Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้หน่วยที่1

แผนการจัดการเรียนรู้หน่วยที่1

Published by 5815712027, 2019-10-25 02:49:02

Description: แผนการจัดการเรียนรู้หน่วยที่1

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 กฎหมายเร่ืองนา่ รู้ เรือ่ ง กฎหมายนา่ รู้ รหสั วชิ า ส31101 รายวชิ า สงั คมศกึ ษา กลุ่มสาระการเรียนร้สู งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 18 ชัว่ โมง 1.มาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ชีว้ ดั มาตรฐาน ส 2.1 เขา้ ใจและปฏบิ ัติตนตามหนา้ ทขี่ องการเป็นพลเมืองดี มีค่านยิ มทดี่ ีงาม และธารง1 รักษาประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดารงชีวติ อย่รู ่วมกันในสงั คมไทยและสงั คมโลกอย่างสันติสุข ตวั ชว้ี ดั ส 2.1 ม.4-6/1 วิเคราะห์และปฏบิ ัติตนตามกฎหมายทีเ่ ก่ยี วข้องกบั ตนเอง ครอบครวั ชมุ ชน ประเทศชาติ และสังคมโลก 2.จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. อธบิ ายความหมาย ความสาคญั ของกฎหมายแพ่งและพาณิชย์กบั สิทธิ เสรีภาพ และหน้าท่ีของ ประชาชนได้ (K) 2. อธิบายความสาคัญของกฎหมายอาญา ความผิดและโทษทางอาญา รวมถึงลกั ษณะของการกระทา ความผิดทางอาญาได้ (K) 3. อธิบายเกีย่ วกบั บทกฎหมายอ่นื ทีมีความสาคญั กบั ชีวติ ประจาวันได้ (K) 4. วเิ คราะห์แนวทางการปฏิบัตติ นตามหลกั กฎหมายแพ่ง กฎหมายอาญา และกฎหมายอื่นทีม่ ี ความสาคญั ได้ (P) 5. ตระหนักและเหน็ คุณค่าของความสาคญั ของกฎหมายต่อการดาเนินชวี ติ ของพลเมือง (A) 3.สาระสาคญั กฎหมายเป็นบทบัญญัติของรัฐท่ีใช้ควบคุมสังคมให้สงบสุข ทุกคนต้องปฏิบัติตามกฎหมาย โดยรัฐมี บทลงโทษผไู้ ม่ปฏบิ ัตติ ามกฎหมายหรือฝา่ ฝนื กฎหมาย กฎหมายทกุ ฉบับจะต้องไม่ขดั แย้งกบั รฐั ธรรมนูญและรัฐ ต้องไม่ออกกฎหมายเพื่อรักษาผลประโยชน์ของกลุ่มบุคคล การท่ีบุคคลในสังคมปฏิบัติตามบทบัญญัติของ กฎหมายย่อมทาให้เกดิ ความสงบเรียบรอ้ ยภายในสังคม 4.สาระการเรียนรู้ 1. ความรเู้ บอ้ื งตน้ เกย่ี วกับกฎหมาย 2. กฎหมายแพง่ เกย่ี วกับตนเองและครอบครัว 3. กฎหมายแพ่งเกีย่ วกับนติ ิกรรม 4. กฎหมายอาญา 5. กฎหมายอนื่ ทมี่ คี วามสาคัญ

5.สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น  1. ความสามารถในการสือ่ สาร  2. ความสามารถในการคิด  3. ความสามารถในการแก้ปญั หา  4. ความสารมารถในการใช้ทักษะชีวิต  5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6.คุณลักษณะอันพึงประสงค์  1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์  2. ซือ่ สตั ยส์ ุจริต  3. มีวนิ ัย  4. ใฝ่เรียนรู้  5. อยูอ่ ย่างพอเพียง  6. มงุ่ ม่นั ในการทางาน  7. รกั ความเป็นไทย  8. มีจติ สาธารณะ 7.แนวความคิดเพอื่ การเรียนรูใ้ นศตวรรษที่ 21  1. สาระวชิ าหลกั (Core Subjects)  2. ทกั ษะด้านการเรยี นรแู้ ละนวตั กรรม  3. ทกั ษะด้านสารสนเทศ สื่อ และเทคโนโลยี  4. ทักษะดา้ นชีวิตและอาชีพ 8.การเรยี นรู้แบบวเี ออารเ์ ค (VARK Learning Style)  1. V=Visual รูปแบบการเรยี นรูท้ ส่ี ือ่ ดว้ ยภาพและสัญลกั ษณ์  2. A=Aural/Auditory รปู แบบการเรียนรู้ทส่ี ่ือดว้ ยเสยี ง  3. R=Read/Write รปู แบบการเรยี นรทู้ ่สี ื่อดว้ ยอักษร  4. K=Kinesthetic รูปแบบการเรยี นรู้ท่สี ่ือด้วยสัมผัสและการกระทา 9.กิจกรรมการเรยี นรู้ / กระบวนการเรยี นรู้ ชัว่ โมงที่ 1 แนะนาตวั และแนะนาแนวทางในการเรียน ข้นั ที่ 1 นาเข้าสู่บทเรยี น 1. ครูแนะนาตนเองและแนะนารายวิชาสังคมศึกษา สาระหน้าท่ีพลเมือง วัฒนธรรม และการดาเนิน ชีวิตในสงั คม พรอ้ มทั้งให้นกั เรยี นแนะนาตนเองตามลาดบั เลขที่ ขนั้ ท่ี 2 ข้ันสอน 2. ครชู ้ีแจงจดุ ประสงค์การเรียน จากนัน้ นกั เรียนและครูร่วมกันอภิปรายซักถามเพื่อทาความเข้าใจ 3. ครูแนะนาการเรียนการสอนในวิชานว้ี ่ามีหลายเทคนิคการสอนที่สามารถนามาบูรณาการเรยี น การ สอนได้ เช่น วิธีสอนโดยการบรรยาย การใช้ปัญหาเป็นฐาน การใช้กระบวนการกลุม่ การใช้กรณีตัวอย่าง การ แสดงบทบาทสมมุติ การใชเ้ กมเป็นส่อื เปน็ ต้น 4. ให้นักเรียนเข้าสู่ช้ันเรียนออนไลน์ใน Google Classroom พร้อมแนะนาตัวลงใน Google Classroom เพอ่ื นาไว้ใช้ในการส่งงาน สง่ ใบความรู้ พรอ้ มกับข่าวสารตา่ งๆ ขั้นที่ 3 ขัน้ สรุป 5. ให้นกั เรียนทาแบบทดสอบกอ่ นเรียนจานวน 20 ขอ้ จากนนั้ ใหส้ ง่ ครเู พอ่ื ตรวจและบนั ทกึ คะแนนไว้

ช่ัวโมงท่ี 2 ความรเู้ บอื้ งตน้ เกย่ี วกับกฎหมาย (เทคนคิ การสอน : การจดั การเรียนรู้โดยการบรรยาย) ขัน้ ที่ 1 นาเขา้ สูบ่ ทเรียน 1. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายความคิดเห็นเกี่ยวกับวิดิโอข่าวท่ีกาหนดให้ ผ่าน Google Classroom กรณีศกึ ษา : มนุษย์ป้าเกบ็ ไอโฟน 7 ได้ เรยี กคา่ ไถ่ 5 พันบาทจากเจา้ ของ | 07-04-61 | ขา่ วเช้าไทยรัฐ 2. นกั เรยี นตอบคาถามจากวิดโิ อข่าว ดงั น้ี - จากข่าวข้างต้นนักเรียนคิดว่าบุคคลในวิดิโอทาถูกกฎหมายหรือผิดกฎหมายหรือไม่ เพราะ อะไร 3. ครูอธบิ ายถึงความสาคญั ของการเรียนกฎหมาย วา่ มปี ระโยชน์ต่อการใช้ในชีวิตประจาวันอยา่ งไร ขั้นท่ี 2 ขน้ั สอน 4. จากน้ันนักเรียนและครูร่วมกันแลกเปล่ียนความรู้ ในเรื่องของแหล่งที่มา ความหมาย ความสาคัญ และลักษณะของกฎหมาย โดยใช้สื่อการสอน Power Point เรื่อง ความรู้เบ้ืองต้นเกี่ยวกับกฎหมาย และให้ นักเรียนศกึ ษาเพิ่มเตมิ ได้จาก Google Classroom และซกั ถามเพื่อกระตุ้นใหน้ ักเรยี นแสดงความคิดเหน็ ขั้นท่ี 3 ขน้ั สรปุ 5. นกั เรยี นรว่ มกันตอบคาถามตามทค่ี รูกาหนด ดังน้ี - นักเรียนคิดวา่ กฎหมายมีความสาคัญอย่างไรกบั การดาเนินชวี ิตของนักเรียน แนวการตอบ กฎหมายทาใหส้ ังคมมคี วามเป็นระเบยี บ ประชาชนมคี วามสขุ - นกั เรียนคิดวา่ กฎหมายมีจุดเรมิ่ ตน้ มาจากอะไร แนวการตอบ เกดิ จากประชาชนทมี่ ากขึน้ เทคโนโลยีกา้ วหน้ามากข้นึ ทาใหส้ ังคมเกดิ ความ ขัดแย้ง จารีต ประเพณี กฎศีลธรรมไม่สามารถควบคุมคนได้ - นกั เรียนคิดว่ากฎหมายมีลกั ษณะทส่ี าคัญอย่างไร แนวการตอบ เป็นขอ้ บังคบั ของรัฐ , มสี ภาพบงั คบั , ใช้กับทุกคนในประเทศ

ช่วั โมงที่ 3-5 การแบ่งประเภทของกฎหมาย (เทคนิคการสอน : การจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการกลุ่ม และกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5Es) ข้ันที่ 1 ข้ันสร้างความสนใจ (Engagement) 1. นกั เรียนตอบคาถามดงั ตอ่ ไปน้ี - กฎหมายใดเปน็ กฎหมายสงู สดุ ของประเทศ กาหนดสทิ ธิ เสรภี าพ และหนา้ ท่ี ของประชาชน แนวการตอบ กฎหมายรัฐธรรมนูญ - กฎหมายสามารถแบง่ ออกเปน็ ประเภทต่างๆ นกั เรยี นคิดวา่ สามารถแบง่ ได้ตามลักษณะ ใดบา้ ง แนวการตอบ แบง่ ตามลาดบั ศักดิ์ แบง่ ตามการใชห้ รือแบง่ ตามหน้าที่ แบ่งตามสภาพบังคบั แบ่งตามความสัมพนั ธข์ องคู่กรณี ขั้นที่ 2 ข้ันสารวจและคน้ หา (Exploration) 2. นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 8 กลุ่มๆละประมาณ 4-5 คน แล้วให้นักเรียนศึกษารายละเอียดของ กฎหมายท่ีกาหนดให้แล้วเรียงลาดับของการแบ่งกฎหมายตามลาดับศักดิ์ที่กาหนดให้ตามหมายเลขในใบงาน กลุ่มท่ี 1.1 เรื่องการแบง่ กฎหมายตามลาดบั ศกั ดิ์ ดงั นี้ 1.) พระราชบัญญัติ 2.) พระราชกฤษฎีกา 3.) กฎกระทรวง 4.) กฎหมายทอ้ งถ่นิ 5.) พระราชกาหนด 6.) รัฐธรรมนญู 3. โดยศึกษาหาข้อมูลเพ่ิมเติมได้จากใบความรู้ เร่ือง การแบ่งประเภทของกฎหมาย ใน Google Classroom โดยครูสงั เกตการทางานกลุ่มและใหค้ าปรึกษาการทากจิ กรรมกลุ่มอยา่ งใกล้ชดิ ขั้นที่ 3 ขั้นอธิบายและลงขอ้ สรปุ (Explanation) 4. นักเรยี นและครรู ว่ มกนั จัดลาดบั ของการแบ่งกฎหมายตามลาดบั ศกั ดิ์ให้ถกู ต้อง 5. สมุ่ นกั เรียนออกมานาเสนอจานวน 2 กลมุ่ เพอื่ แลกเปลี่ยนความคดิ เหน็ กันในห้องเรยี นเก่ยี วกบั การ แบ่งกฎหมายตามลาดับศกั ดิ์ ขน้ั ที่ 4 ขน้ั ขยายความรู้ (Elaboration) 6. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปการแบ่งกฎหมายตามลาดับศักด์ิบนกระดานและศึกษาข้อมูลประกอบ ได้จากใบความรเู้ รอ่ื ง การแบง่ กฎหมายตามลาดับศกั ด์ิ ผ่าน Google Classroom 7. นักเรียนและครรู ่วมกันแลกเปลี่ยนความรเู้ กย่ี วกบั การแบ่งประเภทของกฎหมาย ต่อไปนี้ - การแบง่ กฎหมายตามการใช้หรอื แบง่ ตามหน้าท่ี

- การแบง่ กฎหมายตามสภาพบังคับ - การแบง่ กฎหมายตามความสัมพันธ์ของค่กู รณี โดยใช้สื่อการสอน Power Point เรื่อง การแบ่งประเภทของกฎหมาย และใบความรู้ เรื่อง การแบ่ง ประเภทของกฎหมาย ขั้นท่ี 5 ขน้ั ประเมนิ (Evaluation) 8. นักเรียนจับกลุ่มๆละ 2-3 คน เพื่อเล่นเกม Kahoot เพ่ือทดสอบความรู้ความใจในเร่ืองความรู้ เบื้องต้นเก่ียวกับกฎหมาย การแบ่งประเภทของกฎหมาย จานวน 15 ข้อ 9. ระหวา่ งการเลน่ เกมในแตล่ ะข้อคาถาม นกั เรยี นและครูร่วมกันอธบิ ายขอ้ มูลเพมิ่ เติมเกี่ยวกับคาถาม และคาตอบ โดยมีเกณฑ์การใหค้ ะแนน ดงั นี้ - คะแนนสงู สุด 5 อันดบั แรก จะไดค้ ะแนนคนละ 5 คะแนน - อนั ดับที่ 6 เปน็ ตน้ ไปได้ 3 คะแนน 10. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปความรู้เรื่องความรู้เบื้องต้นเก่ียวกับกฎหมาย การแบ่งประเภทของ กฎหมาย และประโยชน์จากการเลน่ เกม ชว่ั โมงที่ 6 กฎหมายแพ่งเกีย่ วขอ้ งกบั บุคคล ผู้เยาว์ และทะเบียนราษฎร (เทคนิคการสอน : การจัดการเรียนรู้โดยการบรรยาย) ขนั้ ท่ี 1 ขนั้ นาเขา้ สู่บทเรียน 1. นกั เรียนตอบคาถามดงั ตอ่ ไปนี้ - นกั เรยี นยงั อยู่ในสถานะของการเป็นผเู้ ยาว์หรือไม่ เพราะเหตุใด แนวการตอบ นักเรยี นยงั มีสถานะเปน็ ผูเ้ ยาว์ เพราะนกั เรยี นยงั อายไุ มค่ รบ 20 ปบี รบิ รู ณ์ - นักเรยี นคิดวา่ นักเรียนจะบรรลุนติ ภิ าวะเม่อื ใด แนวการตอบ เม่ืออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ หรือจดทะเบียนสมรส เม่ืออายุ 17 ปีบริบูรณ์ โดยได้รับความยินยอมจากผูแ้ ทนโดยชอบธรรม ข้นั ท่ี 2 ขนั้ สอน 2. นกั เรยี นและครรู ่วมกนั แลกเปล่ียนความรใู้ นเรื่องของ กฎหมายแพ่งเก่ียวข้องกบั บุคคล ผเู้ ยาว์ และ ทะเบียนราษฎร โดยใช้สื่อการสอน Power Point เรื่อง กฎหมายแพ่งเกยี่ วข้องกบั บุคคล ผู้เยาว์ และทะเบียน ราษฎร และตัวอย่าง ทะเบียนราษฎร, สูติบัตร, มรณบัตร ให้นักเรียนดูเพ่ืออภิปรายความสาคัญของกฎหมาย แพ่งเกี่ยวกับบคุ คล ผเู้ ยาว์ และทะเบียนราษฎร

ภาพใบสูตบิ ตั ร ภาพใบมรณบตั ร ภาพสาเนาทะเบียนบ้าน 4. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายสรุป เร่ือง กฎหมายแพ่งเกี่ยวข้องกับบุคคล ผู้เยาว์ และทะเบียน ราษฎร ขัน้ ที่ 3 ขนั้ ติดตามผล 7. นักเรยี นทาใบงานท่ี 1.1 เรื่อง กฎหมายแพ่งเกย่ี วกับผูเ้ ยาว์ และใบงานท่ี 1.2 เรื่อง ทะเบยี นราษฎร 8. นักเรยี นและครูรว่ มกันตรวจสอบความถูกต้องของการทาใบงาน ชวั่ โมงท่ี 7 - 8 : กฎหมายแพง่ เกี่ยวข้องกบั ครอบครัว (เทคนิคการสอน : การจัดการเรยี นรู้โดยใช้กระบวนการกล่มุ และกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5Es) ข้ันท่ี 1 ขน้ั สร้างความสนใจ (Engagement) 1. นกั เรียนดภู าพและร่วมกันอธบิ ายถงึ หลกั เกณฑ์ของการสมรส

2. นักเรียนและครูอธิบายเช่ือมโยงถึงความสัมพันธ์ในครอบครัวของคู่สมรสและกฎหมายแพง่ เกี่ยวกับ ครอบครัวอ่ืนๆ แนวการตอบ คนเราทุกคนย่อมมีความต้องการท่ีจะให้การดาเนินชีวิตในครอบครัวเป็นไปอย่างมี ความสุขมีการเริ่มดันชีวิตคู่ตั้งแต่การหม้ัน การสมรส การมีบุตรด้วยกัน หรืออาจจะมีบุตรตามกฎหมายมีการ สร้างฐานะที่มั่นคง มีหลักฐานเป็นทรัพย์สินซ่ึงทามาหากินร่วมกันระหว่างสามีภรรยา แต่ความสัมพันธ์ของ บคุ คลอาจมีการเปลยี่ นแปลงไป อาจมีความไม่เข้าใจกัน กระทบกระท่ังกัน ซ่ึงกฎหมายแพ่งเกีย่ วกับครอบครัว จงึ เป็นนาไปสู่ความขัดแย้งระหว่างบคุ คล ดังนั้น บทบญั ญัติของกฎบรรทดั ฐาน กฎกติกาเพ่ือให้ทกุ คนได้ยึดถือ เปน็ แนวปฏิบัตอิ ยา่ งถกู ตอ้ งต่อไป ขน้ั ท่ี 2 ข้นั สารวจและคน้ หา (Exploration) 3. นักเรียนแบ่งกลมุ่ ออกเปน็ 5 กลุม่ โดยให้คละความสามารถ (เก่ง ปานกลาง ออ่ น) 4. นักเรียนตัวแทนกลุ่มแต่ละกลุ่ม ออกมาจับฉลาก เพื่อรับหัวข้อในการศึกษาค้นคว้า ซ่ึงนักเรียน สามารถศกึ ษาหาความรู้ด้วยตนเองได้จาก Google Classroom ใบความรู้เรื่องเรอ่ื งกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และหนังสอื เรยี นหนา้ ทีพ่ ลเมือง วฒั นธรรม และการดาเนินชีวิตในสังคม 4 – 6 โดยหัวข้อมดี ังน้ี กลมุ่ ที่ 1 การหมน้ั กลมุ่ ท่ี 2 การสมรส กลุม่ ท่ี 3 บตุ ร และบุตรบญุ ธรรม กลุ่มท่ี 4 การหย่า กลุ่มที่ 5 มรดก และทายาท กลมุ่ ท่ี 6 การทาพินยั กรรม 5. นักเรียนศึกษาข้อมูลจากแห่ลงเรียนรู้ ผ่าน Google Classroom ใบความรู้เรื่องเร่ืองกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์และหนังสือเรียนหน้าท่ีพลเมือง วัฒนธรรม และการดาเนินชีวิตในสังคม 4 – 6 โดยมีครูสังเกต และให้คาปรึกษาการทากจิ กรรมกลุม่ อย่างใกล้ชดิ 6. นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอหน้าชั้นเรียนตามหัวข้อท่ีตนเองไดร้ ับ โดยใช้เวลาไม่เกนิ กลุ่มละ 5 นาที และแลกเปล่ียนความคิดเหน็ กนั ภายในหอ้ งเรียน

ขั้นท่ี 3 ขนั้ อธิบายและลงขอ้ สรปุ (Explanation) 7. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายสรุป เร่ือง กฎหมายแพ่งเกี่ยวข้องกับครอบครัว โดยใช้ใบความรู้ Classroom ใบความรู้เรอ่ื งเรื่องกฎหมายแพ่งและพาณิชย์และหนังสือเรยี นหนา้ ทพี่ ลเมอื ง วัฒนธรรม และการ ดาเนนิ ชีวิตในสงั คม 4 – 6 ขน้ั ท่ี 4 ขนั้ ขยายความรู้ (Elaboration) 8. นักเรียนทาใบงานท่ี 1.3 เรือ่ ง การสมรส การรับรองบตุ ร และบตุ รบญุ ธรรม และใบงานที่ 1.4 เรือ่ ง ทรัพย์สนิ ระหวา่ งสามภี รรยา โดยมีครสู งั เกตและให้คาปรกึ ษาการทากิจกรรมกลุ่มอย่างใกลช้ ดิ ข้ันที่ 5 ขั้นประเมนิ (Evaluation) 9. นกั เรียนและครูร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องของการทาใบงานท่ี 1.3 เรื่อง การสมรส การรับรอง บตุ ร และบตุ รบุญธรรม และใบงานที่ 1.4 เร่อื ง ทรพั ยส์ ินระหวา่ งสามีภรรยา ชั่วโมงท่ี 9 - 11 : กฎหมายแพ่งเกี่ยวข้องกบั นติ ิกรรมสญั ญา (เทคนคิ การสอน : กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ 5Es) ขน้ั ท่ี 1 ขั้นสรา้ งความสนใจ (Engagement) 1. ใหน้ ักเรยี นศกึ ษาถงึ สภาพเหตุการณ์ จากวิดีโอเรือ่ ง โวยจานาทอง รา้ นทองไม่ยอมคนื หว่ันโดนโกง กรณีศกึ ษา : เรอื่ ง โวยจานาทอง รา้ นทองไม่ยอมคนื หวน่ั โดนโกง | 16-05-62 | ข่าวเยน็ ไทยรฐั 2. นักเรยี นและครูรว่ มกนั อภิปรายถงึ เหตุการณ์ทเ่ี กดิ ขน้ึ จากวดิ ิโอเรื่อง โวยจานาทอง ร้านทองไม่ยอม คนื หวัน่ โดนโกง เพื่อเช่ือมโยงถงึ ความสาคัญของกฎหมาย ผา่ น Google Classroom 3. นักเรยี นตอบคาถามดงั ต่อไปน้ี - นักเรยี นคดิ วา่ การกระทาใดบ้างเป็นนิติกรรม แนวการตอบ การซ้อื ขาย การจานา การจานอง การทาสญั ญาต่าง ๆ - นกั เรยี นคดิ วา่ การกยู้ ืม ถือเป็นการทานติ กิ รรมหรอื ไม่ แนวการตอบ การก้ยู ืมเป็นนติ กิ รรม ประเภทนติ กิ รรมสองฝ่าย

ขน้ั ท่ี 2 ขน้ั สารวจและค้นหา (Exploration) 4. นักเรียนและครูร่วมกันศึกษาความรู้เกี่ยวกับนิติกรรมสัญญา โดยใช้สื่อการสอน Power Point เรอื่ ง นิตกิ รรมสัญญา 5. นักเรยี นร่วมกันตอบคาถามจากภาพทีค่ รกู าหนดให้เกีย่ วกับนติ ิกรรมต่าง ๆ 6. จากน้ันนักเรียนและครูร่วมกันแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับเกี่ยวกับนิติกรรมต่าง ๆ โดยใช้ตัวอย่าง หนงั สือสญั ญา ดงั นี้ - การซือ้ ขายและการขายฝาก - การเช่าทรัพย์และการเชา่ ซ้อื - การกูย้ ืมและการค้าประกนั - การจานาและการจานอง ขั้นที่ 3 ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) 7. นกั เรยี นและครูรว่ มกนั สรุป เรอื่ ง นิตกิ รรมสัญญา ผ่านสื่อการสอน Power Point เร่ือง นิติกรรม สัญญา ขั้นที่ 4 ขนั้ ขยายความรู้ (Elaboration) 8. นักเรียนทาใบงานท่ี 1.5 เรือ่ ง นติ กิ รรมสญั ญา ใบงานท่ี 1.6 เรอ่ื ง โมฆกรรมและโมฆยี กรรม และ ใบงานที่ 1.7 เรือ่ ง กฎหมายทปี่ ระชาชนควรรู้ โดยมีครูสงั เกตและใหค้ าปรึกษาการทากิจกรรมกลมุ่ อย่างใกลช้ ิด ขน้ั ท่ี 5 ขน้ั ประเมิน (Evaluation) 9. นกั เรียนและครูร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องของการทาใบงาน 10. นักเรยี นทาแบบทดสอบปรนยั เรื่อง กฎหมายแพง่ และพาณชิ ย์ จานวน 30 ข้อ 10 คะแนน ชัว่ โมงที่ 12 - 13 : กฎหมายอาญา (เทคนิคการจัดการเรยี นรู้ : การจัดการเรยี นรโู้ ดยใช้เกมและกระบวนการสบื เสาะหาความรู้ 5Es) ขน้ั ที่ 1 ขนั้ สรา้ งความสนใจ (Engagement) 1. นกั เรยี นและครูรว่ มกนั อภปิ รายความคดิ เหน็ เก่ยี วกบั วดิ โิ อท่กี าหนดให้ ในหวั ขอ้ ขา่ ว กรณศี ึกษา : โจรกระชากกระเปา๋ กลางกรงุ | 08-06-61 | ข่าวเชา้ ไทยรัฐ

2. นกั เรยี นตอบคาถามจากวดิ โิ อข้างตน้ ดงั ตอ่ ไปน้ี - จากข่าวคนร้ายกอ่ คดีในลกั ษณะใด แนวการตอบ ว่ิงราวทรัพย์ - นักเรยี นคดิ ว่าคนรา้ ยในคดนี ี้จะได้รบั โทษอะไร แนวการตอบ จาคกุ ไม่เกนิ 5 ปี ปรับไม่เกนิ 10000 บาท ข้นั ที่ 2 ขั้นสารวจและค้นหา (Exploration) 3. นักเรยี นและครสู นทนาเกีย่ วกบั ความหมายและความสาคญั ของกฎหมายอาญา 4. จากนนั้ นักเรยี นแบง่ กลุ่มออกเป็น 8 กลุ่มละประมาณ 4-5 คนตามความสมัครใจ 5. ใหแ้ ต่ละกล่มุ ศกึ ษา เร่ือง กฎหมายอาญา จาก - Google classroom - ใบความรเู้ รอื่ ง กฎหมายอาญา - วิดโิ อ เร่ือง กฎหมายอาญา - หนงั สอื เรียนหนา้ ทพี่ ลเมือง วฒั นธรรม และการดาเนินชีวติ ในสงั คม 4 – 6 6. นักเรยี นแต่ละกลุ่มรว่ มกันทาใบงานกล่มุ ท่ี 1.2 เรอ่ื ง กฎหมายอาญา ขน้ั ที่ 3 ข้ันอธิบายและลงขอ้ สรุป (Explanation) 7. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปสาระสาคัญของกฎหมายอาญา นักเรียนซักถามแสดงความคิดเห็นใน เร่ืองกฎหมายอาญา ผา่ นใบความรเู้ ร่อื ง กฎหมายอาญา ขน้ั ที่ 4 ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) 8. นักเรยี นน่ังเปน็ กลมุ่ (กลุม่ เดมิ ) และแจกอุปกรณ์ในการทากจิ กรรมตอบคาถาม 9. นกั เรยี นศึกษาชีแ้ จงกติกาในการทากจิ กรรมตอบคาถาม เรื่อง กฎหมายอาญา - คาชี้แจง ให้นกั เรียนตอบคาถามใหถ้ ูกต้องโดยใชแ้ ผ่นป้ายหมายเลข 1 – 4 - จานวนคาถาม 10 ขอ้ - อปุ กรณ์ แผน่ ปา้ ยหมายเลข 1 – 4 - กติกาการเล่น เมื่อนักเรียนเห็นคาถามท่ีแสดงอยู่บนจอ ให้นักเรียนตอบคาถามโดยใช้แผ่น ป้ายหมายเลข 1 – 4 ให้ถูกต้อง โดยมกี าหนดระยะเวลาขอ้ ละ 20 วินาที - รางวลั กลุม่ ท่ไี ดค้ ะแนนเยอะท่ีสดุ 3 คะแนน และกลุ่มที่รองลงมา 2 คะแนน ขั้นท่ี 5 ขั้นประเมนิ (Evaluation) 10. นักเรยี นและครรู ่วมกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของการทาใบงานกลมุ่ ที่ 1.2 เรอ่ื งกฎหมายอาญา 11. ครสู งั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียน และบันทกึ ลงในแบบสังเกตพฤตกิ รรมรายกล่มุ

ชวั่ โมงท่ี 14 - 15 : ความผดิ ทางอาญาเกยี่ วกบั ชีวติ รา่ งกาย และทรพั ยส์ ิน (เทคนคิ การจดั การเรยี นรู้ : การจัดการเรยี นร้โู ดยใช้กรณีศกึ ษาและการแสดงบทบาทสมมติ) ขัน้ ท่ี 1 ขนั้ เตรียมการสอน 1. นกั เรยี นตอบคาถามดงั ต่อไปน้ี - นักเรียนคดิ วา่ การกระทาใดบา้ งที่มคี วามผดิ ทางอาญา แนวการตอบ การฆา่ คน การขม่ ขืน การลักขโมย การปลน้ ทรพั ย์ ฯลฯ - นกั เรียนคิดวา่ สิง่ ทนี่ ักเรียนกล่าวมาข้างตน้ สามารถนามาจดั หมวดหมไู่ ด้หรอื ไม่ อะไรบ้าง แนวการตอบ ความผดิ ทางอาญาเกยี่ วกบั ชวี ติ ร่างกาย และทรัพยส์ นิ ขั้นที่ 2 ขัน้ ดาเนนิ การสอน 2. นกั เรยี นศึกษาภาพขา่ ว กรณีตัวอยา่ ง: ความผิดอาญาเกี่ยวกับชวี ิต ครูตั้งถามคาถาม ดงั น้ี - นกั เรยี นคดิ วา่ ข่าวนีจ้ ัดอยู่ในความผดิ ทางอาญาเกย่ี วกับอะไร เพราะเหตุใด แนวการตอบ ความผดิ ทางอาญาเกีย่ วกบั ชวี ติ เพราะเปน็ การกระทาท่ีส่งผลใหม้ ีผู้เสียชวี ิต 3. นักเรยี นศกึ ษาภาพขา่ ว กรณีตัวอย่าง: ความผิดอาญาเก่ียวกับร่างกาย ครูต้ังถามคาถาม ดงั น้ี - นักเรยี นคิดว่าข่าวนี้จัดอยูใ่ นความผิดทางอาญาเกย่ี วกับอะไร เพราะเหตใุ ด แนวการตอบ ความผิดทางอาญาเก่ียวกับร่างกาย เพราะเป็นการกระทาท่ีส่งผลให้ร่างกาย ได้รับบาดเจบ็ 4. นกั เรยี นและครูร่วมกันลงข้อสรปุ เรอ่ื ง ความผิดอาญาเกีย่ วกบั ชวี ิตและรา่ งกาย 5. นักเรียนศึกษา เร่ือง ความผิดทางอาญาเก่ียวกับทรัพย์สิน จาก Google Classroom หรือหนังสือ เรียนหนา้ ท่พี ลเมอื ง วัฒนธรรม และการดาเนนิ ชีวติ ในสงั คม 4 – 6 เปน็ เวลา 10 นาที 6. นกั เรยี นตอบคาถามดงั ต่อไปน้ี - การฉกฉวยทรัพยส์ นิ ของผอู้ ่ืนโดยท่ีผู้อนื่ ไม่ร้ตู วั เป็นความผิดทางอาญาฐานใด แนวการตอบ การลกั ทรัพย์ - การชิงทรัพยแ์ ละการปลน้ ทรพั ย์มีลักษณะท่เี หมือนและแตกตา่ งกันอย่างไร แนวการตอบ ความเหมือน ได้แก่ การใชอ้ าวุธหรือกาลังทาร้ายเพ่ือแยง่ ชิงเอาทรพั ย์สิน ความแตกต่าง ได้แก่ จานวนของผูก้ ระทาผดิ - การหลอกลวงเพือ่ เอาทรพั ยส์ ินของผอู้ ่ืนมาเป็นของตน เป็นความผิดทางอาญาฐานใด แนวการตอบ ฉ้อโกง

7. นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 6 กลุ่ม โดยให้นักเรียนนับหมายเลข 1 – 6 นักเรียนท่ีนับหมายเลข เดยี วกนั ใหน้ กั เรียนมานัง่ รวมกันเป็นกลมุ่ 8. นักเรียนส่งตัวแทนกลุ่ม แต่ละกลุ่มออกมาจับฉลาก เพ่ือรับหัวข้อในการแสดงบทบาทสมมติ ซึ่ง นักเรยี นสามารถศกึ ษาหาความรูด้ ้วยตนเองได้จาก Internet โดยหวั ข้อมีดงั นี้ กลมุ่ ท่ี 1 และ 4 ความผิดทางอาญาเก่ยี วกับชีวติ จานวน 2 กลมุ่ กลุม่ ที่ 2 และ 5 ความผดิ ทางอาญาเกีย่ วกบั รา่ งกาย จานวน 2 กลมุ่ กลุ่มที่ 3 และ 6 ความผิดทางอาญาเกย่ี วกบั ทรัพย์สนิ จานวน 2 กลมุ่ 9. นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมาแสดงบทบาทสมมติ ตามท่ีได้รับมอบหมาย โดยมีกาหนดระยะเวลาไม่ เกิน กลุ่มละ 5 นาที 10. นักเรียนตอบคาถามครู ดังน้ี - เพราะเหตุใด นกั เรยี นจึงเลอื กทจี่ ะแสดงบทบาทสมมติออกมาในรูปแบบนี้ 11. ครกู ล่าวชมนกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ และอธิบายสรุปกจิ กรรมการแสดงบทบาทสมมติ ขั้นที่ 3 ขั้นวิเคราะห์และอภปิ รายผลการแสดง 12. นักเรียนและครูร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องของเน้ือหาการแสดง และบันทึกลงในแบบสังเกต พฤติกรรมรายกลุ่ม 13. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายผลการแสดง และสรุปความรู้ เรื่อง ความผิดทางอาญาเก่ียวกับ ชวี ติ ร่างกาย และทรัพย์สนิ ผ่านสือ่ การสอน Power Point เรือ่ ง กฎหมายอาญา ขั้นที่ 4 ข้นั แลกเปลีย่ นประสบการณ์และสรปุ 14. นักเรียนทาใบงานที่ 1.8 ความผิดตามกฎหมายอาญา โดยมีครูสังเกตและให้คาปรึกษาการทา กจิ กรรมกลมุ่ อย่างใกล้ชดิ ชั่วโมงท่ี 16-17 : กฎหมายอนื่ ท่ีมคี วามสาคัญ (เทคนคิ การจัดการเรียนรู้ : การจัดการเรยี นรู้โดยใช้เกมและกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5Es) ขน้ั ที่ 1 ขั้นสรา้ งความสนใจ (Engagement) 1. นักเรียนศกึ ษาภาพการเกณฑท์ หาร และเชือ่ มโยงเข้าส่เู รื่องกฎหมายการเข้ารับราชการทหาร 2. นกั เรียนและครูสนทนาเก่ยี วกับกฎหมายการเข้ารับราชการทหาร ขัน้ ที่ 2 ขนั้ สารวจและคน้ หา (Exploration) 3. นกั เรยี นและครรู ่วมกันอธิบายเพ่มิ เติมเก่ียวกบั กฎหมายอ่นื ทอี่ ยู่ในชีวิตประจาวันของเรา 4. นักเรียนศกึ ษา เรื่อง กฎหมายการเข้ารบั ราชการทหาร กฎหมายภาษีอากร กฎหมายหมายคมุ้ ครอง สิทธิผู้บริโภค และกฎหมายยาเสพติดให้โทษ จาก Google Classroom หรือหนังสือเรียนหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดาเนินชีวิตในสังคม 4 – 6 เปน็ เวลา 15 นาที

ข้นั ที่ 3 ขน้ั อธบิ ายและลงข้อสรปุ (Explanation) 4. นกั เรยี นและครูร่วมกันสรุปกฎหมายอ่นื ที่มคี วามสาคญั โดยใชส้ อ่ื การสอน Power Point เรอื่ ง กฎหมายอืน่ ที่มีความสาคญั ข้ันที่ 4 ขัน้ ขยายความรู้ (Elaboration) 5. นกั เรียนแบง่ กลมุ่ ออกเป็น 5 กลุ่ม ตามความสมัครใจ 6. นกั เรียนน่ังเปน็ กล่มุ และแจกอปุ กรณใ์ นการทากจิ กรรมตอบคาถาม 7. นกั เรยี นทากจิ กรรมตอบคาถามโดยใชแ้ อพพเิ คช่นั Qoiznetic เรือ่ ง กฎหมายอน่ื ทมี่ คี วามสาคญั 8. นกั เรยี นและครูร่วมกันอภิปราย เรื่อง กฎหมายอน่ื ท่มี คี วามสาคญั จากคาถามของเกม Qoiznetic 9. นักเรียนและครูทาใบงานท่ี 1.9 การปฏบิ ัติตนตามกฎหมาย โดยมีครูสังเกตและให้คาปรกึ ษาการทา กจิ กรรมกล่มุ อย่างใกลช้ ดิ ขน้ั ที่ 5 ขั้นประเมนิ (Evaluation) 10. นกั เรยี นและครูร่วมกันตรวจสอบความถูกตอ้ งของการทาใบงาน 11. ครสู งั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียน และบนั ทึกลงในแบบสงั เกตพฤติกรรมรายกล่มุ ชัว่ โมงที่ 18 : รฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศกั ราช 2560 (เทคนคิ การสอน : กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ 5Es) ขนั้ ท่ี 1 ขนั้ สรา้ งความสนใจ (Engagement) 1. นักเรียนและครสู นทนาเกี่ยวกบั รฐั ธรรมนูญ 2. นักเรียนตอบคาถามดงั ตอ่ ไปน้ี - รฐั ธรรมนูญฉบบั แรกของประเทศไทยประกาศใช้เมอื่ ใด และมีความเปน็ มาอย่างไร แนวการตอบ 10 ธันวาคม 2475 (พระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยาม ชั่วคราว พุทธศักราช 2475) โดยรัฐธรรมนูญฉบับแรกเกิดขึ้นมาจากการเปล่ียนแปลงการปกครองจากระบอบ สมบูรณาญาสทิ ธิราชย์เปน็ ระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษัตริยท์ รงเปน็ ประมขุ - รัฐธรรมนูญฉบับปจั จุบนั เป็นรัฐธรรมนูญฉบับท่เี ทา่ ใด แนวการตอบ ฉบับท่ี 20 (พ.ศ. 2560) - รัฐธรรมนญู ฉบับปจั จุบัน มีทงั้ หมดก่หี มวด แนวการตอบ 16 หมวด - รฐั ธรรมนูญหมวดใดบา้ งท่ีมคี วามเก่ียวข้องกับนักเรยี น แนวการตอบ หมวดท่ี 1 บทท่ัวไป หมวดที่ 3 สทิ ธิ เสรีภาพของปวงชนชาวไทย หมวดท่ี 4 หน้าท่ีของปวงชนชาวไทย ขน้ั ท่ี 2 ข้นั สารวจและคน้ หา (Exploration) 3. นักเรยี นศึกษา เรื่อง รัฐธรรมนญู ฉบับปัจจุบนั จาก Google Classroom ขน้ั ท่ี 3 ขั้นอธบิ ายและลงขอ้ สรปุ (Explanation)

4. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายสรุป เรื่อง รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน โดยใช้ส่ือการสอน Power Point ขั้นที่ 4 ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) 5. ครใู ห้นกั เรยี นแบง่ กล่มุ ออกเป็น 5 กลุ่ม โดยให้นักเรียนนบั หมายเลข 1 – 5 นักเรยี นที่นับหมายเลข เดยี วกนั ใหน้ กั เรยี นมานงั่ รวมกันเป็นกลมุ่ และครแู จกอุปกรณใ์ นการทากิจกรรมตอบคาถาม 6. ครชู แี้ จงกตกิ าในการทากจิ กรรมตอบคาถาม เรื่อง รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย ปี 2560 - คาช้แี จง ให้นักเรียนตอบคาถามให้ถกู ต้องโดยใช้แผน่ ป้ายหมายเลข 1 – 4 - จานวนคาถาม 20 ขอ้ - อุปกรณ์ แผ่นปา้ ยหมายเลข 1 – 4 - กติกาการเล่น เมื่อนักเรียนเห็นคาถามท่ีแสดงอยู่บนจอ ให้นักเรียนตอบคาถามโดยใช้แผ่น ป้ายหมายเลข 1 – 4 ให้ถูกตอ้ ง โดยมีกาหนดระยะเวลาขอ้ ละ 10 วนิ าที - รางวัล กลมุ่ ทไ่ี ดค้ ะแนนเยอะที่สุด 3 คะแนน และกลุ่มที่รองลงมา 2 คะแนน 7. นักเรียนทาใบงานท่ี 1.10 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยมีครสู ังเกตและให้คาปรึกษาการ ทากิจกรรมกล่มุ อย่างใกลช้ ดิ ขน้ั ที่ 5 ขน้ั ประเมิน (Evaluation) 8. นักเรียนและครูร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องของการทาใบงาน ท่ี 1.10 รัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจกั รไทย 8.สื่อการสอนและแหลง่ การเรยี นรู้ 1. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น-หลงั เรียน 2. สอ่ื Power Point - เรอ่ื ง ความรู้เบ้ืองต้นเกย่ี วกบั กฎหมาย - เรอื่ ง การแบง่ ประเภทของกฎหมาย - เร่ือง กฎหมายแพ่งเก่ยี วขอ้ งกับบุคคล ผเู้ ยาว์ และทะเบียนราษฎร - เรอ่ื ง นิตกิ รรมสญั ญา - เร่อื ง กฎหมายอาญา - เรอ่ื ง กฎหมายท่ีสาคัญ - เรอ่ื ง รัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย 3. ใบความรู้ - เร่ือง การแบง่ ประเภทของกฎหมาย - เรื่อง การแบ่งกฎหมายตามลาดับศกั ด์ิ - เรื่อง กฎหมายแพ่งและพาณชิ ย์ - เร่ือง กฎหมายอาญา

4. ใบงาน - ใบงานที่ 1.1 กฎหมายแพ่งเก่ียวกับผเู้ ยาว์ - ใบงานที่ 1.2 ทะเบียนราษฎร - ใบงานท่ี 1.3 การสมรส การรบั รองบุตร และบุตรบญุ ธรรม - ใบงานท่ี 1.4 ทรัพย์สนิ ระหว่างสามภี รรยา - ใบงานที่ 1.5 นติ กิ รรมสัญญา - ใบงานที่ 1.6 โมฆกรรมและโมฆียกรรม - ใบงานท่ี 1.7 กฎหมายทีป่ ระชาชนควรรู้ - ใบงานท่ี 1.8 ความผดิ ตามกฎหมายอาญา - ใบงานที่ 1.9 การปฏิบัติตนตามกฎหมาย - ใบงานท่ี 1.10 รฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทย 5. วดิ ีโอ 6. รูปภาพ 7. Google Classroom 8. แอปพลิเคช่ัน Kahoot 9. แอปพลเิ คชั่น Qoiznetic 10. หนังสือเรยี นหนา้ ทีพ่ ลเมือง วัฒนธรรม และการดาเนนิ ชีวติ ในสังคม 4 – 6 11. ห้องสมุด 9.การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ เปา้ หมาย หลักฐาน วธิ ีการ เคร่ืองมอื เกณฑ์ - ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ความรู้ (K) - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกต ในระดบั พอใช้ขึ้นไป ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ รายบคุ คล รายบคุ คล พฤติกรรมรายบุคคล - ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน - ใบงาน - ตรวจใบงาน - ใบงาน ในระดบั พอใช้ขึ้นไป ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ทกั ษะ/ - แบบสงั เกตพฤติกรรม - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติ - ผ่านเกณฑก์ ารประเมิน รายบุคคล ในระดับพอใช้ขึ้นไป กระบวนการ (P) รายบคุ คล รายบุคคล - ช้ินงาน - แบบสงั เกตการ - ผ่านเกณฑ์การประเมนิ - แบบประเมนิ ผลงาน - ตรวจสอบผลงาน ตอบคาถาม ในระดบั พอใช้ขน้ึ ไป คณุ ลักษณะ (A) - แบบสงั เกตการตอบ - สังเกตความมวี ินยั - แบบสงั เกต พฤติกรรมกาทางาน คาถาม ใฝเ่ รียนรู้ ความมงุ่ ม่ัน กลมุ่ - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ในการเรียนและตอบ คาถาม กาทางานกลุ่ม

10.กจิ กรรมเสนอแนะ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………….……………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชื่อ....................................................ครูพ่เี ลยี้ ง ลงชอื่ ....................................................ครผู สู้ อน (.....................................................) (.....................................................) ........../........................../............ ........../........................../............

บันทกึ หลังการสอน (ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 4 ห้อง ) 1. ผลการสอน/ผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…. ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม และค่านยิ ม (A) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…. 2. ปัญหา/อปุ สรรค และขอ้ คน้ พบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…. 3. ขอ้ เสนอแนะแนวทางแกไ้ ข ผลการแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………... ลงช่ือ..................................................................ครพู ่ีเลีย้ ง (..................................................................) ลงชอ่ื ...................................................................ครูผสู้ อน (..................................................................) ........../........................../...........


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook