Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โครงการพัฒนาทักษะวิชาชีพ

โครงการพัฒนาทักษะวิชาชีพ

Published by กาญจนา แก้วรัตน์, 2020-04-10 12:57:45

Description: โครงการพัฒนาทักษะวิชาชีพ

Search

Read the Text Version

5 การประสานงานกบั ภาครฐั ไมต่ ่อเนอ่ื ง - 30% 50% 20% - 3 0.67 รวม 2.58 0.27 สรุป ตารางท1ี่ 4 แสดงค่าเฉลยี่ สว่ นเบี่ยงเบน มาตรฐานของปญั หาสุขภาพด้านชุมชน ปญั หา x S.D. 0.19 ปญั หาด้านเศรษฐกจิ 3.18 0.21 0.09 ปัญหาดา้ นสงั คม 2.98 0.14 0.27 ปัญหาด้านการจดั การทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม 3.17 0.18 ปัญหาดา้ นสขุ ภาพและพฤติกรรมการดูแลสุขภาพตัวเองและครอบครัว 2.96 ปัญหาดา้ นอ่นื ๆ 2.58 ค่าเฉล่ยี รวม 3.00 จากตารางท่ี 1 สรปุ ได้ว่า ปัญหาปญั หาด้านเศรษฐกจิ มคี ่าเฉล่ยี เลขคณิตสงู ทส่ี ดุ คือ 3.18 และมีคา่ เบยี่ งเบนมาตรฐานอยทู่ ่ี 0.19 รองลงมาคือมีดา้ นการจัดการทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อมและการทอ่ งเท่ียว คา่ เฉลี่ยเลขคณิตสงู ทสี่ ุดคือ 3.17 และมคี า่ เบยี่ งเบนมาตรฐานอยู่ท่ี 0.18

การคิดคะแนนเพอื่ จัดลาดับความสาคัญของปัญหา เกณฑก์ ารจัดลาดับความสาคญั ของปญั หาของ John J. Hanlon A = ขนาดของปัญหา ใหค้ ะแนนระหวา่ ง 0-10 B = ความรุนแรงของปัญหา ใหค้ ะแนนระหว่าง 0-20 C = ประสิทธภิ าพของการปฏบิ ัตงิ าน ให้คะแนนระหวา่ ง 0-10 D = ขอ้ จากดั ให้คะแนน 0-1 สูตร Basic priority rating (B.P.R) = ( A+B ) x C x D 3 คะแนนขององคป์ ระกอบ คะแนนรวม ปัญหา ขนาดของ ความ ความยาก ความ วิธีบวก วธิ ีคณู ลาดบั ปญั หา รุนแรง งา่ ย สนใจ ของ ปัญหา 1.โรคเกาต์ 6 11 3 1 21 198 1 2.โรคขอ้ เข่าเส่อื ม 3 7 4 1 15 84 2 3.โรครูมาตอยด์ 3 5 5 1 14 75 3 4.โรคกระดูกทบั เส้น 2 3 6 1 12 36 4 5.โรคขอ้ อักเสบสะเก็ดเงิน 1 2 7 1 11 14 5 จากตาราง พบว่าปญั หาชมุ ชนอนั ดบั ท่ี 1 คือ โรคเกาต์ อนั ดับที่ 2 คอื โรคขอ้ เขา่ เสอื่ ม อนั ดบั ท่ี 3 คือ โรครมู าตอยด์ อนั ดบั ท่ี 4 โรคกระดกู ทบั เสน้ อนั ดับท่ี 5 โรคขอ้ อกั เสบสะเกด็ เงิน ตามลาดับ ท่ีมา:จากอ้างอิงทฤษฏีวธิ ีของภาควิชาบริหารสาธารณสุข คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยมหิดล จาก วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสขุ

บทท่ี4 แผนงานโครงการ จากการสารวจชุมชนหมู่ท่ี 3 บา้ นตลาดใหม่ ตาบลบางเปูา อาเภอกันตัง จังหวัดตรัง ได้ลงสารวจพ้ืนท่ี โดยใช้แบบสอบถามข้อมูลวเิ คราะหเ์ พื่อจัดลาดับความสาคัญของปัญหา เพ่ือหาวิธีการแก้ปัญหาให้กับชุมชน จาก การศกึ ษาพบว่าชมุ ชนมีปัญหาดา้ นสขุ ภาพของคนในชุมชน เปน็ อนั ดับแรก ดงั นั้น จึงนาปัญหาด้านสขุ ภาพ โรคเกาต์ มาจดั โครงการเพ่ือใหค้ วามรูก้ บั คนในชุมชน เกิดความรู้ ความเข้าใจ ในการควบคุมปูองกันโรคเกาต์ทถี่ กู วธิ แี ละเหมาะสม 4.1 แผนงาน / โครงการ จากปญั หาทพ่ี บ พบว่าเป็นปญั หาท่ีทางชุมชนมคี วามตอ้ งการใหด้ าเนนิ การ จากปัญหาดังกลา่ ว จึงได้ จัดทาโครงการเพ่ือแกป้ ญั หาสุขภาพของชมุ ชน 1 โครงการ โดยมรี ายละเอียดดงั น้ี ชอ่ื กจิ กรรม/โครงการ : เกาต์ โรควยั เกา๋ ชอ่ื -สกุล ผู้เสนอกิจกรรม/โครงการ : นายอดิศร ฤทธ์ิสาคร สังกดั : หลักสตู รประกาศนียบตั รวิชาชีพชัน้ สงู สาขาปฏิบัตกิ ารฉุกเฉนิ การแพทย์ ร่นุ ท่ี 15 ช้ันปีท่ี 2

1. หลกั การและเหตผุ ล/ท่มี า/ปัญหา 1.1 หลกั การและเหตผุ ล โรคเกาต์ (gout) คอื โรคทเี่ กดิ จากภาวะกรดยรู กิ (uric acid) ในเลือดสงู ติดต่อกนั เปน็ ระยะเวลานาน โดย ภาวะกรดยรู ิกสูงหมายถงึ ระดบั กรดยรู ิกมากกว่า 7 มก./ดล. ในเพศชาย และ 6 มก./ดล. ในเพศหญงิ โรคเกาตพ์ บ บอ่ ยในชายวยั กลางคนข้ึนไป หรอื หญงิ ในวยั หมดประจาเดอื นการสะสมของกรดยรู กิ ในร่างกายเปน็ ระยะเวลานาน อาจทาใหเ้ กดิ โรคเกาต์ขึ้นได้ โดยสามารถเกดิ โรคไดใ้ นหลายอวยั วะ ได้แก่ ข้อ ผิวหนงั และไต อาการทพี่ บบอ่ ยทสี่ ุด คืออาการทางขอ้ ได้แก่ ขอ้ อักเสบเฉียบพลนั โดยผู้ปุวยจะมอี าการปวดอยา่ งรุนแรงและฉบั พลันทันทที ันใด ขอ้ ท่ี เปน็ จะบวมข้ึน มสี แี ดงรอบ ๆ ขอ้ หากคลาดจู ะพบวา่ อุน่ กวา่ ข้อเดยี วกนั ในข้างตรงข้าม ข้อทอ่ี กั เสบในชว่ งแรก มกั เป็นทขี่ อ้ โคนน้ิวหัวแมเ่ ทา้ หรอื ขอ้ เทา้ หากทง้ิ ไวน้ าน โดยไมไ่ ดร้ ับการรกั ษา อาจมกี ารอกั เสบทขี่ ้ออ่ืนได้ด้วย เช่น ขอ้ เข่า ขอ้ ศอก ข้อมอื เปน็ ตน้ จากการสารวจข้อมูลครวั เรอื น หมู่ท่ี 3 บา้ นตลาดใหม่ ตาบลบางเปูา อาเภอกันตงั จังหวัดตรงั มีจานวน ครวั เรือนท้งั ส้นิ 395 ครัวเรอื น ซ่ึงจากการสารวจครัวเรือน มีโรคเกาต์ พบบ่อยท่ีสุดในผู้ปุวยชายท่ีมีอายุมากกว่า 40 ปขี ึ้นไป พบในเพศชายมากกวา่ เพศหญิงเป็นสัดส่วน 9:1 โดยในเพศชายมักพบช่วงอายุระหว่าง 30-50 ปี เพศ หญิงพบไดม้ ากขึน้ ในชว่ งอายุมากกว่า 50 ปี หรือวัยหลังหมดประจาเดือนและเกิดจากการไม่ควบคุมอาหารและ บกพร่องตอ่ การออกกาลังกายเท่าทค่ี วร จึงไดจ้ ัดโครงการรณรงค์ ปูองกนั และควบคมุ โรคเกาต์ หมู่ 3 บ้านตลาดใหม่ ตาบลบางเปูา อาเภอกันตัง จงั หวัดตรงั ขนึ้ เพือ่ ใหป้ ระชาชนในชุมชนมคี วามรู้เรอ่ื งการปูองกนั โรคเกาตเ์ พ่ือลดอตั ราการปุวยด้วยโรคเกาต์ และ เพ่ือให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการปูองกันควบคุม รักษาและการเฝูาระวังโรคไม่ติดต่อในหมู่ 3 ตาบลบางเปูา อาเภอกันตัง จังหวัดตรงั 1.2 วตั ถปุ ระสงค์ 1.2.1 เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเส่ียงและกลุ่มท่ีเป็นโรคเกาต์ เกิดความรู้ ความเข้าใจ ในการควบคุมปูองกัน โรคเกาต์ท่ถี กู วธิ แี ละเหมาะสม 1.2.2 เพ่ือใหป้ ระชาชนหันมาสนใจและให้ความสาคัญกับปัญหาเรือ่ งการควบคุมโรคเกาต์ 1.2.3 เพ่ือใหป้ ระชาชนมสี ่วนรว่ มในการเข้ารว่ มโครงการ 1.3 กลุ่มเปา้ หมาย อสม. ตัวแทนครวั เรือนและประชาชน หม่ทู ่ี 3 บ้านตลาดใหม่ ตาบลบางเปูา อาเภอกันตงั จงั หวดั ตรงั จานวน 100 คน

1.4 เปา้ หมาย 1.4.1 เป้าหมายเชิงคณุ ภาพ - ประชาชนมคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ในการควบคุมปอู งกนั โรคเกาตไ์ ด้ในระดบั ดี 1.4.2 เป้าหมายเชิงปรมิ าณ - อสม. ตัวแทนครวั เรอื นและประชาชน หมูท่ ่ี 3 บา้ นตลาดใหม่ ตาบลบางเปาู อาเภอกันตงั จังหวัดตรงั เขา้ ร่วมโครงการรอ้ ยละ 70 1.5 ระยะเวลาดาเนินการ ตงั้ แต่วันที่ 10 เมษายน – 12 เมษายน 2563 1.6 ดชั นตี วั ช้ีวดั ความสาเรจ็ 1.6.1. ประชนชนกลมุ่ เส่ียงและกล่มุ ทเี่ ปน็ โรคเกาตท์ ี่เขา้ รว่ มโครงการ มคี วามรคู้ วามเข้าใจในการควบคุม ปูองกันโรคเกาต์ในระดบั ดีรอ้ ยละ70 หลงั ส้ินสดุ โครงการ 1.6.2. อตั ราความพึงพอใจของประชาชนท่เี ข้าร่วมโครงการ ร้อยละ70 พงึ พอใจ 1.7 ผรู้ ับผดิ ชอบโครงการ นายอดิศร ฤทธิ์สาคร นักศกึ ษาหลักสตู รฉุกเฉินการแพทย์ รนุ่ ที่ 15 ชนั้ ปที ี่ 2 1.8 สถานทดี่ าเนนิ โครงการ โรงพยาบาลสง่ เสริมสุขภาพบา้ นบางเปูา หมทู่ ี่ 3 บ้านตลาดใหม่ ตาบลบางเปูา อาเภอกันตงั จงั หวดั ตรงั 1.9 ผลทคี่ าดว่าจะได้รับ 1.8.1 ประชาชนกลมุ่ เส่ียงและกล่มุ ทีเ่ ป็นโรคเกาต์ ทีเ่ ขา้ ร่วมโครงการ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ในการควบคุม ปูองกันโรคเกาต์ทีถ่ กู วธิ แี ละเหมาะสม 1.8.2 ประชาชนกลุม่ เส่ยี งและกลมุ่ ทเ่ี ปน็ โรคเกาต์ ใหค้ วามสาคัญเรือ่ งโรคมากข้นึ 1.8.3 ประชาชนใหค้ วามรว่ มมือ และพงึ พอใจต่อการเขา้ อบรมอยู่ในระดับดี

2. แผนการดาเนินงาน 2.1 วิธกี ารดาเนนิ งาน กระบวนการ กจิ กรรม เวลาดาเนนิ การ ผรู้ บั ผดิ ชอบ การวางแผน (P) 1. ประชุมวางแผน กาหนดวัตถุประสงค์ 10 เมษายน นายอดิศร ฤทธ์ิสาคร งบประมาณ ดัชนีชี้วัดความสาเร็จ พัฒนา 2563 นักศึกษาหลกั สูตรฉกุ เฉิน โครงการฉบบั สมบรู ณ์เพ่ือขออนุมตั ิ การแพทย์ ร่นุ ท่ี 15 2. เมอ่ื โครงการไดร้ บั อนุมตั ิแล้วจึงมอบหมาย ชัน้ ปที ี่ 2 ห น้ า ท่ี รั บ ผิ ด ช อ บ ภ า ย ใ น ก ลุ่ ม พ ร้ อ ม ท้ั ง ประสานผู้ท่ีเก่ียวข้องประสานงานชุมชน จัดเตรยี มวัสดุ อปุ กรณ์ทตี่ ้องใช้ การปฏิบตั ิ 1.จัดโครงการตามกาหนดการ 11 เมษายน นายอดิศร ฤทธิ์สาคร (D) 1.1 วันจัดกจิ กรรม 2563 นกั ศึกษาหลกั สูตรฉุกเฉิน การแพทย์ รุ่นท่ี 15 1.1.1 ทาแบบทดสอบกอ่ นให้ความรู้ ชัน้ ปีท่ี 2 1.1.2 การบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับโรค เกาต์และวิธกี ารปอู งกนั โรคเกาต์ 1.1.3 กิจกรรมตอบคาถามเก่ียวกับ ความรู้โรคเกาต์ 1.1.4 จัดกิจกรรมกลุ่ม ( Focus Group) ระดมสมองภายในกลุ่ม 1.1.5 ทาแบบทดสอบหลงั ให้ความรู้ 1.1.6 ทาแบบประเมินความพึงพอใจ 1.2 วันเดินรณรงค์ 1.2.1 ใหค้ วามรู้เรือ่ งโรคเกาต์ 1.2.2 แจกแผ่นพบั การประเมนิ ผล ประเมนิ ผลตามวัตถปุ ระสงคด์ ้วย 11 เมษายน นายอดศิ ร ฤทธิ์สาคร (C) 1. แบบลงทะเบยี นเขา้ รว่ มโครงการ 2563 นกั ศึกษาหลกั สูตรฉุกเฉิน 2. ประเมินความรู้ก่อน-หลงั ใหค้ วามรู้ การแพทย์ รุ่นที่ 15 3. สังเกตการมสี ว่ นรว่ มของผเู้ ข้ารว่ มโครงการ ชั้นปที ี่ 2

กระบวนการ กจิ กรรม เวลาดาเนินการ ผู้รับผดิ ชอบ ก า ร ป รั บ ป รุ ง 1.ประชมุ ผู้จัดทาโครงการเพอ่ื สรปุ ผลการ 12 เมษายน นายอดิศร ฤทธิส์ าคร หรือ นาผ ลกา ร ดาเนนิ งานและเสนอแนะแนวทางเพื่อปรบั ปรงุ 2563 นักศกึ ษาหลกั สตู รฉุกเฉิน ป ร ะ เ มิ น ไ ป ใ ช้ พัฒนา การแพทย์ รุ่นท่ี 15 ประโยชน์ ชนั้ ปที ่ี 2 (A) 2.2 ผลการดาเนนิ งาน 2.2.1 การดาเนินงานในขัน้ ตอนการวางแผน (P) - ประสานงานกับแกนนา อสม.หมทู่ ี่ 3 บ้านตลาดใหม่ ตาบลบางเปาู อาเภอกนั ตัง จังหวัดตรงั นายอดศิ ร ฤทธิ์สาคร หลักสูตรฉุกเฉินการแพทย์ ช้ันปีท่ี 2 ประสานงานกับแกนนาอสม. หมู่ 3 เพ่อื จัดการทาประชาคมหาปญั หาทีต่ อ้ งแก้ไขเพอื่ จดั ทาโครงการ -ประชุมวางแผนกาหนดการดาเนนิ งานและเขยี นโครงการเพื่อขออนุมัติ นายอดิศร ฤทธ์สิ าคร หลกั สตู รฉุกเฉินการแพทยจ์ ดั ประชมุ กันกับแกนนาอสม.หมู่ 3 เพือ่ สอบถาม ปัญหาต่างๆทเ่ี กิดขึ้นในชมุ ชน และได้มกี ารประชุมกนั ภายในกลุ่มเพ่อื วางแผนการดาเนนิ งาน กาหนดวัตถุประสงค์ วางแผนการใช้งบประมาณ หน้าท่ีรบั ผิดชอบ เพอื่ ใหก้ ารดาเนินงานโครงการเปน็ ไปอยา่ งมีประสิทธภิ าพ -ตดิ ตอ่ ประสานงาน กบั ผทู้ ่เี กย่ี วข้องในชุมชน นายอดิศร ฤทธ์ิสาคร หลักสูตรฉุกเฉินการแพทย์ ได้ติดต่อจัดการขอสถานที่ในการทากิจกรรม เพ่ือใหก้ ารดาเนินงานโครงการเป็นไปอย่างมปี ระสิทธิภาพ - ติดต่อขอใชส้ ถานท่ี 2.2.2. การดาเนินงานในข้นั ตอนการปฏิบตั ิ (D) - เสนอรา่ งโครงการ และปรับแก้ไข โครงการรณรงค์ ปูองกันและควบคุมโรคเกาต์ หมู่ท่ี 3 ตาบล บางเปูา อาเภอกันตงั จังหวดั ตรงั - จดั เตรียมเอกสารในการทาโครงการ - จัดเตรยี มสถานทใ่ี นการจดั ทาโครงการรณรงค์ ปูองกนั และควบคุมโรคโรคเกาต์ หมู่ที่ 3 ตาบล บางเปาู อาเภอกนั ตงั จงั หวัดตรงั - ดาเนินงานกิจกรรมโครงการรณรงค์ ปูองกันและควบคุมโรคโรคเกาต์ หมู่ที่ 3 ตาบลบางเปูา อาเภอกันตัง จงั หวัดตรัง ด้วยการบรรยายให้ความรู้เกย่ี วกบั โรคเกาต์

นายอดศิ ร ฤทธส์ิ าคร หลกั สูตรฉุกเฉินการแพทย์ ได้เข้ารับการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลตัวเอง การรกั ษา อาการ และการปอู งกนั เกย่ี วกบั โรคเกาต์ - รณรงค์ให้ความร้เู รอ่ื งโรคเกาต์ 2.3 จานวนผเู้ ขา้ รว่ มโครงการ อสม. และตัวแทนครัวเรอื น หมทู่ ่ี 3 บา้ นตลาดใหม่ ตาบลบางเปูา อาเภอกันตัง จงั หวัดตรงั จานวน 90 คน 2.4 สถานที่ดาเนินการ โรงพยาบาลสง่ เสริมสขุ ภาพบา้ นบางเปาู หมทู่ ่ี 3 บา้ นตลาดใหม่ ตาบลบางเปาู อาเภอกันตงั จงั หวดั ตรงั 2.5 งบประมาณ งบประมาณรายจ่ายประจาปี 2562 เงินอุดหนุนท่ัวไป เงินอุดหนุนสาหรับการดาเนินงานตามโครงการ พระราชดาริด้านสาธารณสุข(สนับสนุนจาก อสม. หมทู่ ี่ 3 บ้านตลาดใหม่ ตาบลบางเปูา อาเภอกันตัง จังหวัดตรัง) จานวน 6,000 บาท (แปดพันหา้ ร้อยบาทถว้ น) ใชจ้ ่ายดังนี้ 1.คา่ อาหารวา่ งและเคร่อื งดื่ม จานวน 100 คนๆละ 1 ม้ือๆ ละ 20 บาท เป็นเงิน 2,000 บาท 2.คา่ อาหารกลางวัน จานวน 100 คนๆละ 1 ม้อื ๆ ละ 25 บาท เปน็ เงิน 2,500 บาท 3.ค่าสมนาคณุ วทิ ยากร จานวน 2 ชวั่ โมงๆละ 300 บาท เป็นเงิน 600 บาท 4.ค่าปาู ยไวนลิ โครงการ เปน็ เงิน 200 บาท 5.คา่ วัสดุทใี่ ช้ในโครงการ เป็นเงิน 300 บาท รวมเป็นเงิน 5,600 บาท (แปดพันหา้ บาทถ้วน) หมายเหตุ : ทกุ รายการสามารถถัวเฉลีย่ ได้

3.เคร่ืองมอื และวธิ ีการในการประเมนิ ผล หลังจากท่ีได้ดาเนินงานตามแผนของโครงการแล้วน้ัน ซ่ึงในขั้นตอนสุดท้ายจะเป็นกิจกรรมในการ ประเมนิ ผลโครงการ หากพิจารณาถึงความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งการวางแผนกบั การประเมนิ ผลโครงการ พบว่า กิจกรรม ท้ังสองมีความสัมพันธ์ที่ต้องดาเนินการควบคู่กัน โดยการวางแผนโครงการเป็นกิจกรรมของการกาหนด แนว ทางการนาไปปฏบิ ตั ิเพ่ือการบรรลวุ ัตถปุ ระสงค์ ส่วนการประเมินผลโครงการเปน็ กิจกรรมสดุ ท้ายในการพจิ ารณาผล การดาเนนิ งานเปน็ ไปตามแผนท่ีกาหนดหรอื ไม่ 3.1 เคร่อื งมือที่ใช้ในการเกบ็ ขอ้ มูล 3.1.1 แบบทดสอบความรู้ ทศั นคติและพฤติกรรม กอ่ น-หลังให้ความรู้ เครอื่ งมือที่ใชใ้ นการเก็บรวบรวมข้อมลู เพื่อการประเมนิ ในครั้งนี้ เป็นแบบสอบถามทผ่ี ู้รับผิดชอบโครงการ ไดส้ รา้ งขึน้ ให้สอดคลอ้ งกับวตั ถุประสงค์ และตวั ชว้ี ัดของโครงการ ซ่ึงมรี ายละเอยี ดดังน้ี สว่ นที่ 1 ขอ้ มลู พื้นฐานส่วนบุคคล ไดแ้ ก่ เพศ อายุ ระดับการศึกษา อาชีพ สว่ นที่ 2 ความรู้เร่ืองเกาต์ แบบสอบถามเป็นแบบเลือกคาตอบเพียงคาตอบเดียว คือ ถูก หรือ ผิด จานวน 10 ข้อ กาหนดเกณฑก์ ารให้คะแนนดงั น้ี ตอบถกู ไดค้ ะแนนเทา่ กับ 1 คะแนน ตอบผดิ ไดค้ ะแนนเท่ากบั 0 คะแนน ส่วนที่ 3 ทศั นคตติ อ่ การปอู งกนั และควบคมุ โรคเกาต์แบบสอบถามเป็นแบบเลอื กคาตอบเพียงคาตอบ เดยี ว คือ เห็นดว้ ยอย่างยิง่ เหน็ ดว้ ย ไมแ่ นใ่ จ ไมเ่ ห็นด้วย ไมเ่ หน็ ด้วยอยา่ งยงิ่ ข้อคาถามมที ัง้ ดา้ นบวกและดา้ นลบ จานวน 10 ข้อ กาหนดเกณฑ์การให้คะแนน ดังนี้ คาถามเชิงบวก คาถามเชงิ ลบ เหน็ ด้วยอยา่ งยง่ิ ได้ 5 คะแนน ได้ 1 คะแนน เหน็ ด้วย ได้ 4 คะแนน ได้ 2 คะแนน ไมแ่ นใ่ จ ได้ 3 คะแนน ได้ 3 คะแนน ไมเ่ ห็นดว้ ย ได้ 2 คะแนน ได้ 4 คะแนน ไม่เหน็ ดว้ ยอย่างยง่ิ ได้ 1 คะแนน ได้ 5 คะแนน

สว่ นท่ี 4 พฤติกรรมการปฏบิ ตั ิตวั ปอู งกนั โรคเกาต์แบบสอบถามเป็นแบบเลือกตอบเพียงคาตอบเดียว คอื ปฏบิ ตั ิเป็นประจา 7 วนั /สัปดาห์ ปฏิบัติบ่อยคร้ัง 5-6 วัน/สัปดาห์ ปฏิบัตินานๆ คร้ัง 3-4 วัน/สัปดาห์ ปฏิบัติ บางครัง้ 1-2 วัน/สปั ดาห์ ไม่ได้ปฏบิ ัติเลย ขอ้ คาถามเชงิ บวก จานวน 10 ข้อ กาหนดเกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ดงั นี้ ปฏิบตั ิเปน็ ประจา(7 วัน/สปั ดาห)์ ได้ 5 คะแนน ปฏบิ ตั บิ ่อยครั้ง (5-6 วนั /สปั ดาห)์ ได้ 4 คะแนน ปฏบิ ัตนิ านๆ ครัง้ (3-4 วนั /สัปดาห)์ ได้ 3 คะแนน ปฏิบัติบางครงั้ (1-2 วัน/สปั ดาห)์ ได้ 2 คะแนน ไมไ่ ดป้ ฏิบัตเิ ลย ได้ 1 คะแนน 3.1.2 แบบประเมินความพงึ พอใจการเขา้ รว่ มโครงการ โดยเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนความพึงพอใจ ดังนี้ ระดับความพงึ พอใจมากทส่ี ุด 5 คะแนน ระดับความพงึ พอใจมาก 4 คะแนน ระดบั ความพงึ พอใจปานกลาง 3 คะแนน ระดับความพงึ พอใจนอ้ ย 2 คะแนน ระดบั ความพงึ พอใจนอ้ ยที่สดุ 1 คะแนน 3.2 วธิ ีการเก็บรวบรวมข้อมูล 3.4.1 วัดความรู้ ของประชาชนทเ่ี ขา้ ร่วมโครงการโดยใชแ้ บบทดสอบความรู้ กอ่ นการเข้าอบรม 3.4.5 วดั ความรู้ ของประชาชนที่เข้าร่วมโครงการโดยใช้แบบทดสอบความรู้หลังจากการเขา้ อบรม 3.3 การวเิ คราะหข์ อ้ มลู การวเิ คราะหข์ อ้ มลู ดงั รายละเอยี ดตอ่ ไปนี้ 1. การวิเคราะหข์ ้อมลู สว่ นบคุ คล ใชส้ ถิตกิ ารแจกแจงความถ่ี ( Frequency ) และร้อยละ( Percentage ) 2. การประเมินความพึงพอใจ การประเมินความรู้ ใช้สถิติค่าเฉล่ีย ( Ẋ ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( S.D.) 3.4 เกณฑท์ ีใ่ ชใ้ นการวเิ คราะหข์ อ้ มลู 3.4.1 แบบทดสอบความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรม ก่อน-หลงั ให้ความรู้ 3.4.1.1 การแปลผลคะแนน สาหรับเกณฑ์การประเมินระดับความรู้เก่ียวกับเรื่องไข้เลือดออก แบ่งออกเป็น 3 ระดับโดยใชว้ ธิ กี ารกาหนดเกณฑต์ ามชว่ งคะแนนตามหลักวิธีคิดของบลูม Bloom (1964อ้างถึงใน สมนกึ แก้ววไิ ล, 2552) ซ่ึงมีระดบั คะแนน ดังนี้ รอ้ ยละ (ของคะแนนเตม็ ) 80.00 ขนึ้ ไป (8-10ข้อ) ระดับความรู้ 50.00 - 79.99 (5-7ขอ้ ) ระดับดี 1.00 - 49.99 (0-5ข้อ) ระดับปานกลาง ระดับควรปรบั ปรงุ

3.4.1.2 การแปลผลคะแนนสาหรับเกณฑ์การประเมินทศั นคตเิ กย่ี วกบั การปูองกันและควบคุมโรค ไขเ้ ลือดออกโดยใช้วิธีการกาหนดเกณฑ์ตามช่วงคะแนนตามหลักวิธีคิดของเบสท์ (Best, 1997 อ้างถึงในกุลธิดา เหมาเพชร และคณะ, 2555) ดงั น้ี ระดับทัศนคติ คา่ ระดบั คะแนนเฉลยี่ ระดับสูง 3.67 - 5.00 ระดบั ปานกลาง 2.34 - 3.66 ระดบั ต่า 1.00 - 2.33 3.4.1.3 การแปลผลคะแนนสาหรับเกณฑ์บง่ ช้ีพฤตกิ รรมการออกกาลังกาย โดยใช้วิธีการกาหนด เกณฑต์ ามชว่ งคะแนนตามหลักวิธคี ดิ ของเบสท์ (Best, 1997 อ้างถึงในกุลธิดา เหมาเพชร และคณะ, 2555) ดงั นี้ ระดับพฤตกิ รรม ค่าระดบั คะแนนเฉล่ยี ระดบั สูง 3.67 - 5.00 ระดับปานกลาง 2.34 - 3.66 ระดับตา่ 1.00 - 2.33 3.4.2 แบบประเมนิ ความพึงพอใจการเข้ารว่ มโครงการ โดยเกณฑก์ ารให้คะแนนความพึงพอใจ ดงั น้ี คะแนนเฉลย่ี สงู กวา่ 4.50 มีความพึงพอใจในระดบั มากทส่ี ุด คะแนนเฉล่ียระหวา่ ง 3.50 – 4.49 มคี วามพึงพอใจในระดบั มาก คะแนนเฉลี่ยระหวา่ ง 2.50 – 3.49 มีความพึงพอใจในระดบั ปานกลาง คะแนนเฉลย่ี ระหวา่ ง 1.50 – 2.49 มีความพึงพอใจในระดบั นอ้ ย คะแนนเฉลี่ยตา่ กว่า 1.50 มีความพึงพอใจในระดบั น้อยทส่ี ดุ

4.ผลการประเมนิ การดาเนินโครงการ 4.1 ขอ้ มลู ทว่ั ไปของผตู้ อบแบบประเมิน ผ้เู ขา้ รว่ มโครงการมี 90 คน จากจานวนท้ังหมด 100 คน คดิ เป็นร้อยละ 80 ซึ่งข้อมูลท่วั ไปในเรอ่ื งเพศ อายรุ ะดบั การศกึ ษา อาชีพ สถานภาพ มขี ้อมูลดังตารางต่อไปน้ี ตารางที่ 4.1.1 เพศของผเู้ ขา้ รว่ มโครงการ เพศ จานวน รอ้ ยละ หญงิ 60 76.67% ชาย 30 23.33% รวม 90 100 จากตารางแสดงขอ้ มูลเพศของผเู้ ข้าร่วมโครงการ พบว่า เพศหญิง มจี านวน 82 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ92.10 และเพศชายมจี านวน 7 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 7.90 ตารางท่ี 4.1.2 อายขุ องผเู้ ข้าร่วมโครงการ จานวน ร้อยละ อายุ 2 4.49 8 8.99 ตา่ กว่า 20 ปี 12 13.48 20-30 33 33.71 31-40 35 39.33 41-50 90 100 51 ปขี ึ้นไป รวม จากตารางแสดงขอ้ มลู อายุของผู้เข้ารว่ มโครงการ พบวา่ อายุ 51 ปขี ้นึ ไป มจี านวน 35 คน คิดเป็นร้อยละ 39.33 อายุ 41-50 ปี มีจานวน 33 คน คิดเป็นร้อยละ 33.71 อายุ 31-40 ปี มีจานวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 13.48 อายุ 20-30 ปี มีจานวน 8 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 8.99 และอายตุ ่ากวา่ 20 ปี มีจานวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 4.49 ตามลาดับ

ตารางท่ี 4.1.3 ระดบั การศึกษาของผูเ้ ขา้ รว่ มโครงการ ระดบั การศึกษา จานวน รอ้ ยละ ประถมศกึ ษา 51 51.69 มัธยมศกึ ษา 27 30.34 อนุปรญิ ญา 5 5.62 ปรญิ ญาตรี 7 12.36 0 อ่ืน ๆ 90 0 รวม 100 จากตารางแสดงขอ้ มูลระดบั การศกึ ษาของผู้เข้ารว่ มโครงการ พบว่า ระดับประถมศกึ ษา มีจานวน 51 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 51.69 ระดบั มัธยมศึกษา มจี านวน 27 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 30.34 ระดับ ปริญญาตรีมีจานวน 7 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 12.36 ระดบั อนุปริญญา มจี านวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 5.62 และ ระดับ อืน่ ๆ มจี านวน 0 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 0 ตามลาดบั ตารางท่ี 4.1.4 อาชพี ของผ้เู ข้ารว่ มโครงการ จานวน ร้อยละ อาชีพ 5 5.62 10 10.11 นกั เรยี น/นกั ศกึ ษา 48 53.93 ข้าราชการ 11 12.36 เกษตรกรรม 2 2.25 ค้าขาย/ธรุ กจิ 14 15.73 0 0 รบั จา้ งท่ัวไป/ลกู จ้าง 90 100 ไมไ่ ด้ประกอบอาชีพ/ทางานบ้าน อน่ื ๆ รวม จากตารางแสดงขอ้ มลู อาชพี ของผู้เข้าร่วมโครงการ พบว่า อาชีพเกษตรกรรม มีจานวน 48 คน คิดเป็น ร้อยละ 53.93 ไม่ได้ประกอบอาชีพ/ทางานบ้าน มีจานวน 14 คน คิดเป็นร้อยละ 15.73 อาชีพค้าขาย/ธุรกิจ มี จานวน 11 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 12.36 อาชพี ข้าราชการ มีจานวน 10 คน คิดเป็นร้อยละ 10.11 อาชีพนักเรียน/ นักศกึ ษา มีจานวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 5.62 อาชีพรับจ้างท่ัวไป/ลูกจ้าง มีจานวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 2.25 อาชีพอนื่ ๆ มีจานวน 0 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 0 ตามลาดับ

4.2 ผลการทดสอบความร้จู ากการเขา้ รว่ มโครงการ ตารางท่ี 4.2.1 ผลการทดสอบความรจู้ ากการเขา้ รว่ มโครงการ รายการ สงู สดุ ตา่ สุด เฉล่ีย ผ่านเกณฑ์ ไมผ่ ่านเกณฑ์ จานวน ร้อยละ จานวน รอ้ ยละ กอ่ นเข้าอบรม 7 2 0.04 ผลการทดสอบ - - - -- -- หลงั เขา้ อบรม 10 8 45 50 45 50 ผลการทดสอบ - - 0.02 -- -- - 75 82.02 15 17.98 จากตารางท่ี 4.2.1 พบวา่ แกนนาอสม.ท่ีเข้ารว่ มโครงการมคี ะแนนทดสอบความรู้ก่อนเขา้ รบั การ บรรยายเกย่ี วกับโรคเกาต์ ได้คะแนนสงู สุด 7 คะแนน คะแนนต่าสุด 2 คะแนน และมีคะแนนเฉลี่ย 0.04 คะแนน มจี านวนผู้ผ่านเกณฑ์จานวน 45 คน คิดเป็นร้อยละ 50 มีจานวนผู้ไม่ผ่านเกณฑจ์ านวน 45 คน คิดเป็นร้อยละ 50 และหลังจากการเข้ารับการบรรยายเกยี่ วกับโรคเกาต์ มีผูท้ ดสอบความร้ไู ด้คะแนนสูงสดุ 10 คะแนน คะแนนต่าสุด 8 คะแนน และมีคะแนนเฉลี่ย 0.02 คะแนน มีจานวนผู้ผ่านเกณฑ์จานวน 75 คน คิดเป็นร้อยละ 82.02 ซ่ึงผ่าน ตามตัวชี้วัดในหวั ข้อจดุ ประสงค์มผี เู้ ขา้ ร่วมโครงการรอ้ ยละ 70 มคี วามรเู้ กีย่ วกับการควบคุมปูองกนั โรคไขเ้ ลอื ดออก ในระดับดี ตารางที่ 4.2.2 คะแนนการทดสอบประเมินความรู้ก่อนเขา้ รว่ มโครงการอยา่ งละเอียด คะแนน จานวน ( คน ) ร้อยละ 2 4 4.49 3 16 17.98 4 24 26.97 5 28 30.34 6 18 20.22 รวม 90 100 จากตารางที่ 4.2.2 พบว่าคะแนนทดสอบการประเมนิ ความรกู้ อ่ นเข้ารว่ มโครงการ มคี ะแนนสงู สุด 6 คะแนน คดิ เป็นรอ้ ยละ 20.22 และคะแนนตา่ สดุ 2 คะแนน คิดเปน็ ร้อยละ 4.49

ตารางที่ 4.2.3 คะแนนการทดสอบประเมนิ ความร้หู ลังเขา้ ร่วมโครงการอยา่ งละเอยี ด คะแนน จานวน ( คน ) รอ้ ยละ 8 27 30.34 9 41 46.07 10 22 23.60 รวม 90 100 จากตารางท่ี 4 พบว่าคะแนนทดสอบการประเมินความรหู้ ลงั เข้ารว่ มโครงการ มคี ะแนนสงู สุด 10 คะแนน คดิ เป็นร้อยละ 23.60 และคะแนนตา่ สุด 8 คะแนน คดิ เป็นร้อยละ 30.34 4.3 ผลการทาแบบประเมนิ ความพงึ พอใจ ตารางท่ี 4.3.1 ค่าเฉลยี่ ของความพึงพอใจตอ่ โครงการภาพรวม ลาดับ ประเดน็ ระดบั ความพงึ พอใจ ที่ x S.D แปลผล 4.673 0.193 มากที่สุด 1. ความพึงพอใจดา้ นกระบวนการ ข้นั ตอนการจดั กจิ กรรม 4.786 0.173 มากท่ีสดุ 4.678 0.219 มากทสี่ ดุ 2. ความพงึ พอใจด้านวทิ ยากร 4.743 0.183 มากท่ีสดุ 3. ความพึงพอใจดา้ นสง่ิ อานวยความสะดวก 4. ความพงึ พอใจด้านคุณภาพการจัดกจิ กรรม จากตารางท่ี 4.3.1 คา่ เฉล่ียของความพงึ พอใจต่อโครงการภาพรวม พบว่ามีความพึงพอใจด้านคุณภาพ การให้บรกิ ารมากท่สี ุด( x = 4.833 ) รองลงมา ความพึงพอใจด้านเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการ ( x = 4.786 ) และความพึงพอใจ ดา้ นกระบวนการ / ขัน้ ตอนการดาเนินโครง การ ( x = 4.673 ) นอ้ ยทสี่ ุด

ตารางท่ี 4.3.2 คา่ เฉลย่ี ของผลประเมนิ ความพงึ พอใจของผเู้ ข้าร่วมโครงการ รายละเอียด ระดบั ความพึงพอใจ x S.D แปลผล 1. ความพึงพอใจด้านกระบวนการ ขนั้ ตอนการจดั กิจกรรม 1.1. รูปแบบกจิ กรรมการจดั กิจกรรม 4.55 0.52 สงู 1.2 ลาดับขั้นตอนในการจดั กจิ กรรม 2.23 1.22 สงู 1.3 ระยะเวลาทีใ่ ช้ในการจัดกจิ กรรม 4.41 0.57 สูง 1.4 เอกสารและสอื่ ประกอบในการจัดกจิ กรรม 2.23 1.22 ต่า 1.5 ความเหมาะสมของการจัดกจิ กรรม 4.50 0.55 สงู 2. ความพึงพอใจด้านวทิ ยากร 2.1 การถ่ายทอดความรูข้ องวิทยากรมคี วามชดั เจน 4.56 0.59 สูง 2.2 การตอบข้อซักถามในการจดั กจิ กรรม 4.45 0.54 สูง 3. ความพึงพอใจดา้ นสิง่ อานวยความสะดวก 3.1 สถานที่จดั กิจกรรม 4.43 0.61 สงู 3.2 มกี ารใช้เทคโนโลยอี ยา่ งเหมาะสม 2.11 1.09 ตา่ 4. ความพงึ พอใจด้านคณุ ภาพการจดั กิจกรรม 4.1 ทา่ นไดร้ บั ประโยชน์จากการเขา้ ร่วมกจิ กรรมอยา่ งคุม้ ค่า 4.29 0.72 สูง 4.2 ทา่ นสามารถนาความรทู้ ่ไี ดร้ บั ไปประยกุ ต์ใช้ใน 4.29 0.65 สูง ชีวิตประจาวัน 3.84 0.34 สูง ผลรวม

4.4 สรปุ ผลการดาเนินงานโครงการ โครงการรณรงค์ ปูองกันและควบคุมโรคเกาต์ หมู่ท่ี 3 บ้านตลาดใหม่ ตาบลบางเปูา อาเภอกันตัง จังหวัดตรัง มีวัตถุประสงค์เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ ในการควบคุมปูองกันโรคเกาต์ที่ถูกวิธีและเหมาะสม เพ่ือให้ประชาชนมีสว่ นร่วมในการปูองกนั หลกี เลี่ยงจากโรคเกาต์ เปาู หมายเชิงคุณภาพ คอื ประชาชนมีความรู้ ความ เข้าใจ ในการควบคุมปูองกันโรคเกาต์ไดใ้ นระดับดี และเปูาหมายเชงิ ปรมิ าณคือ อตั รา ความพงึ พอใจของประชาชน ที่ขอรับบรกิ าร (รอ้ ยละ 80)พึงพอใจรับผดิ ชอบโครงการ โดย นายอดศิ ร ฤทธ์ิสาคร หลักสูตรฉุกเฉินการแพทย์ชน้ั ปี ที่2 รุ่นท่ี15 โครงการรณรงค์ ปูองกันและควบคุมโรคเกาต์ หมู่ท่ี 3 บ้านตลาดใหม่ ตาบลบางเปูา อาเภอ กันตัง จังหวัดตรงั ตง้ั แตว่ นั ที่ 10 เมษายน – 12 เมษายน 2563ขั้นตอนการดา เนินงานท่ีสาคัญคือวันจัดกิจกรรม ให้ผเู้ ข้าร่วมโครงการทา แบบทดสอบก่อนและหลงั ให้ ความรู้ มกี ารบรรยายให้ความรู้ เก่ียวกับโรคเกาต์ และวิธีการ ปูองกนั โรคเกาต์ เพอ่ื ระดมสมองและทาแบบประเมนิ ความพงึ พอใจ ส่วนวันเดนิ รณรงค์มีให้ความรู้ เร่อื งการปูองกนั โรคเกาต์ พร้อมท้ังแจกแผน่ พบั ซง่ึ มขี อ้ มลู เก่ยี วกบั โรคเกาต์ 4.5 ประโยชนจ์ ากการทาโครงการ - ทาให้เกดิ การพฒั นาความคดิ และไดฝ้ กึ ทกั ษะการวางแผนอยา่ งเปน็ ระบบและการกาหนด รปู แบบตา่ งๆ ให้สอดคลอ้ งกนั - ทาให้ได้เรยี นรเู้ ก่ียวกบั การทางาน ประสานงาน และตดิ ตอ่ กับหนว่ ยงานตา่ ง ๆ พรอ้ มทงั้ มี การวางแผน การทางานอยา่ งมรี ะบบ - ไดฝ้ กึ ทกั ษะการทางานร่วมกับคนในชมุ ชน เพอ่ื ใช้เป็นแนวทางแกก่ ารทางานในอนาคต - การรู้จกั รบั ฟงั ความคิดเห็นของผอู้ น่ื รวมไปถงึ การประสานงานหรอื การตดิ ต่อกบั หนว่ ยงานต่างๆ - ทาใหร้ จู้ ักการแกป้ ัญหาเฉพาะหนา้ เมอ่ื เจอเหตุการณท์ ่ไี ม่ได้เป็นไปตามแผนท่กี าหนดไว้ 4.6 ปัญหาและอปุ สรรค - การดาเนินโครงการไมเ่ ป็นไปตามระยะเวลาทก่ี าหนด - ผสู้ ูงอายมุ เี วลาจากดั ทาใหต้ ้องเรง่ การจัดกจิ กรรม - นักศึกษาผูบ้ รรยายให้ความรู้มีความตนื่ เต้น พูดเรว็ จงึ ทาใหผ้ สู้ ูงอายฟุ งั ไมท่ ัน - เนอื่ งจากกลมุ่ เปาู หมายมจี านวนมาก นกั ศกึ ษาผบู้ รรยายจงึ ไมส่ ามารถตอบข้อซกั ถามได้อยา่ งทั่วถงึ 4.7 ข้อเสนอแนะ 1. ควรมีความพรอ้ มในการดาเนนิ โครงการ

2. การทากจิ กรรมควรใช้ระยะเวลาใหส้ ั้นกระชบั 3. ควรให้ผเู้ ขา้ ร่วมโครงการมสี ่วนร่วมมากขนึ้ เชน่ การถาม-ตอบ เปน็ ตน้ 4. สือ่ ทใี่ ช้ควรเนน้ ทรี่ ูปภาพมากกว่าตัวหนงั สือ รวมถงึ ควรใชต้ ัวอกั ษรท่ีเห็นชดั เจน 5. ปรบั การพดู ให้ชา้ ลง

5.แนวทางการพัฒนางาน 5.1 แนวทางการพัฒนางาน จากการจัดประชมุ กล่มุ เพื่อพจิ ารณาหาขอ้ ผิดพลาด ปัญหาและอุปสรรคของการทางานรวม ไปถงึ ข้อเสนอแนะจากผดู้ แู ลโครงการ ซึง่ นามาสะทอ้ นถึงข้อผดิ พลาดและสาเหตุทเ่ี กิดขึ้น และนามาพัฒนาใน การจดั โครงการหรอื กิจกรรมอ่นื ๆ รว่ มกับชมุ ชนต่อไป ปัญหา สาเหตุ แนวทางการแก้ไข การดาเนินโครงการท่ีไม่ เวลาในการประสานงาน รวมไปถึง การดาเนินงานคร้ังต่อไป เป็นไปตามระยะเวลาท่ีกาหนด การบรรยายปรับแก้ล่าช้าและการไม่รู้ จะ ต้อ งมี ก าร วา ง แผ นแ ล ะ และการประชาสัมพันธ์ยังไม่ กาหนดการ ทาใหร้ ะยะเวลาดาเนินงานไม่ จดั สรรเวลาในการดาเนนิ งานให้ ทัว่ ถงึ สัมพันธ์กับระยะเวลาที่กาหนด และการ เป็ นร ะ บบ ไม่ยื ด ยื้อ เ กิน ไป ประชาสัมพนั ธไ์ ม่ท่วั ถึง เ พื่ อ ใ ห้ ร ะ ย ะ เ ว ล า เ ห ม า ะ ส ม ตามทก่ี าหนด การพูดต้องมีความม่ันใจ เน่ืองจากขาดประสบการณ์ จึงทาให้ การดาเนินงานในคร้ังต่อไป ใบหน้ายิ้มและการใช้น้าเสียง การพดู ตดิ ขัดและสถานท่ีเป็นลานกว้างจึง จะมีการวางแผน การเตรียม ต้องสมา่ เสมอ ทาให้เวลาพูดจะไม่ค่อยได้ยนิ ค ว า ม พ ร้ อ ม ก่ อ น ก า ร ด า เ นิ น กิจกรรม นาเสนอวชิ าการส่อื ที่ใชค้ วร เนื่องจากขาดประสบการณ์ในการ นา ในการวางแผนจัดทากิจกรรม เนน้ ทร่ี ปู ภาพมากกวา่ ตวั หนงั สือ เสนองานในแหลง่ ชมุ ชน จึงมีการเน้นไปที่ ครง้ั ตอ่ ไปจะต้องมีการคานึงถึง วิชาการ กลุ่มเปูาหมายและระดับความรู้ ความสนใจของกลุ่มเปูาหมาย ท้ังนี้ ส่ือ จะต้ องมี เนื้อ หา ที่ กระชับและสื่อ ให้เข้าใจไดง้ า่ ย

บทที่ 5 สรปุ ผลโครงการพัฒนาทกั ษะวชิ าชพี อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ การจดั โครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพ ครั้งน้ี มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ นกั ศึกษาสามารถปฏิบัติกระบวนการ ศกึ ษาชุมชนและแกไ้ ขปัญหาสุขภาพทเี่ กี่ยวขอ้ งกบั งานดา้ นสุขภาพ ซึง่ ประกอบดว้ ยการศึกษาชมุ ชน การเตรียมชมุ ชน และการวนิ จิ ฉยั ชุมชน พร้อมทง้ั การแก้ไขปัญหาและพฒั นา ชมุ ชนซึง่ ประกอบไปดว้ ยการ วางแผน การดาเนนิ การตามแผน และการประเมนิ ผลการดาเนินงาน โดยมี รายละเอียดดงั นี้ 5.1 สรุปผลโครงการพฒั นาทักษะวิชาชีพ 5.2 อภปิ รายผลโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชพี 5.3 ขอ้ เสนอแนะโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ 5.1 สรุปผลโครงการพฒั นาทักษะวชิ าชพี 5.1.1 ขอ้ มลู ท่ัวไป จากการศกึ ษาชมุ ชนหมทู่ ี่ 3 บ้านตลาดใหม่ ตาลบบางเปูา อาเภอกันตงั จงั หวดั ตรงั สารวจชมุ ชนโดยใช้ แบบสอบถาม พบว่า ประชากรทต่ี อบแบบสอบถาม มชี ่วงอายุตา่ กวา่ 20 ปี ร้อยละ 50 ชว่ งอายุ 20 ปขี น้ึ ไป รอ้ ยละ 50 สรปุ ไดว้ ่าประชากรในชุมชนทีท่ าแบบสอบถามอยู่ในชว่ งอายุ ตา่ กว่า 20 ปี ถึง 20 ปีขน้ึ ไป เทา่ กัน เปน็ เพศหญิง คิดเป็นร้อยละ 60 เป็นเพศชาย คดิ เปน็ รอ้ ยละ 40 ประชากรส่วนใหญ่ ทตี่ อบแบบสอบถามมกี ารศึกษาระดบั มัธยมศกึ ษาตอนต้น (ม.1-ม.3) ร้อยละ 50 รองลงมาระดับการศกึ ษา มธั ยมศึกษาตอนปลาย(ม.4-ม.6) ร้อยละ 40 ระดับปรญิ ญาตรี รอ้ ยละ 10 5.1.2 ข้อมูลด้านระบบสขุ ภาพจากการทป่ี ระชากรตอบแบบสอบถาม สรุปได้วา่ ปญั หาปญั หาดา้ น สุขภาพ มคี า่ เฉลยี่ เลขคณติ สูงทีส่ ดุ คือ 2.12 และมคี ่าเบย่ี งเบนมาตรฐานอย่ทู ี่ 0.81 รองลงมาคือมดี า้ นการ จัดการทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ มและการท่องเท่ยี วคา่ เฉลย่ี เลขคณติ สงู ทสี่ ุดคือ 2.06 และมีคา่ เบีย่ งเบนมาตรฐานอยทู่ ี่ 0.19

5.2 อภิปรายผล จากการศึกษาชุมชนหมู่ท่ี 3 บ้านตลาดใหม่ ตาลบบางเปูา อาเภอกันตัง จังหวัดตรังและการ จดั ลาดบั ความสาคัญ ของปญั หาโดยการมีส่วนร่วมของชุมชนโดยการทาประชาคม ซึ่งพบว่าปัญหาท่ีสมควร ดาเนินการแก้ไขเป็น อันดับแรกคือ ด้านสุขภาพ โรคเกาต์ ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงได้จัดทาโครงการเพื่อ ดาเนินการแก้ไขปญั หาดา้ นสขุ ภาพ เร่ืองโรเกาต์ ในชุมชน หมู่ท่ี 3 บ้านตลาดใหม่ ตาลบบางเปูา อาเภอกันตัง จงั หวัดตรัง โดยมีกิจกรรมในโครงการประกอบด้วย 3 กิจกรรมหลัก คือ การบรรยายให้ความรู้เก่ียวกับโรค เกาต์และวิธีการปูองกนั โรคเกาต์ กจิ กรรมตอบคาถามเกยี่ วกับความรู้โรคเกาต์ เดินรณรงค์ปูองกันโรคเกาต์ หลงั จากใหค้ วามรู้ ซึ่งสามารถอภิปรายผลได้ดงั นค้ี ือ 5.2.1 กจิ กรรมใหค้ วามรู้เรอื่ งโรคเกาต์ พบวา่ มีตวั แทนครัวเรือนและผู้นาชุมชนเข้าร่วมในกิจกรรม คิดเป็นร้อยละ 100 และผู้เข้าร่วมโครงการ ได้ความรู้เชิงทฤษฎีเพิ่มมากข้ึน โดยส่วนใหญ่อยู่ในระดับดี ซึ่ง บรรลตุ ามเปูาหมาย และการท่ีประชาชนมีความรเู้ ก่ยี วกับโรคเกาต์มากขน้ึ ทาใหป้ ระชาชนมคี วามรู้ 5.2.2 กจิ กรรมตอบคาถามเกย่ี วกบั ความรโู้ รคเกาต์ พบวา่ ผู้เข้าร่วมโครงการให้ความร่วมมอื ในการ ทากิจกรรม ทาให้มี ความเข้าใจมากข้นึ โดยประเมนิ จากการทดสอบความรหู้ ลังฝกึ ปฏิบตั จิ รงิ 5.2.3 กจิ กรรมเดินรณรงค์ปอู งกนั โรคเกาต์ พบวา่ ผเู้ ข้าร่วมโครงการมคี วามรู้ในเชงิ ปฏบิ ัตเิ พิม่ มากข้นึ พบวา่ ประชาชนไดใ้ ห้ความสนใจ และร่วมกจิ กรรมเปน็ อยา่ งดี โดยประชาชนทเ่ี ขา้ ร่วมโครงการสว่ นใหญม่ ี ความพงึ พอใจอยใู่ นระดบั ดี มากกวา่ รอ้ ยละ 80 ซ่งึ จากการจดั ทาโครงการดงั กล่าวน้ีทาใหป้ ระชาชนมีความรู้ ทักษะและสามารถปฏบิ ตั ไิ ด้จริงในเรือ่ งโรคไขเ้ ลอื ดออก 5.3 ขอ้ เสนอแนะการจัดโครงการพัฒนาทกั ษะวชิ าชพี 5.3.1 ขอ้ เสนอแนะ 5.3.1.1 ในการจดั โครงการ ควรมกี ารประชาสัมพันธ์ใหท้ ่ัวถึง และใหเ้ ข้าใจวัตถปุ ระสงคข์ องกิจกรรม 5.3.1.2 ควรมกี ารดงึ ประชาชนเข้ามามสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรมให้มากท่สี ดุ โดยมกี จิ กรรมสันทนาการ ละลายพฤตกิ รรมก่อนเขา้ เนื้อหาบทเรียน 5.3.1.3 ควรมกี ารเพม่ิ ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมโดยการตดิ ตามและประเมินผลโครงการอยา่ ง ต่อเน่ือง เพ่ือประเมินว่าประชาชนมคี วามรู้ในเรอื่ งโรคเกาต์

ภาคผนวก

รปู กจิ กรรมใหค้ วามร้เู รื่องเกาต์

รปู โครงการ

แบบสอบถามขอ้ มูลสภาพปญั หาของประชาชนในชมุ ชน (บ้านบางเปา้ หมทู่ ่ี3 ต.บางเปา้ อ.กันตัง จ.ตรัง) คาชแ้ี จง 1. แบบสอบถามฉบบั นใี้ ช้สารวจและสอบถามขอ้ มูล ถงึ สภาพปญั หาของประชาชนในชมุ ชน ประกอบดว้ ยดา้ นข้อมลู ทั่วไปและสภาพปญั หาทง้ั 5 ด้าน ได้แก่ ด้านเศรษฐกจิ ด้านสงั คม ด้านการจดั การ ทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม และดา้ นสุขภาพ 2. ใหผ้ ตู้ อบแบบสอบถามตอบข้อมลู ตามความจรงิ ทสี่ ุด ตอนที่ 1 ข้อมลู ท่ัวไป 1. เพศ ( ) 1.ชาย ( ) 2.หญิง 2. อายุ (ถ้าเกนิ 6เดอื นให้นบั เปน็ 1ปี) ( ) 1. ต่ากว่า 20 ปี ( ) 2. 20-30 ปี ( ) 3. 31-40 ปี ( ) 4. 41-50 ปี ( ) 5. 51-60 ปี ( ) 6. 60 ปีข้นึ ไป 3.ศาสนา ( ) 1.พทุ ธ ( ) 2.อิสลาม ( ) 3.ครสิ ต์ ( ) 4.อน่ื ๆ (ระบ)ุ ………………………. 4. สถานภาพสมรส ( ) 1.โสด ( ) 2.แต่งงานแลว้ ( ) 3.หย่ารา้ ง ( ) 4. อนื่ ๆ (ระบ)ุ …………………………. 5. ระดบั การศกึ ษาสูงสุด หรือกาลังศึกษาระดบั ชัน้ ใด ( ) 1.ตา่ กวา่ ประถมศึกษา ( ) 2.ประถมศกึ ษา ( ) 3.มธั ยมศกึ ษาตอนต้น ( ) 4.มัธยมศึกษาตอนปลาย/ปวช. ( ) 5.อนปุ รญิ ญา/ปวส. ( ) 6.ปริญญาตรีข้ึนไป ( ) 7.อน่ื ๆ...................................

6. อาชพี หลกั ในชีวิตประจาวนั ( ) 1.กาลงั ศึกษาอยู่ ( ) 2.เกษตรกร เชน่ ทาไร่ ทานา ทาสวน เปน็ ตน้ ( ) 3.คา้ ขาย/ทาธุรกิจ ( ) 4.รบั ราชการ/พนกั งานรฐั วสิ าหกจิ ( ) 5.พนกั งานโรงงาน/บรษิ ทั /เอกชน ( ) 6.รับจา้ งทั่วไป ( ) 7.อ่ืนๆระบุ ......................... 7. โรคประจาตัว ( ) 1.ไมม่ ีโรคประจาตัว ( ) 2.มีโรคประจาตวั (ระบชุ อ่ื โรค) .............................. 8. สมาชิกในครอบครัว ( ) 1. 1-5 คน ( ) 2. 5-10 คน ( ) 3. 10คนขึน้ ไป (ระบ)ุ …………….

ตอนท่ี 2 แบบสอบถามข้อมลู สภาพปญั หาของประชาชน 2.1 ปัญหาดา้ นเศรษฐกจิ ที่ ปญั หาด้านเศรษฐกจิ มาก มาก ปาน นอ้ ย น้อย ทสี่ ุด กลาง ทส่ี ุด 1 รายไดจ้ ากการประกอบอาชีพหลักไมเ่ พยี งพอ 5432 1 2 ไมม่ ีอาชีพเสริม 3 กู้เงนิ จากหนี้นอกและในระบบ 4 มีรายได้ไมเ่ พยี งพอในการใชจ้ า่ ยประจาเดอื น 5 มหี น้ีสนิ เพม่ิ ขึ้นจากการประกอบอาชพี 6 ผลผลิตทางการเกษตรตกตา่ /ขาดทนุ 7 การวา่ งงานของคนในชุมชนเพ่มิ ขน้ึ 8 ขาดท่ดี ินทากนิ เปน็ ของตนเอง 9 เกิดภัยแล้งซา้ ซากในชุมชน 10 มีการเล่นการพนนั ในชุมชน 11 ขาดความรูเ้ กี่ยวกบั เศรษฐกจิ พอเพยี ง แสดงความคิดเหน็ สภาพปญั หาเพิ่มเติม ............................................................................................................................. ............................................. ............................................................................................................................. .......................................... .......................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ..........................................

2.2 ปญั หาดา้ นสงั คม ที่ ปญั หาด้านสงั คม มาก มาก ปาน นอ้ ย น้อย 1 ยาเสพติดระบาดในชุมชนเพมิ่ ข้นึ ท่ีสุด กลาง ท่สี ุด 5432 1 2 กลุ่มคนในชมุ ชนขาดความเข้าใจซึง่ กนั และกนั ทะเลาะเบาะแวง้ กัน ขาดความสามคั คี 3 คนในชุมชนขาดจติ สานึกในการพฒั นาตนเอง 4 คนในชมุ ชนขาดความช่วยเหลือและเออื้ เฟื้อเผอื่ แผ่ 5 ความเหลอื่ มล้าทางสังคมของคนรวยและคนจน ในชมุ ชน 6 สุขลักษณะเช่น ขยะมูลฝอย/ฝุนละอองมลพิษใน ชมุ ชนเพมิ่ ข้ึน 7 ขาดสวสั ดิการของหมบู่ ้าน 8 ความเชื่อและประเพณีของหม่บู ้านทาใหข้ ดั แยง้ ทางสงั คม 9 เยาวชนทะเลาะววิ าทและไมไ่ ด้เรยี นตอ่ แสดงความคดิ เห็นสภาพปญั หาเพิม่ เตมิ ............................................................................................................................. ............................................. ....................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................. ............................................................................................................................... ........................................

2.3 ปัญหาดา้ นการจดั การทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดล้อม มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย กลาง ทสี่ ุด ท่ี ปัญหาด้านการจัดการทรพั ยากรธรรมชาติและ ที่สดุ 1 32 สิง่ แวดลอ้ ม 54 1 ระบบสาธารณปู โภคบรโิ ภคของชมุ ชน เช่น นา้ ประปาและไฟฟูาไมเ่ พียงพอ 2 ขาดความรู้ดา้ นสขุ ลักษณะและมีการดแู ลความ สะอาดของหมบู่ า้ น 3 ปุาเสอ่ื มโทรมและมกี ารทาลายทรพั ยากรของ ชมุ ชนเพิม่ ข้ึน 4 ประชาชนในชมุ ชนขาดความร้ใู นการบริหารจดั การ ทรัพยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ้ มของชุมชน 5 ขาดการมีส่วนร่วมในการบรหิ ารจัดการ ทรัพยากรธรรมชาตขิ องคนในชมุ ชน 6 ประชาชนในชมุ ชนขาดจิตสานึกในการอนรุ กั ษ์ ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อมของชุมชน แสดงความคดิ เหน็ สภาพปญั หาเพิ่มเตมิ ............................................................................................................................. ............................................. ....................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................. ............................................................................................................................... ........................................

2.4 ปัญหาดา้ นสขุ ภาพและพฤตกิ รรมการดูแลสขุ ภาพตวั เองและครอบครัว จงทาเครอื่ งหมาย X หน้าข้อความขา้ งตน้ ท่ีตรงกบั ความเปน็ จรงิ ของท่าน 1. ในช่วง 6 เดอื น - 1 ปที ่ผี า่ นมาท่านมอี าการเจ็บปวุ ยดว้ ยอาการ/โรค ( ) 1.เจบ็ ปุวยเลก็ น้อย เช่น ไข้หวดั ปวดกลา้ มเนอ้ื /ปวดทอ้ ง/โรคกระเพาะ ( ) 2.โรคติดต่อ เช่น อุจจาระร่วง ไข้เลอื ดออก วณั โรค โรคอน่ื ๆโปรดระบ.ุ ......... ( ) 3.โรคไม่ติดต่อ เช่น เบาหวาน ความดนั โรคอน่ื ๆโปรดระบุ.......... ( ) 4.ปญั หาสุขภาพจิต เช่น วติ กกงั วล/เครียด ตดิ ยา/สารเสพตดิ ตดิ สุราเรอ้ื รัง ( ) 5.อ่นื ๆ เชน่ โรคเกี่ยวกบั ขอ้ และกระดกู 2. ทา่ นคิดวา่ ณ ตอนนี้สขุ ภาพโดยท่ัวไปของทา่ นเปน็ อยา่ งไร ( ) 1. แขง็ แรงดี ( ) 2. มีอาการอ่อนเพลียบา้ งเป็นครงั้ คราว/ประจา ( ) 3. มีอาการนอนไมห่ ลบั เป็นครง้ั คราว/ประจา ปญั หาด้านสุขภาพและพฤติกรรมการดูแลสุขภาพตัวเองและครอบครัว บ่อย บอ่ ย นานๆ บางครง้ั ไม่เคย ท่ี พฤติกรรมการดูแลสขุ ภาพตวั เองและครอบครัว ทีส่ ุด คร้งั 5432 1 1 ประจาวนั ทา่ นทานอาหารครบ 3 มือ้ 2 ทา่ นทานอาหารแตล่ ะม้อื ครบท้ัง 5 หมู่ 3 ท่านดื่มเหล้า 4 ท่านชอบสบู บหุ รี่ 5 ทา่ นออกกาลงั กาย 6 ทา่ นนอนหลบั พกั ผ่อน 8 ชม. 7 ท่านล้างมอื ทุกครง้ั กอ่ นรบั ประทานอาหาร 8 ท่านตรวจสุขภาพเปน็ ประจาทุกปี 9 เม่อื มีไข้หรืออาการเจบ็ ปุวยทา่ นซอ้ื ยาทานเอง

บอ่ ย บ่อย นานๆ บางครงั้ ไม่เคย ท่ี พฤตกิ รรมการดูแลสุขภาพตวั เองและครอบครวั ที่สุด ครัง้ 5432 1 10 เม่ือทา่ นมีอาการเจ็บปวุ ยทา่ นทาตามคาแนะนา ของแพทย์อยา่ งเครง่ ครัด 11 เมอ่ื ทา่ นมอี าการไข้หรืออาการเจบ็ ปวุ ยทา่ นไป สถานพยาบาล เชน่ รพสต. รพ. คลินิก 12 เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉนิ ท่านโทร 1669 แสดงความคดิ เห็นสภาพปญั หาเพิ่มเตมิ ............................................................................................................................. ............................................. .......................................................................................................................................................................... ที่ ปัญหาดา้ นอื่นๆ มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย 1 ประชาชนขัดแยง้ แบง่ พรรคแบง่ พวก ท่ีสดุ กลาง ทีส่ ดุ 5432 1 2 เยาวชนขาดจติ สานกึ ในชว่ ยเหลือกัน 3 ขาดแคลนแหลง่ เงินทนุ เพ่ือพัฒนาอาชีพ 4 ขาดแหลง่ น้า เพอ่ื การเกษตรเพอื่ การประกอบ อาชพี 5 การประสานงานกบั ภาครัฐไมต่ อ่ เนอื่ ง แสดงความคดิ เหน็ สภาพปญั หาเพ่ิมเติม ............................................................................................................................. ............................................. ..........................................................................................................................................................................

แบบทดสอบความร้เู รื่องเกาต์ คาช้ีแจง : กรุณากรองขอ้ มลู และทาเครื่องหมาย / ลงในชอ่ งวา่ งในขอ้ ท่ถี ูก และ X ในขอ้ ทผี่ ดิ แบบสอบถาม กอ่ น หลัง ส่วนที่ 1 : ข้อมูลท่วั ไป เพศ หญงิ ชาย อายุ ……… ปี การศึกษา ตา่ กว่ามัธยมศึกษา มัธยมศึกษาหรือเทยี บเทา่ อนุปรญิ ญาหรือเทียบเท่า ปรญิ ญาตรี สูงกว่าปริญญาตรีอาชพี นกั ศึกษา ข้าราชการ เกษตรกร ลูกจา้ ง ธุรกิจส่วนตัว อืน่ ๆ ................................... สว่ นที่ 2 : แบบทดสอบความรู้ _____ 1. โรคเกาต์คอื ภาวะภาวะทม่ี ีอาการปวดบวมตามขอ้ _____ 2. สาเหตุของการเกิดโรคเกาต์เกดิ จากการรบั ประทานอาหารที่ไม่ได้สัดสว่ น หวาน มัน โดยเฉพาะ อาหารทม่ี ีเกลอื (โซเดียม) สูง กนิ ผกั และผลไม(้ รสหวานน้อย)ไม่ เพยี งพอ _____ 3. ภาวะแทรกซอ้ นทร่ี ้ายแรง เชน่ หวั ใจวายหรอื โรคหลอดเลอื ดสมอง ในบางรายอาจมี อาการปวดหวั เลือดกาเดาไหล หายใจไมท่ นั _____ 4. ปจั จัยเส่ียงของโรคเกาต์ คอื การรบั ประทานอาหารทม่ี ปี ระโยชน์ ______5.อาการของโรคเกาต์รนุ แรงเชน่ ปวดตามขอ้ มีอาการบวมแดงซงึ่ อาการเหล่านีย้ ังถอื วา่ เปน็ อาการท่ี ไมเ่ ฉพาะเจาะจงและบอกไม่ไดช้ ดั เจน _____ 6. การรกั ษาโรคเกาต์ การรกั ษาโดยไม่ใช้ ยาคอื การเปลยี่ นแปลงพฤติกรรม การดารงชีวิต เช่น ลด อาหารเค็ม ออกกาลงั กายสม่า _____ 7. การปอู งกนั โรคเกาต์ คือการด่มื อาหารมนั เคม็ ทกุ วนั เป็นประจา _____ 8. ไมจ่ า เป็นต้องไปพบแพทย์ เพอ่ื รักษา สามารถซอื้ ยากินเองได้ _____ 9. ออกกาลงั กายสมา่ เสมอความถ่ขี องการออกกาลงั กาย3-5วนั /สัปดาห์ _____ 10. การปฏิบัติตัว เพอื่ หลกี เลีย่ งโรคเกาตจ์ ากการบรโิ ภคสรุ า หรอื เครอ่ื งด่มื ที่ มแี อลกอฮอล์ ให้อยูใ่ น ปรมิ าณทเี่ หมาะสม หรืองดดม่ื งดสบู บุหร่ี รวมถงึ หลกี เลี่ยงการสดู ดม ควันบุหรี่

แบบประเมนิ ความพึงพอใจการเขา้ ร่วมโครงการ คาช้แี จง : กรุณากรองข้อมูลและทาเครือ่ งหมาย / ลงในช่องว่างในขอ้ ท่ถี กู และ X ในขอ้ ทีผ่ ิด เพศ : ชาย หญงิ อายุ.................ปี อาชีพ : นกั เรียน/นักศกึ ษา เกษตรกรรม รบั จา้ งทวั่ ไป/ลูกจ้าง ขา้ ราชการ คา้ ขาย/ธุรกิจ อื่นๆ......... รายละเอยี ด มากที่สุด ระดบั ความพึงพอใจ มาก ปานกลาง น้อย นอ้ ยทส่ี ดุ 1. ความพงึ พอใจด้านกระบวนการ ขัน้ ตอนการจดั กจิ กรรม 1.1. รูปแบบกจิ กรรมการจัดกจิ กรรม 1.2 ลาดบั ขนั้ ตอนในการจดั กจิ กรรม 1.3 ระยะเวลาท่ีใชใ้ นการจัดกจิ กรรม 1.4 เอกสารและสอ่ื ประกอบในการจดั กจิ กรรม 1.5 ความเหมาะสมของการจดั กิจกรรม 2. ความพงึ พอใจดา้ นวทิ ยากร 2.1 การถา่ ยทอดความรู้ของวทิ ยากรมคี วามชดั เจน 2.2 การตอบข้อซกั ถามในการจดั กจิ กรรม 3. ความพงึ พอใจด้านสิง่ อานวยความสะดวก 3.1 สถานทีจ่ ัดกิจกรรม 3.2 มกี ารใช้เทคโนโลยอี ย่างเหมาะสม 4. ความพงึ พอใจดา้ นคณุ ภาพการจัดกจิ กรรม 4.1 ทา่ นไดร้ บั ประโยชนจ์ ากการเขา้ ร่วมกจิ กรรมอยา่ ง คุม้ ค่า 4.2 ท่านสามารถนาความรู้ทไ่ี ดร้ บั ไปประยกุ ต์ใช้ใน ชีวิตประจาวนั ผลรวม ข้อเสนอแนะ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………….……………….………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

แบบลงทะเบยี น โครงการเกาต์ โรควัยเกา๋ ณ โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สุขภาพบา้ นบางเป้า ม.3 บ้านตลาดใหม่ ต.บางเปา้ อ.กนั ตงั จ.ตรงั วนั ที่…..… เดือน……………. พ.ศ. ...……. เวลา…..........…. ลาดบั ชอ่ื – สกุล ท่ีอยู่ หมายเลข ลายมอื ช่อื ท่ี โทรศัพท์

บรรณานุกรม -กลุม่ โรคเกาต์ กรมควบคมุ โรค กระทรวงสาธารณสุข. -จันจิราภรณ์ วิชัย, สายสมร พลดงนอก และธนพล ต่อปัญญาเรือง. (2557) ความรู้เรื่องโรคเกาต์ (Hypertension)ขอนแกน่ :โรงพิมพค์ ลงั นานาวทิ ยา.: ปฏิคม วิวัฒนานนท.์ (2558). การเฝูาระวงั โรค การแปลผล และการรายงานทางระบาดวทิ ยา. -นายก นายสทุ ัศน์ ซว่ นซี่ ประธานสภาองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลบางเปาู อาเภอกนั ตงั จงั หวัดตรัง 92110


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook