หลกั สูตรมัธยมศึกษา โรงเรยี นโคกสาโรงวทิ ยา พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง ๒๕๖4)
โครงสรา้ งรายวิชา กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย รายวชิ าพน้ื ฐาน ภาษาไทย 3 คาบ/สปั ดาห์ 1.5 หนว่ ยกติ ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี ๑ ภาษาไทย 3 คาบ/สปั ดาห์ 1.5 หนว่ ยกติ ท21101 ภาษาไทย 3 คาบ/สัปดาห์ 1.5 หนว่ ยกติ ท21102 ภาษาไทย 3 คาบ/สปั ดาห์ 1.5 หนว่ ยกติ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๒ ภาษาไทย 3 คาบ/สปั ดาห์ 1.5 หนว่ ยกติ ภาษาไทย 3 คาบ/สปั ดาห์ 1.5 หน่วยกติ ท22101 ท22102 ภาษาไทย 2 คาบ/สัปดาห์ 1 หน่วยกิต ภาษาไทย 2 คาบ/สัปดาห์ 1 หนว่ ยกิต ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ ๓ ภาษาไทย 2 คาบ/สปั ดาห์ 1 หน่วยกติ ท23101 ภาษาไทย 2 คาบ/สัปดาห์ 1 หนว่ ยกิต ท23102 ภาษาไทย 2 คาบ/สัปดาห์ 1 หน่วยกิต ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๔ ภาษาไทย 2 คาบ/สัปดาห์ 1 หนว่ ยกิต ท31101 ท31102 ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๕ ท32101 ท32102 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๖ ท33101 ท33102
รายวิชาเพิม่ เติม นทิ านพน้ื บา้ น 1 2 คาบ/สัปดาห์ 1 หน่วยกติ ชน้ั มธั ยมศึกษาตอนต้น นทิ านพนื้ บ้าน 2 2 คาบ/สัปดาห์ 1 หนว่ ยกิต การใช้ห้องสมดุ เบ้ืองตน้ 1 2 คาบ/สปั ดาห์ 1 หนว่ ยกติ ท21202 การใช้หอ้ งสมุดเบื้องต้น2 2 คาบ/สัปดาห์ 1 หน่วยกติ ท21204 การศึกษาคน้ คว้าและสรา้ งองค์ความรู้ 2 คาบ/สัปดาห์ 1 หนว่ ยกิต ท21205 การส่อื สารและการนาเสนอ 2 คาบ/สัปดาห์ 1 หนว่ ยกิต ท21206 ส่งเสริมการอา่ น 1 2 คาบ/สัปดาห์ 1 หนว่ ยกติ I20201 สง่ เสรมิ การอา่ น 2 2 คาบ/สปั ดาห์ 1 หนว่ ยกติ I21202 ท23203 ท23204 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย 2 คาบ/สัปดาห์ 1 หนว่ ยกิต ท31201 การพูด 2 คาบ/สปั ดาห์ 1 หนว่ ยกิต ท31202 ประวัติวรรณคดี 1 2 คาบ/สปั ดาห์ 1 หน่วยกิต ท31203 การเขียน 2 คาบ/สัปดาห์ 1 หนว่ ยกิต ท31204 ประวัติวรรณคดี 2 1 คาบ/สปั ดาห์ 0.5 หน่วยกติ ท31205 วรรณคดีมรดก 1 คาบ/สัปดาห์ 0.5 หน่วยกติ ท31206 ห้องสมดุ เพ่ือการศึกษาค้นคว้า 1 คาบ/สปั ดาห์ 1 หนว่ ยกิต ท31207 วรรณกรรมท้องถิน่ 2 คาบ/สัปดาห์ 1 หนว่ ยกติ ท32201 การแต่งคาประพนั ธ์ 2 คาบ/สัปดาห์ 1 หน่วยกติ ท32202 ภาษาเพ่ือการสื่อสาร 2 คาบ/สัปดาห์ 1 หนว่ ยกิต ท33202 ภาษากับวฒั นธรรม 2 คาบ/สปั ดาห์ 1 หนว่ ยกิต ท33203 หลกั ภาษาไทย
คาอธิบายรายวชิ า ท2๑๑๐๑ ภาษาไทย กลุม่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา 6๐ ชวั่ โมง / ภาคเรียน จานวน ๑.5 หนว่ ยกิต ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- การอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วที่เป็นบทบรรยายและอ่านออกเสียงบทร้อยกรองประเภท กาพย์และ กลอน การอ่านจับใจความสาคัญจากเรื่องเล่าประสบการณ์ บทสนทนา วรรณคดีในบทเรียน บทความ สารคดี บันเทิงคดี เอกสารทางวิชาการท่ีมีคา ประโยคและข้อความที่ต้องใช้บริบทช่วยพิจารณา ความหมาย การอ่าน หนังสือตามความสนใจพร้อมวิเคราะห์คุณค่าที่ได้รับจากการอ่านหนังสือ การคัดลายมือตัวบรรจงคร่ึงบรรทัด ตามรูปแบบการเขียนอักษรไทย การเขียนส่ือสารแนะนาตนเอง แนะนาสถานที่สาคัญต่าง ๆ โดยเขียนสะกด คาไดถ้ กู ต้องตามอกั ขรวธิ ี เขียนเรียงความเชิงพรรณนา เขียนยอ่ ความจากสื่อตา่ ง ๆ เช่น เร่ืองส้นั คาสอน โอวาท คาปราศรัย สุนทรพจน์ รายงาน ระเบียบ คาสั่ง บทสนทนา เร่ืองเล่าจากประสบการณ์ เขียนจดหมายส่วนตัว เขียน รายงานการศึกษาค้นคว้า การพูดสรปุ ความ พูดแสดงความรคู้ วามคิด จับประเดน็ สาคัญ วิเคราะห์ขอ้ เทจ็ จริง และข้อคิดเห็นจากเรื่องท่ีฟังและดู การเล่าเร่ืองต่าง ๆ อย่างสร้างสรรค์ พูดรายงานการศึกษาค้นคว้าจาก แหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ในชุมชนและท้องถิ่นของตน การอธิบายลักษณะของเสียงในภาษาไทย วิเคราะห์ความ แตกต่างของภาษาพูดและภาษาเขียน การแต่งบทกร้อยกรองประเภทกาพย์ยานี ๑๑ ใช้พจนานุกรมช่วยการ อ่าน การเขียนและค้นหาความหมาย จาแนกและใช้สานวนที่เป็นคาพังเพยและสุภาษิต การสรุปเน้ือหา วรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอ่านเกี่ยวกับ ศาสนา ประเพณี พิธีกรรม สุภาษิตคาสอนเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ บันเทิงคดี บันทึกการเดินทาง วรรณกรรมท้องถิ่น สรุปความรู้ วิเคราะห์คุณค่าและข้อคิดจากวรรณคดีและ วรรณกรรมท่อี า่ นพร้อมยกเหตุผลประกอบ การท่องจาบทอาขยานและบทรอ้ ยกรองที่มีคณุ ค่าตามความสนใจ โดยใช้กระบวนการอา่ น การเขยี น การดู การพดู และนาไปใช้ในชีวิตประจาวนั มนี ิสยั รักการอา่ น มีมารยาทในการอ่าน เขยี น ฟงั ดู พดู มวี ินยั ใฝเ่ รยี นรู้ มงุ่ มั่นใน การทางาน รักความเป็นไทย และเห็นคุณค่าวรรณคดีและวรรณกรรม ตวั ชีว้ ดั ท ๑.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔, ม.๑/๕, ม.๑/๗, ม.๑/๘, ม.๑/๙ ท ๒.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔, ม.๑/๖, ม.๑/๗, ม.๑/๘, ม.๑/๙ ท ๓.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๕, ม.๑/๖ ท ๔.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๓, ม.๑/๔ ท ๕.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔, ม.๑/๕ รวม ๒๙ ตวั ชว้ี ดั
คาอธิบายรายวิชา ท2๑๑๐2 ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 6๐ ชว่ั โมง / ภาคเรียน จานวน ๑.5 หนว่ ยกติ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- การอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วที่เป็นบทบรรยายและอ่านออกเสียงบทร้อยกรองประเภท กลอน และ โคลงสี่สุภาพ การอ่านจับใจความสาคัญจากเร่ืองส้ัน นิทานชาดก วรรณคดีในบทเรียน งานเขียนเชิง สร้างสรรค์ เอกสารทางวิชาการทม่ี ีคา ประโยคและขอ้ ความท่ีตอ้ งใชบ้ ริบทช่วยพจิ ารณา ความหมาย การอา่ น หนงั สอื ตามความสนใจพร้อมวิเคราะห์คุณค่าที่ได้รับจากการอา่ นหนังสือ การเขยี นสื่อสารบนส่อื อิเล็คทรอนิกส์ เขียนย่อความจากสื่อต่าง ๆ เช่น เร่ืองสั้น รายงาน ระเบียบ คาสั่ง เขียนจดหมายกิจธุระ เขียนรายงาน โครงงาน การพูดสรปุ ความ พดู แสดงความร้คู วามคดิ จับประเดน็ สาคญั วเิ คราะห์ขอ้ เท็จจริง และขอ้ คดิ เห็น จากเร่อื งที่ฟงั และดู การเล่าเรื่องต่าง ๆ อยา่ งสรา้ งสรรค์ พดู รายงานการศึกษาค้นคว้าจากแหล่งเรียนร้ตู ่าง ๆ ในชมุ ชนและทอ้ งถ่นิ ของตน การสรา้ งคาประสม คาซา้ คาซ้อนและคาพอ้ ง การแต่งบทกร้อยกรองประเภท กลอนสุภาพ จาแนกและใชส้ านวนท่ีเปน็ คาพงั เพยและสุภาษิต การสรปุ เนือ้ หาวรรณคดแี ละวรรณกรรมที่อ่าน เก่ียวกับ ศาสนา ประเพณี พิธีกรรม สุภาษิตคาสอนเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ บันเทิงคดี บันทึกการเดินทาง วรรณกรรมท้องถ่นิ สรปุ ความรู้ วเิ คราะห์คุณค่าและข้อคดิ จากวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอ่านพร้อมยกเหตุผล ประกอบการท่องจาบทอาขยานและบทร้อยกรองที่มคี ณุ คา่ ตามความสนใจ โดยใชก้ ระบวนการอา่ น การเขยี น การดู การพูดและนาไปใช้ในชีวิตประจาวนั มนี ิสยั รกั การอา่ น มีมารยาทในการอา่ น เขยี น ฟัง ดู พดู มีวนิ ัย ใฝเ่ รียนรู้ มุ่งมั่นใน การทางาน รกั ความเปน็ ไทย และเหน็ คณุ ค่าวรรณคดีและวรรณกรรม ตวั ชี้วดั ท ๑.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔, ม.๑/๕, ม.๑/๖, ม.๑/๗, ม.๑/๘, ม.๑/๙ ท ๒.๑ ม.๑/๒, ม.๑/๕, ม.๑/๖, ม.๑/๗, ม.๑/๘, ม.๑/๙ ท ๓.๑ ม.๑/๓, ม.๑/๔, ม.๑/๖ ท ๔.๑ ม.๑/๒, ม.๑/๕, ม.๑/๖ ท ๕.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔, ม.๑/๕ รวม ๒๖ ตัวช้ีวัด
คาอธบิ ายรายวิชา ท22๑๐๑ ภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา 6๐ ชวั่ โมง / ภาคเรียน จานวน ๑.5 หนว่ ยกิต ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทรอ้ ยกรอง จับใจความสาคัญ สรุปความและอธิบายรายละเอียดจาก เรอื่ งทอ่ี า่ น เขยี นผงั ความคิดเพอื่ แสดงความเขา้ ใจในบทเรยี นตา่ ง ๆ ที่อา่ น อภปิ รายแสดงความคิดเหน็ และข้อ โต้แย้งเก่ียวกับเรื่องที่อ่าน วิเคราะห์และจาแนกข้อเท็จจริง ข้อมูลสนับสนุน และข้อคิดเห็นจากบทความทีอ่ ่าน อ่านหนังสอื บทความ หรือคาประพันธ์อย่างหลากหลาย และประเมนิ คุณคา่ หรือแนวคดิ ที่ได้จากการอ่าน เพื่อ นาไปใช้แกป้ ัญหาในชีวิต และมีมารยาทในการอา่ น คัดลายมือตัวบรรจงคร่ึงบรรทัด เขียนบรรยายและพรรณนา เขียนเรียงความ เขียนย่อความ เขียน รายงานการศึกษาค้นคว้า เขียนจดหมายกิจธรุ ะ และมีมารยาทในการเขยี น พูดสรุปใจความสาคัญของเรื่องที่ฟังและดู วิเคราะห์ข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น และความน่าเชื่อถือของ ข่าวสารจากส่ือต่าง ๆ วิเคราะห์และวิจารณ์เรื่องที่ฟังและดูอย่างมีเหตุผลเพื่อนาข้อคิดมาประยุกต์ใช้ในการ ดาเนนิ ชีวิต พดู รายงานเรื่องหรอื ประเด็นที่ศึกษาค้นคว้า และมมี ารยาทในการฟัง การดู และการพูด สร้างคาในภาษาไทย วิเคราะห์โครงสร้างประโยคสามัญ ประโยครวม และประโยคซ้อน แต่งบทร้อย กรอง ใชค้ าราชาศัพท์ สรุปเน้ือหาวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่านในระดับที่ยากข้ึน วิเคราะห์และวิจารณ์วรรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรมท้องถ่ินท่ีอ่านพร้อมยกเหตุผลประกอบ อธิบายคุณค่าของวรรณคดี และ วรรณกรรมที่อ่าน สรุปความรู้และข้อคิดจากการอ่านไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ท่องจาบทอาขยานตามที่ กาหนด และบทร้อยกรองท่มี ีคณุ ค่าตามความสนใจ โดยใช้กระบวนการอา่ น การเขยี น การฟัง การดู การพูด และนาไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั มนี สิ ยั รกั การอ่าน มีมารยาทในการอา่ น เขยี น ฟงั ดู พดู มวี ินยั ใฝเ่ รียนรู้ ม่งุ มั่นในการทางาน รกั ความ เปน็ ไทย และเห็นคณุ คา่ วรรณคดแี ละวรรณกรรม ตัวชวี้ ดั ท ๑.๑ ม.๒/๑, ม.๒/๒, ม.๒/๓, ม.๒/๔, ม.๒/๕, ม.๒/๗, ม.๒/๘ ท ๒.๑ ม.๒/๑, ม.๒/๒, ม.๒/๓, ม.๒/๔, ม.๒/๕, ม.๒/๖, ม.๒/๘ ท ๓.๑ ม.๒/๑, ม.๒/๒, ม.๒/๓, ม.๒/๕, ม.๒/๖ ท ๔.๑ ม.๒/๑, ม.๒/๒, ม.๒/๓, ม.๒/๔ ท ๕.๑ ม.๒/๑, ม.๒/๒, ม.๒/๓, ม.๒/๔, ม.๒/๕ รวม ๒๘ ตัวชีว้ ดั
คาอธบิ ายรายวิชา ท22๑๐2 ภาษาไทย กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 6๐ ชวั่ โมง / ภาคเรียน จานวน ๑.5 หนว่ ยกติ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทรอ้ ยกรอง จับใจความสาคัญ สรุปความและอธิบายรายละเอียดจาก เรอื่ งทอ่ี า่ น เขยี นผังความคิดเพ่อื แสดงความเขา้ ใจในบทเรียนต่าง ๆ ที่อ่าน อภิปรายแสดงความคดิ เหน็ และข้อ โต้แย้งเก่ียวกับเร่ืองที่อ่าน วิเคราะห์และจาแนกข้อเท็จจริง ข้อมูลสนับสนุน และข้อคิดเห็นจากบทความทอ่ี า่ น ระบุข้อสังเกต การชวนเชื่อ การโน้มน้าว หรือความสมเหตุสมผลของงานเขียน อ่านหนังสือ บทความ หรือคา ประพนั ธ์อย่างหลากหลาย และประเมนิ คุณคา่ หรือแนวคิดที่ไดจ้ ากการอา่ น เพ่อื นาไปใช้แก้ปญั หาในชีวติ และ มีมารยาทในการอา่ น เขียนเรียงความ เขียนย่อความ เขียนรายงานการศึกษาค้นคว้า เขียนจดหมายกิจธุระ เขียนวิเคราะห์ วจิ ารณแ์ ละแสดงความรู้ ความคิดเห็น หรือโต้แยง้ ในเรื่องทอ่ี า่ นอยา่ งมเี หตผุ ล และมีมารยาทในการเขยี น พูดสรุปใจความสาคัญของเร่ืองท่ีฟังและดู วิเคราะห์ข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น และความน่าเช่ือถือของ ข่าวสารจากสื่อต่างๆ วิเคราะห์และวิจารณ์เร่ืองที่ฟังและดูอย่างมีเหตุผลเพื่อนาข้อคิดมาประยุกต์ใช้ในการ ดาเนินชีวิต พูดในโอกาสต่างๆ ได้ตรงตามวัตถุประสงค์ พูดรายงานเรื่องหรือประเด็นท่ีศึกษาค้นคว้า และมี มารยาทในการฟงั การดู และการพูด แต่งบทร้อยกรอง ใช้คาราชาศัพท์ รวบรวมและอธิบายความหมายของคาภาษาต่างประเทศท่ีใช้ใน ภาษาไทย สรุปเน้ือหาวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่านในระดับท่ียากข้ึน วิเคราะห์และวิจารณ์วรรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรมท้องถิ่นท่ีอ่านพร้อมยกเหตุผลประกอบ อธิบายคุณค่าของวรรณคดี และ วรรณกรรมท่ีอ่าน สรุปความรู้และข้อคิดจากการอ่านไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ท่องจาบทอาขยานตามท่ี กาหนด และบทรอ้ ยกรองทีม่ ีคณุ คา่ ตามความสนใจ โดยใชก้ ระบวนการอา่ น การเขยี น การฟัง การดู การพูด และนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวัน มีนิสัยรักการอา่ น มีมารยาทในการอา่ น เขียน ฟงั ดู พูด มีวินยั ใฝเ่ รยี นรู้ มุ่งม่ันในการทางาน รักความ เป็นไทย และเห็นคุณคา่ วรรณคดแี ละวรรณกรรม ตวั ชวี้ ดั ท ๑.๑ ม.๒/๑, ม.๒/๒, ม.๒/๓, ม.๒/๔, ม.๒/๕, ม.๒/๖, ม.๒/๗, ม.๒/๘ ท ๒.๑ ม.๒/๓, ม.๒/๔, ม.๒/๕, ม.๒/๗, ม.๒/๘ ท ๓.๑ ม.๒/๑, ม.๒/๒, ม.๒/๓, ม.๒/๔, ม.๒/๕, ม.๒/๖ ท ๔.๑ ม.๒/๓, ม.๒/๔, ม.๒/๕ ท ๕.๑ ม.๒/๑, ม.๒/๒, ม.๒/๓, ม.๒/๔, ม.๒/๕ รวม ๒๗ ตัวชี้วัด
คาอธบิ ายรายวิชา ท23๑๐2 ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 6๐ ชว่ั โมง / ภาคเรียน จานวน ๑.5 หนว่ ยกิต ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- อ่านออกเสียงบทร้อยแก้ว และ บทร้อยกรองได้ถูกต้องและเหมาะสมกับเร่ืองที่อ่าน ระบุ ความแตกต่างของคาที่มีความหมายโดยตรงและความหมายโดยนัยระบุใจความสาคัญและรายละเอียดของ ข้อมูลท่ีสนับสนุนจากเร่ืองที่อ่าน อ่านเรื่องต่างๆ แล้วเขียนกรอบแนวคิด ผังความคิด บันทึกย่อความและ รายงานวิเคราะห์ วิจารณ์ และประเมินเรื่องท่ีอ่านโดยใช้กลวิธีการเปรียบเทียบเพ่ือให้ผู้อ่านเข้าใจได้ดีข้ึน ประเมนิ ความถูกตอ้ งของข้อมูลท่ใี ชส้ นบั สนนุ ในเรอื่ งที่อา่ น คัดลายมือตัวบรรจงครึ่งบรรทัด เขียนข้อความโดยใช้ถ้อยคาได้ถูกต้องตามระดับภาษา เขียน ชีวประวัติหรืออัตชีวประวัติโดยเล่าเหตุการณ์ ข้อคิดเห็น และทัศนคติในเรื่องต่างๆ เขียนย่อความเขียนอธิบาย ชแี้ จง แสดงความคิดเห็นและโตแ้ ย้งอย่างมีเหตุผล เขยี นวิเคราะห์ วิจารณ์ และแสดงความรู้ ความคิดเห็น หรือ โต้แย้งในเร่ืองต่างๆ กรอกแบบสมัครงานพร้อมเขียนบรรยายเกี่ยวกับความรู้และทักษะของตนเองท่ีเหมาะสม กบั งาน เขียนรายงานการศกึ ษาค้นคว้า และโครงงาน มีมารยาทในการเขยี น แสดงความคิดเห็นและประเมินเรื่องจากการฟังและการดู วิเคราะห์และวิจารณ์เร่ืองท่ีฟังและดู เพ่ือ นาข้อคิดมาประยุกต์ใช้ในการดาเนนิ ชวี ิต พูดรายงานเรื่องหรือประเดน็ ท่ีศึกษาค้นคว้าจากการฟัง การดู และ การสนทนา พูดในโอกาสต่างๆ ได้ตรงตามวัตถุประสงค์ พูดโน้มน้าวโดยนาเสนอหลักฐานตามลาดับเน้ือหา อยา่ งมีเหตผุ ลและนา่ เชอื่ ถือ มมี ารยาทในการฟงั การดู และการพดู จาแนกและใช้คาภาษาต่างประเทศท่ีใช้ในภาษาไทย วิเคราะห์โครงสร้างประโยคซับซ้อนวิเคราะห์ ระดับภาษา อธิบายความหมายคาศัพท์ทางวิชาการและวิชาชีพ อธิบายความหมายคาศัพท์ทางวิชาการและ วชิ าชีพ แต่งบทร้อยกรองประเภทกลอนสุภาพ สรุปเนื้อหาวรรณคดี วรรณกรรมและวรรณกรรมท้องถิ่นในระดับที่ยากยิ่งขึ้น วิเคราะห์วิถีไทยและ คุณค่าจากวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอ่าน สรุปความรู้และข้อคิดจากการอ่าน เพ่ือนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ทอ่ งจาและบอกคณุ คา่ บทอาขยานตามท่กี าหนด และบทรอ้ ยกรองท่ีมคี ุณคา่ ตามความสนใจและนาไปใช้อา้ งองิ โดยใช้กระบวนการอ่าน การเขยี น การดู การพดู และนาไปใช้ในชีวติ ประจาวัน มนี สิ ัยรกั การอา่ น มีมารยาทในการอ่าน เขียน ฟัง ดู พูด มีวนิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ มุง่ มน่ั ในการทางาน รักความ เป็นไทย และเหน็ คณุ ค่าวรรณคดีและวรรณกรรม ตวั ช้ีวดั ท ๑.๑ ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓, ม.๓/๔, ม.๓/๕, ม.๓/๖, ม.๓/๗, ม.๓/๘, ม.๓/๙, ม.๓/๑๐ ท ๒.๑ ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓, ม.๓/๔, ม.๓/๖, ม.๓/๗, ม.๓/๘ ท ๒.๑ ม.๓/๙, ม.๓/๑๐ ท ๓.๑ ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓, ม.๓/๔ ม.๓/๕, ม.๓/๖ ท ๔.๑ ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓, ม.๓/๔ ม.๓/๕, ม.๓/๖ ท ๕.๑ ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓, ม.๓/๔ รวมท้ังหมด ๓๕ ตัวชีว้ ดั
คาอธบิ ายรายวชิ า ท23๑๐2 ภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 6๐ ชวั่ โมง / ภาคเรียน จานวน ๑.5 หนว่ ยกติ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- อ่านออกเสียงบทร้อยแก้ว และ บทร้อยกรองได้ถูกต้องและเหมาะสมกับเร่ืองที่อ่าน ระบุ ความแตกต่างของคาท่ีมีความหมายโดยตรงและความหมายโดยนัยระบุใจความสาคัญและรายละเอียดของ ข้อมูลที่สนับสนุนจากเร่ืองที่อ่าน อ่านเร่ืองต่างๆ แล้วเขียนกรอบแนวคิด ผังความคิด บันทึกย่อความและ รายงานวิเคราะห์ วิจารณ์ และประเมินเรื่องที่อ่านโดยใช้กลวิธีการเปรียบเทียบเพ่ือให้ผู้อ่านเข้าใจได้ดีข้ึน ประเมินความถูกต้องของข้อมูลท่ใี ช้สนบั สนนุ ในเรือ่ งที่อา่ น คัดลายมือตัวบรรจงครึ่งบรรทัด เขียนข้อความโดยใช้ถ้อยคาได้ถูกต้องตามระดับภาษา เขียน ชีวประวัติหรืออัตชีวประวัติโดยเล่าเหตุการณ์ ข้อคิดเห็น และทัศนคติในเรื่องต่างๆ เขียนย่อความเขียนอธิบาย ช้ีแจง แสดงความคิดเห็นและโต้แย้งอย่างมีเหตผุ ล เขยี นวิเคราะห์ วิจารณ์ และแสดงความรู้ ความคดิ เห็น หรือ โต้แย้งในเรื่องต่างๆ กรอกแบบสมัครงานพร้อมเขียนบรรยายเกี่ยวกับความรู้และทักษะของตนเองที่เหมาะสม กับงาน เขียนรายงานการศกึ ษาคน้ คว้า และโครงงาน มีมารยาทในการเขยี น แสดงความคิดเห็นและประเมินเรื่องจากการฟังและการดู วิเคราะห์และวิจารณ์เรื่องท่ีฟังและดู เพ่ือ นาข้อคิดมาประยุกต์ใช้ในการดาเนนิ ชีวิต พูดรายงานเร่ืองหรือประเดน็ ที่ศึกษาค้นควา้ จากการฟัง การดู และ การสนทนา พูดในโอกาสต่างๆ ได้ตรงตามวัตถุประสงค์ พูดโน้มน้าวโดยนาเสนอหลักฐานตามลาดับเนื้อหา อย่างมีเหตุผลและน่าเช่ือถอื มมี ารยาทในการฟงั การดู และการพดู จาแนกและใช้คาภาษาต่างประเทศท่ีใช้ในภาษาไทย วิเคราะห์โครงสร้างประโยคซับซ้อนวิเคราะห์ ระดับภาษา อธิบายความหมายคาศัพท์ทางวิชาการและวิชาชีพ อธิบายความหมายคาศัพท์ทางวิชาการและ วิชาชีพ แตง่ บทรอ้ ยกรองประเภทกลอนสุภาพ สรุปเนื้อหาวรรณคดี วรรณกรรมและวรรณกรรมท้องถ่ินในระดับที่ยากยิ่งข้ึน วิเคราะห์วิถีไทยและ คุณค่าจากวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน สรุปความรู้และข้อคิดจากการอ่าน เพื่อนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ทอ่ งจาและบอกคุณค่าบทอาขยานตามที่กาหนด และบทรอ้ ยกรองท่มี ีคุณคา่ ตามความสนใจและนาไปใชอ้ า้ งองิ โดยใชก้ ระบวนการอา่ น การเขียน การดู การพูดและนาไปใช้ในชวี ิตประจาวัน มีนิสัยรักการอ่าน มีมารยาทในการอ่าน เขียน ฟัง ดู พูด มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน รักความเป็นไทย และเห็นคณุ ค่าวรรณคดแี ละวรรณกรรม ตัวชว้ี ัด ท ๑.๑ ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓, ม.๓/๔, ม.๓/๕, ม.๓/๖, ม.๓/๗, ม.๓/๘, ม.๓/๙, ม.๓/๑๐ ท ๒.๑ ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓, ม.๓/๖, ม.๓/๗, ม.๓/๘, ม.๓/๙, ม.๓/๑๐ ท ๓.๑ ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓, ม.๓/๔, ม.๓/๕, ม.๓/๖ ท ๔.๑ ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓, ม.๓/๔, ม.๓/๕, ม.๓/๖ ท ๕.๑ ม.๓/๑, ม.๓/๒, ม.๓/๓, ม.๓/๔ รวมทั้งหมด ๓๕ ตัวชว้ี ดั
คาอธิบายรายวิชา ท๓๑๑๐๑ ภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๔ ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง / ภาคเรยี น จานวน ๑ หนว่ ยกิต ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาหลักการอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและร้อยกรองได้ถูกต้องและเข้าใจ ตีความ แปลความขยาย ความเรื่องท่ีอ่านได้ วิเคราะห์วิจารณ์เรื่องที่อ่าน ตอบคาถาม แสดงความความคิด โต้แย้ง และเสนอความคิด ใหมจ่ ากการอา่ นอยา่ งมีเหตผุ ล มีมารยาทและมีนสิ ยั รักการอา่ น ฝึกเขียนสื่อสารในรูปแบบต่างๆ โดยใช้ภาษาได้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ ย่อความจากส่ือที่มีรูปแบบ และเนื้อหาสาระที่หลากหลาย เรียงความแสดงความความคิดเชิงสร้างสรรค์โดยใช้โวหารต่างๆ มีมารยาทใน การเขียน ตั้งคาถามและแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับเร่ืองที่ฟังและดู มีวิจารณญาณในการเลือกเรื่องท่ีฟังและดู วิเคราะห์วัตถุประสงค์ แนวคิด การใช้ภาษา ความน่าเช่ือถือของเรื่องท่ีฟังและดู รวมท้ังมีมารยาทในการฟัง การดู และการพดู ใช้คาและกลุ่มคา สร้างประโยคได้ตรงตามวัตถุประสงค์ แตง่ คาประพนั ธ์ วเิ คราะหห์ ลกั การสร้างคาใน ภาษาไทยและภาษาถิน่ วเิ คราะหแ์ ละประเมินการใชภ้ าษาจากสื่อสิ่งพิมพแ์ ละสื่ออีเล็กทรอนกิ ส์ วิเคราะห์วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมตามหลักการวิจารณ์วรรณคดีเบ้ืองต้น รู้และเข้าใจลักษณะ เด่นของวรรณคดี เช่ือมโยงกับการเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์และวิถีไทย ประเมินค่าด้านวรรณศิลป์ ด้านสังคม และวัฒนธรรม ทอ่ งจาบทอาขยานและนาขอ้ คดิ จากวรรณคดีและวรรณกรรมไปประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ิตจริง ตัวชวี้ ัด ท ๑.๑ ม.4-6/๑, ม.4-6/๒, ม.4-6/๓, ม.4-6/๕, ม.4-6/๖, ม.4-6/๗, ม.4-6/๙ ท ๒.๑ ม.4-6/๑, ม.4-6/๓, ม.4-6/๕, ม.4-6/๘ ท ๓.๑ ม.4-6/๑, ม.4-6/๒, ม.4-6/๓, ม.4-6/๔, ม.4-6/๖ ท ๔.๑ ม.4-6/๑, ม.4-6/๔, ม.4-6/๕, ม.4-6/๗ ท ๕.๑ ม.4-6/๑, ม.4-6/๒, ม.4-6/๓, ม.4-6/๔, ม.4-6/๖ รวมทัง้ หมด ๒๕ ตวั ชว้ี ดั
คาอธบิ ายรายวชิ า ท๓๑๑๐๒ ภาษาไทย กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๔ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง/ภาคเรียน จานวน ๑ หน่วยกิต ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ฝึกอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและร้อยกรองได้ถูกต้อง เขียนกรอบแนวคิดผังความคิด บันทึกย่อความ และเขียนรายงานจากส่ิงที่อ่าน สังเคราะห์ ประเมินค่า และนาความรู้ความคิดจากการอ่านมาพัฒนาตนเอง พัฒนาการเรียนและพัฒนาความรู้ทางอาชีพ และนาความรู้ความคิดไปประยุกต์ใช้แก้ปัญหาในการดาเนินชวี ติ มมี ารยาทและมนี ิสยั รักการอา่ น ฝึกเขียนสื่อสารในรูปแบบต่างๆ โดยใช้ภาษาได้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ เขียนบันทึก รายงาน การศึกษาค้นคว้าตามหลักการเขียนเชิงวิชาการ ใช้ข้อมูลสารสนเทศในการอ้างอิง รวมทั้งประเมินงานเขียน ของผู้อ่นื และนามาพฒั นางานเขียนของตนเอง และมมี ารยาทในการเขยี น ตั้งคาถามและแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับเรื่องที่ฟังและดู มีวิจารณญาณในการเลือกเร่ืองท่ีฟังและดู วิเคราะห์วัตถุประสงค์ แนวคิด การใช้ภาษา ความน่าเช่ือถือของเร่ืองท่ีฟังและดู ประเมินสิ่งท่ีฟังและดูและ นาไปประยุกต์ใช้ในการดาเนินชีวิต มีทักษะในการพูดในโอกาสต่างๆ ท้ังท่ีเป็นทางการไม่เป็นทางการโดยใช้ ภาษาที่ถูกต้อง พูดแสดงทรรศนะโต้แย้ง โน้มน้าวและเสนอแนวคิดใหม่อย่างมีเหตุผล รวมท้ังมีมารยาทในการ ฟัง การดู และการพดู เข้าใจและแต่งคาประพันธ์ ใช้ภาษาได้เหมาะสมกับกาลเทศะ วิเคราะห์และประเมินการใช้ภาษาจาก สื่อส่ิงพิมพแ์ ละสือ่ อีเลก็ ทรอนกิ ส์ วิเคราะห์วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมตามหลักการวิจารณ์วรรณคดีเบื้องต้น รู้และเข้าใจลักษณะ เด่นของวรรณคดี เชื่อมโยงกับการเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์และวิถีไทย ประเมินค่าด้านวรรณศิลป์ ด้านสังคม และวัฒนธรรม ท่องจาและนาขอ้ คดิ จากวรรณคดแี ละวรรณกรรมไปประยุกต์ใชใ้ นชวี ิตจริง ตวั ช้วี ัด ท ๑.๑ ม.4-6/๑, ม.4-6/๒, ม.4-6/๕, ม.4-6/๖, ม.4-6/๗, ม.4-6/๘, ม.4-6/๙ ท ๒.๑ ม.4-6/๑, ม.4-6/๒, ม.4-6/๓, ม.4-6/๕, ม.4-6/๖, ม.4-6/๗, ม.4-6/๘ ท ๓.๑ ม.4-6/๑, ม.4-6/๒, ม.4-6/๓, ม.4-6/๕, ม.4-6/๖ ท ๔.๑ ม.4-6/๒, ม.4-6/๔, ม.4-6/๖ ท ๕.๑ ม.4-6/๑, ม.4-6/๒, ม.4-6/๓, ม.4-6/๖ รวมท้งั หมด ๒๖ ตวั ชว้ี ดั
คาอธิบายรายวชิ า ท๓๒๑๐๑ ภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๕ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง/ภาคเรียน จานวน ๑ หนว่ ยกิต ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาหลักการอา่ นออกเสียงร้อยแก้ว รอ้ ยกรอง การอา่ นเพือ่ วิเคราะห์วิจารณ์ การอ่านอย่างมี วิจารณญาณ การเขียนเรียงความ การเขียนเชิงวิชาการ การเขียนสารคดี และการประเมินคุณค่างานเขยี น การเลือกเรอ่ื งทีฟ่ งั และพูดอย่างมีวิจารณญาณ และพดู โน้มน้าวใจไดอ้ ยา่ งมีศลิ ปะ อธิบายลักษณะของภาษา ประโยค เปรียบเทียบและอธิบายเกี่ยวกับความคิดกับภาษา วฒั นธรรมกับภาษา และแต่งรอ้ ยกรองประเภทรา่ ยและฉันท์ได้อย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิจารณ์ และสังเคราะห์ข้อคิดจากวรรณคดีและวรรณกรรม ท่องจาบทอาขยานท่ี กาหนดและบทรอ้ ยกรองท่ีมีคุณค่าตามความสนใจและเห็นคุณค่าและความงามทางภาษา โดยใช้กระบวนการ อ่าน กระบวนการเขียน กระบวนการฟัง การดู และการพูดอย่างสร้างสรรค์ ใช้กระบวนการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์วรรณคดีและวรรณกรรมอย่างสร้างสรรค์ เพื่อนาความรู้ ความคิดไปประกอบในการตัดสินใจ แกป้ ญั หาในการดารงชีวติ ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง เหมาะสม และมวี ิจารณญาณ เข้าใจธรรมชาติและพลังของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และสามารถแสดงความคิดเห็น วิเคราะห์ วจิ ารณ์ และสงั เคราะห์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเหน็ คณุ คา่ และนามาประยกุ ตใ์ ช้ในชีวิต จริง ดารงรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ และสร้างนิสัยรกั การอ่าน การเขียน ตระหนักถึงมารยาทที่ ดใี นการอา่ น การเขียน การฟงั การดู และการพดู ตัวช้วี ดั ท ๑.๑ ม.4-6/๑, ม.4-6/๒, ม.4-6/๓, ม.4-6/๔, ม.4-6/๕, ม.4-6/๖, ม.4-6/๙ ท ๒.๑ ม.4-6/๑, ม.4-6/๒, ม.4-6/๔, ม.4-6/๘ ท ๓.๑ ม.4-6/๑, ม.4-6/๒, ม.4-6/๕, ม.4-6/๖ ท ๔.๑ ม.4-6/๑, ม.4-6/๒, ม.4-6/๔, ม.4-6/๕, ม.4-6/๖ ท ๕.๑ ม.4-6/๓, ม.4-6/๔, ม.4-6/๖ รวม ๒๓ ตวั ช้ีวัด
คาอธบิ ายรายวชิ า ท๓๒๑๐๒ ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี ๕ ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ภาคเรยี น จานวน ๑ หน่วยกติ --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาหลกั การอา่ นออกเสียงร้อยแกว้ รอ้ ยกรอง การอา่ นเพื่อวิเคราะห์วิจารณ์ การอา่ นอย่างมี วิจารณญาณ การเขียนเรียงความ การเขียนเชิงวิชาการ การเขียนสารคดี และการประเมินคุณค่างานเขียน การเลอื กเรื่องทีฟ่ งั และพูดอย่างมีวิจารณญาณ และพูดโนม้ นา้ วใจได้อย่างมศี ิลปะ อธิบายลักษณะของภาษา ประโยค เปรียบเทียบและอธิบายเกี่ยวกับความคิดกับภาษา วัฒนธรรมกบั ภาษา และแต่งรอ้ ยกรองประเภทร่ายและฉนั ท์ได้อยา่ งสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิจารณ์ และสังเคราะห์ข้อคิดจากวรรณคดีและวรรณกรรม ท่องจาบทอาขยานท่ี กาหนดและบทร้อยกรองที่มีคณุ คา่ ตามความสนใจและเหน็ คุณค่าและความงามทางภาษา โดยใชก้ ระบวนการ อ่าน กระบวนการเขียน กระบวนการฟัง การดู และการพูดอย่างสร้างสรรค์ ใช้กระบวนการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์วรรณคดีและวรรณกรรมอย่างสร้างสรรค์ เพ่ือนาความรู้ ความคิดไปประกอบในการตัดสินใจ แก้ปญั หาในการดารงชีวิตได้อย่างถูกตอ้ ง เหมาะสม และมีวจิ ารณญาณ เข้าใจธรรมชาติของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และสามารถแสดงความคิดเห็นวิเคราะห์ วจิ ารณ์ และสงั เคราะหว์ รรณคดีและวรรณกรรมไทยอยา่ งเห็นคณุ คา่ และนามาประยุกตใ์ ช้ในชีวิตจรงิ ดารง รักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ และสร้างนิสัยรักการอ่าน การเขียน ตระหนักถึงมารยาทที่ดีในการ อ่าน การเขียน การฟัง การดู และการพูด ตัวชว้ี ดั ท ๑.๑ ม.4-6/๑, ม.4-6/๒, ม.4-6/๓, ม.4-6/๕, ม.4-6/๖, ม.4-6/๙ ท ๒.๑ ม.4-6/๑, ม.4-6/๔, ม.4-6/๕, ม.4-6/๘ ท ๓.๑ ม.4-6/๑, ม.4-6/๒, ม.4-6/๓, ม.4-6/๔, ม.4-6/๕, ม.4-6/๖ ท ๔.๑ ม.4-6/๒, ม.4-6/๓, ม.4-6/๔, ม.4-6/๕, ม.4-6/๖ ท ๕.๑ ม.4-6/๑, ม.4-6/๒, ม.4-6/๓, ม.4-6/๔, ม.4-6/๕, ม.4-6/๖ รวม ๒๗ ตัวชวี้ ดั
คาอธบิ ายรายวิชา ท๓๓๑๐๑ ภาษาไทย กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี ๖ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ภาคเรียน จานวน ๑ หนว่ ยกิต --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ฝึกอ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแก้วและบทรอ้ ยกรองได้อย่างถูกต้อง ไพเราะและเหมาะสมกับเรือ่ งทอ่ี ่าน ตีความ แปลความ ขยายความ วิเคราะห์และวิจารณ์เร่ืองท่ีอ่านในทุกๆ ด้านอย่างมีเหตุผล คาดคะเน เหตุการณจ์ ากเรอื่ งทอี่ ่านแลว้ ประเมนิ ค่าเพ่ือนาความรู้ ความคดิ ไปใชต่ ดั สนิ ใจแกป้ ญั หาในการดาเนนิ ชวี ิต วิเคราะห์ วิจารณ์ แสดงความคิดเห็นโต้แย้งกับเรื่องท่ีอ่าน รวมทั้งเสนอความคิดใหม่และตอบคาถาม อย่างมีเหตุผล สงั เคราะห์ความรู้จากการอ่านสื่อสิง่ พิมพ์ ส่อื อิเล็กทรอนิกส์และแหลง่ เรียนร้ตู ่างๆ มาพฒั นาตน พฒั นาการเรียน และพฒั นาความรทู้ างอาชีพและมีมารยาทในการอา่ น ฝึกเขียนสอ่ื สารในรูปแบบตา่ งๆ เช่น ยอ่ ความ งานเขยี น ไดต้ รงตามวัตถปุ ระสงค์ โดยใช้ภาษา เรียบเรียงถูกต้อง มีข้อมูลและสาระสาคัญชัดเจน รูปแบบและเนื้อหาหลากหลาย ประเมินงานเขียนของผู้อื่น แล้วนามาพัฒนางานเขียนของตนเอง บันทึกการศึกษาค้นควา้ เพื่อนามาเขียนรายงานการศึกษาค้นคว้าในเร่อื ง ท่ีสนใจตามหลักการเขียงเชิงวิชาการและใช้ข้อมูลสารสนเทศอ้างอิงอย่างถูกต้องพร้อมทั้งมีมารยาท ในการ เขียน ฝกึ วเิ คราะห์ สรปุ แนวคดิ การใชภ้ าษา ความนา่ เชื่อถือและแสดงความคดิ เห็นจากเร่อื งทฟ่ี ังและดู อยา่ งมีเหตผุ ล ฝกึ แต่งบทร้อยกรองประเภทโคลงและฉันท์ ฝึกวิเคราะห์วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมตามหลักการวิจารณ์เบื้องต้น เพื่อเช่ือมโยงกับการ เรียนรู้ทางประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตของสังคมในอดีต ประเมินคุณค่าด้านวรรณศิลป์ ข้อคิดของวรรณคดีและ วรรณกรรมในฐานะท่ีเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติและวรรณกรรมเพ่ือนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง รวบรวมวรรณกรรมพ้ืนบ้านและอธิบายภูมิปัญญาทางภาษา ท่องจาบทประพันธ์ท่ีมีคุณค่าตามที่กาหนดและ บทร้อยกรองท่ีมีคุณค่าตามความสนใจและนาไปใช้อ้างอิงและนาไปใช้อ้างอิงได้มีมารยาทในการใช้ภาษาและมี นิสัยรักการอ่าน การเขยี น ตวั ช้ีวดั ท ๑.๑ ม.4-6/๑, ม.4-6/๒, ม.4-6/๓, ม.4-6/4, ม.4-6/๕, ม.4-6/๖, ม.4-6/8, ม.4-6/๙ ท ๒.๑ ม.4-6/๑, ม.4-6/3, ม.4-6/4, ม.4-6/5, ม.4-6/6, ม.4-6/7, ม.4-6/8 ท ๓.๑ ม.4-6/๑, ม.4-6/๒ ท ๔.๑ ม.4-6/๔ ท ๕.๑ ม.4-6/๑, ม.4-6/๒, ม.4-6/๓, ม.4-6/๔, ม.4-6/๕, ม.4-6/๖ รวม ๒๔ ตัวชี้วัด
คาอธบิ ายรายวชิ า ท๓๓๑๐๒ ภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๖ ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ภาคเรียน จานวน ๑ หนว่ ยกติ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ฝึกอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้อย่างถูกต้อง ไพเราะและเหมาะสมกับเร่ือง ท่ีอ่าน ตีความ แปลความ ขยายความ วิเคราะห์และวิจารณ์เรื่องที่อ่านในทุกๆ ด้านอย่างมีเหตุผล คาดคะเน เหตกุ ารณ์จากเรื่องที่อ่านแลว้ ประเมนิ ค่าเพ่ือนาความรู้ ความคดิ ไปใชต่ ัดสนิ ใจแก้ปัญหาในการดาเนินชีวิต วิเคราะห์ วิจารณ์ แสดงความคิดเห็นโต้แย้งกับเร่ืองที่อ่าน รวมทั้งเสนอความคิดใหม่และตอบคาถาม อยา่ งมีเหตุผล สงั เคราะหค์ วามรู้จากการอ่านส่ือสงิ่ พิมพ์ สื่ออเิ ลก็ ทรอนิกส์และแหล่งเรียนรตู้ ่างๆ มาพฒั นาตน พัฒนาการเรียน และพัฒนาความรทู้ างอาชีพและมมี ารยาทในการอา่ น ฝึกเขียนส่ือสารในรูปแบบต่างๆ เช่น เรียงความ ย่อความ งานเขียน ได้ตรงตามวัตถุประสงค์ โดยใช้ ภาษา เรียบเรียงถูกตอ้ ง มีขอ้ มูลและสาระสาคญั ชดั เจน รปู แบบและเนอื้ หาหลากหลาย ประเมิน งานเขยี นของ ผอู้ นื่ แล้วนามาพฒั นางานเขียนของตนเองพร้อมท้งั มีมารยาทในการเขียน ฝึกวิเคราะห์ ประเมิน สรุปแนวคิด การใช้ภาษา ความน่าเช่ือถือและแสดงความคิดเห็นจากเรื่องท่ีฟัง และดู อย่างมีเหตุผล เพ่ือนาแนวทางไปประยุกต์ใช้ในการดาเนินชีวิต พูดในโอกาสต่างๆ พูดแสดงทรรศนะ โต้แย้ง โน้มน้าวใจและเสนอแนวคิดใหม่ ด้วยภาษาถูกต้องเหมาะสมพร้อมทั้งมีมารยาทในการฟัง การดูและ การพูด อธิบายธรรมชาติของภาษา ใช้คาและกลุ่มคาสร้างประโยคตรงตามวัตถุประสงค์ ใช้ภาษาเหมาะสม แก่โอกาส กาลเทศะและบุคคล รวมทั้งใช้คาราชาศัพท์ให้ถูกต้อง วิเคราะห์อิทธิพลของภาษาต่างประเทศและ ภาษาถิน่ วิเคราะห์และประเมนิ การใชภ้ าษาจากสือ่ ส่ิงพมิ พแ์ ละสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ท่องจาบทประพันธ์ที่มีคุณค่าตามความสนใจและนาไปใช้อ้างอิงได้ มีมารยาทในการใช้ภาษาและมี นิสยั รักการอา่ น การเขียน ตวั ชี้วัด ท ๑.๑ ม.4-6/๑, ม.4-6/๒, ม.4-6/๓, ม.4-6/4, ม.4-6/๕, ม.4-6/๖, ม.4-6/8, ม.4-6/๙ ท ๒.๑ ม.4-6/๑, ม.4-6/2, ม.4-6/3, ม.4-6/5, ม.4-6/6 ท ๓.๑ ม.4-6/๑, ม.4-6/๒, ม.4-6/3, ม.4-6/4, ม.4-6/5, ม.4-6/6 ท ๔.๑ ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3, ม.4-6/5, ม.4-6/7 ท ๕.๑ ม.4-6/6 รวม ๒๕ ตัวช้ีวัด
คาอธิบายรายวิชา ท21202 นิทานพืน้ บ้าน 1 กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา ๔๐ ช่ัวโมง/ภาคเรยี น จานวน ๑ หนว่ ยกติ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษานิทาน นยิ าย หรอื ตานานพ้ืนบ้านที่มีอยู่ในท้องถนิ่ ของตน หรือทอ้ งถ่นิ อ่ืน โดยใหศ้ กึ ษาเก่ียวกับ เน้ือเรอ่ื ง สานวนภาษา และแนวคิดทส่ี ะท้อนให้เห็นความเชื่อ ความร้สู กึ นกึ คิด หรอื ค่านิยม ความเป็นอยู่ และขนบธรรมเนยี มประเพณขี องสงั คม เพื่อใหม้ ีความรคู้ วามเขา้ ใจ และเหน็ คุณค่าของวรรณกรรมพนื้ บา้ น ผลการเรียนรู้ ๑. บอกความหมายของนิทานพื้นบ้าน ๒. บอกทม่ี าของนิทานพื้นบ้าน ๓. บอกประเภทของนิทานพ้ืนบา้ น ๔. สรุปเน้ือหาของนิทานพ้ืนบ้าน ๕. วเิ คราะหส์ านวนภาษาทีใ่ ชใ้ น นทิ านพืน้ บา้ น ๖. วิเคราะหอ์ ิทธิพลของนิทานพ้นื บา้ นต่อการดารงชวี ิต ๗. บอกคณุ คา่ ของนิทานพ้ืนบ้าน ๘. สบื คน้ นทิ านพ้ืนบ้านจังหวัดลพบุรี รวม ๘ ข้อ
คาอธิบายรายวชิ า ท21204 นิทานพืน้ บ้าน 2 กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 1 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา ๔๐ ช่ัวโมง/ภาคเรยี น จานวน ๑ หน่วยกติ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษานิทาน นิยาย หรอื ตานานพื้นบ้านที่มีอยู่ในท้องถ่ินของตน หรือทอ้ งถน่ิ อื่น โดยให้ศกึ ษาเกี่ยวกับ เนื้อเรื่อง สานวนภาษา และแนวคิดที่สะท้อนให้เห็นความเชื่อ ความรู้สึกนึกคิด หรือค่านิยม ความเป็นอยู่ และขนบธรรมเนียมประเพณขี องสังคม เพื่อให้มีความรคู้ วามเข้าใจ และเห็นคุณค่าของวรรณกรรมพน้ื บ้าน ผลการเรยี นรู้ ๑. บอกความหมายของนิทานพน้ื บา้ น ๒. อธบิ ายทม่ี าของนทิ านพน้ื บา้ น ๓. บอกประเภทของนิทานพื้นบา้ น ๔. วเิ คราะห์ เนอ้ื หาของนิทานพ้นื บา้ น ๕. สรปุ สานวนภาษาทใี่ ช้ใน นทิ านพน้ื บ้าน ๖. อธิบายอิทธิพลของนทิ านพ้นื บา้ นต่อการดารงชีวิต ๗. อภปิ รายคณุ คา่ ของนิทานพ้นื บ้าน ๘. เล่านิทานพน้ื บา้ น ๔ ภาคได้อย่างนอ้ ย ๔ เรอ่ื ง รวม ๘ ขอ้
คาอธิบายรายวชิ า ท21205 การใช้ห้องสมดุ เบ้อื งตน้ 1 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ภาคเรียน จานวน ๑ หนว่ ยกติ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาหาความรจู้ ากหนงั สือและส่อื อ่ืนๆ ในห้องสมดุ รู้จักใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือสืบคข้ ้อมูล ขา่ วสาร ความรู้ รู้จกั เลอื กใช้วัสดุสารนิเทศประเภทต่างๆ เพ่ือเชื่อมโยงการใชป้ ระโยชนใ์ นการศกึ ษาค้นควา้ กบั ศาสตรใ์ น กลุ่มสาระการเรยี นรู้อน่ื ตามความสนใจของผเู้ รียนเพือ่ การเรียนรู้ ตามความถนัด ความสนใจ และความสามารถ ของตน มจี ิตสานกึ ท่ีดี มีคุณธรรม และมารยาทในการใชห้ อ้ งสมุด เหน็ ความสาคญั ของการอ่าน รักการอ่าน รจู้ ักศกึ ษาค้นคว้าดว้ ยตนเอง ใฝ่รู้ ใฝ่เรยี น มุง่ มั่นในการ ทางาน และสามารถนาความรูไ้ ปพฒั นาตนเอง และใช้เปน็ พ้นื ฐานในการศึกษาต่อได้ ผลการเรยี นรู้ ๑. ใชห้ ้องสมดุ และแหล่งการเรียนรเู้ พ่อื การศึกษาค้นควา้ ได้ดว้ ยตนเอง ๒. ใช้เวลาว่างใหเ้ กิดประโยชน์ ใฝ่เรยี นใฝ่รู้ และมนี สิ ัยรกั การอ่าน ๓. ปฏบิ ัตติ นตามระเบียบและมีมารยาท มีคุณธรรมในการใช้ห้องสมุด และแหล่งการเรียนรู้อืน่ ๆได้อย่าง มีประสิทธิภาพ ๔. มีความรู้เรื่องบริการยืม - คนื หนังสือและสื่ออ่ืนในห้องสมุด ๕. ปฏบิ ัติ ตนตามระเบียบการยืม - คืน และส่ิงอน่ื ในห้องสมุด ๖. มคี วามรู้เก่ียวกับวัสดสุ ารนิเทศทัง้ ทเี่ ป็นวสั ดตุ ีพมิ พ์ วสั ดไุ ม่ตพี มิ พ์ และ ทรพั ยากรสารสนเทศ ๗. ร้วู ธิ ีการจัดเกบ็ และการเขา้ ถึงวสั ดุสารนิเทศ และการใชป้ ระโยชน์ ๘. นักเรียนตระหนักถึงความสาคัญของหนังสอื ๙. วิเคราะห์สว่ นตา่ งๆ ของหนังสือและนามาใช้
คาอธบิ ายรายวชิ า ท21206 การใชห้ ้องสมุดเบอ้ื งตน้ 2 กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ภาคเรียน จานวน ๑ หนว่ ยกิต ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- รายวชิ าหอ้ งสมุดและการคน้ ควา้ เปน็ รายวชิ าทชี่ ว่ ยให้ผเู้ รยี นมคี วามรู้ ความเข้าใจ มีทักษะพน้ื ฐานที่ จาเปน็ ตอ่ การดารงชีวติ และรู้เท่าทันการเปล่ยี นแปลง สามารถนาความรเู้ กย่ี วการใช้บริการห้องสมุด การใช้ แหล่งเรยี นรูต้ ่างๆ การใช้สารสนเทศต่างๆ มาใชป้ ระโยชน์ในการดารงชวี ิตประจาวัน การทางาน อย่างมี ความคิดสรา้ งสรรค์ และแข่งขันในสังคมไทยและสากล รกั การทางาน และมีเจตคติทดี่ ตี ่อการทางาน สามารถ ดารงชวี ิตอยู่ในสงั คมได้อย่างพอเพยี งและมคี วามสขุ ผลการเรยี นรู้ ๑. สืบคน้ ข้อมลู สารวจและนาเสนอแหลง่ สารสนเทศ ๒. อธบิ ายแหลง่ จดั เก็บและให้บรกิ ารสารสนเทศได้ ๓. บอกประเภท บทบาทและหน้าทข่ี องแหล่งบริการสารสนเทศ ๔. บอกความหมายและประโยชน์ของจัดหมหู่ นังสือ ๕. อธบิ ายความหมาย ความสาคญั วตั ถุประสงค์ ประเภท และบริการของห้องสมดุ ได้ ๖. บอกความหมาย จาแนกประเภท และเขยี นสรปุ เกย่ี วกับทรพั ยากรสารสนเทศ ๗. บอกความหมาย ประเภท ลกั ษณะ และวธิ ีใชห้ นังสืออ้างอิง รวมทงั้ สืบค้นข้อมลู จากหนงั สอื อ้างอิงได้ ๘. อธบิ ายเก่ยี วกบั การจัดหมู่ระบบทศนยิ มดวิ อ้ี เลขหมู่หนงั สือ เลขเรยี กหนังสือ และการจัดเรยี งหนังสอื บนช้นั ได้ ๙. เลือกใช้สารสนเทศจัดทารายงานอย่างเปน็ กระบวนการและนาไปใช้ประโยชน์ ในชวี ิตประจาวัน
คาอธบิ ายรายวิชา I20201 การศึกษาคน้ คว้าและสรา้ งองคค์ วามรู้ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา ๔๐ ช่ัวโมง/ภาคเรียน จานวน ๑.๐ หน่วยกติ -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษา วิเคราะห์ ฝกึ ทักษะตัง้ ประเด็นปัญหา/ต้ังคาถามในเร่ืองท่ีสนใจโดยเริ่มจากตนเอง เชอ่ื มโยงกับ ชมุ ชน ท้องถน่ิ และประเทศ ต้ังสมมตฐิ านและใหเ้ หตผุ ลโดยใชค้ วามรจู้ ากศาสตร์สาขาต่างๆค้นคว้าแสวงหา ความรเู้ กี่ยวกบั สมมตฐิ านที่ตั้งใจไวจ้ ากแหลง่ เรยี นรู้ทีห่ ลากหลาย ออกแบบวางแผนรวบรวมข้อมูล วเิ คราะห์ ขอ้ มลู โดยใชว้ ิธีการท่เี หมาะสม ทางานบรรลุผลตามเปา้ หมายในกรอบการดาเนนิ งานท่ีกาหนด โดยการกากบั ดูแล ชว่ ยเหลือของครูอยา่ งต่อเนอ่ื ง สังเคราะห์สรุปองคป์ ระกอบความรู้และรว่ มกนั เสนอแนวคิด วิธีการ แก้ปญั หาอยา่ งเปน็ ระบบ ดว้ ยกระบวนการคดิ กระบวนการสบื ค้นขอ้ มูล กระบวนการแกป้ ญั หา กระบวนการ ปฏิบัตแิ ละกระบวนการกลุ่มในการวิพากษ์เพ่ือให้เกดิ ทักษะในการค้นคว้าแสวงหาความรู้ เปรยี บเทียบ เช่ือมโยงองค์ความรู้ สังเคราะห์ อภิปราย เพ่อื ให้ประโยชนแ์ ละคณุ ค่าของการศึกษาคน้ ควา้ ด้วยตนเอง ผลการเรียนรู้ ๑. ต้ังประเดน็ ปัญหา โดยเลือกประเด็นทีส่ นใจ เร่ิมจากตนเอง ชมุ ชนท้องถิน่ ประเทศ ๒. ตง้ั สมมตฐิ านประเด็นปญั หาท่ีตนเองสนใจ ๓. ออกแบบ วางแผน ใช้กระบวนการรวบรวมขอ้ มูลอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ ๔. ศึกษาคน้ ควา้ แสวงหาความรู้เกีย่ วกับประเดน็ ทเ่ี ลือก จากแหลง่ เรยี นรู้ท่หี ลากหลาย ๕. ตรวจสอบความนา่ เชื่อถือของแหลง่ ทมี่ าของข้อมูลได้ ๖. วเิ คราะห์ข้อค้นพบด้วยสถติ ทิ ี่เหมาะสม ๗. สงั เคราะหส์ รุปองค์ความรูด้ ว้ ยกระบวนการกล่มุ ๘. เสนอแนวคดิ การแก้ปญั หาอย่างเป็นระบบดว้ ยองค์ความรู้จากการค้นพบ ๙. เห็นประโยชนแ์ ละคณุ คา่ ของการศึกษาค้นควา้ ดว้ ยตนเอง รวม 9 ข้อ
คาอธิบายรายวิชา I20202 การส่ือสารและการนาเสนอ ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา ๔๐ ช่วั โมง/ภาคเรียน จานวน ๑.๐ หน่วยกิต -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษา เรียบเรยี ง และถ่ายทอดความคดิ อย่างชดั เจน เปน็ ระบบจากข้อมลู องค์ความรู้ จากการศึกษา คน้ ควา้ ในรายวิชา การศึกษาคน้ ควา้ และสรา้ งองคค์ วามรู้ ( Research and Knowledge Formation) โดย เขยี นโครงรา่ ง บทนา เนื้อเรื่อง สรุป ในรูปของรายงานเชิง ความยาว 2,500 คา มีการอ้างอิงแหล่งความรทู้ ี่ เชอ่ื ถือได้อย่างหลากหลาย เรียบเรยี งและถ่ายทอด ความคิดอยา่ งชดั เจน เป็นระบบ มีการนาเสนอในรูปแบบ เด่ียว (Oral Individual Presentation) หรอื กลมุ่ (Oral Panel Presentation) โดยใชส้ อ่ื ประกอบที่ หลากหลาย และมีการเผยแพรผ่ ลงานสูส่ าธารณะ เพือ่ ใหเ้ กิดทกั ษะ ในการเขียนรายงานเชิงวิชาการ และ ทกั ษะการสื่อสารท่มี ปี ระสทิ ธิภาพ เห็นประโยชนแ์ ละคุณค่าในการสรา้ งสรรคง์ านและถา่ ยทอดสิ่งทเ่ี รยี นรู้ให้ เปน็ ประโยชนแ์ ก่สาธารณะ ผลการเรียนรู้ 1. วางโครงร่างการเขียนตามหลกั เกณฑ์ องค์ประกอบและวิธีการเขียนโครงรา่ ง 2. เขียนรายงานการศกึ ษาค้นควา้ เชงิ วชิ าการภาษาไทย ความยาว 2,500 คา 3. นาเสนอข้อค้นพบ ข้อสรปุ จากประเด็นทเี่ ลือกในรูปแบบเดยี่ ว (Oral Individual Presentation) หรือกลุ่ม (Oral Panel Presentation) 4. ใชอ้ ปุ กรณ์ในการนาเสนอไดอ้ ย่างเหมาะสม 5. เผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะ 6. เห็นประโยชน์และคณุ คา่ ในการสร้างสรรคง์ าน รวม 6 ข้อ
คาอธิบายรายวิชา ท23203 ส่งเสริมการอ่าน 1 กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา ๔๐ ช่ัวโมง/ภาคเรยี น จานวน ๑ หนว่ ยกิต ศึกษาความหมายของห้องสมุด และแหล่งเรียนรู้อ่ืนๆ สามารถปฏิบัติตนตามระเบียบ มีมารยาทใน การเข้าใชห้ ้องสมดุ รู้จกั การเขา้ ใชบ้ ริการต่างๆ ของห้องสมุดและแหล่งเรยี นรู้ มีความสามารถจดั เก็บสารนิเทศ มคี วามรูเ้ กยี่ วกับวสั ดตุ พี ิมพ์ วัสดไุ ม่ตีพิมพ์ วสั ดอุ เิ ลก็ ทรอนิกส์ ผลการเรียนรู้ 1. นักเรยี นรคู้ วามหมายของหอ้ งสมุดและแหล่งเรยี นร้อู นื่ ๆ ได้ 2. นักเรียนใช้ห้องสมุดโรงเรียนโคกสาโรงวิทยา เพ่ือศึกษาค้นคว้าและสามารถปฏิบัติตามระเบียบ มี มารยาท ในการเข้าใช้หอ้ งสมุด 3. นักเรยี นรู้จักการใชบ้ ริการต่างๆ ของห้องสมุดและแหล่งเรียนรู้ 4. นกั เรยี นสามารถเรียนรวู้ ธิ กี ารจัดเกบ็ สารนิเทศและจดั หมวดหมหู่ นังสอื ไดถ้ กู ต้อง 5. นกั เรียนมคี วามรูเ้ ก่ยี วกบั วัสดตุ พี มิ พ์ วสั ดไุ ม่ตีพิมพ์และวสั ดุอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ รวม 5 ข้อ
คาอธิบายรายวชิ า ท23204 สง่ เสรมิ การอา่ น 2 กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา ๔๐ ช่ัวโมง/ภาคเรยี น จานวน ๑ หนว่ ยกิต ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจ เก่ียวกับ เลขหมู่หนังสือระบบทศนิยของดิวอี้ สามารถค้นหาหนงั สอื เพือ่ ประโยชน์ในการศึกษาค้นคว้า การดูแลรักษาและซ่อมแซมหนังสือ สามารถใช้หนังสืออ้างอิงได้ถูกต้อง สืบค้น ข้อมูลข่าวสารจากเครือข่ายอินเทอร์เน็ต Internet เพ่ือนามาใช้ประโยชน์ในการศึกษาค้นคว้าทารายงานเพ่ือ ประโยชนใ์ นการเรียนระดับทสี่ ูงข้ึน ผลการเรยี นรู้ 1. นักเรียนบอกส่วนตา่ งๆ ของหนงั สอื ได้ 2. นักเรยี นสามารถบอกวธิ กี ารดูแล และรกั ษาหนงั สือตลอดจนวิธีการซ่อมแซมหนงั สือไดถ้ ูกตอ้ ง 3. นักเรยี นบอกประเภทของหนังสอื อ้างองิ ได้และวิธีการใช้หนงั สืออา้ งองิ 4. นักเรยี นมีความรู้เรื่องเกย่ี งกบั การสบื คน้ ข้อมลู จากเครือข่าย Internet ได้ 5. นกั เรยี นสามารถเขยี นรายงานการศึกษาคน้ คว้าจากหนังสือและเครอื ข่ายอนิ เตอรเ์ น็ตได้ รวม 5 ข้อ
คาอธิบายรายวชิ า ท31201 การพดู กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา ๔๐ ช่ัวโมง/ภาคเรียน จานวน ๑ หน่วยกิต --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาหลักการ วิธีการพูดตอ่ ที่ประชมุ ชน แนวทางการพัฒนาสมรรถภาพในการพูด ฝกึ พูดในรูปแบบ ต่างๆ เพ่ือพัฒนาทักษะการพูดของตนเองให้มีประสิทธิภาพอย่างมีหลักเกณฑ์ ได้แก่ การพูด แนะนาตนเอง การสนทนา การบรรยาย การอธบิ าย การอภิปราย และการโตว้ าที มีคุณธรรมและจรรยาบรรณในการพูด ศึกษาหลักการวิเคราะห์ แนวทางการพูดท่ีมีประสิทธิภาพในรูปแบบตา่ งๆ เรียนรู้ศิลปะการพูด การ ใช้ถ้อยคา นา้ เสยี ง และการใช้ทา่ ทางประกอบการพูดตามกาลเทศะ การพดู ในโอกาสต่างๆ ตลอดจนการพูด ในงานอาชีพ ฝึกออกแบบการพูด การวางโครงร่างการพูด และสามารถเตรียมการพูดในสถานการณ์ต่างๆ ได้ อย่างเหมาะสม อันได้แก่ การพูดมารยาททางสังคม การพูดในโอกาสต่างๆ ท้ังแบบที่เป็นทางการและไม่เป็น ทางการ รวมถงึ การพูดเฉพาะอาชพี เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ และมีทักษะในการพูด ตลอดจนเห็นคุณค่าการใช้ภาษาพูดในฐานะ เป็นเครอื่ งมือสื่อสารท่สี าคญั ผลการเรยี นรู้ ๑. อธิบายความหมาย แหล่งกาเนิดเสียงพูด ความสาคัญของการพูด จุดประสงค์ของการพูด องค์ประกอบของการพูด หลักการพดู วธิ กี ารพดู และมารยาทในการพูด ๒. อธิบายรูปแบบการสนทนา การสัมภาษณ์ การพูดที่ประชุมชน การอภิปราย การโต้วาที พร้อม ทั้งจุดมุ่งหมายและวธิ ีการพูด ๓. พูดสรปุ แนวคิดการใช้ภาษาและความนา่ เช่อื ถือจากเร่อื งที่ฟงั และดูอย่างมเี หตุผล ๔. พูดวิเคราะหแ์ นวคิด การใชภ้ าษา และความนา่ เชือ่ ถอื จากเร่ืองทฟ่ี ังและดูอย่างมเี หตผุ ล ๕. พดู ประเมินเร่อื งทฟ่ี งั และดแู ลว้ กาหนดแนวทางนาไปประยุกต์ใชใ้ นการดาเนนิ ชวี ติ ๖. พดู อย่างมีวจิ ารณญาณในเรอ่ื งที่ฟังและดู ๗. พูดในโอกาสต่าง ๆ พูดแสดงทรรศนะโต้แย้ง โน้มน้าวใจ และเสนอแนวคิดใหม่ ด้วยภาษาถูกต้อง เหมาะสม ๘. บอกมารยาทในการพูดไดอ้ ยา่ งชดั เจน 9. วเิ คราะห์องคป์ ระกอบและแนวทางการพเู พือ่ เตรยี มการพดู ได้ 10. เขยี นบทพูดเพอ่ื ใช้พูดในงานอาชพี ต่างๆได้ 11. อธิบายความหมายและความสาคญั ของศาสตร์และศิลปข์ องการพูดได้ 12. วิเคราะห์องค์ประกอบของศาสตรแ์ ละศลิ ป์ของการพูดได้ 13. อธบิ ายความสาคัญของกาลเทศะของการพดู ได้ 14. พดู ในโอกาสพิเศษตา่ งๆทางสังคมได้อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ 15. ตระหนักถงึ การใชถ้ อ้ ยคาให้ถกู ตอ้ งและเหมาะสมแต่ละอาชพี 16. พดู อยา่ งเป็นทางการตามสถานการณต์ า่ งๆ ทีเ่ กิดขน้ึ ในชวี ติ ประจาวันได้ 17. อธบิ ายลกั ษณะการพดู ในแตล่ ะอาชพี ได้ รวม 17 ขอ้
คาอธิบายรายวิชา ท31202 ประวัตวิ รรณคดี 1 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ภาคเรยี น จานวน ๑ หนว่ ยกิต --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาวรรณคดีสมัยสุโขทัย และสมัยอยุธยา เกี่ยวกับประวัติความเป็นมา ประวัติกวีเน้ือหา โดยสังเขป ลักษณะคาประพันธ์ จุดมุ่งหมายท่ีแต่ง และเพ่ือให้รู้ความเป็นมาของวรรณคดีไทย เข้าใจ ความสมั พนั ธต์ อ่ เนื่องระหว่างสมัย เข้าใจคา่ นิยมลกั ษณะชวี ิตของคนในสมัยน้นั ๆ และเห็นคุณค่าของวรรณคดี สาคญั ในฐานะทีเ่ ปน็ มรดกทางวัฒนธรรมของชาติ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้เป็นกลุ่ม ร่วมกันศึกษาค้นคว้าวรรณคดีสาคัญในสมัยสุโขทัยและ สมัยอยุธยา นามารายงาน อภิปราย แสดงความคิดเห็นและวิจารณ์อย่างเห็นคุณค่าและนามาประยุกต์ใช้ใน ชีวติ จริง วัดและประเมินผลโดยการใช้แบบทดสอบ การสงั เกต การซักถาม และการตรวจผลงานของนักเรียน เพ่ือวัดและประเมินผลด้านความรู้ ความเข้าใจ ความคิด ทักษะการทางาน ความรับผิดชอบ ความสนใจ ขอ้ คดิ เห็น ความตง้ั ใจในการเรียน และการนาไปใช้ ผลการเรียนรู้ ๑. อธิบายความหมายของคาว่า วรรณคดี วรรณกรรม และสามารถจัดประเภทของวรรณคดีตาม เกณฑต์ า่ งๆ ได้ ๒. อธบิ ายวิวฒั นาการของวรรณคดี คุณคา่ และประโยชน์ของการเรียนวรรณคดไี ด้ ๓. บอกประวัติและผลงานของกวี ตลอดจนสรุปข้อสันนิษฐานบางประการเก่ียวกับวรรณคดีสมัย สุโขทยั ได้ ๔. อธบิ ายความสาคญั หรอื คุณค่า ค่านยิ มของวรรณคดีแต่ละเรื่องในด้านสานวนภาษาขนบธรรมเนียม ประเพณีความรตู้ ่าง ๆ และอิทธิพลของวรรณคดใี นสมัยตอ่ มาได้ ๕. แสดงความคิดเห็นและเปรยี บเทยี บเนอ้ื เรอ่ื ง ลักษณะของวรรณคดสี มัยสุโขทยั แตล่ ะเรอ่ื งได้ ๖. อธิบายและแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับเนื้อเร่ือง ลักษณะการประพันธ์ของผู้แต่งวรรณคดีแต่ละ เร่ืองในสมัยอยธุ ยาตอนตน้ ได้ ๗. อธบิ ายลักษณะเด่นของวรรณคดีสมยั อยุธยาตอนตน้ และเปรียบเทียบกับวรรณคดีสมัยสุโขทัยได้ ๘.วิจารณ์และแสดงความคิดเห็นเกีย่ วกบั เนอ้ื เร่ือง ลกั ษณะการประพันธข์ องผู้แต่งวรรณคดแี ต่ละเร่ือง ในสมยั อยุธยาตอนกลางได้ ๙. อธิบายแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเนื้อเร่ือง ลักษณะการประพันธ์ของผู้แต่งวรรณคดีแต่ละเรื่องใน สมยั อยุธยาตอนกลางได้ ๑๐. อธิบายลักษณะเด่นของวรรณคดีในสมัยอยุธยาตอนกลาง และเปรียบเทียบกับวรรณคดีในสมัย อยธุ ยาตอนตน้ ได้ ๑๑. วิจารณ์และแสดงความคิดเห็นด้านคุณค่า ค่านิยมทางสังคม และอิทธิพลของวรรณคดีสมัย อยธุ ยาตอนกลางท่ีมตี ่อวรรณคดใี นยคุ หลงั ได้ ๑๒. อธิบายและแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับเนื้อเรื่อง ลักษณะการประพันธ์ของผู้แต่งวรรณคดีแต่ละ เรอื่ งในสมยั อยธุ ยาตอนปลายได้
๑๓. อธบิ ายลกั ษณะเด่นของวรรณคดีสมยั อยุธยาตอนปลาย และเปรยี บเทยี บกับวรรณคดสี มัยอยุธยา ตอนตน้ และตอนกลางได้ ๑๔. วิจารณ์และแสดงความคิดเห็นด้านคุณค่า ค่านิยมทางสังคม และอิทธิพลของวรรณคดีสมัย อยธุ ยาตอนตน้ และตอนกลางได้ ๑๕. อธิบายวิวัฒนาการของลักษณะการประพันธ์ของผู้แต่งวรรณคดีสมัยสุโขทัย จนถึงสมัยอยุธยา ตอนปลายได้ รวม 15 ข้อ
คาอธิบายรายวิชา ท31203 การเขียน กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา ๔๐ ช่ัวโมง/ภาคเรียน จานวน ๑ หนว่ ยกติ --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ฝึกเขียนสื่อสารในรูปแบบต่าง ๆ ได้ตรงตามวัตถุประสงค์ โดยใช้ภาษาเรียบเรียงถูกต้อง มีข้อมูล และ สาระสาคัญชัดเจน ฝึกเขียนเรียงความ ย่อความ บันเทิงคดี สารคดี บันทึก รายงานทางวิชาการ เพื่อเพิ่มพูน ทักษะการเขียนในรูปแบบต่าง ๆ สามารถประเมินงานเขียนของผู้อ่ืน แล้วนามาพัฒนางานเขียนของตนเองได้ อย่างมีมารยาท และตามธรรมเนยี มนยิ ม ผลการเรยี นรู้ ๑. เขียนอธิบายเร่ืองราวต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งชดั เจนและถูกต้องตามหลักการเขยี นอธบิ าย ๒. เขยี นโนม้ นา้ วใจไดช้ ดั เจน ถูกต้องตรงตามวัตถปุ ระสงค์ ๓. เขียนแสดงทรรศนะต่อเรอื่ งต่าง ๆ ได้อย่างถูกตอ้ งเหมาะสมและมีเหตผุ ล ๔. เขียนประกาศไดช้ ดั เจนถกู ตอ้ ง ๕. เขียนจดหมายประเภทตา่ ง ๆ ได้ชัดเจนเหมาะสม ๖. เขียนเรยี งความแสดงจินตนาการได้ ๗. เขยี นยอ่ ความจากสื่อต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ๘. เขียนบันเทงิ คดีประเภทนิทานไดถ้ ูกตอ้ งตามหลักการเขียน ๙. เขียนสารคดตี ามความสนใจไดถ้ กู ต้องเหมาะสม ๑๐. เขยี นบนั ทกึ ความรจู้ ากแหล่งเรียนรู้ท่ีหลากหลายไดช้ ัดเจนถกู ต้อง ๑๑. เขยี นรายงานทางวิชาการไดช้ ดั เจนถูกต้อง ๑๒. มมี ารยาทในการเขียน รวม 12 ข้อ
คาอธิบายรายวชิ า ท31204 ประวตั ิวรรณคดี 2 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ภาคเรียน จานวน ๑ หน่วยกิต --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาวรรณคดีสมัยธนบุรี และสมัยรัตนโกสินทร์ เกี่ยวกับประวัติความเป็นมา ประวัติกวีเนื้อหา โดยสังเขป ลักษณะคาประพันธ์ จุดมุ่งหมายที่แต่ง และเพื่อให้รู้ความเป็นมาของวรรณคดีไทย เข้าใจ ความสมั พนั ธต์ ่อเน่อื งระหวา่ งสมยั เขา้ ใจค่านิยม ลกั ษณะชวี ิตของคนในสมัยน้ันๆ และเหน็ คุณค่าของวรรณคดี สาคัญ ในฐานะที่เปน็ มรดกทางวัฒนธรรมของชาติ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้เป็นกลุ่ม ร่วมกันศึกษาค้นคว้าวรรณคดีสาคัญในสมัยธนบุรีและสมัย รัตนโกสนิ ทร์ นามารายงาน อภปิ ราย แสดงความคิดเหน็ และวจิ ารณอ์ ย่างเห็นคณุ คา่ และนามาใช้ในชวี ติ จรงิ วัดและประเมินผลโดยการใช้แบบสอบถาม การสังเกตการซักถาม และการตรวจผลงานของนักเรียน เพื่อวัดและประเมินผลด้านความรู้ ความเข้าใจ ความคิด ทักษะการทางาน ความรับผิดชอบ ความสนใจ ขอ้ คิดเห็น ความตั้งใจในการเรียน และการนาไปใช้ ผลการเรียนรู้ ๑. บอกลักษณะของวรรณคดีสมัยธนบรุ ีได้ ๒. วเิ คราะหว์ รรณคดีแต่ละเร่ืองในสมยั ธนบุรีเกี่ยวกับประวัติความเป็นมา ลกั ษณะการแตง่ เนื้อเร่ือง สานวนโวหาร และคุณค่าได้อย่างถูกต้อง ๓. อธิบายลักษณะของวรรณคดสี มัยรชั กาลท่ี ๑ ได้อย่างถูกต้อง ๔. บอกคุณค่าของวรรณคดีในสมยั รชั กาลที่ ๑ ทัง้ ในดา้ นวรรณคดี และด้านสงั คมได้ ๕. บอกลักษณะของวรรณคดีสมยั รชั กาลท่ี ๒ ได้ ๖. อธบิ ายคุณค่าของวรรณคดีแตล่ ะเร่ือง และอธิบายสภาพชวี ิตและความเปน็ อยขู่ องคนไทยท่ีปรากฏ ในวรรณคดสี มยั รัชกาลที่ ๒ ได้ ๗. บง่ ชลี้ ักษณะเดน่ ของวรรณคดีสาคญั ๆ ในสมยั รัชกาลที่ ๓ ได้ ๘. วิเคราะห์คณุ คา่ ของวรรณคดใี นสมยั รัชกาลท่ี ๓ ได้อย่างถกู ต้อง ๙. อธบิ ายลกั ษณะเด่นของวรรณคดีในสมัยรัชกาลที่ ๔ ได้ ๑๐. วเิ คราะห์คุณคา่ ของวรรณคดีในสมัยรัชกาลท่ี ๔ ได้อย่างถูกต้อง ๑๑. อธิบายลกั ษณะโดยรวม และลกั ษณะเดน่ ของวรรณคดใี นสมัยรัชกาลท่ี ๕ ได้ ๑๒. วิเคราะหค์ ณุ ค่าของวรรณคดีในสมยั รชั กาลท่ี ๕ ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง ๑๓. วิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างวรรณคดีสมยั รัตนโกสินทรต์ อนตน้ (รชั กาลท่ี ๑–๔) กบั วรรณคดี สมัยรัตนโกสินทรป์ จั จุบัน (ตั้งแต่สมัยรชั กาลที่ ๕ เป็นตน้ มา) ได้ ๑๔. อธบิ ายลกั ษณะเด่นของวรรณคดใี นสมัยรัชกาลท่ี ๖ ได้ ๑๕. วเิ คราะห์คุณคา่ ของวรรณคดีในสมัยรัชกาลท่ี ๖ ได้ รวม 15 ข้อ
คาอธบิ ายรายวิชา ท31205 วรรณคดีมรดก กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ภาคเรียน จานวน ๑ หน่วยกิต --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ฝึกอ่านบทกวีนิพนธ์ประเภทกลอนและบทละคร อันได้แก่ รามเกียรติ์ ฉบับ รัชกาลท่ี 1 ขุนช้าง ขุนแผน อิเหนา พระอภัยมณีให้รู้เร่ืองตลอดโดยสังเขป อ่านเฉพาะตอนท่ีสาคัญในเชิงวรรณศิลป์ ตอนที่ทาให้ เห็นสภาพชีวิตในสมัยของบรรพบุรุษ ตอนที่ทาให้เข้าใจธรรมชาติของมนุษย์และตอนท่ีเกี่ยวกับศิลปะสาขา ต่างๆ เพ่ือให้สามารถวิเคราะห์และแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับตัวละครท่ีสาคัญ แนวคิดในเนื้อเรื่องโดย เปรียบเทียบกับเหตุการณ์ในชีวิตปจั จบุ ัน เกิดความประทับใจในศิลปะการประพันธ์ สามารถนาไปกลา่ วอ้างได้ ใช้กระบวนการอ่าน วิเคราะห์ สังเคราะห์และอ่านอย่างมีวิจารณญาณ ประเมินค่าวรรณคดีมรดก เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ ความซาบซึ้ง ตระหนักในคุณค่าและรักษาวรรณคดีมรดกไว้ในฐานะมรดกทาง วฒั นธรรมของชาติ เสริมสรา้ งให้นกั เรียนเกิดความรกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ มีวนิ ัยใฝ่เรียนรู้ มุ่งมน่ั ในการทางานและรักความ เป็นไทย ผลการเรยี นรู้ 1. บอกความหมายและแยกประเภทของวรรณคดีได้ 2. บอกกาเนดิ หรือทม่ี าและคุณคา่ ของวรรณคดไี ด้ 3. บอกประวัติผแู้ ต่ง ลกั ษณะคาประพันธแ์ ละจดุ ม่งุ หมายในการแต่งวรรณคดีได้ 4. เลา่ เรอ่ื งตลอดเรอื่ งโดยสงั เขปจากวรรณคดีท่นี ามาเรียนได้ 5. ถอดคาประพันธแ์ ละสรปุ ใจความสาคัญจากวรรณคดตี อนทน่ี ามาเรยี นได้ 6. บอกความหมายและใช้คาศพั ท์ สานวน โวหาร สุภาษติ คาพังเพยท่ีอยูใ่ นวรรณคดีได้ 7. บอกไดว้ ่าข้อความที่กาหนดให้มลี ักษณะอย่างไรหรอื หมายถึงใครได้ 8. ตอบคาถาม วจิ ารณ์เนื้อเร่ือง ตวั ละคร สรุปข้อคิด คติธรรม คณุ ค่าท่ไี ด้จากวรรณคดีและนามาใช้ ในชีวติ ประจาวนั ได้ 9. เขียนวเิ คราะหแ์ ละแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั นักเรื่องและพฤติกรรมของตวั ละครสาคัญใน วรรณคดีได้ 10. พูดแสดงความคดิ เหน็ เกี่ยวกับความงามทางด้านวรรณศลิ ป์ อรรถรสจากวรรณคดีได้ รวม 10 ข้อ
คาอธิบายรายวชิ า ท31206 ห้องสมุดเพือ่ การศกึ ษาค้นควา้ กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ภาคเรยี น จานวน 0.5 หนว่ ยกติ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาความหมายความสาคัญความรู้ทั่วไปของห้องสมุด ทราบแนวการปฏิบัติตน ภาระงาน ระเบียบวิธีการใช้ห้องสมุด มีจิตสานึกท่ีดี มีมารยาทคุณธรรมในการใช้ห้องสมุด และทราบถึงแหล่งเรียนรู้ใน โรงเรียน แหล่งเรียนรู้อื่นๆ อย่างกว้างขวาง รู้จักส่วนต่างๆของหนังสือ การจัดหมวดหมู่หนังสือ และรู้จักใช้ บริการกิจกรรมของห้องสมุด รู้จักเลือกใช้ทรัพยากรสารสนเทศห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้ตามความสนใจ ความสามารถ ความถนัดของตน รู้จักใช้เทคโนโลยีเป็นเคร่ืองมือสืบค้นสารสนเทศ เห็นความสาคัญของการ อ่าน เขยี นบนั ทึกการอา่ นการเขียนบรรณานุกรม และการศกึ ษาค้นควา้ ดว้ ยการเขยี นรายงานนาเสนอ โดยใช้ทักษะกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ มีทักษะการแสวงหาความรู้ ทักษะการทางานร่วมกนั เพ่ือพัฒนาตนเองให้มีนิสยั รักการอา่ น รกั การคน้ คว้า ใฝ่เรยี นรูอ้ ยา่ งตอ่ เน่ืองตลอดชวี ติ มีมารยาทและคณุ ธรรม ในการใช้ห้องสมุดและแหล่งเรียนรู้ นาความรู้จากการอ่านและการศึกษาค้นคว้าไปใช้ประโยชน์ในการดาเนิน ชวี ติ ประจาวัน ผลการเรียนรู้ 1. เพื่อให้รู้จักภาระงานห้องสมุด ตลอดจนคุณสมบัติ หน้าที่และความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ ห้องสมดุ 2. เพื่อให้มคี วามรู้ความเข้าใจทั่วๆ ไปและแหล่งเรยี นรตู้ า่ งๆ เกี่ยวกับห้องสมดุ 3. เพอื่ ใหม้ คี วามรแู้ ละทกั ษะการจัดหมวดหมูห่ นงั สือระบบทศนยิ มดิ้วอ้ี 4. เพ่ือใหน้ กั เรยี นรจู้ ักเลือกใช้ทรพั ยากรสารสนเทศในหอ้ งสมดุ และแหลง่ การเรียนรู้ได้อย่างเหมาะสม 5. เพอ่ื ให้นกั เรยี นรจู้ ักตรวจสอบความนา่ เช่ือถือของข้อมูลและใช้เทคโนโลยสี บื ในการศึกษาคน้ ควา้ หา ข้อมูลสารสนเทศได้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ 6. เพอ่ื ใหน้ ักเรยี นมีนิสัยรักการอ่าน รกั การเขยี นและการศึกษาค้นควา้ อย่างตอ่ เน่ืองกอ่ ใหเ้ กดิ กระบวนการเรยี นร้ตู ลอดชวี ติ 7. เพอ่ื ใหน้ กั เรียนนาความรไู้ ปใช้ในการพัฒนาตนเองและประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจาวัน
คาอธิบายรายวิชา ท31207 วรรณกรรมท้องถิ่น กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ภาคเรยี น จานวน 1 หนว่ ยกิต ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศกึ ษาความหมายลักษณะของวรรณกรรมทอ้ งถิ่นประเภทเพลงพ้นื บา้ น ปริศนาคาทาย ภาษิต สานวน ตานาน นิทาน ในด้านที่มา เน้ือหา คาศัพท์ สานวนและความหมายท่ีมีผลต่อการดาเนินชีวิตเพ่ือให้มีความรู้ ความเข้าใจ เห็นคุณค่าและร่วมมือของการอนุรักษ์วรรณกรรมท้องถ่ินสามารถนาเสนอวรรณกรรมท้องถิ่นใน รูปแบบต่างๆ ฝึกทักษะ การอ่าน การเขียน การฟัง การดู และการพูด อธิบายความสาคัญ ลักษณะเฉพาะ ลักษณะ เด่น อธิบายส่วนประกอบและจาแนกประเภทปริศนาคาทาย สานวน ภาษิต เพลงพื้นบ้าน ตานาน และนิทาน ท้องถิ่น เปรียบเทียบตานานและนิทานท้องถิ่นของไทย จาแนกประเภทของวรรณกรรมท้องถิ่นของแต่ละภาค สามารถเล่าเร่ืองวรรณกรรมท้องถ่ินเร่ืองเด่นในท้องถ่ินของตน เพื่อให้มองเห็นภาพสะท้อนทางวัฒนธรรม สังคม ความเช่อื ค่านิยมของคนในท้องถ่ิน รวมทั้งบอกคุณค่า ประโยชน์ และแนวทางมีสว่ นร่วมในการอนุรักษ์ และเผยแพร่วรรณกรรมท้องถิ่น โดยใช้ทักษะกระบวนการเรียนความรู้ความเข้าใจ กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคดิ วเิ คราะห์ กระบวนการปฏบิ ตั ิ และกระบวนการพฒั นาลกั ษณะนสิ ัย เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจ ตระหนักและเห็นคุณค่าความสาคัญ รู้จักวิธีการและแนวทางในการ อนรุ ักษ์วรรณกรรมทอ้ งถน่ิ อนั เปน็ มรดกทางวฒั นธรรมและดารงไวเ้ ป็นสมบตั ิของชาติ รวมทงั้ สรา้ งนิสัยรักการ อ่าน การเขยี น ตระหนกั ถงึ มารยาทท่ีดใี นการอา่ น การเขยี น การฟัง การดู และการพดู ผลการเรยี นรู้ ๑. อธิบายความสาคัญ ลักษณะเฉพาะ ลักษณะเด่นของวรรณกรรมท้องถิ่น ๒. บอกแนวทางและการมสี ว่ นร่วมในการอนรุ ักษแ์ ละเผยแพร่วรรณกรรมท้องถนิ่ ๓. อธบิ ายสว่ นประกอบและจาแนกประเภทปรศิ นาคาทาย ๔. วิเคราะห์และเฉลยปรศิ นาคาทายไดถ้ ูกตอ้ ง ๕. อธบิ ายความหมายความสาคัญ จาแนกประเภทและบอกคุณคา่ ของสานวน ภาษิต ๖. ใชส้ านวน ภาษติ ได้ถูกตอ้ ง เหมาะสมกับสถานการณ์ ๗. วิเคราะห์และจาแนกประเภทของเพลงพืน้ บา้ น ๘ .อธิบายคุณคา่ และความสาคัญของเพลงพ้ืนบา้ น 9. วเิ คราะหแ์ ละจาแนกประเภทของตานานและนิทานท้องถิน่ 10. อธบิ ายคณุ คา่ และความสาคญั ของตานานและนทิ านท้องถ่นิ ๑1. เปรียบเทียบตานานและนิทานท้องถนิ่ ของไทยกับอาเซยี น ๑2. จาแนกประเภทของวรรณกรรมท้องถนิ่ ของแต่ละภาค ๑3. เลา่ เรอ่ื งวรรณกรรมท้องถิน่ เร่ืองเด่นในท้องถน่ิ ของตน ๑4. มมี ารยาทในการอา่ น การเขียน การฟัง การดู และ การพดู
คาอธบิ ายรายวชิ า ท32201 การแต่งคาประพนั ธ์ กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 5 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ภาคเรยี น จานวน ๑ หน่วยกติ --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาความหมาย ประเภท วิวัฒนาการ คุณค่าของการแต่งคาประพันธ์ และศิลปะการแต่งคา ประพันธป์ ระเภทต่างๆ เช่น ลักษณะบงั คบั ของคาประพนั ธ์ การใชค้ า การใช้ภาพพจน์ และ รสวรรณคดี ฝึกแต่งคาประพันธป์ ระเภท กาพย์ กลอน โคลง รา่ ย และฉนั ท์ เพอื่ ให้สามารถพฒั นาตนเองไปสู่การ ตระหนกั ในคณุ คา่ และสามารถอนุรักษค์ าประพนั ธอ์ นั เปน็ ภมู ิปัญญาของชาติไทยได้ ผลการเรียนรู้ ๑. บอกความหมายและประเภทของคาประพันธ์พร้อมทั้งสามารถอธิบายลักษณะฉันทลักษณ์ของคา ประพันธ์ประเภทต่างๆ ได้ถกู ต้อง ๒. มีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับศิลปะการประพันธ์ โวหารและภาพพจน์ และสามารถนาความรู้ ดงั กล่าวมาแตง่ คาประพนั ธไ์ ด้อย่างถูกต้อง ๓. อธิบายลักษณะฉันลักษณ์ของคาประพันธ์ประเภทกลอน และสามารถแต่งกลอนสุภาพ กลอน สักวา และกลอนดอกสรอ้ ยได้ถูกต้องตามฉันทลักษณ์ และไพเราะสละสลวย ๔. อธิบายลกั ษณะฉันทลักษณ์ของคาประพันธ์ประเภทกาพย์ สามารถแตง่ กาพยย์ านี ๑๑ กาพยฉ์ บัง ๑๖ กาพย์สรุ างคนางค์ ๒๘ ไดถ้ ูกตอ้ งตามฉันทลกั ษณ์ และไพเราะสละสลวย ๕. อธิบายลักษณะฉันทลักษณ์ของคาประพันธ์ประเภทโคลงส่ีสภุ าพ และแต่งโคลงส่ีสุภาพได้ถูกต้อง และไพเราะ ๖. อธบิ ายลกั ษณะฉันทลกั ษณ์ของคาประพนั ธป์ ระเภทฉันท์ สามารถแตง่ อินทรวเิ ชยี รฉนั ท์ได้ ๗. มีความซาบซึ้ง และตระหนักในคุณค่าของบทร้อยกรอง สามารถอธิบายและบอกคุณค่าของบท รอ้ ยกรองไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและมเี หตุผล รวม 7 ข้อ
คาอธบิ ายรายวชิ า ท๓๒๒๐๒ ภาษาเพอ่ื การสอื่ สาร กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี ๕ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ภาคเรยี น จานวน ๑ หนว่ ยกิต -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ความสาคัญของภาษาไทยในฐานะที่เป็นเคร่ืองมือส่ือสารและวัฒนธรรมแห่งชาติศึกษาสภาพปัญหา และแนวทางแก้ปัญหา การใช้ภาษาไทยในชีวิตประจาวัน หลักการใช้คาสานวน การผูกประโยค ระดับภาษา กระบวนการพัฒนาทักษะการรับสารและการส่งสาร โดยฝึกจับใจความสาคัญ สรุปความ วิเคราะห์ วิจาร ณ์ และประเมินค่า ฝึกทักษะการคิด รวบรวมความรู้ความคิด ประสบการณ์จากการฟัง การดู และการอ่าน แล้ว นาเสนอดว้ ยการพดู การเขียนอย่างมวี ิจารณญาณและสร้างสรรค์ ผลการเรียนรู้ ๑. มีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับองค์ประกอบของการส่ือสาร และสามารถบอกความหมาย ความสาคัญของภาษาและการสื่อสารได้ ๒. มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอุปสรรคของการสื่อสาร แนวทางแก้ไข และเห็นความสัมพันธ์ ระหว่างภาษากบั การสือ่ สาร ๓. สามารถทาความเขา้ ใจเกย่ี วกบั สภาพปญั หาการใช้ภาษาไทยในชวี ติ ประจาวนั ๔. มีความรู้ความเข้าใจในการใช้ภาษิตและสานวนไทย และสามารถใช้ภาษิตและสานวนไทยได้ ถูกตอ้ งตามความหมาย ๕. มีความรู้เก่ียวกับระดับของภาษา สามารถแบ่งระดับของภาษา และสามารถใช้ปัจจัยท่ีกาหนด ระดบั ของภาษาได้ถูกตอ้ ง และเหมาะสม ๖. เห็นความสาคัญของกระบวนการฟังตามจุดมุ่งหมายต่างๆ รู้จักนาประโยชน์จากการฟังมาปรับใช้ ในชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง มีประสิทธิภาพ และมีมารยาทในการฟังที่ดี ๗. มีความสามารถจับใจความสาคัญสารจากการฟังการสนทนาในชีวิตประจาวัน การฟังเพลง การฟังสาร จากสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และการฟังข่าว โดยใช้หลกั การฟังอย่างมีวิจารณญาณ แยกข้อคิดเห็นและ ขอ้ เทจ็ จรงิ ในการฟงั สารได้ ๘. มีความรู้เรื่องความหมายและความสาคัญตามองค์ประกอบและวัตถุประสงค์ของการพูด และ เลือกใช้ลกั ษณะของการพูดให้การพดู ประสบความสาเรจ็ ๙. รู้ความหมายและความสาคัญของการอ่าน สามารถใช้กระบวนการอ่านให้จุดมุ่งหมายและเห็น ประโยชน์ของการอ่าน ๑๐. สามารถอ่านจับใจความ การอา่ นเชิงวิเคราะห์ และการอ่านตีความไดถ้ กู ตอ้ ง ๑๑. สามารถแก้ข้อบกพร่องในการอ่าน จากการอ่านในชีวิตประจาวัน และรู้วิธีฝึกฝน พัฒนาทักษะ การอา่ นของตนเองได้ถกู ต้อง ๑๒. มีความรู้ความเข้าใจเก่ียวความสาคัญของการเขียน ตามจุดมุ่งหมาย องค์ประกอบของการเขียน ทถี่ ูกตอ้ ง และลักษณะการเขยี นท่ีดี ๑๓. มีความรู้ความสามารถในการเขียนจดหมายสมัคร การเขียนใบประวัติย่อ และสามารถเขียน รายงานเชิงวชิ าการไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง รวม 13 ข้อ
คาอธบิ ายรายวชิ า ท๓๓๒๐๓ หลักภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี ๖ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง/ภาคเรยี น จานวน ๑ หน่วยกติ -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาหลักการใช้ภาษาไทยเร่ืองธรรมชาติของภาษา กาเนิดของภาษา ลักษณะของภาษาไทยและ ศึกษาเร่ืองไตรยางค์ คาเป็น คาตาย เปรียบเทียบลักษณะของคาไทยแท้กับคาภาษาในกลุ่มอาเซียน วิเคราะห์ลักษณะการเพม่ิ คาในภาษาไทย วิเคราะห์ชนิดและหน้าทขี่ องคา สามารถเลอื กใชค้ า กลุ่มคา มาแต่ง ประโยคความเดียว ความรวม และความซอ้ น ไดอ้ ยา่ งถกู ต้องและสรา้ งสรรค์ เพือ่ ประโยชน์ในการส่ือสาร และ นาไปใช้ในชวี ติ ประจาวัน โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการสร้างความรู้ กระบวนการสร้างความตระหนัก กระบวนการ ปฏิบตั ิ กระบวนการเรยี นร้ขู องตนเอง กระบวนการกลมุ่ เพอื่ ให้เกิดความรู้ มมี รรยาทในการอา่ น การเขียน การฟัง การดู การพูด มีความสามารถในการสื่อสาร ในการดารงชีวิต เป็นผู้ใฝ่รู้ใฝ่เรียน มุ่งม่ันในการ ทางาน รักความเปน็ ไทย มคี ุณธรรมจริยธรรมและค่านยิ มที่เหมาะสม ผลการเรยี นรู้ ๑. อธบิ ายและวเิ คราะห์ธรรมชาติของภาษา พลังของภาษา ลักษณะของภาษา เลือกใช้ภาษาได้ ถูกต้องตรงตามความหมาย และใช้ถอ้ ยคาไดถ้ ูกต้องตามลกั ษณะของภาษาไทย ๒. มคี วามรู้ ความเข้าใจในเรื่อง ภาษา ๓. มีความรู้ ความเข้าใจเรื่อง ลักษณะสาคัญของภาษาไทย ๔. มีความรู้ ความเข้าใจเร่ือง เสียงในภาษาไทย ๕. อา่ นออกเสียงคาในภาษาไทยไดถ้ ูกต้องตามอกั ขรวธิ ี ๖. มีความรู้ความเขา้ ใจเร่ืองอักษรไทยและหลักการเขยี นอักษรไทย ๗. เขยี นคาในภาษาไทยได้ถูกต้องตามหลกั การเขยี นอักษรไทย ๘. มคี วามรู้ ความเข้าใจเร่ือง คาไทยและหนา้ ท่ีของคาไทย ใชค้ าทั้ง ๗ ชนดิ ได้อย่างถูกตอ้ ง เหมาะสม ๙. มคี วามรู้ ความเข้าใจเร่ือง กลมุ่ คาและหนา้ ท่ีของกลมุ่ คา ๑๐. ใช้กลุ่มคาในการสร้างประโยคประเภทต่างๆ ได้ ๑๑. มคี วามรู้ความเข้าใจเรื่องประโยคทัง้ ๓ ชนดิ ๑๒. ใช้ประโยคสอ่ื สารได้ถูกตอ้ งเหมาะสม ๑๓. มีความรู้ความเขา้ ใจเรื่องการยืมคาภาษาตา่ งประเทศมาใชใ้ นภาษาไทย ๑๔. ใช้คายมื ได้อยา่ งถูกต้องเหมาะสม ๑๕. มีความร้คู วามเข้าใจเรื่องการสร้างคาในภาษาไทย ๑๖. ใช้คาใหม่ได้อยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม รวม 16 ข้อ
คาอธบิ ายรายวชิ า ท๓๓๒๐๒ ภาษากับวัฒนธรรม กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี ๖ ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๔๐ ช่วั โมง/ภาคเรียน จานวน ๑ หน่วยกิต -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- เข้าใจความหมายของภาษา วัฒนธรรม ลักษณะของวัฒนธรรมไทย ความสัมพันธ์ระหว่างวัฒนธรรม ไทยกับภาษาไทย วัฒนธรรมในการใชภ้ าษาไทย ความสัมพันธ์ระหว่างภาษาไทยกับศิลปกรรมไทยและรู้จกั ใช้ ภาษาท่ีสัมพันธ์กับศิลปะแขนงต่าง ๆ ความสาคัญของภาษาไทยที่มีต่อประเพณีไทย และวิเคราะห์ภาษาและ สานวนไทยที่ได้จากประเพณีไทย ความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษาไทยกับคตชิ าวบ้าน ความสาคญั ของภาษาไทยใน การสืบทอดวัฒนธรรมไทยวิเคราะห์ภาษาที่ปรากฏในปริศนาและคุณค่าทางสังคมที่สะท้อนจากเนื้อหา บท เพลงสาหรับเด็ก และวิเคราะห์คุณค่าด้านการใช้ภาษาของบทเพลงสาหรับเด็กในภูมิภาคต่างๆ นิทานพื้นบ้าน ตระหนักถึงคุณค่าของนิทานพื้นบ้านที่มีพื้นฐานมาจากวรรณกรรมมุขปาฐะและวิเคราะห์ภูมิปัญญาทางภาษา ของนิทานพื้นบ้านของแต่ละภูมภิ าค ตานานพ้ืนบ้าน วเิ คราะห์เน้อื หาจากการอา่ นตานานพนื้ บา้ นและรวบรวม ตานานพื้นบ้านและวรรณกรรมในท้องถ่ิน เพลงพื้นบ้านรวมทั้งตระหนักถึงคุณค่าของเพลงพื้นบ้านที่สะท้อน สภาพชีวิตและสังคมในท้องถ่ิน และวิเคราะห์ ภูมิปัญญาทางภาษาและนาความรู้ไปฝึกปฏิบัติเพ่ือเป็นการ อนุรักษ์และสืบทอดทางวัฒนธรรม รู้และเข้าใจภาษาถิ่นในด้านต่าง ๆ ความแตกต่างของภาษาถ่ินในแต่ละ ภูมภิ าค ความหมายของสานวน คาพังเพย ภาษติ ความแตกต่างทางภาษาและวเิ คราะห์คุณค่าของภูมิปัญญา ทางภาษา ที่ปรากฏในสานวน คาพงั เพย และภาษิตของภมู ิภาคต่าง ๆ ผลการเรียนรู้ ๑. เข้าใจความหมายของภาษา วัฒนธรรม ลักษณะของวัฒนธรรมไทย ความสัมพันธ์ระหว่าง วัฒนธรรมไทยกบั ภาษาไทย วฒั นธรรมในการใชภ้ าษาไทย ๒. เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษาไทยกับศิลปกรรมไทยและรู้จักใช้ภาษาท่ีสัมพันธ์กับศิลปะแขนง ตา่ ง ๆ ๓. เข้าใจความสาคัญของภาษาไทยท่ีมีต่อประเพณีไทย และวิเคราะห์ภาษาและสานวนไทยที่ได้จาก ประเพณไี ทย ๔. เขา้ ใจความสมั พันธร์ ะหวา่ งภาษาไทยกบั คตชิ าวบา้ น ๕. เข้าใจความสาคัญของภาษาไทยในการสืบทอดวัฒนธรรมไทยและใช้ภาษาไทยเพื่อสืบทอดและ ส่งเสริมวัฒนธรรม อันเป็นเอกลกั ษณ์ของชาติไทย ๖. มคี วามรเู้ ร่ืองภาษาและวฒั นธรรมทอ้ งถิ่น ๗. มีความรูเ้ รอ่ื งบทเพลงสาหรับเด็ก และสามารถวิเคราะห์คณุ ค่าดา้ นการใชภ้ าษาของบทเพลงสาหรับ เด็ก ๘. มีความรู้และเข้าใจเก่ียวกับความหมาย ท่ีมา ประเภทของปริศนาคาทาย และสามารถวิเคราะห์ ภาษาทีป่ รากฏในปรศิ นาและคณุ ค่าทางสังคมทส่ี ะท้อนจากเน้ือหา ๙. มีความรู้เรื่องนิทานพื้นบ้าน รวมท้ังตระหนักถึงคุณค่าของนิทานพ้ืนบ้านท่ีมีพ้ืนฐานมาจาก วรรณกรรมมุขปาฐะและสามารถวเิ คราะหภ์ ูมิปญั ญาทางภาษาของนิทานพน้ื บ้านของแตล่ ะภูมภิ าค ๑๐. มีความรู้เร่ืองตานานพื้นบ้าน และสามารถวิเคราะห์เนื้อหาจากการอ่านตานานพื้นบ้านและ รวบรวมตานานพืน้ บ้านและวรรณกรรมในทอ้ งถ่นิ
๑๑. มคี วามรู้ความเขา้ ใจเรื่องเพลงพ้ืนบา้ น รวมทั้งตระหนกั ถงึ คุณค่าของเพลงพ้นื บ้านท่ีสะท้อนสภาพ ชีวิตและสังคมในท้องถิ่น และสามารถวิเคราะห์ภูมิปัญญาทางภาษาและนาความรู้ไปฝึกปฏิบัติเพ่ือเป็นการ อนรุ ักษแ์ ละสบื ทอดทาง วฒั นธรรม ๑๒. รแู้ ละเข้าใจเก่ยี วกับภาษาถ่ินในดา้ นตา่ ง ๆ และสามารถบอกความแตกต่างของภาษาถน่ิ ในแต่ละ ภูมภิ าค ๑๓. รู้และเข้าใจความหมายของสานวน คาพังเพย ภาษิต เห็นความแตกต่างทางภาษาและวิเคราะห์ คณุ ค่าของภูมิปญั ญาทางภาษาที่ปรากฏในสานวน คาพังเพย และภาษติ ของภูมิภาคตา่ ง ๆ รวม 13 ข้อ
Search
Read the Text Version
- 1 - 37
Pages: