กศน.ตำบลสะเดำ ศูนย์กำรศึกษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอัธยำศัยอำเภอบวั เชด สำนกั งำนสง่ เสริมกำรศึกษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอธั ยำศยั จังหวัดสุรนิ ทร์ สำนักงำนสง่ เสรมิ กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศยั สำนักงำนปลัดกระทรวงศึกษำธิกำร กระทรวงศึกษำธกิ ำร
1ก นวตั กรรม นวัตกรรมน้ีจัดทำข้นึ เพอ่ื ศึกษำประวัตแิ ละวิธกี ำรทำก่ที อพรมเชด็ เท้ำ สำมำรถนำไปใช้ ในกำรทอพรมเชด็ เท้ำ ให้มคี วำมรวดเรว็ และเหมำะสมกับบริบทของชุมชน ของกลุม่ สนใจอำชพี ในกำรสร้ำงอำชีพเสรมิ เพิ่มรำยได้ และใช้เวลำว่ำงให้เป็นประโยชน์ ในชมุ ชนตำบลสะเดำ และกำร จัดทำโครงงำนครงั้ น้ีสำเรจ็ ลุลว่ งไปไดด้ ้วยดีเนอ่ื งจำกไดค้ ำปรกึ ษำจำกคณะครู กศน.ตำบลสะเดำ จงึ ขอขอบคณุ ไว้ ณ ทนี่ ี้ กศน.ตำบลสะเดำ ศูนยก์ ำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศยั อำเภอบวั เชด
2 ชอ่ื นวัตกรรม กี่พำรวย ประเภทนวัตกรรม ดำ้ นกำรประดษิ ฐ กี่ ทอพรมเชด็ เทำ้ ผเู้ สนอผลงานนวัตกรรม กศน.ตำบลสะเดำ อำเภอบวั เชด จังหวดั สรุ ินทร์ สถานศึกษา ศูนยก์ ำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศยั อำเภอบวั เชด สังกัด สำนักงำนส่งเสรมิ กำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศยั จังหวัดสุรินทร์ บทสรุป กำรทำนวตั กรรมก่ีพำรวย ครง้ั นที้ ำใหส้ มำชกิ ในกลมุ่ ชว่ ยกันสืบคน้ หำขอ้ มูลและปฏบิ ัติเปน็ รูปเล่ม และ เปน็ นวตั กรรม เพือ่ ใหส้ ำเรจ็ ตำมวตั ถปุ ระสงคท์ ่ตี ้องกำร และนอกจำกน้ยี ังเปน็ กำรศึกษำวธิ ีกำรทำ เทคนคิ และ ลงมอื ปฏิบัติได้ด้วยตนเอง 1. สำมำรถนำเอำนวัตกรรมมำเปน็ แบบอยำ่ งในกำรศึกษำข้อมูลในกำรทำครั้งตอ่ ไป 2.ใช้ประโยชนจ์ ำกรูปเลม่ นวัตกรรมไปศึกษำข้อมลู เพ่ิมเติม 3.นำไปปรับใช้ในชวี ิตประจำวนั ได้ 4.ลดรำยจ่ำย เพ่มิ รำยได้ ให้กับตนเองและครอบครวั ประโยชนท์ ี่ไดร้ ับจำกนวัตกรรรม เปน็ กำรใชเ้ วลำว่ำงใหเ้ กิดประโยชน์ มีควำมภูมิใจในผลงำนของตน มีรำยไดจ้ ำก ผลงำน มีควำมคดิ ริเร่มิ สรำ้ งสรรคผ์ ลงำนใหมๆ่ เปน็ กำรฝกึ ให้รจู้ ักสังเกตส่ิงรอบๆ ตวั และนำมำใชใ้ ห้เกิด ประโยชน์ ความเปน็ มาและความสาคัญ เนือ่ งจำก กล่มุ สนใจอำชีพ ตำบลสะเดำ มีกำรทำพรมเชด็ เทำ้ ตอ้ งใช้เข็มเยบ็ ต่อกนั แตล่ ะผืน ต้องใช้ เวลำนำนและช้ำ ผเู้ รียนเห็นว่ำ กำรทำกีท่ อ ทที่ อผ้ำไหม หรือทอเสื่อกก มำประยุกต์ปรบั ใช้ ในกำรทอพรม เช็ดเทำ้ เพรำะเคร่ืองจักรมรี ำคำที่แพงต้องใชง้ บประมำณซ้ือ ก่ที ำจำกเศษไม้ท่ีเหลอื ใช้ มำทำประโยชน์ได้อย่ำงมี คณุ ค่ำและสวยงำม ประหยัดต้นทนุ ลดค่ำใชจ้ ่ำย นวัตกรรมท่ใี ชใ้ นกำรเรยี นรู้ทีส่ อดคลอ้ งเหมำะกบั บริบทของ ชมุ ชน สำมำรถนำมำใช้ได้จริง วัตถปุ ระสงค์ 1. เพือ่ ศกึ ษำกำรทำก่จี ำกไม้เหลอื ใช้ 2. เพ่ือนำเศษไม้ทีไ่ ม่ใช้แล้วมำใช้ใหเ้ กิดประโยชน์ และประหยัดเวลำ 3. เพื่อสร้ำงรำยได้และใช้เวลำว่ำงใหเ้ กิดประโยชน์ ขอบเขตของนวัตกรรม 3.1 สำมำรถถอดเก็บได้งำ่ ย 3.2 สำมำรถเคล่อื นยำ้ ยไดส้ ะดวก 3.3 สำมำรถใชใ้ นกำรศึกษำเล่ำเรยี นในรปู แบบกลมุ่ ได้
3 3.4 เปลีย่ นรปู แบบของก่ีไดข้ นำดตำมควำมต้องกำร ประโยชนท์ ีค่ าดว่าจะได้รบั 1. มีรำยไดแ้ ละใช้เวลำวำ่ งให้เกดิ ประโยชน์ 2. สำมำรถนำเศษไม้ที่ไม่ไดใ้ ชป้ ระโยชนแ์ ล้วมำทำให้เกดิ ประโยชน์มำกย่ิงขึน้ 3. รูว้ ิธีกำรทำก่ีทอพรมเช็ดเทำ้ และ สำมำรถผลติ ไดม้ ำกขน้ึ กระบวนการพัฒนา ในกำรจดั ทำนวัตกรรมในคร้งั นไี้ ด้จัดทำเป็นเล่ม เพ่อื เปน็ สอื่ กำรเรยี นรู้ และศึกษำค้นคว้ำเอกสำรที่เกีย่ วข้อง ดงั น้ี 1.กำรทำกท่ี อพรมเช็ดเทำ้ 2.โปรแกรม Microsoft Office Word รีไซเคลิ (recycle) คือ เปน็ กำรจัดกำรวสั ดเุ หลอื ใชป้ ระเภทเศษไม้ หรอื วสั ดุท่ีกำลงั จะเปน็ ขยะ โดยนำไป ผ่ำนกระบวนกำรแปรสภำพ เช่น กำรตัด คัด เพื่อให้เป็นวัสดุใหม่แล้วนำกลบั มำใช้ประโยชนไ์ ดอ้ ีกคร้ัง ซึ่งวัสดุนั้น อำจจะเป็นผลิตภัณฑเ์ ดมิ หรือผลิตภัณฑใ์ หมก่ ็ได้ รไี ซเคิลมีควำมหมำยต่ำงจำก รียสู (Reuse) ซ่ึงหมำยถงึ กำรนำ กลับมำใชใ้ หม่โดยไมผ่ ำ่ นกระบวนกำรแปรสภำพใดๆ กำรแปรรูปของใช้แลว้ กลับมำใชใ้ หมม่ กี ระบวนกำรอยู่ 4 ข้ันตอน ไดแ้ ก่ 1.กำรเก็บรวบรวม 2.กำรแยกประเภทไมแ้ ต่ละชนิดออกจำกกนั 3.กำรผลติ หรอื ปรับปรุง 4.กำรนำมำใชป้ ระโยชนใ์ นข้ันตอนกำรผลิตหรอื ปรบั ปรุงนั้นวสั ดุท่ีแตกตำ่ งชนิดกันจะมีกรรมวธิ ีในกำรผลิต แตกตำ่ งกนั เช่น กำรทำโต๊ะ ชั้นวำงของ หรืออ่ืนๆท่ีสำมำรถทำได้ ต้องแยกประเภทออกจำกกัน เมอื่ ผ่ำนข้ันตอนกำรผลติ แล้วของเสียทีใ่ ช้แลว้ เหล่ำนี้จะกลำยมำอยูใ่ นรูปของผลติ ภัณฑใ์ หม่จำกนนั้ จึงเข้ำสู่ ข้ันตอนโดยกำรนำมำใช้ประโยชน์ ผลติ ภัณฑ์รไี ซเคลิ จงึ สำมำรถสงั เกตไดจ้ ำกเครือ่ งหมำยทีป่ ระทับไว้ บน ผลติ ภณั ฑท์ ี่ผลิตทกุ คร้ังกำรรีไซเคลิ ทำให้โลกมจี ำนวนขยะลดนอ้ ยลง และชว่ ยลดปรมิ ำณกำรนำ ทรัพยำกรธรรมชำติ มำใชเ้ ป็นวัตถุดบิ ในโรงงำนอุตสำหกรรมใหน้ ้อยลง ลดกำรตัดต้นไม้ และลดปริมำณกำรโค่น ทำลำยปำ่ ไม้ลงดว้ ย กำรหมุนเวียนนำมำผลติ ใหม่ยงั เป็นกำรลดกำรใช้พลังงำนจำกใต้ภิภพ ลดปริมำณกำร ปลอ่ ยก๊ำซคำรบ์ อนไดออกไซด์ข้นึ สู่อำกำศและลดภำวกำรณเ์ กิดผนกรด สำหรับประเทศไทยน้ัน จำกกำรศึกษำของ กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงวิทยำศำสตร์ เทคโนโลยีและสง่ิ แวดลอ้ ม พบวำ่ ศักยภำพของวัสดุเหลอื ใช้ทสี่ ำมำรถ นำกลบั มำใช้ประโยชน์ได้จำกมูลฝอยท่ีเกบ็ ขนได้ในกรุงเทพมหำนครและจังหวัดต่ำงๆ ท่ัวประเทศมีประมำณร้อย ละ 16-34 ของปริมำณมลู ฝอยท่เี ก็บได้ แตม่ เี พยี งร้อยละ 7 หรือประมำณ 2,360 ตันตอ่ วนั เท่ำนน้ั ทีมีกำรนำ กลบั มำใช้ประโยชน์ กำรนำกลบั มำใช้ใหม่ จงึ เป็นวิธีกำรหนึง่ ท่ีชว่ ยเพมิ่ คุณภำพให้กบั ชีวิตเพมิ่ คณุ ค่ำใหก้ บั สิ่งแวดล้อมและช่วยถนอมรักษำทรัพยำกรธรรมชำติของโลกไวไ้ ดด้ ีทส่ี ดุ ในหนทำงหน่ึง
4 ในกำรทำกจ่ี ำกเศษไมน้ ี้กเ็ ปน็ กำรรไี ซเคิล โดยใชไ้ มท้ ีไ่ มไ่ ด้ใช้ประโยชน์นำมำทำใหเ้ กิดประโยชนท์ ำเปน็ สิ่งประดิษฐ์ ทเ่ี รำเรียกว่ำ กี่พำรวย การออกแบบนวัตกรรมและขนั้ ตอนเพอื่ การพฒั นา วสั ดุอปุ กรณ์ ก่ีพำรวย - ไม้ - ตะปู - สว่ำน ส่วนประกอบของก่ี - ฟืม - กระสวย - ตะกอ - กระสม ข้นั ตอนและวิธกี ำรดำเนนิ งำน 1. ตดั ไม้ตำมขนำดตำมต้องกำร 2. นำชน้ิ สว่ นแลว้ นำมำประกอบกนั ๓. กำงเชอื กตำมควำมยำว ๔. กำรประกอบฟืมในกำรทอ 1. ตดั ไม้ตำมขนำดตำมต้องกำร
5 2. นำชน้ิ สว่ นแลว้ นำมำประกอบกัน ๓.กำงเชอื กตำมควำมยำว ๔. กำรประกอบฟืมในกำรทอ
6 กี่ หรือ หูก เปน็ เครื่องทอผำ้ พ้ืนบำ้ นท่พี ัฒนำมำจำกกำรทอผ้ำโดยผูกดำ้ ยเสน้ ยืนกบั ตน้ ไม้หรือเสำเรอื น มำ เป็นโครงส่ีเหลยี่ ม กที่ อผ้ำ มีไมค้ ำนก่ีเป็นโครงดำ้ นบนเพือ่ รับไม้คำนหำบที่รับน้ำหนักของฟมื ด้วยเชอื ก และมีสำย เชือกโยงไม้ขัดร่องเขำทีห่ วั ท้ำย มีไมก้ ำสำหรับยดึ เสน้ ดำ้ ยยืน โครงสร้ำงและส่วนประกอบของกี่ประดิษฐ์ขึ้นเพอ่ื ให้ เกดิ ควำมสะดวกในกำรทอผ้ำ ส่วนใหญ่ทำด้วยไม้ 1.เสำหลกั ขำต้ังหกู เป็นเสำทรงสเี่ หล่ยี ม ขนำดควำมสูงเท่ำกนั ทงั้ 4 ตน้ 2.ไม้คำนหูก เปน็ คำนไม้พำดเช่ือมตอ่ ระหว่ำงเสำหลักท้ัง 4 ตน้ เครือเสน้ ดำ้ ยยืนพำดบนไมค้ ำนด้ำนหน้ำ และโยงมำผกู ไม้คำนด้ำนหลงั ดึงเสน้ ยนื ใหต้ รง 3.ไม้รองนั่ง เปน็ แผน่ ไม้ทพ่ี ำดไว้บนคำนไม้ด้ำนล่ำงดำ้ นคนทอ เพ่ือให้คนทอนัง่ คนทอนง่ั และวำงอุปกรณ์ กำรทอ เช่น ตะกรำ้ ใส่ดำ้ ย ใส่หวี 4.ไม้ม้วนผำ้ หรือไม้กำพ่ัน หรอื ไม้กำพัน เป็นท่อนไม้ส่เี หลย่ี มท่ปี ลำยท้ังสองขำ้ งเสียบเขำ้ เดือยทห่ี ลักไม้ ด้ำนใกล้กบั ผทู้ อเพื่อม้วนเกบ็ ผ้ำทท่ี อเสรจ็ เรียบร้อยเอำไว้ 5.ไม้หำบหูก เปน็ ไม้ไผ่ทรงกระบอกขนำดกลำงยำวพำดคำนไม้ เพื่อใช้ผูกเชือกโยงฟืมและรอกท่ีพยงุ ตะกอ หรอื เขำเอำไว้ ๗.ฟืม (ฟนั หวี) เป็นอปุ กรณ์กำรทอทสี่ ำคญั ที่อย่หู นำ้ ตะกอหรือเขำ ใช้กระทบเส้นดำ้ นพุ่งให้สำนทอกบั เสน้ ด้ำยยนื เป็นผืนผ้ำ หนำ้ ฟืมจะมีทงั้ ขนำดยำวและขนำดส้ัน ขน้ึ กับวำ่ จะทอผ้ำหน้ำแคบหรอื กว้ำงสำมำรถถอด เปลยี่ นได้ ๘.รอก เปน็ อุปกรณ์ชว่ ยพยุงตะกอหรือเขำ โดยผกู โยงไวก้ บั ไม้คำนหูก
7 ผลทีเ่ กิดจากการนานวตั กรรมไปใช้ ผลจำกกำรทำนวัตกรรมกี่พำรวยนน้ั ผู้จดั ทำไดป้ ฏบิ ัติตำมขน้ั ตอนกำรดำเนนิ งำนและมผี ลกำรศึกษำค้นควำ้ และแนวปฏบิ ัติอยำ่ งเปน็ ระบบ เป็นต้น ศกึ ษำวิธกี ำรทำก่ี นำควำมรู้ท่ีได้จำกศกึ ษำหำควำมรจู้ ำกบุคคล ภูมิปัญญำท้องถ่ินท่มี คี วำมรเู้ รอื่ งกำรกี่ทอ ผ้ำ และศึกษำหำข้อมูลจำกอนิ เตอรเ์ น็ตเพื่อใช้ในกำรประดิษฐ์ผลงำน กำรพฒั นำทกั ษะกำรทอพรมเช็ดเทำ้ ดว้ ยกี่ กำรนำเอำกระบวนกำรทอพรมเชด็ เทำ้ ด้วยกี่พนื้ บำ้ นที่มขี น้ั ตอนและเครอื่ งมือกำรทอพรมเชด็ เทำ้ ที่ใช้เวลำเรว็ ขึ้น กระบวนกำรท่งี ำ่ ยสบำยแต่มีคณุ ภำพมำใชแ้ ทนกันได้ เช่น กี่ทอผ้ำพ้นื บ้ำนมีขนำดใหญ่เคลอื่ นยำ้ ยลำบำก ปรับและ ออกแบบกำรทอลงมำใช้ก่ีทส่ี ำมำรถเคล่ือนย้ำยและพกพำไปใชไ้ ดท้ ุกท่ี กำรศึกษำอปุ กรณ์กำรเตรียมเครือหูกหรือ ขึงเส้นยืนกำรเตรียมเส้นพ่งุ กำรขึงเส้นยนื ใส่เอว กำรลงมือทอ ตลอดจนทักษะอนื่ ๆท่ีสำมำรถทำใหง้ ำนทอพรมเชด็ เท้ำเรำออกมำได้สวยงำมและสมบรู ณ์ เป็นกำรพฒั นำที่ต้องเข้ำใจเทำ่ นน้ั จงึ จะทำงำนได้ตอ่ เนือ่ งและมคี ุณภำพ ให้ ควำมสุข ควำมเพลดิ เพลนิ ในกำรทอ ได้ผลงำนที่มีคณุ ภำพ ควำมสวยงำมและใชไ้ ดจ้ ริงตำมหนำ้ ที่ของผลิตภณั ฑ์ กำรบริกำรวิชำกำรและประชำสัมพันธ์ เผยแพร่องค์ควำมรู้ จะตำมมำพร้อมกบั รำยได้ และมีorder สม่ำเสมอ เช่น กำรนำสินคำ้ วำงขำยตำมบูททีท่ ำงรำชกำรจดั ไว้ให้ ประโยชน์ที่คำดวำ่ จะไดร้ ับ 1) ได้แบบกท่ี ่ีสำมำรถนำไปพัฒนำกระบวนกำรทอผ้ำในกลุ่มแม่บำ้ น ทอพรมเช็ดเทำ้ ชมุ ชนตำบลสะเดำ 2) กลุ่มและชุมชนเกดิ ควำมภำคภูมใิ จในกำรศึกษำและ กำรทำนวตั กรรมของตนในเรื่อง กำรใช้ก่ี ทอพรมเช็ดเท้ำ 3) ลดต้นทนุ และระยะเวลำในกระบวนกำร ผลติ ทำให้ชีวติ ควำมเปน็ อยู่ของกลมุ่ ดีขึน้ การขยายผลและการเผยแพรผ่ ลการพฒั นา กำรทำนวตั กรรมก่ีพำรวย เพื่อใหส้ ำเรจ็ ตำมวัตถุประสงค์ที่ต้องกำร และนอกจำกนี้ยงั เป็นกำรศกึ ษำวิธีกำร ทำ เทคนคิ และลงมือปฏบิ ัติได้ด้วยตนเอง อภปิ รำย 1. สำมำรถนำเอำโครงงำนมำเป็นแบบอย่ำงในกำรศึกษำข้อมูลในกำรทำคร้งั ต่อไป 2.ใช้ประโยชนจ์ ำกรปู เล่มโครงงำนไปศกึ ษำข้อมูลเพ่ิมเติม 3.นำไปปรบั ใช้ในชีวติ ประจำวันได้ 4.ลดรำยจำ่ ย เพิม่ รำยได้ ให้กับตนเองและครอบครัว ประโยชน์ทไ่ี ด้รับจำกนวัตกรรม 1. เปน็ กำรใชเ้ วลำวำ่ งให้เกดิ ประโยชน์ 2. มีควำมภมู ใิ จในผลงำนของตน 3. มีรำยได้จำกผลงำน 4. มคี วำมคดิ รเิ ร่มิ สรำ้ งสรรค์ผลงำนใหมๆ่ 5. เปน็ กำรฝกึ ใหร้ ู้จักสังเกตส่ิงรอบๆ ตัว และนำมำใช้ให้เกิดประโยชน์
8 ข้อเสนอแนะ ข้อเสนอแนะในกำรทำนวตั กรรม ก่ี พำรวย 1.ใชเ้ ป็นเคร่ืองมือในกำรเรยี นกำรสอน สำมำรถใชส้ อนเด็กหรือผู้สนใจทั่วไปมำเรียนรูท้ ักษะ กำรทอพรมเชด็ เท้ำได้ 2. ใชฝ้ ึกสมำธิ ดงึ เอำควำมคิดทฟี่ ุ้งซ่ำนมำ กำหนดอยู่กับงำนทอ 3. สำมำรถออกแบบลำยกำรทอพรมเช็ดเทำ้ ได้หลำกหลำยแบบ ได้ ขอ้ เสนอแนะสำหรบั กำรทำนวัตกรรมครงั้ ต่อไป กำรพัฒนำรปู แบบกใี่ ห้ใช้งำนไดค้ รอบคลุมกจิ กรรมกำรทอเพ่ิมมำกขึ้น
Search
Read the Text Version
- 1 - 10
Pages: