ เป้าหมายท่ีตงั้ ไว้ นำผลการประเมนิ มาปรบั ปรงุ แกไ้ ข โดยตรวจสอบกจิ กรรมทีค่ วรปรับปรุง และพฒั นาใหด้ ยี ่ิงขึน้ ไดแ้ ก่ ปรบั วิธกี ารทใ่ี หพ้ ่อแม่ชว่ ยเหลือการเรียนของลกู / จัดใหม้ ีกจิ กรรมพ่ีชว่ ยน้องในปีต่อไป ฯลฯ 2.3 ผลการดำเนินงาน เชงิ ปริมาณ จำนวนนักเรียนระดับชั้นแระถมศึกษาปีที่ 4 ร้อยละ 75.55 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน พฒั นาข้นึ เชิงคณุ ภาพ นกั เรียนชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 4 มีทักษะการอา่ นเขียนอยใู่ นระดับดี
9 3. การพฒั นาทกั ษะการอ่านสะกดคำภาษาอังกฤษ โดยใช้ Body Flipbook 3.1 ทักษะการเรยี นรูใ้ นศตวรรษที่ 21 (3Rs8Cs) ท่นี กั เรียนได้รบั การพัฒนา 1) Reading (อ่านออก) 2) WRiting (เขยี นได)้ 3) Critical Thinking and Problem Solving (ทักษะ ด้านการคดิ อย่างมวี ิจารณญาณ และทกั ษะในการแก้ปญั หา) 4) Cross-cultural Understanding (ทักษะดา้ น ความเขา้ ใจความต่างวัฒนธรรม ต่างกระบวนทัศน)์ 3.2 แนวทางการดำเนนิ งาน 1 Warm up ด้วยการรอ้ งเพลงประกอบทา่ ทาง เรอื่ ง My body 2 การทดสอบความรเู้ บ้ืองตน้ นักเรียน 3 การสอนอ่านสะกดคาศพั ท์พ้ืนฐาน เร่ือง My body โดยใช้ Body Flipbook 4 นกั เรียนฝึกอา่ นสะกดคาศัพท์พนื้ ฐานใหค้ ล่อง 5 นกั เรยี นทาแบบฝึกทกั ษะการอา่ นและการเขยี นสะกดคาศพั ทพ์ ้ืนฐาน Fun with body vocabularies 6 การทดสอบความรู้หลงั เรยี น 1. Warm up นักเรียนดว้ ยการร้องเพลงประกอบท่าทาง เรื่อง My body เพื่อเตรียมความพรอ้ ม ใหก้ ับนกั เรยี นสำหรับการจดั กระบวนการเรยี นรู้ 2. การทดสอบความรู้เบ้ืองต้นนกั เรียน เพ่ือประเมินความรู้พ้ืนฐานของนักเรียนท้ังห้องและนักเรียน เป็นรายบคุ คล 3. การสอนอา่ นสะกดคำศัพทพ์ ื้นฐาน เรือ่ ง My body โดยใช้ Body Flipbook โดยใช้สอื่ การสอน ที่สรา้ งข้นึ โดยจัดการเรียนการสอนในรปู แบบ On-site และรปู แบบ On-line 4. นักเรียนฝึกอ่านสะกดคำศัพท์พื้นฐานใหค้ ล่อง โดยให้นักเรยี นฝึกฝนการอ่านอย่างต่อเนื่อง และ ทดสอบนักเรียนดว้ ยปากเปล่า เพอ่ื วดั ความรู้ ความเขา้ ใจและทักษะของนกั เรียนระกว่าง
10 5. นักเรียนทำแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนสะกดคำศัพท์พื้นฐาน Fun with body vocabularies และแบบฝึกทักษะภาษาอังกฤษ โดยใช้ Liveworksheets สำหรับการเรียนในรูปแบบ On-line 6. การทดสอบความรู้หลังเรียน เพื่อเป็นการวัดความรู้นักเรียนหลังจากเรียน โดยใช้ Body Flipbook 3.3 ผลการดำเนินงาน เชงิ ปรมิ าณ นักเรียนชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 2 รอ้ ยละ 80 สามารถพฒั นาทักษะการอ่านสะกดคำภาษาอังกฤษได้ มากขนึ้ เชงิ คณุ ภาพ นักเรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 โรงเรียนวดั เขานางเภา ปกี ารศกึ ษา 2564 มคี วามพงึ พอใจตอ่ การ ใชน้ วัตกรรม Body Flipbook เพิม่ ผลสมั ฤทธิ์ในการการอ่านและการเขียนสะกดคำพื้นฐานในระดับดีเยยี่ ม 4. รูปแบบการฝกึ สมรรถนะความคล่องตัว 3 step (Agility - 3step) สำหรบั นกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 4.1 ทกั ษะการเรียนรใู้ นศตวรรษที่ 21 (3Rs8Cs) ท่ีนกั เรียนได้รบั การพฒั นา 1) Collaboration, Teamwork and Leadership (ทักษะดา้ นความรว่ มมือ การทำงานเปน็ ทมี และ ภาวะผู้นำ) 2) Critical Thinking and Problem Solving (ทกั ษะดา้ นการคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ และทกั ษะใน การแกป้ ญั หา) 4.2 แนวทางการดำเนนิ งาน มรี ปู แบบการฝกึ สมรรถนะความคล่องตวั 3 step ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปที ่ี 4 ใน ระยะเวลา 8 สปั ดาห์ ดงั นี้
11 1. ดำเนนิ การสอนตามขน้ั ตอนและรปู แบบการฝกึ ดังน้ี สัปดาหท์ ่ี รูปแบบการฝกึ สัปดาห์ที่ 1 – 8 1. อบอุ่นรา่ งกายและยืดเหยียดกลา้ มเนอ้ื 2. ฝกึ ข้ันที่ 1 (step 1) หว่ งสปีดริง (speed ring) จำนวน 3 รอบ 3. ขั้นท่ี 2 (step 2) หว่ งวง่ิ ซกิ แซก (Running zigzag) จำนวน 3 รอบ 4. ขั้นที่ 3 (step 3) แบบผสมผสาน (Mixed) จำนวน 3 รอบ 5. เรียนวิชาพลศึกษา (บาสเกตบอล) ตามโปรแกรมปกติ 6. คลายกลา้ มเน้ือใหร้ า่ งกายอยู่ในสภาพปกติ 2. จากนั้นเปรียบเทียบผลสมรรถนะความคลอ่ งตวั ก่อนและหลงั การใช้รูปแบบการฝกึ สมรรถนะความ คล่องตวั 3 step ของนกั เรียนระดับประถมศึกษาปที ่ี 4 4.3 ผลการดำเนินงาน เชงิ ปริมาณ นกั เรยี นชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 ร้อยละ 80 มสี มรรถนะจากการฝึกความคลอ่ งตัวครบท้งั 3 step เชิงคณุ ภาพ 1. นักเรยี นชั้นประถมศึกษาปีท่ี 4 มสี มรรถภาพทางกายดา้ นความคล่องตวั อยู่ในระดบั ดีมากข้นึ 2. นักเรียนมคี วามพงึ พอใจในการใช้รูปแบบการฝกึ สมรรถนะความคล่องตัว 3 step อยู่ในระดบั มาก 5. การพัฒนาทักษะคณิตศาสตร์เรื่องการบวก ลบ คูณ หาร โดยใช้กิจกรรมเกมส์ 24 สำหรับนักเรียนชั้น ประถมศกึ ษาปีที่ 4-6 5.1 ทกั ษะการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 (3Rs8Cs) ทน่ี กั เรียนไดร้ ับการพฒั นา 1) Arithemetics (คิดเลขเป็น) 2) Critical Thinking and Problem Solving (ทกั ษะด้านการคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณ และทักษะในการ แกป้ ญั หา) 3) Career and Learning Skills (ทักษะอาชพี และทักษะการเรียนรู้) 5.2 แนวทางการดำเนินงาน การพัฒนาทกั ษะคณิตศาสตร์เร่ืองการบวก ลบ คณู หาร โดยใช้กิจกรรมเกมส์ 24 สำหรับนักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีท่ี 4-6 ครูผสู้ อนมแี นวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะการคิดให้กับนักเรียนกิจกรรมในช่วงลด เวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ และเป็นจัดกิจกรรมก่อนเขา้ สู่บทเรียน อย่างต่อเนื่อง โดยจัดกิจกรรมการแข่งขันให้กับ นกั เรียนที่เรียน และท่สี นใจในชว่ งกจิ กรรมยามว่าง โดยมกี ารจัดกิจกรรม ดังน้ี
12 แบง่ กลุ่ม ตัวแทนที่ ชิงชนะเลศิ นกั เรียน ผ่าน โดยให้ เข้ารอบ นักเรียน จับคู่ 1. แบ่งกลุ่มนักเรยี น โดยใหน้ กั เรียนจับคู่เข้าร่วมการแขง่ ขนั ตามจำนวนนกั เรยี นที่สนใจเล่น จากน้ัน จัดกจิ กรรมเกมส์ 24 ใหน้ กั เรียน โดยใช้ข้อคำถาม 10 ขอ้ เพ่ือหานักเรยี นคทู่ ีม่ คี ะแนนสูงสุด 4 คู่ 2. ตัวแทนท่ผี า่ นเข้ารอบ จำนวน 4 คู่ แข่งขันด้วยกิจกรรมเกมส์ 24 เพ่อื คัดเลอื กค่ทู ี่ได้คะแนนสูงสุด 2 คู่ เพื่อเข้าแขง่ ขันในการชงิ ชนะเลศิ 3. ชิงชนะเลิศ เพื่อหาค่ทู ไ่ี ด้คะแนนสงู สดุ 4. กิจกรรมเกมส์ 24 สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมของจำนวนและบริบทของนักเรียน โดยอาจแข่งขนั เปน็ รายบคุ คล เปน็ คู่ หรือเป็นกลุม่ กไ็ ด้ 5.3 ผลการดำเนินงาน เชิงปรมิ าณ นกั เรยี นช้นั ประศึกษาปที ี่ 4-6 จำนวน 23 คน ปีการศกึ ษา 2564 โรงเรยี นวัดเขานางเภา มีผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียน เพม่ิ ขนึ้ ร้อยละ 70 เชิงคณุ ภาพ 1. นกั เรยี นชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 4-6 มเี จตคติทีด่ ีต่อวิชาคณิตศาสตร์ 2. นกั เรียนชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 4-6 มีทักษะการคดิ คำนวณท่ีดีขึน้ 3. นกั เรยี นชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 4-6 มีผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นวชิ าคณติ ศาสตร์สูงขนึ้ 6. การพัฒนาการอ่านคล่องเขียนถูก ผูกด้วยกิจกรรมการฝึกฝนโดยใช้ กระบวนการเรียนรู้ Active Learning 5 ข้ันตอน 6.1 ทกั ษะการเรยี นรู้ในศตวรรษท่ี 21 (3Rs8Cs) ท่ีนกั เรยี นไดร้ บั การพัฒนา 1) Reading (อา่ นออก) 2) WRiting (เขยี นได)้ 3) Collaboration, Teamwork and Leadership (ทักษะด้านความรว่ มมือ การทำงานเป็นทมี และ ภาวะผู้นำ) 4) Career and Learning Skills (ทกั ษะอาชพี และทักษะการเรียนร)ู้
13 6.2 แนวทางการดำเนินงาน อ่าน ทวน ซ้า ย้า 1. ใหน้ กั เรียนฝกึ อา่ นพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ มาตราตวั สะกดภาษาไทยให้คล่อง เพือ่ ให้นักเรียนจำ สระ พยัญชนะ วรรณยุกต์ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง 2. ฝึกเขยี นตามคำบอก วนั ละ5 คำ และฝึกใหน้ ักเรียนอ่านออกเสียง เพือ่ ส่งเสรมิ ให้นักเรียนรู้จักการ ประสมคำ และอ่านคำไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 3. จัดกิจกรรมประกอบการเรียนอย่างหลากหลาย ด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการActive learning ได้แก่ เกมส์ ปริศนาคำทาย เพลง บัตรคำ เป็นตน้ เพ่ือกระตุ้นการเรียนรใู้ หก้ ับนักเรียน เกิดความ สนกุ สนาน และพรอ้ มท่ีจะเรียนในบาทเรียนต่อไป 4. ให้นักเรียนอา่ นเร่อื งในบทเรียนและเรื่องตา่ งๆ เพอื่ ฝกึ ทักษะการอ่านให้กับนกั เรยี น 5. วเิ คราะสรปุ และอภปิ รายเนือ้ เรอื่ งในบทเรียนร่วมกนั ระหว่างครกู บั นักเรียน 6. จัดกิจกรรมอยา่ งตอ่ เนอื่ งในทุกวนั โดยเนน้ ยำ้ ผ่านกระบวนการ อ่าน ซำ้ ยำ้ ทวน 6.3 ผลการดำเนินงาน เชิงปรมิ าณ นักเรียนช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 1 มผี ลการอ่านการเขียนปกี ารศกึ ษา 2564 อยใู่ นร้อยละ 77 เชงิ คุณภาพ นกั เรยี นช้ันประถมศึกษาปีท่ี 1 มีทักษะการอ่านการเขียนอยู่ในระดับดี
14 7. การพัฒนาทักษะการพูดของเดก็ ปฐมวยั โดยใชห้ นังสือนิทาน และการแสดงบทบาทสมมติ 7.1 ทักษะการเรยี นรใู้ นศตวรรษที่ 21 (3Rs8Cs) ท่ีนกั เรยี นไดร้ ับการพัฒนา 1) Creativity and Innovation (ทักษะด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม) 2) Compassion (ความมีเมตตากรณุ า มีวนิ ัย คุณธรรม และจรยิ ธรรม) 7.2 แนวทางการดำเนินงาน ในการจัดกิจกรรม “การพัฒนาทักษะการพูดของเด็กปฐมวัยโดยใช้หนังสือนิทาน และการแสดง บทบาทสมมติ” นน้ั มรี ปู แบบทีใ่ ชใ้ นการจดั กจิ กรรม ดังน้ี สรปุ กิจกรรม กิจกรรม เคลอ่ื นไหว และจังหวะ กิจกรรมเพลง กจิ กรรมเสรมิ สอดแทรก ประสบการณ์ ระหวา่ ง กิจกรรม แสดง นักเรยี น อา่ นนทิ าน บทบาท สรา้ งสรรค์ ให้นักเรยี น สมมติ ผลงานจาก นทิ านท่ี ฟัง นกั เรยี นฟงั 1. กิจกรรมเคลือ่ นไหวและจงั หวะ เป็นการเตรียมความพรอ้ มสำหรับการเรยี นในแต่ละวนั 2. กิจกรรมเสริมประสบการณ์ เพื่อเป็นการทบทวนความรู้ที่ไดเ้ รียนมา สอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ใหก้ ับนักเรียน 3. อ่านนิทานใหน้ ักเรียนฟัง เป็นกิจกรรมที่ฝึกให้นักเรียนมีสมาธิในเรื่องที่สนใจ โดยมีครูเป็นผู้กระตุ้น ความอยากรู้ใหก้ ับนักเรยี น ซงึ่ นิทานเป็นสอื่ ทีเ่ หมาะสมกับนกั เรียนปฐมวัย ฝึกการฟงั เรื่องราวต่างๆ ตลอดจน การสอดแทรกข้อคิดระหวา่ งเลา่ เร่อื ง ซึง่ ในกรณีที่นกั เรยี นไมส่ ามารถมาเรยี นทโ่ี รงเรยี นได้ ครจู ะจัดทำสื่อ/คลิป วดิ โี อการสอนส่งในไลนก์ ลมุ่ เพอ่ื ให้นกั เรยี นได้เรียนรู้ตามสถานการณ์ 4. นักเรียนสร้างสรรค์ผลงานจากนิทานท่ีนักเรียนฟัง หลังจากที่นักเรียนได้ฟังเรื่องราวของนทิ านแลว้ ให้นักเรียนสร้างผลงานจากนทิ านตามจินตนาการของนักเรียน ฝกึ ทักษะความคิดสร้างสรรคใ์ นตวั นกั เรยี น 5. แสดงบทบาทสมมติ เม่อื นกั เรียนไดส้ รา้ งสรรค์ผลงานแล้ว นกั เรียนจะต้องแสดงบทบาทสมมติ เพ่อื ฝึก การเลา่ เรอ่ื ง ความกล้าแสดงออกของนกั เรียน 6. กิจกรรมเพลงสอดแทรกระหว่างกิจกรรม เพื่อกระตุ้นการเรียนรู้ของนักเรียน เป็นการสร้างความ สนใจในการเรยี นของนกั เรียน 7. สรปุ กิจกรรม ซ่งึ ครูกับนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปข้อคดิ ทไ่ี ดจ้ ากการเรียนรูใ้ นแตล่ ะวัน
15 7.3 ผลการดำเนินงาน เชงิ ปริมาณ นักเรียนปฐมวยั ร้อยละ 80 มคี วามกลา้ พดู กล้าแสดงออก เชงิ คุณภาพ นักเรียนมีพฒั นาการ 4 ด้าน ไดแ้ ก่ ดา้ นรา่ งกาย ด้านอารมณแ์ ละจติ ใจ ด้านสังคม ด้านสติปัญญา อยู่ ในระดบั ดี 8. กจิ กรรมศิลปะสร้างสรรค์โดยใช้สอื่ ที่หลากหลายเพื่อพัฒนาความมีวนิ ยั ในตนเองของนักเรียนปฐมวัย 8.1 ทักษะการเรียนรใู้ นศตวรรษที่ 21 (3Rs8Cs) ท่ีนักเรยี นได้รับการพฒั นา 1) Creativity and Innovation (ทักษะด้านการสรา้ งสรรค์ และนวัตกรรม) 2) Compassion (ความมีเมตตากรุณา มีวนิ ัย คุณธรรม และจริยธรรม) 8.2 แนวทางการดำเนนิ งาน รูปแบบการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์โดยใช้สื่อที่หลากหลายเพื่อพัฒนาความมวี ินัยในตนเองของ นักเรียนปฐมวยั มขี น้ั ตอนในการจดั กระบวนการเรียนรูใ้ หก้ ับนักเรียน ดังนี้ กิจกรรม กิจกรรมเสริม กิจกรรม สงั เกต ประเมิน เคลอ่ื นไหว ประสบการณ์ ศลิ ปะ ปรบั เปล่ยี น พฤตกิ รรม 1และจังหวะ สรา้ งสรรค์ สง่ เสริม ความมีวนิ ยั ใน 2 โดยใช้สอื่ ท่ี พฤติกรรม ตนเองของ หลากหลาย นักเรยี น นกั เรียน 3 4 5 1. กิจกรรมเคล่อื นไหวและจังหวะ ซ่งึ เป็นกิจกรรมการเตรียมความพร้อมใหก้ ับนกั เรียนระดับปฐมวัย โดยใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศควบคู่ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน เช่น การเปิดคลิปวิดีโอ การออก กำลงั กายประกอบท่าทาง เปน็ ตน้ 2. กิจกรรมเสริมประสบการณ์ โดยครจู ดั กิจกรรมเสริมทกั ษะ เสริมประสบการณ์ ให้กบั นกั เรยี น เพือ่ เปน็ การทบทวนความรดู้ ว้ ยกิจกรรมทีห่ ลากหลาย 3. กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์โดยใช้สื่อที่หลากหลาย จัดกิจกรรมให้กับนักเรยี นด้วยศิลปะด้วยสื่อที่ หลากหลายโดยมกี ารสอดแทรกคณุ ลกั ษณะการวนิ ัยในตนเองใหก้ ับนักเรยี นอยา่ งตอ่ เน่ือง 4. สังเกต ปรับเปลี่ยน ส่งเสริม พฤติกรรมนักเรียน โดยครูมีการสังเกตพฤติกรรมความวินัยของ นักเรียนอย่างต่อเน่ือง มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของนักเรียนเมื่อนักเรียนขาดการมวี ินัยในตนเอง ส่งเสริม พฤตกิ รรมของนักเรยี นกรณีที่นักเรยี นมพี ฤตกิ รรมดอี ยแู่ ล้วพร้อมกบั มีการยกย่อง ชืน่ ชมนกั เรยี นเป็นระยะๆ 5. ประเมินพฤติกรรมความมีวินัยในตนเองของนักเรียน โดยมีการประเมินพฤติกรรมของนักเรียน อยา่ งต่อเนือ่ ง โดยใหส้ อดคล้องกับการพฒั นานกั เรียนทั้ง 4 ดา้ น คือ ร่างกาย อารมณ์ สงั คมและสตปิ ัญญา
16 8.3 ผลการดำเนินงาน เชิงปรมิ าณ 1. นักเรยี นปฐมวยั มีวินัยในตนเองรอ้ ยละ 80 เชงิ คณุ ภาพ 1. นกั เรียนสามารถทำงานรว่ มกับผู้อ่ืนได้เปน็ อย่างดี 2. นกั เรียนมีความคิดริเริ่มสรา้ งสรรค์ สามารถสร้างชิ้นงาน สร้างสรรค์งานศิลปะแสดงต่อสาธารณชนได้ ปญั หาอปุ สรรคในการดำเนนิ งาน เนอื่ งจากในภาคเรยี นที่ 2/2564 ยงั มีการแพร่ระบาดของโรคตดิ เชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019 สง่ ผลให้ นักเรียนมาเรียนได้ไม่เตม็ ท่ี การจดั กจิ กรรมจงึ เกิดการเรยี นรู้ที่ไมเ่ ต็มท่ี ขอ้ เสนอแนะ ควรมกี ารจัดกิจกรรมที่สง่ เสริมทักษะการเรยี นรู้สำหรบั ผู้เรยี นในศตวรรษที่ 21 อยา่ งต่อเนือ่ ง เพ่ือให้ การเรียนรสู้ ำหรับผเู้ รยี นนอย่างต่อเน่ือง กจิ กรรมท่ี 2 จดั การแลกเปลย่ี นเรยี นรูด้ ว้ ยวิธกี ารทเ่ี หมาะสมกับบริบทของพ้นื ท่ีและผเู้ รียน เชน่ การนำเสนอ ผลงานนกั เรียน ประกวด แขง่ ขัน จัดคา่ ย ฯลฯ เพ่ือพฒั นาทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 แนวทางการจัดกจิ กรรม โรงเรียนจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้สำหรับผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 อย่างตอ่ เนอ่ื ง โดยนำผลงานนักเรียน ผลการจัดกิจกรรมออกส่ภู ายนอก นำนกั เรยี นจัดนทิ รรศการกับโรงเรียน ในการเครือข่ายทัง้ โรงเรียนในระดับประถมศกึ ษาและโรงเรยี นมธั ยมศกึ ษา ส่งเสริมทกั ษะนักเรียน การนำเสนอ ผลงาน และความกล้าแสดงออกของนักเรียน ผลการดำเนนิ งาน ผลงานนกั เรียนได้รับการยอมรับและได้รบั การสนใจจากผู้เขา้ ชม นักเรยี นมคี วามกล้าแสดงออกมากขึ้น เกิดทักษะการเรียนรู้ ทักษะการสื่อสาร และการทำงานเป็นทีมร่วมกับผู้อื่นได้เป็นอย่างดี ตลอดจนมีมนุษย สมั พนั ธ์ระหว่างโรงเรยี น ปัญหาอุปสรรคในการดำเนนิ งาน ไมม่ ี ขอ้ เสนอแนะ เพอ่ื ฝกึ ทักษะให้กบั นักเรียนอยา่ ง ควรมเี วทีการนำเสนอผลงานสำหรับนักเรียนอย่างหลากหลาย ตอ่ เนอื่ ง
17 กจิ กรรมท่ี 3 นเิ ทศ กำกับตดิ ตาม ประเมินผล และรายงานผลการดำเนินงานของสถานศึกษา และสำนักงานเขต พืน้ ท่ีการศึกษา แนวทางการจดั กจิ กรรม 1. จดั กจิ กรรมการนเิ ทศ ติดตามการจัดกจิ กรรมเรียนรู้สำหรับผเู้ รียนในศตวรรษที่ 21 อย่างตอ่ เนอ่ื ง 2. ครผู ู้สอนนำเสนอผลการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ที่สง่ เสริมผู้เรียนใหม้ คี ณุ ลักษณะและทกั ษะใน ศตวรรษท่ี 21 3. สะทอ้ นผลการจัดการเรียนรู้ ปญั หา อปุ สรรคทเี่ กิดขนึ้ ในการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้รว่ มกันระหว่าง ครภู ายในโรงเรยี น 4. รายงานผลการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ผลการดำเนินงาน ครูสามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมผู้เรียนให้มีคุณลักษณะและทักษะในศตวรรษที่ 21 บรรลุ ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยมีการใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้ร่วมกับการจัดกิจกรรมการ เรียนการสอน ส่งผลให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ได้ง่าย สะดวกและรวดเร็วขึ้น ตลอดจนครูสามารถคิด กระบวนการจดั การเรยี นรู้ท่ีหลากหลายสำหรบั ผู้เรยี น ปญั หาอปุ สรรคในการดำเนนิ งาน ไม่มี ขอ้ เสนอแนะ ควรมีการส่งเสริมให้ครูจัดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนากระบวนการจัดการเรียนการสอนและ นกั เรียนเกดิ รู้อยา่ งเตม็ ศกั ยภาพ
18 ภาพประกอบ
19 การอบรมให้ความรเู้ กยี่ วกบั การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สาร
20 การจดั การเรยี นการสอนในรูปแบบ On-line ในช่วงสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของเชือ่ ไวรสั โคโรนา 2019
21 การจัดการเรยี นการสอนในรูปแบบ On-site
22 การนเิ ทศ ติดตามการจัดการเรยี นการสอน การรายงานผลการจัดการเรียนการสอนและความพึงพอใจ การนำเสนอผลงานออกสู่ภายนอกสถานศึกษาของนักเรยี น
23 การนาเสนอ Best Practice ของครู
24
Search
Read the Text Version
- 1 - 25
Pages: