แบบฝึ กหัดหน่วยที่ 11.การส่ือสารขอ้ มูล (Data Communication) หมายถึงตอบ กระบวนการถ่ายโอนหรือแลกเปลี่ยนขอ้ มลู กนั ระหวา่ งผสู้ ่งและผรู้ ับ โดยผา่ นช่องทางส่ือสาร เช่น อุปกรณ์อิเลก็ ทรอนิกส์ หรือคอมพิวเตอร์เป็นตวั กลางในการส่งขอ้ มูล เพือ่ ใหผ้ สู้ ่งและผรู้ ับเกิดความเขา้ ใจซ่ึงกนั และกนั2.การส่ือสารทางไกล (Telecommunication) หมายถึงอะไรตอบ การติดต่อสื่อสารดว้ ยการรับส่งขอ้ มลู ขา่ วสารระหวา่ งตวั ประมวลผล โดยผา่ นส่ือกลางท่ีเชื่อมตน้ ทางและปลายทางที่ห่างกนั โดยใชอ้ ุปกรณ์อิเลก็ ทรอนิกส์หลายรูปแบบ ตามกฎเกณฑ์หรือระเบียบวธิ ีการท่ีกาหนดข้ึนในแต่ละอุปกรณ์3.ระบบเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ (Computer Network) หมายถึงอะไรตอบ ระบบท่ีมีคอมพิวเตอร์อยา่ งนอ้ ยสองเครื่องเช่ือมต่อกนั โดยใชส้ ่ือกลาง และสามารถส่ือสารขอ้ มลู กนั ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ ซ่ึงทาใหผ้ ใู้ ชค้ อมพิวเตอร์แต่ละเคร่ืองสามารถแลกเปลี่ยนขอ้ มลู ซ่ึงกนั และกนั ได้ นอกจากน้ียงั สามารถใชท้ รัพยากรท่ีมีอยใู่ นเครือข่ายร่วมกนั ได้4.ส่วนประกอบของระบบส่ือสารขอ้ มูลประกอบดว้ ยอะไรบา้ งตอบ 1.ผสู้ ่ง (Sender) 2.ผรู้ ับ (Receiver) 3.ส่ือกลาง (Medium) 4.ขอ้ มลู ข่าวสาร (Message 5.โปรโตคอล (Protocol
5.ประโยชนข์ องระบบเครือขา่ ยมีอะไรบา้ งตอบ 1. สามารถแชร์ขอ้ มลู ใชร้ ่วมกนั ได้ ขอ้ มูลต่างๆในแต่ละเครื่องภายในระบบ หากมีผอู้ ่ืนตอ้ งการใช้ คุณสามารถแชร์ใหผ้ อู้ ื่นนาไปใชไ้ ด้ หรือขอ้ มลู ที่เป็นส่วนรวมกส็ ามารถแชร์ไว้เพ่ือใหห้ ลายๆฝ่ ายนาไปใชง้ านได้ ซ่ึงกจ็ ะช่วยทาใหป้ ระหยดั เน้ือที่ในการจดั เกบ็ และช่วยใหก้ ารปรับปรุงขอ้ มลู ในระบบง่ายข้ึนและไม่เกิดความขดั แยง้ ของขอ้ มูลดว้ ย เพราะขอ้ มูลมีอยชู่ ุดเดียว2. สามารถแชร์อุปกรณ์ต่างๆร่วมกนั ได้ เช่น เครื่องพมิ พ์ สแกนเนอร์ ซิปไดร์ฟ เป็นตน้ โดยท่ีไม่จาเป็นตอ้ งซ้ืออุปกรณ์เหล่าน้นั มาติดต้งั กบั ทุกๆเคร่ือง เช่นในบา้ นคุณมีเครื่องคอมพวิ เตอร์ท้งั หมด 4 เครื่อง อาจจะซ้ือเคร่ืองพมิ พม์ าเพียงตวั เดียวและแชร์เครื่องพิมพน์ ้นั เพอ่ื ใชร้ ่วมกนั ได้3. สามารถใชโ้ ปรแกรมร่วมกนั หลายๆเครื่องได้ เช่น ในหอ้ ง LAB คอมพวิ เตอร์ที่มีจานวนคอมพวิ เตอร์ท่ีมีจานวนเครื่องในระบบจานวน 30 เคร่ือง คุณสามารถซ้ือโปรแกรมเพยี งแค่ 1ชุดและสามารถใชง้ านร่วมกนั ได้ ซ่ึงจะทาใหส้ ะดวกในการดูแลรักษาดว้ ย4. การส่ือสารในระบบเครือขา่ ยผใู้ ชส้ ามารถเช่ือมกบั เครื่องอื่นๆในระบบได้ เช่น อาจจะส่งขอ้ ความจากเคร่ืองของคุณไปยงั เคร่ืองของคนอ่ืนๆได้ นอกจากน้ีคุณยงั สามารถใช้ E - Mail ส่งขอ้ ความขา่ วสารต่างๆภายในสานกั งานไดอ้ ีก เช่น แจง้ กาหนดการต่างๆแจง้ ขอ้ มลู ต่างๆให้ทุกๆคนทราบ โดยไม่ตอ้ งพิมพอ์ อกทางเคร่ืองพมิ พเ์ พอ่ื แจกจ่าย ทาใหป้ ระหยดั คา่ ใชจ้ ่ายไดอ้ ีกทางหน่ึง5. การแชร์อินเทอร์เน็ต ภายในระบบเครือขา่ ยคุณสามารถแชร์อินเตอร์เน็ตเพือ่ ใชร้ ่วมกนัได้ โดยที่คุณไม่จาเป็นตอ้ งซ้ือ Internet Account สาหรับทุกๆเคร่ืองและไม่จาเป็นตอ้ งติดต้งัโมเดม็ ทุกเครื่อง ซ่ึงกจ็ ะช่วยใหค้ ุณประหยดั คา่ ใชจ้ ่ายไดม้ าก
6. การส่ือสารขอ้ มูลมีก่ีชนิดอะไรบา้ งแต่ละชนิดแตกต่างกนั อยา่ งไร ?ตอบ 1. จาแนกตามกระบวนการหรือการไหลของขา่ วสาร1.1 การส่ือสารทางเดียว (One-Way Communication) คือการ ส่ือสารท่ีข่าวสารจะถูกส่งจากผสู้ ่งไปยงั ผรู้ ับในทิศทางเดียว โดยไม่มีการตอบโตก้ ลบั จากฝ่ ายผรู้ ับ เช่น การสื่อสารผา่ นสื่อ วทิ ยุ โทรทศั น์ หนงั สือพมิ พ์ การออกคาสง่ั หรือมอบหมายงานโดย ฝ่ ายผรู้ ับไม่มีโอกาสแสดงความคิดเห็น ซ่ึงผรู้ ับอาจไม่เขา้ ใจขา่ วสาร หรือเขา้ ใจไม่ถกู ตอ้ งตามเจตนาของผสู้ ่งและทางฝ่ ายผสู้ ่งเมื่อไม่ทราบปฏิกิริยาของผรู้ ับจึงไม่อาจปรับการส่ือสารให้เหมาะสมได้ การส่ือสารแบบน้ีสามารถทาไดร้ วดเร็วจึงเหมาะสาหรับการส่ือสารในเรื่องท่ีเขา้ ใจง่าย1.2 การสื่อสารสองทาง (Two-way Communication) คือการส่ือสารที่มีการส่งข่าวสารตอบกลบั ไปมาระหวา่ งผสู้ ื่อสาร ดงั น้นั ผสู้ ่ือสารแต่ละฝ่ ายจึงเป็นท้งั ผสู้ ่งและผรู้ ับในขณะเดียวกนั ผสู้ ่ือสารมีโอกาสทราบปฏิกิริยาตอบสนองระหวา่ งกนั ทาใหท้ ราบผลของการสื่อสารวา่ บรรลุจุดประสงคห์ รือไม่ และช่วยใหส้ ามารถปรับพฤติกรรมในการสื่อสารใหเ้ หมาะสมกบั สถานการณ์ ตวั อยา่ งการสื่อสารแบบสองทาง เช่น การพบปะพดู คุยกนั การพดู โทรศพั ท์ การออกคาสงั่ หรือมอบหมายงานโดยฝ่ ายรับมีโอกาสแสดงความคิดเห็น การส่ือสารแบบน้ีจึงมีโอกาสประสบผลสาเร็จไดม้ ากกวา่ แต่ถา้ เรื่องราวท่ีจะส่ือสารเป็นเร่ืองง่าย อาจทาใหเ้ สียเวลาโดยไม่จาเป็น 2. จาแนกตามภาษาสญั ลกั ษณ์ที่แสดงออก 2.1 การสื่อสารเชิงวจั นะ (Verbal Communication) หมายถึงการสื่อสารดว้ ยการใช้ภาษาพดู หรือเขียนเป็นคาพดู ในการส่ือสาร2.2 การส่ือสารเชิงอวจั นะ (Non-Verbal Communication) หมายถึงการส่ือสารโดยใชร้ หสัสญั ญาณอยา่ งอื่น เช่น ภาษาท่าทาง การแสดงออกทางใบหนา้ สายตา ตลอดจนถึงน้าเสียง ระดบัเสียง ความเร็วในการพดู เป็นตน้ (ปรมะสตะเวทิน 2529 :
3. จาแนกตามจานวนผสู้ ่ือสาร 3.1 การส่ือสารส่วนบุคคล (Intrapersonal Communication) 3.2 การส่ือสารระหวา่ งบุคคล (Interpersonal Communication) 3.3 การสื่อสารมวลชน (Mass Communication)7สญั ญาณมีก่ีประเภทอะไรบา้ ง ? ตอบ 1. สญั ญาณแอนะลอ็ ก (analog signal) 2. สญั ญาณดิจิทลั (digital signal)ประเภทเครือขา่ ย1.แบ่งตามลกั ษณะทางกายภาพ คือPAN คือเทคโนโลยกี ารเขา้ ถึงไร้สายในพ้ืนที่เฉพาะส่วนบุคคล โดยมีระยะทางไม่เกิน 1เมตรและมีอตั ราการรับส่งขอ้ มลู ความเร็วสูงมาก (สูงถึง 480 Mbps) ซ่ึงเทคโนโลยที ่ีใชก้ นั แพร หลายกเ็ ช่น„ Ultra Wide Band (UWB) ตามมาตรฐาน IEEE 802.15.3a„ Bluetooth ตามมาตรฐานIEEE 802.15.1„ Zigbeeตามมาตรฐาน IEEE 802.15.4เทคโนโลยเี หล่าน้ีใชส้ าหรับการติดต่อส่ือสารระหวา่ งคอมพวิ เตอร์และ อุปกรณ์ต่อพว่ ง(peripherals) ใหส้ ามารถรับส่งขอ้ มูลถึงกนั ได้ และยงั ใชส้ าหรับการรับส่งสญั ญาณวดิ ีโอที่มีความละเอียดภาพสูง (high-definition videosignal) ไดด้ ว้ ยPersonal Area Network (PAN)ช่วยใหเ้ ราสามารถจดั การขอ้ มลู ระหวา่ งอุปกรณ์ต่างๆที่เคลื่อนท่ีไปมาได้ LAN เป็นระบบเครือข่ายท่ีใชง้ านอยใู่ นบริเวณท่ีไม่กวา้ งนกั อาจใชอ้ ยภู่ ายในอาคารเดียวกนั หรืออาคารที่อยใู่ กลก้ นั เช่น ภายในมหาวทิ ยาลยั อาคารสานกั งาน คลงั สินคา้ หรือ
โรงงาน เป็นตน้ การส่งขอ้ มูลสามารถทาไดด้ ว้ ยความเร็วสูงและมีขอ้ ผดิ พลาดนอ้ ยระบบเครือข่ายระดบั ทอ้ งถิ่นจึงถกู ออกแบบมาใหช้ ่วยลดตน้ ทุนและเพื่อเพิม่ ประสิทธิภาพในการทางานและใชง้ านอุปกรณ์ต่างๆร่วมกนั MAN เป็นระบบเครือขา่ ยที่มีขนาดอยรู่ ะหวา่ ง Lanและ Wan เป็นระบบเครือขา่ ยที่ใช้ภายในเมืองหรือจงั หวดั เท่าน้นั การเชื่อมโยงจะตอ้ งอาศยั ระบบบริการเครือขา่ ยสาธารณะ จึงเป็นเครือข่ายที่ใชก้ บั องคก์ ารที่มีสาขาห่างไกลและตอ้ งการเชื่อมสาขาเหล่าน้นั เขา้ ดว้ ยกนั เช่นธนาคาร เครือข่ายแวนเชื่อมโยงระยะไกลมาก จึงมีความเร็วในการสื่อสารไม่สูงเน่ืองจากมีสญั ญาณรบกวนในสายเทคโนโลยที ี่ใชก้ บั เครือข่ายแวนมีความหลากหลายมีการเชื่อมโยงระหวา่ งประเทศดว้ ยช่องสญั ญาณดาวเทียม เส้นใยนาแสง คล่ืนไมโครเวฟ คลื่นวทิ ยุ สายเคเบิล
WANเป็นระบบเครือขา่ ยท่ีติดต้งั ใชง้ านอยใู่ นบริเวณกวา้ ง เช่น ระบบเครือขา่ ยท่ีติดต้งั ใช้งานทวั่ โลก เป็นเครือข่ายที่เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์หรืออปุ กรณ์ที่อยหู่ ่างไกลกนั เขา้ ดว้ ยกนั อาจจะตอ้ งเป็นการติดต่อส่ือสารกนั ในระดบั ประเทศขา้ มทวปี หรือทวั่ โลกกไ็ ดใ้ นการเชื่อมการติดต่อน้นั จะตอ้ งมีการต่อเขา้ กบั ระบบส่ือสารขององคก์ ารโทรศพั ทห์ รือการส่ือสารแห่งประเทศไทยเสียก่อนเพราะจะเป็นการส่งขอ้ มลู ผา่ นสายโทรศพั ทใ์ นการติดต่อส่ือสารกนั โดยปกติมีอตั ราการส่งขอ้ มลู ที่ต่าและมีโอกาสเกิดขอ้ ผดิ พลาดการส่งขอ้ มูลอาจใชอ้ ปุ กรณ์ในการสื่อสารเช่น โมเดม็(Modem) มาช่วย2. แบ่งตามหนา้ ที่ของคอมพวิ เตอร์Peer-to-Peerเป็นการเชื่อมต่อเคร่ืองคอมพิวเตอร์เขา้ ดว้ ยกนั โดยเครื่องคอมพิวเตอร์ แต่ละเคร่ืองจะสามารถแบ่งทรัพยากรต่างๆ ไม่วา่ จะเป็นไฟลห์ รือเครื่องพมิ พซ์ ่ึงกนั และกนั ภายในเครือข่ายได้ เครื่องแต่ละเคร่ืองจะทางานในลกั ษณะที่ทดั เทียมกนั ไม่มีเครื่องใดเครื่องเครื่องหน่ึงเป็นเคร่ืองหลกั เหมือนแบบ Client / Server แต่กย็ งั คงคุณสมบตั ิพ้นื ฐานของระบบเครือข่ายไว้เหมือนเดิม การเช่ือมต่อแบบน้ีมกั ทาในระบบท่ีมีขนาดเลก็ ๆ เช่น หน่วยงานขนาดเลก็ ที่มีเครื่องใชไ้ ม่เกิน 10 เครื่อง การเชื่อมต่อแบบน้ีมีจุดออ่ นในเรื่องของระบบรักษาความปลอดภยัแต่ถา้ เป็นเครือขา่ ยขนาดเลก็ และเป็นงานท่ีไม่มีขอ้ มลู ที่เป็นความลบั มากนกั เครือข่ายแบบน้ี ก็เป็นรูปแบบที่น่าเลือกนามาใชไ้ ดเ้ ป็นอยา่ งดี
Client-Server เป็นระบบที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเคร่ืองมีฐานะการทางานท่ีเหมือน กนัเท่าเทียมกนั ภายในระบบเครือขา่ ยแต่จะมีเคร่ืองคอมพวิ เตอร์เคร่ืองหน่ึงท่ีทาหนา้ ที่เป็นเครื่องServer ท่ีทาหนา้ ที่ใหบ้ ริการทรัพยากรต่างๆใหก้ บั เครื่อง Clientหรือเคร่ืองที่ขอใชบ้ ริการซ่ึงอาจจะตอ้ งเป็นเคร่ืองท่ีมีประสิทธิภาพท่ีคอ่ นขา้ งสูง ถึงจะทาใหก้ ารใหบ้ ริการมีประสิทธิภาพตามไปดว้ ย ขอ้ ดีของระบบเครือข่าย Client - Server เป็นระบบที่มีการรักษาความปลอดภยั สูงกวา่ ระบบแบบ Peer To Peer เพราะวา่ การจดั การในดา้ นรักษาความปลอดภยั น้นั จะทากนั บนเครื่อง Serverเพยี งเคร่ืองเดียวทาใหด้ ูแลรักษาง่ายและสะดวกมีการกาหนดสิทธิการเขา้ ใช้ทรัพยากรต่างๆใหก้ บั เคร่ืองผขู้ อใชบ้ ริการหรือเครื่องClient 3. แบ่งตามระดบั ความปลอดภยั ของขอ้ มูลเป็นเกณฑ์ Intranet ระบบการรักษาความปลอดภยั เป็นสิ่งที่แยกอินทราเน็ตออกจากอินเทอร์เน็ตเครือข่ายอินทราเน็ตขององคก์ รจะถูกปกป้ องโดยไฟลว์ อลล์ ( Firewall) ซ่ึงอาจจะเป็นไดท้ ้งั ฮาร์ดแวร์และซอฟตแ์ วร์ที่ทาหนา้ ท่ีกรองขอ้ มูลที่แลกเปล่ียนกนั ระหวา่ งอินทราเน็ตและอินเทอร์เน็ตเมื่อท้งั สองระบบมีการเช่ือมต่อกนั ดงั น้นั องคก์ รสามารถกาหนดนโยบายเพอ่ืควบคุมการเขา้ ใชง้ านอินทราเน็ตไดอ้ ินทราเน็ตสามารถสนองความตอ้ งการของผใู้ ชใ้ นองคก์ รไดห้ ลายอยา่ ง ความง่ายในการตีพิมพบ์ นเวบ็ ทาใหเ้ ป็นที่นิยมในการประกาศขา่ วสารขององคก์ ร
เช่น ขา่ วภายในองคก์ รกฎ ระเบียบ และมาตรฐาน การปฏิบตั ิงานต่าง ๆ เป็นตน้ หรือแมก้ ระทงั่การเขา้ ถึงฐานขอ้ มลู ขององคก์ รกง็ ่ายเช่นกนั ผใู้ ชส้ ามารถทางานร่วมกนั ไดง้ ่ายและมีประสิทธิภาพมากข้ึนInternet ความปลอดภยั ของขอ้ มลู เนื่องจากทุกคนสามารถเขา้ ถึงขอ้ มูลทุกอยา่ งที่แลกเปลี่ยนผา่ นอินเทอร์เน็ตไดอ้ ินเทอร์เน็ตใชโ้ ปรโตคอลที่เรียกวา่ “TCP/IP (Transport ConnectionProtocol/Internet Protocol)” ในการสื่อสารขอ้ มูลผา่ นเครือขา่ ย ซ่ึงโปรโตคอลน้ีเป็นผลจากโครงการหน่ึงของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ โครงการน้ีมีช่ือวา่ ARPANET (AdvancedResearch Projects Agency Network) ในปี ค.ศ.1975 จุดประสงคข์ องโครงการน้ีเพือ่ เช่ือมต่อคอมพวิ เตอร์ที่อยหู่ ่างไกลกนั และภายหลงั จึงไดก้ าหนดใหเ้ ป็นโปรโตคอลมาตรฐานในเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในปัจจุบนั อินเทอร์เน็ตไดก้ ลายเป็นเครือขา่ ยสาธารณะ ซ่ึงไม่มีผใู้ ดหรือองคก์ รใดองคก์ รหน่ึงเป็นเจา้ ของอยา่ งแทจ้ ริง การเช่ือมต่อเขา้ กบั อินเทอร์เน็ตตอ้ งเช่ือมต่อผา่ นองคก์ รที่เรียกวา่ “ISP (Internet Service Provider)” ซ่ึงจะทาหนา้ ท่ีใหบ้ ริการในการเชื่อมต่อเขา้กบั อินเทอร์เน็ต นน่ั คือ ขอ้ มลู ทุกอยา่ งที่ส่งผา่ นเครือขา่ ย ทุกคนสามารถดูได้ นอกเสียจากจะมีการเขา้ รหสั ลบั ซ่ึงผใู้ ชต้ อ้ งทาเองExtranet เอก็ ส์ทราเน็ต (Extranet) เป็นเครือข่ายก่ึงอินเทอร์เน็ตก่ึงอินทราเน็ต กล่าวคือ เอก็ ส์ทราเน็ตคือเครือข่ายท่ีเชื่อมต่อระหวา่ งอินทราเน็ตของสององคก์ ร ดงั น้นั จะมีบางส่วนของเครือข่ายที่เป็นเจา้ ของร่วมกนั ระหวา่ งสององคก์ รหรือบริษทั การสร้างอินทราเน็ตจะไม่จากดัดว้ ยเทคโนโลยี แต่จะยากตรงนโยบายที่เกี่ยวกบั การรักษาความปลอดภยั ของขอ้ มลู ท่ีท้งั สององคก์ รจะตอ้ งตกลงกัน เชน่ องคก์ รหน่งึ อาจจะอนญุ าตให้ผูใ้ ชข้ องอกี องค์กรหน่ึงลอ็ กอนิ เขา้ ระบบอินทราเน็ตของตวั เองหรือไม่ เปน็ ตน้ การสร้างเอ็กส์ทราเนต็ จะเนน้ ทรี่ ะบบการรักษาความปลอดภยั ขอ้ มลู รวมถึงการติดตัง้ ไฟล์วอลลห์ รือระหวา่ งอนิ ทราเน็ตและการเข้ารหัสขอ้ มลู และสง่ิ ท่ีสาคญั ท่ีสุดก็คือ นโยบายการรักษาความปลอดภยั ข้อมลู และการบังคบั ใช้
Search
Read the Text Version
- 1 - 9
Pages: