บทท่ี 2 สมดุลเคมี 2.1 คณุ ลกั ษณะของสมดลุ เคมี พิจารณาปฏกิ ริ ิยายอนกลับโดยพจิ ารณาทอ่ี ณุ หภูมิคงที่ aA + bB ⇔ cC + dD (2.1) โดยสารต้งั ตน A ทาํ ปฏิกิรยิ ากับ B ทาํ ใหเ กิดผลผลติ C และ D การเกดิ ปฏกิ ริ ยิ านจ้ี าํ นวนโมล a ของสาร A รวมตวั กับจาํ นวนโมล b ของสาร B ทาํ ใหเ กดิ จาํ นวนโมล c ของสาร C และจาํ นวน โมล ของ d ของสาร D การทําปฏกิ ิรยิ าของสมการขา งตน ถาเติมสาร A และ B ในภาชนะท่ีทําใหเกดิ ปฏกิ ริ ยิ า ผล ทาํ ใหค วามเขม ขนของ A และสาร B ลดลงจนกระท่งั คา การเปล่ยี นแปลงของความเขม ขนไม เปล่ยี นกบั ฟง กช นั ของเวลา ในขณะเดยี วกนั ความเขม ขนของ C และ D เพิ่มข้ึนจากศนู ยจ นกระทั่ง ไดค า คงทท่ี ่ไี มเ ปล่ยี นกบั เวลา ถา มองยอนกลับในเติมสาร C และ D ทําใหเ กิดปฏกิ ิรยิ าทาํ ใหเ กดิ สาร A และ B จนคา ความเขม ขนไมเ ปลย่ี นตามฟง กช นั ของเวลา สงผลใหคาความเขมขนของสาร A, B, C, และ D จะมีคา คงท่ี โดยการเกดิ ปฏกิ ิริยา ณ สภาวะสมดลุ หลังการเกดิ ปฏกิ ิริยา คาคงท่ี ของสมการสมดลุ เคมี, K สามารถคาํ นวณไดด งั นี้ K = [C]c [D]d (2.2) [ A]a [B]b โดยท่ีหนว ยความเขม ขน [ ] โมลตอลติ ร (γi = 1) จากสมการขา งตน สามารถคํานวณหาสมการไปขางหนา (forward) หรือจากซายไปขวา กบั สมการยอนกลับ (reverse) หรอื จากขวาไปซาย โดยใชอ ตั ราสวนของความเขมขนของสารที่ เปนผลผลติ ตอ สารปฏกิ ิรยิ าตั้งตน ถกู กาํ หนดโดยคา K ทม่ี คี า คงท่ี โดยอตั ราการเกดิ ปฏิกิริยาไป ขา งหนา เรยี กวา Vf เทา กับปฏิกิริยายอ นกลบั Vr อตั ราการเกดิ ปฏิกิรยิ าไปขา งหนา สามารถเขยี น เปนสมการไดด งั น้ี V f = k1[ A]a [B]b (2.3) อตั ราการเกดิ ปฏกิ ริ ิยายอ นกลบั ดังน้ี Vr = k2[C]c [D]d (2.4) แตยงั ไมม ปี ฏิกริ ยิ ายอ นกลับ ในชว งตน ของการทําปฏกิ ริ ิยาจะมปี ฏิกริ ิยาไปขา งหนา เนอื่ งจากยงั ไมม ีการเกิดสาร C และ D หลงั จากสารตั้งตน A และ B ทาํ ปฏกิ ริ ยิ าจนเกิดสาร C และ D จะสงผลใหเกิดปฏกิ ริ ยิ ายอนกลบั A และ B ดังนั้นอัตราการเกิดปฏิกริ ยิ าไปขา งหนา และ ยอ นกลับมีคา เทา กนั ดังน้ี V f = Vr (2.5) 1
ดงั นั้น k1[ A]a [B]b = k2[C]c [D]d (2.6) [C]c [D]d = k1 =K (2.7) [ A]a [B]b k2 สมการขางตน เปน สมการคา คงท่ีของสมดลุ เคมโี ดยคาํ นวณจากอตั ราการเกดิ ปฏิกิรยิ า ระหวา งอัตราการเกดิ ปฏิกริ ยิ าไปขางหนาและปฏิกิริยายอ นกลับ 2.2 เทอรโมไดนามกิ สของสมดุลเคมี สมการสว นใหญท ี่ปรากฏในสมการเคมเี ปน ระบบปด โดยการพิจารณาที่อณุ หภูมแิ ละ ความดันคงที่ สมการท่ีใชส ําหรับเทอรโ มไดนามิกสของสมดลุ เคมีมีดังน้ี G = H −TS (2.8) โดยที่ G เทา กับ พลงั งานอสิ ระทง้ั หมด หรือ Gibbs free energy [kcal] T เทากับ อุณหภมู สิ มบูรณ [ oK] S เทากับ แอลโทรป (entropy) [kcal/ oK] H เทากับ แอลแทลป(enthalpy) [kcal] แอลแทลป( enthalpy) [kcal] คอื ความจทุ งั้ หมดของพลังงานของสาร สําหรบั free energy คอื เปนสว นหนึง่ ของพลังงานท้ังหมดท่กี อ ใหเ กดิ งานทเี่ ปนประโยชนม ากกวาพลงั งานทไ่ี ด จากความสัมพนั ธระหวา งความดนั และปรมิ าตร แอลโทรปใ ชอ ธบิ ายถึงขั้นในระบบ เชนโครงสรา ง ของวัตถทุ เ่ี รียงตัวอยางเปน ระเบียบจะมคี า แอลโทรปต า่ํ แตโครงสรางท่ีมกี ารจดั เรียงตวั กระจดั กระจายเชน กา ซจะมคี า แอลโทรปสงู ผลของ TS จะเปน สว นหนง่ึ ของพลงั งานทงั้ หมดทไ่ี มม ไี ว สําหรับงานทเ่ี ปน ประโยชน สาํ หรับระบบปดท่ีความดนั และอุณหภมู คิ งท่ี ทส่ี ภาวะสมดลุ คา พลงั งานอสิ ระทงั้ หมด (GT) จะใหค า ต่ําสุด ใหพจิ ารณาสมการยอ นกลบั ดังนี้ aA + bB ⇔ cC + dD ในกรณีท่ีเติมสาร A และ B ในภาชนะทที่ ําใหเ กิดปฏกิ ริ ิยาและคาํ นวณคา พลงั งานอิสระ ทงั้ หมด (GT) ของระบบกบั ฟงกชนั ของปฏิกริ ิยาในขณะทีป่ ฏิกริ ิยากําลังดําเนนิ ไป ผลของคา พลังงานอิสระทัง้ หมดเทากับผลรวมของพลงั งานอสิ ระของแตล ะสารทีเ่ กดิ ปฏิกริ ิยา จากสมการ ขา งตน กําหนดให nA, nB, nC, และ nD แทนจํานวนโมลของ A, B, C, และ D ขณะท่ี GA, GB, GC, และ GD แทนพลังงานอิสระตอ จํานวนโมลของแตล ะสาร ดงั นั้นพลงั งานอสิ ระทงั้ หมดเทากบั GT = nAGA + nBGB + nC GC + nDGD (2.9) 2
กราฟขางลา งแสดงการเกดิ ปฏกิ ริ ิยาของสมการ 2.1 จะเหน็ ไดว าคาพลงั งานอสิ ระทัง้ หมด (GT) จะใหคา ตาํ่ สุดท่ีสภาวะสมดลุ ของสมการ โดยท่สี ภาวะสมดลุ ไดคา ความสมั พันธด งั น้ี 1. dT = 0 (อณุ หภมู คิ งที)่ 2. dP = 0 (ความดันคงท)ี่ 3. dG = 0 (GT จะใหคา ตา่ํ สุด ดังแสดงในกราฟขางลา ง) Only reactants A and B Only products C and D present present Total free energy (GT) Minimum GT reaction at equilibrium Extent of reaction รปู ที่ 2.1 พลงั งานอิสระทงั้ หมด หรือ Gibbs free energy ของสมการปฏิกริ ยิ าสมการ aA + bB ⇔ cC + dD สารเริ่มตนของ A และ B แสดงในดานซายมือสุด สว นสารที่เกดิ ผลคือ C และ D แสดงในดา นขวามือสุด จากกราฟขางตนขณะท่ีปฏกิ ิริยาดาํ เนนิ ไปคา อตั ราการเปลย่ี นของ GT จะเปน สัดสว นกบั คา ∆G ดงั นนั้ ∑ ∑∆G = ( viGi ) products − ( viGi ) reac tan ts (2.10) ii โดย vi เทา กบั คาสัมประสิทธ์ิของแตล ะสาร (เชน a, b, c, และ d) สวนคา Gi เทากบั คาพลงั งาน อิสระตอโมล ขอ สรุปท่ไี ดม ีดังนี้ 1. ∆G มคี า นอ ยกวา 0 โดย ∆G มีคาเปนลบ สว นคา G ลดลงในขณะท่ปี ฏิกิรยิ ากําลังดาํ เนินไป ขา งหนา (จากซายไปขวา) 3
2. ∆G มคี า มากกวา 0 โดย ∆G เปนบวก สว นคา G เพ่มิ ข้ึนในขณะท่ีปฏกิ ริ ยิ ากําลังดําเนินไป ขางหนา (จากซายไปขวา) อยา งไรกต็ ามการเกิดปฏกิ ริ ยิ าอาจเกดิ ไดใ นทิศทางตรงกนั ขา ม 3. ∆G มีคา เทากับ 0 (GT จะใหค าตาํ่ สดุ ) สมการของปฏกิ ริ ยิ าอยูในสภาวะสมดลุ และจะไม เกดิ ปฏกิ ริ ิยาในแตล ะทศิ ทาง การคํานวณคา ∆G สาํ หรบั การเกดิ ปฏิกริ ยิ าสามารถใชใ นการทาํ นายความเปน ไปไดข อง การเกิดปฏกิ ิรยิ า ในการคาํ นวณคา ∆G สาํ หรบั สมการสามารถเขยี นอยใู นรูปโดยทว่ั ไปดังน้ี ∆G = ∆G o + RT ln {C}c {D}d (2.11) { A}a {B}b โดยท่ี viGio ) products − ( v G )o (2.12) ∑ ∑∆Go = ( i i reac tan ts ii { } คอื คา สมั ประสิทธข์ิ องแอคทวิ ิตี้ (activity coefficient) ∆Gi o คอื คาพลังงานอิสระตอโมลของสาร i ท่ีอณุ หภูมิ 25 oC และที่ 1 ความดันบรรยากาศ จากสมการ ∆G สามารถคาํ นวณไดจ าก ∆Gi o ท่มี คี ามาตรฐานทอ่ี ุณหภูมิ 25 oC และท่ี 1 ความดนั บรรยากาศ โดยคา ∆Gi o ถกู เรยี กวาคา standard free energy per mole of species i ตารางที่ 2 .1 แสดงคาคงที่สาํ หรบั การคํานวณทางเทอรโ มไดนามกิ ส ตวั อยางการเกดิ ปฏิกิรยิ าทางเคมีของสมการแคลไซท (CaCO3(s)) จากการรวมตัวของ คารบอน แคลเซียม และออกซิเจน โดยมสี มการและคาพลงั งานอิสระดงั น้ี C +graphite 3 O2( g ) + Ca( s ) → CaCO3(s) ; ∆Gf o = -269.78 kcal/mole (2.13) 2 คา ∆Gf o มคี าเปน ลบเนื่องจากผลของพลงั งานท่ีปลอ ย สามารถแยกแคลไซทจํานวนหนงึ่ โมลเพือ่ ใหไ ดห นึ่งโมลของแคลเซียม หนง่ึ โมลของแกรไฟต และหนงึ่ โมลครง่ึ ของออกซิเจน โดย ใชพ ลงั งานเทา กบั +269.78 kcal/mole ของพลังงานอิสระ การเกิดการละลายของแคลไซทท ําไดในสภาวะทีเ่ ปนกรด (H+) เพอ่ื ใหเ กิดแคลเซยี ม และไบคารบอเนตไอออน CaCO3(s) + H + → Ca2+ + HCO3− (2.14) จากสมการขางตน สามารถคาํ นวณความเปน ไปไดของการเกิดสมการไดด งั น้ี CaCO3( s ) → Ca + C+ 3 O( g ) ∆Gf o = +269.78 kcal/mole 2 ∆Gf o = 0 kcal/mole H+ → H+ ∆Gf o = -132.18 kcal/mole ∆Gf o = -140.31 kcal/mole Ca → Ca2+ ∆Gf o = -2.71 kcal/mole (2.15) H+ + C + 3 O2( g ) → HCO3− 2 CaCO3(s) + H + → Ca2+ + HCO3− 4
ตารางที่ 2.1 คา คงทสี่ ําหรับเทอรโมไดนามิกส Species ∆Hfo (kcal/mole) ∆Gfo (kcal/mole) Ca2+(aq) -129.77 -132.18 CaCO3(s), calcite -288.45 -269.78 CaO(s) -151.9 -144.4 C(s), graphite 0 0 CO2(g) -94.05 -94.26 CO2(aq) -98.69 -92.31 CH4(g) -17.889 -12.140 H2CO3(aq) -167.0 -149.00 HCO3−(aq) -165.18 -140.31 CO32− -161.63 -126.22 CH3COO-, acetate -116.84 -89.0 H+(aq) 0 0 0 0 H2(g) -21.0 -20.30 Fe2+(aq) -11.4 -2.52 Fe3+(aq) -197.0 -166.0 Fe(OH)3(s) Mn2+(aq) -53.3 -54.4 MnO2(s) -124.2 -111.1 Mg2+(aq) -110.41 -108.99 Mg(OH)2(s) -221.00 -199.27 NO3−(aq) -49.372 -26.43 NH3(g) -11.04 -3.976 NH3(aq) -19.32 -6.37 NH4+(aq) -31.74 -19.00 HNO3(aq) -49.372 -26.41 O2(aq) -3.9 3.93 O2(g) 0 0 OH−(aq) H2O(g) -54.957 -37.595 H2O(l) -57.7979 -54.6357 SO42−(aq) -68.3174 -56.690 HS−(aq) -216.90 -177.34 H2S(g) H2S(aq) -4.22 3.01 -4.815 -7.892 -9.4 -6.54 แหลง ที่มา: The list of R. M. Garrels and C. L. Christ, Solutions, Minerals, and Equilibria, Harper & Row, NY, 1965; and Handbook of Chemistry and Physics, Chemical Rubber Publishing Company, Cleveland, Ohio. 5
การคํานวณการเปล่ยี นแปลงของ ∆G o ของสมการการเกดิ ปฏกิ ริ ิยา สามารถเขยี นใหอ ยูในรูปทีง่ า ย ดงั นี้ ∑ ∑∆Go = ( vi ∆G o ,i ) − ( vi ∆G o )reac tan (2.16) f products f ,i ts ii โดยท่ี vi คอื คา สัมประสทิ ธิข์ องแตละสาร ดงั นนั้ การคํานวณการเปลีย่ นแปลงของ ∆G o ในสมการ ที่ 2.14 สามารถคาํ นวณไดด งั น้ี ∆G o = ∆G o + ∆G o − ∆G o , H + − ∆G o (2.17) f , HCO3− f ,Ca 2+ f f ,CaCO3 การคํานวณคา พลังงานอิสระของสารหน่ึงๆ สามารถสรา งความสมั พนั ธก ับคามาตราฐาน ของพลงั งานอสิ ระดังนี้ ∆Gi = ∆G o ,i + RT ln{i} (2.18) f โดยท่ี Gi เทากับคา พลงั งานอิสระตอโมลของสารหนงึ่ ท่ไี มใ ชไ ดจ าการคํานวณจากคา มาตราฐาน {i} เทา กับความเขม ขน ของชนดิ สาร = γi[i] การใชค าสัมประสทิ ธ์ิของแอคทวิ ิตี้ มีขอ สังเกตดงั นี้ 1. สําหรับไอออนและโมเลกลุ ในสารละลาย ความเขมขน ของชนดิ สาร {i} มีคา เทากบั ความเขมขน แบบโมลาร [i] ซ่งึ โดยท่ัวไปสารละลายท่ีเจอื จางมากคา สมั ประสทิ ธ์ิของแอคทวิ ติ ้ี (γi) มีคาเทากบั หนงึ่ ดังน้ัน {i} = γi[i] 2. สําหรับตวั ทาํ ละลายในสารละลาย ความเขมขน ของชนดิ สารเทา กับ {i} = γi[Xi] โดย ท่ี Xi เทา กบั สดั สวนของโมล ในขณะทสี่ ารละลายเจอื จางมากคาสัมประสิทธข์ิ องแอคทวิ ิต้ี (γi) มี คา เทากับหนง่ึ 3. สาํ หรบั ของแขง็ บรสิ ุทธ์แิ ละของเหลวในสภาวะสมดุลในสารละลาย ความเขม ขน ของ ชนิดสาร {i} เทา กับ 1 4. สาํ หรบั กา ซทส่ี ภาวะสมดลุ ความเขมขน ของชนดิ สารเทากบั {i} = γiPi โดยท่ี Pi คอื ความดันของกา ซในบรรยากาศ เมื่อปฏกิ ิริยาเกดิ ข้นึ ในความดันบรรยากาศ คา {i}ของกา ซมคี า เขา ใกล Pi 5. สําหรับสารของเหลวผสม {i} = [Xi] โดยท่ีคา Xi เทา กับสดั สว นของโมล จากสมการ 2.15 มีดงั นี้ CaCO3(s) + H + → Ca2+ + HCO3− สามารถคาํ นวณ ∆G ไดด ังนี้ ∆G = ∆G o + RT ln{HCO3−} + ∆G o + RT ln{Ca2+} (2.19) f , HCO3− f ,Ca 2+ − ∆G o , H + − RT ln{H +} − ∆G o ,CaCO3 − RT ln{CaCO3} f f จดั รูปของสมการไดด งั น้ี 6
∆G = ∆G o + ∆G o − ∆G o , H + − ∆Go + RT ln{HCO3−} (2.20) f , HCO3− f ,Ca 2+ f f ,CaCO3 (2.21) + RT ln{Ca2+} − RT ln{H +} − RT ln{CaCO3} กําหนดให ∆G o = ∆G o + ∆G o − ∆G o ,H + − ∆G o ,CaCO3 f ,HCO3− f ,Ca2+ f f ตวั อยางที่ 1 ใหใชขอ มลู จากเทอรโ มไดนามกิ สใ นตารางที่ 2.1 คาํ นวณ ∆Go จากสมการขา งลา ง นี้ CaCO3(s) + H + ⇔ HCO3− + Ca2+ คา ∆Go สามารถคาํ นวณไดดังนี้ ∆G o ∆G + ∆G − ∆G − ∆Go o f ,HCO3− f ,H + = o o f ,Ca2+ f ,CaCO3( s ) จากตารางท่ี 2.1 แทนคาในสมการขางตน ไดดงั นี้ ∆Go = −140.31 + (−132.18) − (−269.78) − (−0) = − 2.71 kcal / mole ∆Go = −11.38 kJ / mole การรวมสมการท้ังหมดใหอ ยูในรปู ท่ีงา ยไดดังน้ี ∆G = ∆G o + RT ln {HCO3− }{Ca 2 + } (2.22) {H +}{CaCO3(s)} สําหรับสารละลายทเ่ี จอื จาง คาความเขม ขน ของของแขง็ บรสิ ุทธิม์ ีคา เทากบั 1 หรอื {CaCO3(s)} = 1 ดงั นน้ั ∆G o {HCO3−}{Ca 2 + } (2.23) {H +} ∆G = + RT ln จากสมการ 2.15 กาํ หนดให Q เทากับสดั สวนของความเขมขน ของ Products ตอ ความ เขมขน ของ Reactants ซง่ึ มีคา ไมเ ทา กับคาคงท่ที ี่สมดลุ (K) ยกเวน ท่สี ภาวะสมดลุ Q เทา กับ K โดยที่คา Q สามารถคาํ นวณไดด งั น้ี Q = {HCO3− }{Ca 2 + } (2.24) {H +}{CaCO3(s)} สาํ หรบั สารละลายท่ีเจอื จาง Q = [HCO3− ][Ca2+ ] [H +] จากสมการ 2.1 ซง่ึ เปนสมการโดยทั่วไปของการเกดิ ปฏกิ ริ ิยาทางเคมี aA + bB ⇔ cC + dD คํานวณคา Q ไดดังน้ี Q = {C}c{D}d (2.25) {A}a{B}b 7
สําหรับสารละลายทเี่ จอื จาง Q = [C ]c [ D]d [ A]a[B]b ตวั อยางที่ 2 คาํ นวณหาคา Q จากสมการดังตอไปนี้ 1. 2H + + CaCO3(s) ⇔ Ca2+ + CO2(g) + H2O Q1 = {Ca 2+ }PCO2 {H 2O} = {Ca 2+ }PCO2 {H + }2{CaCO3(s) } {H + }2 ณ สภาวะสมดลุ K เทากับ Q ดังน้ัน K1 = Q1 = {Ca 2+ }PCO2 {H + }2 2. Ca2+ + CO2(g) + H2O ⇔ 2H + + CaCO3(s) Q1 = {H + }2{CaCO3(s) } {H + }2 {Ca 2+ }PCO2 {H 2O} = {Ca 2+ }PCO2 ณ สภาวะสมดลุ K เทา กับ Q ดังน้นั K2 = Q2 = {H +}2 {Ca 2 + }PCO2 สาํ หรบั การคํานวณ ∆G ทาํ ไดดังน้ี ∆G = ∆Go + RT ln Q (2.26) ถาระบบอยูใ นสภาวะสมดุล และคา∆G เทา กบั 0 ดังนน้ั ∆Go = − RT ln K (2.27) แทนคา สมการ 2.27 ในสมการท่ี 2.26 ∆G = − RT ln K + RT ln Q = RT ln Q (2.28) K โดยท่ี คา Q เปนตัวแสดงถงึ เคร่ืองหมายของสมการดังนี้ K 1. ถา Q มีคามากกวา 1 หรือ (Q > K) คา ∆G เปนบวกและไมเ กดิ ปฏิกริ ยิ าตามท่เี ขียนไว K อาจเกดิ ปฏิกริ ยิ ายอ นกลับ 2. ถา Q มีคาเทากับ 1 หรือ (Q = K) คา ∆G เปนศูนยแ ละสมการอยใู นสภาวะสมดุลทางเคมี K 3. ถา Q มคี านอ ยกวา 1 หรอื (Q < K) คา ∆G เปน ลบและสมการเกิดขึน้ จากซา ยไปขวา K ตามทเ่ี ขียนไว 8
จากสมการ 2.27 สามารถคํานวณหาคาคงท่ขี องสมการไดดังนี้ K = exp (− ∆G o ) โดยท่ี ∆G เทากบั 0 (2.29) RT ความสาํ คัญของคามาตรฐานของพลงั งานอิสระ (∆Go) คอื สามารถสรา งสมการอ่ืนขึ้นได จาการรวมตวั กนั ระหวา งสองสมการ เชนตวั อยา งการรวมตวั กันของสองสมการดงั น้ี CaCO3(s) ⇔ Ca2+ + CO32− ; ∆Go = + 11.38 kcal CO32− + H + ⇔ HCO3− ; ∆Go = − 14.09 kcal ดงั นน้ั CaCO3(s) + H + ⇔ Ca2+ + HCO3− ; ∆Go = + 11.38 − 14.09 = − 2.71 kcal ตัวอยา งท่ี 3 1. หาคา คงท่ีของสมการสมดลุ สําหรับการแตกตวั ปฏิกริ ยิ าของน้ําท่ีอณุ หภมู ิ 25 oC H2O ⇔ H + + OH − 2. ปฏิกริ ิยานี้เกิดขึ้นจากซา ยไปขวาตามสมการขา งตนหรอื ไม เม่อื [H+] = 10−4 M และ [OH−] = 5×10−7 M 1. จากตาราง 2.1 ∆G o (kcal / mole) f H 2O(l ) = − 56.69 H+ =0 ( aq ) OH − ) = − 37.60 ( aq จากสมการการแตกตวั ของนาํ้ ; H2O ⇔ H + + OH − ∑ ∑∆Go = ( vi ∆G o ,i ) − ( vi ∆G o ,i ) reac tan ts f products f ii ∆G o = ∆G o , H + + ∆G o − ∆G o ,H 2O f f ,OH − f ∆Go = (1) ⋅ 0 + (1) ⋅ (−37.6) − (1) ⋅ (−56.69) = 19.09 kcal ณ สภาวะสมดลุ Q = K; ∆Go = − RT ln K ln K = ( − ∆Go ) RT K = exp − 19.09 × 4.18 kJ / mole K = 1.03 ×10−14 8.314×10−3 kJ / mole.K × 298 สาํ หรบั สารละลายท่ีเจอื จางคา คงท่ีของสมการสมดลุ สามารถเขยี นไดดงั นี้ Kw = [H + ][OH − ] 9
2. จากสมการ ∆G = ∆Go + RT ln[OH − ][H + ] ∆G = 19.09 kcal / mole + 8.314 ×10−3 kcal / mole.K × 298 K × ln[(5×10−7 ) × (10−4 )] 4.18 ∆G = + 5.03 kcal / mole เน่ืองจาก ∆G > 0 ดังน้นั ปฏกิ ริ ิยานไ้ี มเกดิ ไดต ามสมการทีเ่ ขยี นไว แตสามารถเกิดข้นึ ในทิศ ตรงกันขา ม สามารถคาํ นวณไดอกี วิธคี อื ∆G = RT ln Q K Q = [H + ][OH − ] = (10−4 ) ⋅ (5 ×10−7 ) = 5 ×10−11 ดงั น้ัน Q = 5 ×10−11 = 5000 >1 K 1 × 10−14 Q >1 ทาํ ให ∆G มคี า เปนบวก ดังนั้นสมการไมสามารถเกิดขนึ้ ไดด ังท่ีไดเ ขยี นไว K ตัวอยา งที่ 4 กําหนดสมการ H 2CO3(aq) ⇔ H + + HCO3−( aq ) พจิ ารณาทอี่ ุณหภมู ิ 25 oC aq ใหห าคาคงที่ของสมการสมดุลน้ี จากตาราง 2.1 ∆G o (kcal / mole) f H 2CO3(aq) = − 149.00 H+ =0 ( aq ) HCO3−(aq) = − 140.31 ∑ ∑∆Go = ( vi ∆G o ) − ( vi ∆G o )reac tan f ,i products f ,i ts ii ∆G o = 1 × ∆G o , H + + 1× ∆G o −1× ∆G o f f ,HCO3− f ,H 2CO3( aq ) ∆G o = 1× (0) + 1× (−140.31) −1× (−149.0) = 8.69 kcal ∆G o = − RT ln K ln K = (− 1.98 ×10−3 8.69 kcal × 298 K ) kcal / mole.K K = exp (− 1.98 ×10−3 8.69 kcal × 298 K ) = 4.01 × 10 −7 kcal / mole.K K= 4.01 × 10 −7 = [H + ][CO32− ] [H 2CO3 ] 10
ตัวอยา งที่ 5 คาํ นวณคา คงทีข่ องสมการสมดุลทีอ่ ุณหภมู ิ 25 oC 2Fe2+ + 1 O2( g ) + 5H2O ⇔ 2Fe(OH )3(s) + 4H + 2 จากตารางที่ 2.1 ∆G o (kcal / mole) f Fe2+ = − 20.3 O2( g ) = 0 H2O(l) = − 56.69 Fe(OH )3(s) = − 166.0 H+ = 0 ( aq ) ∑ ∑∆Go = ( vi ∆G o ,i ) −( vi ∆G o ,i ) reac tan f products f ts ii ∆G o = 4 × ∆G o , H + + 2 × ∆Go − 2 × ∆G o , Fe 2+ − 1 × ∆G o ,O2 − 5 × ∆G o , H 2O f f , Fe(OH )3( s ) f 2 f f ∆G o = 4× (0) + 2× (−166.0) − 2× (−20.3) − 1 × (0) − 5× (−56.69) 2 ∆Go = − 7.95 kcal / mole ทส่ี ภาวะสมดลุ ∆Go = − RT ln K ln K = (− ∆G o ) RT K = exp(− ∆Go ) RT K = exp− (−7.95 kcal / mole) K 1.98×10−3 kcal / mole.K × 298 K = 7.1×10−5 = 105.85 โดยที่ K = Q = [H + ]4 at equilibrium condition P1 2 [ Fe 2+ ]2 O2 ตัวอยางท่ี 6 พจิ ารณาสมการการออกซไิ ดซซลั ไฟดใ นนาํ้ ธรรมชาตกิ บั ไนเตรต (NO3-) ความเขม ขน ของสารแตละตัวเทา กับ 10−4 โมลตอลติ ร คาพเี อชเทา กบั 8 ([H+]) = 10−8 M) สมมุติคา 11
สมั ประสทิ ธ์ขิ องแอคทวิ ิตีข้ องแตละชนดิ เทา กับหนึง่ ใหห าวา สมการขางลางนสี้ ามารถเกิดขึน้ ได ตามสมการท่เี ขียนไวหรอื ไม H + + NO3− + HS − + H2O ⇔ SO42− + NH + nitrate bisulfide 4 จากตารางที่ 2.1 sulfate ammonia ∆G o (kcal / mole) f H 2O(l) = − 56.69 H+ = 0 NO3−( aq ) = − 26.43 HS(−aq) = + 3.01 = −177.34 SO42− = −19 NH + ) 4 ( aq ∑ ∑∆Go = ( vi ∆G o ) − ( vi ∆G o )reac tan f ,i products f ,i ts ii ∆G o = 1× ∆G o ,SO42− + 1× ∆G o f ,NH + − 1× ∆G o ,H + − 1× ∆G o , NO3− − 1× ∆G o ,HS − − 1× ∆G o ,H 2O f 4 f f f f ∆Go = (−177.34 − 19) − ( − 26.43 + 3.01− 56.69) ∆Go = −116.23 kcal / mole จากสมการ ∆G = ∆Go + RT lnQ = ∆Go ln [SO42 − ][ NH + ] 4 ∆G + RT [ H + ][NO3− ][HS − ] ความเขมขนของสารแตล ะตัวเทากับ 10−4 M คา; [H+] = 10−8 M ∆G = −116.23 + 1.98 × 10− 3 × 298× ln 10−4 ⋅10−4 10−8 ⋅10−4 ⋅10−4 ∆G = −105.36 kcal / mole คา ∆G มีคา เปนลบ ดังน้ันสมการนส้ี ามารถเกิดขนึ้ ไดตามทเี่ ขยี นไว ตวั อยางที่ 7 พิจารณาสมการ H 2( g ) + 1 O2( g ) ⇔ H2O(l) กําหนดให PO2 เทากับ 0.5 atm 2 PH2 เทา กบั 0.5 atm (R = 8.314 J/mol.K; T = 298 K) H 2( g ) + 1 O2( g ) ⇔ ;H2O(l) ∆G = -234.6 kJ/mole 2 ใหค ํานวณคา ∆Go ของสมการขา งตน จากสมการการเกิดปฏิกิริยาขางตนจะได 12
Q= {H 2O} = 1 P P1 2 P P1 2 H 2 O2 H 2 O2 Q= 1 1 = 2.828 P P1 2 = (0.5)(0.5)1 2 H 2 O2 จากสมการ 2.26 คํานวณคา การเปลย่ี นพลงั งานอิสระของสมการขางตนไดด งั น้ี ∆G = ∆Go + RT ln Q ; ∆Go = ∆G − RT ln Q ∆Go = − 234.6 kJ / mol − (8.314 ×10−3 kJ / mol.K ) × 298 K × ln(2.828) ∆Go = − 237.18 kJ / mole เปรียบเทยี บคา เทอรโมไดนามกิ สไ ดจ ากตารางที่ 2.1 ∆G o = ∆G o , H 2 O − ∆G o , H 2 − ∆G o ,O2 f f f ∆Go = − 56.690 − 0 − 0 เทา กบั -56.690 kcal/mole ประมาณ -238.1 kJ/mole ใกลเ คยี งกันกบั การคาํ นวณเบ้ืองตน ตัวอยา งที่ 8 เปน ตวั อยา งทีใ่ ชในการคํานวณเรอ่ื งการเปลย่ี นทางดา นรปู ของสารเคมี (phase transfer) เชน การพจิ ารณาสารบรสิ ทุ ธ์ิของการเปล่ียนรปู ของสารขางลา งน้ี CaCO3(s1) ⇔ ;CaCO3(s2) 25 oC และ 1 ความดันบรรยากาศ กาํ หนดให ∆G o = −1128.8 kJ / mole CaCO3( s 2) ∆Go = −1127.8 kJ / mole CaCO3( s1) o ; Q = 1 (pure solids) CaCO3( s 2) ∆G = ∆G + RT ln QCaCO3(s2) CaCO3( s 2) ∆G = ∆GCaCO3(s 2) o CaCO3( s 2) o ; Q = 1 (pure solids) CaCO3( s1) ∆G = ∆G + RT ln QCaCO3(s1) CaCO3( s1) ∆G = ∆GCaCO3(s1) o CaCO3( s1) ∆G = ∆G − ∆Grxn CaCO3( s1) = −1128.8 − (−1127.8) kJ / mole CaCO3( s 2) ∆Grxn = −1 kJ / mole คา ∆Grxn มคี า เปนลบ ดังนนั้ สมการสามารถเกิดขน้ึ ไดโดยปฏกิ ิริยาเกดิ ขน้ึ จากซายไปขวา ตวั อยา งที่ 9 พจิ ารณาสมการ Al(OH )3(s) ⇔ Al(OH )3(aq) กาํ หนดให ∆G o = −1139 kJ / mole Al (OH )3( s ) ∆G o = −1115 kJ / mole Al (OH )3( aq ) ∆G = ∆G − ∆Grxn Al (OH )3( s ) Al (OH )3( aq ) ทีส่ ภาวะสมดลุ ∆Grxn เทากับ 0 ∆G = ∆G − ∆Grxn Al (OH )3( aq ) Al (OH )3( s ) 13
∆Grxn = ∆G o + RT ln{ Al (OH )3( aq ) } − ( ∆G o (OH )3( s ) + RT ln{Al(OH )3(s)}) Al (OH )3( aq ) Al ∆Grxn = (∆G o − ∆GAol(OH )3(s) ) + (RT ln{Al(OH )3(aq) − RT ln{Al(OH )3(s)}) Al (OH )3( aq ) 0 = (−1115 − (−1139)) + RT ln {Al(OH )3(aq)} {Al(OH )3(s)} RT ln{Al(OH )3(aq)} = − 24 ln{Al(OH )3(aq)} = − 24 RT {Al(OH )3(aq)} = exp(− 24 ) = exp(− 8.314 × 24 kJ / mole × 298 K ) RT 10−3 kJ / mole.K [ Al(OH )3(aq) ] = 6.21×10−5 mole ; Assume γi =1 L ตัวอยางที่ 10 พิจารณาสมการ CH3CH2OH(g) ⇔ CH3CH2OH(aq) ณ อุณหภูมทิ ี่ 25 oC และท่ี 1 atm (ความดนั บรรยากาศ) กาํ หนดให ∆G o = −181.8 kJ / mole CH3CH2OH( aq ) ∆G =o −160.2 kJ / mole CH3CH2OH( g ) ท่สี ภาวะสมดลุ ∆Grxn เทากับ 0; ∆Grxn = ∆G − ∆GCH3CH 2OH (aq) CH 3CH 2OH ( g ) ∆G = ∆GCH3CH2OH (aq) CH3CH2OH ( g ) ∆G o + RT ln{CH3CH 2OH (aq)} = ∆G o + RT ln{PCH3CH2OH ( g )} CH3CH2OH (aq) CH3CH2OH ( g ) ดังน้ัน RT ln{(CH3CH2OH (aq))} = ∆G − ∆Go o PCH3CH2OH ( g ) CH3CH2OH ( g ) CH3CH2OH (aq) o ( ∆G − ∆G )CH3CH2OH ( g ) ln{(CH3CH2OH (aq)) } = o PCH3CH2OH ( g ) CH3CH2OH (aq) RT [CH3CH2OH (aq)] = exp( ∆GCoH3CH2OH ( g ) − o γi = 1 PCH3CH2OH ( g ) RT ∆G );CH3CH2OH (aq) [CH3CH2OH (aq)] = exp −160.2 − (−181.8) kJ / mole PCH3CH2OH ( g ) 8.314 ×10−3 kJ / mole.K × 298 K [CH3CH2OH (aq)] = 6113.2 PCH3CH2OH ( g ) จากคา คงที่ของ Henry’s law constant i( g ) ⇔ i(aq) KH = {i} คา คงท่ีของ Henry’s law constant Pi จากสมการขางตน KH = [CH3CH2OH (aq)] = 6113.2 PCH3CH2OH ( g ) 14
ตวั อยางท่ี 11 พิจารณาสมการ CH3CH2OH(oct) ⇔ CH3CH2OH(aq) ณ อณุ หภูมิท่ี 25 oC และที่ 1 atm (ความดันบรรยากาศ) กําหนดให ∆G o = −181.8 kJ / mole CH3CH2OH( aq ) ∆G o = −180.0 kJ / mole CH3CH2OH(oct ) ณ สภาวะสมดลุ RT ln{{CCHH33CCHH22OOHH((oacqt))}} = ∆G − ∆Go o CH3CH2OH (oct ) CH3CH2OH (aq) o ( ∆G − ∆G )CH3CH2OH (oct) ln{{CCHH33CCHH22OOHH((oacqt))}} = o CH3CH2OH (aq) RT [CH3CH2OH (aq)] = exp( ∆G o 2OH ( oct ) − o γi = 1 [CH3CH2OH (oct)] CH3CH ∆G );CH3CH2OH (aq) RT [CH3CH2OH (aq)] = exp −180.0 − (−181.8) kJ / mole [CH3CH2OH (oct)] 8.314 ×10−3 kJ / mole.K × 298 K [CH3CH2OH (aq)] = 2.07 [CH3CH2OH (oct)] จากคาคงที่ของ Octanol/water Partition Coeff. i(oct) ⇔ i(aq) K aw = {iaq } คาคงท่ีของ Octanol/water Coeff. {ioct } จากสมการขางตน Kaw = [CH3CH2OH (aq)] = 2.07 [CH3CH2OH (oct)] 2.3 ความสมั พนั ธของแอลแทลปแ ละคา คงท่สี มดลุ การเปลยี่ นแปลงของแอลแทลปของปฏิกิริยาทางเคมี (∆H) คือจาํ นวนของความรอนท่ถี ูก ปลอ ยหรือไดม าระหวา งการเกิดปฏิกิรยิ าทางเคมี ถา คา (∆H) มคี าเปน ลบความรอ นถูกปลอ ยออก ดังนั้นสมการถกู เรยี กวา เปน แบบเอกโซเทอรม กิ (exothermic) ถาคา (∆H) มีคา เปนบวกความ รอนไดม าดังนน้ั สมการถกู เรียกวา เปนแบบเอนโดเทอรม กิ (endothermic) การคาํ นวณ (∆H) สําหรบั สมการแบบยอ นกลบั ในระบบปด โดยมความสมั พนั ธกบั (∆Go) ดังน้ี ∆H o = ∆G o + T∆S o (2.30) คา ∆H สามารถคาํ นวณไดด งั น้ี ∑ ∑∆H o = ( vi ∆H o ) −( vi ∆H o ) reac ts (2.31) i products i tan ii 15
โดยที่ vi คือคาสัมประสิทธ์ขิ องแตละสาร Hio คอื คา แอลแทลปข องสาร i [kcal/mole] ท่ีอณุ หภมู ิ 25 oC และที่ความดนั หนึง่ บรรยากาศ คา ∆Ho สาํ หรบั การเกดิ ปฏกิ ิริยาทางเคมีของนาํ้ สามารถคํานวณไดโ ดยมีใชผลกระทบทาง อณุ หภมู ิ สมการทใ่ี ชในการคํานวณมีคา ดงั นี้ d ln K = ∆H o (2.32) dT RT 2 อนิ ทเิ กรตสมการขางตน ไดโ ดยคา ∆Ho ไมไดข นึ้ กบั อณุ หภมู ิ ดงั น้ี ln K1 = ∆H o ( 1 − 1 ) (2.33) K2 R T2 T1 หรอื ln K1 − ln K 2 = ∆H o (1 − 1) (2.34) R T2 T1 หรอื log K1 − log K 2 = ∆H o (1 − 1 ) (2.35) 2.303 ⋅ R T2 T1 1. คา ∆Ho < 0 ดงั นน้ั สมการถกู เรียกวาเปนแบบเอกโซเทอรมิก (exothermic) ถา อณุ หภูมิ T2 > T1 ดังนนั้ คา K2 < K1 2. คา ∆Ho > 0 ดังนน้ั สมการถูกเรียกวา เปนแบบเอนโดเทอรมกิ (endothermic) ถา อณุ หภูมิ T2 > T1 ดังนน้ั คา K2 > K1 ตวั อยางท่ี 12 พจิ ารณาสมการขา งลา ง ใหคาํ นวณคาคงทส่ี มดลุ ทีอ่ ณุ หภมู ิ 15 oC และ 60 oC CaCO3(s) + H + ⇔ HCO3− + Ca 2+ กําหนดใหค า ความเขม ขน ของ Ca2+, HCO3−, และ H+ อยใู นสภาวะสมดลุ ทอ่ี ณุ หภมู ิ 25 oC โดยที่ ∆Ho จากตาราง 2.1 มดี งั นี้ ทอ่ี ณุ หภูมิ 25 oC ∆H o (kcal / mole) CaCO3( s ) = − 288.45 H+ =0 Ca(2a+q) = −129.77 = −165.18 HCO3−(aq) จากตวั อยางที่ 1 คาํ นวณหาคา ∆Go 16
∆G o = −140.31 + (−132.18) − (−269.78) − (−0) = − 2.71 kcal / mole ท่อี ุณหภูมิ 25 oC คาํ นวณหาคา K1 = K25 o ไดด งั น้ี C ∆G o = − RT ln K 25 oC K 25 oC = exp(− ∆G o ) = exp(− 1.98× − 2.71 kcal / mole 298 K ) RT 10−3 kcal / mole.K × K 25 oC = 98.8 คํานวณ ∆Ho ไดด งั น้ี ∑ ∑∆H o = ( vi ∆H o ) − ( vi ∆H o ) reac ts i products i tan ii ∆H o = (1) ⋅ ∆H o + (1) ⋅ ∆H o 2 + − (1) ⋅ ∆H o + − (1) ⋅ ∆H o HCO3− Ca H CaCO3 ∆H o = −165.18 −129.77 + 0 + 288.45 = − 6.5 kcal (exothermic) 1. ที่อณุ หภมู ิ K2 = 15 oC = 288 oK ln K1 − ln K 2 = ∆H o (1 − 1) R T2 T1 ln(98.8) − ln K2 = 1.98 − 6.5 kcal mol.K ( 1 − 2198) ×10−3 kcal / 288 K 2 = 144.8 2. ท่อี ณุ หภูมิ K2 = 60 oC = 333 oK ln(98.8) − ln K2 = 1.98 − 6.5 kcal mol.K (1 − 1) ×10−3 kcal / 333 298 K 2 = 31.04 จะสงั เกตวาการเพิ่มอุณหภูมขิ องน้าํ สูงขึ้นทาํ ใหค า คงทที่ สี่ มดุลมคี า ลดลง ขณะท่ี ∆Ho มคี าเปน ลบ ทําใหความรอ นเกดิ ขนึ้ ในการเกดิ ปฏิกริ ิยาจากซา ยไปขวาของสมการ ตัวอยางที่ 13 กําหนดคา คงทส่ี มดลุ K25 o = 4.01 ×10-7 ที่อณุ หภูมิ 25 oC ของสมการขา งลา งนี้ C H 2CO3(aq) ⇔ H + + HCO3−(aq) aq ใหค ํานวณคา K10 o กาํ หนดให C จากตาราง 2.1 ดูคา ∆Ho; ∆H o (H 2CO3 ) = −167 kcal / mole ∆H o (H + ) = 0 kcal / mole ∆H o (HCO3− ) = −165.18 kcal / mole คาํ นวณคา ∆Ho ของสมการไดดงั นี้ ; ∆H o = 1× (−165.18) + 1× (0) −1× (167.0) = 1.82 kcal (endothermic) ln K10 = 1.82 ( 1 − 2183) K 25 1.98 ×10−3 298 17
ln K10 = − 0.163 K 25 K10 = exp(−0.163) = 0.849 K 25 K10 = 3.41×10−7 ตวั อยางที่ 14 กาํ หนด 4 สมการขางลา งดงั น้ี ใหค ํานวณคา ∆Ho สําหรบั H2SO4 1. S(s) + O2(g ) ⇔ SO2(g ) ∆H o (kcal) = − 70.96 ∆H o (kcal) = − 23.5 2. SO2( g ) + 1 O2 ⇔ SO3(g ) 2 3. SO3(g ) + H 2O(l) ⇔ H 2 SO4(l) ∆H o (kcal) = − 31.14 ∆H o (kcal) = − 68.32 4. H 2(g) + 1 O2 ( g ) ⇔ H 2O(l) 2 รวมสมการทั้ง 4 เกิดปฏิกิริยาดังน้ี S(s) + 2O2 (g ) + H 2( g ) ⇔ H 2 SO4(l) คา ∆H o (reaction) = − 70.96 − 23.5 − 31.14 − 68.32 = −193.92 kcal ดงั นนั้ ∆H =o −193.92 kcal ( H 2SO4 ) 2.4 พฤตกิ รรมของไอออนและโมเลกุลของสารละลาย สารละลายท่ีเจอื จางมาก คา ไอออนสามารถแสดงพฤตกิ รรมที่เปนอิสระไมข ้ึนอยกู บั สารใด โดยกาํ หนดใหคาสมั ประสทิ ธข์ิ องแอคทวิ ิต้เี ปน หนง่ึ อยางไรก็ตามในสารละลายท่ีมคี วามเขมขน สูง การเกิดขนึ้ ของปฏิกริ ยิ าระหวา งไอออนมีคามากขึ้นทําใหค า สมั ประสิทธขิ์ องแอคทวิ ิตม้ี คี า นอ ย กวาคา ทว่ี ดั ได ดงั น้นั {i} = γ i [i] (2.36) จากสมการขางตน คาสัมประสทิ ธขิ์ องแอคทิวิตนี้ อ ยกวาหน่ึงในขณะทส่ี ามรละลายมีความ เขม ขน มากขน้ึ ดังนัน้ พจิ ารณาสมการการเกดิ ปฏิกริ ิยาสมดลุ aA + bB ⇔ cC + dD ดังน้ันสามารถเขียนสมการสมดุลไดด งั นี้ Q or K {C}c {D}d = (γ c [C])c (γ d [D])d (2.37) = {A}a{B}b (γ a [ A])a (γ b [B])b การคํานวณกําลังของไอออน (Ionic strength) สามารถทําไดด งั นี้ 18
∑ ;I= 1 Z 2 [ j] Z= ประจุของไอออน; [j] = ความเขม ขนของสาร j 2 all j j คา สมั ประสิทธ์ิของแอคทวิ ิตี้ สามารถหาไดจากสมการน้ี log γ i = − AZi2 ( I − 0.2I ) where A ≈ 0.5 1 + I ตัวอยา งท่ี 15 คาํ นวณคากาํ ลังของไอออนของสารละลายโดยมคี าไอออนดงั นี้ [Ca 2+ ] = 10−4 M ; [CO32− ] = 10−5 M ; [HCO3− ] = 10−3 M ; [SO42− ] = 10−4 M [Na + ] = 1.02 ×10−3 M จากสมการ I = ∑1 Z 2 [ j] j 2 all j I = 1 ([10 −4 × 22 ] + [10 −5 × 2 2 ] + [10 −3 × 12 ] + [10 − 4 × 22 ] + [1.02 ×10 −3 × 12 ]) 2 I = 1.43×10−3 M คาสมั ประสทิ ธข์ิ องแอคทิวิตี้ logγ i = − 0.5 × Z 2 ( I − 0.2I ) i 1 + I log γ CO32− = − 0.5 × 22 × ( 1.43×10−3 − 0.2 ×1.43×10−3 ) ; ประจุ 2 ลบ 1 + 1.43×10−3 γ CO32− = 0.85 log γ Na+ = − 0.5 ×12 × ( 1.43×10−3 − 0.2 ×1.43×10−3 ) ; ประจุ 1 บวก 1 + 1.43×10−3 γ Na+ = 0.96 log γ SO42− = − 0.5 × 22 × ( 1.43×10−3 − 0.2 ×1.43×10−3 ) ; ประจุ 2 ลบ 1 + 1.43×10−3 ; ประจุ 1 ลบ γ SO42− = 0.85 log γ HCO3− = − 0.5 ×12 × ( 1.43×10−3 − 0.2 ×1.43×10−3 ) 1 + 1.43×10−3 γ HCO3− = 0.96 ตัวอยางท่ี 16 เปรียบเทยี บคา กาํ ลงั ของไอออนของสารละลายเกลือของ NaCl และ MgSO4 ท่มี ี สารละลายดังนี้ 1. 5,800 mg/L NaCl (MW = 58.5 g/mol) 2. 3,100 mg/L MgSO4 (MW = 120 g/mol) 1. NaCl ⇔ Na + + Cl − 19
[Na + ] = 5,800 mg / L = 0.099 M 58,500 mg / mole [Cl − ] = 5,800 mg / L = 0.099 M 58,500 mg / mole I = 1 ([12 × 0.099] + [12 × 0.099]) = 0.099 ≈ 0.1 M 2 2. MgSO4 ⇔ Mg 2+ + SO42− [Mg 2+ ] = 3,100 mg / L = 0.026 M 120,000 mg / mole [SO42− ] = 3,100 mg / L = 0.026 M 120,000 mg / mole I = 1 ([12 × 0.026] + [12 × 0.026]) = 0.104 M 2 คา กําลงั ของไอออนมคี าใกลเ คยี งกนั เทา กบั 0.1 M ตวั อยา ง 17 การเตมิ 0.1 M KCl และ 10-3 M HAc ในนา้ํ บรสิ ทุ ธิ์ ดงั นัน้ คา ไอออนทปี่ รากฏจะมี K+, Cl−, H+, OH−, Ac− I = 1 ([ K + ] + [Cl − ] + [OH − ] +[H + ] + [ Ac − ]) 2 I = 1 (0.1 + 0.1 + ....) 2 I = 0.1 M คาของสัมประสทิ ธิข์ องแอคทิวติ ี้ สามารถหาไดจากสมการนี้ log γ i = − AZi2 ( I − 0.2I ) where A ≈ 0.5 1 + I ถา I = 0.1 M γ H + = γ OH − = γ Cl− = γ K + = γ Ac− = 0.78 ตวั อยา งคาของกาํ ลงั ของไอออนและสัมประสทิ ธ์ขิ องแอคทิวิต้ี Ionic strength (I) M γH+ (ประจุ 1 บวก) γSO42- (ประจุ 2 บวก) 0.97 0.87 0.001 0.90 0.66 0.01 0.78 0.34 0.1 20
ตวั อยา ง 18 สมการสมดลุ HCO3− ⇔ H + + CO3− ; K = 10-10.3 กําหนดคากาํ ลงั ของไอออนเทากับ 10−3 และคา [H+] = 10-10 mole/liter (M) จากสมการขางตน HCO3− ⇔ H + + CO32− ; K = 10−10.3 K = 10−10.3 = {H + }{CO32− } = γ H + [H + ]γ CO32− [CO32− ] {HCO3− } γ HCO3− [HCO3− ] log γ CO32− = − 0.5 × 22 × ( 1×10−3 − 0.2 ×1×10−3 ) = − 0.061 1 + 1×10−3 γ CO32− = 0.87 log γ H + = − 0.5 ×12 × ( 1×10−3 − 0.2 ×1×10−3 ) = − 0.0152 1 + 1×10−3 γ H + = 0.966 log γ HCO3− = − 0.5 ×12 × ( 1×10−3 − 0.2 ×1×10−3 ) = − 0.0152 1 + 1×10−3 γ HCO3− = 0.966 แทนคาในสมการ K = 10−10.3 = 0.966 ×10−10 × 0.86 × [CO32− ] 0.966 ×[HCO3− ] [CO32− ] = 0.583 [HCO3− ] ในกรณที ่ีไมไดพจิ ารณาคาสมั ประสทิ ธขิ์ องแอคทวิ ติ ีใ้ นสมการ K = 10−10.3 = 10−10 × [CO32− ] [HCO3− ] [CO32− ] = 0.501 [HCO3− ] การคํานวณคาพีเอชมีคา ดงั นี้ pH = − log{H + } = − log γ H + [H + ] = − log(0.966 ×10−10 ) = 10.02 21
Search
Read the Text Version
- 1 - 21
Pages: