ก โครงงานวทิ ยาศาสตร์ เร่ือง Crude extracts from herbs inhibit the spore dispersal on plywood โดย 1.น.ส.นนั ท์นภัส กรรณิกา 2.น.ส.ณฐั ณิชา อินตรา 3.นายธนกฤต อินตะ๊ วิไชย โรงเรียนยุพราชวิทยาลยั อาเภอเมอื ง จงั หวดั เชยี งใหม่
ข โครงงานวิทยาศาสตร์ เร่ือง Crude extracts from herbs inhibit the spore dispersal on plywood โดย 1.น.ส.นนั ทน์ ภสั กรรณกิ า 2.น.ส.ณัฐณชิ า อินตรา 3.นายธนกฤต อินต๊ะวไิ ชย ครทู ป่ี รกึ ษา นาย เชษฐา ศุภการกิตติ
ค ช่ือโครงงาน สารสกัดหยาบจากพชื สมนุ ไพร ยับยัง้ การเกดิ เชือ้ ราบนไมอ้ ัดยาง เฟอร์นเิ จอร์ Crude extracts from herbs inhibit the spore dispersal on plywood. สาขาวิชา เคมี ผ้จู ดั ทาโครงงาน 1.น.ส.นนั ทน์ ภัส กรรณกิ า 2.น.ส.ณัฐณิชา อินตรา 3.นายธนกฤต อนิ ต๊ะวไิ ชย โรงเรยี น ยพุ ราชวทิ ยาลยั 238 ถนนปกเกล้า อาเภอเมือง จงั หวดั เชยี งใหม่ ครูทปี่ รึกษา นายเชษฐา ศภุ การกิตติกลุ ปีการศึกษา 2564 บทคัดยอ่ โครงงานนี้มีวัตถุประสงค์เพ่ือศึกษาการสกดั สารสกัดหยาบจากพชื สมุนไพร 6 ชนิดไดแ้ ก่ อบเชย ขงิ ขา่ กระเทียม ตะไคร้ และใบพลู ดว้ ยวิธกี ารมาเซอเรซนั และเปรยี บเทียบประสิทธิภาพจากสารสกดั หยาบ จากพืชสมุนไพร ต่อการยบั ยงั้ การเกดิ เชื้อราบนแผ่นไมอ้ ัดยางเฟอร์นิเจอร์ หนึ่งในสาเหตทุ ีก่ ่อทาให้เกิด ระคายเคอื งต่อระบบทางเดนิ หายใจ ระคายเคืองในชอ่ งจมูก ตา หรืออวยั วะอน่ื ๆ ซ่ึงเปน็ เหตสุ าคัญที่ทาให้ เกดิ โรคที่อันตรายหลายโรคต่อส่งิ มีชีวติ การทดลองนาพืชสมนุ ไพรมาสกดั ด้วยวธิ ีมาเซอเรซนั แล้วนาไป ทดสอบบนแผ่นไม้อดั ยางเฟอรน์ เิ จอร์ โดยสเปรย์บนแผ่นไม้อัดยางเฟอรน์ ิเจอร์ทาเชน่ เดียวกัน กบั น้าและ เอทานอล 95 % แลว้ สงั เกตการบนั ทกึ ผลการทดลองเปน็ เวลา 7 วัน จากการทดลองพบวา่ ได้สารสกดั ในลกั ษณะใส มีกลน่ิ และสตี ามพชื สมนุ ไพรทใี่ ชใ้ นการสกัด เมื่อ นามาทดสอบบนแผน่ ไมอ้ ัดยางเฟอร์นิเจอร์ พบว่าระยะเวลาในการเกิดเช้ือราบนไม้อัดยางเฟอร์นเิ จอร์ที่ สเปรย์พชื สมุนไพรเปน็ ดงั นี้อบเชย 7 วัน ขิง 6 วัน ข่า 5 วนั ใบพลูและตะไคร้ 3 วนั และกระเทียม 2 วนั ดังนน้ั สรุปไดว้ า่ อบเชยมีประสิทธิภาพยับยัง้ การเกดิ เชือ้ ราบนไม้อัดอย่างเฟอร์นิเจอร์ไดด้ ีทส่ี ุด รองลงมา เป็นขงิ ขา่ ใบพลู ตะไคร้ และกระเทียมตามลาดับ
ง กติ ตกิ รรมประกาศ โครงงานเรอ่ื งสารสกัดหยาบจากพืชสมนุ ไพรยับย้ังการเกิดเช้อื ราบนไม้อัดยางเฟอร์นิเจอร์ประกอบ ด้วยกระบวนการดาเนนิ งานหลายข้นั ตอน นบั ต้ังแต่การคดิ ปญั หาในการทาโครงงาน การศกึ ษาหาขอ้ มลู และการเก็บรวบรวมข้อมูล การทาการทดลอง การวิเคราะหผ์ ลการทดลอง การสรุปผลการศึกษา ตลอดจนการจดั ทารปู เล่มรายงาน จนกระทัง่ โครงงานเรื่องน้สี าเรจ็ ลลุ ว่ งไปได้ด้วยดี ตลอดระยะเวลา ระหวา่ งการทาโครงงานคณะผจู้ ัดทา ได้รับความช่วยเหลือคาแนะนาและคาปรกึ ษาตา่ งๆ รวมถึงกาลัง ใจ จากบุคคลหลายท่าน คณะผูจ้ ัดทาตระหนักและซาบซ้ึงในความกรณุ าจากทกุ ๆ ทา่ นเป็นอย่างยงิ่ ณ โอกาส น้ี จึงขอขอบพระคุณทุก ๆท่าน ดงั ต่อไปนี้ กราบขอบพระคุณ ทา่ นผอู้ านวยการ ทปี ชยั วงษว์ รศรีโรจน์ ทีใ่ หค้ วามอนุเคราะห์ และในการช่วย สนบั สนนุ ในการศึกษาและการจัดทาโครงงาน และคุณครใู นหมวดวิทยาศาสตร์ โรงเรียนยพุ ราช วทิ ยาลัย ทกุ คนทค่ี อยดแู ลเอาใจใส่และใหค้ าปรกึ ษาเป็นอย่างดี กราบขอบพระคุณ คณุ ครูเชษฐา ศุภการกิตตกิ ุล อาจารยท์ ี่ปรกึ ษาจากกลุ่มสาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์ โรงเรยี นยุพราชวทิ ยาลยั ผู้ให้คาแนะนาและใหค้ วามช่วยเหลอื อยา่ งเมตตาในทกุ ๆ ดา้ นไม่วา่ จะเป็นการให้คาแนะนาทางด้านระเบยี บวธิ ีการการจัดทาโครงงานตัง้ แต่การสบื คน้ เรมิ่ แรกในการทา โครงงานจน กระทั่งการจัดทารปู เลม่ โครงงาน ทาใหโ้ ครงงานนีป้ ระสบความสาเรจ็ ขอขอบพระคุณ โครงการห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม ท่ี ไดใ้ ห้ความชว่ ยเหลือ และสนบั สนนุ ในการทาโครงงานคร้ังน้ี ขอขอบพระคุณโรงเรียนยพุ ราชวิทยาลยั สถาบันการศกึ ษาทสี่ นบั สนุนการศึกษาหาความรู้ในการ ทาโครงงาน รวมไปถึงทางดา้ นอุปกรณ์ และเคร่ืองมือต่างๆ จนโครงงานสาเร็จไปด้วยดี ขอขอบคุณเพ่ือนๆ ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 6/1 ที่ไดใ้ ห้ความช่วยเหลอื และใหก้ าลังใจในการทา โครงงาน ทา้ ยทีส่ ุด ขอกราบขอบพระคุณ คุณพ่อ และคุณแม่ผูเ้ ปน็ ทีร่ ักผู้ใหก้ าลงั ใจและใหก้ ารสนบั สนนุ โอกาสการศึกษาอนั มคี า่ ยิ่ง และคณะผู้จดั ทาหวงั เปน็ อยา่ งย่ิงว่า โครงงานเหลา่ นี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่ สนใจศึกษาทางดา้ นการยบั ยง้ั การเกดิ เช้ือราบนเฟอร์นิเจอร์ภายในบา้ นเพื่อความสวยงามและสะอาด คณะผ้จู ัด
สารบญั จ บทคดั ย่อ หน้า กติ ตกิ รรมประกาศ สารบญั ก สารบัญตาราง ข สารบญั ภาพ ค บทท่ี 1 บทนา ง จ ที่มาและความสาคัญ วตั ถปุ ระสงค์ของโครงงาน 1 สมมตฐิ าน 1 ตัวแปรทีศ่ กึ ษา 2 นยิ ามเชงิ ปฏบิ ตั ิการ 2 ขอบเขตของโครงงาน 2 ประโยชน์ทค่ี าดวา่ จะไดร้ บั 2 บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยท่ีเกยี่ วข้อง 2 บทที่ 3 วธิ ีดาเนินการทดลอง 3 บทท่ี 4 ผลการทดลอง 10 บทที่ 5 สรปุ อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ 12 เอกสารอ้างองิ 13 ภาคผนวก 14 ก ภาพบันทึกผลการทดลอง ข ภาพทาการทดลองเพิ่มเติม 16 20
สารบัญตาราง ฉ ตารางท่ี หน้า 12 4.1 ผลการทดลองครั้งท่ี 1 12 4.2 ผลการทดลองครัง้ ท่ี 2
สารบญั รูปภาพ ช ภาพท่ี หน้า 2.2 ใบพลู 3 2.3 อบเชย 4 2.4 ขงิ 4 2.5 ขา่ 5 2.6 ตะไคร้ 6 2.7 กระเทียม 6 2.8 ไมอ้ ัดยางเฟอร์นิเจอร์ 7 3.2.2.6 การวางแผนยางท่สี เปรยดวยสารสกัดพชื สมนุ ไพร นา้ และเอทานอล 95% 11
1 บทที่ 1 บทนา 1.1 ท่มี าและความสาคญั ของโครงงาน เชือ้ ราเป็นหนึง่ ในปัจจยั ท่ีส่งผลต่อคุณภาพอากาศภายในอาคารทส่ี าคัญตอ่ สงิ่ มชี ีวิตและผทู้ ี่อาศยั อยู่ ภายในอาคาร โดยเชอ้ื ราจัดเปน็ จลุ ินทรยี ์ที่สามารถเจรญิ เตบิ โตไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ และงา่ ยดาย เมอื่ สปอร์ของ เชือ้ ราปลิวไปตามอากาศแลว้ ตกลงท่ีใด ก็จะสามารถเจรญิ เติบโตได้ มคี วามชืน้ ไม่มากนกั ก็สามารถ เจรญิ เตบิ โตได้ ดังนนั้ เชื้อราจะเกิดมากหรือนอ้ ยเพียงใดกข็ น้ึ อยู่กับวสั ดุและสภาพแวดลอ้ ม อีกท้งั ยงั ก่อให้เกดิ การระคายเคืองจนถึงการติดเชือ้ ได้ โดยอาจทาให้เกดิ อาการบริเวณผวิ หนงั ช้ันนอกหรือลึกลงไป ในเนอื้ เย่ือช้ันใน ตลอดจนระบบเลือด ปอด หรืออวัยวะอื่น ๆ ซึง่ ในบางกรณีอาจเปน็ อันตรายถึงแกช่ ีวติ ได้ และเกดิ ขึน้ ได้ทั้งในผู้ที่มสี ุขภาพดหี รือผู้ป่วยท่มี ีความบกพร่องทางระบบภมู ิคมุ้ กัน ซึง่ เป็นเหตสุ าคัญท่ที า ใหเ้ กิดโรคอนั ตรายหลายโรคต่อส่ิงมีชวี ิต ไม้อัดยางเปน็ วสั ดุทีน่ ิยมนามาทาเฟอร์นเิ จอรง์ านตกแตง่ ทกุ รูปแบบ เนอื่ งจากผวิ ไมเ้ รียบเนยี น สามารถขัดเพื่อทาสไี ดง้ ่ายและใช้เป็นแผ่นรองสาหรับปดิ ด้วยวสั ดปุ ิดผิวได้ อีกท้ังยงั สามารถหาซ้ือได้ง่าย ตามท้องตลาดทัว่ ไป แต่เม่ือเนือ้ ไม้โดนน้าในช่วงระยะเวลาหนึง่ หรอื สภาพแวดลอ้ มภายนอกเหมาะกบั การ เกดิ เชอ้ื รากจ็ ะส่งผลให้แผน่ ไม้อัดยางเกิดเช้อื ราข้ึนได้ จึงทาให้มีการใช้สารเคมใี นการกาจัดยับย้ังเชือ้ ราที่ เกดิ ขน้ึ บนแผน่ ไม้ ซึง่ สามารถกาจดั ยังเช้อื ราได้อยา่ งรวดเร็วแต่อาจกอ่ ใหเ้ กดิ ปญั หาตามมาในภายหลงั และ เมือ่ ใชต้ ดิ ต่อกนั เปน็ เวลานานจนเกนิ ไปอาจเกดิ สารเคมีตกค้างในเฟอร์นิเจอร์ได้ จากการศึกษาค้นคว้า พบว่าพืชสมุนไพรบางชนิดมีฤทธิใ์ นการยับยั้งการเกดิ เช้ือราและไมเ่ ปน็ อนั ตรายตอ่ สิ่งมชี วี ติ และผ้คู นที่ อาศยั อยู่ภายในอาคาร ดังน้ันคณะผ้จู ัดทาจึงเกิดความสนใจในการศึกษาประสิทธภิ าพของสารสกดั หยาบ จากพชื สมุนไพรท่ีสกัดด้วยวิธีมาเซอเรซัน ต่อการยับยัง้ การเกดิ เช้อื ราบนแผน่ ไม้อดั ยางเฟอร์นเิ จอร์ 1.2 วตั ถปุ ระสงค์ 1.2.1 เพอ่ื ศึกษาการสกดั สารสกัดหยาบจากพืชสมนุ ไพรบางชนิดดว้ ยวธิ ีการมาเซอเรซนั (Maceration) 1.2.2 เพ่ือเปรยี บเทยี บฤทธิใ์ นการยับยัง้ การเกดิ เช้ือราบนไม้อดั ยางเฟอรน์ ิเจอรด์ ว้ ยสารสกัดจาก อบเชย กระเทยี ม ใบพลู ขิง ข่า และตะไคร้
2 1.3 สมมติฐาน สารสกัดหยาบจากพชื สมนุ ไพรบางชนิดมีผลในการยับย้ังการเกดิ เชือ้ ราบนไม้อัดยางเฟอรน์ เิ จอร์ 1.4 ตวั แปรท่ศี ึกษา ตัวแปรตน้ : พชื สมนุ ไพร ตวั แปรตาม : ฤทธใ์ิ นการยบั ย้ังการเกดิ เช้อื ราบนไม้อัดยางเฟอรน์ ิเจอร์ ตวั แปรควบคุม : น้าหนัก ของสมุนไพรท่ีใชใ้ นการสกดั ขนาดของสาลีและไม้อัดยาง เฟอรน์ ิเจอร์ ปรมิ าณนา้ ท่ใี ส่ในกอ้ นสาลี ขนาดของกลอ่ งพลาสตกิ ปริมาณของสารสกดั ท่ีใช้ฉดี พน่ อณุ หภูมิทใี่ ชอ้ บพืชสมนุ ไพร 1.5 นยิ ายเชิงปฏบิ ตั กิ าร 1.6.1 สมุนไพร หมายถึง อบเชย กระเทยี ม ใบพลู ขิง ขา่ และ ตระไคร้ 1.6.2 ไม้อดั ยาง หมายถึง ไม้อัดยางเฟอรน์ ิเจอร์ 1.6 ขอบเขตของการศกึ ษา ศกึ ษาและเปรยี บเทยี บฤทธ์ใิ นการยบั ยั้งการเกิดเชื้อราบนไม้อัดยางเฟอรน์ เิ จอร์ดว้ ยสารสกดั จาก อบเชย กระเทยี ม ใบพลู ขงิ ข่า ตะไคร้ นา้ และเอทานอล 95% 1.7 ประโยชน์ทค่ี าดวา่ จะได้รบั 1.7.1 สามารถยบั ย้งั การเกดิ เช้ือราบนไม้อดั ยางเฟอรน์ เิ จอร์ได้ 1.7.2 สามารถลดการใช้สารเคมใี นการกาจัดเช้ือราได้ โดยใชส้ ารจากธรรมชาติทดแทน
3 บทท่ี2 เอกสารและโครงงานที่เก่ยี วข้อง 2.1 เชื้อรา เชอ้ื ราเปน็ จลุ นิ ทรยี ์ที่มีโครงสรา้ งหลายลักษณะ เช่น สปอร์ชนดิ ต่างๆ เสน้ ใยทต่ี า่ งขนาด สสี นั หรือ ถา้ แบ่งราตามรปู รา่ ง จะเป็นแบบเซลล์เดยี วหรือยีสต์ และท่ีเปน็ เสน้ สายท่ีพบได้ทัว่ ไปในชวี ิตประจาวัน เช่น ราทีข่ ึน้ อยู่ตามของเน่าเสียตามธรรมชาติ สปอรข์ องรา สามารถปลวิ ไดใ้ นอากาศ เมื่อไปตกท่ใี ด มี ความชื้นไมม่ ากนัก ก็งอกงามเจริญได้ ดังนัน้ ในอากาศในอาคารจงึ มีสปอร์ของราอย่มู ากน้อยต่างกนั ตาม วัสดทุ ่ีใช้ และตามสภาวะแวดลอ้ ม ณ จดุ น้ันๆ ราที่พบจากพ้ืนโล่งและแห้งจะนอ้ ยกว่าที่พบจากบรเิ วณทม่ี ี ความชื้น โดยพบราได้เชน่ ท่เี บาะน่ัง โซฟาท่สี กปรก วัสดแุ ต่งบ้านบางชนดิ พรมปูพ้นื ที่มีความเปยี กช้นื จาก น้าท่ีรั่วซึมอยู่ หอ้ งเก็บของทีม่ สี ิง่ ของที่ราใช้ในการเจรญิ ได้และปดิ หอ้ งไว้เปน็ เวลานานไม่ได้ทาความ สะอาดหรือราในห้องน้าซึ่งมองเห็นการเจรญิ ของราได้อย่างชดั เจน ตามซอกรอยต่อทเ่ี ก็บความชืน้ ซึ่งเป็น แหล่งให้รามีชีวิตอยูไ่ ดด้ ี และแพร่กระจายต่อไปได้ ปจั จัยสาคญั ท่รี าต้องการใช้ในปฏกิ ิรยิ าเคมเี พอ่ื การ เติบโต คือน้า โดยปรมิ าณน้าที่ตา่ ทส่ี ดุ ท่ตี ้องการหรอื water activity ของราแต่ละชนิดจะต่างกัน อกี ท้ัง ราบางชนิด สามารถนามาใชเ้ ป็นประโยชนไ์ ด้ บางชนดิ ก่อโรคได้ต่อคน สตั ว์ และพืช 2.2 ใบพลู ภาพที่ 2.2 ใบพลู 2.2.1 ชวี วิทยาและนเิ วศวิทยาของใบพลู ช่ือสามญั : Betel pepper ช่ือวทิ ยาศาสตร์ : Piper betle Linn. วงศ์ : PIPERACEAE 2.2.2 ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ ไมเ้ ถาเนื้อแขง็ รากฝอยออกบริเวณข้อใชย้ ดึ เกาะ ขอ้ โปง่ นูน ใบ เด่ียว เรยี งสลับ รูป หัวใจ กวา้ ง 8-12 ซม. ยาว 12-16 ซม. มกี ล่ินเฉพาะและมีรสเผ็ด ดอก ชอ่ ออกทซี่ อกใบ ดอกย่อยขนาด เล็กอัดแน่นเป็นรูปทรงกระบอก แยกเพศ สีขาว ผล เป็นผลสด กลมเล็กเบียดอย่บู นแกน 2.2.3 ฤทธิ์ทางเภสชั วทิ ยา น้ามนั และสารสกัดจากใบพลูมีฤทธย์ิ บั ย้งั การเจริญของเช้ือราซ่ึง
4 ไดแ้ ก่ Aspergillus niger Aspergillus flavus Aspergillus parasiticus และ Fusarium spp, นอกจากน้ีน้ามนั พลแู ละสารสกดั จากใบพลดู ว้ ยปโิ ตรเลียมอีเทอร์ไดเอทิลอีเทอร์ อีเทอร์ คลอโรฟอร์ม และ เอทานอล มฤี ทธใ์ิ นการยับยั้งเช้ือราทกี่ ่อใหเ้ กิดโรคผวิ หนงั ซึง่ ได้แก่ Trichophyton mentagrophytes Trichophyton rubrum Epidermophyton floccosum และ Microsporum gypseum 2.3 อบเชย ภาพที่ 2.3 อบเชย 2.3.1 ชวี วิทยาและนเิ วศวทิ ยาของอบเชย ช่อื สามญั : Cinnamon, Cassia ชื่อวทิ ยาศาสตร์ : Cinnamomum spp. วงศ์ : LAURACEAE 2.3.2 ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เปน็ ไม้ยืนต้นขนาดใหญส่ ูงประมาณ 15 เมตรเปลอื กตน้ และเน้ือไม้มกี ลน่ิ หอมถนิ่ กาเนดิ อยู่แถบประเทศศรลี งั กาและอนิ เดยี เอเชียตะวันออกเฉยี งใต้ 2.3.3 ฤทธท์ิ างเภสชั วิทยา นา้ มันและสารสกัดจากใบพลูมฤี ทธย์ิ บั ย้งั การเจริญของเชื้อราซ่งึ ไดแ้ ก่ Aspergillus niger Aspergillus flavus Aspergillus parasiticus และ Fusarium spp, นอกจากนนี้ า้ มันพลแู ละ สารสกัดจากใบพลูด้วยปิโตรเลยี มอเี ทอร์ ไดเอทิลอเี ทอร์อีเทอร์ คลอโรฟอรม์ และเอทานอลมีฤทธิใ์ นการ ยับยั้งเช้อื ราท่ีก่อใหเ้ กดิ โรคผิวหนังซ่ึง ไดแ้ ก่ Trichoptton mentagrophytes Trichophyton rubrum Epidermophyton floccosum และ Microsporum sypseum 2.4 ขิง ภาพท่ี 2.4 ขงิ 2.4.1 ชีววิทยาและนิเวศวทิ ยาของขิง ชอ่ื สามัญ : Ginger ช่อื วทิ ยาศาสตร์ : Zingiber officinale Roscoe วงศ์ : Zingiberaceae
5 2.4.2 ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ขิงเปน็ พืชลม้ ลกุ มเี หงา้ อยู่ใตด้ ิน แตกแขนงคล้ายน้วิ มอื เนื้อในเหง้ามสี เี หลืองออ่ นอม เขียว มเี สน้ ใยเห็นชัดเจน มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว สว่ นเหนือดินต้งั ตรง สงู ได้ถึง 1 เมตร ใบเปน็ ใบเดี่ยว เรยี ว ยาว ออกสลับกัน ดอกออกเป็นช่อ กลบี ประดับสีเขยี ว กลบี ดอกย่อยสีเหลอื งแกมเขียว ดอกจะบานจาก โคนไปหาสว่ นปลาย ผลกลม แขง็ โต 2.4.3 ฤทธ์ิทางเภสัชวทิ ยา สารสกดั เมทานอลของขิงมฤี ทธ์ิยบั ยัง้ การเจรญิ ของเชื้อ Helicobacter pylori โดยมี คา่ ความเขม้ ขน้ ต่าสดุ ของการ ยบั ย้งั (MIC; minimum inhibitory concentration) 0.78-12.5 มคก./มล. 6 นอกจากนี้ยงั มีฤทธย์ิ บั ย้งั แบคทีเรยี และเชอื้ รา เชน่ Pseudomonas aeruginosa, Salmonella typhimurium, Escherichia coli และ Candida albicans และความเขม้ ข้นท่ีมฤี ทธฆิ์ ่าเชอ้ื ราก่อโรคใน คน นอ้ ยกวา่ 1 มก./มล. 2.5 ข่า ภาพท่ี 2.5 ข่า 2.5.1 ชีววทิ ยาและนิเวศวิทยาของขา่ ชื่อสามัญ : Galanga ชอื่ วิทยาศาสตร์ : Alpinia alangal (Linn.) Willd. วงศ์ : Zingeberaceae 2.5.2 ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ ไมล้ ม้ ลุกเหง้ามีข้อและปล้องชัดเจน ใบเดย่ี วเรยี งสลบั รูปใบหอกรูปวงรีหรือเกือบขอบ ขนานชอ่ ดอกออกท่ียอดตอกยอ่ ยขนาดเล็กกลบี ดอกสขี าวโคนตดิ กนั เป็นหลอดส้ัน ๆ ปลายแยกเป็น 3 กลีบกลบี ใหญ่ท่สี ุดมีริว้ สีแดงใบประดับรปู ไขผ่ ลเปน็ รูปกลมหรอื รีแก่จดั สีดา 2.5.3 ฤทธิ์ทางเภสชั วทิ ยา นา้ มนั หอมระเหยท่แี ยกไดจ้ ากข่ามีฤทธใ์ิ นการต้านเช้อื รา ได้แก่ กลุ่ม Yeast (Candida albicans) กลุม่ Molds (Aspergillus niger และ Aspergillus fumigatus) และกล่มุ
6 Dermatophytes (Microsporum gypseum Trichophyton mentagrophytes) นาสารสกัดจากขา่ ท่ี สกัดด้วยแอลกอฮอล์ คลอโรฟอร์ม และปโิ ตรเลยี มอีเทอร์ไปทดสอบการฆ่าเชอ้ื ราท่ีเป็นสาเหตโุ รคกลาก (Microporum gypseum และ Trichophyton rubrum) พบว่าไดผ้ ลดีเม่ือนาไปเทยี บกบั มTolnaftate 2.6 ตะไคร้ ภาพท่ี 2.6 ตะไคร้ 2.6.1 ชวี วิทยาและนเิ วศวทิ ยาของตะไคร้ ชอื่ สามญั : Lemon Grass, Lapine ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cymbopogon citrates (DC. ) Stapf. วงศ์ : GRAMINAE 2.6.2 ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ ตะไคร้เป็นพชื ล้มลกุ มีอายุหลายปี สูง 0.75-1.2 เมตร เหงา้ ใต้ดนิ มีกล่ินเฉพาะ ข้อและ ปล้องสั้นมาก แตกเปน็ กอ กาบใบสีขาวนวลอมมว่ งยาวและหนาหุ้มข้อและปลอ้ งไว้ ใบเปน็ ใบเด่ียว ยาว เรยี วปลายแหลม แผ่นใบสากและดอกเปน็ ช่อยาว มดี อกเล็ก 2.6.3 ฤทธท์ิ างเภสัชวิทยา สารสกัดจากใบแห้งของตะไคร้โดยการกล่นั ด้วยไอนา้ มีฤทธฆ์ิ ่าเชอ้ื รา Dermatophytes 4 ชนดิ คือ Trichophyton mentagrophytes Trichophyton rubrum Epidermophyton floccosum และ Microsporum gypseum โดยสารทอ่ี อกฤทธิ์คอื Cital และ Myrcene นอกจากน้ี Citral ในสารสกัดตะไคร้มฤี ทธ์ิในการฆา่ เช้อื จลุ นิ ทรยี โ์ ดยเฉพาะจุลินทรีย์แกรมบวก และไมถ่ กู ทาลายด้วยความร้อนไอระเหย ของสารสกัดตะไคร้ท่ีมี Citral สามารถยับยัง้ การเจริญของ จลุ นิ ทรยี ์ได้ 2.7 กระเทียม ภาพที่ 2.7 กระเทยี ม
7 2.7.1 ชวี วิทยาและนเิ วศวิทยาของกระเทียม ชอ่ื สามญั : Garlic, Common Garlic ช่อื วทิ ยาศาสตร์ : Allium sativum Linn. วงศ์ : LILIACEAE (ALLIACEAE) 2.7.2 ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ พืชลม้ ลุกมหี วั อยู่ใตด้ ินประกอบด้วยหวั เล็ก ๆ หลายหัวอยรู่ วมกนั มีเปลอื กนอกสีขาว ซึง่ เปน็ ส่วนโคง้ ของใบหมุ้ อยู่ 2-3 ชนั้ ใบรปู ยาวแคบแบนและกลวงปลายแหลมสว่ นโคนใบหุม้ ซ้อนกัน ดา้ นลา่ งมรี อยพับเปน็ สนั ตลอดความยาวของใบดอกออกเป็นชอ่ เป็นกระจุกทปี่ ลายก้านลักษณะกลม ประกอบ ด้วยดอกหลายดอกมีกาบห้มุ เปน็ จะงอยยาวกลีบดอกมี 6 กลบี รปู ยาวแหลมสีขาวแตม้ สีม่วงหรือ ขาวอมชมพู 2.6.3 ฤทธท์ิ างเภสชั วทิ ยา กระเทยี มมีฤทธต์ิ ้านจุลชพี หลายชนิดท้ังเชื้อแบคทเี รยี และเช้ือรา ได้แก่ เชอื้ ท่ีทาให้ เกิดอาการท้องเสยี Shigella sonnei Escherichia coli Bacillus sp., Staphylococus aureus Streptococcus faecalis, Pseudomonas aeruginosa เป็นตน้ เช้อื วัณโรค Mycobacterium tuberculosis และเช้อื รา Candida spp. Aspergillus niger และ Trichosporon pullulans เป็นตน้ สาระสาคัญท่ีออกฤทธค์ิ อื Allicin Ajoene และ Diallyl trisulfide 2.8 ไม้อัดยางเฟอร์นิเจอร์ ภาพท่ี 2.8 ไมอ้ ดั ยางเฟอร์นิเจอร์ เหมาะสาหรับนาไปใชใ้ นงานเฟอรน์ ิเจอร์และงานตกแตง่ ทุกรปู แบบ ผวิ ไม้เรยี บเนยี นสามารถขัด เพ่อื ทาสไี ด้ง่าย หรือสามารถใช้เปน็ แผน่ รองสาหรบั ปดิ ด้วยวสั ดุปดิ ผิว ขนาดต้ังแต่ 3 มม. ข้ึนไป แต่จะไม่ เกนิ 10 มม. 2.9 วิธกี ารสกดั 2.9.1 มาเซอเรซัน (Maceration) เป็นเทคนิคหน่งึ ในการสกัดเอาสาระสาคัญออกจากพืชสมุนไพร โดยวิธกี ารหมกั หรอื แชก่ บั ตวั ทาละลาย เมื่อเน้อื เย่ือของสมุนไพรออ่ นนุ่ม ทาใหต้ ัวทาละลายสามารถแทรก
8 ซึมเขา้ ไปละลายองค์ประกอบภายในผงสมุนไพรออกมาใตก้ ารหมกั สมุนไพรควรทาในภาชนะท่ีมฝี าปดิ สนทิ ในตัวทาละลายทเ่ี หมาะสมจะทาเปน็ เวลานาน 7 วันหรอื จนกระท่ังองคป์ ระกอบท่ตี ้องการละลาย ออกมาหมดในระหวา่ งท่หี มกั ผงสมุนไพรอยูน่ ั้นควรเขย่าหรือคนเปน็ ครั้งคราวเพอ่ื เพิม่ อตั ราเร็วของการ สกัดเม่ือครบกาหนดเวลาจงึ กรองแยกกาก (Marc) ออกจาก ตวั ทาละลายวิธกี ารสกดั นเ้ี หมาะสมกบั พืช สมนุ ไพรทม่ี โี ครงสรา้ งหรือเน้ือเยอ่ื ทีไ่ ม่แข็งแรงมากนักเชน่ ใบ ดอก ซ่ึงทาให้ออ่ นนุ่มได้ง่ายจดั เปน็ วธิ ีท่ีใช้ ตัวทาละลายน้อยจึงประหยดั และเน่อื งจากเปน็ วธิ ีการท่ีไม่ใช้ความร้อนจึงเหมาะสมกบั การมาตรฐานท่ไี ม่ ทนต่อความร้อน 2.9.2 เพอร์โคเลชนั (Percolation) เป็นการปลอ่ ยให้ตวั ทาละลายไหลผ่านผงสมุนไพรอยา่ งชา้ ๆ พรอ้ มกบั ละลายเอาองคป์ ระกอบออกจากผงสมุนไพรออกมาโดยใช้เครือ่ งมือท่เี รยี กว่าเพอรโ์ คเลเตอร์ (Percolator) วธิ กี ารทาเพอร์โคเลขัน คือนาผงสมนุ ไพรมาหมกั กับตัวทาละลายก่อน 1 ชว่ั โมงเพื่อให้พอง ตัวเตม็ ทแ่ี ลว้ คอ่ ย ๆ บรรจผุ งยาทลี ะชั้นลงในเพอร์โคเลเตอร์ ซ่งึ มลี กั ษณะเปน็ คอลมั น์ (Column) ปลายเปิดทั้ง 2 ดา้ นโดยด้านบนจะกวา้ งกว่าด้านลา่ ง เพ่ือความสะดวกในการบรรจผุ งสมนุ ไพรส่วนปลาย ด้านลา่ งปดิ เปดิ ได้เพ่ือท่ีสามารถควบคมุ อตั ราการไหลของสารสกัดหรือเพอรโ์ คเลตจากเพอร์โคเลเตอร์ได้ เต็มตัวทาละลายลงไปให้ระดับตัวทาละลายสงู เหนือสมุนไพร (Solvent head) ประมาณ 0.5 เซนตเิ มตร ทงิ้ ไว้ 24 ชั่วโมงจงึ ปลอ่ ยใหต้ ัวทาละลายไหลผ่านผงสมนุ ไพรในอัตราเร็วท่ีพอเหมาะพร้อมกับเติมตวั ทา ละลายใหม่ลงไปเร่ือย ๆ อย่าให้แหง้ เกบ็ เพอร์โคเลตจนการสกดั สมบูรณ์ นาเพอร์โคเลตท่ีเก็บได้ทง้ั หมด รวมกันนาไปกรอง วธิ ีเพอรโ์ คเลชันจดั เป็นวธิ กี ารสกัดทด่ี สี าหรบั การสกดั สารจากสมุนไพรแบบสมบรู ณ์ และไมต่ อ้ งใช้ความร้อน 2.9.3 การสกดั แบบต่อเน่อื ง (Continuous extraction) เป็นวธิ กี ารสกดั สารสาคัญจากสมุนไพร โดยการใช้ความรอ้ นเขา้ ช่วยใชซ้ อกซเ์ ลตเอกซ์แทรกเตอร์ (Soxhlet extractor) ซึง่ เปน็ ระบบปิตโดยใชต้ ัว ทาละลายซงึ่ มีจดุ เดือดต่า เม่ือได้รบั ความร้อนจากหม้ออังไอนา้ ตัวทาละลายในภาชนะจะระเหยข้นึ ไปแลว้ กลั่นตัวลงมาในทิมเบอร์ (Thimble) ซ่งึ บรรจุสมุนไพรไว้ ตัวทาละลายจะผา่ นผงสมนุ ไพรซ้าแล้วซ้าอกี ไป เรื่อย ๆ จนกระทง่ั องคป์ ระกอบในสมนุ ไพรถูกสกดั ออกมา เมอื่ ตัวทาละลายในเอกซแ์ ทรกติงแชมเบอร์ (Extracting chamber) สงู ถึงระดับจะเกิดกาลักน้า สารสกัดจะไหลกลบั ลงไปในภาชนะวนเวียนเช่นน้ี จนกระท่งั การสกัดสมบูรณว์ ธิ กี ารสกัดแบบต่อเนื่องน้เี หมาะสมสาหรบั การสกัดองคป์ ระกอบทที่ นต่อความ ร้อนและใช้ตัวทาละลายนอ้ ย ไม่สิน้ เปลือง 2.10 ตัวทาละลาย ในการสกัดสารควรเลือกตวั ทาละลายให้เหมาะสมกับชนดิ ของสารที่ต้องการสกัด โดยตัวทาละลาย ควรมีสมบัตดิ งั น้ี
9 2.10.1 มีความสามารถในการละลายสาระสาคัญมากท่ีสดุ และไม่ละลายหรอื ละลายองคป์ ระกอบ อ่ืนๆ ได้น้อย(Selectivity)เนือ่ งจากสารสกัดสาคัญสว่ นใหญ่เป็นสารประกอบอนิ ทรยี ์ ซึ่งอาจมโี ครงสรา้ ง สลับซบั ซอ้ นมากนอ้ ยต่างกัน และมีอยใู่ นพืชทงั้ ในสภาพอสิ ระและรวมตัวกับสารอื่นๆ ในสภาพเกลอื หรือ สารประกอบเชงิ ซ้อน ดังน้นั ควรพิจารณาถึงสภาพหรอื รปู แบบของสารสกดั สาคญั ทตี่ ้องการสกัด นอกเหนือจากความมีข้วั ของสารสาคญั ดงั กลา่ ว ในการเลอื กตวั ทาละลายมีหลักการท่วั ไปว่า สิ่งที่ เหมือนกนั ย่อมละลายในกนั และกัน (Like dissolve like) เช่น ถา้ สาระสาคัญมีข้ัว กค็ วรเลือกตัวทา ละลายท่มี ีข้วั เชน่ เดียวกัในการสกดั 2.10.2 มคี วามคงตัวดี หาง่าย ราคาถูก และไมเ่ ปน็ พิษตอ่ รา่ งกาย 2.10.3 ไมร่ ะเหยงา่ ยหรือยากเกินไป 2.10.4 ลกั ษณะของพืชสมนุ ไพรท่ีทาการสกัด เชน่ เมลด็ เปน็ ส่วนทีม่ ีไขมันอยูม่ าก ควรขจดั ไขมัน ออกก่อนโดยการสกัดดว้ ยตวั ทาละลายอนิ ทรยี ์ประเภทไม่มขี ัว้ เช่น ปโิ ตรเลียมอีเทอร์ เปน็ ต้น แลว้ จงึ นา กากพชื ทเ่ี หลือไปสกัดต่อด้วยตัวทาละลายทเี่ หมาะสม คณะผจู้ ัดทาเลือกเอทานอล เน่อื งจากเป็นตัวทาละลายที่ดี ละลายนา้ ได้ดี สามารถสกดั หรอื ดึง สารสาคัญออกจากวตั ถดุ ิบเพ่ือใชเ้ ป็นสารออกฤทธใิ์ นยาบางชนิดได้ 2.12 งานวิจยั ท่ีเก่ียวข้อง ธัญญว์ ารนิ (2559) ไดท้ าการศกึ ษาประสทิ ธภิ าพของสารสกัดหยาบจากพืชสมุนไพร 7 ชนิด ได้แก่ กระเทียม ข่า พลู กานพลู อบเชย ชุมเห็ดเทศ ตะไคร้ และสมุนไพรผสมได้แก่ ข่าผสมพลู กานพลผู สม อบเชย และกานพลผู สมตะไคร้ ตอ่ การยับย้ังการเจรญิ เติบโต ของเชอ้ื ราที่มกี ารปนเป้ือนบนแผ่นยางใน จงั หวดั อุบลราชธานี โดยใช้วิธี Paper disc diffusion พบว่าสารสกัดจากอบเชยยับยัง้ เช้อื รา P. citrinum และ A. favus ได้มากทสี่ ุด ในขณะท่ีสารสกดั หยาบจากข่ายบั ยั้งเชื้อรา A. tamari ไดม้ ากทส่ี ดุ นิตยาและคณะ (2560) ไดศ้ ึกษาประสิทธภิ าพสารสกดั สมนุ ไพรในการยับยงั้ การเจริญของเชื้อราบน ยางแผ่น สมุนไพรที่ศึกษามี 11 ชนดิ ได้แก่ ใบพลู ข่า กานพลูอบเชย กระเทียม ตะไคร้หอมกระชาย โหระพา ข้ีเหล็ก สะเดา และผิวมะกรูด สมุนไพรถูกสกัดด้วยเมทานอลเป็นเวลา 7 วัน จากการทดลอง พบว่า เปอรเ์ ซ็นต์ผลผลิตของใบพลู ข่า กานพลอู บเชย กระเทยี ม ตะไคร้หอม กระชาย โหระพา ขเี้ หล็ก สะเดา และ ผวิ มะกรูด เท่ากับ 6.14 2.81 11.91 9.46 5.74 2.94 6.14 5.65 3.75 6.45 และ 13.20 ตามลาดับ ประสทิ ธิภาพของสารสกดั สมนุ ไพรถูกทดสอบโดยการสเปรย์สารสกดั สมุนไพรบนยางแผ่น และสงั เกตการณ์เกิดเชือ้ ราบนยางแผ่นเป็นเวลา 30 วนั พบว่า สารสกดั จากใบพลู และข่า สามารถยับยง้ั การเกดิ เชื้อราบนยางแผ่นได้เป็นเวลา 30 วนั ท่ีความเข้มข้นต่าสดุ 5 %
10 บทที่ 3 อุปกรณ์และวิธีดาเนินการทดลอง โครงงานเป็นการศึกษาสารสกดั หยาบจากพชื สมุนไพร ยบั ยง้ั การเกดิ เช้อื ราบนไม้อัดเฟอร์นิเจอร์ 3.1 วสั ดอุ ุปกรณแ์ ละเคร่ืองมอื พิเศษ 3.1.1 วัสดอุ ุปกรณ์ วสั ดุ-อุปกรณ์ บริษัทผู้ผลิต มีด เขียง ขวดรปู ชมพูข่ นาด 250 ml PYREX®, United States of America จกุ ปิด แท่งแกว้ คนสาร หลอดหยด กระบอกตวงสารขนาด 100, 50 ml กรวยกรองสารขนาด 55 mm โกร่งบดสาร ขวดสเปรย์แก้ว 10 ml กระบอกฉดี ยา 10 ml NIPRO กลอ่ งพลาสตกิ mBPA Free สาลี Smile cotton balls ไม้อดั ยางเฟอรน์ เิ จอร์ Lanna ลานนา เลื่อย Multi-Purpose MAGIC-SAW กระดาษกรอง Double Ring สมุนไพร 6 ชนิด 3.1.2 เคร่อื งมือพิเศษ สารเคมี บรษิ ัทผู้ผลติ หม้ออบลมร้อน Smart home เครอ่ื งชง่ั Miracle Lnternation Technology Co.,Ltd.
11 3.2 ข้นั ตอนการดาเนนิ งาน ตอนที่ 1 เตรียมสารสกดั จากสมนุ ไพร 3.2.1.1 นาสมนุ ไพรสดลา้ งนา้ ใหส้ ะอาด ห่ันชน้ิ เลก็ ๆ แล้วอบดว้ ยอุณหภมู ิ 60 ± 1 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 2 ชัว่ โมง จนแหง้ 3.2.1.2 นาไปป่นด้วยโกร่งบดสารจนละเอยี ด 3.2.1.3 นาสมุนไพรผง 5 กรมั แช่กับตัวทาละลายเอทานอล 95% 150 ml. เป็นเวลา 7 วัน เขยา่ เปน็ ครัง้ คราว 3.2.1.4 กรองดว้ ยกระดาษกรอง เก็บสารสกัดท่ีได้ไว้ในสเปรยข์ วดแกว้ ปิดฝาใหส้ นทิ นาไปแช่เยน็ เพอ่ื ใชใ้ นการทดลอง ตอนท่ี 2 ทดสอบประสิทธิภาพของสารสกัดหยาบจากพืชสมนุ ไพรต่อการยับย้ังการเกิดของเช้ือ ราบนแผน่ ไม้อดั ยางเฟอร์นิเจอร์ 3.2.2.1 ตดั ไมอ้ ัดยางเฟอร์นเิ จอร์ใหม้ ีขนาดประมาณ 5 × 5 เซนติเมตร 3.2.2.2 ฉีดเอทานอล 95% ทาความสะอาดกลอ่ งพลาสตกิ ใสที่ใช้ในการทดลอง รอให้แหง้ 3.2.2.3 นาสารสกัดหยาบจากอบเชย กระเทยี ม ใบพลู ขิง ข่า ตระไคร้ นา้ และเอทานอล 95% มาฉีดพน่ ลงบนแผ่นไมอ้ ัดยางเฟอร์นิเจอร์ทง้ั 2 ด้านให้ท่ัวแผ่น ประมาณดา้ นละ 0.5 มลิ ลลิ ิตร แล้วทิ้งไว้ ใหแ้ ห้ง 3.2.2.4 นากล่องพลาสติกใสทีเ่ ตรยี มไว้ ใส่สาลี 4 ก้อนวางไว้มุมกลอ่ งท้งั ส่มี ุมและเตมิ นา้ กลัน่ ปริมาตร 6 มิลลลิ ติ ร ในสาลีทกุ ก้อน 3.2.2.5 นาแผน่ ไมอ้ ัดยางเฟอร์นิเจอรท์ ่ีพน่ สารสกัดไว้แล้ววางลงในกลอ่ ง ปดิ ฝากล่อง แล้วนาไป บม่ ทอี่ ุณหภมู หิ อ้ ง 3.2.2.6 สังเกตและบันทกึ ผลเป็นเวลา 7 วัน ทาซ้า 1 รอบ ภาพท่ี 3.2.2.6 การวางแผนยางทส่ี เปรยดวยสารสกดั พืชสมุนไพร น้า และเอทานอล 95%
12 บทท่ี 4 ผลการทดลอง โครงงานเป็นการศึกษาสารสกัดหยาบจากพชื สมุนไพร ยับยงั้ การเกิดเช้ือราบนไมอ้ ัดเฟอรน์ ิเจอร์ มี ผลการทดลองดังน้ี ตอนท่ี 1 สารสกดั ทไี่ ด้เม่ือกรองแลว้ มีลักษณะใส มสี ีและกล่ินตามพชื สมนุ ไพรทีส่ กัด ดงั น้ี อบเชยมีสนี า้ ตาล ดา กระเทยี มมสี ีเหลอื ง ใบพลูมีสเี ขียวดา ขงิ มสี ีน้าตาลอมเหลอื ง ขา่ มสี นี า้ ตาลแดง ตะไคร้มสี ีเขยี วเหลือง ตอนที่ 2 ตาราง 4.1 ผลการทดลองคร้งั ท่ี 1 หมายเหตุ - หมายถึงไมเ่ กิดเชื้อรา และ + หมายถงึ เกดิ เชื้อรา สาร วนั ที่ 12 3 4 5 6 7 น้า - - + + + + + ใบพลู - - - + + + + กระเทยี ม --+++ + + ข่า - - - - - + + อบเชย - - - - - - - ขิง - - - - - - - ตะไคร้ - - - + + + + เอทานอล 95% - - - - + + + ตาราง 4.2 ผลการทดลองครั้งที่ 2 สาร วนั ที่ 1234 5 6 7 น้า - - + + + + + ใบพลู - - - - + + + กระเทียม - -++ + + + ขา่ - - - - - + + อบเชย - - - - - - - ขิง - - - - - - + ตะไคร้ - - - - + + + เอทานอล 95% - - - - + + +
13 บทท่ี 5 อภิปรายผลการทดลอง 5.1 สรุปผลการทดลอง จากการศกึ ษาสารสกัดหยาบจากพชื สมนุ ไพร ยบั ยั้งการเกิดเชอื้ ราบนไม้อัดยางเฟอร์นิเจอร์สรปุ ไดว้ า่ 5.1.1 ไดส้ ารสกดั ทม่ี ีลักษณะ ใส มสี ีและกลน่ิ ตามพืชสมนุ ไพรทใี่ ชส้ กัด 5.1.2 ระยะเวลาในการเกดิ เชอ้ื ราบนไม้อัดยางเฟอร์นิเจอรท์ ีส่ เปรยพ์ ชื สมนุ ไพรเป็นดังน้อี บเชย 7 วนั ขิง 6 วัน ข่า 5 วนั ใบพลแู ละตะไคร้ 3 วัน และกระเทียม 2 วัน ดงั น้ันสรุปได้ว่าอบเชยมีประสทิ ธิภาพ ยบั ยง้ั การเกดิ เชื้อราบนไม้อัดอย่างเฟอร์นเิ จอรไ์ ด้ดที ่ีสุด รองลงมาเปน็ ขงิ ข่า ใบพลู ตะไคร้ และกระเทียม ตามลาดับ 5.2 อภิปรายผลการทดลอง โครงงานสารสกัดหยาบจากพืชสมนุ ไพรยับยัง้ การเกิดเชอ้ื ราบนไม้อัดยางเฟอร์นิเจอรท์ างผูจ้ ัดทา ตอ้ งการเพ่ือศึกษาการสกัดสารสกัดหยาบจากพืชสมุนไพรบางชนดิ ด้วยวิธีการมาเซอเรซัน (Maceration) และเปรยี บเทียบฤทธ์ขิ องสารสกดั หยาบจากพชื สมุนไพรทน่ี ามาทดลองจานวน 6 ชนดิ ไดแ้ ก่ อบเชย กระเทยี ม ใบพลู ขิง ขา่ และตะไคร้ รวมไปถงึ นา้ และเอทานอล 95% โดยพบวา่ ได้สารสกดั ทม่ี ีลกั ษณะ ใส มีสีและกล่นิ ตามพชื สมุนไพรท่ีใชส้ กดั และเมื่อนาไปทดสอบบนแผ่นไม้อัดยางเฟอร์นเิ จอรแ์ ล้วไดผ้ ล ดงั นี้ จากการทดลองคร้งั ท่ี 1 พบว่า สารสกดั หยาบจากอบเชย และขิงสามารถยบั ย้งั การเกิดเช้ือราไดด้ ี ที่สดุ เปน็ เวลา 7 วัน รองลงมา ข่าสามารถยับย้ังการเกิดเชื้อราได้เปน็ เวลา 5 วัน สว่ น เอทานอล 95% ใบ พลู ตะไคร้ น้า กระเทยี ม สามารถยับย้งั ไดเ้ ปน็ เวลา 4, 3, 3, 2 และ2 วัน ตามลาดับ จากการทดลองครง้ั ท่ี 2 พบวา่ สารสกัดหยาบจากอบเชยสามารถยับยั้งการเกิดเชอื้ ราไดด้ ีทส่ี ดุ เป็น เวลา 7 วนั รองลงมาเป็นขิงสามารถยับยง้ั การเกิดเช้อื ราไดเ้ ป็นเวลา 6 วัน ส่วน ข่า เอทานอล 95% ใบ พลู ตะไคร้ น้า กระเทียม สามารถยบั ย้งั ไดเ้ ปน็ เวลา 5, 4, 4, 4, 2 และ2 วนั ตามลาดับ 5.3 ข้อเสนอแนะ 5.3.1 ศกึ ษาวิธีการอ่นื ในการสกดั สารจากสมุนไพร 5.3.2 ศึกษาผลของสารสกดั จากสมุนไพรที่มผี ลต่อชนดิ ของเชื้อราจากแหล่งอ่นื
14 เอกสารอ้างอิง แม้นสรวง วฒุ อิ ุดมเลศิ . (2555). เชอื้ ท่มี ากบั มลพิษในอาคาร: รา(ออนไลน)์ . สบื คน้ จาก : https:// pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/116/ [12 มีนาคม 2564] แม้นสรวง วุฒิอุดมเลศิ . (2556). โรคจากมลพิษในอาคาร : Stachybotrys (ตอนที่ 2(ออนไลน์)). สบื ค้น จาก : https://pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/134 [12มีนาคม 2564] พบแพทย์. (ม.ป.ป.). เชอ้ื รา อนั ตรายแค่ไหน ปอ้ งกนั ได้อย่างไร ? (ออนไลน์). สบื คน้ จาก : https://www.pobpad.com/ [12 มนี าคม 2564] คณะเภสัชศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากร. (2560). พลู(ออนไลน)์ . สบื ค้นจาก : http://pharmacy. su.ac.th/herbmed/herb/text/herb_detail.php?herbID=155 [12 มนี าคม 2564] กอ่ งกานดา ชยามฤต. (2548). ลักษณะประจาวงศ์พรรณไม้ (ออนไลน)์ . สบื คน้ จาก : https:// www.dnp. go.th/botany/PDF/publications/family_characters1.pdf [12 มีนาคม 2564] Author. (2555). ขงิ (ออนไลน์). สืบคน้ จาก : https://www.thaikasetsart.com [12 มีนาคม 2564] ลกั ษณา เจริญใจ. (ม.ป.ป.). ขิง สมุนไพรในครัวเรือน(ออนไลน)์ . สบื ค้นจาก : https://apps.phar. ubu.ac.thwebmgr/downloadfiledoc.php?file=jupload /uploads/ docs/old/8ginger.pdf [20 มนี าคม 2564] คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลยั ศิลปากร. (2560). ขา่ (ออนไลน)์ . สบื คน้ จาก : http://pharmacy. su.ac.th/herbmed/herb/text/herb_detail.php?herbID=56 [20 มีนาคม 2564] คณะเภสชั ศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยศิลปากร. (2560). ตะไคร้(ออนไลน)์ . สบื คน้ จาก : http://pharmacy. su.ac.th/herbmed/herb/text/herb_detail.php?herbID=96 [20 มนี าคม 2564] คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลยั ศิลปากร. (2560). กระเทียม(ออนไลน์). สบื คน้ จาก : http://pharmacy. su.ac.th/herbmed/herb/text/herb_detail.php?herbID=2 [20 มีนาคม 2564]
15 ไม้อัดลานนา. (2560). ไม้อดั ยางเฟอร์นิเจอร์(ออนไลน์). สืบค้นจาก :https://www.suksawad plywood. co.th/ [20 มีนาคม 2564] ธัญญว์ ารนิ ชูวฒั นว์ รกลู , สมจนิ ตนา ทวีพานชิ ย์, พิชญาภรณ์สุวรรณกูฏ, สายสมร ลาลอง. (2560). ประสทิ ธภิ าพของสารสกัดหยาบจากพืชสมนุ ไพรในการยับยั้งการเจรญิ ของเชื้อรา Penicillium citrinum Aspergillus flavus var. flavusและ Aspergillus tamarii ทแี่ ยกไดจ้ ากยางพาราแผ่น.วารสารวทิ ยาศาสตรม์ ข, 45(2), 276-286. สืบคน้ จาก : http://scijournal.kku.ac.th /files/Vol_45_No_2_P_276- 286.pdf ธัญญ์วาริน ชูวัฒนว์ รกลู . (2559). การยบั ยั้งการเจรญิ ของเชือ้ ราบนยางพาราแผ่นด้วยสมุนไพร (วทิ ยานิพนธป์ ริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต ). อบุ ลราชธาน.ี มหาวิทยาลัยอบุ ลราชธาน.ี สบื ค้นจาก : http://www.esanpedia.oar.ubu.ac.th/ eresearch/sites/default /files/Thanwarin_Chuwatworakoon.pdf
ภาคผนวก 16 ภาคผนวกที่ ก : ภาพบันทึกผลการทดลอง ครง้ั ที่ 1 ข่า ช่ือสาร วันท่ี ควบคมุ ใบพลู กระเทยี ม 1 2 3 4 5 6 7
17 ภาคผนวกท่ี ก : ภาพบันทึกผลการทดลอง ครงั้ ท่ี 1 (ตอ่ ) ช่ือสาร อบเชย ขงิ ตะไคร้ เอทานอล 95% วนั ท่ี 1 2 3 4 5 6 7
ภาคผนวกที่ ก : ภาพบนั ทกึ ผลการทดลอง ครั้งท่ี 2 18 ช่ือสาร ควบคมุ ใบพลู กระเทยี ม ข่า วันท่ี 1 2 3 4 5 6 7
19 ภาคผนวกท่ี ก : ภาพบันทึกผลการทดลอง ครงั้ ท่ี 2 (ตอ่ ) ช่ือสาร อบเชย ขงิ ตะไคร้ เอทานอล 95% วนั ท่ี 1 2 3 4 5 6 7
20 ภาคผนวกท่ี ข : ภาพทาการทดลองเพมิ่ เติม 1. ห่ันสมนุ ไพรสดเป็นชนิ้ เลก็ ๆ 2. นาสมนุ ไพรเข้าต้อู บ 3. บดให้ละเอยี ด 4. ตวงสมนุ ไพรผง 5. เทเอทานอล 95% ลงในสมุนไพร 6. แช่ทิง้ ไว้ 7 วัน เขย่าเปน็ ครัง้ คราว 7. กรองดว้ ยกระดาษกรอง 8. ตัดไม้อัดยาง 9. ฉดี สารสกดั ลงในไม้อดั ยาง 10. ใส่น้าลงในก้อนสาลี 11. ปิดฝากลอ่ ง 12. สังเกตการณ์และบันทึกผล
Search
Read the Text Version
- 1 - 27
Pages: