๑.การเขียนกระทู้ธรรมชั้นตรี หมวดทาน

ตัวอย่าง หมวดทาน การเขียนกระทธู้ รรมชนั้ ตรี สาหรบั สอบธรรมสนามหลวง ททมาโน ปโิ ย โหติ ผ้ใู หย้ อ่ มเปน็ ทรี่ ัก บัดนี้จักได้อธิบายขยายเน้ือความแห่งกระทู้ธรรมสุภาษิตที่ลิขิตไว้ ณ เบ้ืองต้นพอเป็นแนวทางแห่งการศึกษาและนาไปปฏิบัตสิ บื ตอ่ ไป ผู้ให้ คือบุคคลผู้บริจาค สละให้ปันวัตถุส่ิงของอย่างใดอย่างหน่ึงด้วยจิตอันบริสุทธิ์แก่ผอู้ ่นื โดยไม่หวงั ตอบแทน กเ็ พ่ือสงเคราะหค์ นทีข่ ัดสน คนผู้ตกทกุ ข์ได้ยาก หรือเพื่อบชู าทา่ นผู้ทรงคุณแม้ไมข่ ัดสน ฝ่ายผูร้ ับก็เกิดความยินดดี ใี จซง้ึ ในน้าใจของเขา เขากจ็ ะเป็นที่รักและเคารพของคนอ่ืน ก็เม่ือบุคคลผู้มีอัธยาศัยกว้างขวาง มีจิตใจโอบอ้อมอารีอย่างน้ีบุคคลนั้นย่อมผูกไมตรีคนอื่นไว้ได้ และผู้ที่ได้รับการอนุเคราะห์หรือการบูชา ย่อมมีไมตรีจติ เคารพ รักใคร่ตอบแทน ตลอดจนหาหนทางตอบแทนเขาตามสติก้าลังของตนๆ ทีจ่ ะท้าได้ เพราะการให้น้ัน น้าความสุขความเจริญ และประโยชน์มาให้ทั้งสองฝ่าย ท้ังผู้ให้และผู้รับ แต่บรรดาการให้ท้ังปวงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสรรเสริญการให้ธรรมเป็นทานว่ายอดเย่ียมกว่าการให้ท้ังหมด และผู้ให้ย่อมจะกลายเป็นท่ีรักของคนหมู่มากสมดังพุทธศาสนสภุ าษิตท่มี าในองั คตุ ตรนิกาย ปญั จกนบิ าตวา่ ทท ปิโย โหติ ภชนฺติ พหู ผ้ใู หย้ อ่ มเป็นที่รกั คนหมมู่ ากยอ่ มคบเขา การให้ส่ิงใดสิ่งหนึ่ง เพ่ือสงเคราะห์คนที่ขัดสน หรือบูชาท่านผู้ทรงคุณธรรมแม้ไม่ขดั สน คนอัธยาศยั กวา้ งขวางเช่นนี้ ย่อมผูกไมตรคี นอื่นท่ีได้รบั อนเุ คราะห์หรือบชู าไว้ได้ ให้คนน้ันๆ มีไมตรีจิตเคารพรักใคร่ ตลอดจนได้ท้าปฏิบัติอย่างใดอยา่ งหนง่ึ ตอบแทน ตามสติกา้ ลังของตน และพลังของการให้นี้เอง ท้าให้แผ่ขยายออกไปกว้างขวาง เมอ่ื หมู่ชนได้ยินก็จะพลอยยนิ ดี อยากคบหาสมาคมด้วย เพ่อื ว่าจะได้รับการดูแลในยามล้าบากเข็ญใจ จึงท้าให้คนท่ีเป็นผู้ให้ ได้รับความนิยมชมชอบของคนเป็นจ้านวนมาก ท้าให้เกิดพลังสามัคคีตามมา สามารถใช้พลังของความรักเปน็ อันหน่ึงอันเดียวกัน เป็นพลังสามคั คีท้ากิจการงานใด จะน้าไปสู่ความส้าเร็จ บ้านเมืองร่มเย็นเป็นสุข เพราะพลังของการให้ท้าให้สังคมเป็นสังคมดี เพราะประกอบด้วยคนดีช่วยกันบริหารบ้านเมืองด้วยความสามัคคี บ้านเมืองก็มีความสุขก็ดว้ ยเพราะอานสิ งส์ของการให้ ชว่ ยเหลือ มนี ้าใจคา้ จนุ ซึ้งกนั และกนั เชน่ น้เี อง ทมี่ า - www.ธรรมศึกษา.com -

ตวั อยา่ ง หมวดทาน สรุปความว่า ผู้ให้ คือบุคคลผู้สละให้ปันวัตถุสิ่งของอย่างใดอย่างหน่ึงด้วยจิตอันบริสุทธ์ิแก่ผู้อื่น เมื่อมีการให้ท้ังการให้ทาน ให้อภัย ย่อมสามารถเป็นแรงผลักดันให้เกิดความสามัคคีในหมู่คณะ จนสามารถจะท้ากิจการงานใดให้ส้าเร็จลุล่วงไปได้ หากเราเป็นผใู้ ห้แล้วจะสามารถทา้ ให้สงั คมสงบสุข ทุกคนในประเทศก็จะมีความรกั ใคร่ มีความสามคั คีกนั ดว้ ยอานิสงส์ของการให้เชน่ นี้ ผู้ให้ยอ่ มจะไดร้ บั ความสขุ ทั้งในโลกนแ้ี ละโลกหน้า คืออยู่ในโลกนี้ก็มีแต่คนรักนับหน้าถือตา เมื่อจากโลกน้ีไปแล้วย่อมไปสูสุคติ สมดังพุทธศาสนสภุ าษติ ทย่ี กข้ึนเป็นนกิ เขปบทเบอ้ื งตน้ ว่า ททมาโน ปโิ ย โหติ ผใู้ ห้ยอ่ มเปน็ ทร่ี กัมีนยั ดังพรรณนามาด้วยประการฉะนี้. ***** ท่ีมา - www.ธรรมศึกษา.com -