4.4 สรุปผลการดาเนินงานโครงการ โครงการรณรงค์ ป้ องกนั และควบคุมโรคเบาหวาน หมู่ที่ 2 ตาบลบา้ นตูล อาเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช มีวตั ถุประสงคเ์ พ่ือใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจ ในการควบคุมป้ องกนั โรคเบาหวานที่ถูกวิธีและ เหมาะสม เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการป้ องกนั โรคเบาหวานในครัวเรือน เป้ าหมายเชิงคุณภาพ คือ ประชาชนมีความรู้ ความเขา้ ใจ ในการควบคุมป้ องกนั โรคเบาหวานไดใ้ นระดบั ดี และเป้ าหมายเชิงปริมาณ คือ อสม. และตวั แทนครัวเรือน หมู่ท่ี 2 ตาบลบา้ นตูล อาเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช เขา้ ร่วมโครงการร้อย ละ 70 รับผดิ ชอบโครงการโดยนางาสาวสุจินนั ท์ สงศิริ หลกั สูตรฉุกเฉินการแพทย์ ช้นั ปี ที่ 2 รุ่นท่ี 15 โครงการน้ีไดด้ าเนินโครงการท่ีหมทู่ ่ี 2 ตาบลบา้ นตูล อาเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราชต้งั แต่ วนั ที่ 6 เมษายน – 9 เมษายน 2563 ข้นั ตอนการดาเนินงานท่ีสาคญั คือ วนั จดั กิจกรรม ใหผ้ เู้ ขา้ ร่วมโครงการทา แบบทดสอบก่อนและหลังให้ความรู้ มีการบรรยายให้ความรู้เก่ียวกับโรคเบาหวานและวิธีการป้ องกัน โรคเบาหวานออกตามหลกั 5 ป 1 ข รวมท้งั ทากิจกรรมกลุ่ม ( Focus Group) เพื่อระดมสมอง และทาแบบ ประเมินความพงึ พอใจ ส่วนวนั เดินรณรงค์ มีให้ความรู้เร่ืองการป้ องกนั โรคเบาหวาน พร้อมท้งั แจกแผน่ พบั และ ทราย Temephos จากการสารวจขอ้ มูลครัวเรือนหมู่ที่ 2 ตาบลบา้ นตูล อาเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช เดือน เมษายน 2563 มีจานวนครัวเรือนท้งั สิ้น 185 ครัวเรือน ซ่ึงจากการสารวจครัวเรือน พบวา่ มีประชาชน จานวน 10 ครัวเรือน มีพฤติกรรมการบริโภคอาหารหวานค่อนขา้ งมาก หลงั จากดาเนินโครงการไดท้ าการสารวจครัวเรือน เดือนเมษายน 2563 จานวนครัวเรือนท้งั สิ้น 185 ครัวเรือน พบวา่ มีคนเป็นโรคเบาหวานจานวน 6 ครัว สรุปจากการทาโครงการรณรงค์ ป้ องกนั และควบคุมโรคเบาหวานในคร้ังน้ี พบว่าหลงั จากที่ กลุ่มเป้ าหมายท่ีเขา้ ร่วมรับฟังการใหค้ วามรู้เร่ืองการป้ องกนั โรคเบาหวาน กลุ่มเป้ าหมายมีความรู้ความเขา้ ใจและ รู้จกั เลือกใชว้ ธิ ีการป้ องกนั ตนเองและครอบครัวใหห้ ่างไกลจากโรคเบาหวาน โดยอาศยั หลกั 5 ป 1 ข และวธิ ีการ ป้ องกนั ตนเองแบบอ่ืนร่วมดว้ ย ทาใหอ้ ตั ราป่ วยและคา่ ดชั นีของชาวบา้ นหมู่ 2 ลดลง
4.5 ประโยชน์จากการทาโครงการ - ทาใหเ้ กิดการพฒั นาความคิดและไดฝ้ ึกทกั ษะการวางแผนอยา่ งเป็นระบบและการกาหนด รูปแบบ ต่างๆใหส้ อดคลอ้ งกนั - ทาใหไ้ ดเ้ รียนรู้เกี่ยวกบั การทางาน ประสานงาน และติดต่อกบั หน่วยงานตา่ ง ๆ พร้อมท้งั มี การวางแผน การทางานอยา่ งมีระบบ - ไดฝ้ ึกทกั ษะการทางานร่วมกบั คนในชุมชน เพอื่ ใชเ้ ป็นแนวทางแก่การทางานในอนาคต - การรู้จกั รับฟังความคิดเห็นของผอู้ ่ืนรวมไปถึงการประสานงานหรือการติดตอ่ กบั หน่วยงานต่างๆ - ทาใหร้ ู้จกั การแกป้ ัญหาเฉพาะหนา้ เมื่อเจอเหตุการณ์ที่ไม่ไดเ้ ป็นไปตามแผนที่กาหนดไว้ 4.6 ปัญหาและอปุ สรรค - การดาเนินโครงการไม่เป็นไปตามระยะเวลาที่กาหนด - ผสู้ ูงอายมุ ีเวลาจากดั ทาให้ตอ้ งเร่งการจดั กิจกรรม - นกั ศึกษาผบู้ รรยายใหค้ วามรู้มีความต่ืนเตน้ พดู เร็ว จึงทาใหผ้ สู้ ูงอายฟุ ังไมท่ นั - เน่ืองจากกลุ่มเป้ าหมายมีจานวนมาก นกั ศึกษาผบู้ รรยายจึงไมส่ ามารถตอบขอ้ ซกั ถามไดอ้ ยา่ งทว่ั ถึง 4.7 ข้อเสนอแนะ 1. ควรมีความพร้อมในการดาเนินโครงการ 2. การทากิจกรรมควรใชร้ ะยะเวลาใหส้ ้ันกระชบั 3. ควรใหผ้ เู้ ขา้ ร่วมโครงการมีส่วนร่วมมากข้ึน เช่น การถาม-ตอบ เป็นตน้ 4. สื่อท่ีใชค้ วรเนน้ ท่ีรูปภาพมากกวา่ ตวั หนงั สือ รวมถึงควรใชต้ วั อกั ษรท่ีเห็นชดั เจน 5. ปรับการพดู ใหช้ า้ ลง
5.แนวทางการพฒั นางาน 5.1 แนวทางการพฒั นางาน จากการจดั ประชุมกลุ่มเพื่อพิจารณาหาขอ้ ผดิ พลาด ปัญหาและอุปสรรคของการทางานรวม ไปถึงขอ้ เสนอแนะจากผดู้ ูแลโครงการ ซ่ึงนามาสะทอ้ นถึงขอ้ ผดิ พลาดและสาเหตุท่ีเกิดข้ึน และนามาพฒั นา ในการจดั โครงการหรือกิจกรรมอ่ืน ๆ ร่วมกบั ชุมชนตอ่ ไป ปัญหา สาเหตุ แนวทางการแก้ไข การดาเนินโครงการท่ีไม่ เวลาในการประสานงาน รวมไปถึง การดาเนินงานคร้ังต่อไป เป็ นไปตามระยะเวลาที่กาหนด การบรรยายปรับแก้ล่าช้าและการไม่รู้ จะ ต้องมี การวางแผนแล ะ และการประชาสัมพนั ธ์ยงั ไม่ กาหนดการ ทาให้ระยะเวลาดาเนินงาน จดั สรรเวลาในการดาเนินงาน ทวั่ ถึง ไม่สัมพนั ธ์กบั ระยะเวลาท่ีกาหนด และ ให้เป็ นระบบไม่ยืดย้ือเกินไป การประชาสมั พนั ธ์ไมท่ วั่ ถึง เ พ่ื อ ใ ห้ ร ะ ย ะ เ ว ล า เ ห ม า ะ ส ม ตามที่กาหนด การพูดต้องมีความม่ันใจ เนื่องจากขาดประสบการณ์ จึงทาให้ การดาเนินงานในคร้ังต่อไป ใบหน้ายิ้มและการใช้น้าเสียง การพูดติดขดั และสถานที่เป็ นลานกวา้ ง จะมีการวางแผน การเตรี ยม ตอ้ งสม่าเสมอ จึงทาใหเ้ วลาพดู จะไม่ค่อยไดย้ นิ ค ว า ม พ ร้ อ ม ก่ อ น ก า ร ด า เ นิ น กิจกรรม นาเสนอวชิ าการส่ือที่ใชค้ วร เนื่องจากขาดประสบการณ์ในการ นา ในการวางแผนจดั ทากิจกรรม เนน้ ที่รูปภาพมากกวา่ ตวั หนงั สือ เสนองานในแหล่งชุมชน จึงมีการเนน้ ไป ค ร้ั ง ต่ อ ไ ป จ ะ ต้ อ ง มี ก า ร ท่ีวชิ าการ คานึงถึง กลุ่มเป้ าหมายและ ระดับความรู้ ความสนใจของ กลุ่มเป้ าหมาย ท้งั น้ี สื่อจะตอ้ ง มีเน้ือหาท่ีกระชับและสื่อ ให้ เขา้ ใจไดง้ ่าย
บทที่ 5 สรุปผลโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ อภิปรายผล และขอ้ เสนอแนะ การจดั โครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ คร้ังน้ี มีวตั ถุประสงคเ์ พือ่ ให้ นกั ศึกษาสามารถปฏิบตั ิกระบวนการ ศึกษาชุมชนและแกไ้ ขปัญหาสุขภาพท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั งานดา้ นสุขภาพ ซ่ึง ประกอบดว้ ยการศึกษาชุมชน การเตรียมชุมชน และการวนิ ิจฉยั ชุมชน พร้อมท้งั การแกไ้ ขปัญหาและพฒั นา ชุมชนซ่ึงประกอบไปดว้ ยการ วางแผน การดาเนินการตามแผน และการประเมินผลการดาเนินงาน โดยมี รายละเอียดดงั น้ี 5.1 สรุปผลโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ 5.2 อภิปรายผลโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ 5.3 ขอ้ เสนอแนะโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ 5.1 สรุปผลโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ 5.1.1 ขอ้ มลู ทว่ั ไป จากการศึกษาชุมชนหมู่ท่ี 2 ตาบลบา้ นตูล อาเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช สารวจชุมชนโดยใช้ แบบสอบถาม พบวา่ ประชากรท่ีตอบแบบสอบถาม มีช่วงอายตุ ่ากวา่ 20 ปี ร้อยละ 50 ช่วงอายุ 20 ปี ข้ึนไป ร้อยละ 50 สรุปไดว้ า่ ประชากรในชุมชนที่ทาแบบสอบถามอยใู่ นช่วง อายุ ต่ากวา่ 20 ปี ถึง 20 ปี ข้ึนไป เท่ากนั เป็นเพศหญิง คิดเป็นร้อยละ 60 เป็นเพศชาย คิดเป็นร้อยละ 40 ประชากรส่วนใหญ่ที่ตอบแบบสอบถามมีการศึกษาระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ (ม.1-ม.3) ร้อยละ 50 รองลงมาระดบั การศึกษามธั ยมศึกษาตอนปลาย(ม.4-ม.6) ร้อยละ 40 ระดบั ปริญญาตรี ร้อยละ 10 5.1.2 ขอ้ มูลดา้ นระบบสุขภาพจากการท่ีประชากรตอบแบบสอบถาม สรุปไดว้ า่ ปัญหาปัญหาดา้ น สุขภาพ มีคา่ เฉล่ียเลขคณิตสูงท่ีสุดคือ 2.12 และมีคา่ เบ่ียงเบนมาตรฐานอยทู่ ี่ 0.81 รองลงมาคือมีดา้ นการ จดั การทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มและการทอ่ งเที่ยวคา่ เฉลี่ยเลขคณิตสูงที่สุดคือ 2.06 และมีค่า เบี่ยงเบนมาตรฐานอยทู่ ่ี 0.19
5.2 อภปิ รายผล จากการศึกษาชุมชนหมทู่ ี่ 2 ตาบลบา้ นตลู อาเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช และการจดั ลาดบั ความสาคัญ ของปัญหาโดยการมีส่วนร่วมของชุมชนโดยการทาประชาคม ซ่ึงพบว่าปัญหาท่ีสมควร ดาเนินการแกไ้ ขเป็น อนั ดบั แรกคือ ดา้ นสุขภาพ โรคเบาหวาน ดว้ ยเหตุผลดงั กล่าวจึงไดจ้ ดั ทาโครงการเพ่ือ ดาเนินการแก้ไขปัญหาด้านสุขภาพ เร่ืองโรคเบาหวาน ในชุมชน หมู่ท่ี 2 ตาบลบา้ นตูล อาเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช โดยมีกิจกรรมในโครงการประกอบดว้ ย 3 กิจกรรมหลกั คือ การบรรยายใหค้ วามรู้ เกี่ยวกบั โรคเบาหวานและวิธีการป้ องกนั โรคเบาหวาน กิจกรรมตอบคาถามเก่ียวกบั ความรู้โรคเบาหวาน เดินรณรงคป์ ้ องกนั โรคเบาหวาน หลงั จากใหค้ วามรู้ ซ่ึงสามารถอภิปรายผลไดด้ งั น้ีคือ 5.2.1 กิจกรรมให้ความรู้เร่ืองโรคเบาหวาน พบว่ามีตวั แทนครัวเรือนและผนู้ าชุมชนเขา้ ร่วมใน กิจกรรม คิดเป็ นร้อยละ 100 และผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ ได้ความรู้เชิงทฤษฎีเพิ่มมากข้ึน โดยส่วนใหญ่อยใู่ น ระดบั ดี ซ่ึงบรรลุตามเป้ าหมาย และการที่ประชาชนมีความรู้เก่ียวกบั โรคเบาหวานมากข้ึนทาใหป้ ระชาชนมี ความรู้ 5.2.2 กิจกรรมตอบคาถามเกี่ยวกบั ความรู้โรคเบาหวาน พบวา่ ผเู้ ขา้ ร่วมโครงการใหค้ วามร่วมมือ ในการทากิจกรรม ทาใหม้ ี ความเขา้ ใจมากข้ึน โดยประเมินจากการทดสอบความรู้หลงั ฝึกปฏิบตั ิจริง 5.2.3 กิจกรรมเดินรณรงคป์ ้ องกนั โรคเบาหวาน พบวา่ ผเู้ ขา้ ร่วมโครงการมีความรู้ในเชิงปฏิบตั ิเพม่ิ มากข้ึน พบวา่ ประชาชนไดใ้ หค้ วามสนใจ และร่วมกิจกรรมเป็นอยา่ งดี โดยประชาชนท่ีเขา้ ร่วมโครงการ ส่วนใหญม่ ีความพึงพอใจอยใู่ นระดบั ดี มากกวา่ ร้อยละ 80 ซ่ึงจากการจดั ทาโครงการดงั กล่าวน้ีทาให้ ประชาชนมีความรู้ทกั ษะและสามารถปฏิบตั ิไดจ้ ริงในเร่ืองโรคไขเ้ ลือดออก 5.3 ข้อเสนอแนะการจัดโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ 5.3.1 ขอ้ เสนอแนะ 5.3.1.1 ในการจดั โครงการ ควรมีการประชาสัมพนั ธ์ใหท้ วั่ ถึง และใหเ้ ขา้ ใจวตั ถุประสงคข์ อง กิจกรรม 5.3.1.2 ควรมีการดึงประชาชนเขา้ มามีส่วนร่วมในกิจกรรมใหม้ ากท่ีสุด โดยมีกิจกรรมสันทนาการ ละลายพฤติกรรมก่อนเขา้ เน้ือหาบทเรียน 5.3.1.3 ควรมีการเพิม่ ระยะเวลาในการจดั กิจกรรมโดยการติดตามและประเมินผลโครงการอยา่ ง ตอ่ เน่ือง เพื่อประเมินวา่ ประชาชนมีความรู้ในเร่ืองโรคเบาหวาน
ภาคผนวก
รูปกจิ กรรมให้ความรู้เร่ืองเบาหวาน
รูปโครงการ ห่างไกลโรคเบาหวาน
แบบสอบถามข้อมูลสภาพปัญหาของประชาชนในชุมชน ( หมู่ที่ 2 ต.บ้านตูล อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ) ส่วนที่ 1 ข้อมูลทวั่ ไป 1. ชื่อ……………………..................นามสกลุ ................................................. 2. เพศ 1.หญิง 2. ชาย 3. อายุ ......................... ปี 4. สถานภาพสมรส 4.1 โสด 4.2 สมรส 4.3 หยา่ 4.4 หมา้ ยเนื่องจากคูส่ มรสเสียชีวติ 4.5 แยกกนั อยู่ โปรดระบุ 4.6 แยกกนั อยชู่ ว่ั คราวตามขอ้ ตกลงระหวา่ งคู่สมรส 4.7 แยกกนั อยชู่ ว่ั คราวตามคาสงั่ ศาล 5. ระดบั การศึกษาสูงสุด 5.1 ไม่ไดเ้ รียนหนงั สือ 5.2 ประถมศึกษา 5.3มธั ยมศึกษาตอนตน้ (ม.1-ม.3) มธั ยมศึกษาตอนปลาย(ม.4-ม.6) ประกาศนียบตั รวชิ าชีพ (ปวช.) หรือเทียบเทา่ 5.6 ปริญญาตรี 5.7ประกาศนียบตั รวชิ าชีพช้นั สูง (ปวส.) หรือเทียบเท่า 5.8ปริญญาโท 5.9 ปริญญาเอก 5.10อื่นๆ ระบุ…………… 6. อาชีพหลกั ของครอบครัว 6.1รับจา้ งทว่ั ไป 6.2 เกษตรกร 6.3 ประมง 6.4ขา้ ราชการ/ลูกจา้ งหรือพนกั งานของรัฐ 6.5พนกั งานรัฐวสิ าหกิจ 6.6 เจา้ หนา้ ที่องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่น 6.7คา้ ขาย/ธุรกิจส่วนตวั 6.8 พนกั งาน/ลูกจา้ งเอกชน 6.9 วา่ งงาน/ไม่มีงานทา 6.10 อ่ืนๆ ระบุ………… 7.ประวตั ิการมโี รคประจาตัว 7.1 ไมม่ ีโรคประจาตวั 7.2 มีโรคประจาตวั (โปรดระบุชื่อโรค).......................................................
ตอนท่ี 2 แบบสอบถามข้อมูลสภาพปัญหาของประชาชน ที่ ปัญหาด้านเศรษฐกจิ มากทส่ี ุด ระดบั ปัญหา 5 มาก ปานกลาง น้อย น้อยทส่ี ุด 4 3 21 1 รายไดจ้ ากการประกอบอาชีพหลกั ไมเ่ พยี งพอ 2 ไม่มีอาชีพเสริม 3 กเู้ งินจากหน้ีระบบเพิม่ ข้ึน 4 ครัวเรือนมีรายไดไ้ ม่เพียงพอในการใชจ้ า่ ยประจาเดือน 5 ผลผลิตทางการเกษตรตกต่า/ขาดทุน 6 การวา่ งงานของคนในชุมชนเพมิ่ ข้ึน 7 ขาดที่ดินทากินเป็นของตนเอง 8 ภยั แลง้ ซ้าซาก 9 การเล่นการพนนั ในชุมชน 10 ขาดความรู้เก่ียวกบั เศรษฐกิจพอเพยี ง แสดงความคดิ เหน็ สภาพปัญหาเพม่ิ เตมิ ................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................................
ที่ ปัญหาด้านสังคม มากทส่ี ุด ระดบั ปัญหา น้อยทสี่ ุด 1 5 มาก ปานกลาง น้อย 432 1 ยาเสพติดระบาดในชุมชนเพ่ิมข้ึน 2 กลุ่มคนในชุมชนขาดความเขา้ ใจซ่ึงกนั และกนั ทะเลาะเบาะแวง้ กนั ขาดความสามคั คี 3 คนในชุมชนขาดจิตสานึกในการพฒั นาตนเอง 4 ความเหลื่อมล้าทางสงั คมของคนรวยและคนจน ในชุมชน 5 สุขลกั ษณะเช่น ขยะมลู ฝอย/ฝ่ นุ ละอองมลพษิ ใน ชุมชนเพิ่มข้ึน 6 สุขภาพของคนในชุมชนมีการเจบ็ ป่ วยและเกิด โรคระบาด 7 ขาดสวสั ดิการของหมบู่ า้ น 8 ความเชื่อและประเพณีของหม่บู า้ นทาใหข้ ดั แยง้ ทางสังคม 9 เยาวชนทะเลาะววิ าทและไม่ไดเ้ รียนต่อ 10 ขาดคนกลางในการแกป้ ัญหาความขดั แยง้ ของ คนในหมบู่ า้ น แสดงความคดิ เหน็ สภาพปัญหาเพมิ่ เติม ................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................................
ที่ ปัญหาด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและ มากทสี่ ุด ระดบั ปัญหา น้อยทสี่ ุด 1 สิ่งแวดล้อมและการท่องเทยี่ ว 5 มาก ปานกลาง น้อย 432 1 ระบบสาธารณูปโภคบริโภคของชุมชน เช่น ประปาไฟฟ้ าไม่เพยี งพอ 2 การคมนาคมและสญั จรไมส่ ะดวก 3 ขาดความรู้ดา้ นสุขลกั ษณะและมีการดูแลความ สะอาดของหมบู่ า้ น 4 ป่ าเสื่อมโทรมและมีการทาลายทรัพยากรของ ชุมชนเพมิ่ ข้ึน 5 ทรัพยากรและส่ิงแวดลอ้ มไม่เอ้ือต่อการบริหาร จดั การท่องเที่ยว 6 มีการบุกรุกที่ดินสาธารณะเพิ่มข้ึน 7 แหล่งท่องเท่ียวในชุมชนขาดการส่งเสริม สนบั สนุนและพฒั นา 8 ประชาชนในชุมชนขาดความรู้ในการบริหาร จดั การทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มของ ชุมชน 9 ขาดการมีส่วนร่วมในการบริหารจดั การ ทรัพยากรธรรมชาติของคนในชุมชน 10 ประชาชนในชุมชนขาดจิตสานึกในการอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มของชุมชน แสดงความคดิ เห็นสภาพปัญหาเพม่ิ เติม ................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................................
ที่ ปัญหาด้านอน่ื ๆ มากทสี่ ุด ระดบั ปัญหา น้อยทสี่ ุด 5 1 1 การคมนาคมสญั จรไมส่ ะดวก มาก ปานกลาง น้อย 2 ขาดแคลนทุนในการแปลงสินทรัพยเ์ ป็นทุน 432 3 ชุมชนขาดความเขม้ แขง็ ในดา้ นการรวมกลุ่ม 4 มีโรคติดตอ่ ภายในชุมชน 5 ประชาชนขดั แยง้ แบง่ พรรคแบง่ พวก 6 เยาวชนขาดจิตสานึกในการพฒั นาตนเอง 7 ขาดแคลนแหล่งเงินทุนเพ่ือพฒั นาอาชีพ 8 ขาดแหล่งน้า เพ่ือการเกษตรเพ่อื การประกอบ อาชีพ 9 ขาดการดูแลรักษาสิ่งแวดลอ้ มในชุมชน 10 ขาดการสืบสานวฒั นธรรมและภมู ิปัญญา ทอ้ งถ่ิน แสดงความคดิ เห็นสภาพปัญหาเพมิ่ เติม ................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................................
ระดับปัญหา ที่ ปัญหาด้านสุขภาพ มากทส่ี ุด มาก ปานกลาง น้อย น้อยทสี่ ุด 1 54 3 2 1 สามารถติดตามอา่ นคาแนะนาท่ีเก่ียวกบั การ ป้ องกนั ดูแลสุขภาพถูกตอ้ ง 2 สามารถเตือนผอู้ ื่นท่ีมีพฤติกรรมเสี่ยงตอ่ สุขภาพ เช่น ไมใ่ หส้ ูบบุหรี่ ด่ืมสุรา 3 สามารถไปพบแพทย์ หรือบุคลากรสาธารณสุข หรือผใู้ หบ้ ริการสุขภาพไดท้ ุกเมื่อ ตามที่ตอ้ งการ 4 มีการจดั โครงการอบรมดา้ นสุขภาพและ สุขลกั ษณะใหก้ บั คนในชุมชนอยเู่ ป็นประจา 5 สามารถควบคุมกากบั สุขภาพตนเอง เช่น ชงั่ น้าหนกั ตรวจสุขภาพประจาปี คิดบวก ลดอาหาร ที่ทาลายสุขภาพ ออกกาลงั กายเสมอ ในรอบ 1 ปี สมาชิกในครอบครัวมอี าการเจ็บป่ วยด้วยอาการ/โรค 1 เจบ็ ป่ วยเล็กนอ้ ย เช่น ไขห้ วดั ปวดกลา้ มเน้ือ/ปวด ทอ้ ง/โรคกระเพาะ 2 โรคติดต่อ เช่น อุจจาระร่วง ไขเ้ ลือดออก วณั โรค ฯลฯ 3 โรคไม่ติดต่อ เช่น ความดนั โลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหวั ใจ 4 ปัญหาสุขภาพจิต เช่น วติ กกงั วล/เครียด ติดยา/ สารเสพติด ติดสุราเร้ือรัง 5 อ่ืนๆ เช่น โรคเกี่ยวกบั ขอ้ และกระดูก
ท่ี วธิ ีการดูแลสุขภาพของสมาชิกในครอบครัว มากทส่ี ุด ลาดับปัญหา น้อยทส่ี ุด ( สมาชิกในครอบครัวมกี ารเจ็บป่ วยเลก็ น้อย) มาก ปานกลาง น้อย 54 3 21 1 ดูแลสุขภาพดว้ ยตนเอง เช่น ซ้ือยากินเอง เช็ดตวั ลดไข้ 2 ปรึกษา/ขอคาแนะนาจาก อสม. 3 ใชบ้ ริการสุขภาพที่สถานพยาบาล เช่น รพ.สต./ คลินิก/โรงพยาบาล วธิ ีการดูแลสุขภาพของสมาชิกในครอบครัว (สมาชิกในครอบครัวมีการเจบ็ ป่ วยรุนแรง/หมดสติ) 1 ดูแลสุขภาพดว้ ยตนเอง เช่น ซ้ือยากินเอง เช็ดตวั ลดไข้ 2 มีความรู้พ้ืนฐานดา้ นการแพทยฉ์ ุกเฉิน สามารถ ปฐมพยาบาลเบ้ืองตน้ ได้ เช่น การช่วยฟ้ื นคืนชีพ ข้นั พ้นื ฐาน(CPR) 3 ใชบ้ ริการสุขภาพท่ีสถานพยาบาล เช่น รพ.สต./ คลินิก/โรงพยาบาล 4 รีบโทร1669 แสดงความคดิ เหน็ สภาพปัญหาเพม่ิ เตมิ ................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................................
แบบทดสอบความรู้เร่ืองโรคเบาหวาน คาชี้แจง : กรุณากรองข้อมูลและทาเคร่ืองหมาย / ลงในช่องว่างในข้อทถ่ี ูก และ X ในข้อทผ่ี ดิ แบบสอบถาม ก่อน หลงั ส่วนที่ 1 : ข้อมูลทว่ั ไป เพศ หญิง ชาย อายุ ……… ปี การศึกษา ต่ากวา่ มธั ยมศึกษา มธั ยมศึกษาหรือเทียบเท่า อนุปริญญาหรือเทียบเทา่ ปริญญาตรี สูงกวา่ ปริญญาตรีอาชีพ นกั ศึกษา ขา้ ราชการ เกษตรกร ลูกจา้ ง ธุรกิจส่วนตวั อื่นๆ ................................... ส่วนท่ี 2 : แบบทดสอบความรู้ _____ 1. เกิดจากความผดิ ปกติท่ีร่างกายไมส่ ามารถใชน้ ้าตาลไดต้ ามปกติ ทาใหร้ ะดบั น้าตาลในเลือดสูงข้ึน _____ 2. การสร้างน้าตาลเขา้ สู่กระแสเลือด ส่วนตบั อ่อนจะมีการหลง่ั อินซูลินเพือ่ นาพาน้าตาลไปใหอ้ วยั วะ ต่างๆ _____ 3. อาหารท่ีรับประทานเขา้ ไปส่วนใหญ่จะเปล่ียนจะเปล่ียนเป็นน้าตาลกลูโคสในกระแสเลือดเพอ่ื ใช้ เป็นพลงั งาน _____ 4. น้าตาลกลูโคสเขา้ สู่เน้ือเยอื่ ต่างๆของร่างกาย เพื่อเผาผลาญเป็ นพลงั งานในการดาเนินชีวติ _____ 5. การกินยาแผนโบราณสามรถใหห้ ายจากโรคเบาหวานได้
แบบประเมินความพงึ พอใจการเข้าร่วมโครงการ คาชี้แจง : กรุณากรองข้อมูลและทาเครื่องหมาย / ลงในช่องว่างในข้อทถี่ ูก และ X ในข้อทผ่ี ดิ เพศ : ชาย หญิง อายุ.................ปี อาชีพ : นกั เรียน/นกั ศึกษา เกษตรกรรม รับจา้ งทว่ั ไป/ลูกจา้ ง ขา้ ราชการ คา้ ขาย/ธุรกิจ อ่ืนๆ......... รายละเอยี ด มากทสี่ ุด ระดับความพงึ พอใจ มาก ปานกลาง น้อย น้อยทสี่ ุด 1. ความพงึ พอใจด้านกระบวนการ ข้ันตอนการจัดกจิ กรรม 1.1. รูปแบบกิจกรรมการจดั กิจกรรม 1.2 ลาดบั ข้นั ตอนในการจดั กิจกรรม 1.3 ระยะเวลาที่ใชใ้ นการจดั กิจกรรม 1.4 เอกสารและสื่อประกอบในการจดั กิจกรรม 1.5 ความเหมาะสมของการจดั กิจกรรม 2. ความพงึ พอใจด้านวทิ ยากร 2.1 การถ่ายทอดความรู้ของวทิ ยากรมีความชดั เจน 2.2 การตอบขอ้ ซกั ถามในการจดั กิจกรรม 3. ความพงึ พอใจด้านส่ิงอานวยความสะดวก 3.1 สถานท่ีจดั กิจกรรม 3.2 มีการใชเ้ ทคโนโลยอี ยา่ งเหมาะสม 4. ความพงึ พอใจด้านคุณภาพการจัดกจิ กรรม 4.1 ท่านไดร้ ับประโยชน์จากการเขา้ ร่วมกิจกรรมอยา่ ง คุม้ คา่ 4.2 ท่านสามารถนาความรู้ที่ไดร้ ับไปประยกุ ตใ์ ชใ้ น ชีวติ ประจาวนั ผลรวม ขอ้ เสนอแนะ……………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………….……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………….
แบบลงทะเบยี น โครงการห่างไกล โรคเบาหวาน ณ หอประชุมประจาหมู่ที่ 2 ตาบลบ้านตูล อาเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช วนั ท…่ี ..… เดือน……………. พ.ศ. ...……. เวลา…..........…. ลาดับ ชื่อ – สกลุ ทอ่ี ยู่ หมายเลข ลายมอื ช่ือ ท่ี โทรศัพท์
บรรณานุกรม กลุ่มโรคเบาหวาน สานกั โรคติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. สานกั ระบาดวทิ ยา สานกั ระบาดวทิ ยา กรมควบคุมโรค กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข: ปฏิคม ววิ ฒั นานนท.์ (2558). การเฝ้ าระวงั โรค การแปลผล และการรายงานทางระบาดวทิ ยา. นายกธรรมนูญ มณู ีเกิด องคก์ ารบริหารส่วนตาบลเสาธง อาเภอร่อนพิบลู ย์ จงั หวดั นครศรีธรรมราช 80350
Search