โครงงาน ด้านศิลปวรรณกรรม เช่น พระราชนิพนธ์ต่างๆนางสาวณฏั ฐณิชา พรหมมา รหสั นิสิต 60240857นางสาวณฐั ชญาภรณ์ วโิ รจนส์ กลุ รหสั นิสิต 60240864นางสาวณฐั ณิชา เทศเพราะผล รหสั นิสิต 60240871นางสาวณฐั ณิชา จนั ทิมา รหสั นิสิต 60240888นางสาวณฐั พร คุม้ ครอง รหสั นิสิต 60240925นางสาวณิชาภทั ร แกว้ ศรี รหสั นิสิต 60240987นายทกั ษด์ นยั นาคนาคา รหสั นิสิต 60241083นายแทนไท สุขแกว้ รหสั นิสิต 60241090นางสาว ธนพร ไผผ่ ล รหสั นิสิต 60241120นางสาวธนพร สงั ขท์ อง รหสั นิสิต 60241137โครงงานนีเ้ ป็ นส่วนหนึ่งของรายวชิ า (001221) สารสนเทศศาสตร์เพ่ือการศึกษาค้นคว้า ภาคเรียนที่ ๑ ปี การศึกษา ๒๕๖๐
1. ช่ือโครงงาน : ศิลปวรรณกรรม2. ช่ือครูทปี่ รึกษาโครงงาน : รศ.ดร.สุชาติ แยม้ เมน่ พร้อมคณะ3. รายชื่อผู้จัดทาโครงงาน นางสาวณฏั ฐณิชา พรหมมา รหสั นิสิต 60240857นางสาวณฐั ชญาภรณ์ วโิ รจนส์ กุล รหสั นิสิต 60240864นางสาวณฐั ณิชา เทศเพราะผล รหสั นิสิต 60240871นางสาวณฐั ณิชา จนั ทิมา รหสั นิสิต 60240888นางสาวณฐั พร คุม้ ครอง รหสั นิสิต 60240925นางสาวณิชาภทั ร แกว้ ศรี รหสั นิสิต 60240987นายทกั ษด์ นยั นาคนาคา รหสั นิสิต 60241083นายแทนไท สุขแกว้ รหสั นิสิต 60241090นางสาว ธนพร ไผผ่ ล รหสั นิสิต 60241120นางสาวธนพร สงั ขท์ อง รหสั นิสิต 60241137
กติ ติกรรมประกาศ งานโครงการเรื่องดา้ นศิลปวรรณกรรม สําเร็จไดด้ ว้ ยความร่วมมือร่วมใจของคณะผูจ้ ดั ทาํโ ด ย มี ร อ ง ศ า ส ต ร า จ า ร ย์ ด ร . สุ ช า ติ แ ย้ ม เม่ น พ ร้ อ ม ค ณ ะ ท่ี เป็ น ผู้ ค ว บ คุ มนิ สิ ต ทุ ก ค น มี ก า ร ศึ ก ษ า ร ะ ดั บ ป ริ ญ ญ า ต รีดงั น้ันงานโครงการเรื่องน้ีจึงเป็ นการสร้างประสบการณ์คร้ังแรกในการทาํ โครงการของนิสิตการทาํ โครงการเร่ืองน้ีสาํ เร็จลงไดเ้ นื่องจากนิสิตไดเ้ รียนรู้จากการศึกษาพระราชนิพนธ์จนสามารถนํา ม โ น ทั ศ น์ จ า ก ค ว า ม รู้ ดั ง ก ล่ า ว ม า ใ ช้ ใ น ก า ร ศึ ก ษ า โ ค ร ง ก า รขอบคุณสาํ หรับคาํ แนะนาํ และคาํ ปรึกษาท่ีดีจึงทาํ ใหโ้ ครงการน้ีสาํ เร็จลงได้ขอขอบพระคุณอยา่ งสูงตอ่ อาจารยผ์ คู้ วบคุมการทาํ โครงการ คือรองศาสตราจารย์ ดร.สุชาติแ ย้ ม เ ม่ นขอขอบคุณผแู้ นะนาํ และผเู้ สนอแนะเกี่ยวกบั โครงการศิลปวรรณกรรมทุกท่านที่ไดใ้ ห้ความรู้และปร ะ ส บ ก า ร ณ์ ใ น ก า ร ศึ ก ษ า โ ค ร ง ก า ร โ ด ย ต ล อ ดท่ีไดใ้ หค้ วามอนุเคราะห์เกี่ยวกบั ความรู้ที่ไดจ้ ากพระราชนิพนธ์เพ่ือนาํ ความรู้ท่ีไดม้ าทาํ โครงการน้ี คณะผจู้ ดั ทาํ
บทคดั ย่อโครงการสารสนเทศ เรื่อง ศิลปวรรณกรรมเร่ืองพระราชนิพนธ์โครงการน้ีมีวตั ถุประสงคท์ ี่จะศึกษาดา้ นศิลปวรรณกรรม เช่น พระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั รัชกาลท่ี 9โครงการที่เกี่ยวขอ้ งกบั หนงั สือพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั ภูมิพลอดุลยเดชเอกสารและงานวิจยั ที่เกี่ยวขอ้ งกบั แนวคิดเอกสารและงานวิจยั ที่เก่ียวขอ้ งกบั ภาษาวรรณกรรมวเิ คราะห์ขอ้ มูลวเิ คราะห์แนวคิดวเิ คราะห์ภาษาวรรณศิลป์ ไดแ้ ก่การใชค้ าํ และการใชภ้ าพพจน์นาํ มาสรุปเป็นผลงานพระราชนิพนธ์ คณะผจู้ ดั ทาํ รวบรวมไวเ้ พ่อื ท่ีจะไดเ้ ผยแพร่แกผทู้ ่ีสนใจการศึกษาโครงงานน้ีไดศ้ ึกษามาจากการคน้ ควา้ ขอ้ มูลมาจากสืบคน้ จากส่ือต่างๆผลการศึกษาปรากฏวา่ ตลอด 70 ปี ที่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชครองสิริราชสมบตั ิมาน้นันอกจากจะทรงอุทิศพระวรกายทรงงานอยา่ งไมร่ ู้จกั เหน็ดเหน่ือยเพื่อบาํ บดั ทุกขบ์ าํ รุงสุขปวงชนชาวไทยแลว้ พระองคย์ งั ทรงมีพระปรีชาสามารถดา้ นภาษาและวรรณกรรมโดยมีงานพระราชนิพนธ์ออกมาอยา่ งมากมายซ่ึงแสดงใหเ้ ห็นถึงพระอจั ฉริยภาพดา้ นน้ีของพระองค์ “นกั เขียน นกั ประพนั ธ์ งานสาํ คญั ก็คือแสดงความคิดของตนออกมาเป็นเร่ืองชีวิต หรือเร่ืองแตง่ ข้ึนมา เพอื่ ให้ผอู้ ื่นไดป้ ระโยชน์คือความรู้บา้ ง บนั เทิงบา้ ง นกั แสดงความคิดสาํ คญั มาก เพราะวา่ มีอิทธิพลตอ่ ชีวิตของมวลมนุษย์อาจทาํ ใหเ้ กิดความคลอ้ ยตามไป และตวั ท่านเขียนดีกย็ ง่ิ คลอ้ ยตามกนั มาก ฉะน้นันกั ประพนั ธ์ตอ้ งมีความรับผดิ ชอบสูงเพราะทา่ นเป็ นผปู้ ้ันความคิดและความบริสุทธ์ิในความคิดจึงเป็นเร่ืองท่ีสาํ คญัดงั บทความกลน่ั กรองไวใ้ นสมองวา่ ส่ิงที่จะเขียนออกมาจะไมแ่ สลงไม่ทาํ ลายความคิดของประชากร ไม่ทาํ ลายผอู้ ่ืน และตนเองคือมีเสรีภาพในการเขียนอยา่ งเตม็ ท่ีในขอบเขตของศีลธรรม
สารบัญเร่ือง หนา้กิตติกรรมประกาศ กบทคดั ยอ่ ขบทที่ ๑ บทนาํ ...............................................................................................................................…1 ๑.ที่มาและความสาํ คญั ของโครงงาน..................................................................................1๒. วตั ถุประสงคข์ องโครงงาน............................................................................................1๓. ขอบเขตของเน้ือหาที่ศึกษา............................................................................................1๔. สมมติฐานการศึกษา.......................................................................................................2๕. ผลที่คาดวา่ จะไดร้ ับ........................................................................................................2บทที่ ๒ เอกสารที่เกี่ยวขอ้ ง...............................................................................................................3๑.โครงการศิลปวรรณกรรม เช่น พระราชนิพนธ์………………………………………..4๒.ความเป็ นมาของโครงการศิลปวรรณกรรม…………………………………………...5๓.รายชื่อบทความทที่ รงแปลและเรียบเรียง……………………………………………...7๔.พระราชานุกจิ รัชกาลท่ี 8……………………………………………………………..8๕.เมื่อข้าพเจ้าจากสยามสู่สวสิ แลนด์, ๒๔๘๙………………………………………...…9๖.นายอนิ ทร์ ผ้ปู ิ ดทองหลงั พระ (แปล), ๒๕๓๗……………………………………….10๗.ตโิ ต (แปล), ๒๕๓๗…………………………………………………………………11๘.พระมหาชนก, ๒๕๓๙ ………………………………………………………………12๙.เร่ืองทองแดง, ๒๕๔๕ ……………………………………………………………….14๑๐.พระราชดารัสเป็ นพระราชนิพนธ์ทพ่ี ระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงแปลจากภาษาไทยเป็ นภาษาองั กฤษ……………………………………………………………...15๑๑.เพลง แสงเทียน……………………………………………………………………...17
๑๒.เพลง ยามเยน็ ……………………………………………………………………….18บทที่ ๓ วธิ ีดาํ เนินการศึกษา............................................................................................................19 ๑. เคร่ืองมือที่ใช.้ ..............................................................................................................19 ๒. แหล่งศึกษาคน้ ควา้ ......................................................................................................19 ๓. วธิ ีการศึกษา ...............................................................................................................19บทท่ี ๔ ผลการศึกษา ................................................................................................................20บทท่ี ๕ สรุปผลการศึกษา................................................................................................................21 สารบัญ (ต่อ)เรื่อง หนา้บรรณานุกรม……………………………………………………………………………………23ภาคผนวก……………………………………………………………………………………….24ประวตั ิผจู้ ดั ทาํ …………………………………………………………………………………..29
บทท่ี ๑ บทนา๑. ทมี่ าและความสาคัญของโครงงาน พ ร ะ บ า ท ส ม เ ด็ จ พ ร ะ เ จ้ า อ ยู่ หั ว ภู มิ พ ล ฯทรงพ ระราชนิ พ น ธ์งาน เขียน ไว้ต้ังแต่คร้ังเส ด็จข้ึน ครองราชย์เมื่ อคร้ังท รงพ ระเยาว์งานพระราชนิพนธ์ชิ้นแรกๆ ของพระองค์น้ันมีผูท้ ูลขอให้ทรงพระราชนิพนธ์เร่ืองราวต่างๆพ ร ะ ร า ช ท า น แ ต่ ด้ ว ย พ ร ะ อ ง ค์ ท ร ง เห็ น ว่ าท ร ง ไ ม่ ไ ด้ มี ค ว า ม ชํ า น า ญ ใ ด ๆ พ อจึงทรงพระราชนิพนธ์เป็ นบันทึกเร่ืองราวต่างๆ พระราชทาน คือ ‘พระราชานุกิจรัชกาลที่ 8’แ ล ะ พ ร ะ ร า ช นิ พ น ธ์ เร่ื อ ง ‘เมื่ อ ข้ า พ เจ้ า จ า ก ส ย า ม สู่ ส วิ ต เซ อ ร์ แ ล น ด์ ’ต่ อ ม า เม่ื อ พ ร ะ อ ง ค์ ท ร ง เห็ น ว่ า ภ า ษ า อั ง ก ฤ ษ ไ ด้ ก ล า ย ม า เป็ น ภ า ษ า สํ า คั ญในเวลาวา่ งพระองคจ์ ะทรงพระอกั ษรและทรงพระราชนิพนธ์แปลบทความจากวารสารภาษาต่างประเทศ จนใน พ.ศ. 2537 ทรงแปล ‘นายอินทร์ผู้ปิ ดทองหลังพระ’ จาก A Man Called Intrepidงานเขียนของวลิ เลียม สตีเวนสัน และในปี ตอ่ มาทรงแปลเรื่องติโต ผลงานประพนั ธ์ของฟิ ลลิส ออติอนั เป็นชีวประวตั ิของนายพลติโตพระมหาชนกเป็ นพระราชนิพนธ์ชิ้นสาํ คญั ที่ทรงคน้ ควา้ และแปลรวมถึงทรงทาํ เน้ือหาประกอบต่างๆ เช่ น แ ผ น ที่ ฝี พ ร ะ หั ต ถ์ ที่ แ ส ด ง ลั ก ษ ณ ะ ภู มิ ศ า ส ต ร์ ข อ ง เมื อ ง โ บ ร า ณประกอบกับข้อมูลอุตุนิยมวิทยาทิศทางลม นอกจากน้ียงั มีพระราชนิพนธ์เรื่ องทองแดงสุนขั ทรงเล้ียงท่ีทรงโปรดในแง่ความจงรักภกั ดี เราไดห้ ยบิ ยกพระราชนิพนธ์ตา่ งๆ๒. วตั ถุประสงค์ในการศึกษา ๑. เพือ่ ศึกษาเก่ียวกบั ความเป็นมาของศิลปวรรณกรรม ๒.เพอื่ เผยแพร่ศิลปวรรณกรรมดา้ นพระราชนิพนธ์ ๓. เพอื่ ศึกษาเกี่ยวกบั ความสาํ คญั ของศิลปวรรณกรรม๓. ขอบเขตของการศึกษา 1. ดา้ นเน้ือหา ศึกษาเกี่ยวกบั ศิลปวรรณกรรม ศึกษาเก่ียวกบั ที่มาของโครงการศิลปวรรณกรรม ศึกษาเก่ียวกบั ผลงานพระราชนิพนธ์ 2. ดา้ นสถานที่
สาํ นกั หอสมุด มหาวทิ ยาลยั นเรศวร
3. ดา้ นเวลา ตุลาคม พ.ศ.2560 ถึง 15 พฤศจิกายน พ.ศ.2560๔. สมมุติฐานในการศึกษา ศิลปวรรณกรรม ดา้ นพระราชนิพนธ์ น่าจะช่วยใหเ้ กิดความเขา้ ใจมากยงิ่ ข้ึน๕. ผลทค่ี าดว่าจะได้รับ 1. ผศู้ ึกษามีความรู้เกี่ยวกบั โครงการศิลปวรรณกรรม 2. ผทู้ ี่ไดเ้ ขา้ มาศึกษาตา่ งมีความรู้เกี่ยวกบั โครงการศิลปวรรณกรรมมากข้ึน 3. สามารถนาํ ความรู้ที่ไดไ้ ปปรับใชใ้ นการใชช้ ีวติ
บทที่ ๒ เอกสารทเ่ี กยี่ วข้อง ในการศึกษาเร่ืองโครงการศิลปวรรณกรรมคณะผจู้ ดั ทาํ ไดศ้ ึกษาและคน้ ควา้ ขอ้ มูลจากเอกสารตา่ ง ๆ ซ่ึงจะนาํ เสนอดงั น้ี 1. โครงการศิลปวรรณกรรม เช่น พระราชนิพนธ์ 2. ความเป็นมาของโครงการศิลปวรรณกรรม 3. รายช่ือบทความที่ทรงแปลและเรียบเรียง 4. พระราชานุกิจ รัชกาลท่ี 8 5. เม่ือขา้ พเจา้ จากสยามสู่สวสิ แลนด,์ ๒๔๘๙ 6. นายอินทร์ ผปู้ ิ ดทองหลงั พระ (แปล), ๒๕๓๗ 7. ติโต (แปล), ๒๕๓๗ 8. พระมหาชนก, ๒๕๓๙ 9. เร่ืองทองแดง, ๒๕๔๕ 10. พระราชดาํ รัส เป็นพระราชนิพนธ์ที่พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทรงแปลจากภาษาไทยเป็นภาษาองั กฤษ 11. เพลง แสงเทียน 12. เพลง ยามเยน็
โครงการศิลปวรรณกรรม เช่น พระราชนิพนธ์ ผลงานประพนั ธ์ ของพระมหากษัตริย์ ไม่ว่าจะเป็ นหนังสือที่ทรงแต่งหรือเขียนข้ึนเองทรงแปลจากต้นฉบับภาษาต่างประเทศ หรือทรงแต่งเน้ือร้อง ทาํ นองเพลง คาํ ประพนั ธ์ ฯลฯราชาศพั ท์ใช้ว่า พระราชนิพนธ์ เช่น บทละครนอก เร่ืองไชยเชษฐ์ เรื่องสังข์ทอง เรื่องไกรทองเร่ืองมณี พิชัย เร่ืองคาวี เป็ นพระราชนิพนธ์ ของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยซ่ึ งคําว่า พ ระราชนิ พ น ธ์ ยังใช้แก่ ผล งาน ป ระพัน ธ์ ของ ส ม เด็จพ ระบ รม ราชิ นี น าถส ม เด็ จ พ ร ะ บ ร ม ร า ชิ นี ส ม เด็ จ พ ร ะ บ ร ม โ อ ร ส า ธิ ร า ช ส ย า ม ม กุ ฎ ร า ช กุ ม า รส ม เ ด็ จ พ ร ะ เ ท พ รั ต น ร า ช สุ ด า ฯ ส ย า ม บ ร ม ร า ช กุ ม า รี ด้ ว ยหากเป็ นผลงานประพนั ธ์ของพระบรมวงศ์ช้ันสมเด็จเจ้าฟ้าจนถึงพระอนุวงศ์ช้ันพระองค์เจ้าราชาศัพท์ใช้ว่า พระนิพนธ์ และหากเป็ นผลงานประพันธ์ของพระอนุวงศ์ช้ันหม่อมเจ้าใชอ้ ยา่ งคาํ สามญั ว่า นิพนธ์ เช่น นวนิยายเร่ือง “ละครแห่งชีวิต” และนวนิยายเร่ือง “วิมานทลาย”เป็ นนิพนธ์ของหม่อมเจ้าอากาศดําเกิง รพีพัฒน์ แต่หากจะกล่าวถึงคํากริยา “แต่งหนังสื อแ ต่ งคําป ร ะ พัน ธ์ แ ต่ งเน้ื อ ร้ อ ง แ ต่ งทําน อ งเพ ล ง ฯ ล ฯ ” ที่ ใ ช้ แ ก่ พ ร ะ ม ห าก ษั ต ริ ย์ร า ช า ศั พ ท์ ใ ช้ ว่ า ท ร ง พ ร ะ ร า ช นิ พ น ธ์ เ ช่ นพ ระ บ าท ส ม เด็ จ พ ร ะ จุ ล จ อ ม เก ล้าเจ้าอ ยู่หั ว ท ร งพ ระ ร าช นิ พ น ธ์ เรื่ อ ง “ไ ก ล บ้ าน ”พ ระ บ าท ส ม เด็ จพ ระ ม งกุ ฎ เก ล้าเจ้าอ ยู่หั ว ท รงพ ระ ราช นิ พ น ธ์ เร่ื อ ง “เวณิ ส วานิ ช ”หากใช้แก่สมเด็จพระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระบรมราชินี สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชส ย า ม ม กุ ฎ ร า ช กุ ม า ร ส ม เด็ จ พ ร ะ เท พ รั ต น ร า ช สุ ด า ฯ ส ย า ม บ ร ม ร า ช กุ ม า รีร า ช า ศั พ ท์ ใ ช้ ว่ า ท ร ง พ ร ะ ร า ช นิ พ น ธ์ เ ช่ น กั นซ่ึ ง ห าก ใ ช้ แ ก่ พ ร ะ บ ร ม ว ง ศ์ ช้ั น ส ม เด็ จ เจ้าฟ้ าจ น ถึ ง พ ร ะ อ นุ ว ง ศ์ ช้ั น พ ร ะ อ ง ค์ เจ้าราชาศัพ ท์ใช้ว่า ท รงพ ระนิ พ น ธ์ เช่ น ส ม เด็จพ ระเจ้าพี่ น างเธอ เจ้าฟ้ ากัล ยาณิ วัฒ น ากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงพระนิพนธ์ผลงานเก่ียวกับพระบรมราชวงศ์หลายเรื่องเป็ นต้นว่า จุฬาลงกรณราชสันตติวงศ์ พระราชธิดาในรัชกาลที่ ๕ เจ้านายเล็ก ๆ-ยุวกษัตริย์ไปรษณียบตั รเจา้ ฟ้า สมเด็จพระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาดาํ รงราชานุภาพ ทรงพระนิพนธ์เร่ือง“ความทรงจาํ ” แต่หากพระอนุวงศช์ ้นั หม่อมเจา้ ทรงแต่งคาํ ประพนั ธ์ แต่งเน้ือร้อง แต่งทาํ นองเพลงฯลฯ ราชาศพั ท์ใช้ว่า ทรงนิพนธ์ เช่น หม่อมเจา้ อากาศดาํ เกิง รพีพฒั น์ ทรงนิพนธ์นวนิยายเรื่อง“ล ะ ค ร แ ห่ ง ชี วิ ต ” แ ล ะ เ รื่ อ ง “วิ ม า น ท ล า ย ”
เมื่อจะใช้ราชาศพั ท์ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั คาํ ดงั กล่าวจึงควรพิจารณาด้วยว่าในถ้อยคาํ หรือขอ้ ความน้นั ๆควรใชเ้ ป็นคาํ นามหรือคาํ กริยาและพิจารณาเลือกใชค้ าํ ใหเ้ หมาะสมแก่พระอิสริยศกั ด์ิของเจา้ นายดว้ยความเป็ นมาของโครงการศิลปะวรรณกรรม พ ร ะ บ า ท ส ม เ ด็ จ พ ร ะ เ จ้ า อ ยู่ หั วไดท้ รงพระมหากรุณารับสั่งเล่าเบ้ืองหลงั การพระราชนิพนธ์เพลงเป็นคร้ังแรกแก่สมาคมดนตรีเนื่องใน โอก าส ที่ พ ระราช ท าน เพ ล งพ ระ ราช นิ พ น ธ์ \" Echo\" บ รรเล งเป็ น ป ฐม ฤ ก ษ์ ว่า \"(เพลงแรกคือแสงเทียน)... จากน้ัน ฉันก็แต่งข้ึนอีกเรื่ อย ๆ จนบัดนี้รวมท้ังหมด ๔๐ เพลงในระยะเวลา ๒๐ ปี คิดเฉล่ียปี ละ ๒ เพลง ท่ีทาํ ได้ก็เพราะได้รับความสนับสนุนจากนักดนตรีนักเพลงและนักร้อง รวมท้งั ประชาชนผูฟ้ ัง ต่างได้แสดงความพอใจ และความนิยมพอสมควรจึ ง เ ป็ น กํ า ลั ง ใ จ แ ก่ ฉั น เ รื่ อ ย ม า ข อ ถื อ โ อ ก า ส ข อ บ ใ จ ม า ใ น ที่ น้ี ด้ ว ย\" พ ร ะ บ า ท ส ม เ ด็ จ พ ร ะ เ จ้ า อ ยู่ หั ว ภู มิ พ ล อ ดุ ล ย เ ด ชท ร ง พ ร ะ ร า ช นิ พ น ธ์ ทํ า น อ ง เ พ ล ง \"Echo\" ใ น ปี พุ ท ธ ศั ก ร า ช ๒ ๕ ๐ ๙นั บ เป็ น บ ท แ ร ก ที่ ท ร ง พ ร ะ ร าช นิ พ น ธ์ ทํ าน อ ง เพ ล ง พ ร้ อ ม คําร้ อ ง ภ าษ าอัง ก ฤ ษขณะน้ันมีพระชนมพรรษา ๔๐ พรรษา ยอ้ นหลังไป ๔ ปี ก่อนทรงพระราชนิพนธ์ \"Echo\"พระราชอจั ฉริยภาพดา้ นดนตรีในพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หัวไดป้ รากฏก้องในนานาประเทศขณะที่เสด็จพระราชดาํ เนินเยือนประเทศสาธารณรัฐออสเตรียอยา่ งเป็ นทางการในปี พุทธศกั ราช๒๕๐๗ สถาบนั การดนตรีและศิลปะแห่งกรุงเวียนนา (Die Akademie fur Musik und DarstellendeKunst in Wien) ไ ด้ ทู ล เก ล้ า ถ ว า ย ตํ า แ ห น่ ง อั น ท ร ง เกี ย ร ติ สู ง ส่ ง ยิ่ ง นั่ น คื อสมาชิกกิตติมศกั ด์ิของสถาบนั อนั เก่าแก่แห่งน้ี เนื่องจากพระปรีชาสามารถในการพระราชนิพนธ์ดน ต รี เป็ น ท่ี ป ราก ฏ แล ะ นิ ยม ชื่ น ช ม อ ย่างก ว้างข วางใน ห มู่ ป ระ ช าช น ช าวอ อ ส เต รี ยจ น ก ร ะ ท่ั งว งดุ ริ ย างค์ นี เด อ ร์ เอ อ ส เต อ ร์ ไร ซ์ โท น คั น ส ท์ เล อ ร์ (Nieder OsterreichTonkunstler) ได้อัญ เชิ ญ เพ ล งพ ระ ราช นิ พ น ธ์ ชุ ด \"ม โน ราห์ \" \"ส ายฝ น \" \"ยาม เย็น \"\" ม า ร์ ช ร า ช น า วิ ก โ ย ธิ น \" แ ล ะ\"มาร์ชราชวลั ลภ\" ออกกระจายเสียงทางสถานีวทิ ยขุ องรัฐบาลถ่ายทอดไปทว่ั ดินแดนแห่งดนตรีคล
าสสิกอนั ลือช่ือของทวีปยุโรป และหากจะยอ้ นหลังไปอีกคร้ังหน่ึง ในปี พุทธศักราช ๒๕๐๓เ มื่ อ เ ส ด็ จ พ ร ะ ร า ช ดํ า เ นิ น เ ยื อ น ป ร ะ เ ท ศ ส ห รั ฐ เ อ ม ริ ก าพ ร ะ ป รี ช า ส า ม า ร ถ ด้ า น ด น ต รี แ จ๊ ส ใ น พ ร ะ บ า ท ส ม เด็ จ พ ร ะ เจ้ า อ ยู่ หั วได้ป ราก ฏ เลื่ อ งลื อ ไป ท่ัวป ระ เท ศ อัน เป็ น ศู น ย์ก ล างด น ต รี ร่ วม ส มัยป ระเภ ท น้ี ด้วยท ร ง เ ข้ า ร่ ว ม บ ร ร เ ล ง ด น ต รี โ ด ย มิ ไ ด้ เ ต รี ย ม พ ร ะ อ ง ค์ ม า ก่ อ นท ร ง พ ร ะ ร า ช นิ พ น ธ์ ทํ า น อ ง เ พ ล ง ข้ึ น อ ย่ า ง ฉั บ พ ลั นและยงั ทรงบรรเลงโตต้ อบกบั นกั ดนตรีแจส๊ ชาวอเมริกนั อนั ลือนามอีกดว้ ย บรรยากาศอนั เป็ นกนั เองท่ี มิ ไ ด้เต รี ย ม ก าร ล่ ว งห น้ าเช่ น น้ี เป็ น ท่ี นิ ย ม ย ก ย่อ งข อ งช าว อ เม ริ กัน เป็ น อ ย่างยิ่ งสถานีวิทยุเสี ยงแห่งอเมริ กา ได้เชิญบทที่พระราชทานสัมภาษณ์ พิเศษเป็ นภาษาอังกฤษพ ร้ อม ท้ังด น ต รี ที่ ท รงร่ วม บ รรเล งออก ก ระ จายเสี ยงท างส ถ านี วิท ยุไป ทั่วโล ก ด้วยนบั เป็นส่วนหน่ึงที่ช่วยในการกระชบั มิตรภาพคร้ังสาํ คญั คร้ังแรกระหวา่ งไทยกบั สหรัฐในยคุ น้นั ๔๐ ปี ไดผ้ ่านไปหลงั จากที่ทรงพระราชนิพนธ์ \"แสงเทียน\" เป็ นเพลงแรกในปี พุทธศกั ราช ๒๔๘๙ปัจจุบนั มีเพลงพระราชนิพนธ์ รวมท้งั สิ้น ๔๓ เพลง อาจกล่าวไดว้ า่ บทเพลงพระราชนิพนธ์ต่าง ๆไดก้ ลายเป็นส่วนสาํ คญั ส่วนหน่ึงของชีวิตคนไทย อาทิเช่นในวงการบนั เทิง บทเพลงพระราชนิพนธ์คื อทาํ นองเพลงอนั ไพเราะที่ทุกคนรู้จกั ดีและสามารถร้องเพลงไดข้ ้ึนใจ ในปัจจุบนั \"พรปี ใหม่\" ไดก้ ลา ย เป็ น เพ ล ง ป ร ะ เพ ณี ใ น วั น ส่ ง ท้ า ย ปี เก่ า แ ล ะ ต้ อ น รั บ ปี ใ ห ม่ ข อ ง ค น ไ ท ยในสถาบันการศึกษาระดับสู งของประเทศ \"มหาจุฬ าลงกรณ์ \" \"ธรรมศาสตร์ \" และ\"เกษตรศาสตร์ \" ได้กลายเป็ นเพลงอันศักด์ิสิทธ์ิประจํามหาวิทยาลัยอันเก่าแก่ท้ังสามแห่งและในวงราชการทหาร \"มาร์ชราชวลั ลภ\" และ \"มาร์ชธงชัยเฉลมิ พล\" ไดก้ ลายเป็นแบบฉบบั ของด น ต รี ม า ร์ ช ที่ ใ ช้ บ ร ร เล ง ป ร ะ จํ า ปี ใ น พ ร ะ ร า ช พิ ธี อั น สํ า คั ญ ยิ่ ง ข อ ง ช า ติ คื อพ ร ะ ร า ช พิ ธี ป ฏิ ญ า ณ ต น แ ล ะ ต ร ว จ พ ล ส ว น ส น า ม ข อ ง ท ห า ร รั ก ษ า พ ร ะ อ ง ค์เ น่ื อ ง ใ น โ อ ก า ส วั น เ ฉ ลิ ม พ ร ะ ช น ม พ ร ร ษ าจากลกั ษณะพิเศษตา่ ง ๆ ของเพลงพระราชนิพนธ์น้ีอาจกล่าวไดว้ า่ บทพระราชนิพนธ์ท้งั ๔๓ เพลงน้ีต่ า ง ส ะ ท้ อ น ถึ ง ส ะ ท้ อ น ถึ ง พ ร ะ ร า ช ป ร ะ วั ติ ต้ั ง แ ต่ ท ร ง พ ร ะ เ ย า ว์ตลอดจนพ ระราชกรณี ยกิ จนานัปการท่ี ได้ทรงป ฏิ บัติต้ังแต่เส ด็จข้ึนเส วยราชส มบัติเป็นพยานแห่งความสัมพนั ธ์อนั แนบแน่นระหวา่ งพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั และประชาชนชาวไ
ท ย ต้ั ง แ ต่ อ ดี ต จ น ถึ ง ปั จ จุ บั น เป็ น เค รื่ อ ง ยื น ยัน ว่ าค ว า ม สุ ข ข อ ง ป ว ง ป ร ะ ช า คื อความสุขของพระมหากษตั ริยพ์ ระองคน์ ้ีรายช่ือบทความทที่ รงแปลและเรียบเรียง 1. ขา่ วจากวทิ ยเุ พือ่ สนั ติภาพและความกา้ วหนา้ จาก Radio Peace and Progress ในนิตยสารIntelligence Degest ฉบบั ลงวนั ท่ี 1 เมษายน ค.ศ. 1975 (พ.ศ. 2518) 2. การคืบหนา้ ของมาร์กศิสต์ จาก The Marxist Advance Special Brief 3. รายงานตามนโยบายคอมมิวนิสต์ จาก Following the Communist Line 4. ฝันร้ายไมจ่ าํ เป็ นจะตอ้ งเป็ นจริง จาก No Need for Apocalypse ในนิตยสาร TheEconomistฉบบั ลงวนั ท่ี 17 พฤษภาคม ค.ศ. 1975(พ.ศ. 2518) 5. รายงานจากลอนดอน จาก London Report ในนิตยสาร Intelligence Digest : WeeklyReviewฉบบั ลงวนั ท่ี 18 มิถุนายน ค.ศ.1975(พ.ศ. 2518) 6. ประเทศจีนอยยู่ ง จง Eternal China ในนิตยสาร Intelligence Digest : Weekly Reviewฉบบั ลงวนั ท่ี 13 มิถุนายน ค.ศ.1975(พ.ศ. 2518) 7. ทศั นะน่าอศั จรรยจ์ ากชิลีหลงั สมยั อาลเ์ ลนเด จาก Surprising Views from a Post-AllendeChile
ในนิตยาสาร Intelligence Digest : Weekly Review ฉบบั ลงวนั ที่ 20 มิถุนายน ค.ศ.1975(พ.ศ. 2518) 8. เขาวา่ อยา่ งน้นั เรากว็ า่ อยา่ งน้นั จาก Sauce for the Gander…ในนิตยาสาร Intelligence Digest : Weekly Review ฉบบั ลงวนั ท่ี 20 มิถุนายน ค.ศ.1975(พ.ศ.2518) 9. จีนแดง : ต้วั เฮียคา้ ยาเสพติดแห่งโลก จาก Red China : Drug Pushers to the WorldในนิตยาสารIntelligence Digest : Weekly Review ฉบบั ลงวนั ที่ 20 มิถุนายน ค.ศ.1975(พ.ศ. 2518) 10. วรี บุรุษตามสมยั นิยม จาก Fashion n Heroes โดย George F.Will ในนิตยสารNewsweekฉบบั ลงวนั ที่ 6 สิงหาคม ค.ศ.1979(พ.ศ. 2522)พระราชานุกจิ รัชกาลท่ี 8 พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทรงพระราชนิพนธ์เร่ือง “พระราชานุกิจรัชกาลท่ี ๘”น้ีตามคาํ กราบบงั คมทูล ขอพระราชทานของหม่อมเจา้ หญิงพนู พสิ มยัดิศกุล เพ่ือใหพ้ ระราชานุกิจกรุงรัตนโกสินทร์ครบแปดรัชกาล พระราชนิพนธ์เร่ืองน้ีอยูใ่ นเรื่อง
“พระราชานุกิจ” ซ่ึงทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ใหพ้ มิ พพ์ ระราชทาน ในการพระราชกุศล ๑๐๐ วนัพระบรมศพพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาอานนั ทมหิดล ณ วนั ท่ี ๒๐ กนั ยายน พ.ศ. ๒๔๘๙ พระราชานุกิจ คือ กาํ หนดเวลาที่พระเจา้ แผน่ ดินจะทรงประพฤติพระราชกิจตา่ ง ๆเป็นประจาํ ทุกวนั เป็นการส่วนพระองคไ์ ม่เก่ียวกบั ราชการแผน่ ดินพระเจา้ แผน่ ดินไดท้ รงประพฤติ มาแต่สมยั กรุงศรีอยธุ ยาปรากฏอยใู่ นกฎมณเฑียรบาล ในรัชกาลสมเดจ็ พระบรมไตรโลกนารถ พระราชนิพนธ์เรื่องน้ีทาํ ให้ผอู้ ่านรัก เคารพ และเทิดทูนพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั อานนั ทมหิดลเป็นอยา่ งยงิ่ ท้งั ยงั แสดงพระปรีชาญาณดา้ นภาษาไทย ของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั ต้งั แตย่ งั ทรงพระเยาวอ์ ีกดว้ ยเมื่อข้าพเจ้าจากสยามสู่สวสิ แลนด์, ๒๔๘๙ พระราชนิพนธ์เร่ืองแรก “เมื่อขา้ พเจา้ จากสยามมาสู่สวสิ เซอร์แลนด”์โดยพระราชนิพนธ์เร่ืองน้ีไดต้ ีพมิ พค์ ร้ังแรกในหนงั สือรายเดือน วงวรรณคดีฉบบั ประจาํ เดือนสิงหาคม พ.ศ.2490 เป็นตอนแรกโดยพระบรมราชานุญาติพิเศษเฉพาะหนงั สือเล่มน้ีเท่าน้นั ในขณะน้นั ถือไดว้ า่ หนงั สือวงวรรณคดีจดั วา่ เป็ นหนงั สือท่ีดีและมีเน้ือหาสาระที่มีคุณค่าอยา่ งมากในสมยั น้นั
พระราชนิพนธ์ “เมื่อขา้ พเจา้ จากสยามสู่สวสิ แลนด”์เป็นบนั ทึกของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วัไดพ้ ระราชนิพนธ์ข้ึนในช่วงเวลาเสดจ็ พระราชดาํ เนินเพ่ือกลบั ไปศึกษาตอ่ ที่ประเทศสวติ เซอร์แลนดอ์ ีกคร้ัง เมื่อวนั ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ.2489หลงั จากที่พระองคท์ า่ นทรงเสด็จข้ึนครองราชยเ์ ป็นพระมหากษตั ริยล์ าํ ดบั ที่ 9 ในราชวงศจ์ กั รีเม่ือวนั ท่ี 9 มิถุนายน พ.ศ.2489 พระองคไ์ ดท้ รงบนั ทึกผา่ นพระอกั ษรเป็ นเรื่องราวการเดินทางแสดงถึงความรู้สึกของพระองค์ ตลอดถึงเหตุการณ์ท่ีทรงไดป้ ระสบพบเจอ ดงั ขออญั เชิญความตอนหน่ึงในพระราชนิพนธ์เล่มน้ีท่ีพสกนิกรชาวไทย รู้สึกประทบั ใจในพระเจา้ อยูห่ วั ของเราอญั เชิญ ความตอนหน่งึ ในพระราชนพิ นธ์เรื่อง “เม่ือข้าพเจ้าจากสยามสู่สวสิ แลนด์”“ วนั ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2489 - วนั น้ีถึงวนั ท่ีเราจะตอ้ งจากไปแลว้ ...พอถึงเวลากล็ งจากรถพระที่นง่ั พร้อมกบั แม่ลาเจา้ นายฝ่ ายใน ณ พระท่ีนง่ั ช้นั ล่าง แลว้ ก็ไปยงั วดั พระแกว้ เพื่อนมสั การลาพระแกว้ มรกตและพระภิกษสุ งฆ์ลาเจา้ นายฝ่ ายหนา้ ลาขา้ ราชการท้งั ไทยและฝรั่ง แลว้ ก็ไปข้ึนรถยนต์ พอรถแล่นออกไปไดไ้ ม่ถึง 200 เมตรมีหญิงคนหน่ึงเขา้ มาหยดุ รถแลว้ ส่งกระป๋ องใหเ้ ราคนละใบ ราชองครักษไ์ ม่แน่ใจวา่ จะมีอะไรอยใู่ นน้นับางทีจะเป็ นลูกระเบิด! เม่ือมาเปิ ดดูภายหลงั ปรากฏวา่ เป็ นทอฟฟ่ี ที่อร่อยมาก ตามถนนผคู้ นช่างมากมายเสียจริงๆท่ีถนนราชดาํ เนินกลาง ราษฎรเขา้ มาใกลช้ ิดรถท่ีเรานงั่กลวั เหลือเกินวา่ ลอ้ รถของเราจะไปทบั แขง้ ทบั ขาใครเขา้ บา้ ง รถแลน่ ฝ่ าฝงู ชนไปไดอ้ ยา่ งชา้ ท่ีสุดถึงวดั เบญจมบพติ ร รถแลน่ เร็วข้นึ ไดบ้ า้ ง ตามทางที่ผา่ นมาไดย้ นิ เสียง ใครคนหน่ึงร้องข้ึนมาดงั ๆวา่ “อย่าละทงิ้ ประชาชน” อยากจะร้องบอกเขาส่งไปวา่ “ถ้าประชาชนไม่ทงิ้ ข้าพเจ้าแล้วข้าพเจ้าจะละทงิ้อย่างไรได้” แต่รถวงิ่ เร็วและเลยไปไกลเสียแลว้ ”นายอนิ ทร์ ผู้ปิ ดทองหลงั พระ (แปล), ๒๕๓๗
“นายอินทร์ผปู้ ิ ดทองหลงั พระ” ทรงแปลจากตน้ ฉบบั ภาษาองั กฤษเร่ือง “A MANCALLED INTREPID” บทประพนั ธ์ของ เซอร์วลิ เลียม สตีเฟนสนั (William Stevenson)เป็นหนงั สือท่ีไดร้ ับความนิยมและมียอดจาํ หน่ายกวา่ สองลา้ นเล่มพระองคท์ รงใชร้ ะยะเวลาในการแปลถึง 3 ปี เร่ิมต้งั แต่เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2520และเสร็จเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2523 โดยหนงั สือเล่มน้ีมีจาํ นวนถึง 501 หนา้แสดงใหเ้ ห็นวา่ ทรงมีพระราชอุตสาหะในการแปลเป็นอยา่ งมาก และในเดือนธนั วาคมพ.ศ.2536 ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ใหบ้ ริษทั อมรินทร์พริ้นติง้ แอนดพ์ บั ลิชชิ่ง จาํ กดั (มหาชน)จดั พิมพแ์ ละจดั จาํ หน่ายทวั่ ประเทศ ในปี พ.ศ. 2537โดยมอบรายไดจ้ ากการจดั จาํ หน่ายสมทบมูลนิธิชยั พฒั นา \"นายอินทร์ผปู้ ิ ดทองหลงั พระ\" เป็นเรื่องราวเกี่ยวกบั นายอินท์ หรือ INTREPIDเป็นชื่อรหสั ของ เซอร์วลิ เลียม สตีเฟนสัน ซ่ึงเป็นหวั หนา้ หน่วยราชการลบั อาสาสมคั รขององั กฤษในระหวา่ งสงครามโลกคร้ังที่ 2 มีหนา้ ที่ลว้ งความลบั ทางทหารของเยอรมนัเพอื่ รายงานตอ่ นายเซอร์วนิ สตนั เชอร์ชิลนายกรัฐมนตรีองั กฤษ และประธานาธิบดีรูสเวลท์แห่งสหรัฐอเมริกาเพอ่ื ร่วมกนั ต่อตา้ นการขยายอาํ นาจของนาซีหรือแผนร้ายของฮิตเลอร์ท่ีหวงั แผอ่ าํ นาจเขา้ มาครอบครองโลกโดยมี “นายอินทร์”และผรู้ ่วมในงานน้ีเป็นตวั อยา่ งของผกู้ ลา้ หาญที่ยอมอุทิศชีวติ เพื่อความถูกตอ้ ง ยตุ ิธรรม เสรีภาพและสนั ติภาพ โดยไม่หวงั ลาภยศสรรเสริญใดๆตโิ ต (แปล), ๒๕๓๗
พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทรงแปลเรื่อง ติโต จากตน้ ฉบบั เร่ือง TITO ของ Phyllis Autyเม่ือปี พ.ศ.2519 เพ่ือใชใ้ นศึกษาและเรียนรู้บุคคลท่ีน่าสนใจของโลกคนหน่ึงรวมถึงผสู้ นใจในประวตั ิศาสตร์ไดร้ ู้จกั ติโต อยา่ งกวา้ งขวางมากข้ึน จึงทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯใหบ้ ริษทั อมรินทร์พริ้นติง้ แอนดพ์ บั ลิชชิ่ง จาํ กดั (มหาชน) จดั พิมพแ์ ละจดั จาํ หน่ายทว่ั ประเทศ ในปีพ.ศ. 2537 โดยมอบรายไดจ้ ากการจดั จาํ หน่ายสมทบมูลนิธิชยั พฒั นาเร่ืองราวในพระราชนิพนธ์ ติโต มีใจความโดยสรุปดงั นี้ ติโต รู้จกั กนั ในนามของจอมพลติโต เดิมช่ือ โจซิบ โบรซ (Josip Broz) พ.ศ. 2435-2523 นายกรัฐมนตรีคอมมิวนิสตค์ นแรก (พ.ศ. 2488) และประธานาธิบดีของประเทศยโู กสลาเวยี(พ.ศ. 2496-2523) เกิดท่ีเมืองคุมโรเวค โครเอเชีย ในปี 2491 ติโตไดแ้ ยกประเทศออกจากโซเวยี ตทาํ การพฒั นาประเทศและต้งั ตนเป็ นประเทศคอมมิวนิสตอ์ ิสระ (ลทั ธิติโต)เป็นผกู้ ่อต้งั สมาคมประเทศผไู้ ม่ฝักใฝ่ ฝ่ ายใด ติโต เป็นรัฐบุรุษของประเทศยโู กสลาเวยีซ่ึงประกอบดว้ ยหลายชนชาติ มีความแตกตา่ งทางดา้ นเช้ือชาติ ศาสนา วฒั นธรรมและประวตั ิศาสตร์ เม่ือในยามวกิ ฤติประชาชนกลบั มารวมกนั เป็นปึ กแผน่สามารถรักษาความสมบูรณ์และเพิม่ พนู ความเจริญของประเทศตลอดชีวติ ของเขา ในปี พ.ศ.2523ติโตเสียชีวติ มีอายุ 88 ปี หลงั จากน้นั ประเทศยโู กสลาเวยี กค็ อ่ ยๆ สลายลง จนกระทง่ัมีความแตกแยก จนยากท่ีจะแกไ้ ขได้ ดงั ที่เป็นอยใู่ นปัจจุบนั \"คาํ วา่ การต่อสู้เพ่ือเอกราชของชาติบา้ นเมืองตอ้ งหมายตลอดถึงเสรีภาพของชาวโครแอต สโลวนี เซิร์บ มาร์เซโดเนียน ชิปตา้ ร์ มุสลิมพร้อมกนั หมด ตอ้ งหมายวา่ การต่อสู้จะนาํ มาซ่ึงอิสระภาพ เสมอภาค และภารดรภาพสาํ หรับทุกชนชาติในยโู กสวาเวยี อยา่ งแทจ้ ริง น่ีคือสารัตถ์สาํ คญั ของการต่อสู้เพ่ือเอกราชของชาติ\"ติโตกล่าวในปี 1942 (ติโตพระราชนิพนธ์แปลหนา้ 62-63)พระมหาชนก,๒๕๓๙
พระราชนิพนธ์เรื่อง พระมหาชนก มีท้งั ภาคภาษาไทยและภาษาองั กฤษอยใู่ นเล่มเดียวกนัพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั ทรงแปลพระมหาชนกชาดกเสร็จสมบูรณ์ เม่ือ พ.ศ. 2531และทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ จดั พิมพ์ ในโอกาสเฉลิมฉลองกาญจนาภิเษกแห่งรัชกาล เม่ือปีพ.ศ.2539 พระราชนิพนธ์พระมหาชนกน้ี มีภาพวาดโดยศิลปิ นท่ีมีชื่อเสียหลายทา่ นท่ีสาํ คญั ท่ีสุดคือมีภาพฝีพระหตั ถข์ องพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั อาทิเช่น ภาพวนั ท่ีเรือล่มโดยมีแผนท่ีอากาศแสดงเส้นทางพายจุ ริงๆ และภาพพระมหาชนกทรงวา่ ยน้าํโดยมีนางมณีเมขลาเหาะอยเู่ บ้ืองบน เป็ นตน้พระราชนิพนธ์เรื่องพระมหาชนกก็จะช่วยใหท้ ุกคนสามารถพิจารณาแนวดาํ เนินชีวติ ที่เป็นมงคล เวลาน้ีพระราชนิพนธ์ \"พระมหาชนก\" ไดพ้ ิมพเ์ ผยแพร่ออกสู่สายตาผอู้ า่ นจาํ นวนมากจดั พมิ พโ์ ดยบริษทั อมั รินทร์ พริ้นติ้งแอนด์ พบั ลิซซ่ิง จาํ กดั(มหาชน) นอกจากเน้ือหาที่ทรงคุณคา่ แลว้ ยงั มีภาพวาดประกอบของจิตรกรช่ือดงั 8 คนคือ จินตนา เปี่ ยมศิริ, ประหยดั พงษด์ าํ , พชิ ยั นิรันต,์ ปรีชา เถาทอง, เฉลิมชยั โฆษิตพพิ ฒั น์,ปัญญา วจิ ินธนสาร, ธีระวฒั น์ คะนะมะ,เนติกร ชินโย พมิ พล์ ายสีสวยสดใส ทาํ ใหห้ นงั สือน่าอา่ นและน่าเก็บรักษาไว้เรื่องราวในพระราชนิพนธ์ “พระมหาชนก” มีใจความโดยสรุปดังนี้ พระมหาชนก เป็นกษตั ริยแ์ ห่งกรุงมิถิลา แควน้ วเิ ทหะ ทรงมีพระราชโอรส 2 พระองค์ คือ“พระอริฎฐชนก” และ “พระโปลชนก” หลงั จากพระมหาชนกสวรรคตพระอริฏฐชนกไดข้ ้ึนครองราชยส์ มบตั ิ และทรงแตง่ ต้งั พระโปลชนกเป็นอุปราชต่อมาไดเ้ กิดเหตุสู้รบกนั ระหวา่ งพระอริฏฐชนกและพระโปลชนกอนั เน่ืองมาจากการยแุ หยข่ องเหล่าอมาตยใ์ กลช้ ิด พระอริฏฐชนก ไดส้ ิ้นพระชนมช์ ีพในสนามรบพระเทวซี ่ึงเป็นพระอคั รมเหสีกาํ ลงั ทรงพระครรภอ์ ยจู่ ึงไดห้ ลบหนีออกจากกรุงมิถิลามุ่งหนา้ สู่นครจมั ปากะและตอ่ มาไดป้ ระสูติพระโอรสซ่ึงมีวรรณะดงั่ ทองพระเทวไี ดข้ นานนามพระโอรสเหมือนพระอยั กาวา่ “มหาชนกกมุ าร” พระมหาชนกทรงทราบเร่ืองเก่ียวกบั พระบิดาต้งั แต่ยงั ทรงพระเยาวจ์ ึงต้งั พระทยั เสดจ็ ฯ
คา้ ขายยงั เมืองสุวรรณภูมิ เพื่อใหไ้ ดท้ รัพยเ์ พ่ือทาํ การทวงสมบตั ิคืน จึงทรงนาํ พวกพาณิชประมาณ700 คนข้ึนเรือเดินทางออกสู่มหาสมุทร ซ่ึงเป็นวนั เดียวกบั ที่พระโปลชนกทรงประชวรเม่ือเรือแล่นไปได้ 7 วนั ไกลประมาณ 700 โยชน์ ก็เจอคลื่นยกั ษจ์ นเรืออบั ปางและวนั น้นั ก็เป็นวนั ที่พระโปลชนกสวรรคต พระมหาชนกทรงวา่ ยน้าํ ขา้ มมหาสมุทรอยู่ 7 วนั เทพธิกาชื่อ “มณีเมขลา”ผดู้ ูแลรักษาสตั วท์ ้งั หลายผปู้ ระกอบดว้ ยคุณความดี ไมใ่ ห้ตามในมหาสมุทรกต็ รวจตราพบจึงเหาะมาทดลองความเพยี รโดยถามพระมหาชนกวา่ เมื่อมองไม่เห็นฝ่ังแลว้ จะพยายามวา่ ยอยทู่ าํ ไมพระมหาชนกตรัสตอบวา่ “เราไตร่ตรองเห็นปฏิปทาแห่งโลก และอานิสงส์ แห่งความเพยี รเพราะฉะน้นั ถึงจะมองไม่เห็นฝั่ง เราก็ตอ้ งพยายามวา่ ยอยูท่ ่านกลางมหาสมุทร และ“เราทาํ ความพยามยามแมต้ ายก็จกั พน้ ครหา บุคคลเมื่อกระทาํ ความเพยี รแมจ้ ะตายกช็ ่ือวา่ ไมเ่ ป็ นหน้ีในระหวา่ งหมู่ ญาติ เทวดา และบิดา มารดา อน่ึงบุคคลเม่ือทาํ กิจอยา่ งลูกผชู้ าย ยอ่ มไมเ่ ดือดร้อนในภายหลงั ” นางมณีเมขลายงั ได้ กล่าวทดลองความเพยี รของพระมหาชนกอีกหลายประการจนไดป้ ระจกั ษใ์ นความเพยี รของพระองค์ จึงไดอ้ ุม้ พาเหาะไปในอากาศจนถึงเมืองมิถิลา ดว้ ยความเพยี รและปัญญา ทาํ ใหพ้ ระมหาชนกสามารถตอบปัญหา 4 ขอ้ท่ีพระโปลชนกทิง้ ไวก้ ่อนสวรรคตได้ และไดอ้ ภิเษก กบั “สีวลีเทว”ีพระธิดาองคเ์ ดียวของพระโปลชนก ตลอดจนไดค้ รองกรุงมิถิลาและตอ่ มาไดท้ รงต้งั สถาบนั การศึกษาข้ึน ช่ือวา่ “ปูทะเลยม์ หาวชิ ชาลยั ”
เรื่องทองแดง, ๒๕๔๕ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยทู่ รงพระราชนิพนธ์ เรื่อง ทองแดง (The Story of Tongdaeng)เผยแพร่เป็ นภาษาไทยและภาษาองั กฤษในเล่มเดียวกนัเร่ืองทองแดงเป็นหนงั สือพระราชนิพนธ์ท่ีติดอนั ดบั ขายดีท่ีสุดของประเทศในปี พ.ศ.2545เก่ียวกบั \"คุณทองแดง\" สุนขั ธรรมดาที่ไมธ่ รรมดาเพราะมีลกั ษณะพิเศษท้งั ดา้ นกายภาพและอุปนิสยั แสนรู้ เฉลียวฉลาดเป็นสุนขั ตวั โปรดของพระองคท์ ่านที่มีช่ือเสียงโด่งดงัเป็นท่ีประทบั ใจของประชาชนชาวไทยทุกคน คุณทองแดง สุนขั ทรงเล้ียงสุนขั ตวั ที่ 17ในพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วัเป็นสุนขั ทรงเล้ียงท่ีติดตามถวายงานรับใชพ้ ระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั ทุกคร้ังไม่วา่ จะเสด็จพระราชดาํ เนินไปที่ใดเน้ือหาหลกั เป็นเรื่องความกตญั ญูรู้คุณของคุณทองแดง รวมท้งั ความจงรักภกั ดีความมีมารยาท และการสั่งสอนลูกของคุณทองแดงและในพระราชนิพนธ์ไดท้ รงยกยอ่ งคุณทองแดงในเร่ืองความกตญั ญูรู้คุณของคุณทองแดงที่มีต่อแม่มะลิ \"ผดิ กบั คนอ่ืนที่เมื่อกลายมาเป็นคนสาํ คญั แลว้ มกั จะลืมตวัและดูหมิ่นผมู้ ีพระคุณซ่ึงเป็ นคนต่าํ ตอ้ ย\" อนั เป็ นประโยชน์ต่อการดาํ รงชีวติพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทรงมีพระราชดาํ ริวา่ทองแดงเป็นสุนขั ธรรมดาท่ีไมธ่ รรมดามีชื่อเสียงเป็นที่รู้จกั กนั นบั วา่ กวา้ งขวางมีผเู้ ขียนเรื่องทองแดงกห็ ลายเร่ืองแตน่ ่าเสียดายวา่ เร่ืองท่ีเล่า
มกั มีความคลาดเคล่ือนจากความ เป็นจริง และขาดขอ้ มูลสาํ คญั หลายประการ โดยเฉพาะเก่ียวกบั ความกตญั ญูรู้คุณของทองแดงท่ีมีตอ่ “แม่มะลิ ท่ีพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั ทรงยกยอ่ งวา่ ” ผดิ กบั คนอ่ืนที่เม่ือกลายมาเป็ นคนสาํ คญั แล้ว มกั จะลืมตวั และดูหมิ่นผมู้ ีพระคุณท่ีเป็นคนต่าํ ตอ้ ยพระราชดารัสเป็ นพระราชนิพนธ์ทพ่ี ระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั ทรงแปลจากภาษาไทยเป็ นภาษาองั กฤษพ ร ะ ร าช ดํารั ส ที่ พ ร ะ ร าช ท าน แ ก่ ค ณ ะ บุ ค ค ล ที่ เข้ าเฝ้ า ถ ว าย ชั ย ม ง ค ลเ นื่ อ ง ใ น ว โ ร ก า ส วั น เ ฉ ลิ ม พ ร ะ ช น พ ร ร ษ า ข อ ง ทุ ก ปีเป็ นพระราชนิพนธ์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงแปลจากภาษาไทยเป็ นภาษาอังกฤษพระองคท์ รงเร่ิมแปลพระราชดาํ รัส เร่ืองน้าํ และส่ิงแวดลอ้ มซ่ึงมีพระราชดาํ รัสเม่ือวนั ที่ 4 ธนั วาคมพ .ศ . 2532 พ ร ะ ร า ช ดํ า รั ส ใ น ค ร้ั ง น้ี ไ ด้ รั บ ค ว า ม ส น ใ จ จ า ก ส ห ป ร ะ ช า ช า ติแ ล ะ มี ค ว า ม ป ร ะ ส ง ค์ จ ะ ไ ด้ รั บ ฉ บั บ ท่ี แ ป ล เ ป็ น ภ า ษ า อั ง ก ฤ ษซ่ึ งพ ระ บ าท ส ม เด็ จพ ระ เจ้าอ ยู่หั วได้มี พ ระ ม ห าก รุ ณ าธิ คุ ณ แป ล พ ระ ราช ดํารั ส เอ งและจากพระราชดาํ รัสดงั กล่าว ทาํ ให้รัฐบาลมีมติให้ประกาศให้วนั ที่ 4 ธนั วาคม ของทุกปี เป็ นวนั“วนั สิ่งแวดลอ้ มไทย” หลงั จากน้นั ก็ทรงแปลพระราชดาํ รัสในวนั เฉลิมพระชนมพรรษาเรื่อยมา
พระราชดาํ รัส เมื่อวนั ท่ี 4 ธนั วาคม พ.ศ.2532 จดั พิมพโ์ ดยคณะกรรมการประชาสัมพนั ธ์ส่ิงแวดลอ้ มคณะกรรมการส่ิงแวดลอ้ มแห่งชาติร่วมกบั กระทรวงวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยแี ละการพลงั งาน นอกจากน้นั พระราชดาํ รัสเม่ือวนั ท่ี 4 ธนั วาคม พ.ศ.2534 เรื่องเก่ียวกบั“รู้รักสามคั คี” จดั พมิ พเ์ ผยแพร่โดย คณะอนุกรรมการส่งเสริมการพฒั นาประชาธิปไตยในคณะกรรมการเองลกั ษณ์ของชาติ สาํ นกั เลขาธิการนายกรัฐมนตรี จากผลงานของพระองค์แสดงใหเ้ ห็นถึงพระอจั ฉริยภาพละปรีชาสามารถของในหลวงของเราพร้อมดว้ ยพระวริ ิยอุตสาหะอนั แรงกลา้ ในการทรงงาน กล่าวไดว้ า่ทรงมีพระอจั ฉริยภาพทางดา้ นภาษาอยา่ งแทจ้ ริง ไม่เพียงเทา่ น้ี พระองคท์ รงห่วงใยพสกนิกรโดยไดม้ ีการจดั พมิ พพ์ ระราชนิพนธ์ฉบบั การ์ตูนเพอื่ เดก็ และเยาวช์ น ฉบบั อกั ษรเบรลลเ์ พอื่ คนตาบอด สาํ หรับพระราชนิพนธ์พระมหาชนก และทองแดงนอกจากน้ีพระองคท์ รงไมม่ องขา้ มความเป็ นไทย อาทิเช่นภาพประกอบในรูปแบบลายเส้นการ์ตูนแบบไทย และแมแ้ ต่กระดาษที่ใชใ้ นการจดั พมิ พ์ ทรงโปรดใหใ้ ชก้ ระดาษที่ผลิตในประเทศ พระองคเ์ ป็ นแบบอยา่ งของประชาชนชาวไทย เนน้ ความเป็นไทยมีความภูมิใจในความเป็ นไทย และใชข้ องไทย. หนงั สือพระราชนิพนธ์ เหล่าน้ีไดท้ ี่ ห้องสมุดในทุกสถาบนั การศึกษา หอ้ งสมุดประชาชนหรือถา้ ตอ้ งการเป็นเจา้ ของก็สามารถหาซ้ือไดต้ ามร้านหนงั สือช้นั นาํ ไดท้ ว่ั ประเทศรายไดจ้ ากการจดั จาํ หน่ายหนงั สือพระราชนิพนธ์ นาํ ไปสมทบมูลนิธิชยั พฒั นาอีกดว้ ย เราจะไดเ้ ห็นวา่ แม้ พระราชนิพนธ์ ของพระองคน์ ้นันอกเหนือจากจะแสดงไดเ้ ห็นถึงพระปรีชาสามารถแลว้ ยงั เตม็ เป่ี ยมไปดว้ ยสาระน่ารู้แฝงไปดว้ ยความสนุก และยงั ใหข้ อ้ คิด เนน้ ไปท่ีการปฏิบตั ิตวั การลงมือจริง ทาํ จริงความเพียรพยายาม ความกตญั ญู และความรับผดิ ชอบเป็ นหลกั เหมาะสาํ หรับทุกเพศทุกวยัซ่ึงควรแก่การดาํ เนินรอยตามเป็นอยา่ งยง่ิ
เพลงพระราชนิพนธ์ แสงเทยี น
เพลงพระราชนิพนธ์เพลงแรก ทรงพระราชนิพนธ์เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ.2498คร้ังดาํ รงพระราชอิสริยยศเป็ น สมเดจ็ พระอนุชาธิราชไดท้ รงพระกรุณา โปรดเกลา้ ฯใหพ้ ระเจา้ วรวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จา้ จกั รพนั ธ์เพญ็ ศิริ (ขณะดาํ รงพระยศเป็นหมอ่ มเจา้ จกั รพนั ธ์เพญ็ ศิริจกั รพนั ธ์) นิพนธ์คาํ ร้องภาษาไทยแต่เนื่องจากมีพระราชประสงคท์ ่ีจะทรงแกไ้ ขทาํ นองและคอร์ดบางตอน จึงยงั ไม่โปรดเกลา้ ฯพระราชทานใหน้ าํ ออกมาบรรเลงในเวลาน้นั ต่อมา ไดพ้ ระราชทานใหน้ าํ ออกบรรเลงคร้ังแรกพ.ศ.2490 และใน พ.ศ.2496 นางสาวสดใส วานิชวฒั นา (รองศาสตราจารยส์ ดใด พนั ธุมโกมล)ประพนั ธ์คาํ ร้องภาษาองั กฤษเพลงพระราชนิพนธ์ ยามเยน็
เพ ล ง พ ร ะ ร า ช นิ พ น ธ์ ลํ า ดั บ ท่ี 2 ท ร ง พ ร ะ ร า ช นิ พ น ธ์ ใ น พ .ศ . 2489ขณะยงั ทรงเป็ นสมเด็จพระอนุชาธิราช เป็ นงานทดลองของพระองค์ในจังหวะฟ็ อกซ์ทร็อตท ร งพ ระ ก รุ ณ าโ ป รด เก ล้าฯ ให้ พ ระ เจ้าว รว งศ์เธ อ พ ระ อ งค์ เจ้าจัก รพัน ธ์ เพ็ ญ ศิ รินิพนธ์คาํ ร้องภาษาไทย และท่านผูห้ ญิงนพคุณ ทองใหญ่ ณ อยุธยา แต่งคาํ ร้องภาษาองั กฤษแล้วพ ระราชท าน เพ ล งพ ระราชนิ พ น ธ์ ที่ มี คําต้องส ม บู รณ์ ให้ น ายเอ้ื อ สุ น ท รส น านนาํ ออกบรรเลงในงานของสมาคมปราบวณั โรค ณ เวทีลีลาศสวนอมั พร เมื่อวนั เสาร์ท่ี 4 พฤษภาคมพ .ศ . 2489 นั บ เป็ น เพ ล ง พ ร ะ ร าช นิ พ น ธ์ เพ ล ง แ ร ก ที่ นํ าอ อ ก บ ร ร เล งสู่ ป ร ะ ช าช นเป็นเพลงที่ร่าเริงแจม่ ใสเหมาะสาํ หรับการเตน้ รําในสมยั น้นั
บทท่ี ๓ วธิ ดี าเนินการศึกษา ในการศึกษาเรื่องโครงการศิลปวรรณกรรม คณะผจู้ ดั ทาํ ไดม้ ีวธิ ีการดาํ เนินการศึกษาตามข้นั ตอนดงั น้ี๑. เคร่ืองมือทใ่ี ช้ ๑.คอมพวิ เตอร์ ๒.โปรแกรมไมโครซอฟตเ์ วริ ์ด ๓. อินเทอร์เน็ต ๔.หนงั สือ๒. แหล่งศึกษาค้นคว้า ๑.สาํ นกั หอสมุด มหาวิทยาลยั ๒.อินเตอร์เน็ต๓. วธิ ีการดาเนินการศึกษาค้นคว้า ๑. วเิ คราะห์หวั ขอ้ ที่ไดร้ ับ ๒.ปรึกษากนั ภายในกลุ่มเกี่ยวกบั หวั ขอ้ ท่ีไดร้ ับ ๓.แบง่ งานกนั รับผิดชอบ ๔.ศึกษาและคน้ ควา้ ขอ้ มูลท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั เร่ืองท่ีไดร้ ับ ๕.จาํ ทาํ โครงร่างการเขียนรายงานทางวชิ าการ ๖.ศึกษาวธิ ีการจดั ทาํ รายงานวชิ าการเป็นรูปเล่ม ๗.ศึกษาวธิ ีการเขียนอา้ งอิงและบรรณานุกรม ๘.รวบรวมขอ้ มูลและจดั ทาํ ร่างรางงานรูปเล่ม ๙.จดั ทาํ รายงานเป็นรูปเล่มฉบบั สมบรูณ์ ๑๐.จดั ทาํ power point นาํ เสนอแลกเปล่ียนเรียนรู้ในช้นั เรียน
บทท่ี ๔ ผลการศึกษา การศึกษาโครงการศิลปวรรณกรรม คณะผจู้ ดั ทาํ ไดศ้ ึกษาคน้ ควา้ ขอ้ มูลมีวตั ถุประสงคเ์ พอ่ื ไดศ้ ึกษาคน้ ควา้ เกี่ยวกบั ความเป็ นมาของโครงการศิลปวรรณกรรมความสาํ คญั ของโครงการศิลปวรรณกรรมเพ่ือสามารถนาํ มาประยกุ ตใ์ ชต้ ลอดจนเป็นแหล่งเรียนรู้สาํ หรับนิสิตและผสู้ นใจทวั่ ไปไดเ้ ขา้ ใจและไดค้ วามรู้เรื่องน้ี มากยง่ิ ข้ึน
บทท่ี ๕ สรุปผล อภปิ รายผล และข้อเสนอแนะ การศึกษาโครงการศิลปวรรณกรรมน้ี สามารถสรุปผลการดาํ เนินการศึกษาและขอ้ เสนอแนะ ไดด้ งั น้ี ๑.การดาเนินการศึกษา ๑.๑ วตั ถุประสงค์ของการศึกษาค้นคว้า ๑. เพื่อศึกษาเกี่ยวกบั ความเป็ นมาของศิลปวรรณกรรม ๒.เพื่อเผยแพร่ศิลปวรรณกรรมดา้ นพระราชนิพนธ์ ๓. เพื่อศึกษาเกี่ยวกบั ความสาํ คญั ของศิลปวรรณกรรม ๑.๒ วสั ดุ อุปกรณ์และโปรแกรมทใ่ี ช้งาน ๑.คอมพวิ เตอร์ ๒.โปรแกรมไมโครซอฟตเ์ วริ ์ด ๓. อินเทอร์เน็ต ๔.หนงั สือ ๒.สรุปผลการดาเนินการศึกษา การศึกษาโครงการศิลปวรรณกรรม ในรายวชิ า สารสนเทศศาสตร์เพ่ือการศึกษาคน้ ควา้และไดร้ วบรวมขอ้ มูลและพร้อมนาํ เสนอในรายวชิ าน้ี การส่ือสารและการนาํ เสนอคณะผจู้ ดั ทาํ ไดศ้ ึกษาคน้ ควา้ ขอ้ มูล มีวตั ถุประสงค์เพ่อื คน้ ควา้ เร่ืองเก่ียวกบั ความเป็นมาของโครงการศิลปวรรณกรรมความสาํ คญั ของโครงการศิลปวรรณกรรมเพ่อื เป็ นแหล่งความรู้และเผยแพร่ใหผ้ ทู้ ี่สนใจทวั่ ไปไดร้ ับรู้ตลอดจนเป็นแหล่งเรียนรู้สาํ หรับเยาวชนและประชาชนทว่ั ไปคณะผจู้ ดั ทาํ ไดเ้ ริ่มดาํ เนินการศึกษาตามข้นั ตอนการศึกษาท่ีเสนอในบทที่ 3 แลว้และไดร้ ับความรู้ต่างๆเก่ียวกบั โครงการศิลปวรรณกรรมมากยง่ิ ข้ึน เช่นไดร้ ู้ความเป็ นมาของโครงการศิลปวรรณกรรม ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั โครงการศิลปวรรณกรรมท้งั น้ีทางคณะผจู้ ดั ทาํ ไดจ้ ดั ทาํ power point โครงการศิลปะวรรณกรรม
ความพึงพอใจใหน้ ิสิตและผทู้ ี่สนใจทว่ั ไปไดศ้ ึกษาเก่ียวกบั เรื่องโครงการศิลปวรรณกรรมท่ีมีความน่าสนใจดา้ นเน้ือหาและรูปลกั ษณ์ข้ึนมาเพ่ือเผยแพร่ความรู้ท่ีมีประโยชนใ์ หผ้ ทู้ ่ีสนใจทวั่ ไปไดศ้ ึกษานาํ ความรู้ที่ไดไ้ ปปรับใชใ้ น ๓.ข้อเสนอแนะ ในการศึกษาโครงการศิลปวรรณกรรมน้นั คณะผจู้ ดั ทาํ ไดศ้ ึกษาเพ่ือสร้างองคค์ วามรู้ใหแ้ ก่ตนเองและผอู้ ่ืนซ่ึงสามารถนาํ ความรู้ท่ีไดร้ ับน้ีไปปรับใชใ้ หเ้ กิดแนวคิดในการใชช้ ีวติ ประจาํ วนัอีกท้งั ยงั สามารถนาํ ความรู้ที่ไดร้ ับไปสนบั สนุนการเรียนการสอนของการศึกษาไดเ้ ป็ นอยา่ งดีและสามารถนาํ ไปพฒั นาไดใ้ นอนาคต ในการศึกษาคร้ังน้ีมีขอ้ เสนอแนะ ดงั น้ี ๓.๑ข้อเสนอแนะทวั่ ไป ๑. ควรจดั ทาํ เป็นสื่อชนิดตา่ งๆ ท่ีสามารถใหผ้ ทู้ ี่สนใจทว่ั ไป เรียนรู้ไดห้ ลายช่องทาง เพ่ือเผยแพร่ความรู้ต่างๆ ใหแ้ ก่บุคคลทงั่ ไปไดศ้ ึกษาเพ่ือประโยชน์ ๒. จดั ทาํ รูปแบบใหน้ ่าสนใจ มีเน้ือหาที่เขา้ ใจง่าย และรูปภาพประกอบ ๓. ควรมีการจดั ทาํ เน้ือหาใหห้ ลากหลาย ๓.๒ปัญหา อุปสรรคและแนวทางในการศึกษา ๑. เวลาในการทาํ งานของแต่ละคนไม่ตรงกนั จึงรวมกลุ่มทาํ งานกนั ยาก ๒. ระบบอินเทอร์เน็ตมีปัญหาบอ่ ยคร้ัง เกิดการสะดุด ทาํ ใหส้ นทนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กบั เพื่อนไมต่ ่อเน่ือง
บรรณนานุกรมวรนุช อุษณกร. ในหลวงผทู้ รงพระอจั ฉริยภาพ. พมิ พค์ ร้ังท่ี 1, พ.ศ. 2544 ,โอเดียนสโตร์, กรุงเทพ http://www.bangkokbiznews.com http://www.vcharkarn.com/varticle/38236https://thematter.co/pulse/kings-works/11013https://www.matichon.co.th/news/332700https://sites.google.com/site/phrarachkrniykickhxngr9/dan-silp-wathnthrrm-laea-wrrnkhdihttps://archive.clib.psu.ac.th/online-exhibition/THAI_king/page9.htmlhttp://www.photoontour.com/SpecialPhotos_HTML/60thcelebration/king_data4.htm
ภาคผนวก
ประวตั ิผจู้ ดั ทาํช่ือ – ชื่อสกลุ ณฏั ฐณิชา พรหมมาเช้ือชาติ ไทย เช้ือชาติ ไทย ศาสนา พุทธ สถานภาพ โสดวนั เดือน ปี เกิด 24 ธนั วาคม 2541อายุ 18 ปีท่ีอยปู่ ัจจุบนั 147/1 หมุ่ 2 ตาํ บล วงั ทอง อาํ เภอ วงั ทอง จงั หวดั พิษณุโลกE-mail -ประวตั ิการศึกษาพ.ศ.2559 จบการศึกษาระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย จากโรงเรียนจา่ นกร้องปัจจุบนักาํ ลงั ศึกษาระดบั มธั ยมปริญญาตรีมหาวทิ ยาลยั นเรศวร คณะสงั คมศาสตร์ สาขา พฒั นาสงั คมคติประจาํ ใจ พอใจที่มี ยนิ ดีเทา่ ที่ได้
ประวตั ิผจู้ ดั ทาํชื่อ – ช่ือสกลุ นางสาว ณฐั ชญาภรณ์ วโิ รจน์สกุลเช้ือชาติไทย สญั ชาติไทย ศาสนาพุทธ สถานภาพ โสดวนั เดือน ปี เกิด 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2541อาย1ุ 9ปีที่อยปู่ ัจจุบนั 397/132 หมู่10 ตาํ บลบึงพระ อาํ เภอเมือง จงั หวดั พิษณุโลกE-mail [email protected]ประวตั ิการศึกษาพ.ศ. 2559 จบการศึกษาระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาตอนปลาย ท่ีโรงเรียนเฉลิมขวญั สตรีปัจจุบนักาํ ลงั ศึกษา ระดบั ปริญญาตรี ณ มหาวทิ ยาลยั นเรศวร คณะสงั คมศาสตร์ สาขาวชิ าพฒั นาสงั คม
ประวตั ิผจู้ ดั ทาํชื่อ – ชื่อสกุล นางสาวณฐั ณิชา เทศเพราะผลเช้ือชาติ ไทย เช้ือชาติ ไทย ศาสนา พทุ ธ สถานภาพ โสดวนั เดือน ปี เกิด 24 กนั ยายน 2541อายุ 19 ปีที่อยปู่ ัจจุบนั 188 ม.3 ต.นาหนองทุ่ม อ.แกง้ คร้อ จ.ชยั ภูมิ 36150E-mail -ประวตั ิการศึกษาพ.ศ.2559 จบการศึกษาระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย จากโรงเรียนแกง้ คร้อวทิ ยาปัจจุบนักาํ ลงั ศึกษาระดบั มธั ยมปริญญาตรีมหาวทิ ยาลยั นเรศวร คณะสงั คมศาสตร์ สาขา พฒั นาสงั คมคติประจาํ ใจ ชีวติ ยงั มีพรุ่งน้ีเสมอ
ประวตั ิผจู้ ดั ทาํช่ือ – ชื่อสกลุ นางสาวณฐั ณิชา จนั ทิมาเช้ือชาติ ไทย เช้ือชาติ ไทย ศาสนา พทุ ธ สถานภาพ โสดวนั เดือน ปี เกิด 1 พฤศจิกายน 2541อายุ 19 ปีท่ีอยปู่ ัจจุบนั 1 ม.11 ต.โกสมั พี อ.โกสัมพีนคร จ.กาํ แพงเพชร 62000E-mail [email protected]ประวตั ิการศึกษาพ.ศ.2559 จบการศึกษาระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย จากโรงเรียนวชิรปราการวทิ ยาคมปัจจุบนักาํ ลงั ศึกษาระดบั มธั ยมปริญญาตรีมหาวทิ ยาลยั นเรศวร คณะสงั คมศาสตร์ สาขา พฒั นาสังคมคติประจาํ ใจ -
ประวตั ิผจู้ ดั ทาํช่ือ – ชื่อสกุล ณฐั พร คุม้ ครองเช้ือชาติ ไทย เช้ือชาติ ไทย ศาสนา พุทธ สถานภาพ โสดวนั เดือน ปี เกิด 29 สิงหาคม 2541อายุ 19 ปีที่อยปู่ ัจจุบนั 343/9 หมู่ 9 ต.เทพนคร อ.เมือง จ.กาํ แพงเพชรE-mail -ประวตั ิการศึกษาพ.ศ.2559 จบการศึกษาระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย จากโรงเรียนวชั รวทิ ยาปัจจุบนักาํ ลงั ศึกษาระดบั มธั ยมปริญญาตรีมหาวทิ ยาลยั นเรศวร คณะสังคมศาสตร์ สาขา พฒั นาสงั คมคติประจาํ ใจ ความสุขอยรู่ ะหวา่ งทาง หาใช่ท่ีจุดหมายปลายทาง
ประวตั ิผจู้ ดั ทาํช่ือ – ช่ือสกลุ ณิชาภทั ร แกว้ ศรีเช้ือชาติ ไทย เช้ือชาติ ไทย ศาสนา พทุ ธ สถานภาพ โสดวนั เดือน ปี เกิด 6 ธนั วาคม 2541อายุ 19 ปีท่ีอยปู่ ัจจุบนั 24/1 หมุ่ 1 ตาํ บล เมืองเก่า อาํ เภอ เมือง จงั หวดั สุโขทยัE-mail -ประวตั ิการศึกษาพ.ศ.2559 จบการศึกษาระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย จากโรงเรียนอุดมดรุณีปัจจุบนักาํ ลงั ศึกษาระดบั มธั ยมปริญญาตรีมหาวทิ ยาลยั นเรศวร คณะสังคมศาสตร์ สาขา พฒั นาสงั คมคติประจาํ ใจ ตวั อยา่ งที่ดี มีค่ามากกวา่ คาํ สอน
ประวตั ิผจู้ ดั ทาํชื่อ – ช่ือสกลุ นาย ทกั ษด์ นยั นาคนาคเช้ือชาติไทย สญั ชาติ ไทย ศาสนา พุทธ สถานภาพ โสดวนั เดือน ปี เกิด 17 สิงหาคม พ.ศ.2541อายุ 19 ปีที่อยปู่ ัจจุบนั 257/1 หมู่ 2 ต.บา้ นกลว้ ย อ.เมือง จ.สุโขทยั 64000E-mail [email protected]ประวตั ิการศึกษาพ.ศ. 2559 จบการศึกษาระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลายจาก โรงเรียนสุโขทยั วทิ ยาคมปัจจุบนักาํ ลงั ศึกษาระดบั ปริญญาตรีมหาวทิ ยาลยั นเรศวร คณะสงั คมศาสตร์ สาขา พฒั นาสงั คมคติประจาํ ใจ ความพยายามคร้ังท่ี 100 ดีกวา่ คิดทอ้ ถอยก่อนท่ีจะทาํ
ประวตั ิผจู้ ดั ทาํชื่อ – ช่ือสกลุ นาย แทนไท สุขแกว้เช้ือชาติไทย สัญชาติไทย ศาสนาพุทธ สถานภาพ โสดวนั เดือน ปี เกิด 5 มิถุนายน พ.ศ. 2541อาย1ุ 9ปีที่อยปู่ ัจจุบนั 477/3 หมู่5 ต.ทุ่งทอง อ.หนองบวั จ.นคสวรรค์E-mail [email protected]ประวตั ิการศึกษาพ.ศ. 2559 จบการศึกษาระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาตอนปลาย ท่ีโรงเรียนผดุงราษฏร์ปัจจุบนักาํ ลงั ศึกษา ระดบั ปริญญาตรี ณ มหาวทิ ยาลยั นเรศวร คณะสังคมศาสคร์ สาขาวชิ าพฒั นาสงั คม
ประวตั ิผจู้ ดั ทาํช่ือ – ช่ือสกลุ ธนพร ไผผ่ ลเช้ือชาติ ไทย เช้ือชาติ ไทย ศาสนา พทุ ธ สถานภาพ โสดวนั เดือน ปี เกิด 8 พถศจิกายน 2542อายุ 19 ปีที่อยปู่ ัจจุบนั 26/2 หมุ่ 10 ตาํ บล บางมว่ ง อาํ เภอเมือง จงั หวดั นครสวรรค์E-mail -ประวตั ิการศึกษาพ.ศ.2559 จบการศึกษาระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย จากโรงเรียนนวมินทราชูทิศ มชั ฌิมปัจจุบนักาํ ลงั ศึกษาระดบั มธั ยมปริญญาตรีมหาวทิ ยาลยั นเรศวร คณะสังคมศาสตร์ สาขา พฒั นาสังคมคติประจาํ ใจ ความพยายามอยทู่ ่ีไหนความสาํ เร็จอยทู่ ี่น้นั
ประวตั ิผจู้ ดั ทาํชื่อ – ชื่อสกุล นางสาวธนพร สังขท์ องเช้ือชาติ ไทย เช้ือชาติ ไทย ศาสนา พทุ ธ สถานภาพ โสดวนั เดือน ปี เกิด 17 มิถุนายน 2541อายุ 19 ปีที่อยปู่ ัจจุบนั 293/2 ม.7 ต.ดงเสือเหลือง อ.โพธ์ิประทบั ชา้ ง จ.พิจิตร 66190E-mail -ประวตั ิการศึกษาพ.ศ.2559 จบการศึกษาระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย จากโรงเรียนดงเสือเหลืองพิทยาคมปัจจุบนักาํ ลงั ศึกษาระดบั มธั ยมปริญญาตรีมหาวทิ ยาลยั นเรศวร คณะสงั คมศาสตร์ สาขา พฒั นาสงั คมคติประจาํ ใจ ถา้ เชื่อวา่ ไมแ่ พ้ กจ็ ะไม่มีวนั แพ้
Search
Read the Text Version
- 1 - 48
Pages: