Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานการฝึกโครงการพัฒนาทักษะวิชาชีพ-นางสาวอทิสา-อ่อนแก้ว

รายงานการฝึกโครงการพัฒนาทักษะวิชาชีพ-นางสาวอทิสา-อ่อนแก้ว

Published by กาญจนา แก้วรัตน์, 2020-04-12 10:35:14

Description: รายงานการฝึกโครงการพัฒนาทักษะวิชาชีพ-นางสาวอทิสา-อ่อนแก้ว

Search

Read the Text Version

รายงานการฝึ กโครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพ ชุมชนหมู่ท่ี 10 ตาบลชะอวด อาเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช นางสาวอทิสา อ่อนแก้ว รหัสประจาตัวนักศึกษา 611250024 รายงานฉบับนีเ้ ป็ นส่วนหน่ึงของวิชาโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ ประกาศนียบัตรวชิ าชีพช้ันสูงปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ ช้ันปี ที่ 2 รุ่นที่ 15 วิทยาลยั การสาธารณสุขสิรินธร จงั หวัดยะลา

คานา รายงานฉบับน้ีเป็ นส่วนหน่ึงของวิชาโครงการพฒั นาทักษะวิชาชีพ ของนักศึกษาหลักสูตร ประกาศนียบตั รวิชาชีพช้นั สูง สาขาปฏิบตั ิการฉุกเฉินการแพทย์ วิทยาลยั การสาธารณสุขสิรินธร จงั หวดั ยะลา โดยการฝึ กโครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพคร้ังน้ี นักศึกษาไดฝ้ ึ กประสบการณ์ในพ้ืนท่ี ชุมชนหมู่ที่ 10 ตาบลชะอวด อาเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช เป็ นการศึกษาชุมชนในดา้ นต่าง ๆ มีการเก็บรวบรวม ขอ้ มูลจากชุมชน โดยการสัมภาษณ์ สังเกต และจากขอ้ มูลทุติยภูมิเพอ่ื ให้ทราบ และเขา้ ใจถึงวถิ ีของคนใน ชุมชน และมองเห็นสภาพปัญหาต่าง ๆ ทีเ่ กิดข้ึนภายในชุมชน โดยเฉพาะปัญหาดา้ นฉุกเฉินการแพทย์ และ นาไปสู่การวางแผนพฒั นา แกไ้ ขปัญหาชุมชนได้อยา่ งตรงจุด และสอดคลอ้ งกบั วิถีชุมชน โดยการมีส่วน ร่วมของชุมชน อนั นาไปสู่การมีสุขภาพ และคุณภาพชีวติ ท่ีดีภายในชุมชน ซ่ึงทาใหเ้ กิดการพฒั นาอยา่ งยงั่ ยนื เพอ่ื เตรียมความพรอ้ มสู่การฝึกประสบการณ์จริง และเป็ นบุคลากรทางดา้ นสาธารณสุขต่อไป ผู้จัดทาหวัง เป็ นอยา่ งยงิ่ วา่ ขอ้ มูลต่าง ๆ ในเล่มรายงานฉบบั น้ีจะสามารถนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ ห้เกิดประโยชน์ และเป็ น แนวทางในการพฒั นา แกป้ ัญหาในดา้ นตา่ ง ๆ ของชุมชน และเพอื่ เป็นแนวทางในการศกึ ษาต่อไป ผู้จดั ทา นางสาวอทสิ า อ่อนแกว้

กติ ตกิ รรมประกาศ การฝึ กโครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพในคร้ังน้ี นักศึกษาหลกั สูตรประกาศนียบตั รวิชาชีพช้นั สูง ปฏิบตั ิการฉุกเฉินการแพทย์ รุ่นท่ี 15 ช้นั ปี ท่ี 2 วทิ ยาลยั การสาธารณสุขสิริธร จงั หวดั ยะลา ไดท้ าการศึกษา ในพ้นื ท่ีของตนเอง โดยการฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพคร้ังน้ีนักศึกษาไดฝ้ ึ กประสบการณ์ในพ้ืนท่ี ชุมชนหมู่ท่ี 10 ตาบลชะอวด อาเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช ไดส้ าเร็จลุล่วงไปดว้ ยดี โดยไดร้ ับความ กรุณาจากบุคคลหลายท่าน ทางกลุ่มนกั ศึกษารู้สึกซาบซ้ึงในความกรุณาที่มีให้ จึงใคร่ขอขอบพระคุณเป็ น อยา่ งสูงไว้ ณ โอกาสน้ี ขอขอบพระคุณอาจารย์ ดร.ภคั ณฐั วรี ขจร ทไ่ี ดใ้ หค้ าแนะนา ที่ไดป้ ระสิทธ์ิประสาทวิชา ก่อใหเ้ กิด ความรูใ้ นการฝึกปฏบิ ตั ิงาน จนสามารถปฏิบตั งิ านไดเ้ ป็ นอยา่ งดี ขอขอบพระคุณเจา้ หนา้ ท่ีอาสาสมคั รสาธารณสุขประจาหมู่บา้ นในชุมชนหมู่ที่ 10 ที่คอยให้ความ ช่วยเหลือ แนะนา ใหค้ าปรึกษา ตลอดการฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพและให้ความช่วยเหลือ แนะนา ใหค้ าปรึกษา ตลอดการฝึกปฏิบตั งิ านในคร้ังน้ี ขอขอบพระคุณชาวบา้ น ชุมชนหมู่ท่ี 10 ตาบลชะอวด อาเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช ที่ให้ ขอ้ มูลในการศกึ ษาคร้งั น้ี และเขา้ มามีส่วนร่วมในการดาเนินโครงการ ในทุกกิจกรรมท่ีนกั ศึกษาจดั ข้ึนและ สาเร็จลุล่วงไปไดด้ ว้ ยดี สุดทา้ ยน้ี นกั ศึกษาขอขอบพระคุณทุกท่านท่ีมีส่วนเกี่ยวขอ้ ง ทาให้การฝึ กโครงการพฒั นาทกั ษะ วชิ าชีพในคร้ังน้ี ประสบความสาเร็จลุล่วงไปดว้ ยดี

สารบญั หน้า เรื่อง ก ข คานา ค กิตติกรรมประกาศ 1 สารบญั 1 บทที่ 1 บทนา 2 2 1.1 ความเป็นมาและความสาคญั ของการฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ 3 1.2 วตั ถุประสงคข์ องการวจิ ยั 3 1.3 กระบวนการเตรียมฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ 4 บทท่ี 2 บริบทชุมชน 6 2.1 เเผน่ ทีเ่ ดินดิน 11 2.2 ฝังเครือญาติ 12 2.3 โครงสรา้ งองคก์ รชุมชน 13 2.4 ระบบสุขภาพชุมชน 14 2.5 ปฏทิ ินชุมชน 17 2.6 ประวตั ิศาสตร์ชุมชน 17 2.7 ประวตั บิ คุ คลสาคญั 18 บทท่ี 3 การวนิ ิจฉยั ชุมชน 18 3.1 การเก็บรวบรวมขอ้ มูล 28 3.2 การวเิ คราะห์ขอ้ มูล 29 3.3 ผลการวเิ คราะหข์ อ้ มูล 3.4 การวเิ คราะห์สาเหตุของปัญหา 30 3.5 ปัญหาและการจดั ลาดบั ของปัญหา 30 39 บทที่ 4 แผนงาน/โครงการ 44 4.1 แผนงาน/โครงการ 4.2 ระดบั ความพงึ พอใจต่อโครงการ 4.3 สรุปผลการดาเนินโครงการ

สารบญั ( ตอ่ ) หนา้ 47 เรื่อง 47 บทท่ี 5 สรุปผลการฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ อภิปรายและขอ้ เสนอแนะ 48 5.1 สรุปผลการฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ 48 5.2 อภปิ รายผล 49 5.3 ขอ้ เสนอแนะการฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ 50 ภาคผนวก 52 ภาคผนวก ก ภาพทากิจกรรมโครงการ ห่างไกลไขเ้ ลือดออก 59 ภาคผนวก ข แบบสอบถามขอ้ มูลสภาพปัญหาของประชาชนในชุมชน 60 ภาคผนวก ค แบบทดสอบความรู้เร่ืองไขเ้ ลือดออก 61 ภาคผนวก ง แบบประเมินความพงึ พอใจการเขา้ ร่วมโครงการห่างไกล ไขเ้ ลือดออก 62 ภาคผนวก จ แบบลงทะเบียนเขา้ ร่วมโครงการห่างไกล ไขเ้ ลือดออก บรรณานุกรม

บทท่ี 1 ส่ วนนาโครงการ 1.1ความเป็ นมาและความสาคญั ของการฝึ กโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ โรคไขเ้ ลือดออกเป็ นปัญหาสาคญั ทางการแพทย์ และการสาธารณสุขในระดับประเทศไทยมา ยาวนาน เน่ืองจากความรุนแรงของโรคแปรผนั ตรงตอ่ อตั ราตาย อตั ราป่ วยเป็ นโรคไขเ้ ลือดออก จึงส่งผลต่อ สุขภาพของผปู้ ่ วย ชุมชน สงั คม และประเทศชาติ ตามลาดบั เดิมการระบาดของโรคไขเ้ ลือดออกจะพบบ่อย ในกลุ่มอายรุ ะหวา่ ง 10-14 ปี แต่ปัจจุบนั มกั พบผปู้ ่ วยไดใ้ นทุกกลุ่มอายแุ ละพบไดท้ กุ ฤดูกาล โดยสถานการณ์ โรคไขเ้ ลือดออกภาคใต้ พบว่าภาคใต้ เขต 11 มีอตั ราป่ วยประมาณ7,753 ราย จานวนผูป้ ่ วยของจงั หวดั นครศรีธรรมราช 3,805 ราย (กรมควบคุมโรค, 2562 ) จากการสารวจขอ้ มูลครวั เรือน หมู่ที่ 10 ตาบลชะอวด อาเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช เดือน มีนาคม 2563 มีจานวนครัวเรือนท้งั สิ้น 363 ครัวเรือน ซ่ึงจากการสารวจครัวเรือน พบว่า มีลูกน้ายงุ ลาย จานวน 10 ครัวเรือน มีภาชนะ 999 ใบ ซ่ึงจากการสารวจภาชนะ พบลูกน้ายงุ ลายในภาชนะ 22 ใบ โดยมีค่า ร้อยละของบา้ นสารวจที่พบลูกน้ายงุ ลาย(House Index) คิดเป็ นร้อยละ 5.40 และมีค่าร้อยละของภาชนะ สารวจท่ีพบลูกน้ายงุ ลาย (Container Index) คิดเป็ นร้อยละ 2.2 ซ่ึงเกินจากเกณฑท์ ี่กระทรวงสาธารณสุข กาหนดไว้ (HI<10 %, CI = 0 %) จากสถานการณ์และความสาคญั ดังกล่าวนางสาวอทิสา อ่อนแกว้ นักศึกษาช้นั ปี ที่ 2 หลกั สูตรฉุกเฉิน การแพทย์ รุ่นที่ 15 เล็งเห็นวา่ ประชาชนหมู่ 10 ตาบลชะอวด อาเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช มีความ เสี่ยงทจ่ี ะเป็ นโรคไขเ้ ลือดออก เพราะมีค่าร้อยละของบา้ นสารวจท่ีพบลูกน้ายงุ ลาย(House Index) และมีค่า ร้อยละของภาชนะสารวจทพ่ี บลูกน้ายงุ ลาย (Container Index) เกินจากเกณฑท์ ่กี ระทรวงสาธารณสุขกาหนด ไว้ จึงไดจ้ ดั โครงการรณรงค์ ป้องกนั และควบคุมโรคไขเ้ ลือดออก หมู่ 10 ตาบลชะอวด อาเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช ข้ึนเพอ่ื ให้ประชาชนในชุมชนมีความรู้เร่ืองการป้องกนั โรคไขเ้ ลือดออกเพ่ือลด อตั ราการป่ วยดว้ ยโรคไขเ้ ลือดออกและควบคุมค่า CI และ HI ในหมู่บา้ น และเพือ่ ให้ประชาชนมีส่วนร่วม ในการป้องกนั และทาลายแหล่งเพาะพนั ธุ์ลูกน้ายงุ ลายในหมู่ 10 ตาบลชะอวด อาเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช

1.2 วตั ถุประสงค์ 1.2.1 เพอ่ื ใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจ ในการควบคุมป้องกนั โรคไขเ้ ลือดออกทีถ่ ูกวธิ ีและเหมาะสม 1.2.2 เพอื่ ลดคา่ ดชั นีลูกน้ายงุ ลายในชุมชน (HI, CI) 1.2.3 เพ่ือให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการป้องกนั และทาลายแหล่งเพาะพนั ธุ์ลูกน้ ายุงลายใน ครวั เรือน 1.3 กระบวนการเตรียมฝึ กโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ 1.3.1 กรอบแนวคิดการฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพ การฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพ ปัญหาดา้ นสุขภาพดา้ นในชุมชนหมู่ท่ี 10 ตาบลชะอวด อาเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช ภาพท่ี 1.1 กรอบแนวคดิ การเตรียมฝึกโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ

บทที่ 2 บริบทชุมชน เครื่องมือ 7 ชิ้น เคร่ืองมือ 7 ชิ้น เป็ นเคร่ืองมือทใ่ี ชใ้ นการเขา้ ถึงพน้ื ที่ของชุมชน และบ่งบอกถึงความสาคญั ของกลุ่ม ผูค้ นว่ามีความผูกพนั ธุ์ในวงศ์สกุลเดียวกนั สามารถช่วยแนะนาปัญหาบางอยา่ งของครอบครัวที่สามารถ เกิดข้ึนไดแ้ ละยงั ทาใหร้ ู้จกั กลุ่มงานต่างๆ ในชุมชน เขา้ หาชุมชนไดง้ า่ ยข้นึ ไดเ้ รียนรูก้ ารรักษาตนเองของคน ในชุมชน เขา้ ใจวถิ ีชีวติ ของคนในชุมชนและที่สาคญั เป็ นเคร่ืองมือท่ีใชเ้ ป็ นใบเบิกทางเพ่อื การกลมกลืนเขา้ กบั ชุมชนน้นั 1.แผนทเี่ ดนิ ดนิ

2.ผงั เครือญาติ ผงั เครือญาตคิ ือ การถอดความสมั พนั ธใ์ นเชิงเครือญาติ หรือเชิงสายเลือดในชุมชน มีความสาคญั ต่อการทาความเขา้ ใจชุมชนและสงั คม ไม่วา่ จะเป็นสงั คมเมืองหรือสงั คมชนบท เพราะเครือญาตเิ ป็ น ความสมั พนั ธท์ เ่ี ป็นรากฐานท่ีสุดของชีวติ ครอบครัว การทาผงั เครือญาติจึงมีส่วนสาคญั ในการทาความ เขา้ ใจระบบความสมั พนั ธใ์ นครอบครัวและชุมชน เป้าหมายสาคญั ของผงั เครือญาติ 1.เขา้ ใจโครงสรา้ งความสมั พนั ธเ์ ชิงเครือญาตซิ ่ึงเป็นรากฐานของครอบครวั และชุมชน 2.รูจ้ กั ตวั บุคคลและความสมั พนั ธท์ างสงั คมของเขาไดใ้ นระยะเวลาอนั ส้นั 3.ช่วยสรา้ งความสมั พนั ธแ์ ละความสนิทคุน้ เคยระหวา่ งเจา้ หนา้ ที่กบั ชาวบา้ นไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว 4. ทาใหท้ ราบเก่ียวกบั สุขภาพหรือโรคตดิ ต่อของคนในครอบครัว เพอ่ื ป้องกนั และแกไ้ ขปัญหาสุขภาพน้นั ๆ สัญลกั ษณ์แทนในผงั เครือญาติ สญั ลกั ษณ์แทนบดิ ามารดาท่เี สียชีวติ แลว้ สญั ลกั ษณ์แทนผชู้ าย สญั ลกั ษณ์แทนผหู้ ญงิ สญั ลกั ษณ์แทนการแตง่ งาน

ผังเครื นายฉ่า ถนนทิพย/์ นายชาลี ถนนทิพย์ นายสุรภน เมืองจนั ทบรุ ี นายณรง ถนนทพิ ย์ นางจารึก ถนนทิพย์ นางกาญจนา คงฉิม นายวชั รา เมอื งจนั ทบรุ ี นายณฐั วตั ถนนทพิ ย์ นายเบน็ จมนิ เมืองจนั ทบรุ ี นางสาวสายใหม เมืองจนั ทบรุ ี

รอญาติ /นางอิ่ม ถนนทพิ ย์ นายกาปัน อ่อนแกว้ นายณรง หนูจนั ทร์ นางสาวโฉมศรี ถนนทยิ ์ นางสาวสมบูรณ์ อ่อนแกว้ นางศรีสุดา ถนนทพิ ย์ นายอภิชาต อ่อนแกว้ นางสาวเจนจิรา ถนนทิพย์ นายจิรศกั ดิ์ ออ่ นแกว้ นางสาวอทิสา ออ่ นแกว้

ผงั เครือญาติ รายช่ือประธานและอาสาสมัครชุมชน นางสายพนิ สรรพกิจไพศาล ประธาน นางกาญจนา ศรีวารินทร์ รองประธาน นางโสภี ทบั ทอง นางสวณี า ทองศรีนุ่น เลขานุการ กรรมการฝ่ายสวสั ดิการสงั คม นายกาปัน อ่อนแกว้ นางสุดใจ บุญฤทธ์ิ กรรมการฝ่ายพฒั นา กรรมการฝ่ ายป้องกนั นางนงเยาว์ เมฆเรือง นางสมจิตร คงเรือง กรรมการฝ่ ายกลุ่มสตรี กรรมการฝ่ ายการคลงั นางอรชร ช่วยสกุล นางปรีดา อินทรฤทธ์ิ กรรมการฝ่ ายกลุ่มสตรี กรรมการฝ่ ายการศึกษา

รายชื่อคณะกรรมการทป่ี รึกษาชุมชน นางเยาณภา โชคชุลี ทป่ี รึกษา นากาญจนา เอมเอก ทปี่ รึกษา นาปราณี สมานทอง ท่ปี รึกษา นางอ่อนตา รกั ษท์ อง ท่ีปรึกษา คณะกรรมการทีป่ รึกษา นางเยาณภา โชคชุลี นากาญจนา เอมเอก นาปราณี สมานทอง และนางอ่อน ตา รกั ษท์ อง บทบาทการทางานของคณะกรรมการท่ปี รึกษาส่วนใหญ่มีหนา้ ท่ปี รึกษากบั ประธานชุมชนรอง ประธาน และ คณะกรรมการ ซ่ึงประธานกรรมการมีบทบาทในการบริหารชุมชนโดยมีประชาชนเป็ น ผสู้ นบั สนุน

รายช่ือประธานอาสาสมคั รสาธารณสุขชุมชน หมู่ที่ 10 ตาบลชะอวด อาเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช นางสาวณภา สายทอง ประธานอาสาสมคั รสาธารสุข นางกนั ตนา แจ่มใส นายสมคิด บุญธรรม สมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสุข สมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสุข นางกณั ยา บุญคง นางสายใจ ทองคา สมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสุข สมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสุข นางวรรณะ อนุกรม นางวรรดี บญุ คงมาก สมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสุข สมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสุข นางจรัส คงฉิม นางบบญุ สม ใจดี สมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสุข สมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสุข นางนภา ทองดี นางแกว้ ตา คงดา สมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสุข สมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสุข นางศศธิ ร ดาบา้ นใหม่ นางลดั ดาวลั ย์ พรหมรักษ์ สมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสุข สมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสุข นางภาพร คงดี นางอาสา ชูถนอม สมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสุข สมาชิกอาสาสมคั รสาธารณสุข

อาสาสมคั รสาธารณสุขชุมชนหมู่ที่ 10 เป็ นองคก์ รที่ดูแลสุขภาพของประชาชนในชุมชน เฝ้าคอย ระวงั โรคต่าง ๆ ในชุมชน มีบทบาทใหค้ วามรู้เก่ียวกบั การดูแลสุขภาพของชุมชน โดยมี นางสาวณภา สาย ทอง เป็ นประธาน โดยบทบาทหลัก ๆ ของ อาสาสมัครสาธารณสุขในชุมชน หมู่ที่ 10 ส่วนใหญ่จะ ประชาสัมพนั ธ์เก่ียวกบั การตรวจสุขภาพของประชาชน รวมท้งั เชิญชวนให้ประชาชนเขา้ รับการอบรมให้ ความรูเ้ กี่ยวกบั การดูแลสุขภาพของตนเองและสมาชิกในครวั เรือน กล่มุ สตรี นางศรันยา แซ่ลี่ หวั หน้ากล่มุ สตรี คณะกรรมการพฒั นาสตรีเป็ นกลุ่มเป้าหมายในการดาเนินการขบั เคลื่อนการดาเนินงานจดั ประชุม สตรีในหมู่บา้ น เพอื่ แนะนาการจดั ทาครอบครัวพฒั นาตามคุณลกั ษณะที่กาหนดร่วมกบั ครอบครัวเป้าหมาย ท่ีเขา้ ร่วมโครงการวางแผนการพฒั นาประสานองค์กรหน่วยงานที่เกี่ยวขอ้ งเพือ่ ร่วมส่งเสริม/และพฒั นา ครอบครวั กล่มุ ผู้สูงอายุ นายสมศรี คงฉิม หัวหน้ากล่มุ ผ้สู ูงอายุ ชมรมผสู้ ูงอายเุ ป็นการรวมกลุ่มของผสู้ ูงอายทุ ่ีมีอายเุ กิน ๖๐ ปี ข้ึนไป อยา่ งน้อย ๒๐ คน และอาจมี คนวยั อื่น ท้งั วยั ทางาน เด็ก เยาวชน เขา้ ร่วมเป็ นสมาชิกสมทบ แต่ไม่ควรเกิน ๑ ใน ๔ ของสมาชิกท่ีเป็ นวยั สูงอายโุ ดยมีวตั ถุประสงค์ตรงกันในการดาเนินกิจกรรมที่เป็ นประโยชน์ท้งั ต่อตนเอง ครอบครัว ชุมชน สงั คม และมีการกาหนดระเบียบขอ้ บงั คบั ในการบริหารชมรม ท้งั น้ี ชมรมผูส้ ูงอายุอาจอยูภ่ ายใตส้ ังกดั หน่วยงาน องคก์ ร หรืออาจเป็นชมรมอิสระท่ไี ม่สงั กดั หน่วยงานใดก็ได้

4.ระบบสุขภาพ ระบบสุขภาพชุมชน ห อาเภอชะอวด จังหว สถานพยาบาล คลีนิค ร้านขายยา รพ.สต.บา้ นชะอวด ร้านโกข้ าว(ตลาดชะ คลนิ กิ แพทย์หญิงนฤมล เพทาย

หม่ทู ี่ 10 ตาบลชะอวด วดั นครศรีธรรมราช ศาสนา สถานท่ีออกกาลงั กาย ะอวด) วดั หม่ืนระงบั รังสรรค์ (หม่ืนส่อง) สนามกีฬาโรงเรียนบา้ นชะอวด

5. ปฏทิ นิ ชุมชน กมุ ภาพนั ธ์ มนี าคม เมษายน มกราคม -วันสงกรานต์ -รดนา้ ดาหัวผู้ใหญ่ -วนั ปี ใหม่ สิงหาคม พฤษภาคม มิถนุ ายน กรกฎาคม ธันวาคม -แข่งกีฬาชมุ ชน -วันสิน้ ปี กันยายน ตุลาคม พฤศจกิ ายน -บญุ สาทรเดอื นสบิ -ประเพณีชักพระ -ลอยกระธง *ทุกวนั ท1ี่ 0ของทุกเดือนจะมปี ระชุมหม่บู ้าน* กจิ กรรมภายในแต่ละเดือน กจิ กรรม -ตกั บาตรวนั ขน้ึ ปีใหม่ เดือน -ใหท้ านไฟ มกราคม -รดน้าดาหวั ผใู้ หญ่ -ประกวดนางนพมาศ เมษายน -แขง่ กฬี าสขี องแตช่ มุ ชน -กิจกรรมบุญสาทรเดือนสิบ กรกฎาคม -กิจกรรมแห่หมบั กนั ยายน -กิจกรรมประเพณีชกั พระ -กจิ กรรมลอยกระธง ตุลาคม -สวดมนตข์ า้ มปี พฤศจกิ ายน -ตกั บาตรเทโว ธนั วาคม -ใหท้ านไฟ *ทุกวนั ท1่ี 0ของทุกเดือนจะมปี ระชุมหมู่บ้าน*

6. ประวตั ิศาสตร์ชุมชน หมู่บา้ นชมพนู ุช หมู่10 ตาบลชะอวด อาเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช เป็ นหมู่ท่ีแยกออกมาจาก หมู่1 ตาบลชะอวด เม่ือปี พ.ศ.2548 ความเป็ นมาของชุมชนสืบเน่ืองมาจากพ้ืนท่ีน้ีเป็ นที่ของหมื่นระงบั ทารุณ กรรม(อาด ชุมภนู ุช นายตารวจมือปราบ)จานวน 500 ไร่ ทไ่ี ดแ้ บง่ สนั ปันส่วนใหบ้ ุตรหลานและส่วนหน่ึงบริจาก สรา้ งวดั หม่ืนระงบั รงั สรรค(์ พ้นื ทห่ี มู่ท่9ี ) หมู่บา้ นชุมถูนุช เป็ นหมู่บา้ นเก่าแก่ มีท่ีต้งั และอาณาเขตของบา้ นชมพนู ุช หมู่ที่10 ตาชะอวด อาเภอชะ อวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช ต้งั อยหู่ ่างจากอาเภอชะอวดไปทางทศิ ใตร้ ะยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร หมู่บา้ นชมพูนุชมีพ้ืนท่ีท้งั หมดประมาณ 983 ไร่ เอกสารสิทธ์ิส่วนใหญ่เป็ นโฉนดที่ดินและนส.3ก บางส่วน หมู่บา้ นชมพนู ุชมีครัวเรือนท้งั หมด 425 ครวั เรือน มีประชากรท้งั หมด1056 คน เป็ นประชากรชาย 512 คน ประชากรหญิง 544 คน ผพู้ กิ าร 3 คน งานประเพณี - ประเพณีการรดน้าดาหวั ผใู้ หญ่ - ประเพณีสาทรเดือนสิบ สถานทส่ี าคญั - ธนาคารหมู่บา้ น - สถานที่ประชุมประจาหมู่บา้ น

7.ประวตั ิชีวติ 1.ประวตั ชิ ีวติ นางสายพนิ สรรพกิจไพศาล (ประธานชุมชนหมู่ท1่ี 0คนปัจจบุ นั ) ข้อมูลทวั่ ไป -ช่ือ นางสายพนิ สรรพกิจไพศาล (ประธานชุมชนหมู่ท่ี 10 คนปัจจุบนั ) -เกิดเม่ือวนั ที่ 27 เมษายน พ.ศ.2509 ปัจจบุ นั อายุ 54 ปี -สญั ชาติ ไทย นบั ถือศาสนา พทุ ธ -ที่อยอู่ าศยั 177/1 หมู่ท่ี 10 ตาบลชะอวด อาเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช -มีพนี่ อ้ งท้งั หมด 8 คน เป็นบตุ รคนท่ี 46 สมรสกบั นายไพบูลย์ สรรพกิจไพศาล มีบตุ รดว้ ยกนั 1 คน -ไม่มีโรคประจาตวั ประวตั ดิ ้านการศึกษา - จบช้นั ประถมศกึ ษาปี ที่ 6 จากโรงเรียนวดั ควนสมบูรณ์ อาเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช - จบช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 6 โรงเรียนชะอวด -ปวช.การบญั ชี จากพณิชยาการศกั ด์ิศลิ ปิ น ประวัตดิ ้านการทางาน -ดารงตาแหน่งประธานชุมชนหมู่ที่ 10 ต้งั แต่ปี พ.ศ.2562

2.ประวตั ิชีวติ นายไพบลู ย์ สรรพกิจไพศาล(ประธานกองทุนหมู่บา้ น) ข้อมูลทั่วไป -ชื่อนายไพบูลย์ สรรพกิจไพศาล(ประธานกองทนุ หมู่บา้ น) -เกิดเม่ือวนั ท่ี 23ธนั วา พ.ศ.2502 ปัจจุบนั อายุ 50 ปี -สญั ชาติ ไทย นบั ถือศาสนา พทุ ธ -ทอี่ ยอู่ าศยั 177/1 หมู่ที่ 10 ตาบลชะอวด อาเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช --มีพนี่ อ้ งท้งั หมด 8 คน เป็นบตุ รคนที่ 46 สมรสกบั นางสายพนิ สรรพกิจไพศาล มีบุตรดว้ ยกนั 1 คน -ไม่มีโรคประจาตวั ประวัตดิ ้านการศึกษา -จบช้นั ประถมศกึ ษาปี ท6่ี จากโรงเรียนบา้ นชะอวด อาเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช -จบช้นั มธั ยมศกึ ษาปี ท3ี่ จากโรงเรียนศกั ด์ิศิลปิ น อาเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช -จบช้นั มธั ยมศกึ ษาปี ท่ี6 จากโรงเรียนชะอวดวทิ ยา อาเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช -จบปวส.เอกดนตรีไทย จากวทิ ยาลบั ครูสงขลา อาเภอเมือง จงั หวดั สงขลา

ประวตั ิด้านการทางาน - ครูดนตรีไทย โรงเรียนชะออวดวทิ ยาคาร -อดีตประธานชุมชนหมู่10 ปี พ.ศ.2553-2562 -เป็นประธานกองทุนเครือข่ายหมู่บา้ น 4. ประวตั ิชีวติ นายกาปัน อ่อนแกว้ (คณะกรรมการหมู่บา้ นหมู่ที่10) ข้อมูลท่วั ไป -นายกาปัน ออ่ นแกว้ (คณะกรรมการหมู่บา้ นหมทู่ 1ี่ 0) -เกิดเม่ือวนั ที่ 09 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ.2505 ปัจจุบนั อายุ 58 ปี -นบั ถือศาสนา พทุ ธ -ท่ีอยอู่ าศยั 119 หมู่ที่ 10 ตาบลชะอวด อาเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช -มีพนี่ อ้ งท้งั หมด 8 คน เป็นบุตรคนที่ 6 มีบุตร 3 คน -ไม่มีโรคประจาตวั ประวตั ดิ ้านการศึกษา -จบช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 7 จากโรงเรียนวดั สระแกว้ อาเภอเชียนใหญ่ จงั หวดั นครศรีธรรมราช -จบการศกึ ษาผใู้ หญ่ ระดบั 4 โรงเรียนชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช ประวัติด้านการทางาน -เป็นกรรมการหมู่บา้ น หมู่ที่ 10 ตาบลชะอวด อาเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช ต้งั แตป่ ี พ.ศ.2562- ปัจจุบนั

บทที่ 3 การวนิ ิจฉัยชุมชน การศึกษาชุมชนหมู่ท่ี 10 ตาบลชะอวด อาเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช ในคร้งั น้ีเป็นการศึกษา ในรูปแบบ การสารวจ สงั เกต การสมั ภาษณ์ ซ่ึงมีข้นั ตอนในการวนิ ิจฉยั ชุมชนมี ดงั น้ี 3.1 การเก็บรวบรวมขอ้ มูล 3.2 การวเิ คราะหข์ อ้ มูล 3.3 ผลการวเิ คราะห์ขอ้ มูล 3.4 ปัญหา และการจดั ลาดบั ความสาคญั ของปัญหา 3.5 การวเิ คราะห์สาเหตขุ องปัญหา 3.1 การเกบ็ รวบรวมข้อมูล 3.1.1 การรวบรวมขอ้ มูลปฐมภมู ิ เป็ นการเกบ็ ขอ้ มูลเพม่ิ เติมจากแหล่งทตุ ิยภมู ิ ซ่ึงขอ้ มูลดงั กล่าวมี ความสาคญั มาก เพราะช่วยใหม้ องเห็นสภาพปัญหาในชุมชนชดั เจนข้นึ และขอ้ มลู ท่ไี ดเ้ ป็ นขอ้ มูลปัจจุบนั มาก ทีส่ ุด วธิ ีการเก็บรวมรวบขอ้ มูลปฐมภูมิประกอบดว้ ย 3.1.1.1 การสงั เกต เป็นการสงั เกตสภาพทว่ั ไปของชุมชนและพฤตกิ รรมตา่ ง ๆ ของประชาชน ในชุมชน โดยที่ผถู้ ูกสงั เกตไม่รู้ตวั เพอ่ื นาขอ้ มูลมาสนบั สนุนในการวเิ คราะหป์ ัญหา 3.1.1.2 การสมั ภาษณ์ เป็นการสมั ภาษณ์จากแบบสอบถามที่เตรียมคาถามตา่ ง ๆ ไวพ้ ร้อม แลว้ และจดั พมิ พไ์ วเ้ ป็นแบบฟอร์มเดียวกนั สาหรับใชก้ บั ผถู้ ูกสมั ภาษณ์ทกุ คน โดยคาถามจะเป็ นท้งั คาถาม แบบปลายปิ ดและแบบปลายเปิ ด เพอื่ เปิ ดโอกาสใหผ้ ถู้ ูกสมั ภาษณ์แสดงความคิดเห็น 3.1.2 การรวบรวมขอ้ มูลทุติยภมู ิ เป็นการรวบรวมขอ้ มลู ทตุ ยิ ภมู ิ หรือขอ้ มลู ที่รวบรวมไวท้ อ่ี งคก์ รใน หมู่บา้ น ซ่ึงขอ้ มูลดงั กล่าวน้นั ทาใหท้ ราบวา่ ควรหาขอ้ มูลดา้ นใด เพม่ิ เติม เพอ่ื นามาใชใ้ น การสนับสนุนใน กระบวนการวเิ คราะห์ปัญหา การเกบ็ รวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามแบ่งออกเป็ น 5 ตอน ดงั นี้ ตอนที่ 1 ขอ้ มูลทวั่ ไป ตอนที่ 2 ขอ้ มูลความรู้เกี่ยวกบั โรคไขเ้ ลือดออก ตอนท่ี 3 ขอ้ มูลดา้ นสุขภาพในชุมชน ตอนท่ี 4 ขอ้ มูลความรู้เกี่ยวกบั โรค ตอนท่ี 5 ขอ้ มูลความรู้เกี่ยวกบั การดูแลสุขภาพเบ้ืองตน้ 3.2 การวเิ คราะห์ข้อมูล ขอ้ มูลทไี่ ดจ้ าการรวบรวมน้นั จะนามาวเิ คราะห์ตามข้นั ตอนการวเิ คราะห์ขอ้ มูล ดงั น้ี 3.2.1 บรรณาธิการขอ้ มูลดิบเป็นการตรวจสอบความถูกตอ้ งและความสมบูรณ์ของขอ้ มูล

3.2.2 การแจกแจงความถี่ โดยใชโ้ ปรแกรมสาเร็จรูป แลว้ นามาวเิ คราะหข์ อ้ มูลในรูปแบบ รอ้ ยละ และ นาเสนอในรูปแบบก่ึงบทความ ก่ึงตารางเพอื่ ความสะดวก การเปรียบเทียบขอ้ มูลสาหรับขอ้ มูลเชิง ปริมาณ 3.2.3 การสรุปขอ้ มูลเชิงคุณภาพ นาเสนอในรูปแบบบทความ เพอ่ื ความเขา้ ใจ 3.3 ผลการวเิ คราะห์ข้อมลู จากการศกึ ษาชุมชนหมู่ที่ 10 ตาบลชะอวด อาเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช จานวนครัวเรือน โดยประมาณ 10 หลงั คาเรือน ไดร้ วบรวมขอ้ มูลจากรายงานตา่ ง ๆ จากสานกั งานกระทรวงสาธารณสุข จงั หวดั ยะลาและอาสาสมคั รสาธารณสุขประจาหมู่บา้ นในชุมชน ซ่ึงจะนาเสนอตามลาดบั ดงั ตอ่ ไปน้ี 3.3.1 ขอ้ มูลทว่ั ไป จากการสารวจแบบสอบถามประชาชนในชุมชน หมู่ท่ี 10 ตาบลชะอวด อาเภอชะ อวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช ทาใหท้ ราบถึงบริบทของชุมชน และปัญหาดา้ นสุขภาพ ตารางท่ี 1 แสดงค่าร้อยละของสถานภาพท่วั ไปของผู้ตอบแบบสอบถามในด้านเพศ N = 10 เพศ จานวน ร้อยละ ชาย 6 60 หญิง 4 40 รวม 10 100 จากตารางที่ 1 พบวา่ สถานภาพทวั่ ไปของผตู้ อบแบบสอบถามเป็ นเพศหญิงรอ้ ยละ 60 ผตู้ อบแบบสอบถามเพศ ชายรอ้ ยละ 40 สรุปไดว้ า่ คนในชุมชน ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ตารางท่ี 2 แสดงค่าร้อยละของสถานภาพท่ัวไปของผู้ตอบแบบสอบถามในด้านอายุ N = 10 อายุ จานวน ร้อยละ ต่ากวา่ 20 ปี 5 50 20 ปี ข้นึ ไป 5 50 รวม 10 100

จากตารางท่ี 2 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามในดา้ นอายสุ ่วนใหญ่อยใู่ นช่วงอายตุ ่ากวา่ 20 ปี รอ้ ยละ 50 ช่วงอายุ 20 ปี ข้ึนไป ร้อยละ 50 สรุปไดว้ า่ ประชากรในชุมชนทีท่ าแบบสอบถามอยใู่ นช่วงอายุ ต่ากวา่ 20 ปี ถึง 20 ปี ข้ึนไป เทา่ กนั ตารางท่ี 3 แสดงค่าร้อยละของสถานภาพทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถามในด้านสถานะภาพ N = 10 สถานภาพ จานวน ร้อยละ โสด 7 70 สมรส 3 30 หยา่ - - หมา้ ยเน่ืองจากคูส่ มรสเสียชีวติ - - แยกกนั อยู่ - - รวม 10 100 จากตารางที่ 3 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามดา้ นสถานภาพโสด ร้อยละ 70 รองลงมาอยใู่ นสถานภาพ สมรส รอ้ ยละ 30 สรุปไดว้ า่ ประชากรในชุมชนส่วนใหญ่ท่ีทาแบบสอบถามมีสถานโสด ตารางที่ 4 แสดงค่าร้อยละของสถานภาพทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถามในด้านระดบั การศึกษาสูงสุด N = 10 ระดับการศึกษาสูงสุด จานวน ร้อยละ ไม่ไดเ้ รียนหนงั สือ - - ประถมศึกษา - - มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ (ม.1-ม.3) 5 50 มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย(ม.4-ม.6) 4 40 ประกาศนียบตั รวชิ าชีพ (ปวช.) - - หรือเทียบเทา่ ประกาศนียบตั รวชิ าชีพช้นั สูง - - (ปวส.) หรือเทยี บเท่า ปริญญาตรี 1 10 ปริญญาโท - -

ปริญญาเอก - - รวม 10 100 จากตารางท่ี 4 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามในดา้ นการศึกษาระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ (ม.1-ม.3) ร้อยละ 50 รองลงมาระดบั การศึกษามธั ยมศกึ ษาตอนปลาย(ม.4-ม.6) ร้อยละ 40 ระดบั ปริญญาตรี รอ้ ยละ 10 ตามลาดบั สรุปไดว้ า่ ประชากรในชุมชนส่วนใหญ่ท่ที าแบบสอบถามมีระดบั การศึกษามธั ยมศกึ ษาตอนตน้ (ม.1-ม.3) ตารางที่ 5 แสดงค่าร้อยละของสถานภาพท่ัวไปของผู้ตอบแบบสอบถามในด้านอาชีพหลกั ของครอบครัว N = 10 อาชีพหลกั ของครอบครัว จานวน ร้อยละ รบั จา้ งทวั่ ไป - - เกษตรกร 9 90 ประมง - - ขา้ ราชการ/ลูกจา้ งหรือพนกั งาน - - ของรฐั พนกั งานรัฐวสิ าหกิจ - - - - เจา้ หนา้ ท่ีองคก์ รปกครองส่วน ทอ้ งถ่ิน 1 10 - - คา้ ขาย/ธุรกิจส่วนตวั - - - - พนกั งาน/ลกู จา้ งเอกชน วา่ งงาน/ไม่มีงานทา อ่ืนๆ รวม 10 100 จากตารางที่ 5 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามในดา้ นอาชีพหลกั ของครอบครัวอาชีพเกษตรกรมากทสี่ ุด ร้อยละ 90 รองลงมาอาชีพคา้ ขาย/ธุรกิจส่วนตวั ร้อยละ 10 สรุปไดว้ า่ ประชากรในชุมชนส่วนใหญ่ทท่ี า แบบสอบถามอาชีพหลกั ของครอบครวั คอื เกษตรกร

ตารางท่ี 6 แสดงค่าร้อยละของสถานภาพท่ัวไปของผู้ตอบแบบสอบถามในด้านโรคประจาตัว N = 10 โรคประจาตัว จานวน ร้อยละ ไม่มีโรคประจาตวั 9 90 มีโรคประจาตวั 1 10 รวม 10 100 จากตารางท่ี 6 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามในดา้ นโรคประจาตวั เป็ นผทู้ ี่มีไม่มีโรคประจาตวั ร้อยละ 90 รองลงมาเป็นผทู้ ่ีมีโรคประจาตวั ร้อยละ 10 สรุปไดว้ า่ ประชากรในชุมชนส่วนใหญท่ ที่ าแบบสอบถามไม่มีโรค ประจาตวั ตารางที่ 7 แบบสอบถามข้อมูลสภาพปัญหาของประชาชนด้านเศรษฐกจิ ปัญหาด้านเศรษฐกิจ มากทส่ี ุด ระดับปัญหา 5 รายไดจ้ ากการประกอบอาชีพหลกั ไม่เพยี งพอ 3 มาก ปานกลาง น้อย น้อยทสี่ ุด ไม่มอี าชีพเสริม 1 4 3 21 กเู้ งนิ จากหน้ีระบบเพม่ิ ข้นึ 1 7 - -- ครัวเรือนมีรายไดไ้ ม่เพยี งพอในการใชจ้ า่ ย 9 -- ประจาเดือน 3 9 - -- ผลผลิตทางการเกษตรตกต่า/ขาดทุน การวา่ งงานของคนในชุมชนเพม่ิ ข้นึ 2 7 - -- ขาดทด่ี ินทากินเป็ นของตนเอง 1 ภยั แลง้ ซ้าซาก 1 8 - -- การเล่นการพนนั ในชุมชน 1 ขาดความรู้เกี่ยวกบั เศรษฐกิจพอเพยี ง 1 9 - -- 1 9 - -- 9 - -- 9- - 9 - -- จากตารางที่ 7 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามขอ้ มูลสภาพปัญหาของประชาชนดา้ นเศรษฐกิจ สรุปไดว้ า่ ปัญหาปัญหาดา้ นเศรษฐกิจ มีค่าเฉลี่ยเลขคณิตสูงท่สี ุดคอื 2.12 และมีคา่ เบยี่ งเบนมาตรฐานอยทู่ ่ี 0.81

ตารางท่ี 8 แบบสอบถามข้อมูลสภาพปญั หาของประชาชนด้านสังคม ปัญหาด้านสังคม มากทสี่ ุด มาก ระดบั ปัญหา น้อย น้อยทส่ี ุด 5 4 2 1 ยาเสพตดิ ระบาดในชุมชนเพม่ิ ข้นึ - - ปานกลาง - - กลุ่มคนในชุมชนขาดความเขา้ ใจซ่ึงกนั และกนั - - 3 - - ทะเลาะเบาะแวง้ กนั ขาดความสามคั คี - - 10 - - คนในชุมชนขาดจติ สานึกในการพฒั นาตนเอง - - 10 - - ความเหล่ือมล้าทางสงั คมของคนรวยและคนจนใน 10 ชุมชน - - 10 - - สุขลกั ษณะเช่น ขยะมูลฝอย/ฝ่นุ ละอองมลพษิ ใน ชุมชนเพมิ่ ข้นึ - 3 10 - - สุขภาพของคนในชุมชนมีการเจบ็ ป่ วยและเกิดโรค - - - - ระบาด - - 7 - - ขาดสวสั ดิการของหมู่บา้ น - - 10 - - ความเชื่อและประเพณีของหมู่บา้ นทาใหข้ ดั แยง้ ทาง - - 10 - - สงั คม 10 เยาวชนทะเลาะววิ าทและไม่ไดเ้ รียนตอ่ 10 ขาดคนกลางในการแกป้ ัญหาความขดั แยง้ ของคนใน หมู่บา้ น จากตารางที่ 8 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามขอ้ มูลสภาพปัญหาของประชาชนดา้ นสงั คม สรุปไดว้ า่ ปัญหา ปัญหาดา้ นสงั คม มีคา่ เฉลี่ยเลขคณิตสูงท่สี ุดคือ 2 และมีคา่ เบีย่ งเบนมาตรฐานอยทู่ ่ี 0.44

ตารางท่ี 9 แบบสอบถามข้อมูลสภาพปัญหาของประชาชนปัญหาด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ ส่ิงแวดล้อมและการท่องเทยี่ ว ปัญหาด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและ มากท่สี ุด ระดบั ปัญหา น้อยทส่ี ุด สิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยว 5 1 มาก ปานกลาง น้อย - ระบบสาธารณูปโภคบริโภคของชุมชน เช่นประปา 3 4 32 - ไฟฟ้าไม่เพยี งพอ 7-- - - 10 - การคมนาคมและสญั จรไม่สะดวก - 19- - ขาดความรู้ดา้ นสุขลกั ษณะและมีการดูแลความ - - 10 - - สะอาดของหมู่บา้ น - - 10 - - ป่ าเส่ือมโทรมและมีการทาลายทรัพยากรของชุมชน - - 10 - เพม่ิ ข้ึน - 10 - - ทรัพยากรและสิ่งแวดลอ้ มไม่เอ้อื ต่อการบริหารจดั การ - - 10 - - ท่องเที่ยว - 10 -- - มีการบกุ รุกท่ีดินสาธารณะเพม่ิ ข้ึน - - 10 - แหล่งท่องเทยี่ วในชุมชนขาดการส่งเสริมสนบั สนุน - และพฒั นา ประชาชนในชุมชนขาดความรู้ในการบริหารจดั การ - ทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มของชุมชน ขาดการมีส่วนร่วมในการบริหารจดั การ - ทรพั ยากรธรรมชาติของคนในชุมชน ประชาชนในชุมชนขาดจติ สานึกในการอนุรกั ษ์ - ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มของชุมชน จากตารางท่ี 9 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามขอ้ มูลสภาพ ปัญหาดา้ นการจดั การทรพั ยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดลอ้ มและการทอ่ งเทย่ี ว สรุปไดว้ า่ ปัญหาดา้ นการจดั การทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มและการ ท่องเที่ยว มีคา่ เฉลี่ยเลขคณิตสูงทส่ี ุดคือ 2.06 และมีคา่ เบีย่ งเบนมาตรฐานอยทู่ ่ี 0.19

ตารางที่ 10 แบบสอบถามข้อมูลสภาพปัญหาของประชาชนด้านอื่นๆ ปัญหาด้านอื่นๆ มากที่สุด มาก ระดบั ปัญหา น้อย น้อยทส่ี ุด 5 4 2 1 การคมนาคมสญั จรไม่สะดวก - 1 ปานกลาง - - ขาดแคลนทุนในการแปลงสินทรัพยเ์ ป็นทุน - 2 3 - - ชุมชนขาดความเขม้ แขง็ ในดา้ นการรวมกลุ่ม - - 9 - - มีโรคตดิ ตอ่ ภายในชุมชน 1 2 8 - - ประชาชนขดั แยง้ แบง่ พรรคแบง่ พวก - - 10 - - เยาวชนขาดจิตสานึกในการพฒั นาตนเอง - - 7 - - ขาดแคลนแหล่งเงินทนุ เพอ่ื พฒั นาอาชีพ - - 10 - - ขาดแหล่งน้า เพอื่ การเกษตรเพอ่ื การประกอบอาชีพ - 2 10 - - ขาดการดูแลรักษาส่ิงแวดลอ้ มในชุมชน - 2 10 - - ขาดการสืบสานวฒั นธรรมและภูมิปัญญาทอ้ งถน่ิ - - 8 - - 8 10 จากตารางท่ี 10 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามขอ้ มูลสภาพปัญหาดา้ นอื่นๆ สรุปไดว้ า่ ปัญหาดา้ นอ่นื ๆ มี คา่ เฉลี่ยเลขคณิตสูงที่สุดคอื 2 และมีค่าเบ่ยี งเบนมาตรฐานอยทู่ ี่ 0.59

ตารางท่ี 11 แบบสอบถามข้อมูลสภาพปัญหาของประชาชนด้านสุขภาพ ปัญหาด้านสุขภาพ มากทสี่ ุด ระดบั ปัญหา น้อยทส่ี ุด 5 1 สามารถติดตามอ่านคาแนะนาท่ีเก่ียวกบั การ 8 มาก ปานกลาง น้อย - ป้องกนั ดูแลสุขภาพถูกตอ้ ง 4 32 - สามารถเตอื นผอู้ ื่นทมี่ ีพฤตกิ รรมเส่ียงต่อสุขภาพ - 2-- - เช่น ไม่ใหส้ ูบบุหรี่ ด่ืมสุรา - สามารถไปพบแพทย์ หรือบุคลากรสาธารณสุข - - 10 - หรือผใู้ หบ้ ริการสุขภาพไดท้ กุ เมื่อ ตามทต่ี อ้ งการ - - 10 - - มีการจดั โครงการอบรมดา้ นสุขภาพและ - - 10 - - สุขลกั ษณะใหก้ บั คนในชุมชนอยเู่ ป็นประจา - - - สามารถควบคุมกากบั สุขภาพตนเอง เช่น ชง่ั - น้าหนกั ตรวจสุขภาพประจาปี คดิ บวก ลดอาหาร - - 10 ทีท่ าลายสุขภาพ ออกกาลงั กายเสมอ ในรอบ 1 ปี สมาชิกในครอบครัวมีอาการเจ็บป่ วยด้วยอาการ/โรค เจบ็ ป่ วยเลก็ นอ้ ย เช่น ไขห้ วดั ปวดกลา้ มเน้ือ/ปวด - - 10 - ทอ้ ง/โรคกระเพาะ โรคตดิ ตอ่ เช่น อุจจาระร่วง ไขเ้ ลือดออก วณั โรค 4 6 - - ฯลฯ โรคไม่ติดต่อ เช่น ความดนั โลหิตสูง -6 4 - โรคเบาหวาน โรคหวั ใจ ปัญหาสุขภาพจิต เช่น วติ กกงั วล/เครียด ติดยา/ - - 10 - สารเสพตดิ ตดิ สุราเร้ือรัง อ่ืนๆ เช่น โรคเกี่ยวกบั ขอ้ และกระดูก - - 10 -

ตารางที่ 11.1 แบบสอบถามข้อมูลสภาพปัญหาของประชาชนวธิ ีการดูแลสุขภาพของสมาชิกในครอบครัว ( สมาชิกในครอบครัวมกี ารเจบ็ ป่ วยเลก็ น้อย) วธิ ีการดูแลสุขภาพของสมาชิกในครอบครัว ลาดบั ปัญหา ( สมาชิกในครอบครัวมีการเจบ็ ป่ วยเลก็ น้อย) มากท่สี ุด มาก ปานกลาง น้อย น้อยทสี่ ุด 54 3 21 ดูแลสุขภาพดว้ ยตนเอง เช่น ซ้ือยากินเอง เช็ดตวั - 9 1 - - ลดไข้ ปรึกษา/ขอคาแนะนาจาก อสม. -1 9 -- ใชบ้ ริการสุขภาพที่สถานพยาบาล เช่น รพ.สต./ - 6 4 - - คลินิก/โรงพยาบาล วธิ ีการดแู ลสุขภาพของสมาชิกในครอบครัว (สมาชิกในครอบครัวมกี ารเจบ็ ป่ วยรุนแรง/หมดสติ) ดูแลสุขภาพดว้ ยตนเอง เช่น ซ้ือยากินเอง เชด็ ตวั 2 7 1 0 - ลดไข้ มีความรู้พ้นื ฐานดา้ นการแพทยฉ์ ุกเฉิน สามารถ ปฐมพยาบาลเบ้อื งตน้ ได้ เช่น การช่วยฟ้ื นคนื ชีพ - - 6 4- ข้นั พน้ื ฐาน(CPR) ใชบ้ ริการสุขภาพทสี่ ถานพยาบาล เช่น รพ.สต./ - 6 4 - - คลินิก/โรงพยาบาล รีบโทร1669 64 - - - จากตารางที่ 11 และ 11.1 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามขอ้ มูลสภาพปัญหาดา้ นสุขภาพ สรุปไดว้ า่ ปัญหา ดา้ นสุขภาพ มีค่าเฉลี่ยเลขคณิตสูงท่สี ุดคือ 2.12 และมีคา่ เบี่ยงเบนมาตรฐานอยทู่ ี่ 0.81

ตารางท่ี 12 แสดงค่าเฉลย่ี ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของปัญหาในชุมชน ปัญหา x S.D. ปัญหาดา้ นเศรษฐกิจ 2 0.37 ปัญหาดา้ นสงั คม 2 0.44 ปัญหาดา้ นการจดั การ 2.06 0.19 ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ ส่ิงแวดลอ้ มและการทอ่ งเที่ยว 2.12 0.81 ปัญหาดา้ นสุขภาพ 2 0.59 ปัญหาดา้ นอื่นๆ 2.04 0.23 ค่าเฉล่ียรวม จากตารางที่ 12 สรุปไดว้ า่ ปัญหาปัญหาดา้ นสุขภาพ มีคา่ เฉลี่ยเลขคณิตสูงท่ีสุดคอื 2.12 และมีคา่ เบยี่ งเบนมาตรฐานอยทู่ ่ี 0.81 รองลงมาคอื มีดา้ นการจดั การทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มและการ ทอ่ งเทีย่ วคา่ เฉล่ียเลขคณิตสูงท่ีสุดคอื 2.06 และมีค่าเบยี่ งเบนมาตรฐานอยทู่ ี่ 0.19 สรุปการทาประชาคม ชุมชนหมู่ที่ 10 ตาบลชะอวด อาเภอชะอวด จงั หวัดนครศรีธรรมราช วนั พุธ ท่ี 8 เมษายน 2563 เวลา 13.00-15.00 น. ท่ีหอประชุมประจาหมู่10 ตาบลชะอวด อาเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช ผตู้ อบแบบสอบถาม 10 ชุด สรุปปัญหาของชุมชนหมู่ที่ 10 ตาบลชะอวด อาเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช ไดด้ งั น้ี 1. ปัญหาดา้ นเศรษฐกิจ มีคา่ เฉล่ีย 2 มีค่าระดบั ความพงึ พอใจ อยใู่ นเกณฑป์ านกลาง 2. ปัญหาดา้ นสงั คม มีคา่ เฉลี่ย 2 มีคา่ ระดบั ความพงึ พอใจ อยใู่ นเกณฑป์ านกลาง 3. ปัญหาดา้ นการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มและการท่องเท่ียว มีค่าเฉลี่ย 2.06 มี ค่าระดบั ความพงึ พอใจ อยใู่ นเกณฑป์ านกลาง 4. ปัญหาดา้ นอื่นๆ มีค่าเฉล่ีย 2 มีคา่ ระดบั ความพงึ พอใจ อยใู่ นเกณฑป์ านกลาง 5. ปัญหาดา้ นสุขภาพ มีค่าเฉล่ีย 2.12 มีค่าระดบั ความพงึ พอใจ อยใู่ นเกณฑน์ อ้ ย นกั ศึกษาไดเ้ ล็งเห็นวา่ ปัญหาดา้ นสุขภาพ ทม่ี ีค่าระดบั ความพงึ พอใจ อยใู่ นเกณฑน์ อ้ ย ที่ควรไดร้ ับการแกไ้ ข ทาง นกั ศึกษาจึงไดม้ าทาประชาคมในวนั และเวลาดงั กล่าว

การคดิ คะแนนเพอ่ื จดั ลาดบั ความสาคญั ของปัญหาด้านสุขภาพ เกณฑ์การจดั ลาดบั ความสาคญั ของปัญหาของ John J. Hanlon A = ขนาดของปัญหา ใหค้ ะแนนระหวา่ ง 0-10 B = ความรุนแรงของปัญหา ใหค้ ะแนนระหวา่ ง 0-20 C = ประสิทธิภาพของการปฏบิ ตั ิงาน ใหค้ ะแนนระหวา่ ง 0-10 D = ขอ้ จากดั ใหค้ ะแนน 0-1 สูตร คะแนนรวม Basic priority rating (B.P.R) = ( A+B ) x C x D 3 คะแนนขององค์ประกอบ ปัญหา ขนาดของ ความ ความยาก ความ วธิ ีบวก วิธีคูณ ปัญหา รุนแรง ง่าย สนใจ 1.ไขเ้ ลือดออก 6 12 3 1 22 216 2.ไขห้ วดั ใหญ่ 4 8 4 1 17 128 3.อุจจาระร่วง 3 6 5 1 15 90 4.วณั โรค 2 4 6 1 13 48 5.อิสุกอิใส 2 4 5 1 12 40 จากตาราง พบวา่ ปัญหาชุมชนอนั ดบั ท่ี 1 คือ ไขเ้ ลือดออก อนั ดบั ที่ 2 คือ ไขห้ วดั ใหญ่ อนั ดบั ที่ 3 คือ อุจจาระร่วง อนั ดบั ที่ 4 วณั โรค อนั ดบั ท่ี 5 อิสุกอิใส ตามลาดบั ทม่ี า:จากอ้างองิ ทฤษฏีวิธีของภาควชิ าบริหารสาธารณสุข คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลยั มหิดล จาก วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข

บทท4่ี แผนงานโครงการ จากการสารวจชุมชนหมู่ท่ี 10 ตาบลชะอวด อาเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช ไดล้ งสารวจพ้นื ที่ โดยใชแ้ บบสอบถามขอ้ มูลวเิ คราะห์เพอื่ จดั ลาดบั ความสาคญั ของปัญหา เพอ่ื หาวธิ ีการแกป้ ัญหาใหก้ บั ชุมชน จาก การศึกษาพบวา่ ชุมชนมีปัญหาดา้ นสุขภาพของคนในชุมชน เป็นอนั ดบั แรก ดงั น้นั จึงนาปัญหาดา้ นสุขภาพ โรคไขเ้ ลือดออก มาจดั โครงการเพอ่ื ใหค้ วามรูก้ บั คนในชุมชน เกิดความรู้ ความเขา้ ใจ ในการควบคุมป้องกนั โรคไขเ้ ลือดออกท่ีถูกวิธีและเหมาะสม ลดค่าดชั นีลูกน้า ยงุ ลายในชุมชน และเพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการป้องกนั และทาลายแหล่งเพาะพนั ธุ์ลูกน้ายงุ ลายใน ครวั เรือน 4.1 แผนงาน / โครงการ จากปัญหาที่พบ พบวา่ เป็นปัญหาทที่ างชุมชนมีความตอ้ งการใหด้ าเนินการ จากปัญหาดงั กล่าว จงึ ได้ จดั ทาโครงการเพอื่ แกป้ ัญหาสุขภาพของชุมชน 1 โครงการ โดยมีรายละเอียดดงั น้ี ชื่อกิจกรรม/โครงการ : ห่างไกลไขเ้ ลือดออก ช่ือ-สกลุ ผู้เสนอกจิ กรรม/โครงการ : นางสาวอทสิ า อ่อนแกว้ สังกัด : หลกั สูตรประกาศนียบตั รวชิ าชีพช้นั สูงสาขาปฏิบตั กิ ารฉุกเฉินการแพทย์ รุ่นท่ี 15 ช้นั ปี ท่ี 2

1. หลกั การและเหตุผล/ทม่ี า/ปัญหา 1.1 หลกั การและเหตุผล โรคไขเ้ ลือดออกเป็นปัญหาสาคญั ทางการแพทย์ และการสาธารณสุขในระดบั ประเทศไทยมายาวนาน เน่ืองจากความรุนแรงของโรคแปรผนั ตรงต่ออตั ราตาย อตั ราป่ วยเป็ นโรคไขเ้ ลือดออก จึงส่งผลต่อสุขภาพของ ผูป้ ่ วย ชุมชน สังคม และประเทศชาติ ตามลาดบั เดิมการระบาดของโรคไขเ้ ลือดออกจะพบบ่อย ในกลุ่มอายุ ระหว่าง 10-14 ปี แต่ปัจจุบันมักพบผูป้ ่ วยได้ในทุกกลุ่มอายุและพบได้ทุกฤดูกาล โดยสถานการณ์โรค ไข้เลือดออกภาคใต้ พบว่าภาคใต้ เขต 11 มีอัตราป่ วยประมาณ7,753 ราย จานวนผู้ป่ วยของจังหวัด นครศรีธรรมราช 3,805 ราย (กรมควบคุมโรค, 2562 ) จากการสารวจขอ้ มูลครัวเรือน หมู่ท่ี 10 ตาบลชะอวด อาเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช เดือน มีนาคม 2563 มีจานวนครัวเรือนท้งั สิ้น 185 ครัวเรือน ซ่ึงจากการสารวจครัวเรือน พบวา่ มีลูกน้ายงุ ลาย จานวน 10 ครวั เรือน มีภาชนะ 999 ใบ ซ่ึงจากการสารวจภาชนะ พบลูกน้ายงุ ลายในภาชนะ 22 ใบ โดยมีค่าร้อยละของ บา้ นสารวจท่ีพบลูกน้ายงุ ลาย(House Index) คิดเป็ นร้อยละ 5.40 และมีค่าร้อยละของภาชนะสารวจที่พบลูกน้า ยงุ ลาย (Container Index) คดิ เป็นร้อยละ 2.2 ซ่ึงเกินจากเกณฑท์ กี่ ระทรวงสาธารณสุขกาหนดไว้ (HI<10 %, CI = 0 %) จากสถานการณ์และความสาคญั ดังกล่าวนางสาวอทิสา อ่อนแก้ว นักศึกษาช้ันปี ท่ี 2 หลักสูตรฉุกเฉิน การแพทย์ รุ่นที่ 15 เล็งเห็นวา่ ประชาชน10 ตาบลชะอวด อาเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช มีความเสี่ยงท่ี จะเป็นโรคไขเ้ ลือดออก เพราะมีค่าร้อยละของบา้ นสารวจท่ีพบลูกน้ายงุ ลาย(House Index) และมีค่าร้อยละของ ภาชนะสารวจท่ีพบลูกน้ายงุ ลาย (Container Index) เกินจากเกณฑท์ ี่กระทรวงสาธารณสุขกาหนดไว้ จึงไดจ้ ดั โครงการรณรงค์ ป้องกันและควบคุมโรคไข้เลือดออก หมู่ 10 ตาบลชะอวด อาเภอชะอวด จังหวดั นครศรีธรรมราช ข้ึนเพอื่ ใหป้ ระชาชนในชุมชนมีความรู้เร่ืองการป้องกนั โรคไขเ้ ลือดออกเพอ่ื ลดอตั ราการป่ วย ดว้ ยโรคไขเ้ ลือดออกและควบคุมคา่ CI และ HI ในหมู่บา้ น และเพอ่ื ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการป้องกนั และ ทาลายแหล่งเพาะพนั ธุล์ ูกน้ายงุ ลายในหมู่ 10 ตาบลชะอวด อาเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช 1.2 วตั ถปุ ระสงค์ 1.2.1 เพอ่ื ใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจ ในการควบคุมป้องกนั โรคไขเ้ ลือดออกทถี่ ูกวธิ ีและเหมาะสม 1.2.2 เพอ่ื ลดค่าดชั นีลูกน้ายงุ ลายในชุมชน (HI, CI) 1.2.3 เพอ่ื ใหป้ ระชาชนมีส่วนร่วมในการป้องกนั และทาลายแหล่งเพาะพนั ธุล์ ูกน้ายงุ ลายในครวั เรือน

1.3 กล่มุ เป้าหมาย อสม. และตวั แทนครัวเรือนหมู่ท่ี 10 ตาบลชะอวด อาเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช จานวน 152 คน 1.4 เป้าหมาย 1.4.1 เป้าหมายเชิงคณุ ภาพ - ประชาชนมีความรู้ ความเขา้ ใจ ในการควบคุมป้องกนั โรคไขเ้ ลือดออกไดใ้ นระดบั ดี 1.4.2 เป้าหมายเชิงปริมาณ - อสม. และตวั แทนครัวเรือนหมู่ที่ 10 ตาบลชะอวด อาเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช เขา้ ร่วมโครงการร้อยละ 70 - คา่ ดชั นีลูกน้ายงุ ลายลดลงร้อยละ 10 1.5 ระยะเวลาดาเนินการ ต้งั แต่วนั ท่ี 8 เมษายน – 12 เมษายน 2563 1.6 ดชั นีตวั ชีว้ ดั ความสาเร็จ 1.6.1. ประชนชนเกิดความรู้ ความเขา้ ใจ ในการควบคุมป้องกนั โรคไขเ้ ลอื ดออกทถี่ กู วธิ ีและเหมาะสม 1.6.2. จานวนค่าดชั นีลูกน้ายงุ ลายในชุมชน (HI, CI) ปี 2563 ลดลง 1.6.3. ไดร้ บั ความร่วมมือจากประชาชนในการป้องกนั และทาลายแหล่งเพาะพนั ธุล์ ูกน้ายงุ ลายใน ครวั เรือน 1.7 ผู้รับผดิ ชอบโครงการ นางสาวอทสิ า อ่อนแกว้ นกั ศึกษาหลกั สูตรฉุกเฉินการแพทย์ รุ่นที่ 15 ช้นั ปี ท่ี 2 1.8 สถานทดี่ าเนินโครงการ หอประชุมหมู่ท่ี 10 ตาบลชะอวด อาเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช 1.9 ผลทค่ี าดว่าจะได้รับ 1.8.1 อตั ราป่ วยดว้ ยโรคไขเ้ ลือดออกของประชากรในชุมชนลดลง 1.8.2 ทาใหป้ ระชาชนในชุมชนมีความรู้ ความเขา้ ใจ เก่ียวกบั โรคไขเ้ ลือดออกและมีพฤติกรรมที่ถูกตอ้ ง เหมาะสม 1.8.3 ประชาชนใหค้ วามร่วมมือในการดาเนินการรณรงค์ ป้องกนั และควบคุมโรคไขเ้ ลือดออก

2. แผนการดาเนนิ งาน 2.1 วธิ ีการดาเนนิ งาน กระบวนการ กจิ กรรม เวลาดาเนินการ ผู้รับผิดชอบ การวางแผน (P) 1. ประชุมวางแผน กาหนดวัตถุประสงค์ 8 เมษายน 2563 น.ส.อทสิ า อ่อนแกว้ งบประมาณ ดัชนีช้ีวดั ความสาเร็จ พฒั นา นกั ศึกษาหลกั สูตรฉุกเฉิน โครงการฉบบั สมบูรณ์เพอื่ ขออนุมตั ิ การแพทย์ รุ่นท่ี 15 ช้นั ปี ที่ 2 2. เม่ือโครงการได้รับอนุมัติแล้วจึง ม อ บ ห ม า ย ห น้ า ท่ี รั บ ผิด ช อ บ ภ า ย ใ น ก ลุ่ ม พร้อมท้งั ประสานผูท้ ่ีเกี่ยวขอ้ งประสานงาน ชุมชน จดั เตรียมวสั ดุ อุปกรณ์ทต่ี อ้ งใช้ การปฏบิ ตั ิ 1.จดั โครงการตามกาหนดการ 9 เมษายน 2563 น.ส.อทสิ า อ่อนแกว้ (D) 1.1 วันจัดกิจกรรม นกั ศึกษาหลกั สูตรฉุกเฉิน 1.1.1 ทาแบบทดสอบก่อนใหค้ วามรู้ การแพทย์ รุ่นที่ 15 ช้นั ปี ท่ี 2 1.1.2 การบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับโรค ไ ข้เ ลื อ ด อ อ ก แ ล ะ วิธี ก า ร ป้ อ ง กัน โ ร ค ไขเ้ ลือดออกตามหลกั 5 ป 1 ข 1.1.3 กิจกรรมตอบคาถามเก่ียวกับความรู้โรค ไขเ้ ลือดออก 1.1.4 จดั กิจกรรมกลุ่ม ( Focus Group) ระดมสมองภายในกลุ่ม 1.1.5 ทาแบบทดสอบหลงั ใหค้ วามรู้ 1.1.6 ทาแบบประเมินความพงึ พอใจ 1.2 วนั เดินรณรงค์ 1.2.1 ใหค้ วามรู้เรื่องโรคไขเ้ ลือดออก 1.2.2 เดินรณรงคป์ ้องกนั โรคไขเ้ ลือดออก 1.2.3 แจกแผน่ พบั และทรายTemephos การประเมินผล ประเมินผลตามวตั ถุประสงคด์ ว้ ย 9 เมษายน 2563 น.ส.อทสิ า อ่อนแกว้ (C) 1. แบบลงทะเบยี นเขา้ ร่วมโครงการ นกั ศกึ ษาหลกั สูตรฉุกเฉิน

กระบวนการ กจิ กรรม เวลาดาเนินการ ผู้รับผดิ ชอบ 9 เมษายน 2563 การแพทย์ รุ่นที่ 15 ช้นั ปี ที่ 2 2. ประเมินความรูก้ ่อน-หลงั ใหค้ วามรู้ น.ส.อทสิ า อ่อนแกว้ 3. สงั เกตการมีส่วนร่วมของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ นกั ศึกษาหลกั สูตรฉุกเฉิน การแพทย์ รุ่นที่ 15 ช้นั ปี ที่ 2 ก า ร ป รั บ ป รุ ง 1.ประชุมผจู้ ดั ทาโครงการเพอื่ สรุปผลการ หรื อนาผลการ ดาเนินงานและเสนอแนะแนวทางเพอ่ื ประเมิน ไปใช้ ปรบั ปรุงพฒั นา ประโยชน์ (A) 2.2 ผลการดาเนนิ งาน 2.2.1 การดาเนินงานในข้นั ตอนการวางแผน (P) - ประสานงานกบั แกนนา อสม.หมู่10 ตาบลชะอวด อาเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช นางสาวอทสิ า อ่อนแกว้ หลกั สูตรฉุกเฉินการแพทย์ ช้นั ปี ที่ 2 ประสานงานกบั แกนนาอสม. หมู่ 10 เพอ่ื จดั การทาประชาคมหาปัญหาที่ตอ้ งแกไ้ ขเพอื่ จดั ทาโครงการ -ประชุมวางแผนกาหนดการดาเนินงานและเขียนโครงการเพอื่ ขออนุมตั ิ นางสาวอทิสา อ่อนแกว้ หลกั สูตรฉุกเฉินการแพทยจ์ ดั ประชุมกนั กบั แกนนาอสม.หมู่ 10 เพอ่ื สอบถามปัญหาตา่ งๆท่ีเกิดข้ึนในชุมชน และไดม้ ีการประชุมกนั ภายในกลุ่มเพอื่ วางแผนการดาเนินงาน กาหนด วตั ถุประสงค์ วางแผนการใช้งบประมาณ หน้าท่ีรับผิดชอบ เพ่ือให้การดาเนินงานโครงการเป็ นไปอย่างมี ประสิทธิภาพ -ติดตอ่ ประสานงาน กบั ผทู้ ่เี กี่ยวขอ้ งในชุมชน นางสาวอทิสา อ่อนแก้ว หลักสูตรฉุกเฉินการแพทย์ ได้ติดต่อจัดการขอสถานท่ีในการทา กิจกรรม เพอ่ื ใหก้ ารดาเนินงานโครงการเป็ นไปอยา่ งมีประสิทธิภาพ - ตดิ ต่อขอใชส้ ถานท่ี 2.2.2. การดาเนินงานในข้นั ตอนการปฏิบตั ิ (D) - เสนอร่างโครงการ และปรับแกไ้ ข โครงการรณรงค์ ป้องกนั และควบคุมโรคไขเ้ ลือดออก หมู่ ท่ี 10 ตาบลชะอวด อาเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช - จดั เตรียมเอกสารในการทาโครงการ - จดั เตรียมสถานที่ในการจดั ทาโครงการรณรงค์ ป้องกนั และควบคุมโรคไขเ้ ลือดออก หมู่ที่ 10 ตาบลชะอวด อาเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช

- ดาเนินงานกิจกรรมโครงการรณรงค์ ป้องกนั และควบคุมโรคไขเ้ ลือดออก หมู่ท่ี 10 ตาบลชะอวด อาเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช ดว้ ยการบรรยายใหค้ วามรู้เก่ียวกบั โรคไขเ้ ลือดออก นางสาวอทิสา อ่อนแกว้ หลกั สูตรฉุกเฉินการแพทย์ ไดเ้ ขา้ รับการอบรมให้ความรู้เก่ียวกบั การดูแล ตวั เองการรักษา อาการ และการป้องกนั เก่ียวกบั โรคไขเ้ ลือดออก - รณรงคใ์ หค้ วามรู้เรื่องโรคไขเ้ ลือดออก 2.3 จานวนผ้เู ข้าร่วมโครงการ อสม. และตวั แทนครัวเรือน หมู่ท่ี 10 ตาบลชะอวด อาเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราชจานวน 89 คน 2.4 สถานทดี่ าเนินการ หอ้ งประชุมประจาหมู่บา้ น หมู่ท่ี 10 ตาบลชะอวด อาเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช 2.5 งบประมาณ งบประมาณรายจ่ายประจาปี 2562 เงินอุดหนุนทวั่ ไป เงินอุดหนุนสาหรับการดาเนินงานตามโครงการ พระราชดาริด้านสาธารณสุข(สนับสนุนจาก อสม . หมู่ท่ี 10 ตาบลชะอวด อาเภอชะอวด จังหวัด นครศรีธรรมราช) จานวน 8,500 บาท (แปดพนั หา้ ร้อยบาทถว้ น) ใชจ้ า่ ยดงั น้ี 1.ค่าอาหารวา่ งและเครื่องดื่ม จานวน 120 คนๆละ 1 ม้ือๆ ละ 20 บาท เป็นเงิน 2,400 บาท 2.ค่าอาหารกลางวนั จานวน 120 คนๆละ 1 ม้ือๆ ละ 25 บาท เป็นเงนิ 3,000 บาท 3.คา่ สมนาคุณวทิ ยากร จานวน 2 ชวั่ โมงๆละ 300 บาท เป็นเงนิ 600 บาท 4.ค่าป้ายไวนิลโครงการ เป็นเงนิ 200 บาท 5.คา่ วสั ดุทีใ่ ชใ้ นโครงการ เป็นเงิน 300 บาท รวมเป็ นเงนิ 6,500 บาท (แปดพนั ห้าบาทถ้วน) หมายเหตุ : ทกุ รายการสามารถถวั เฉลี่ยได้ 3.เครื่องมือและวธิ ีการในการประเมนิ ผล หลงั จากท่ีไดด้ าเนินงานตามแผนของโครงการแลว้ น้ัน ซ่ึงในข้นั ตอนสุดทา้ ยจะเป็ นกิจกรรมในการ ประเมินผลโครงการ หากพิจารณาถึงความสัมพนั ธ์ระหว่างการวางแผนกบั การประเมินผลโครงการ พบว่า กิจกรรมท้งั สองมีความสมั พนั ธท์ ี่ตอ้ งดาเนินการควบคู่กนั โดยการวางแผนโครงการเป็ นกิจกรรมของการกาหนด แนวทางการนาไปปฏิบตั ิเพือ่ การบรรลุวตั ถุประสงค์ ส่วนการประเมินผลโครงการเป็ นกิจกรรมสุดทา้ ยในการ พจิ ารณาผลการดาเนินงานเป็นไปตามแผนทกี่ าหนดหรือไม่

3.1 เคร่ืองมือทใี่ ช้ในการเกบ็ ข้อมลู 3.1.1 แบบทดสอบความรู้ ทศั นคติและพฤตกิ รรม ก่อน-หลงั ใหค้ วามรู้ เครื่องมือท่ีใชใ้ นการเก็บรวบรวมขอ้ มูลเพื่อการประเมินในคร้ังน้ี เป็ นแบบสอบถามท่ีผูร้ ับผิดชอบ โครงการไดส้ ร้างข้ึนใหส้ อดคลอ้ งกบั วตั ถุประสงค์ และตวั ช้ีวดั ของโครงการ ซ่ึงมีรายละเอียดดงั น้ี ส่วนท่ี 1 ขอ้ มูลพ้นื ฐานส่วนบุคคล ไดแ้ ก่ เพศ อายุ ระดบั การศกึ ษา อาชีพ ส่วนท่ี 2 ความรู้เร่ืองไขเ้ ลือดออก แบบสอบถามเป็นแบบเลือกคาตอบเพยี งคาตอบเดียว คือ ถูก หรือ ผดิ จานวน 10 ขอ้ กาหนดเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดงั น้ี ตอบถูก ไดค้ ะแนนเทา่ กบั 1 คะแนน ตอบผดิ ไดค้ ะแนนเทา่ กบั 0 คะแนน ส่วนท่ี 3 ทศั นคตติ อ่ การป้องกนั และควบคุมโรคไขเ้ ลือดออกแบบสอบถามเป็นแบบเลือกคาตอบ เพยี งคาตอบเดียว คือ เห็นดว้ ยอยา่ งยง่ิ เห็นดว้ ย ไม่แน่ใจ ไม่เห็นดว้ ย ไม่เห็นดว้ ยอยา่ งยง่ิ ขอ้ คาถามมีท้งั ดา้ นบวก และดา้ นลบจานวน 10 ขอ้ กาหนดเกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ดงั น้ี คาถามเชิงบวก คาถามเชิงลบ เห็นดว้ ยอยา่ งยงิ่ ได้ 5 คะแนน ได้ 1 คะแนน เห็นดว้ ย ได้ 4 คะแนน ได้ 2 คะแนน ไม่แน่ใจ ได้ 3 คะแนน ได้ 3 คะแนน ไม่เห็นดว้ ย ได้ 2 คะแนน ได้ 4 คะแนน ไม่เห็นดว้ ยอยา่ งยงิ่ ได้ 1 คะแนน ได้ 5 คะแนน ส่วนที่ 4 พฤติกรรมการปฏิบตั ิตวั ป้องกันโรคไขเ้ ลือดออกแบบสอบถามเป็ นแบบเลือกตอบเพียง คาตอบเดียว คือ ปฏิบตั ิเป็ นประจา 7 วนั /สัปดาห์ ปฏิบตั ิบ่อยคร้ัง 5-6 วนั /สปั ดาห์ ปฏิบตั ินานๆ คร้ัง 3-4 วนั / สปั ดาห์ ปฏบิ ตั บิ างคร้ัง 1-2 วนั /สปั ดาห์ ไม่ไดป้ ฏิบตั เิ ลย ขอ้ คาถามเชิงบวก จานวน 10 ขอ้ กาหนดเกณฑก์ ารให้ คะแนน ดงั น้ี ปฏิบตั ิเป็นประจา(7 วนั /สปั ดาห)์ ได้ 5 คะแนน ปฏิบตั บิ อ่ ยคร้งั (5-6 วนั /สปั ดาห์) ได้ 4 คะแนน ปฏิบตั นิ านๆ คร้ัง (3-4 วนั /สปั ดาห)์ ได้ 3 คะแนน ปฏิบตั บิ างคร้งั (1-2 วนั /สปั ดาห)์ ได้ 2 คะแนน ไม่ไดป้ ฏบิ ตั ิเลย ได้ 1 คะแนน 3.1.2 แบบประเมินความพงึ พอใจการเขา้ ร่วมโครงการ โดยเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนความพงึ พอใจ ดงั น้ี

ระดบั ความพงึ พอใจมากทีส่ ุด 5 คะแนน ระดบั ความพงึ พอใจมาก 4 คะแนน ระดบั ความพงึ พอใจปานกลาง 3 คะแนน ระดบั ความพงึ พอใจนอ้ ย 2 คะแนน ระดบั ความพงึ พอใจนอ้ ยทส่ี ุด 1 คะแนน 3.2 วธิ ีการเกบ็ รวบรวมข้อมลู 3.4.1 ประเมินโดยการใหท้ าแบบทดสอบก่อนให้ความรู้ ทศั นคติ และพฤตกิ รรม จดั ทาแบบบนั ทึกการ สารวจ เป็นสมุดบนั ทกึ การสารวจและกาจดั ลูกน้า โดยมีรายละเอียดการจดบนั ทึก ดงั น้ี 3.4.1.1 ชนิดภาชนะ 3.4.1.2 จานวนภาชนะ 3.4.1.3 ภาชนะที่พบลูกน้า 3.4.1.4 การคานวณค่า CI (Container index) 3.4.2 นาสมุดบนั ทกึ การสารวจและกาจดั ลูกน้าใหผ้ เู้ ขา้ ร่วมโครงการบนั ทึก ณ วนั ทาโครงการ 3.4.3 ใหท้ าแบบทดสอบหลงั ใหค้ วามรู้ ทศั นคติ และพฤติกรรม จดั เก็บสมุดบนั ทึกการสารวจคืนจาก ผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ นามาประเมินผล 3.4.4 หลงั จดั ทาโครงการ 7 วนั ทางผจู้ ดั ทาโครงการลงพ้นื ท่ีที่จดั ทาโครงการอีกคร้ังโดยทาแบบบนั ทึก การสารวจและกาจดั ลูกน้า นาผลการสารวจคร้ังที่ 1 จากการสารวจของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ กบั คร้ังท่ี 2 จากการลง สารวจเองของทางผจู้ ดั ทาโครงการ นามาเปรียบเทยี บและประเมินผล 3.4.5 สรุปผลจากแบบทดสอบก่อนและหลังใหค้ วามรู้ ทศั นคติ และพฤติกรรม จากแบบบนั ทึกการ สารวจและกาจดั ลูกน้าคร้ังที่ 1 และคร้ังท่ี 2 3.3 การวเิ คราะห์ข้อมูล การวเิ คราะห์ขอ้ มูลดงั รายละเอียดตอ่ ไปน้ี 1. การวเิ คราะห์ขอ้ มูลส่วนบุคคล ใชส้ ถิติการแจกแจงความถ่ี ( Frequency ) และรอ้ ยละ( Percentage ) 2. การประเมินความพงึ พอใจ การประเมินความรู้ ใชส้ ถิติค่าเฉล่ีย ( Ẋ ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( S.D.) 3.4 เกณฑ์ที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล 3.4.1 แบบทดสอบความรู้ ทศั นคติ และพฤตกิ รรม ก่อน-หลงั ใหค้ วามรู้

3.4.1.1 การแปลผลคะแนน สาหรับเกณฑก์ ารประเมินระดบั ความรู้เกี่ยวกบั เร่ืองไขเ้ ลือดออก แบง่ ออกเป็น 3 ระดบั โดยใชว้ ิธีการกาหนดเกณฑต์ ามช่วงคะแนนตามหลกั วิธีคิดของบลูม Bloom (1964อา้ งถึง ใน สมนึก แกว้ วไิ ล, 2552) ซ่ึงมีระดบั คะแนน ดงั น้ี ระดบั ความรู้ รอ้ ยละ (ของคะแนนเตม็ ) ระดบั ดี 80.00 ข้นึ ไป (8-10ขอ้ ) ระดบั ปานกลาง 50.00 - 79.99 (5-7ขอ้ ) ระดบั ควรปรับปรุง 1.00 - 49.99 (0-5ขอ้ ) 3.4.1.2 การแปลผลคะแนนสาหรับเกณฑก์ ารประเมินทศั นคติเกี่ยวกบั การป้องกนั และควบคุม โรคไขเ้ ลือดออกโดยใชว้ ธิ ีการกาหนดเกณฑต์ ามช่วงคะแนนตามหลกั วธิ ีคิดของเบสท์ (Best, 1997 อ้างถึงใน กลุ ธิดา เหมาเพชร และคณะ, 2555) ดงั น้ี ระดบั ทศั นคติ คา่ ระดบั คะแนนเฉล่ีย ระดบั สูง 3.67 - 5.00 ระดบั ปานกลาง 2.34 - 3.66 ระดบั ต่า 1.00 - 2.33 3.4.1.3 การแปลผลคะแนนสาหรบั เกณฑบ์ ง่ ช้ีพฤติกรรมการออกกาลงั กาย โดยใชว้ ธิ ีการกาหนด เกณฑต์ ามช่วงคะแนนตามหลกั วธิ ีคิดของเบสท์ (Best, 1997 อา้ งถึงในกุลธิดา เหมาเพชร และคณะ, 2555) ดงั น้ี ระดบั พฤติกรรม คา่ ระดบั คะแนนเฉล่ีย ระดบั สูง 3.67 - 5.00 ระดบั ปานกลาง 2.34 - 3.66 ระดบั ต่า 1.00 - 2.33 3.4.2 แบบประเมินความพงึ พอใจการเขา้ ร่วมโครงการ โดยเกณฑก์ ารใหค้ ะแนนความพงึ พอใจ ดงั น้ี คะแนนเฉล่ียสูงกวา่ 4.50 มีความพงึ พอใจในระดบั มากที่สุด คะแนนเฉลี่ยระหวา่ ง 3.50 – 4.49 มีความพงึ พอใจในระดบั มาก คะแนนเฉลี่ยระหวา่ ง 2.50 – 3.49 มีความพงึ พอใจในระดบั ปานกลาง คะแนนเฉล่ียระหวา่ ง 1.50 – 2.49 มีความพงึ พอใจในระดบั นอ้ ย คะแนนเฉล่ียต่ากวา่ 1.50 มีความพงึ พอใจในระดบั นอ้ ยที่สุด

4.ผลการประเมนิ การดาเนินโครงการ 4.1 ข้อมูลท่ัวไปของผู้ตอบแบบประเมนิ ผเู้ ขา้ ร่วมโครงการมี 89 คน จากจานวนท้งั หมด 120 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 74.17 ซ่ึงขอ้ มูลทวั่ ไปในเรื่อง เพศ อายรุ ะดบั การศกึ ษา อาชีพ สถานภาพ มีขอ้ มูลดงั ตารางต่อไปน้ี ตารางที่ 4.1.1 เพศของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ เพศ จานวน ร้อยละ หญงิ 82 92.10 ชาย 7 7.90 รวม 89 100 จากตารางแสดงขอ้ มูลเพศของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ พบวา่ เพศหญงิ มีจานวน 82 คน คิดเป็นร้อยละ92.10 และเพศชายมีจานวน 7 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 7.90 ตารางที่ 4.1.2 อายขุ องผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ อายุ จานวน ร้อยละ ต่ากวา่ 20 ปี 4 4.49 20-30 8 8.99 31-40 12 13.48 41-50 30 33.71 51 ปี ข้ึนไป 35 39.33 รวม 89 100 จากตารางแสดงขอ้ มูลอายขุ องผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ พบวา่ อายุ 51 ปี ข้นึ ไป มีจานวน 35 คน คิดเป็ นร้อยละ 39.33 อายุ 41-50 ปี มีจานวน 30 คน คิดเป็ นร้อยละ 33.71 อายุ 31-40 ปี มีจานวน 12 คน คิดเป็ นร้อยละ 13.48 อายุ 20-30 ปี มีจานวน 8 คน คิดเป็ นร้อยละ 8.99 และอายุต่ากว่า 20 ปี มีจานวน 4 คน คิดเป็ นร้อยละ 4.49 ตามลาดบั ตารางที่ 4.1.3 ระดบั การศึกษาของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ ระดบั การศกึ ษา จานวน ร้อยละ ประถมศกึ ษา 46 51.69 มธั ยมศึกษา 27 30.34 อนุปริญญา 5 5.62 ปริญญาตรี 11 12.36 อื่น ๆ 0 0

รวม 89 100 จากตารางแสดงขอ้ มูลระดบั การศึกษาของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ พบว่า ระดบั ประถมศึกษา มีจานวน 46 คน คิดเป็นร้อยละ 51.69 ระดบั มธั ยมศกึ ษา มีจานวน 27 คน คดิ เป็นร้อยละ 30.34 ระดบั ปริญญาตรีมีจานวน 11 คน คดิ เป็นร้อยละ 12.36 ระดบั อนุปริญญา มีจานวน 5 คน คดิ เป็นร้อยละ 5.62 และ ระดบั อ่ืน ๆ มีจานวน 0 คน คิดเป็นร้อยละ 0 ตามลาดบั ตารางที่ 4.1.4 อาชีพของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ อาชีพ จานวน ร้อยละ นกั เรียน/นกั ศกึ ษา 5 5.62 ขา้ ราชการ 9 10.11 เกษตรกรรม 48 53.93 คา้ ขาย/ธุรกิจ 11 12.36 รบั จา้ งทวั่ ไป/ลูกจา้ ง 2 2.25 ไม่ไดป้ ระกอบอาชีพ/ทางานบา้ น 14 15.73 อ่ืน ๆ 0 0 รวม 89 100 จากตารางแสดงขอ้ มูลอาชีพของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ พบวา่ อาชีพเกษตรกรรม มีจานวน 48 คน คิดเป็ น ร้อยละ 53.93 ไม่ไดป้ ระกอบอาชีพ/ทางานบา้ น มีจานวน 14 คน คิดเป็ นร้อยละ 15.73 อาชีพคา้ ขาย/ธุรกิจ มี จานวน 11 คน คิดเป็ นร้อยละ 12.36 อาชีพขา้ ราชการ มีจานวน 9 คน คิดเป็ นร้อยละ 10.11 อาชีพนักเรียน/ นกั ศึกษา มีจานวน 5 คน คิดเป็ นร้อยละ 5.62 อาชีพรับจา้ งทว่ั ไป/ลูกจา้ ง มีจานวน 2 คน คิดเป็ นร้อยละ 2.25 อาชีพอื่น ๆ มีจานวน 0 คน คิดเป็นร้อยละ 0 ตามลาดบั 4.2 ผลการทดสอบความรู้จากการเข้าร่วมโครงการ ตารางท่ี 4.2.1 ผลการทดสอบความรู้จากการเข้าร่วมโครงการ รายการ สูงสุด ต่าสุด เฉลย่ี ผ่านเกณฑ์ ไม่ผ่านเกณฑ์ จานวน ร้อยละ จานวน ร้อยละ ก่อนเขา้ อบรม 6 2 0.04 -- -- ผลการทดสอบ - - - 45 50.56 44 49.44

หลงั เขา้ อบรม 10 8 0.02 - - - - ผลการทดสอบ - - - 73 82.02 16 17.98 จากตารางที่ 4.2.1 พบวา่ แกนนาอสม.ท่ีเขา้ ร่วมโครงการมีคะแนนทดสอบความรู้ก่อนเขา้ รับ การบรรยายเก่ียวกบั โรคไขเ้ ลือดออก ไดค้ ะแนนสูงสุด 6 คะแนน คะแนนต่าสุด 2 คะแนน และมีคะแนนเฉลี่ย 0.04 คะแนน มีจานวนผผู้ า่ นเกณฑจ์ านวน 45 คน คิดเป็ นร้อยละ 50.56 มีจานวนผูไ้ ม่ผา่ นเกณฑจ์ านวน 44 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 49.44 และหลงั จากการเขา้ รับการบรรยายเกี่ยวกบั โรคไขเ้ ลือดออก มีผทู้ ดสอบความรู้ไดค้ ะแนน สูงสุด 10 คะแนน คะแนนต่าสุด 8 คะแนน และมีคะแนนเฉลี่ย 0.02 คะแนน มีจานวนผูผ้ า่ นเกณฑจ์ านวน 73 คน คดิ เป็นร้อยละ 82.02 ซ่ึงผา่ นตามตวั ช้ีวดั ในหวั ขอ้ จุดประสงคม์ ีผเู้ ขา้ ร่วมโครงการรอ้ ยละ 80 มีความรู้เกี่ยวกบั การ ควบคุมป้องกนั โรคไขเ้ ลือดออกในระดบั ดี ตารางท่ี 4.2.2 คะแนนการทดสอบประเมนิ ความรู้ก่อนเข้าร่วมโครงการอย่างละเอยี ด คะแนน จานวน ( คน ) ร้อยละ 2 4 4.49 3 16 17.98 4 24 26.97 5 27 30.34 6 18 20.22 รวม 89 100 จากตารางท่ี 4.2.2 พบว่าคะแนนทดสอบการประเมินความรู้ก่อนเขา้ ร่วมโครงการ มีคะแนน สูงสุด 6 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 20.22 และคะแนนต่าสุด 2 คะแนน คดิ เป็นร้อยละ 4.49 ตารางที่ 4.2.3 คะแนนการทดสอบประเมนิ ความรู้หลงั เข้าร่วมโครงการอย่างละเอียด คะแนน จานวน ( คน ) ร้อยละ 8 27 30.34 9 41 46.07 10 21 23.60 รวม 89 100 จากตารางท่ี 4 พบวา่ คะแนนทดสอบการประเมินความรู้หลงั เขา้ ร่วมโครงการ มีคะแนนสูงสุด

10 คะแนน คดิ เป็นรอ้ ยละ 23.60 และคะแนนต่าสุด 8 คะแนน คิดเป็นรอ้ ยละ 30.34 4.3 ผลการทาแบบประเมินความพึงพอใจ ระดบั ความพงึ พอใจ ตารางท่ี 4.3.1 ค่าเฉล่ยี ของความพงึ พอใจต่อโครงการภาพรวม x S.D แปลผล ลาดับท่ี ประเด็น 4.673 0.193 มากท่สี ุด 4.786 0.173 มากทส่ี ุด 1. ความพงึ พอใจดา้ นกระบวนการ ข้นั ตอนการจดั กิจกรรม 4.678 0.219 มากทีส่ ุด 2. ความพงึ พอใจดา้ นวทิ ยากร 4.743 0.183 มากทส่ี ุด 3. ความพงึ พอใจดา้ นส่ิงอานวยความสะดวก 4. ความพงึ พอใจดา้ นคุณภาพการจดั กิจกรรม จากตารางที่ 4.3.1 คา่ เฉลี่ยของความพงึ พอใจต่อโครงการภาพรวม พบวา่ มีความพงึ พอใจดา้ นคุณภาพ การใหบ้ ริการมากทส่ี ุด( x = 4.833 ) รองลงมา ความพึงพอใจดา้ นเจา้ หนา้ ที่ผใู้ ห้บริการ ( x = 4.786 ) และความพงึ พอใจ ดา้ นกระบวนการ / ข้นั ตอนการดาเนินโครง การ ( x = 4.673 ) นอ้ ยที่สุด ตารางท่ี 4.3.2 ค่าเฉล่ยี ของผลประเมนิ ความพงึ พอใจของผู้เข้าร่วมโครงการ รายละเอียด ระดบั ความพงึ พอใจ x S.D แปลผล 1. ความพึงพอใจด้านกระบวนการ ข้นั ตอนการจดั กจิ กรรม 1.1. รูปแบบกิจกรรมการจดั กิจกรรม 4.55 0.52 สูง 1.2 ลาดบั ข้นั ตอนในการจดั กิจกรรม 2.23 1.22 สูง 1.3 ระยะเวลาทใี่ ชใ้ นการจดั กิจกรรม 4.41 0.57 สูง 1.4 เอกสารและสื่อประกอบในการจดั กิจกรรม 2.23 1.22 ต่า 1.5 ความเหมาะสมของการจดั กิจกรรม 4.50 0.55 สูง 2. ความพึงพอใจด้านวิทยากร 2.1 การถ่ายทอดความรู้ของวทิ ยากรมีความชดั เจน 4.56 0.59 สูง 2.2 การตอบขอ้ ซกั ถามในการจดั กิจกรรม 4.45 0.54 สูง 3. ความพงึ พอใจด้านสิ่งอานวยความสะดวก 3.1 สถานท่จี ดั กิจกรรม 4.43 0.61 สูง

3.2 มีการใชเ้ ทคโนโลยอี ยา่ งเหมาะสม 2.11 1.09 ต่า 4. ความพงึ พอใจด้านคุณภาพการจดั กิจกรรม สูง สูง 4.1 ทา่ นไดร้ บั ประโยชนจ์ ากการเขา้ ร่วมกิจกรรมอยา่ งคุม้ คา่ 4.29 0.72 สูง 4.2 ทา่ นสามารถนาความรู้ท่ไี ดร้ บั ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ น 4.29 0.65 ชีวติ ประจาวนั ผลรวม 3.84 0.34 4.4 สรุปผลการดาเนนิ งานโครงการ โครงการรณรงค์ ป้องกนั และควบคุมโรคไขเ้ ลือดออก หมู่10 ตาบลชะอวด อาเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราชมีวตั ถุประสงคเ์ พื่อให้เกิดความรู้ ความเขา้ ใจ ในการควบคุมป้องกนั โรคไขเ้ ลือดออกที่ถูกวิธี และเหมาะสม เพอ่ื ลดคา่ ดชั นีลูกน้ายงุ ลายในชุมชน (HI,CI) และเพอื่ ใหป้ ระชาชนมีส่วนร่วมในการป้องกนั และ ทาลายแหล่งเพาะพนั ธุล์ ูกน้ายงุ ลายในครวั เรือน เป้าหมายเชิงคุณภาพ คือประชาชนมีความรู้ ความเขา้ ใจ ในการ ควบคุมป้องกนั โรคไขเ้ ลือดออกไดใ้ นระดบั ดี และเป้าหมายเชิงปริมาณ คือ อสม. และตวั แทนครัวเรือน หมู่ที่ 10 ตาบลชะอวด อาเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช เขา้ ร่วมโครงการร้อยละ 70 และมีค่าดชั นีลูกน้ายุงลาย (HI,CI) ลดลงร้อยละ 10 รบั ผดิ ชอบโครงการโดยนางาสาวอทิสา อ่อน หลกั สูตรฉุกเฉินการแพทย์ ช้นั ปี ที่ 2 รุ่นท่ี 15 โครงการน้ีได้ดาเนินโครงการท่ีหมู่ที่ 10 ตาบลชะอวด อาเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช ต้งั แต่วนั ท่ี 8 เมษายน – 12 เมษายน 2563 ข้นั ตอนการดาเนินงานที่สาคญั คือ วนั จดั กิจกรรม ให้ผูเ้ ขา้ ร่วม โครงการทาแบบทดสอบก่อนและหลงั ให้ความรู้ มีการบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกบั โรคไขเ้ ลือดออกและวธิ ีการ ป้องกนั โรคไขเ้ ลือดออกตามหลกั 5 ป 1 ข รวมท้งั ทากิจกรรมกลุ่ม ( Focus Group) เพื่อระดมสมอง และทาแบบ ประเมินความพงึ พอใจ ส่วนวนั เดินรณรงค์ มีให้ความรู้เร่ืองการป้องกนั โรคไขเ้ ลือดออก พร้อมท้งั แจกแผน่ พบั และทราย Temephos จากการสารวจขอ้ มูลครัวเรือนหมู่ที่ 10 ตาบลชะอวด อาเภอชะอวด จงั หวดั นครศรีธรรมราช เดือนเมษายน 2563 มีจานวนครัวเรือนท้งั ส้ิน 185 ครัวเรือน ซ่ึงจากการสารวจครัวเรือน พบว่า มีลูกน้ายงุ ลาย จานวน 10 ครัวเรือน มีภาชนะ 999 ใบ ซ่ึงจากการสารวจภาชนะ พบลูกน้ายงุ ลายในภาชนะ 22 ใบ โดยมีค่าร้อย ละของบา้ นสารวจท่ีพบลูกน้ายงุ ลาย(House Index) คิดเป็ นร้อยละ 5.40 และมีค่าร้อยละของภาชนะสารวจที่พบ ลูกน้ายงุ ลาย (Container Index) คดิ เป็นร้อยละ 2.2 ซ่ึงเกินจากเกณฑท์ ี่กระทรวงสาธารณสุขกาหนดไว้ (HI<10 %, CI = 0 %) หลงั จากดาเนินโครงการไดท้ าการสารวจครัวเรือน เดือนเมษายน 2563 จานวนครัวเรือนท้งั ส้ิน 185

ครัวเรือน พบวา่ มีลูกน้ายงุ ลาย จานวน 6 ครัวเรือน มีภาชนะท้งั สิ้น 999 ใบ ซ่ึงจากการสารวจภาชนะ พบลูกน้า ยงุ ลายในภาชนะ 10 ใบ โดยมีค่าร้อยละของบา้ นสารวจที่พบลูกน้ายงุ ลาย (House Index) คิดเป็ นร้อยละ 3.14 และมีคา่ ร้อยละของภาชนะสารวจที่พบลูกน้ายงุ ลาย (Container Index) คดิ เป็นร้อยละ 1.04 ดงั น้นั จะเห็นไดว้ ่าค่า ดชั นีลูกน้ายงุ ลาย (HI,CI) มีคา่ ลดลง สรุปจากการทาโครงการรณรงค์ ป้องกนั และควบคุมโรคไขเ้ ลือดออกในคร้ังน้ี พบวา่ หลงั จากที่ กลุ่มเป้าหมายทเ่ี ขา้ ร่วมรับฟังการใหค้ วามรูเ้ ร่ืองการป้องกนั โรคไขเ้ ลือดออก กลุ่มเป้าหมายมีความรู้ความเขา้ ใจ และรู้จกั เลือกใชว้ ธิ ีการป้องกนั ตนเองและครอบครวั ใหห้ ่างไกลจากโรคไขเ้ ลือดออก โดยอาศยั หลกั 5 ป 1 ข และ วธิ ีการป้องกนั ตนเองแบบอื่นร่วมดว้ ย ทาใหอ้ ตั ราป่ วยและคา่ ดชั นีลูกน้ายงุ ลายของชาวบา้ นหมู่ 10 ลดลง 4.5 ประโยชน์จากการทาโครงการ - ทาใหเ้ กิดการพฒั นาความคิดและไดฝ้ ึกทกั ษะการวางแผนอยา่ งเป็ นระบบและการกาหนด รูปแบบ ตา่ งๆใหส้ อดคลอ้ งกนั - ทาใหไ้ ดเ้ รียนรู้เก่ียวกบั การทางาน ประสานงาน และตดิ ต่อกบั หน่วยงานตา่ ง ๆ พรอ้ มท้งั มี การวางแผน การทางานอยา่ งมีระบบ - ไดฝ้ ึกทกั ษะการทางานร่วมกบั คนในชุมชน เพอ่ื ใชเ้ ป็ นแนวทางแก่การทางานในอนาคต - การรูจ้ กั รับฟังความคิดเห็นของผอู้ ่ืนรวมไปถึงการประสานงานหรือการตดิ ตอ่ กบั หน่วยงานตา่ งๆ - ทาใหร้ ู้จกั การแกป้ ัญหาเฉพาะหนา้ เมื่อเจอเหตุการณ์ที่ไม่ไดเ้ ป็ นไปตามแผนทีก่ าหนดไว้ 4.6 ปัญหาและอปุ สรรค - การดาเนินโครงการไม่เป็นไปตามระยะเวลาทกี่ าหนด - ผสู้ ูงอายมุ ีเวลาจากดั ทาใหต้ อ้ งเร่งการจดั กิจกรรม - นกั ศกึ ษาผบู้ รรยายใหค้ วามรู้มีความตื่นเตน้ พดู เร็ว จงึ ทาใหผ้ ูส้ ูงอายฟุ ังไม่ทนั - เนื่องจากกลุม่ เป้าหมายมีจานวนมาก นกั ศกึ ษาผบู้ รรยายจึงไม่สามารถตอบขอ้ ซกั ถามไดอ้ ยา่ งทว่ั ถึง 4.7 ข้อเสนอแนะ 1. ควรมีความพร้อมในการดาเนินโครงการ 2. การทากิจกรรมควรใชร้ ะยะเวลาใหส้ ้นั กระชบั 3. ควรใหผ้ เู้ ขา้ ร่วมโครงการมีส่วนร่วมมากข้ึน เช่น การถาม-ตอบ เป็นตน้ 4. สื่อท่ีใชค้ วรเนน้ ที่รูปภาพมากกวา่ ตวั หนงั สือ รวมถึงควรใชต้ วั อกั ษรท่ีเห็นชดั เจน 5. ปรับการพดู ใหช้ า้ ลง

5.แนวทางการพฒั นางาน 5.1 แนวทางการพฒั นางาน จากการจดั ประชุมกลุ่มเพอ่ื พจิ ารณาหาขอ้ ผดิ พลาด ปัญหาและอุปสรรคของการทางานรวม ไปถึงขอ้ เสนอแนะจากผดู้ ูแลโครงการ ซ่ึงนามาสะทอ้ นถึงขอ้ ผดิ พลาดและสาเหตทุ ี่เกิดข้ึน และนามาพฒั นา ในการจดั โครงการหรือกิจกรรมอ่ืน ๆ ร่วมกบั ชุมชนต่อไป ปัญหา สาเหตุ แนวทางการแก้ไข การดาเนินโครงการที่ไม่ เวลาในการประสานงาน รวมไปถึง การดาเนินงานคร้ังต่อไป เป็นไปตามระยะเวลาที่กาหนด การบรรยายปรับแก้ล่าช้าและการไม่รู้ จะ ต้อ งมี กา รวางแผนแล ะ และการประชาสัมพนั ธ์ยงั ไม่ กาหนดการ ทาให้ระยะเวลาดาเนินงาน จดั สรรเวลาในการดาเนินงาน ทว่ั ถึง ไม่สัมพนั ธ์กบั ระยะเวลาที่กาหนด และ ให้เป็ นระบบไม่ยืดย้ือเกินไป การประชาสมั พนั ธไ์ ม่ทว่ั ถึง เ พื่ อ ใ ห้ ร ะ ย ะ เ ว ล า เ ห ม า ะ ส ม ตามทีก่ าหนด การพูดต้องมีความมั่นใจ เน่ืองจากขาดประสบการณ์ จึงทาให้ การดาเนินงานในคร้ังต่อไป ใบหน้าย้ิมและการใช้น้าเสียง การพูดติดขดั และสถานท่ีเป็ นลานกวา้ ง จะมีการวางแผน การเตรียม ตอ้ งสม่าเสมอ จงึ ทาใหเ้ วลาพดู จะไม่ค่อยไดย้ นิ ค ว า ม พ ร้ อ ม ก่ อ น ก า ร ด า เ นิ น กิจกรรม นาเสนอวชิ าการสื่อทใี่ ชค้ วร เน่ืองจากขาดประสบการณ์ในการ นา ในการวางแผนจดั ทากิจกรรม เนน้ ทรี่ ูปภาพมากกวา่ ตวั หนงั สือ เสนองานในแหล่งชุมชน จึงมีการเน้นไป ค ร้ั ง ต่ อ ไ ป จ ะ ต้อ ง มี ก า ร ท่วี ชิ าการ คานึงถึง กลุ่มเป้าหมายและ ระดบั ความรู้ ความสนใจของ กลุ่มเป้าหมาย ท้งั น้ี ส่ือจะตอ้ ง มีเน้ือหาที่กระชับและส่ือ ให้ เขา้ ใจไดง้ า่ ย