แผนพัฒนาตนเองรายบุคคล (Individual Development Plan : ID Plan) กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๕ โดย นางสาวพรรษรัตน์ พรมมินทร์ ตาแหน่ง ครู โรงเรียนโคกสาโรงวทิ ยา อาเภอโคกสาโรง จังหวดั ลพบุรี สงั กดั สานกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษามัธยมศกึ ษาเขต 5 สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
บนั ทกึ ขอ้ ความ ส่วนราชการ โรงเรยี นโคกสำโรงวิทยำ อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี ท่ี ................/๒๕๖๕ วนั ท่ี ๑๐ มิถนุ ำยน ๒๕๖๕ เรอื่ ง ขออนุมัติแผนพัฒนำตนเองของข้ำรำชกำรครู (Individual Development Plan : ID Plan) เรยี น ผู้อำนวยกำรโรงเรียนโคกสำโรงวทิ ยำ สงิ่ ทสี่ ่งมาด้วย แผนพฒั นำตนเอง (Individual Development Plan : ID Plan) จำนวน ๑ เลม่ ด้วยข้ำพเจ้ำ นำงสำวพรรษรัตน์ พรมมินทร์ ตำแหน่ง ครู โรงเรียนโคกสำโรงวิทยำ ได้จัดทำ แผนพัฒนำตนเอง ประจำปีกำรศึกษำ ๒๕๖๕ ตำมกรอบแนวทำงในกำรปฏิรูปกำรศึกษำและกำรเรียนรู้อย่ำง เป็นระบบไว้ ๔ ประกำร คือ กำรพัฒนำคุณภำพคนไทยยุคใหม่ กำรพัฒนำคุณภำพครู ยุคใหม่กำรพัฒนำ คุณภำพสถำนศึกษำ และแหล่งเรียนรู้ยุคใหม่ และกำรพัฒนำคุณภำพกำรบริหำรจัดกำรใหม่ และจำกกำร ท่ีสำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำข้ันพ้ืนฐำน ได้ประกำศกำรใช้เกณฑ์วิทยฐำนะ ว๒๑/๒๕๖๐ ซ่ึงกำหนด ข้ำรำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำจัดทำแผนพัฒนำตนเองเพ่ือประโยชน์ในกำรจัดกำรเรียนกำรสอน และวำงแผนกำรทำงำนของข้ำรำชกำรครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ รำยละเอียดดงั เอกสำรท่สี ่งมำพรอ้ มนี้ จงึ เรยี นมำเพอื่ โปรดทรำบ ลงช่ือ.......................................................... ลงชือ่ .......................................................... (นำงสำวพรรษรตั น์ พรมมินทร์) (นำยปัณณวชิ ญำ บัวงำม) ตำแหน่งครู ตำแหนง่ หัวหน้ำกลุม่ สำระกำรเรียนรูภ้ ำษำไทย ความเห็นของรองผู้อานวยการกลุม่ บริหารงบประมาณและบคุ คล ...................................................................................................................... ........................................................ ............................................................................................................................. ............................................... ลงชอ่ื ............................................................... (นำงวิไลวรรณ สดุ โลก) ตำแหน่ง รองผู้อำนวยกำรกลุ่มบริหำรงบประมำณและบุคคล ความเห็นของผู้อานวยการโรงเรียน .................................................................................................... .......................................................................... ............................................................................................................................. ............................................... ลงช่อื ............................................................... (นำยสำรวย วัฒนวงศ์) ตำแหน่ง ผอู้ ำนวยกำรโรงเรียนโคกสำโรงวทิ ยำ
คานา กระทรวงศกึ ษำธิกำร มุ่งเนน้ ให้ครแู ละบุคลำกรทำงกำรศกึ ษำ พัฒนำตนเองโดยยึดหลักกำรประเมิน สมรรถนะ (Competency Based Approach) จะทำให้ผู้ปฏิบัติงำนสำมำรถรู้จุดเด่น จุดด้อยของ ควำมสำมำรถในกำรปฏิบัติงำนของตน และสำมำรถพัฒนำตนเองให้สอดคล้องกับควำมต้องกำรจำเป็นของ หน่วยงำน และของตนเองอยำ่ งแทจ้ รงิ ท้ังนี้ ครูจึงต้องมีกำรวำงแผนกำรพัฒนำตนเองในกำรจัดห้องเรียนท่ีมีคุณภำพ (Individual Development Planning : ID Plan) เพื่อเป็นกำรพัฒนำที่สนองตอบควำมต้องกำรแต่ละบุคคล สนองควำม สนใจในรูปแบบวิธีกำรพัฒนำ ก็จะส่งผลต่อสมรรถนะในกำรปฏิบัติหน้ำที่ท่ีมีประสิทธิภำพต่อไป และเป็นกำร พัฒนำที่ต่อเน่ืองจนทำให้กำรปฏิบัติหน้ำท่ีมีควำมสมบูรณ์ มีประสิทธิภำพและเกิดประสิทธิภำพในกำร ปฏิบัตงิ ำน อันนำไปสูก่ ำรพัฒนำตนเองใหเ้ ป็นครูมืออำชีพท่มี ีมำตรฐำนในกำรปฏิบัติงำนอย่ำงแท้จรงิ สำมำรถ ตรวจสอบได้ และพฒั นำสคู่ วำมเป็นวชิ ำชพี ต่อไป
สารบญั เรอื่ ง หน้า บันทึกข้อควำมรำยงำนกำรจัดทำแผนพัฒนำตนเอง........................................................................... ก คำนำ...................................................................................................................... ............................ ข สำรบัญ...................................................................................................................... ......................... ค ส่วนที่ ๑ ข้อมูลสว่ นบุคคล................................................................................................................ ๑ ๑ ๑. ข้อมลู ส่วนตัว................................................................................................................. ๑ ๒. งำนทไี่ ดร้ บั มอบหมำย.................................................................................................... ๒ ๓. ผลงำนทเ่ี กิดจำกกำรปฏบิ ัตงิ ำน (ปีทผ่ี ำ่ นมำ)............................................................... ๔ ๔. ประวตั กิ ำรเข้ำรบั กำรพัฒนำ (ปีทีผ่ ำ่ นมำ)..................................................................... ส่วนท่ี ๒ ผลการประเมนิ ตนเอง........................................................................................................ ๕ ๑. ผลกำรประเมนิ ตนเองตำมกรอบของ ก.ค.ศ.............................................................. ๕ - ด้ำนที่ ๑ ควำมรคู้ วำมสำมำรถในกำรปฏบิ ตั ิงำนในหน้ำที่....................................... - ด้ำนท่ี ๒ ทกั ษะกำรปฏบิ ัติงำน............................................................................... ๕ - ดำ้ นท่ี ๓ ควำมเป็นคร.ู ............................................................................................ ๗ ๒. ผลกำรประเมนิ ศักยภำพของผู้เรียนในสถำนศึกษำตำมจดุ เน้นของ สพฐ...................... ๘ ๓. ผลกำรประเมินศำสตรก์ ำรสอน ตำมกรอบแนวคิดของหลกั สตู รสถำบันครุ พุ ัฒนำ....... ๙ ส่วนท่ี ๓ แผนการพัฒนาตนเอง....................................................................................................... ๑๐ ๑. ตำรำงสรปุ วธิ กี ำร/รปู แบบกำรพัฒนำ.......................................................................... ๑๑ ๒. วธิ กี ำร/รูปแบบกำรพัฒนำ............................................................................................ ๑๑ ๓. ประโยชน์ทค่ี ำดว่ำจะไดร้ ับ........................................................................................... ๑๑ ๑๒
สว่ นท่ี ๑ ขอ้ มลู สว่ นบคุ คล ๑. ขอ้ มูลสว่ นตัว ๑.๑ ชือ่ : นำงสำวพรรษรัตน์ พรมมินทร์ ตำแหนง่ : ครู วิทยฐำนะ : ชำนำญกำร เลขประจำตำแหน่ง : ๓๗๐๖๒ เงนิ เดือน ๓๒,๐๙๐ บำท ๑.๒ วุฒกิ ำรศกึ ษำ ๑.๒.๑ ระดบั ปริญญำตรี สำขำมนษุ ยศำสตร์และสงั คมศำสตร์ วชิ ำเอก ภำษำไทย สถำบนั มหำวทิ ยำลยั รำชภัฏนครสวรรค์ ๑.๒.๒ ระดับปรญิ ญำโท สำขำศกึ ษำศำสตร์ วชิ ำกำรบรหิ ำรกำรศึกษำ สถำบนั มหำวิทยำลัยรำมคำแหง ๑.๒.๓ ระดับปรญิ ญำเอก สำขำศึกษำศำสตร์ วชิ ำวิชำกำรบรหิ ำรกำรศกึ ษำ สถำบนั มหำวทิ ยำลัยเวสเทิร์น ๒. งานที่รบั ผิดชอบ ๒.๑ งำนสอนตำมตำรำง / งำนประจำ : ภาคเรียนท่ี ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๕ รายวิชาท่สี อน ระดับชัน้ จานวน (ช่วั โมง / สัปดาห)์ ภำษำไทย มัธยมศึกษำปที ่ี ๑ (๑, ๘) ๖ กำรแต่งคำประพันธ์ มัธยมศึกษำปที ่ี ๕ (๔, ๕,๖,๗,๘) ๑๐ กิจกรรมรักกำรอำ่ น มัธยมศึกษำปีท่ี ๕/๓ ๑ กจิ กรรมชุมนมุ มัธยมศกึ ษำตอนต้น ๑ กิจกรรมชุมนมุ มัธยมศกึ ษำตอนปลำย ๑ กิจกรรมลดเวลำเรยี น มธั ยมศึกษำตอนตน้ ๑ กิจกรรมกีฬำ มธั ยมศกึ ษำตอนต้น ๑ กิจกรรมโฮมรมู มัธยมศึกษำปที ี่ ๕/๓ ๑ รวมทั้งสน้ิ ๒๒
๒.๒ งำนสนับสนุนกำรจัดกำรเรียนรู้/งำนท่ีได้รบั มอบหมำย ปกี ำรศกึ ษำ ๒๕๖๕ : กลุ่มงาน ภาระงาน งบประมำณและบุคคล หัวหน้ำชมุ ชน กลุ่มสำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย งำนบรกิ ำร , งำนประกันคุณภำพ ๓. ผลงานทเ่ี กดิ จากการปฏบิ ัตงิ าน (ปีทีผ่ ่านมา) ๓.๑ ผลท่เี กดิ จากการจัดการเรียนรู้ : ๓.๑.๑ มีกำรแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ท่ีมีกำรวิเครำะห์มำตรฐำนกำรเรียนรู้ และสำระกำรเรียนรู้ ตำมลำดบั ขน้ั ตอน ดังนี้ ๑) ศึกษำและวเิ ครำะห์ คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ ๒) จดั ทำตำรำงวิเครำะห์ คำอธิบำยรำยวชิ ำ เพื่อกำหนดขอบขำ่ ยเน้อื หำ ๓) จัดทำกำหนดกำรสอน ๔) เขียนแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ ๕) ศกึ ษำวิธีทำสอ่ื และผลิตสือ่ ประกอบกำรสอน ๓.๑.๒ มีกำรจดั กำรเรียนรทู้ ่ีเน้นผูเ้ รยี นเปน็ สำคัญอยำ่ งหลำกหลำย เนน้ กระบวนกำรคดิ ๓.๑.๓ จัดบรรยำกำศกำรเรียนรู้เป็นปฏิสัมพันธ์แบบกลุ่ม แบบมีส่วนร่วม แบบร่วมมือและเรียนรู้ ดว้ ยตนเอง ๓.๑.๔ มีกำรวัดและประเมินผลกำรเรียนรู้ได้อย่ำงหลำกหลำย เช่น กำรสังเกต กำรสัมภำษณ์ กำรทดสอบ กำรตรวจผลงำน โดยเน้นกำรประเมนิ สภำพจรงิ ๓.๑.๕ มีกำรแกป้ ัญหำ / วิจยั ในชน้ั เรียน ๓.๑.๖ นักเรยี นมีคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ตำมหลกั สตู ร ๓.๑.๗ นักเรียนสำมำรถทำงำนเปน็ ทมี อยำ่ งมีประสิทธิภำพ ๓.๑.๘ นักเรียนได้รับกำรพัฒนำทันต่อควำมก้ำวหน้ำทำงวิชำกำรและกำรเปล่ียนแปลงทำงด้ำน เศรษฐกจิ และสังคม ๓.๑.๙ มกี ำรรำยงำนผลต่อผู้เรยี น ผ้ปู กครอง และผบู้ ริหำรอย่ำงถูกต้อง สม่ำเสมอ ๓.๒ ผลที่เกดิ จากการพัฒนาวิชาการ : ๓.๒.๑ มกี ำรจัดหำ พัฒนำ ประยุกต์ใช้ส่ือ นวัตกรรมในกำรจดั กำรเรียนรู้ สำมำรถนำไปใช้ได้ผลดี เชน่ สือ่ กำรสอนประเภท ใบงำน แบบฝึกทกั ษะ กำรจดั ทำหนังสอื เลม่ เลก็ (ผลงำนนักเรยี น) เป็นตน้ ๓.๒.๒ กำรใชค้ วำมคดิ เชงิ ระบบในกำรพัฒนำงำนอย่ำงครบวงจรและมปี ระสทิ ธิภำพอย่ำงต่อเนื่อง ๓.๒.๓ กำรนำควำมรดู้ ำ้ นเทคโนโลยีสำรสนเทศมำพฒั นำระบบกำรเรยี นรูไ้ ด้ ๓.๒.๔ กำรสง่ เสรมิ กำรคิดทเี่ น้นผลคุณภำพทตี่ ัวผ้เู รยี น ๓.๒.๕ กำรนำวธิ ีกำรวิจัยและพัฒนำมำแก้ปัญหำพรอ้ มทง้ั พัฒนำงำนอย่ำงครบวงจร ๓.๓ ผลทีเ่ กดิ กบั ผูเ้ รียน : กำรพัฒนำนักเรียนโดยใช้กระบวนกำรจัดกำรเรียนกำรสอนท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ส่งผลให้ นักเรียนเกิดกำรพฒั นำครบทกุ ดำ้ น ดังนี้ ๓.๓.๑ ด้ำนผู้เรียนเป็นคนดี ๑) นกั เรียนมคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม และมคี ุณลักษณะอันพึงประสงค์ตำมสถำนศึกษำกำหนด
๒) นักเรียนมีควำมเข้ำใจพื้นฐำนเก่ียวกับกำรเมืองกำรปกครองในระบอบประชำธิปไตย อนั มพี ระมหำกษัตรยิ เ์ ป็นประมขุ ๓) นักเรยี นมรี ะเบยี บวนิ ยั ๔) นักเรียนมีสว่ นร่วมในกำรรกั ษำผลประโยชนส์ ว่ นรวม ๕) นกั เรียนมสี ่วนรว่ มในกำรอนุรักษ์และพัฒนำส่งิ แวดล้อม ๖) นกั เรียนมีควำมรกั สถำนศึกษำ ทอ้ งถิ่น และประเทศชำติ ๓.๓.๒ ดำ้ นผเู้ รยี นเป็นคนเกง่ ๑) นักเรยี นมีผลสมั ฤทธ์ทิ ำงกำรเรียน ตำมมำตรฐำนกำรเรยี นรสู้ งู ข้ึน ๒) นักเรยี นมที กั ษะในกำรคดิ กำรจัดกำร กำรแกป้ ัญหำ ๓) นักเรียนสำมำรถใช้ทกั ษะทำงภำษำในกำรส่ือสำรได้อย่ำงมปี ระสทิ ธิภำพ ๔) นักเรียนสำมำรถทำชิ้นงำน/ผลงำนที่สะท้อนควำมคิดเช่น คิดวิเครำะห์ สังเครำะห์ แผนผังควำมคดิ /Mind Mapping ๕) นักเรียนแสวงหำควำมรจู้ ำกแหล่งเรียนรู้ต่ำง ๆ สรุปบันทึกควำมร้สู ม่ำเสมอ ๖) นักเรียนได้รับรำงวัล ได้แก่ รำงวัลเหรียญทองอันดับ ๔ กิจกรรมต่อคำศัพท์ภำษำไทย (คำคมเดิม) ระดับช้ัน ม.๑ - ม.๓ งำนมหกรรมควำมสำมำรถทำงศิลปกรรม วิชำกำร และเทคโนโลยี คร้ังท่ี ๖๙ ปี กำรศกึ ษำ ๒๕๖๒ ระดบั เขตพ้ืนท่กี ำรศึกษำ ๓.๓.๓ ดำ้ นผเู้ รยี นมคี วำมสุข ๑) นักเรยี นมีสขุ ภำพจิตแจ่มใส ร่ำเรงิ ๒) นักเรียนเรียนรไู้ ดอ้ ยำ่ งมีควำมสุข ๓) นักเรยี นมีสุขภำพกำยและสขุ นิสัยท่ดี ี ๓.๔ ผลที่เกิดกบั สถานศกึ ษา : มสี ่วนร่วมในกำรจัดทำแผนกลยุทธ์ แผนปฏิบัติกำรในกำรพฒั นำโรงเรียน พัฒนำนกั เรยี นโดยกำรจัด กจิ กรรมและโครงกำรต่ำงๆ จนปรำกฏผล ดังนี้ ๓.๔.๑ สถำนศึกษำยงั ได้รับกำรยอมรับจำกผู้ปกครองและชุมชนในด้ำนกำรดูแลเอำใจใส่ของครู ที่ มีต่อนักเรียนในด้ำนกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอน กำรดูแลด้ำนพฤติกรรม คุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ ดำ้ นกริ ยิ ำมำรยำท ควำมมีวินยั ในตนเอง ควำมรบั ผิดชอบ ๓.๔.๒ สถำนศึกษำเข้ำร่วมโรงเรียนแกนนำกำรใช้หลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำข้ันพ้ืนฐำน หลักสูตร พ.ศ. ๒๕๕๑ โรงเรียนประชำรัฐ และมีแหล่งเรียนรู้อย่ำงหลำกหลำย นักเรียนได้รับให้มีควำมรู้และ ประสบกำรณท์ จ่ี ำเปน็ ในกำรดำรงชีวิตที่มีคุณคำ่ สำมำรถนำไปใชใ้ นชวี ิตประจำวนั ได้อยำ่ งเปน็ สุข ๓.๕ ผลทีเ่ กดิ กับชุมชน : ๓.๕.๑ โรงเรียนเป็นศูนย์กลำงของชุมชนในกำรให้บริกำรทำงด้ำนวิชำกำรและข่ำวสำรข้อมูล แหลง่ ควำมรแู้ ละกิจกรรมตำ่ ง ๆ ตลอดจนใหบ้ รกิ ำรดำ้ นอำคำรสถำนท่ใี นกำรจัดงำนตำ่ ง ๆ ๓.๕.๒ ชุมชนให้ควำมร่วมมือกับโรงเรียนในกำรทำกิจกรรมต่ำง ๆ เต็มควำมสำมำรถ เช่น กำร ประชุมคณะกรรมกำรสถำนศึกษำ กำรประชุมผู้ปกครอง จนทำให้เกิดควำมร่วมมือ ควำมเข้ำใจที่ดีต่อกันเกิดควำม รักและควำมภำคภูมิใจในโรงเรียนและท้องถิ่นกำรจัดกจิ กรรมวันสำคญั ต่ำง ๆ ๓.๕.๓ โรงเรียนมีส่วนร่วมกับชุมชน ในกิจกรรมต่ำง ๆ โดยเฉพำะกิจกรรมท่ีเก่ียวกับวัฒนธรรม ประเพณี และพิธีกรรมทำงศำสนำ เช่น ประเพณีแห่เทียนเข้ำพรรษำ ประเพณีลอยกระทง ประเพณีสงกรำนต์ กำรทอดผ้ำปำ่ ทอดกฐนิ เป็นตน้
๔. ประวัติการเขา้ รบั การพัฒนา (ปที ผี่ ่านมา) ที่ เรื่อง หนว่ ยงานทจ่ี ัด วนั ทีจ่ ดั อบรม จานวนชว่ั โมง ๑ กำรอบรมในโครงกำรพัฒนำข้ำรำชกำรครู และบคุ ลำกรทำงด้ำนกำรศึกษำทำง กำรศึกษำตำมหลกั เกณฑ์และวธิ กี ำร ประเมนิ ตำแหน่ง กำรเล่ือนวทิ ยฐำนะ ขำ้ รำชกำรครูและบุคลำกรทำงดำ้ น สพม.ลพบุรี ๒๓ ต.ค. ๖๔ ๑๐ กำรศึกษำทำงกำรศกึ ษำตำมข้อตกลงใน กำรพัฒนำ PA (Performance Agreement ) ในรูปแบบออนไลน์ ในวัน เสำรท์ ่ี ๒๓ ตลุ ำคม ๒๕๖๔ ๒ กำรอบรมในโครงกำรพัฒนำข้ำรำชกำรครู และบคุ ลำกรทำงดำ้ นกำรศึกษำทำง กำรศึกษำตำมหลกั เกณฑ์และวิธีกำร ประเมินตำแหนง่ กำรเล่ือนวทิ ยฐำนะ โรงเรียนโคกสำโรง ๑๑ ก.ย. ๖๔ ๑๐ ขำ้ รำชกำรครูและบุคลำกรทำงดำ้ น วทิ ยำ กำรศึกษำทำงกำรศึกษำตำมข้อตกลงใน กำรพฒั นำ PA (Performance Agreement ) ณ โรงเรียนโคกสำโรงวทิ ยำ จงั หวัดลพบุรี ๓ อบรมโครงกำรพฒั นำหลักสูตรภมู ิปัญญำ พนื้ บำ้ นภำคกลำงโดยประยกุ ต์ใชศ้ ำสตร์ กองทุนดิจทิ ัล ๑๘ ก.ย. ๖๔ ๒๐ พระรำชำ หลกั สูตรที่ 1 ละโวธ้ ำนีสู่ลพบรุ ี อนั ลือเลื่อง จงั หวัดลพบุรี ๔ กำรอบรมโครงกำรพัฒนำสมรรถนะกำร อ่ำนขนั้ สูงของนักเรียน ช้ันมธั ยมศกึ ษำ สพม.ลพบุรี ๑๐ ตอนต้น ด้วยกำรเรียนรู้ดว้ ยตนเอง (Self – Leaning)
สว่ นท่ี ๒ ผลการประเมนิ ตนเอง ตอนท่ี ๑ ผลการประเมนิ ตนเองตามกรอบของ ก.ค.ศ. ระดับความรู้ ด้านที่ ๑ ความรคู้ วามสามารถในการปฏิบัติงานในหนา้ ท่ี มาก ปานกลาง(๒ น้อย (๓ คะแนน) คะแนน) (๑ คะแนน) รายการพิจารณาตนเอง ๑. เนอื้ หำในรำยวชิ ำ/กลุ่มสำระกำรเรียนรทู้ ีส่ อน ๒. วิธีสอน ถำ่ ยทอดควำมรู้เชิงเนือ้ หำ กจิ กรรม บริบท เป้ำหมำยกำร เรียนรู้ ควำมร้พู ืน้ ฐำน กำรปรับพ้ืนฐำน และอปุ สรรคกำรเรียนร้ขู อง ผูเ้ รียน ๓. หลกั กำรสอน และกระบวนกำรเรยี นรู้ ๔. หลักสูตร กำรออกแบบ วำงแผนกำรใช้ ประเมินและแนวทำง กำรเรียนรูใ้ นแตล่ ะเนื้อหำ ๕. พื้นฐำนกำรศกึ ษำ หลกั กำรศกึ ษำ ปรัชญำกำรศึกษำ จิตวทิ ยำ สังคม นโยบำยกำรศึกษำ จดุ มุง่ หมำยกำรจดั กำรศกึ ษำตงั้ แต่ ระดบั ชำติจนถึงระดบั หลักสูตร ๖. กำรจัดกำรศึกษำแบบรวม และกำรตอบสนองตอ่ ควำม หลำกหลำยของผ้เู รียน ๒๔ ๒ ๗. ทฤษฎีกำรเรยี นรู้ และจติ วิทยำกำรเรียนรู้ คะแนนรวม ๒๖ / การแปลผล ระดับที่มี ๘. กำรใชเ้ ทคโนโลยี และสือ่ นวัตกรรมเพ่ือกำรเรียนรู้ ๙. กำรวดั และประเมนิ ผลกำรเรยี นรู้ ควำมรูค้ วำมสำมำรถมำก รวม คะแนนรวม / แปลผล เกณฑ์การประเมิน ระดบั ทมี่ ีควำมรูค้ วำมสำมำรถน้อย คะแนน ๐ – ๑๕ ระดับทม่ี ีควำมรคู้ วำมสำมำรถปำนกลำง คะแนน ๑๖ – ๒๑ ระดับทมี่ ีควำมรู้ควำมสำมำรถมำก คะแนน ๒๒ – ๒๗ จำกผลกำรประเมิน พบว่ำ ควำมรู้ควำมสำมำรถในกำรปฏิบัติงำนในหน้ำที่ โดยรวมอยู่ในระดับที่มี ควำมรู้ควำมสำมำรถมำก เม่ือพิจำรณำเป็นรำยข้อ พบว่ำ ควรได้รับกำรส่งเสริมควำมรู้ควำมสำมำรถในด้ำน พ้ืนฐำนกำรศึกษำ หลักกำรศึกษำ ปรัชญำกำรศึกษำ จิตวิทยำ สังคม นโยบำยกำรศึกษำ ด้ำนกำรจัดกำรศึกษำ แบบรวม ด้ำนกำรจัดกำรศึกษำแบบรวม และกำรตอบสนองต่อควำมหลำกหลำยของผู้เรียน และด้ำนทฤษฎี กำรเรยี นรู้ และจิตวทิ ยำกำรเรยี นรู้
ดา้ นที่ ๒ ทักษะการปฏบิ ตั ิงาน ระดับความสามารถ รายการพจิ ารณาตนเอง ทาไดด้ ี พอใช้ ไม่คอ่ ยไดท้ า (๓) (๒) (๑) ๑. กำรสร้ำงและหรอื พัฒนำหลักสูตร ๒. กำรออกแบบหนว่ ยกำรเรียนรู้ ๓. กำรจดั ทำแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ ๔. กลยุทธใ์ นกำรจดั กำรเรยี นรู้ ๕. กำรสรำ้ งและกำรพฒั นำส่ือ นวัตกรรม เทคโนโลยที ำง กำรศกึ ษำและแหลง่ เรียนรู้ ๖. กำรวดั และประเมินผลกำรเรยี นรู้ รวม ๑๘ คะแนนรวม/การแปลผล คะแนนรวม ๑๘ / การแปลผล ระดบั ท่มี ี ควำมรู้ควำมสำมำรถมำก เกณฑก์ ารประเมนิ ระดับทม่ี ีทกั ษะกำรปฏิบัติงำนนอ้ ย คะแนน ๐ – ๙ ระดับที่มีทักษะกำรปฏิบตั งิ ำนปำนกลำง คะแนน ๑๐ – ๑๔ ระดบั ทมี่ ีทักษะกำรปฏบิ ตั ิงำนมำก คะแนน ๑๕ – ๑๘ จำกผลกำรประเมิน พบว่ำ ควำมรู้ควำมสำมำรถในกำรปฏิบัติงำน โดยรวมอยู่ในระดับระดับที่มี ทักษะกำรปฏิบัติงำนมำก เมื่อพิจำรณำเป็นรำยข้อ พบว่ำ ควรได้รับกำรส่งเสริมควำมรู้ควำมสำมำรถในด้ำน กำรใช้กลยุทธ์ในกำรจัดกำรเรียนรู้ เพ่ือส่งเสริมให้นักเรียนได้รบั กำรพัฒนำด้วยกระบวนกำรท่ีหลำกหลำยและ เนน้ ใหผ้ ู้เรียนได้ปฏบิ ัติกิจกรรมกำรเรยี นรู้ มำกกว่ำกำรที่ครูเปน็ ผูบ้ อกควำมร้ใู ห้กบั ผเู้ รียน และพฒั นำกำรสรำ้ ง สือ่ นวัตกรรม เทคโนโลยีทำงกำรศึกษำ และแหลง่ เรียนรู้ให้มำกขึ้น และสอดคล้องกับมำตรฐำน/ตัวชี้วดั หรือ ผลกำรเรยี นรู้
ด้านที่ ๓ ความเปน็ ครู ระดบั ความเปน็ ครู รายการพจิ ารณาตนเอง สงู มาก ปานกลาง ยงั ต้อง (๓ คะแนน) (๒ คะแนน) ปรบั ปรุง (๑ คะแนน) ๑. ยดึ ม่ัน ผกู พนั ศรัทธำในวิชำชีพ และทุ่มเทเพอ่ื กำรเรยี นรู้ ของผู้เรยี น ๒. มีคณุ ธรรม จริยธรรม และปฏบิ ัติตนเป็นแบบอย่ำงทด่ี ีแก่ ผเู้ รียนท้ังกำย วำจำ และจติ ใจ ดำรงตนให้เปน็ ทเ่ี คำรพ ศรัทธำ และน่ำเช่อื ถือท้ังใน และนอกสถำนศกึ ษำ ๓. ปฏิบัติตนตำมจรรยำบรรณวชิ ำชพี ครู ๔. มวี ินัยและกำรรกั ษำวนิ ัย ๕. เป็นบุคคลแหง่ กำรเรียนรู้ ปรับปรุง และพัฒนำตนเองอย่ำง ต่อเนอ่ื ง ใหม้ คี วำมรู้ควำมชำนำญในวิชำชพี เพม่ิ ขนึ้ ๖. ปฏิบตั ิตนโดยนำหลกั ปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพียงมำใชไ้ ด้ ๗. มที ัศนคติทีด่ ีต่อบ้ำนเมือง รวม ๒๑ คะแนนรวม/การแปลผล คะแนนรวม ๒๑ / อยู่ในระดับ ระดบั ท่มี ี ควำมเปน็ ครูมำก เกณฑก์ ารประเมิน คะแนน ๐ – ๑๐ ระดับที่มีควำมเป็นครูนอ้ ย คะแนน ๑๑ – ๑๖ ระดบั ทีม่ ีควำมเป็นครูปำนกลำง คะแนน ๑๗ – ๒๑ ระดบั ทมี่ ีควำมเปน็ ครมู ำก จำกผลกำรประเมินพบว่ำ กำรปฏิบตั ติ น ควำมเปน็ ครู โดยรวมอยใู่ นระดับระดับท่ีมคี วำมเปน็ ครมู ำก เมือ่ พิจำรณำเปน็ รำยขอ้ พบวำ่ ทุกประเด็นมรี ะดบั คะแนนท่ีแสดงถงึ ควำมเป็นครูอยู่ในระดับดีมำก
ตอนที่ ๒ ผลการประเมินศกั ยภาพของผ้เู รยี นในสถานศกึ ษาตามจดุ เน้นของ สพฐ. รายการศักยภาพของผูเ้ รยี นในสถานศึกษาตามจดุ เน้น ระดับศกั ยภาพ ของ สพฐ. สงู มาก ปานกลาง ปรับปรงุ (๓ คะแนน) (๒ คะแนน) (๑ คะแนน) ๑. ด้ำนอำ่ นออก อ่ำนคล่อง เขียนได้ เขยี นคล่อง ๒. ด้ำนคิดเลขเป็น คดิ เลขคลอ่ ง ๓. ดำ้ นกำรคิดข้ันพน้ื ฐำน ๔. ด้ำนกำรคิดข้ันสูง ๕. ด้ำนกำรสือ่ สำรอยำ่ งสรำ้ งสรรค์ตำมชว่ งวยั ๖. ดำ้ นกำรใช้ภำษำต่ำงประเทศ (ภำษำองั กฤษ) ๗. ดำ้ นกำรใช้เทคโนโลยเี พ่อื กำรเรยี นรู้ ๘. ดำ้ นกำรแสวงหำควำมรู้ด้วยตนเอง ๙. ดำ้ นใฝเ่ รยี นรู้ ๑๐. ด้ำนใฝ่ดี ๑๑. ด้ำนทักษะชีวิต ๑๒. ดำ้ นกำรอยอู่ ย่ำงพอเพียง มงุ่ มั่นในกำรศึกษำและกำร ทำงำน รวม ๑๘ ๑๔ คะแนนรวม/การแปลผล คะแนนรวม ๓๒ / การแปลผล ระดับที่มีศกั ยภำพปำนกลำง เกณฑก์ ารประเมิน คะแนน ๐ – ๒๐ ระดบั ทม่ี ีศกั ยภำพนอ้ ย คะแนน ๒๑ – ๒๘ ระดบั ทม่ี ีศกั ยภำพปำนกลำง คะแนน ๒๙ – ๓๖ ระดับท่มี ีศกั ยภำพสงู มำก จำกผลกำรประเมิน พบว่ำ ระดับศักยภำพของผู้เรียนในสถำนศึกษำตำมจุดเน้นของ สพฐ. โดยรวม อยู่ในระดับปำนกลำง เม่ือพิจำรณำเป็นรำยข้อพบว่ำ ในด้ำนท่ีต้องได้รับกำรปรับปรุง คือ ด้ำนกำรคิดขั้นสูง และด้ำนกำรใช้ภำษำต่ำงประเทศ (ภำษำอังกฤษ) ด้ำนกำรใช้เทคโนโลยีเพื่อกำรเรียนรู้ และด้ำนกำรแสวงหำ ควำมรู้ด้วยตนเอง ส่วนระดับศักยภำพอยใู่ นระดับปำนกลำง คอื ด้ำนอำ่ นออก อ่ำนคล่อง เขียนได้ เขียนคล่อง ด้ำนคดิ เลขเปน็ คิดเลขคลอ่ ง ด้ำนใฝ่เรียนรู้ และด้ำนทกั ษะชวี ิต ที่จะตอ้ งได้รบั กำรสง่ เสรมิ ในลำดบั ต่อไป
ตอนท่ี ๓ ผลการประเมนิ ศาสตรก์ ารสอน ตามกรอบแนวคดิ ของหลกั สูตรของสถาบนั ครุ พุ ัฒนา ระดบั ศักยภาพ รายการศักยภาพของผเู้ รียนตามจดุ เนน้ สงู มาก ปานกลาง ยังตอ้ ง (๓) (๒) ปรับปรุง ๑. กำรสอนในศตวรรษท่ี ๒๑ ๒. กำรแกป้ ัญหำผู้เรยี น (๑) ๓. จติ วิทยำกำรแนะแนว/จิตวทิ ยำกำรจดั กำรเรียนรู้ ๔. กำรจัดกำรชัน้ เรยี น ๕. กำรวิจัย ๖. กำรพฒั นำหลักสูตร ๗. สะเต็มศึกษำ (STEM Education) ๘. กำรใช้สื่อและเทคโนโลยีในกำรจัดกำรเรียนรู้ ๙. กำรวดั และประเมินผลกำรเรียนรู้ ๑๐. กำรออกแบบกำรเรยี นรู้ รวม คะแนนรวม/การแปลผล ๑๘ ๘ คะแนนรวม ๒๖ / การแปลผล ระดบั ศำสตร์กำรสอนสงู มำก เกณฑก์ ารประเมิน ระดบั ศำสตร์กำรสอนน้อย คะแนน ๐ – ๑๖ ระดบั ศำสตร์กำรสอนปำนกลำง คะแนน ๑๗ – ๒๓ ระดับศำสตร์กำรสอนสงู มำก คะแนน ๒๔ – ๓๐ จำกผลกำรประเมินพบว่ำ ระดับศำสตร์กำรสอน ตำมกรอบแนวคิดของหลักสูตรของสถำบันคุรุพัฒนำ โดยรวมอยู่ในระดับปำนกลำง เมื่อพิจำรณำเป็นรำยขอ้ พบว่ำ ด้ำนท่ีต้องได้รับกำรปรับปรุง คือ สะเต็มศกึ ษำ (STEM Education) และระดับศำสตร์กำรสอน ปำนกลำง คือ กำรสอนในศตวรรษที่ ๒๑ จิตวิทยำกำรแนะ แนว/จิตวิทยำกำรจัดกำรเรียนรู้ กำรวิจัย กำรพัฒนำหลักสูตร กำรวัดและประเมินผล กำรเรียนรู้ และกำร ออกแบบกำรเรียนรู้
ส่วนท่ี ๓ แผนการพฒั นาตนเอง ๑. ตารางสรุปวิธกี าร/รูปแบบการพัฒนา (เรียงลาดับความตอ้ งการในการพฒั นาตนเอง) ลาดับที่ รายการที่ต้องการพัฒนา วธิ ีการ / รูปแบบการพฒั นา ๑ กำรวจิ ัยพัฒนำกำรเรียนกำรสอน/ชมุ ชนแห่ง ๑) ภำควิชำกำร กำรเรยี นรู้ทำงวิชำชีพ ๒) ภำคปฏบิ ัติกำร ๒ กำรสอนในศตวรรษที่ ๒๑ ๓) ภำคนทิ รรศกำร ๓ กำรแกป้ ัญหำผู้เรียน ๔) กำรสร้ำงชุมชนกำรเรยี นร้ทู ำงวชิ ำชีพ ๔ กำรออกแบบกำรเรยี นรู้ ๕ กำรพัฒนำหลกั สูตร ๖ จิตวิทยำกำรแนะแนว/ จิตวิทยำกำรจัดกำรเรียนรู้ ๗ กำรจัดกำรชั้นเรียน ๘ กำรใชส้ ่ือและเทคโนโลยใี นกำรจัดกำรเรยี นรู้ ๙ กำรวดั และประเมนิ ผลกำรเรียนรู้ ๑๐ สะเตม็ ศึกษำ (STEM Education) ๒. วิธกี าร /รปู แบบการพัฒนา วิธีการที่ ๑ ภาควิชาการ ซึ่งจะเป็นกำรศึกษำหำควำมรู้ในเน้ือหำท่ีจะได้ใช้ในห้องเรียนจริงๆ โดยยึดหลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำข้ันพ้ืนฐำนเป็นหลัก เป็นควำมรู้ใหม่ท่ีเกิดจำกกำรประยุกต์ควำมรู้ เชงิ วชิ ำกำรสูก่ ำรปฏิบตั ิจรงิ ในหอ้ งเรียน ประเดน็ ในกำรพฒั นำครอบคลมุ ทั้งเรอ่ื ง หลกั สตู ร กำรเรยี นกำรสอน สื่อ กำรวัดผล และกำรวิจัย เช่ือมโยงยุทธศำสตร์ชำติ ๒๐ ปี และเป้ำหมำยผู้เรียนในศตวรรษท่ี ๒๑ หรอื แผนกำรศกึ ษำ พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๗๙ วิธีการท่ี ๒ ภาคปฏิบัติการ จะเน้นให้ได้รับกำรสร้ำงควำมเข้ำใจแบบเข้ม กำรเรียนรู้ท่ีเกิดจำก กำรคิดวิเครำะห์ สังเครำะห์ คิดข้ันสูง ด้วยกำรทบทวนควำมรู้ (Review) กำรสะท้อนคิด (Reflection) และกำรถอดบทเรียน (AAR) ด้วยกิจกรรมกำรสร้ำงปฏิสัมพันธ์ระหว่ำงครูท่ีเข้ำรับกำรพัฒนำและกับ คณะวิทยำกร เป็นกลุ่มย่อย มีวิทยำกรประจำกลุ่มทุกกลุ่ม ซึ่งจะดูแลผู้เข้ำรับกำรพัฒนำให้ได้ฝึกทักษะกำร ออกแบบเส้นทำงคุณภำพผู้เรียนสอดคล้องกับหลักสูตร/เป้ำหมำยศตวรรษที่ ๒๑ ได้ออกแบบเส้นทำง กระบวนกำรเรียนรู้อย่ำงไรก่อนสร้ำงนวัตกรรม และแสดงถึงมีวิธีกำรวัดผล/สะท้อนผลหลังจำกนำไปใช้กับ ผเู้ รียนเพือ่ ย้อนกลับนำมำปรบั ปรุงกระบวนกำรจดั กำรเรยี นรทู้ ่สี อดคลอ้ งกบั ผูเ้ รยี นต่อไป วิธีการที่ ๓ ภาคนิทรรศการ จะเป็นกำรศึกษำจำกกรณีตัวอย่ำงกำรปฏิบัติ/สื่อ-นวัตกรรมท่ีดี ทผ่ี ่ำนกำรบูรณำกำรทฤษฎแี ละกำรปฏิบัติสู่กำรพัฒนำนักเรียนจริง มกี ำรสำธิตแนวปฏิบัติ/ส่ือ-นวตั กรรมท่ีดี และฝกึ พฒั นำส่อื /วธิ ีปฏิบตั ิ/นวัตกรรมตัวอย่ำง ไปวเิ ครำะห์ สังเครำะห์ ถอดบทเรียน เพื่อประกอบกำรเขียน เค้ำโครงกำรพัฒนำกระบวนกำร/ส่ือ/นวัตกรรมนั้น ๆ ที่จะแสดงให้เหน็ ว่ำจะมผี ลสำเร็จอยำ่ งยัง่ ยืน วธิ ีการท่ี ๔ การสร้างชมุ ชนการเรยี นรู้ทางวชิ าชีพ ได้รว่ มสร้ำงกำรเรียนรใู้ นระหว่ำงกำรฝึกอบรม ด้วยกำรเรียนรู้จำกคู่พัฒนำ (Buddy) กำรแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (Share and Learn) ในกลุ่มย่อย กำรสะท้อนคิด
(Reflection) กำรถอดบทเรียน (AAR) และกำร Coaching & Mentoring จำก Mentor/Expert เพื่อให้ สำมำรถสร้ำงสรรค์ สรุปองค์ควำมรู้ท่ีผสมผสำนระหว่ำงองค์ควำมรู้จำกทฤษฎี และองค์ควำมรู้จำก ประสบกำรณ์สู่กำรปฏิบัติในชั้นเรียนได้ โดยทำงำนร่วมกับคณะวิทยำกรหลังกำรอบรมผ่ำนระบบออนไลน์ ดว้ ยกระบวนกำรชมุ ชนกำรเรยี นรวู้ ชิ ำชพี (PLC) อยำ่ งต่อเนือ่ ง
๓. ประโยชนท์ ่ีคาดว่าจะไดร้ ับ ๓.๑ ผลลพั ธ์ทีค่ าดหวงั ด้านความรู้ : เกิดกำรเรียนรู้ นำผลกำรพัฒนำสู่กำรเปลี่ยนแปลงผู้เรียน และนำ ประสบกำรณ์ เข้ำแลกเปล่ยี นเรยี นร้แู กเ่ พ่ือนรว่ มวชิ ำชีพ จนเกดิ องคค์ วำมรู้ทไี่ ด้จำกกำรเข้ำรว่ มชุมชนกำร เรียนรู้ทำงวิชำชพี ไปใชใ้ นกำรจดั กำรเรียนกำรสอน ทักษะ : มีควำมสำมำรถบูรณำกำรควำมรู้สู่กำรปฏิบัติ โดยมุ่งเน้นกำรพัฒนำผู้เรียนได้เต็ม ตำมศักยภำพ สร้ำงนวัตกรรมจำกกำรปฏิบัติท่ีส่งผลต่อคุณภำพของผู้เรียน และสร้ำงนวัตกรรมท่ีได้จำก กำรเขำ้ ร่วมในชมุ ชนกำรเรียนรู้ทำงวชิ ำชพี และพฒั นำนวัตกรรมให้เปน็ ตน้ แบบกำรเรยี นรูแ้ ก่เพื่อนร่วมวชิ ำชีพ ความเป็นครู : เข้ำร่วมชุมชนกำรเรียนรู้ทำงวิชำชีพ สร้ำงเครือข่ำยชุมชนกำรเรียนรู้ทำง วิชำชีพ สรำ้ งวัฒนธรรมทำงกำรเรยี นรู้ในสถำนศึกษำ และเป็นผู้นำกำรเปลยี่ นแปลงตอ่ วงกำรวิชำชีพ ๓.๒ ผลการนาไปใชใ้ นการพฒั นางาน คือกำรนำควำมรู้และทักษะท่ีได้รับกำรพัฒนำระหว่ำงกำรฝึกอบรมไปประยุกต์ใช้ใน กำรปฏิบัติงำนจรงิ ในหอ้ งเรยี นของตนเอง ดังนี้ ๓.๒.๑ นำเสนอแผนกำรจัดกิจกรรมแบบคู่พัฒนำ (Buddy) ๑ แผน จัดให้เพ่ือนครู หรือหัวหน้ำฝ่ำยวิชำกำร หรือรองผู้อำนวยกำรโรงเรียน ให้ข้อเสนอแนะ (Comment) แล้วนำไปปรับปรุง แผนกำรจัดกิจกรรมใหม่ จำกนั้นจึงรำยงำนผ่ำนไลน์กลุ่มของหน่วยพัฒนำ (นิติบุคคล) หจก.เพื่อครู เพ่ือให้ วิทยำกรหลัก/วทิ ยำกรพี่เลี้ยง ให้กำร Coaching ๓.๒.๒ นำแผนกำรจัดกิจกรรมที่ปรับใหม่แลว้ ไปสอนจริงในห้องเรยี น โดยมีเพ่ือนครู หรือ หัวหน้ำฝ่ำยวิชำกำร หรือรองผู้อำนวยกำรโรงเรียน ไปเย่ียมช้ันเรียน ถ่ำยภำพ หรอื คลิปกำรสอน ที่เห็นภำพ กำรเย่ียมชั้นเรียน ภำพกำรจัดกิจกรรมตำมขั้นตอนในแผนกำรจัดกิจกรรม และภำพผลงำนกำรเรียนรู้ของ ผเู้ รียน จำกนัน้ นำมำถอดบทเรียนรว่ มกบั ผู้เย่ยี มชน้ั เรียน ส่งขอ้ มูลผำ่ นระบบออนไลน์ (Line/ Facebook) ๓.๓ การสร้างชมุ ชนแหง่ การเรียนรู้ PLC Online เครือขา่ ยระดบั ชาติ หลังจำกเข้ำรับกำรอบรมตำมหลักสูตรที่สถำบันคุรุพัฒนำอนุมัติแล้ว จะเข้ำร่วมปฏิบัติ กำรกิจกรรมกำรเรียนรู้ทำงวิชำชีพ (PLC) เครือข่ำยระดับชำติ ซึ่งจะได้ปฏิบัติกิจกรรมสร้ำงชุมชนกำรเรียนรู้ ทำงวิชำชีพร่วมกับสมำชิกจำกท่ัวประเทศ กลุ่มละ ๘ – ๑๐ คน/ครั้ง ในระยะเวลำละ ๓ เดือน ตำมขั้นตอน กิจกรรม PLC ๗ ข้ัน ภำยใตก้ ำรกำกับดแู ลตลอดกำรปฏิบัติกิจกรรมและเติมเต็มควำมรู้ทำงวชิ ำกำรไปพร้อม กันของ Mentor & Expert เพื่อให้บรรลุเป้ำหมำยตำมตัวช้ีวัดกำรมีส่วนร่วมในชุมชนวิชำชีพของ ก.ค.ศ. ซึ่ง สมำชิกสำมำรถนบั เป็นช่ัวโมงกำรปฏิบตั ิงำนโดยมีร่องรอยหลักฐำนกำรปฏบิ ัตกิ ิจกรรมเพือ่ ใหห้ น่วยพัฒนำครู (นิตบิ ุคคล) หจก.เพือ่ ครู รับรองช่ัวโมง PLC เพ่ือใชเ้ ป็นร่องรอยในกำรบนั ทกึ ในระบบบันทึก (Logbook) ของ กคศ. ไดใ้ นอนำคต ลงชื่อ...................................................................... (นำงสำวพรรษรตั น์ พรมมนิ ทร์) ตำแหน่งครู ผู้จดั ทำแผนพฒั นำตวั เอง
Search
Read the Text Version
- 1 - 18
Pages: