Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ชิ้นงาน2

ชิ้นงาน2

Published by Guset User, 2022-02-01 04:59:28

Description: ชิ้นงาน2

Search

Read the Text Version

รหสั วชิ า 2701-2007 เครอื่ งดม่ื และการผสมเครอ่ื งดม่ื Beverage and Mixed drinks

เครือ่ งดม่ื และการผสมเคร่อื งดืม่ รหสั วชิ า 20701-2007 Beverage and Mixed drinks จดุ ประสงคร์ ายวิชา เพ่อื ให้ 1. มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจเกย่ี วกบั ประเภทของเครอ่ื งดม่ื 2. สามารถจดั เตรยี มและเลอื กใชอ้ ุปกรณ์เครอ่ื งมอื เครอ่ื งใชไ้ ด้ 3. สามารถใหบ้ รกิ ารเครอ่ื งดม่ื ได้ 4. มเี จตคตทิ ด่ี ี ใหบ้ รกิ ารเครอ่ื งดม่ื ได้ สมรรถนะรายวิชา 1. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั เครอ่ื งดม่ื และการผสมเครอ่ื งดม่ื 2. จดั เตรยี มอุปกรณ์ เครอ่ื งมอื เครอ่ื งใชใ้ นการผสมเครอ่ื งดม่ื และการบรกิ ารเครอ่ื งดม่ื ตามรปู แบบ การบรกิ าร 3. ผสมเครอ่ื งดม่ื และบรกิ ารเครอ่ื งดม่ื ตามสตู รกาหนด คาอธิบายรายวิชา ศกึ ษาและปฏบิ ตั เิ กย่ี วกบั เครอ่ื งดม่ื และการผสมเครอ่ื งดม่ื ประเภทของเครอ่ื งดม่ื หน้าท่ี ความรบั ผดิ ชอบ คุณสมบตั แิ ละจรรยาบรรณ ของพนกั งานฝ่ายบรกิ ารเครอ่ื งดม่ื ความรเู้ กย่ี วกบั อุปกรณ์เครอ่ื งมอื เครอ่ื งใชก้ ารดแู ลรกั ษาฝึกปฏบิ ตั ิการผสมเครอ่ื งดม่ื การบรกิ ารเครอ่ื งดม่ื

เครอื่ งดืม่ และการผสมเคร่ืองดื่ม รหสั วชิ า 20701-2007 หน่วยท่ี 1 คณุ สมบตั ิ และจรรยาบรรณพนกั งานบรกิ าร คณุ สมบตั ขิ องผใู้ หบ้ รกิ าร คณุ ลกั ษณะท่ีดีของผใู้ หบ้ รกิ าร ทศั นคตทิ ่ีดีของผใู้ หบ้ รกิ าร จติ บรกิ ารของผใู้ หบ้ รกิ าร มารยาท และจรรยาบรรณของผใู้ หบ้ รกิ าร แบบทดสอบหลงั การเรยี นรู้ หน่วยท่ี 2 บารเ์ ทนเดอร์ ประเภทของบารเ์ ทนเดอร์ หนา้ ท่ีของบารเ์ ทนเดอร์ หลกั การบรกิ ารท่ีดีของบารเ์ ทนเดอร์ แบบทดสอบหลงั การเรยี นรู้

หนว่ ยท่ี 1 สาระการเรียนรู้ 1.คณุ สมบตั ิของผใู้ หบ้ รกิ าร 2.คณุ ลกั ษณะท่ีดีของผใู้ หบ้ รกิ าร 3.ทศั นคติท่ีดีของผใู้ หบ้ รกิ าร 4.จิตบรกิ ารของผใู้ หบ้ รกิ าร 5.มารยาทและจรรยาบรรณของผใู้ หบ้ รกิ าร

คณุ สมบตั ิของผ้ใู หบ้ รกิ าร พจนานกุ รมไทยฉบบั ทนั สมยั และสมบรู ณ์ พ.ศ. 2552 บรษิ ัท ซเี อด็ ยเู คช่นั จากดั ใหค้ วามหมายของคาวา่ คณุ สมบตั ิ หมายถงึ คณุ งามความดี ลกั ษณะพเิ ศษประจาตวั บคุ คลถือเป็น ส่งิ สาคญั อนั ดบั แรกของการเรม่ิ ตน้ การใหบ้ รกิ ารท่ีควรทราบ คณุ สมบตั ขิ องพนกั งานบรกิ ารท่ีมีหนา้ ท่ีตอ้ นรบั และใหบ้ รกิ ารแก่ ผใู้ ชบ้ รกิ ารเพ่ือจะไดน้ าไปเป็นหลกั ในการพฒั นาและปรบั ปรุง บคุ ลิกภาพใหเ้ หมาะสมสาหรบั การปฏิบตั ิงานบรกิ าร ซ่ึง คณุ สมบตั ิตา่ งๆ ประกอบดว้ ย

1. มีทศั นคติและใจรักในงานอาชพี (Attitude Service Mind) ทัศนคติทด่ี จี ะมีผลทำใหผ้ ใู้ หบ้ ริกำรมใี จรักในอำชีพอย่ำงแทจ้ ริง เพรำะกำรทำงำนด้วยใจรกั และ ทัศนคติทดี่ ีตอ่ งำนจะทำให้ผลกำรทำงำนออกมำดเี ชน่ กัน สำมำรถทำใหผ้ ้บู รหิ ำรเกิดควำมเช่ือม่ันและ ไว้วำงใจในตัวบคุ คลนัน้ ได้ แตถ่ ้ำหำกไมม่ ใี จในกำรทำงำนจะทำใหเ้ บือ่ ง่ำยและไม่กระตอื รอื ร้นในกำร ปฏิบตั ิงำน ทำใหไ้ มม่ คี วำมเจรญิ กำ้ วหน้ำในอำชพี 2. มีสุขภาพดี (Good Health) พนกั งำนบริกำรจำเปน็ ต้องมีสุขภำพดี มีสขุ ภำพจติ ท่ีดี มจี ิตใจทแี่ จม่ ใส ไมห่ งดุ หงิด ไมม่ ีโรคภัยไข้ เจบ็ เพรำะกำรปฏิบตั ิงำนต้องใกล้ชิดกบั ลกู คำ้ ในขณะที่กำรปฏบิ ตั งิ ำนบรกิ ำรมกั ไมส่ ำมำรถนง่ั หรอื พกั ได้ตำมอธั ยำศัย เพรำะตอ้ งต้อนรับและดแู ลลกู คำ้ อยู่เสมอ รวมทง้ั ต้องสำรวมและระมดั ระวังกิริยำ ไม่ทำ ตัวตำมสบำย หำกแต่ตอ้ งสภุ ำพและกระตือรอื ร้น งำนบรกิ ำรบำงประเภทตอ้ งยืนตลอดเวลำทอี่ ยูใ่ นช่วง กำรปฏบิ ัตงิ ำน

3. ปรากฏกายดี บุคลกิ ภาพดี (Good Appearance) กำรแต่งกำยดี สะอำด เรียบรอ้ ย ประณีต รวมถงึ ควำมสะอำดของร่ำงกำย มองดูแลว้ สดช่นื แสดงกิริยำทำ่ ทำงดี มีบุคลิกดี สงำ่ ภำคภูมิ บคุ ลกิ ภำพท่ีดีของ พนกั งำนจะทำใหส้ ะท้อนใหเ้ หน็ ถึงภำพลกั ษณข์ ององค์กร เพรำะพนกั งำน คือ ตวั แทนขององคก์ รทจ่ี ะเป็นผู้นำเสนอสนิ คำ้ และบริกำรไปยงั ผใู้ ชบ้ ริกำร 4. มีความรบั ผิดชอบ (Responsibility) พนกั งำนบริกำรควรตระหนกั ถึงหน้ำท่ีและควำมรบั ผดิ ชอบทต่ี นเองไดร้ ับ มอบหมำยให้ดที ส่ี ุด กำรทำงำนดว้ ยควำมรบั ผิดชอบ หมำยถงึ กำรท่พี นักงำน รับผดิ ชอบต่อองค์กร ทุ่มเท เสียสละ รอบคอบ ซ่ือสัตย์และลดข้อบกพรอ่ งใหไ้ ดม้ ำก ที่สดุ รับผิดชอบตอ่ เพื่อนรว่ มงำน โดยกำรไม่เอำเปรียบเพอื่ นร่วมงำน รวมทง้ั กำรที่ รบั ผดิ ชอบตอ่ ลกู ค้ำหรอื ผู้รับใชบ้ รกิ ำร คำนึงถงึ สิง่ ที่ลูกค้ำควรไดร้ บั จำกกำรซื้อสินคำ้ หรือบรกิ ำรขององค์กร

5. มีวินยั และตรงตอ่ เวลา (Discipline) กำรมวี ินยั เป็นหวั ใจของกำรทำงำน พนกั งำนตอ้ งยอมรบั กติกำที่องคก์ ร กำหนด รับทรำบในนโยบำย แนวทำงของบริษทั และนำไปปฏบิ ัติ ผ้ทู ี่มวี นิ ยั จะสำมำรถพัฒนำไดง้ ่ำยกวำ่ สำมำรถเติมควำมรดู้ ้ำนใหม่ๆ ให้ ทัง้ นี้ กำรมี วินยั ไม่ไดห้ มำยถงึ กำรอยู่นง่ิ ไมพ่ ฒั นำตนหรือไมพ่ ยำยำมสรำ้ งสรรคง์ ำน กำร มีวินัยและตรงตอ่ เวลำจะเปน็ ที่ยอมรับและไวว้ ำงใจจำกองค์กร 6. มีความเชือ่ มั่นในตนเอง (Self-Confident) ผูใ้ หบ้ รกิ ำรควรแสดงออกถึงควำมมัน่ ใจในตนเองเพรำะทำใหล้ กู คำ้ เกดิ ควำมวำงใจทีม่ ำใชบ้ ริกำร และเป็นกำรแสดงให้ลกู คำ้ มนั่ ใจว่ำผใู้ หบ้ ริกำรมี ควำมรู้และทกั ษะจริงในกำรปฏบิ ตั ิงำน กำรมคี วำมเช่ือมั่นในตนเองจงึ เปน็ ผลดตี อ่ ตวั ผู้ใหบ้ ริกำรเอง ท้ังในแง่ของกำรปฏบิ ตั งิ ำนที่ได้รบั มอบหมำยจำก องค์กร และกำรพฒั นำตนเองให้กำ้ วหน้ำในงำน ทัง้ นค้ี วำมม่ันใจในตนเองไม่ ควรแสดงออกจนมำกเกินไปจนกลำยเป็นดอ้ื รั้น ซึง่ จะเป็นผลเสยี ตอ่ ตนเอง และงำนแทนผลดี

7. มีความรอบรใู้ นงาน (Knowledge) กำรทผี่ ูใ้ ห้บรกิ ำรมีควำมรู้เก่ียวกับงำนท่ตี นเองปฏบิ ัติ รูจ้ ักสนิ ค้ำและบริกำรของ ตนเอง ร้จู ักระบบงำนและเปำ้ หมำยขององค์กรของตน รู้จกั ขำ่ วสำรข้อมูลท่ที ันสมยั รจู้ ักควำมต้องกำรของลกู คำ้ กำรแสดงควำมรอบรใู้ นงำนอยำ่ งเหมำะสมเปน็ กำรสรำ้ ง ควำมนำ่ เชอ่ื ถือและแสดงควำมสำมำรถของตนทำให้มีควำมก้ำวหน้ำในงำน 8. มีศลิ ปะการพูดทีด่ ี (Good expression) กำรพูดที่ทำใหผ้ ฟู้ งั เกดิ ควำมรู้สึกดำ้ นดีเกดิ ควำมพงึ พอใจ แตก่ ็มิใชก่ ำรยกยอจน เกินควำมจริงมำกเกินไป ใชถ้ ้อยคำไพเรำะเสยี งนมุ่ นวล ไมด่ ังเกินไปหรือคอ่ ยเกนิ ไป สุภำพเหมำะสมกับระดบั เพศ อำชพี และตำแหนง่ ของบคุ คลทีส่ นทนำหรอื ลกู ค้ำท่ี ให้บริกำร

9. มีปฏิภาณไหวพริบ (Intelligence) ควำมฉลำดไหวพรบิ เปน็ สงิ่ สำคญั สำหรบั ผูท้ ำงำนบรกิ ำร เพรำะจะต้องใช้ไหวพริบในกำรสงั เกต จดจำสิ่งตำ่ ง ๆ รอบตัว ใสใ่ จ เขำ้ ใจและศึกษำสิ่งต่ำง ๆ อยำ่ งฉลำด มวี ฒุ ิภำวะในกำรเผชิญหน้ำกบั ผใู้ ชบ้ ริกำรในแต่ละรปู แบบ สำมำรถแก้ไขปญั หำเฉพำะหนำ้ ใน กำรทำงำนได้ 10. รจู้ ักกาลเทศะ (Timing) กำรรู้จกั ควำมเหมำะสมในกำรพูดหรือปฏบิ ตั ิตน ร้วู ่ำเวลำใดควรทำส่ิงใด พดู อะไรหรอื ปฏบิ ัติ อย่ำงไรทัง้ ต่อลกู ค้ำและเพือ่ นร่วมงำนให้เหมำะสมกับสถำนท่ีและเวลำ 11. มคี วามคิดรเิ ร่มิ สรา้ งสรรค์ (Initiative) เป็นสง่ิ สำคัญในงำนช่วยให้กำรทำงำนไมน่ ำ่ เบ่ือ งำนบรกิ ำรตอ้ งกำรบุคลำกรทท่ี ำงำนแล้วสนกุ กบั งำน สำมำรถนำควำมคิดใหมๆ่ มำสรำ้ งสรรคง์ ำนบรกิ ำรดๆี ใหล้ ูกค้ำได้ประทับใจหรือดงึ ดูดควำม สนใจ เช่น กำรตกแต่งสถำนที่ กำรสรำ้ งสรรคง์ ำนเพือ่ ประชำสมั พนั ธ์

12. มคี วามอดทน (Patience) งำนบรกิ ำรเป็นงำนที่ตอ้ งเผชญิ หน้ำกับบุคคลต่ำงๆ ทั้งลกู ค้ำ เพื่อนร่วมงำนหรอื บคุ คลท่เี กี่ยวข้องท่มี ีควำมแตกต่ำงท้ังนิสยั บุคลิก พฤตกิ รรม ควำมชอบและควำมพอใจ ผใู้ หบ้ รกิ ำรควรมคี วำมอดทนต่อเหตุกำรณ์ บุคคล โดยเฉพำะต่อลูกค้ำนนั้ พนกั งำนตอ้ งมคี วำมอดทนให้มำก ระมดั ระวงั กำรแสดงออกทจี่ ะกระทบตอ่ ควำมรู้สกึ ของผรู้ ับบรกิ ำร เพอ่ื ไม่ให้เกิดผลเสยี ตำมมำ 13. มคี วามรู้ภาษาตา่ งประเทศ (Knowing of Foreign Languages) ภำษำต่ำงประเทศเปน็ ส่ิงสำคัญและจำเป็นตอ่ ผ้ใู ห้บรกิ ำร เพรำะธุรกิจมกี ำรตดิ ตอ่ สื่อสำรและกำรทำธุรกจิ กบั ต่ำงชำติ บำงครัง้ ลูกค้ำผู้รบั บรกิ ำรก็เป็นชำวต่ำงชำติ ดังนน้ั ผ้ใู ห้บรกิ ำรควรเปน็ มคี วำมสำมำรถในกำรใช้ภำษำต่ำงประเทศได้ อย่ำงน้อยอีก 1 ภำษำนอกจำกภำษำของตนเอง 14. มคี วามซอื่ สตั ย์ (Honesty) เปน็ คณุ สมบัตสิ ำคญั ของพนักงำนบรกิ ำรทีท่ ุกองค์กรตอ้ งกำรกำรมีควำมซื่อสตั ย์หมำยควำมรวมถึงกำรที่พนักงำนรู้ รบั ผดิ ชอบตรงไปตรงมำต่อ กำรปฏิบตั ิหน้ำท่ี ไม่หวงั อำมสิ สนิ จำ้ งในทำงที่ไม่ถูกไมค่ วร ในงำนบรกิ ำรองคก์ รตอ้ งพง่ึ พำพนักงำนในกำรตดิ ต่อสอื่ สำรกับลูกคำ้ ดงั นั้น ควรคำนึงถึง ผลประโยชน์สว่ นรวมขององคก์ รหรือสว่ นรวมมำกกวำ่ ตนเอง พนักงำนควรมีควำมซ่ือสัตยต์ ่อตนเอง ตอ่ หน้ำท่ี ตอ่ เพือ่ นรว่ มงำน ต่อองค์กรและผรู้ ับบรกิ ำร

15. มนษุ ยสัมพันธท์ ด่ี ี (Human Relation) กำรทำงำนบรกิ ำรมีลกั ษณะกำรปฏิบตั งิ ำนแบบหมูค่ ณะหรอื ทมี มกี ำรแบ่งหนำ้ ทค่ี วำมรับผดิ ชอบในงำนแต่ละฝ่ำย กำรทำงำนจึงตอ้ งอำศัย ควำมสมั พนั ธ์ทด่ี รี ะหวำ่ งบุคลำกรภำยในองคก์ ร มีควำมเหน็ อกเหน็ ใจและนกึ ถึงผูอ้ ่นื เปน็ ผู้ฟังมำกกวำ่ ผู้พูด ไมเ่ ห็นแก่ตวั ซง่ึ กำรสร้ำงมนษุ ยสมั พันธ์ ที่ดีจงึ หมำยถงึ กำรมีควำมสัมพันธ์ทด่ี ใี นกำรทำงำนทุกระดับ เปน็ ตน้ วำ่ ควำมสมั พันธ์ ระหว่ำงหัวหนำ้ และลกู น้อง ควำมสัมพันธท์ ีด่ ีระหว่ำงเพ่อื นรว่ มงำนรวมถงึ กำรมีมนษุ ยสัมพันธ์ทด่ี ีกบั ลูกค้ำ เพอ่ื ให้กำรบริกำรนั้นเป็นไปด้วยดี 16. มีวุฒภิ าวะทางอารมณ์ (Emotion Quotient) ควำมฉลำดทำงอำรมณ์หรอื ควำมสำมำรถทำงอำรมณท์ จี่ ะช่วยใหก้ ำรดำเนนิ ชีวิตเป็นไปอยำ่ งสร้ำงสรรคแ์ ละมคี วำมสขุ เปน็ กำรแสดงออก ทำงอำรมณอ์ ย่ำงเหมำะสม สำมำรถควบคมุ ตนเองไดใ้ นแตล่ ะสถำนกำรณ์ กำรกำหนดคุณสมบตั ิของผู้ใหบ้ รกิ ำรอำจมีควำมแตกตำ่ งกันไปตำมบรบิ ทของกำรดำเนนิ ธรุ กิจในแต่ละ องค์กรและสำหรบั งำนบริกำรโดยทั่วไปอำจจะกำหนดไดก้ ว้ำงๆ ดังกล่ำวขำ้ งตน้ กำรกำหนดคณุ สมบัติของผู้ ใหบ้ รกิ ำรนั้น มีวัตถปุ ระสงคส์ ำคัญคอื กำรคดั เลอื กพนกั งำนเพื่อใหท้ ำหน้ำทใ่ี นกำรใหบ้ รกิ ำรลูกคำ้ เปน็ ตวั แทน ขององคก์ รทจ่ี ะปฏบิ ตั ิงำนบริกำรตำมนโยบำยและมีผลทำให้กำรปฏบิ ตั ิงำนน้ันสำเร็จตำมวตั ถุประสงค์ คอื สำมำรถสรำ้ งควำมประทับใจและควำมพึงพอใจให้กับลกู คำ้ ได้

คณุ ลักษณะทดี่ ีของผู้ให้บรกิ าร คุณลักษณะที่ดขี องผ้ใู ห้บรกิ ำรจงึ เป็นเครือ่ งบง่ บอกควำมดหี รือลกั ษณะประจำตัวของผูใ้ ห้บริกำร กำรกำหนดคณุ ลกั ษณะของผใู้ หบ้ รกิ ำรจะทำให้สำมำรถสรรหำบุคลำกรที่จะมำปฏิบตั หิ น้ำท่ีใหบ้ ริกำรแก่ลูกคำ้ ได้อย่ำง เหมำะสมกนั และสอดคล้องกบั ลักษณะของงำนบริกำร คุณลกั ษณะของบคุ คลอำจเปน็ ส่ิงซงึ่ ปรำกฏใหเ้ ห็นจำกภำยนอก เชน่ รูปร่ำง บุคลิกลักษณะ กำรแสดงอำกปั กิริยำ ฯลฯ หรืออำจจะเปน็ สง่ิ ที่อยภู่ ำยในจิตใจ เช่น อำรมณ์ จติ ใจ ทัศนคติ ควำมรสู้ กึ นึกคดิ ฯลฯ

1. คณุ ลักษณะภายนอก คุณลักษณะภำยนอก คือ คณุ ลักษณะที่แสดงออกใหเ้ ห็นเป็นพฤติกรรม สำมำรถมองเหน็ ได้ จำกกระทำตำ่ งๆ ดงั น้ี 1) ยมิ้ แยม้ แจม่ ใส มีชวี ติ ชวี ำ มบี คุ ลกิ สดชืน่ สร้ำงควำมสบำยใจให้ผ้พู บเห็น 2) กระตือรอื รน้ ตัง้ ใจและมคี วำมสนใจในงำน 3) สุภำพและออ่ นนอ้ ม มมี ำรยำทดี แต่ไมเ่ ฉื่อยชำ 4) ท่ำทำงดี หมำยถึง ควำมละมนุ ละไมและควำมเหมำะสมในขณะแสดงออก ทัง้ ทำ่ ทำง กำรยืน กำรเดนิ กำรนั่ง กำรรบั คำสงั่ หรอื กำรใหบ้ ริกำรลกู คำ้ 5) แต่งกำยสะอำด เรยี บร้อย ประณีตและเหมำะสม เปน็ ไปตำมแบบขององคก์ ร 6) มปี ฏภิ ำณไหวพริบในกำรปฏิบัตงิ ำนและกำรแกไ้ ขปัญหำเฉพำะหน้ำไมต่ กใจตื่นในเหตกุ ำรณ์ ทีไ่ ม่คำดฝัน 7) ตรงตอ่ เวลำ รู้จกั คณุ คำ่ และรกั ษำเวลำ ไมเ่ ขำ้ ทำงำนสำยหรือใชเ้ วลำไมเ่ หมำะสม 8) ยิม้ และสบตำในขณะพดู หรือให้บริกำร แสดงทำ่ ทำงสนใจตอ่ ผ้ใู ช้บริกำรเสมอ 9) ร้จู กั กำลเทศะ ระมัดระวงั กิริยำทำ่ ทำง ทง้ั ในกำรปฏิบัตติ อ่ ผู้ใชบ้ ริกำรและเพ่อื นร่วมงำน 10) วำจำสุภำพ นำ้ เสียงไมแ่ ข็งหรือพูดในลกั ษณะมะนำวไม่มนี ้ำ ใชค้ ำพดู เหมำะสมกับบุคคล

2. คุณลกั ษณะภายใน คณุ ลักษณะภำยใน คอื คณุ ลักษณะทำงดำ้ นจิตใจ อำรมณ์ ควำมร้สู ึกนกึ คิด สตปิ ญั ญำของผใู้ หบ้ รกิ ำร ซึง่ ได้แก่ 1) กำรควบคุมอำรมณ์ รู้จักระงบั ควำมโกรธ กำรสงบสตอิ ำรมณ์และกำรมอี ำรมณ์ขัน 2) กำรเขำ้ ใจบุคคลอ่ืนและเขำ้ ใจพื้นฐำนของควำมแตกต่ำงระหว่ำงบคุ คล ยอมรับเหตแุ ละผล 3) มีทศั นคตทิ ่ีดีตอ่ งำน มมี มุ มองทีเ่ ป็นบวกกับกำรปฏบิ ัติงำนบริกำร 4) มีใจรกั ในงำน ตงั้ ใจพำกเพียร สนใจและพัฒนำปรับปรงุ งำนอยเู่ สมอ 5) รกั ษำวนิ ัย ยอมรับกฎเกณฑ์และระเบียบปฏบิ ตั ิขององคก์ รในด้ำนตำ่ งๆ 6) ให้ควำมรว่ มมือแก่เพอื่ นร่วมงำน องคก์ ร สำมำรถทำงำนเป็นทมี และยอมรบั บทบำทของตนเองได้ 7) มีนำ้ ใจและมนุษยสัมพนั ธ์ท่ดี ตี ่อเพ่ือนร่วมงำนและผูใ้ ช้บรกิ ำร 8) มีควำมจำดี มคี วำมรูเ้ กี่ยวกบั ข้อมลู ในงำน ข้อมลู องค์กรและขำ่ วสำรท่วั ไป 9) มีควำมจรงิ ใจในกำรปฏิบัติงำนตอ่ องคก์ รและกำรบริกำร 10) ซอ่ื สตั ยส์ จุ ริต ทั้งต่อตนเอง ตอ่ องคก์ ร เชน่ กำรรักษำเวลำ กำรซอ่ื สัตย์ตอ่ ผู้ใช้บริกำร เชน่ กำรให้ขอ้ มลู และคำแนะนำทถ่ี กู ตอ้ ง กลำ่ วคือคุณลกั ษณะท่ดี ีของผใู้ หบ้ ริกำรเป็นคุณสมบตั ิทีจ่ ำเป็นต่อกำรปฏบิ ตั ิงำนบรกิ ำร ซง่ึ มผี ลต่อควำมสำเรจ็ ของงำนบรกิ ำรเป็นอนั มำกและสงิ่ ทเี่ ป็นอทิ ธิพลหรือปัจจัยสนบั สนุน กำรมคี ุณลกั ษณะทดี่ ขี องผใู้ ห้บรกิ ำรคือ ทัศนคติ (Attitude) สว่ นบคุ คล ซ่ึงกำรมีทัศนคตทิ ี่จะก่อให้เกดิ ควำมสำเรจ็ ไดก้ ค็ ือ ทศั คตทิ ่ดี ีและกำรคิดเชงิ บวก (Positive Thinking) ซึ่งเปน็ กำรเสรมิ แรงใหม้ ีทัศนคตทิ ดี่ ีตอ่ งำนตำมไปด้วย รวมท้งั ยังสำมำรถ ทำให้บุคคลนัน้ มีใจรกั ทจี่ ะทำงำน มีควำมเตม็ ใจในกำรให้บริกำรแกผ่ อู้ ืน่ หรอื ทเ่ี รยี กวำ่ จิตใจท่พี ร้อมและเต็มใจในกำรบริกำร (Service Mind)

ทศั นคติทีด่ ขี องผูใ้ หบ้ ริการ ทศั นคตคิ อื ควำมร้สู ึกและควำมคดิ เห็นท่บี คุ คลมตี อ่ สง่ิ ของ บุคคลหรือสถำนกำรณท์ ้ังดำ้ นกำรยอมรับ หรือปฏิเสธ แสดงออกหรอื มีปฏกิ ิรยิ ำตอบสนองด้วยพฤติกรรม ท้ังน้กี ำรแสดงออกทำงพฤติกรรมดงั กลำ่ วย่อม สง่ ผลกระทบกบั ผู้ที่เกีย่ วขอ้ งหรือสัมพนั ธ์ดว้ ย งำนบรกิ ำรเปน็ งำนทีต่ ้องมีปฏิสมั พนั ธ์กบั ลกู คำ้ ท้ังกำรต้อนรับดูแล กำรอำนวยควำมสะดวกจนกระท่งั ถงึ กำรเปน็ ธรุ ะจัดกำรใหจ้ นสำเรจ็ เพ่อื สรำ้ งควำมพงึ พอใจให้กับผมู้ ำใชบ้ รกิ ำรและเพื่อใหเ้ กิดผลสมั ฤทธข์ิ อง กำรบริกำรนัน้ พนกั งำนตอ้ งปฏิบัตติ ่อผใู้ ช้บริกำรในทำงท่ดี ใี ห้เป็นท่ปี ระทับใจและน่ำพึงพอใจ ซง่ึ หมำยถึง กำรมที ศั นคตทิ ่ีดีในงำน พร้อมกนั นัน้ ทัศนคติทีด่ ยี ังสำมำรถก่อให้เกดิ ควำมรู้สกึ รักหรือชอบในงำน ปฏิบัติงำน ดว้ ยควำมรู้สึกท่ดี พี รอ้ มทั้งมีใจรักในงำนมีจติ บริกำร (Service Mind) ซ่ึงเป็นผลดีตอ่ ตัวผู้บรกิ ำรเพือ่ นรว่ มงำน องคก์ รและผใู้ ชบ้ ริกำร

ลกั ษณะของการทางานทม่ี าจากทศั นคติท่ดี ขี องผู้ใหบ้ ริการ 1. เรม่ิ ต้นการทางานด้วยความกระตือรือรน้ มกี ำรเตรียมตวั ใหพ้ รอ้ มสำหรับกำรทำงำน เมอื่ ถึงเวลำแล้วสำมำรถเขำ้ ทำงำนดว้ ยควำม กระตือรอื รน้ 2. ยม้ิ แยม้ แจ่มใส ใหบ้ รกิ ำรอย่ำงสดช่นื เป็นบุคลกิ ท่ีสำมำรถสร้ำงควำมประทับใจใหแ้ ก่ผูพ้ บเห็น ท้งั เพ่ือนรว่ มงำน ผูบ้ งั คบั บญั ชำและผู้ มำใช้บรกิ ำร บคุ ลกิ ลักษณะทีแ่ สดงออกดูแล้วสดชื่น ทำ่ ทำงดี ยม้ิ แย้ม ทักทำย ทำใหก้ ลำยเปน็ คนทีม่ บี คุ ลกิ ภำพดี 3. ปฏบิ ตั งิ านดว้ ยความเตม็ ใจ กำรทำงำนดว้ ยควำมเต็มใจจะส่งผลถึงระบบกำรทำงำนทงั้ หมดทกุ สว่ นภำยในองค์กร มกี ำรประสำนงำนที่ ดีระหว่ำงเพอ่ื นร่วมงำน ลดกำรเอำเปรยี บกันซ่งึ กันและกนั ไมเ่ หน็ แก่ตัว ให้ควำมชว่ ยเหลอื เตม็ ใจและชว่ ยให้กำรทำงำนเป็นไปดว้ ยควำมรำบรน่ื 4. การตอบสนองตอ่ ความตอ้ งการรวดเรว็ เมอ่ื ตอ้ งตอ้ นรบั ลูกค้ำ ต้องแสดงควำมกระตอื รอื ร้น ไม่ลังเล ไม่แสดงกำรเกี่ยงงอนในกำรไป บริกำร จะทำให้ผูใ้ ช้บริกำรน้ันๆ เกิดควำมพึงพอใจที่ไดร้ บั ควำมสนใจ เม่ือใดทีผ่ ใู้ ช้บรกิ ำรรับควำมสนใจและควำมใสใ่ จ ก็ทำให้ได้เกิดควำมสุข ควำมภำคภูมิใจแม้แต่ผู้ใหบ้ ริกำรเองกเ็ กดิ ควำมปลำบปลม้ื ท่ีตนเองสำมำรถทำใหล้ กู ค้ำนนั้ พึงพอใจได้ 5. มีความตง้ั ใจและใส่ใจในงาน ควำมรู้สึกทด่ี ีตอ่ งำนจะทำให้มคี วำมสนใจและตั้งใจ ทจ่ี ะใหง้ ำนออกมำดี สำมำรถทำงำนตำมทไี่ ดร้ บั มอบหมำย โดยท่ีไม่ตอ้ งกำรควบคมุ หรือเปน็ ผทู้ ีส่ ำมำรถทำงำนตำมเปำ้ หมำยได้ด้วยตนเอง งำนทม่ี ำจำกควำมตงั้ ใจจงึ มกั จะออกมำดเี สมอ

6. ทางานดว้ ยความรอบคอบและระมัดระวัง เปน็ กำรลดกำรสูญเสียทอ่ี ำจเกิดข้ึนจำกกำรทำงำน กำรขำดควำมรอบคอบอำจสง่ ผลเสยี หำย ตอ่ องค์กร ในกำรปฏบิ ตั ิงำนหำกผู้ให้บริกำรมคี วำมละเอียดรอบคอบยอ่ มแสดงวำ่ มคี วำมรู้ ควำมเข้ำใจ ตระหนักในภำระงำนของตนและพร้อมที่ จะทำงำนอย่ำงระมัดระวังเกิดประโยชน์ต่องำนและองค์กร 7. ตระหนักในหน้าท่ีและมคี วามผิดรับชอบงาน คือกำรทพ่ี นักงำนเขำ้ ใจในบทบำทของตนเอง รขู้ อบเขตและกรอบกำรปฏิบตั ิงำน ทำให้ เขำ้ ใจถึงหน้ำทท่ี ตี่ นเองตอ้ งทำ มงุ่ หวังให้เกิดผลสำเร็จของงำนตำมเป้ำหมำย 8. ทางานไดอ้ ย่างถกู ต้อง กำรทำงำนในแตล่ ะองค์กรยอ่ มตอ้ งมีกำรกำหนดหน้ำทแี่ ละควำมรับผิดชอบ (Job Description) หรือมีกำร กำหนดมำตรฐำนและคุณภำพกำรบริกำรเอำไว้ เม่อื พนักงำนมีควำมพร้อม เข้ำใจและมที ัศนคติทีด่ ี ย่อมสำมำรถปรบั ตนเองใหส้ ำมำรถปฏบิ ัตติ ำม นโยบำยได้ดี ทำงำนตำมขัน้ ตอนทถ่ี ูกตอ้ งได้ 9. พร้อมจะพัฒนาการทางาน กำรที่พนักงำนมีมมุ มองทเ่ี ปน็ บวกตอ่ งำนปรำศจำกอคตแิ ลว้ ย่อมสนใจในกำรทำงำนและพร้อมท่ีจะปรับปรุง ข้อบกพรอ่ งตำ่ งๆ ในกำรทำงำนใหด้ ีข้ึน 10. ตอ้ งการความก้าวหนา้ พนกั งำนทุกคนล้วนย่อมตอ้ งกำรควำมก้ำวหนำ้ ในหนำ้ ที่กำรงำน กำรปรบั เล่ือนตำแหน่งใหส้ งู ข้นั แสดงใหเ้ ห็น ถงึ กำรทำงำนท่มี ที ศั นคติท่ดี ีทำงำน

11. ให้ความรว่ มมอื ในการทางาน งำนบริกำรน้นั ตอ้ งอำศัยทมี งำนท่ีดใี นกำรทำงำน กำรประสำนงำน กำรรอ้ งขอจำกแผนกอ่นื ๆ ให้ ชว่ ยเหลือเปน็ เรอื่ งปกติวิสัย ดงั นั้นพนักงำนจำเปน็ ทจ่ี ะต้องอำศยั กระบวนกำรของกำรทำงำนเปน็ ทีมเข้ำมำทำให้งำนเกดิ ควำมสำเร็จ 12. มีความรู้ในงานและพร้อมจะเรยี นรู้ส่ิงใหม่ เปรียบเสมือนกำรเปน็ บคุ คลทีน่ ำ้ ไมเ่ ต็มแกว้ กำรมคี วำมเขำ้ ใจเกย่ี วกับลกั ษณะของงำน บริกำรท่ผี ันแปรตำมบคุ คลท่มี ำรบั บรกิ ำร จะทำให้ผ้ใู หบ้ ริกำรเขำ้ ใจและพร้อมทจ่ี ะปรบั ปรุงใหก้ ำรบริกำรแก่บุคคลที่ต่ำงสถำนะ ตำ่ งตำแหนง่ และ ต่ำงควำมพอใจ จึงต้องมกี ำรปรับเปล่ยี นวิธีกำร เหมือนเป็นกำรสร้ำงประสงกำรณ์ในกำรทำงำน 13. รักษาผลประโยชนข์ ององค์กร ทศั นคติทดี่ ีตอ่ องค์กร คอื กำรรบั รูถ้ งึ นโยบำยและเปำ้ หมำยกำรดำเนินงำน เมือ่ รับรู้เขำ้ ใจแลว้ พนักงำน ตอ้ งมคี วำมตระหนักในกำรทจ่ี ะรกั ษำผลประโยชนต์ ่ำงๆ เพรำะองค์ไดร้ ับประโยชนแ์ ล้ว ตัวพนักงำนเองก็ได้รับเชน่ เดียวกัน 14. มคี วามซ่ือสตั ย์สจุ ริต องค์กรท่ใี ห้บริกำรโดยส่วนใหญแ่ ลว้ มกั เป็นกำรทำงำนภำยใต้ควำมเสีย่ งอย่หู ลำยประกำร ท้ังควำมสูญเสยี ที่ เกดิ ข้นึ จำกกำรที่พนกั งำนขำดควำมซอื่ สัตย์ เชน่ โรงแรมหรือห้องอำหำร จึงตอ้ งมรี ะบบกำรควบคุมดแู ล เช่น กำรวำงระบบเบกิ จ่ำยสง่ิ ของเพ่ือ นำมำให้บริกำรแก่ลกู คำ้ กำรจำหน่ำยเครอ่ื งดื่มให้แกล่ ูกค้ำ เปน็ ต้น ดังน้แี ลว้ หำกพนักงำนมแี คค่ วำมตระหนกั รู้และเขำ้ ใจองคก์ ร กำรทุจริตหรือ กำรสญู เสียจะเกดิ ขึ้นไดน้ อ้ ยมำก

15. มีความสุขในการทางาน ควำมเขำ้ ใจในงำนและสำมำรถปฏบิ ตั ิงำนจนบรรลุ วัตถปุ ระสงค์ มเี พื่อนร่วมงำนทดี่ ีและสภำพแวดล้อมต่ำงๆ เอ้อื อำนวยตอ่ กำรทำงำน ดว้ ย ควำมรสู้ กึ ทด่ี ีตอ่ งำนหรือมุมมองท่ดี ตี อ่ ตนเองและผูอ้ ื่น จะเปน็ แรงผลักดนั ให้สำมำรถทำงำนได้อยำ่ งมีควำมสุข 16. มคี วามภาคภมู ใิ จในตนเอง กลำ่ วคอื ผ้ใู หบ้ ริกำรสำมำรถทำงำนแลว้ เกิดผล สำเร็จของงำน ได้รับควำมรว่ มมอื ทด่ี ีมีควำมตง้ั ใจในกำรปฏบิ ตั งิ ำนและได้รับกำรไว้วำงใจ จำกองค์กร รจู้ ักพัฒนำตนใหไ้ ดร้ ับควำมก้ำวหน้ำจะเกิดควำมรู้สึกภำคภูมใิ จในตนเองท้ัง มวลนนั้ เป็นผลจำกกำรท่ีผู้ให้บริกำรน้ันมที ศั นคติท่ีดตี ่องำน ดงั นัน้ สรปุ ได้ว่ำ กำรทำงำนใดๆ ก็ตำมทพี่ นกั งำนมที ศั นคติท่ีดีต่องำนกจ็ ะส่งผลเชงิ บวกแกก่ ำรทำงำนนั้น ควำมรสู้ ึกทดี่ ีจะก่อใหเ้ กดิ ผลงำนท่ีดี ซ่ึงองค์กรส่วนใหญ่จงึ ต้องสรร หำบคุ ลำกรท่ีมที ศั นคตทิ ี่ดตี อ่ งำนก่อนเปน็ อนั ดบั แรกเสมอ เพรำะหมำยถึงประสทิ ธิผลที่ จะเกิดข้นึ จำกกำรทำงำนอย่ำงชดั เจน

จติ บรกิ ารของผ้ใู ห้บรกิ าร ควำมสำคญั ของจติ บริกำร (Service mind) “Service mind” หมำยถงึ “กำรมีจิตใจในกำรใหบ้ ริกำรที่ดี” พบว่ำมผี ใู้ ห้ควำมหมำยของคำวำ่ “Service mind” ไว้ หลำกหลำยแต่คล้ำยคลงึ กนั คือ กำรมจี ิตใจในกำรบรกิ ำรและได้นำควำมหมำยของอักษรในคำวำ่ Service mind มำเปน็ แนวทำง ในกำรกำหนดลักษณะของกำรเป็นผใู้ ห้บรกิ ำรทด่ี ี ดงั น้คี ือ คำว่ำ “Service” แยกอักษรและใสค่ วำมหมำยดังน้ี S = Smile แปลวำ่ ยิม้ แย้ม E = enthusiasm แปลว่ำ ควำมกระตือรอื ร้น R = rapidness แปลว่ำ ควำมรวดเรว็ ครบถว้ น มีคณุ ภำพ V = value แปลว่ำ มคี ุณค่ำ I = impression แปลว่ำ ควำมประทบั ใจ C = courtesy แปลวำ่ มคี วำมสภุ ำพอ่อนโยน E = endurance แปลวำ่ ควำมอดทน เกบ็ อำรมณ์ คำว่ำ “Mind” แยกอักษรและใส่ควำมหมำยดงั นี้ M = make believe แปลว่ำ มีควำมเชอ่ื I = insist แปลวำ่ ยืนยัน/ยอมรับ N = necessitate แปลว่ำ กำรใหค้ วำมสำคญั D = devote แปลวำ่ อทุ ิศตน

นอกจำกน้ี คำวำ่ Service Mind หรือ จติ ใจในกำรให้บรกิ ำร ยังหมำยควำมรวมถึง กำรบรกิ ำรทีด่ ี แกล่ ูกคำ้ หรือกำรทำให้ลกู คำ้ ได้รับควำม พึงพอใจ มีควำมสุขและได้รบั ผลประโยชนอ์ ย่ำงเต็มที่ ดังนั้น กำรใหบ้ ริกำรอยำ่ งดีน้นั มกั จะไดค้ วำมสำคญั กบั แนวทำงในกำรให้บริกำรสองแนวทำง ดงั นี้ - ประกำรแรก คือ ใหค้ วำมสำคัญกบั ลูกค้ำ ตำมคำพูดแนวปรชั ญำที่ว่ำ ลูกคำ้ เป็นผูถ้ กู เสมอกำรบริกำรท่ดี ีและมงุ่ ไปส่คู วำมเปน็ เลิศ ถือว่ำ ลูกค้ำเป็นคนพิเศษ ตอ้ งได้รับกำรเอำใจใส่ สอบถำมควำมตอ้ งกำร หำกลยุทธ์เพอ่ื สร้ำงควำมพงึ พอใจให้เสมอ หำกตอ้ งกำรใหบ้ รกิ ำรท่ีดตี อ้ งใหค้ วำมสะดวก - ประกำรทส่ี อง คือ กำรให้เกยี รติลกู ค้ำ ใช้วำจำไพเรำะ ให้คำแนะนำดว้ ยกำรยกยอ่ งลกู ค้ำตลอดเวลำ ไม่บงั คบั ขเู่ ขญ็ ให้ลกู คำ้ เกดิ ควำม เชอื่ ถือจำกพฤติกรรมของเรำผู้ใหบ้ ริกำรแล้วกลบั มำใช้บริกำรอีกครง้ั

การปฏบิ ตั งิ านดว้ ยจิตบรกิ าร กำรปฏบิ ตั งิ ำนด้วยจิตบริกำร (Service mind) สำมำรถส่งผลให้เกิดผลดี ต่ำงๆ ดงั ต่อไปน้ี 1) ผลดีตอ่ ลูกค้ามคี วามพงึ พอใจ มีดังน้ี 1.1) ลกู ค้ำเกิดควำมพงึ พอใจ ท่ไี ดร้ ับกำรบรกิ ำรนั้นๆ 1.2) ลกู ค้ำเกิดควำมรสู้ ึกท่ดี ตี อ่ ผใู้ หบ้ ริกำรและองคก์ ร เนือ่ งมำจำกควำม พอใจเปน็ หลกั 1.3) ลกู ค้ำได้รบั ควำมกำรอำนวยสะดวกจำกกำรใหบ้ รกิ ำร 1.4) ลกู ค้ำเกดิ ควำมประหยัดด้ำนเงินและเวลำ เนอื่ งจำกมีผชู้ ำนำญกำร ทำงำนให้ 1.5) ลกู ค้ำได้รบั คณุ ภำพของงำน จำกกำรใหบ้ ริกำรทีด่ ีเนือ่ งจำกควำมเตม็ ใจ ในกำรบรกิ ำร

2) ผลดตี อ่ องคก์ ร มดี งั นี้ 2.1) ผลกำรดำเนินงำนสำเร็จตำมเป้ำหมำยและวัตถปุ ระสงค์ คือ ควำมพงึ พอใจของ ลูกค้ำท่ีจะนำไปส่กู ำรตดั สินใจใชบ้ ริกำรซ้ำของลกู คำ้ เม่ือกำรใหบ้ ริกำร สำมำรถตอบสนองควำมต้องกำรของ ลกู คำ้ ไดเ้ ท่ำกับวัตถปุ ระสงคข์ องบริษัทน้นั ประสบควำมสำเรจ็ 2.2) สร้ำงชือ่ เสยี งและภำพลักษณท์ ีด่ ใี ห้องคก์ ร คือกำรไดช้ ื่อวำ่ เปน็ องค์กรแห่งกำรบริกำร ทำใหล้ ูกคำ้ เช่อื มน่ั ท่ีจะใชบ้ รกิ ำร 2.3) สร้ำงโอกำสในกำรเพม่ิ ยอดขำย เพรำะกำรให้บริกำรจำกใจ ผูป้ ฏบิ ตั งิ ำนจะมสี หี นำ้ ยม้ิ แย้มแจม่ ใส กลำยเปน็ ภำพลกั ษณ์ที่ดขี ององคก์ ร ผใู้ ช้บรกิ ำรเกิดควำม ไว้วำงใจ เช่อื มน่ั ในสนิ คำ้ และบริกำร

3) ผลดีตอ่ ตวั ผใู้ หบ้ ริการ มีดงั นี้ 1) เกิดควำมสำเรจ็ ในงำน กำรให้บริกำรด้วยควำมเตม็ ใจ สร้ำงควำมพงึ พอใจใหล้ ูกค้ำได้ ถอื เป็นควำมสำเรจ็ ตำมหนำ้ ทท่ี ไี่ ดร้ บั มอบหมำย 2) เกดิ ควำมภำคภูมิใจในตนเอง กำรให้บรกิ ำรลกู ค้ำจนได้รับควำมพงึ พอใจนน้ั สำมำรถ สง่ ผลให้เกิดควำมปลำบปลื้มใจใหแ้ ก่ผู้ให้บริกำรได้เช่นเดยี วกัน 3) รบั ควำมไวว้ ำงใจ กำรทำงำนดว้ ยใจ จะสำมำรถแสดงออกใหเ้ ห็นได้ โดยเฉพำะเพอื่ น ร่วมงำน ผ้บู ังคบั บญั ชำในองคก์ ร ท่ีอยใู่ กลช้ ดิ และปฏิบตั ิงำนร่วมกนั ดังน้ัน เมอ่ื ทำงำนดว้ ยใจ พนักงำนจะแสดงออกใหเ้ ห็นถึงควำมเต็มใจและตัง้ ใจในกำรทำงำน ดังนั้น พนกั งำนที่มีควำมมีใจ มกั จะไดร้ บั ควำมไว้วำงจำกเพื่อนร่วมงำนหรือผู้บงั คับบญั ชำเสมอ 4) ไดร้ บั รำงวลั หรือคำ่ ตอบแทนเพ่มิ กำรบรกิ ำรทีส่ ำมำรถสร้ำงควำมประทับใจให้ลูกคำ้ ได้ มกั จะมีรำยได้พิเศษทเี่ รยี กวำ่ เงนิ ทปิ (Tip) เปน็ เสมอื นรำงวลั และก ำลงั ใจในกำรใหบ้ ริกำร ลกู ค้ำใหด้ ตี อ่ ไป

มารยาทและจรรยาบรรณ ของผ้ใู หบ้ ริการ มารยาท หมำยถงึ หลักเกณฑ์หรอื แนวทำงในกำรประพฤติปฏบิ ัตติ นใหถ้ ูกตอ้ งและเหมำะสม มำรยำทเป็นควำมประพฤติอนั เปน็ ที่ยอมรับ ของทุกคนหรือคนส่วนใหญใ่ นสงั คม จรรยาบรรณ คือ ควำมประพฤติท่ถี ูกต้องและเหมำะสม หมำยถงึ ควำมประพฤตทิ ่ถี กู ต้องตำมครรลองคลองธรรมหรือควำมประพฤติท่ีมี ศีลธรรม มำรยำทและจรรยำบรรณของผู้ให้บริกำรแบง่ ออกเปน็ 4 ลกั ษณะ ดงั นี้

1. มารยาทและจรรยาบรรณของผู้ใหบ้ ริการต่อองคก์ ร ไดแ้ ก่ 1) ปฏบิ ตั ิงำนด้วยควำมรบั ผิดชอบต่อหนำ้ ที่ โดยถือประโยชน์ของบริษัทเปน็ สำคญั 2) ปฏบิ ตั ิหน้ำท่ดี ว้ ยควำมซอื่ สตั ย์สจุ ริตตอ่ องคก์ ร 3) รกั ษำผลประโยชนแ์ ละควำมลบั ขององคก์ ร 4) หลกี เล่ียงกำรกระทำในเรอ่ื งทีอ่ ำจกระทบกระเทือนต่อชื่อเสียงและกำรดำเนนิ งำนขององค์กร 5) ใชแ้ ละรักษำทรพั ย์สินของบรษิ ทั ให้เกดิ ประโยชนส์ งู สดุ และไม่นำไปใช้เพอ่ื ประโยชนส์ ว่ นตวั 6) ใช้ควำมรแู้ ละประสบกำรณ์ให้เกดิ ประโยชน์ต่อองคก์ ร ท้งั ในดำ้ นเทคโนโลยีและด้ำนกำรใหบ้ รกิ ำรท่เี ป็นเลิศ 7) ปฏบิ ัติตำมกฎ ระเบียบ ขอ้ บงั คบั ต่ำงๆ ของบรษิ ทั อยำ่ งเครง่ ครัด

2. มารยาทและจรรยาบรรณของผใู้ หบ้ ริการตอ่ ผู้ใชบ้ ริการ จรรยำบรรณของผใู้ ห้บริกำรควรมุ่งม่ันใหบ้ รกิ ำรแกล่ ูกคำ้ หรอื ผ้รู บั บริกำรให้ดีท่สี ดุ โดยกำรบรกิ ำรด้วยควำมซอื่ สตั ย์สจุ รติ และคมุ้ ค่ำตอ่ ผูร้ ับบรกิ ำร ดังน้ันกำรดำเนนิ งำนใดๆ ทเี่ กย่ี วข้องโดยตรงกบั ลูกคำ้ จึงมีควำมสำคญั อยำ่ งย่ิงเรือ่ งหนึง่ ซึง่ พนักงำนพึงปฏิบตั ดิ งั ต่อไปน้ี 1) ให้บริกำรแกผ่ ู้ใช้บรกิ ำรในระดับทีม่ คี วำมพึงพอใจสูงสุด 2) ใหบ้ รกิ ำรแกผ่ ู้ใช้บริกำรทกุ คน ทกุ กล่มุ ดว้ ยควำมเสมอภำคเทำ่ เทียมกัน 3) ใหบ้ ริกำรด้วยคุณภำพตำมเกณฑ์มำตรฐำนคุณภำพกำรบริกำร (Quality of Services) ขององคก์ ร 4) ใหข้ อ้ มูลและคำแนะนำแก่ลกู ค้ำอย่ำงถกู ตอ้ ง 5) เปดิ เผยข้อมูลขำ่ วสำรเกี่ยวกบั กำรใหบ้ ริกำรอยำ่ งครบถว้ นและถกู ต้อง 6) ไมเ่ อำรดั เอำเปรียบลูกค้ำหรือคำ้ กำไรเกนิ ควรเม่อื เทยี บกบั คณุ ภำพและบริกำร 7) ไม่นำควำมลับของลกู ค้ำมำเปดิ เผยหรือนำไปใช้ประโยชนใ์ นทำงทีผ่ ิด 8) จัดระบบบรกิ ำรลูกค้ำ ใหล้ กู คำ้ สำมำรถร้องเรียน ควำมไม่พอใจและดำเนินกำรตอบสนอง อย่ำงรวดเร็ว 9) รบั ฟงั ข้อคิดเหน็ หรือขอ้ เสนอแนะของผใู้ ช้บริกำรเปน็ ประจำสม่ำเสมอและนำมำปรบั ปรุง แก้ไขและพัฒนำ 10)แต่งกำยสะอำด ประณตี และแสดงออกอยำ่ งสุภำพเหมำะสมกับลักษณะของงำนและกำร ใหบ้ ริกำร

3. มารยาทและจรรยาบรรณของผใู้ ห้บริการตอ่ ตนเอง คือ 1) ศึกษำหำควำมรแู้ ละประสบกำรณ์เพื่อเพ่มิ ควำมรู้ ควำมสำมำรถในกำรปฏิบตั งิ ำนใหม้ ีประสิทธิภำพ 2) ประพฤติตนเหมำะสม ทั้งกริ ิยำมำรยำท กำรวำงตัวและกำรแตง่ กำยเพ่ือสรำ้ งควำม 3) ยึดมน่ั ในหลักของควำมถกู ต้องและเปน็ ธรรม ไมแ่ สวงหำประโยชน์โดยมิชอบ 4) ไม่ประพฤติตนในทำงที่อำจทำให้เส่อื มเสยี ชือ่ เสยี งของตนเองและองคก์ ร 5) ซอื่ สัตยส์ จุ รติ ทงั้ เรื่องส่วนตัวและหนำ้ ทก่ี ำรงำน 6) วำงตวั เปน็ กลำงทำงกำรเมือง โดยไมก่ ระทำกำรอันเปน็ กำรฝักใฝฝ่ ำ่ ยหนง่ึ ฝำ่ ยใด

4. มารยาทและจรรยาบรรณของผู้ใหบ้ ริการตอ่ สังคมและสง่ิ แวดล้อม ไดแ้ ก่ 1) ให้ควำมรว่ มมือกับกจิ กรรมของสังคมและชมุ ชน รว่ มอนุรักษ์ ทรัพยำกรธรรมชำติ สนบั สนนุ กจิ กรรมของสำธำรณประโยชน์ 2) ดำเนนิ งำนดว้ ยจติ ใจที่คำนึงถึงสำธำรณะ (Public Spirit) ควำม รบั ผิดชอบต่อสงั คมและ สิง่ แวดล้อม 3) ปฏบิ ัติตำมเจตนำรมณ์ของกฎหมำยดำ้ นกำรอนุรักษส์ ง่ิ แวดลอ้ ม อยำ่ งเคร่งครัด 4) ใหค้ วำมรว่ มมอื กับเจ้ำหน้ำทภ่ี ำครฐั ในกำรดำเนนิ งำนทเ่ี ป็น ประโยชนต์ อ่ สังคมและสิ่งแวดลอ้ ม 5) ยึดม่นั ในระบอบประชำธปิ ไตย



1. ขอ้ ใดคือคณุ สมบตั ิท่ีดีของพนกั งานบรกิ าร ก. หนา้ ตาดี ข. ชอบทางานอิสระ ค. มีศิลปะการพดู ท่ีดี ง. มีความเป็นตวั ของตวั เองสงู 2.เม่อื ตอ้ งเจอลกู คา้ เร่อื งมาก จจู้ ีแ้ ละเอาแตใ่ จ ผใู้ หบ้ รกิ ารควรใชค้ ณุ สมบตั ขิ อ้ ใดในการปฏิบตั ิงาน ก. ความอดทน ข. ความซ่ือสตั ย์ ค. มนษุ ยสมั พนั ธ์ ง. ปฎิภาณไหวพรบิ 3.“คณุ ลกั ษณะภายใน” ของผใู้ หบ้ รกิ ารหมายถึงขอ้ ใด ก. เขา้ ใจบคุ คลอ่ืน ข. ความกระตือรอื รน้ ค. ความสภุ าพออ่ นนอ้ ม ง. การแต่งกายสะอาดเรยี บรอ้ ย 4.ขอ้ ใดคือคณุ ลกั ษณะท่ดี ีในการปฏิบตั งิ าน “การทกั ทายและตอ้ นรบั ลกู คา้ ” ก. ความม่นั ใจในตนเอง ข. ความยิม้ แยม้ แจ่มใส ค. ความจ าดีและมีความรู้ ง. ความมนี ้ าใจและจรงิ ใจ

5.ความสาคญั ของการมคี ณุ ลกั ษณะท่ีดีของผใู้ หบ้ รกิ ารคือขอ้ ใด ก. ชว่ ยสรา้ งมลู คา่ เพ่มิ ใหก้ บั องคก์ ร ข. สรา้ งภาพลกั ษณท์ ่ีดีใหก้ บั องคก์ ร ค. สรา้ งความน่าเช่ือถือใหก้ บั ผใู้ ชบ้ รกิ าร ง. เป็นการวดั ระดบั งานของการใหบ้ รกิ าร 6.ทศั นคติมีความสาคญั อย่างไร ก. องคก์ รสามารถบรหิ ารงานไดง้ ่ายขนึ้ ข. ชว่ ยใหพ้ นกั งานมคี วามตระหนกั ในหนา้ ท่ี ค. ชว่ ยใหพ้ นกั งานมคี วามสามารถในงานมากขนึ้ ง. ช่วยประหยดั เวลาและงบประมาณในการอบรมพนกั งาน 7.ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ ปัจจยั ท่ีทาใหเ้ กิดทศั นคตขิ องบคุ คล ก. การเรยี นรู้ ข. ประสบการณ์ ค. การเลยี นแบบ ง. การอา่ นหนงั สอื 8.ขอ้ ใดคือความหมายของค าว่า “Service Mind” ก. การปลกู ฝังจติ สานกึ ในการบรกิ ารท่ีดี ข. การใหค้ วามรูด้ า้ นพฤตกิ รรมของลกู คา้ ค. การมอบหมายหนา้ ท่ีและตอ้ นรบั ลกู คา้ ง. ความตระหนกั ถึงความสาคญั ขององคก์ ร

9.ขอ้ ใดกลา่ วถกู ตอ้ งเก่ียวกบั Service Mind ก. ทาใหพ้ นกั งานสามารถแกไ้ ขปัญหาได้ ข. ทาใหพ้ นกั งานใหบ้ รกิ ารดว้ ยความเตม็ ใจ ค. เป็นการปฏิบตั ิตนตามบทบาทหนา้ ท่ีท่ีไดร้ บั มอบหมาย ง. ทาใหพ้ นกั งานสามารถปรบั ตวั ใหท้ นั ต่อการเปล่ยี นแปลง 10.เหตผุ ลสาคญั ท่ีพนกั งานควรมีมารยาทและจรรยาบรรณคือขอ้ ใด ก. เพ่ือเล่อื นตาแหน่ง ข. เพ่ือความสมั พนั ธอ์ นั ดี ค. เพ่ือใหอ้ งคก์ รมีภาพลกั ษณท์ ่ีดี ง. เพ่ือใชใ้ นการประเมนิ ผลการทางาน

สาระการเรียนรู้ 1. ประเภทของบารเ์ ทนเดอร์ 2. หนา้ ท่ีของบารเ์ ทนเดอร์ 3. หลกั การบรกิ ารท่ีดขี องบารเ์ ทนเดอร์

ประเภทของบารเ์ ทนเดอร์ แบง่ ได้เปน็ 2 ประเภท ประเภทท่ี 1 คือ คลาสสิค ( classic ) พบเจอได้ทุกๆทที่ ม่ี ีบำร์อปุ กรณส์ ำคัญคือท่ี ตวง หรือที่เรำคุ้นชื่อกนั คอื จ๊กิ เกอร์ น่นั เองปริมำณตอ้ งผ่ำนที่ตวง เสมอ เพื่อควำมสม่ำเสมอ ในมำตรฐำน ของเคร่อื งดื่มทุกแก้ว ทุกคร้งั ประเภทท่ี 2 คอื แฟลร์ (flair) ขอ้ สงั เกตงุ ำ่ ยๆเลย ตอ้ งมีกำรโยน อปุ กรณ์เคร่ืองมือ ขวด ทกุ อยำ่ งทีใ่ ช้ในกำรผสมเครือ่ งดื่มต้องฝกึ ฝนมำก เปน็ พิเศษ จนชำนำญ พบเจอได้นอ้ ย ค่ำตอบแทนสูงในเมืองไทย เกอื บจะไมม่ ี ให้เห็นในบำร์ แต่ตำมเวทปี ระกวด แข่งขนั จะพบเจอบอ่ ย ไม่ใชเ้ ครื่องตวง ทีเ่ รียกว่ำ จิ๊กเกอร์ jigger จะใชก้ ำรตวง ให้ไดป้ ริมำณดว้ ยกำร Free Pour ผ่ำนหวั pourer รำ่ งกำย ต้องแขง็ แรง มีวินยั ในกำรฝกึ ซอ้ มเป็นประจำ แฟลร์บำร์เทนเดอร์ flair bartender แบ่งได้เป็น 2 ประเภท Working flair กำรโชว์กำรทำเคร่ืองด่ืม ไม่มกี ำรจัดเตรียมไวล้ ่วงหน้ำ แขกส่ังเครื่องดื่ม บำร์เทนเดอร์จะโชวก์ ำรผสม แบบแฟร์ล จนเสรจ็ กบั อุปกรณ์ทเี่ กี่ยวขอ้ งกบั เคร่ืองดม่ื แกว้ น้ันๆดว้ ยทว่ งท่ำอนั นุ่มนวล หรอื ดุดัน แต่ต้องรวดเรว็ แม่นยำ สวยงำม Exhibition Flair กำรโชว์กำรทำเคร่ืองดมื่ ทีม่ ีกำรจดั เตรยี ม อุปกรณ์เคร่อื งมอื ทกุ อย่ำงไว้ลว่ งหนำ้ เพ่อื ควำมบันเทงิ อปุ กรณ์จะมำกกวำ่ working flair

หน้าทข่ี องบารเ์ ทนเดอร์ หน้ำทขี่ องบำร์เทนเดอร์ หรอื บำร์เมต มดี งั น้ี 1. ติดตำมเร่อื งคำส่งั และกำหนดกำรทแี่ นน่ อนของบำร์ จำกหวั หนำ้ บำรเ์ ทนเดอร์ หรือที่เรยี กว่ำ Supervisor 2. จัดหำสงิ่ ของสำหรับขำยและใชใ้ นบำร์ใหเ้ พียงพออยเู่ สมอ (ตำมท่ไี ด้กำหนดไว้ในรำยกำร) ได้แกเ่ ครื่องดื่มทั่วไป เหลำ้ ไวน์ นำ้ อัดลมต่ำงๆ และเบียร์ (เบยี รท์ อ้ งถนิ่ เบยี รน์ ำเขำ้ และเบยี ร์สด) 3. ควรเกบ็ และแชเ่ คร่ืองดม่ื ตำมรำยกำรข้ำงต้นใหเ้ พยี งพอทจี่ ะขำย 4. จดั หำของตำมรำยกำรท่ีตอ้ งกำรและกำหนดไว้สำหรับใช้ในกำรผสมเครื่องดื่ม เชน่ มะกอก เชอรร์ ่ี หวั หอมดองสำหรับค็อกเทล มะนำวฝำน นำ้ มะนำว นำ้ เช่ือม และอืน่ ๆ 5. จดั หำน้ำแข็ง แก้วสะอำด แกว้ คอ็ กเทล ผ้ำหรอื กระดำษเชด็ ปำก ไม้คนคอ็ กเทล กระดำษรองแกว้ หลอดและอื่นๆ 6. เครอ่ื งทำกำแฟ ถังแช่เย็น เครอื่ งทำเบียร์ เคร่อื งฉดี นำ้ อัดลม หำกเกดิ ควำมบกพรอ่ ง หรอื ถึงกำหนดกำรซอ่ มบำรุงจะต้องแจง้ ตอ่ หวั หนำ้ ผดู้ ูแลทันที 7. ดแู ลเรือ่ งควำมสะอำดของบำร์ พ้ืนทดี่ ้ำนหนำ้ และด้ำนหลังบำร์โดยรอบ

8. จดบนั ทกึ ส่งิ ของท่ีใช้เฉพำะท่ีอย่ใู นบำรซ์ ึง่ นำออกไปจำกหอ้ งเก็บของใหถ้ กู ต้อง ดว้ ยแบบฟอร์ม เอกสำรกำรเคล่ือนยำ้ ยภำยในบำร์ (Inter – Bar Transfer) โดยไม่รวมเอำของที่นำจำกสว่ นอื่นๆ ภำยใน โรงแรมมำไว้ด้วย 9. ทำรำยกำรเบกิ เครอื่ งดืม่ ประจำวันสำหรับห้องเก็บของ (Store Room) เครื่องด่มื ทง้ั หมดท่ีถูก เคลอ่ื นย้ำยระหว่ำงบำร์ตอ้ งบนั ทกึ ในใบเคลื่อนยำ้ ย (Inter – Bar Transfer) เครือ่ งดม่ื ท้งั ที่ขำยเป็นขวดและ แบง่ ขำยใหอ้ อกดว้ ยกำรใชใ้ บส่งั (Captain Order) 10. เคร่ืองดื่มทง้ั หมดทีถ่ ูกเสิร์ฟ ตอ้ งมีคณุ ภำพและปริมำณในกำรตวงวดั สว่ นผสมท่ถี กู ตอ้ ง เพื่อให้ลกู ค้ำ ไดด้ ืม่ เครอื่ งดืม่ ท่ตี นคุ้นเคยและได้มำตรฐำนทง้ั กำรทำและรสชำตขิ องค็อกเทลตำมตน้ ตำรับจรงิ ๆ 11. เครอ่ื งแบบจะต้องเรียบร้อยประณตี ตำมแบบฉบับของค่มู ือกำรทำงำนของพนกั งำน 12. ควรเขำ้ ร่วมในกำรประชุมบำรท์ ุกครง้ั

หลกั การบริการทดี่ ขี องบารเ์ ทนเดอร์ พนักงำนบำรเ์ ทนเดอร์ทด่ี ีจะตอ้ งมีหลกั กำรปฏบิ ตั ิ ดังนี้ 1. ทำงำนตรงตอ่ เวลำและทำงำนอย่ำงมีประสทิ ธิภำพ 2. สภุ ำพออ่ นโยนและเอำอกเอำใจลกู ค้ำ 3. ใบหน้ำจะต้องยิม้ แยม้ และทักทำยแขกดว้ ยควำมสภุ ำพ 4. บรกิ ำรรวดเรว็ และซอ่ื สตั ยก์ บั ลูกคำ้ 5. เชือ่ ฟังและปฏิบัตติ ำมกฎของสถำนบริกำรโดยเคร่งครัด 6. ใหค้ วำมรว่ มมอื และช่วยเหลือเพื่อนร่วมงำนอยำ่ งดี 7. กอ่ นทจ่ี ะปฏบิ ตั ิงำนจะต้องเช็คของและจดั หำเตรียมของท่จี ะขำยให้พรอ้ ม 8. จะตอ้ งทรำบช่ือเหลำ้ รำคำ วิธกี ำรผสมเหล้ำให้ถกู ต้องตำมรำคำเครือ่ งดื่ม 9. พยำยำมจำช่ือของลกู คำ้ ให้ได้ ลกู คำ้ จะภำคภูมิใจมำกหำกเรยี กชอ่ื เขำไดถ้ ูกต้อง 10. แนะนำลูกค้ำให้ดืม่ เหล้ำทีค่ ิดวำ่ เขำชอบ และอย่ำพยำยำมขนื ใจลูกคำ้ ให้ดื่มเหล้ำทเ่ี ขำไม่ชอบ 11. ห้ำมทะเลำะหรือมปี ำกเสยี งกับลูกค้ำ 12. ผสมเหลำ้ ตำมใจลกู คำ้ หรือตำมท่ีลกู ค้ำสัง่ 13. ให้ลกู ค้ำเลอื กทนี่ ง่ั ตำมสบำย และพยำยำมชวนคยุ กบั ลกู ค้ำท่มี ำคนเดยี ว เพอ่ื ให้เขำหำยเหงำ อยำ่ ให้เขำรู้สกึ ว่ำเขำถูก ทอดทิง้ ใหน้ ่งั อย่อู ย่ำงเดยี วดำย

14. พยำยำมอย่ำสนทนำเรอื่ งทลี่ กู คำ้ ไม่ชอบและเกลยี ดกลวั เปน็ อนั ขำด เพรำะจะทำใหก้ ำรด่ืมขำดรสชำติ ถ้ำเห็นลกู คำ้ เริ่มเมำแลว้ ก็ไม่ควรคะย้ันคะยอให้ ดื่มอีก ในกรณีทล่ี กู ค้ำเมำแล้วแตส่ ่งั เหล้ำมำดื่มอีก ไม่ควรใหแ้ ละควรปรกึ ษำกบั ผจู้ ัดกำรสถำนทีท่ นั ที 15. ถำ้ มสี ตรี คนสูงอำยุ สง่ั เครื่องดม่ื ควรบรกิ ำรให้ก่อนสุภำพบุรุษ 16. กำรต้งั ขวดเหลำ้ ทีบ่ รกิ ำรลูกคำ้ ควรหนั ตรำย่ีห้อเหล้ำให้อย่ตู รงหน้ำลูกคำ้ เพื่อให้ลูกค้ำเหน็ วำ่ เหลำ้ ทแี่ ขกส่ังมำดม่ื นั้นเปน็ ชนิดที่เขำต้องกำรหรือไม่ 17. ห้ำมสบู บหุ ร่ี รบั ประทำนอำหำร เค้ียวหมำกฝรั่งในบำร์ เพรำะเปน็ กำรไม่สุภำพและไม่นำ่ ดู 18. ไม่ควรผสมเหลำ้ ใกล้ๆลกู ค้ำ เพรำะนำ้ เหล้ำอำจกระฉอก หก หรือมีอบุ ตั ิเหตุเกดิ ขึน้ กับลูกค้ำได้ 19. ไม่ควรรนิ นำ้ หรือรินเหลำ้ ใหล้ กู ค้ำจนเต็มแกว้ เพรำะดไู ม่สวยงำม 20. ขณะผสมเหลำ้ ควรตงั้ โชวข์ วดเหลำ้ และตวงเหลำ้ สว่ นผสมในท่ีท่ีลกู ค้ำสำมำรถมองเห็น เพรำะกำรผสมเหลำ้ กำรเขยำ่ และทำ่ ทีของบำรเ์ ทนเดอร์เปน็ สว่ นหนึ่งท่ที ำให้รสชำตขิ องเหล้ำอรอ่ ยข้นึ 21. ไมค่ วรอำ่ นหนังสืออ่ำนเลน่ หนงั สือพิมพ์ หรือคยุ กบั เพ่อื นฝูงเสยี งดงั ตลอดจนหำ้ มหยอกลอ้ กันเล่นเปน็ อันขำด 22. ไม่หำวนอน ไมย่ นื ผงิ ผนงั ด้วยอำกำรแสดงวำ่ เหนอื่ ยหรอื เมอ่ื ย ต้องมีท่วงท่ำสภุ ำพองอำจ 23. ควำมสะอำดของพนักงำนบำร์ จะเรม่ิ ตัง้ แตห่ น้ำทีส่ ะอำด ผมหวเี รียบร้อย เสื้อผ้ำ ถงุ เทำ้ รองเทำ้ ตอ้ งสะอำด 24. หำ้ มใช้มอื จบั ปำกแก้วน้ำบริกำรลกู คำ้ ควรจับท่กี ้นหรือกำ้ นแก้ว และท่ีสำคญั คือ ควำมสะอำดของแกว้ 25. บำร์เทนเดอรต์ ้องจำใสใ่ จว่ำ มิใช่เพียงกำรใหบ้ รกิ ำรเครื่องดื่มแก่ลกู คำ้ เท่ำน้ัน แตบ่ ำรเ์ ทนเดอร์ยังเปน็ ผู้ขำยบริกำรอกี ดว้ ยดงั นั้น กำรบรกิ ำรทีด่ พี รอ้ ม ถึงพรอ้ มด้วยกำรตอ้ นรบั ที่ อบอ่นุ บรกิ ำรด้วยไมตรจี ิต จะทำใหล้ ูกค้ำตดิ ใจและกลับมำอดุ หนุนต่อไปในภำยหนำ้

หนว่ ยท่ี บารเ์ ทนเดอร์

1. บำรเ์ ทนเดอรแ์ บ่งเป็นกีป่ ระเภท ก. 2 ประเภท ข. 3 ประเภท ค. 4 ประเภท ง. 5 ประเภท 2. พนักงำนบำร์เทนเดอร์ท่ีดีจะต้องมีหลกั กำรปฏิบัตอิ ย่ำงไร ก. ควรรนิ น้ำหรือเหลำ้ ใหล้ กู ค้ำจนเต็มแกว้ ข. ทำงำนตรงตอ่ เวลำและทำงำนอยำ่ งมีประสทิ ธิภำพ ค. ควรผสมเหล้ำใกล้ๆลูกคำ้ ง. เลือกทน่ี ่ังให้ลกู คำ้ 3. หลกั กำรบริกำรท่ดี ีของบำเทนเดอร์คอื ข้อใด ก.สุภำพอ่อนโยนและเอำอกเอำใจลกู คำ้ ข.ทำใบหน้ำบงึ้ ตึงขณะบรกิ ำร ค.ผสมเหล้ำตำมใจตนเอง ง.เคยี้ วหมำกฝรง่ั ในบำรข์ ณะทำงำน 4.ข้อใดไมใ่ ชห่ นำ้ ทข่ี องบำร์เทนเดอร์ ก.ดูแลเร่ืองควำมสะอำดของบำร์และพื้นท่ีรอบๆของบำร์ ข.จดั หำสิง่ ของที่จะขำยภำยในบำรใ์ ห้เพยี งพออยเู่ สมอ ค.จดั หำนำ้ แขง็ แกว้ หลอด และอ่ืนๆเตรียมพร้อมไว้ ง.เตรียมห้องพกั สำหรับแขก

5.แฟลร์ บำรเ์ ทนเดอร์ แบ่งไดก้ ี่ประเภท ก.2 ประเภท ข.4ประเภท ค.1ประเภท ง.5ประเภท 6.ขอ้ ใดคอื หน้ำทีข่ องบำร์เทนเดอร์ ก.ทำอำหำรเพอ่ื รองรับลกู ค้ำ ข.ต้อนรบั ลกู คำ้ ขณะมำเชค็ อิน ค.เก็บและเเชส่ ิ่งของทจี่ ะขำยให้เพยี งพอ ง.เตรยี มหอ้ งพกั ใหล้ กู คำ้ 7.บำร์คลำสสคิ มอี ปุ กรณ์ทส่ี ำคัญคอื อะไร ก.แก้วนำ้ ข.จก๊ิ เกอร์ ค.บำรส์ ะพนู ง.ช้อน 8.บำร์แฟลร์มอี ุปกรณอ์ ะไรทใ่ี ชใ้ นกำรโยน ก.ขวด ข.แก้วน้ำ ค.เหยือกน้ำ ง.พชิ เชอร์

9. ข้อใดไม่ใชข่ ้อพงึ ระวงั ในกำรผสมและกำรเขย่ำเครอื่ งด่ืม ก.ปลอ่ ยใหม้ ที ่วี ำ่ งใน Shaker สำหรบั Shaking ข.เครอื่ งดืม่ ทเ่ี ป็นฟองควรเตมิ เป็นสง่ิ แรก ค.เม่ือตอ้ งใช้เคร่อื งดื่มทมี่ รี สชำตแิ รงเปน็ สว่ นผสม ควรตวงใหพ้ อดีหำ้ มเกินหำ้ มเดด็ ขำด ง.ใสส่ ่วนผสมที่ถกู ท่ีสุดลงไป เพอ่ื กนั ควำมผดิ พลำด 10. ข้อใดคือหนำ้ ที่ของพนักงำนบริกำรในบำรท์ ี่ตอ้ งทำเปน็ อนั ดบั แรก ก.Presenting the Drink List ข.Explaining Drinks ค.Assisting the Guest to make their Choices ง.Writing the Orders


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook