Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาวงจรไฟฟ้ากระแสตรง (20105-2002)

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาวงจรไฟฟ้ากระแสตรง (20105-2002)

Published by สถาพร ธรรมโม, 2021-10-01 15:24:23

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาวงจรไฟฟ้ากระแสตรง (20105-2002)

Search

Read the Text Version

-- 346- - แผนการจัดการเรยี นรู้ รหัสวชิ า 20105-2002 รายวิชา วงจรไฟฟ้ากระแสตรง หนว่ ยท่ี 4 ชือ่ เรอื่ ง /งาน การตอ่ วงจรไฟฟ้า เวลา 16 ชม. สัปดาห์ 9-12 7. หัวข้อเรอ่ื ง /งาน การต่อวงจรไฟฟ้า 8. สาระสาคัญ วงจรอนุกรม คือ การนาเอาตัวต้านทานต้ังแต่สองตัวขึ้นไปมาเรียงอันดับหรืออนุกรมกับล แหล่งจ่ายไฟฟ้า โดยมีกระแสไฟฟ้าผ่านเพียงเส้นเดียวทางเดียวเท่าสกันตลอดกระแสไฟฟ้าในวงจร อนุกรมจะมีค่าเท่ากันตลอด ส่วนแรงดันตกคร่อมตัวต้านทานแต่ละตัวจะแตกต่างกันไป กล่าวคือ ตัว ต้านทานตัวใดมีค่ามากจะมีแรงดันตกคร่อมมาก ตัวต้านทานตัวใดมีค่าน้อยจะมีแรงดันตกคร่อมน้อย ซ่ึงตัวต้านทานในวงจรอนุกรมจะทาหน้าท่ีแบ่งแรงดันไฟฟ้า ส่วนความต้านทานร่วมท้ังหมดของวงจร หาได้จากการเอาค่าความต้านทานทุกตัว วงจรไฟฟ้าแบบขนาน คือ การนาเอาอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือตัวต้านทานต้ังแต่สองตัวมาต่อขนาน หรือต่อคร่อมกันโดยหัวชนหัวง หลังชนหลัง เมื่อต่อกับแหล่งจ่ายแรงดันไฟฟ้าจะมีแรงดันไฟฟ้าตก คร่อมตัวต้านทานแต่ละตัวเท่ากันและเท่ากับแหล่งจ่าย กระแสไฟฟ้าท่ีไหลผ่านตัวต้านทานแต่ละตัว จะขน้ึ อยู่กับความต้านทาน โดยตัวต้านทานมีค่านอ้ ยจะมีกระแสดไฟฟ้าไหลผา่ นมาก ตัวต้านทานมีค่า มากจะมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านน้อย จากคุณสมบัติของวงจรไฟฟ้าแบบขนานจะนาไปใช้เป็นวงจรแบ่ง กระแส วงจรไฟฟ้าแบบผสม คือ วงจรที่ประกอบด้วยวงจรอนุกรมและวงจรขนานย่อยๆ อยู่ในวงจร ใหญ่วงเดียวกัน ในการคานวณเพ่ือวิเคราะห์หาค่าปริมาณทางไฟฟ้าต่าง ๆ เช่น กระแสไฟฟ้า แรงดันไฟฟ้าและค่าความต้านทานรวม จึงต้องชั้ความรู้จากเรื่องวงจรไฟฟ้าแบบอนุกรม วงจรไฟฟ้า แบบขนาน วงจรไฟฟ้าและผสมดดยทั่วไปจะมอี ยู่ 2 ลักษณะ คอื แบบอนุกรม ขนาน และแบบขนาน อนกุ รม กาลังไฟฟ้า หมายถึง กาลังไฟฟ้าท่ีใช้ไปในการทาให้เกิดพลังงานในรูปแบบต่าง ๆ เช่น พลังงานความร้อน พลังงานแสงสว่าง พลังงานกล เป็นต้น ซ่ึงคานวณหาได้จากผลคูณของแรงดันและ กระแสไฟฟ้ามีหน่วยเป็นวตั ต์ กาลงั ไฟฟา้ ท่ีเกดิ ข้นึ ในวงจรท่ีมภี าระไฟฟา้ เป็นตัวต้านทาน กาลังไฟฟ้าท่ี เกิดขึ้นกับตัวต้านทานจะเป็นในรูปของความร้อน การเลือกใช้งานตัวต้านทานจะต้องเลือกให้มีขนาด วัตตทุ ่ีสุงกว่าจากที่คานวณได้ 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 3.1 จุดประสงคท์ ่วั ไป 3.1.๑ เพือ่ ให้นกั เรียนมีความรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกับการตอ่ วงจรไฟฟ้า 3.1.2 เพอ่ื ใหน้ ักเรียนมที ักษะการต่อวงจรและทดสอบการตอ่ วงจรไฟฟ้า 3.1.3 เพื่อใหน้ ักเรยี นมคี ุณธรรม และบรู ณาการหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

-- 347- - 3.2 จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 3.2.๑ สามารถอธบิ ายการตอ่ วงจรไฟฟ้าได้ 3.๒.2 สามารถสามารถต่อวงจรและทดสอบการต่อวงจรไฟฟ้าได้ 3.2.3 นักเรยี นมีคณุ ธรรม และบูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 4. สาระการเรียนรู้ 4.1 การต่อวงจรไฟฟา้ แบบอนุกรม 4.2 คุณสมบตั ิของวงจรไฟฟ้าแบบอนกุ รม 4.3 การต่อวงจรไฟฟ้าแบบขนาน 4.4 คุณสมบัตขิ องวงจรไฟฟา้ แบบขนาน 4.5 การตอ่ วงจรไฟฟ้าแบบผสม 4.6 คณุ สมบัติของวงจรไฟฟา้ แบบผสม 4.7 การต่อวงจรไฟฟา้ กาลงั ไฟฟ้า 4.8 คุณสมบัตขิ องวงจรไฟฟ้ากาลังไฟฟ้า 5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ( เน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั ด้วยวธิ ีการสอน เทคนิคการสอน กระบวนการสอนที่ หลากหลายเหมาะสมกับรายวิชา ) 5.1 การนาเขา้ สู่บทเรียน 5.1.1 ครูนาเสนอขอ้ มลู เกี่ยวกบั การต่อวงจรไฟฟ้า โดยครอบคลุมถงึ เนอ้ื หาของการเรยี นรูใ้ น หนว่ ยที่ 1 ในแตล่ ะหัวข้อนั้นจะมกี ารนาเสนอกอ่ นเขา้ สูบ่ ทเรียนที่แตกต่างกนั ในแตล่ ะหวั ข้อ 5.1.2 ครูใช้คาถามนาในการระหว่างการแนะนาเข้าสู่บทเรียน เพ่ือให้ผู้เรียนเกิดการมีส่วน ร่วมในการนาเข้าสู่บทเรยี น 5.2 การเรยี นรู้ 5.2.1 ครูให้ผู้เรียนได้ศึกษาและเรียนรู้จากสื่อ ใบงาน และการทากิจกรรมในช้ันเรียน โดย เน้นการทา กจิ กรรมการทาการเรยี นรแู้ บบกลุม่ 5.2.1 ครูและผเู้ รียนร่วมกนั แลกเปลย่ี นเรียนรู้ ในหวั ขอ้ การเรยี นรูใ้ นหนว่ ยท่ี 1 5.3 การสรุป 5.3.1 ครูสรุปสาระการเรียนรู้ ในด้านของทฤษฎี และการปฏิบัติ พร้อมท้ังองค์ความรู้ที่ได้ จากการเรยี นรู้ในหนว่ ยท่ี 1 5.3.2 ครูสงั เกตพฤติกรรม ในระหว่างการจัดการเรียนรู้ในหอ้ งเรียน และผลสัมฤทธ์ิจากการ ทากิจกรรมกลุ่ม ตลอดจนการมสี ว่ นรว่ มในการแสดงความคิดเหน็ ระหว่างเรยี น ๖. สือ่ การเรยี นรู้ 6.1 สอื่ สงิ่ พมิ พ์ : เอกสารประกอบการเรียนรใู้ นเรอื่ ง การตอ่ วงจรไฟฟา้ จากหนงั สือเรียนวงจรไฟฟ้า กระแสดตรง รหัสวิชา 20105 – 2002 6.2 ส่ือโสตทศั น์ : โปรแกรมนาเสนอข้อมูล (Power point) หัวข้อ การต่อวงจรไฟฟา้ 6.3 หนุ่ จาลองหรือของจริง (ถ้ามี) : บอร์ดทดลองวงจรไฟฟา้ กระแสตรง 6.4 อืน่ ๆ (ถ้าม)ี : เรยี นออนไลน์ (On-line) ผ่าน Google Classroom , Google Meet

-- 348- - 7. การวัดผลและประเมนิ ผล 7.1 วธิ ีการวดั ผลประเมิน 7.1.1 กอ่ นเรียน : แบบวดั ผลประเมนิ ผลความร้กู ่อนเรียน 7.1.2 ขณะเรยี น : การสงั เกต และพฤติกรรมระหว่างการเรยี น ๗.๑.๓ หลงั เรียน : ใบงาน แบบทดสอบเฉพาะหน่วย และแบบวดั ผลประเมินความรหู้ ลงั เรยี น 7.2 เคร่ืองมือในการวดั และประเมินผล 7.2.1 แบบทดสอบ 7.2.2 ใบงาน 7.3 เกณฑก์ ารวดั และประเมินผล 7.3.1แบบทดสอบหลังเรยี นและแบบฝึกหดั ท้ายหน่วยเรยี นที่ 1 การตอ่ วงจรไฟฟา้ เกณฑผ์ า่ นทา ถกู ต้อง 60 % ขึ้นไป 7.3.2 แบบประเมินผลการปฏิบัติงานหน่วยท่ี 1 การต่อวงจรไฟฟ้า เกณฑผ์ า่ น 60 % ขึ้นไป ๗.๓.๓ แบบประเมนิ คณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ คะแนนขนึ้ อยู่ กับการประเมินตามสภาพจรงิ ๘. กจิ กรรมเสนอแนะ /งานมอบหมาย (ถา้ มี) 8.1 กจิ กรรมเสนอแนะ - 8.2 งานมอบหมาย ให้นกั ศึกษาไปคน้ คว้าทาความเข้าใจเรอ่ื ง “การต่อวงจรไฟฟ้า” จากหนังสือตาราและ อินเตอรเ์ น็ต ๙. เอกสารอ้างอิง /บรรณานุกรมประจาหน่วย (หนงั สอื ตาราหรอื เอกสารประกอบการเรยี นการสอบใน หน่วยน้ันๆ หรือสื่อและแหล่งการเรยี นรใู้ นกรณคี ้นคว้าเพ่มิ เตมิ ) 9.1 อดุลย์ กัลยาแก้ว . วงจรไฟฟา้ กระแสตรง. กรงุ เทพมหานคร: ศนู ย์ส่งเสริมอาชีวะ , ๒๕62.

-- 349- - ๑๐. บนั ทึกหลงั การจัดการเรียนรู้ ๑๐.๑ ผลการใช้แผนการจดั การเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑๐.๒ ปัญหาและอปุ สรรค ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑๐.๓ แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑๐.๔ ข้อเสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ ลงช่ือ ลงชอื่ ….………………………... ……..……………………. …………………………… () () () รองผอู้ านวยการฝา่ ยวชิ าการ ครูผู้สอน หัวหน้าแผนก

-- 440- - ใบงานที่ 4 เรือ่ ง การตอ่ วงจรไฟฟ้า รหสั วชิ า 20105-2002 รายวชิ า วงจรไฟฟ้ากระแสตรง หลกั สตู ร ประกาศนยี บตั รวชิ าชีพ พทุ ธศักราช 2562 ประเภทวชิ าอตุ สาหกรรม สาขาวชิ าอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ สาขางานอเิ ล็กทรอนิกส์ วตั ถปุ ระสงค์ 1. ศึกษาคุณสมบัติ ของวงจรไฟฟ้าแบบอนุกรม 2. สามารถต่อวงจรไฟฟา้ แบบอนกุ รมได้ 3. สามารถวัดกระแสไฟฟา้ และแรงดันไฟฟา้ ในวงจรไฟฟา้ แบบอนุกรมได้ 4. สามารถนากฎของโอห์มแกป้ ัญหาวงจรไฟฟ้ากระแสตรงแบบอนกุ รมได้ เครอื่ งมือและอุปกรณ์ 1. ชุดฝึกวงจรไฟฟา้ กระแสตรง 1 ชดุ 2. มัลติมเิ ตอร์ 1 ตวั ขอ้ เสนอแนะ 1. ใหท้ าการทดลองตามลาดบั ขน้ั การทดลองอยา่ งเคร่งครดั 2. ในการอ่านคา่ แรงดัน หรือกระแสไฟตรง จะใชส้ เกลสีดาบนหนา้ ปัดในสว่ นท่ีเขยี นว่า DC V,A โดย การมองจะมองให้เข็มทับกบั เงาในแผ่นสะทอ้ นแสงพอดี จึงจะถือวา่ อ่านไดถ้ ูกต้องมากข้ึน 3. ควรตรวจสอบสายตอ่ วงจรว่าชารุดหรอื ไม่ โดยใชโ้ อหม์ มิเตอร์ยา่ นการวดั R1k 4. ตรวจสอบชุดฝึกในส่วนที่จะใช้งานว่าอยู่ในสภาพปกติหรือไม่ กรณีมีการชารุดให้แจ้งอาจารย์ ผู้สอนทราบ 5. ท้ายการทดลองต้องสรุปผลและวิจารณ์ผลการทดลอง โดยอาศัยข้อมูลต่าง ๆ ท่ีเป็นผลการ ทดลองเปรยี บเทียบกบั ทางทฤษฎี โดยพยายามบรรยายใหม้ ากตามพ้ืนที่ ซ่ึงเว้นวา่ งไว้ใหเ้ ขียน ลาดบั ขนั้ การทดลอง 1.จากวงจรรปู ที่ 4.1 ใหค้ านวณหาคา่ กระแสไฟฟา้ IR1, IR2, และ IR3, เมอ่ื แหล่งจ่ายแรงดันไฟตรงมี ค่าเท่ากบั 12 V บันทึกคา่ ท่ีคานวณได้ลงในตารางท่ี 4.1 ในชอ่ งของความต้านทาน R1, R2 และ R3 ตามลาดับ 4.7R1k V + A- VR1 + IR1 IR2 A - E 12 V R2 V VR2 1 k VR3 V - IR3 + A R3 470  รปู ที่ 4.1 วงจรไฟฟ้ากระแสตรงแบบอนุกรม

-- 441- - 2. จากวงจรรปู ท่ี 4.1 ใหค้ านวณหาคา่ แรงดนั ไฟฟ้า VR1, VR2, และ VR3 เมอื่ แหล่งจา่ ยแรงดันไฟตรง มีคา่ เทา่ กับ 12 V บันทึกค่าที่คานวณได้ลงในตารางที่ 4.1 ในชอ่ งของความตา้ นทาน R1, R2 และ R3 ตามลาดบั 3. ต่อวงจรตามรูปที่ 4.1 แลว้ ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของวงจร 4. ปรับแหล่งจา่ ยแรงดนั ไฟตรง E = 12 V โดยใช้มัลตมิ เิ ตอร์ตรวจสอบความถกู ต้อง 5 .ตง้ั มัลตมิ ิเตอรย์ ่านการวัด 25 mA วดั กระแสไฟฟา้ ที่ไหลผา่ นตัวต้านทาน IR1 , IR2 และ IR3 ตามลาดับ บันทกึ คา่ ทีอ่ า่ นไดล้ งในตารางที่ 4.1 6 .ต้งั มัลติมิเตอร์ยา่ นการวัด 10 V วัดค่าแรงดันไฟฟ้า VR1 , VR2 และ VR3 ตามลาดบั บันทึกคา่ ที่อา่ น ไดล้ งในตารางท่ี 4.1 ความตา้ นทาน 4.7 k 1 k 470  ค่าที่คานวณได้ กระแส ( I ) mA V แรงดันตกครอ่ ม ( VR ) mA V ค่าท่ีทดลองได้ กระแส ( I ) แรงดันตกครอ่ ม ( VR ) สรปุ และวิจารณ์ผลการทดลอง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………......................................................................... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………......................................................................... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………….........................................................................

- 4 - - 42 แบบประเมนิ การปฏบิ ัติงานแ รหสั วิชา....... 20105-2002......ชือ่ วิชา......วงจรไฟฟา้ กระแสตรง ท่ี ขัน้ เตรยี ม ข้ันปฏิบตั งิ า รายการประเมิน ชื่อ-นามสกลุ ื้พนท่ีป ิฏ ับ ิตงาน วัส ุด/ ุอปกร ์ณ การแ ่ตงกาย การวางแผนปฏิ ับ ิตงาน การใช้เคร่ือง ืมอ หมายเหตุ การให้คะแนนผลการปฏบิ ัตงิ าน 1 = ปรับปรงุ , 2 = พอใช้ , 3 การให้คะแนนระดับสมรรถนะ ๑ = ทาเลียนแบบ, ๒ = ทาตามแ คาอธิบายระดับสมรรถนะการปฏบิ ัติงาน ระดบั ท่ี ๑ สามารถปฏบิ ตั งิ านใหส้ าเรจ็ ได้โดยการเลียนแบบ หรือการปฏบิ ตั ิตามผู้อ่ืน ก ระดบั ที่ ๒ สามารถปฏิบัตงิ านให้สาเรจ็ ไดโ้ ดยศึกษาจากแบบ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ระดับที่ ๓ สามารถปฏบิ ตั งิ านใหส้ าเร็จ และถกู ต้องไดโ้ ดยศึกษาจากแบบ ใบงาน ใบมอ ระดบั ที่ ๔ สามารถปฏิบตั ิงานตามระดบั ท่ี ๓ ไดอ้ ย่างต่อเน่ือง ระดบั ที่ ๕ สามารถปฏบิ ตั ิงานตามระดับที่ ๓ และ ๔ ใหเ้ กดิ ความชานาญจนเคยชินเป็น

2- และสมรรถนะการปฏิบตั ิงาน ง.....หนว่ ยท่.ี .....4.......ชอ่ื เร่ือง......การตอ่ วงจรไฟฟา้ ...................... าน ผลผลติ กจิ นิสัย คะแนนระดับสมรรถนะ การเลือกใช้วัส ุด ลา ัดบข้ันการ สมรรถนะที่ เสร็จตามเวลา เฉลี่ย ความ ูถก ้ตอง รวม ประสิทธิภาพ ความประ ีณต 1 2 3 45 การตรง ่ตอเวลา ความสะอาด ความปลอด ัภย ความเ ็ปนระเ ีบยบ รวมคะแนนการป ิฏ ับ ิตงาน = ดี แบบ, 3 = ทาถูกตอ้ งตามแบบ, ๔ = ทาอย่างต่อเน่อื ง, ๕ = ทาจนเคยชินเปน็ นิสยั การปฏิบตั ิตามตัวอย่างหรือส่งิ ที่มีอยู่แล้ว น โจทย์กจิ กรรม และอื่นๆ อบหมายงาน โจทย์กิจกรรม และอ่ืนๆ นนิสัย

ขยัน - 4 - - 43 ประหยัด แบบประเมนิ ผลดา้ นจ ซื่อ ัสตย์ ความ ีมวิ ันยรหสั วิชา....... 20105-2002......ชื่อวิชา......วงจรไฟฟ้ากระแสตรง ุสขภาพลาดับ รายการประเมนิ สะอาด ท่ี ช่ือ-สกุล หมายเหตุ การใหค้ ะแนน ๑ = ปรบั ปรุง, ๒ = พอใช,้ ๓ = ดี

สามคั คี 3- มีน้าใจ การประหยดั จติ พิสัย (ภาคทฤษฏี) ความรบั ผิดชอบ ง.....หนว่ ยท่.ี .....4.......ช่อื เร่อื ง......การตอ่ วงจรไฟฟ้า...................... มมี นุษยสมั พนั ธ์ ความซอ่ื สัตย์สจุ รติ ความสนใจใฝ่รู้ ความรักสามัคคี ความคิดริเรมิ่ มีความอดทน รกั ส่ิงแวดลอ้ ม รวม

คา ัศพท์/คา ินยาม - 4 - - 44 ขั้นตอน/วิธีการปฏิบั ิต แบบประเมินผลดา้ นพ ความคิดรวมยอดในเ ้นือเร่ือง การแปลความ/ตีความหมายรหสั วิชา....... 20105-2002......ช่อื วิชา......วงจรไฟฟ้ากระแสตรง รายการประเมนิ ความรู้ความจา ความเข้าใจ ที่ ช่อื - นามสกุล หมายเหตุ การใหค้ ะแนน ๑ = ปรบั ปรงุ , ๒ = พอใช,้ ๓ = ดี (รายละเอยี ดของการประเมนิ สามารถปรับข้อความให้เหมาะสมกับรายวชิ า)

การขยายความ 4- การนาความรู้ ความเข้าใจ พุทธพิสัย (ภาคทฤษฏี) การนาวิธกี ารไปแก้ปญั หา ง.....หนว่ ยท.ี่ .....4.......ช่ือเรอ่ื ง......การต่อวงจรไฟฟา้ ...................... การแกป้ ัญหาเฉพาะหนา้ จ การนาไปใช้ การวิเคราะห์ การ การประเมิน วเิ คราะหต์ ามความสาคญั วเิ คราะหต์ ามความสมั พันธ์ สังเคราะห์ คา่ วิเคราะห์ตามหลักการปฏิบัติ การวางแผน/การออกแบบ รวม การนาสง่ิ ท่ีเรียนร้มู าผสมผสานสรา้ งสรรค์ส่งิ ใหม่(๓๐) ตัดสนิ ใจจากข้อเท็จจรงิ ตดั สนิ ใจจากเกณฑ์การยอมรับของสังคม

- 4 - - 45 แบบประเมินผลคุณ รหสั วชิ า....... 20105-2002......ช่อื วชิ า......วงจรไฟฟ้ากระแสตรง ลาดบั การประเมนิ คณุ ภาพของงาน ท่ี คณะทางาน ความ ัรบผิดชอบ ่ตอห ้นาที่ ้ัขนตอนการทางาน เวลา ความ ่รวม ืมอในการทางาน รวม มีการมอบหมายหน้า ่ีท ีมการวางแผน หมายเหตุ เกณฑ์การให้คะแนนการประเมินการทางานเป็นกลุ่ม เกณฑ์การตดั สิน พฤติกรรม/ผลงาน อยใู่ นเกณฑด์ ี ได้ ๓ คะแนน ชว่ งคะแนน ร ๒๑ – ๓๐ = พฤติกรรม/ผลงาน อย่ใู นเกณฑป์ านกลาง ได้ ๒ คะแนน ๑๑ – ๒๐ = ๐ – ๑๐ = พฤติกรรม/ผลงาน อยใู่ นเกณฑ์พอใช้ ได้ ๑ คะแนน พฤตกิ รรม/ผลงาน อย่ใู นเกณฑป์ รับปรุง ได้ ๐ คะแนน

5- ณภาพผลงานกลมุ่ ง.....หนว่ ยท่ี......4.......ช่อื เร่ือง......การต่อวงจรไฟฟ้า...................... การประเมินการทางานเปน็ กลมุ่ มีการช่วยเหลือ ักนและ ักนในก ุ่ลม ความคิดเ ็หน ู้ผอ่ืน ใ ้ชห ัลกประชาธิปไตย ผลงานเสร็จทันตามกาหนดเวลา ความ ูถก ้ตองของผลงาน ความ ู้ร ความเ ้ขาใจในการทางาน อธิบายและตอบคาถาม การจัดเ ็กบวัส ุด อุปกร ์ณ เรียบร้อย รวม รวมทั้ง ้สิน นคุณภาพ ความร่วมมือในการทางาน ๔ คะแนน ๓ คะแนน ระดบั คณุ ภาพ ทุกคนมีส่วนรว่ มและให้ความรว่ มมืออยา่ งเต็มที่ ๒ คะแนน ดี 80% ของกลุม่ ทีม่ สี ่วนรว่ มและใหค้ วามร่วมมอื อยา่ งเตม็ ท่ี ๑ คะแนน พอใช้ ๖0% ของกลุม่ ท่มี สี ่วนรว่ มและใหค้ วามร่วมมอื อยา่ งเต็มที่ ตอ้ งปรบั ปรงุ ๔0% ของกลมุ่ ที่มสี ว่ นรว่ มและใหค้ วามร่วมมอื อย่างเตม็ ท่ี

--446-- แผนการจัดการเรยี นรู้ รหสั วิชา 20105-2002 รายวชิ า วงจรไฟฟ้ากระแสตรง หน่วยท่ี 5 ช่อื เร่อื ง /งาน วิเคราะหว์ งจรไฟฟ้ากระแสตรง เวลา 20 ชม. สปั ดาห์ 13-17 9. หวั ข้อเร่ือง /งาน วเิ คราะห์วงจรไฟฟ้ากระแสตรง 10.สาระสาคัญ วงจรแบ่งแรงดันไฟฟ้า เรียกว่า “โวลท์เตจ ดีไวเดอร์” (Voltage Dividers) ใช้หลักการของ วงจรไฟฟ้าแบบอนุกรม (Series Circuit) เนื่องจากวงจรอนุกรมมีแรงดันตกคร่อมตัวต้านทานหรือ โหลดไมเ่ ท่ากนั วงจรแบ่งกระแสไฟฟ้าเรียกว่า “เคอร์เรนท์ ดีไวด์เดอร์” (Current Divider) จะใช้หลักการ ของวงจรไฟฟ้าแบบขนาน (Parallel Circuit) เนื่องจากวงจรขนานมีกระแสไหลไม่เท่ากัน กระแสไฟฟ้าจะถูกแบ่งให้ไหลผา่ นไปในสาขาต่าง ๆ ตามพิกัดความต้านทานของโหลดน้ัน ๆ การแบ่ง กระแสไฟฟ้านิยมใชก้ ันเฉพาะวงจร 2 สาขา และ 3สาขา วงจรบรดิ จ์แบบวตี สโตน เรียกว่า”วตี สโตน บริดจ์ เซอร์กิต” (Wheatstone bridge circuit) เป็นวงจรท่ีใชส้ าหรับหาค่าความตา้ นทานที่ไม่ทราบค่า โดยใช้หลกั การเปรียบเทียบค่าความต้านทาน ที่ต้องการทราบค่ากับค่าความต้านทานมาตรฐานท่ีทราบค่าแล้ว วงจรบริดจ์จะมีอยู่ 2 สภาวะ คือ บริดจ์สภาวะสมดลุ (Balance bridge) และ บรดิ จส์ ภาวะไม่สมดุล (Unbalance bridge) กฎกระแสไฟฟ้าของเคอร์ชอฟฟ์ “เคอร์ชอฟฟ์ เคอเรนท์ ลอว์” (Kirchhoff Current Law) จะกล่าวถึงความสัมพันธ์ของกระแสไฟฟ้าท่ีไหลเข้าและไหลออกจากจุดใดจุดหน่ึง ในวงจรไฟฟ้า การ แกส้ มการของเคอรช์ อฟฟ์จะใชห้ ลักการลดทอนทางพชี คณิต หรอื ใชเ้ มทรกิ ซแ์ ละดเี ทอร์มแิ นนท์ ทฤษฎีกระแสเมช (Mesh Current Theores) เป็นการประยุกต์กฎของเคอร์ชอฟฟ์มาใช้ แก้ปัญหาให้สะดวกรวดเร็วย่ิงข้ึน ทฤษฎีกระแสเมชจะกาหนดให้ ในวงจรปิดใดๆ หน่ึงวงจรปิด จะ สมมตใิ ห้มกี ระแสไหลหน่งึ จานวน และจะสมมติทิศทางของกระแสไหลไปทิศทางใดก็ได้ โดยค่ากระแส แตล่ ะวงจรปดิ จะเป็นอสิ ระตอ่ กนั ในการแก้ปัญหาวงจรไฟฟ้าท่ีมีความยุ่งยากและซับซ้อน วิธีแรงดันโนดหรือเรียกว่า “โหนด โวลทเ์ ตจ”(Node Voltage)ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งท่ีนยิ มใชว้ ิเคราะหว์ งจรไฟฟ้ากัน วิธีการนน้ี อกจากจะช่วย วิเคราะห์วงจรไฟฟ้าได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังสามารถทดแทนวิธีกระแสเมช (Mesh Current) ซ่ึงมี ขอ้ จากัดในแงข่ องสมการและความยุ่งยากในการแก้สมการ ทฤษฎีของเทเวนิน เรียกว่า “เทเวนิน ธีโอรี่“ (Thevenin’s Theorem) เป็นวิศวกร ชาว ฝร่ังเศส ได้ค้นพบทฤษฎีท่ีสามารถแก้ปัญหาวงจรไฟฟ้า ที่จะต้องสร้างสมการที่ยุ่งยาก ต้องใช้เมทริก และดีเทอรม์ ิแนนท์แกส้ มการ ทฤษฎีของเทเวนินเหมาะสาหรับการหาค่ากระแสไหลผ่านตัวต้านทาน

-- 447- - ตัวใดตัวหน่ึงที่ค่าความต้านทานเปลี่ยนไปแต่ก็ยังสามารถหาค่ากระแสไหลผ่านความต้านทานน้ันได้ โดยไมต่ ้องตงั้ สมการใหม่เหมอื นกฎของเคอรช์ อฟฟ์ ทฤษฎีของนอร์ตันเรียกว่า “นอร์ตัน ธีโอร่ี” (Norton’s Theorem) จะตรงกันข้าม กับทฤษฎีเทเวนิน คือ วงจรสมมูลของเทเวนินจะอยู่ในรูปแหล่งจ่ายแรงดัน แต่ทฤษฎีนอร์ตนั อยู่ในรูป แหล่งจ่ายกระแส ส่วนการหาค่าความต้านทานเทียบเท่าจะเหมือนกัน ทฤษฎีของนอรต์ ัน (Norton’s Theorem)กล่าวไว้ว่า ในวงจรไฟฟ้าใด ๆ เราสามารถยุบหรือรวมวงจรให้อยู่ในรูปของแหล่งจ่าย กระแสไฟฟ้าหนึ่งตัว ขนานกับตัวต้านทาน หนึ่งตัวได้ ซึ่งเรียกว่า วงจรสมมูลของนอร์ตัน (Norton Equivalent Circuit) ทฤษฎีการวางซ้อนเรยี กว่า “ซูเปอรโ์ พซิชน่ั ธโี อรี่” (Superposition Theorem)เป็นทฤษฎีที่ ใช้วิเคราะวงจรไฟฟ้าท่ีมีแหล่งจ่ายไฟฟ้าต้ังแต่ 2 แหลง่ ขึ้นไป กระแสไฟฟ้า ที่เกิดจากแหลง่ จ่ายไฟฟ้า เหล่าน้ัน สามารถแยกพิจารณาได้คร้ังละ 1 ตัว จนครบทุกตัว แล้วนาค่าของกระแสไฟฟ้าที่ได้ มา รวมกนั ทางพีชคณติ จะไดผ้ ลของกระแสไฟฟา้ ท่แี ทจ้ ริงของวงจร ทฤษฎีการถ่ายโอนกาลังไฟฟ้าสูงสุด”(Maximum Power Transfer Theorem) เรียกว่า “แม็กซิม่ัม พาวเวอร์ ทรานเฟอร์ ธีโอร่ี”เป็นทฤษฎีที่ใช้ถ่ายโอนกาลังไฟฟ้าจากแหล่งจ่ายไฟฟ้าไปยัง โหลด เชน่ จากเคร่ืองขยายเสียงซ่งึ เป็นแหลง่ จ่ายไฟฟา้ ถ่ายโอนกาลงั ไฟฟ้าไปยงั ลาโพงท่ีทาหนา้ ท่ี เป็ น โหลด โดยมีหลักการว่าการถ่ายโอนกาลังไฟฟ้าสูงสุด(Maximum Power) ไปยังโหลดน้ันจะเกิดข้ึน สูงสุดเมื่อความต้านทานของโหลด เท่ากับ ความต้านทานภายในของแหล่งจ่ายไฟฟ้า การแก้ปัญหา แล ะวิเค ราะห์ ว งจ รไฟ ฟ้ าใน เรื่อ งท ฤษ ฎี ก ารถ่าย โอ น กา ลั งไฟ ฟ้ าสู งสุ ด จะ ใช้ ว งจรส ม มู ล เท เว นิ น (Thevenin Equivalent Circuit) 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.1 จดุ ประสงค์ทัว่ ไป 3.1.๑ เพอื่ ให้นกั เรยี นมีความรู้ ความเข้าใจเก่ยี วกบั ชนดิ วิเคราะห์วงจรไฟฟ้ากระแสตรง 3.1.2 เพ่ือใหน้ ักเรยี นมที ักษะการต่อวงจรและทดสอบวิเคราะห์วงจรไฟฟ้ากระแสตรงได้ 3.1.3 เพื่อให้นกั เรยี นมคี ุณธรรม และบรู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง 3.2 จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม 3.2.๑ บอกแหลง่ วเิ คราะหว์ งจรไฟฟ้ากระแสตรงได้ 3.๒.2 สามารถสามารถต่อวงจรและทดสอบวิเคราะห์วงจรไฟฟ้ากระแสตรงได้ 3.2.3 นกั เรยี นมคี ณุ ธรรม และบรู ณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 4. สาระการเรียนรู้ 4.๑ การคานวณวงจรไฟฟา้ กระตรงดว้ ยหลักการวงจรแบ่งแรงดัน/วงจรแบง่ กระแส 4.๒ การคานวณวงจรไฟฟ้ากระตรงด้วยหลักการวงจรบริดจ์ 4.๓ การคานวณวงจรไฟฟ้ากระตรงดว้ ยหลักการกฏของเคอร์ชอฟ์ 4.๔ การคานวณวงจรไฟฟา้ กระตรงด้วยทฤษฎีของเทวนิ ิน/นอร์ตัน 4.๕ การคานวณวงจรไฟฟ้ากระตรงด้วยทฤษฎขี องโนดโวลท์เตจ

-- 448- - 4.๖. การคานวณวงจรไฟฟ้ากระตรงดว้ ยทฤษฎีของเมชเคอร์เรนช์ 4.๗. การคานวณวงจรไฟฟ้ากระตรงด้วยทฤษฎกี ารวางซ้อน 4.๘. การคานวณวงจรไฟฟ้ากระตรงดว้ ยทฤษฎกี ารสง่ ผ่านกาลงั ไฟฟ้าสูงสุด 4.๙. การประยุกต์ใชห้ ลักการวงจรไฟฟ้ากระตรงในการวเิ คราะห์วงจรอเิ ลก็ ทรอนิกส์ 5. กิจกรรมการเรยี นรู้ ( เน้นผูเ้ รียนเป็นสาคัญ ด้วยวิธีการสอน เทคนคิ การสอน กระบวนการสอนท่ี หลากหลายเหมาะสมกับรายวชิ า ) 5.1 การนาเข้าสูบ่ ทเรยี น 5.1.1 ครูนาเสนอข้อมูลเก่ียวกับวิเคราะห์วงจรไฟฟ้ากระแสตรง โดยครอบคลุมถึงเนื้อหา ของการเรยี นรู้ในหน่วยท่ี 1 ในแตล่ ะหัวขอ้ น้นั จะมกี ารนาเสนอกอ่ นเขา้ สบู่ ทเรียนทีแ่ ตกตา่ งกนั ในแต่ละหวั ข้อ 5.1.2 ครูใช้คาถามนาในการระหว่างการแนะนาเข้าสู่บทเรียน เพ่ือให้ผู้เรียนเกิดการมีส่วน รว่ มในการนาเข้าสูบ่ ทเรียน 5.2 การเรียนรู้ 5.2.1 ครูให้ผู้เรียนได้ศึกษาและเรียนรู้จากส่ือ ใบงาน และการทากิจกรรมในชั้นเรียน โดย เน้นการทา กิจกรรมการทาการเรยี นรแู้ บบกล่มุ 5.2.1 ครูและผเู้ รียนรว่ มกนั แลกเปลย่ี นเรียนรู้ ในหัวข้อการเรยี นร้ใู นหน่วยที่ 1 5.3 การสรุป 5.3.1 ครูสรุปสาระการเรียนรู้ ในด้านของทฤษฎี และการปฏิบัติ พร้อมทั้งองค์ความรู้ที่ได้ จากการเรยี นร้ใู นหน่วยท่ี 1 5.3.2 ครูสังเกตพฤติกรรม ในระหว่างการจัดการเรียนรู้ในหอ้ งเรยี น และผลสัมฤทธิ์จากการ ทากจิ กรรมกลุ่ม ตลอดจนการมีส่วนรว่ มในการแสดงความคิดเห็นระหวา่ งเรยี น ๖. ส่อื การเรียนรู้ 6.1 ส่ือส่ิงพิมพ์ : เอกสารประกอบการเรียนรูใ้ นเรอ่ื ง วิเคราะห์วงจรไฟฟ้ากระแสตรง จากหนังสอื เรยี นวงจรไฟฟ้ากระแสดตรง รหสั วชิ า 20105 – 2002 6.2 ส่ือโสตทัศน์ : โปรแกรมนาเสนอข้อมูล (Power point) หวั ขอ้ วิเคราะหว์ งจรไฟฟา้ กระแสตรง 6.3 หนุ่ จาลองหรือของจริง (ถ้าม)ี : บอร์ดทดลองวงจรไฟฟา้ กระแสตรง 6.4 อื่นๆ (ถ้าม)ี : เรียนออนไลน์ (On-line) ผ่าน Google Classroom , Google Meet 7. การวัดผลและประเมินผล 7.1 วธิ กี ารวดั ผลประเมิน 7.1.1 ก่อนเรียน : แบบวดั ผลประเมนิ ผลความร้กู ่อนเรียน 7.1.2 ขณะเรียน : การสงั เกต และพฤติกรรมระหวา่ งการเรียน ๗.๑.๓ หลังเรยี น : ใบงาน แบบทดสอบเฉพาะหน่วย และแบบวัดผลประเมนิ ความร้หู ลงั เรียน 7.2 เครื่องมือในการวัดและประเมินผล 7.2.1 แบบทดสอบ 7.2.2 ใบงาน

-- 449- - 7.3 เกณฑก์ ารวดั และประเมนิ ผล 7.3.1แบบทดสอบหลงั เรียนและแบบฝึกหดั ทา้ ยหน่วยเรยี นท่ี 1 วเิ คราะหว์ งจรไฟฟ้ากระแสตรง เกณฑ์ผา่ นทาถูกต้อง 60 % ขึน้ ไป 7.3.2 แบบประเมินผลการปฏบิ ัติงานหนว่ ยที่ 1 วเิ คราะหว์ งจรไฟฟ้ากระแสตรง เกณฑผ์ ่าน 60 % ขนึ้ ไป ๗.๓.๓ แบบประเมินคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ คะแนนขน้ึ อยู่ กบั การประเมนิ ตามสภาพจรงิ ๘. กิจกรรมเสนอแนะ /งานมอบหมาย (ถา้ มี) 8.1 กจิ กรรมเสนอแนะ - 8.2 งานมอบหมาย ให้นกั ศกึ ษาไปค้นคว้าทาความเข้าใจเรอื่ ง “วิเคราะหว์ งจรไฟฟ้ากระแสตรง” จากหนงั สือ ตาราและอนิ เตอร์เน็ต ๙. เอกสารอ้างอิง /บรรณานกุ รมประจาหน่วย (หนังสือตาราหรือเอกสารประกอบการเรยี นการสอบใน หนว่ ยนัน้ ๆ หรือส่ือและแหล่งการเรยี นรใู้ นกรณีคน้ คว้าเพิ่มเติม) 9.1 อดลุ ย์ กัลยาแกว้ . วงจรไฟฟ้ากระแสตรง. กรุงเทพมหานคร: ศนู ยส์ ่งเสรมิ อาชีวะ , ๒๕62.

-- 540- - ๑๐. บันทกึ หลงั การจดั การเรียนรู้ ๑๐.๑ ผลการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑๐.๒ ปัญหาและอุปสรรค ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑๐.๓ แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑๐.๔ ข้อเสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ ลงชื่อ ลงชื่อ ….………………………... ……..……………………. …………………………… () () () รองผู้อานวยการฝ่ายวชิ าการ ครูผูส้ อน หัวหนา้ แผนก

-- 541- - ใบงานท่ี 5 เรื่อง วิเคราะห์วงจรไฟฟ้ากระแสตรง รหัสวิชา 20105-2002 รายวิชา วงจรไฟฟา้ กระแสตรง หลักสูตร ประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2562 ประเภทวชิ าอุตสาหกรรม สาขาวชิ าอเิ ล็กทรอนกิ ส์ สาขางานอเิ ลก็ ทรอนิกส์ วตั ถุประสงค์ 1. ศึกษาคุณสมบัติ ของวงจรแบ่งแรงดันในวงจรไฟฟ้ากระแสตรงแบบอนุกรม 2. สามารถต่อวงจรแบ่งแรงดันไฟฟ้าได้ 3. สามารถวดั กระแสไฟฟ้า และแรงดนั ไฟฟา้ ในวงจรแบ่งแรงดนั ไฟฟ้าได้ 4. สามารถคานวณคา่ แรงดนั ไฟฟ้า ในวงจรแบง่ แรงดนั ไฟฟ้าได้ เครือ่ งมือและอุปกรณ์ 1 ชุด 1. ชดุ ฝึกวงจรไฟฟ้ากระแสตรง 1 ตวั 2. มลั ติมิเตอร์ ลาดับขั้นการทดลอง 1. จากวงจรรูปท่ี 8.1 ให้คานวณหาค่าแรงดันไฟฟ้าที่ตกคร่อมตัวต้านทาน R1 , R2 , R3 , R4 และ แรงดันไฟฟ้ารวม VT เม่ือแหล่งจ่ายไฟตรง E = 12 V บันทึกค่าท่ีคานวณได้ลงในตารางท่ี 8.1 ในช่องของ แรงดันไฟฟา้ ท่ีคานวณได้ VT , VR1, VR2 , VR3 และ VR4 ตามลาดับ R1 R2 2.2 k 1.2 k V V VR2 + VR1 VR3 E 12 V -V VT V VR4 V R4 R3 470  1 k รปู ที่ 8.1 วงจรแบง่ แรงดนั 2. ต่อวงจรตามรูปท่ี 8.1 แลว้ ตรวจสอบความถกู ต้องของวงจร 3. ปรบั แหลง่ จา่ ยไฟตรง E = 12 V โดยใช้มลั ตมิ ิเตอร์ตรวจสอบความถูกต้อง 4. ตงั้ มัลติมเิ ตอร์ย่านการวัด 50 V วดั ค่าแรงดนั ไฟฟา้ รวม VT บันทกึ ค่าท่ีอ่านได้ลงในตารางที่ 8.1

-- 542- - 5. ต้ังมลั ติมิเตอร์ย่านการวดั 10 V วดั คา่ แรงดนั ไฟฟา้ VR1 , VR2 , VR3 และ VR4 ตามลาดับ บันทึก คา่ ท่ีได้ลงในตารางที่ 8.1 ค่าทคี่ านวณได้ ET VR1 VR2 VR3 VR4 ค่าทท่ี ดลองได้ V V ตารางท่ี 8.1 6. จากวงจรรปู ที่ 8.2 จงคานวณหาค่าแรงดนั ไฟฟ้า VR1 , VR2 และ VRL เม่ือแหลง่ จา่ ยไฟฟ้า กระแสตรง E = 6 V และ RL = 2 k บันทกึ ค่าท่คี านวณไดล้ งในตารางที่ 8.2 ชอ่ งความตา้ นทาน RL เท่ากับ 2 k VR1 V R1 2.2 k E 6V VR2 V R2 V VRL RL 3.3 k 2 k รูปท่ี 8.2 วงจรแบง่ แรงดันแบบมีโหลด 7. เปล่ยี นค่าตวั ตา้ นทาน RL ในวงจรเป็น 1.2 k , 1 k และ 470  ตามลาดับ แล้วทา การคานวณหาคา่ VR1 , VR2 และ VRL เมื่อแหลง่ จา่ ยไฟฟ้ากระแสตรง E = 6 V บนั ทกึ ค่าทค่ี านวณไดล้ งใน ตารางท่ี 8.2 8. ตอ่ วงจรตามรูปที่ 8.2 โดยปรับแหล่งจ่ายไฟใหอ้ ยู่ตาแหนง่ 0 V และตรวจสอบความถูกต้องของ วงจร 9. ปรบั แหล่งจ่ายไฟฟ้ากระแสตรง E = 6 V โดยใช้มลั ตมิ เิ ตอร์ตรวจสอบ 10. ต้ังมลั ตมิ เิ ตอรย์ ่านการวดั 10V วดั ค่าแรงดันตกคร่อม R1 ,R2 และ RL เม่อื RL มคี า่ เทา่ กบั 2 k บันทกึ ค่าท่ีอา่ นได้ลงในตารางท่ี 8.2 11. เปลย่ี นค่าความต้านทาน RL จาก 2 k ใหม้ ีคา่ เปน็ 1.2 k , 1 k และ 470  ตามลาดบั ทดลองซา้ จากการทดลองข้อท่ี 8 , ขอ้ ที่ 9 และข้อที่ 10

RL -- 543- - 470  2 k 1.2 k 1 k VR1 คา่ ทค่ี านวณได้ VR2 V คา่ ทีท่ ดลองได้ VRL V VR1 V VR2 V VRL V V ตารางที่ 8.2 สรุปและวิจารณผ์ ลการทดลอง …..…………………………………………………………………………………………..………………………………………………………... …..…………………………………………………………………………………………………………...…..…………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…... …..………………………………………………………………………………………………………..…………………………………………... …..…………………………………………………………………………………………………………...…..…………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….……... …..……………………………………………………………………………………………………..……………………………………………... …..…………………………………………………………………………………………………………...…..…………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……...

- 4 - - 54 แบบประเมนิ การปฏบิ ตั ิงานแ รหัสวชิ า....... 20105-2002......ชื่อวิชา......วงจรไฟฟา้ กระแสตรง.....หน ท่ี ข้นั เตรยี ม ขั้นปฏบิ ตั ิงา รายการประเมิน ชอื่ -นามสกลุ ื้พนท่ีป ิฏ ับ ิตงาน วัส ุด/ ุอปกร ์ณ การแ ่ตงกาย การวางแผนปฏิ ับ ิตงาน การใช้เคร่ือง ืมอ หมายเหตุ การให้คะแนนผลการปฏิบตั งิ าน 1 = ปรับปรงุ , 2 = พอใช้ , 3 การให้คะแนนระดบั สมรรถนะ ๑ = ทาเลียนแบบ, ๒ = ทาตามแ คาอธบิ ายระดับสมรรถนะการปฏบิ ัติงาน ระดบั ที่ ๑ สามารถปฏบิ ตั งิ านใหส้ าเรจ็ ไดโ้ ดยการเลียนแบบ หรอื การปฏบิ ัติตามผู้อน่ื ก ระดับท่ี ๒ สามารถปฏบิ ัตงิ านใหส้ าเรจ็ ได้โดยศกึ ษาจากแบบ ใบงาน ใบมอบหมายงาน ระดับท่ี ๓ สามารถปฏิบัติงานให้สาเร็จ และถกู ต้องไดโ้ ดยศึกษาจากแบบ ใบงาน ใบมอ ระดบั ที่ ๔ สามารถปฏบิ ตั ิงานตามระดบั ท่ี ๓ ได้อย่างต่อเนื่อง ระดบั ที่ ๕ สามารถปฏิบตั ิงานตามระดบั ที่ ๓ และ ๔ ใหเ้ กดิ ความชานาญจนเคยชินเป็น

4- และสมรรถนะการปฏบิ ตั ิงาน น่วยที.่ .....5.......ช่ือเรอื่ ง......วิเคราะห์วงจรไฟฟา้ กระแสตรง...................... าน ผลผลติ กจิ นิสัย คะแนนระดับสมรรถนะ การเลือกใช้วัส ุด ลา ัดบข้ันการ สมรรถนะที่ เสร็จตามเวลา เฉลย่ี ความ ูถก ้ตอง รวม ประสิทธิภาพ ความประ ีณต 1 2 3 45 การตรง ่ตอเวลา ความสะอาด ความปลอด ัภย ความเ ็ปนระเ ีบยบ รวมคะแนนการป ิฏ ับ ิตงาน = ดี แบบ, 3 = ทาถกู ตอ้ งตามแบบ, ๔ = ทาอย่างตอ่ เน่ือง, ๕ = ทาจนเคยชินเป็นนิสัย การปฏิบัตติ ามตัวอย่างหรือสงิ่ ท่ีมีอยู่แล้ว น โจทยก์ ิจกรรม และอ่ืนๆ อบหมายงาน โจทย์กิจกรรม และอนื่ ๆ นนิสยั

ขยัน - 4 - - 55 ประหยัด แบบประเมนิ ผลด้านจ ซื่อ ัสตย์ ความ ีมวิ ันยรหัสวชิ า....... 20105-2002......ช่ือวชิ า......วงจรไฟฟา้ กระแสตรง.....หน ุสขภาพลาดบั รายการประเมนิ สะอาด ที่ ชอ่ื -สกลุ หมายเหตุ การให้คะแนน ๑ = ปรับปรงุ , ๒ = พอใช้, ๓ = ดี

สามคั คี 5- มีน้าใจ จติ พิสัย (ภาคทฤษฏี) การประหยดั นว่ ยท่ี......5.......ช่ือเร่อื ง......วเิ คราะห์วงจรไฟฟา้ กระแสตรง...................... ความรบั ผิดชอบ มมี นุษยสมั พนั ธ์ รวม ความซอ่ื สัตย์สจุ รติ ความสนใจใฝ่รู้ ความรักสามัคคี ความคิดริเรมิ่ มีความอดทน รกั ส่ิงแวดลอ้ ม

คา ัศพท์/คา ินยาม - 4 - - 56 ขั้นตอน/วิธีการปฏิบั ิต แบบประเมินผลดา้ นพ ความคิดรวมยอดในเ ้นือเร่ือง การแปลความ/ตีความหมายรหัสวชิ า....... 20105-2002......ชอ่ื วชิ า......วงจรไฟฟา้ กระแสตรง.....หน รายการประเมิน ความรคู้ วามจา ความเขา้ ใจ ท่ี ช่ือ - นามสกุล หมายเหตุ การใหค้ ะแนน ๑ = ปรบั ปรงุ , ๒ = พอใช,้ ๓ = ดี (รายละเอียดของการประเมินสามารถปรับข้อความให้เหมาะสมกบั รายวชิ า)

การขยายความ 6- การนาความรู้ ความเข้าใจ พุทธพิสัย (ภาคทฤษฏี) การนาวิธกี ารไปแก้ปญั หา นว่ ยท.ี่ .....5.......ชอ่ื เรือ่ ง......วเิ คราะห์วงจรไฟฟ้ากระแสตรง...................... การแกป้ ัญหาเฉพาะหนา้ จ การนาไปใช้ การวิเคราะห์ การ การประเมิน วเิ คราะหต์ ามความสาคญั วเิ คราะหต์ ามความสมั พันธ์ สงั เคราะห์ ค่า วิเคราะห์ตามหลักการปฏิบัติ การวางแผน/การออกแบบ รวม การนาสง่ิ ท่ีเรียนร้มู าผสมผสานสรา้ งสรรค์ส่งิ ใหม่(๓๐) ตัดสนิ ใจจากข้อเท็จจรงิ ตดั สนิ ใจจากเกณฑ์การยอมรับของสังคม

- 4 - - 57 แบบประเมินผลคุณ รหัสวิชา....... 20105-2002......ชอื่ วชิ า......วงจรไฟฟ้ากระแสตรง.....หน ลาดบั การประเมินคุณภาพของงาน ท่ี คณะทางาน ความ ัรบผิดชอบ ่ตอห ้นาที่ ้ัขนตอนการทางาน เวลา ความ ่รวม ืมอในการทางาน รวม มีการมอบหมายหน้า ่ีท ีมการวางแผน หมายเหตุ เกณฑ์การให้คะแนนการประเมนิ การทางานเป็นกลุม่ เกณฑ์การตดั สิน พฤตกิ รรม/ผลงาน อยู่ในเกณฑ์ดี ได้ ๓ คะแนน ชว่ งคะแนน ร ๒๑ – ๓๐ = พฤติกรรม/ผลงาน อยูใ่ นเกณฑป์ านกลาง ได้ ๒ คะแนน ๑๑ – ๒๐ = ๐ – ๑๐ = พฤตกิ รรม/ผลงาน อยใู่ นเกณฑพ์ อใช้ ได้ ๑ คะแนน พฤตกิ รรม/ผลงาน อยใู่ นเกณฑ์ปรบั ปรุง ได้ ๐ คะแนน

- ณภาพผลงานกลุ่ม นว่ ยท.ี่ .....5.......ช่อื เรือ่ ง......วเิ คราะห์วงจรไฟฟ้ากระแสตรง...................... การประเมนิ การทางานเป็นกลุ่ม มีการช่วยเหลือ ักนและ ักนในก ุ่ลม ความคิดเ ็หน ู้ผอ่ืน ใ ้ชห ัลกประชาธิปไตย ผลงานเสร็จทันตามกาหนดเวลา ความ ูถก ้ตองของผลงาน ความ ู้ร ความเ ้ขาใจในการทางาน อธิบายและตอบคาถาม การจัดเ ็กบวัส ุด อุปกร ์ณ เรียบร้อย รวม รวมทั้ง ้สิน นคุณภาพ ความร่วมมอื ในการทางาน ๔ คะแนน ๓ คะแนน ระดบั คุณภาพ ทุกคนมีส่วนรว่ มและใหค้ วามรว่ มมอื อย่างเต็มที่ ๒ คะแนน ดี 80% ของกลมุ่ ทม่ี สี ่วนรว่ มและใหค้ วามรว่ มมอื อยา่ งเตม็ ท่ี ๑ คะแนน พอใช้ ๖0% ของกลมุ่ ท่มี สี ว่ นร่วมและใหค้ วามร่วมมอื อยา่ งเต็มที่ ต้องปรบั ปรุง ๔0% ของกลุ่มท่มี สี ว่ นร่วมและใหค้ วามร่วมมอื อยา่ งเต็มท่ี