มีโครงงานคุณธรรม เปน แบบอยา งใหกับโรงเรยี นอนื่ ได โรงเรยี นนาวงั วทิ ยา อาํ เภอเมือง จงั หวดั อํานาจเจรญิ สํานกั งานเขตพืน้ ทก่ี ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษาอบุ ลราชธานี อาํ นาจเจริญ สํานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
9.มโี ครงงานคณุ ธรรม เปน็ แบบอย่างใหก้ ับโรงเรียนอื่นได้ รายงานโครงงานคุณธรรมระดับ โรงเรียน/ชั้นเรียน/หอ้ งเรียนท่เี ปน็ แบบอย่างให้กบั โรงเรียนอนื่ หลกั ฐานแสดงการเปน็ แบบอย่าง ให้สถานศึกษาอนื่ โรงเรียนนาวงั วทิ ยา มกี ารให้นกั เรยี นจดั ทำโครงงานโดยผา่ นการวางแผนจากสภานกั เรียน มีการจดั ทำ นำเสนอ และมอบรางวลั ให้กับหอ้ งเรยี นที่เป็นแบบอยา่ งท่ีดี
“ตัวอยา่ ง” โครงงานเรื่อง “สามัคคีสร้างพลังสรา้ งสรรค์” จดั ทำโดย นกั เรียนระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี ๓/๒ โรงเรยี นนาวงั วิทยา สำนักงานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษามัธยมศึกษา เขต ๒๙ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พื้นฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร
คำนำ โครงงานเรื่อง “สามัคคีสร้างพลงั สร้างสรรค์” น้ีเป็นสว่ นหนึ่งของการจดั กิจกรรม ตามโครงการบูรณาการ ร่วมของกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และสังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม จัดทำขึ้นเพ่ือ นำเสนอวิธีการที่จะทำให้ห้องเรียนสะอาด นั่นก็คือการนำหลักธรรมคำสอนมาใช้เกี่ยวกับอิทธิบาท ๔ ความ รับผิดชอบ ความขยันหมั่นเพียร คณะผู้จัดทำต้องขอขอบคุณครูที่ปรึกษาทุกท่านที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการทำ โครงงาน คณะผู้จัดทำ หวังเป็นอย่างยิ่งวา่ ผูท้ ี่อ่านโครงงานนี้จะได้รับความรูจ้ ากโครงงาน และคงจะเป็นประโยชน์ กบั ทา่ นผู้อ่าน โครงงานเลม่ นอ้ี าจมีสง่ิ ใดผิดพลาดกข็ ออภยั มา ณ โอกาสนี้
สารบญั บทท่ี ๑ บทนำ หนา้ บทที่ ๒ เอกสารทีเ่ กี่ยวข้อง ๑ บทท่ี ๓ วิธกี ารดำเนนิ งาน ๓ บทที่ ๔ ผลการศึกษาค้นควา้ ๙ บทที่ ๕ สรปุ ผล ๑๐ ภาคผนวก ๑๑ ๑๒ - รูปภาพ ๑๓
ชื่อโครงงาน สามัคคสี รา้ งพลังสรา้ งสรรค์ ผูจ้ ัดทำโครงงาน นักเรยี นช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๓ /๒ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ ชือ่ ที่ปรึกษา .... สถานท่ีทำโครงงาน ห้องเรยี นชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี ๓ /๒ บทคดั ย่อ จากการสังเกตในการเข้าเรยี นของนักเรยี นในแตล่ ะชัว่ โมงของนกั เรยี นชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ ๓ / ๒ ซง่ึ เรยี น ประจำที่ห้องเรียนของตนเอง พบว่านกั เรียนทำงานแลว้ ไม่ค่อยเก็บวสั ดอุ ปุ กรณเ์ ข้าท่ี ท้ิงปากกา ท้ิงเศษกระดาษ ตามซอกเก้าอี้ ท่ีพื้นและไมจ่ ัดโต๊ะเกา้ อใี้ หเ้ ป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่เกบ็ ของใช้ให้เรียบร้อย ในห้องเรยี นมัธยมศกึ ษา ปที ี่ ๓ / ๒ จะมีเวรประจำวัน ทำความสะอาดในตอนเย็นและตอนเชา้ ของทุกวนั แตน่ ักเรียนในชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ ๓ /๒ ยงั มกี ารท้ิงขยะในห้องเรียน จงึ ทำใหห้ ้องเรียนไมส่ ะอาด มีขยะในห้องเรยี น จึงทำใหห้ ้องเรยี นชนั้ มธั ยมศึกษา ปที ี่ ๓/๒ ไมส่ ะอาด ไมเ่ ปน็ ระเบยี บ ดงั นน้ั นกั เรยี นชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ ๓/๒ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ จึงมีความสนใจท่จี ะทำให้ปัญหาดงั กล่าวหมดไป จึงได้จดั ทำโครงงาน เรอ่ื ง “การท้ิงขยะในหอ้ งเรยี นมธั ยมศกึ ษา ปที ี่ ๓/๒”ข้ึน โดยมีวัตถปุ ระสงค์เพ่ือให้นักเรยี นมคี วามรู้และความเขา้ ใจเกี่ยวกับความรับผิดชอบของตนเอง เพือ่ ให้นกั เรยี นช่วยกนั รกั ษาความสะอาดของห้องเรยี นและฝึกความรับผดิ ชอบในการท้ิงขยะและสรา้ งจิตสำนึกใน การท้ิงขยะในห้องเรยี นมัธยมศึกษาปีท่ี ๓/๒ ผลการทำโครงงานพบว่านกั เรียนที่เข้าร่วมกจิ กรรมโครงงาน “สามัคคีสรา้ งพลงั สรา้ งสรรค์” มีความ รับผิดชอบ มจี ิตสำนึกในการทงิ้ ขยะและมวี นิ ยั ในตนเองมากขึน้ ผลการตรวจหอ้ งเรียน ร้อยละ ๘๐ ห้องเรยี นมี ความสะอาดและเป็นระเบยี บเรยี บร้อยมากขึ้น
บทที่ ๑ ๑) ที่มาและความสำคัญของปัญหา จากการสังเกตในการเข้าเรยี นของนักเรยี นในแต่ละช่วั โมงของนักเรียนชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี ๓/๒ ซง่ึ เรยี น ประจำทหี่ ้องเรียนของตนเอง พบวา่ นักเรยี นทำงานแล้วไม่ค่อยเก็บวสั ดอุ ุปกรณเ์ ขา้ ที ท้ิงปากกา ท้ิงเศษกระดาษ ตามซอกเก้าอ้ี ท่ีพืน้ และไมจ่ ัดเกา้ อ้ีใหเ้ ป็นระเบยี บเรียบร้อย ไม่เกบ็ ของใชใ้ หเ้ รยี บรอ้ ย ในหอ้ งเรยี นมธั ยมศึกษาปีที่ ๓ / ๒ จะมีเวรประจำวัน ทำความสะอาดในตอนเย็นและตอนเช้าของทุกวัน แตน่ ักเรยี นในชั้นมธั ยมศึกษาปที ๓่ี /๒ ยงั มกี ารท้ิงขยะในห้องเรยี น จึงทำให้ห้องเรยี นไม่สะอาด มีขยะในห้องเรียน จึงทำใหห้ ้องเรียนชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๓/๒ ไม่สะอาด ไมเ่ ปน็ ระเบยี บ ในหอ้ งเรียนมธั ยมศึกษาปีท๓ี่ / ๒ จะมเี วรประจำวัน ทำความสะอาดในตอนเย็น และตอนเชา้ ของทกุ วนั แตน่ ักเรียนในช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี๓ /๒ ยงั มกี ารทิ้งขยะในห้องเรยี น จงึ ทำให้ห้องเรียนไม่ สะอาด มีขยะในห้องเรียน เวรไม่ทำความสะอาดห้องเรยี น จงึ ทำให้หอ้ งเรยี นชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๓/๒ ไมส่ ะอาด ไมเ่ ปน็ ระเบยี บ ดงั นั้น นักเรียนชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๓/๒ ภาคเรยี นท่ี ๑ปีการศึกษา ๒๕๖๓ จึงมคี วามสนใจทจ่ี ะทำ ให้ปัญหาดังกลา่ วหมดสนิ้ ไป จึงไดจ้ ดั ทำโครงงานคุณธรรม เรอ่ื ง “การทง้ิ ขยะในห้องเรียนช้นั มธั ยมศึกษาปีที่๓/๒” ขนึ้ เพอ่ื ใหน้ ักเรยี นชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี ๓/๒ โรงเรยี นนาวังวทิ ยา ภาคเรยี นที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ มีความ รับผดิ ชอบและห้องเรยี นชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๓/๒ มคี วามสะอาดเรียบรอ้ ย และมจี ิตสำนึกในการทิ้งขยะมากข้ึน ๒) วัตถุประสงค์ ๒.๑ ดา้ นความรู้ (Knowleadge) เพื่อให้นักเรยี นมคี วามรู้และความเข้าใจเก่ียวกับความรับผดิ ชอบของ นกั เรยี น ๒.๒ ดา้ นกระบวนการปฏิบตั ิ (Process) เพอื่ ใหน้ ักเรียนช่วยกนั รกั ษาความสะอาดของห้องเรยี นและท้ิง ขยะให้ลงถงั และมีการฝึกความรบั ผิดชอบหนา้ ทีเ่ วรประจำวนั ดว้ ยจติ อาสา ๒.๓ ดา้ นเจตคติ (Attitude) เพ่ือปลูกฝังความรบั ผดชอบ สร้างความตระหนักและจิตสำนึกในความ รบั ผิดชอบให้กบั นักเรยี น ๒.๔ เพื่อเปน็ การดำเนนิ การตามแนวทางการดำเนินงานโรงเรยี นคณุ ธรรม สพฐ. ๓) ปัญหา หอ้ งเรียน ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๓/๒ ไม่สะอาด ๔) สาเหตขุ องปัญหา ๔.๑ นกั เรยี นไม่ทง้ิ ขยะลงถงั ๔.๒ ไมม่ จี ติ สำนึกในกาทิ้งขยะ ๔.๓ นักเรียนเรียนเสรจ็ แล้วไม่เก็บของใช้ใหเ้ รียบร้อยก่อนไปเรียนวชิ าอ่นื ๕) กลุ่มเปา้ หมาย - เชงิ ปรมิ าณ : นักเรียนชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ ๓/๒ จำนวน ๒๕ คน - เชงิ คณุ ภาพ : นักเรยี นชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ ๓/๒ โรงเรยี นนาวังวทิ ยามคี วามรับผดิ ชอบช่วยกนั ทำความ สะอาด ไม่ทิ้งเศษขยะในห้องเรยี น และหอ้ งเรียนมีความสะอาดเรยี บรอ้ ย - เปา้ หมายระยะสนั้ (ระยะเวลา ๓ เดอื น) นกั เรยี นนกั เรียนชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี ๓/๒ โรงเรียนนาวังวิทยามี จติ อาสาช่วยกนั ทำความสะอาด มีจติ สำนึกในการท้งิ ขยะไม่ทงิ้ เศษขยะในห้องเรยี น - เปา้ หมายระยะยาว (ระยะเวลา ๖ เดอื น) นักเรยี นช้ันมัธยมศึกษาศึกษาปีท่ี ๓/๒ โรงเรยี นนาวังวิทยา มี
จติ อาสา ช่วยกันทำความสะอาด ไม่ท้ิงเศษขยะในหอ้ งเรียน มีจติ สำนกึ ในการทงิ้ ขยะ ทำให้ห้องเรยี นมีความสะอาด เรยี บรอ้ ยเป็นประจำทุกวนั บทท่ี ๒ เอกสารทเี่ กีย่ วข้อง หลักธรรมและพระราชดำรัส คณุ ธรรม การปฏิบตั ิ / กิจกรรมของโครงงาน ๑. ขยัน - ขยนั ในการศึกษาหาความรู้ - ใช้เวลาว่างใหเ้ กิดประโยชนโ์ ดยการชว่ ยกันทำโครงงาน - ทำตามหน้าทท่ี ี่ไดร้ ับมอบหมายตลอด ๒. ประหยดั - ทำโครงงานโดยใชง้ บประมาณไม่มากเกนิ ไป - รไี ซเคิลโดยการนำกระดาษท่ใี ชแ้ ล้วมาทำปา้ ยประกาศ ๓. ซ่อื สตั ย์ - ปฏิบัตหิ น้าท่ดี ว้ ยตนเองโดยไม่ใช้ใครทำแทน - ทำตามกฎท่ีต้งั ไว้เพ่ือเป็นตัวอยา่ งแกค่ นอ่นื ๔. มวี นิ ัย - มีระเบยี บวนิ ัยในการรว่ มกนั ทำโครงงานโดยนดั หมายตรงตาม เวลา - มรี ะเบียบวินัยในการทำหนา้ ทดี่ แู ลห้องเรียน - มรี ะเบียบวินัยในการไมน่ ำอาหารขึน้ มากินบนอาคารเพื่อเป็นตวั อย่างที่ควร ปฏบิ ัตติ าม ๕. สุภาพ - ดแู ลตึกดว้ ยความต้งั ใจ ไมเ่ ล่นขณะปฏิบัติหนา้ ที่ ไม่ทะเลาะกันหรือเก่ียงกัน - ปฏิบตั งิ านโดยแบง่ หน้าท่ีกัน โดยพูดจากันด้วยความสภุ าพ - ตักเตอื นโดยใช้คำพูดอย่างสุภาพ ไม่ตะโกนหรอื โวยวายใส ๖. สะอาด - ตรวจดูอาคารวา่ มเี ศษขยะบนพ้ืนอาคาร หรอื ในห้องเรยี น - ทำใหอ้ าคารปราศจากเศษขยะ ทำความสะอาดจดุ ที่ไมส่ ะอาด ๗. สามคั คี - กลุ่มผจู้ ดั โครงงานและเพ่ือนๆ ช่วยกันดแู ลห้องเรียน - สามคั คกี ันสร้างจิตสำนึกทด่ี ีในการไมท่ ำให้ห้องเรยี นสกปรกหรอื ส่งกล่ิน เหม็น - สามคั คีกนั ในการชว่ ยกันทำโครงงาน ๘. มนี ้ำใจ - แบง่ เบาภาระโดยการชว่ ยเหลือเพ่ือน หรอื นกั การภารโรง - มนี ำ้ ใจในการท่ีจะแลอาคาร หรือทำความสะอาดห้องเรียน
หลักธรรมทนี่ ำมาใช้ อทิ ธบิ าท ๔ ได้แก่ ฉันทะ (ความพอใจ) คือ ความต้องการทจี่ ะทำ ใฝใ่ จรักจะทำสิง่ นั้นอยเู่ สมอ และปรารถนาจะทำให้ ไดผ้ ลดีย่งิ ๆขน้ึ ไป วิริยะ (ความเพยี ร) คือ ขยันหมน่ั ประกอบสิง่ นัน้ ดว้ ยความพยายาม เขม้ แขง็ อดทน เอาธรุ ะ ไมท่ ้อถอย จิตตะ (ความคดิ ) คือ ตั้งจติ รับรู้ในส่งิ ท่ีทำ และทำส่งิ น้นั ดว้ ยความคดิ เอาจิตฝักใฝ่ ไม่ปล่อยใจให้ ฟุ้งซ่านเลื่อนลอยไป วิมังสา (ความไตร่ตรอง หรือ ทดลอง) คือ หมัน่ ใชป้ ญั ญา พิจารณาใคร่ครวญ ตรวจหาเหตุผล และ ตรวจสอบข้อยง่ิ หย่อนในสงิ่ ทท่ี ำนัน้ มีการวางแผน วดั ผล คิดค้นวิธแี ก้ไขปรับปรงุ ภาระหนา้ ท่ีและความรับผิดชอบของบุคคล การกระทำหรอื การแสดงพฤติกรรมของบุคคลที่เปน็ ไปตามความคาดหวงั ตามตำแหนง่ ในอาชีพหรือ ตำแหน่งทสี่ ังคมกำหนดข้นึ ซึ่งโครงสร้างของบทบาทประกอบดว้ ย ลกั ษณะที่เฉพาะของแต่ละบุคคล การแสดง พฤติกรรมและตำแหน่งที่ครองอยู่ หรือพฤติกรรมท่ีคนในสงั คมต้องทำตามสถานภาพในกลุม่ หรือสังคม โดย บทบาท (Role) สามารถแยกได้ ๔ ประเภทหลักดงั น้ี ๑. บทบาททค่ี าดหวงั (Role expectation) ทุกสงั คมจะมีบทบาทให้ทุกคนปฏิบัตติ ามแตล่ ะสถานภาพ หรือเรยี กว่า ๒. บทบาทท่ีกระทำจริง (Role performance) ในชวี ติ จริงทกุ คนอาจไมไ่ ด้ปฏิบตั ิตามบทบาททีส่ งั คม กำหนดไว้ เพราะต้องปรบั ตวั ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ๓. บทบาทท่ีขดั แย้ง (Role conflict) การอยู่ในสงั คมทุกคนจะมีบทบาททตี่ ้องกระทำแตกตา่ งกันหลาย บทบาท การแสดงบทบาทหลายบทบาทในเวลาเดยี วกัน ๔. บทบาทท่ถี กู บังคบั (Role strain) หากในการกระทำตามบทบาทน้นั เกดิ ความไม่เต็มใจทจี่ ะทำตาม บทบาทท่ีกำหนดไว้ การทบ่ี คุ คลมีบทบาทต่อสงั คม และปฏบิ ัติตามหน้าท่ีทส่ี งั คมยอมรบั มีความสำคัญเป็นอันมาก เพราะทำให้การจัด ระเบียบสงั คมดขี น้ึ เปน็ การควบคมุ สงั คมให้เป็นระเบียบ ถ้าคนไม่ปฏบิ ัติตามหนา้ ที่ ตามบทบาทของตนในสังคมให้ สมกับสถานภาพท่ีได้รับ ก็จะทำใหส้ ังคมเสียระเบียบ ทำให้เกิดปัญหาและความยุ่งยากให้แกส่ งั คม แนวคดิ เกีย่ วกับบทบาทซึ่งสรุปไดว้ า่ บทบาทจะต้องประกอบดว้ ยลกั ษณะ ๔ ประการ ดงั ตอ่ ไปน้ี ๑.๑ รสู้ ภาพของตนในสงั คม ๑.๒ คำนึงถงึ พฤติกรรมท่เี ก่ียวข้องกับผู้อน่ื ๑.๓ คำนงึ ถงึ พฤตกิ รรมทเี่ ก่ยี วกบั ผูอ้ ืน่ และ ๑.๔ ประเมินผลการแสดงบทบาทของตนเอง หนา้ ที่ (DUTY) หมายถึง ภาระรบั ผดิ ชอบของบุคคลที่จะต้องปฏบิ ัติ เช่น หน้าทข่ี องบดิ าท่ีมีต่อบตุ ร เปน็ ต้นความสอดคล้องของสถานภาพและบทบาทของบุคคลท่ีมาของหนา้ ท่ี
๑. ผลจากการท่คี ุณเปน็ มนุษย์ ๒. ผลจากการท่ีเปน็ ส่วนหน่ึงของชวี ิตคนอน่ื ๓. เป็นหลกั ในการในความประพฤตหิ นึง่ ของบุคคล ๔. เป็นสิง่ คาดหวงั ของตนในการทำหนา้ ที่ตามคุณธรรม ความรบั ผิดชอบ (RESPONSIBILITY) หมายถึง ลักษณะของบคุ คลทีแ่ สดงออกถึงความเอาใจใส่ จดจอ่ ตง้ั ใจ มงุ่ มน่ั ต่อหน้าที่การงาน การศกึ ษาเล่าเรียน และการเป็นอย่ขู องตนเอง และ ผู้อยใู่ นความดูแล ตลอดจน สังคม อย่างเต็มความสามารถ เพอื่ ใหบ้ รรลุผลสำเร็จตามความมงุ่ หมายในเวลาที่กำหนด ยอมรับผลการกระทำทั้ง ผลดแี ละผลเสยี ที่เกดิ ขึ้น รวมทั้งปรับปรงุ การปฏบิ ัติงานให้ดีข้ึนเปน็ ความผูกพนั ในการที่จะปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ใี ห้สำเรจ็ ลลุ ว่ งไปได้ และความสำเรจ็ นี้เกี่ยวข้องกับปัจจยั ๓ ประการ คือ พนั ธะผูกพนั หนา้ ที่การงาน และวัตถปุ ระสงคแ์ บ่ง ประเภทความรับผดิ ชอบไวด้ ังนี้ ๑. ความรบั ผดิ ชอบต่อตนเอง หมายถงึ การรับรู้ฐานนะและบทบาทของตนท่ีเปน็ สว่ นหนง่ึ ของสงั คมจะต้องดำรงตนใหอ้ ย่ใู นฐานนะท่ีช่วยเหลอื ตวั เองได้ รูจ้ ักว่าสง่ิ ใดถกู ส่ิงใดผิด ยอมรบั ผลการกระทำของตนเองท้ังที่เปน็ ผลดีและผลเสยี เพราะฉะน้ันบคุ คลทม่ี ีความ รับผดิ ชอบในตนเองย่อมจะไตร่ตรองดูให้รอบคอบก่อนว่า สง่ิ ท่ตี นเองทำลงไปนัน้ จะมีผลดีผลเสยี หรือไมแ่ ละจะ เลือกปฏบิ ัติแต่สง่ิ ท่จี ะก่อใหเ้ กิดผลดเี ทา่ น้นั ๒. ความรบั ผดิ ชอบต่อสังคม หมายถึง ภาระหน้าท่ีของบุคคลที่จะต้องเก่ยี วข้อง และมีส่วนรว่ มต่อสวัสดิ ภาพของสังคมทตี่ นเองดำรงอยู่ ซ่ึงเปน็ เรือ่ งท่ีเก่ยี วข้องกบั หลายสิ่งหลายอยา่ ง ต้ังแตส่ ังคมขนาดเลก็ ๆ จนถงึ สงั คม ขนาดใหญ่ การกระทำของบุคคลใดบคุ คลหนงึ่ ย่อมมีผลกระทบตอ่ สงั คมไม่มากก็น้อย บุคคลทุกคนจึงตอ้ งมี ภาระหน้าท่ีและความรับผดิ ชอบทจี่ ะตอ้ งปฏิบัตติ ่อสงั คม ดังตอ่ ไปนี้ ๒.๑ ความรบั ผดิ ชอบตอ่ หนา้ ท่พี ลเมือง ได้แก่ การปฏบิ ัตติ ามกฎระเบียบของสังคม การรักษาทรัพยส์ นิ ของสังคม การชว่ ยเหลือผ้อู ่ืน และการให้ความรว่ มมือกบั ผู้อ่นื ๒.๒ ความรับผิดชอบต่อครอบครวั ไดแ้ ก่ การเคารพเช่อื ฟงั ผ้ปู กครอง การชว่ ยเหลอื งานบา้ นและการรกั ษาช่อื เสียงของครอบครวั ๒.๓ ความรับผดิ ชอบต่อโรงเรียน ไดแ้ ก่ ความต้ังใจเรียน การเชื่อฟังครู – อาจารย์ การปฏิบัตติ ามกฎของโรงเรยี นและการรักษาสมบัติของโรงเรียน ๒.๔ ความรับผดิ ชอบตอ่ เพอื่ น ไดแ้ ก่ การชว่ ยตกั เตือนแนะนำเม่ือเพื่อนกระทำผดิ การชว่ ยเหลอื เพอ่ื น อย่างเหมาะสม การใหอ้ ภัยเมื่อเพ่ือนทำผิดการไมท่ ะเลาะและ เอาเปรยี บเพือ่ น และการเคารพสิทธซิ ่ึงกันและกัน
บทที่ ๓ วัสดุอุปกรณ์และวิธีดำเนนิ การ ๑) วธิ กี ารแกไ้ ขปัญหา ๑. สรา้ งความตระหนักและจติ สำนึกในความรับผิดชอบใหก้ บั นักเรยี น ๒. ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั รกั ษาความสะอาดของห้องเรยี นและทิ้งขยะใหล้ งถัง ๓. ฝกึ ความรบั ผดิ ชอบตอ่ หน้าท่ีเวรประจำวันดว้ ย จติ อาสา ๔. ผ้บู รหิ าร และครูเป็นแบบอย่างท่ีดใี ห้กบั นักเรียน ๕. นกั เรยี นทำกจิ กรรมเก่ยี วกับการลดขยะในชัน้ เรียน กจิ กรรมที่ ๑ กจิ กรรมเปลยี่ นขวดเป็นเงิน วตั ถุประสงค์ ๑. เพื่อให้ทุกคนเห็นคุณค่าของขยะท่สี ามารถนำกลบั มาทำให้เกิดประโยชน์ได้อีกครงั้ ๒. เพือ่ ใหท้ ุกคนรจู้ ักแยกขยะ ๓. เพือ่ ชว่ ยให้ขยะภายในโรงเรยี นลดลงและชว่ ยใหส้ ิง่ แวดล้อมภายในโรงเรยี นใหด้ ยี ่ิงขนึ้ วธิ ดี ำเนนิ งาน ๑. ใหต้ วั แทนของนักเรยี นไปอธบิ ายวธิ เี ปลี่ยนขวดให้เปน็ เงินโดยอธบิ ายใหก้ บั นักเรยี นในห้อง ๒. มอบหมายให้นกั เรยี นทอ่ี ยู่ภายในหอ้ งเรยี น ไปอธิบายให้กบั สมาชิกในห้องแลว้ ให้ปฏิบัติ ตาม ๓. นกั เรยี นสามารถนำขวดน้ำไปแลกทธี่ นาคารขวดของโรงเรียนหรือนำมาประดิษฐ์เปน็ ของใช้ได้ ประโยชน์ท่ไี ดร้ ับ ๑. ขยะภายในอาคารและห้องเรยี นลดน้อยลง ๒. ภายในตัวอาคารและห้องเรียนมคี วามสะอาดนา่ เรียน ๓. นกั เรียนรูจ้ ักมรี ะเบียบวนิ ัยในการทงิ้ ขยะ ๔. สามารถนำประโยชนจ์ ากการแยกขยะนำไปใชป้ ระโยชน ๒) หลกั ธรรมที่นำมาใช้ อิทธบิ าท ๔ ๑. ฉันทะ ความพอใจรักใครใ่ นสิ่งน้นั ๒. วริ ยิ ะ ความพากเพยี รในส่ิงน้ัน ๓. จิตตะ ความเอาใจใส่ฝกั ใฝ่ในสิ่งนั้น ๔. วมิ งั สา ความหมน่ั สอดส่องในเหตุผลของสิง่ น้ัน ๓) พระราชดำรัส/พระราชดำร/ิ คำสอน/พระบรมราโชวาท การจะทำงานให้มีประสิทธิผล และให้ดำเนินไปได้โดยราบรื่น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำด้วยความ รับผิดชอบอย่างสูง ไม่บิดเบือนข้อเท็จจริง ไม่บิดเบือนจุดประสงค์ที่แท้จริงของงานสำคัญที่สุดต้องเข้าใจ ความหมายของคำว่า ความรับผิดชอบ ให้ถูกต้อง พระบรมราโชวาทของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (ในพิธี พระราชทานปรญิ ญาบตั รของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๑๙)
การบรู ณาการกบั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ๑. ความพอประมาณ .ใชว้ สั ดอุ ุปกรณ์ทมี่ ใี นห้องเรียนอย่างประหยัด พอเพยี ง ๒. ความมเี หตผุ ล รู้จกั เลือกการใชว้ สั ดุในห้องเรยี นใหเ้ ปน็ ประโยชน์ ๓. ความมภี มู คิ ุ้มกนั ที่ดี ทำให้หอ้ งเรยี นมคี วามสะอาด เรยี บรอ้ ย เงื่อนไข ๑. เงือ่ นไขความรู้ รบั รู้ถึงการปลกู จติ สำนึกความรับผิดชอบ ความสามัคคี ๒. เงอ่ื นไขคุณธรรม มจี ติ อาสา ในการทำความสะอาด ทำความดี ชว่ ยเหลือผ้อู น่ื เพื่อ สว่ นรวมในสังคมปจั จบุ ัน ๔) ความเชื่อมโยงสคู่ ุณธรรมอตั ลกั ษณ์: จติ อาสา พฤติกรรมบ่งชเี้ ชิงบวก : ผบู้ รหิ ารและครูมีการปฏบิ ัติเปน็ แบบอย่างท่ีดใี นเรอ่ื งของความมีวินยั และ รับผิดชอบ และเอาใจใสใ่ นให้นักเรียนในการเรยี นการสอน การปฏิบัตติ นของนักเรียน นักเรยี นทำงานท่ไี ด้รับ มอบหมายตรงตามเวลาและห้องเรยี นมีความสะอาด เรียบร้อย เปน็ ประจำทกุ วันและตอ่ เนื่อง ๕) วิธีการวดั และประเมนิ ผล ๙.๑ วิธีการวัดผล วธิ ีการประเมนิ : การสงั เกต ๙.๒ เคร่ืองมือการวัดผล เครอื่ งมือท่ีใชใ้ นการประเมิน : แบบสังเกต ๙.๓ ช่วงระยะเวลา ช่วงเวลาการประเมิน : สัปดาห์ละ ๑ คร้งั บทที่ ๔ ผลการศึกษา จากการทำโครงงาน “การทง้ิ ขยะในหอ้ งเรียนชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ ๓/๒” ของนักเรียนระดับช้นั มัธยมศึกษา ปีที่ ๓/๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ โรงเรียนนาวังวิทยา โดยเริ่มจากการประชุมปรึกษาหารือเกี่ยวกับการดำเนินงาน ภายในห้องเรยี น เชน่ การแตง่ ตง้ั หวั หนา้ ห้อง การแตง่ ตัง้ เวรประจำวัน ฯลฯ การเลือกหัวหน้าเวรประจำวันและ ให้ สมาชกิ แต่ละคนเลือกเวรประจำวันตามความสมัครใจ จดั ทำแนวปฏิบัติและข้อตกลงในการปฏบิ ัตหิ น้าท่ีเวรแต่ ละ วนั ทุกคนปฏบิ ตั หิ นา้ ทต่ี ามท่ีได้รับมอบหมาย และสงั เกตพฤติกรรมการปฏิบัติงาน สามารถสรุปผลการ ดำเนินงาน ดังน้ี จากการศึกษาพบว่า ๑. นกั เรยี นทีเ่ ข้ารว่ มกจิ กรรมโครงงาน “ห้องเรยี นสะอาดดีเพราะมีความรบั ผิดชอบ” มีความรับผดิ ชอบ และมวี ินยั ในตนเองมากขนึ้ และสร้างจิตสำนึกในตนเอง ๒. ผลการตรวจห้องเรยี น รอ้ ยละ ๘๐ มีความสะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อยมากข้ึน
บทท่ี ๕ สรปุ ผลและอภปิ รายผลการทดลอง สรปุ ผลการดำเนินงาน จากการดำเนินงานโครงงาน “ การทิ้งขยะในห้องเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓/๒ ” ของนักเรียนระดับช้นั มัธยมศึกษาปีที่ ๓/๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ เพื่อแก้ปัญหาการทิ้งขยะในห้องเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓/๒ และเวร ประจำวันไม่ทำความสะอาดหอ้ งเรยี น โดยสรุปผลการดำเนินงาน ดงั น้ี ๑. นักเรยี นที่เขา้ รว่ มกจิ กรรมโครงงาน “การทิ้งขยะในห้องเรยี นชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๓/๒ ” มีความ รับผิดชอบและมวี นิ ัยในตนเองมากข้นึ ๒. ผลการตรวจห้องเรียน ร้อยละ ๘๐ มีความสะอาด เป็นระเบียบเรียบรอ้ ยมากขึน้ ข้อเสนอแนะ ๑. ควรขยายผลไปยังนกั เรยี นทุกคนในโรงเรยี น ๒. ควรจดั ทำโครงงานนีอ้ ยา่ งต่อเนอื่ งเพื่อให้นักเรยี นมคี วามรับผิดชอบและมวี นิ ยั ในตนเองอย่างย่ังยืน ของลักษณะนสิ ยั ๓. ควรมีการพฒั นาส่ือคณุ ธรรมในรปู แบบตา่ ง ๆ เพื่อกระตนุ้ คุณลักษณะที่พงึ ประสงคไ์ ด้ดยี ่งิ ข้นึ
ภาคผนวก
กจิ กรรมการคดั แยกขยะในห้องเรียน ทำความสะอาดห้องเรยี น
กจิ กรรมการคดั แยกขยะในห้องเรียน ทำความสะอาดห้องเรยี น
Search
Read the Text Version
- 1 - 18
Pages: