เล่ม ๑๓๘ ตอนที่ ๖๘ ก หน้า ๑๖ ๑๔ ตลุ าคม ๒๕๖๔ ราชกิจจานุเบกษา ขอ้ บงั คบั ของประธานศาลฎกี า ว่าดว้ ยการบนั ทึกคาเบกิ ความพยานในคดีอาญาโดยใชว้ ธิ ีการบันทกึ ลงในวสั ดุ ซึง่ สามารถถ่ายทอดออกเปน็ ภาพและเสียง พ.ศ. 2564 โดยท่ีเป็นการสมควรกาหนดหลักเกณฑ์ วธิ ีการ และเง่อื นไขว่าด้วยการบันทึกคาเบิกความพยาน ในคดีอาญาโดยใช้วิธีการบันทึกลงในวัสดุ ซึ่งสามารถถ่ายทอดออกเป็นภาพและเสียง เพ่ือเพ่ิม ประสิทธิภาพในการรับฟังพยานหลักฐาน อันเป็นหลักประกันให้การพิจารณาพิพากษาคดีเป็นไป โดยเทย่ี งธรรมและสามารถตรวจสอบถึงความถูกตอ้ งได้ อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๑๗๒ วรรคสี่ และวรรคห้า แห่งประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา ซ่ึงแก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบญั ญัตแิ ก้ไขเพิ่มเตมิ ประมวลกฎหมายวธิ พี ิจารณา ความอาญา (ฉบับท่ี ๒๘) พ.ศ. ๒๕๕๑ ประธานศาลฎีกาโดยความเห็นชอบจากที่ประชุมใหญ่ ของศาลฎีกา จงึ ออกข้อบงั คับไว้ ดังต่อไปน้ี ขอ้ ๑ ข้อบังคบั น้เี รยี กวา่ “ข้อบงั คบั ของประธานศาลฎีกาว่าด้วยการบันทึกคาเบิกความพยาน ในคดอี าญาโดยใช้วธิ กี ารบันทกึ ลงในวัสดุซง่ึ สามารถถา่ ยทอดออกเป็นภาพและเสยี ง พ.ศ. 2564” ขอ้ ๒ ข้อบงั คับนีใ้ หใ้ ช้บังคับตง้ั แต่วันถัดจากวันประกาศในราชกจิ จานุเบกษาเป็นตน้ ไป ขอ้ 3 เมื่อศาลเห็นสมควร ไม่ว่ามีคู่ความร้องขอหรือไม่ก็ตาม ศาลอาจสั่งให้มีการบันทึก คาเบิกความพยานโดยใช้วธิ กี ารบนั ทึกภาพและเสยี งได้ โดยเฉพาะคดีอาญา ดังต่อไปนี้ (๑) คดีท่ีมีความสาคัญเป็นพิเศษซ่ึงต้องอาศัยความรู้เห็นของพยานบุคคล เช่น คดีความผิด เกี่ยวกับชีวิต คดีความผิดเกี่ยวกับเพศ คดีความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้าย คดีความผิดเกี่ยวกับ ความมัน่ คง คดีคา้ มนษุ ย์ คดีทุจริตและประพฤตมิ ชิ อบ (๒) คดีซ่ึงเป็นที่สนใจของประชาชน เช่น คดีท่ีมีความสาคัญเก่ียวกับตัวบุคคล คดีทพ่ี ฤติการณก์ ารกระทาความผิดร้ายแรงซึง่ มีผลกระทบต่อความร้สู ึกของประชาชน (๓) คดีซ่ึงโดยความสาคัญหรือลักษณะของพยานบุคคลสมควรที่จะบันทึกคาเบิกความไว้ ตามข้อบังคับน้ี เช่น ในกรณีท่ีมีความจาเป็นต้องสังเกตอากัปกิริยาของพยานขณะเบิกความ หรือข้อเท็จจริงท่ีพยานเบิกความมีความยุ่งยากซับซ้อนหรือเป็นเรื่องทางเทคนิค หรือพยานต้องเบิกความ ผ่านล่าม ความในวรรคหนึง่ ให้ใช้กับการสืบพยานกอ่ นฟ้องคดตี ามประมวลกฎหมายวธิ ีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๓๗ ทวิ และมาตรา 237 ตรี ดว้ ย
เล่ม ๑๓๘ ตอนท่ี ๖๘ ก หน้า ๑๗ ๑๔ ตลุ าคม ๒๕๖๔ ราชกิจจานุเบกษา ข้อ 4 ให้นาข้อกาหนดของประธานศาลฎีกาว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๖๓ และประกาศสานักงานศาลยตุ ธิ รรมทเี่ กี่ยวขอ้ งมาใชบ้ งั คับแก่การบันทึกคาเบกิ ความพยาน โดยใชว้ ิธกี ารบันทึกภาพและเสยี งตามขอ้ บงั คบั นี้เทา่ ทพ่ี อจะใชบ้ งั คับได้ ข้อ 5 เม่ือศาลมคี าสั่งให้บนั ทึกคาเบิกความพยานบคุ คลปากใดโดยใช้วิธกี ารบนั ทกึ ภาพและเสยี ง ต้องแจ้งให้คู่ความและพยานทราบล่วงหน้าก่อนวันสืบพยานปากนนั้ เว้นแต่กรณีมีเหตุจาเป็นอันไม่อาจ ก้าวล่วงได้ ขอ้ 6 การบันทึกคาเบิกความพยานโดยใช้วิธีการบันทึกภาพและเสียงตามข้อบังคับน้ี ให้ดาเนินการต้ังแตพ่ ยานบุคคลเรม่ิ เบกิ ความตอ่ เนอ่ื งตดิ ตอ่ กนั ไปจนกวา่ จะเสร็จส้ินการสืบพยานปากน้ัน ในกรณีที่มีเหตุจาเป็นหรือมีข้อขดั ขอ้ งทาให้ไม่อาจดาเนนิ การตามวรรคหนงึ่ ศาลอาจสืบพยาน ต่อไปโดยใช้วิธีการบันทึกถ้อยคาพยานแบบเก็บใจความสาคัญแล้วให้คู่ความและพ ยานลงลายมือช่ือไว้ เป็นสาคญั ขอ้ 7 การสืบพยานโดยใชว้ ิธีการบันทึกภาพและเสยี ง ศาลไม่ตอ้ งบนั ทกึ คาเบิกความพยาน แบบเกบ็ ใจความสาคัญอีก และให้ถือวา่ ภาพและเสียงคาเบิกความของพยานทบี่ ันทกึ ไวน้ ้นั เป็นคาเบิกความ ของพยานโดยไมต่ อ้ งจัดพมิ พเ์ ปน็ เอกสารเพอ่ื อา่ นให้พยานหรือคคู่ วามฟงั คู่ความหรือพยานสามารถขออนุญาตศาลตรวจดูบันทึกภาพและเสียงดังกล่าวได้ภายใต้ การควบคมุ ดแู ลของเจ้าหนา้ ที่ แตไ่ มส่ ามารถบนั ทึกภาพและเสียงหรือทาซ้าข้อมลู อเิ ลก็ ทรอนกิ สน์ ั้น ข้อ 8 ถ้าความปรากฏภายหลังว่า ภาพหรือเสียงคาเบิกความพยานท่ีบันทึกไว้เกิดเสียหาย ท้ังหมดหรือแต่บางส่วน อันเป็นอุปสรรคต่อการช้ีขาดตัดสินคดี เมื่อศาลเห็นสมควรหรือคู่ความ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งร้องขอ ศาลอาจดาเนินการสืบพยานโดยใช้วิธีการบันทึกภาพและเสียงใหม่อีกครั้งหน่ึง หรือมีคาส่งั อยา่ งอื่นตามทเี่ ห็นสมควรเพอื่ ประโยชนแ์ หง่ ความยุตธิ รรม ขอ้ 9 เพ่ือประโยชน์แก่การพิจารณาคดี การทาคาพิพากษา และการอุทธรณ์ฎีกา ให้เจ้าหน้าที่จัดทาสรุปคาเบิกความแบบเก็บใจความสาคัญของพยานจากภาพและเสียงท่ีได้บันทึกไว้ หรืออาจจะสรุปคาเบิกความดังกล่าวทันทีในขณะท่ีพยานเบิกความแลว้ จึงใหเ้ จ้าหน้าท่ีจัดพิมพ์ขนึ้ โดยเรว็ ในภายหลังก็ได้ แต่คดีท่ีเป็นการสืบพยานประกอบคารับสารภาพ ให้จัดทาสรุปคาเบิกความดังกล่าว เฉพาะกรณีเมือ่ คดตี ้องข้ึนส่ศู าลสงู สรุปคาเบิกความที่จัดทาขึ้นตามวรรคหน่ึง เป็นเพียงเอกสารเพ่ือความสะดวกในการที่จะทราบถึง สาระสาคัญท่ีพยานเบิกความ และช่วยให้การย้อนกลับไปดภู าพและเสียงของพยานท่ีบนั ทึกไว้เปน็ ไปได้ อย่างรวดเร็วเทา่ นนั้ โดยมใิ หถ้ อื ว่าเปน็ บนั ทึกคาเบกิ ความของพยานดงั กลา่ ว คู่ความหรือพยานสามารถขอตรวจดูและคัดถ่ายสรุปคาเบิกความของพยานดังกล่าวได้ ท้ังน้ี ให้นาบทบัญญัติแห่งกฎหมายเก่ียวกับการตรวจเอกสารและการคัดถ้อยคาพยานมาใช้บังคับ โดยอนุโลม
เล่ม ๑๓๘ ตอนที่ ๖๘ ก หน้า ๑๘ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๖๔ ราชกจิ จานุเบกษา ขอ้ ๑0 ให้สานักงานศาลยุติธรรมจัดสรรงบประมาณและอัตรากาลังเจ้าหน้าที่แก่ศาล ให้เพียงพอต่อการดาเนินการตามข้อบังคบั นี้ และในกรณีท่ีมีความจาเป็นตอ้ งมวี ิธกี ารอย่างหน่งึ อย่างใด ในทางธุรการเพื่อให้การปฏิบัติตามข้อบังคับนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ให้เลขาธิการสานักงาน ศาลยตุ ธิ รรมเป็นผู้กาหนดวธิ กี ารนน้ั ประกาศ ณ วนั ที่ 23 กนั ยายน พ.ศ. ๒๕๖4 เมทินี ชโลธร ประธานศาลฎกี า
Search
Read the Text Version
- 1 - 3
Pages: