แบบฝึกหัด หน่วยที่ 2 ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์และโครงสร้างพื้นฐาน บท 6

หน่วยท่ี 2 ระบบเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอรแ์ ละโครงสรา้ งพนื้ ฐาน แบบฝึกหดั เรอ่ื งประเภทของเครอื ข่ายคอมพิวเตอร์ อภปิ รายและตอบคาถามในหวั ขอ้ ดงั ตอ่ ไปนี้ 1. จงบอกประเภทของเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ ตอบ เครือขา่ ยคอมหวิ เตอร์ ( computer network ) เป็นการเช่ือมตอ่ คอมพิเตอรแ์ ละอปุ กรณต์ อ่ พว่ งขา้ ดว้ ยกนั เพ่ือใหส้ ามารถใชข้ อ้ มดู หรพั ยากรรา่ มกนั ไดเ้ ช่น สามารถไชเ้ คร่อื งพิมชรว์ มกนั สาบารถใชส้ ารค์ คิสกร์ ว่ มกนั แบง่ ปันการใชอ้ ปุ กรณอ์ ่นื ๆ ท่มี ีอคาเพงหรอื ไม่สามารถจดั พาใหท้ ุกคนได้ แมก้ ระท่งั สามารถไชไ้ ปรแกรม รว่ มกนั ไดเ้ ป็นการอดตน้ ทนุ ขององคก์ รเครอื ข่ายกอมหวิ เตอรส์ ามารถแบง่ ออกเป็นประเภทตามพนื้ ท่ที ่ี ครอบคลมุ การใชง้ านของเครอื ข่าย ㆍ เครือขา่ ยสว่ นบคุ คล หรอื แพน ( Perional Area Nettork: PAN) เป็นเครอื ข่ายท่ีใชส้ ว่ นบคุ คล เช่ม การเช่ือมตอ่ คอมพวิ เคตรก์ บั โทรศพั หม์ ือถือ การเช่ือมตอ่ พดี เี อกบั เครอื่ งคอมพวิ ตอรซ์ ง่ึ การเช่ือมส่อแบบนีจ้ ะอย่ใู นระอะไกส์ และมีการเช่ือมตอ่ แบบไรส้ าย ㆍเครอื ขา่ ยเฉพาะท่ี หรือแลน ( Lacal Area Network: LAN) เป็นเครือขา่ ยท่ีใชใ้ นการเช่ือม โขงคอมพิวเตอรแ์ ละอปุ กรณต์ า่ ง 1 ท่อี ยใู่ นพืน้ ท่เี ดียวกนั หรอื ไกลเ้ คียงกนั เชน่ ภายในบา้ น ภายในสานกั งาน และภายในอาคาร สาหรบั การใชง้ านภายในบา้ นนนั้ อาจเรยี กเครอื ข่าย ประเภทนีว้ เ่ ครือขา่ ยท่ีพกั อาศยั ( home network ) โดยอาจเป็นการเช่ือมตอ่ เคร่อื งคอมพวิ เตอรต์ งั้ แต่ 2 เคร่อื ง หรอื มากกวา่ เครอื ขา่ ยแลนขดั ไดว้ า่ เป็นเครอื ชย่ ถพาะองคก์ ร การเช่ือมตอ่ เครอื ข่ายแลนสามารถส่ือสารขอ้ มลู ไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ และเกิดประสทิ ธิภาพกบั องคก์ รมากท่ีสดุ เน่ืองจากเครอื ขา่ ยเลนนีจ้ ะทาหนาั ท่เี ช่ือม ประสานงานการทางาน บรหิ ารการจดั การทรพั ยากรต่าง ๆ ไดด้ ีท่สี ดุ เชน่ การติดตงั้ เคร่อื งพิมพส์ ่วนกลาง การ จดั การฐานขอ้ มลู การจดั การแม การรบั -ส่งเอกสาร รายงานตา่ ง 1 เพ่อื ไ ชต้ ดั สินใจไ นองคก์ ร เน่ืองจากอปุ กรณ์ แตล่ ะชนิ้ จะอยใู่ นตาแหน่งท่ไี ม่ห่าง ไกลมากนกั จงึ สามารถทาความเรใ็ นการส่อื สารและมีอตั ราการถกู รบกวน ของสญั ญาผนอ้ ย ซง่ึ อางใชก้ ารเช่ือมตอ่ แบบใชส้ ายหรอื ไรส้ ายก็ไดㆍ้ เครือข่ยนครหลวง หรอื แมน (Metropolitan Area Network: MAN)

เป็นเครอื ขา่ ยท่ีใชช้ ่ือมโยงแลนท่ีอยหู่ ่างใกลออกไป เชน่ การเช่ือมตอ่ เครอื ขา่ ยระหวา่ งสานกั งานท่ีอาจ อยคู่ นละอาคารและมีระยะทางไกลกนั การเช่ือมตอ่ เครอื ข่าชชนิดนีอ้ าจไชส้ ายไฟเบอรอ์ อพตกิ หรอื บางครงั้ อาจ ใชไ้ มโครเวฟเช่ือมตอ่ เครอื ขา่ ยเบบนี้ ใชใ้ นสถานศกึ ษามีช่ือเรียกอกี อย่างห่นง่ึ วา่ เครอื ขา่ ยแคมปัส ( Campus Arca Nctwork: CAN ) ซง่ึ ถือวา่ เป็นระบบเครอื ขา่ ยท่ีมีการเช่ือมตอ่ กนั ในระหวา่ งท่ีกวา้ งใหญ่ ครอบคลมุ ระยะทางเป็น 100 กิโลเมตร ท่ีมีการตติ ่อกนั ไนระยะท่ีไกลกวา่ ระบบแลนและ ใกลก้ วา่ ระบบแวน เป็นการ ตดิ ตอ่ ระหวา่ งเมือง เชน่ กรุงเทพา กบั เชียงใหม่ เชียงใหม่กบั ยะลาหรอี เป็นการติดตอ่ ระหวา่ งรฐั โดชมีรูปแบบ การเช่ือมตอ่ แบบ Ring ตวั อยา่ งเช่น ระบบ FDDI (Fitre Dala Distributed Interface) ท่ีมีรศั มีหรอื ระยะทางการ เช่ือมตอ่ อย่ทู ่ี 100 กิโลมตร อตั ราคาามรว็ อยทู่ ่ี 100 Ms มีรูปแบบการเช่ือมตอ่ ท่ีประกอบตวั ยวงแหวนสอง ชนั้ ๆ แรกเป็น Primary Ring สว่ นชนั้ ท่ี 2 เป็น Secondary Ring หรอื Backup Ring โดยชนั้ Secondary Ring จะ ทางานแทนกนั ทนั ทีท่ีสายสญั ญาณใน Primary Ring ขาด FDDI เป็น ไปรไตคอลของเครอื ขา่ ยท่เี นน้ การจดั สง่ ขอ้ มลู ท่คี วามท่ีความเรว็ สงู สง่ ไดใ้ นระยะทางท่ี ใกลและมีความนาเช่ือถือสงู เน่ืองจากใชส้ ายใยแกว้ นาแสง จงึ มี ผนู้ า FDDI สงู มาใชป้ ีนแบ็ก ไบนเพ่อื การขนส่งขอ้ มลู อย่างไรก็ดคี ่ใชจ้ ่ยในการคดิ ตงั้ ระบบ FDDI สงู ประกอบกบั การท่ีระบบ Gigabil Ethemet ถกู ออกแบบมาใหแ้ ทนท่ี FDDI ด่งั นนั้ โดรงขา่ ยนีก้ าลงั ถกู กลืนดว้ ย ววิ ฒั นาการทางเทคในโลยีในท่ีสดุ 2. ระบบเครอื ขา่ ยคอมพิวเตอรส์ ามารถจ าแนกไดก้ ่ีประเภทอะไรบา้ ง ตอบ 1.1 ใชข้ นาดกายภาพทางภมู ศิ าสตร์ ของเครอื ข่ายเป็นเกณฑ์ แบง่ ออกไดเ้ ป็น 3 ประเภทดงั นี้ 1.1.1 เครอื ขา่ ยทอ้ งถ่ิน (LAN: Local Ana Network) 1.1.2 เครอื ข่ายในเขตเมือง (MAN: Metropolitan Area Network) 1.1.3 เครอื ข่ายบรเิ วณกวา้ ง (WAN: Wide Area Network) 1.2 ใชล้ กั ษณะหนา้ ท่กี ารห างานของคอมพิวตอรใ์ นเครอื ขา่ ยเป็นเกณฑ์ สามารถ แบง่ ไดเ้ ป็น 2 ประเภทคงั นี้

1.2.1 เครอื ข่ายแบบเท่าเทยี ม (Per-10-Peer Network) 1.2.2 เคร่อื ข่ายแบบผใู้ ชบ้ รกิ ารและผใู้ หบ้ รกิ าร (Client-Server Network) 1.3 ใชร้ ะดบั ความปลอดภยั ของขอ้ มลู เป็นเกณฑ์ สามารถแบง่ ไดด้ งั นี้ คือ 1.3.1 เครอื ขา่ ยสาธารณะ (Internct) 1.3.2 เครอื ขา่ ยสว่ นบคุ คล (Intranet) 1.3.3 เครอื ขา่ ยรว่ ม (Extranet) 3.ประเภทเครอื ขา่ ยท่ีใชข้ นาดทางกายภาพของเครอื ขา่ ยเป็นเกณฑแ์ บง่ เป็นก่ีประเภท อะไรบา้ งจงอธิบาย ตอบ แบง่ ออกไดเ้ ป็น 3 ประเภทคงั นี้ 1.1 LAN (Local Area Nctwork) : ระบบเครอื ข่ายระดบั ทอ้ งถ่ิน เป็นระบบเครอื ข่ายท่ใี ชง้ านอย่ใู นบรเิ วณท่ีไม่กวา้ งนกั อาจใชอ้ ย่กู ายในอาคารเดียวกนั หรอื อาคารท่ีอยใู่ กลก้ นั เชน่ ภายในมหาวหิ ยาลยั อาคารสานกั งาน คลงั สินลา้ า หรอื โรงงาน เป็นตน้ การสง่ ขอ้ มลู สามารถทาไดด้ ว้ ย ความเรว็ สงู และมีขอ้ ผิดพลาดนอ้ ย ระบบเครอ่ื ข่ายระดบั ทอ้ งถ่ินจงึ ถกู ออกแบบมาใหช้ ว่ ยลคตน้ ทนุ และเพ่ือเพ่ิม ประสทิ ธิภาพในการทางาน และใชง้ านอปุ กรณต์ า่ ง ๆ รว่ มกนั 1.2 MAN (Metropolitan Area Network) : ระบบเครอื ข่าขระดบั เมือง เป็นระบบเครอื ข่ายท่มี ีขนาดอยรู่ ะหวา่ ง Lan และ Wan เป็นระบบเครอื ขา่ ยท่ใี ชก้ ายในเมืองหรอื จงั หวดั เทา่ นนั้ การเช่ือม โยงจะตอ้ งอาศยั ระบบบรกิ ารเครื่อข่ายสารารณะ จงึ เป็นเครื อขา่ ยท่ี ใชก้ บั องคก์ าร ท่มี ีสาขาหา่ งไกลและ ตอ้ งการเช่ือมสาขา เหลา่ นนั้ เขา้ ดว้ ยกนั เช่น ชนาการ เครอื ขา่ ยแวนเช่ือมโยงระยะไกลมาก จงึ มีความเรว็ ในการ ส่อื สารไม่สงู เน่ืองจากมีสญั ญามรบกวนในสาย เทค โนโถท่ใี ชก้ บั เครอื ข่ายแวนมีความหลากหลาย มีการ เช่ือมโยงระหวา่ งประเทศดว้ ยช่องสญั ญาณคาวเทียม เสน้ ใขนาแสง คล่ืนไมใครเวฟ คล่นื วทิ ยุ สายเคเบิล 1.3 WAN (Wide Anea Network) : ระบบเครอื ข่ายระดบั ประเทศ หรือเครอื ข่ายบรเิ วณกวา้ ง เป็น ระบบเครอื ข่าท่ตี ิดตงั้ ใชง้ านอย่ใู นบรเิ วณกวา้ ง เช่น ระบบเครอื ข่ายท่ตี ดิ ตงั้ ใชง้ านท่วั โลก เป็นเครือขา่ ยท่ี เช่ือมตอ่ คอมพิวเตอรห์ รอื อปุ กรณท์ ่อี ย่หู า่ งไกลกนั เขา้ ดว้ ย กนั อาจจะตอ้ งเป็นการตดิ ตอ่ ส่อื สารกนั ใน

ระดบั ประเทศ ขา้ มทวีปหรอื ท่วั ใลกก็ใด้ ในการเช่ือมการตดิ ตอ่ นนั้ ะตอ้ งมีการต่อเขา้ กบั ระบบส่ือสารของ องคก์ ารไทรศพั ทห์ รอื การส่อื สารแหง่ ประเทศไทยเสียกอ่ น เพราะจะเป็นการสง่ ขอ้ มลู ผ่านสายไทรศพั ทใ์ นการ ตดิ ตอ่ ส่อื สารกนั โดยปกตมิ ี อตั ราการส่งชดั มกู ท่ีต่าและมีโอกาสเกิดขอ้ ผิดพลาด การสง่ ชอั มลู อางใชอ้ ปุ กรณใ์ น การส่อื สาร เชน่ โมเคม็ (Modem) มาช่วย 4.ประเภทเครือขา่ ยท่ีใชล้ กั ษณะหนา้ ท่กี ารท างานของคอมพวิ เตอรใ์ นเครอื ข่ายเป็นเกณฑ์ สามารถแบง่ ไดก้ ่ีประเภท อะไรบา้ งจงอธิบาย ตอบ บง่ ออกไดเ้ ป็น 3 ประเภทคงั นี้ 1.1 LAN (Local Area Nctwork) : ระบบเครอื ขา่ ยระดบั ทอ้ งถ่ิน เป็นระบบเครอื ข่ายท่ใี ชง้ านอย่ใู นบรเิ วณท่ีไมก่ วา้ งนกั อาจใชอ้ ย่กู ายในอาคารเดียวกนั หรอื อาคารท่อี ยใู่ กลก้ นั เช่น ภายในมหาวิหยาลยั อาคารสานกั งาน คลงั สนิ ลา้ า หรอื โรงงาน เป็นตน้ การสง่ ขอ้ มลู สามารถทาไดด้ ว้ ย ความเรว็ สงู และมีขอ้ ผดิ พลาดนอ้ ย ระบบเครอ่ื ขา่ ยระดบั ทอ้ งถ่ินจงึ ถกู ออกแบบมาใหช้ ่วยลคตน้ ทนุ และเพ่ือเพ่มิ ประสทิ ธิภาพในการทางาน และใชง้ านอปุ กรณต์ า่ ง ๆ รว่ มกนั 1.2 MAN (Metropolitan Area Network) : ระบบเครอื ข่าขระดบั เมือง เป็นระบบเครอื ข่ายท่มี ีขนาดอยรู่ ะหวา่ ง Lan และ Wan เป็นระบบเครอื ข่ายท่ีใชก้ ายในเมืองหรอื จงั หวดั เท่านนั้ การเช่ือม โยงจะตอ้ งอาศยั ระบบบรกิ ารเคร่อื ขา่ ยสารารณะ จงึ เป็นเครื อข่ายท่ี ใชก้ บั องคก์ าร ท่มี ีสาขาหา่ งไกลและ ตอ้ งการเช่ือมสาขา เหลา่ นนั้ เขา้ ดว้ ยกนั เช่น ชนาการ เครอื ข่ายแวนเช่ือมโยงระยะไกลมาก จงึ มีความเรว็ ในการ ส่อื สารไม่สงู เน่ืองจากมีสญั ญามรบกวนในสาย เทค โนโถท่ใี ชก้ บั เครอื ข่ายแวนมีความหลากหลาย มีการ เช่ือมโยงระหวา่ งประเทศดว้ ยช่องสญั ญาณคาวเทียม เสน้ ใขนาแสง คล่ืนไมใครเวฟ คล่นื วทิ ยุ สายเคเบิล 1.3 WAN (Wide Anea Network) : ระบบเครอื ข่ายระดบั ประเทศ หรือเครอื ข่ายบรเิ วณกวา้ ง เป็น ระบบเครอื ข่าท่ีตดิ ตงั้ ใชง้ านอยใู่ นบรเิ วณกวา้ ง เชน่ ระบบเครอื ข่ายท่ตี ิดตงั้ ใชง้ านท่วั โลก เป็นเครือข่ายท่ี เช่ือมตอ่ คอมพิวเตอรห์ รอื อปุ กรณท์ ่อี ย่หู า่ งไกลกนั เขา้ ดว้ ย กนั อาจจะตอ้ งเป็นการติดต่อส่อื สารกนั ใน ระดบั ประเทศ ขา้ มทวีปหรอื ท่วั ใลกก็ใด้ ในการเช่ือมการตดิ ตอ่ นนั้ ะตอ้ งมีการต่อเขา้ กบั ระบบส่ือสารของ

องคก์ ารไทรศพั ทห์ รอื การส่อื สารแหง่ ประเทศไทยเสียก่อน เพราะจะเป็นการสง่ ขอ้ มลู ผ่านสายไทรศพั ทใ์ นการ ติดตอ่ ส่อื สารกนั โดยปกติมี อตั ราการสง่ ชดั มกู ท่ีต่าและมโี อกาสเกิดขอ้ ผดิ พลาด การส่งชอั มลู อางใชอ้ ปุ กรณใ์ น การส่อื สาร เชน่ โมเค็ม (Modem) มาช่วย 5. ประเภทเครือข่ายท่ีใชร้ ะดบั ความปลอดภยั ของขอ้ มลู เป็นเกณฑม์ ีอะไรบา้ งจง อธิบาย ตอบ การแบง่ ประเภทครอื ข่ายดมระดบั ความปถอดภยั ของขอ้ มู ซง่ึ จะแบง่ ออกไดเ้ ป็น 3 ประเภทคือ อนิ เทอรเ์ นต็ (Intemet) อนิ ทราเน็ต (Intranct) และ เอก็ ส์ ทราน็ต (Extranct) อนิ เทอรเ์ น็ดเป็นเครอื ข่ายสาธารณะ ท่ีทกุ คนสามารถเช่ือมตอ่ เขา้ ได้ เกรอื ขา่ ยนีจ้ ะ ไม่มีความปลอดภยั ของขอ้ มลู เถย ถท้ กุ คนสามารถเขา้ ถงึ ขอ้ มลู ท่ี แชไวบ้ นอินเทอรเ์ นด็ ไส้ ในทงตรงกนั ขา้ ม อนิ ทรานต็ เป็นเครอื่ ขา่ ยส่วนบคุ คล ขอ้ มลู จะถกู แชรฉ์ พาะผทู้ ่ใี ช้ อย่ขู า้ งในเทา่ นนั้ หรือผใู้ ชอ้ นิ เทอรเ์ นด็ ไมส่ ามารถเขม้ าดขู อ้ มลู ในอนิ ทราเน็ตได้ ถึงแมว้ า่ ทงั้ สองเครอื ขา่ ยจะมี การเช่ือมตอ่ กนั อย่กู ็ตาม สว่ นเอ็กทราเน็ตนนั้ ป็นเครีอขา่ ยแบบกึ่งอินเทอรน์ ็ตและอนิ ทราเนต็ กลา่ วคือ การเขา้ ใชเ้ อก็ สท์ ราเน็ดนนั้ มีการควบคมุ เอก็ สหั ราเนด็ สว่ นใหญ่จะเป็นเครอื ขา่ ชท่ีเช่ือมตอ่ ระหวา่ งองคก์ รเพ่อื แลก เปล่ยี นขอ้ มลู บางอยา่ งซง่ึ กนั และกนั ในการแลกเปล่ยี นขอั บลู นีต้ อ้ งมีการคาบกมุ เพราะเฉพาะขอ้ มลู บางอยา่ ง เทา่ นนั้ ท่ีตอ้ งการแลกเปล่ียน อินเทอรเ์ นด็ (Intec๓et) เครอื ข่ายสาธารณะ อินเทอรเ์ นด็ เป็นเครือข่ายท่คี รอบคลมุ ท่วั ไลก ซ่งึ มีคอมพวิ เตอรเ์ ป็นลา้ นาเครอ่ื งเช่ือมตอ่ เขา้ กบั ระบบและยงั ขยายตวั ขนึ้ เร่อื ยา ทกุ ปี อนิ กอรเ์ น็ดมีผใู้ ชท้ าโอกหลารอ้ ยดน้ คน และผใู้ ชห้ ลานีส้ ามารถ แลกเปล่ียนขอ้ มลู ขา่ วสารกนั ไดอ้ ย่างอิสระ โดยท่รี ะยะทางและเวลาไมเ่ ป็นอปุ สรรค นอกจากนีผ้ ใู้ ชข้ ง้ สามารถขา้ ดขู อ้ มลู ค่าง ๆ ท่ีถกู คีพิมพใ์ นยนิ เทอรน์ ต็ ได้ อินเทอรเ์ น็ดเช่ือมแเหลง่ ขอ้ มลู ค่าง ๆ เขา้ ดว้ ยกนั ไม วา่ จะเป็นองคก์ รธรุ กิจ มหาวิทยาลยั หน่วยงานของรฐั บาล หรอื แมก้ ระท่งั แหลง่ ขอ้ มลู บคุ คล องคก์ ร ธุรกิจ หลายองคก์ รไดใ้ ชอ้ ินทอรน์ ็ดช่วยในการทาการคา้ เชน่ การดดิ ตอ่ ซอื้ ขายผ่านอนิ เทอรเ์ น็ดหรอื อคึ อมเมิรนั (E Commerce) ซง่ึ เป็นอีกชอ่ งทางหน่งึ สาหรบั การทาธรุ กิจท่ีกาลงั เป็นท่ีนยิ ม เน่ืองจากมีตน้ ทนุ ท่ถี กู กวา่

และมีฐานถกู คท้ ่ีใหญ่มาก สว่ นขอ้ เสียของอินเทอรเ์ นีค้ คอื ความปลอดภยั ของขอ้ มลู เน่ืองจากทกุ คน สามารถขา้ ถึงขอ้ มลู ทกุ อย่างท่แี ลกเปล่ียนผา่ นอินเทอรน์ ีค้ ไดอ้ ินทอรเ์ นด็ ใชโ้ ปรโตกอลท่เี รอี กวา่ \"TCPIP (Transport Connection Protocol/ntemiec Protocoly\" 1นการ ส่อื สารขอ้ มลู ผ่านเครอื ขา่ ย ซง่ึ ไปรไตคอลนีเ้ ป็น ผลจากโครงการหนง่ึ ของกระทรวงกลาโหมสหรฐั ' โครงการนีม้ ีช่ือ ARPANET (Adinced Rescarch 5. ประเภทเครอื ข่ายท่ีใชร้ ะดบั ความปลอดภยั ของขอ้ มลู เป็นเกณฑม์ ีอะไรบา้ งจง อธิบาย ตอบ Projects Agency Network) ในปี ต.ศ.1975 จดุ ประ สงคข์ องโครงการนีเ้ พ่อื เช่ือมตอ่ คอมพิวเตอรท์ ่อี ยู่ ห่างใกลกนั และกายหลงั จงึ ใหก้ าหนดใหเ้ ป็นไปรโดคอลมาตรฐานในเครอื ข่ายอนิ เทอรเ์ นด็ ในปังจบุ นั อนิ เทอรเ์ นด็ ไสก้ ลายเป็นเครอื ข่ายสารารณะ ซง่ึ ไมม่ ีผใู้ ดหรอื องคก์ รไดองคก์ รหนง่ึ เป็นเจา้ ของอย่างแทข้ รงิ การเช่ือมตอ่ เขา้ กบั อินเทอรเ์ น็ดตอ้ งเช่ือมคอ์ ผา่ นองคก์ รท่เี รยี กว่ \"ISP (Intemet Service Provider)\" ซง่ึ จะทา หนา้ ท่ใี หบ้ รกิ ารในการเช่ือมตอ่ เขา้ กบั อินเทอรเ์ น็ด น่นั คือ ขอ้ มลู ทกุ อย่างท่ีส่งผา่ นเครือข่าย ทกุ คนสามารถคู ได้ นอกเสียจากจะมีการเขา้ รหสั ลบั ซง่ึ ผใู้ ชต้ อ้ งทาเอง อนิ ทราเนด็ (Intranct) หรอื เครือขา่ ยส่วนบคุ คล ตรงกนั ขา้ มกบั อินเทอรเ์ น็ด อนิ ทราเนด็ เป็นเครือขา่ ยสว่ นบคุ คลท่ใี ชท้ าคในไลยอินเทอรเ์ น็ด เช่น เว็บ, อีเมล, FTP เป็นตน้ อินหราน็ตใชโ้ ปรไดลอล ICPIP สาหรบั การรบั สง่ ขอ้ มลู เช่นเดยี วกบั อนิ เทอรเ์ นด็ ซง่ึ ไปรใคคอลนีส้ ามารถใชไ้ ดก้ บั อารด์ แรห์ ลายประเกท และสายตญั ญาณหลายประเภท ฮารด์ แวรท์ ่ีใช้ สรา้ งเครอื ขา่ ยไม่ใ ช่ปัจจยั หลกั ของอินทร านีต แตเ่ ป็นซอฟดแ์ วรท์ ่ที าใหอ้ ินทราเน็ดทางานได้ อินทราเนด็ เป็นเครือขา่ ยท่ีองคก์ รสรา้ งขนึ้ สาหรบั ใหห้ นกั งานขององคก์ รใชเ้ ท่านนั้ การแชรข์ อ้ มลู ระอย่ฉู พาะใน อินทราเน็ดเท่านนั้ หรือถา้ มีคารแลกเปล่ียนขอ้ มลู กบั โลกกายนอกหรอื อนิ เหอรเ์ น็อ องคก์ รนนั้ สามารอท่จี ะ กาหนดนโขบายได้ ในขณะท่กี ารแชรข์ อ้ มลู อนิ เหอรเ์ นด็ นนั้ ชงั ไม่มีงคก์ ร ใดท่ีสามารถควบคมุ การ แลกเปล่ียนขอ้ บลู ได้ เม่ือเช่ือมตอ่ เขา้ กบั อินทาอรเ์ น็ต พนกั งานบรษิ ัทของบรษิ ัทสามารถติคตอ่ ส่อื สารกบั ใลกภายนอกเพ่ือการค่นั หาชอั มลู หรอื ทาธรุ กิงตา่ ง ๆ การใชไ้ ปรโดคอล TCP/IP ทาใหผ้ ใู้ ชส้ มารถขา้ ใช้

เครือขา่ ยจากท่ีหา่ งไกลได้ (Remote Acccs) เช่น จากท่บี า้ น หรอื ในกลาท่ตี อ้ งเดินทางเพ่อื คิดต่อธุรกิจ การ เช่ือมตอ่ เขา้ กบั อินทรานต็ โดยการใชม้ เต็มและสายโทรศพั ท์ เหมือนกบั การเช่ือมตอ่ เขา้ กบั อนิ เทอรเ์ น็ด แตแ่ ตกตา่ งกนั ท่ีเป็นการเช่ือมตอ่ เขา้ กบั เครอื ขา่ ยสว่ นบคุ คลแทนท่จี ะเป็น เครอื ข่ายสารารณะอย่างเชน่ อินเทอรเ์ น็ด การเช่ือมตอ่ กนั ไดร้ ะหวา่ งอินทร าเน็ดกบั อนิ เทอรเ์ นด็ ถือเป็นประ ไยชนท์ ่ี สาคญั อยา่ งหนง่ึ ระบบการรกั ษาความปลอดภยั เป็นสิง่ ท่แี ยกอินทรานต็ ออกจากอนิ เหอรเ์ ด เครอื ขา่ ยอินทรานด็ ของ องคก์ รจะถกู ปกปอ้ งโดยไฟรวั อกด์ (Firewall) ซ่งึ อาจจะเป็นไดท้ งั้ สารค์ แรแ์ ละซอฟดแ์ รท์ ่ีทาหนา้ ท่ีกรอง ขอ้ มลู ท่แี ลก เปล่ียนกนั ระหวา่ งอนิ ทราเน็ดเละอินทอรเ์ น็ตเม่ือทงั้ สองระบบมีการเช่ือมตอ่ กนั ดงั นนั้ องคก์ รสามารถกาหนดนใยบายเพ่ือควบคมุ การเขา้ ใ ชง้ านอนิ หราน็ดใด้ อนิ ทราเนด็ สามารถสนองความ ตอ้ งการของผใู้ ชใ้ นองคก์ รไดห้ ลายอย่าง ความงาในการตพี ิมพบ์ นวบ็ ทาใหป้ ็นท่นี ิยมในการประกาศ ข่วสารของอคก์ ร เช่น ขา่ วภายในองคก์ ร กฎ ระเบียน และม ครฐาน การปฏบิ ตั งิ านตา่ ง ๆ เป็นสนั หรอื แมก้ ระท่งั การเขา้ ถึงฐานขอ้ มลู ขององคก์ รก็งา่ ยเชน่ กนั ผใู้ ชส้ ามารถทางานรว่ มกนั ไดง้ า่ ย และมี ประสิทธิภาหมากขนึ้ เอ็กสท์ ราเนีต้ (Extranet) หรอื เครอื ขา่ ยรว่ ม เอก็ สท์ ราเน็ด (Exเซne!) เป็นเครอื ข่ายกงึ่ อนิ เทอรน์ ด็ กึ่งอนิ ทราเนด็ กลา่ วคือ เอ็กสท์ ราเน็ดคือเครอื ขา่ ยท่ี เช่ือมตอ่ ระหวา่ งอนิ ทราเน็ดของสององคก์ ร ดงั นนั้ จะมีบางสว่ นของเครอื ข่ายท่เี ป็นเจา้ ของรว่ มกนั ระหวา่ ง สององคก์ รหรอื บรษิ ทั การสรา้ งอินทราน็จจะไม่จากดั ดา้ ยมดในโลแตจ่ ะอากตรงนไขบายท่ยี วกบั การ รกั ษาความปลอดภยั ของขอ้ มลู ท่ที งั้ สอง องคก์ รจะตอ้ งตกลงกนั เช่น องคก์ รหน่งึ อาจจะอนญุ าดใหผ้ ใู้ ชข้ อง อีกองคก์ รหนง่ึ ลอ็ กอนิ เขา้ ระบบอนิ ทรา เนด็ ของตวั เองหรอื ไม่ เป็นตน้ การสรา้ งเอก็ สทั ร าเนด็ จะเนน้ ท่ี รกั ษาความปลอดภยั ขอ้ มถู รวมถึงการติดตงั้ ใฟรว่ อลหรอื ระหวา่ งอินทราเน็ดและก ขอ้ มลู และ ส่ิงท่ีสาคญั ท่ีสดุ ก็คือ นโยบายการรกั ษาความปลอดภยั ขอ้ มลู และการบงั คบั ใช้