Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานผลการปฏิบัติการสอนในสถานในสถานศึกษา-1

รายงานผลการปฏิบัติการสอนในสถานในสถานศึกษา-1

Published by Piyaphong Khonaban, 2021-02-03 05:56:49

Description: รายงานผลการปฏิบัติการสอนในสถานในสถานศึกษา-1

Search

Read the Text Version

รายงานผลการปฏบิ ัตกิ ารสอนในสถานในสถานศึกษา 1 การเป็ นผู้รอบรู้ในงานครู (Internship1) หน่วยโรงเรียนร่มเกล้ากาญจนบุรี อาเภอทองผาภูมิ จังหวดั กาญจนบุรี นายปิ ยะพงษ์ โคนาบาล สาขาวชิ า ฟิ สิกส์ รหัสนักศึกษา 624147002 ฝ่ ายฝึ กประสบการณ์วชิ าชีพครู คณะวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั หมู่บ้านจอมบงึ ภาคเรียนที่ 2 ปี การศึกษา 2562

ประวตั สิ ่วนตัวนักศึกษา ช่ือ นายปิ ยะพงษ์ โคนาบาล ช่ือเล่น เบนซ์ นักศึกษาระดบั ปริญญาตรี คณะวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขา ฟิ สิกส์ เกดิ วนั ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ 2543 อายุ 19 ปี เชื้อชาติ ไทย สัญชาติ ไทย ศาสนา พุทธ ทอ่ี ยู่ปัจจุบัน เลขที่ 97/10 หมู่ 5 ตาบลสหกรณ์นิคม อาเภอทองผาภูมิ จงั หวดั กาญจนบุรี 71180 เบอร์โทรศัพท์ 062-1383345 บิดาช่ือ นายสงั วาล โคนาบาล มารดาชื่อ นางรัชนี โคนาบาล สีทช่ี อบ สีดา เขียว ขาว ม่วง อาหารทชี่ อบ ไข่ลูกเขย หมูกระทะ ชาบู งานอดเิ รก ฟังเพลง ดูหนงั ดูซีร่ี กฬี าทชี่ อบ เปตอง สัตว์ทช่ี อบ แมว คติประจาใจ อดทนวนั น้ี เพอ่ื อนาคตที่ดีในวนั ขา้ งหนา้ ลงชื่อ ปิ ยะพงษ์ โคนาบาล ผบู้ นั ทึกประวตั ิ ( นายปิ ยะพงษ์ โคนาบาล )

คานา การฝึกปฏิบตั ิการสอนในสถานศึกษาเป็นส่ิงสาคญั และจาเป็นสาหรับ นกั ศึกษา หลกั สูตรครุศาสตร์บณั ฑิต ( หลกั สูตร 4 ปี ) ท่ีตอ้ งไดร้ ับใบอนุญาต ประกอบวชิ าชีพ ครู ตามขอ้ บงั คบั ของคณะกรรมการคุรุสภา ดงั น้นั นกั ศึกษา ควรมีความตระหนกั และ รับผดิ ชอบต่อหนา้ ที่ที่ไดร้ ับมอบหมายจาก สถานศึกษาท่ีเปิ ดโอกาสใหม้ ีการฝึก ปฏิบตั ิการสอนในสถานศึกษา ซ่ึงใน ส่วนของมหาวิทยาลยั ราชภฏั หมู่บา้ นจอมบึง จงั หวดั ราชบุรี ไดเ้ ลง็ เห็น ความสาคญั ของการฝึกปฏิบตั ิการสอนในสถานศึกษา หรือที่ เรียกวา่ Internship 1 โดยนกั ศึกษาสงั เกตบริบทของโรงเรียน บทบาทหนา้ ที่ครู พฤติกรรมของนกั เรียน การจดั บรรยากาศในช้นั เรียน ปฏิสมั พนั ธร์ ะหวา่ งครู กบั บุคคล ที่เกี่ยวขอ้ งและปฏิสมั พนั ธ์ระหวา่ งโรงเรียนกบั ชุมชน ฯลฯ รายงานการฝึกปฏิบตั ิการสอนในสถานศึกษา 1 รายวชิ า PC 62801 Internship 1 เล่มน้ีจดั ทาข้ึนเพื่อรายงานผลการสงั เกตการสอน และการฝึก ปฏิบตั ิการสอนใน สถานศึกษา เป็นเวลา 20 วนั ต้งั แต่วนั ที่ 20 มกราคม ถึง วนั ท่ี 14 กมุ ภาพนั ธ์ 2563 ผจู้ ดั ทาหวงั เป็นอยา่ งยง่ิ วา่ รายงานฉบบั น้ีจะสามารถรายงานภาพรวมท่ี ผจู้ ดั ทา สงั เกตเห็นและร่วมทากิจกรรมในโรงเรียนตลอดระยะเวลา 20 วนั ได้ เป็นอยา่ งดี เพ่ือใหโ้ รงเรียนสามารถนาไปปรับปรุงใหโ้ รงเรียนพฒั นาไป ในทางที่ดีข้ึน นายปิ ยะพงษ์ โคนาบาล ผจู้ ดั ทา

สารบัญ เรื่อง หน้า ประวตั ิส่วนตวั …………………………………………………………………………………… คานา............................................................................................................................................... บทท1ี่ -บริบทของโรงเรียน.......................................................................................................................................... -บทบาทหนา้ ท่ีครู.............................................................................................................................................. -พฤติกรรมของนกั เรียน..................................................................................................................................... -การจดั บรรยากาศในช้นั เรียน........................................................................................................................... -ปฏิสัมพนั ธ์ระหวา่ งบุคคลที่เกี่ยวขอ้ ง โรงเรียนกบั ชุมชน และครูกบั ชุมชน.................................................... -กระบวนการพฒั นาหลกั สูตรสถานศึกษา......................................................................................................... -การจดั บรรยากาศและการจดั การช้นั เรียน........................................................................................................ -กระบวนจดั การเรียนรู้ของครู........................................................................................................................... -การทา งานเป็ นทีม การสื่อสารการแกป้ ัญหาในการปฏิบตั ิงาน...................................................................... บทท2่ี -การปฏิบตั ิงานร่วมกบั ครูพี่เล้ียง....................................................................................................................... -การสนบั สนุนการเรียนการสอน...................................................................................................................... -การจดั กิจกรรมพฒั นาผูเ้ รียน............................................................................................................................ -ปฏิสัมพนั ธ์ระหวา่ งบุคคลท่ีเกี่ยวขอ้ ง ครูกบั ชุมชน โรงเรียนกบั ชุมชน............................................................

บทท3่ี -สรุปผลการศึกษาสงั เกต.................................................................................................................................. -สรุปผลการมีส่วนร่วมในการปฏิบตั ิการสอน................................................................................................. -สรุปผลสัมมนา................................................................................................................................................. -คุณค่าท่ีไดร้ ับจากการปฏิบตั ิงานวชิ าชีพครูในคร้ังน้ี........................................................................................ -ขอ้ เสนอแนะ....................................................................................................................................................

บทท่ี 1 การศึกษาสังเกตการณ์ปฏบิ ัตหิ น้าทีค่ รู 1.บริบทของโรงเรียน ขอ้ มูลพ้ืนฐานโรงเรียนร่มเกลา้ กาญจนบุรี (ในโครงการพระราชดาริ) -ขอ้ มูลทว่ั ไป รหสั โรงเรียน 10 หลกั : 1071020470 รหสั Smis 8 หลกั : 71032006 รหสั Obec 6 หลกั : 020470 ช่ือสถานศึกษา(ไทย) : ร่มเกลา้ กาญจนบุรี ช่ือสถานศกึ ษา(องั กฤษ) : Romkloa kanchanaburi ที่อยู่ : หมู่ที่ 6 บา้ นบา้ นล่ินถ่ิน ตาบล : ล่ินถ่ิน อาเภอ : ทองผาภูมิ จงั หวดั : กาญจนบุรี รหสั ไปรษณีย์ : 71180 โทรศพั ท์ : 034-532080 โทรสาร : 034684265 ระดบั ที่เปิ ดสอน : มธั ยมศึกษาตอนตน้ -มธั ยมศึกษาตอน ปลาย วนั -เดือน-ปี ก่อต้งั : 26 มิถุนายน 2526 อีเมล์ : [email protected] เวบ็ ไซต์ : http://www.rkan.ac.th เวบ็ ไซตโ์ รงเรียน (Host สพฐ.)

เครือข่ายพฒั นาคุณภาพการศกึ ษา : สหวทิ ยาเขตแควนอ้ ย องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน : ล่ินถ่ิน ระยะทางจากโรงเรียน ถึง เขตพ้นื ท่ีการศึกษา: 180 กม. ระยะทางจากโรงเรียน ถึง อาเภอ: 36 กม เน้ือท่ี : 53 ไร่ สีประจาโรงเรียน : ฟ้า – ทอง ปรัชญา : การศึกษาพฒั นาความคิดเพอ่ื ชีวติ และสังคม คาขวญั ของโรงเรียน : รักษศ์ กั ด์ิศรี มีคุณธรรม นาวชิ าการ สืบสานงานพระราชดาริ คติพจน์ : สาธุ โข สิปปก นาม ข้ึนชื่อวา่ การศกึ ษาประเสริฐแท้ ศูนยร์ วมจิตใจ : สมเดจ็ พระนางเจา้ สิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ ประเภทของโรงเรียน : โรงเรียนสหศึกษา ระดบั ท่ีเปิ ดสอน : ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ , ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย ประกาศนียบตั รวชิ าชีพ สังกดั : สานกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษามธั ยมศกึ ษา เขต 8







2.บทบาทหน้าทขี่ องครู คาวา่ หนา้ ที่ (Duty) ตามความหมายใน Dictionary of Education น้นั หมายถึง สิ่งท่ีทุกคนตอ้ งทา โดยปกติ แลว้ ภาวะจายอมจะเป็ นไปตาม หลกั ศีลธรรมแต่บางคร้ังก็เป็ นไปตามกฎหมายหรือขอ้ ตกลง Webster's Third New International Dictionary ไดใ้ หค้ านิยามของ ความรับผดิ ชอบ ไว้ ดงั น้ี - ความรับผิดชอบดา้ นศีลธรรม กฎหมาย หรือ จิตใจ - ความไวใ้ จ ความเช่ือถือได้ Dictionary of Education ไดใ้ หค้ วามหมายของความรับผดิ ชอบไว้ ไวว้ า่ “หนา้ ท่ีประจาของแต่ละ บุคคล เมื่อเขาไดร้ ับมอบหมายใหง้ าน อยา่ งใดอยา่ งหน่ึง” ส่วนความหมายของครู ในท่ีน้ีจะอธิบายตามรูปคาภาษาองั กฤษ คือ “Teachers” โดยสรุป จากคาอธิบายของ ยนต์ ชุ่มจิต ในหนงั สือ ความเป็นครู ดงั น้ี T (Teaching) – การสอน หมายถึง การอบรมสง่ั สอนศิษยใ์ หม้ ีความรู้ ความสามารถในวชิ าการ ท้งั หลายท้งั ปวง ซ่ึงถือวา่ เป็นงานหลกั ของครู ทุกคนทุกระดบั ช้นั ท่ีสอน ตามระเบียบคุรุสภาวา่ ดว้ ยจรรยามารยาทและวนิ ยั ตามระเบียบประเพณีของครู พ.ศ. 2526 ขอ้ 3 กาหนดไวว้ า่ ครูตอ้ งต้งั ใจ สั่งสอนศิษยแ์ ละปฏิบตั ิหนา้ ท่ีของตนให้เกิดผลดีดว้ ยเอาใจใส่ อุทิศเวลาของตนใหแ้ ก่ศิษยจ์ ะละทิ้งหรือ ทอดทิ้งหนา้ ท่ีการงานมิได้ และในขอ้ 6 กาหนดไวว้ า่ ครูตอ้ งถ่ายทอดวชิ าความรู้โดยไมบ่ ิดเบือนและปิ ดบงั อาพรางไมน่ าหรือยอมให้นาผลงานทางวชิ าการของ ตนเองไปใชใ้ นทางท่ีทุจริตหรือเป็นภยั ต่อมนุษยชาติ จากขอ้ กาหนดท้งั 2 ขอ้ ที่นามากล่าวน้ีจะเห็นวา่ หนา้ ที่ของครูท่ีสาคญั คือการอบรมส่งั สอนศิษย์ การถ่ายทอด วชิ าความรู้ใหแ้ ก่ศิษย์ โดยเฉพาะในขอ้ 3 ของระเบียบประเพณีของครู พ.ศ. 2526 น้ี ถือวา่ การอบรมส่งั สอนศิษยเ์ ป็นหนา้ ท่ีที่สาคญั มาก จะละทิง้ หรือทอดทิง้ ไมไ่ ดเ้ พราะถา้ หากครูละทิ้งการสอนกค็ ือครูละทิง้ หนา้ ที่ของครูซ่ึงการกระทา เช่นน้นั จะมีผลต่อการเจริญเติบโตทางความคิดและสติปัญญาของศิษยเ์ ป็นอยา่ งมาก กล่าวคือ ศิษยข์ องครูจะไม่ไดร้ ับการพฒั นา ความคิด ความรู้ และสติปัญญา หรือไดร้ ับบา้ งแต่กไ็ ม่

เจริญเติบโตเท่าที่ควร ดงั น้นั ครูทุกคนควรตระหนกั ในการสอนเป็นอนั ดบั แรกโดยถือวา่ เป็นหวั ใจของความ เป็นครูคือการอบรมสั่งสอนศิษยใ์ หเ้ ป็นคนดีมีความรู้ในวิทยาการท้งั ปวง ซ่ึงการท่ีครูจะปฏิบตั ิหนา้ ท่ีในการ สอน ของครูไดอ้ ยา่ งครบถว้ นสมบูรณ์น้นั ซ่ึงสาคญั ที่ครูตอ้ งเพม่ิ สมรรถภาพในการสอนใหแ้ ก่ตนเอง E(Ethics)-จริยธรรม หมายถึงหนา้ ที่ในการอบรมจริยธรรมให้แก่นกั เรียนซ่ึงถือวา่ เป็นหนา้ ท่ีหลกั อีก ประการหน่ึงนอกจากการส่งั สอนในดา้ นวชิ าความรู้โดยทวั่ ไปนอกจากน้ีครูทุกคนจะตอ้ งประพฤติปฏิบตั ิ ตนใหเ้ ป็ นผมู้ ีจริยธรรมอนั เหมาะสมอีกดว้ ยเพราะพฤติกรรมอนั เหมาะสมท่ีครูไดแ้ สดงออกจะเป็ นเครื่อ งมือที่สาคญั ในการปลูกฝังศรัทธาใหศ้ ิษยไ์ ดป้ ฏิบตั ิตาม A ( Academic) – วชิ าการ หมายถึง ครูตอ้ งมีความรับผดิ ชอบในวชิ าการอยเู่ สมอ กล่าวคือ ครูตอ้ ง เป็นนกั วชิ าการอยตู่ ลอดเวลา เพราะอาชีพของครูตอ้ งใชค้ วามรู้เป็ นเคร่ืองมือในการประกอบอาชีพ ดงั น้นั ครู ทุกคนตอ้ งศึกษาหาความรู้เพ่ิมเติมอยเู่ ป็นประจา หากไมก่ ระทาเช่นน้นั จะทาใหค้ วามรู้ที่ไดศ้ ึกษาเล่าเรียนมา น้นั ลา้ สมยั ไม่ทนั กบั การเปล่ียนแปลงทางวชิ าการใหม่ ๆ ซ่ึงมีอยา่ งมากมายในปัจจุบนั C (Cultural Heritage) – การสืบทอดวฒั นธรรม หมายถึงครูตอ้ งมีหนา้ ท่ีรับผดิ ชอบเกี่ยวกบั การสืบ ทอดมรดกทางวฒั นธรรมจากคนรุ่นหน่ึงใหต้ กทอด ไปสู่คนอีกรุ่นหน่ึง หรือ รุ่นต่อ ๆ ไป ซ่ึงมีวธิ ีการที่ครูจะกระทาได้ 2 แนวใหญ่ ๆ ดว้ ยกนั คือ 1. การปฏิบตั ิตามวฒั นธรรมขนบธรรมเนียมประเพณีอนั ดีงามอยา่ งถูกตอ้ งเป็ นประจา กล่าวคือ ครู ทุกคนจะตอ้ งศึกษาใหเ้ ขา้ ใจในขนบธรรมเนียมประเพณีและวฒั นธรรมอนั ดีงามของชาติอยา่ งถ่องแท้ เสียก่อน ตอ่ จากน้นั จึงปฏิบตั ิตามใหถ้ ูกตอ้ งและเหมาะสม เพ่อื ใหศ้ ิษยแ์ ละประชาชนทว่ั ไปยดึ ถือเป็น แบบอยา่ ง เช่น - การแตง่ กายใหเ้ หมาะสมตามโอกาสต่าง ๆ - การแสดงความเคารพและกิริยามารยาทแบบไทย ๆ - การจดั งานมงคลสมรส 2. การอบรมสัง่ สอนนกั เรียนให้เขา้ ใจในวฒั นธรรมและประเพณีอนั ดีงามของไทยอยา่ งถูกตอ้ ง และ ในขณะเดียวกนั ก็กระตุน้ ส่งเสริมใหน้ กั เรียนไดป้ ระพฤติปฏิบตั ิตามใหถ้ ูกตอ้ งตามแบบฉบบั อนั ดีงามท่ี บรรพบุรุษไดย้ ดึ ถือปฏิบตั ิสืบตอ่ กนั มา

H ( Human Relationship) – มนุษย์สัมพนั ธ์ หมายถึง การมีมนุษยส์ ัมพนั ธ์อนั ดีของครูตอ่ บุคคล ทวั่ ๆไป เพราะการมีมนุษยส์ ัมพนั ธ์ที่ดีจะช่วยใหค้ รูสามารถปฏิบตั ิหนา้ ที่ของครู ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ นอกจากน้ี การมีมนุษยส์ ัมพนั ธ์ท่ีดีของครูยงั ช่วยทาใหส้ ถาบนั ศึกษาที่ครูปฏิบตั ิงานอยมู่ ีความเจริญกา้ วหนา้ อยา่ งรวดเร็วอีกดว้ ย ดงั น้นั ครูทุกคนจึงควรถือเป็นหนา้ ที่และความรับผดิ ชอบอีกประการหน่ึงท่ีจะตอ้ งคอย ผกู มิตรไมตรีอนั ดีระหวา่ ง บุคคลตา่ ง ๆ ที่ครูมีส่วนเกี่ยวขอ้ งดว้ ย มนุษยส์ ัมพนั ธ์ระหวา่ งครูกบั บุคคลตา่ ง ๆ อาจจาแนกได้ ดงั น้ี ครูกบั นักเรียน ครูกบั นกั เรียนนบั วา่ เป็นบุคคลที่มีความใกลช้ ิดกนั มากที่สุด จนกระทงั่ ในอดีตยกยอ่ งใหค้ รูเป็ นบิดา คนท่ีสองของศิษย์ ผปู้ กครองเม่ือส่งบุตรหลานเขา้ โรงเรียนก็ฝากความหวงั ไวก้ บั ครู กล่าวคือ มอบภาระ ตา่ ง ๆ ในการอบรมดูแล ลูกหลานของตนใหแ้ ก่ครู ดงั น้นั ครูจึงควรปฏิบตั ิหนา้ ท่ีของครูใหส้ มบูรณ์ที่สุด และควรสร้างมนุษยส์ มั พนั ธ์อนั ดีระหวา่ งครูและศิษยใ์ หแ้ น่นแฟ้น ใหศ้ ิษยม์ ีความรู้สึกฝังใจตลอดไป วธิ ีการท่ีครูควรจะทาต่อศิษย์ เช่น 1. สอนศิษยใ์ หเ้ กิดความสามารถในการเรียนรู้ในวชิ าการตา่ ง ๆ ใหม้ ากที่สุดเท่าที่ครูจะกระทาได้ 2. สอนใหน้ กั เรียนหรือศิษยข์ องตนมีความสุขเพลิดเพลินกบั การเล่าเรียนไมเ่ บื่อหน่าย อยากจะเรียนอยเู่ สมอ 3. อบรมดูแลความประพฤติของศิษยใ์ หอ้ ยใู่ นระเบียบวินยั หรือกรอบของคุณธรรม ไมป่ ล่อยใหศ้ ิษยก์ ระทา ชวั่ ดว้ ยประการท้งั ปวง 4. ดูแลความทุกขส์ ุขอยเู่ สมอ 5. เป็นที่ปรึกษาหารือ ช่วยแกป้ ัญหาต่าง ๆ ใหแ้ ก่ศิษย์ ครูกบั ครู ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งครูกบั ครูนบั วา่ มีความสาคญั มากท่ีสุดตอ่ การพฒั นาวชิ าชีพครู เพราะครูกบั ครู ที่ทางานสอนอยสู่ ถานศึกษาเดียวกนั เปรียบเสมือน บุคคลที่เป็นสมาชิกในครอบครัวเดียวกนั หากสมาชิกในครอบครัวเดียวกนั มีความสมานสามคั คีอนั ดีต่อกนั แลว้ นอกจากจะทาใหก้ ารอบรมสั่งสอนนกั เรียนเป็ น ไปอยา่ งมีคุณภาพแลว้ ยงั ช่วยใหก้ ารปฏิบตั ิงานในดา้ นตา่ ง ๆ ท่ีนอกเหนือจากการสอนเป็นไปอยา่ งมี

ประสิทธิภาพดว้ ย เม่ือเป็ นเช่นน้ี การพฒั นาสถานศึกษา และการพฒั นาวชิ าชีพครูกจ็ ะดาเนินไปอยา่ งรวดเร็ว วธิ ีท่ีครูควรปฏิบตั ิต่อครู เพื่อสร้างมนุษยส์ ัมพนั ธ์ต่อกนั เช่น 1. ร่วมมือกนั ในการอบรมสง่ั สอนศิษยใ์ หเ้ ป็นพลเมืองดีของชาติอยา่ งสม่าเสมอ 2. ช่วยเหลือเก้ือกูลกนั ในทางดา้ นวชิ าการ เช่น การแนะนาการสอน, แนะนาเอกสาร หรือแหล่งวทิ ยาการให้ 3. ช่วยเหลืองานส่วนตวั ซ่ึงกนั และกนั เทา่ ที่โอกาสจะอานวย 4. ทาหนา้ ที่แทนกนั เมื่อคราวจาเป็น 5. ใหก้ าลงั ใจในการทางานซ่ึงกนั และกนั ซ่ึงอาจจะแสดงออกในรูปของวาจาหรือการกระทาก็ได้ 6. กระทาตนใหเ้ ป็ นผมู้ ีความสุภาพออ่ นนอ้ มต่อกนั เสมอ ไมแ่ สดงตนในทานองยกตนข่มท่าน หรือแสดงตน วา่ เราเก่งกวา่ ผอู้ ่ืน ครูกบั ผู้ปกครอง ผปู้ กครองนกั เรียนเป็ นบุคคลอีกกลุ่มหน่ึงนบั วา่ มีบทบาทสาคญั ต่อการพฒั นาการศึกษาเล่าเรียนของ ศิษยแ์ ละความกา้ วหนา้ ของสถานศึกษา โรงเรียนใดท่ีสามารถโนม้ นา้ วใหผ้ ปู้ กครองนกั เรียนเขา้ มาใกลช้ ิด โรงเรียนอยา่ งสม่าเสมอ โรงเรียนน้นั จะสามารถพฒั นาไดอ้ ยา่ งรวดเร็วท้งั ดา้ นคุณภาพการเรียนของนกั เรียน และการพฒั นาส่ิงแวดลอ้ มทางกายภาพและสงั คมรอบ ๆ โรงเรียน วธิ ีการท่ีครูสามารถสร้างมนุษยส์ มั พนั ธ์ กบั ผปู้ กครองนกั เรียนไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ เช่น 1. แจง้ ผลการเรียนหรือความเจริญกา้ วหนา้ ของศิษยใ์ หผ้ ปู้ กครองนกั เรียนทราบเป็ นระยะ ๆ 2. ติดต่อกบั ผปู้ กครองเพ่ือช่วยแกป้ ัญหาของศิษยใ์ นกรณีที่ศิษยม์ ีปัญหาทางการเรียน ความประพฤติ สุขภาพ อ่ืน ๆ 3. หาเวลาเยย่ี มเยยี นผปู้ กครองเม่ือมีโอกาสอนั เหมาะสม เช่น เม่ือไดข้ า่ วการเจบ็ ป่ วย หรือสมาชิกใน ครอบครัวถึงแก่กรรม เป็ นตน้ 4. เชิญผปู้ กครองร่วมทากิจกรรมต่าง ๆ ของโรงเรียน เช่น การแขง่ ขนั กีฬา ประจาปี งานแจก ประกาศนียบตั ร หรืองานชุมนุมศิษยเ์ ก่า เป็นตน้

5. เม่ือไดร้ ับเชิญไปร่วมงานของผปู้ กครองนกั เรียน เช่น งานอุปสมบท งานข้ึนบา้ นใหม่ งานมงคลสมรส เป็นตน้ ตอ้ งพยายามหาเวลาวา่ งไปใหไ้ ด้ 6. ครูควรร่วมมือกนั ทากิจกรรมเพ่อื ส่งเสริมความรู้และอาชีพใหผ้ ปู้ กครองและประชาชนในทอ้ งถิ่นบา้ ง จะ ทาใหป้ ระชาชนเห็นความสาคญั ของครูมากยง่ิ ข้ึน 7. เมื่อชุมชนไดร้ ่วมมือกนั จดั งานตา่ ง ๆ เช่น งานประจาปี ของวดั หรือ งานเทศกาลตา่ ง ๆ ครูควรใหค้ วาม ร่วมมืออยอู่ ยา่ งสม่าเสมอ 8. ครูควรแจง้ ข่าวสารต่าง ๆ ท่ีเป็นประโยชนต์ ่อผปู้ กครอง โดยใหผ้ ปู้ กครองไดท้ ราบเป็นระยะ ๆ ซ่ึงอาจจะ ส่งข่าวสารทางโรงเรียน หรือการติดประกาศ ตามที่อา่ นหนงั สือประจาหมู่บา้ นกไ็ ด้ นอกจากครูจะตอ้ งพยายามสร้างมนุษยส์ ัมพนั ธ์ที่ดีกบั ชุมชนกลุ่มบุคคลตา่ ง ๆ ดงั กล่าว ซ่ึงถือวา่ เป็น กลุ่มบุคคลที่มีความใกลช้ ิดกบั ครู และครูกต็ อ้ ง เกี่ยวขอ้ งดว้ ยตลอดเวลาแลว้ ยงั มีกลุ่มบุคคลอ่ืน ๆ ที่ครูจะตอ้ งมีมนุษยส์ ัมพนั ธ์ท่ีดีดว้ ยอีก เช่น พระภิกษุกบั บุคคลทว่ั ไป โดยเฉพาะพระภิกษุสงฆใ์ นวดั ซ่ึง โรงเรียนต้งั อยู่ จะมีส่วนช่วยใหก้ ารดาเนินการงานตา่ ง ๆ ของ โรงเรียนเป็ นไปดว้ ยความเรียบร้อยมาก ข้ึน ส่วนประชาชนทว่ั ไปน้นั หากไดร้ ับความประทบั ใจ เม่ือมาติดต่องานกบั โรงเรียน ก็จะเป็นส่วนเป็ นพลงั อีกส่วนหน่ึงท่ีคอยสนบั สนุนงานการศึกษาของโรงเรียน ใหก้ า้ วหนา้ ต่อไป E (Evaluation) – การประเมินผล หมายถึงการประเมินผลการเรียนการสอนนกั เรียนซ่ึงถือวา่ เป็ น หนา้ ที่และความรับผิดชอบท่ีสาคญั ยง่ิ อีกประการหน่ึ งของครูเพราะการประเมินผลการเรียนการสอนเป็ นการวดั ความเจริญกา้ วหนา้ ของศิษยใ์ นดา้ นต่างๆหากครู สอนแลว้ ไมม่ ีการประเมินผลหรือวดั ผลครูก็จะ ไมท่ ราบไดว้ า่ ศิษยม์ ีความเจริญกา้ วหนา้ ในดา้ นใดมากนอ้ ยเพียงใด ดงั น้นั ครูจึงควรจะระลึกอยเู่ สมอวา่ ณ ที่ ใดมีการสอน ทีนน่ั จะตอ้ งมีการสอบ สาหรับการประเมินผลการเรียนการสอนของนกั เรียนน้นั ครูสามารถ ใชว้ ธิ ีการตา่ ง ๆ ไดห้ ลายวธิ ี ท้งั น้ีอาจจะใชห้ ลาย ๆ วธิ ีในการประเมินผลคร้ังหน่ึงหรือเลือกใชเ้ พยี งวธิ ีการใด วธิ ีการหน่ึง ในการประเมินผลการเรียนการสอนน้นั มีหลายวธิ ี เช่น

1. การสังเกต หมายถึง การสงั เกตพฤติกรรมการทางาน การร่วมกิจกรรมกลุ่มหรือความต้งั ใจในการศึกษา เล่าเรียน เป็นตน้ 2. การสัมภาษณ์ หมายถึง การสัมภาษณ์เพอ่ื ตอ้ งการทราบความเจริญกา้ วหนา้ ทางดา้ นการเรียนของ นกั เรียน ซ่ึงอาจจะเป็ นการสัมภาษณ์ในเน้ือหาวชิ าการที่เรียน วธิ ีการเรียน หรือวธิ ีการทางาน เป็นตน้ 3. การทดสอบ หมายถึง การทดสอบความรู้ในวชิ าการที่เรียน อาจจะเป็นการทดสอบทางภาคทฤษฎีหรือ ภาคปฏิบตั ิกไ็ ด้ ถา้ จะใหไ้ ดผ้ ลดียงิ่ ข้ึนก็ควรมีการ ทดสอบท้งั ภาคทฤษฎีและภาคปฏิบตั ิในการเรียนการสอนทุก ๆ วชิ า 4. การจดั อนั ดบั คุณภาพ หมายถึง การนาเอาผลงานของนกั เรียนแต่ละคนในกลุ่มมาเปรียบเทียบกนั ในดา้ น คุณภาพ แลว้ ประเมินคุณภาพของนกั เรียน แต่ละคนวา่ คนใด ควรอยใู่ นระดบั ใด 5. การใชแ้ บบสอบถามและแบบสารวจ เป็นวธิ ีการประเมินผลการเรียนอีกแบบหน่ึง เพอื่ สารวจตรวจสอบ คุณภาพการเรียนการสอนท้งั ของนกั เรียนและของครู 6. การบนั ทึกยอ่ และระเบียนสะสม เป็นวธิ ีที่ครูจดบนั ทึกพฤติกรรมความเจริญกา้ วหนา้ ของนกั เรียนแต่ละ คนไวเ้ ป็นลายลกั ษณ์อกั ษร 7. การศึกษาเป็นรายบุคคล หมายถึง เป็นวธิ ีการที่นิยมใชก้ บั นกั เรียนที่มีปัญหาเป็ นรายบุคคล ปัญหาในที่น้ี หมายความวา่ ควบคุมท้งั เดก็ ที่เรียนเก่งและ เด็กท่ีเรียนอ่อนรวมท้งั เด็กมีปัญหาในดา้ นพฤติกรรมต่าง ๆ ดว้ ย 8. การใชว้ ธิ ีสังคมมิติ เป็นวธิ ีการท่ีนิยมใชเ้ พื่อใหส้ มาชิกในกลุ่มเดียวกนั ประเมินคุณภาพของบุคคลใน สมาชิกเดียวกนั เพอ่ื ตรวจสอบดูวา่ สมาชิกคนใด ไดร้ ับความนิยมสูงสุดในดา้ นใดดา้ นหน่ึงหรือหลาย ๆ ดา้ นกไ็ ด้ 9. การใหป้ ฏิบตั ิและนาไปใช้ เป็นวธิ ีการท่ีครูตอ้ งการทราบพฒั นาการทางดา้ นทกั ษะหรือการปฏิบตั ิงานของ นกั เรียนหลงั จากท่ีไดแ้ นะนาวธิ ีการปฏิบตั ิใหแ้ ลว้

การประเมินผลการเรียนการสอนทุก ๆ วชิ า ครูควรประเมินความเจริญกา้ วหนา้ ของนกั เรียนหลาย ๆ ดา้ น ท่ี สาคญั คือ 1. ดา้ นความรู้ (Cognitve Domain ) คือ การวดั ความรู้ความเขา้ ใจ การนาไปใช้ การวเิ คราะห์ การสังเคราะห์ และการประเมินผล 2. ดา้ นเจตคติ ( Affective Domain) คือ การวดั ความรู้สึก ค่านิยม คุณธรรมและจริยธรรมของนกั เรียนในดา้ น ตา่ ง ๆ เช่น ความตรงต่อเวลา ความมีระเบียบวนิ ยั ความเอ้ือ เฟ้ื อเผอ่ื แผ่ และความขยนั ขนั แขง็ ในการทางาน เป็ นตน้ 3. ดา้ นการปฏิบตั ิ (Psychomotor Domian) คือการวดั ดา้ นการปฏิบตั ิงานเพื่อตอ้ งการทราบวา่ นกั เรียนทางาน เป็นหรือไม่หลงั จากท่ีไดศ้ ึกษาภาคทฤษฎีแลว้ การวดั ดา้ นการปฏิบตั ิงานหรือดา้ นทกั ษะน้ี ครูจะใชม้ ากหรือนอ้ ยจะตอ้ งข้ึนอยกู่ บั ลกั ษณะวชิ าท่ีสอน วชิ าใด เนน้ การปฏิบตั ิงานกจ็ าเป็ นตอ้ งมีการวดั ดา้ นการ ปฏิบตั ิงานใหม้ าก ส่วนวชิ าใดเนน้ ให้เกิดความงอกงามทางดา้ นสติปัญญา การวดั ดา้ นการปฏิบตั ิงานก็จะลด นอ้ ยลง อยา่ งไรกต็ าม ในการเรียนการสอนทุก ๆ วชิ าควรจะมีการวดั ในดา้ นการปฏิบตั ิงานบา้ งตามสมควร R (Research) – การวจิ ัย หมายถึง ครูตอ้ งเป็นนกั แกป้ ัญหา เพราะการวจิ ยั เป็นวธิ ีการแกป้ ัญหาและ การศึกษาหาความจริง ความรู้ท่ีเช่ือถือไดโ้ ดยวธิ ี การวจิ ยั ของครูในท่ีน้ี อาจจะมีความหมายเพยี งแคค่ น้ หาสาเหตุตา่ ง ๆ ท่ีนกั เรียนมีปัญหาไปจนถึงการวจิ ยั อยา่ งมีระบบในช้นั สูงก็ได้ สาเหตุท่ีครูตอ้ งรับผดิ ชอบ ในดา้ นน้ีกเ็ พราะในการเรียนการสอนทุก ๆ วชิ า ควรจะตอ้ งพบกบั ปัญหาตา่ ง ๆ อยเู่ สมอ เช่น ปัญหาเดก็ ไม่ ทาการบา้ น เดก็ หนีโรงเรียน เดก็ ท่ีชอบรังแกเพือ่ น และเด็กที่ชอบลกั ขโมย เป็นตน้ พฤติกรรมตา่ ง ๆ เหล่าน้ี ถา้ ครูสามารถแกไ้ ขไดก้ จ็ ะทาใหก้ ารเรียนการสอน มีประสิทธิภาพยง่ิ ข้ึน

การที่ครูจะแกไ้ ขปัญหาการเรียนการสอนใหไ้ ดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพน้นั ครูจะตอ้ งทราบสาเหตุ แห่งปัญหาน้นั วธิ ีการท่ีควรจะทราบสาเหตุที่แทจ้ ริงได้ ครูจะตอ้ งอาศยั การวจิ ยั เขา้ มาช่วย ดงั น้นั หนา้ ที่ของครูในดา้ นการคน้ ควา้ วจิ ยั จึงเป็นงานท่ีครูจะหลีกเลี่ยง ไมไ่ ด้ เมื่อเป็ นเช่นน้ี ครูทุกคนจึงควรศึกษากระบวนการวจิ ยั ใหม้ ีความรู้ ความเขา้ ใจดว้ ย ข้นั ตอนในการวจิ ยั ที่สาคญั มี ดงั น้ี 1. การต้งั ปัญหา 2. การต้งั สมมุติฐานเพื่อแกป้ ัญหา 3. การรวบรวมขอ้ มูล 4. การวเิ คราะห์ขอ้ มูล 5. สรุปผล สาหรับข้นั ตอนของการทางานวจิ ยั ควรดาเนินงานตามลาดบั ต่อไปน้ี 1. การเลือกปัญหาสาหรับการวจิ ยั 2. การศึกษาเอกสารและงานวจิ ยั ที่เกี่ยวขอ้ ง 3. การจากดั ขอบเขตและการใหค้ าจากดั ความของปัญหา 4. การต้งั สมมุติฐาน 5. การกาหนดประชากรและกลุ่มตวั อยา่ ง 6. การสร้างเคร่ืองมือสาหรับการวจิ ยั 7. การรวบรวมขอ้ มูล 8. การวเิ คราะห์และการแปลความหมายขอ้ มูล 9. การสรุป อภิปราย และขอ้ เสนอแนะ 10. การรายงานผลการวจิ ยั

S (Service) บริการ หมายถึง การใหบ้ ริการ คือ ครูจะตอ้ งใหบ้ ริการแก่สังคมหรือบาเพญ็ ตนใหเ้ ป็น ประโยชนต์ ่อสงั คม ดงั ต่อไปน้ี 1. บริการความรู้ทว่ั ไป ใหแ้ ก่นกั เรียน ผปู้ กครอง ประชาชนในทอ้ งถ่ิน 2. บริการความรู้ทางดา้ นความรู้และสุขภาพอนามยั โดยเป็ นผใู้ หค้ วามรู้หรือเป็ นผปู้ ระสานงานเพอื่ ดาเนินการใหค้ วามรู้แก่ประชาชน 3. บริการดา้ นอาชีพ เช่น ร่วมมือกบั หน่วยงานอ่ืนเพ่ือจดั ฝึ กอบรมอาชีพระยะส้นั ใหป้ ระชาชนในทอ้ งถ่ิน 4. บริการใหค้ าปรึกษาหารือทางดา้ นการศึกษาหรือการทางาน 5. บริการดา้ นแรงงาน เช่น ครูร่วมมือกบั นกั เรียนเพื่อพฒั นาหมู่บา้ น 6. บริการดา้ นอาคารสถานที่แก่ผปู้ กครองนกั เรียนที่มาขอใชอ้ าคารสถานที่ในโรงเรียนดว้ ยความเตม็ ใจ

หน้าท่แี ละความรับผดิ ชอบของครู 1. สอนศิลปวทิ ยาให้แก่ศิษย์ ซ่ึงถือเป็นหนา้ ที่สาคญั สาหรับครู ครูท่ีดีตอ้ งทาการสอนอยา่ งมีประสิทธิภาพ มี การพฒั นาการสอนใหส้ อดคลอ้ งกบั ความสามารถ และความสนใจของนกั เรียน นอกจากน้นั ตอ้ งสามารถใหบ้ ริการการแนะแนวในดา้ นการเรียน การครอง ตน และรักษาสุขภาพอนามยั จดั ทาและใชส้ ่ือการเรียน การสอนอยา่ งมีประสิทธิภาพรวมท้งั สามารถปรับหลกั สูตรการเรียนการสอนใหส้ อดคลอ้ งกบั นโยบายการ พฒั นาสภาพแวดลอ้ มของทอ้ งถ่ินและสถานการณ์บา้ นเมืองในปัจจุบนั 2. แนะแนวการศึกษาและอาชีพทเ่ี หมาะสมให้แก่ศิษย์ เพอ่ื ช่วยใหศ้ ิษยข์ องตนสามารถเลือกวชิ าเรียนไดต้ าม ความเหมาะสม ท้งั น้ีครูตอ้ งคานึงถึงสติปัญญา ความสามารถ และความถนดั ของบุคลิกภาพของศิษยด์ ว้ ย 3. พฒั นาและส่งเสริมความเจริญก้าวหน้าของศิษย์ โดยการจดั กิจกรรม ซ่ึงมีท้งั กิจกรรมการเรียนการสอน ในหลกั สูตร และกิจกรรมการเรียนการสอนนอกหลกั สูตร 4. ประเมินผลความเจริญก้าวหน้าของศิษย์ เพื่อจะไดท้ ราบวา่ ศิษยไ์ ดพ้ ฒั นาและมีความเจริญกา้ วหนา้ มาก นอ้ ยเพยี งใดแลว้ การประเมินผลความเจริญกา้ วหนา้ ของศิษยค์ วรทาอยา่ งสม่าเสมอ 5. อบรมคุณธรรม จริยธรรม ความมรี ะเบียบวนิ ัย และค่านิยมทด่ี งี ามให้แก่ศิษย์ เพอ่ื ศิษยจ์ ะไดเ้ ป็นผใู้ หญ่ท่ีดี ของสังคมในวนั หนา้ 6. ปฏบิ ตั ิตามกฎระเบยี บของหน่วยงานและสถานศึกษา ปฏิบตั ิตามพระราชบญั ญตั ิครูและจรรยาบรรณครู เพือ่ เป็ นแบบอยา่ งท่ีดีแก่ศิษย์ 7. ตรงต่อเวลา โดยการเขา้ สอนและเลือกสอนตามเวลา ทางานสาเร็จครบถว้ นตามเวลาและรักษาเวลาที่นดั หมาย 8. ปฏบิ ตั งิ าน ทางานในหนา้ ที่ ที่ไดร้ ับมอบหมายอยา่ งมีประสิทธิภาพ 9. ส่งเสริมและพฒั นาความรู้ความสามารถของคน โดยการศึกษาคน้ ควา้ หาความรู้เพมิ่ เติมอยเู่ สมอครูไทย ในสมยั กรุงสุโขทยั ถึงกรุงรัตนโกสินทร์ตอนตน้ คือ พระภิกษุ สมยั น้นั ภาระหนา้ ท่ีของพระภิกษุท่ีเป็ นครู คือตอ้ งบิณฑบาตมาเล้ียงดูศิษยอ์ บรมศิษยใ์ นทาง ศาสนานอกจากน้นั ครูจะสอนเขียนอ่านหนงั สือ

หน้าท่แี ละความรับผดิ ชอบท่ีพงึ ประสงค์ของครู อาจวเิ คราะห์หนา้ ท่ีของครูจากระเบียนปฏิบตั ิราชการ การศึกษาสัมมนา และการวจิ ยั เกี่ยวกบั หนา้ ที่และความรับผิดชอบของครูตามลกั ษณะงานครู หนา้ ท่ีความรับผดิ ชอบของครุจากงานวจิ ยั ต่างๆ ดงั เช่น เฉลียว บุรีภกั ดีและคณะ (2520 : 235-240) วจิ ยั เรื่องลกั ษณะของครูที่ดีและสรุปไดว้ า่ ครูที่ดีจะตอ้ งมี หนา้ ที่และความรับผดิ ชอบ ดงั ต่อไปน้ี 1. หมน่ั อบรมเดก็ อยเู่ สมอ 2. ต้งั ใจสอน รักการสอน 3. จดั การปกครองใหเ้ ป็นที่เรียบร้อย 4. เตรียมการสอน และทาการบนั ทึกการสอน 5. หมน่ั วดั ผลและติดตามผลการเรียน 6. รับผดิ ชอบในหนา้ ท่ีที่ไดร้ ับมอบหมาย 7. ช่วยใหค้ ะแนะนาแก่เด็กดว้ ยความเตม็ ใจ 8. สอนใหเ้ ด็กเป็นประชาธิปไตย 9. ทาบญั ชีรายชื่อ และสมุดประจาช้นั 10. ดูแลบารุงรักษาหอ้ งเรียนและอาคารสถานท่ี 11. เก่ียวกบั การสอน การอบรม การวดั ผล 12. เก่ียวกบั ธรุการและระเบียนวนิ ยั 13. คน้ ควา้ เพ่ิมเติมและหาความรู้ใหมๆ่ มาสอน 14. สอนใหเ้ ดก็ เป็นคนดี 15. หมนั่ หาความรู้และวธิ ีการหาความรู้ 16. เป็นตวั อยา่ งแก่เดก็ 17. จดั การแนะแนวท่ีดีแก่เดก็ 18. ช่วยงานสารบรรณและธุรการโรงเรียน

19. เอาใจใส่เดก็ 20. บริการโรงเรียน 21. เป็นครูประจาช้นั 22. ทาระเบียนและสมุดรายงานนกั เรียน 23. มีมนุษยส์ ัมพนั ธ์ท่ีดี 24. ร่วมกิจกรรมชุมชน 25. สอนใหเ้ ขา้ ใจแจ่มแจง้ 26. เอวใจใส่และพยายามเขา้ ใจปัญหาและความตอ้ งการของเด็ก 27. ช่วยประชาสมั พนั ธ์กิจการของโรงเรียนไดด้ ี จากหนา้ ท่ีและความรับผดิ ชอบของครูดงั กล่าวแลว้ นนั่ อาจสรุปเป็นขอ้ สาคญั โดยเทียบกบั พยญั ชนะ จากคาวา่ TEACHERS ซ่ึงในที่นี่ สรุปไดด้ งั น้ี T = Teaching and Training การส่งั สอนและการฝึกฝนวทิ ยาการ E = Ethics Instruction การอบรมคุณธรรมและจริยธรรม A = Action Research การวจิ ยั และการศึกษาคน้ ควา้ C = Cultural Heritage การถ่ายทอดวฒั นธรรม H = Human Relationship การสร้างมนุษยส์ มั พนั ธ์ E = Extra Jobs การปฏิบตั ิงานที่พิเศษต่างๆ R = Reporting and Counselling การรายงานผลนกั เรียนและการแนะแนว S = Student Activities การจดั กิจกรรมนกั เรียน

3.พฤตกิ รรมของนักเรียน พฤติกรรมของนกั เรียนในระดบั ช้นั ต่างๆ จากการสงั เกตจะเห็นไดว้ า่ พฤติกรรม นกั เรียนโดยทวั่ ไป จะมี นกั เรียนส่วนหน่ึงที่มีความต้งั ใจ สนใจในการเรียนมาก และอีกส่วนหน่ึงจะไม่ค่อยสนใจ ติดเล่น ติดคุย ไม่ ฟังครูผสู้ อน พฤติกรรมของ นกั เรียนแต่ละคนจะมีหลายดา้ นแตกต่างกนั ออกไป อาทิ เช่น ลกั ษณะนิสัย อารมณ์ และการแสดงออกทางพฤติกรรม ซ่ึงครูมีหนา้ ที่ที่จะตอ้ งจดั การช้นั เรียนแกไ้ ข พฤติกรรมท่ีเป็ น ปัญหาในช้นั เรียนของตนในหลายๆกรณี ลกั ษณะของพฤตกิ รรมท่พี บบ่อย จะเห็นไดว้ า่ ในช้นั เรียนแตล่ ะระดบั ช้นั จะมีนกั เรียนที่แสดงพฤติกรรมแตกต่าง กนั ออกไปมีท้งั พฤติกรรมที่ พงึ ประสงค์ และไมพ่ ึงประสงค์ เช่น มีนกั เรียนบางส่วน ต้งั ใจเรียน อีกส่วนไมต่ ้งั ใจเรียน มีพฤติกรรม ก่อกวน อยไู่ ม่นิ่ง ส่งเสียงดงั เป็นส่วน นอ้ ย ซ่ึงส่วนใหญน่ กั เรียนท่ีมีพฤติกรรมดงั กล่าวจะมีมาก และจะมี เพียงส่วนหน่ึง เทา่ น้นั ที่ไมค่ ่อยเชื่อฟัง ลกั ษณะพฤติกรรมของนกั เรียนที่พบบอ่ ย มีดงั น้ี 1.สนทนากนั ในหอ้ งเรียน สาเหตุเนื่องมาจากการท่ีนกั เรียน ไมส่ นใจในการเรียน เบื่อหน่าย ไม่ชอบ เร่ืองในรายวชิ าต่างๆ  นกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี4/1 นกั เรียนส่วนมากจะต้งั ใจเรียน แตจ่ ะมีอีกส่วนท่ีด้ือไมค่ อ่ ยฟังครู แตเ่ ม่ือเวลาดุนกั เรียน นกั เรียน ก็จะเช่ือฟังและจะปฏิบตั ิตามนกั เรียนมีความเป็นระเบียบ เรียบร้อยจะมีส่วน นอ้ ยมากๆ ที่จะด้ือ ไมค่ ่อยเป็ นระเบียบ บาที อาจมีรังแกเพ่ือนบา้ ง แตภ่ าพรวมนกั เรียนต้งั ใจเรียนและน่ารัก เป็ นบางคร้ ัง  นกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่4/2 นกั เรียนหอ้ งนี่ส่วนมากต้งั ใจ เรียนแตม่ ีส่วนนอ้ ยที่ต้งั ใจเรียนไม่ คอ่ ยฟังครู เวลาดุไม่ค่อยฟังจะมีนกั เรียนบางส่วนท่ีต้งั ใจ บางส่วนไมต่ ้งั ใจ นกั เรียนไม่คอ่ ยมี ระเบียบ เวลา เรียนจะมีส่วนหน่ึงที่ต้งั ใจเรียนอีกส่วนจะเล่นกนั ไม่ ค่อยฟัง ค่อนขา้ งจะด้ือ  นกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี5/3 นกั เรียนห้องน่ีค่อนขา้ งต้งั ใจ เรียน นกั เรียนแบ่งเป็นคนละส่วน มี ส่วนต้งั ใจเรียน มีส่วนท่ีชอบ ติดเล่น แต่เม่ือเวลาดุ นกั เรียนจะหยดุ เล่นและต้งั ใจเรียนชว่ั ขณะ มีความป็น ระเบียบเรียบร้อยเป็นบางส่วน อีกไม่ก่ีคนที่ไม่ค่อยอยู่ ในระเบียบ  นกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่5/4 นกั เรียนห้องนี่ไม่คอ่ ยต้งั ใจ เรียน และไม่คอ่ ยฟังครู ไม่ค่อยมี ระเบียบ เวลาดุจะฟังบา้ ง บางคร้ัง บางคร้ังกไ็ ม่ฟังเลย จะมีเด็กผชู้ ายบางคนที่เรียบร้อย ต้งั ใจเรียน

 นกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี5/5 นกั เรียนหอ้ งน่ีไม่ค่อนสนใจ เรียน ไม่คอ่ ยต้งั ใจเรียน จะมีส่วน นอ้ ยมากท่ีต้งั ใจเรียน มีบางคน ที่กา้ วร้าวใส่ครู ไม่มีความเคารพครู  นกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี5/6 นกั เรียนหอ้ งไม่ค่อยต้งั ใจเรียน และไมก่ รงใจครูผสู้ อนเลย ด้ือกนั มากเป็นส่วนใหญท่ ้งั ชายและ หญิง จะมีผหู้ ญิงและผชู้ ายไม่กี่คนที่ต้งั ใจเรียน สรุป จะมีนกั เรียนที่ต้งั ใจเรียนส่วนหน่ึง บางส่วนอาจจะไม่คอ่ ยต้งั ใจเรียน อีก ส่วนคือนกั เรียนที่ไม่ ต้งั ใจเรียน และไมค่ ่อยฟังครูผสู้ อน แต่นกั เรียนโรงเรียนร่มเกลา้ กาญจนบุรี เป็นส่วนใหญ่ จากการสังเกต นกั เรียนจะมีความสนใจกีฬากนั มากๆ ทุกวนั ของการพกั เท่ียงและช่วงใกลเ้ ลิกเรียนนกั เรียนจะมาขอเบิก อุปกรณ์กีฬาไปเล่นกนั โดยจบั กนั เป็นกลุ่มๆ จะมีนกั เรียนส่วนนอ้ ยท่ีนง่ั เล่น โทรศพั ทม์ ือถือ วธิ กี ารแก้ปัญหาพฤติกรรมไม่พงึ ประสงค์ของนักเรียน ครูควรใหค้ าแนะนานกั เรียนท่ีมีความประพฤติที่ผดิ เพ่ือใหน้ กั เรียนปรับปรุง แกไ้ ข ควรมีการจดั ประชุม ผปู้ กครองนกั เรียนเพอ่ื ปรับความเขา้ ใจ และหาแนวทาง แกไ้ ขพฤติกรรมของนกั เรียนร่วมกนั เม่ือพบวา่ นกั เรียนมีพฤติกรรมท่ีไมเ่ หมาะสม ครูที่ปรึกษาควรต้งั กฎประจาหอ้ งเรียนท่ีทุกคนตอ้ งปฏิบตั ิร่วมกนั และต้งั โทษ นกั เรียนท่ีกระทาผดิ ไวด้ ว้ ยการทาโทษนกั เรียนของครู โดยละเวน้ จากการตี ควร ใหน้ กั เรียนทา กิจกรรมบาเพญ็ ประโยชน์แทนครูให้โอกาสนกั เรียนแกไ้ ขเม่ือนกั เรียนทาความผดิ ครูเรียกมาตกั เตือนและ ใหน้ กั เรียนรีบไปแกไ้ ข 4.การจดั บรรยากาศในช้ันเรียน บรรยากาศในช้นั เรียนมีส่วนสาคญั ในการส่งเสริมความสนใจใหแ้ ก่ผเู้ รียน ช้นั เรียนที่มีบรรยากาศเตม็ ไป ดว้ ย ความอบอุ่น ความเห็นอกเห็นใจ และความ เอ้ือเฟ้ื อเผื่อแผต่ ่อกนั และกนั เป็ นแรงจูงใจภายนอกที่ กระตุน้ ใหผ้ เู้ รียนรักการเรียน รักการอยรู่ ่วมกนั ในช้นั เรียน และช่วยปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ความ ประพฤติ อนั ดีงามใหแ้ ก่นกั เรียน จากการเรียน จากการสงั เกตไดด้ งั น้ี

1.การจดั โตะ๊ เรียนและเกา้ อ้ีของนกั เรียน -จดั ใหม้ ีขนาดเหมาะสมกบั รูปร่างและวยั ของนกั เรียน -จดั ใหม้ ีความสะอาดต่อการทาความสะอาดและเคลื่อนยา้ ยเปลี่ยนรูปแบบท่ีนงั่ ไม่จาเจ -จดั ท่ีนงั่ ให้นกั เรียนสามารถมองเห็นกระดานไดช้ ดั เจน -จดั ท่ีนง่ั ใหส้ มดุลกบั หอ้ งเรียน ไม่ใกลห้ รือไกลกระดานจนเกินไป -จดั ท่ีนงั่ ระหวา่ งนกั เรียนใหม้ ีระยะเหมาะสม 2.การจดั บอร์ด -จดั ตกแต่งออกแบบใหส้ วยน่าดู ใชค้ วามคิดสร้างสรรค์ -จดั เน้ือหาสาระใหส้ อดคลอ้ งและมีประโยชน์กบั นกั เรียนมากท่ีสุด -จดั เก่ียวกบั วนั สาคญั ตา่ งๆ -จดั บอร์ดเชื่อมความสมั พนั ธ์ภายในหอ้ งเรียน เช่น จดั บอร์ดสมาชิกในหอ้ ง และ มีการใหเ้ ขียนอวย พรวนั เกิดใหเ้ ดือนต่างๆ 3.การจดั สภาพหอ้ งเรียน ใหถ้ ูกสุขลกั ษณะ -มีอากาศถ่ายเทไดด้ ี ไม่แออดั -มีความสะอาด เรียบร้อยและเป็นระเบียบอยเู่ สมอ -มีแสงสวา่ งเพียงพอ เพือ่ ช่วยถนอมสายตาใหแ้ ก่นกั เรียน 5.ปฏสิ ัมพนั ธ์ระหว่างครูกบั บุคคลที่เกยี่ วข้อง , โรงเรียนชุมชน และ ครูกบั ชุมชน จากประสบการณ์การไปสงั เกตที่โรงเรียนร่มเกลา้ กาญจนบุรี ไดป้ ฏิสมั พนั ธ์ระหวา่ งครูพเ่ี ล้ียง อยา่ งดี มีความ สนิทสนม สามารถสอบถามในเรื่องที่ไม่เขา้ ใจได้ เมื่อเจอบุคคล ภายนอก ก็ใหค้ วามเคารพ ยกมือไหว้ ตอ้ นรับ เจอผปู้ กครองกย็ มิ้ แยม้ ทกั ทาย ทาความเคารพ

วนั ไหนท่ีตรงกบั วนั สาคญั โรงเรียนจะมีการจดั กิจกรรมเกี่ยวกบั น้นั ๆ ใน ระยะเวลาการสังเกต โรงเรียนจดั กิจกรรมท้งั หมด 2 งาน คือ ในวนั ที่ 5-7 กุมภาพนั ธ์ 2563 โรงเรียนจดั กิจกรรมเขา้ คา่ ยลูกเสือ นกั ศึกษาไดม้ ีการติดต่อเจา้ หนา้ ที่และคอยดูนกั เรียน เขา้ ร่วมกิจกรรมต่างๆ คอยช่วยคุณครู ในวนั ท่ี 14 กมุ ภาพนั ธ์ 2563 โรงเรียนจดั กิจกรรม OPEN HOUSE มีคา่ ย วชิ าการ มีซุม้ ฐาน และซุม้ ขายของมากมาย โดยมีโรงเรียนอ่ืน ๆ ในอาเภอ ทองผาภูมิ มาร่วมกิจกรรม มีการมอบประกาศนียบตั รใหก้ บั นกั เรียนและครูท่ีไดส้ ร้างผลงาน ครูทุกทา่ นจะช่วยกนั จดั งานและกิจกรรม ตา่ ง 6.กระบวนการพฒั นาหลกั สูตรสถานศึกษา ....แบบท่ี 1.... 1. การวนิ ิจฉัยความต้องการ (diagnosis of needs) การศึกษาความตอ้ งการเป็นสิ่งที่มีความสาคญั เป็นอนั ดบั แรก ผพู้ ฒั นาหลกั สูตร (ครู) จะตอ้ งวนิ ิจฉยั ประสบการณ์ ความตอ้ งการและความสนใจของผเู้ รียนเพื่อมา กาหนดเน้ือหาของหลกั สูตร 2. การกาหนดวตั ถุประสงค์ (formulation of objectives) เมื่อทราบความตอ้ งการของผเู้ รียนหรือของสังคม แลว้ ผพู้ ฒั นาหลกั สูตรจะตอ้ งกาหนดวตั ถุประสงคข์ องหลกั สูตร ซ่ึงจะใชก้ าหนดเน้ือหาวา่ จะมีความ เฉพาะเจาะจงเพยี งใดและวธิ ีการจดั ประสบการณ์การเรียนรู้ 3. การเลือกเนื้อหา (selection of content) ผพู้ ฒั นาหลกั สูตรเลือกเน้ือหาสาระที่จะนามาใหผ้ เู้ รียนศึกษาโดย พจิ ารณาจากวตั ถุประสงค์ เน้ือหาที่เลือกมาน้นั จะตอ้ งมีความตรง (validity) ตามวตั ถุประสงคแ์ ละมี นยั สาคญั (significance) ตอ่ ผเู้ รียน 4. การจัดองค์ประกอบของเนื้อหา (organization of content) เน้ือหาที่คดั เลือกมาไดน้ ้นั ผพู้ ฒั นาหลกั สูตร จะตอ้ งนามาจดั เรียงลาดบั (sequence) โดยใชเ้ กณฑห์ รือระบบบางอยา่ ง ท้งั ยงั จะตอ้ งคานึงถึงความเช่ือมโยง และการเนน้ (focus) ใหเ้ หมาะกบั วตั ถุประสงคท์ ี่จะสอนและระดบั ของผเู้ รียน 5. การเลือกประสบการณ์การเรียนรู้ (selection of learning experiences) ผพู้ ฒั นาหลกั สูตรจะตอ้ งพิจารณา เรื่องของการจดั เรียงลาดบั ประสบการณ์ และจะตอ้ งเลือกวธิ ีการจดั การเรียนการสอนที่จะสร้างประสบการณ์ เกี่ยวกบั เน้ือหาตามวตั ถุประสงค์ 6. การจัดองค์ประกอบของประสบการณ์การเรียนรู้ (organization of learning experiences) การจดั องคป์ ระกอบของประสบการณ์การเรียนรู้ ผพู้ ฒั นาหลกั สูตรจะตอ้ งคานึงถึงยทุ ธศาสตร์การสอนที่สาคญั คือ การพฒั นากระบวนการสร้างมโนทศั น์ (strategic of concept attainment) และคานึงถึงคาถามสาคญั ไดแ้ ก่

จะทาอยา่ งไรใหเ้ น้ือหาสาระสอดคลอ้ งกบั ประสบการณ์และความสนใจของผเู้ รียน และจะทาอยา่ งไรใหก้ าร จดั ประสบการณ์ การเรียนรู้สอดคลอ้ งและตอบสนองต่อความแตกตา่ งระหวา่ งบุคคล 7. การวนิ ิจฉัยว่าสิ่งทจ่ี ะประเมนิ คืออะไรและจะใช้วธิ ีการและเครื่องมือใดในการประเมิน (determination of what to evaluate and of the ways and means of doing it) นกั หลกั สูตร จะตอ้ งประเมินผลการเรียนรู้ของผเู้ รียนตามวตั ถุประสงคข์ องหลกั สูตร โดยจะตอ้ งตอบคาถาม วา่ จะประเมินคุณภาพของการเรียนรู้ที่เกิดข้ึนไดอ้ ยา่ งไรและจะใชเ้ คร่ืองมือและวธิ ีการใดในการประเมิน ....แบบที่ 2 .... 1.ส่งเสริมและสนบั สนุนใหบ้ ุคลากรในโรงเรียนทุกคนนาปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงมาประยกุ ตใ์ ชใ้ น การทางาน และการดารง ชีวติ อยา่ งมี ความสุข 2.เร่งรัดใหค้ ณะครู บุคลากร จดั กิจกรรมการเรียนการสอน ตามแนวปฏิรูป การเรียนรู้ โดยเนน้ ผเู้ รียนเป็น สาคญั 3.ส่งเสริมใหน้ กั เรียนมีระเบียบวนิ ยั สามารถดาเนินชีวติ ตามวถิ ีประชาธิปไตย อนั มีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็น ประมุข 4.สนบั สนุนใหผ้ เู้ รียนทุกคนไดเ้ ขา้ ถึงโอกาสและแหล่งเรียนรู้ทางการศึกษา มี ความรู้พ้ืนฐานตามระดบั การศึกษา และส่งเสริมความเป็นเลิศทางวชิ าการทุก กลุ่มสาระการเรียนรู้ 5.ส่งเสริมใหน้ กั เรียนมีสุขภาพและสมรรถภาพทางร่างกาย จิตใจ ใหเ้ ป็นไป ตามเกณฑม์ าตรฐานการศึกษา และสามารถเล่นดนตรี กีฬาไดอ้ ยา่ งนอ้ ย 1 ประเภท/ชนิด 6.พฒั นาและปรับปรุงแหล่งการเรียนรู้ในโรงเรียน ใหจ้ ดั กิจกรรมสนบั สนุน การเรียนการสอนโดยเนน้ เดก็ เป็นสาคญั เพื่อส่งเสริมให้นกั เรียนมี ความสามารถในการแสวงหาความรู้และมีนิสัยใฝ่ รู้ ใฝ่ เรียน 7.ส่งเสริมและสนบั สนุนใหน้ กั เรียนมีความรู้ ความสามารถในการใช้ ภาษาไทยไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและมีความ เป็นเลิศทางคณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ 8.ส่งเสริมและสนบั สนุนใหน้ กั เรียนสามารถใชเ้ ครื่องคอมพวิ เตอร์ อินเทอร์เน็ต และการใช้ ภาษาตา่ งประเทศเป็นภาษาท่ีสองได้ 9.ส่งเสริมและสนบั สนุนใหน้ กั เรียนเห็นคุณคา่ ของการอนุรักษพ์ ลงั งานและ สิ่งแวดลอ้ ม ทรัพยากรธรรมชาติ ศิลปวฒั นธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี ไทย

7. การจดั บรรยากาศและการจดั การเรียน การจัดบรรยากาศทางด้านกายภาพ การจดั บรรยากาศทางดา้ นกายภาพ เป็นการจดั วสั ดุอุปกรณ์ส่ิง อานวยความ สะดวกต่าง ๆ ท่ีเก่ียวกบั การเรียนการสอน รวมตลอดไปถึงส่ิงตา่ ง ๆ ที่เสริม ความรู้ เช่น ป้าย นิเทศ มุมวชิ าการ ช้นั วางหนงั สือ โตะ๊ วางสื่อการสอน ฯลฯ การจดั บรรยากาศทางดา้ ยกายภาพ ไดแ้ ก่ การจดั ส่ิงต่อไปน้ี 1.การจดั โตะ๊ เรียนและเกา้ อ้ีของนกั เรียน 2.การจดั โตะ๊ ครู 3 การจดั ป้ายนิเทศ 4. การจดั สภาพหอ้ งเรียน ตอ้ งใหถ้ ูกสุขลกั ษณะ 5. การจดั มุมต่าง ๆ ในหอ้ งเรียน การจัดบรรยากาศทางด้านจิตวทิ ยา การจดั บรรยากาศทางดา้ นจิตวทิ ยาหรือทางดา้ นจิตใจ จะช่วย สร้าง ความรู้สึกใหน้ กั เรียนเกิดความสบายใจในการเรียน ปราศจากความกลวั และ วติ กกงั วล มีบรรยากาศ ของการสร้างสรรคเ์ ร้าความสนใจ ใหน้ กั เรียนร่วม กิจกรรมการเรียนการสอนดว้ ยความสุข นกั เรียนจะเกิด ความรู้เช่นน้ี ข้ึนอยู่ กบั ครู เป็นสาคญั ในขอ้ เหล่าน้ี 1.บุคลิกภาพ 2.พฤติกรรมการสอน 3.เทคนิคการปกครองช้นั เรียน 4.ปฏิสมั พนั ธ์ในหอ้ งเรียน -สรุป การจดั การบรรยากาศเรียนการสอนท่ีดีคือการท่ีมีสภาพแวดลอ้ มที่ทาให้ นกั เรียนสนใจเรียนและมี สมาธิพร้อมที่จะเรียน การสร้างบรรยากาศในช้นั เรียนน้นั เป็นส่วนหน่ึงของการเรียนการสอนหากการเรียน การสอนน้นั มี บรรยากาศท่ีดีทุกอยา่ งกจ็ ะดาเนินต่อไปอยา่ งมีประสิทธิภาพทาใหน้ กั เรียน สนใจเรียนมากข้ึน และเสริมสร้างความเป็ นระเบียบใหก้ บั นกั เรียนนกั เรียน แตล่ ะคนจะมีพฤติกรรมท่ีมีความแตกตา่ งกนั ออกไป แต่นกั เรียนส่วนใหญ่ให้ ความเคารพกบั ครูมาก ครูจะใชห้ อ้ งเรียนเป็นสถานท่ีท่ีจะพฒั นานกั เรียน คน้ พบตวั เอง ไดร้ ับความรู้สึกไดเ้ รียนรู้การมีมารยาทในสงั คมส่วนรวม ดงั น้นั หอ้ งเรียนควรจะมีบรรยากาศ ที่ดีเพอ่ื ใหน้ กั เรียนไดร้ ับประสบการณ์ท่ีดีในการ ใชช้ ีวติ นาประสบการณ์ต่างไปพฒั นาตนเอง

8. กระบวนจดั การเรียนรู้ของครู สารวจประสบการณ์การเรียนรู้ของผศู้ ึกษาเรียน ศึกษาวิเคราะห์ผเู้ รียนเป็ นรายบุคคล กาหนดเป้าหมายท่ี ตอ้ ง การใหเ้ กิดข้ึนกบั ผเู้ รียนบูรณาการถ่ายโอนความรู้เช่ือมโยงความรู้กบั ประสบการณ์เดิมโดย ประยกุ ตใ์ ชอ้ ยา่ ง สร้างสรรคซ์ ่ึงผเู้ รียนสามารถนาไปแกป้ ัญหาในชีวติ จริงได้ จดั ทาแผนการจดั การเรียนรู้ท่ีเนน้ นกั เรียนเป็นสาคญั โดยใชเ้ ทคนิคการเรียนรู้ มี 7 ข้นั ตอนดงั น้ี นาเขา้ สู่บทเรียน ข้นั เพียรศึกษาคน้ ควา้ ข้นั พฒั นาความรู้และฝึกประสบการณ์ ข้นั สร้างสรรคอ์ งคค์ วามรู้ ข้นั มุง่ สู่การประเมินผล ข้นั แยบยลผลสรุป ข้นั สุดทา้ ยนาไปใช้ มีการสอดแทรกกิจกรรมฝึกทกั ษะพ้ืนฐานการวิจยั และมีรายละเอียดการบูรณาการ สาระการเรียนรู้ท้งั ในกลุ่มสาระเดียวกนั และต่างกลุ่มสาระ

9. การทางานเป็ นทมี การสื่อสารการแก้ปัญหาในการปฏิบัตงิ าน มีส่วนร่วมในการทางานกบั เพื่อนร่วมสงั เกตการสอน หากมีงานหรือกิจกรรมท่ีตอ้ งปฏิบตั ิร่วมกนั จะ ประชุมเพือ่ แจง้ รายละเอียดของขอ้ มูลใหท้ ราบกนั ทุกคน ทา งานดว้ ยความสามคั คี ช่วยการแสดงความ คิดเห็น มีการจดั กระบวนการแลกเปลี่ยนความรู้ของครู ทุกอาทิตย์ เพอ่ื ใหค้ รูไดม้ ีการ ปรึกษาพดู คุย แลกเปล่ียน ความคิดเห็น ถา้ มีปัญหาจะไดช้ ่วยกนั หาวธิ ีแกไ้ ขร่วมกนั และ การช่วยกนั จดั งานของโรงเรียน และแบง่ หนา้ ท่ี เพือ่ ใหค้ รูแตล่ ะคนไดม้ ีส่วนร่วม การทางานกนั เป็ นทีม โดยการจดั กิจกรรมต่างๆของโรงเรียนเช่นกิจกรรม การจดั นิทรรศการเก่ียวกบั OPHE HOUSE และเป็นการจดั กิจกรรมใหน้ กั เรียนภายในโรงเรียนมีความรู้ เกี่ยวกบั วชิ าการ การทางานกนั เป็นทีมและการช่วยเหลือกนั ในการ ท างานจดั กิจกรรม โดยการมีปัญหาในการจดั สถานที่ แต่ทุกคนก็ สามารถจดั กิจกรรมออกมาไดเ้ ป็นอยา่ งดี และการจดั กิจกรรมเขา้ ค่ายลูกเสือ เป็นการจดั กิจกรรมเกี่ยวกบั การ เขา้ คา่ ยพกั แรม โดยการจดั นอกสถานท่ีน้นั ตอ้ งอาศยั การทางานเป็นทีม ช่วยกนั จดั สถานท่ี อาจจะมีปัญหา บา้ งอยา่ ง แต่การจดั กิจกรรมน้นั ผา่ นไป ไดด้ ว้ ยดี

บทท่ี 2 การมีส่วนรวมในการปฏิบตั ิการสอน 1. การปฏบิ ตั งิ านร่วมกบั ครูพเ่ี ลยี้ ง - คุมช้นั เรียนร่วมกบั ครูพ่เี ล้ียง - ตรวจเชค็ จานวนนกั เรียน - ช่วยครูพ่ีเล้ียงทางานอ่ืน ๆ - ช่วยงานครูในหอ้ งธุรการ - ไปเขา้ ค่ายลูกเสือกบั ครูพีเ่ ล้ียง - ทากิจกรรม open house กบั ครูพเ่ี ล้ียง 2. การสนับสนุนการเรียนการสอน -ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมในชวั่ โมง - ใหน้ กั เรียนทาแบบฝึกหดั

3. การจดั กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน - สอนนกั เรียนในส่ิงที่ไม่เขา้ ใจในหอ้ งเรียน - สอนนกั เรียนทาการบา้ น - สอนนกั เรียนโดยท่ีครูพ่ีเล้ียงลา 4. ปฏิสัมพนั ธ์ระหว่างครูกบั บุคคลทเ่ี กย่ี วข้อง ครูกบั ชุมชน โรงเรียนกบั ชุมชน - เขา้ แถวร่วมกบั นกั เรียนตอนเชา้ เป็นประจาทุกวนั - ทกั ทายและพูดคุยกบั ผปู้ กครองของนกั เรียน - ช่วยงานครูตามท่ีครูไดม้ อบหมาย - ทกั ทายและทาความรู้จกั กบั พน่ี กั ศึกษาฝึกสอนทุกคน - ร่วมจดั งานเปิ ดบา้ นใหก้ บั นกั เรียน - กิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารี

บทท่ี 3 สรุปและข้อเสนอแนะ จากการออกสงั เกต ไดร้ ับหนา้ ท่ีเป็นผสู้ งั เกตการณ์สอนประจาช้นั มธั ยมคึกษาปี ท่ี 4-5ซ่ึงมีนกั เรียน ท้งั หมด 224 คน ครูพ่เี ล้ียงช่ือ นางสาวทิพวรรณ บวั ทอง ช่ือเล่น ครูทิพ จบการศึกษาปริญญาตรี เอกฟิ สิกส์ จากมหาวทิ ยาลยั ศิลปากร งานที่ไดร้ ับมอบหมาย คือ สังเกตบริบทของโรงเรียน สังเกตหน้าทขี่ องครูและสังเกตพฤตกิ รรมของโรงเรียน การเป็ นครูสังเกตในคร้ังน้ีไดร้ ับมอบหมายของครูพี่เล้ียงคือ ในตอนเชา้ ดูแลนกั เรียนควบคุมเขียว ดูแลนกั เรียนเขา้ แถวเคารพธงชาติ ท่ีโรงเรียนร่มเกลา้ กาญจนบุรี จะเขา้ แถวเป็นห้องและแบ่งช้นั เรียนตามช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 1-6 เมื่อมีการเขา้ แถวตอนเชา้ เคารพธง โดยสวดไดก้ นั ท้งั หมด เป็นการปลูกฝังเดก็ ท่ีดี แลว้ จึงท่องบทสวดแผ่เมตตาให้ครอบครัวและตนเองและร้องเพลงมาร์ช หลงั จากน้ันแยกยา้ ยเขา้ ห้องเรียน ในช่วงสัปดาห์แรกก็ช่วยครูแจกใบงาน คอยสงั เกตเวลาที่ครูสอนวา่ นกั เรียนเขา้ ใจในเรื่องท่ีสอนหรือไม่ เด็ก บางคนสมาธิส้ันไม่ค่อยอยนู่ ่ิง ครูก็จะคอยเรียกชื่อบ่อยๆเพื่อดึงสติ ใชน้ ้าเสียงข่นู กั เรียนใหฟ้ ัง พกั ผอ่ นคลาย ใหน้ กั เรียนไปห้องน้า ด่ืมน้า เล่นเกมส์บา้ ง คาบเรียนไหนที่ครูไม่อยใู่ นช้นั เรียนครูก็จะฝากงานไวใ้ ห้ทาใบ งาน ผมก็ตอ้ งควบคุมใหน้ กั เรียนทาใบงานในหน่วยการเรียนรู้น้นั ถา้ ทาเสร็จกจ็ ะร้องเพลงเตน้ กบั นกั เรียนได้ ผอ่ นคลายมีเสียงหวั เราะกจ็ ะเรียนวชิ าต่อไป ช่วงพกั กลางวนั ซ่ึงท่ีโรงเรียนจะมีแมค่ รัวทาอาหาร สาหรับเด็ก หอในโรงเรียน ในเร่ืองของอาหารจะเนน้ เรื่องการถูกหลกั โภชนาการ แต่ก็มีร้านคา้ ครบทุกอยา่ งสาหรับเดก็ บา้ น ซ่ึงในโรงเรียนจะไม่มีการขายน้าหวานหรือน้าอดั ลม ที่ขายใหน้ กั เรียนจะมีเป็ นไอศกรีม และขนมใน สหกรณ์โรงเรียน ครูกส็ อนช่างบา่ ย ก่อนจะเลิกเรียน นกั เรียนทุกคนจะเขา้ มาอา่ นหนงั สือภายในหอ้ งสมุดกนั เยอะมาก

บทท่ี 3 สรุปและข้อเสนอแนะ 1. สรุปผลการศึกษาสังเกต ขา้ พเจา้ ไดร้ ับมอบหมายให้ไปสังเกตการสอนที่โรงเรียนร่มเกลา้ กาญจนบุรี ไดเ้ ขา้ ร่วมสังเกตการณ์ เรียนการสอน ซ่ึงในช่วงวนั แรก ทางฝ่ ายวิชาการการได้ให้เลือกครูพี่เล้ียงให้ขา้ พเจา้ ก่อนเพ่ือจะได้ สังเกตแบบเจาะลึกไปก่อน ขา้ พเจา้ ได้ครูพ่ีเล้ียง ชื่อ นางสาวทิพวรรณ บวั ทอง เพื่อที่จะได้ศึกษา เทคนิคการสอน การดูแลควบคุมนกั เรียนใหเ้ ช่ือฟัง การทาสื่อการสอนใหเ้ หมาะสมกบั ผเู้ รียน การเป็นครูน้นั มิ จาเป็นตอ้ งสอนเพยี งอา่ งเดียว แตต่ อ้ งทาและช่วยเหลือในส่ิงตา่ งๆภายในโรงเรียน อีกดว้ ย ดา้ นการเรียนการสอน ครูผูส้ อนมีการจดั การช้นั เรียนไดด้ ี สามารถสอน ให้นกั เรียนเขา้ ใจเน้ือหา ของการสอน การส่งการบา้ นใหต้ รงเวลา ควบคุม นกั เรียนให้เป็ นระเบียบเรียบร้อย และยงั จดกิจกกรม การเรียนรู้ในหอ้ งเรียน ใหน้ กั เรียนอยตู่ ลอดเวลา ดา้ นนกั เรียน นกั เรียนโรงเรียนร่มเกลา้ กาญจนบุรี จะแบ่งเป็ นส่วนๆ ส่วนที่ ต้งั ใจเรียน ส่วนท่ีไม่ ค่อยต้งั ใจเรียน นกั เรียนแต่ละห้องจะไม่ เหมือนกนั แต่ที่สังเกตไดช้ ดั นักเรียนส่วนใหญ่สนใจต้งั ใจ ทางานเป็ นอยา่ งมาก เวลาวา่ งของแต่ละคนก็เล่นโทรศพั ท์ นกั เรียนจะต้งั ใจเรียนกนั เป็ นส่วนใหญ่ อีก ส่วนก็ จะเกเรไม่คอยฟังครูและออกกา้ วร้าวกบั ครูผสู้ อนบา้ งบางคร้ัง ดา้ นหนา้ ท่ีท่ีนกั ศึกษา หนา้ ท่ีท่ีผอู้ านวยการใหน้ กั ศึกษาทา คือ การยนื เวนหนา้ ประตูทุกเชา้ ช่วยงาน คุณครูทุกคนในโรงเรียน และการทาเล่มรายงานการสงั เกตโรงเรียนร่มเกลา้ กาญจนบุรี และส่งมหาลยั วทิ ยาราชภฏั หมูบ่ า้ นจอมบึง

2. สรุปผลการมสี ่วนร่วมในการปฏบิ ตั กิ ารสอน ในฐานะผู้สังเกตุการสอน ส่ิงท่ีขา้ พเจา้ ไดเ้ รียนรู้คือ ขา้ พเจา้ ไดศ้ ึกษาเทคนิคการสอนของนกั เรียนแต่ละช่วงช้นั วา่ เด็กวยั น้ีตอ้ ง ได้รับอะไรบ้าง ต้องสอนแบบไหน สอนอย่างไรให้เด็กเข้าใจและสาหรับเด็กสมาธิส้ันตอ้ งทาอย่างไร ครูผูส้ อนในวธิ ีการสอนแบบไหน และการใชส้ ื่อการสอนประกอบการสอนแบบใดจึงเหมาะสมกบั นกั เรียน ในช้นั เรียนน้นั และในการเรียนการสอนน้นั ไม่ไดม้ ุ่งเนน้ ที่จะสอนอย่างดี ตอ้ งให้นกั เรียนไดล้ งมือปฏิบตั ิ ควบคู่กนั ไป ครูผูส้ อนตอ้ งสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม ความรู้ ข่าวสารต่างๆเขา้ ไปดว้ ยกนั เพ่ือที่จะเป็ น ความรู้ใหม่ๆใหก้ บั นกั เรียน เวลาที่จดั การเรียนการสอนครูผูส้ อนจะตอ้ งทาบรรยากาศในช้นั เรียนไมน่ ่าเบ่ือ ให้นกั เรียนไดผ้ ่อนคลายไม่ตึงเครียดจนเกินไปหรือสร้างความกดดนั แก่นกั เรียน ขา้ พเจา้ ไดเ้ รียนรู้วิธีการ ทางานของครูในหลายๆดา้ น แต่หนา้ ท่ีหลกั ของครู คือการสอนหนงั สือและงานดา้ นธุรการในช้นั การตรวจ เคร่ืองแต่งกาย การแจกอุปกรณ์การเรียน การควบคุมนกั เรียนให้อยู่ในกฎระเบียบ ในการไปสังเกตการณ์ สอนในคร้ังน้ีขา้ พเจา้ ไดเ้ ก็บเก่ียวประสบการณ์ในดา้ นความครู คือทาใหร้ ู้วา่ เม่ือขา้ พเจา้ ตอ้ งไปสอนนกั เรียน ช้นั มธั ยมศึกษา 5 ซ่ึงไม่ใช่สายวทิ ย-์ คณิต ถา้ เราทาส่ือการเรียนการสอนที่ยากเกินไปหรือซบั ซอ้ นมากเกินไป นกั เรียนไม่สามารถเรียนรู้ เขา้ ใจและไม่สามารถทาได้ ส่ือการเรียนการสอนควรสีสันรูปภาพประกอบเพ่ือ สร้างความดึงดูดให้นกั เรียนสนใจมากยง่ิ ข้ึน หนา้ ที่อีกอยา่ งของครูคือ ตอ้ งดูแลเอาใจใส่อยา่ งทว่ั ถึง สังเกต พฤติกรรมของนกั เรียนมีนิสยั ใจคอแตล่ ะคนแตกแตกกนั อยา่ งไร ครูตอ้ งมีความรับผดิ ชอบต่อหนา้ ท่ี ตรงต่อ เวลา แต่งกายสุภาพให้เหมาะสมกับการเป็ นครู ที่สาคญั ครูต้องควบคุมอารมณ์ของตัวเองให้คงท่ี มี จรรยาบรรณ ขา้ พเจา้ ไดช้ ่วยดูแลในงานกิจกรรมต่างๆที่ทางโรงเรียนจดั ข้ึน และไดร้ ่วมปฏิบตั ิในการช่วย ดูแลนักเรียนในระหว่างท่ีครูสอนและเวลาที่ครูติดธุระ ไม่สามารถมาสอนได้ ข้าพเจ้าทาหน้าที่ตรวจ การบา้ น เช็คช่ือนกั เรียน และช่วยงานตา่ งๆที่ทางโรงเรียนมอบหมายให้ 3.สรุปผลการสัมมนา จากท่ีดิฉนั ไดเ้ ขา้ ร่วมสมั มนา เร่ือง การเตรียมความพร้อมก่อนออกฝึกปฏิบตั ิการสอนในสถานศึกษา และ คูม่ ือการใชส้ มุดกิจกรรมออนไลน์ ในวนั ท่ี ๑๕ มกราคม ๒๕๖๓ ดิฉนั ไดท้ ราบสิ่งท่ีตอ้ งปฏิบตั ิ และงาน ที่ไดร้ ับมอบหมายขณะที่อยใู่ นโรงเรียน คร้ังแรกของการเขา้ ไปภายในโรงเรียน พบกบั หวั หนา้ ฝ่ ายวชิ าการ หวั หนา้ ฝ่ ายวชิ าไดร้ ับมอบหมาย ให้รายงานส่งผูอ้ านวยการเกี่ยวกบั โรงเรียนร่มเกล้ากาญจนบุรี และให้ยืนเวนหน้าประตูและ จากการ

สอบถามการพูดคุยกบั ครูพี่เล้ียง โรงเรียนร่มเกลา้ กาญจนบุรี เป็ น โรงเรียนกิจกรรม มีกิจกรรมพฒั นาผูเ้ รียน เยอะมาก 4. คุณค่าทไ่ี ด้รับจากการปฏบิ ัตงิ านวชิ าชีพครูในคร้ังนี้ 4.1 ด้านความรู้ จากการไดท้ ี่ไปฝึ กปฏิบตั ิวิชาชีพระหวา่ งเรียนในคร้ังน้ี ขา้ พเจา้ ไดค้ วามรู้ในหลายๆเร่ือง เช่น เทคนิค วิธีการสอนของครูแต่ละคน การใช้สื่อการสอน การดูแลอบรมสั่งสอน เสริมสร้างปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมใหแ้ ก่นกั เรียนใหผ้ เู้ รียนเกิดความรู้ ความเขา้ ใจและสามารถทาไปปฏิบตั ิทางท่ีดี ประสบการณ์คร้ัง น้ีเป็นสิ่งที่มีคา่ และดีที่สุดสามารถนาไปใชใ้ นอนาคตขา้ งหนา้ ได้ 4.2 ด้านทกั ษะวชิ าชีพครู ขา้ พเจา้ ไดเ้ รียนรู้ทกั ษะการเป็ นครูท่ีดี การใชภ้ าษาที่ถูกตอ้ งเหมาะสมและน้าเสียง ครูตอ้ งรู้จกั แกไ้ ข สถานการณ์เฉพาะหน้าได้ ครูตอ้ งสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างครูกบั นกั เรียนและนกั เรียนกบั นกั เรียน จดั กิจกรรมเพ่ือตอบสนองความตอ้ งการของผูเ้ รียน ครูตอ้ งคน้ ควา้ หาความรู้ใหม่ๆอยูเ่ สมอ ครูตอ้ งมอบความ รัก ความเอาใจใส่แก่ลูกศิษยเ์ ปรียบเสมือนลูกของตวั เอง ครูอยากนกั เรียนมีความรู้ ความสามารถ พฒั นา ตนเองมีคนเก่งคนดี อยใู่ นศีลธรรมอนั ดี เป็นแบบอยา่ งที่ดีแก่ลูกศิษย์ 4.3 ด้านเจตคตติ ่อวชิ าชีพครู ครูเป็ นบุคคลสาคญั อยา่ งย่ิงในการเรียนการสอน มีความรักและเชื่อมน่ั ศรัทธาในอาชีพครูของตน ยอ่ มทาให้ทางานอยา่ งมีความสุขและมุ่งมน่ั ครูตอ้ งมีความเสียสละ มีเมตตากรุณา และตอ้ งมีความอดทนอด กล้นั เป็นอยา่ งยง่ิ ครูตอ้ งมีความรู้สึกที่ดีตอ่ เด็ก รักและเอน็ ดูเดก็ ใหอ้ ภยั และช่วยเหลือเดก็ อยเู่ สมอ มีความรู้สึกรักการสอน มีการเตรียมการสอนท่ีดี มีเทคนิคและมีวธิ ีการสอนที่หลากหลายใหน้ กั เรียนมี ความรู้ และมีความเขา้ ใจในเน้ือหาวชิ าอยา่ งกวา้ งขวางชดั เจน พร้อมท้งั มีการปรับปรุงการสอนอยเู่ สมอ 4.4 ด้านคุณลกั ษณะความเป็ นครู ครูจะตอ้ งทาแต่ความดีคือตอ้ งหมน่ั ขยนั และอุตสาหะพากเพียร ตอ้ งเอ้ือเฟ้ื อเผ่ือแผแ่ ละเสียสละ ตอ้ ง หนกั แน่นอดกล้นั และอดทน ตอ้ งรักษาวินยั สารวมระวงั ความประพฤติของตนให้อยูใ่ นระเบียบแบบแผน อนั ดีงาม ตอ้ งต้งั ใจมนั่ คงและแน่วแน่ ตอ้ งซ่ือสัตย์ รักษาความจริงใจ ตอ้ งเมตตาหวงั ดี ตอ้ งวางใจเป็ นกลาง ตอ้ งอบรมปัญญาใหเ้ พม่ิ พนู สมบูรณ์ข้ึน ท้งั ในดา้ นวทิ ยาการ และความฉลาดรอบรู้ในเหตุและผล

5. ข้อเสนอแนะ 5.1 ข้อเสนอแนะในการปรับปรุงตนเอง ขอ้ เสนอแนะของขา้ พเจา้ ในการปรับปรุงตนเองคือ จากการท่ี ไดไ้ ปสงั เกตมาทาใหร้ ู้วา่ ขา้ พเจา้ ขาดวธิ ีการควบคุมเดก็ ใหเ้ ช่ือฟังใหส้ นใจ ไม่สามารถดึงดูดเดก็ ใหส้ นใจขาด ความสุขสนานในกิจกรรม ความมนั่ ใจความเชื่อมนั่ ยงั ไม่เพยี งพอ การวางตวั ยงั ไมเ่ หมาะสมกบั การเป็นครู ในบางเวลาและยงั ลืมตวั ไปบา้ งในบางคร้ัง ยงั ไมช่ ินกบั การที่ตอ้ งแทนตงั เองวา่ ครู 5.2 ข้อเสนอแนะในการปรับปรุงงาน หมนั่ ศึกษา เรียนรู้งานอยา่ งละเอียด ทางานใหเ้ รียบร้อยมากข้ึน พยายาม ใฝ่ รู้อยตู่ ลอดเวลา และรอบคอบ 5.3 ข้อเสนอแนะต่อโรงเรียน ขา้ พเจา้ ขอเสนอแนะเก่ียวกบั โรงเรียนร่มเกลา้ กาญจนบุรี เรื่องวนิ ยั ในการ ทิ้งขยะ นกั เรียนทิ้งขยะไม่ถูกที่ ไมเ่ ห็นคุณคา่ ของขยะ ปลูกฝังการคดั แยกขยะในโรงเรียนและนากลบั ไปใช้ ในชีวติ ประจาวนั ท่ีบา้ น 5.4 ข้อเสนอแนะต่อฝ่ ายฝึ กประสบการณ์วชิ าชีพครู คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั หมู่บ้านจอมบงึ ขอ้ เสนอแนะคือวา่ จดหมายที่ส่งแจง้ ไปทางโรงเรียนของนกั ศึกษาจะไปสังเกตควรจะส่งไปล่วงหนา้ ก่อนที่จะมีนกั ศึกษาไปศึกษาสังเกตการสอนที่โรงเรียนน้นั เพ่ือเป็ นการแจง้ ใหท้ างโรงเรียนน้นั ไดร้ ับทราบ รายละเอียดล่วงหน้า วา่ จะมีนกั ศึกษาไปสังเกตการสอนที่โรงเรียนของท่าน และในจดหมายที่ส่งไปควร ตรวจเช็คขอ้ มูลวนั เวลาใหถ้ ูกตอ้ งเพอื่ ไมใ่ หเ้ กิดความผิดพลาดเม่ือไปถึงทางโรงเรียน โรงเรียนไมเ่ พียงพอตอ่ นกั ศึกษา

ภาคผนวก

รอรับนักเรียนตอนเช้า รับไหว้นักเรียน พดู หน้าเสาธง แนะนาตวั

ช่วยครูพเ่ี ลยี้ งดูแลนักเรียน ปฏิบตั ิ ในวชิ า IS สังเกตการณ์สอนของครูพเ่ี ลยี้ ง จดบนั ทกึ ผลการสังเกตการณ์สอน

เช็คช่ือนักเรียนท่ีเข้าเรียน ปฏบิ ัตกิ ารสอนนักเรียนในวชิ า ฟิ สิกส์ ปฏิบตั กิ ารสอนนักเรียนในวชิ า ฟิ สิกส์

ปฏิบตั กิ ารสอนนักเรียนในวชิ าฟิ สิกส์ จดั แยกข้อสอบกลาง ถ่ายรูปเป็ นท่รี ะลกึ และเป็ นการ เช็คช่ือด้วย

เดนิ ทางไกล ลกู เสือ-เนตรนารี เป็ นหน่วยปฐมพยาบาล เข้าฐานทากจิ กรรม

ดูแลนักเรียนทากจิ กรรม นันทนาการลกู เสือ-เนตรนารี กจิ กรรมรอบกองไฟ

ไปซื้อของกบั ครู มาแจกนักเรียน ทาจกั รสารเพื่อไปโชว์ งาน open house ถ่ายรูปกบั ครูพเี่ ลยี้ งเป็ นทร่ี ะลกึ ที่คอยสอนงานแล้วดูแลเป็ นอย่างดี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook