บนั ทึกข้อความ ส่วนราชการ โรงเรียนบ้านทา่ อาจ ท่ี.............../........2564.......... วนั ที่......14...เดือน.....มิถนุ ายน.....พ.ศ..2564.. เรือ่ ง การวเิ คราะหห์ ลักสูตรวชิ าภาษาไทย ระดับชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 3 เรยี น ผอู้ านวยการโรงเรยี นบ้านทา่ อาจ ดว้ ยข้าพเจ้านางสาวมัลลิกา กาไหลท่ อง ตาแหน่ง ครู กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ได้รบั มอบหมายให้ปฏิบัติการสอนรายวชิ าภาษาไทยพน้ื ฐาน รหัสวิชา ท13101 ระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2564 บัดน้ี ขา้ พเจ้าไดว้ เิ คราะหห์ ลกั สูตรวชิ าภาษาไทย ระดับชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 3 เพือ่ นาไปวางแผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าภาษาไทยพ้ืนฐาน รหัสวิชา ท13101 ระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 3 ใหม้ ีประสทิ ธภิ าพ บรรลเุ ปา้ หมายการเรยี นร้ตู ่อไป ดงั รายละเอียดผลการวิเคราะห์หลักสูตรวิชาภาษาไทย กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ระดบั ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 3 ท่ีแนบมาพร้อม หนงั สือน้ี จึงเรียนมาเพือ่ โปรดทราบ ลงชอ่ื .................................................. นางสาวมัลลกิ า กาไหล่ทอง ตาแหน่ง ครู ความคิดเหน็ หวั หนา้ บรหิ ารงานวชิ าการ ความคดิ เห็นของรองผู้อานวยการสถานศกึ ษา ........................................................................................ ...................................................................................... ....................................................................................... ...................................................................................... ลงช่ือ ลงชื่อ ( นางสภุ าพร จอมประเสรฐิ ) ( นางสาววรากร ทองทวี ) ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ชานาญการพิเศษ รองผอู้ านวยการโรงเรียนบา้ นทา่ อาจ ความคดิ เหน็ ของผูอ้ านวยการสถานศึกษา .................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ลงช่อื ..................................................... ( นายกิชสณพนธ์ เฉลมิ วิสุตม์กุล ) ผูอ้ านวยการโรงเรยี นบ้านท่าอาจ
สาระที่ ๑ การอา่ น ตารางการวเิ คราะหห์ ลกั สตู ร มาตรฐาน ชอ่ื รายวชิ าภาษาไทย รหัสวิชา ท ๑๓ นางสาวมัลลกิ ตัวช้วี ัด สาระสาคัญ K มาตรฐาน ท ๑.๑ ป.๓/๑ อา่ นออกเสียงคา - การอานออกเสียง คือ การอ่านเปล่งเสียงตาม สามารถบอก หลกั การอ่านออกเสี ใช้กระบวนการอ่าน สร้าง ความรู้ ข้อความ เรือ่ งสนั้ ๆ และบทร้อยกรองงา่ ยๆตัวอกั ษร ถอ้ ยคาและ เครื่องหมายต่างๆ ท่ีเขียน และความคิด เพ่ือนา ไปใช้ในการ ได้ ถูกตอ้ ง คล่องแคล่ว ออกมาให้ถกู ตอ้ งชัดถอยชัดคำเพื่อให้เข้าใจและ ตัดสินใจแก้ ปัญหาในการดาเนิน สามารถสรุปตอบคำถามจาก ชีวติ และมี นิสยั รกั การอ่าน เรื่องที่อ่านได้ ป.๓/๒ อธบิ าย - ความหมายของคา คือส่ิงที่คาจะ อธิบายความหมาย ความหมายของคาและ ขอ้ ความทอ่ี ่าน บอกถงึ ว่าหมายถงึ อะไร ซ่ึงคาจะประกอบดว้ ย ของคาและข้อความ ท เสยี ง และ ความหมาย ซึ่งเราได้ศึกษาเรื่อง คำ และพยางค์ ไปแล้ว คำคือ เสียงที่เปล่ง ออกมา แล้วต้องมี ความหมายด้วย ดังน้ัน คำจะ ประกอบดว้ ย เสยี ง และความหมาย ซงึ่ ความหมายของคา จะมอี ยู่ ๒ แบบ คือ ความหมายของคา และ ความหมายเปรียบเทียบหรือ ความหมายแฝง (โดยนัย)
กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย P สาระการเรียนรู้แกนกลาง หมายเหตุ ๓๑๐๑ ระดบั ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๓ กา กาไหลท่ อง A มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ สามารถอานออก การอ่านออกเสียงและการบอก ความหมายของคำ คำ สยงได้ มุ่งม่ันในการ ทางาน และรัก เสียงได้ คล้องจอง ข้อความ และบทร้อยกรองง่ายๆ ที่ ความเป็นไทย ประกอบด้วยคาพื้นฐานเพิ่มจาก ป.๒ ไม่น้อยกว่า ๑,๒๐๐ คำ รวมทั้งคาที่ เรยี นรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรูอ้ นื่ ประกอบด้วย - คาที่มีตัวการันต์ - คำท่ีมี รร - คำที่มีพยัญชนะและสระไม่ออกเสียง - คาพ้อง - คำพเิ ศษอ่ืนๆ เช่น คำท่ีใช้ ฑ ฤ ฤๅ เขียนความหมาย ทอี่ ่านได้ ของคาและ ขอ้ ความท่ี อ่านได้
มาตรฐาน ตัวชว้ี ัด สาระสาคัญ K ป.๓/๓ ต้ังคาถามและ การตั้งคำถามและตอบคำถามเชิง สามารถบอก ตอบคาถามเชิงเหตุผล เกย่ี วกับเรื่องท่ีอ่าน เหตุผลจากเร่อื งทอี่ า่ นจะทาใหเ้ รา สรุปใจความของ หลักการต้ังคาถาม เรือ่ งได้ สามารถ วิเคราะห์ความน่าเชอื่ ถือจาก เชิง เหตุผลเก่ียวกับ ข้อเทจ็ จริงและข้อคิดเห็น รวมท้ัง ได้ขอ้ คิดท่ีนำไป เป็นประโยชน์จาก เรื่องทอี่ า่ น ป.๓/๔ ลาดับเหตุการณ์ - ลำดบั เหตกุ ารณ์ คือ ลำดับตาม สามารถบอก หลักการลาดับ เห และคาดคะเนเหตุการณ์ จากเร่ืองที่อ่าน วัน เดอื น ปี เวลาของเหตุการณ์ที่ เกิดขึ้นก่อน คาดคะเนเหตุการณ โดย ระบเุ หตุผลปร โดยระบุ เหตุผลประกอบ และหลัง - การคาดคะเนเหตกุ ารณ์ เปน็ การคาดเดา เหตกุ ารณ์ลว่ งหน้า ขณะทีไ่ ด้ฟัง ดู หรอื อ่าน เรอ่ื งราวต่างๆ และ มีเหตุผลสนับสนุนเพ่ือเป็น การฝกึ ทกั ษะการคิดอยา่ งมีระบบ ป.๓/๕ สรุปความรแู้ ละ การสรุปความรู้และข้อคิดจาก สามารถบอก ข้อคิดจากเรอ่ื งทีอ่ ่าน เพอ่ื นาไปใชใ้ น เร่อื งคือการหาขอ้ คิดหรือคติ สอนใจจากเร่อื งที่ หลกั การสรปุ ความ ชวี ติ ประจาวัน อา่ นว่าเรือ่ งน้ันๆ ให้ข้อคิดท่ีเป็นประโยชน์ เร่อื ง ท่อี ่านเพอ่ื นำไ อะไรบ้างแล้วจึงนาขอ้ คิดนั้นมา ประยกุ ต์ใช้ใน ชีวิตประจาวันได้ ชีวิตประจำวัน
K A P สาระการเรยี นรู้แกนกลาง หมาย และตอบคำถาม เหตุ บเรอ่ื งที่อ่านได้ ตั้งคาถามและ การอา่ นจับใจความจากส่ือต่างๆ เช่น ตอบคำถามเชิง เหตุผล - นทิ านหรือเรือ่ งเกีย่ วกับท้องถิ่น เกย่ี วกับเร่อื งท่ีอ่านได้ - เร่อื งเล่าสั้นๆ - บทเพลงและบทร้อยกรอง - บทเรียนในกลุ่มสาระการเรียนรูอ้ ่ืน - ข่าวและเหตุการณใ์ นชีวิตประจำวัน ในท้องถิ่นและ ชุมชน หตกุ ารณ์และ ลาดบั เหตุการณ์ ณ์ จากเรอ่ื งทอี่ ่าน และคาดคะเนเหตกุ ารณ์ ระกอบได้ จากเร่อื งที่อ่านโดย ระบุ เหตุผล ประกอบได้ มรู้และข้อคดิ จาก สรุปความรู้และ ไปใช้ ใน ข้อคิดจากเรอ่ื งที่ อ่านเพื่อ นาไปใช้ในชีวิตประจาวันได้
มาตรฐาน ตัวชว้ี ัด สาระสาคญั K ป.๓/๖ อา่ นหนังสอื ตาม หนังสือเปรียบเสมอื นคลังที่ สามารถบอก ความสนใจอย่าง สม่าเสมอและนาเสนอเรอื่ ง รวบรวมเร่ืองราวความรู้ความคิด วิทยาการทกุ หลักการเลอื ก อา่ น ท่ีอ่าน ดา้ นทุกอยา่ ง ซ่ึง มนุษยไ์ ดเ้ รียนรู้ ได้คิดอา่ น และ สนใจได้ เพยี รพยายามบันทึกไว้ด้วยลาย ลักษณอ์ ักษร หนังสือแพร่ไปถึงที่ ใด ความรู้ความคิดก็แพร่ไปถึง ที่ น่ัน หนังสอื จึงเป็นสิ่งมีค่าและมี ประโยชน์ท่ีจะ ประมาณมไิ ด้ในแง่ ทีเ่ ป็นบอ่ เกิดการเรยี นรู้ของมนุษย์ ป.๓/๗ อา่ นขอ้ เขยี นเชิง เป็นการอา่ นเพื่อค้นควา้ ข้อมูลความรู้ สามารถบอก อธบิ ายและปฏิบัติตาม คาส่งั หรือ หรือวธิ ีนาไปใช้ ซง่ึ ต้องอ่านอย่างละเอยี ดให้ได้ หลักการ อ่าน ข้อ ข้อแนะนา ความ ครบถ้วนจึงจะไดร้ ับสง่ิ ท่ีต้องการ และ และปฏิบัตติ าม คา นำไปใช้ประโยชนไ์ ดอ้ ย่าง ถูกตอ้ ง เชน่ คำแนะนำ ได้ การใช้ พจนานุกรม การใช้วัสดุ อุปกรณ์ ข้อแนะนำคำเตือนบนฉลากยาคู่มือและเอกสาร ของโรงเรียนข่าวสารทางราชการ ป.๓/๘ อธิบาย แผนภูมิ เป็นการใชร้ ูปภาพ หรือ สามารถบอก ความหมายของข้อมูลจากแผนภาพ แผนที่ รูปเรขาคณิตแทนจานวนส่ิงต่างๆ ท่เี ปน็ ขอ้ มูลทางสถิติ หลักการ อธบิ าย ข และแผนภูมิ ดังนั้นตอ้ ง รจู้ กั การอา่ นและเปรียบเทียบ เกย่ี วกับ แผนภาพ ข้อมูลจึงจะสามารถอธิบาย และแผนภูมิได้ ความหมายของขอ้ มูลได้
K AP สาระการเรียนรู้แกนกลาง หมาย เหตุ การอา่ นหนังสอื ตามความสนใจ เช่น นหนังสือตามความ เลอื ก อา่ นหนังสอื - หนังสือท่ีนกั เรยี นสนใจและ ตามความสนใจได้ เหมาะสมกบั วยั - หนังสือที่ครแู ละนักเรียนกาหนด รว่ มกัน อเขียนเชงิ อธบิ าย อา่ นขอ้ เขียนเชิง การอา่ นข้อเขียนเชิงอธิบาย และ ปฏิบัติตาม าสง่ั หรือข้อแนะนา อธิบายและ ปฏบิ ัติตามคำส่ัง คำสั่งหรอื ข้อแนะนำ หรือข้อแนะนาได้ - คำแนะนำต่างๆ ในชีวิตประจำวัน - ประกาศ ปา้ ยโฆษณา และคำขวัญ อ่านข้อมลู จาก การอา่ นขอ้ มลู จากแผนภาพ แผนท่ีและแผนภูมิ ข้อมูล แผนภาพ แผนท่ีและแผนภูมิ พ แผนท่ี ได้
มาตรฐาน ตัวชี้วัด สาระสาคัญ K ป.๓/๙ มมี ารยาทในการ มารยาทในการอ่าน เช่น สามารถอธิบาย อ่าน - ไม่อ่านเสียงดังรบกวนผู้อื่น ลักษณะของผทู้ ี่มี ม - ไมเ่ ล่นกันขณะทอ่ี ่าน อ่านได้ - ไมท่ าลายหนังสือ - ไม่ควรแย่งอ่านหรือชะโงกหน้าไปอ่านขณะที่ผู้อ่ืน กำลังอา่ น
K AP สาระการเรียนรู้แกนกลาง หมาย มารยาทในการ เหตุ มีมารยาทในการ มารยาทในการอา่ น เช่น อ่าน - ไม่อ่านเสียงดังรบกวนผู้อ่ืน - ไม่เล่นกันขณะที่อ่าน - ไมท่ าลายหนังสือ - ไม่ควรแย่งอ่านหรือชะโงกหนา้ ไปอา่ นขณะท่ีผอู้ ื่น กาลังอา่ น
สาระที่ ๒ การเขยี น ตวั ชีว้ ัด สาระสาคญั K มาตรฐาน ป.๓/๑ คัดลายมือตัว การคัดลายมือ เป็นการฝึกเขียนตัวอักษรไทย ใหถ้ ูกต้องตาม สามารถบอก มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้ บรรจงเต็มบรรทัด หลกั การ หลกั การคดั กระบวนการเขียน เขยี นส่ือสาร เขียน คัดไทย คือ เขยี นให้อ่านง่าย มี ลายมอื ตัวบรรจง เรียงความ ย่อความ และเขยี นเร่ืองราวใน ชอ่ งไฟ มีวรรคตอน การคัดมีทั้งตัว เต็มบรรทัดได้ รูปแบบต่างๆ เขียน บรรจงเต็มบรรทดั และตัวบรรจงคร่ีง ถกู ต้อง รายงานข้อมูล บรรทัด แบบการคัดตวั อกั ษรไทย สารสนเทศและ มีหลายแบบ แต่ที่ใช้เป็นการคัด รายงานการศึกษา ลายมือทั่วไปคือ ตัวอกั ษรแบบ ค้นคว้าอย่างมี กระทรวงศกึ ษาาธกิ าร ซง่ึ เรียกตาม ประสิทธิภาพ โครงสร้างของตวั อกั ษรว่า หวั กลม ตัวมน ป.๓/๒ เขียนบรรยาย การบรรยาย คือ การเล่าเรอ่ื ง การ สามารถบอก เกยี่ วกับส่ิงใดส่ิงหน่ึงได้ อย่าง กลา่ วถึงเหตุการณท์ ่ตี ่อเน่อื งกันโดยช้ีใหเ้ ห็นฉาก สถานที่ เวลา หลกั การเขียน บรร ชัดเจน เหตกุ ารณ์ สภาพแวดล้อม ถูกตอ้ ง บคุ คลท่เี กยี่ วขอ้ งตลอดจนผลท่ีเกิดจากเหตกุ ารณ์ น้ันๆ เนื้อหาในการบรรยายอาจ เป็นเรือ่ งจริง เช่น ประวตั ิบุคคล เรื่องเล่าจากประสบการณห์ รือเป็น เรอื่ ง สมมุติ เช่น นิทาน นิยาย เร่อื งส้นั ที่มกี ารเล่าเร่ือง
A P สาระการเรียนรู้แกนกลาง หมายเหตุ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ คัดลายมือตัว การคัดลายมอื ตัวบรรจง มุ่งมั่นในการ บรรจงเต็มบรรทัด เต็มบรรทัดตามรูปแบบการ ง ทางาน และรัก ได้ เขียน ตวั อกั ษรไทย ความเป็นไทย เขยี นบรรยาย การเขียนบรรยายเกี่ยวกับ รรยายได้ เก่ยี วกบั ส่ิงใดสิ่ง หน่งึ ได้ ลักษณะของ คน สัตว์ สิ่งของสถานที่ อย่าง
ป.๓/๓ เขียนบันทกึ การเขยี นบันทึกประจำวัน เป็นการ สามารถบอก ประจาวัน บนั ทึกส่วนตัวเก่ียวกับเรอ่ื งราวที่ ความหมายและ ผ่านมา ถึงเหตกุ ารณ์จริงทเี่ กิดขึ้น หลกั การเขียน ในชีวิตประจาวัน ด้วยภาษาของผู้ บันทึกได้ บันทึก ซึ่งอาจแสดงความคิดเห็น หรือความรู้สึกต่อเหตกุ ารณน์ ้ัน ๆ ด้วยก็ได้ การบนั ทึกน้ีถอื เป็น หลักฐานและเคร่อื งเตอื นความจำได้วิธีหน่ึง ป.๓/๔ เขียนจดหมาย จดหมายลาครู เปน็ การเขยี น สามารถบอก ลาครู หนังสือเพ่ือบอกกล่าวหรือแจ้ง หลักการเขยี น จดหมายลาครูได ป.๓/๕ เขียนเรื่องตาม วัตถุประสงคห์ รือเหตุจำ เปน็ ท่ี จินตนาการ จะตอ้ งหยุดเรียนกับครูประจำช้นั สามารถบอก หรอื ครูท่ีปรกึ ษา เช่น เมอื่ เกิด หลักการเขียน เจ็บป่วย หรือมกี จิ ธุระจำเป็นที่ไม่ เรื่องตาม สามารถไปเรียนได้ จินตนาการได้ การเขยี นเรอื่ งตามจินตนาการ เป็นการเขียนเรอ่ื งตามความรู้สกึ นกึ คิด โดยการจดั ลำดับความคิด เรียบเรียงประโยค แล้วถ่ายทอด ออกมาเป็นตวั อกั ษร เรอ่ื งที่เขียน ตามจินตนาการ เช่น นทิ าน
เขยี นบันทกึ การเขียนบันทึกประจำวัน ะ ประจาวันของ ตนเองได้ เขียนจดหมายลา การเขียนจดหมายลาครู ครูได้ ด้ เขียนเรอื่ งตาม การเขียนเรอ่ื งตาม จินตนาการได้ จนิ ตนาการจากคาภาพ และ หัวข้อที่กาหนด
ป.๓/๖ มีมารยาทในการเขียน - มารยาทในการเขยี น เช่น สามารถอธบิ าย - เขียนให้อา่ นงา่ ย สะอาด ไมข่ ดี ฆ่า ลักษณะของผู้ท่ีม - ไม่ขีดเขียนในที่สาธารณะ ใช้ภาษาเขียน มารยาทในการเขีย เหมาะสมกบั เวลา สถานที่ และบคุ คล - ไมเ่ ขยี นลอ้ เลียนผ้อู ่ืนหรอื ทำให้ผอู้ ่ืน เสียหาย
มีมารยาทในการเขียน มารยาทในการเขียน เชน่ มี - เขียนให้อ่านงา่ ย สะอาด ไม่ ยนได้ ขีดฆ่า -ไม่ขีดเขียนในที่สาธารณะ ใช้ภาษาเขียน เหมาะสมกบั เวลา สถานท่ี และบุคคล - ไม่เขยี นล้อเลยี นผู้อื่นหรือทำให้ผูอ้ ่ืนเสียหาย
สาระท่ี ๓ การฟัง การดู และการพูด ตวั ช้ีวัด สาระสาคัญ K มาตรฐาน มาตรฐาน ท ๓.๑ ป.๓/๑ เลา่ รายละเอียด การเลา่ รายละเอียด คอื การ สามารถบอก สามารถเลือกฟงั และ ดูอย่างมี เกย่ี วกับเร่ืองท่ีฟังและดูทั้งท่ี เป็นความรแู้ ละ ถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆให้ผู้อ่ืนไดร้ ับ หลักการเล่า รายล วิจารณญาณและพดู แสดงความรู้ ความบันเทิง ทราบ เกดิ ความ เข้าใจเรอื่ งราวที่ฟัง เก่ยี วกบั เร่ืองที่ฟัง ความคิด และ ความรู้สึกในโอกาส และดู ตา่ งๆ อย่างมี วิจารณญาณและ สร้างสรรค์ ป.๓/๒ บอกสาระสาคัญจาก สาระของเรื่อง เป็นการให้แง่ สามารถบอก การฟังและการดู คิดบางประการ ซึง่ อาจเป็นการกระตุ้น หลักการหา สาระ ความรู้สกึ ผรู้ ับสารได้อกี ทางหน่ึง การรับ การฟงั และการดูได สารทท่ี าให้เกิดความ เพลิดเพลินใจ และ สร้าง ความจรรโลงใจ ป.๓/๓ ตัง้ คาถามและตอบ ก่อนทจ่ี ะมกี ารตั้งคำถามน้ัน สามารถบอก ค˚าถามเกี่ยวกับเรอื่ งที่ฟังและ ดู เราก็ควรต้ังใจฟงั ทาความ เข้าใจกับเรอื่ ง หลกั การตั้ง ค˚าถา นั้นๆ ต้ังคาถามที่ชัดเจนตรง ประเด็นไม่ ค˚าถามเกี่ยวกับ เ กากวม ใช้ภาษาที่สุภาพ เข้าใจง่าย และ และดูได้ ใช้เหตุผล มีความคิด สร้างสรรค์ รจู้ กั คิด หลาย แง่มุม เพ่ือจะได้คำถามและ ค˚าตอบที่หลากแนวคิด
A P สาระการเรียนรู้แกนกลาง หมายเหตุ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ เลา่ รายละเอียด การจับใจความและพูดแสดงความคิดเหน็ และ ละเอียด มุ่งม่ันในการ ทางาน และรัก เกย่ี วกับเรื่องที่ฟัง และดูได้ ความรู้สึกจากเร่อื งที่ฟังและดทู ั้งที่ เป็นความรู้และ และดูได้ ความเป็นไทย ความบันเทิง เช่น บอกสาระสำคัญ - เรอ่ื งเล่าและสารคดีสำหรบั เด็ก ะสาคญั จาก จากการฟังและการดูได้ - นิทาน การ์ตนู เรอื่ งขบขัน ด้ - รายการสำหรับเด็ก - ข่าวและเหตุการณ์ในชีวิตประจำวัน - เพลง ามและตอบ ต้ังคาถามและ เร่อื งที่ฟัง ตอบคาถาม เกี่ยวกับเร่ืองที่ ฟัง และดูได้
ป.๓/๔ พูดแสดงความ การพูดแสดงความรู้ ความ สามารถบอก คิดเห็นและความรู้สึกจาก เรือ่ งท่ีฟังและดู คดิ เหน็ และความรู้สึกจาก เรอ่ื งท่ีฟังและดู หลกั การพดู แสดงค ควร พจิ ารณาอยา่ งรอบคอบก่อน พูด เพ่ือ และ ความรู้สึกจาก ไม่ให้เกดิ ความ ขดั แย้งกับผู้อ่ืน เพราะใน เร่ืองและดูได้ เดยี วกันแต่ละคนอาจมี มุมมองและความ คดิ เห็น แตกตา่ งกันได้ ป.๓/๕ พูดสื่อสารได้ชดั เจน การพดู สอื่ สารใน สามารถบอก ตรงตามวัตถุประสงค์ ชีวิตประจำวัน เช่น การแนะนาตนเอง หลักการพดู ส่ือสา ป.๓/๖ มมี ารยาทในการฟัง การดู และการพูด การแนะนาสถานที่ใน โรงเรียนและในชุมชนชัดเจน ตรงตาม การแนะนา/เชิญชวน เก่ียวกับการปฏิบัติตน วัตถุประสงค์ได ใน ด้านต่างๆ เช่น การรักษา ความสะอาด ของร่างกาย - การเล่าประสบการณใ์ นชีวิตประจำวัน - การพูดในโอกาสต่างๆ เชน่ การพูดขอร้อง การพูด ทักทาย การกล่าวขอบคุณ และ ขอโทษ การพดู ปฏเิ สธ และการพูดชกั ถาม มารยาทในการฟัง เชน่ ต้ังใจฟัง สามารถอธิบาย ลักษณะของผทู้ ี่มี ตามองผู้พูด ไมร่ บกวนผอู้ ื่นขณะที่ฟัง ไม่ควรนาอาหารหรือ เครื่องด่ืมไป รับประทาน ขณะท่ีฟัง ไมแ่ สดงกิริยาท่ีไม่ เหมาะสม เช่น โห่ ฮา หาว ให้เกียรติผู้ พดู ด้วยการ ปรบมอื ไม่พูดสอดแทรก ขณะที่ฟัง มารยาทในการดู เช่น - ต้ังใจดู ไม่ส่งเสียงดังหรือแสดง อาการ รบกวนสมาธิของ ผู้อน่ื
ความคิดเหน็ พูดแสดงความ ก เรื่องท่ีฟัง คิดเห็นและ ความรู้สึกจาก เรอื่ งท่ีฟังและดูได้ พูดส่ือสารได้ การพูดสื่อสารในชีวิตประจำวัน เช่น ารได้ ชดั เจนตรงตามวัตถุประสงค์ การแนะนาตนเอง การแนะนาสถานทีใ่ น ได้ โรงเรียนและใน ชุมชน การแนะนำ/เชิญชวน เกีย่ วกบั การ ปฏิบัติตนในด้านต่างๆ เช่น การ รักษา ความสะอาดของร่างกาย - การเล่าประสบการณใ์ นชีวิตประจำ วัน - การพูดในโอกาสต่างๆ เช่น การพูด ขอรอ้ ง การพดู ทกั ทาย การกลา่ ว ขอบคุณและขอโทษ การพูดปฏิเสธ และการพูดชักถาม มีมารยาทในการ มารยาทในการฟัง เช่น ตั้งใจฟัง ฟัง การดู และการพูด ตามผู้พูด ไม่รบกวนผู้อ่ืนขณะที่ ฟัง ไม่ควรนำอาหารหรือเครอ่ื งดื่มไป รบั ประทาน ขณะที่ฟัง ไม่แสดงกิริยาที่ไม่เหมาะสม เชน่ โห่ ฮา หาว ให้เกียรติผู้พดู ดว้ ยการปรบมือ ไม่พูดสอดแทรกขณะที่ฟัง
มารยาทในการพูด เช่น ใช้ถอ้ ยคำ มารยาทในการฟัง และกิริยาท่ีสุภาพ เหมาะสมกับ การดู และการพูด กาลเทศะ ใช้นำ้เสียงนุ่มนวล ไม่พดู สอดแทรกในขณะท่ี ผอู้ ่ืนกาลังพูด - ไม่พูดล้อเลียนให้ผู้อื่น ไดร้ ับความ อบั อายหรือ เสียหาย
มารยาทในการดู เช่น - ตัง้ ใจดู ไม่ส่งเสียงดังหรือแสดงอาการ รบกวน สมาธิของผู้อน่ื มารยาทในการพูด เช่น ใช้ถอ้ ยคำและกิริยาท่ี สุภาพ เหมาะสม กบั กาลเทศะ ใช้นำ้เสียง นุ่มนวล ไม่พูดสอดแทรกในขณะท่ีผู้อ่ืนกาลังพูด - ไม่พูดลอ้ เลียนให้ผู้อื่นไดร้ บั ความอับ อายหรือ เสียหาย
สาระท่ี ๔ หลกั การใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ตวั ช้วี ัด สาระสาคญั K มาตรฐาน ท ๔.๑ ป.๓/๑ เขียนสะกดคำและ การเขยี นสะกดคา เปน็ สามารถบอก เข้าใจ ธรรมชาติของภาษา และ บอกความหมายของคา การฝึกทักษะการเขยี น ให้ถกู ต้องตาม หลกั การเขียนสะก หลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลง พจนานกุ รมฉบบั ราช บัณฑติ สถานแก่ ได้ ของ ภาษาและพลังของ ภาษา ภูมิ ผู้เรียน และจะ ต้องให้ผเู้ รียน เข้าใจ ปัญญาทางภาษา และ รกั ษา ขบวน การประสม คารู้หลักเกณฑ์ที่จะ ภาษาไทยไว้เป็นสมบตั ิของชาติ เรียบเรยี งลำดับตวั อักษร ในคาหนึ่งๆ ให้ได้ ความหมายท่ีต้องการ เพื่อจะนาประโยชน์ ไปใช้ ในการสื่อสาร ป.๓/๒ ระบุชนิดและหน้าที่ ชนิดของคาได้แก่ สามารถบอก ของคาในประโยค - คานาม ลักษณะของคาแต่ล - คาสรรพนาม ป.๓/๓ ใชพ้ จนานกุ รมค้นหา - คากริยา สามารถบอก ความหมายของคา ความหมายของพจ พจนานุกรม เป็นหนังสืออา้ งอิง ได้ ประเภทหน่ึงโดยท่ัวไป หมายถึง หนังสือทร่ี วบรวบ
A P สาระการเรยี นร้แู กนกลาง หมายเหตุ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ เขียนสะกดคำ -การสะกดคำ การแจกลกู กดคา ม่งุ ม่ันในการ ทางาน และรัก และบอก ความหมายของ และการอ่านเป็นคา ความเปน็ ไทย คาได้ -มาตราตัวสะกดทต่ี รงตาม มาตราและไมต่ รง ตามมาตรา -การผันอักษรกลาง อักษรสูงและอักษรตำ่ -คำท่ีมีพยัญชนะควบกลำ้ -คาที่มีอักษรนา -คำทีป่ ระวิสรรชนยี ์และคำที่ ไมป่ ระวิสรรชนีย์ -คำที่มี ฤ ฤๅ -คำท่ใี ช้ บนั บรร -คำที่ใช้ รร -คำที่มีตัวการันต์ -ความหมายของคา ระบุชนิดและ - ชนิดของคาได้แก่ ละชนดิ ได้ หน้าท่ีของคาในประโยคได้ - คานาม - คาสรรพนาม - คากริยา ใช้พจนานุกรม - การใช้พจนานุกรม จนานุกรม คน้ หาความหมายของคา
มาตรฐาน ตัวชวี้ ัด สาระสาคญั K ป.๓/๔ แตง่ ประโยคง่ายๆ คาศัพท์ในวงศัพท์ท่ี กำหนด และนิยาม ความหมายเอาไว้ เพือ่ ป.๓/๕ แต่งคำคลอ้ งจองและ ใช้เปน็ ทีค่ น้ หาความหมาย ของคา คาขวญั การแตง่ ประโยคเพอ่ื การ สามารถบอก สื่อสาร ไดแ้ ก่ หลักการแต่ง ประ - ประโยคบอกเล่า ได้ - ประโยคปฏเิ สธ - ประโยคคาถาม - ประโยคขอรอ้ ง - ประโยคคำสั่ง - ค˚าคลอ้ งจอง คือ คำท่ีใช้สระ สามารถบอก หรือพยัญชนะเสียงเดยี ว ตัว สะกด หลักการแตง่ คาคล จะตอ้ งมเี ดียวกัน คำคลอ้ งจองเรยี กอีก และคำขวัญได้ อย่างหนึ่งว่า คาสัมผัส - คาขวัญ เป็นข้อความท่ีแต่งข้ึนเพื่อเตอื นใจ เพ่ือให้เกิดกาลังใจหรือเพอื่ ให้เป็นสิริมงคล
A P สาระการเรียนรแู้ กนกลาง หมายเหตุ แตง่ ประโยคง่ายๆ -การแต่งประโยคเพ่ือการ ะโยค ได้ สื่อสาร ไดแ้ ก่ - ประโยคบอกเล่า - ประโยคปฏเิ สธ - ประโยคคาถาม - ประโยคขอรอ้ ง - ประโยคคำส่ัง แต่งคำคล้องจอง -คำคลอ้ งจอง ลอ้ งจอง และคาขวัญได้ -คาขวัญ
มาตรฐาน ตวั ชว้ี ัด สาระสาคญั K ป.๓/๖ เลือกใช้ภาษาไทย ภาษาถ่ิน เปน็ ภาษา สามารถบอก มาตรฐานและภาษาถิ่นได้เหมาะสมกับ กาลเทศะ เฉพาะของท้องถ่นิ ใด ทอ้ งถ่ินหน่ึงท่ีมี ความหมายของภา รปู ลักษณะเฉพาะตัวทั้งถอ้ ยคำและ มาตรฐานและ ภ สำเนยี งเป็น ได้ ตน้ .
A P สาระการเรยี นร้แู กนกลาง หมายเหตุ าษาไทย เลอื กใช้ภาษาไทย -ภาษาไทยมาตรฐาน ภาษาถ่ิน -ภาษาถ่ิน มาตรฐานและภาษาถิ่น ได้ เหมาะสมกับ กาลเทศะ
สาระท่ี ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม มาตรฐาน ตัวช้ีวัด สาระสาคญั K มาตรฐาน ท ๕.๑ ป.๓/๑ ระบุข้อคิดที่ได้จาก วรรณกรรมแตล่ ะเร่ือง มี สามารถบอก ความมุง่ หมายในการ ประพันธ์เพ่อื หลกั การหาขอ้ คิด เขา้ ใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์ การอา่ นวรรณกรรมเพ่อื นาไปใช้ในชีวิตประจาวัน แสดง จินตนาการของผู้แต่ง โดยมิได้มุ่ง อ่าน วรรณกรรมไ ให้ประโยชน์ ทางการศึกษาอบรม วรรณคดีและ วรรณกรรมไทยอยา่ ง โดยตรง แต่วรรณกรรม ทุกเรื่องมักจะมี คติ สอนใจแทรกอยู่ บาง เหน็ คุณค่าและนามาประยกุ ต์ใช้ใน เรอ่ื งมุ่งสอนใจโดยตรง ชวี ิต จรงิ ป.๓/๒ รูจ้ ักเพลงพ้ืนบ้าน - เพลงพืน้ บา้ น คือ เพลงของ ชาวบ้านที่จดจา สามารถบอก และเพลงกล่อมเด็ก เพือ่ ปลูกฝังความช่ืนชม สืบทอดกัน มา แบบ ปากเปล่า ใช้ร้องเลน่ ลกั ษณะของเพลง วัฒนธรรม ท้องถิ่น เพื่อ ความสนกุ สนานร่ืนเริง โดยใช้คำท่ีง่ายๆ เพลงกล่อมเด็กได เน้น เสียงสัมผัสและจังหวะ การร้องเป็น สำคัญ - เพลงกลอ่ มเด็ก เป็น งานดนตรีปลอบโยน ใช้ เล่นหรือรอ้ งให้เด็ก ๆ ฟัง จดุ ประสงค์ของเพลง กล่อมเด็กนั้นมีมากมาย ในสังคมบางแห่ง จะใช้ เพลงกล่อมเด็กตามกัน มาโดยสบื ทอดวัฒนธรรมประเพณี นอกจากน้ัน เพลงกล่อมเดก็ ยงั ใช้ พัฒนาทกั ษะการ ส่ือสาร การชี้นาอารมณ์ การ ควบคุมดแู ล ความสนใจ ของทารกที่ยังแยกแยะ เอง ไม่ได้ การปรับสภาพ ความต่ืนตัวของทารก
A P สาระการเรียนรแู้ กนกลาง หมายเหตุ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ ระบุข้อคิดท่ีได้ -วรรณคดี วรรณกรรม และเพลงพ้ืนบ้าน ท่ีไดจ้ ากการ มุ่งมั่นในการ ทางาน และรัก ได้ ความเป็นไทย จากการอ่าน วรรณกรรมเพื่อ - นิทานหรือเรือ่ งในท้องถิ่น นาไปใช้ใน ชีวิตประจาวันได้ - เรอ่ื งสั้นง่ายๆ ปริศนาคำทาย - บทรอ้ ยกรอง - เพลงพนื้ บ้าน - เพลงกล่อมเดก็ - วรรณกรรมและวรรณคดีใน บทเรียนและ ตาม ความสนใจ พื้นบา้ นและ รู้จักเพลงพื้นบ้าน ด้ และเพลงกลอ่ ม เด็ก เพ่ือ ปลกู ฝัง ความช่ืนชม วัฒนธรรมท้องถ่ิน
ป.๓/๓ แสดงความคิดเห็น การแสดงความคิดเห็นคือ การเขยี นหรือพดู ท่ี สามารถบอก เกีย่ วกบั วรรณคดีท่อี ่าน ประกอบด้วยขอ้ มูลอัน เปน็ ข้อเท็จจริงกบั หลักการแสดง ค การ แสดงความคิดเห็นตอ่ เรือ่ งใดเรือ่ งหน่ึง เกีย่ วกับวรรณคดีท ป.๓/๔ ทอ่ งจำบทอาขยาน ความ คดิ เห็นควรจะมเี หตุผลและเป็นไป ตามที่กำหนดและบทรอ้ ย ในทาง สร้างสรรค์ กรองท่ีมีคุณค่าตามความ สนใจ บทอาขยาน คือ บท สามารถบอก ทอ่ งจำ การเล่า การสวด หลกั การท่องจำบท เรอื่ ง นทิ าน ซ่ึงเปน็ การ ท่องจำข้อความหรือคำประพันธท์ ชี่ อบ บท ร้อง กรองท่ไี พเราะ โดยอาจ ตัดตอนมา จากหนังสือ วรรณคดีเพอื่ ให้ผู้ทอ่ งจำได้ และเห็นความงาม ของบทรอ้ ยกรอง ทง้ั ใน ดา้ นวรรณศิลป์ การใช้ ภาษา เนอ้ื หา และ วธิ กี ารประพันธ์ สามารถนำไปใช้เป็น แบบอย่างใน การแต่งบทร้อยกรองได้ ลงชอ่ื (นางสาวมัลลกิ า กาไห ครูผสู้ อน
ความคิดเห็น แสดงความ ทอี่ ่านได้ คดิ เห็นเกี่ยวกับ วรรณคดีที่ อ่านได้ ทอาขยานได้ ทอ่ งจำบท -บทอาขยานและบทร้อย อาขยานตามท่ีกาหนดและ กรองท่ีมีคณุ ค่า บทรอ้ ยกรองที่มี คณุ ค่าตาม - บทอาขยานตามท่ีกาหนด ความสนใจได้ - บทรอ้ ยกรองตามความสนใจ หลท่ อง)
Search
Read the Text Version
- 1 - 34
Pages: